การเตรียมและการช่วยเหลือมารดาและทารก ท่ีได้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษ พชิ ฏา องั คะนาวนิ Page 1
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดาและทารกทไ่ี ด้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษวตั ถุประสงค์1. ประเมนิ ความผดิ ปกติของทารกในครรภ์2. ประเมนิ การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์3. ประเมนิ ภาวะสุขภาพของทารกในครรภ์4. ประเมินภาวะคบั ขันของทารกในครรภ์ใน ขณะเจ็บครรภ์คลอด5. ประเมินภาวะขาดออกซิเจนของทารกในครรภ์และทารกแรกเกดิ Page 2
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ไี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษประเภทของการประเมนิ ทารกในครรภ์ Biochemical assessment Biophysical assessment Electronic fetal monitoring Page 3
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ีได้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษBiochemical assessment การตรวจเลือดมารดา (maternal blood test) การวเิ คราะห์สารเคมีหรือโปรตีนบางอย่างของทารกในครรภ์ทซ่ี ึมผ่านเข้ากระแสเลือดมารดา ตรวจหาแอนตบิ อดขี องเลือดกล่มุ อาร์ เอช (Rh antibodies) ตรวจวดั ปริมาณอลั ฟ่ า ฟี โตโปรตนี (maternal serum alpha fetoprotein = MSAFP) Page 4
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ไี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การตรวจเลือดมารดา (maternal blood test) การแปลผล ปริมาณอลั ฟ่ า ฟี โต โปรตีน ทมี่ ีปริมาณสูงกว่า 2.5 เท่าของค่ามาตรฐาน (multiple of median = MOM) แสดงว่าทารกในครรภ์มภี าวะเส่ียงของการเกดิ ภาวะนิวรอน ทูปดเี ฟคจาเป็ นต้องตรวจซ้า หรือการตรวจติดตามด้วยคลื่นเสี่ยงความถสี่ ูงอย่างละเอยี ด Page 5
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกทไ่ี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การเจาะนา้ คร่าส่งตรวจ (amniocentesis) วตั ถุประสงค์ เพ่ือการวนิ ิจฉัยโรค ได้แก่ ตรวจวเิ คราะห์โครโมโซม และสารประกอบดี เอน็ เอ ตรวจวนิ ิจฉัยโรคกล่มุ เมตาบอลคิ วนิ ิจฉัยความรุนแรงของภาวะไอโซอมิ มูไนเซช่ัน (isoimmunization) ประเมนิ ความสมบูรณ์ของปอดทารกในครรภ์ Page 6
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ีได้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษBiochemical assessment การเจาะนา้ คร่าส่งตรวจ (amniocentesis) ข้อบ่งชี้ของการเจาะนา้ คร่าส่งตรวจ อายุต้งั แต่ 35 ปี ขนึ้ ไป มปี ระวตั ิให้กาเนิดทารกท่ีมคี วามผดิ ปกตทิ างโครโมโซม เป็ นพาหะของโรคพนั ธุกรรมทค่ี วบคุมโดยโครโมโซมเพศ (X-linked) Page 7
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกทีไ่ ด้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษBiochemical assessment การเจาะนา้ คร่าส่งตรวจ (amniocentesis) ข้นั ตอนและวธิ ีการ ให้คาปรึกษาเกยี่ วกบั ปัญหาพนั ธุกรรมทมี่ ขี ้อบ่งชี้ นัดตรวจล่วงหน้า ระยะเวลาทเี่ หมาะสม อายคุ รรภ์ 16-18 สัปดาห์ ให้ข้อมูลเกย่ี วกบั การตรวจและการแก้ไขปัญหาในกรณที มี่ ี ความผดิ ปกติ ให้ลงนามในใบอนุญาตการยอมรับการตรวจ Page 8
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ีได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การเจาะนา้ คร่าส่งตรวจ (amniocentesis) ข้นั ตอนและวธิ ีการ ตรวจคลื่นเสียงความถส่ี ูง ตรวจสอบการมชี ีวติ อายุ และจานวนทารกในครรภ์ ตาแหน่งของรก ปริมาณ นา้ คร่า และความผดิ ปกตอิ ื่นๆ เตรียมหน้าท้องบริเวณทเี่ จาะนา้ คร่า ด้วยเทคนิค ปราศจากเชื้อ ใช้เขม็ เจาะหลงั (spinal needle) เบอร์ 20-22 เจาะผ่านผนังหน้าท้อง ภายใต้การตรวจด้วยคลื่น เสียงความถสี่ ูง Page 9
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ีได้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษBiochemical assessment การเจาะนา้ คร่าส่งตรวจ (amniocentesis) ข้นั ตอนและวธิ ีการ แทงเขม็ เข้าไปในถุงนา้ คร่าและดูดนา้ คร่าออกมา 15-20 มลิ ลเิ มตร ภายหลงั การเจาะ ใช้พลาสเตอร์ปิ ดบริเวณที่เขม็ เจาะ และแกะออกในวนั รุ่งขนึ้ กลบั ไปพกั ทบี่ ้านและทางานได้ตามปกติใน วนั รุ่งขนึ้ ผลการตรวจใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ Page 10
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การเจาะนา้ คร่าส่งตรวจ (amniocentesis)การแปลผล ปกติ ผดิ ปกติ Page 11
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกทไ่ี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การทดสอบความสมบูรณ์ของปอดทารกในครรภ์ เจาะ shake test และ Foamนา้ คร่า 5-30 stability indexมลิ ลลิ ติ ร Lecithin/Sphyngpmyelin ratio (L/S ratio) Phosphatidylglycerol (PG) Page 12
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกทีไ่ ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment shake test และ Foam stability index 1. หลอดท่ีหน่ึงผสมนา้ คร่า 1 มลิ ลลิ ติ ร และ แอลกอฮอล์ 95% 1 มิลลลิ ติ ร 2. หลอดท่ีสองใช้นา้ คร่า 0.5 มิลลลิ ติ ร ผสมนา้ เกลือ 0.9% 0.5 มลิ ลลิ ติ รเท่ากนั 3. เขย่าหลอดแก้วท้ังสองอย่างแรงเป็ นเวลานาน 15 วนิ าที และวางไว้นาน 15 วนิ าที ถ้ายงั คงมีฟองอากาศครบรอบวงทผี่ วิ บน สารละลายท้งั สองหลอดแสดงว่าให้ ผลบวก Page 13
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดาและทารกท่ไี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment Lecithin/Sphingomyelin ratioการตรวจหาสารตึงผิว ( surfactant ): เป็นสารประกอบที่มีฟอสโฟลิพิด lecithin เป็ นสาร Phospholipid ท่ีเป็ นส่วนประกอบของนา้ และสารตงึ ผวิsphingomyelin เป็ นไขมันในนา้ คร่า ก่อนอายุครรภ์ 34 สัปดาห์ ปริมาณ lecithin และ sphyngomyelin ในนา้ คร่ามีความเข้มข้นเท่าๆ กนั หลงั จากน้ัน L/S ratio จะเพมิ่ มากขนึ้ เรื่อยๆสัดส่วนระหว่าง L/S อย่างน้อย 2 : 1 แสดงว่าปอดทารกมคี วามสมบูรณ์ Page 14
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดาและทารกทไี่ ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment phosphatidylglycerol (PG)การตรวจหาสารตงึ ผวิ phosphatidylglycerol (PG) : เป็ นสารประกอบในสารตึงผวิค่าปกติของปริมาณสาร PG ในนา้ คร่า ร้อยละ 9-10 ของสารตึงผวิ แสดงว่าปอด ทารกในครรภ์มคี วามสมบูรณ์ น้อยกว่าร้อยละ 9 ของสารตึงผวิ แสดงว่า ปอดทารกในครรภ์ยงั ไม่สมบูรณ์ Page 15
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ีได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การเกบ็ ชิ้นเนื้อรกส่งตรวจ: (chorionic villi sampling: CVS) การใช้เคร่ืองมือเจาะผ่านเข้าสู่โพรงจมูกและเกบ็ เนื้อรก เพ่ือนาไปตรวจวนิ ิจฉัยสารพนั ธุกรรม Page 16
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ีได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การเกบ็ ชิ้นเนื้อรกส่งตรวจ: (chorionic villi sampling: CVS) การใช้เคร่ืองมือเจาะผ่านเข้าสู่โพรงจมูกและเกบ็ เนื้อรก เพ่ือนาไปตรวจวนิ ิจฉัยสารพนั ธุกรรม Page 17
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ไี ด้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษBiochemical assessment การเกบ็ ชิ้นเนื้อรกส่งตรวจ: (chorionic villi sampling: CVS) Page 18
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดาและทารกท่ไี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การเกบ็ ชิ้นเนื้อรกส่งตรวจ: (chorionic villi sampling: CVS) อายุครรภ์ทเี่ หมาะสมในการตรวจอยู่ในช่วง 9-12 สัปดาห์ การใส่เคร่ืองมือทาได้ 2 วธิ ี ทางปากมดลูก (transcervical) ใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ ทางหน้าท้อง (transabdomen) ใช้เข็มเบอร์ 18-20, ทีต่ ัดชิ้นเนื้อ (biopsy forceps) ดูดเนื้อรกใส่กระบอกฉีดยา ทาการเกบ็ ชื้นเนื้อรกภายใต้การตรวจด้วยคล่ืนเสียงความถสี่ ูงตลอดเวลา แยกเอาเฉพาะเนื้อรกส่งตรวจหาโครโมโซม วเิ คราะห์สารพนั ธุกรรม Page 19
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกทีไ่ ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การเจาะเลือดจากสายสะดือทารก • เลือดทีเ่ จาะได้จาก umbilical vein มากกว่า umbilical artery • ควรตรวจการมชี ีวติ ของทารกภายหลงั ทา ด้วย ultrasound ต่อ 30-60 นาที Page 20
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกทไ่ี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การตรวจวดั ระดบั ฮอร์โมนทส่ี ร้างจากรก• การตรวจระดบั Estriol(E3) ในเลือดและปัสสาวะ• กระารดต•บั รEวรสจ3ะงูทจดคะาไเบังพดท้ม่ิตEท่ี้องั 3แย่ี ต่จ4าง่อะ0ราเวยพwดุคม่ิเรkรรอ็วภใยน์ 2า่ ช8ง่ว-3รง2วอาwดยkเุครเรปว็ ร็ นใภนต์ 3้นช5ไ-ว่ 3ปง6อwาkยแุคลระรสูภงค์ ง3ท5ท่ี -ี่3406wwkk และ• การแปลผล - E3 ทอี่ ยู่ในช่วง 2SD ของแต่ละสัปดาห์ : ทารกปกตดิ (ี Reassuring) • การตร-วEจ3ททา่ตี ไ่าดกวต้ ่างัช้ แ่วงต2่อSาDยขคุ อรงรแภต่์ล2ะ8ส-ัป3ด2าหw์ :kไมเป่อ็านจตรับน้ ปไรปะกนั ได้ว่าทารก ปกต•ิ (noกnาrรeaแsปsuลrผinลg)• พ–บผสลตบรวีต–ก้งั ลคEวร3งรสภทูง์ใจอ่ีชา้ยยกาู่ใหสนลเตาชยีย่วรปองัจยจ2ดยั ์SทDรี่ บกวนระดขบั อEง3แต่ละสปั ดาห์ : ทารกปกตดิ ี – ลดการด(ูดRซeึมaทssล่ี uาไrสin้สgต)รีต้งั ครรภ์ เช่น กนิ ยาปฏชิ ีวนะ – E3 ทต่ี ่ากวา่ ชว่ ง 2SD ของแตล่ ะสปั ดาห์ : ไมอ่ าจรบั Pปaรgะeก2นั 1
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกทไ่ี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiochemical assessment การตรวจวดั ระดบั ฮอร์โมนทส่ี ร้างจากรก• การตรวจระดบั Estriol(E3) ในเลือดและปัสสาวะ• กระารดต•บั รEวรสจ3ะงูทจดคะาไเบังพดท้ม่ิตEท่ี้องั 3แย่ี ต่จ4าง่อะ0ราเวยพwดุคม่ิเรkรรอ็วภใยน์ 2า่ ช8ง่ว-3รง2วอาwดยkเุครเรปว็ ร็ นใภนต์ 3้นช5ไ-ว่ 3ปง6อwาkยแุคลระรสูภงค์ ง3ท5ท่ี -ี่3406wwkk และ• การแปลผล - E3 ทอี่ ยู่ในช่วง 2SD ของแต่ละสัปดาห์ : ทารกปกตดิ (ี Reassuring) • การตร-วEจ3ททา่ตี ไ่าดกวต้ ่างัช้ แ่วงต2่อSาDยขคุ อรงรแภต่์ล2ะ8ส-ัป3ด2าหw์ :kไมเป่อ็านจตรับน้ ปไรปะกนั ได้ว่าทารก ปกต•ิ (noกnาrรeaแsปsuลrผinลg)• พ–บผสลตบรวีต–ก้งั ลคEวร3งรสภทูง์ใจอ่ีชา้ยยกาู่ใหสนลเตาชยีย่วรปองัจยจ2ดยั ์SทDรี่ บกวนระดขบั อEง3แต่ละสปั ดาห์ : ทารกปกตดิ ี – ลดการด(ูดRซeึมaทssล่ี uาไrสin้สgต)รีต้งั ครรภ์ เช่น กนิ ยาปฏชิ ีวนะ – E3 ทต่ี ่ากวา่ ชว่ ง 2SD ของแตล่ ะสปั ดาห์ : ไมอ่ าจรบั Pปaรgะeก2นั 2
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดาและทารกทไ่ี ด้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษ Biochemical assessment การตรวจวดั ระดบั ฮอร์โมนทส่ี ร้างจากรก Page 23การตรวจระดบั Human placental lactogen(hPL)• hP•L สhรPา้Lงสจรา้ากงจรากกหรกลหงั ่ลเง่ัขเขา้ ้าสสกู่ ู่กรระะแแสสเเลลืออืดสดตสรตีมรคี มีรรคี ภร์ รภ์ – ปริมาณ hPL สัมพนั ธ์กบั ปริมาณเนื้อรก และมีคร่ึงชีวิตส้ัน – ปรมิ– าใณช้ปhระPเLมนิ สกมัารพทนัางธานก์ ขบั อปงรรกมิ เปา็ ณนหเลนกั ้อื รก และมคี รง่ึ ชวี ติ สนั้ –•ใชขป้ ้อรบะ่งเชมี้ในนิ กกาารตรรทวาจง:าไนมข่นอิยมงรเนก่ือเงปจ็นากหผลลบกั วกลวงและลบสูง• ขอ้ •บง่ เชร่ิมใ้ี นสรก้าางใรนตสรัปวดจาห:์ทไ่ีม3 น่หลยิ งั มจเานกก่ือางรจตากกไขผ่ ลบวกลวงและลบสงู• Po••lypรใชะe้ปดpรบั tะiสdเูมงeสนิ ุดถhเงึมoก่ือrาmรGทAoางn3า6eน-3ขส7อรwงา้รkงกsจเปา็ นกหลsกัyncytiotrophoblast• เรม่ิ • สรรา้ะงดใบั นปสกปตั ิ ดคือาหภาท์ ย่ีใ3นชห่วลง งั2SจDากขกองาคร่าตเฉกลไย่ี ขใน่ แต่ละGA
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกทไี่ ด้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษBiophysical assessment การตรวจด้วยคล่ืนเสียงความถี่สูง • การวนิ ิจฉัยการต้งั ครรภ์และการแท้งบุตร • วนิ ิจฉัยจานวนทารก ความผดิ ปกติเกยี่ วกบั รกและนา้ คร่า • การวนิ ิจฉัยความผดิ ปกตโิ ดยการตรวจดู โครงสร้างทางกายภาพของทารก • การตรวจวนิ ิจฉัยการเจริญเติบโต Page 25
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกทไ่ี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiophysical assessment ฟี ตัว ไบโอ ผสิ ิคลั โปรไฟล์Principle Indication/ Method Interpretation ContraindicationUS + NST Nonreactive NST 1.NST American College with contraindication of 2.Real time US of Obstetricians CST and Gynecologists (1999) Back up surveillance Page 26
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ไี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษBiophysical assessment ฟี ตัว ไบโอ ผสิ ิคลั โปรไฟล์ Page 27
Page 28
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกท่ไี ด้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษElectronic fetal monitoring non stress test-NST เป็ นวธิ ีทดสอบสุขภาพทารกในกล่มุ high risk สะดวก ทาง่าย มคี วามจาเพาะ (specificity) สูง ถ้าผลตรวจปกติ -โอกาสที่ทารกจะปกติ > 90% มีความไว (sensitivity) ดพี อสมควร ถ้าผลตรวจผดิ ปกติ -โอกาสทีท่ ารกจะไม่ดี ~ 50% Page 29
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดาและทารกทไ่ี ด้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษElectronic fetal monitoring non stress test-NST • ท่าของผู้ป่ วย : ไม่ควรนอนหงาย• วดั BP• ใช้ tocodynamometer คาดหน้าท้องเพื่อบันทกึ Ut. Contraction• คาดหน้าท้อง บนั ทึก FHR ตลอดการทดสอบ• ใช้เวลาทา ~ 20 นาที• บนั ทกึ การดนิ้ ของทารก Page 30
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกทไ่ี ด้รับการตรวจด้วยเคร่ืองมือพเิ ศษElectronic fetal monitoring non stress test-NST หลกั สาคญั ในการอ่าน tracings 1. Baseline FHR 2. Variability 3. Acceleration 4. Deceleration 5. Uterine contraction Page 31
การเตรียมและการช่วยเหลือมารดา และทารกที่ได้รับการตรวจด้วยเครื่องมือพเิ ศษElectronic fetal monitoring non stress test-NST FHR UC Page 32
1. Baseline FHR2. Variability3. Acceleration4. Deceleration5. Uterine contraction Page 33
1. Baseline FHR Baseline FHR 2. Variability 3. Acceleration 4. Deceleration 5. Uterine contraction• ค่าประมาณโดยเฉลยี่ ของ FHR ทแี่ ปรปรวนขนึ้ ลงขนาด 5 bpm โดย พจิ ารณาในช่วง 10 นาท,ี excluding – Periodic or episodic changes – ช่วงทมี่ ี marked FHR variability – Segments ทม่ี ี baseline ต่างกนั > 25 beats/min ในช่วง 10 นาทีใด ๆ Page 34
1. Baseline FHR Baseline FHR 2. Variability 3. Acceleration 4. Deceleration 5. Uterine contraction• Baseline FHR < 110 bpm - bradycardia• Baseline FHR > 160 bpm - tachycardia Page 35
Variability 1. Baseline FHR 2. Variability• Baseline FHR variability 3. Accelerationการแปรปรวนข้ึนลง (fluctuation) ของ baseline FHR 4. Deceleration 5. Uterine contraction – absent FHR variability : undetectable – minimal FHR variability : < 5bpm – moderate FHR variability : 6 to 25 beats/min – marked variability : >25 beats/min Page 36
Minimal variabilityModerate variability Page 37
Acceleration 1. Baseline FHR 2. Variability 3. Acceleration 4. Deceleration 5. Uterine contraction• การเพม่ิ ขนึ้ อย่างฉับพลนั ของ FHR เหนือ baseline• FHR เพมิ่ ขนึ้ > 15 bpm และคงอยู่นานเกนิ 15 วนิ าที (ส่วนใหญ่ไม่เกนิ 2 นาท)ี• Preterm < 32 weeks: ลด criteria FHR เพมิ่ ขนึ้ > 10 bpm และคงอยู่นานเกนิ 10 วนิ าที Page 38
Acceleration 1. Baseline FHR 2. Variability 3. Acceleration 4. Deceleration 5. Uterine contraction• Prolonged acceleration: มี acceleration นาน > 2 นาที แต่ < 10 นาที• ถ้า acceleration > 10 นาที = baseline change Page 39
Deceleration 1. Baseline FHRการลดลงของ FHR 2. Variability 3. Acceleration 4. Deceleration 5. Uterine contraction– Early deceleration– Late deceleration– Variable deceleration– Prolonged deceleration Page 40
Early deceleration• การลดลงของ FHR อย่างค่อยเป็ นค่อยไป• สัมพนั ธ์กบั contraction เป็ น mirror image – FHR เริ่มลดลงพร้อม ๆ กบั ทเ่ี ริ่มมี contraction – จุดตา่ สุดของ FHR อยู่ตรงกบั peak ของ contraction Page 41
Late deceleration• การลดลงของ FHR อย่างค่อยเป็ นค่อยไป• สัมพนั ธ์กบั contraction แบบ delayed in timing – FHR เริ่มลดลงภายหลงั จากเร่ิมมี contraction – จุดตา่ สุดของ FHR อยู่หลงั peak ของ contraction Page 42
Variable deceleration• FHR ลดลงอย่างรวดเร็ว/กลบั ขนึ้ สู่ baseline เร็ว• FHR ลดลง > 15 bpm, นาน > 15 วนิ าท,ี แต่ไม่เกนิ 2 นาที• อาจสัมพนั ธ์หรือไม่สัมพนั ธ์กบั contraction กไ็ ด้ Page 43
Prolonged deceleration• FHR ลดลงนานเกนิ 2 นาท,ี แต่ไม่เกนิ 10 นาที• ถ้า deceleration > 10 นาที = baseline change Page 44
การแปลผล NST• Reactive : FHR acceleration อย่างน้อย 2 คร้ังในช่วง 20 นาที – FHR acceleration = เพมิ่ ขนึ้ > 15 bpm, > 15 วนิ าที – ถ้า 20 นาทยี ังไม่เข้าเกณฑ์ ให้ทาต่อจนครบ 40 นาที และอ่านผลในช่วง 20 นาทใี ดกไ็ ด้ – Fetal movement อาจมหี รือไม่กไ็ ด้• Non-reactive : – ครบ 40 นาทีแล้วยงั ไม่เข้าเกณฑ์ Page 45
20 min 20 min Reactive NST40 min Non-reactive NST Page 46
• ทารกอาจหลบั• ทดลองกระตุ้นด้วยเสียง (AST)• ถ้ายงั Non-reactive, ต้องทา back-up test เช่น CST หรือ BPP• ทาต่อจนครบ 40 นาที• ถ้าไม่มี 2 acc. ในช่วง 20 นาท,ี แปลผลเป็ น Non-reactive Page 47
ปัจจยั ท่ีมผี ลต่อ NST• อายคุ รรภ์ – GA มากขนึ้ : FHR ลดลง, Variability เพม่ิ ขนึ้• การหลบั ของทารก – ไม่มี acceleration (NR) แต่ variability มักจะปกติ• ยาท่ีมารดาได้รับ – อาจทาให้ FHR เพมิ่ ขนึ้ /ลดลง, variability ลดลง• มารดาเป็ นไข้ – FHR เพมิ่ ขนึ้ Page 48
Early dec. = ทารกปกติLate dec. ต้องหาสาเหตุ และแก้ไขVariable dec. Page 49
Take Home Message• NST ทา 20-40 นาที• การแปลผล NST – Reactive : • ปกติ ทาซ้าสัปดาห์ละ 1-2 คร้ัง – Non-Reactive : • กระตุ้นด้วยเสียง - Acoustic stimulation test • ทา back-up test เพ่ือยืนยนั ว่าทารกปกตหิ รือไม่ เช่น BPP หรือ CST Page 50
Search