แผนพฒั นาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ (Individual Development Plan : ID Plan) ปีการศกึ ษา 2562 โดย นางสาวกรรณกิ า ลกิ ลั ตา ตาแหนง่ ครู โรงเรียนเทพสถติ วิทยา อาเภอเทพสถิต จงั หวัดชยั ภูมิ สงั กัดสานกั งานเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา เขต 30 สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
บนั ทึกขอ้ ความ สว่ นราชการ โรงเรียนเทพสถติ วทิ ยา สานกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 30 ท่ี พเิ ศษ/2562 วนั ท่ี 31 พฤษภาคม 2562 เรอื่ ง ขออนมุ ตั ิแผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวชิ าชีพ (Individual Development Plan : ID Plan) ประจาปกี ารศกึ ษา 2562 เรียน ผู้อานวยการโรงเรยี นเทพสถิตวิทยา ขา้ พเจ้า นางสาวกรรณิกา ลิกัลตา ตาแหนง่ ครู กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ได้จัดทาแผนพัฒนา ตนเองและพัฒนาวิชาชีพ (Individual Development Plan : ID Plan) เพื่อเป็นการวางแผนการพัฒนาตนเอง การปฏิบตั งิ านในสถานศึกษาให้มีคุณภาพ ตามสมรรถนะประจาสายงาน และรายงานความต้องการในการพัฒนา ตนเอง จานวน 3 หลักสตู ร ไดแ้ ก่ 1. หลักสูตรออนไลน์ การลดความเสีย่ งภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมอิ ากาศ สาหรบั บุคลากรในสถานศกึ ษา รหัสหลกั สตู ร 62307 2. หลักสตู รออนไลน์ การจดั การเรียนรวู้ ทิ ยาการคานวณสาหรับครูมธั ยมศึกษาปที ี่ 1-3 Coding Online for Grade 7-9 Teacher (C4T-8) รหสั หลักสูตร 62159 3. หลกั สูตรออนไลน์ การจัดการเรยี นรูว้ ิทยาการคานวณสาหรับครูมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4-6 Coding Online for Grade 10-12 Teacher (C4T-9) รหัสหลักสูตร 62159 เพ่ือนาความรู้ที่ได้รับมาสร้างและพัฒนาหลักสูตรในรายวิชาท่ีข้าพเจ้าได้รับมอบหมาย และเพื่อ พัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ รู้จักและเข้าใจนักเรียนมากขึ้น รวมท้ังส่งเสริมให้นักเรียนได้รู้จัก ตนเองและยอมรบั ความแตกตา่ งระหวา่ งบุคคล ในการนี้ ข้าพเจ้าจึงขอให้ผู้อานวยการโรงเรียนเทพสถิตวิทยา อนุมัติแผนพัฒนาตนเองและพัฒนา วิชาชีพ (Individual Development Plan : ID Plan) สาหรับประกอบเป็นหลักฐานในการเข้าพัฒนาตนเอง ตอ่ ไป จึงเรยี นมาเพอื่ โปรดพิจารณา ลงชื่อ (นางสาวกรรณิกา ลิกัลตา) ตาแหน่ง ครู ความเหน็ ของผู้อานวยการ ................................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................... ลงชือ่ (นายอมร ชยั วเิ ชยี ร) ผูอ้ านวยการโรงเรยี นเทพสถติ วิทยา 31 พฤษภาคม 2562
คานา ตามที่ ก.ค.ศ.ได้กาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการพัฒนาตนเองและวิชาชีพครู (ว22/2560) เม่ือวันท่ี 5 กรกฎาคม 2560 ข้อ 1. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเน่ืองทุกปี โดยให้ ประเมินตนเองตามแบบ ที่ ก.ค.ศ. กาหนด พร้อมทั้งจัด ทาแผนการพัฒนาตนเองเป็นรายปี ตามแบบท่ีส่วน ราชการกาหนด และเข้ารับการพัฒนาตามแผนอย่างเป็นระบบ และต่อเนื่อง ฉะน้ัน ก่อนจะเลือกหลักสูตรคูปอง ครจู ะตอ้ งประเมนิ ตนเอง จัดทาแผนพัฒนาตนเอง เพื่อให้ผบู้ รหิ ารอนมุ ัตหิ ลกั สูตร ตาม ID Plan กระทรวงศึกษาธิการ มุ่งเน้นให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา พัฒนาตนเองโดยยึดหลักการประเมิน สมรรถนะ (Competency Based Approach) จะทาใหผ้ ู้ปฏบิ ตั ิงานสามารถรู้จุดเด่น จุดด้อยของความสามารถ ในการปฏิบัติงานของตน และสามารถพัฒนาตนเองให้สอดคล้องกับความต้องการจาเป็น ของหน่วยงาน และ ของตนเองอยา่ งแทจ้ ริง ทั้งนี้ ครูจึงต้องมีการวางแผนการพัฒนาตนเองในการจัดห้องเรียนท่ีมีคุณภาพ (Individual Development Planning : IDP) เพื่อเปน็ การพัฒนาท่ีสนองตอบความต้องการแต่ละบุคคล สนองความสนใจ ในรูปแบบวธิ ีการพฒั นา ก็จะสง่ ผลต่อสมรรถนะในการปฏิบัตหิ น้าท่ที มี่ ปี ระสทิ ธิภาพตอ่ ไป และ เป็นการพัฒนาท่ี ต่อเนื่องจนทาให้การปฏิบัติหน้าท่ีมีความสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในการปฏิบัติงาน อัน นาไปสกู่ ารพัฒนาตนเองใหเ้ ป็นครูมืออาชีพท่ีมีมาตรฐานในการปฏิบัติงานอย่างแท้จริงสามารถตรวจสอบได้ และ พัฒนาสู่ความเป็นวชิ าชพี ต่อไป กรรณิกา ลิกลั ตา
แผนพัฒนาตนเองและพัฒนาวิชาชีพ (INDIVIDUAL DEVELOPMENT PLAN : ID PLAN) ---------------------------------------------------------------------- ส่วนที่ 1 ข้อมูลผจู้ ัดทาแผนพัฒนาตนเอง ขอ้ มูลส่วนตัว ชือ่ นางสาวกรรณิกา ชือ่ สกลุ ลิกลั ตา ตาแหน่ง ครู วฒุ ิการศกึ ษา ปรญิ ญาตรี หรอื เทยี บเท่า วิชาเอก/คณิตศาสตร์ ปริญญาโท หรอื เทียบเท่า วชิ าเอก/สาขา....................................................................................... ปรญิ ญาเอก หรอื เทียบเท่า วิชาเอก/สาขา....................................................................................... อ่นื ๆ (โปรดระบุ) ................................................................................................................................. เข้ารับราชการวันที่ 1 เดอื น มถิ นุ ายน พ.ศ. 2560 ณ โรงเรียน เทพสถิตวทิ ยา จงั หวดั ชัยภูมิ สงั กดั สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 30 สานักคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ อายรุ าชการจนถงึ ปจั จุบนั 1 ปี 11 เดอื น เงนิ เดือน 17,690 บาท สถานทีท่ างาน โรงเรยี นเทพสถติ วทิ ยา อาเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ วชิ า/สาขา/กลมุ่ สาระการเรยี นรทู้ ่ีทาการสอน จานวน 10 คาบ/สัปดาห์ ภาคเรียนท่ี 1 จานวน 6 คาบ/สปั ดาห์ 1. กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1 จานวน 1 คาบ/สปั ดาห์ จานวน 1 คาบ/สัปดาห์ รายวชิ าคณิตศาสตร์เพมิ่ เตมิ 1 รหสั วชิ า ค 21201 จานวน 1 คาบ/สัปดาห์ 2. กลมุ่ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 จานวน 1 คาบ/สัปดาห์ จานวน 5 คาบ/สัปดาห์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน 3 รหัสวชิ า ค 32101 จานวน 1 คาบ/สปั ดาห์ 3. กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน (กิจกรรมชมุ นมุ ) รวม 26 คาบ/สัปดาห์ 4. กิจกรรมแนะแนว ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4/1 5. กจิ กรรมลกู เสือสามัญร่นุ ใหญ่ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 จานวน 15 คาบ/สัปดาห์ 6. กจิ กรรมสวดมนตไ์ หวพ้ ระประจาสปั ดาห์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 1-6 จานวน 1 คาบ/สัปดาห์ 7. กจิ กรรมลดเวลาเรยี นเพมิ่ เวลารู้ จานวน 1 คาบ/สปั ดาห์ 8. หนา้ ทพี่ ลเมือง จานวน 1 คาบ/สัปดาห์ จานวน 1 คาบ/สัปดาห์ ภาคเรียนท่ี 2 จานวน 5 คาบ/สปั ดาห์ 1. กลุม่ สาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 รายวชิ าคณติ ศาสตร์พนื้ ฐาน 2 รหสั วิชา ค 22102 2. กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รยี น (กิจกรรมชมุ นุม) 3. กจิ กรรมแนะแนว ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 3/3 4. กิจกรรมลูกเสือ/เนตรนารี ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 5. กจิ กรรมสวดมนตไ์ หว้พระประจาสัปดาห์ 6. กจิ กรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้
7. หนา้ ทีพ่ ลเมือง จานวน 1 คาบ/สัปดาห์ รวม 25 คาบ/สัปดาห์ จานวนชัว่ โมงการปฏิบตั ิงาน 1. ชั่วโมงสอนตามตารางสอน 480 ชั่วโมง 2. ชั่วโมงสนบั สนนุ การจดั การเรียนรู้(งานพเิ ศษ) 466 ชั่วโมง 3. ชัว่ โมงการมสี ว่ นร่วมในชมุ ชนการเรียนรทู้ างวชิ าชพี (PLC) 50 ชวั่ โมง 4. ชว่ั โมงงานตอบสนองนโยบายและจดุ เน้น 226.4 ช่วั โมง งานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย 1. หวั หน้างานทะเบยี นและผลการเรยี น GPA 3. ครทู ีป่ รกึ ษานักเรียนระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 4/1 4. ครเู วรประจาวันพธุ 5. ปฏิบตั ิหนา้ ทอ่ี น่ื ๆ ตามคาสง่ั ของโรงเรยี น ผลงานทเี่ กิดจากการปฏบิ ัตหิ นา้ ทีใ่ นตาแหนง่ ปัจจุบัน (ย้อนหลงั 2 ปี) 1. ผลทีเ่ กิดจากการจดั การเรียนรู้ 1.1 มีแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์พื้น1 ค21101 และรายวิชาคณิตศาสตร์ พน้ื ฐาน 2 ค21102 ทมี่ ีการวิเคราะหห์ ลักสูตรสถานศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้ ผลการเรยี นรู้ ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 1.2 มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยการปฏิบัติเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ด้วยกิจกรรมท่ีหลากหลาย และสอดคลอ้ งกับธรรมชาติของวิชา 1.3 มีแนวทางในการบริหารจัดการชั้นเรียนและจัดบรรยากาศในชั้นเรียนที่เหมาะสม และช่วย ส่งเสรมิ การเรยี นรขู้ องนักเรยี น 1.4 มีการวดั และประเมินผลการเรียนรู้อย่างหลากหลาย เช่น ก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลัง เรียน ควบคู่กับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ท่ีกาหนด และนาผลการวัดและ ประเมนิ ผลไปใช้พัฒนาผู้เรียน หรือปรบั ปรงุ แก้ไขผเู้ รียนทม่ี ีข้อบกพร่อง 1.5 มีการแกป้ ญั หาในชั้นเรียนด้วยกระบวนการวจิ ัยในชัน้ เรยี น 1.6 มีการประเมินและตัดสินผลการเรียนรู้ของนักเรียนในรายวิชาที่สอนหรือกิจกรรมท่ี รบั ผิดชอบ เมอื่ ส้ินสุดการเรยี นรายภาคเรยี น 1.7 มสี อื่ การเรยี นรู้ และแหล่งการเรยี นสาหรับใช้ประกอบการจดั การเรียนรู้ ให้นักเรียนไว้สืบค้น เพิ่มเติม เช่น เอกสารประกอบการเรยี น เกมประกอบการเรียนรู้ สอ่ื สไลด์ เปน็ ต้น 2. ผลท่เี กดิ จากการพฒั นาวิชาการ 2.1 มีการจัดหา พัฒนา ประยุกต์ใช้ส่ือ / นวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ สามารถนาไปใช้ใน กิจกรรมการจดั การเรยี นรไู้ ดผ้ ลดี มีประสิทธภิ าพ 2.2 สามารถนาความรู้ด้านเทคโนโลยสี ารสนเทศมาพัฒนากจิ กรรมการจัดการเรียนรู้ได้เป็นอย่าง ดี เชน่ การทาส่อื การสอน Power Point ประกอบการสอน เป็นต้น 2.3 มีกิจกรรมด้านคณิตศาสตร์ เช่น เวทคณิต และ ซูโดกุ เพื่อสร้างเจตคติท่ีดีต่อการเรียนวิชา คณิตศาสตร์ และให้นักเรียนตระหนักถึงความสาคัญ สามารถประยุกต์ใช้ในการแสวงหาความรู้และประสบการณ์ ไดใ้ นชวี ิตประจาวัน 2.4 มีการพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้โดยเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ ผ่านกระบวนการจัดการ เรียนรู้ท่จี ดั เน้ือหาสาระ และกจิ กรรมใหส้ อดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผเู้ รยี นแต่ละบุคคล
2.5 ผู้เรียนได้รับการส่งเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์ การคิดเชิงสร้างสรรค์ และการคิดอย่างมี วจิ ารณญาณเพือ่ นาไปสู่การแก้ปญั หา 3. ผลทเี่ กิดกับผู้เรียน 3.1 นกั เรยี นสนใจ มคี วามชนื่ ชอบ และเกิดความกระตือรอื รน้ อยากเรียนในวิชาทสี่ อน 3.2 นักเรยี นมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนสงู ขึน้ ทง้ั ในระดับหอ้ งเรียน และระดับโรงเรียน 3.3 นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามที่หลักสูตรและ สถานศึกษากาหนด 3.4 นักเรยี นมีช้ินงาน / ผลงานทส่ี ะท้อนความคิดขั้นสูง เช่น การคิดวิเคราะห์ การสรุปความ แผนผังความคิด (Mind Mapping) เป็นตน้ 3.5 นักเรียนแสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ และสรุปเป็นองค์ความรู้ท่ีสะท้อนผ่าน ชน้ิ งาน 4. ผลที่เกดิ กับสถานศกึ ษา 4.1 สถานศกึ ษาไดร้ บั การสนบั สนุนจากผปู้ กครอง ชุมชน หน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ 4.2 สถานศึกษามีบรรยากาศทงั้ ภายในและภายนอกหอ้ งเรียนที่เอ้อื ต่อการเรยี นรู้ของผู้เรียน 4.3 สถานศึกษาเปน็ แหลง่ เรียนรูข้ องหน่วยงานต่าง ๆ 4.4 สถานศกึ ษามีระบบการทางานเปน็ ทมี มากขน้ึ 4.5 สถานศึกษามแี นวปฏบิ ัติด้านเอกสาร หลกั ฐานทางการศึกษาที่ถูกตอ้ ง 4.6 สถานศึกษามีการพฒั นางานท่ีเปน็ ระบบ ถูกต้อง ครบวงจร และเตรียมพร้อมสาหรับการ นิเทศ ติดตาม และประเมนิ ผลการปฏบิ ตั ิงานของครู 5. ผลท่เี กดิ กบั ชุมชน 5.1 เกิดความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีในการพัฒนาผู้เรียน ระหว่างครูกับผู้ปกครอง นักเรยี น 5.2 เกิดความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีระหว่างโรงเรียนกับชุมชนในการจัดกิจกรรม พัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรยี น 5.3 เกิดความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ดีในการเข้าร่วมกิจกรรมด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม สาธารณสุข การเมืองการปกครอง การส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของชุมชนอย่างต่อเน่ือง ส่งผลให้ชมุ ชนมีความเขม้ แขง็ 5.4 ได้รับความไว้วางใจ ความเชื่อม่ัน และความศรัทธาในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ส่งผลให้ผปู้ กครองส่งบุตรหลานเขา้ ศึกษาตอ่ ในโรงเรยี น
ส่วนที่ 2 ผลการประเมนิ ตนเอง ตอนท่ี 1 ผลการประเมนิ ตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ด้านที่ 1 ความรคู้ วามสามารถในการปฏิบตั ิงานในหนา้ ท่ี รายการพจิ ารณาตนเอง มมี าก ระดับความรู้ นอ้ ย ปานกลาง 1. เนอ้ื หาในรายวิชา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ทส่ี อน 2. วธิ สี อน ถา่ ยทอดความรเู้ ชิงเนอ้ื หา กจิ กรรม บริบท เปา้ หมาย การเรยี นรู้ ความรู้พืน้ ฐาน การปรับพื้นฐาน และอปุ สรรคการเรยี นรู้ ของผเู้ รยี น 3. หลกั การสอน และกระบวนการเรียนรู้ 4. หลักสูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมนิ และแนวทาง การเรยี นรใู้ นแตล่ ะเนื้อหา 5. พื้นฐานการศึกษา หลกั การศกึ ษา ปรชั ญาการศึกษา จติ วิทยา สงั คม นโยบายการศึกษา จุดมุ่งหมายการจดั การศกึ ษาตงั้ แต่ระดบั ชาติจนถงึ ระดบั หลกั สูตร 6. การจดั การศึกษาแบบรวม และการตอบสนองตอ่ ความ หลากหลายของผูเ้ รยี น 7. ทฤษฎกี ารเรียนรู้ และจิตวทิ ยาการเรยี นรู้ 8. การใช้เทคโนโลยี และส่อื นวตั กรรมเพ่ือการเรียนรู้ 9. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้ ดา้ นที่ 2 ทักษะการปฏิบตั ิงาน ระดบั ความสามารถ ทาไดด้ ี พอใช้ ไม่ค่อยไดท้ า รายการพิจารณาตนเอง 1. การสรา้ งและหรอื พัฒนาหลักสตู ร 2. การออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ 3. การจดั ทาแผนการจดั การเรยี นรู้ 4. กลยทุ ธใ์ นการจัดการเรยี นรู้ 5. การสรา้ งและการพฒั นาส่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยที างการศกึ ษา และแหล่งเรียนรู้ 6. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
ดา้ นท่ี 3 ความเป็นครู ระดบั ความเป็นครู รายการพิจารณาตนเอง สงู มาก ปานกลาง ยังต้อง ปรับปรุง 1. ยึดมั่น ผกู พัน ศรทั ธาในวิชาชีพ และทุ่มเทเพอื่ การเรยี นรู้ของ ผู้เรียน 2. มีคุณธรรม จริยธรรม และปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอย่างทีด่ ีแก่ผเู้ รียน ท้งั กาย วาจา และจติ ใจ ดารงตนให้เป็นท่เี คารพ ศรทั ธาและ น่าเชื่อถือทั้งใน และนอกสถานศึกษา 3. ปฏิบตั ิตนตามจรรยาบรรณวิชาชพี ครู 4. มีวนิ ัยและการรักษาวนิ ยั 5. เป็นบุคคลแหง่ การเรียนรู้ ปรับปรงุ และพัฒนาตนเองอย่าง ต่อเน่อื ง ให้มคี วามรคู้ วามชานาญในวิชาชีพเพิม่ ขน้ึ 6. ปฏิบตั ติ นโดยนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ได้ 7. มที ัศนคติท่ีดีต่อบา้ นเมือง ตอนท่ี 2 ผลการประเมินศกั ยภาพของผเู้ รยี นในสถานศึกษาตามจดุ เนน้ ของ สพฐ. ระดับศกั ยภาพ รายการศักยภาพผูเ้ รียนตามจดุ เนน้ สงู มาก ปานกลาง ยังต้องปรับปรงุ 1. ดา้ นอา่ นออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขยี นคล่อง (3) (2) (1) 2. ด้านคดิ เลขเปน็ คิดเลขคลอ่ ง 3. ดา้ นการคดิ ขน้ั พ้นื ฐาน 4. ดา้ นการคิดขนั้ สูง 5. ดา้ นการส่ือสารอย่างสร้างสรรค์ตามช่วงวัย 6. ดา้ นการใชภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) 7. ด้านการใช้เทคโนโลยเี พ่ือการเรียนรู้ 8. ดา้ นการแสวงหาความรดู้ ้วยตนเอง 9. ด้านใฝ่เรยี นรู้ 10. ดา้ นใฝด่ ี 11. ดา้ นทกั ษะชีวิต 12. ด้านอยู่อยา่ งพอเพียง มุ่งม่ันในการศกึ ษาและการทางาน
ตอนท่ี 3 ผลการประเมินศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคดิ ของหลกั สตู รของสถาบันคุรุพฒั นา ระดับศักยภาพ รายการศาสตรก์ ารสอนตามกรอบแนวคิด สูงมาก ปานกลาง ยังตอ้ งปรับปรงุ (3) (2) (1) 1. การสอนในศตวรรษที่ 21 2. การแกปญหาผู้เรียน 3. จิตวิทยาการแนะแนว/จติ วิทยาการจัดการเรียนรู้ 4. การจัดการช้นั เรียน 5. การวิจัยพัฒนาการเรยี นการสอน/ชมุ ชนแหง่ การเรยี นรูทางวชิ าชพี 6. การพฒั นาหลกั สตู ร 7. สะเตม็ ศกึ ษา (STEM Education) 8. การใชส่อื และเทคโนโลยใี นการจัดการเรียนรู 9. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู 10. การออกแบบการเรยี นรู สรปุ ผลการประเมินตนเอง ตอนที่ 1 ผลการประเมินตนเองตามกรอบของ ก.ค.ศ. ด้านที่ 1 ความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ ควรได้รับการส่งเสริมด้านวิธีสอน ถ่ายทอด ความรู้เชิงเนอ้ื หา กจิ กรรม บริบท เป้าหมายการเรยี นรู้ ความรู้พ้นื ฐาน การปรับพื้นฐาน และอุปสรรคการเรียนรู้ ของผ้เู รียน หลกั การสอนและกระบวนการเรียนรู้ หลักสูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ ประเมิน และแนวทาง การเรียนร้ใู นแตล่ ะเนือ้ หา ด้านท่ี 2 ทักษะการปฏิบัติงาน ควรได้รับการส่งเสริมความรู้ในเรื่องการสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ กลยุทธ์ในการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพ ผู้เรยี น (ผลสมั ฤทธิ์ คุณลักษณะ สมรรถนะ) การสร้างและการพฒั นาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีทางการศึกษาและ แหลง่ เรียนรู้ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และการวิจัยเพือ่ พฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน ดา้ นท่ี 3 ความเป็นครู ปฏิบตั หิ น้าท่ีไดใ้ นระดบั มาก ตอนท่ี 2 ผลการประเมนิ ศักยภาพของผเู้ รียนในสถานศกึ ษาตามจุดเน้นของ สพฐ. จากผลการประเมิน พบว่า ศักยภาพของผู้เรียนตามจุดเน้นของ สพฐ. เม่ือพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ผู้เรียนควรได้รับการส่งเสริมศักยภาพด้านอ่านออก อ่านคล่อง เขียนได้ เขียนคล่อง ด้านการคิดขั้นพ้ืนฐาน ด้าน การคดิ ข้นั สงู ดา้ นการใชภ้ าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) และดา้ นใฝ่เรยี นรู้ ตอนท่ี 3 ผลการประเมินศาสตรก์ ารสอน ตามกรอบแนวคิดของหลกั สตู รของสถาบนั ครุ ุพฒั นา จากผลการประเมิน พบว่า ศาสตร์การสอนตามกรอบแนวคิดของหลักสูตรของสถาบันคุรุพัฒนา เม่ือ พิจารณาเป็นรายขอ้ พบว่า ควรไดร้ บั การส่งเสริมในเรื่องการสอนในศตวรรษท่ี 21 การแก้ปัญหาผู้เรียน การวิจัย เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ การพัฒนาหลักสูตร สะเต็มศึกษา (STEM Education) และการวัดและประเมินผลการเรียนรู้
ส่วนท่ี 3 แผนการพัฒนาตนเอง 1. อนั ดับความสาคัญ/สมรรถนะทจี่ ะพัฒนา ให้ใสห่ มายเลขเรยี งลาดับความสาคญั ของสมรรถนะท่ีจะพัฒนา ( 6 ) การสอนในศตวรรษที่ 21 ( 10 ) การแกป้ ัญหาผู้เรยี น ( 9 ) จติ วิทยาการแนะแนว/จิตวทิ ยาการจดั การเรยี นรู้ ( 7 ) การจดั การช้ันเรียน ( 1 ) การวจิ ยั พฒั นาการเรียนการสอน/ชุมชนแห่งการเรียนรูท้ างวิชาชีพ ( 5 ) การพัฒนาหลักสูตร ( 8 ) สะเตม็ ศึกษา (STEM Education) ( 2 ) การใชส้ อ่ื และเทคโนโลยีในการจดั การเรียนรู้ ( 3 ) การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ( 4 ) การออกแบบการเรียนรู้ 2. วิธกี าร / รูปแบบการพัฒนา ลงทะเบียนหลกั สูตรออนไลน์ และเรยี นรดู้ ว้ ยตนเองผ่านส่ือออนไลนต์ า่ ง ๆ 3. ระยะเวลาในการพฒั นา เรมิ่ ตน้ 16 พฤษภาคม 2562 สน้ิ สดุ 15 พฤษภาคม 2563 4. การขอรบั การสนับสนุนจากหนว่ ยงาน - 5. ประโยชนท์ ี่คาดว่าจะไดร้ ับ 5.1 ผลลพั ธ์ท่คี าดหวัง ด้านความรู้ (1) มคี วามรู้ในเน้อื หารายวิชาทสี่ อน (2) มีความสามารถในการสอน การถ่ายทอดความรู้ ท้ังเชิงเนื้อหา กิจกรรม บริบท เป้าหมาย การเรียนรู้ ความรู้พนื้ ฐาน การปรับพ้นื ฐาน และอุปสรรคในการเรยี นรขู้ องผู้เรยี น (3) มคี วามสามารถด้านหลกั การสอนและกระบวนการเรียนรู้ (4) มีความสามารถด้านหลักสูตร การออกแบบ วางแผนการใช้ การประเมิน และแนวทางการ เรียนรใู้ นแตล่ ะเนอื้ หา (5) มีความรูด้ ้านพน้ื ฐานการศกึ ษา หลกั การศึกษา ปรัชญาการศึกษา จิตวิทยา สังคม นโยบาย การศึกษา จดุ มุ่งหมายในการจัดการศกึ ษาแต่ละระดบั ตั้งแต่ระดบั หลักสตู รจนถงึ ระดบั ชาติ (6) มีความรู้ความสามารถในการจัดการศึกษาแบบรวม และสามารถตอบสนองต่อความ หลากหลายของผเู้ รียน (7) มคี วามร้ดู ้านทฤษฎกี ารจัดการเรยี นรู้ และจติ วิทยาการเรียนรู้ (8) มคี วามสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี และสื่อนวัตกรรมเพอ่ื สง่ เสริมการเรยี นรู้ (9) มคี วามรูค้ วามสามารถในการวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
ดา้ นทกั ษะ (1) สามารถสรา้ งและพัฒนาหลักสตู รได้ (2) สามารถออกแบบหน่วยการเรียนรู้ได้ (3) สามารถจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้ (4) สามารถพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ท้ังด้านผลสัมฤทธิ์ คณุ ลกั ษณะ และสมรรถนะ (5) สามารถสร้างและพัฒนาสอื่ นวัตกรรม เทคโนโลยที างการศกึ ษาและแหลง่ เรียนรู้ (6) สามารถวดั และประเมนิ ผลการเรยี นร้ไู ดถ้ กู ต้อง (7) สามารถจัดทาวจิ ยั เพอ่ื พัฒนาคณุ ภาพผู้เรียน ดา้ นความเป็นครู (1) มคี วามยึดมนั่ ผูกพัน ศรทั ธาในวชิ าชพี และทมุ่ เทเพอื่ การเรียนรขู้ องผู้เรยี น (2) มีคุณธรรม จริยธรรม และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ดารงตนเป็นท่ีเคารพ ศรทั ธา และนา่ เช่ือถอื (3) ปฏบิ ัติตนตามจรรยาบรรณวชิ าชีพครู (4) มีวินัย และรกั ษาวนิ ยั (5) เป็นผู้รักการเรียนรู้ ปรับปรุงและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเพ่ือให้มีความรู้ความชานาญใน วชิ าชีพเพม่ิ ขึ้น (6) ปฏบิ ัตติ นตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง (7) มุ่งประโยชน์ของสว่ นรวมเพ่ือพัฒนาคณุ ภาพทางการศึกษา 5.2 ผลการนาไปใชใ้ นการพฒั นางาน (1) นาความรู้ในเนื้อหารายวิชาท่ีสอน ถ่ายทอดให้นักเรียนได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม ทั้งด้าน เน้ือหา กจิ กรรม เป้าหมายการเรยี นรู้ ความรพู้ ื้นฐานของผเู้ รียน และความแตกต่างระหว่างบคุ คลของผู้เรยี น (2) นาความรู้ด้านปรัชญาการศึกษา จิตวิทยา สังคม นโยบายการศึกษา มาปรับใช้กับการ จดั การเรยี นรู้ในชน้ั เรยี นไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (3) นาความรดู้ ้านเทคโนโลยี และการผลติ ส่อื นวัตกรรมมาใช้เพ่ือส่งเสริมการเรยี นรู้ และสร้าง เจตคตทิ ีด่ ใี นการเรียนนของผู้เรยี น (4) นาความรดู้ ้านการวัดและประเมินผลการเรียนรมู้ าใชใ้ นชั้นเรยี นอยา่ งเหมาะสม (5) ยึดมัน่ ผูกพนั ศรัทธาในวชิ าชีพ และทุ่มเทเพือ่ การเรียนรูข้ องผ้เู รยี น (6) มีคณุ ธรรม จริยธรรม และปฏบิ ตั ติ นเป็นแบบอยา่ งท่ดี ีแกผ่ ูเ้ รยี น (7) รกั การเรียนรู้ ปรับปรุงและพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องเพ่ือให้มีความรู้ความชานาญในวิชาการ และวิชาชีพเพ่มิ ขน้ึ 5.3 การสรา้ งชุมชนการเรยี นรู้ PLC (1) เพื่อเกิดการร่วมมือ รวมพลงั ของทุกฝา่ ยในการพัฒนาการเรยี นการสอนสูค่ ณุ ภาพของผเู้ รยี น (2) เพ่ือเกิดการพฒั นาวิชาชีพครดู ้วยการพฒั นาผู้เรียน ลงชื่อ (นางสาวกรรณกิ า ลกิ ลั ตา) ผู้จัดทาแผนพฒั นาตนเอง
ความเห็นของผู้บังคบั บัญชา ............................................................................................................................. ............................................................ ....................................................................... ............................................................................................................ ...... ลงชื่อ (นายอมร ชยั วเิ ชยี ร) ผู้อานวยการโรงเรยี นเทพสถิตวิทยา
6. ประวตั ิการเข้าการรบั พัฒนา (ในรอบ 2 ปี ทีผ่ า่ นมา) ลาดับที่ เรอ่ื ง หน่วยงาน จานวน หลกั ฐาน ชั่วโมง เกียรติบตั ร 1 ปีการศกึ ษา 2560 เกียรติบัตร 2 20 เกียรติบตั ร 3 ก้าวไกลด้วยสอ่ื การสอนนอกกรอบด้วยเทคโนโลยี สมาคมนกั ธรุ กจิ เอสเอ็มอรี ่นุ เกียรตบิ ตั ร 8 4 AR camera และ VR camera ใหม่ 8 ถาพถา่ ย 5 การนาเทคนิคการคิดเลขเรว็ แบบอินเดยี สพม.30 - เกียรติบัตร (เวทคณติ ) เกียรติบัตร 6 12 เกยี รตบิ ัตร 7 การเรียนรสู้ ูก่ ารปฏบิ ัติ Active Learning สถาบนั พฒั นาคุณภาพ 12 เกียรตบิ ัตร 8 วิชาการ 9 84 ปกี ารศึกษา 2561 เข้ารบั การอบรมโครงการฝกึ อบรมเชิงปฎบิ ตั ิ การขยายผลโดยวทิ ยากรแกนนา ปลกู ฝัง สพม.30 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ของผูเ้ รยี นตาม รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศกั ราช 2560 เขา้ รว่ มการอบรมปฏิบัติการหลกั สตู ร “การ สพม.30 นากฎกระทรวงการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2561 และการประกันคุณภาพภายใน สถานศกึ ษา ปี 2559 สู่การปฏิบัติ ปี การศึกษา 2561” เข้ารว่ มอบรมหลักสตู รทิศทางใหมข่ องการ สถาบันวจิ ยั และพฒั นา ประเมินการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ในศตวรรษที่ วิชาชพี ครูสาหรับอาเซียน 21 สาหรับนักเรียนระดับมธั ยมศึกษา มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ เข้าร่วมอบรมหลักสตู รผดู้ าเนินการคัดกรอง สพม.30 คนพิการทางการศึกษา โครงการอบรมการจัดทาจดั เกบ็ ข้อมลู สพม.30 สารสนเทศด้านการจบการศึกษา และการ ให้บรกิ ารข้อมูลทางการศกึ ษา การฝกึ อบรมผู้กากับลกู เสอื สามญั รุ่นใหญ่ ขน้ั ค่ายลกู เสือภักดชี ุมพล ความรู้ชัน้ สงู
เกยี รตบิ ตั ร / วฒุ ิบตั ร ในการเข้ารว่ มพฒั นาตนเอง
สว่ นที่ 4 ความตอ้ งการในการพัฒนา ประเด็นการพฒั นา 1. หลกั สูตรออนไลน์ การลดความเสย่ี งภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภมู ิอากาศ สาหรบั บคุ ลากรในสถานศึกษา รหสั หลกั สตู ร 62307 2. หลักสตู รออนไลน์ การจดั การเรยี นรูว้ ิทยาการคานวณสาหรับครมู ธั ยมศกึ ษาปที ่ี 1-3 Coding Online for Grade 7-9 Teacher รหัสหลกั สูตร 62159 3. หลกั สูตรออนไลน์ การจัดการเรียนรูว้ ทิ ยาการคานวณสาหรบั ครมู ัธยมศึกษาปที ี่ 4-6 Coding Online for Grade 10-12 Teacher รหัสหลกั สูตร 62159 เหตผุ ลและความจาเป็น 1. การลดความเสย่ี งภัยพิบตั ิธรรมชาติและการปรบั ตัวรับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สาหรับ บุคลากรในสถานศกึ ษา มคี วามจาเป็นเนือ่ งจากภัยพิบัติธรรมชาติสามารถเกิดข้ึนได้ทุกเม่ือหากเรามีความพร้อมใน การรบั มอื จะสามารถหลกี เลยี่ งหรอื ปรบั ตัวกับสภาพปญั หาน้ีได้ 2. วิทยาการคานวณ (Computing science) เป็นวิชาที่มุ่งเน้นการเรียนการสอนให้เด็กสามารถคิด เชงิ คานวณ (Computational thinking) มีความพ้ืนฐานความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital technology) และ มีพื้นฐานการรู้เท่าทันสื่อและข่าวสาร (Media and information literacy) ซึ่งการเรียนวิชาการคานวณ จะไม่ จากัดอยู่เพียงแค่การคิดให้เหมือนคอมพิวเตอร์เท่าน้ัน และไม่ได้จากัดอยู่เพียงการคิดในศาสตร์ของนักวิทยาการ คอมพวิ เตอร์ แตจ่ ะเป็นกระบวนการความคิดเชิงวิเคราะห์เพอื่ นามาใชแ้ ก้ปญั หาของมนุษย์ วตั ถปุ ระสงคใ์ นการพัฒนา 1. เพ่ือพัฒนาความรู้ความสามารถการลดความเสี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 2. เพือ่ พฒั นาความรคู้ วามสามารถการจดั การเรยี นรูว้ ิทยาการคานวณ เปา้ หมายในการพัฒนา 1. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกับการจัดการเรยี นรูว้ ิทยาการคานวณ 2. มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับการลดความเสี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการ เปลีย่ นแปลงสภาพภูมิอากาศ กระบวนการพัฒนา 1. ศกึ ษาเรยี นรูอ้ อนไลน์ หลักสตู รการจดั การเรียนร้วู ิทยาการคานวณสาหรับครูมัธยมศึกษาปีท่ี 1-3 และมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 Coding Online for Grade 7-9 Teacher 2. ศึกษาเรียนรู้ออนไลน์ หลักสูตรการลดความเส่ียงภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการ เปลย่ี นแปลงสภาพภูมิอากาศ สาหรบั บคุ ลากรในสถานศกึ ษา ผลที่คาดว่าจะไดร้ บั 1. ครูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้วิทยาการคานวณสาหรับครูมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 และมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6 Coding Online for Grade 7-9 Teacher 2. ครูมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติและการปรับตัวรับการ เปลีย่ นแปลงสภาพภูมิอากาศ สาหรับบุคลากรในสถานศกึ ษา
Search
Read the Text Version
- 1 - 21
Pages: