Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore order-PVC-2556

order-PVC-2556

Published by thitirat.stvc, 2017-07-11 17:01:12

Description: order-PVC-2556

Search

Read the Text Version

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๒ ง หน้า ๑ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา ระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ดว้ ยการจดั การศกึ ษาและการประเมินผลการเรยี นตามหลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี พุทธศักราช ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๖ โดยท่ีมีประกาศกระทรวงศกึ ษาธิการ เร่อื ง ให้ใชห้ ลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ลงวันท่ี ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียน ให้สอดคล้องกับมาตรฐานคณุ วุฒอิ าชวี ศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชพี พ.ศ. ๒๕๕๖ อาศยั อาํ นาจตามความในมาตรา ๘ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยคําแนะนําของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จงึ วางระเบยี บไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนเ้ี รียกวา่ “ระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ ารวา่ ด้วยการจดั การศกึ ษาและการประเมินผลการเรยี นตามหลกั สูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี พุทธศักราช ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๖” ข้อ ๒ ระเบยี บนีใ้ หใ้ ชบ้ งั คับต้ังแตป่ ีการศึกษา ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ข้อ ๓ ใหใ้ ช้ระเบยี บนีบ้ งั คบั แก่สถานศึกษาที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพพทุ ธศักราช ๒๕๕๖ ขอ้ ๔ ในระเบียบน้ี “สถานศึกษา” หมายความว่า วิทยาลัย และส่วนราชการของสถาบันการอาชีวศึกษาสังกัดสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สถานศึกษาอ่ืนของรัฐและเอกชนท่ีจัดการอาชีวศึกษาตามหลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๖ “หวั หนา้ สถานศึกษา” หมายความว่า ผู้อํานวยการวิทยาลัย หรือผู้อํานวยการส่วนราชการของสถาบันการอาชีวศึกษา สังกัดสํานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา หัวหน้าสถานศึกษาอ่ืนของรัฐและเอกชนทจ่ี ดั การอาชีวศึกษาตามหลกั สตู รประกาศนยี บัตรวิชาชีพ พทุ ธศักราช ๒๕๕๖ “หนว่ ยงานต้นสงั กัด” หมายความว่า หน่วยงานท่มี สี ถานศึกษาทจี่ ัดการอาชีวศึกษาตามหลักสูตรประกาศนยี บัตรวชิ าชพี อยูใ่ นสังกดั หรอื ในความควบคมุ ดูแล “หลกั สูตร” หมายความว่า หลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพ พุทธศกั ราช ๒๕๕๖ “ประกาศนียบัตรวิชาชีพ” หมายความว่า การศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพหลงั จากจบหลกั สตู รมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ หรือเทียบเท่า ใชอ้ ักษรย่อว่า “ปวช.” “ผู้เข้าเรียน” หมายความว่า ผู้มาสมัครเข้าเรียนในสถานศึกษา หรือสมัครฝึกอาชีพกับสถานประกอบการท่ยี งั ไมไ่ ดข้ ึน้ ทะเบยี นเปน็ นักเรียน “นกั เรียน” หมายความว่า ผู้ทไ่ี ดข้ นึ้ ทะเบียนเป็นนกั เรยี นตามหลักสตู รประกาศนียบัตรวิชาชีพพุทธศักราช ๒๕๕๖

เล่ม ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หนา้ ๒ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา “ภาคเรียน” หมายความว่า ช่วงเวลาที่สถานศึกษาเปิดทําการสอน การจัดภาคเรียนให้ใช้ระบบทวิภาค โดยกําหนดให้ ๑ ปกี ารศกึ ษาแบง่ ออกเปน็ ๒ ภาคเรยี น “ภาคเรยี นฤดูรอ้ น” หมายความวา่ ชว่ งเวลาที่จดั ใหเ้ รียนหรือฝึกปฏิบัติในระหว่างภาคฤดูร้อนตามระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ ารวา่ ด้วยการเปดิ ภาคเรียนฤดูร้อนในสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการและในชว่ งปิดภาคเรยี นกลางปโี ดยอนุโลม “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดา มารดา และบุคคลอ่ืนท่ีทําหน้าที่ปกครองดูแลและให้ความอุปการะแก่นกั เรียน และให้คํารับรองแก่สถานศึกษาหรือสถานประกอบการว่าจะปกครองดูแลความประพฤติของนักเรียนในระหว่างท่ีเรียนอยู่ในสถานศึกษา และฝึกประสบการณ์ทักษะวิชาชีพในสถานประกอบการ หรือฝึกอาชพี ในการศกึ ษาระบบทวภิ าคี “การศึกษาในระบบ” หมายความว่า การจดั การศึกษาวิชาชพี ทีเ่ น้นการศึกษาในสถานศึกษาเป็นหลักโดยมกี ารกาํ หนดจุดมงุ่ หมาย วิธกี ารศึกษา หลกั สตู ร ระยะเวลา การวัดและการประเมินผลที่เป็นเง่ือนไขของการสําเรจ็ การศึกษาทีแ่ นน่ อน “การศกึ ษานอกระบบ” หมายความวา่ การจดั การศึกษาวิชาชีพทม่ี ีความยืดหยุน่ ในการกําหนดจุดหมาย รูปแบบ วิธีการศึกษา ระยะเวลา การวัดและการประเมินผลท่ีเป็นเง่ือนไขของการสําเร็จการศึกษา โดยเน้อื หาและหลกั สูตรจะตอ้ งมคี วามเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบคุ คลแต่ละกลมุ่ “การศกึ ษาระบบทวภิ าค”ี หมายความว่า การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ ในเรื่องการจัดหลักสูตรการเรยี นการสอน การวดั ผลและการประเมินผล โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนหนึ่งในสถานศึกษา และเรียนภาคปฏิบัตใิ นสถานประกอบการ รฐั วสิ าหกจิ หรอื หน่วยงานของรฐั “สถานประกอบการ” หมายความว่า สถานประกอบการท่ีร่วมมือกับสถานศึกษาเพ่ือจัดการอาชวี ศกึ ษาและการฝึกอบรมวชิ าชพี ท้งั น้ี ตามหลักเกณฑท์ ีค่ ณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษากาํ หนด “ผ้คู วบคมุ การฝึก” หมายความว่า ผู้ที่สถานประกอบการมอบหมายให้ทําหน้าท่ีประสานงานกับสถานศึกษาในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี และรับผิดชอบดูแลการฝึกอาชีพของนักเรียนในสถานประกอบการ “ครูฝกึ ” หมายความวา่ ผ้ทู ําหนา้ ท่สี อน ฝกึ อบรมในสถานประกอบการ “ครูนิเทศก์” หมายความว่า ครูท่ีสถานศึกษามอบหมายให้ทําหน้าท่ีนิเทศ ให้คําปรึกษาแนะนาํ แกน่ กั เรียนทฝี่ ึกอาชีพและฝึกประสบการณท์ ักษะวิชาชีพ “ครูท่ปี รกึ ษา” หมายความว่า ครทู ี่สถานศึกษามอบหมายให้ทาํ หนา้ ที่ให้คําแนะนํา ให้คําปรึกษาตดิ ตามผลการเรียน และตักเตือนดแู ลความประพฤตขิ องนกั เรยี น “มาตรฐานวิชาชีพ” หมายความว่า ข้อกําหนดสมรรถนะด้านวิชาชีพ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการกาํ กับดูแล ตรวจสอบและประกนั คณุ ภาพผสู้ าํ เรจ็ การศกึ ษา

เล่ม ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หนา้ ๓ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา “การประเมนิ มาตรฐานวิชาชีพ” หมายความว่า การทดสอบความรู้ ความสามารถ สมรรถนะตลอดจนลักษณะนิสัยในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวชิ าชพี โดยใช้เครื่องมือท่เี หมาะสมซึง่ กําหนดเกณฑ์การตดั สินไวช้ ัดเจน พร้อมทงั้ จัดดาํ เนนิ การประเมินภายใต้เง่ือนไขท่เี ปน็ มาตรฐาน “คณะกรรมการประเมินมาตรฐานวชิ าชพี ” หมายความว่า คณะกรรมการผู้ทําหนา้ ท่รี ับผิดชอบในการอํานวยการ ตดิ ตามและกาํ กบั ดแู ลการประเมินมาตรฐานวชิ าชพี ของนักเรยี นในสถานศกึ ษา ขอ้ ๕ ให้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษารักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี และให้มีอาํ นาจตีความและวนิ ิจฉัยปัญหาเก่ียวกบั การปฏบิ ัติตามระเบยี บน้ี หมวด ๑ สภาพนักเรยี น สว่ นท่ี ๑พนื้ ความรูแ้ ละคุณสมบัติของผู้เขา้ เรยี น ข้อ ๖ ผู้เข้าเรียน ต้องสาํ เร็จการศกึ ษาไม่ตํา่ กวา่ ระดับมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ หรือเทยี บเทา่ ความในวรรคหนึ่ง ไม่ใช้บังคับสําหรับผู้ที่เรียนเป็นบางเวลา หรือบางรายวิชา โดยไม่นับจํานวนหนว่ ยกติ มารวม เพือ่ ตัดสนิ การสาํ เร็จการศึกษาตามหลกั สูตรและรับประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ ข้อ ๗ ผเู้ ขา้ เรียนต้องมีคณุ สมบตั ิ ดังต่อไปน้ี (๑) มคี วามประพฤตเิ รียบร้อย (๒) มีสุขภาพรา่ งกายแข็งแรงไม่เปน็ อุปสรรคต่อการเรยี น (๓) มีภูมิลําเนาเป็นหลกั แหลง่ หรือมหี ลกั ฐานของทางราชการในลกั ษณะเดยี วกนั มาแสดง (๔) มีความเคารพ เลอื่ มใส ศรัทธาตอ่ สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์ ดว้ ยความบรสิ ทุ ธ์ใิ จ (๕) มเี จตคตทิ ่ดี ตี ่อการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษตั ริยเ์ ปน็ ประมขุ (๖) สําหรับผู้เข้าเรยี นการศกึ ษาระบบทวภิ าคี ในวันทําสัญญาการฝึกอาชีพต้องมีอายุไม่ต่ํากว่า๑๕ ปบี ริบูรณ์ และมคี วามตั้งใจที่จะรบั การฝึกอาชพี ในสาขาวิชาทส่ี มคั ร ผู้เข้าเรียนตามโครงการต่าง ๆ ของสถานศึกษา ให้สถานศึกษากําหนดคุณสมบัติเพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสมของโครงการนั้น ส่วนที่ ๒ การรับผ้เู ข้าเรยี น ข้อ ๘ การรับผเู้ ขา้ เรยี น ใหท้ ําการสอบคัดเลอื กหรือคดั เลอื กตามทส่ี ถานศกึ ษากําหนด ในกรณีท่ีมีการสอบคดั เลอื ก ให้ปฏิบัติดงั นี้

เลม่ ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๒ ง หน้า ๔ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา (๑) ทําการทดสอบข้อเขียนในหมวดวิชาใด ๆ ตามความต้องการของสถานศึกษา หรือสถานประกอบการ หากสถานศกึ ษาหรือสถานประกอบการจะทาํ การทดสอบความถนัดทางการเรียนวิชาชีพและสอบสัมภาษณ์ดว้ ยกไ็ ด้ (๒) สถานศึกษาประกาศรับสมัคร ดําเนินการสอบและประกาศผลสอบ ตามวันและเวลาที่หน่วยงานตน้ สงั กดั กาํ หนด (๓) ถ้าเหตุการณ์เกี่ยวกับการสอบเป็นไปโดยปกติ ให้สถานศึกษาเก็บรักษาเอกสารเก่ียวกับการสอบคัดเลือกไว้เปน็ เวลาไมน่ ้อยกว่า ๑ ปี นับแต่วันประกาศผลการสอบ การรบั ผูเ้ ขา้ เรียนการศึกษาระบบทวิภาคี สถานประกอบการจะเป็นผู้สอบคัดเลือกหรือคัดเลือกผู้เข้าเรียนเองตามคุณสมบัติท่ีกําหนดและตามจํานวนที่ได้ตกลงร่วมกับสถานศึกษา หรือจะมอบให้สถานศกึ ษาเป็นผูด้ าํ เนนิ การ หรอื ดําเนนิ การร่วมกันกไ็ ด้ การรับผเู้ ข้าเรียนตามโครงการต่าง ๆ ของสถานศึกษา ให้สถานศึกษาคัดเลือกตามคุณสมบัติท่กี ําหนดตามความเหมาะสมของโครงการนนั้ ขอ้ ๙ ให้มีการตรวจร่างกายเฉพาะผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือก หรือได้รับการคัดเลือกโดยแพทย์ปริญญา ส่วนที่ ๓ การเป็นนกั เรยี น ขอ้ ๑๐ ผูเ้ ขา้ เรยี นการศึกษาในระบบ การศกึ ษาระบบทวิภาคีและการศึกษานอกระบบ จะมีสภาพนักเรยี น เมื่อได้ข้ึนทะเบยี นเปน็ นกั เรยี นของสถานศกึ ษา สําหรับการศึกษาระบบทวิภาคี ผู้เข้าเรียนต้องทําสัญญาการฝึกอาชีพกับสถานประกอบการโดยผูป้ กครองมาให้คํารบั รองดว้ ย การขน้ึ ทะเบยี นเปน็ นกั เรยี น และการทําสัญญาการฝึกอาชีพต้องกระทําด้วยตนเอง พร้อมท้ังแสดงหลกั ฐานการสาํ เร็จการศึกษาตามวัน เวลา ท่ีสถานศึกษาและสถานประกอบการกําหนดโดยชําระเงนิ คา่ ธรรมเนียมตา่ ง ๆ ตามทหี่ นว่ ยงานต้นสังกัดหรือสถานศึกษากําหนด แล้วแต่กรณี ท้ังน้ี ให้เสร็จสิ้นกอ่ นวันเปิดภาคเรยี น โดยมีผ้ปู กครองซึ่งสถานศกึ ษาเชือ่ ถอื มาใหค้ าํ รบั รองและทําหนังสือมอบตวั ในกรณีผู้เข้าเรียนที่บรรลุนิติภาวะ สถานศึกษาอาจให้ผู้ปกครองมาทําหนังสือมอบตัวหรือดาํ เนนิ การในส่วนทีเ่ กยี่ วข้องกับระเบียบนี้หรือไม่ก็ได้ ให้สถานศึกษาจัดการปฐมนิเทศให้กับนักเรียนและผู้ปกครอง เพ่ือให้ทราบแนวทางและกฎเกณฑต์ ่าง ๆ ในการเรยี น ขอ้ ๑๑ ให้สถานศึกษาออกบตั รประจาํ ตวั ให้แกน่ กั เรียน บัตรประจําตัว ต้องระบุเลขท่ี ชื่อสถานศึกษา รหัสสถานศึกษา ช่ือ ช่ือสกุลนักเรียนรหัสประจาํ ตัวนกั เรยี น เลขประจําตัวประชาชน วันออกบัตร วันหมดอายุ ลายมือชื่อหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ได้รับมอบหมายให้ทําการแทน และให้มีรูปถ่ายครึ่งตัวของนักเรียน หน้าตรง ไม่สวมหมวก

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หนา้ ๕ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษาไม่สวมแว่นตาสีดํา แต่งเคร่ืองแบบนักเรียน ถ่ายไว้ไม่เกิน ๖ เดือน ติดลงในบัตร กับให้มีลายมือช่ือของนักเรียน ให้ประทบั ตราของสถานศึกษาที่มมุ ใดมมุ หนึง่ ของรปู ถ่ายนักเรยี น โดยให้ติดทีร่ ปู ถ่ายบางส่วน บัตรประจําตวั นใี้ ห้มีอายเุ ทา่ กับระยะเวลาท่มี สี ภาพนักเรยี นในสถานศึกษาแห่งนั้น แต่ต้องไม่เกิน ๓ ปีนบั แต่วันออกบตั ร ถ้าบตั รประจาํ ตัวหมดอายุ ในระหว่างท่ยี ังมีสภาพนกั เรียน ก็ให้สถานศึกษาต่ออายุบัตรเปน็ ปี ๆ ไป สถานประกอบการจะใช้บัตรประจําตวั ท่ีสถานศึกษาออกให้ หรือจะออกให้ใหม่ตามความต้องการของสถานประกอบการก็ได้ ขอ้ ๑๒ ใหส้ ถานศึกษาแตง่ ตัง้ ครูทีป่ รึกษา เพอ่ื ทําหนา้ ที่ให้คําแนะนําเก่ียวกับการเรียน ให้คําปรึกษาติดตามผลการเรียน และตักเตือนดูแลความประพฤติของนักเรียน และให้สถานประกอบการจัดให้มีผู้ควบคมุ การฝกึ ของนกั เรียนในสถานประกอบการ สว่ นที่ ๔การพ้นสภาพและคนื สภาพนักเรียน ข้อ ๑๓ การพน้ สภาพนกั เรยี น เป็นไปตามกรณีใดกรณีหนงึ่ ตอ่ ไปนี้ (๑) สาํ เรจ็ การศึกษาตามหลกั สตู ร (๒) พน้ สภาพนักเรียน ตามขอ้ ๕๙ หรือขอ้ ๖๐ (๓) ลาออก (๔) ถงึ แก่กรรม (๕) สถานศกึ ษาสัง่ ใหพ้ ้นสภาพนกั เรยี นในกรณีใดกรณหี นึง่ ตอ่ ไปนี้ ก. ขาดเรยี น ขาดการฝกึ อาชีพ หรือขาดการติดต่อกับสถานศึกษาและหรือสถานประกอบการเกินกว่า ๑๕ วัน ซ่งึ สถานศึกษาหรือสถานประกอบการพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือมพี ฤติกรรมอย่างอืน่ ทแี่ สดงวา่ ไมม่ คี วามต้ังใจทจ่ี ะศกึ ษาเล่าเรยี นหรือรบั การฝึกอาชีพ ข. ไม่ยื่นคําขอกลบั เข้าเรียนภายใน ๑๕ วนั นับแตว่ นั ถดั จากวันครบกาํ หนดลาพกั การเรยี นหรือฝกึ อาชพี ตามขอ้ ๑๙ ค. ไม่มาตดิ ตอ่ เพอื่ รกั ษาสภาพนักเรยี น ตามขอ้ ๒๘ ง. ต้องโทษคดีอาญา โดยคําพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้จําคุก เว้นแต่ความผิดลหุโทษหรือความผิดที่ไดก้ ระทําโดยประมาท จ. ขาดพ้นื ความรหู้ รือคณุ สมบตั ิของผูเ้ ข้าเรียน ตามทก่ี าํ หนดไว้ในข้อ ๖ หรือขอ้ ๗ ข้อ ๑๔ ผูท้ ่พี น้ สภาพนักเรยี น ตามข้อ ๑๓ (๓), ๑๓ (๕) ก, ๑๓ (๕) ข, และ ๑๓ (๕) คถา้ ประสงคจ์ ะขอคนื สภาพเพ่ือกลับเข้าเรียนในสถานศึกษา หรือฝึกอาชีพในสถานประกอบการ จะต้องยื่นคาํ รอ้ งขอต่อสถานศึกษาแห่งนั้นภายใน ๑ ปี นับแต่วันถัดจากวันพ้นสภาพนักเรียน เม่ือสถานศึกษาพจิ ารณาเห็นสมควร กใ็ หร้ บั เข้าเรยี นได้

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หน้า ๖ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษา ข้อ ๑๕ การขอคืนสภาพเพ่อื กลบั เข้าเรียนตามข้อ ๑๔ ใหป้ ฏิบตั ดิ งั น้ี (๑) ตอ้ งเข้าเรยี นภายในสปั ดาห์แรกของภาคเรยี น เว้นแตก่ ลับเข้าเรยี นในภาคเรียนเดียวกนั (๒) ตอ้ งเรยี นตามหลักสูตรท่ใี ช้อยใู่ นขณะนัน้ (๓) ใหน้ ําจาํ นวนหนว่ ยกิตของรายวิชาทปี่ ระเมนิ ไดไ้ ว้ และเป็นรายวิชาที่ยงั ปรากฏอยใู่ นหลกั สูตรนี้มานบั รวม เพ่ือพจิ ารณาตัดสินการสาํ เรจ็ การศึกษาตามหลักสตู ร สว่ นท่ี ๕ การพักการเรยี น ข้อ ๑๖ สถานศึกษาและสถานประกอบการอาจพิจารณาอนุญาตให้นักเรียนลาพักการเรียนหรอื ฝึกอาชพี ไดต้ ามทีเ่ หน็ สมควร เมือ่ มีเหตุจําเป็นกรณีใดกรณหี นึ่ง ตอ่ ไปนี้ (๑) ได้รับทุนการศึกษาให้ไปศึกษา หรือดูงาน หรือเป็นตัวแทนของสถานศึกษาหรือสถานประกอบการ ในการเขา้ รว่ มประชุม หรอื กรณีอน่ื ๆ อนั ควรแกก่ ารส่งเสรมิ (๒) เจบ็ ป่วยต้องพกั รกั ษาตวั (๓) กรณีลาพกั เพ่ือรบั ราชการทหารกองประจาํ การให้ลาพักได้จนกว่าจะไดร้ ับการนําปลด (๔) เหตุจําเป็นอย่างอื่นตามท่ีสถานศึกษาหรือสถานศึกษาและสถานประกอบการจะพิจารณาเห็นสมควร ในกรณีทม่ี ีนกั เรยี นลาพักการเรียนหรือการฝกึ อาชีพต้ังแตต่ น้ ปเี ป็นระยะเวลานานเกนิ กวา่ ๑ ปีสถานศึกษาหรือสถานประกอบการอาจพิจารณารับนักเรียนอ่ืนเข้าเรียนหรือฝึกอาชีพแทนที่ได้ตามที่เห็นสมควร ข้อ ๑๗ นักเรียนทขี่ ออนญุ าตลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพ ต้องย่ืนคําขอเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสถานศึกษาหรอื สถานประกอบการ โดยมีผู้ปกครองเปน็ ผู้รับรอง สําหรับผู้ท่ีบรรลุนิติภาวะจะมีผู้รับรองหรอื ไมก่ ็ได้ เมื่อไดร้ ับอนุญาตแล้วจงึ พักการเรียนหรือการฝึกอาชีพได้ มิฉะนั้น จะถือว่าขาดเรียน เว้นแต่เหตสุ ุดวิสยั ข้อ ๑๘ การอนญุ าตให้นักเรยี นลาพกั การเรียนหรอื การฝึกอาชีพ ให้สถานศึกษาทําหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ เว้นแต่ผู้ที่บรรลุนิติภาวะที่ไม่มีผู้ปกครองมอบตัวให้แจ้งนักเรียนโดยตรง ขอ้ ๑๙ นกั เรยี นทลี่ าพักการเรียนหรอื การฝึกอาชีพ เมื่อครบกาํ หนดเวลาทีล่ าพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพแลว้ ให้ยนื่ คาํ ขอกลบั เข้าเรยี นพร้อมด้วยหลักฐานการอนุญาตให้ลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพต่อหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันถัดจากวันครบกําหนดหากพน้ กาํ หนดนี้ ใหถ้ ือว่าพ้นสภาพนักเรยี น เวน้ แต่เหตสุ ดุ วิสัย

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หนา้ ๗ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา สว่ นที่ ๖ การลาออก ข้อ ๒๐ นักเรียนท่ีประสงค์จะลาออกจากการเป็นนักเรียน ต้องให้ผู้ปกครองเป็นผู้รับรองการลาออก เว้นแตผ่ ู้ทีบ่ รรลนุ ิติภาวะ ข้อ ๒๑ นักเรียนท่ีลาออกแล้วได้รับอนุญาตให้กลับเข้าเรียนในภาคเรียนเดียวกัน ให้ถือว่านกั เรยี นผนู้ ัน้ มีสภาพนักเรยี นมาตง้ั แต่ตน้ ภาคเรียนนน้ั ทกุ ประการ หมวด ๒ การจัดการเรียน สว่ นที่ ๑ การเปดิ เรยี น ข้อ ๒๒ ให้สถานศึกษากําหนดวันเปิดและปิดภาคเรียนตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าดว้ ยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา หากสถานศึกษาใดจะกําหนดวันเปิดและปิดภาคเรียนแตกต่างไปจากระเบียบดังกลา่ ว ให้ขออนุญาตต่อหนว่ ยงานต้นสังกัด ขอ้ ๒๓ สถานศกึ ษาทเ่ี ปดิ ภาคเรยี นฤดูรอ้ น ใหป้ ฏิบัติตามระเบยี บกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเปดิ ภาคเรยี นฤดรู อ้ นในสถานศึกษา ส่วนท่ี ๒ การลงทะเบยี นรายวชิ า ข้อ ๒๔ สถานศึกษาตอ้ งจดั ให้นกั เรยี นลงทะเบียนรายวิชาตา่ ง ๆ ใหเ้ สรจ็ กอ่ นวนั เปดิ ภาคเรียน ขอ้ ๒๕ การลงทะเบยี นรายวชิ าตอ้ งไดร้ ับความเห็นชอบจากครูที่ปรกึ ษา ขอ้ ๒๖ นกั เรียนต้องลงทะเบยี นรายวชิ าดว้ ยตนเอง ตามวันและเวลาทส่ี ถานศึกษากําหนด ในกรณีทีน่ กั เรียนไมส่ ามารถมาลงทะเบียนรายวชิ าด้วยตนเอง จะมอบหมายให้ผู้อ่ืนมาลงทะเบียนแทนใหส้ ถานศึกษาพจิ ารณาอนญุ าตเปน็ ราย ๆ ไป ขอ้ ๒๗ สถานศึกษาอาจให้นักเรียนลงทะเบียนรายวิชาภายหลังกําหนดตามข้อ ๒๔ ก็ได้โดยให้สถานศึกษากําหนดวันสิ้นสุดการลงทะเบียนตามท่ีเห็นสมควร แต่ต้องไม่เกิน ๑๕ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียน หรอื ไม่เกิน ๕ วนั นับแตว่ นั เปิดภาคเรยี นฤดูรอ้ น การลงทะเบียนรายวชิ าภายหลงั วันส้ินสดุ การลงทะเบียน นักเรียนต้องเสียค่าปรับตามที่หน่วยงานตน้ สงั กัดหรอื สถานศกึ ษากาํ หนด แลว้ แต่กรณี ขอ้ ๒๘ นักเรียนท่ีมไิ ด้ลงทะเบยี นรายวชิ าภายในเวลาท่สี ถานศึกษากําหนด ถ้าประสงค์จะรักษาสภาพนกั เรียน ตอ้ งตดิ ต่อรักษาสภาพภายใน ๑๕ วนั นบั แตว่ นั ถัดจากวนั ปิดการลงทะเบียน

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๒ ง หนา้ ๘ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ขอ้ ๒๙ นักเรียนลงทะเบียนรายวิชาในแต่ละภาคเรียนได้ไม่เกิน ๒๒ หน่วยกิต ในแต่ละภาคเรียนปกติ สาํ หรบั การลงทะเบียนเตม็ เวลา และให้ลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน ๑๒ หน่วยกิต ในแต่ละภาคเรียนปกติ สําหรับการลงทะเบยี นเรยี นไม่เตม็ เวลา สําหรับการลงทะเบียนในภาคฤดูร้อนให้ลงทะเบียนเรยี นได้ไมเ่ กิน ๑๒ หน่วยกิต การลงทะเบียนรายวชิ าในแตล่ ะภาคเรยี นได้ไม่เกนิ สปั ดาห์ละ ๓๕ ช่ัวโมง ท้ังน้ี นับรวมกิจกรรม๒ ชวั่ โมงตอ่ สปั ดาหท์ กุ ภาคเรียนดว้ ย หรอื ไมเ่ กินจากท่กี ําหนดไว้ในแผนการเรียน เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากหวั หนา้ สถานศกึ ษา หากสถานศึกษาใดมีเหตุผลและความจําเป็น การลงทะเบียนเรียนที่แตกต่างไปจากเกณฑ์ข้างต้นก็อาจทําได้ แตต่ อ้ งไมก่ ระทบต่อมาตรฐานและคุณภาพการศกึ ษา ขอ้ ๓๐ นักเรียนท่ีโอนผลการเรียนรู้ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาในสถานศึกษาไม่น้อยกว่า๑ ใน ๓ ของจํานวนหน่วยกติ ท่ีระบุไวใ้ นหลักสูตร แต่ละประเภทและสาขาวชิ า ส่วนที่ ๓ การเปลี่ยน การเพมิ่ และการถอนรายวิชา ข้อ ๓๑ นักเรียนจะขอเปลี่ยนรายวิชาท่ีได้ลงทะเบียนไว้แล้ว หรือขอเพิ่มรายวิชาต้องกระทําภายใน ๑๕ วนั นับแตว่ นั เปดิ ภาคเรยี นหรือภายใน ๕ วัน นับแต่วันเปดิ ภาคเรยี นฤดรู ้อน ส่วนการขอถอนรายวิชาต้องกระทําภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียนหรือภายใน ๑๐ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียนฤดรู อ้ น การถอนรายวชิ าภายหลงั กําหนดตามวรรคหนงึ่ อาจกระทาํ ได้ ถา้ สถานศึกษาพจิ ารณาเห็นว่ามีเหตผุ ลสมควร การขอเปลี่ยน ขอเพ่ิม หรือขอถอนรายวิชา ต้องได้รับความเห็นชอบจากครูท่ีปรึกษา และครูผ้สู อนประจํารายวิชา ข้อ ๓๒ การถอนรายวิชาภายในกําหนด ตามข้อ ๓๑ ให้ลงอักษร “ถ.น.” ในระเบียนแสดงผลการเรยี น การถอนรายวิชาภายหลังกําหนดตามขอ้ ๓๑ และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่ามีเหตุผลสมควรให้ลงอักษร “ถ.น.” ในระเบียนแสดงผลการเรียนเช่นเดียวกัน แต่ถ้าสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่าไม่มีเหตผุ ลอนั สมควร กใ็ ห้ลงอักษร “ถ.ล.” สว่ นท่ี ๔ การเรียนโดยไม่นบั จํานวนหน่วยกติ มารวมเพอ่ื การสาํ เร็จการศึกษาตามหลักสตู ร ข้อ ๓๓ สถานศึกษาอาจอนุญาตให้นักเรียนลงทะเบียนเรียนรายวิชาใดวิชาหนึ่งเพ่ือเป็นการเสรมิ ความรู้ โดยไมน่ ับจํานวนหน่วยกิตของรายวิชานัน้ มารวมเพื่อการสําเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสูตรก็ได้

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๒ ง หนา้ ๙ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา ขอ้ ๓๔ เม่ือได้ทําการวัดผลและการประเมินผลการเรียนแล้วได้ระดับผลการเรียนผ่านให้บันทึก “ม.ก.” ลงในระเบียนแสดงผลการเรียนช่อง “ระดับผลการเรียน” ถ้าผลการประเมินไม่ผ่านไมต่ ้องบนั ทกึ รายวชิ านน้ั และให้ถือเป็นการสิ้นสดุ สําหรบั การเรยี นรายวิชานั้นโดยไม่นับจํานวนหน่วยกิตมารวมเพ่อื การสําเร็จการศึกษาตามหลักสูตร สว่ นที่ ๕ การนับเวลาเรยี นเพ่อื สิทธใิ นการประเมนิ สรปุ ผลการเรยี น ข้อ ๓๕ ในภาคเรยี นหนง่ึ ๆ การศกึ ษาในระบบ และการศึกษาระบบทวิภาคีต้องมีเวลาเรียนในแต่ละรายวิชาไม่ตํ่ากว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเปิดเรียนเต็มสําหรับรายวิชานั้น จึงจะมีสิทธิรับการประเมินสรุปผลการเรยี น ยกเวน้ การศกึ ษานอกระบบ ในกรณที มี่ เี หตสุ ดุ วสิ ัย สถานศึกษาอาจพิจารณาผ่อนผนั เป็นราย ๆ ไปได้ นกั เรียนท่ีไม่มีสทิ ธิรับการประเมินสรุปผลการเรียนตามวรรคหน่ึง จะขอประเมินเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ตามข้อ ๗๐ ในภาคเรยี นนั้นมิได้ ข้อ ๓๖ การนบั เวลาเรยี น ใหป้ ฏิบัติดงั น้ี (๑) เวลาเปดิ เรยี นเตม็ ตามปกติ ไมน่ ้อยกว่าภาคเรียนละ ๑๘ สัปดาห์ (๒) นกั เรียนท่ียา้ ยสถานศกึ ษาระหวา่ งภาคเรียน ให้นาํ เวลาเรยี นจากสถานศกึ ษาทัง้ สองแห่งรวมกนั (๓) นักเรยี นที่ลาออกแล้ว ไดร้ ับอนุญาตใหก้ ลับเขา้ เรียนในภาคเรียนเดยี วกนั ให้นับเวลาเรียนทเ่ี รยี นแล้วมารวมกนั (๔) นักเรยี นทีล่ าพักการเรียนหรอื ฝึกอาชพี ในภาคเรียนใด ใหน้ ับเวลาเรียนก่อนและหลังการลาพกั การเรยี นหรือฝึกอาชพี ในภาคเรยี นน้นั มารวมกนั (๕) รายวิชาที่มีครูผู้สอนหรือครูฝึกตั้งแต่ ๒ คนข้ึนไป และแยกกันสอน ให้นําเวลาเรียนท่เี รยี นกบั ครผู ้สู อนหรอื ครูฝึกทกุ คนมารวมกัน (๖) ถา้ มกี ารเปลย่ี นรายวิชา หรือเพิม่ รายวิชา ใหน้ บั เวลาเรียนตงั้ แต่เรม่ิ เรยี นรายวชิ าใหม่ สว่ นท่ี ๖ การขออนญุ าตเล่อื นการประเมนิ ขอ้ ๓๗ นกั เรียนท่ไี ม่สามารถเขา้ รบั การประเมนิ สรปุ ผลการเรียนตามวัน และเวลาท่ีสถานศึกษากาํ หนด สถานศึกษาอาจอนุญาตเลอ่ื นการประเมนิ ไดใ้ นกรณี ตอ่ ไปน้ี (๑) ประสบอุบัตเิ หตุ หรอื เจบ็ ปว่ ยก่อนหรือระหวา่ งการประเมนิ สรปุ ผลการเรียน (๒) ถกู ควบคุมตวั โดยพนกั งานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย (๓) เป็นตวั แทนของสถานศึกษาหรือสถานประกอบการ ในการเข้าร่วมประชุม หรือกิจกรรมพิเศษอย่างอ่ืน โดยได้รับความยินยอมจากสถานศึกษาหรอื สถานประกอบการ

เล่ม ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หนา้ ๑๐ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา (๔) มีความจําเป็นอย่างอื่น โดยสถานศึกษาหรือสถานประกอบการพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นความจําเปน็ อย่างแทจ้ รงิ ขอ้ ๓๘ นักเรียนท่ีประสงค์จะขออนุญาตเล่ือนการประเมินสรุปผลการเรียน ต้องยื่นคําร้องพร้อมท้ังหลักฐานประกอบต่อสถานศกึ ษากอ่ นการประเมินไม่น้อยกว่า ๓ วัน หากไม่สามารถกระทําได้ให้สถานศกึ ษาพจิ ารณาเป็นราย ๆ ไป การอนญุ าตให้เลื่อนการประเมนิ สรปุ ผลการเรียนให้สถานศึกษาทําเปน็ ลายลกั ษณอ์ ักษรมอบใหน้ กั เรียน ขอ้ ๓๙ นักเรียนจะขออนุญาตเลื่อนการประเมินออกไปได้ไม่เกินวันกําหนดการประเมินสรุปผลการเรยี นปลายภาคเรียนของภาคเรยี นถัดไป ข้อ ๔๐ ถ้าเป็นกรณีท่ีสามารถกําหนดวันประเมินได้ ก็ให้สถานศึกษากําหนดวันประเมินไว้ในหนังสอื อนุญาตใหเ้ ล่อื นการประเมิน แต่ถ้าไมส่ ามารถกระทาํ ได้ ก็ให้เปน็ หน้าท่ีของนักเรียนซ่ึงพร้อมที่จะรับการประเมินย่นื คํารอ้ งต่อสถานศึกษาเพือ่ ขอเข้ารับการประเมิน พร้อมทั้งหลักฐานการอนุญาตให้เลื่อนการประเมินท้ังน้ี ตอ้ งไมเ่ กินวันกําหนดการประเมินสรุปผลการเรียนปลายภาคเรียนของภาคเรียนถัดไป หากพ้นกําหนดน้ีใหถ้ อื ว่าขาดการประเมนิ สรปุ ผลการเรยี นและให้สถานศกึ ษาทาํ การประเมนิ ตดั สินผลการเรยี น หมวด ๓ การประเมนิ ผลการเรียน สว่ นที่ ๑หลักการในการประเมินผลการเรยี น ขอ้ ๔๑ ใหส้ ถานศกึ ษา และสถานประกอบการ มีหน้าท่แี ละรับผดิ ชอบในการประเมินผลการเรยี น ขอ้ ๔๒ ใหป้ ระเมินผลการเรียนเป็นรายวิชาตามระบบหน่วยกิต จํานวนหน่วยกิตของแต่ละรายวิชาให้ถอื ตามทกี่ ําหนดไวใ้ นหลกั สูตร ขอ้ ๔๓ ให้สถานศึกษาหรือสถานศึกษาและสถานประกอบการพิจารณาทําการประเมินผลการเรียนรายวิชาเมื่อสน้ิ ภาคเรียน หรือเมือ่ สน้ิ สดุ การเรียนหรอื การปฏบิ ตั ิงานในทกุ รายวิชา สาํ หรบั รายวิชาทเ่ี รียนหรอื ฝึกปฏบิ ตั ใิ นสถานประกอบการ ใหค้ รูฝึกและครูนิเทศก์ร่วมกันประเมินผลการเรยี น ข้อ ๔๔ ให้หน่วยงานต้นสังกัดร่วมกับสถานศึกษา ดําเนินการส่งเสริมคุณภาพ และควบคุมมาตรฐานการอาชวี ศึกษา ส่วนที่ ๒ วธิ ีการประเมนิ ผลการเรียน ข้อ ๔๕ การประเมินผลการเรียนในทุกรปู แบบการศึกษา ให้ประเมินเป็นรายวิชาโดยดําเนินการประเมินตามสภาพจรงิ ต่อเนื่องตลอดภาคเรียนด้านความรู้ ความสามารถและเจตคติจากกิจกรรมการเรียน

เลม่ ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๒ ง หน้า ๑๑ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานเุ บกษาการสอนและการปฏิบตั ิงานที่มอบหมาย ซง่ึ ครอบคลุมจุดประสงค์และเนื้อหาวิชาตามสมรรถนะรายวิชาโดยใชเ้ คร่อื งมือและวิธีการหลากหลายตามความเหมาะสม จัดให้มกี ารประเมินเพอื่ พฒั นาและการประเมนิ สรปุ ผลการเรียนปลายภาคเรียน โดยพิจารณาจากการประเมินในแตล่ ะกิจกรรมและงานท่ีมอบหมาย ในอัตราส่วนตามความสําคัญของแต่ละกิจกรรมหรืองานทม่ี อบหมาย และจดั ใหม้ ีการวัดผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นเมอื่ สิ้นสุดภาคเรยี น ให้ดําเนินการประเมินผลการเรียนนักเรียนที่เรียนในรูปแบบการศึกษาระบบทวิภาคี จากการปฏิบัติงานจรงิ ในสถานประกอบการ ตามวธิ ีการทีค่ รูฝกึ และครูนิเทศก์กาํ หนด ขอ้ ๔๖ ให้ใชต้ ัวเลขแสดงระดับผลการเรยี นในแตล่ ะรายวชิ า ดังต่อไปน้ี ๔.๐ หมายถึง ผลการเรียนอย่ใู นเกณฑ์ดเี ย่ยี ม ๓.๕ หมายถงึ ผลการเรียนอยใู่ นเกณฑ์ดมี าก ๓.๐ หมายถึง ผลการเรียนอย่ใู นเกณฑ์ดี ๒.๕ หมายถึง ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑด์ ีพอใช้ ๒.๐ หมายถงึ ผลการเรียนอยใู่ นเกณฑ์พอใช้ ๑.๕ หมายถงึ ผลการเรียนอยใู่ นเกณฑอ์ ่อน ๑.๐ หมายถึง ผลการเรยี นอยู่ในเกณฑ์อ่อนมาก ๐ หมายถงึ ผลการเรียนตก ข้อ ๔๗ รายวิชาใดท่แี สดงระดับผลการเรยี นตามขอ้ ๔๖ ไม่ได้ ใหใ้ ช้ตัวอกั ษร ตอ่ ไปนี้ ข.ร. หมายถึง ขาดเรียน ไมม่ ีสิทธิเขา้ รับการประเมนิ สรุปผลการเรียน เนื่องจากมเี วลาเรียนตํ่ากว่าร้อยละ ๘๐ โดยสถานศกึ ษาพิจารณาแล้วเหน็ วา่ ไมใ่ ชเ่ หตสุ ดุ วสิ ัย ข.ป. หมายถึง ขาดการปฏิบัติงาน หรือปฏิบัติงานไม่ครบ โดยสถานศึกษาพิจารณาแลว้ เหน็ ว่าไม่มเี หตุผลสมควร ข.ส. หมายถึง ขาดการประเมินสรุปผลการเรียน โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นวา่ ไม่มีเหตุผลสมควร ถ.ล. หมายถึง ถอนรายวิชาภายหลังกําหนด โดยสถานศกึ ษาพจิ ารณาแลว้ เหน็ ว่าไมม่ เี หตผุ ลสมควร ถ.น. หมายถงึ ถอนรายวชิ าภายในกาํ หนด ท. หมายถงึ ทจุ รติ ในการสอบหรอื งานท่มี อบหมายใหท้ าํ ม.ส. หมายถึง ไมส่ มบรู ณ์ เนอ่ื งจากไม่สามารถเข้ารับการประเมินครบทุกครั้งหรือไม่สง่ งานอนั เป็นส่วนประกอบของการเรียนรายวิชาตามกําหนดดว้ ยเหตุสดุ วสิ ัย ม.ท. หมายถงึ ไม่สามารถเข้ารับการประเมินทดแทนการประเมินส่วนท่ีขาดของรายวชิ าทไี่ ม่สมบรู ณภ์ ายในภาคเรยี นถัดไป ผ. หมายถึง ไดเ้ ข้ารว่ มกิจกรรมตามกาํ หนดหรอื ผลการประเมนิ ผ่าน ม.ผ. หมายถึง ไม่เข้าร่วมกิจกรรม หรือผลการประเมนิ ไมผ่ า่ น

เล่ม ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หน้า ๑๒ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา ม.ก. หมายถงึ การเรยี นโดยไมน่ ับจาํ นวนหน่วยกิตมารวมเพอื่ การสําเร็จการศึกษาตามหลักสูตร และผลการประเมินผ่าน ข้อ ๔๘ ในกรณตี ่อไปนี้ ใหต้ ดั สนิ ผลการเรยี นเป็นระดบั ๐ (ศูนย์) เฉพาะรายวชิ า (๑) ได้ ข.ร. (๒) ได้ ข.ป. (๓) ได้ ข.ส. (๔) ได้ ถ.ล. (๕) ได้ ท. (๖) ได้ ม.ท. ข้อ ๔๙ นักเรียนที่ทําการทุจริตหรือส่อเจตนาทุจริตในการสอบ หรืองานที่มอบหมายให้ทําในรายวิชาใด ให้สถานศึกษาพิจารณาผลการเรียนให้ได้คะแนน ๐ (ศูนย์) เฉพาะคร้ังน้ัน หรือในรายวิชาน้ันหรืออาจตัดคะแนนความประพฤติตามระเบียบว่าด้วยการตัดคะแนนความประพฤติท่ีสถานศึกษากาํ หนดตามความรา้ ยแรง แล้วแต่กรณี ขอ้ ๕๐ การคาํ นวณคา่ ระดบั คะแนนเฉลยี่ ให้ปฏบิ ัตดิ งั น้ี (๑) ให้นําผลบวกของผลคูณระหว่างจํานวนหน่วยกิตของแต่ละรายวิชากับระดับผลการเรียนหารด้วยผลบวกของจาํ นวนหนว่ ยกติ ของแต่ละรายวชิ า คดิ ทศนิยมสองตาํ แหน่งไม่ปดั เศษ (๒) ใหค้ าํ นวณคา่ ระดบั คะแนนเฉลีย่ จากรายวชิ าทไ่ี ดร้ ะดบั ผลการเรียนตาม ข้อ ๔๖ และข้อ ๔๘รายวิชาทน่ี กั เรียนเรยี นซาํ้ เรยี นแทน ให้ใชร้ ะดับผลการเรียนสุดท้ายและนับจํานวนหน่วยกิตมาเป็นตัวหารเพยี งคร้งั เดียว (๓) ใหค้ าํ นวณค่าระดบั คะแนนเฉลย่ี ดงั นี้ (ก) คา่ ระดับคะแนนเฉล่ียประจาํ ภาคเรียน คาํ นวณจากรายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียนตาม (๒)เฉพาะในภาคเรยี นหนึง่ ๆ (ข) คา่ ระดับคะแนนเฉลยี่ สะสม คํานวณจากรายวชิ าทเี่ รยี นมาทั้งหมดและได้ระดับผลการเรียนตาม (๒) ตง้ั แตส่ องภาคเรียนขึ้นไป ข้อ ๕๑ ผทู้ ไี่ ด้ ม.ส. เนอ่ื งจากไม่สามารถเข้ารบั การประเมินครบทุกครั้ง ต้องรับการประเมินทดแทนส่วนท่ีขาดภายใน ๑๐ วัน นับแต่วันประกาศผลการเรียนรายวิชา หากพ้นกําหนดนี้ให้ถือว่าไม่สามารถเข้ารับการประเมินทดแทน (ม.ท.) ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ให้สถานศึกษาหรือสถานประกอบการพจิ ารณาเปน็ ราย ๆ ไป ทัง้ น้ี ให้ประเมนิ ทดแทนในรายวิชาท่ีไมส่ มบรู ณ์ใหแ้ ลว้ เสรจ็ ภายในภาคเรยี นถัดไป ผู้ทไ่ี ด้ ม.ส. เนอ่ื งจากไม่สามารถส่งงานอันเป็นส่วนประกอบของการเรียนรายวิชาตามกําหนดให้ส่งงานนั้นให้สมบูรณ์ภายใน ๑๐ วัน นับแต่วันประกาศผลการเรียนรายวิชา หากพ้นกําหนดให้สถานศึกษาหรือสถานประกอบการทําการตัดสินผลการเรียน ยกเว้นมีเหตุสุดวิสัย ให้สถานศึกษาหรือสถานประกอบการพจิ ารณาเป็นราย ๆ ไป

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หน้า ๑๓ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา กรณีตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง ให้ครูผู้สอนหรือครูฝึกรายงานให้หัวหน้าสถานศึกษาหรือผคู้ วบคุมการฝกึ ทราบทกุ ราย ขอ้ ๕๒ นักเรียนต้องรับการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ เม่ือนักเรียนได้ลงทะเบียนเรียนครบทกุ รายวิชาตามหลักสูตรแตล่ ะประเภทวิชา และสาขาวิชา หรือตามระยะเวลาท่ีคณะกรรมการประเมินมาตรฐานวชิ าชพี เหน็ สมควร ขอ้ ๕๓ การประเมนิ มาตรฐานวชิ าชีพใหร้ ะดับผลการประเมนิ ดังนี้ ผา่ น หมายถึง ผลการประเมนิ ผา่ นเกณฑ์ ไม่ผา่ น หมายถงึ ผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ สว่ นท่ี ๓ การตัดสนิ ผลการเรียน ขอ้ ๕๔ การตดั สนิ ผลการเรียนใหด้ าํ เนินการ ดังนี้ (๑) ตัดสนิ ผลการเรยี นเป็นรายวชิ า (๒) รายวิชาท่ีมีผลการเรียนตั้งแต่ระดับ ๑ ขึ้นไป ถือว่าประเมินผ่านและให้นับจํานวนหน่วยกิตของรายวิชานั้นเปน็ จํานวนหน่วยกิตสะสม (๓) เมอ่ื ไดป้ ระเมนิ ผลการเรยี นแลว้ นกั เรียนทีม่ ผี ลการเรยี นตก ๐ (ศนู ย)์ ตามข้อ ๔๖ ใหร้ ับการประเมนิ ใหม่ได้ ๑ ครงั้ ภายในระยะเวลาท่ีสถานศึกษาหรือสถานประกอบการกําหนด ทั้งนี้ ไม่เกิน ๑๐ วันนับแต่วันประกาศผลการเรียนรายวิชา เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัย หากประเมินใหม่ไม่ผ่าน ถ้าเป็นรายวิชาบังคับท่ีกําหนดให้เรียนในแต่ละประเภทวิชา สาขาวิชา ให้เรียนซ้ํารายวิชาน้ัน ถ้าเป็นรายวิชาเลือกจะเรียนซ้ํา หรอื เรยี นรายวชิ าอ่นื แทนก็ได้ จํานวนหนว่ ยกติ ตอ้ งไม่น้อยกว่ารายวิชาทศี่ ึกษาแทน (๔) การประเมินใหม่ ตาม (๓) ใหร้ ะดับผลการเรียนไดไ้ ม่เกนิ ๑ (๕) เมอื่ ไดป้ ระเมินผลการเรยี นแลว้ นักเรยี นท่ีมผี ลการเรยี นระดับ ๐ (ศูนย)์ ตามที่กําหนดไว้ในข้อ ๔๘ (๑) ถึงข้อ ๔๘ (๖) และข้อ ๔๙ ถ้าเป็นรายวิชาบังคับที่กําหนดให้เรียนในแต่ละประเภทวิชา สาขาวิชา ให้เรียนซ้ํารายวิชาน้ัน ถ้าเป็นรายวิชาเลือก จะเรียนซ้ําหรือเรียนรายวิชาอ่ืนแทนกไ็ ด้ ในกรณีท่ใี หเ้ รยี นรายวชิ าอ่ืนแทนใหล้ งหมายเหตใุ น ปพ. ๑ ปวช. ว่าให้เรียนแทนรายวิชาใด ข้อ ๕๕ การตัดสินผลการเรียนเพ่ือสําเร็จการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพใหถ้ อื ตามเกณฑ์ ต่อไปน้ี (๑) ประเมินผ่านรายวิชาในหมวดวิชาต่าง ๆ ครบตามที่กําหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษาแต่ละประเภทวชิ า และสาขาวิชา (๒) ไดจ้ าํ นวนหน่วยกติ สะสมครบถ้วนตามที่กําหนดไว้ในหลักสูตรสถานศึกษาแต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๒ ง หนา้ ๑๔ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา (๓) ได้ค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสมไม่ต่ํากว่า ๒.๐๐ และผ่านการประเมินมาตรฐานวิชาชีพตามเกณฑท์ ีก่ าํ หนด (๔) ได้เข้าร่วมกิจกรรมในสถานศึกษาไม่น้อยกว่า ๒ ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ครบทุกภาคเรียนโดยมีเวลาเข้ารว่ มปฏิบัตกิ ิจกรรมไม่นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐ ของเวลาท่จี ัดกิจกรรมในแต่ละภาคเรียน หากนักเรียนมีเวลาเข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมต่ํากว่าร้อยละ ๖๐ ของเวลาท่ีจัดกิจกรรมในภาคเรียนใดโดยเหตุสดุ วิสัย ให้สถานศึกษาพิจารณาจัดกจิ กรรมทดแทนจนครบ เมื่อนักเรียนได้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมครบถ้วนในภาคเรียนใด ให้บันทึกช่ือกิจกรรมและตัวอักษร “ผ.” ในระเบียนแสดงผลการเรียนของภาคเรียนนั้น ซ่ึงหมายถึง “ผ่าน” หากนักเรียนเข้าร่วมปฏิบตั ิกิจกรรมไมค่ รบถว้ น หรอื ไมไ่ ด้เขา้ รว่ มปฏิบัตกิ ิจกรรมเลย ใหส้ ถานศึกษาพิจารณามอบงานหรือกิจกรรมในส่วนที่นักเรียนผู้นั้นไม่ได้เข้าร่วมปฏิบัติ ให้ปฏิบัติให้ครบถ้วนภายในเวลาท่ีสถานศึกษาพจิ ารณาเห็นสมควร สาํ หรับนักเรยี นที่เรยี นในรูปแบบการศกึ ษาระบบทวภิ าคี การเขา้ ร่วมกจิ กรรมที่สถานประกอบการจดั ขนึ้ ถอื ว่ามผี ลตามความใน (๔) ข้อ ๕๖ ให้หัวหน้าสถานศึกษาหรือสภาสถาบันการอาชีวศึกษา แล้วแต่กรณี เป็นผู้อนุมัติผลการเรียนและการสําเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ข้อ ๕๗ นักเรียนผู้ใดประสงค์จะเรียนซํ้ารายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียนตํ่ากว่า ๒.๐ หรือเลือกเรียนรายวิชาอื่นแทนถ้าเป็นรายวิชาเลือก เพ่ือประเมินปรับค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสมให้สูงขึ้นให้สถานศึกษาหรือสถานประกอบการดําเนินการให้เรียนซํ้าหรือเรียนแทนภายในเวลาก่อนสําเร็จการศึกษา การเรียนซาํ้ รายวชิ า ให้นับจํานวนหน่วยกิตสะสมเพียงคร้ังเดียว ส่วนการเรียนแทนให้นับเฉพาะจํานวนหนว่ ยกติ ของรายวิชาที่เรยี นแทนเป็นจํานวนหน่วยกติ สะสม การนับจํานวนหน่วยกิตสะสมในกรณีนี้ จะกระทําเมื่อนักเรียนได้ระดับผลการเรียนต้ังแต่๒ ขึน้ ไปเทา่ นน้ั รายวชิ าท่ีเรยี นซ้ําหรือเรยี นแทนแล้วได้ระดับผลการเรียน ๐ (ศูนย์) ให้ถือระดับผลการเรียนตาํ่ กว่า ๒ ตามเดมิ ยกเวน้ การไดร้ ะดับผลการเรยี น ๐ (ศนู ย์) ตามข้อ ๔๙ ข้อ ๕๘ กรณีตามข้อ ๕๗ การคิดค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสม ถ้าเป็นรายวิชาท่ีเรียนซํ้าให้นับจํานวนหน่วยกติ เป็นตวั หารเพยี งครง้ั เดียว สว่ นการเรยี นรายวชิ าอืน่ แทนให้นบั เฉพาะจาํ นวนหน่วยกิตของรายวิชาทีเ่ รียนแทนมาเป็นตวั หาร ข้อ ๕๙ เม่อื นกั เรยี นได้ลงทะเบียนรายวิชาครบ ๒ ภาคเรียน หรือไม่น้อยกว่า ๔๐ หน่วยกิตและได้รับการประเมนิ ใหม่แลว้ หากไดค้ า่ ระดบั คะแนนเฉลีย่ สะสมต่ํากว่า ๑.๕๐ ให้สถานศึกษาพิจารณาวา่ ควรให้เรียนต่อไปหรือใหพ้ ้นสภาพนกั เรียน เมื่อได้ลงทะเบียนรายวิชาครบ ๔ ภาคเรียน หรือไม่น้อยกว่า ๗๕ หน่วยกิต และได้รับการประเมินใหม่แลว้ หากได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมตํ่ากว่า ๑.๗๕ ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรใหเ้ รียนต่อไปหรือใหพ้ ้นสภาพนักเรียน

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หนา้ ๑๕ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา เมื่อได้ลงทะเบียนรายวิชาครบ ๖ ภาคเรียน หรือไม่น้อยกว่า ๑๐๐ หน่วยกิตและได้รับการประเมินใหมแ่ ล้ว หากได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมตํ่ากว่า ๑.๙๐ ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนตอ่ ไปหรอื ใหพ้ ้นสภาพนกั เรียน ข้อ ๖๐ นักเรียนท่ีได้เรียนหรือฝึกอาชีพตามปกติ ประเมินใหม่หรือเรียนซ้ํา หรือเรียนแทนรายวิชาที่ได้ระดบั ผลการเรียน ๐ (ศูนย)์ หรอื ระดับผลการเรียนตํ่ากว่า ๒.๐ หรือเทียบโอนผลการเรียนรู้มาเปน็ เวลารวม ๘ ภาคเรียนแลว้ แต่ยงั ไม่เขา้ เกณฑก์ ารสาํ เรจ็ การศึกษาตามหลักสตู รทก่ี ําหนดไวใ้ นขอ้ ๕๕ใหส้ ถานศกึ ษาพจิ ารณาวา่ ควรให้เรียนต่อไปหรือให้พ้นสภาพนักเรียน ท้ังน้ี ต้องไม่เกิน ๑๒ ภาคเรียนนับตัง้ แตว่ นั ขึ้นทะเบยี นเป็นนกั เรยี น โดยไม่นับภาคเรยี นทลี่ าพกั การเรยี นรวมเขา้ ด้วย สว่ นที่ ๔ การเทยี บโอนผลการเรียนรู้ ข้อ ๖๑ การโอนผลการเรียนสําหรบั นกั เรียนจากสถานศกึ ษาซ่งึ ใชห้ ลักสูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพพุทธศักราช ๒๕๕๖ หรือรายวิชาตามข้อ ๖ วรรคสอง ให้สถานศึกษาท่ีรับนักเรียนเข้าเรียนรับโอนผลการเรียนทุกรายวิชา นอกจากรายวชิ าท่ไี ดร้ ะดบั ผลการเรียนต่ํากว่า ๒.๐ สถานศึกษาจะรับโอนหรือจะทําการประเมินใหมจ่ นเห็นว่าได้ผลการเรยี นถงึ เกณฑม์ าตรฐานแล้ว จงึ รบั โอนรายวิชานั้นก็ได้ ข้อ ๖๒ ในกรณีที่นักเรียนย้ายสถานศึกษา ถ้านักเรียนมีผลการเรียนระดับ ๐ (ศูนย์)ในรายวิชาใด และมีสิทธิได้รับการประเมินใหม่ ข้อ ๕๔ (๓) ให้สถานศึกษาท่ีนักเรียนเรียนอยู่ก่อนดําเนินการประเมินใหม่ให้แก่นักเรียนผู้น้ัน เว้นแต่มีเหตุสุดวิสัยให้สถานศึกษาที่รับเข้าเรียนดําเนินการประเมินใหม่ได้ ทั้งน้ี ให้อยู่ในดุลพินจิ ของสถานศึกษาท่รี บั เข้าเรียนเปน็ ราย ๆ ไป ขอ้ ๖๓ สถานศึกษาจะรับโอนผลการเรียนรายวิชา หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพอื่นของสถานศึกษา สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ สถานศึกษาเอกชน หรือหน่วยงานของราชการ หลักสูตรมัธยมศกึ ษาตอนปลายของกระทรวงศึกษาธกิ าร ได้ตามเง่อื นไขดังน้ี (๑) เป็นรายวิชาหรือกลุ่มวิชาท่ีมีจุดประสงค์และเนื้อหาใกล้เคียงกันไม่ต่ํากว่าร้อยละ ๖๐และมจี ํานวนหน่วยกติ ไมน่ อ้ ยกวา่ หนว่ ยกิตของรายวชิ าท่รี ะบุไว้ในหลักสตู ร (๒) รายวิชาท่ีได้ระดับผลการเรียนตํ่ากว่า ๒.๐ ให้สถานศึกษาท่ีรับโอนผลการเรียนทําการประเมินใหม่ ถา้ มีผลตามเกณฑม์ าตรฐานแล้ว จึงรับโอนรายวิชานัน้ (๓) รายวิชาที่ได้ระดบั ผลการเรยี นต้ังแต่ ๒.๐ ขึน้ ไป สถานศึกษาจะรับโอนผลการเรียน หรือจะทําการประเมนิ ใหมแ่ ลว้ จึงรับโอนรายวิชานั้นกไ็ ด้ ข้อ ๖๔ สถานศึกษาจะรบั โอนผลการเรยี นรายวิชาจากหลักสูตรอื่น ซึ่ง ก.พ. รับรองคุณวุฒิไมต่ ํา่ กวา่ ระดับประกาศนยี บัตรวิชาชีพ หรอื จากหลักสูตรอื่นใดที่มีรายวิชาลักษณะเดียวกัน แต่เรียกช่ือเป็นอย่างอนื่ ของหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกดั กระทรวงศึกษาธิการ สถานศกึ ษาเอกชน หรือหน่วยงานของราชการได้ ตามเงอ่ื นไข ต่อไปน้ี

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หน้า ๑๖ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานเุ บกษา (๑) เป็นรายวิชาหรือกลุ่มวิชาท่ีมีจุดประสงค์และเนื้อหาใกล้เคียงกันไม่ตํ่ากว่าร้อยละ ๖๐และมจี ํานวนหนว่ ยกติ ไมน่ ้อยกว่าหน่วยกิตของรายวิชาทีร่ ะบุไวใ้ นหลกั สูตร (๒) เป็นรายวชิ าท่ีได้ระดบั ผลการเรยี นต้ังแต่ ๒.๐ ขึ้นไป โดยสถานศึกษาจะรับโอนผลการเรียนหรือจะทําการประเมนิ ใหมแ่ ล้ว จึงรบั โอนรายวิชานั้นก็ได้ ข้อ ๖๕ การขอโอนผลการเรยี นรายวิชา ให้ดาํ เนินการให้แล้วเสร็จกอ่ นการประเมินผลภาคเรียนแรกที่เขา้ เรยี น ในกรณีท่มี คี าํ สัง่ กระทรวงศกึ ษาธิการ ระเบียบ หลักเกณฑท์ ีเ่ กยี่ วข้องกบั การเทยี บโอนผลการเรียนหรือการถา่ ยโอนผลการเรียนเรื่องใดไว้เปน็ การเฉพาะ ใหถ้ ือปฏิบัตติ ามคําสง่ั ระเบยี บหลักเกณฑด์ ังกล่าวนัน้ ขอ้ ๖๖ การบันทึกผลการเรียนตามข้อ ๖๑ ขอ้ ๖๓ และข้อ ๖๔ ลงในระเบียนแสดงผลการเรียนให้ใช้รหัสวิชาและช่ือรายวิชาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ โดยแสดงหมายเหตุว่าเป็นรายวิชาที่รับโอนมาจากหลักสูตรอื่นหรือจากการเทียบรายวิชา รหัสวิชาใด ยกเว้นมขี ้อกําหนดเฉพาะในเรือ่ งนนั้ ๆ ขอ้ ๖๗ สถานศกึ ษาจะอนญุ าตใหน้ กั เรยี นไปเรียนรายวิชาบางรายวิชาจากสถานศึกษาแห่งอ่ืนในกรณที ีส่ ถานศึกษาไม่สามารถเปิดทําการสอนในรายวิชาน้ันได้ โดยสถานศึกษาพิจารณารายละเอียดเก่ียวกับเนื้อหาของหลักสูตรตามที่เห็นสมควร และให้สถานศึกษาทั้งสองแห่งทําความตกลงร่วมกันในการจดั สอนและรับโอนผลการเรยี น ขอ้ ๖๘ ในกรณีสถานศึกษาอนุญาตให้นักเรียนไปเรียนจากสถานศึกษาแห่งอื่นตามข้อ ๖๗ให้สถานศึกษาพิจารณารับโอนผลการเรียน ดงั น้ี (๑) รับโอนรายวิชาท่มี ีผลการเรยี นตง้ั แต่ ๒.๐ ขน้ึ ไป หรอื (๒) รายวิชาทีไ่ ด้ระดบั ผลการเรยี นตํ่ากว่า ๒.๐ สถานศกึ ษาท่ีรบั โอนผลการเรียนทําการประเมินใหม่เมอ่ื ไดผ้ ลตามเกณฑม์ าตรฐานแลว้ จึงรบั โอนรายวชิ านั้น ทง้ั น้ี ใหส้ ถานศึกษาแจ้งใหน้ กั เรยี นทราบกอ่ นทจี่ ะอนุญาตให้ไปเรียน การบันทึกผลการเรยี นลงในระเบียนแสดงผลการเรียน ให้ใช้รหัสวชิ า และชื่อรายวชิ าของหลักสูตรประกาศนียบัตรวชิ าชพี โดยระบุวา่ รบั โอนจากสถานศกึ ษาแห่งอนื่ รหสั วิชาใด ยกเวน้ มขี อ้ กําหนดเฉพาะในเรอื่ งนนั้ ๆ ขอ้ ๖๙ กรณที ่มี กี ารประเมินใหมต่ ามขอ้ ๖๑ ข้อ ๖๓ ข้อ ๖๔ และข้อ ๖๘ ระดับผลการเรียนให้เปน็ ไปตามท่ีไดจ้ ากการประเมนิ ใหม่ แต่ต้องไม่สงู ไปกวา่ เดมิ ขอ้ ๗๐ นกั เรียนท่ีมีความรู้และประสบการณ์ในงานอาชีพ หรือฝึกงานในสถานประกอบการหรือทาํ งานในอาชพี นัน้ อย่แู ลว้ หรือมีความรูใ้ นรายวิชาตามหลักสูตรน้ีมาก่อนเข้าเรียนหรือเข้าเรียนแล้วแต่ขอไปเรยี นหรอื ฝึกปฏบิ ัติในสถานประกอบการ จะขอประเมินเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เพ่ือนับจํานวนหน่วยกิตสะสมสาํ หรับรายวิชานน้ั ก็ได้ โดยเทียบโอนได้ไม่เกิน ๒ ใน ๓ ของจํานวนหน่วยกิตตามโครงสร้างหลกั สูตรแต่ละประเภทวชิ า

เลม่ ๑๓๐ ตอนพเิ ศษ ๑๕๒ ง หน้า ๑๗ ๘ พฤศจกิ ายน ๒๕๕๖ ราชกจิ จานุเบกษา ถ้าผลการประเมนิ ไมผ่ า่ น นักเรียนสามารถลงทะเบียนเรยี นปกติในภาคเรยี นนั้นหรือขอประเมินเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ในภาคเรยี นตอ่ ไปก็ได้ ขอ้ ๗๑ นักเรียนที่สถานศึกษาให้พ้นสภาพนักเรียนตามข้อ ๕๙ หรือข้อ ๖๐ แล้วสอบเข้าเรียนใหม่ในสถานศึกษาเดิมหรือสถานศึกษาแห่งใหม่ได้ ให้สถานศึกษารับโอนผลการเรียนเฉพาะรายวชิ าทยี่ ังปรากฏอย่ใู นหลักสตู รน้ี และไดร้ ะดับผลการเรียนต้ังแต่ ๒.๐ ขน้ึ ไป ขอ้ ๗๒ นักเรียนที่ขอโอนผลการเรียนรายวิชาตามข้อ ๖๑ ข้อ ๖๓ และข้อ ๖๔ ต้องลงทะเบยี นเรียนรายวิชาในสถานศึกษา ไมน่ ้อยกว่า ๑ ภาคเรียน นักเรียนที่ขอเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ตามข้อ ๗๐ ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชาในสถานศึกษาไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของจํานวนหน่วยกิตท่ีระบุไว้ในหลักสูตร แต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา นกั เรียนทเ่ี ทยี บโอนผลการเรยี นรู้ ตอ้ งลงทะเบียนรายวชิ าในสถานศึกษาไม่น้อยกว่า ๑ ภาคเรยี น หมวด ๔ เอกสารการศกึ ษา ขอ้ ๗๓ สถานศกึ ษาตอ้ งจดั ให้มีเอกสารการศกึ ษา ดังต่อไปน้ี (๑) ระเบยี นแสดงผลการเรียนประจาํ ตวั นกั เรยี นตามแบบที่กําหนดท้ายระเบียบน้ี ซึ่งใช้ช่ือย่อว่า“ปพ. ๑ ปวช. .. ” และตอ้ งเกบ็ รักษาไวต้ ลอดไป การจดั ทํา “ปพ.๑ ปวช. ..” ใหห้ ัวหน้างานทะเบียนเป็นผู้จัดทํา ลงลายมือชื่อ พร้อมทั้งวันเดอื น ปี และใหห้ ัวหนา้ สถานศกึ ษาเป็นผลู้ งนามรบั รองผลการเรยี นและการสําเรจ็ การศกึ ษาตามหลักสตู ร (๒) แบบรายงานผลการเรียนของผู้ท่ีสําเร็จการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพพทุ ธศักราช ๒๕๕๖ (ปพ. ๓ ปวช. .. ) ตามแบบทกี่ ระทรวงศึกษาธกิ ารกาํ หนดและเก็บรกั ษาไว้ตลอดไป (๓) ประกาศนียบตั ร และวุฒิบัตร ตามแบบท่กี าํ หนดทา้ ยระเบยี บนี้ (๔) สมุดประเมินผลรายวิชา และหลักฐานเก่ียวกับการประเมินผลการเรียนในแบบอื่นนอกเหนือจาก ปพ. ๑ ปวช. .. และ ปพ. ๓ ปวช. .. สมดุ บันทกึ การฝกึ ประสบการณ์ทักษะวิชาชีพหรอื สมุดบันทึกการปฏบิ ตั ิงานหรอื สมดุ รายงานของนักเรยี น (๕) ใบรบั รองสภาพการเปน็ นักเรยี นและใบรับรองผลการเรยี นตามแบบที่กําหนดทา้ ยระเบยี บน้ี ขอ้ ๗๔ ใหส้ ถานศกึ ษาแจ้งผลการเรียนของนักเรยี น ใหน้ ักเรยี นและผปู้ กครองทราบทกุ ภาคเรียน ข้อ ๗๕ ใหส้ ถานศึกษาออกใบรบั รองผลการเรียน และประกาศนียบัตรแก่นักเรียน โดยปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธกิ ารว่าด้วยใบสทุ ธิของสถานศกึ ษาและหนงั สอื รับรองความรู้ของสถานศึกษา ขอ้ ๗๖ ให้สถานศึกษาเก็บรักษากระดาษคําตอบ และหลักฐานการประเมินผลการเรียนไว้เป็นเวลาไม่นอ้ ยกว่า ๑ ปกี ารศึกษา

เล่ม ๑๓๐ ตอนพิเศษ ๑๕๒ ง หน้า ๑๘ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ราชกิจจานุเบกษา ขอ้ ๗๗ ให้ใชส้ ําเนาระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ. ๑ ปวช. .. ) เป็นเอกสารรับรองผลการเรียนแทนใบสทุ ธิ และใบรับรองตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยใบสุทธิของสถานศึกษาและหนังสือรับรองความรขู้ องสถานศึกษา ขอ้ ๗๘ การทําสําเนา ปพ. ๑ ปวช. .. จะใช้วิธีพิมพ์ใหม่ หรือสําเนาเอกสารตามต้นฉบับแลว้ ใหเ้ ขยี นหรอื ประทบั ตรา “สาํ เนาถูกต้อง” ให้หัวหน้างานทะเบียน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทําการแทนลงลายมือช่ือรับรองสําเนา พร้อมทั้งวัน เดือน ปที ีอ่ อกสาํ เนา และหวั หนา้ สถานศึกษาหรอื ผู้ไดร้ ับมอบหมายลงลายมอื ช่ือกํากบั ทร่ี ปู ถ่าย ขอ้ ๗๙ ถ้านักเรียนต้องการใบรับรองสภาพการเป็นนักเรียน หรือใบรับรองผลการเรียนจากสถานศึกษา ใหส้ ถานศึกษาออกใบรับรองสภาพการเป็นนกั เรยี น หรือใบรับรองผลการเรียน หรือสําเนาปพ. ๑ ปวช. .. แล้วแตก่ รณี ใบรบั รองนีม้ ีอายุ ๖๐ วนั โดยใหส้ ถานศึกษากาํ หนดวันหมดอายไุ ว้ด้วย ถ้านักเรียนต้องการให้รับรองพื้นความรู้ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือการศึกษาขั้นพื้นฐานชว่ งชนั้ ที่ ๓ สถานศกึ ษาจะถ่ายสําเนา รบ. ๑ ต หรอื ปพ. ๑-๓ และรบั รองสาํ เนาให้ไปก็ได้ หมวด ๕ บทเฉพาะกาล ข้อ ๘๐ สถานศกึ ษาใดทีจ่ ัดการศกึ ษาตามหลักสตู รประกาศนยี บตั รวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๔๕(ปรบั ปรุง พ.ศ. ๒๕๔๖) กอ่ นระเบยี บนี้ใช้บงั คบั ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการเรียนการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๕๔และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพพทุ ธศักราช ๒๕๔๕ พ.ศ. ๒๕๔๗ ท่ีใชบ้ ังคับอยู่เดมิ จนกวา่ จะสาํ เร็จการศึกษาหลกั สตู ร ประกาศ ณ วันท่ี ๒๗ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ จาตรุ นต์ ฉายแสง รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook