Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิชาเรียงความกระทู้ธ.ศ.โท

วิชาเรียงความกระทู้ธ.ศ.โท

Published by suttasilo, 2021-07-09 14:08:33

Description: วิชาเรียงความกระทู้ธรรมศึกษาโท

Keywords: วิชาเรียงความกระทู้,ธรรมศึกษาโท

Search

Read the Text Version



๑ วชิ า เรยี งความแกก้ ระทู้ วิชา การแตง่ กระทนู้ ี้ ก็คอื การแตง่ เรยี งความธรรมน่นั เอง โดยอธิบายหวั ขอ้ ธรรม(สภุ าษิต) ที่ กาํ หนดให้ และหาสภุ าษิตอ่ืนมารบั รองกบั เนือ้ ความทตี่ นไดอ้ ธิบายมานน้ั ใหส้ มั พนั ธก์ นั โดยในชนั้ นกี้ าํ หนดให้ หาสภุ าษิตอื่นมาเชอื่ ม ๒ สภุ าษิต และใหแ้ ต่งตงั้ แต่ ๔ หนา้ กระดาษ (เวน้ บรรทดั )ขึน้ ไป ในการแตง่ กระทนู้ นั้ ใหน้ กั เรยี นตคี วามหมายของสภุ าษิตเสยี กอ่ น ว่าหมายถงึ อะไร สรุปใจความโดย ยอ่ ว่าอยา่ งไร ตอ่ มาใหว้ างแนวทางวา่ จะอธบิ ายไปในทาํ นองใด จะสามารถเชื่อมกบั สภุ าษิตท่เี ตรยี มไวไ้ ด้ หรอื ไม่ และคาํ สรุปลงทา้ ยจะเนน้ ตรงจดุ ไหน เมอ่ื หาขอ้ สรุปไดด้ งั นีแ้ ลว้ จงึ คอ่ ยลงมือแตง่ การแต่งนน้ั ควร บรรยายในทาํ นองทีจ่ ะทาํ ใหผ้ อู้ า่ นหรอื ผฟู้ ังมองเห็นภาพพจนแ์ ละเชือ่ มตามนนั้ โดยการเอาสภุ าษิตมารบั รอง คาํ พดู ทีไ่ ดอ้ ธิบายมานน้ั ใหม้ หี ลกั ฐานน่าเชอ่ื ถอื ยง่ิ ขนึ้ และอยา่ ลมื ใส่ทมี่ าของสภุ าษิตนน้ั ดว้ ย การแต่งทีถ่ กู ตอ้ งตามลกั ษณะนน้ั สนามหลวงไดก้ าํ หนดไวใ้ นระเบยี บการตรวจมี ๗ ลกั ษณะดว้ ยกนั นกั เรยี นจะตอ้ งแต่งใหถ้ กู ตอ้ งตามขอ้ ระเบยี บนีม้ ากทส่ี ดุ คอื ๑. แต่งใหไ้ ดต้ ามกาํ หนด (๔ หนา้ กระดาษ(เวน้ บรรทดั )ขึน้ ไป) ๒. อา้ งสภุ าษิตไดต้ ามกฎ (คอื นาํ มาเช่อื ม ๒ สภุ าษิตขนึ้ ไป) และบอกทม่ี าไดถ้ กู ตอ้ ง ๓. เช่ือมกระทไู้ ดด้ ี ๔. อธิบายความสมกบั กระททู้ ่ไี ดต้ งั้ เอาไว้ ๕. ใชส้ าํ นวนเรยี บงา่ ย ภาษาสละสลวย ๖. ใชต้ วั สะกดการนั ตไ์ ดถ้ กู ตอ้ งเป็นสว่ นมาก ๗. สะอาด ไมเ่ ปรอะเปือ้ น เมอ่ื จะลงมอื แตง่ นน้ั ใหเ้ ตรียมสภุ าษิตที่จะเชื่อมไวก้ อ่ น ครนั้ อธิบายไปไดพ้ อสมควรแลว้ จึงอธิบาย โนม้ นา้ วเขา้ หาสภุ าษิตทจ่ี ะเช่ือม เมือ่ ทาํ ไดเ้ ช่นนีจ้ ะทาํ ใหก้ ารเชอื่ มกระทนู้ สี้ มั พนั ธก์ นั ไดด้ ี เพอ่ื ใหด้ สู วยงามและ อ่านงา่ ย การแต่งใหถ้ กู ตอ้ งตามลกั ษณะยอ่ หนา้ วรรคตอนนน้ั ขอใหด้ ูโครงสรา้ งรูปแบบการแต่งดงั ต่อไปนีฯ้

๒ โครงสรา้ งแบบอย่างการแต่งกระทู้ (สภุ าษิต)................................ ................................... ............................................. ................................... (คาํ แปล).................................................................................................... ........................................................................................................................ ........................................................................ บดั นี้ จะไดอ้ ธิบายขยายเนอื้ ความแห่งกระทธู้ รรมสภุ าษิตทไี่ ดล้ ขิ ิตไว้ ณ เบือ้ งตน้ พอเป็น แนวทางการปฏบิ ตั แิ ละศกึ ษา สาํ หรบั ผสู้ นใจ เป็นลาํ ดบั ไป ............................................................................................................... ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ..............................................................…………………………………………สมกบั สภุ าษิต ท่ีมาใน .................................................................วา่ (สภุ าษิต)................................ ................................... ............................................. ................................... (คาํ แปล) .................................................................................................... ความวา่ ............................................................................................................... ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ......................................................................................................……………….. สมกบั สภุ าษิตท่มี าใน(ที่มา).................................................................ว่า (สภุ าษิต)................................ ................................... ............................................. ................................... (คาํ แปล)..................................................................................................... ความว่า............................................................................................................... ........................................................................................................................ ........................................................................................................................

๓ ........................................................................................................................ ... สรุปความว่า .................................................................................................. ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ........................................................................................................................ ............................……….. …………. พทุ ธศาสนสุภาษิต ๑. ชีวเตวาปิ สปปฺ �ฺโญ อปิ วิตตุ ปริกฺขย ป�ฺญาย จ อลาเภน วิตตฺ าปิ น วีวติ ถงึ สิน้ ทรพั ย์ ผมู้ ปี ัญญาก็เป็นอย่ไู ด้ แต่อปั ปัญญา แมม้ ีทรพั ยก์ ็เป็นอย่ไู มไ่ ด.้ ทีม่ า: (มหากปั ปินเถรคาถา) ขทุ ทกนิกาย เถรคาถา ๒. ปาณมิ หฺ ิ เจ วโณ นาสฺส หเรยยฺ ปาณินา วสิ ํ นาพพฺ ณํ วสิ มนเฺ วติ นตถฺ ิ ปาปํ อกุพฺพโต ถา้ ฝ่ามอื ไมม่ ีแผล กพ็ ึงนาํ ยาพิษไป ดว้ ยฝ่ามือท่ยี าพษิ ซมึ เขา้ ไปไม่ได้ ฉนั ใด บาปย่อมไมท่ าํ แกค่ นผไู้ มท่ าํ ฉนั นน้ั . ทีม่ า: (พทุ ธภาษิต) ขทุ ทกนิกาย ธรรมบทคาถา ๓. น หิ ปาปํ กตํ กมฺมํ สชชฺ ขุ ีรวํ มจุ จฺ ติ ฑหนฺตํ พาลมนเฺ วติ ภสฺมาจฺฉนโฺ นว ปาวโก บาปกรรมที่ทาํ แลว้ ยอ่ มไม่เปลยี่ นแปลง เหมือนนมสดท่รี ีดในวนั นนั้ บาปย่อมตามเผาเขลา เหมือนไฟทเ่ี ถา้ กลบไว.้ ทีม่ า: (พทุ ธภาษิต) ขุททกนิกาย ธรรมบทคาถา ๔. เอวํ กจิ ฉฺ าภโต โปโส ปิตุ อปริจารโก ปิตริ มจิ ฺฉา จรติ วฺ าน นริ ยํ โส อปุ ปชชฺ ติ ผทู้ ม่ี ารดา บดิ า เลยี้ งมาโดยยากอย่างนี้ ไม่บาํ รุงมารดา บิดาประพฤติผิดในมารดา บิดา ยอ่ มเขา้ ถงึ นรก. ทีม่ า: (โสณโพธิสตั ว์ภาษิต) ขทุ ทกนิกาย ชาดก สตั ตตินบิ าต

๒ ๕. พฺรหฺมาติ มาตาปิตโร ปพุ พฺ าจริยาติ วจุ จฺ เร อาหเุ นยฺยา จ ปตุ ฺตานํ ปชาย อนกุ มปฺ กา มารดา บิดา ท่านวา่ เป็นพรหม เป็นบรุ พาจารย์ เป็นทน่ี บั ถอื ของบุตรและเป็นผอู้ นเุ คราะห์ บตุ ร. ทีม่ า: (โสณโพธิสตั วภ์ าษิต) ขทุ ทกนกิ าย ชาดก สตั ตตินบิ าต ๖. มธฺวา ม�ฺญตี พาโล ยาว ปาป น ปจจฺ ติ ยทา จ ปจจฺ ตี ปาปํ อถ ทกุ ขฺ ํ นิคจฺฉติ ตราบเทา่ ท่บี าปยงั ไมไ่ หผ้ ล คนเขลายงั เขา้ ใจว่ามรี สหวาน แต่บาป ใหผ้ ลเม่ือใด คนเขลาย่อมประสบ ทกุ ขเ์ ม่อื นน้ั . ทีม่ า: (พทุ ธภาษิต) ขทุ ทกนิกาย ธรรมปทคาถา ๗. โย จตตฺ านํ สมกุ กฺ เํ ส ปเร จ อวชานติ นหิ ิโน เสน มาเนน ตํ ช�ฺญา วสโล อติ ิ ผใู้ ดยกย่องตนและดหู มิ่นผอู้ ่ืน เป็นคนเลวเพราะการถอื ตวั เอง พงึ รูว้ ่าผนู้ น้ั เป็นคนเลว. ทีม่ า: (พทุ ธภาษิต) ขุททกนิกาย สตุ ตนิบาต ๘. กลยฺ าณเมว ม�ุ ฺเจยฺย น หิ ม�ุ ฺเจยยฺ ปาปิปํ โมกฺโข กลฺยาณิยา สาธุ มตุ ฺวา ตปปฺ ติ ปาปิกํ พงึ เปล่งวาจางามเท่านนั้ ไม่พงึ เปลง่ วาจาช่วั เลย การเปลง่ วาจา งามยงั ประโยชนส์ าํ เร็จ คนเปล่ง วาจาช่วั ยอ่ มเดอื ดรอ้ น. ทีม่ า: (พทุ ธภาษิต) ขทุ ทกนิกาย ชาดก เอกนิบาต ๙. อปปฺ เกนปิ ปาภเฏน วิจกฺขโณ สมฏฺ ฐาเปติ อตตฺ านํ อณุ อคคุ ึว สนธฺ มํ ผมู้ ปี ัญญาเฉลียวฉลาด ย่อมตงั้ ตนไดด้ ว้ ยทนุ แมน้ อ้ ย เหมอื นคน ก่อไฟกองนอ้ ยขึน้ ฉะนน้ั . ทีม่ า: (พทุ ธภาษิต) ขทุ ทกนิกาย ชาดก เอกนิบาต ๑๐. อโมฆํ ทวิ สํ กยริ า อปเฺ ปน พหเุ กน วา ยํ ยํ วิวหเต รตตฺ ิ ตทนู นฺตสสฺ ชวี ติ ํ ควรทาํ วนั คนื ไมใ่ หเ้ ปลา่ จากประโยชนน์ อ้ ยหรือมาก เพราะวนั คืน ผ่านบคุ คลใดไป ชวี ิตของบุคคลนน้ั ย่อมพรอ่ งจากประโยชน.์ ทีม่ า: (สริ ิมณั ฑเถรภาษิต) ขทุ ทกนิกาย เถรคาถา ๑๑. อาทิ สีลํ ปตฏิ ฺฐา จ กลยฺ าณ�ฺจ มตกุ ํ ปมขุ ํ สพพฺ ธมมฺ านํ ตสฺมา สลี ํ วิโสธเย ศีลเป็นท่พี ง่ึ เบือ้ งตน้ เป็นมารดาของกลั ยาณธรรมทงั้ หลายเป็นประมขุ ของกลั ยาณธรรม ทงั้ ปวง เพราะฉะนน้ั ควรชาํ ระศีลใหบ้ รสิ ุทธิ.์ ทีม่ า: (สวี ลเถรภาษิต) ขุททกนิกาย เถรคาถา

๕ ๑๒. ปตู มิ จฉฺ ํ กสุ คเฺ คน โย นโร อปุ นยหฺ ติ กสุ าปิ ปตู ิ วายนตฺ ิ เอวํ พาลปู เสวนา คนห่อปลาเน่าดว้ ยใบหญา้ คน แมห้ ญา้ คาก็พลอยเหม็นเน่าไปดว้ ย ฉันใด การคบคนพาลก็ฉันนนั้ . ทีม่ า: (ราชธตี าภาษิต) ขุททกนิกาย ชาดก มหานิบาต ๑๓. อทุ พนิ ฺทนุ ปิ าเตน อทุ กุมโฺ ภปิ ปรู ติ อาปรู ติ พาโล ปาปสฺส โถกํ โถปํ ิ อาจนิ ํ แมห้ มอ้ นาํ้ ย่อมเต็มดว้ ยหยาดนาํ้ คนเขลาส่งั สมบาปแมท้ ีละนอ้ ยๆ ก็ยอ่ มเต็มดว้ ยบาป ฉนั นนั้ . ทีม่ า: (พทุ ธภาษิต) ขุททกนิกาย ธรรมปทคาถา ๑๔. ยสสฺ รุกฺขสฺส ฉายาย นิสีเทยยฺ สเยยฺย วา น ตสสฺ สขํ ภ�ุ ฺเชยยฺ มิตตฺ ทพุ โฺ ภ หิ ปาปโก บุคคลน่งั หรอื นอนทีร่ ม่ เงาตน้ ไมใ้ ด ไม่ควรหกั ก่ิงไมน้ น้ั เพราะผปู้ ระทษุ รา้ ยมิตรเป็นคนเลวทราม. ทีม่ า: (โพธิสตั วภ์ าษิต) ขุททกนกิ าย ชาดก มหานิบาต ๑๕. สเจ ภาเยถ ทกุ ฺขสสฺ สเจ โว ทกุ ฺขมปปฺ ิยํ มากตถฺ ปาปกํ กมมฺ ํ อาวี วา ยทิวา รโห ถา้ ทา่ นกลวั ทกุ ข์ ถา้ ท่านไมร่ กั ทกุ ข์ กอ็ ย่าทาํ บาปทงั้ ในทีแ่ จง้ ทงั้ ในท่ีลบั . ทีม่ า: (พทุ ธภาษิต) ขทุ ทกนกิ าย อทุ าน                                          


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook