4. วงจรไฟฟ้าอยา่ งง่ายซงึ่ ประกอบดว้ ยแบตเตอรี่ หลอดไฟ สายไฟ และวสั ดุ A ถา้ ต้องการใหห้ ลอดไฟติด วัสดุ A ที่ใชค้ วรเป็นสง่ิ ของทง้ั หมดในข้อใด (O-net ปี 2560) 1. เข็มเยบ็ ผา้ กระดาษ 2. ยางรดั ของ เข็มกลดั 3. เขม็ เยบ็ ผา้ ไสด้ นิ สอ 4. กระดาษ แผ่นอลูมนิ มั ฟอยล์
ตัวชวี้ ัด ป.6/3 ทดลองและอธบิ ายการตอ่ เซลลไ์ ฟฟา้ แบบอนกุ รม และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 1. ภาพใดทห่ี ลอดไฟฟ้า ( ) เซลล์ไฟฟ้า ( ) สวิตซ์ ( ) ต่อกัน แบบอนกุ รม
ขอ้ สอบแบบปรนยั เลอื กตอบเชิงซอ้ น 2. ต่อวงจรไฟฟา้ ดังภาพ ขณะน้หี ลอดไฟฟ้า A B C D และ E สวา่ งอยู่ ถ้าหลอดไฟฟ้าต่อไปนี้ชารุดใชง้ านไม่ได้ แลว้ หลอดไฟฟ้าที่เหลอื อกี 4 หลอด ยังคง สว่างอยู่ใชห่ รอื ไม่ (O-net ปี 2561) ข้อความ ใช่ หรือ ไม่ใช่ 2.1 หลอดไฟฟา้ A ชารุด แต่ B C D และ E ยงั สว่างอยู่ ใช่ / ไมใ่ ช่ 2.2 หลอดไฟฟา้ B ชารุด แต่ A C D และ E ยงั สวา่ งอยู่ ใช่ / ไม่ใช่ 2.3 หลอดไฟฟ้า D ชารุด แต่ A B C และ E ยังสวา่ งอยู่ ใช่ / ไมใ่ ช่
ตวั ชว้ี ดั ป.6/4 ทดลองและอธิบายการต่อหลอดไฟฟ้าท้ังแบบอนุกรม แบบขนาน และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ 1. จากการศกึ ษาการใชเ้ ซลลแ์ สงอาทิตย์เปน็ แหล่งพลังงานทดแทนในบา้ น พบว่าเซลลแ์ สงอาทติ ย์ 1 เซลล์ ใหแ้ รงดันไฟฟา้ วงจรเปิดประมาณ 0.5 โวลต์ ประกอบกบั ขอ้ มลู เพ่มิ เตมิ ดังน้ี การตอ่ เซลล์แบบขนานจะเพมิ่ ปรมิ าณกระแสไฟฟ้าให้มากข้นึ การต่อเซลล์สายแบบอนุกรมจะเพิ่มแรงดันไฟฟ้าให้สูงขนึ้ ถ้าตอ้ งการใชไ้ ฟฟา้ จากเซลลแ์ สงอาทิตย์สาหรับเคร่อื งใชไ้ ฟฟา้ กระแสตรง ทต่ี อ้ งใชแ้ รงดันไฟฟ้า 2.5 โวลต์ ควรต่อวงจรไฟฟา้ ตามขอ้ ใด (Pre O-net ปี 2555)
2. จากวงจรดงั รปู ถา้ ถา่ นไฟฉายและหลอดไฟฟา้ เป็นแบบเดียวกนั นักเรยี นคิดวา่ กระแสไฟฟา้ ทผ่ี ่านวงจร A เทียบกบั วงจร B เปน็ อยา่ งไร (Pre O-net ปี 2557) 1. วงจร A นอ้ ยกว่าวงจร B 2. วงจร A มากกว่าวงจร B 3. วงจร A และวงจร B เทา่ กัน 4. ยงั สรปุ ผลการทดลองไมไ่ ด้
3. เมอ่ื ตอ่ กระแสไฟฟา้ ครบวงจร หลอดไฟสวา่ งทกุ ดวง ถ้านาหลอดไฟหมายเลข 2 ออกจากวงจร หลอดไฟหมายเลขใดจะดับ (O-net ปี 2551) 1. หมายเลข 1 2. หมายเลข 3 3. หมายเลข 4 4. หมายเลข 5
4. จากภาพ นาหลอดไฟหมายเลขใดออก แล้วทาใหห้ ลอดไฟทเ่ี หลือทุกดวงดบั (O-net ปี 2552) 1. หลอดท่ี 2 2. หลอดท่ี 3 3. หลอดที่ 4 4. หลอดท่ี 5
5. จากภาพขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง (O-net ปี 2554) 1. ก เปน็ การตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบขนาน หากหลอด A ดบั หลอด B จะดบั ดว้ ย 2. ก เป็นการต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม หากหลอด A ดับ หลอด B ยังสามารถใช้งานได้ 3. ข เป็นการต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม หากหลอด A ดบั หลอด B จะดับดว้ ย 4. ข เป็นการตอ่ วงจรไฟฟา้ แบบขนาน หากหลอด A ดบั หลอด B ยังสามารถใช้งานได้
6. จากภาพขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง (O-net ปี 2554) 1. ก เป็นการต่อวงจรไฟฟา้ แบบขนาน หากหลอด A ดบั หลอด B จะดบั ดว้ ย 2. ก เป็นการตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม หากหลอด A ดับ หลอด B ยังสามารถใช้งานได้ 3. ข เป็นการต่อวงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม หากหลอด A ดบั หลอด B จะดับดว้ ย 4. ข เป็นการตอ่ วงจรไฟฟ้าแบบขนาน หากหลอด A ดบั หลอด B ยังสามารถใช้งานได้
7. พิจารณาวงจรไฟฟา้ ดังรูป เมื่อสบั สวติ ช์ของวงจรไฟฟ้านลี้ ง จะเกดิ อะไรข้ึนกบั หลอดไฟทง้ั สาม (O-net ปี 2559) 1. หลอดไฟ 1 ดับ แต่หลอดไฟ 2 และหลอดไฟ 3 สว่าง 2. หลอดไฟ 1 สว่าง แตห่ ลอดไฟ 2 และหลอดไฟ 3 ดบั 3. หลอดไฟ 1 หลอดไฟ 2 และหลอดไฟ 3 สว่างเท่ากนั หมด 4. หลอดไฟ 1 สว่างทีส่ ดุ ส่วนหลอดไฟ 2 และหลอดไฟ 3 สว่างเท่ากัน แต่น้อยกว่าหลอดไฟ 1
ข้อสอบเลอื กตอบเชงิ ซ้อน (เลอื ก 2 คาตอบ) 8. พิจารณาการตอ่ เซลล์ไฟฟา้ ในภาพ A และ B ต่อไปน้ีแลว้ ตอบคาถาม ในการต่อเซลลไ์ ฟฟา้ ในภาพ A และ B ข้อสรุปใดถูกตอ้ ง (Pre O-net ปี 2555) 1. การต่อแบบ A มีแรงดันไฟฟา้ มากกวา่ B 2. การต่อแบบ B สนิ้ เปลืองกระแสไฟฟา้ มากกว่า A 3. การต่อแบบ B เซลล์ไฟฟา้ มอี ายุใช้งานมากกว่า A 4. การตอ่ แบบ A และ B สิ้นเปลืองกระแสไฟฟ้าเท่ากัน 5. การต่อแบบ B ใชเ้ ม่อื ต้องการให้หลอดไฟสวา่ งมากๆ
9. พจิ ารณาภาพต่อไปนแ้ี ลว้ ตอบคาถาม จากแผนภาพ ข้อใดอธิบายไดถ้ กู ตอ้ ง (Pre O-net ปี 2560) 1. ไฟท้งั 4 หลอดตดิ 2. เตารีด เคร่ืองซักผ้าและโทรทัศนใ์ ชไ้ ดต้ ามปกติ 3. อุปกรณไ์ ฟฟา้ ทุกชนิดในบ้านใชไ้ ดต้ ามปกติ 4. ไฟหลอดท่ี 3 กบั 4 และพดั ลมใชไ้ ด้ตามปกติ 5. ไฟหลอดที่ 1 และ 2 ไม่ติด และเตารีดไมส่ ามารถใชง้ านได้ 6. พัดลมและเตารีดใชง้ านไดป้ กติ แตไ่ มส่ ามารถใช้โทรทัศน์ได้
ตวั ชี้วดั ป.6/5 ทดลองและอธิบายการเกดิ สนามแม่เหลก็ รอบสายไฟท่ีมีกระแสไฟฟา้ ผา่ นและนาความรู้ ไปใช้ประโยชน์ 1. พจิ ารณาขอ้ มูลตอ่ ไปนีแ้ ลว้ ตอบคาถาม จากข้อมูลขา้ งต้น ถา้ ตอ้ งการให้เกิดเสยี งดงั เพ่มิ ขึ้น ควรทาอยา่ งไร (Pre O-net ปี 2560) 1. เพ่ิมจานวนขดลวดให้มากขนึ้ 2. ใชแ้ กนแมเ่ หลก็ ไฟฟ้ามีขนาดเล็กลง 3. ใชก้ บั อุปกรณไ์ ฟฟ้าที่มีกาลังไฟฟ้าตา่ 4. เลอื กใชแ้ ผ่นไดอะเฟรมทมี่ ขี นาดบางมากๆ
2. กราฟความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งจานวนลวดหนบี กระดาษท่ถี ูกดูด กับจานวนรอบของ ลวดทองแดงที่พนั รอบแทง่ เหลก็ จากกราฟ ให้พยากรณว์ า่ ใชล้ วดทองแดงพันรอบแทง่ เหลก็ จานวน 250 รอบ จะเกดิ แรงแม่เหลก็ ทด่ี ูดลวดหนีบกระดาษได้กอ่ี นั (O-net ปี 2551) 1. 15 2. 20 3. 25 4. 30
3. จานวนรอบของขดลวดทองแดงทพี่ นั รอบตะปูของแม่เหล็กไฟฟา้ ท่มี ผี ลให้ความ แรงของแมเ่ หล็กมีคา่ นอ้ ยท่สี ดุ คอื ขอ้ ใด (O-net ปี 2553) 1. 100 รอบ 2. 200 รอบ 3. 300 รอบ 4. 400 รอบ
4. สนามแม่เหล็กทีเ่ กิดขณะกระแสไฟฟา้ ไหลผ่านสายไฟเป็นอย่างไร (O-net ปี 2559) 1. เกดิ สนามแมเ่ หลก็ ภายนอกสายไฟมีทิศทางช้เี ขา้ หาสายไฟ 2. เกิดสนามแม่เหลก็ ภายนอกสายไฟมีทิศทางชี้ออกจากสายไฟ 3. เกิดสนามแมเ่ หล็กภายนอกสายไฟมีลักษณะเปน็ วงกลมรอบๆ สายไฟ 4. เกิดสนามแม่เหล็กภายในเสน้ ลวดของสายไฟตามแนวยาวของเสน้ ลวด
5. ทาการทดลอง 4 ชุด โดยนาขวดมาพันรอบตะปูดว้ ยจานวนรอบต่างกนั แล้วต่อวงจรไฟฟา้ กับ ถา่ นไฟฉาย 1 กอ้ น ดังภาพ จากนั้นนาตะปูที่พันขดลวดของการทดลองท้งั 4 ชดุ มาดงึ ดูดลวดเสยี บ กระดาษไดจ้ านวนดงั ตาราง “ถา้ จานวนรอบของขดลวดทพ่ี ันรอบตะปเู พ่ิมข้ึน จะทาใหเ้ กิดแรงแม่เหลก็ มากข้นึ ” จงเรียงลาดับ ชุดการทดลองที่มจี านวนรอบของขดลวดทพ่ี นั รอบตะปู จากมากท่ีสดุ ไปหาน้อยทส่ี ุด (O-net ปี 2561) 1. B A D C 2. B D A C 3. C A D B 4. C D A B
ขอ้ สอบเลอื กตอบเชงิ ซ้อน (เลือก 2 คำตอบ) 6. การทดลองเร่อื งแมเ่ หล็กไฟฟ้าซึ่งทาการทดลอง 2 แบบ ดังภาพ จากภาพการทดลองเรอ่ื งน้ขี อ้ ใดเปน็ ตวั แปรควบคุม (O-net ปี 2557) 1. เซลล์ไฟฟา้ 2. แรงเคลอื่ นไฟฟา้ 3. แรงแม่เหลก็ ไฟฟ้า 4. จานวนรอบของขดลวด 5. ขนาดของตะปเู หล็กกล้า 6. กระแสไฟฟ้าทผี่ า่ นลวด
Search