ควบไม่แท้

แบบฝกึ เสรมิ ทักจษดุ ะวปิชราภะาสษงาคไท์กยารเรียนรู้ เรือ่ ง คำควบกล้ำ (คำควบไมแ่ ท)้ ๑. นในหัักกไ้ เเดรร้ีียยนนโรสสงาาสเมมำราาหียรรนรถถับออวา่า่ดันนนสักปคะเ้ารรตศะยี อพัโนยนทคช้อ์พนั้ ยข้นื ป้อฐอรคาำะนวเาถคภมมา้ อคศวขวลกึ บลี ษทกุงามี่ลปคีา้ จไา้ีทงัมคี่ห่แว5ทวบ้ทัดแกี่กจลล้าา้นัะหไทม6น่แบดทุรให้ที ี่กไ้ ดา้ ้หนด ๒. ๓. นักเรียนสามารถคัดค้าศพั ท์พนื้ ฐานค้าควบกล้าไมแ่ ท้ทกี่ า้ หนดให้ดว้ ยตัว บรรจงเตม็ บรรทดั ได้ ๔. นักเรียนสามารถคัดคา้ ศัพทพ์ จ้ืนฐัดาทนคำา้โคดวยบกลา้ ไมแ่ ท้ท่กี า้ หนดใหด้ ว้ ยตัว บรรจงคร่ึงบรรทัดได้ ๕. นกั เรยี นสามารถ เขยี นสนะากงดจคุฑา้ าศรัพตั ทน์พ์น้ื คฐามนคคา้ายควบกล้าไม่แท้ ทกี่ ้าหนดใหไ้ ด้ ๖. นักเรยี นสามารถบอกคควราโู มรหงมเราียยนควา้ ศัดัพสทะพ์ตื้นอฐนา่้อนยค้าควบกล้าไม่แทท้ ่ี ก้าหนดใหไ้ ด้ ๗. นกั เรยี นโรสงาเมรายี รนถแวตัด่งสปะรตะอโยนค้อดย้วยอคำ้าเคภวอบขกล้างุ ไมจ่แังทห้ทวี่กัดา้ หจนนั ดทใหบ้ไุรดี ้ ๘. นักเสรำียนสกั างมาานรเถขเตลอืพกื้นคท้าคีก่ วาบรกศลกึ ้าษไมา่แปทร้ทะีก่ถ้ามหศนึกดษใหาไ้จปันใชทใ้ บนรุบี รเิบขทตต2่าง ๆ ได้ ๓

แบบทดสอบก่อนเรยี น “คา้ ควบกลา้ ไมแ่ ท้” ค้าชแี จง แบบทดสอบนมี ี ๒ ตอน คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน เวลา ๓๐ นาที ตอนท่ี ๑ จา้ นวน ๑๕ ขอ้ (๑๕ คะแนน) ตอนที่ ๒ จา้ นวน ๕ ขอ้ ( ๕ คะแนน) ตอนท่ี ๑ ค้าชีแจง ให้นักเรียนเขยี น ทบั ก ข ค หรือ ง หน้าค้าตอบทถ่ี กู ตอ้ ง ๑. ขอ้ ใดอา่ นออกเสียงไดถ้ กู ต้อง ๔. ขอ้ ใดเปน็ คา้ ควบกลา้ ไม่แทท้ ุกค้า ก. ทรวดทรง อ่านว่า ซวด – ทรง ก. สรา่ ง สง่ เสรมิ สรงน้า ข. ทรพั ย์สิน อ่านวา่ ซับ – พะ – สิน ข. ทรพั ย์สนิ ซาบซ่าน ทรดุ โทรม ค. พุทรา อ่านว่า พดุ – ซา ค. สรวลเส สา้ เร็จ เสรจ็ สนิ้ ง. โซรม อ่านว่า โซ – รม ง. ประเสรฐิ สุเหรา่ เมด็ ทราย ๒.ข้อใดอา่ นออกเสียงได้ถกู ตอ้ ง ๕. ค้าในข้อใดออกเสยี งตา่ งจากพวก ก. ศรัทธา อา่ นว่า สดั – ทา ก. สรา่ ง ข. ศกั ดศิ์ รี อา่ นวา่ ศกั – ดิ – สี ข. จริง ค. มทั รี อ่านวา่ มดั – รี ค. เศรา้ ง. ปราศรัย อา่ นว่า ปะ – รา – สัย ง. ทราบ ๓. ขอ้ ใดอ่านออกเสยี งได้ถกู ต้อง ๖. ค้าขอ้ ใดออกเสียงเปล่ียนไปเปน็ เสียงอ่นื ก. กา้ สรด อา่ นวา่ ก้า - สด ก. สรงนา้ ข. สรวลเส อา่ นว่า สะ-หรวน – เส ข. กระทรวง ค. บวงสรวง อา่ นวา่ บวง - ซวง ค. เศรษฐกิจ ง. ทรพั ยากร อา่ นวา่ ซบั – ยา - กอน ง. สรา้ งเสริม ๔

๗.ขอ้ ใดออกเสียงอ่านตามพยัญชนะตวั หน้า ๑๑. “นักการเมืองเปิดเวที........... ก. อินทรีย์ ก่อนการเลือกต้ัง” ควรใช้คา้ ใดเติมใน ข. ศรทั ธา ชอ่ งวา่ งใหม้ ใี จความสมบูรณ์ ค. ฉะเชิงเทรา ง. ทรุดโทรม ก. ทราบ ข. ศรัทธา ๘. ข้อใดไม่ใช่ค้าควบกล้าไมแ่ ท้ ค. ปราศรัย ก. สร้าง ง. ส่งเสริม ข. แสร้ง ค. พรา่ ง ๑๒. “การประหยัดอดออม สามารถทา้ ให้ ง. ทราบ เรากลายเปน็ .............ได้” ควรใช้ค้าใด เตมิ ในช่องวา่ งให้มีใจความสมบูรณ์ ก . ทรพั ย์สิน ข. เศรษฐี ค. กระทรวง ง. ทรพั ยากร ๙. ขอ้ ใดออกเสยี งตามพยญั ชนะตัวหน้าทุกคา้ ๑๓.ประโยคในขอ้ ใดมคี ้าควบกล้าไม่แท้ ก. ทราม จริง แสร้ง มากทสี่ ดุ ข. ทราย สร้าง แทรก ก. สมทรงนงั่ ลงขา้ งต้นไทร ค. สร้อย ไทร เศร้า ข. เศรษฐมี กี องทรายใต้ตน้ นนทรี ง. โซรม จริง แสร้ง ค. ฤๅษี ร่างกายทรดุ โทรมอย่ใู นอาศรม ง. สมศกั ดิถ์ อดสายสร้อยก่อนสระผม ๑๐. ข้อใดออกเสียงคา้ เปล่ียนไปเป็นเสยี งอ่ืน ทกุ คา้ ๑๔. “วันสงกรานต์ฉนั ตอ้ งไป............น้าพระ” ก. สรา่ ง มทั รี ควรนา้ คา้ ใดเตมิ ในช่องวา่ งใหไ้ ดป้ ระโยค พทุ รา ที่สมบูรณ์ ข. ทรง เศร้า ทรัพย์ ก. สง ค. นนทรี ก้าสรด ข. สหรง เสแสรง้ ค. สรง ง. ไทร เลวทราม ง. สรวง กระทรวง ๕

๑๕. “สุดาเปน็ ไข้ท้าให้รา่ งกาย.........................” ควรน้าค้าใดเตมิ ใน ช่องวา่ งให้ไดใ้ จความสมบรู ณ์ ก. ทรดุ โทรม ข. ทรดุ โซม ค. ซุดโซม ง. ชดุ โทรม ตอนท่ี ๒ ค้าชแี จง ใหน้ ักเรยี นเขียนค้าอ่านของคา้ ควบกล้าไม่แทต้ ่อไปนีให้ถกู ตอ้ ง ๑๖. สรวลเส = ๑๗. เศรษฐกิจ = ๑๘. สรรเสรญิ = ๑๙. นกอินทรี = ๒๐. ทรพั ยากร = ๖

รู้จกั สาระ คา้ ควบกล้า ส้าคญั ค้าควบกล้า (อักษรควบ) หมายถึง พยัญชนะสองตัว เขียนเรียงกันอยู่ต้นพยางค์ และใช้สระเดียวกัน เวลาอ่าน ออกเสียงกล้าเป็นพยางค์เดียวกัน เสียงวรรณยุกต์ของ พยางค์นั้น จะผนั เปน็ ไปตามเสียงพยญั ชนะตวั หนา้ ค้าควบกล้าแบ่งเป็น ๒ ประเภท ๑. ค้าควบแท้ คือ ค้าท่ีมี พยัญชนะ ร ล ว ควบกับ พยญั ชนะตัวหน้า ประสมสระตัวเดียวกัน เวลาอ่านออกเสียง พยญั ชนะทั้งสองตัวพร้อมกัน เช่น เพราะ, กลาง, ควาย ๒. ค้าควบไมแ่ ท้ คือ คา้ ท่ีมีพยัญชนะ ร ควบกับพยัญชนะตัว หน้าประสมสระตัวเดยี วกนั เวลาอ่านไม่ออกเสียง ร ออกเสียงเฉพาะตัวหน้าหรือมิฉะนั้นก็ออกเสียงเป็นเสียงอ่ืน เชน่ จรงิ , ทราบ, ทราย, สระ, สรา่ ง ฯลฯ พยัญชนะสองตวั เขยี นเรียงกัน สระนั้นใชร้ ว่ มในหนง่ึ คา้ ตัวทส่ี อง ร ล ว ออกเสยี งกลา้ ควรจดจ้าว่าเปน็ ค้าควบแท้ พยัญชนะ “ร” ควบ กับตัวหนา้ ควบกล้ามากับสระตัวเดยี วแน่ เวลาอา่ นพยัญชนะเปลยี่ นผันแปร ควบไม่แทเ้ สียงเปลย่ี นเปน็ อ่นื ไป กนกศรี นาราภริ มย์ : ผู้แต่ง ๗

ค้าควบกลา้ ไมแ่ ท้ ค้าควบกล้าไม่แท้ คือ ค้าท่ีมีพยัญชนะ “ร” ควบกับพยัญชนะ ตวั หนา้ ประสมสระตัวเดียวกัน เวลาอา่ นไม่ออกเสียง “ร” ออกเสียง เฉพาะตัวหน้าหรือมิฉะนั้นก็ออกเสียงเป็นเสียงอ่ืน ค้าควบไม่แท้ แบง่ เปน็ ๒ ประเภท ๑. ค้าควบไม่แท้ที่ออกเสียงเฉพาะพยัญชนะตัวหน้า ได้แก่ พยญั ชนะ จ, ซ, ศ, ส ควบกับ ร เช่น จรงิ , ไซร,้ เศรา้ สรอ้ ย ฯลฯ ๒. คา้ ควบไม่แท้ “ท”ควบกับ“ร”แล้วออกเสียงกลายเป็น ซ ไดแ้ ก่ ทรง, ทราบ, ทราม ฯลฯ ค้าควบกลา้ ไมแ่ ท้ ไม่ปรากฏผ้แู ต่ง ศกั ด์ิศรมี เิ ศร้าสร้อย ตน้ ไทรยอ้ ยใกลส้ ระสวย เลวทรามเสแสร้งรวย ทราบเรือ่ งจริงยงิ่ ศรัทธา ส่งเสรมิ ไมก่ า้ สรวล เสรจ็ งานควรสรรเสริญหนา จรงิ ไซรไ้ ม้พทุ รา บ้านเศรษฐมี กี องทราย ประเสรฐิ ทราบเร่อื งดี นกอนิ ทรีทรัพยม์ หี ลาย ก้าสรดหมดสบาย กายทรดุ โทรมโรคแทรกแซง ๘

ตอนท่ี คา้ ควบกลา้ ไมแ่ ท้ท่ีออกเสียง ๑ พยญั ชนะตัวหนา้ ค้าชแี จง ให้นักเรียนอ่านค้าศพั ทต์ ่อไปน้ตี ามครูให้คล่อง ค้าเหล่านีออกเสียงพยญั ชนะตวั หน้านะคะ ค้าศัพท์ ออกเสียงว่า คา้ ศัพท์ ออกเสียงวา่ จรงิ จิง สรรเสริญ สัน – เสนิ ไซร้ ไซ้ ศกั ด์ิศรี สรา่ ง สา่ ง สัก – สี แสร้ง แส้ง ปราศรัย ปรา – สยั สรวลเส สวน – เส ศรทั ธา สัด – ทา ก้าสรด ก้า – สด เศรา้ เสร็จ เส็ด เศรษฐี เส้า ประเสรฐิ ประ – เสดิ อาศรม เสด – ถี สรง สง เศรษฐกิจ อา – สม สระ สะ สรอ้ ย เสด – ถะ – กดิ ส่งเสริม ส่ง - เสมิ สร้าง บวงสรวง บวง – สวง สอ้ ย สา้ ง ข้อสงั เกต ค้าควบกล้า ๑. พยัญชนะตวั แรก คือ จ ซ ศ และ ส ไมแ่ ท้ ๒. พยัญชนะตวั ควบ คือ “ร” เท่าน้นั ๓. ไมอ่ อกเสียง “ร” ออกเสียงเฉพาะพยัญชนะต้น ๙

แบบฝอกึ ่าทนักไดษ้ระะคบำาคยวถบกู กลำ้ คา้ ควบกลา้ ไม่แท้ ค้าชแี จง ใหใหน้ น้ักเักรเียรนยี รนะรบะาบยสาคียำสคคี ว้าบคแวทบ้ดกว้ ลยสา้ ีไ.ม...แ่ ..ท...้...... แทละี่อรอะกบเาสนียสงีคพำยคัญวบชไนม่แะทตด้ัว้วหยนสา้ ี .เ.ท...่า..น...ัน้........... สรวง สร้าง จระเข้ เสร็จ เศร้า ทราม พทุ รา จริง ปราศรัย เพราะ กราย สรอ้ ย ศรี เศรษฐี ทรง ศร สรรเสรญิ สรุ ิยา ปราบ เสรมิ สรวลเส ศรทั ธา กรง่ิ กรุ ๑๐

เรียงใหมใ่ ห้เปน็ คา้ ค้าชแี จง ใหน้ ักเรยี นนา้ พยัญชนะสระ และวรรณยุกต์ ท่กี ้าหนดใหม้ าเรียงใหม่ใหเ้ ปน็ คา้ ตวั อยา่ ง ริ ง จ จริง ๑. ร เ ส ร ส ริ ญ ๒. ป ร ะ ส เ ริ ฐ ๓. ศ เ ร้ า ๔. รั ธ า ท ศ ๕. ร้ า ส ง ๖. เ ร ศ ฐี ษ ๗. อ า ร ม ศ ๘. ร ง ส ๑๑

อา่ นไดค้ ัดคลอ่ ง ใหน้ ักเรยี นอ่านคา้ ควบกลา้ ไม่แท้ คา้ ชแี จง ที่กา้ หนดให้แล้วคัดตวั บรรจงคร่งึ บรรทดั ให้สวยงาม จรงิ ไซร้ เศรษฐี ส่งเสรมิ ประเสริฐ สรอ้ ย ปราศรัย ศักด์ิศรี บวงสรวง ๑๒

ใครอ่านได้ขึนมาเลย คา้ ชีแจง ให้นกั เรยี นเขยี นคา้ อา่ นของค้าควบกลา้ ไมแ่ ท้ ท่กี ้าหนดให้ เศรา้ อา่ นว่า สระ อา่ นวา่ ปราศรยั อ่านว่า สรง อา่ นว่า ประเสรฐิ อา่ นวา่ สรวลเส อ่านวา่ สรรเสรญิ อ่านว่า สร้างสรรค์ อา่ นวา่ เศรษฐกิจ อา่ นว่า บวงสรวง อ่านว่า ๑๓

เขยี นคา้ ควบกลา้ ไม่แท้ ให้ตรงความหมาย คา้ ชแี จง ให้นักเรียนเติมพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ ลงในช่องว่างให้เป็นค้าที่มีความหมายตรง กบั ค้าท่กี ้าหนดให้ อ .... ศ .... .... ทพ่ี กั อาศัยของนักบวช .... .... ร .... .... ริ .... กล่าวยกยอ่ ง ชมเชย .... .... .... ษ .... ผมู้ ฐี านะร่้ารวย .... ร้ .... .... เครอื่ งประดับใชแ้ ขวนท่ีคอ .... .... ร้ .... อาการเซอ่ื งซึม ไม่สดช่ืน .... ส .... .... สา้ เร็จลลุ ว่ ง ๑๔

เลอื กค้านา้ ไปเตมิ ให้นัก เรีย นอ่า นค้ า คว บ ก ล้า ไม่แ ท้ ที่ ค้าชีแจง ก้าหนดให้ แล้วคัดตัวบรรจงเต็มบรรทัดให้ สวยงาม เศสรรษ้างฐี สง่ เสรมิ สระผม ศรัทธา ปราศรยั เสรจ็ ๑. น้องอาบน้า ทกุ วนั ๒. วดั นส้ี ร้างขนึ้ ได้ด้วยความ จากประชาชน นักการเมอื งเปิดเวที ๓. กอ่ นการเลอื กตง้ั การประหยดั อดออม สามารถท้าใหเ้ รา ๔. กลายเปน็ ได้ ๕. คุณครู ให้นกั เรยี น แสดงละครหน้าชัน้ ฉนั ทา้ การบ้าน เรียบร้อย ๖. จงึ ออกไปว่ิงเล่น ๑๕

ตอนท่ี ๒ คา้ ควบกล้าไมแ่ ท้ “ท”ควบกับ“ร” แล้วออกเสยี งกลายเปน็ ซ คา้ ชแี จง ใหน้ กั เรยี นอ่านค้าศพั ทต์ ่อไปนต้ี ามครูใหค้ ลอ่ ง “ท” ควบ “ร” ออกเสียงเป็น “ซ” คา้ ศัพท์ ออกเสียงวา่ คา้ ศพั ท์ ออกเสียงวา่ นกอินทรี นก – อนิ – ซี ต้นนนทรี ตน้ – นน – ซี ทราบ พทุ รา ทราย ซาบ ทรพั ยากร พุด – ซา กระทรวง ซาย แทรกแซง ซบั – พะ – ยา – กอน ทรัพย์สิน กระ – ซวง ทรุดโทรม ทรวดทรง ซับ – สนิ เลวทราม แซก – แซง ซวด – ซง ซดุ – โซม มัทรี มัด – ซี เลว – ซาม ตน้ ไทร ต้น – ไซ ฉะเชิงเทรา ฉะ – เชิง – เซา ขอ้ สงั เกต ๑. พยัญชนะตัวหนา้ เปน็ “ท” เทา่ น้นั ค้าควบกลา้ ๒. พยญั ชนะตวั ควบ คือ “ร” เท่านัน้ ๓. ออกเสยี งเปลยี่ นไปเป็นเสยี ง “ซ” ไมแ่ ท้ ๑๖

อะไรหายไปช่วยเตมิ ที ใหน้ ักเรยี นเตมิ พยญั ชนะ สระ ค้าชแี จง คา้ ควบกล้าไมแ่ ท้ “ท” ควบ “ร” ให้เป็นคา้ ที่มีความหมาย ๑.พุ ท .... .... ๒. ท .... .... ย แ ...๔.... ก ๓. ต้ น ไ ... ... ๕. ก ะ ... ... ว ง ท ... ... ย์ ... ๖. มั ๙. ๗. ท รุ .... ... รี ... ... น ... อิ ... ๘. ๑๐. SSCCHHOOOOLL โ ... ... ม ๑๗

คดั คลอ่ งว่องไว ค้าชแี จง ให้นักเรียนคัดค้าควบกล้าไม่แท้ “ท” ควบ “ร” ทกี่ า้ หนดใหต้ วั บรรจง คร่ึงบรรทดั ๑๘

วงกลมแลว้ แก้ไข ใหน้ ักเรียนวงกลมล้อมรอบ คา้ ชีแจง คา้ ควบกลา้ ไมแ่ ท้ “ท” ควบ “ร” ทเ่ี ขียนผิด แลว้ นา้ มาแกไ้ ขใหม่ให้ถกู ต้อง นกอนิ ทรี ต้นนนที พุทซา ซาบ แทรกแทรง ซาย มทั รี ฉะเชิงเซา ต้นไซ เลวซาม ซับพยากร ซบั สิน ซดุ โซม ค้าที่เขียนผดิ ซวดทรง ค้าที่เขียนผิด แกเ้ ปน็ แกเ้ ปน็ ค้าที่เขยี นผดิ ค้าท่ีเขียนผดิ แก้เปน็ แกเ้ ปน็ คา้ ทเ่ี ขียนผิด ค้าท่ีเขียนผิด คา้ ท่ีเขียนผดิ แกเ้ ปน็ แกเ้ ป็น แกเ้ ปน็ ค้าท่เี ขยี นผิด คา้ ทีเ่ ขียนผิด ค้าทเี่ ขยี นผิด แกเ้ ปน็ แก้เป็น แกเ้ ปน็ ๑๙

แต่งประโยคได้ คา้ ชีแจง รูค้ วามหมาย ใหน้ ักเรยี นนา้ ค้าควบกลา้ ไมแ่ ท้ “ท” ควบ “ร” ที่ก้าหนดใหไ้ ปแต่งประโยคให้มีใจความสมบูรณ์ นกอินทรี ๑. แทรกแซง ๒. ทรดุ โทรม ๓. ฉะเชงิ เทรา ๔. ทรัพยส์ นิ ๕. เลวทราม ๖. ทรวดทรง ๗. ๒๐

สะกดได้ระบายถูก คา้ ชแี จง ให้นักเรยี นระบายสีคา้ ควบกลา้ ไม่แท้ ท่ตี รงกบั คา้ อ่านทก่ี ้าหนดให้ ๑. แซก – แซง แซกแทรง ๒. ซดุ – โซม ทรุดโซม แทรกแซง ทรดุ โทรม ซดุ โทรม แทรกแทรง ๓. นก – อิน – ซี นกอินทรยี ์ ๔. ซบั – สิน ทรัพยส์ นิ นกอินทรี ซับสิน นกอนิ ซี ทรพั ย์ศิน ๕. กระ – ซวง กระซวง ๖. ตน้ –นน – ซี ต้นนนซี กระทรวง ตน้ นนทรี กระทวง ตน้ นทรี ๗. มัด – ซี มัดซี ๘. พุด – ซา พดุ ซา มัทซี พุทรา มทั รี พดุ ทรา ๒๑

อ่านได้ใช้ส่ือสารถกู คา้ ชีแจง ให้นักเรียนน้าค้าต่อไปนี้เติมลงในช่องว่าง ให้ไดใ้ จความ สรง สรอ้ ย จรงิ เศรา้ ทราย ไทร พทุ รา ทราบ ทรดุ โทรม เสริม ๑. ..................เป็นผลไมท้ ีม่ ีรสหวานอมเปรยี้ ว ๒. พี่สาวสวม.....................ไขม่ ุก ๓. วนั สงกรานตฉ์ ันตอ้ งไป....................น้าพระ ๔. คนซอื่ สตั ย์มกั พดู ...................เสมอ ๕. ครูส่ง....................ให้นักเรยี นมีประชาธปิ ไตย ๖. มาลีเสยี แม่ เขามีความ......................ใจมาก ๗. สุดาเป็นไขท้ ้าให้รา่ งกาย......................... ๘. นักเรียนตอ้ ง.......................ระเบยี บเข้าห้องสมดุ ๙. ต้น.......................มีร่มใบหนาแน่นมาก ๑๐. ชายหาดเต็มไปดว้ ย.....................สขี าว ๒๒

ตอนที่ ๓ ทวนซ้าคา้ ควบกล้าไม่แท้ ให้นักเรียนอา่ นบทร้อยกรองตอ่ ไปนี้ คา้ ชีแจง ตามครใู ห้คล่อง แล้วตอบค้าถาม คา้ ควบกลา้ ไม่แท้ เศร้าสรอ้ ยเสริมสรวงสร้าง ศรทั ธาสรา่ งแสร้งสรา้ งสรรค์ สรวลเสเฮฮากัน โซรมโรมนนั่ มนั ไม่ดี สมเสรจ็ เสริดศรีไซร้ ประเสริฐได้เป็นศักดศ์ิ รี ปราศรัยสรรเสริญดี ทบั ทรวงมเี ศรษฐีชวน กา้ สรวลกา้ สรดนะ โสรจสรงสระทรงพระสรวล จริงไซรไ้ ม่เรรวน สมควรรับทรพั ยอ์ นิ ทรีย์ ทรวดทรงนนทรีไทร ทรวงทรามวัยทรดุ โทรมนี่ รมุ โทรมแทรกมทั รี ปลาอินทรีฉะเชงิ เทรา กระทรวงทรัพยากร ทรงสมรพทุ ราเขา ทราบทรายเทรดิ ทรดุ เรา ศีรษะเขาเฝา้ แทรกแซง เปน็ คา้ ควบไม่แท้ ทกุ คา้ แนไ่ มแ่ อบแฝง ควรจา้ คา้ สา้ แดง แหง่ ความหมายใหไ้ ดเ้ อย สุปราณี จันทรเ์ รือง /แตง่ ชวนคิด ๑. ค้าควบกลา้ ไม่แทท้ ่อี อกเสยี งเฉพาะพยัญชนะตวั หนา้ กีค่ ้า ตอบ ค้า ๒๓ ๒. คา้ ควบกล้าไมแ่ ท้ที่ออกเสียงเปล่ียนไปมที ้ังหมดก่ีคา้ ตอบ ค้า

คูฉ่ ันอย่ไู หน คา้ ชีแจง ใหน้ ักเรยี นจับค่คู ้าควบกล้าไมแ่ ท้ ให้เป็นคา้ ทม่ี ีความหมาย แลว้ นา้ ไป เขยี นใหม่ให้เปน็ ค้าท่ีถกู ตอ้ ง สร้าง เสริญ สร้างเสรมิ โศก เสรฐิ ๒๔ อา อนิ ทรี สาย เสริม ปรา เศร้า ศกั ดิ์ ศรยั สรร ไทร แทรก ศรี ทรวด แซง นก ศรม ตน้ สรอ้ ย ประ ทรง

หาเพอ่ื นใหฉ้ นั ที ค้าชแี จง ให้นกั เรยี นหาค้าควบกล้าไมแ่ ท้ตามหมวด ทีก่ ้าหนดให้ ให้มากท่ีสดุ “ส” “ศ” “ท” “จ” “ซ” ควบกับ ควบกบั ควบกับ ควบกบั ควบกับ “ร” “ร” “ร” “ร” “ร” ๒๕

แบบทดสอบหลงั เรียน “ค้าควบกลา้ ไม่แท้” คา้ ชีแจง แบบทดสอบนมี ี ๒ ตอน คะแนนเต็ม ๒๐ คะแนน เวลา ๓๐ นาที ตอนที่ ๑ จา้ นวน ๑๕ ขอ้ (๑๕ คะแนน) ตอนท่ี ๒ จ้านวน ๕ ขอ้ ( ๕ คะแนน) ตอนที่ ๑ ค้าชแี จง ใหน้ ักเรยี นเขียน ทบั ก ข ค หรือ ง หน้าคา้ ตอบทถ่ี กู ตอ้ ง ๑. ขอ้ ใดอา่ นออกเสียงไดถ้ กู ตอ้ ง ๔. ขอ้ ใดเปน็ ค้าควบกล้าไมแ่ ท้ทุกคา้ ก. ทรวดทรง อ่านว่า ซวด – ทรง ก. สร่าง สง่ เสรมิ สรงนา้ ข. ทรพั ย์สนิ อ่านวา่ ซบั – พะ – สิน ข. ทรพั ยส์ นิ ซาบซา่ น ทรุดโทรม ค. พุทรา อ่านวา่ พุด – ซา ค. สรวลเส สา้ เร็จ เสร็จส้นิ ง. โซรม อา่ นว่า โซ – รม ง. ประเสรฐิ สุเหรา่ เมด็ ทราย ๒.ขอ้ ใดอ่านออกเสียงไดถ้ กู ตอ้ ง ๕. คา้ ในขอ้ ใดออกเสยี งต่างจากพวก ก. ศรทั ธา อา่ นวา่ สดั – ทา ก. สรา่ ง ข. ศักด์ศิ รี อ่านวา่ ศกั – ดิ – สี ข. จริง ค. มทั รี อา่ นวา่ มดั – รี ค. เศรา้ ง. ปราศรัย อา่ นว่า ปะ – รา – สยั ง. ทราบ ๓.ขอ้ ใดอ่านออกเสียงได้ถูกต้อง ๖. คา้ ขอ้ ใดออกเสยี งเปลยี่ นไปเปน็ เสียงอน่ื ก. ก้าสรด อ่านวา่ ก้า - สด ก. สรงนา้ ข. สรวลเส อา่ นว่า สะ-หรวน – เส ข. กระทรวง ค. บวงสรวง อา่ นวา่ บวง - ซวง ค. เศรษฐกจิ ง. ทรัพยากร อา่ นวา่ ซบั – ยา - กอน ง. สร้างเสริม ๒๖

๗.ข้อใดออกเสยี งอา่ นตามพยญั ชนะตัวหน้า ๑๑. “นักการเมืองเปดิ เวที........... ก. อินทรีย์ ก่อนการเลอื กต้งั ” ควรใชค้ า้ ใดเตมิ ใน ข. ศรทั ธา ชอ่ งวา่ งใหม้ ีใจความสมบูรณ์ ค. ฉะเชิงเทรา ง. ทรดุ โทรม ก. ทราบ ข. ศรัทธา ๘. ขอ้ ใดไม่ใชค่ า้ ควบกล้าไมแ่ ท้ ค. ปราศรัย ก. สรา้ ง ง. สง่ เสรมิ ข. แสรง้ ค. พรา่ ง ๑๒. “การประหยดั อดออม สามารถทา้ ง. ทราบ ใหเ้ รากลายเป็น .............ได้” ควรใช้คา้ ใดเติมในช่องวา่ งใหม้ ใี จความสมบรู ณ์ ก . ทรพั ย์สนิ ข. เศรษฐี ค. กระทรวง ง. ทรัพยากร ๙. ข้อใดออกเสยี งตามพยัญชนะตัวหน้าทุกค้า ๑๓.ประโยคในขอ้ ใดมคี า้ ควบกล้าไม่แท้ ก. ทราม จรงิ แสรง้ มากท่ีสุด ข. ทราย สร้าง แทรก ก. สมทรงน่งั ลงข้างต้นไทร ค. สร้อย ไทร เศร้า ข. เศรษฐีมกี องทรายใต้ต้นนนทรี ง. โซรม จรงิ แสร้ง ค. ฤๅษี ร่างกายทรดุ โทรมอยู่ในอาศรม ง. สมศักด์ถิ อดสายสร้อยกอ่ นสระผม ๑๐. ข้อใดออกเสียงค้าเปลย่ี นไปเป็นเสียงอน่ื ทุกค้า ๑๔. “วนั สงกรานตฉ์ นั ต้องไป............น้าพระ” ก. สรา่ ง มัทรี ควรน้าคา้ ใดเติมในชอ่ งวา่ งให้ได้ประโยค พทุ รา ที่สมบรู ณ์ ข. ทรง เศร้า ทรัพย์ ก. สง ค. นนทรี กา้ สรด ข. สหรง เสแสรง้ ค. สรง ง. ไทร เลวทราม ง. สรวง กระทรวง ๒๗

๑๕. “สุดาเปน็ ไข้ท้าให้รา่ งกาย.........................” ควรน้าค้าใดเตมิ ใน ช่องว่างใหไ้ ดใ้ จความสมบรู ณ์ ก. ทรดุ โทรม ข. ทรดุ โซม ค. ซุดโซม ง. ชดุ โทรม ตอนท่ี ๒ ค้าชแี จง ใหน้ ักเรยี นเขียนค้าอ่านของคา้ ควบกล้าไม่แทต้ ่อไปนีให้ถกู ตอ้ ง ๑๖. สรวลเส = ๑๗. เศรษฐกิจ = ๑๘. สรรเสรญิ = ๑๙. นกอินทรี = ๒๐. ทรพั ยากร = ๒๘

บรรณานกุ รม กระทรวงศึกษาธกิ าร. (๒๕๕๑). หลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขนั พืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑. กรงุ เทพฯ: โรงพมิ พ์ชมุ นุมสหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย. กาญจนา พลายอยู่วงษ์. (๒๕๓๕).ผลของกจิ กรรมทางภาษาทม่ี ีตอ่ ความคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชันประถมศกึ ษาปีที่ ๔. วทิ ยานิพนธป์ รญิ ญามหาบณั ฑิต สาขาภาควิชามธั ยมศึกษา. บัณฑติ วิทยาลัย จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ทศิ นา แขมมณี และคณะ. (๒๕๔๔ ). การพฒั นากระบวนการเรียนรู้ของโรงเรียน: การศกึ ษาพหุกรณี. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ___________. (๒๕๕๐) ศาสตรก์ ารสอนองค์ความร้เู พ่ือพัฒนาการกระบวนการเรียนร้ทู ่ีมี ประสทิ ธิภาพ. กรงุ เทพมหานคร : สา้ นักพิมพจ์ ฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั . พจมาลย์ เพง็ ปาน. (๒๕๔๖). คู่มอื ครแู ละแผนการจดั การเรียนรู้. นนทบุร:ี ไทยร่มเกล้า. ___________. (๒๕๔๘). แผนการจดั การเรยี นรูส้ องแนวทางที่เนน้ ผูเ้ รียนเป็นสา้ คัญ. กรงุ เทพฯ: สถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ(พว.). สา้ นักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (๒๕๔๗). แบบฝึกหัดสาระการเรยี นรู้พืนฐานชุด ภาษาเพือ่ ชีวติ ทกั ษะภาษา ชนั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ . กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค.ลาดพร้าว. __________ . (๒๕๕๓). แนวทางการพัฒนา การวัดและประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตามหลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาขันพนื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑. กรุงเทพฯ : พิมพค์ รัง้ ท่ี ๒. โรงพมิ พช์ ุมนมุ สหกรณ์ การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จ้ากัด. ๒๙