Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือการเลี้ยงไก่พื้นบ้าน

คู่มือการเลี้ยงไก่พื้นบ้าน

Published by ประณม ไปป่า, 2022-08-19 08:33:09

Description: คู่มือการเลี้ยงไก่พื้นบ้าน

Search

Read the Text Version

ก คำนำ คมู่ อื ประจำฐาน / กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ด้านการศกึ ษา ฐานการเรยี นร/ู้ การเลย้ี งไก่พื้นบา้ น คูม่ อื ฐานการเรียนร้หู ลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เล่มนี้ จัดทำขนึ้ เพื่อใช้ ประกอบการจดั กจิ กรรมการเรียนร้ใู นคาบเรียนรูช้ ุมนุมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนมธั ยมดง ยาง อำเภอนาดูน จงั หวดั มหาสารคาม เพื่อใชเ้ ป็นแนวทางในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ และเป็นค่มู ือให้นักเรยี นได้ ใช้ประกอบการเรียนรใู้ นกจิ กรรมการเล้ียงไกพ่ ้นื บ้าน ผู้จดั ทำหวงั เปน็ อยา่ งย่ิงว่า คู่มือฐานการเรยี นรตู้ ามหลักปรัชญา ของเศรษฐกิจพอเพยี ง กิจกรรมการเล้ยี งไก่พ้นื บ้าน เลม่ นี้ จะเปน็ ประโยชน์ตอ่ นักเรียน ครู และผทู้ ีส่ นใจอย่างแน่นอน

สารบัญ ข คำนำ ก สารบญั ข วิสยั ทศั น์ โรงเรยี นมัธยมดงยาง ๑ แผนผังที่ต้ังฐานการเรียนรู้ ๒ รปู แบบการขบั เคลอ่ื นปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสูฐ่ านการเรยี นรู้ ๓ แผนภูมกิ ารขบั เคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง ๕ ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๖ ข้ันตอนการศึกษาฐานการเรยี นรู้ ๘ การวเิ คราะห์หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งกิจกรรมเลย้ี งไกพ่ ้นื บ้าน ๑๑ ใบความรู้ ๑๒ ภาพกจิ กรรม ๑๓ ภาคผนวก บนั ทึกการถอดบทเรียน ๑๙ คณะกรรมการจัดทำฐานการเรยี นรู้ ๒๓

๑ เอกลักษณ์โรงเรยี นมัธยมดงยาง “คนดศี รีดงยาง” อตั ลกั ษณโ์ รงเรยี นมัธยมดงยาง “สืบสานวัฒนธรรม นำกฬี า เสรมิ ภูมปิ ัญญาท้องถนิ่ ” วสิ ยั ทศั นโ์ รงเรียนมัธยมดงยาง “จัดการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานอย่างมคี ุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษา บรหิ ารงานอย่างเปน็ ระบบ ตรวจสอบได้ บคุ ลากรมคี ุณภาพนำสือ่ และเทคโนโลยีมาใช้จัดการเรียนการสอน ผ้เู รยี นมีคุณธรรมนำความร้สู ู่ การพัฒนาเสริมภูมิปัญญาท้องถ่นิ นอ้ มนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” พนั ธกจิ โรงเรยี นมธั ยมดงยาง ๑. จดั การศึกษาขน้ั พนื้ ฐานท่ีรองรับสิทธิและโอกาสทางการศึกษาอยา่ งทัว่ ถึงทุก กลุม่ เป้าหมายอย่างเสมอภาคตามเกณฑ์มาตรฐานคุณภาพการศึกษา ๒. จดั การบรหิ ารงานอย่างเป็นระบบ ๓. พัฒนาบคุ ลากรให้มีศักยภาพและคุณภาพตามแนวปฏิรูปการเรียนรู้ที่เนน้ ผู้เรียน เป็นสำคัญโดยนำสอ่ื และเทคโนโลยีท่ีทนั สมยั มาใช้ในการจัดการเรยี นการสอน ๔. พฒั นาผเู้ รียนให้เปน็ คนดี คนเกง่ ภูมิใจ ในความเป็นไทย อยู่ในสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ ๕. ชมุ ชนมีสว่ นรว่ มในการสง่ เสริมและสนบั สนุนการจัดการศกึ ษาสงิ่ แวดลอ้ ม ๖. นักเรยี นเป็นบคุ คลแห่งการเรียนร้คู ู่คณุ ธรรม ภมู ใิ จในความเป็นไทย อยูใ่ นสังคมอย่างมีความสขุ ๗. มรี ะบบประกันคุณภาพการศกึ ษาอย่างมคี ณุ ภาพ ๘. ชุมชนมสี ว่ นรว่ มและสนับสนุนในการจัดการศกึ ษา

๒ แสดงแผนผังทต่ี ้ังฐานการเรียนรู้เศรษฐกจิ พอเพียง ฐานการเรยี นรู้ กจิ กรรมเลี้ยงไกพ่ ืน้ บา้ น หอประชมุ ๑ โรงจอดรถ อาคารเรยี นชว่ั คราว อาคารเรยี น ๑ ฐานการเรยี นรู้ เกษตรพอเพียง กจิ กรรมเลย้ี งไก่พื้นบา้ น ห้อง ปกครอง สนามตะกร้อ เสาธง อาคารเรยี น ๒ โรงอาหาร สนามฟตุ บอล สนาม บาสเกตบอล โรงฝกึ งาน หอประชุม๒ อาคารเรยี น๑ ฐานการเรยี นรู้ ฐานการเรยี นรู้ ศูนย์การทอ่ งเทย่ี ว สู่ความเป็นเลศิ งานประดษิ ฐ์ หมายเหตุ : ฐานการเรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียง (กิจกรรมเลยี้ งไก่พื้นบา้ น) อยเู่ ยื้องดา้ นหลังอาคาร ๑

๓ รูปแบบการขบั เคล่อื นหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง สู่ฐานการเรียนรู้ / กิจกรรมการเรียนรู้ โรงเรียนมธั ยมดงยาง ................................................................................................................... รูปแบบการขบั เคล่ือน หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สฐู่ านการเรียนรู้ โรงเรียนมัธยมดงยาง อำเภอนาดูน จงั หวัดมหาสารคาม เรม่ิ จากการนอ้ มนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเข้าสู่โรงเรียน แล้วโรงเรียนตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียน ซึ่งมีหน้าท่ี รับผิดชอบในการสร้างความเข้าใจใน หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แก่นักเรียน ครู และบุคลากร ทางการศึกษาของโรงเรียน เพ่อื ใหน้ ักเรียนเข้าใจ และครนู ำความรู้มาบรู ณาการกับแผนการจัดการเรียนรู้ เพ่ือนำสู่ห้องเรียนทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ทกุ รายวิชา โดยโรงเรยี นมนี โยบายให้ครผู ู้สอนบูรณาการ หลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่ห้องเรียน บทเรียน และนักเรียนสามารถถอดบทเรียน และสามารถนำ หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว และสังคมได้ ตลอดท้ัง สามารถแนะนำ ให้ความร้แู กผ่ ู้ทีส่ นใจ โดยมุ่งเนน้ ใหเ้ กดิ ผลกบั ผ้เู รียนอยา่ งยัง่ ยนื จนเปน็ วิถชี ีวิต

๔ แผนภมู กิ ารขับเคลือ่ นหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง สฐู่ านการเรียนรู้ โรงเรียนมธั ยมดงยาง …………………………………………………………………………………………… ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง คณะกรรมการขับเคลอ่ื นหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี สังคมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ภาษาต่างประเทศ การงานอาชีพ สุขศกึ ษาและพลศึกษา ศิลปะ

๕ เศรษฐกิจพอเพยี ง ความหมายของเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy) เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง ปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั ได้ทรงมพี ระราชดำรัสชแ้ี นะ แนวทางทคี่ วรดำรงอยแู่ ละปฏิบัติตนแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า ๓๐ ปี ตั้งแตก่ ่อนเกิด วกิ ฤตเศรษฐกิจ ๒๕๕๐ ใหใ้ ช้เป็นแนวทางการแกไ้ ข เพอื่ ให้รอดพน้ วิกฤต และสามารถดำรงอยู่ได้อย่าง มั่นคง และย่งั ยนื ภายใตค้ วามเปล่ียนแปลงต่าง ๆ ลักษณะปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ๑. เปน็ วิถีการดำเนนิ ชวี ติ ทใี่ ชค้ ุณธรรมกำกบั ความรู้ ๒. เปน็ การพฒั นาตวั เอง ครอบครวั องคก์ ร สังคม ประเทศชาติ ใหก้ า้ วหน้าไปพร้อมกบั ความสมดลุ ม่นั คง ยั่งยนื ๓. เปน็ หลกั คิดและหลกั ปฏบิ ตั ิ เพ่ือให้คนสว่ นใหญพ่ อมี พอกิน พอใช้ สามารถพ่ึงตนเองได้ เพ่อื ให้คนกับคนในสังคม สามารถอยู่รว่ มกนั อยา่ งสันติสขุ เพื่อให้คนกับธรรมชาติ อยู่รว่ มกันอย่างสมดลุ ยง่ั ยืน และให้แตล่ ะคนดำรงตนอยา่ งมศี กั ดิ์ศรี และ รากเหง้าทางวฒั นธรรม องคป์ ระกอบปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง เศรษฐกจิ พอเพียง ประกอบด้วย ๒ ๓ ๔ คอื ๒ เง่ือนไข ๓ หลักการ ๔ มิติ คือ ก่อนทจี่ ะลงมือทำกิจกรรม ใด ๆ นน้ั ตอ้ งมี เง่อื นไขสำคัญที่จะทำให้การตดั สินใจ และการกระทำเปน็ ไป พอเพียง จะตอ้ งอาศยั ทง้ั คุณธรรมและความรู้ ดังน้ี เงื่อนไขความรู้ ประกอบดว้ ยการฝกึ ตนให้มคี วามรอบรูเ้ ก่ียวกับวชิ าการตา่ ง ๆ ทเ่ี กย่ี วข้องอยา่ ง รอบดา้ น มีความรอบคอบ และความระมดั ระวังทจ่ี ะนำความร้ตู า่ ง ๆ เหลา่ น้นั มาพจิ ารณาให้เช่อื มโยงกัน เงือ่ นไขคณุ ธรรม ท่จี ะตอ้ งสร้างเสริมให้เปน็ พ้ืนฐานจติ ใจของคนในชาติ ประกอบด้วย ด้านจิตใจ คือการตระหนกั ในคณุ ธรรม รู้ผิดชอบชว่ั ดี ซ่อื สัตย์สุจริต ใชส้ ตปิ ญั ญาอย่างถกู ต้องและเหมาะสมในการ ดำเนินชวี ิต และด้านการกระทำ คือมคี วามขยันหม่นั เพียร อดทน ไมโ่ ลภ ไมต่ ระหน้ี รู้จกั แบ่งปัน และ รับผิดชอบในการอยู่รว่ มกับผ้อู ่นื ในสังคม ระหว่างดำเนนิ การให้ใช้ ๓ หลกั การเปน็ ตวั กำกบั ในการทำกิจกรรม คือ

๖ ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีต่อความจำเป็น และเหมาะสมกับฐานะของตนเอง สังคม สง่ิ แวดลอ้ ม รวมท้ังวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิน่ ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป และต้องไม่เบยี ดเบียนตนเองและผ้อู ื่น ความมเี หตุผล หมายถึง การตดั สินใจดำเนนิ การเร่ืองตา่ ง ๆ อยา่ งมเี หตผุ ลตามหลักวิชาการ หลกั กฎหมาย หลกั ศีลธรรมจรยิ ธรรม และวัฒนธรรมที่ดงี าม โดยพจิ ารณาจากเหตปุ ัจจยั ท่ีเก่ยี วข้อง ตลอดจนคำนงึ ถึงผลทค่ี าดวา่ จะ เกดิ ขนึ้ จากการกระทำนนั้ ๆ อย่างรอบรแู้ ละรอบคอบ ระบบภูมิคุ้มกันในตวั ทด่ี ี หมายถงึ การเตรียมตวั ให้พร้อมรับต่อผลกระทบและการเปลยี่ นแปลงในดา้ นต่าง ๆ ไมว่ ่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ สังคม สงิ่ แวดล้อม และวฒั นธรรม เพอื่ ใหส้ ามารถปรบั ตวั และรบั มอื ไดอ้ ยา่ งทันท่วงที เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาทเ่ี ปน็ ทง้ั แนวคดิ หลักการ และแนวทางปฏบิ ตั ติ นของแต่ละบคุ คล และ องค์กร โดยคำนงึ ถึงความพอประมาณกับศักยภาพของตนเอง และสภาวะแวดล้อม ความมเี หตมุ ผี ล และการมี ภูมคิ มุ้ กนั ทีด่ ีในตวั เอง โดยใชค้ วามร้อู ยา่ งถกู หลักวิชาการด้วยความรอบคอบและระมัดระวงั ควบคู่ไปกบั การมี คณุ ธรรม ซือ่ สตั ย์สจุ รติ ไม่เบียดเบียนกัน แบง่ ปนั ชว่ ยเหลอื ซ่ึงกนั และกัน และรว่ มมือปรองดองกันในสังคม ซึง่ จะชว่ ย เสริมสร้างสายใยเชอ่ื มโยงคนในภาคสว่ นต่าง ๆ ของสงั คมเข้าด้วยกัน สร้างสรรคพ์ ลังในทางบวก นำไปสูค่ วามสามัคคี การพัฒนาทส่ี มดลุ และย่ังยืน พรอ้ มรบั ต่อการเปล่ยี นแปลงภายใต้กระแสโลกาภวิ ัฒน์ได้ การนำเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยุกตใ์ ช้ ต้องคำนงึ ถึง ๔ มติ ิ ดังนี้ ด้านวัตถุ ลดรายจ่าย / เพิ่มรายได้ / ใช้ชวี ติ อยา่ งพอควร / คิดและวางแผนอยา่ งรอบคอบ / มีภมู คิ ุ้มกนั / ไมเ่ สีย่ งเกนิ ไป / การ เผือ่ ทางเลือกสำรอง ด้านสงั คม ช่วยเหลอื เก้ือกูล / ร้รู ักสามัคคี / สรา้ งความเขม้ แข็งใหค้ รอบครวั และชมุ ชน ด้านส่ิงแวดล้อม รจู้ กั ใชแ้ ละจัดการอยา่ งฉลาดและรอบคอบ / เลอื กใชท้ รัพยากรทีม่ ีอยูอ่ ย่างรูค้ ่าและเกิดประโยชนส์ งู สดุ / ฟ้นื ฟู ทรพั ยากรเพื่อให้เกิดความย่ังยืนสงู สดุ ดา้ นวฒั นธรรม รักและเห็นคุณคา่ ในความเป็นไทย เอกลกั ษณ์ไทย / เห็นประโยชน์และคุ้มค่าของภมู ปิ ญั ญาไทย ภมู ิปัญญา ท้องถน่ิ / ร้จู ักแยกแยะและเลือกรับวัฒนธรรมอืน่ ๆ

๗ ขั้นตอนการศึกษาฐานการเรยี นรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ฐานการเรียนรู้ กิจกรรมเลย้ี งไกพ่ นื้ บา้ น ........................................................................................ ๑. นักเรียนลงช่ือเขา้ ร่วมกิจกรรมประจำฐาน ๒. นกั เรยี นศึกษาเอกสาร ตำรา รปู ภาพ และปา้ ยนเิ ทศเก่ยี วกบั ฐานการเรยี นรู้ โดยการสังเกต สอบถาม และเรียนรู้ด้วยตนเอง ๓. นกั เรียนรบั แบบบันทึกผลการศึกษาฐานการเรยี นรู้ ๔. นกั เรียนรับแบบประเมนิ ผลการศึกษาฐานการเรียนรู้ ๕. นักเรยี นซักถามปัญหา วิพากษ์ และสรปุ ร่วมกนั กับนักเรยี นประจำฐานการเรยี นรู้ และครปู ระจำฐานการเรยี นรู้ ๖. สน้ิ สุดกระบวนการเรียนรู้ ..................................................................................

๘ ฐานการเรียนรเู้ ศรษฐกจิ พอเพยี ง กิจกรรมเลี้ยงไก่พื้นบ้าน ๑. วัตถปุ ระสงค์ ๑.๑ วัตถุประสงคก์ ิจกรรมการเรียนรู้ ๑.๑.๑ เพอ่ื ศึกษาเรยี นรเู้ กี่ยวกบั ศาสตร์พระราชา ศาสตร์ท้องถิ่น ศาสตรส์ ากลและกจิ กรรมเลยี้ งไก่พนื้ บา้ น ๑.๑.๒ เพ่ือวิเคราะห์หลักความสอดคล้องของหลกั ทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั กบั กิจกรรมเลีย้ งไก่ พื้นบา้ น ๑.๑.๓ เพื่อถอดบทเรียนความสอดคล้องของหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงกบั กจิ กรรมเล้ียงไก่พื้นบา้ น ๑.๑.๔ เพ่อื นำความรู้ ประสบการณ์ ที่ได้จากกิจกรรมเล้ียงไกพ่ ืน้ บา้ น ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ ๒ วัตถุประสงคข์ องฐาน ๒.๑. เพือ่ เป็นการสร้างรายได้ให้ตนเอง และใหค้ วามรู้แก่นักเรยี นในเรื่องการเลยี้ งไกใ่ ห้โตเร็ว สนอง ความต้องการ ของตลาด ๒.๒ เพื่อใหน้ ักเรยี นมีจิตสำนกึ และตระหนกั ในเรื่องความสะอาด และการรกั ษาส่ิงแวดลอ้ มภายในโรงเรยี นและชุมชน ๒.๓ เพอ่ื นำผลกำไรจากการซื้อขายไก่พ้ืนบา้ น มาใช้ประโยชนท์ างการศึกษาแกน่ ักเรียน ๒.๔ เพอื่ ให้นกั เรยี นมรี ายไดร้ ะหวา่ งเรยี น ๓. กิจกรรมการเรียนรู้ ๓.๑ ศึกษาความร้จู ากเอกสาร ใบความรูข้ องกิจกรรมเลยี้ งไก่พน้ื บ้าน ๓.๒ วทิ ยากรใหค้ วามรู้ (ครูประจำฐาน และนกั เรียนแกนนำ) ๓.๓ ศกึ ษาจากป้ายนิเทศในฐานการเรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียง กิจกรรมเลย้ี งไก่พน้ื บา้ น ๓.๔ สังเกตรปู แบบ บทบาท หน้าท่แี ละวธิ ีการดำเนินงานของกจิ กรรมเลี้ยงไก่พื้นบ้าน เช่น ที่บ้านของตนเอง จาก ฟาร์มไกใ่ กล้บ้าน จากปราชญ์ชาวบา้ น ๓.๕ ผทู้ มี่ าศกึ ษารว่ มซักถาม และแลกเปล่ียนเรียนรู้กับวทิ ยากรประจำฐานการเรียนรู้ กิจกรรมเลี้ยงไกพ่ ื้นบ้าน ๓.๖ รว่ มกนั ระดมความคดิ แลว้ สรปุ สาระความรลู้ งในใบงานของตนเอง ๓.๗ ผู้มาศึกษา อภปิ ราย สนทนา แลกเปลย่ี นเรยี นรู้ซ่งึ กันและกนั

๙ ๓.๘ รว่ มกันถอดบทเรียนความสอดคล้องของหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง หลกั การทรงงานของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หวั และ ๓ ศาสตร์ กบั กิจกรรมเล้ยี งไก่พนื้ บา้ น ๓.๙ รว่ มกนั สรปุ และบันทึกสาระความรู้ที่ได้ลงในสมุดบันทึก ๓.๑๐ นำความรู้และประสบการณท์ ี่ได้ไปประยุกต์ใชแ้ ละขยายผลตอ่ ไป ๔. สือ่ /อุปกรณ์ ๔.๑ สมดุ บนั ทึก เอกสารแนะนำฐานการเรียนรู้เศรฐกจิ พอเพยี ง กิจกรรมเลี้ยงไกพ่ นื้ บ้าน ๔.๒ แบบบันทึกการเรยี นรู้ของฐานการเรียนรู้เศรฐกิจพอเพียง กิจกรรมเลยี้ งไก่พนื้ บ้าน ๕. ความสอดคล้องกับหลกั การทรงงาน - ปลูกจิตสำนกึ - ศกึ ษาข้อมลู อยา่ งเป็นระบบ - การมีส่วนรว่ ม - ทำตามลำดับข้นั คำนึงถงึ ภูมิสังคม - คดิ อยา่ งเปน็ องคร์ วม มองอย่างครบวงจร - พ่งึ พาตนเองจากการพออยู่พอกนิ - ไม่ติดตำรา ประหยัดเรียบง่ายไดป้ ระโยชนส์ งู สดุ ๖. ความสอดคล้องกับหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง (๒:๓:๔) การใชค้ วามรู้ เงือ่ นไขสู่ความพอเพียง - การสร้างโรงเรือน การเสรมิ สร้างคณุ ธรรม - การคดั เลอื กสายพนั ธ์ุไก่ - การใหอ้ าหาร - ความอดทน - การให้วคั ซนี - ความรบั ผิดชอบ - การจำหน่าย - ความขยัน - การประกอบอาหาร - ความซอื่ สตั ย์ - รกั /สามัคคี - การเสียสละ/การช่วยเหลือกนั

๑๐ พอประมาณ หลักความพอเพียง มภี ูมคิ ุ้มกนั ในตวั ทด่ี ี การใหอ้ าหารไก่ให้เหมาะสมกับการ มีเหตผุ ล นกั เรียนมคี วามรู้การเตรยี มโรงเรือน ลงทนุ จำนวนไกเ่ หมาะสมกับ ทีส่ ะอาด แต่งกายให้เหมาะสมกอ่ น โรงเรือน เลา้ ไก่เหมาะสมกับจำนวน เพ่อื เป็นการเรยี นรวู้ ฏั จกั รการเลย้ี ง การเข้าโรงเรอื น นักเรยี นมีความ นกั เรยี น และการใชน้ ำ้ ในการล้าง ไก่ เพื่อสง่ เสรมิ พันธไุ์ ก่บ้าน เพื่อฝึก เขา้ ใจในการทำความสะอาดคอกไก่ คอกไก่อยา่ งประหยัด และคุม้ ค่า ทักษะชวี ติ ใหใ้ ชเ้ วลาว่างให้เกิด ไก่ไดร้ ับวคั ซนี ในสภาพท่เี หมาะสม ประโยชน์ รวมถงึ การดแู ลคอกไก่ให้ สภาพแวดล้อมของโรงเรือนมีความ สะอาดตลอดเวลา ชว่ ยทำให้ ปลอดภยั โรงเรือนเล้ียงไก่ไม่มกี ลิ่นเหม็น ไม่มี มลพิษทางอากาศ และสามารถ นำมาทำเป็นอาหารได้ เปา้ หมายสมดลุ และพรอ้ มรับการเปล่ียนแปลงใน ๔ มิติ ดา้ นวตั ถุ ดา้ นสังคม ด้านส่งิ แวดลอ้ ม ด้านวฒั นธรรม - การใชอ้ ปุ กรณใ์ นการ -นักเรยี นมสี ว่ นร่วมในการ -ทำความสะอาดโรงเรือน -ปฏิบัติตามกฎระเบียบ เล้ยี งไก่ การทำความ เลีย้ งไก่ มีการแบง่ งานกัน ให้สะอาดอยเู่ สมอ ใช้น้ำ การเขา้ - ออก โรงเรือน สะอาดคอกไก่อย่างถูกวธิ ี ทำ มีความเกื้อกูลซึง่ กัน หมักดบั กล่นิ ไมใ่ หส้ ่งกลนิ่ ตามข้อตกลง การให้ เหมาะสม ปลอดภัย และกนั เหม็น เกยี รตกิ นั อากาศถา่ ยเทไดส้ ะดวก อาหารไก่ใช้เศษอาหาร จากโรงอาหารโรงเรียนมา ผสมกับอาหารไก่

๑๑ ๗. การนำไปประยุกตใ์ ช้ ๗.๑ การประยุกต์ใชใ้ นการดำเนินชวี ติ - นำความรู้เกย่ี วกบั การการเล้ยี งไก่ ไปประยุกตใ์ ช้ให้ตรงกับบรบิ ทของตนเอง - นำความรูเ้ กี่ยวกบั การเล้ียงไก่ ไปใช้ในการเพิ่มรายไดใ้ ห้กับครอบครวั และชุมชน - นำความรู้ หลกั คดิ หลกั ทรงงาน ไปประยกุ ตใ์ ช้และดำเนินชวี ิตอยา่ งพอเพียง ๗.๒ การประยุกตใ์ ช้ในภารกิจตามหนา้ ท่ี นำไปประยุกตใ์ ช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนการสอน และมีการบูรณาการในกลุม่ สาระการเรยี นรตู้ าม ธรรมชาตขิ องแต่ละวชิ า และการจดั ภมู ิทศั น์ในโรงเรียนให้เป็นแหล่งเรียนรอู้ ย่างเหมาะสม ๘. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้และข้อเสนอแนะเพิ่มเตมิ สังเกตพฤตกิ รรมขณะทำกิจกรรมของฐานการเรยี นรู้ เช่น สังเกตจากการสนทนา ซักถาม การจดบนั ทกึ แลกเปลี่ยนเรยี นรู้

๑๒ ใบความรู้ เกย่ี วกบั การเลยี้ งไก่พนื้ บา้ น “ไก่ประดหู่ างดำเชยี งใหม่ ๑” เป็นหนง่ึ ในสายพันธ์ุไก่พ้นื เมืองยอดนยิ มที่ได้รับความสนใจจากเกษตรกรเปน็ อยา่ งมาก เพราะมีลักษณะเด่นตรงกับความต้องการของตลาด ท้งั ในดา้ นเนื้อและลกั ษณะภายนอก ทำให้“ ไก่ประดู่ หางดำเชียงใหม่ ๑ เป็นท่นี ิยมเลี้ยงของเกษตรกรในประเทศแล้ว ยังแพรก่ ระจายพนั ธ์ไุ ปในกล่มุ ประเทศเพ่ือนบ้าน ทั้ง ในรูปของลูกพนั ธ์ุและไก่ชำแหละ การสนบั สนุนการเล้ียงไก่ประดู่หางดำเชยี งใหม่ สายพันธไ์ุ ข่ดก ครั้งนี้ สอดคลอ้ งกบั แนวทางนโยบายของ กระทรวงเกษตรฯ ในการลดต้นทนุ ให้เกษตรกร โดยการปรับใชก้ บั เกษตรทฤษฎีใหม่ ทจี่ ะเป็นทางเลือกใหม่ให้ เกษตรกรรายย่อย รายกลาง นำไปเล้ยี งเพื่อบรโิ ภคในชุมชน หรือจำหนา่ ยเปน็ ไข่ไกพ่ รีเมี่ยม รวมท้ังโครงการ พระราชดำริในพ้นื ที่ห่างไกลท่ีมปี ญั หาการขนสง่ อาหาร ลดการนำเข้าพนั ธ์ไุ ก่จากตา่ งประเทศแลว้ ยงั เปน็ แหลง่ อาหารโปรตนี ท่ดี ใี นครัวเรือนของเกษตรกร เพ่ิมการใช้ อาหารทเี่ ป็นวตั ถุดบิ ในท้องถ่ินไม่ต้องจดั ซื้อ เปน็ พืน้ ฐานในการสรา้ งไขไ่ กธ่ รรมชาติ และไขไ่ ก่อินทรีย์ เพื่อรองรบั ตลาด ระดับสูงตอ่ ไป นำไปสูร่ ายได้ท่ีมีความยั่งยนื ในชนบทตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพียงและเกดิ ความเข้มแขง็ ของชมุ ชนมาก ขึ้นในอนาคต นอกจากนผี้ ู้เลย้ี งไกต่ อ้ งมีความรู้ในเรื่องอาหารไก่ , เลา้ ไก่ , การให้วคั ซนี ไก่ , การใหอ้ าหารไก่ และการ ประกอบอาหาร มคี วามรับผิดชอบต่อหนา้ ที่ในการดแู ลให้อาหารไก่ การทำความสะอาดคอกไก่ มีความสามคั ครี ว่ มกนั มคี วามอดทน มงุ่ ม่นั รบั ผดิ ชอบ ทำงานจนประสบความสำเร็จ การให้อาหารไกใ่ หเ้ หมาะสมกบั การลงทุน จำนวนไกเ่ หมาะสมกบั โรงเรือน เล้าไก่เหมาะสมกับจำนวนนกั เรียน และการใชน้ ้ำในการล้างคอกไก่อย่างประหยัด และคุ้มค่า นอกจากนีต้ ้องเรยี นร้วู ฏั จักรการเลยี้ งไก่ ส่งเสรมิ พันธุไ์ ก่บ้าน ฝึกทักษะชวี ติ ให้ใชเ้ วลาว่างให้เกิดประโยชน์ รวมถึงการดูแลคอกไก่ให้สะอาดตลอดเวลา ชว่ ยทำให้โรงเรือนเลยี้ งไก่ไม่มกี ลนิ่ เหมน็ ไม่มีมลพิษทางอากาศ และ สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ ในการเล้ียงไกต่ ้องมีความรู้ในเร่อื งการเตรียมโรงเรือนทส่ี ะอาด แต่งกายให้เหมาะสม กอ่ นการเข้าโรงเรือน นักเรยี นมคี วามเข้าใจในการทำความสะอาดคอกไก่ ไก่ได้รับวัคซีนในสภาพทเี่ หมาะสม สภาพแวดล้อมของโรงเรือนมีความปลอดภยั รวมถงึ การใช้อปุ กรณ์ในการเลีย้ งไก่ การทำความสะอาดคอกไก่อย่างถูกวธิ ี เหมาะสม ปลอดภยั อากาศ ถา่ ยเทไดส้ ะดวก อาหารไกใ่ ช้เศษอาหารจากโรงอาหารโรงเรยี นมาผสมกับอาหารไก่ การให้อาหารโดยแหนแดง โดยนักเรียนมีส่วนรว่ ม ในการเลีย้ งไก่ มกี ารแบ่งงานกันทำ มีความเกื้อกูลซ่ึงกันและกนั ทง้ั การทำความสะอาดโรงเรือนให้สะอาดอยู่เสมอ ใช้ นำ้ หมกั ดบั กล่นิ ไมใ่ ห้สง่ กลิ่นเหม็น และปฏิบัติตามกฎระเบียบ การเข้า - ออก โรงเรือนตามขอ้ ตกลง การให้เกยี รติกัน

๑๓ ใบงาน ฐานการเรยี นร้เู ศรฐกิจพอเพียง กจิ กรรมเลยี้ งไก่พ้ืนบา้ น คำสงั่ : จงตอบคำถามในแตล่ ะขอ้ ต่อไปนี้ ๑. ผ้เู รยี นได้เรียนร้อู ะไรบ้างจากฐานการเรียนรู้เศรฐกิจพอเพียง กจิ กรรมเล้ยี งไกพ่ ้ืนบ้าน .......................................................................................................... ............................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ........................................................... ๒. ผู้เรยี นชอบอะไรมากที่สดุ ในฐานการเรยี นรเู้ ศรฐกจิ พอเพียง กจิ กรรมเล้ียงไก่พน้ื บา้ น ทำไม และเพราะอะไร ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ........................................................................................................................................................................................ ๓. ผ้เู รียนคดิ วา่ ฐานการเรยี นรเู้ ศรฐกจิ พอเพียง กจิ กรรมเลยี้ งไก่พน้ื บา้ น มคี วามเหมาะสม พอเหมาะพอดกี ับภมู สิ ังคม หรอื ไม่ อย่างไร ......................................................................................................................................... ................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................... ๔. ผูเ้ รียนคดิ วา่ อะไร/สง่ิ ใด/การดำเนนิ การใด ทเ่ี ป็นภูมคิ ้มุ กนั ในตวั ที่ดีของฐานการเรียนรเู้ ศรฐกจิ พอเพียง กจิ กรรม เล้ยี งไก่พ้นื บ้าน ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... .......................................................................................... .............................................................................................. ๕. ใหน้ กั เรยี นวิเคราะหว์ า่ ฐานการเรียนรเู้ ศรฐกิจพอเพยี ง กจิ กรรมเลย้ี งไก่พนื้ บา้ น ไดน้ ำหลกั ๒ : ๓ : ๔ ไปใช้ตรงไหน บา้ งและใช้อยา่ งไร .................................................................................. ....................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. .......................................................... ๗. ผู้เรยี นจะนำองคค์ วามที่ได้รับจากฐานการเรียนรเู้ ศรฐกิจพอเพียง กิจกรรมเลีย้ งไก่พื้นบา้ น ไปประยุกตใ์ ชใ้ นการ ดำเนนิ ชวี ิตได้อย่างไรบา้ ง ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... ..................................................................................................................................................................... .....................................................................................................................................................................

๑๔

๑๕ ภาพกจิ กรรมการเรียนการสอน การเตรยี มโรงเรอื น

๑๖ การเตรียมโรงเรอื น

๑๗ การเลยี้ งและจำหนา่ ย

ภาคผนวก

๑๙ บันทกึ การถอดบทเรยี นการดำเนินการจัดกิจกรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ให้เออื้ ต่อการบม่ เพาะอุปนิสยั นกั เรียน “อยอู่ ย่างพอเพยี ง” งานกิจกรรม / ฐานเรียนรู้ / ชมุ นมุ ............................................................. ช่อื ........................................................................... ห้อง ม.............. เลขท่.ี ................... คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรียนเขียนบันทกึ การเรียนรู้ จากประเด็นคำถามต่อไปนี้ ๑. นักเรียนมีเหตุผลอะไร ในการเลอื กปฏิบตั ิกิจกรรมนี้ ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ๒. บทบาทหน้าทข่ี องนักเรียน ในการจดั กจิ กรรมครง้ั น้ี คือ (ตอบได้มากกว่า ๑ บทบาท) ............................................................................................................................. ............................................................ ................................................................................................................................. ....................................................... ...................................................................................... ........................................................................... ....................... ............................................................................................................................. ........................................................... ๓. บทบาทหน้าทด่ี ังกลา่ วมีท่ีมาทไี่ ปอยา่ งไร (อาทิ อาสา/เสนอตนเอง/ได้รบั การเสนอช่ือจากผู้อ่นื เช่น ครู เพอ่ื น/ขาดผรู้ บั ผิดชอบ/ขาดผู้ทถ่ี นดั ดา้ นนี้/ไมถ่ นัดแต่อยากฝกึ ฝนตนเอง ฯลฯ) .............................................................................................................................................................................. ........... ........................................................................................................................ ............................................................... ........................................................................................................................ ............................................................... ............................................................................................................................... ........................................................ ....................................................................................................................................................................................... ๔. นักเรยี นมีวธิ ีทำงาน/ดำเนินการ ตามบทบาทหนา้ ที่อยา่ งไรบ้าง ............................................................................................................................. ............................................................ ........................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................. ....................................................................... .....................................................................................................................................................................

๒๐ ๕. นักเรียนมคี วามรเู้ พยี งพอกับเรอื่ งท่ีศึกษาหรอื ไม่ ถา้ มไี มเ่ พยี งพอจะสามารถหาทางแก้ปญั หานนั้ ได้ หรือไม่อยา่ งไร ............................................................................................................................. ............................................................ ........................................................................................................................................................................................ ........................................................................................................................................................................................ ๖. นักเรียนใช้หลักความพอประมาณ/ทางสายกลาง ในการทำงานอย่างไรบ้าง ............................................................................................................................................................... .......................... ......................................................................................................... ............................................................................... ............................................................................................................................. .......................................................... ๗. ในการดำเนนิ กจิ กรรมตามบทบาทหนา้ ท่ี นักเรยี นได้ใชค้ วามรอู้ ะไรบา้ ง (กรุณาระบใุ หค้ รอบคลุมท้งั หมด) ............................................................................................................................. ............................................................ ....................................................................................... ................................................................................................. ............................................................................................................................................ ............................................ ...................................................................................................... .................................................................................. ............................................................................................................................. ........................................................... ๘. นักเรยี นได้รบั ความรู้อะไรบา้ ง จากการทำงานตามบทบาทหนา้ ทข่ี องตน ............................................................................................................................. ............................................................ ...................................................................................................................... .................................................................. ........................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ........................................................... ๙. นักเรยี นไดใ้ ช้คุณธรรมอะไรบา้ งในการทำงานตามบทบาทหนา้ ที่ของตนจนงานประสบความสำเรจ็ ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................... ......................................................................................... ...................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ .....................................................................................................................................................................

๒๑ ๑๐. ขณะเตรยี มงานและเมื่อลงมอื ทำงาน นักเรียนพบอปุ สรรคและปัญหาอะไรบา้ ง .................................................................................................................................................... ..................................... .............................................................................................. ........................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................... ๑๑. นกั เรยี นมีวธิ ีการแก้ปัญหาอปุ สรรคทีเ่ กดิ ข้นึ อย่างไรบ้าง ............................................................................................................................. ............................................................ ................................................................................................ ......................................................................................... ......................................................................................................................................................................................... ๑๒. นกั เรียนคิดว่าการทำกจิ กรรมครั้งน้ี สร้างคณุ ประโยชนแ์ กน่ กั เรียนและสว่ นรวมอย่างไรบา้ ง .................................................................................................................................................................. ....................... ............................................................................................................ ............................................................................. ......................................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ๑๓. ถา้ นกั เรียนได้มโี อกาสฝกึ ทำกจิ กรรมเปน็ หมูค่ ณะภายในโรงเรยี นอกี ครงั้ สิ่งแรกทีน่ ักเรยี นคำนงึ ถึงคือ อะไรและเพราะเหตุใดจึงต้องคำนงึ ถงึ เปน็ สิ่งแรก ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................................................... ความคิดเหน็ ของครูผรู้ ับผิดชอบประจำกจิ กรรม / ฐานเรียนรู้ / ชมุ นุม ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ......................................................................................................................................................................................... ....................................................................................................... ................................................................................. ลงชือ่ ครผู ู้รับผดิ ชอบประจำกจิ กรรม / ชมุ นมุ (...............................................) ตำแหนง่ ................................................. ลงชื่อ ครูผู้รับผิดชอบประจำกจิ กรรม / ชมุ นุม (...............................................) ตำแหน่ง .................................................

๒๒ การวิเคราะห์ฐานการเรียนรสู้ ู่หลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงด้านการศึกษา กิจกรรม / ฐานการเรียนรู้ / ชุมนมุ .............................................................................................. ชื่อ.................................................................................ช้ัน....................................... โรงเรียนมัธยมดงยาง อำเภอนาดนู จงั หวดั มหาสารคาม องคก์ ารบริหารสว่ นจังหวัดมหาสารคาม เงอ่ื นไขความรู้ เงื่อนไขคณุ ธรรม ............................................... .................................................. .............................................. .................................................. ............................................. .................................................... พอประมาณ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………….............................………………………………… …………………………………………………………………………........................................…………………………………………………… มีเหตุผล …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………........................................…………………………………………………… ภมู คิ มุ้ กนั ในตัวทดี่ ี …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………........................................…………………………………………………… การเช่อื มโยงสู่ ๔ มิติสคู่ วามย่ังยืน วตั ถุ –........................................................................................................................................................................ สังคม –..................................................................................................................................................................... สง่ิ แวดล้อม –............................................................................................................................. ............................. วัฒนธรรม –............................................................................................................................. ...............................

๒๓ คณะกรรมการการจดั ทำฐานการเรยี นรู้/กจิ กรรมการเรียนรู้ หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระดับมัธยมศึกษา ตอนต้นและตอนปลาย โรงเรียนมัธยมดงยาง อำเภอนาดูน จังหวดั มหาสารคาม ๑. คณะกรรมการที่ปรึกษา ๑.๑ นายศภุ ชาติ ชาวพงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียน ประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ ๑.๒ นายมงั กร นอ้ ยเมล์ รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี น ๒. ฐานการเรียนรเู้ ศรษฐกิจพอเพยี ง กจิ กรรมเลย้ี งไก่พ้นื บา้ น ๒.๑ นางสาวอมรรตั น์ มชั ปะโม ครูท่ปี รกึ ษา ๒.๒ นางสาวนิตยา แกว้ ลาย ครูท่ปี รกึ ษา ๒.๓ นางวรวรรณ ไพเราะ ครูท่ปี รึกษา ๒.๔ นางชะไมพร บุสดี ครูที่ปรกึ ษา ๒.๕ นายประณม ไปป่า ครทู ป่ี รึกษา ๓. นักเรียนแกนนำ ฐานการเรียนร้เู ศรษฐกจิ พอเพยี ง กจิ กรรมเลี้ยงไก่พ้นื บา้ น ๓.๑ นางสาวปารฉิ ัตร ปะนามะทัง ๓.๒ นางสาวปาริชาติ ปะนามะทงั ๓.๓ นางสาวชลลธดิ า พลเย่ยี ม ๓.๔ นางสาวจริ ะพร พรชยั ๓.๕ นางสาวจริ าพร ปะนาตา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook