องคค์ วามรู้ เรอ่ื งการปลูกผักสวนครวั พชื ผกั หมายถงึ พืชทส่ี ามารถนำสว่ นใดส่วนหนง่ึ ของตน้ มาประกอบอาหารทั้งผล ดอก ลำตน้ ใบ ราก และหัว เปน็ ท้งั ไม้ยนื ตน้ และไม่ลม้ ลกุ ทม่ี ีถิน่ กำเนิดในประเทศ และตา่ งประเทศ ผักสามารถปลกู ไดใ้ นทกุ ครัวเรอื น แต่ผักท่ีมีการปลูกเพื่อการจำหน่ายมักมาจากแปลงปลูกขนาดใหญ่ สว่ นมาก พบในพ้นื ทภี่ าคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนอื บรเิ วณใกล้แหลง่ น้ำ แม่นำ้ หรอื พื้นที่ท่ี ชลประทานเขา้ ถงึ การสง่ จำหนา่ ยผกั มักส่งจำหน่ายในพ้นื ทีต่ วั เมอื งของจังหวัด บางสว่ นทเ่ี ป็นแปลงขนาดใหญ่มักมีพอ่ ค้าคน กลางเขา้ รับถงึ พนื้ ที่ เพ่ือส่งจำหน่ายยังตวั เมอื งในจงั หวดั ตา่ งๆ รวมถึงกรงุ เทพฯ และภาคใต้ ซ่งึ มีพื้นทีน่ อ้ ยใน การปลูกผัก
2 ชนดิ พืชผัก 1. ผกั สวนครัว เปน็ กลุ่มของพืชผกั ล้มลุกที่มอี ายุการเก็บเกยี่ วส้ัน มกั ปลูกตามครัวเรอื นหรอื แปลง ปลกู ขนาดใหญเ่ พ่ือการคา้ โดยมีการพฒั นาสายพนั ธ์ุใหม้ ีผลผลติ ตามต้องการ มักพบการผลติ เมล็ดพันธุ์ ออกจำหน่ายในเชิงพาณชิ ย์ ท้ังนี้ ไม่รวมพชื ผักท้องถน่ิ หรือผักป่า พืชสมนุ ไพร และเครื่องเทศ รวมถงึ ไม้ผลบาง ชนดิ ทปี่ จั จบุ ันอาจพบการพัฒนา และปลูกเพ่อื การคา้ 2. ผักสมนุ ไพร และเคร่ืองเทศ เปน็ กลุ่มของพืชผักท่สี ามารถใช้ทงั้ ในการประกอบอาหาร เพือ่ ให้ อาหารมสี ี รสชาติ กล่ินตามต้องการ รวมถึงการเพิ่มสรรพคุณทางยาของอาหาร มักเป็นพืชท่ีให้ กลน่ิ แรง มรี ส เผ็ดร้อน โดยสว่ นมากจะใช้สว่ นผล หวั และรากมาใช้ประโยชน์ และเป็นพชื ในท้องถิ่น 3. ผักพืน้ บ้านหรือผกั ปา่ เป็นกลมุ่ ของพืชผักท่ขี ้ึน และเติบโตได้เองตามธรรมชาติหรอื นำมาปลูกใน ครัวเรือน มกี ารเกบ็ ผลผลิตตามฤดกู าล มักเปน็ พืชผกั ประจำทอ้ งถ่ินท่ีเป็นท้ังไม้ยืนตัน และพชื ล้มลุก ผกั สวนครวั – ผักกาดขาว– กะหลำ่ ปลี– กะหล่ำดอก– ผกั ชี– ผกั บงุ้ – ผักคะน้า– พริก– กระเพรา– โหระพา– แมงลัก – ผกั กวางตุ้ง– กระเทียม– ผักหอม– หอมหัวใหญ่– หอมแดง– แตงกวา– ถั่วฝกั ยาว – มะเขือ ได้แก่ มะเขือเปราะ มะเขือพวง มะเขือเทศ มะเขือเคื่อน – หนอ่ ไมฝ้ ร่ัง – ฯลฯ ผักสมุนไพร และเครือ่ งเทศ – ขิง– พรกิ ไท– ดีปลี– กระชาย– ขา่ – ตะไคร–้ ขมนิ้ – ฯลฯ ผกั พืน้ บ้านหรือผักป่า – ผักหวานป่า– หนอ่ ไม–้ สะเดา– ข้ีเหลก็ – แคป่า– แคบา้ น– กระถนิ – ผกั โขมเลก็ ผักโขมหนาม – ตำลึง– ผักแพว– ยอดเหลยี ง– ใบเสย้ี ว– ผกั กูด (ยอดเฟริน์)– ผักขาเขยี ด– ผักกระโดน – เหด็ เผาะ เหด็ แดง เห็ดโคน และเห็ดปา่ ตา่ งๆ – ฯลฯ
3 ชนดิ พืชผัก พืชผกั แบง่ ตามส่วนที่นำมาใช้ประโยชน์ คือ 1. ประเภทกนิ ใบ เช่น คะน้า ผักชี กะหลำ่ ปลี ผักกวางตุง้ เป็นต้น 2. ประเภทกินดอก เชน่ กะหลำ่ ดอก และดอกผกั ชนดิ ตา่ งๆ 3. ประเภทกนิ ผลหรือฝกั เชน่ พริก มะเขือ ฟกั แตงกวา ถั่วฝกั ยาว เป็นต้น 4. ประเภทกินหวั หรอื ราก เช่น ขงิ ขา่ ตะไคร้ กระเทียม เปน็ ตน้ ข้ันตอนการปลกู (ผกั สวนครัว) 1. การเลือกพน้ื ที่ พน้ื ที่ท่ีสามารถปลูกผักได้ดีควรเปน็ พน้ื ท่ที ี่อยูใ่ กล้แหลง่ นำ้ เชน่ บอ่ น้ำขดุ บ่อน้ำธรรมชาติ แมน่ ้ำ คลอง อา่ ง เกบ็ นำ้ คลองชลประทานหรือแนวส่งนำ้ ชลประทาน เนื่องจากพืชผักส่วนใหญ่มีความต้องการนำ้ สูง โดยเฉพาะ หนา้ แลง้ ท่ีอากาศ แห้ง และอัตราการระเหยนำ้ สงู กวา่ ฤดูอื่นๆ จงึ จำเปน็ ต้องมนี ำ้ เพยี งพอเพื่อใหผ้ ักสามารถ เติบโตจนถงึ ฤดูการเกบ็ เกย่ี วได้ 2. การเตรียมแปลง – แปลงปลกู ผกั มักเตรยี มดว้ ยการยกแปลงสงู ประมาณ 20-30 เซนติเมตร หรือขดุ รกร่องลึก เนอ่ื งจากพชื ผัก สว่ นมากมีระบบรากทตี่ ้องการซอนไซในดินที่ร่วนซยุ หน้าดินลกึ – ทำการไถพรวนแปลงท้งิ ไว้ประมาณ 1 อาทิตย์ เพ่ือตากแดด และฆ่าเชอื้ โรค – หวา่ นป๋ยุ หมักหรอื ปุย๋ คอก ร่วมด้วยปุ๋ยเคมี พร้อมไถกลบแปลง – อตั ราการใส่ปุ๋ยในแปลงควรใหม้ ีปุย๋ หมกั หรือปุ๋ยคอกมากกวา่ ปุ๋ยเคมี เช่น 10:1 เนอื่ งจากการใสป่ ยุ๋ เคมีมาก จะทำใหด้ ินเป็นกรด หนา้ ดนิ แน่น 3. การเตรียมเมลด็ พันธ์ุ – เมลด็ พันธุ์ผกั ทใ่ี ชค้ วรมลี ักษณะเปน็ เมลด็ พนั ธุ์ใหม่ อายุเมลด็ พนั ธไ์ุ มถ่ ึง 1 ปี – เมลด็ พนั ธ์ุทีใ่ ชต้ อ้ งเปน็ เมล็ดพันธุ์ทีต่ รงตามชนิดพืชท่ีปลูก และไม่มเี มล็ดพันธ์ุอ่นื ปลอมปน – ทำความสะอาดเมล็ดพันธ์ุ รวมถงึ คัดแยกเมล็ดพนั ธทุ์ ไี่ ม่สมบูรณอ์ อกดว้ ยวธิ นี ำไปแช่น้ำ และนำเมลด็ ที่ลอย น้ำออก – เมลด็ พนั ธุส์ ่วนมาก ก่อนปลูกจะทำการแชน่ ้ำเสียก่อน ซงึ่ ระยะเวลาในการแช่จะแตกตา่ งกันในแต่ละชนดิ ผกั หากเมล็ดพนั ธ์ุท่ีมีเปลอื กหนา แขง็ อาจใชเ้ ลาแช่นาน 2-3 วัน เมล็ดพนั ธุผ์ กั สว่ นมากเปน็ เมลด็ ท่มี เี ปลือก ค่อนข้างบาง ไม่หนา แข็ง สว่ นใหญ่ใช้เวลาแช่ประมาณ 12 ชวั่ โมง – 1 วัน เทา่ นน้ั
4 ชนิดพืชผัก 4. การปลกู สามารถปลกู ได้หลายวธิ ีตามความเหมาะสมของแต่ละชนิดพชื ได้แก่ การหว่านเมล็ด เป็นวิธีท่งี ่าย สะดวก รวดเร็ว และนยิ มท่สี ุด ซง่ึ จะหว่านเมล็ดหลงั การแช่น้ำแล้วหรือหว่าน เมลด็ แหง้ ได้ทันที ผกั ทีนิยมการหว่านเมลด็ มกั เป็นพชื ที่มีลำตน้ ขนาดเลก็ ขนาดทรงพ่มุ น้อย ได้แก่ ผกั ชี ผักบุ้ง เป็นต้น ท้งั นี้ การหว่านเมลด็ อาจเป็นวธิ กี ารเตรยี มกล้าผกั กอ่ นย้ายปลูกในแปลงทเ่ี ตรยี มไว้ การปลกู ดว้ ยต้นกลา้ เป็นวธิ กี ารปลกู ด้วยต้นกล้าผักทเี่ ตรียมได้จากแปลงเพาะกล้าดว้ ยวธิ ีการหวา่ น วธิ ีนีเ้ ปน็ วิธีทใ่ี ช้มากท่ีสดุ สำหรับการปลูกผกั โดยมกั ใชก้ บั พชื ท่มี ีลำตน้ ใหญ่ ทรงพุ่มกว้าง เน่ืองจากใชว้ ิธีการหวา่ นเมลด็ อาจไม่เหมาะสมเพราะไม่สามารถเว้นชว่ งห่างของต้นใหเ้ หมาะสมกบั การเติบโตได้ การหว่านอาจทำใหต้ น้ เจริญเตบิ โตไม่ดี หรืออาจต้องถอนตน้ ทิ้งบางสว่ นซึ่งทำให้สนิ้ เปลืองเมล็ดพันธุเ์ สียเปล่า ผักท่นี ิยมปลูกด้วยวิธีนี้ ได้แก่ กะหล่ำปลี ผักกาดขาว คะน้า มะเขือ พริก เป็นต้น การหยอดเมล็ด เป็นวิธปี ลกู ที่ใช้สำหรบั พชื ผกั ท่ีต้องการระยะห่างระหวา่ งตน้ มาก มกั เป็นพชื ทเ่ี ป็นเถาว์หรือ เครอื ต้นกล้าออกไม่มีความแข็งแรง เหีย่ ว และตายง่ายหากแยกตน้ กลา้ ปลูก เชน่ ถัว่ ฟักยาว แตงกวา ฟักทอง ฟัก มะระ เปน็ ต้น ฝังในแปลงปลูก เปน็ วิธปี ลกู ท่ใี ชก้ บั พืชผกั บางชนิดท่ีมีการแยกหน่อ แยกเหงา้ ออกปลูกเพ่ือขยายจำนวนต้น หรือกอ โดยฝังลงหลุมหรอื แปลงปลกู ไดท้ ันที เช่น ผกั หอม กระเทียม ตะไคร้ ขิง ขา่ กระชาย เป็นตน้ 5. การดูแลรกั ษา – ในระยะแรกของการปลูกช่วง 1 อาทิตยแ์ รก ทั้งการปลูกด้วยการใชเ้ มลด็ การปลกู ด้วยตน้ กล้า และปลกู ดว้ ย การแยกหวั หรอื หน่อ จำเปน็ ต้องมีการใหน้ ้ำอย่างสมำ่ เสมอ อย่างน้อยวันละ 2 คร้งั เชา้ -เย็น จนต้นกล้าต้งั ตัว ได้ – การให้นำ้ จะยงั ให้วันละ 2 คร้ัง ตลอดจนถึงระยะเก็บเก่ียว แต่อาจใหน้ ้ำในปริมาณทน่ี ้อยลง หรือผักบางชนดิ ท่อี าจเวน้ ช่วงหา่ งการให้นำ้ เม่ือถงึ ระยะกอ่ นเก็บเก่ียว – การใสป่ ุย๋ ควรใส่ในระยะหลังปลูก 1-2 อาทติ ย์ หรอื ระยะท่ีตน้ กลา้ ตัง้ ต้นได้แล้วจนถึงระยะกอ่ นการเกบ็ เกยี่ ว ประมาณ 1 เดือน รวมถึงพชื บางชนิดทส่ี ้นิ สดุ การให้ปุย๋ ทีร่ ะยะกอ่ นการติดดอก และผล 6. การเก็บผลผลติ พชื ผกั มกั มรี ะยะการเก็บเก่ยี วไมเ่ กนิ 120 วนั ส่วนมากจะใชเ้ วลาประมาณ 40-60 วนั ขน้ึ กบั ชนดิ ของผัก โดย ผกั กนิ ใบจะมีระยะเวลาการเก็บเกย่ี วส้ันกว่าผักกนิ ดอก และผล
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: