หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 ไมโครมิเตอร์ เป็นอุปกรณ์วัดละเอียดอีกชนิดหน่ึงที่นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ อย่างแพร่หลายไมโครมิเตอร์ถือกาเนิดขึ้นมาต้ังแต่ประมาณปี ค.ศ. 1848 โดยชาวฝรั่งเศส หลังจากได้รับความนิยมก็ได้มีการพัฒนาปรบั ปรงุ ใหส้ ามารถใชง้ านไดส้ ะดวกและละเอียดมากขนึ้ ตามลาดับ5.1 ประเภทของไมโครมเิ ตอร์ ไมโครมเิ ตอรท์ าการจาแนกออกเป็นประเภทหลัก ๆ ได้ 3 ประเภท คอื 5.1.1ไมโครมิเตอรว์ ัดนอก 5.1.2ไมโครมิเตอรว์ ดั ใน 5.1.3ไมโครมเิ ตอร์วดั ลึก ซงึ่ แต่ละประเภทเหมาะกบั ลักษณะงานท่แี ตกต่างกัน ดังตัวอยา่ งไมโครมิเตอร์แบบต่าง ๆ ในรูปท่ี 5.1-5.3ภาพที่ 5.1 แสดงไมโครมเิ ตอร์วัดนอกภาพที่ 5.2 แสดงไมโครมิเตอรว์ ดั ใน ภาพท่ี 5.3 แสดงไมโครมิเตอร์วดั ลกึ
5.1.1 ไมโครมิเตอรว์ ดั นอก (Outside Micrometer Caliper) 1.) ลักษณะโดยทว่ั ไปของไมโครมเิ ตอรว์ ดั นอก ไมโครมิเตอร์แบบใช้วัดขนาดภายนอกจะอาศัยหลักการทางานของเกลียวที่จะเกิดค่าระยะพติ ช์ เมอื่ ทาการหมนุ เกลียวไป 1 รอบ ก็จะได้ระยะพิตช์เท่ากับ 1 (1 Pitch) ซ่ึงระยะพิตช์นี่เองที่ได้ถูกนาไปเปรียบเทียบกับการเคลื่อนท่ีของเกลียว 1 ช่อง กับสเกลหลักบรรทัดเหล็ก เช่น ถ้าเราแบ่งระยะบรรทัดเหล็กออกเป็น 20 ส่วน แล้วหมุนเกลียว 1 ช่อง ผ่านบรรทัดเหล็ก จะได้ระยะ 1/20 ของระยะพติ ช์ ซ่ึงหลกั การนถ้ี ูกนาไปสรา้ งเป็นไมโครมเิ ตอร์ ภาพที่ 5.4 แสดงไมโครมเิ ตอร์วัดนอก5.2 ช่ือสว่ นประกอบและหน้าทข่ี องไมโครมิเตอรว์ ัดนอก ภาพท่ี 5.5 แสดงส่วนประกอบของไมโครมิเตอร์
ชอ่ื สว่ นประกอบ หนา้ ที่1. แกนรับ หนา้ ท่รี องรับการวัดที่ผิวสัมผัสของแกนรับจะชุบผิวแข็งเพื่อป้องกันการ สกึ หรอ2. แกนวัด เล่ือนสัมผัสวัดขนาดของช้ินงานผิวสัมผัสจะชุบผิวแข็งเหมือนกับแกน รับและขนาดของแกนวัดเท่ากบั แกนรบั3. ปลอกหมุนวดั หมุนเล่อื นใหแ้ กนวดั สมั ผัสชิ้นงานในทิศทางตามเข็มนาฬิกา ส่วนที่ลาย สาหรบั มือจบั4. เกลยี ว เปน็ สว่ นเดยี วกบั แกนวดั มีระยะพติ ช์เท่ากบั 0.5 มม.5. ปลอกหมุนกระทบเล่ือน ปอ้ งกนั แกนวดั ในการเลอื่ นสมั ผัสผวิ งานวดั เพ่อื ให้ได้คา่ วัดทีถ่ ูกต้อง6. กลไกลอ็ คแกนวดั ล็อคหรือบีบแกนวัดไม่ให้เคล่ือนท่ี และคลายเมื่อต้องการให้แกนวัด เคลือ่ นท่ี7. กา้ นสเกล ปลอกขีดสเกลแบง่ ตามแนวยาว8. ขดี สเกล 0.01 มม. อยูบ่ นปลอกหมนุ วัด แต่ละช่องสเกลมคี ่าความละเอียด 0.01 มม.9. โครง เปน็ ตัวรองรับส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของไมโครมิเตอร์10. ขนาดวัด เป็นตัวเลขท่ีบอกขนาดของไมโครมิเตอร์ เช่น 0-25 มม. หมายถึง ไมโครมิเตอร์สามารถวดั ขนาดไดต้ ั้งแต่ 0-25 มม.11. แหวนเกลียว ใช้ปรับความฝดื ของปลอกหมุนวดั12. ขีดสเกล 1 มม. บอกคา่ ความละเอยี ดขีดละ 1 มม.13. ขดี สเกล 0.5 มม. บอกค่าความละเอียดขีดละ 0.5 มม. โดยมองประกอบกับสเกลท่ีใช้ ละเอยี ด 1 มม.5.3 หลักการแบง่ สเกลค่าความละเอยี ด5.3.1 สเกลไมโครมิเตอร์ท่ีใช้กันอยู่ท่ัวไปมีความละเอียด 0.01 มม. (1/100 มม.) โดยมีหลักการแบ่งสเกลดังน้ี ภาพท่ี 5.6 การแบง่ สเกลทป่ี ลอกหมุนวดั ออกเป็น 50 ชอ่ ง
เมอื่ หมนุ เกลียวไป 1 รอบ = 1 ระยะพิตชเ์ กลียว (0.50 มม.)จากภาพท่ี 5.6 ถ้าปลอกหมุนวัดแบ่งช่องสเกลออกเป็น 50 ช่อง (50 ขีด) การเคลื่อนท่ีในแต่ละชว่ งจะหาคา่ ความละเอยี ดไดด้ งั นี้ถา้ หมุนเกลยี วไป 1 รอบ (50 ขีด) = 0.50 มม.ถา้ หมุนเกลยี วไป 1/2 รอบ (25 ขีด) = 0.5/2 = 0.25 มม.ถ้าหมุนเกลยี วไป 1/50 รอบ (1 ขีด) = 0.5/50 = 0.01 มม. เมือ่ หมุนปลอกวดั ไป 1 ขีดแกนวดั จะเคลื่อนท่ี 0.01 มม.การอา่ นคา่ วดั จากไมโครมิเตอร์ (1/100 มม.) 1. สเกลด้านล่างจะแบ่งความกว้างเป็น 1 มม./ ชอ่ ง เรียกวา่ สเกล 1 มม. 2. สเกลด้านบนจะแบ่งความกว้างเป็น 1 มม./ ช่อง โดยเร่ิมที่จุดก่ึงกลางของสเกล 1 มม. ไป จนสุดปลอกวัด เรยี กว่า สเกล 0.50 มม. 3. สเกลปลอกหมุนวัดถูกแบ่งออกเป็น 50 ชอ่ งเท่าภาพท่ี 5.7 สเกลของไมโครมิเตอร์ กนั มคี วามละเอยี ด 0.01 มม.จากภาพที่ 5.7 อ่านคา่ จากขีดสเกล 1 มม. = 10.00 มม. อ่านคา่ จากขีดสเกล 0.5 มม. = 0.00 มม. อ่านค่าจากขีดสเกล 0.01 มม. = +0.00 มม. อ่านค่ารวม = 10.00 มม.ภาพที่ 5.8 อา่ นคา่ สเกลจากการวดั ด้วยไมโครมิเตอร์
จากภาพท่ี 5.8 อ่านคา่ จากขีดสเกล 1 มม. = 33.00 มม. อ่านค่าจากขีดสเกล 0.5 มม. = 0.50 มม. อา่ นค่าจากขดี สเกล 0.01 มม. = +0.00 มม. อ่านค่ารวม = 33.50 มม.ภาพที่ 5.9 อา่ นคา่ สเกลจากการวดั ดว้ ยไมโครมิเตอร์จากภาพที่ 5.9 อา่ นคา่ จากขีดสเกล 1 มม. = 5.00 มม. อ่านค่าจากขดี สเกล 0.5 มม. = 0.50 มม. อ่านค่าจากขดี สเกล 0.01 มม. = +0.19 มม. อ่านค่ารวม = 5.69 มม. 5.3.2 การอ่านไมโครมเิ ตอร์วัดละเอยี ด 2/1000 มม. (0.002 มม.) ไมโครมิเตอร์ชนิดนี้ เหมือนกับไมโครมิเตอร์ชนิด 1/100 มม. ทุกประการแต่มีสเกลที่เพิ่มเข้ามาคือ เวอร์เนียร์สเกล โดยขีดแบ่งสเกลไว้ท่ีปลอกสเกลหลักเป็นขีดไปแนวนอน 5 ส่วน หรือ 5 ช่อง ขีดขนาดกบั เสน้ อา่ น (Reading Line) วิธแี บ่งเป็นเวอร์เนยี ร์สเกลของไมโครมเิ ตอรว์ ัดละเอียด 2/1000 มม. ทาไดด้ งั นี้ 1. นาระยะ 9 ชอ่ งของสเกลปลอกหมุนวัด (9 x 0.01 = 0.09 มม.) นาแบ่งออกเป็นเวอร์เนียร์สเกล5 ส่วนเท่า ๆ กนั ดงั นนั้ แตล่ ะสว่ นเทา่ กับ 0.9/5 = 0.018 มม. 2. ผลต่าง 2 สว่ นของปลอกสเกลหลัก (0.02 มม.) กับ 1 ส่วนของเวอร์เนียร์สเกล (0.018 มม.) มีค่าเทา่ กบั 0.02-0.018 = 0.002 มม. ซงึ่ เป็นความละเอยี ดทไ่ี มโครมิเตอร์วัดได้นน่ั เอง
ภาพท่ี 5.10 เวอรเ์ นยี รส์ เกลไมโครมิเตอร์ 2/1000 มม.วธิ อี า่ น จากภาพท่ี 5.10 อ่านตามลาดับได้ดงั น้ี = 5.00 มม. 1. ทปี่ ลอกสเกลหลกั อา่ นได้ = 0.00 มม. 2. ขีด 0 บนปลอกหมุนวดั ตรงกบั เส้นอ่าน = 0.00 มม. 3. ขดี 0 ของเวอร์เนียรส์ เกลตรงกบั ขีดสเกลของปลอกหมนุ วดั จงึ มคี า่ = 5.00 มม. 4. รวมค่าวัดท่อี ่านได้ 5.00 + 0.00 + 0.00ภาพท่ี 5.11 ค่าวดั ไมโครมเิ ตอรช์ นิด 2/1000 มม.
วิธอี ่าน ภาพที่ 5.11 อา่ นคา่ วดั ตามลาดบั ไดด้ งั นี้1. ทปี่ ลอกสเกลหลกั อ่านได้ = 5.00 มม.2. ขดี 0 ปลอกหมนุ วดั อยตู่ า่ กวา่ เส้นอ่าน (แสดงว่าจะต้องอ่านหรือรวมกับค่าที่อ่านได้จากขีดเวอร์เนยี ร์สเกล) ได้ค่าอา่ น = 0.00 มม.3. เวอร์เนยี ร์สเกลขดี ที่ 8 ตรงกับขดี ของปลอกหมุนวดั = 0.008 มม.4. รวมคา่ วดั ที่อ่านได้ 5.00 + 0.00 + 0.008 = 5.008 มม.5.3.3 การแบง่ สเกลละเอียด 1/1000 มม. ( 0.001 มม.) แบ่งละเอียด 1 มม. 1000 เพิม่ สเกลแบ่งคา่ บนสเกลหลกั ใหล้ ะเอยี ด เปน็ 0.001 มม.1 ชอ่ ง บนปลอกหมนุ วัด 1 รอบ = 1 0.5 50 50 1 = 0.01 มม. 100 ภาพท่ี 5.12 การแบง่ สเกลละเอยี ดแบบ 1 มม. 1000ค่าท่วี ดั ได้ = ค่าบนสเกลหลกั + สเกลบนปลอกหมุนวดั = 2.500 + 0.360 + 0.008 = 2.868 มม.5.3.4 อา่ นไมโครมิเตอรว์ ดั ละเอียด 1/1000 นิ้ว (0.001 นิว้ )แบ่งละเอียด 1/1000 นิว้ แบง่ ละเอียด 1/1000 นิว้1 ชอ่ ง บนปลอกหมุนวัด 1/25 รอบ 1/25 คณู 1/40 ค่าทว่ี ดั ได้ = ค่าบนสเกลหลัก + คา่ บนปลอกหมุนวดั1/1000 = 0.001 นิว้ = 0.7 + 0.075 + 0.023 = 0.798 นิ้ว
5.3.5 อ่านไมโครมเิ ตอร์วัดละเอยี ด 1/10000 นิว้ (0.0001 นวิ้ ) ไมโครมเิ ตอร์ชนิดนี้ เหมือนกับไมโครมิเตอร์ชนิด 1/1000 นิ้ว ทุกประการแต่มีสเกลท่ีเพิ่มเข้ามาคือเวอรเ์ นียรส์ เกล โดยขดี แบ่งสเกลไว้ท่ปี ลอกสเกลหลักเป็นขีดในแนวนอน 10 ส่วนหรือ 10 ช่อง ขีดขนาดกบั เส้นอา่ น (Reading Line) วิธแี บง่ เป็นเวอร์เนยี ร์สเกลของไมโครมิเตอรว์ ัดละเอยี ด 1/10000 น้วิ ทาได้ดงั นี้ 1. นาระยะ 9 ชอ่ งของสเกลปลอกหมนุ วัด (9 x 0.001 = 0.009 น้ิว) มาแบ่งออกเป็นเวอร์เนียรส์ เกล 10 สว่ นเท่า ๆ กัน ดงั นั้นแตล่ ะสว่ นเทา่ กับ 0.009/10 = 0.0009 น้ิว 2. ผลต่าง 1 ส่วนของปลอกสเกลหลัก (0.001 นิ้ว) กับ 1 ส่วนของเวอร์เนียร์สเกล (0.0009น้วิ ) มคี า่ เทา่ กบั 0.001-0.0009 = 0.0001 นิว้ ซง่ึ เปน็ ความละเอยี ดท่ีไมโครมเิ ตอรว์ ัดได้นัน่ เองภาพท่ี 5.12 เวอร์เนียรส์ เกลไมโครมิเตอร์ 1/10000 นว้ิวิธอี ่าน จากภาพท่ี 5.12 อ่านคา่ วดั ตามลาดับ ดงั น้ี = 0.225 น้ิว 1. ท่ปี ลอกสเกลหลกั อ่านได้ = 0.022 นว้ิ 2. ขีด 22 บนปลอกหมุนวดั ตรงกบั เสน้ อ่าน = 22 (.001) = 0.0000 น้ิว 3. ขดี 0 ของเวอรเ์ นยี ร์สเกลตรงกับขีดสเกลของปลอกหมุนวัด จึงมคี ่า = 0.2470 นวิ้ 4. รวมคา่ วดั ที่อา่ นได้ 0.225 + 0.022 + 0.000
ตวั อยา่ งที่ 2 การอา่ นไมโครมิเตอรว์ ัดละเอียด 1/10000 นิว้ภาพที่ 5.13 คา่ วดั ไมโครมเิ ตอร์ชนดิ 1/10000 นิ้ววิธอี า่ น จากภาพที่ 5.13 อ่านค่าวัดตามลาดบั ไดด้ งั นี้1. ท่ปี ลอกสเกลหลัก อา่ นได้ 0.200 + 0.075 = 0.275 นิว้2. ขีดเส้นอ่านบนปลอกสเกลหลัก อยู่ระหว่างเลข 11 กับ 12 ของปลอกหมุนวัด (แสดงว่าจะรวมกับค่าทอี่ ่านไดจ้ ากขีดเวอรเ์ นียร์สเกล) ได้ = 0.011 น้วิ3. เวอร์เนยี รส์ เกลเลขท่ี 2 ตรงกับขดี ของปลอกหมุนวดั = 2 (0.0001) นิ้ว = 0.0002 นวิ้4. รวมค่าวัดทอ่ี า่ นได้ 0.275 + 0.011 + 0.0002 = 0.2862 นิ้ ว 5.3.6 การอา่ นไมโครมเิ ตอรว์ ัดละเอียด 1/10000 นวิ้ (0.0001 นิ้ว) ไมโครมเิ ตอรช์ นิดน้ี เหมือนกับไมโครมิเตอร์ชนิด 1/1000 น้ิว ทุกประการ แต่มีสเกลที่เพิ่มเข้ามาคือเวอร์เนียร์สเกลโดยขีดแบ่งสเกลไว้ที่ปลอกสเกลหลักเป็นขีดในแนวนอน 10 ส่วน หรือ 10 ช่องขีดขนาดกับเส้นอ่าน (Reading Line) วธิ ีแบง่ เป็นเวอรเ์ นียรส์ เกลของไมโครมิเตอร์วัดละเอยี ด 1/10000 น้วิ ทาไดด้ ังน้ี 1. นาระยะ 9 ชอ่ งของสเกลปลอกหมุนวดั (9 x 0.001 = 0.009 น้ิว) มาแบง่ ออกเปน็เวอรเ์ นยี รส์ เกล 10 สว่ นเท่า ๆ กนั ดงั น้ันแต่ละส่วนเทา่ กบั 0.009/10 = 0.0009 นิ้ว
2. ผลต่าง 1 ส่วนของปลอกสเกลหลัก (0.001 นิ้ว) กับ 1 ส่วนของเวอร์เนียร์สเกล (0.0009นิ้ว) มีคา่ เท่ากบั 0.001 – 0.0009 = 0.0001 นว้ิ ซงึ่ เป็นความละเอียดท่ไี มโครมเิ ตอร์วดั ได้นั่นเอง ภาพท่ี 5.14 เวอร์เนยี รส์ เกลไมโครมิเตอร์ 1/10000 นิ้ว5.4 การตรวจสอบไมโครมเิ ตอร์ เมอื่ ใช้งานไมโครมิเตอร์วัดงานไปนาน ๆ ช่างที่ดีจะต้องมีการตรวจสอบไมโครมิเตอร์อย่างสม่าเสมอก่อนนาไปวัดช้ินงานทุกคร้ัง เพ่ือให้ค่าวัดที่ได้ถูกต้อง โดยตรวจสอบส่วนต่าง ๆ ของไมโครมิเตอร์ ซ่ึงมีดังต่อไปน้ี 5.4.1 ตรวจสอบผิวสัมผัสแกนรับและแกนวดั ของไมโครมเิ ตอร์ 5.4.2 ตรวจสอบตาแหน่งศนู ย์ของไมโครมิเตอร์ 5.4.1 ตรวจสอบผวิ สมั ผสั แกนรับและแกนวัด โดยการใช้แผ่นแก้ว (Optical flat) วางแนบกับผิวสัมผัสและสังเกตจากลักษณะของสีที่เกิดข้ึนคอื จากภาพที่ 5.15 แสดงถึงลักษณะความสมบูรณ์ ของผิวสัมผัส ถ้าเอียงแผ่นแก้วเล็กน้อยจะเกิดแถบสี เส้นตรงเตม็ หน้าของผวิ สัมผสั ภาพท่ี 5.15 ความสมบูรณ์ของผิวสัมผสั
จากภาพท่ี 5.16 แสดงถึงลักษณะของผิวสัมผัส ที่สึกไปเล็กน้อยแต่ใช้วัดงานได้คือ เกิดวงสีวงเดียว ความลึกของผิวท่ีสึกไปประมาณ 0.3 ไมโครมิเตอร์ (0.3 μm. ) ภาพท่ี 5.16 ผิวสัมผสั สกึ เลก็ น้อย จากภาพท่ี 5.17 แสดงถึงลักษณะของผิวสัมผัส ที่สึกไปมากจนไม่สามารถใช้วัดงานได้ คือ เกิดวงสี 6 วง ความลึกของผิวที่สึกไปประมาณ 1.5 ไมโครมิเตอร์ (1.5 μm. ) ภาพท่ี 5.17 ผิวสัมผัสสกึ ไปมาก 5.4.2 ตรวจสอบตาแหน่งศูนยข์ องไมโครมิเตอร์ เมื่อหมุนปลอกหมุนวัดจนกระทั่งแกนวัดและแกนรับสัมผัสกับขีดศูนย์ปลอกหมุนวัดกับขีดศูนย์บนก้านสเกลตรงกัน (ดังภาพที่ 5.18) ถือว่าใช้งานได้ในกรณีที่แกนวัดมีขนาด 0-25 มม. เท่านั้น ในกรณที ่ีแกนวัดมขี นาด 25-50 มม. ขน้ึ ไปให้ใช้เกจบล็อค แต่ถ้าขดี ศนู ย์บนปลอกหมุนวัดกับขีดศูนย์บนก้านสเกลไม่ตรงกันแสดงว่าไมโครมิเตอร์น้ันมีความคลาดเคล่ือน (ดังภาพท่ี 5.19) จึงจาเป็นต้องมีการปรับตาแหนง่ ของศูนยข์ องไมโครมิเตอรใ์ หม่ใหถ้ กู ตอ้ งดงั น้ี ภาพท่ี 5.18 ไมโครมเิ ตอรไ์ ม่มคี วามคลาดเคลอ่ื น ภาพท่ี 5.19 ไมโครมิเตอรม์ ีความคลาดเคลื่อน
ขน้ั ตอนการปรบั ตาแหน่งศูนยข์ องไมโครมิเตอร์ภาพที่ 5.20 การลอ็ คแกนวัดด้วยปลอกรัด ภาพท่ี 5.21 การล็อคแกนวดั ดว้ ยลกู เบย้ี ว ล็อคแกนวัดของไมโครมิเตอร์กลไกล็อคอาจเป็นแบบปลอกรัด (ดังภาพที่ 5.20) หรือแบบลูกเบี้ยว(ดังภาพท่ี 5.21) การปรับศูนย์วิธีน้ีใช้ได้กับไมโครมิเตอร์ขนาด 0.25 มม. แต่ถ้าเป็นการปรับศูนย์ของไมโครมเิ ตอรข์ นาด 25-50 มม., 50-75 มม. เปน็ ตน้ จะใช้เกจบล๊อคตรวจสอบ5.5 การใช้ไมโครมเิ ตอร์ วธิ ีที่ 1 เม่ือชิ้นงานและไมโครมิเตอร์มีขนาดเล็ก สามารถจับขึ้นมาได้ ให้จับช้ินงานด้วยมือซ้าย และมือขวาจับไมโครมิเตอร์ (ดังภาพท่ี 5.22) โดยใชน้ ิ้วหัวแมม่ อื และนวิ้ หมุนปลอกหมุนวัดภาพท่ี 5.22 การวัดชิน้ งานขนาดเลก็ ใช้มือจับได้ วธิ ีที่ 2 เม่ือช้ินงานอยู่กับที่ (ดังภาพที่ 5.23) เช่น จับยึดอยู่กับหน้าจานของเครื่องกลึงมือซ้ายจับ โครงและมอื ขวาหมุนปลอกหมุนวดัภาพท่ี 5.23 การวัดชน้ิ งานที่อยกู่ บั ท่ี
วธิ ีท่ี 3 จากภาพที่ 5.24 ยึดไมโครมิเตอร์ด้วย ปากกาตั้งมือซ้ายจับช้ินงาน มือขวาหมุนปลอก หมุนวัด (ดังภาพท่ี 5.24) วิธีน้ีส่วนใหญ่จะใช้ ในห้องประลองงานวัดละเอียดเพ่ือให้ได้ค่าวัด ท่ถี ูกต้องและป้องกันเครอ่ื งมอื วดั เสยี หายภาพที่ 5.24 การวัดชนิ้ งานโดยยดึ ไมโครมิเตอร์ดว้ ยขาตง้ั 5.5.1 เทคนิคในการใชไ้ มโครมิเตอร์ 1. ขณะวัดช้ินงานท่ีผิวขนานกันจะต้องให้ แนวแกนวัดและแกนรับต้ังฉากกับผิวของ ช้นิ งาน (ดงั ภาพที่ 5.25) ภาพท่ี 5.25 การสัมผัสชนิ้ งานของแกนรับและแกนวัด 2. ขณะวัดช้ินงานจะต้องให้แนวแกนของ ไมโครมิเตอร์ อยู่ในแนวเดียวกับแนวแกนวัด มิฉะนน้ั แลว้ คา่ วัดทีไ่ ด้จะมากกว่าขนาดจริงของ ชนิ้ งาน (ดังภาพท่ี 5.26) ภาพที่ 5.26 แนวแกนวัดของไมโครมิเตอร์
3. งานกลมทรงกระบอกกลม ผิวงานกลม ไม่สามารถบังคับผิวสัมผัสของแกนวัดและ แกนรับใหต้ ้งั ฉากกับผิวของชิ้นงานได้ (ดังภาพ ที่ 5.27) ดังนั้นผู้วัดจะต้องปรับแนวแกนของ ไมโครมเิ ตอร์เพือ่ ให้ไดค้ า่ วดั ท่ถี กู ตอ้ งภาพท่ี 5.27 การวดั ทรงกระบอกกลม 4. ในการวัดช้ินงานทุกครั้ง ต้องใช้ปลอก หมุนกระทบ-เลื่อนวัดช้ินงานแทนปลอกหมุน วัด เพราะการหมุนปลอกวัดอาจทาให้ผิวของ ช้ินงานยุบทาให้ค่าวัดที่ได้ผิดไป (ดังภาพท่ี 5.28)ภาพท่ี 5.28 การวัดชน้ิ งานทมี่ เี นื้ออ่อน 5. การอ่านตัวเลขบนสเกลจะต้องถือ ไมโครมิเตอร์ให้อยู่ในแนวตั้งฉากกับแนว สายตาทางด้านหน้า (ดังภาพท่ี 5.29) เพื่อ ปอ้ งกันความคลาดเคลอ่ื นในการอา่ นภาพที่ 5.29 การอา่ นตวั เลขบนสเกล
5.5.2 วิธีการบารุงรักษาไมโครมิเตอร์ เพ่ือ 1. ทาความสะอาดผวิ แกนรับและแกนวัดทุกครงั้ กอ่ นและหลังการวัด 2. เมื่อต้องการให้แกนวัดเล่ือนเข้าออกอย่างรวดเร็วให้เลื่อนกับฝ่ามือ (ดังภาพท่ี 5.30)ป้องกนั ความเสียหายท่ีจะเกิดขึ้นกบั ไมโครมิเตอร์ 3. ใช้ปลอกหมนุ กระทบเล่ือนขณะวัดช้ินงานทกุ ครัง้ 4. อย่างใช้ไมโครมิเตอรว์ ัดช้ินงานผวิ ดบิ หรือหยาบเกินไป ภาพท่ี 5.30 การเลอ่ื นแกนวัดเขา้ อย่างรวดเรว็ 5. อย่าปล่อยให้ไมโครมิเตอร์สกปรกขาดการหล่อลื่น ขาดการปรับแต่งและปล่อยให้หมุนวัดฝืดหรอื หลวมเกนิ ไป 6. อยา่ เก็บหรอื วางไมโครมเิ ตอร์รวมกบั เครื่องมืออื่น ๆ 7. ควรวางไมโครมเิ ตอรใ์ นกลอ่ งไม้ หรือวางบนผา้ นุ่ม 8. ควรตรวจสอบผวิ สมั ผสั ของแกนรับและแกนวดั อยู่เสมอ 9. อย่าวดั ชน้ิ งานทีก่ าลังเคล่ือนท่ี 10. อย่าวัดชิ้นงานร้อน5.6 ไมโครมิเตอร์วัดใน (Inside Micrometer caliper) ลักษณะโดยทัว่ ไปของไมโครมิเตอร์วดั ใน ลักษณะของไมโครมิเตอร์วัดใน จะมีปากวัดหลักกับปากวัดเล่ือน หมุนปลอกสเกลวัดทาให้ปากวัดขยายกว้างสัมผสั กบั ผวิ งานทีว่ ดั ลกั ษณะของปากวัดจะอกแบบใหม้ ีลักษณะแตกต่างกนั ข้นึ อยู่กับจดุ ประสงค์ของการวัดงาน เชน่ วัดขนาดงานตั้งแต่ 5-25 มม. หรือ 25-50 มม. ที่ปากวัดส่วนปลายจะทาให้มีส่วนโค้งเพื่อช่วยให้หน้าสัมผัสของปากวัด เข้ากับส่วนโค้งของรู ในการแบ่งสเกลเช่นเดียวกับไมโครมิเตอร์ทั่วไปขนาดของไมโครมิเตอร์ระบบองั กฤษ เชน่ 0.2-1.2 นิ้ว 1-2 น้วิ เปน็ ตน้ (ดงั ภาพท่ี 5.31)
ภาพท่ี 5.31 แสดงไมโครมเิ ตอรว์ ัดใน5.6.1 ไมโครมเิ ตอรว์ ัดในแบบคาลิปเปอร์ 1.) ส่วนประกอบของไมโครมเิ ตอรว์ ัดในแบบคาลปิ เปอร์ ประกอบดว้ ย ภาพท่ี 5.32 ไมโครมิเตอร์วัดใน
ชอ่ื และสว่ นประกอบ หนา้ ท่ีปากวัด เป็นส่วนท่ีสัมผัสกับชิ้นงาน ท่ีผิวสัมผัสด้านนอกของปลายปากวัดแต่ละด้านจะ เป็นผิวโค้ง ปากวัดจะเคล่ือนที่เข้าหากันหรือแยกออกจากกันได้ด้วยการหมุนกา้ นสเกล ปลอกหมุนวัดปลอกหมุนวัด เป็นปลอกกลมยึดติดอยู่กับปากวัดเล่ือน และจะเคลื่อนท่ีไปพร้อมกับปากวัดหวั หมนุ กระทบเล่ือน เล่อื นบนกา้ นสเกลจะมขี ดี สเกลตามแนวยาวของกา้ นสเกล บนปลอกหมุนวัดจะมีขีดสเกล สาหรับอ่านค่าละเอียดอยู่และมีส่วนท่ีพิมพ์ลาย กันล่ืนสาหรบั มือจบั หมุน ใช้สาหรบั หมุนเล่อื นเข้ากดผวิ งาน 2.) การอา่ นค่าการวัดดว้ ยไมโครมิเตอร์วดั ในแบบคาลิปเปอร์ ไมโครมิเตอร์วัดในแบบคาลิปเปอร์ จะมีลักษณะการแบ่งสเกลเช่นเดียวกันไมโครมิเตอร์วัดนอก แต่การเรยี งตัวเลขของขดี สเกลบนสเกลหลกั และสเกลเล่ือนจะมีทิศทางตรงกันข้ามกับตัวเลขบนไมโครมเิ ตอร์วัดนอก ดงั ภาพที่ 5.33-5.34ภาพท่ี 5.33 ไมโครมเิ ตอร์วัดนอก ภาพท่ี 5.34 ไมโครมเิ ตอรว์ ัดในแบบคาลิปเปอร์ ขีดสเกลบนสเกลหลกั ของไมโครมิเตอร์วัดในแบบคาลิปเปอร์ จะเริ่มอ่านค่าขีดสเกลจากด้านนอกเขา้ มา และขดี สเกลบนสเกลเลอื่ น คา่ ท่ีอา่ นได้จะเพมิ่ ขึ้นเมื่อหมนุ ปลอกหมุนวดั ตามเขม็ นาฬกิ า
สว่ นวธิ กี ารอา่ นค่าขนาดของช้ินงาน ก็เหมือนวิธกี ารอ่านคา่ การวดั ด้วยไมโครมิเตอร์วัดนอกทั่วไป 1. การวัดขนาดชิ้นงานดว้ ยไมโครมิเตอรว์ ัดในแบบคาลปิ เปอร์ การวัดขนาดชิน้ งานด้วยไมดครมิเตอร์วัดในแบบคาลปิ เปอร์ มขี ัน้ ตอนดังตอ่ ไปนี้รูปที่ 5.35 1. หมุนปลอกหมุนวัดให้ระยะห่างระหว่างปากวัด น้อยรูปท่ี 5.36 กวา่ ความกว้างของงานเลก็ น้อยรูปท่ี 5.37รปู ท่ี 5.38 2. เลื่อนไมโครมิเตอร์เข้าหาชิ้นงานให้ปากวัดหลัก สัมผสั กับผิวชน้ิ งาน 3. หมุนปลอกหมนุ วัดใหป้ ากวดั เล่ือนเขา้ ใกล้ผิวชนิ้ งาน 4. ค่อย ๆ หมุนหัวหมุนกระทบเล่ือนให้ปากวัดเข้าสัมผัส ผิวช้ินงาน จนมีเสียงดังคลิ๊กข้ึน 1 ครั้ง จึงหยุดหมุน แล้ว อา่ นค่าทว่ี ดั ได้
การนาไมโครมิเตอร์วัดในแบบคาลิปเปอร์ออกจากชิ้นงาน ให้หมุนปลอกหมุนวัดเล่ือนปากวัดเข้าเลก็ นอ้ ย แล้วจึงนาไมโครมเิ ตอรอ์ อกมา 2. การตรวจสอบความถูกตอ้ งของไมโครมเิ ตอรว์ ดั ในแบบคาลปิ เปอร์ ก่อนการวัดขนาดชิ้นงาน ควรตรวจสอบไมโครมเิ ตอรว์ ดั ในแบบคาลิปเปอร์ก่อน เพ่ือให้ได้ค่าการวดั ที่ถูกต้อง การตรวจสอบสามารถทาได้โดยตรวจสอบด้วยวงแหวนมาตรฐาน (Setting Ring) ซ่ึงมีมาให้ในกล่องของไมโครมิเตอร์แลว้ ภาพท่ี 5.39 การตรวจสอบด้วยวงแหวนมาตรฐาน ถ้าค่าที่อ่านได้ไม่ตรงกับค่าท่ีระบุในวงแหวนมาตรฐาน ให้ทาการปรับให้ตรงโดยวิธีการเดียวกับการปรบั ไมโครมเิ ตอร์วัดนอก อีกวิธีหน่ึงคือการตรวจสอบด้วยไมโครมิเตอร์วัดนอกที่มีความถูกต้องและเท่ียงตรง โดยตั้งค่าไมโครมิเตอร์วัดนอกไว้ท่ีค่าใดค่าหน่ึง แล้วใช้ไมโครมิเตอร์วัดในวัดระยะห่างระหว่างแกนวัดและแกนรับของไมโครมเิ ตอรว์ ัดนอก ภาพท่ี 5.40 การตรวจสอบด้วยไมโครมิเตอร์วัดนอก ถา้ คา่ ทีอ่ ่านได้ไมต่ รงกัน ใหป้ รบั ไมโครมิเตอร์วดั ในให้อ่านค่าได้เท่ากับไมโครมเิ ตอร์วัดนอก
5.6.2 ไมโครมเิ ตอร์วดั ในแบบแทง่ 1.) สว่ นประกอบของไมโครมิเตอร์วดั ในแบบแทง่ ประกอบด้วย (ดังภาพที่ 5.41) ภาพท่ี 5.41 แสดงไมโครมเิ ตอรว์ ดั ในแบบแทง่ชือ่ และส่วนประกอบ หน้าที่ ปลายแกนวัดหลกั เป็นส่วนท่ีอยู่กับที่ ส่วนปลายจะมีผิวสัมผัสเป็นผิวโค้ง ปลายแกนวัดหลักน้ี สามารถถอกออกเพ่อื สวมต่อแกนต่อได้ กา้ นสเกล บนก้านสเกลจะมขี ดี สเกลเหมือนกบั ไมโครมเิ ตอรว์ ดั นอก ปลอกหมุนวัด บนปลอกหมนุ วัดจะมขี ีดสเกลเหมอื นกับไมโครมิเตอร์วดั นอก ปลายแกนวัดเลอื่ น จะยึดตดิ กบั อย่กู บั ปลอกหมุนวดั และเคลื่อนทีไ่ ปตามแนวแกนพรอ้ มกัน แกนตอ่ ใช้ต่อทดี่ า้ นปลายแกนวัดหลักของไมโครมิเตอรใ์ หม้ ีความยาวเพิ่มขึ้น แกนต่อมีอยู่ ดว้ ยกันหลายขนาดให้เลอื กใช้ตามต้องการ 2.) การอา่ นค่าการวดั ดว้ ยไมโครมิเตอรว์ ัดในแบบแท่ง ขีดสเกลของไมโครมิเตอร์วัดในแบบแท่ง จะมีลักษณะเช่นเดียวกับไมโครมิเตอร์วัดนอกทุกประการ จึงมีวธิ ีการอ่านคา่ ทวี่ ัดได้เหมอื นกัน แต่ค่าท่ีอ่านได้จากสเกลไม่ใช่ค่าขนาดชิ้นงานจริง จะเป็นเพยี งตัวเลขบอกระยะทไี่ มโครมิเตอรืยดึ ออกจากขนาดต่าสุดที่วัดไดเ้ ทา่ นั้น ภาพที่ 5.42 การอ่านค่าไมโครมิเตอรว์ ดั ในแบบแท่ง
ในกรณีท่ีใชแ้ กนต่อสวมตอ่ กับไมโครมเิ ตอร์วดั ใน จะต้องรวมขนาดของแกนตอ่ เข้าไปด้วยภาพท่ี 5.43การอา่ นค่าไมโครมเิ ตอร์วดั ในแบบแทง่ แบบตอ่ สวม ภาพท่ี 5.44 การอา่ นคา่ ไมโครมิเตอรว์ ัดในแบบแทง่ แบบตอ่ สวมหลายแท่ง 3.) การวัดขนาดชิ้นงานดว้ ยไมโครมิเตอร์วัดในแบบแทง่การวดั ขนาดชน้ิ งานด้วยไมโครมเิ ตอร์วดั ในแบบแทง่ มขี น้ั ตอนดังตอ่ ไปนี้ 1. ใช้บรรทัดเหล็กวัดความโตของขนาดช้ินงานโดยประมาณ เพื่อ เลือกขนาดของไมโครมเิ ตอรแ์ ละแกนต่อได้อย่างถกู ตอ้ งภาพท่ี 5.45 2. หมุนปลอกหมุนวัดให้ลาตัวของไมโครมิเตอร์สั้นกว่าขนาดของ ชิ้นงานที่จะวัดเล็กนอ้ ยภาพที่ 5.46
3. เลื่อนไมโครมิเตอร์เข้าหาช้ินงานโดยให้ปลายแกนวัดหลัก สัมผัส กบั ผิวชิ้นงานภาพท่ี 5.47 4. หมุนปลอกหมุนวัดให้ปลายแกนวัดเล่ือนเข้าสัมผัสกับผิวช้ินงาน แล้วอา่ นค่าท่ีวดั ได้ ภาพที่ 5.48 การนาไมโครมิเตอร์วัดในแบบแท่งออกจากชิ้นงานให้หมุนปลอกหมุนวัดให้ไมโครมิเตอร์สั้นลงเลก็ นอ้ ย แล้วจงึ ดงึ ไมโครมเิ ตอร์ออกมา 4.) การตรวจสอบความถกู ต้องของไมโครมเิ ตอร์วัดในแบบแท่ง การตรวจสอบความถูกต้องของไมโครมิเตอร์วัดในแบบแท่ง สามารถตรวจสอบได้โดยใช้เกจเทียบความสูงมาตราฐาน (Hight Comparators) หรืออีกวิธีหนึ่งอาจใช้ไมโครมิเตอร์วัดนอกท่ีมีความถกู ต้องและเทยี่ งตรงทาการวัดเทียบคา่ กไ็ ด้ภาพที่ 5.49 ตรวจสอบโดนใชเ้ กจเทียบความสูงมาตรฐาน ภาพท่ี 5.50 ตรวจสอบโดยใช้ไมโครมเิ ตอร์ วดั นอก ถา้ ค่าทอ่ี า่ นได้จากไมโครมเิ ตอรว์ ดั ใน ไมต่ รงกับคา่ ท่ีระบุในเกจเทียบความสงู มาตรฐาน หรือค่าที่อา่ นไดจ้ ากไมโครมเิ ตอร์วดั นอก ให้ทาการปรับไมโครมเิ ตอรว์ ัดในใหอ้ า่ นค่าได้ถูกตอ้ ง
5.6.3 ไมโครมเิ ตอร์วัดลกึ (Micrometer Depth Gauge)1.) ลักษณะงานทใ่ี ช้วัดด้วยไมโครมิเตอรว์ ดั ลกึ วิธีวัดความลึก เช่น ความลึกของรูเจาะ , รูคว้านและงานตกร่องภายนอกต่าง ๆ สามารถวัดได้ด้วยเครื่องมือหลายชนดิ ขนึ้ อยู่กับ ค่าความละเอยี ดท่ตี ้องการ แต่ถา้ เป็นการวัดความลกึ ของชน้ิ งานที่ต้องการความถูกต้องและให้ค่าความละเอยี ดถงึ 0.01 มม. แล้ว จะต้องวัดด้วยไมโครมิเตอร์วัดลึกดงั ภาพที่ 5.51 ภาพท่ี 5.51 การวัดความลึกของชิน้ งาน ภาพท่ี 5.52 ลักษณะสรา้ งของไมโครมิเตอรว์ ัดลกึ และก้านวดั ลึก 0.25 มม., 25-50 มม. และ 50-75 มม.2.) ลักษณะสร้างของไมโครมิเตอรว์ ัดลึก ลักษณะสร้างภายนอกของไมโครมิเตอร์วัดลึกเป็นการรวมกันระหว่างเวอร์เนียร์วัดลึกกับไมโครมิเตอร์ คือ ส่วนล่างจะเป็นตัวสะพานยันกดแนบกับผิวงานขณะวัด ผิวประกบงานของสะพานยันจะทาให้ลาตัวของไมโครมิเตอร์วัดลึกตั้งฉากกับผิวงาน ส่วนบนเป็นลักษณะสร้างของไมโครมิเตอร์มีปลอกหมนุ กระทบเลอื่ น, ปลอกหมนุ วัด, กา้ นสเกลและแหวนเกลยี วลอ็ ค การแบง่ ขีดสเกลบนก้านสเกลมอี ยู่ 25 มม. โดยเร่ิมจากด้านบนสุดและรอบปลอกหมุนวัดมีขีดสเกลอยู่ 50 ชอ่ ง เกลียวในของไมโครมเิ ตอร์วัดลกึ มีระยะพทิ ช์เท่ากับ 0.50 มม. เพราะฉะนั้นเม่อื หมุนปลอกหมุน
วดั ไป 1 ชอ่ งสเกล จะทาให้ดา้ นวัดลึกเคล่อื นทไี่ ป 0.01 มม. ในแต่ละชุดของไมโครมิเตอร์วัดลึกจะมีก้านวัดลึกอยู่ 3 อันเพ่ือเลือกใช้ให้เหมาะกับความลึกงาน เช่น งานลึก 60 มม. จะต้องเลือกใช้ก้านวัดลึกขนาด50-75 มม. เป็นต้น5.6.4 ไมโครมเิ ตอร์วัดลกึ1.) ส่วนประกอบของไมโครมิเตอรว์ ดั ลกึ ภาพที่ 5.53 ส่วนประกอบตา่ ง ๆ ของไมโครมิเตอร์วัดลกึช่อื และส่วนประกอบ หน้าท่ี ฐาน เปน็ ส่วนทีใ่ ช้วางทาบกบั ผิวงานให้ตัวไมโครมิเตอร์ตัง้ ไดฉ้ ากกับผวิ งาน ก้านสเกล เป็นปลอกกลมยึดติดอยู่กับฐาน บนก้านสเกลจะมีขีดสเกลอยู่ตามแนวยาวของ ปลอกหมุนวดั กา้ นสเกล บนปลอกหมุนวัดจะมีขีดสเกลสาหรับอ่านค่าละเอียดอยู่และมีส่วนท่ีพิมพ์ลายกัน กา้ นวัดลึก ลื่นสาหรับมือจับหมุน ด้านในของปลอกหมุนวัดจะมีรูยาวตลอดตามแนวแกน สาหรับใส่ดา้ นวดั ลกึ นัตยึดปิดทา้ ย จะสอดอยู่ในรูของปลอกหมุนวัดผ่านออกมาทางฐานของไมโครมิเตอร์ และยึด หัวหมุนกระทบเลอ่ื น ติดกับปลอกหมุนวัดโดยนัตยึดปิดท้าย ก้านวัดลึกน้ีมีขนาดความยาวหลายขนาด สามารถถอดเปลีย่ นได้ สาหรบั ยดึ ก้านวัดลึกให้ตดิ กบั ปลอกหมนุ วัด ใชส้ าหรับหมุนเลอื่ นก้านวดั ลึกเขา้ สัมผสั ผิวงาน2.) วธิ ีการใชไ้ มโครมิเตอร์วัดลกึ ใช้บรรทัดเล็กวัดความลกึ ของงานโดยประมาณเสียก่อน เพอื่ เปลย่ี นก้านวัดลึกให้เหมาะสมกับความลึกของงาน หมุนปลอกหมุนวัดตามเข็มนาฬิกาให้ก้านวัดลึกเล่ือนออกเกือบเท่ากับความลึกงานวางไมโครมิเตอร์วัดลึกลงบนช้ินงานโดยออกแรงกดให้ผิวประกบงานของสะพานยันแนบสนิทกับผิวงานหมุน
ปลอกหมุนกระทบเลื่อนจนก้านวัดลึกเลื่อนลงสัมผัสผิวงานแล้วจึงอ่านค่าวัดถ้าใช้แกนวัด 25-50 มม.จะตอ้ งบวกดว้ ย 25 มม. แต่ถา้ ใชแ้ กนวดั 50-75 มม. จะต้องบวกด้วย 50 มม. และถ้าจะยกไมโครมิเตอร์วดั ลึกข้ึนมาอย่างใหล้ ็อคแหวนเกลยี วลอ็ คก่อนเพ่ือป้องกันปลอกหมุนวดั เคลอ่ื น3.) วิธีการอ่านคา่ วัดจากขีดสเกลบนกา้ นสเกลและปลอกหมุนวัด เนอ่ื งจากการแบง่ ขดี สเกลบนกา้ นสเกลของไมโครมิเตอร์วัดลึก จะเริ่มจากด้านนอก ซึ่งตรงกันข้ามกับการแบ่งขีดสเกลของไมโครมิเตอร์วัดนอก ที่เริ่มจากด้านในด้วยเหตุนี้อาจจะทาให้อ่านค่าวัดสับสนเพราะปลอกหมุนวัดทับขีดสเกลที่ผ่านมาวิธีแก้ไข โดยหมุนปลอกหมุนวัดเล่ือนก้านวัดขึ้นไปก่อน แล้วจึงหมุนใหก้ ้านวดั ลกึ เล่ือนลงสมั ผสั ผิวงานใหม่พร้อมกับอา่ นค่าวัดไปพรอ้ ม ๆ กัน จากภาพที่ 5.54 ก. วดั ความลึกได้ 0.13 มิลลเิ มตร ข. วดั ความลึกได้ 12 + 0.18 = 12.18 มลิ ลิเมตร ค. วัดความลกึ ได้ 0.5 + 0.22 = 0.72 มลิ ลิเมตร ง. วัดความลึกได้ 17 + 0.50 + 0.34 = 17.84 มลิ ลิเมตร ภาพท่ี 5.54 การอา่ นสเกลไมโครมเิ ตอรว์ ัดลกึ4. วธิ ีการตรวจสอบความถกู ตอ้ งของไมโครมเิ ตอรว์ ดั ลึก เนื่องจากผิวสัมผสั ของกา้ นวดั ลึกอาจจะสึกหรอหรือเกลยี วที่ยึดก้านสเกลไม่แน่นพอทาให้ก้านสเกลเคลอื่ นท่ี เพราะฉะนั้นกอ่ นใชง้ านจะตอ้ งนาไปตรวจและต้ังสเกลศูนย์ (Set-Zero) ใหม่ทุกครั้ง เช่นเดียวกันไมโครมเิ ตอรว์ ัดนอกคอื เมื่อใช้ก้านวัดลึก 0.25 มม. ให้ใช้ ตรวจสอบกับผิวโต๊ะระดับ โดยกดผิวประกบ งานของสะพานยันแนบกับผิวโต๊ะระดับ หมุน ปลอกหมุนกระทบเล่ือนให้ก้านวัดเล่ือนลง สัมผัสผิวโต๊ะระดับแล้วดูว่าขีดสเกลศูนย์ตรงกัน หรือไม่ถ้าไม่ตรงจะต้องปรับให้ตรงเช่นเดียวกับ ไมโครมิเตอรว์ ัดนอก ภาพท่ี 5.55 การตงั้ สเกลศูนย์ท่ี 0. มม.
เมื่อใช้ก้านวัดลึก 25.50 มม. ใช้เกจบล็อค หนา 25 มม. วางบนผิวโต๊ะระดับกดผิวประกบ งานของสะพานยันกับเกจบล็อคหมุนปลอกหมุน กระทบเลื่อนให้ก้านวัดลึกเลื่อนลงสัมผัสผิวโต๊ะ ระดับแล้วดูว่าขีดสเกลวศูนย์ตรงกันหรือไม่ ถ้า ไม่ตรงจะ ต้องปรับให้ตรง เช่นเดีย วกับ ไมโครมิเตอร์วัดนอก ภาพท่ี 5.56 การตั้งสเกลศูนยท์ ี่ 25. มม.5.) คา่ ผดิ พลาดท่ีอาจเกิดจากการใช้ไมโครมเิ ตอรว์ ดั ลึก ขณะวัดงานผู้วัดจะต้องวัดอย่างระมัดระวังและถูกต้อง แต่ถ้าวัดไม่ถูกวิธีจะทาให้ได้ค่าวัดที่ผิดไปด้วยเชน่ จากภาพท่ี 5.57 การวัดงานท่ีใช้แรงกดที่ สะพานยนั นอ้ ยและไม่ใชป้ ลอกหมุนกระทบเล่ือน จะ ทาให้ผิวประกบงานไม่แนบสนิทกับผิวงาน ค่าท่ีอ่าน ไดจ้ ะมากกวา่ คา่ ความลกึ จริงของงาน ภาพที่ 5.57 แรงกดสะพานยันน้อยเกนิ ไป จากภาพท่ี 5.58 การวัดความลึกงานท่ีใช้ แรงกดท่ีสะพานยันไม่เท่ากันทาให้ผิวประกบงาน แนบสนิทกับผิวงานไม่เท่ากัน ค่าวัดท่ีผ่านได้จะ มากกว่าค่าความลกึ จริงของงาน ภาพที่ 5.58 แรงกดสะพานยันไมเ่ ทา่ กัน
จากภาพท่ี 5.59 ลักาณะผิวงานหลักที่ไม่ สมบูรณ์พอซึ่งไม่สามารถใช้ไมโครมิเตอร์วัดลึกวัด ความลึกท่ีแนน่ อนของงานได้ ภาพที่ 5.59 ผิวงานหลกั ไมส่ มบูรณ์ จากภาพท่ี 5.60 ลักษณะการวาง ไมโครมิเตอร์วัดลึกท่ีผิดเน่ืองจากก้านวัดลึกอยู่กับผิว งาน ปลายสัมผัสงานของก้านวัดลึกอาจจะไม่สัมผัส ผิวล่างของงานอย่างแท้จริงดังภาพที่ 5.60 และก้าน วดั ลึกถูกรดู ไปกบั ผิวเป็นรอย ภาพท่ี 5.60 ครีบหรือรัศมีโคง้ ของรอ่ ง นอกจากข้อผดิ พลาดตา่ ง ๆ อนั อาจเกดิ ขึ้นได้ดงั กล่าวมาแลว้ ยังจะต้องปฏิบัติตามกฎของการวัดงานอีกดว้ ย เชน่ ค วามสะอาดของชิ้นงาน, ตาแหนง่ ของแนวเล็ง และยึดชน้ิ งานให้แน่นเปน็ ตน้6.) ข้อควรระวังและการบารงุ รกั ษา นอกจากจะใชไ้ มโครมเิ ตอรว์ ดั ลึกวดั ความลกึ งานให้ได้ค่าวัดท่ีถูกต้องยังต้องใช้อย่างระมัดระวังเพื่อมิให้ไมโครมเิ ตอรว์ ัดลึกชารุดเสยี หายอกี ด้วยคอื 1. หา้ มวัดงานทมี่ ผี วิ หยาบ 2. จะต้องทาความสะอาดกา้ นวดั ลึกก่อนประกอบเขา้ กับไมโครมเิ ตอร์วดั ลกึ 3. หลงั จากใช้แหวนล็อคแลว้ อยาลมื คลายแหวนลอ็ ค 4. หลังจากเลกิ ใชง้ านแล้วให้ประกอบกา้ นวัดลกึ 0.25 มม. ไว้และอย่าให้ผวิ สมั ผัสงานของ กา้ นวัดลึกเล่อื นพ้นผวิ ประกบงานออกมา เพราะอาจจะไปถกู กับเคร่อื งมอื อนื่ จนเกิดรอยเยนิ 5. ใหใ้ ชป้ ลอกหมุนกระทบเล่ือนทกุ คร้ังท่ีวัดงาน 6. เม่อื ต้องการจะเปลี่ยนจดุ วัดบนผิวงานให้ยกตวั สะพานยนั ขน้ึ หา้ มใชว้ ธิ ีเล่ือนไปมาเพราะ อาจจะทาให้ผวิ ประกบงานสึก
Search
Read the Text Version
- 1 - 27
Pages: