บทที่3

บทที่ 3 วิธดี ำเนนิ กำรวจิ ัย เรื่องการพัฒนาคู่มืออิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง การใช้งานโปรแกรมสาหรับใช้ในการตัดต่อวีดิโอ ฝ่ายโทรทัศน์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช มุ่งให้ผู้ที่ใช้โปรแกรมสาหรับการตัดต่อในการทางาน ได้นาผลที่ได้จากการศึกษาคู่มือมาใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหาการใช้งานโปรแกรมสาหรับใช้ใน การตัดต่อได้อย่างถูกต้องและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในบทน้ีจะกล่าวถึงวิธีการดาเนินงานวิจัย โดยมี หัวข้อในการศกึ ษาดังตอ่ ไปน้ี 3.1 ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง 3.2 เคร่อื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษาคน้ ควา้ 3.3 ขั้นตอนการดาเนินการวจิ ยั 3.4 การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 3.5 สถติ ิทใ่ี ชใ้ นการเกบ็ ขอ้ มูล 3.1 ประชำกรและกลุ่มตัวอย่ำง ประชากรท่ีใชใ้ นการวจิ ัยครั้งน้ี คอื ประชากรและกลุ่มตวั อยา่ งที่ใช้ในการศกึ ษา คือ บคุ ลากร ของฝ่ายโทรทัศนท์ างการแพทย์ โรงพยาบาลศริ ิราช จานวน 30 คน 3.2 เครอื่ งมือท่ใี ช้ในกำรศกึ ษำคน้ คว้ำ 3.2.1 ลักษณะของเครื่องมอื 3.2.1.1 คู่มืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง การใช้งานโปรแกรมสาหรับใช้ในการตัดต่อวีดิโอ ฝ่าย โทรทัศนท์ างการแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช 3.2.1.2 แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการใช้งานคู่มืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง การใช้งาน โปรแกรมสาหรับใช้ในการตัดต่อวีดิโอ ฝ่ายโทรทัศน์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช โดย แบบสอบถามน้จี ะแบง่ เปน็ 2 ตอน ดังนี้ ตอนท่ี 1 เป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับสถานภาพและรายละเอียดส่วนตัวของ ผู้ตอบแบบสอบถาม วเิ คราะหโ์ ดยใช้ความถี่ ( Frequency ) และค่าร้อยละ ( Percentage )

ตอนท่ี 2 เป็นแบบสอบถามเก่ียวกับระดับความพึงพอใจต่อการใช้งานคู่มือ อิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง การใช้งานโปรแกรมสาหรับใช้ในการตัดต่อวีดิโอ ฝ่ายโทรทัศน์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช 3.2.2 กำรสร้ำงเครื่องมือ การสร้างเคร่ืองมือใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ความพึงต่อการใช้งาน คู่มือ อิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง การใช้งานโปรแกรมสาหรับใช้ในการตัดต่อวีดิโอ ฝ่ายโทรทัศน์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช ผู้วจิ ัยไดส้ รา้ งข้ึนเอง ตามข้นั ตอนดังนี้ 3.2.2.1 ศึกษาหลกั การทฤษฎจี ากตารา เอกสาร บทความทางวิชาการและงานวิจัย 3.2.2.2 นาข้อมูลท่ไี ดม้ ากาหนดกรอบแนวความคดิ ในการวจิ ัย 3.2.2.3 สร้างเคร่ืองมือเป็นแบบสอบถามตามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ คือ ระดับความพงึ พอใจมากที่สดุ มาก ปานกลาง น้อย และน้อยทส่ี ุด จานวน 10 ข้อ แล้วหาดชั นีความสอคล้อง (IOC) ของแบบสอบถาม โดยเลอื กข้อท่มี ีคา่ ดัชนีความสอดคล้องต้ังแต่ .50 ข้ึนไป ซึ่งได้เลือกไว้ 10 ข้อ แล้วนามาพิจารณาความเหมาะสมของสานวนภาษา การใช้ถ้อยคา และ นาแบบสอบถามไปปรบั ปรงุ แก้ไข 3.3 ขนั้ ตอนกำรดำเนินกำรวจิ ยั ผูว้ จิ ัยดาเนินการวิจัย ดงั น้ี 3.3.1 กำรวเิ ครำะหเ์ นอื้ หำ ทาความเขา้ ใจกับเนอื้ หาท่ีจะนามาใสใ่ นบทเรียน เพ่ือกาหนดให้ ชดั เจนวา่ จะใหผ้ ้เู รียน เรียนอะไรบ้าง เรียนอะไรก่อน เรียนอะไรหลงั เพื่อไมใ่ ห้ซา้ ซ้อนในแต่ละหวั ข้อ 3.3.2 กำรออกแบบหน่วยกำรเรียน 3.3.3.1 การออกแบบแผนภูมกิ ารนาเสนอในแต่ละหน่วยการเรียน 3.3.2.2 กาหนดวธิ ใี นการนาเสนอหนว่ ยการเรยี นและเขยี นวัตถปุ ระสงค์ เชิงพฤติกรรมของ เนื้อหาการกาหนดกลวิธีในการนาเสนอหน่วยการเรียนและเขียนวัตถุประสงค์เชิง พฤติกรรมของ เนอื้ หา 3.3.3 กำรพัฒนำหน่วยกำรเรยี น 3.3.3.1 เขยี นรายละเอียดเน้อื หาลงบนกรอบการสอน การเขยี น รายละเอียดเนอ้ื หาลงบน กรอบการสอน หรือการเขียนสคริปต์

3.3.3.2 จดั ลาดับกรอบการสอน หลงั จากทเี่ ขียนกรอบการสอนเสรจ็ แลว้ ในขนั้ น้จี ะเป็น การนากรอบการสอนมาตรวจสอบลาดบั การนาเสนอตามท่ีไดว้ างแผนไว้ 3.3.3.3 ตรวจสอบความถูกตอ้ งของเน้ือหา 3.3.4 กำรพฒั นำเนือ้ หำสู่โปรแกรม 3.3.4.1 เลอื กโปรแกรมที่จะนาเสนอบทเรยี น 3.3.4.2 พฒั นาและจัดเตรียมสือ่ ท่จี ะประกอบบทเรียน 3.3.4.3 นาขอ้ มูลและเนื้อหาลงโปรแกรม 3.3.5 กำรประเมินผลบทเรียน 3.3.5.1 ตรวจสอบคุณภาพของมัลติมีเดยี ของบทเรยี น 3.3.5.2 ทดลองกระบวนการการทดสอบหาประสิทธิภาพ 3.3.5.3 ทดสอบหาประสทิ ธภิ าพของบทเรียนและประสิทธิผลทางการเรียน 3.4 กำรเกบ็ รวบรวมข้อมลู 3.4.1 ดาเนนิ การเก็บรวบรวมขอ้ มลู โดยเกบ็ ข้อมลู จากกลุ่มตวั อย่างท่ผี ่านการศึกษา คู่มอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เรื่อง การใช้งานโปรแกรมสาหรับใชใ้ นการตัดตอ่ วดี ิโอ ฝ่ายโทรทัศน์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช จานวน 30 คน 3.4.2 เก็บรวบรวมข้อมูลดว้ ยตนเอง และเก็บแบบสอบถามคืนทุกฉบับ 3.5 สถติ ิท่ใี ชใ้ นกำรวิเครำะหข์ ้อมลู ผู้วจิ ยั ดาเนนิ การรวบรวมขอ้ มลู ท่ีไดจ้ ากแบบสอบถามนามาวิเคราะหโ์ ดยใช้โปรแกรม สาเร็จรูปตามลาดับขัน้ ตอนดงั น้ี วิเคราะห์ โดยการหาค่าเฉล่ีย( Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน( Standard Deviation) โดยนามาหาค่าเฉลยี่ และส่วนเบีย่ งเบนมาตรฐาน มี 5 ระดบั ดงั นี้ ระดบั 5 หมายความว่า มีความพงึ พอใจมากที่สุด ระดับ 4 หมายความวา่ มคี วามพงึ พอใจมาก ระดับ 3 หมายความว่า มคี วามพงึ พอใจปานกลาง ระดับ 4 หมายความวา่ มคี วามพึงพอใจน้อย ระดบั 1 หมายความวา่ มีความพึงพอใจนอ้ ยที่สดุ

เกณฑ์เฉลี่ยศึกษาความพึงพอใจท่ีได้จากการประเมินที่ได้จากแบบสอบถามความ คิดเหน็ ของผูเ้ ช่ียวชาญ (บญุ ชม ศรีสะอาด,2554) คะแนนเฉลี่ยต้ังแต่ 4.21 –5.00 หมายถึงความพึงพอใจ อยู่ในระดับมากท่ีสุด คะแนนเฉลย่ี ตง้ั แต่ 3.41 –4.20 หมายถงึ ความพึงพอใจ อยใู่ นระดบั มาก คะแนนเฉลย่ี ตง้ั แต่ 2.61 –3.40 หมายถงึ ความพึงพอใจ อยู่ในระดับปานกลาง คะแนนเฉล่ยี ตงั้ แต่ 1.81 –2.60 หมายถงึ ความพึงพอใจ อยู่ในระดบั น้อย คะแนนเฉล่ียตั้งแต่ 1.00 –1.80 หมายถงึ ความพงึ พอใจ อยู่ในระดบั นอ้ ยที่สุด 3.5.1 การวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ อายุ และระดับตาแหนง่ งาน โดยใช้คา่ ร้อยละ และ ความถี่ (บรุ ินทร์ รจุ จนพนั ธุ์, 2553) รอ้ ยละ = X *100 N เม่ือ X คอื จานวนขอ้ มูล (ความถี่) ทต่ี อ้ งการนามาหาคา่ ร้อยละ N คอื จานวนขอ้ มูลท้งั หมด 3.5.2 วิเคราะห์ระดบั ความพึงพอใจในการใช้งานคู่มืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง การใชง้ านโปรแกรม สาหรับใช้ในการตัดต่อวีดิโอ ฝ่ายโทรทัศน์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช โดยใช้การหา ร้อยละ ค่าเฉลี่ย( ˉx ) และสว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน (S.D.) โดยใช้สูตร (บรุ นิ ทร์ รุจจนพนั ธ์ุ, 2553) X = ∑ fx N เม่อื X คอื ค่าเฉล่ีย f คือ ความถ่ขี องขอ้ มลู X คอื ค่าของข้อมลู N คือ จานวนขอ้ มูลทั้งหมด n ∑ fx2-( ∑ f x)2 S.D. =√ n(n-1)

เมอื่ S.D. คอื สว่ นเบ่ยี งเบนมาตรฐาน f คือ ความถ่ี x คือ คา่ ของขอ้ มลู n คือ จานวนข้อมูล 3.5.3 วิเคราะห์ประสิทธิภาพของคู่มืออิเล็กทรอนิกส์ เร่ือง การใช้งานโปรแกรมสาหรับใช้ใน การตัดต่อวีดิโอ ฝ่ายโทรทัศน์ทางการแพทย์ โรงพยาบาลศิริราช โดยใช้การหา ร้อยละ ค่าเฉลี่ย( ˉx ) และส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.) โดยใช้สตู ร (บุรินทร์ รจุ จนพันธุ์, 2553) X = ∑ fx N เมื่อ X คือ คา่ เฉลีย่ f คอื ความถข่ี องข้อมูล X คอื ค่าของข้อมลู N คอื จานวนข้อมลู ทงั้ หมด S.D. =√n ∑ fx2-( ∑ f x)2 n(n-1) เมอื่ S.D. คอื สว่ นเบยี่ งเบนมาตรฐาน f คอื ความถ่ี x คอื ค่าของข้อมูล n คือ จานวนข้อมูล