Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เรื่อง If clauses and wishes

เรื่อง If clauses and wishes

Published by ธิรดา บัวพันธ์, 2022-03-15 06:05:44

Description: สำหรับน้องม.6 ที่เข้ามาศึกษา

Search

Read the Text Version

Conditional sentences And Whishes \" ใช้ยังไงบ้างค๊าบ \" \" งงค๊าบ \"

Conditional sentences

Conditional Sentences Conditional Sentences หรือที่เราเรียกกันว่า \" If clause \" การใช้ if clause บ้างก็เรียก Conditional sentences เป็นเรื่องที่จะว่าง่าย มันก็ง่าย จะว่ายากมันก็ยากนะ เพราะมันต้องใช้ทำความเข้าใจ จินตนาการ และการจดจำ ดังนั้นหลักการใช้ if-clause หรือ ประโยคเงื่อนไข จึงถือว่าเป็น ไวยากรณ์ในขั้นแอดวานซ์สำหรับผู้เรียนหลักภาษา

if clause คืออะไร ? if แปลวา่ ถ้า clasue แปลว่า อนุประโยค ดังนั้น if clause คือ อนุประโยค ถ้า….. conditional sentences คืออะไร ? conditional แปลว่า เงื่อนไข sentences แปลว่า ประโยค conditional sentences คือ ประโยคเงื่อนไข

If clause (มีชื่อเรียกอื่นว่า conditional sentences หรือ conditional clauses) คือรูปแบบประโยคที่ใช้บอกว่า ถ้ามีสิ่งหนึ่งเกิดขึ้น (เงื่อนไข) อีกสิ่งก็จะเกิดขึ้นตาม (ผลลัพธ์) การใช้ if clause เราจะต้องใช้คู่กับ main clause (ประโยคหลัก) โดยที่ if clause จะเป็นตัวบอกเงื่อนไข ซึ่งจะขึ้นต้นด้วย if ส่วน main clause จะเป็นตัวบอกผลลัพธ์ อย่างเช่น If it rains, I will stay home. ถ้าฝนตก ฉันจะอยู่บ้านจากตัวอย่างประโยคนี้ If clause ก็คือ If it rains (เงื่อนไข) Main clause ก็คือ I will stay home. (ผลลัพธ์)

หลักการใช้ if clause เรามาดูหลักการใช้ if clause ทั้งการใช้คอมม่า และการใช้ if clause ทั้ง 4 แบบกันเลย ตำแหน่งกับการใช้คอมม่า If clause และ main clause สามารถเขียนสลับที่กันได้ ซึ่งถ้าเราขึ้นต้นประโยคด้วย if clause เราจะต้องใช้คอมม่าคั่นระหว่าง if clause และ main clause you don’t hurry, you will be late for school. ถ้าคุณไม่รีบ คุณจะไปโรงเรียนสาย แต่ถ้าเราขึ้นต้นประโยคด้วย main clause เราจะไม่ต้องใช้คอมม่า You will be late for school if you don’t hurry. คุณจะไปโรงเรียนสายถ้าคุณไม่รีบ

if clause มีทั้งหมด 4 แบบ จริงๆแล้วมันมี 3 นะ คือ Type 1, Type 2, Type 3 แต่ที่เพิ่ม เป็น 4 เพราะเอา Type 0 เข้ามาเรียน เสริมก็แค่นั้นเอง บางตำรามีถึง 5 อันก็มี Zero Conditional Sentences หรือ if clause type 0 First Conditional Sentences หรือ if clause type 1 Second Conditional Sentences หรือ if clause type 2 Third Conditional Sentences หรือ if clause type 3

If clause type 0 เราจะใช้กับเหตุการณ์ที่เป็ นจริง เกิดตามธรรมชาติ เกิดขึ้นเเน่นอน 100% โครงสร้างของประโยค IFCLAUSE MAIN CLAUSE TYPE Present simple Simple Present 0 If I +V1 ., I V1 ถ้าฉันเหนื่อย ฉันนอน If I am tired, I go to sleep. ถ้าฉันเหนื่อน ฉันนอน – ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้า ฉันนอนเอาแรงก่อน

ตัวอย่าง if clause type 0 Your wife gets angry if you smoke. แฟนนายโกรธ ถ้านายสูบบุหรี่ – เห็นหล่อนวีนทุกครั้งที่นายสูบ If you go to the park, you can see Jo in the shop. ถ้าคุณไปสวน คุณสามารถพบโจได้ในร้าน – โจทำงานที่นั่น ไปก็เจอเลย You must pay 100 baht if you want to watch this movie. คุณต้องจ่าย 100 บาท ถ้าคุณต้องการชมหนังเรื่องนี้ – ราคาตั๋วระบุว่า 100 ก็ต้องจ่าย 100 สิ ในบางกรณีสามารถใช้คำว่า When ก็ได้ เพราะมีความหายเดียวกัน เช่น If I am tired, I go to sleep. ถ้าฉันเหนื่อย ฉันไปนอน When I am tired, I go to sleep. เมื่อฉันเหนื่อย ฉันไปนอน

If clause type 1 นำไปใช้กับเหตุกาณ์ที่คิดว่าน่าจะเป็นจริงได้ หรือคาดว่าน่าจะเป็นไปได้ เกิดขึ้น 50% เกิดหรือไม่เกิดก็ได้ โครงสร้างของประโยค TYPE IFCLAUSE MAIN CLAUSE 1 Present simple will-future or (Modal + infinitive) If I +V1 ., I will + V1 If I +V1 ., I may + V1 *** Modal ก็คือคำกริยาช่วยนั่นแหละค่ะน้ องๆ เช่น can, may, shall, should, must etc… ถ้าฉันเรียนหนักๆ ฉันจะสอบผ่าน If I study hard, I will pass the exam. ถา้ ฉันเรียนหนักๆ ฉันจะสอบผ่าน – ฉันมั่นใจว่าอย่างนั้น (อาจไม่ผ่านก็ได้)

ตัวอย่าง if clause type 1 Your wife will get angry if you smoke. แฟนนายจะโกรธเอานะ ถ้านายสูบบุหรี่ – ฉันเป็นเพื่อนหล่อนรู้จักนะสัยเธอดี (อาจไม่โกรธก็ได้ อันนั้นมันแต่ก่อน) If you go to the park, you will see Jo in the shop. ถ้าคุณไปสวน คุณอาจจะพบโจได้ในร้านก็ได้ – ฉันไปสวนแล้วเห็นโจกินข้าวร้านนั้นบ่อยๆ (ไปอาจไม่เจอ) You must pass this test if you read this book. นายต้องผ่านการทดสอบแน่ๆ ถ้านายอ่านหนังสือเล่มนี้ – ฉันมั่นใจ ร้อยเปอร์เซ็นต์ (ฮ่าๆ อาจตกอีกก็ได้) If I see John, I’ll tell him. ถ้าฉันเจอจอห์น ฉันจะบอกเขาเอง – อาจไม่เจอก็ได้ หรือเจออาจลืมบอกอีกก็ได้

ตัวอย่าง if clause type 1 You will feel better if you sleep enough. คุณจะรู้สึกดึขึ้น ถ้าคุณนอนเพียงพอ – อาจจริงของคุณ หรือไม่จริงก็ได้ If it rains, we will play inside. ถ้าฝนตกเราจะเล่นข้างใน – เราคิดไว้อย่างนั้น พอฝนตกจริงอาจวิ่งเล่นข้างนอกก็ได้ If I have enough money, I will buy a BMW. ถ้าฉันมีเงินพอ ฉันจะซื้อ BWM – ตอนนี้กำลังเก็บเงิน คาดว่าถ้าเงินครบน่าจะได้ออกสักคัน

If clause type 2 นำไปใช้กับเหตุกาณ์ที่เพ้อฝั น หรือไม่เป็ นจริง อยากให้เกิดในปัจจุบัน เเต่เป็นไปไม่ได้ 10% โครงสร้างของประโยค TYPE IFCLAUSE MAIN CLAUSE 2 Past simple would + infinitive IIf I +V2 ., I woud+ V1 *** could กับ might ใช้แทน would ได้นะ Example If I won the lottery, I would travel around the world. ถ้าฉันถูกล็อตเตอรี่นะ ฉันจะเดินทางรอบโลกเลย – เพ้อไป ชาตินี้จะมีโอกาศไหม If I had time, I would learn more English. ถ้าฉันมีเวลานะ ฉันจะเรียนอังกฤษให้มากขึ้น – เรียนเอาแค่ผ่านก่อนเถอะ เวลาแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้ว

ตัวอย่าง if clause type 2 I would be happy if I had 1 billion baht. ฉันคงมีความสุขมากเลย ถ้าฉันมีเงินสักพันล้าน – รอชาติหน้ าบ่ายๆเหอะ งานการก็ไม่ทำ คงเป็นไปได้หรอก If I were you, I would take the offer. ถ้าฉันเป็นนาย ฉันจะรับข้อเสนอนะ – นายเป็นฉันไม่ได้หรอก คนละคนกัน I would leave early if the boss allowed. ฉันจะกลับเร็วหน่อย ถ้าเจ้านายอนุญาต – ฝันไปเหอะ นายเขี้ยวจะตายไป I would ask for the numbers if I saw a ghost. ฉันจะขอหวย ถ้าฉันเจอผี – ฮ่า….พูดเป็นเล่นไป If I had money, I would buy a BMW. ถ้าฉันมีเงิน ฉันจะซื้อ BMW – แต่ฉันไม่มีอ่ะ ทำงานได้มาก็ใช้หมด

if clause type 3 ใช้กับเหตุกาณ์ที่ ตรงข้ามกับความเป็นจริง ณ ตอนนั้น ส่วนมากจะเป็นการรำพึงรำพัน เสียดาย 0% โครงสร้างของประโยค TYPE IFCLAUSE MAIN CLAUSE would + have + past participlecould 1 Past Perfect If I +had + V3 ., I woud+ have+ V3 *** might ใช้แทน would ได้นะ If I had studied hard, I would have passed the test. ถ้าฉันเรียนหนักนะ ฉันคงสอบผ่านไปแล้ว – ความจริงคือ ตอนนั้นไม่ได้เรียนหนัก แล้วสอบตก

If clause type 2 If you had taken medicine, you wouldn’t have got a headache. ถ้านายกินยานะ นายคงไม่ปวดหัวหรอก – ความจริง ตอนนั้นไม่ได้กิน แล้วปวดอยู่ตอนนี้ If he had won the singing contest, he would have got a BMW. ถ้าเขาชนะการประกวดร้องเพลง เขาคงได้ BMW ไปแล้ว – ความจริงคือ ตอนั้นแพ้ ขับเก๋งคันเก่าต่อไปเถอะ If she had known that I was sick, she wouldn’t leave me alone. ถ้าหล่อนรู้ว่าฉันป่วยนะ หล่อนคงไม่ทิ้งให้ฉันอยู่คนเดียวหรอก – ความจริงคือ ตอนนั้นหล่อนไม่รู้ ฉันต้องอยู่คน เดียวดูแลตัวเอง We would have played football if It hadn’t rained. พวกเราคงได้เล่นฟุตบอลแล้วแหล่ะ ถ้าฝนไม่ตกหน่ะ – ความจริงคือ ตอนนั้นไม่ได้เล่นเพราะฝนตก If I had had money, I would have bought a BMW. ถ้าฉันมีเงินนะ ฉันคงจะซื้อ BMW ไปแล้ว – เหตุการณ์คือไปมอเตอร์โชว์ตอนนั้น เงินร่อยหรอ ไม่อาจซื้อได้ แต่ ตอนนี้มีเงินเป็ นฟ่ อน

Zero Conditional Sentences( if clause type 0 ) เป็ นจริง เกิดตามธรรมชาติ เกิดขึ้นเเน่นอน If I +V1 ., I V1 First Conditional Sentences( if clause type 1) คาดเดาอนาคต If I +V1 ., I will + V1 , If I +V1 ., I may + V1 Second Conditional Sentences( if clause type 2 ) เพ้อฝั น หรือไม่เป็ นจริง If I +V2 ., I woud+ V1 Third Conditional Sentences( if clause type 3 ) รำพึงรำพัน เสียดาย If I +had + V3 ., I woud+ have+ V3 \" สรุปสั้นๆง่ายๆน๊าา \"

\" น้องๆมีข้อสังสัยกันมั้ยเอ่ย น่าจะเข้าใจกันบ้างเเล้วใช่มั้ยคะ\" \" งั้นไปลองทำเเบบฝึกหัดกันเลยค่าา \"

1. ………….I known you were coming, I would have met you at the airport. a. Should b. If c. Had d. Were 2. If you…………me, I might have forgotten. a. hadn’t reminded b. would remind c. should d. were to 3. If you………….him, what will you do? a. had seen b. saw c. were to see d. see 4. …………I written her a letter, she would have known about it. a. Should b. Had c. If d. Were to 5. I’ll spoil my dinner, …………I have cake for afternoon tea. a. had b. should c. were d. will have

6. …………….it rain, I won’t go. a. Would b. Should c. Had d. If 7. I will need to buy some gas if the tank………….empty. a. would have been b. was c. were d. is 8. I……………do it if I were you. a. am to b. will c. wouldn’t d. had 9. ………….it rained yesterday, they wouldn’t have gone. a. Had b. Would c. If d. Were 10. If I had won the lottery, I…………….rich. a. am b. were c. will be d. would have been

เฉลย 1. c. Had เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form 2. a. hadn't reminded เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 3. d. see เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 1 4. b. Had เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form 5. b. should เป็นการใช้ should แทน if 6. b. Should เป็นการใช้ should แทน if 7. d. is เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 1 8. c. wouldn't เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 2 9. a. Had เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3 เป็นรูปแบบ reverse form 10. d. would have been เป็นกฎ If-clause ข้อที่ 3

Wishes \" เอ๊ะ มันคืออะไร \"

Wishes คืออะไร ใช้ยังไงบ้าง มีวิธีใช้ 3 ประเภทดังนี้ wish เป็นกริยา หมายถึง \"ปรารถนาดี หรือต้องการ\" 1. to wish (someone) to do something 2. to wish someone something 3. to wish (that) + noun clause

1.to wish (someone) to do something โครงสร้าง We use wish + to + V1 / wish for somthing เป็นความปรารถนาหรือต้องการ ทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เป็นไปได้ Examples - We wish to book some seats for the concert. - Do you wish to sit here , sir? - She wishes to go to the party.

1.to wish (someone) to do something ใช้ wish คู่ กับ could แสดงความไม่พอใจ Examples I wish you would help me doing the chores! ฉันอยากให้คุณฉันช่วยทำงานบ้าน ความหมาย : คุณน่าจะช่วยฉันทำงานบ้านหน่อย นี่อะไรกัน ให้ฉันทำคนเดียว I wish you could stop talking! ฉันอยากให้คุณหยุดพูด ความหมาย : หยุดพูดซะทีได้ไหม รำคาญ

2. to wish someone something โครงสร้าง We use wish + Noun + Noun เป็นความปรารถนาให้ผู้อื่น ได้รับความสุขสำเร็จหรือสิ่งที่ดีงาม Examples - We wish him all the best. - I wish you a Happy New Year. - I wish you success and happiness. - I wish you a Merry Christmas. - I wish you the very best of luck.

2. to wish someone something wish someone something Examples We wish you a merry Christmas. เราอวยพรให้คุณมีวันคริสต์มาสที่สุขสันต์ หรือ สุขสันต์วันคริสต์มาส นั่นเอง I wish you a safe trip. ฉันขออวยพรให้คุณเดินทางปลอดภัย I wish you the best of luck. ฉันขออวยพรให้คุณโชคดี We wish you a happy birthday. พวกเราขอให้เธอมีวันเกิดที่แสนสุข หรือ สุขสันต์วันเกิด นั่นเอง

2. to wish someone something I wish กับ You wish ต่อไปนี้เป็นการพูดในทำนองประชดประชัน Examples A: Your girlfriend must be very nice. แฟนนายต้องนิสัยดีมากเลย I wish. ฉันก็หวังงั้นแหละ (แต่ไม่จริงเลย) I hope he will marry me. ฉันหวังว่าเขาจะแต่งงานกับฉัน You wish. ฝั นไปเถอะ

3. to wish (that) + noun clause Wish + past simlple ความหมายปัจจุบัน ถึงแม้รูปของกริยาจะอยู่ในรูปอดีต แต่ความหมาย จะหมายถึงปัจจุบัน ณ ตอนนี้นะคt หมายความว่า ปั จจุบันเราเป็ นอย่างหนึ่ง แต่เราปรารถนาที่จะเปลี่ยนให้เป็ นแบบหนึ่ง I wish (that) I were rich. ฉันปรารถนาวา่ ฉันรวย (ถ้าฉันรวยก็ดีอ่ะ) ความจริงคือ จน แต่อยากเป็นคนรวย I wish (that) I won the lottery. ฉันปรารถนาว่าฉันถูกล็อตเตอรี่ (ถ้าฉันรถูกล็อตเตอรี่ก็ดีอ่ะ) ความจริงคือ ไม่เคยถูก แต่อยากซื้อถูก I wish (that) I could turn back time. ฉันปรารถนาว่าฉันสามารถย้อนเวลากลับได้ (ถ้าฉันสามารถย้อนเวลาได้ก็ดีอ่ะ) ความจริงคือ ไม่สามารถทำได้ แต่อยากจะทำได้

3. to wish (that) + noun clause Wish + past perfect ความหมายอดีต โครงสร้างแบบนี้ เป็นการรำพึงรำพัน หรือนึกเสียใจกับเหตุการณ์ในอดีต อยากจะย้อนเวลากลับไปแก้ไข แต่ก็ไม่อาจทำได้ I wish (that) I had told her the truth. ฉันปรารถนาว่าฉันได้บอกความจริงกับหล่อน (ถ้าฉันได้บอกความจริงกับหล่อนก็ดีอ่ะ) I wish (that) I had killed that bad wolf. ฉันปรารถนาว่าฉันได้ฆ่าหมาป่าใจร้ายตัวนั้น (ถ้าฉันได้ฆ่าหมาป่าใจร้ายตัวนั้นก็ดีอ่ะ) I wish (that) I had bought that house. ฉันปรารถนาว่าฉันได้ซื้อบ้านหลังนั้น (ถ้าฉันได้ซื้อบ้านหลังนั้นไว้ก็ดีอ่ะ) ตัวอย่างทั้งสามด้านบนนี้ เป็นการรำพันถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมา ที่ไม่ได้ทำสิ่งนั้นแล้วมาเสียใจ เสียดายภายหลัง

3. to wish (that) + noun clause Wish และ If only คำว่า wish สามารถเอา If only มาแทนก็ได้ If only I were rich. ถ้าฉันรวยก็ดีอ่ะ If only I won the lottery. ถ้าฉันรถูกล็อตเตอรี่ก็ดีอ่ะ If only I had told her the truth. ถ้าฉันได้บอกความจริงกับหล่อนก็ดีอ่ะ If only I had bought that house. ถ้าฉันได้ซื้อบ้านหลังนั้นไว้ก็ดีอ่ะ

3. to wish (that) + noun clause สำนวนอื่ นๆ A: Why don’t you help him? ทำไมเธอไม่ช่วยเขา B: I wish I could. ถ้าฉันทำได้มันก็ดีสิ (ฉันไม่อาจช่วยเขาได้) It’s just like I am alone in this big world. I wish you were here by my side. มันดูเหมือนว่ามีแค่ฉันคนเดียวในโลกใบใหญ่นี้ ฉันอยากให้เธออยู่ตรงนี้ ข้างๆฉัน

\" น้องๆมีข้อสังสัยกันมั้ยเอ่ย น่าจะเข้าใจกันบ้างเเล้วใช่มั้ยคะ\" \" งั้นไปลองทำเเบบฝึกหัดกันเลยค่าา \"

มาลองทำเเบบฝึกหัดกันจ้าเด็กๆ Use the situations to make sentences, as in the exapple. 1. We don't recycle enough of our rubbish. I wish / If only we recycled more of our rubbish. 2. There is a lot of poverty in the world. ............................................................................ 3. Many people are hungry. ............................................................................ 4. The city is polluuted. ............................................................................ 5. We cut down too many trees. ...........................................................................


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook