หนังสอื ท่มี อี ยู่โ ก ร ะ ด า ษ แ ต่ ด้ ว ย เปล่ียนแปลงด้าน หยุดยงั้ ทาใหม้ กี าร เขา้ มาช่วยดงึ ใหเ้ ก และเน้ือหา นาหนงั ทท่ี นั สมยั และทาให โดยส่อื การส ภูเขาทอง เพ่อื การ ในระดบั มธั ยมศกึ ษ จกั ษ์ ม.1 เร่อื ง นิร อ่านจบั ใจความสา ตลอดจนเทคนิคก อกี ทงั้ ยงั มกี ารสรา้ ง รว่ ม การออกแบบก เกดิ การเรยี นรจู้ าก
1 สารบญั แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 2 การอา่ นจบั ใจความสาคัญ 3 ความหมายของการอา่ น จับใจความสาคญั 4 หลักการจบั ใจ อา่ นความสาคญั 5 วธิ ีจบั ใจความสาคญั 6 การอา่ นจบั ใจความสาคัญ 7 การพิจารณาตาแหน่ง ใจความสาคญั
สารบัญ (ตอ่ ) 8 ภมู ิหลงั วรรณกรรม 9 ความเป็นมา 10 นิราศ 11 ตัวอย่างนริ าศ 12 ประวตั สิ ุนทรภู่ 13 ผลงานของสนุ ทรภู่ 14 เนอ้ื หาเร่อื งนริ าศภูเขาทอง
สารบญั (ตอ่ ) 15 ลักษณะคาประพันธ์ 16 ศัพท์เสรมิ รู้ 17 คลปิ วดี ีโอ เร่ือง นิราศภูเขาทอง 18 กจิ กรรมเสริมความเข้าใจ ในนิราศ ภเู ขาทอง 19 ลอ่ งเรอื ตามลอย นริ าศภูเขาทอง 20 จบั ค่โู ยงความสัมพันธ์ 21 แบบทดสอบหลงั เรยี น
สารบญั (ตอ่ ) 22 บรรณานกุ รม 23 ผู้จัดทา
ะนาสาหรับผ้สู อน 1. ครคู วรศกึ ษาและทาความเขา้ ใ จบั ใจความสาคญั 2. ครคู วรศกึ ษาและทาความเขา้ ใ เน้อื หา วรรณคดเี รอ่ื งนริ าศภเู 3. ครคู วรคน้ ควา้ และอ่านเน้อื หาท หนงั สอื เรยี น คมู่ อื ครู และหนงั ต่างๆ ในเรอ่ื ง นริ าศภเู ขาทอง
4. ครชู แ้ี จงขนั้ ตอน และ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ (E-BOOK) โดยละเอ เกย่ี วกบั ง คาแกนาระในชห้าสนงัาสหอื รอบั เิ ลผก็ ้สูท ชวั่ โมง 5. ในขณะนกั เรยี นปฏบิ อยา่ ง ทวั่ ถงึ และใหค้ าแนะ กจิ กรรม ต่างๆ และ กระตุน้ ใ ตนเอง ใหม้ ากทส่ี ดุ ตาม คว 6. หลงั จากใชส้ อ่ื หนงั สอ ควร สรุปองคค์ วามรทู้ ไ่ี ด
คาแนะนาสาหรับผู้เรยี น 1. สอ่ื การสอนเรอ่ื ง นริ าศภเู ขาทอง เพอ่ื การอ่านจบั ใจความ สาคญั ประกอบไปดว้ ยหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ E- Book และ ในกจิ กรรมทา้ ยบท 2. เมอ่ื นกั เรยี นเปิดหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ E- Book ให้ นกั เรยี น ศกึ ษาคาแนะนาสาหรบั ผเู้ รยี นและเครอ่ื งมอื ในหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกสใ์ หเ้ ขา้ ใจก่อนเรม่ิ เขา้ สบู่ ทเรยี น 3. กอ่ นการใชห้ นงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ E -Book นกั เรยี นตอ้ ง ทา แบบทดสอบกอ่ นเรยี น กอ่ นการทากจิ กรรมและทา แบบฝึกหดั หลงั เรยี นหลงั จากใชช้ ดุ การสอนทงั้ หมด 4. นกั เรยี นควรทากจิ กรรมการเรยี นรู้ ดว้ ยความมงุ่ มนั่ ตงั้ ใจไม่ ลอกเพอ่ื น 5. หากมขี อ้ สงสยั ใหส้ อบถามครผู คู้ วบคุมการจดั กจิ กรรม การเรยี นการสอน
แบบฝกึ หดั กอ่ นเรยี น คำชี้แจง แบบฝึกหดั กอ่ นเรยี นมขี อ้ สอบจานวน 10 ขอ้ ใหเ้ ลอื กกากคาตอบท่ี ถกู ตอ้ ง 1. ขอ้ ใดเแพสยีดงงถ1งึ ขสอ้จั ธรรมของชวี ติ ไดด้ ที ส่ี ดุ ก. งว้ิ นรกสบิ หกองคลุ แี หลม ดงั ขวากแซมเสย้ี มแทรก แตกไสว ใครทาชคู้ ทู่ า่ นครนั้ บรรลยั กต็ อ้ งไปปีนตน้ น่าขนพอง ข. ถงึ อารามนามวดั ประโคนปัก ไมเ่ หน็ หลกั ลอื เลา่ วา่ เสาหนิ เป็นสาคญั ปันแดนในแผน่ ดนิ มริ สู้ น้ิ สดุ ชอ่ื ทล่ี อื ชา ค. ถงึ บางจากจากวดั พลดั พน่ี ้อง มามวั หมองมว้ นหน้าไมฝ่ ่า ฝืน เพราะรกั ใครใ่ จจดื ไมย่ ดื ยนื จงึ ตอ้ งขนื ในพรากมาจากเมอื ง ง. โอเ้ จดยี ท์ ส่ี รา้ งยงั รา้ งรกั เสยี ดายนกั นึกน่าน้าตากระเดน็ กระน้ีหรอื ช่อื เสยี งเกยี รตยิ ศ จะมหิ มดล่วงหน้าทนั ตาเหน็ 2. ขอ้ ใดสะทอ้ นใหเ้ หน็ วฒั นธรรมในการแต่งกายของคนไทยสมยั ก่อน ก. ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย ข. ทงั้ ผดั หน้าจบั เขมา่ เหมอื นชาวไทย ค. ไอล้ าหน่ึงครง่ึ ทอ่ นกลอนมนั มาก ง. ทงั้ สงิ่ ของขาวเหลอื งเครอ่ื งสาเภา
แบบฝกึ หดั กอ่ นเรียน คำชี้แจง แบบฝึกหดั กอ่ นเรยี นมขี อ้ สอบจานวน 10 ขอ้ ใหเ้ ลอื กกากคาตอบท่ี ถูกตอ้ ง 3. ขอ้ ใดเสพะยีทงอ้ น1ขขนอ้ บธรรมเนียมในอดตี ไดม้ ากทส่ี ดุ ก. เคยหมอบรบั กบั พระจมน่ื ไวย แลว้ ลงในเรอื ทน่ี งั่ บลั ลงั กท์ อง ข. ไปพน้ วดั ทศั นารมิ ทา่ น้า แพประจาจอดรายเขาขายของ ค. ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย พวกหญงิ ชายพรอ้ มเพรยี งมา เมยี งมอง ง. มาทางท่าหน้าจวนจอมผรู้ งั้ คดิ ถงึ ครงั้ ก่อนมาน้าตาไหล 4. ขอ้ ใดกลา่ วถงึ ศลิ ปะสถาปัตยกรรมของเจดยี ภ์ ูเขาทอง ก. อยกู่ ลางทงุ่ รงุ่ โรจน์สนั โดษเด่น เป็นทเ่ี ล่นนาวาคงคาใส ข. ทอ่ี งคก์ ่อยอ่ เหลย่ี มสลบั กนั เป็นสามชนั้ เชงิ ชาน ตระหงา่ นงาม ค. ทงั้ องคฐ์ านราญรา้ วถงึ เกา้ แสก เผลอแยกยอดสดุ กห็ ลุดหกั ง. โอผ้ า่ นเกลา้ เจา้ ประคุณของสุนทร แตป่ างกอ่ นเคยเฝ้าทกุ เชา้ เยน็ 5. ขอ้ ใดไมไ่ ดก้ ล่าวถงึ สง่ิ ก่อสรา้ งในบรเิ วณเจดยี ภ์ ูเขาทอง ก. ทพ่ี น้ื ลานฐานบทั มถ์ ดั บนั ได คงคงลยั ลอ้ มรอบเป็นขอบ คนั ข. มเี จดยี ว์ หิ ารเป็นลานวดั ในจงั หวดั วงแขวงกาแพงกนั้ ค. บนั ไดมสี ด่ี า้ นสาราญรน่ื ตา่ งชมชน่ื ชวนกนั ขน้ึ ชนั้ สาม ง. ประทกั ษณิ จนิ ตนาพยายาม ไดเ้ สรจ็ สามรอบคานบั
แบบฝกึ หดั กอ่ นเรียน คำชี้แจง แบบฝึกหดั ก่อนเรยี นมขี อ้ สอบจานวน 10 ขอ้ ใหเ้ ลอื กกากคาตอบท่ี ถกู ตอ้ ง 6. ขอ้ ใดเไพมยีไ่ ดงก้ 1ลข่าวอ้ ถงึ งานหตั ถกรรม ก. ไปพน้ วดั ทศั นารมิ ท่าน้า แพประจาจอดรายเขาขายของ ข. มแี พรผา้ สารพดั สมี ว่ งตอง ทงั้ สงิ่ ของขาวเหลอื งเครอ่ื งสาเภาฯ ค. ถงึ บา้ นญวนลว้ นแต่โรงแลสะพรงั่ มขี อ้ งขงั กุง้ ปลาไวค้ า้ ขาย ง. ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย พวกหญงิ ชายพรอ้ มเพรยี งมา เมยี งมอง 7. ขอ้ ใดไมป่ รากฏวฒั นธรรมการแต่งกาย ก. ถงึ เกรด็ ยา่ นบา้ นมอญแต่ก่อนเกา่ ข. ผหู้ ญงิ เกลา้ มวยงามตามภาษา ค. เดยี๋ วน้มี อญถอนไรจุกเหมอื นตุ๊กตา ง. ทงั้ ผดั หน้าจบั เขมา่ เหมอื นชาวไทย 8. ความเช่อื ในขอ้ ใดแตกตา่ งจากขอ้ อน่ื ก. ทาบุญบวชกรวดน้าขอสาเรจ็ สรรเพชญโพธญิ าณประมาณหมาย ข. ขอเดชะอานุภาพพระทศพล ใหผ้ อ่ งพน้ ภยั พาลสาราญกายฯ ค. ขอใหส้ มคะเนเถดิ เทวา จะไดผ้ าสกุ สวสั ดจิ ์ ากดั ภยั ง. ขอสมหวงั ตงั้ ประโยชน์โพธญิ าณ ตราบนพิ พานภาคหน้าใหถ้ าวร
แบบฝึกหัดกอ่ นเรยี น คำชี้แจง แบบฝึกหดั กอ่ นเรยี นมขี อ้ สอบจานวน 10 ขอ้ ใหเ้ ลอื กกากคาตอบท่ี ถูกตอ้ ง 9. ขอ้ ใดเบพอยี กงป1ระขวอ้ตั คิ วามเป็นมาของสถานท่ี ก. ตลาดแกว้ แลว้ ไมเ่ หน็ ตลาดตงั้ สองฟากฝัง่ กแ็ ตล่ ว้ นสวน พฤกษา ข. ประทานนามสามโคกเป็นเมอื งตรี ช่อื ปทุมธานีเพราะมบี วั ค. ถงึ เกรด็ ยา่ นบา้ นมอญแตก่ ่อนเก่า ผหู้ ญงิ เกลา้ มวยงามตามภาษา ง. โอป้ างหลงั ครงั้ สมเดจ็ พระบรมโกศมาผกู โบสถก์ ไ็ ดม้ าบูชาชน่ื 10. ชว่ งเวลาใดแตกต่างจากขอ้ อ่นื ก. พอตรตู่ รสู่ รุ ยิ ฉ์ ายขน้ึ พรายพรรณ ใหล้ อ่ งวนั หน่ึงมาถงึ ธานี ข. พอรอนรอนออ่ นแสงพระสรุ ยิ น ถงึ ตาบลกรงุ เกา่ ยงิ่ เศรา้ ใจ ค. จนแจม่ แจง้ แสงตะวนั เหน็ พนั ธุผ์ กั ดนู ่ารกั บรรจงสง่ เกสร ง. ครนั้ รงุ่ เชา้ เขา้ เป็นวนั อุโบสถ เจรญิ รสธรรมาบชู าฉลอง
เฉลยแบบฝึกหดั กอ่ นเรียน คำชี้แจง แบบฝึกหดั ก่อนเรยี นมขี อ้ สอบจานวน 10 ขอ้ ใหเ้ ลอื กกากคาตอบท่ี ถกู ตอ้ ง 1. ขอ้ ใดเแพสยี ดงง1ถงึขสอ้ จั ธรรมของชวี ติ ไดด้ ที ส่ี ดุ ก. งว้ิ นรกสบิ หกองคลุ แี หลม ดงั ขวากแซมเสย้ี มแทรก แตกไสว ใครทาชคู้ ทู่ า่ นครนั้ บรรลยั กต็ อ้ งไปปีนตน้ น่าขนพอง ข. ถงึ อารามนามวดั ประโคนปัก ไมเ่ หน็ หลกั ลอื เลา่ วา่ เสาหนิ เป็นสาคญั ปันแดนในแผน่ ดนิ มริ สู้ น้ิ สุดช่อื ทล่ี อื ชา ค. ถงึ บางจากจากวดั พลดั พน่ี ้อง มามวั หมองมว้ นหน้าไมฝ่ ่า ฝืน เพราะรกั ใครใ่ จจดื ไมย่ ดื ยนื จงึ ตอ้ งขนื ในพรากมาจากเมอื ง ง. โอเ้ จดยี ท์ ส่ี รา้ งยงั รา้ งรกั เสยี ดายนกั นึกน่าน้าตากระเดน็ กระน้ีหรอื ช่อื เสยี งเกยี รตยิ ศ จะมหิ มดลว่ งหน้าทนั ตาเหน็ 2. ขอ้ ใดสะทอ้ นใหเ้ หน็ วฒั นธรรมในการแต่งกายของคนไทยสมยั ก่อน ก. ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย ข. ทงั้ ผดั หน้าจบั เขมา่ เหมอื นชาวไทย ค. ไอล้ าหน่ึงครง่ึ ทอ่ นกลอนมนั มาก ง. ทงั้ สงิ่ ของขาวเหลอื งเครอ่ื งสาเภา
เฉลยแบบฝกึ หัดก่อนเรียน คำชี้แจง แบบฝึกหดั ก่อนเรยี นมขี อ้ สอบจานวน 10 ขอ้ ใหเ้ ลอื กกากคาตอบท่ี ถกู ตอ้ ง 3. ขอ้ ใดเสพะยีทงอ้ น1ขขนอ้ บธรรมเนียมในอดตี ไดม้ ากทส่ี ดุ ก. เคยหมอบรบั กบั พระจมน่ื ไวย แลว้ ลงในเรอื ทน่ี งั่ บลั ลงั กท์ อง ข. ไปพน้ วดั ทศั นารมิ ทา่ น้า แพประจาจอดรายเขาขายของ ค. ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย พวกหญงิ ชายพรอ้ มเพรยี งมา เมยี งมอง ง. มาทางทา่ หน้าจวนจอมผรู้ งั้ คดิ ถงึ ครงั้ ก่อนมาน้าตาไหล 4. ขอ้ ใดกล่าวถงึ ศลิ ปะสถาปัตยกรรมของเจดยี ภ์ เู ขาทอง ก. อยกู่ ลางทงุ่ รงุ่ โรจน์สนั โดษเดน่ เป็นทเ่ี ล่นนาวาคงคาใส ข. ทอ่ี งคก์ ่อยอ่ เหลย่ี มสลบั กนั เป็นสามชนั้ เชงิ ชาน ตระหงา่ นงาม ค. ทงั้ องคฐ์ านราญรา้ วถงึ เกา้ แสก เผลอแยกยอดสดุ กห็ ลุดหกั ง. โอผ้ า่ นเกลา้ เจา้ ประคณุ ของสุนทร แต่ปางก่อนเคยเฝ้าทุกเชา้ เยน็ 5. ขอ้ ใดไมไ่ ดก้ ล่าวถงึ สงิ่ ก่อสรา้ งในบรเิ วณเจดยี ภ์ ูเขาทอง ก. ทพ่ี น้ื ลานฐานบทั มถ์ ดั บนั ได คงคงลยั ลอ้ มรอบเป็นขอบ คนั ข. มเี จดยี ว์ หิ ารเป็นลานวดั ในจงั หวดั วงแขวงกาแพงกนั้ ค. บนั ไดมสี ด่ี า้ นสาราญรน่ื ตา่ งชมช่นื ชวนกนั ขน้ึ ชนั้ สาม ง. ประทกั ษณิ จนิ ตนาพยายาม ไดเ้ สรจ็ สามรอบคานบั
เฉลยแบบฝกึ หดั ก่อนเรียน คำชี้แจง แบบฝึกหดั ก่อนเรยี นมขี อ้ สอบจานวน 10 ขอ้ ใหเ้ ลอื กกากคาตอบท่ี ถูกตอ้ ง 6. ขอ้ ใดเไพมยีไ่ ดงก้ 1ลข่าวอ้ ถงึ งานหตั ถกรรม ก. ไปพน้ วดั ทศั นารมิ ท่าน้า แพประจาจอดรายเขาขายของ ข. มแี พรผา้ สารพดั สมี ว่ งตอง ทงั้ สง่ิ ของขาวเหลอื งเครอ่ื งสาเภาฯ ค. ถงึ บา้ นญวนลว้ นแต่โรงแลสะพรงั่ มขี อ้ งขงั กุง้ ปลาไวค้ า้ ขาย ง. ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย พวกหญงิ ชายพรอ้ มเพรยี งมา เมยี งมอง 7. ขอ้ ใดไมป่ รากฏวฒั นธรรมการแตง่ กาย ก. ถงึ เกรด็ ยา่ นบา้ นมอญแต่ก่อนเกา่ ข. ผหู้ ญงิ เกลา้ มวยงามตามภาษา ค. เดยี๋ วน้มี อญถอนไรจุกเหมอื นตุ๊กตา ง. ทงั้ ผดั หน้าจบั เขมา่ เหมอื นชาวไทย 8. ความเชอ่ื ในขอ้ ใดแตกตา่ งจากขอ้ อน่ื ก. ทาบุญบวชกรวดน้าขอสาเรจ็ สรรเพชญโพธญิ าณประมาณหมาย ข. ขอเดชะอานุภาพพระทศพล ใหผ้ อ่ งพน้ ภยั พาลสาราญกายฯ ค. ขอใหส้ มคะเนเถดิ เทวา จะไดผ้ าสกุ สวสั ดจิ ์ ากดั ภยั ง. ขอสมหวงั ตงั้ ประโยชน์โพธญิ าณ ตราบนพิ พานภาคหน้าใหถ้ าวร
เฉลยแบบฝึกหดั ก่อนเรียน คำชี้แจง แบบฝึกหดั กอ่ นเรยี นมขี อ้ สอบจานวน 10 ขอ้ ใหเ้ ลอื กกากคาตอบท่ี ถกู ตอ้ ง 9. ขอ้ ใดเบพอยี กงป1ระขวอ้ตั คิ วามเป็นมาของสถานท่ี ก. ตลาดแกว้ แลว้ ไมเ่ หน็ ตลาดตงั้ สองฟากฝัง่ กแ็ ตล่ ว้ นสวน พฤกษา ข. ประทานนามสามโคกเป็นเมอื งตรี ช่อื ปทุมธานีเพราะมบี วั ค. ถงึ เกรด็ ยา่ นบา้ นมอญแต่ก่อนเกา่ ผหู้ ญงิ เกลา้ มวยงามตามภาษา ง. โอป้ างหลงั ครงั้ สมเดจ็ พระบรมโกศมาผกู โบสถก์ ไ็ ดม้ าบูชาช่นื 10. ชว่ งเวลาใดแตกต่างจากขอ้ อน่ื ก. พอตรตู่ รสู่ รุ ยิ ฉ์ ายขน้ึ พรายพรรณ ใหล้ ่องวนั หน่ึงมาถงึ ธานี ข. พอรอนรอนออ่ นแสงพระสรุ ยิ น ถงึ ตาบลกรงุ เกา่ ยงิ่ เศรา้ ใจ ค. จนแจม่ แจง้ แสงตะวนั เหน็ พนั ธุผ์ กั ดนู ่ารกั บรรจงสง่ เกสร ง. ครนั้ รงุ่ เชา้ เขา้ เป็นวนั อโุ บสถ เจรญิ รสธรรมาบชู าฉลอง
การอา่ นจบั ใจความสาคญั ความหมายของการอ่านจบั ใจความสาคญั คอื การอ่านเพ่อื จบั ใจความหรอื ขอ้ คดิ ความคดิ สาคญั หลกั ของขอ้ ความ หรอื เรอ่ื งทอ่ี ่าน เป็นขอ้ ความทค่ี ลุมขอ้ ความ อ่นื ๆ ในยอ่ หน้าหน่ึง ๆ ไวท้ งั้ หมด ใจความสาคญั หมายถงึ ใจความทส่ี าคญั และเดน่ ทส่ี ดุ ในย่อหน้า เป็นแก่นของย่อหน้าทส่ี ามารถครอบคลุมเน้ือความ ในประโยคอ่นื ๆ ในย่อหน้านัน้ หรอื ประโยคท่สี ามารถเป็ นหวั เร่อื งของย่อหน้านัน้ ได้ ถ้าตัดเน้ือความของประโยคอ่ืนออก หมด หรอื สามารถเป็นใจความหรอื ประโยคเดย่ี วๆ ได้ โดยไม่ ต้องมปี ระโยคอ่นื ประกอบ ซ่งึ ในแต่ละย่อหน้าจะมปี ระโยคใน ความสาคัญเพียงประโยคเดียว หรืออย่างมากไม่เกิน 2 ประโยค ใจความรอง หมายถึง ใจความ หรือประโยคท่ีขยาย ความประโยคใจความสาคญั เป็นใจความสนับสนุนใจความ สาคญั ใหช้ ดั เจนขน้ึ อาจเป็นการอธบิ ายใหร้ ายละเอยี ด ใหค้ า จากดั ความ ยกตวั อย่าง เปรยี บเทยี บ หรอื แสดงเหตุผลอย่างถ่ี ถว้ น เพอ่ื สนบั สนุนความคดิ สว่ นทม่ี ใิ ชใ่ จความสาคญั และมใิ ช่ ใจความรอง แตช่ ว่ ยขยายความใหม้ ากขน้ึ คอื รายละเอยี ด
หลกั การจบั ใจความสาคัญ 1. ตงั้ จดุ ม่งุ หมายในการอา่ นใหช้ ดั เจน 2. อา่ นเรอ่ื งราวอยา่ งครา่ วๆ พอเขา้ ใจ และเกบ็ ใจความ สาคญั ของ แตล่ ะยอ่ หน้า 3. เมอ่ื อ่านจบใหต้ งั้ คาถามตนเองวา่ เรอ่ื งทอ่ี า่ น มใี คร ทาอะไรทไ่ี หน เมอ่ื ไหร่ อยา่ งไร 4. นาสง่ิ ทส่ี รปุ ไดม้ าเรยี บเรยี งใจความสาคญั ใหมด่ ว้ ย สานวนของตนเองเพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสละสลวย
วิธจี ับใจความสาคัญ วธิ กี ารจบั ใจความมหี ลายอย่าง ขน้ึ อย่กู บั ความชอบว่า อย่างไร เช่น การขีดเส้นใต้ การใช้สีต่างๆ กัน แสดง ความสาคญั มากน้อยของขอ้ ความ การบนั ทกึ ย่อเป็นสว่ นหน่ึง ของการอ่านจบั ใจความสาคญั ทด่ี ี แต่ผทู้ ย่ี อ่ ควรยอ่ ดว้ ยสานวน ภาษาและสานวนของตนเองไมค่ วรยอ่ ดว้ ยการตดั เอาขอ้ ความ สาคญั มาเรยี งต่อกนั เพราะอาจทาใหผ้ ูอ้ ่านพลาดสาระสาคญั บางตอนไปอนั เป็นเหตุใหก้ ารตคี วามผดิ พลาดคลาดเคล่อื นได้ วธิ จี บั ใจความสาคญั มหี ลกั ดงั น้ี 1. พจิ ารณาทลี ะยอ่ หน้า หาประโยคใจความสาคญั ของ แต่ละยอ่ หน้า 3. ตัดส่วนท่ีเป็ นรายละเอียดออกได้ เช่น ตัวอย่าง สานวนโวหาร อุปมาอุปไมย (การเปรยี บเทยี บ) ตวั เลข สถิติ ตลอดจนคาถามหรือคาพูดของผู้เขียนซ่ึงเป็ นส่วนข ยาย ใจความสาคญั 3. สรปุ ใจความสาคญั ดว้ ยสานวนภาษาของตนเอง
การพจิ ารณาตาแหนง่ ใจความสาคญั ๑. เป็ นประโยคหลักของข้อความในย่อหน้า โดยมี ประโยคอ่ืนๆ ช่วยเสริมหรืออธิบายขยายความให้มีความ ละเอยี ดชดั เจนมากขน้ึ เชน่ น้าเป็นทรพั ยากรธรรมชาติทส่ี าคญั และจาเป็นต่อการดารงชวี ติ ของมนุษย์ สตั วแ์ ละพชื สงิ่ มชี วี ติ ถา้ ขาดน้าจะตอ้ งตาย จ า ก ข้ อ ค ว า ม ข้ า ง ต้ น ป ร ะ โ ย ค ส า คั ญ คื อ น้ า เ ป็ น ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ส่ี าคญั และจาเป็นต่อการดารงชวี ติ สว่ นคา สาคญั ของขอ้ ความอยใู่ นประโยคสาคญั คอื “น้า” ๒. เป็นประโยคทม่ี กั จะมคี าสาคญั ปรากฏอย่ใู นประโยค นัน้ เช่น น้าสะอาด คอื น้าท่ไี ม่มสี งิ่ สกปรกและเช้อื โรคเจอื ปน การทาน้าใหส้ ะอาด ทาไดโ้ ดยการตม้ การใชส้ ารเคมี การกรอง และการกลนั่ จากขอ้ ความขา้ งตน้ ประโยคสาคญั คอื น้าสะอาด คอื น้าท่ไี ม่มสี งิ่ สกปรกและเช้อื โรคเจอื ปน ส่วนคาสาคญั ของ ขอ้ ความอยใู่ นประโยคสาคญั คอื “น้าสะอาด”
การพิจารณาตาแหน่งใจความสาคญั ๓. เป็นประโยคหลกั ท่อี าจปรากฏอยู่ตอนต้น ตอนกลาง หรือ ตอนทา้ ยของย่อหน้า อย่างใดอย่างหน่ึงขน้ึ อย่กู บั วัตถุประสงค์ ของผเู้ ขยี น เชน่ - ประโยคสาคญั อยตู่ อนตน้ ของยอ่ หน้า ดวงอาทิตย์เป็นแหล่งให้พลงั งานความร้อนและแสงสว่าง ความรอ้ นจากดว้ ยอาทติ ย์ ทาใหโ้ ลกอบอุ่น แสงจากดวงอาทติ ย์ ทาให้เราเห็นสงิ่ ต่าง ๆ ประโยคสาคญั คือ “ดวงอาทิตย์เป็น แหล่งให้พลงั งานความร้อนและแสงสว่าง” อยู่ตอนต้นของย่อ หน้า - ประโยคสาคญั อยตู่ อนกลางของยอ่ หน้า แม่เสอื และลกู เสอื ๓ ตวั อาศยั อย่ใู นป่าละเมาะใกล้ทุ่งหญ้า ต้นไม้และใบหญ้า ในบริเวณนั้นเริ่มมีสีเหลือง เพราะ ถูก แสงแดดแผดเผา ส่วนน้าในลาธารก็แห้งขอดแม่เสือจึงพา ลูกเสือเดินทางออกมาจากบริเวณนัน้ มุ่งหน้าตรงไปยังทิศ ตะวนั ตก ซ่งึ มภี ูเขาลูกใหญ่อยู่เบ้อื งหน้า แม่เสือคาดหวงั ว่าท่ี ภเู ขาลกู นนั้ จะตอ้ งมอี าหารอุดมสมบรู ณ์ เพราะมนั แลเหน็ ตน้ ไม้ และใบหญ้าเขยี วชอุ่มต่างจากทม่ี นั อยู่ ประโยคสาคัญ คอื “แม่ เสอื จงึ พาลกู เสอื เดนิ ทางออกมาจากบรเิ วณ” อยตู่ อนกลางของ ยอ่ หน้า
การพจิ ารณาตาแหน่งใจความสาคัญ - ประโยคสาคญั อยตู่ อนทา้ ยของยอ่ หน้า เป็นท่ีทราบกันดีว่า ปลาวาฬเป็นสตั ว์ช่างคุยและยงั เป็น นักร้องเพลง แต่บดั น้ีไทราบเพม่ิ เติมว่าการส่งเสยี งร้องเพลง หรอื คุยกนั ของปลาวาฬ มไิ ดเ้ ป็นการส่อื สารของปลาวาฬแบบ ปกติธรรมดา แต่เป็นการเตือนภัย และบอกสภาพแวดล้อม รอบตวั ของปลาวาฬ ปลาวาฬเป็นสตั วเ์ ลย้ี งลกู ดว้ ยนมท่ีมขี นาด ใหญ่ท่ีสุดในโลกชนิดแรกท่ีมีระบบเรดาร์เสียงนา ประโยค สำคญั คือ “ปลาวาฬเป็นสตั ว์เลย้ี งลูกดว้ ยนมทม่ี ีระเรดารเ์ สยี ง นา” อย่ตู อนทา้ ยของย่อหน้า เป็นประโยคสาคญั สรุปเน้ือความ ของย่อหน้าน้ีว่า ปลาวาฬมรี ะบบเรดารเ์ สยี งนาทาง เพ่ือเตอื น ภยั และบอกสภาพแวดลอ้ มรอบตวั ของปลาวาฬ มใิ ช่เสยี งร้อง เพลงหรอื พดู คุยของปลาวาฬ
ความเป็นมา สนุ ทรภ่แู ต่งนิราศภเู ขาทองในปี พ.ศ. ๒๓๗๓ สมยั รชั กาลท่ี ๓ ขณะบวชอยทู่ ่ี วดั ราชบุรณะ (วดั เลยี บ) เวลานนั้ มอี ายไุ ด้ ๕๕ ปี โดยเล่าเร่ืองการเดินทางจากวัดราชบุรณะไป จังหวัด พระนครศรอี ยธุ ยา เพอ่ื นมสั การพระเจดยี ภ์ เู ขาทอง
นิราศ นิราศเป็นงานประพนั ธป์ ระเภทหน่ึงของไทย มมี าตัง้ แต่ สมยั โบราณ เท่าท่ปี รากฏหลกั ฐาน ในปัจจุบนั นิราศเร่ืองแรก ของไทยนัน้ ไดแ้ ก่ โคลงนิราศหรภิ ุญชยั ซ่งึ แต่งข้นึ ในสมยั กรุง ศรอี ยธุ ยา เน้ือหาของนิราศส่วนใหญ่มกั เป็นการคร่าครวญของกวี (ชาย) ต่อสตรอี นั เป็นทร่ี กั เน่ืองจากต้องพลดั พรากจากนางมา ไกล อย่างไรก็ตาม นางในนิราศท่ีกวีพรรณนาว่าจากมานั้น อาจมตี วั ตนจรงิ หรอื ไมก่ ไ็ ด้ แต่กวสี ว่ นใหญ่ถอื วา่ นางผเู้ ป็นทร่ี กั เป็นปัจจยั สาคญั ท่จี ะเอ้อื ใหก้ วแี ต่งนิราศไดไ้ พเราะ แมใ้ นสมยั หลงั กวอี าจไม่ไดใ้ หค้ วามสาคญั เร่อื งการคร่าครวญถึงนาง แต่ เน้นทก่ี ารบนั ทกึ ระยะทาง เหตุการณ์ และอารมณ์ แต่ก็ยงั คงมี บทครวญถงึ นางแทรกอยู่ ดงั เช่นทส่ี ุนทรภู่แต่งนิราศภเู ขาทอง ทงั้ ๆ ทก่ี าลงั บวชอยู่ สุนทรภู่กย็ งั เหน็ ว่าการครวญถงึ สตรเี ป็น สง่ิ จาเป็นในการแต่งนิราศ จงึ กล่าวไว้ ในกลอนตอนท้ายนิราศ เรอ่ื งน้ีวา่ ใชจ่ ะมที ร่ี กั สมคั รมาด แรมนิราศรา้ งมติ รพสิ มยั ซง่ึ คร่าครวญทาทพี ริ พ้ี ไิ ร ตามนิสยั กาพยก์ ลอนแต่ก่อนมา เหมอื นแมค่ รวั ควั่ แกงพะแนงผดั สารพดั เพยี ญชนงั เครอ่ื งมงั สา อนั พรกิ ไทยใบผกั ชเี หมอื นสกี า ต้องโรยหน้าเสียสักหน่อย อรอ่ ยใจ จงทราบความตามจรงิ ทกุ สง่ิ สน้ิ อยา่ นึกนินทาแกลง้ แหนงไฉน
นิราศ (ตอ่ ) เกรด็ ความรู้ วดั ราชบูรณราชวรวิหารหรือวดั เลียบ เป็นวดั เก่าแก่ สรา้ งขน้ึ ตงั้ แตส่ มยั อยธุ ยาโดยพอ่ คา้ ชาวจนี วดั น้ีนบั เป็นหน่ึงใน ๓ วดั สาคญั ประจาราชธานี คอื วดั มหาธาตุ วดั ราชประดษิ ฐ์ และวดั ราชบูรณะ แต่เน่ืองจากวดั ราชบูรณะ ตงั้ อย่ใู กลส้ ถานท่ี สาคัญทางยุทธศาสตร์ คือ สะพานพระพุทธยอดฟ้ าฯและ โรงไฟฟ้า เป็นเหตุให้สง่ิ ก่อสร้างสาคญั ภายในวดั โดยเฉพาะ พระอุโบสถซ่ึงมี ภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือขรัวอินโข่งถูก ระเบดิ ทาลายในระหว่างสงครามโลกครงั้ ท่ี ๒ คงเหลอื แต่พระ ปรางคซ์ ง่ึ สรา้ งในสมยั รชั กาลท่ี ๓
ประวตั ผิ ู้แตง่ \"สุนทรโวหาร (ภู่) เรยี กกนั โดยทวั่ ไปว่า “สุนทรภู่” เกดิ เม่ือวันท่ี ๒๖ มิถุนายน มารดาเป็ นชาวเมืองฉะเชิง พ.ศ. ๒๓๒๙ บดิ าเป็นชาวบา้ นกร่า เมอื งแกลง จงั หวดั ระยอง มารดา เป็นชาว เมอื งฉะเชงิ เทรา ไดร้ บั การศกึ ษาในสานักวดั ชปี ะขาว เม่อื อายุย่างเข้า ๒๒ ปี ขณะเดินทางไปหาบิดาซ่ึงบวชอยู่ท่ี เมอื งแกลงท่านไดแ้ ต่งนิราศเรอ่ื งแรก คอื นิราศเมอื งแกลง เมอ่ื กลบั จากเมอื งแกลงแลว้ ไดถ้ วายตวั เป็นมหาดเลก็ ของพระองค์ เจา้ ปฐมวงศ์ สนุ ทรภ่ไู ดแ้ ต่งนิราศพระบาทเป็นเรอ่ื ง ท่ีสอง เมอ่ื ปลาย พ.ศ. ๒๓๕๐ คราวตามเสดจ็ พระองคเ์ จา้ ปฐมวงศข์ น้ึ ไป นมสั การพระพุทธบาท จงั หวดั สระบุรี นอกจากน้ียงั ได้แต่ง นิราศเร่ืองอ่ืนๆ อีก เช่น นิราศภูเขาทอง นิราศพระประธม นริ าศเมอื งเพชร เป็นตน้
ประวตั ผิ ้แู ตง่ (ต่อ) สุนทรภู่ได้เข้ารบั ราชการในสมยั พระบาทสมเด็จพระ พุทธเลิศหล้านภาลยั โดยได้ แสดงความสามารถในการแต่ง กลอนจนเป็ นท่ีพอพระราชหฤทัย ได้รับพระราชทาน บรรดาศกั ดิ ์ เป็นขุนสนุ ทรโวหาร และไดเ้ ป็นพระอาจารยถ์ วาย พระอกั ษรแก่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้า อาภรณ์ เม่ือ รชั กาลท่ี ๒ สวรรคต สุนทรภ่ไู ดอ้ อกบวช ขณะบวชไดเ้ ดินทาง ไปหวั เมอื งต่างๆ และ เป็นพระอาจารยถ์ วายพระอกั ษรแก่เจา้ ฟ้าชายกลางและเจา้ ฟ้าชายปิ๋ว เม่อื สุนทรภู่ลาสกิ ขาบท ไดเ้ ขา้ รบั ราชการอยกู่ บั พระองคเ์ จา้ ลกั ขณานุคุณ พระเจา้ ลูกยาเธอใน พระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั เมอ่ื พระองค์เจา้ ลกั ขณา นุคุณสน้ิ พระชนม์ กรมหมน่ื อปั สรสดุ าเทพ ทรงชุบเล้ยี งสนุ ทรภู่ ต่อมา ครนั้ ในรชั สมยั พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หวั สุนทรภู่ได้เขา้ รบั ราชการอยู่กบั พระบาทสมเดจ็ พระป่ิ นเกล้า เจ้าอยู่หวั และได้รบั พระราชทานบรรดาศกั ดเิ์ ป็น พระสุนทร โวหาร รับราชการระยะหลังอยู่ ๕ ปี ถึงแก่กรรมใน พ.ศ. ๒๓๙๔ รวมอายไุ ด้ ๗๐ ปี
ผลงานทางดา้ นวรรณคดขี องสนุ ทรภู่ ๑. นิราศ มจี านวน ๙ เร่อื ง คอื นิราศเมอื งแกลง นิราศพระ บาท นิราศภูเขาทอง นิราศเมอื งเพชร นิราศวดั เจ้าฟ้า นิราศ อเิ หนา นริ าศสพุ รรณ ราพนั พลิ าป และนิราศพระประธม ๒. นิทานมจี านวน ๕ เร่อื ง คอื โคบุตร พระอภยั มณี พระ ไชยสรุ ยิ า ลกั ษณวงศ์ และสงิ หไตรภพ ๓. บทละครมี ๑ เรอ่ื ง คอื อภยั นุราช ๔. บทเสภามี ๒ เร่อื ง คอื เสภาเร่อื งขุนช้างขุนแผนตอน กาเนิดพลายงาม และ เสภาพระพงศาวดาร ๕. สุภาษิตมี ๒ เร่ือง คือ สวัสดิรักษา เพลงยาวถวาย โอวาท ๖. บทเห่กล่อมมี ๔ เร่อื ง คอื เห่เร่อื งจบั ระบา เห่เร่อื งกากี เหเ่ รอ่ื งพระอภยั มณี และเหเ่ รอื งโคบุตร
ผลงานทางด้านวรรณคดขี องสุนทรภู่ (ต่อ) วรรณคดีของสุนทรภู่ได้รับการยกย่องว่ามีคุณค่าสู ง โดยเฉพาะนิราศ สุนทรภู่ มิได้เพ่งเล็งความรักอย่างเดียว หากแต่สอดแทรกคตธิ รรม ตานาน และอารมณ์ของกวี ลกั ษณะ วรรณคดขี องสนุ ทรภ่มู ลี กั ษณะเฉพาะตนดงั น้ี ๑. ด้านวรรณศลิ ป์ สุนทรภู่จะเขยี นกลอนโดยใช้ถ้อยคา สามญั มคี วามลกึ ซง้ึ และ สรา้ งจนิ ตนาการไดแ้ จ่มชดั คากลอนมี สมั ผสั ใน มลี ลี าจงั หวะและเสยี งของคากลมกลนื กนั ๒. ด้านความรู้สุนทรภู่จะสอดแทรกความรู้ไว้ตลอดทงั้ เรอ่ื งไมว่ ่าจะเป็นนิทานพน้ื บา้ น ตานาน นิยาย ประเพณี ประวตั ิ สถานท่ี เกรด็ ความรตู้ ่างๆ สภาพของสงั คมและความเป็นอยขู่ อง ประชาชน ๓. ด้านคติธรรม สุนทรภู่จะสอดแทรกแง่คิดเก่ียวกับ ความจรงิ แห่งชวี ติ และคตธิ รรม ต่างๆ เพ่อื ยกระดบั จติ ใจของ ผูอ้ ่านใหส้ ูงขน้ึ แง่คดิ เหล่านัน้ สอนผูอ้ ่านใหป้ ระกอบความดี ละ ความชวั่ ทงั้ สน้ิ ๔. ดา้ นสรา้ งองค์ประกอบของเร่อื ง ไดแ้ ก่ การสรา้ งฉาก โครงเร่อื ง ตวั ละคร จะมี ความใกล้เคยี งกบั ชวี ติ จรงิ และสภาพ ความเป็ นจริง ตัวละครจะมีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึกนึกคิด เชน่ เดยี วกบั คนทวั่ ไป ทาใหเ้ รอ่ื งมคี วามสนุกและน่าอ่าน
เรอ่ื งย่อ สุนทรภู่เรม่ิ เร่อื งดว้ ยการปรารภถงึ สาเหตุทต่ี ้องออกจากวดั ราชบุรณะและการเดนิ ทางโดยเรอื พรอ้ มหนูพดั ซง่ึ เป็นบุตรชาย ล่องไปตามลาน้าเจา้ พระยาผ่านพระบรมมหาราชวงั จนมาถึง วดั ประโคนปัก ผ่านโรงเหล้า บางจาก บางพลู บางโพ บ้าน ญวน วดั เขมา ตลาดแกว้ ตลาดขวญั บางธรณี เกาะเกรด็ บาง พูด บ้านใหม่ บางเด่ือ บางหลวง เชิงราก สามโคก บ้านง้ิว เกาะใหญ่ราชคราม จนถงึ กรุงเก่าเม่อื เวลาเยน็ โดยจอดเรือพกั ทท่ี า่ น้าวดั พระเมรุ ครนั้ รงุ่ เชา้ จงึ ไปนมสั การเจดยี ภ์ เู ขาทองสว่ น ขากลบั สุนทรภู่กล่าวแต่เพยี งว่า เม่อื ถงึ กรุงเทพ ไดจ้ อดเทยี บ เรอื ทา่ น้าหน้าวดั อรณุ ราชวรารามราชวรมหาวหิ าร
เน้อื เรื่องนิราศภูเขาทอง ๏เดอื นสบิ เอด็ เสรจ็ ธุระพระวสา รบั กฐนิ ภญิ โญโมทนา ชุลลี าลงเรอื เหลอื อาลยั ออกจากวดั ทศั นาดอู าวาส เมอ่ื ตรษุ สารทพระวสาไดอ้ าศยั สามฤดอู ยดู่ ไี มม่ ภี ยั มาจาไกลอารามเมอ่ื ยามเยน็ โออ้ าวาสราชบุรณะพระวหิ าร แต่น้ีนานนบั ทวิ าจะมาเหน็ เหลอื ราลกึ นึกน่าน้าตากระเดน็ เพราะขกุ เขญ็ คนพาลมารานทาง จะยกหยบิ ธบิ ดเี ป็นทต่ี งั้ กใ็ ชถ้ งั แทนสดั เหน็ ขดั ขวาง จง่ึ จาลาอาวาสนิราศรา้ ง มาอา้ งวา้ งวญิ ญาณ์ในสาครฯ ๏ ถงึ หน้าวงั ดงั หน่ึงใจจะขาด คดิ ถงึ บาทบพติ รอดศิ ร โอผ้ า่ นเกลา้ เจา้ ประคุณของสุนทร แต่ปางก่อนเคยเฝ้าทุกเชา้ เยน็ พระนิพพานปานประหน่ึงศรี ษะขาด ดว้ ยไรญ้ าตยิ ากแคน้ ถงึ แสนเขญ็ ทงั้ โรคซ้ากรรมซดั วบิ ตั เิ ป็น ไมเ่ ลง็ เหน็ ทซ่ี ง่ึ จะพง่ึ พา จะสรา้ งพรอุตสา่ หส์ ง่ สว่ นบุญถวาย ประพฤตฝิ ่ายสมถะทงั้ วสา เป็นสงิ่ ของฉลองคณุ มุลกิ า ขอเป็นขา้ เคยี งพระบาททุก ชาตไิ ปฯ ๏ ถงึ หน้าแพแลเหน็ เรอื ทน่ี งั่ คดิ ถงึ ครงั้ กอ่ นมาน้าตาไหล เคยหมอบรบั กบั พระจม่นื ไวย แลว้ ลงในเรอื ทน่ี งั่ บลั ลงั กท์ อง เคยทรงแต่งแปลงบทพจนารถ เคยรบั ราชโองการอ่านฉลอง จนกฐนิ สน้ิ แมน่ ้าแลลาคลอง มไิ ดข้ อ้ งเคอื งขดั หทั ยา เคยหมอบใกลไ้ ดก้ ลนิ่ สคุ นธต์ ลบ ละอองอบรสรน่ื ช่นื นาสา สน้ิ แผน่ ดนิ สน้ิ รสสคุ นธา วาสนาเรากส็ น้ิ เหมอื นกลนิ่ สุคนธฯ์
เน้ือเร่ืองนิราศภูเขาทอง (ตอ่ ) ๏ ดใู นวงั ยงั เหน็ หอพระอฐั ิ ตงั้ สตเิ ตมิ ถวายฝ่ายกุศล ทงั้ ป่ินเกลา้ เจา้ พภิ พจบสกล ใหผ้ อ่ งพน้ ภยั สาราญผา่ นบุรนิ ทรฯ์ ๏ ถงึ อารามนามวดั ประโคนปัก ไมเ่ หน็ หลกั ลอื เลา่ วา่ เสาหนิ เป็นสาคญั ปันแดนในแผน่ ดนิ มริ สู้ น้ิ สดุ ชอ่ื ทล่ี อื ชา ขอเดชะพระพทุ ธคุณชว่ ย แมน้ มอดมว้ ยกลบั ชาตวิ าสนา อายุยนื หมน่ื เทา่ เสาศลิ า อยคู่ ฟู่ ้าดนิ ไดด้ งั ใจปอง ไปพน้ วดั ทศั นารมิ ท่าน้า แพประจาจอดรายเขาขายของ มแี พรผา้ สารพดั สมี ว่ งตอง ทงั้ สง่ิ ของขาวเหลอื งเครอ่ื ง สาเภาฯ ๏ ถงึ โรงเหลา้ เตากลนั่ ควนั โขมง มคี นั โพงผกู สายไวป้ ลายเสา โอบ้ าปกรรมน้านรกเจยี วอกเรา ใหม้ วั เมาเหมอื นหน่ึงบา้ เป็นน่า อาย ทาบุญบวชกรวดน้าขอสาเรจ็ สรรเพชญโพธญิ าณประมาณ หมาย ถงึ สุราพารอดไมว่ อดวาย ไมใ่ กลก้ รายแกลง้ เมนิ กเ็ กนิ ไป ไมเ่ มาเหลา้ แลว้ แตเ่ รายงั เมารกั สดุ จะหกั หา้ มจติ คดิ ไฉน ถงึ เมาเหลา้ เชา้ สายกห็ ายไป แต่เมาใจน้ีประจาทกุ ค่าคนื ฯ ๏ ถงึ บางจากจากวดั พลดั พน่ี ้อง มามวั หมองมว้ นหน้าไมฝ่ ่าฝืน เพราะรกั ใครใ่ จจดื ไมย่ ดื ยนื จงึ ตอ้ งขนื ในพรากมาจากเมอื ง ถงึ บางพลคู ดิ ถงึ คเู่ มอ่ื อยคู่ รอง เคยใสซ่ องสง่ ใหล้ ว้ นใบเหลอื ง ถงึ บางพลดั เหมอื นพพ่ี ลดั มาขดั เคอื ง ทงั้ พลดั เมอื งพลดั สมรมารอ้ นรน ถงึ บางโพธโิ ์ อพ้ ระศรมี หาโพธิ ์ รม่ รโิ รธรกุ ขมลู ใหพ้ นู ผล ขอเดชะอานุภาพพระทศพล ใหผ้ อ่ งพน้ ภยั พาลสาราญกายฯ
เนอื้ เร่ืองนริ าศภูเขาทอง (ต่อ) ๏ ถงึ บา้ นญวนลว้ นแต่โรงแลสะพรงั่ บม่ ขี อ้ งขงั กุง้ ปลาไวค้ า้ ขาย ตรงหน้าโรงโพงพางเขาวางราย พวกหญงิ ชายพรอ้ มเพรยี งมาเมยี ง มอง จะเหลยี วกลบั ลบั เขตประเทศสถาน ทรมานหมน่ ไหมฤ้ ทยั หมอง ถงึ เขมาอารามอรา่ มทอง พง่ึ ฉลองเลกิ งานเมอ่ื วานซนื ฯ ๏ โอป้ างหลงั ครงั้ สมเดจ็ พระบรมโกศ มาผกู โบสถก์ ไ็ ดม้ าบูชาชน่ื ชมพระพมิ พร์ มิ ผนงั ยงั ยงั่ ยนื ทงั้ แปดหมน่ื สพ่ี นั ไดว้ นั ทา โอค้ รงั้ น้ีมไิ ดเ้ หน็ เล่นฉลอง เพราะตวั ตอ้ งตกประดาษวาสนา เป็นบญุ น้อยพลอยนึกโมทนา พอนาวาตดิ ชลเขา้ วนเวยี น ดนู ้าวง่ิ กลง้ิ เชย่ี วเป็นเกลยี วกลอก กลบั กระฉอกฉาดฉนั ฉวดั เฉวยี น บา้ งพลุ่งพลุ่งวงุ้ วงเหมอื นกงเกวยี น ดเู ปลย่ี นเปลย่ี นควา้ งควา้ งเป็น หวา่ งวน ทงั้ หวั ทา้ ยกรายแจวกระชากจว้ ง ครรไลล่วงเลยทางมากลางหน โอเ้ รอื พน้ วนมาในสาชล ใจยงั วนหวงั สวาทไมค่ ลาดคลาฯ ๏ ตลาดแกว้ แลว้ ไมเ่ หน็ ตลาดตงั้ สองฟากฝัง่ กแ็ ต่ลว้ นสวนพฤกษา โอร้ นิ รนิ กลน่ิ ดอกไมใ้ กลค้ งคง เหมอื นกลน่ิ ผา้ แพรดาร่ามะเกลอื เหน็ โศกใหญ่ใกลน้ ้าระกาแฝง ทงั้ รกั แซงแซมสวาทประหลาด เหลอื เหมอื นโศกพท่ี ร่ี ะกากซ็ ้าเจอื เพราะรกั เรอ้ื แรมสวาทมาคลาดคลาย ถงึ แขวงนนทช์ ลมารคตลาดขวญั มพี ว่ งแพแพรพรรณเขาคา้ ขาย ทงั้ ของสวนลว้ นแต่เรอื เรยี งราย พวกหญงิ ชายชมุ กนั ทุกวนั คนื ฯ
เน้ือเรือ่ งนิราศภูเขาทอง (ตอ่ ) ๏ มาถงึ บางธรณที วโี ศก ยามวโิ ยคยากใจใหส้ ะอน้ื โอส้ ธุ าหนาแน่นเป็นแผน่ พน้ื ถงึ สห่ี มน่ื สองแสนทงั้ แดนไตร เมอ่ื เคราะหร์ า้ ยกายเรากเ็ ทา่ น้ี ไมม่ ที พ่ี สธุ าจะอาศยั ลว้ นหนามเหน็บเจบ็ แสบคบั แคบใจ เหมอื นนกไรร้ งั เรอ่ ยเู่ อกาฯ ๏ ถงึ เกรด็ ยา่ นบา้ นมอญแต่กอ่ นเก่า ผหู้ ญงิ เกลา้ มวยงามตามภาษา เดยี๋ วน้ีมอญถอนไรจกุ เหมอื นตุ๊กตา ทงั้ ผดั หน้าจบั เขมา่ เหมอื นชาว ไทย โอส้ ามญั ผนั แปรไมแ่ ทเ้ ทย่ี ง เหมอื นอยา่ งเยย่ี งชายหญงิ ทง้ิ วสิ ยั น่ีหรอื จติ คดิ หมายมหี ลายใจ ทจ่ี ติ ใครจะเป็นหน่ึงอยา่ พงึ คดิ ฯ ๏ ถงึ บางพดู พดู ดเี ป็นศรศี กั ดิ ์ มคี นรกั รสถอ้ ยอรอ่ ยจติ แมน้ พดู ชวั่ ตวั ตายทาลายมติ ร จะชอบผดิ ในมนุษยเ์ พราะ พดู จาฯ ๏ ถงึ บา้ นใหมใ่ จจติ กค็ ดิ อา่ น จะหาบา้ นใหมม่ าดเหมอื น ปรารถนา ขอใหส้ มคะเนเถดิ เทวา จะไดผ้ าสกุ สวสั ดจิ ์ ากดั ภยั ถงึ บางเดอ่ื โอม้ ะเดอ่ื เหลอื ประหลาด บงั เกดิ ชาตแิ มลงหวม่ี ใี นไส้ เหมอื นคนพาลหวานนอกยอ่ มขมใน อปุ ไมยเหมอื นมะเด่อื เหลอื ระอา ถงึ บางหลวงเชงิ รากเหมอื นจากรกั สเู้ สยี ศกั ดสิ ์ งั วาสพระศาสนา เป็นล่วงพน้ รนราคราคา ถงึ นางฟ้าจะมาใหไ้ มไ่ ยดฯี
เน้อื เร่อื งนริ าศภูเขาทอง (ต่อ) ๏ ถงึ สามโคกโศกถวลิ ถงึ ป่ินเกลา้ พระพทุ ธเจา้ หลวงบารงุ ซง่ึ กรงุ ศรี ประทานนามสามโคกเป็นเมอื งตรี ช่อื ปทมุ ธานีเพราะมบี วั โอพ้ ระคณุ สญู ลบั ไมก่ ลบั หลงั แต่ช่อื ตงั้ กย็ งั อยเู่ ขารทู้ วั่ โอเ้ ราน้ีทส่ี นุ ทรประทานตวั ไมร่ อดชวั่ เชน่ สามโคกยงิ่ โศกใจ สน้ิ แผน่ ดนิ สน้ิ นามตามเสดจ็ ตอ้ งเทย่ี วเตรด็ เตรห่ าทอ่ี าศยั แมน้ กาเนิดเกดิ ชาตใิ ดใด ขอใหไ้ ดเ้ ป็นขา้ ฝ่าธุลี สน้ิ แผน่ ดนิ ขอใหส้ น้ิ ชวี ติ บา้ ง อยา่ รรู้ า้ งบงกชบทศรี เหลอื อาลยั ใจตรมระทมทวี ทุกวนั น้ีกซ็ งั ตายทรงกายมาฯ ไมม่ ฝี งู สตั วส์ งิ กง่ิ พฤกษา ๏ ถงึ บา้ นงว้ิ เหน็ แต่งว้ิ ละลวิ่ สงู นึกกน็ ่ากลวั หนามขามขามใจ ดว้ ยหนามดกรกดาษระดะตา ดงั ขวากแซมเสย้ี มแทรกแตก งว้ิ นรกสบิ หกองคุลแี หลม ไสว กต็ อ้ งไปปีนตน้ น่าขนพอง ใครทาชคู้ ทู่ า่ นครนั้ บรรลยั ยงั คลาดแคลว้ ครองตวั ไมม่ วั เราเกดิ มาอายเุ พยี งน้ีแลว้ หมอง เจยี นจะตอ้ งปีนบา้ งหรอื อยา่ งไรฯ ทุกวนั น้ีวปิ รติ ผดิ ทานอง ตดั สวาทตดั รกั มยิ กั ไหว ถงึ เกาะใหญ่ราชครามพอยามเยน็ ๏ โอค้ ดิ มาสารพดั จะตดั ขาด ระวงั ทงั้ สตั วน์ ้าจะทาเขญ็ ถวลิ หวงั นงั่ นึกอนาถใจ ดหู า่ งยา่ นบา้ นชอ่ งทงั้ สองฝัง่ เทย่ี วซ่อนเรน้ ตเี รอื เหลอื ระอา เป็นทอ่ี ยผู่ รู้ า้ ยไมว่ ายเวน้ ฯ
เนอื้ เร่ืองนิราศภูเขาทอง (ตอ่ ) ๏ พระสรุ ยิ งลงลบั พยบั ฝน ดมู วั มนมดื มดิ ทุกทศิ า ถงึ ทางลดั ตดั ทางมากลางนา ทงั้ แฝกคาแขมกกขน้ึ รกเรย้ี ว เป็นเงางา้ น้าเจง่ิ ดเู วง้ิ วา้ ง ทงั้ กวา้ งขวางขวญั หายไมว่ ายเหลยี ว เหน็ ดมุ่ ดมุ่ หนุ่มสาวเสยี งกราวเกรยี ว ลว้ นเรอื เพรยี วพรอ้ มหน้าพวกปลา เลย เขาถอ่ คลอ่ งวอ่ งไวไปเป็นยดื ๆ เรอื เราฝืดเฝือมานิจจาเอ๋ย ตอ้ งถ่อค้าร่าไปทงั้ ไมเ่ คย ประเดยี๋ วเสยสวบตรงเขา้ พงรก กลบั ถอยหลงั รงั้ รอเฝ้าถ่อถอน เงยี บสงดั สตั วป์ ่าคณานก เรอื ขยอ่ นโยกโยนกระโถนหก พดั น้าคา้ งตกพรา่ งพรายพระพาย ไมเ่ หน็ คลองตอ้ งคา้ งอยกู่ ลางทงุ่ เป็นกลุม่ กลุ่มกลุม้ กายเหมอื นทรายซดั พอหยดุ ยงุ ฉู่ชมุ มารุมกดั ตอ้ งนงั่ ปัดแปะไปมไิ ดน้ อนฯ
เน้อื เรื่องนิราศภเู ขาทอง (ตอ่ ) ๏ แสนวติ กอกเอย๋ มาอา้ งวา้ ง ในทงุ่ กวา้ งเหน็ แต่แขมแซม สลอน จนดกึ ดาวพราวพรา่ งกลางอมั พร กาเรยี นรอ่ นรอ้ งกอ้ งเมอ่ื สองยาม ทงั้ กบเขยี ดเกรยี ดกรดี จงั หรดี เรอ่ื ย พระพายเฉ่อื ยฉวิ ฉิววะหววิ หวาม วงั เวงจติ คดิ คะนึงราพงึ ความ ถงึ เมอ่ื ยามยงั อดุ มโสมนสั สารวลกบั เพอ่ื นรกั สะพรกั พรอ้ ม อยแู่ วดลอ้ มหลายคนปรนนิบตั ิ โอย้ ามเขญ็ เหน็ อยแู่ ต่หนูพดั ชว่ ยนงั่ ปัดยงุ ใหไ้ มไ่ กลกาย จนเดอื นเดน่ เหน็ กอกระจบั จอก ระดะดอกบวั เผอ่ื นเมอ่ื เดอื นหงาย เหน็ รอ่ งน้าลาคลองทงั้ สองฝ่าย จนแจม่ แจง้ แสงตะวนั เหน็ พนั ธผุ์ กั ขา้ งหน้าทา้ ยถ่อมาในสาคร เหลา่ บวั เผอ่ื นแลสลา้ งรมิ ทางจร ดนู ่ารกั บรรจงสง่ เกสร สายตงิ่ แกมแซมสลบั ตน้ ตบั เต่า กา้ มกุง้ ซอ้ นเสยี ดสาหรา่ ยใตค้ งคา ขวา เป็นเหลา่ เหล่าแลรายทงั้ ซา้ ย กระจบั จอกดอกบวั บานผกา โอเ้ ชน่ น้ีสกี าไดม้ าเหน็ ดาษดาดขู าวดงั่ ดาวพราย หมาย จะลงเลน่ กลางทงุ่ เหมอื นมงุ่ ทม่ี เี รอื น้อยน้อยจะลอยพาย ถงึ ตวั เราเลา่ ถา้ ยงั มโี ยมหญงิ เทย่ี วถอนสายบวั ผนั สนั ตะวา คงจะใชใ้ หศ้ ษิ ยท์ ต่ี ดิ มา ไหนจะน่ิงดดู ายอายบปุ ผา น่ีจนใจไมม่ เี ทา่ ขเ้ี ลบ็ อุตสา่ หห์ าเอาไปฝากตามยากจน พอรอนรอนออ่ นแสงพระสรุ ยิ น ขเ้ี กยี จเกบ็ เลยทางมากลางหน ถงึ ตาบลกรงุ เกา่ ยงิ่ เศรา้ ใจฯ
เน้ือเรอ่ื งนริ าศภูเขาทอง (ต่อ) ๏ มาทางทา่ หน้าจวนจอมผรู้ งั้ คดิ ถงึ ครงั้ ก่อนมาน้าตาไหล จะแวะหาถา้ ทา่ นเหมอื นเมอ่ื เป็นไวย กจ็ ะไดร้ บั นิมนตข์ น้ึ บนจวน แตย่ ามยากหากวา่ ถา้ ทา่ นแปลก อกมแิ ตกเสยี หรอื เราเขาจะสรวล เหมอื นเขญ็ ใจใฝ่สงู ไมส่ มควร อปั ระมาณฯ จะตอ้ งมว้ นหน้ากลบั ๏ มาจอดทา่ หน้าวดั พระเมรขุ า้ ม รมิ อารามเรอื เรยี งเคยี งขนาน บา้ งขน้ึ ลอ่ งรอ้ งลาเล่นสาราญ ทงั้ เพลงการเกย้ี วแกก้ นั แซเ่ ซง็ บา้ งฉลองผา้ ป่าเสภาขบั ระนาดรบั รวั คลา้ ยกบั นายเสง็ มโี คมรายแลอรา่ มเหมอื นสาเพง็ เมอ่ื คราวเครง่ กม็ ใิ ครจ่ ะไดด้ ู อา้ ยลาหน่ึงครง่ึ ทอ่ นกลอนมนั มาก เหน่ือยหู ชา่ งยาวลากเลอ้ื ยเจอ้ื ยจน ไมจ่ บบทลดเลย้ี วเหมอื นเงย้ี วงู ไดฟ้ ังเล่นตา่ งต่างทข่ี า้ งวดั จนลูกคขู่ อทุเลาวา่ หาวนอนฯ ประมาณสามยามคล้าในอมั พร จนสงดั เงยี บหลบั ลงกบั หมอน นาวาเอยี งเสยี งกุกลกุ ขน้ึ รอ้ ง อา้ ยโจรจรจจู่ ว้ งเขา้ ลว้ งเรอื ไมเ่ หน็ หน้าสานุศษิ ยท์ ช่ี ดิ เชอ้ื มนั ดาล่องน้าไปชา่ งไวเหลอื ซะ เหมอื นเน้ือเบอ้ื บา้ เลอะดเู ซอะ แต่หนูพดั จดั แจงจุดเทยี นสอ่ ง อฏั ฐะ ไมเ่ สยี ของขาวเหลอื งเครอ่ื ง ดว้ ยเดชะตบะบญุ กบั คณุ พระ ชยั ชนะมารไดด้ งั ใจปองฯ
เน้อื เร่ืองนิราศภเู ขาทอง (ต่อ) ๏ ครนั้ รงุ่ เชา้ เขา้ เป็นวนั อโุ บสถ เจรญิ รสธรรมาบชู าฉลอง ไปเจดยี ท์ ช่ี ่อื ภเู ขาทอง ดสู งู ล่องลอยฟ้านภาลยั อยกู่ ลางทงุ่ รงุ่ โรจน์สนั โดษเด่น เป็นทเ่ี ล่นนาวาคงคาใส ทพ่ี น้ื ลานฐานบทั มถ์ ดั บนั ได มเี จดยี ว์ หิ ารเป็นลานวดั คงคงลยั ลอ้ มรอบเป็นขอบคนั ทอ่ี งคก์ ่อยอ่ เหลย่ี มสลบั กนั ในจงั หวดั วงแขวงกาแพงกนั้ บนั ไดมสี ด่ี า้ นสาราญรน่ื เป็นสามชนั้ เชงิ ชานตระหงา่ นงาม ประทกั ษณิ จนิ ตนาพยายาม ต่างชมชน่ื ชวนกนั ขน้ึ ชนั้ สาม มหี อ้ งถ้าสาหรบั จดุ เทยี นถวาย ไดเ้ สรจ็ สามรอบคานบั อภวิ นั ท์ เหยี นหนั เป็นลมทกั ษณิ าวรรตน่าอศั จรรย์ ดว้ ยพระพายพดั เวยี นอยู่ ทงั้ องคฐ์ านราญรา้ วถงึ เกา้ แฉก โอเ้ จดยี ท์ ส่ี รา้ งยงั รา้ งรกั แตท่ กุ วนั น้ีชราหนกั หนานกั กระน้ีหรอื ช่อื เสยี งเกยี รตยิ ศ เผยแยกยอดทรุดกห็ ลุดหกั เป็นผดู้ มี มี ากแลว้ ยากเยน็ เสยี ดายนกั นึกน่าน้าตากระเดน็ จะมหิ มดล่วงหน้าทนั ตาเหน็ คดิ กเ็ ป็นอนิจจงั เสยี ทงั้ นัน้ ฯ
เนอื้ เรื่องนิราศภูเขาทอง (ต่อ) ๏ ขอเดชะพระเจดยี ค์ รี มี าศ บรรจุธาตุทต่ี งั้ นรงั สรรค์ ขา้ อตุ สา่ หม์ าเคารพอภวิ นั ท์ เป็นอนนั ตอ์ านิสงสด์ ารงกาย จะเกดิ ชาตใิ ดใดในมนุษย์ ทงั้ ทกุ ขโ์ ศกโรคภยั อยา่ ใกลก้ ราย ใหบ้ รสิ ทุ ธสิ ์ มจติ ทค่ี ดิ หมาย ทงั้ โลโภโทโสแลโมหะ แสนสบายบรบิ รู ณ์ประยรู วงศ์ ขอฟุ้งเฟ่ืองเรอื งวชิ าปัญญายง ใหช้ นะใจไดอ้ ยา่ ใหลหลง อกี สองสงิ่ หญงิ รา้ ยแลชายชวั่ ทงั้ ใหท้ รงศลี ขนั ธใ์ นสนั ดาน ขอสมหวงั ตงั้ ประโยชน์โพธญิ าณ อยา่ เมามวั หมายรกั สมคั รสมาน ถาวรฯ ตราบนิพพานชาตหิ น้าให้ ๏ พอกราบพระปะดอกปทมุ ชาติ พบพระธาตุสถติ ในเกสร สมถวลิ ยนิ ดชี ลุ กี ร ประคองซอ้ นเชญิ องคล์ งนาวา กบั หนูพดั มสั การสาเรจ็ แลว้ ใสข่ วดแกว้ วางไวใ้ กลเ้ กศา มานอนกรุงรงุ่ ขน้ึ จะบชู า ไมป่ ะตาตนั อกยง่ิ ตกใจ แสนเสยี ดายหมายจะชมบรมธาตุ ใจจะขาดคดิ มาน้าตาไหล โอบ้ ญุ น้อยลอยลบั ครรไลไกล เสยี น้าใจเจยี นจะดน้ิ สน้ิ ชวี นั สดุ จะอยดู่ อู น่ื ไมฝ่ ืนโศก กาเรบิ โรครอ้ นฤทยั เฝ้าใฝ่ฝัน พอตรตู่ รสู่ รุ ยิ ฉ์ ายขน้ึ พรายพรรณ ใหล้ อ่ งวนั หน่ึงมาถงึ ธานีฯ
เนอ้ื เรื่องนริ าศภเู ขาทอง (ต่อ) ๏ ประทบั ทา่ หน้าอรณุ อารามหลวง คอ่ ยสรา่ งทรวงทรงศลี พระชนิ สหี ์ นิราศเรอ่ื งเมอื งเกา่ ของเราน้ี ไวเ้ ป็นทโ่ี สมนสั ทศั นา ดว้ ยไดไ้ ปเคารพพระพทุ ธรปู ทงั้ สถูปบรมธาตุพระศาสนา เป็นนิสยั ไวเ้ หมอื นเตอื นศรทั ธา คลายใจ ตามภาษาไมส่ บายพอ ใชจ่ ะมที ร่ี กั สมคั รมาด ซง่ึ ครวญคร่าทาทพี ริ พ้ี ไิ ร แรมนิราศรา้ งมติ รพสิ มยั เหมอื นแมค่ รวั ควั่ แกงพะแนงผดั ตามนิสยั กาพยก์ ลอนแต่ก่อนมา อนั พรกิ ไทยใบผกั ชเี หมอื นสกี า สารพดั เพยี ญชนงั เครอ่ื งมงั สา อรอ่ ยใจฯ จงทราบความตามจรงิ ทุกสงิ่ สน้ิ ตอ้ งโรยน่าเสยี สกั หน่อย นกั เลงกลอนนอนเปล่ากเ็ ศรา้ ใจ อยา่ นึกนินทาแถลงแหนงไฉน จงึ ร่าไรเรอ่ื งรา้ งเล่นบา้ งเอยฯ
ลกั ษณะคาประพนั ธ์ นิราศภเู ขาทองมคี วามยาวทงั้ สน้ิ ๑๗๖ คากลอน แต่งเป็นกลอน นิราศ โดยลกั ษณะ กลอนนิราศนนั้ จะคลา้ ยกบั กลอนสุภาพแต่มลี กั ษณะ แตกตา่ งกนั คอื จะขน้ึ ตน้ ดว้ ยกลอน วรรครบั จะแต่งตอ่ ไปกบ่ี ทกไ็ ด้ ให้ คาสดุ ทา้ ยซง่ึ เป็นวรรคสง่ จะจบเรอ่ื งดว้ ยคาวา่ เอย
คำศพั ท ์ เสรมิ รู ้
คาศพั ทเ์ สริมรู้ คำศพั ท์ ควำมหมำย ขอ้ ง เครอ่ื งจกั สานสาหรบั ใสป่ ลา ปู รปู คลา้ ยตะกรา้ ปาก คนั โพง แคบอยา่ งคอหมอ้ ดนิ ครี มี าศ เครอ่ื งวดิ น้า มคี นั ถอื ยาว ชุลี ภูเขาทอง (ครี ี หมายถงึ ภเู ขา, มาศ หมายถงึ ทอง) ทกั ขณิ าวฏั การประนมมอื , การไหว้ ตดั มาจาก อญั ชลี นภาลยั การเวยี นขวา (เวยี นเลย้ี วทางขวาอยา่ งเขม็ นาฬกิ า) นิราศ ฟากฟ้า ประทกั ษณิ ไปจาก, การจากไป การเวยี นขวา โดยใหส้ งิ่ ทเ่ี รานบั ถอื หรอื ผทู้ เ่ี รานบั ถอื ผกู โบสถ์ เป็นตน้ อยทู่ างขวาของผเู้ วยี น ผกู พทั ธสมี า คอื การกาหนดเขตโบสถ์ มหี ลกั หนิ เป็น พระจมน่ื ไวย เครอ่ื งหมาย ตาแหน่งหวั หมน่ื มหาดเลก็ มสี รรเพชรภกั ดี ศรสี รรกั ษ์ ไวยวรนาถ และเสมอใจราช
คาศพั ทเ์ สรมิ รู้ (ตอ่ ) คำศพั ท์ ควำมหมำย พระวสา วนั ออกพรรษา ตรงกบั วนั ขน้ึ สบิ หา้ ค่าเดอื นสบิ เอด็ พระสรรเพชญ พระนามพระพทุ ธเจา้ แปลวา่ ผรู้ ู้ ภาษา ในทน่ี ้ีเป็นคาโบราณ หมายถงึ คนหรอื ชาตทิ พ่ี ดู ภาษา นนั้ ๆ เชน่ มอญ ลาว ทวาย นุ่งหม่ และแต่งตวั ตาม ภาษา มลุ กิ า มหาดเลก็ หรอื ผอู้ ยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชา เรอื เพรยี ว เรอื ขดุ รปู คลา้ ยเรอื แขง่ แตข่ นาดเลก็ กวา่ หวั ยาวพอ งาม ทา้ ยสนั้ เป็นเรอื ทข่ี นุ นางหรอื ผมู้ ฐี านะการเงนิ ท่ี นิยมใชก้ นั ในสมยั ก่อน วนั อโุ บสถ วนั ขน้ึ ๑๕ ค่าและวนั แรม ๑๕ ค่า ถา้ เป็นเดอื นขาดก็ แรม ๑๔ ค่า เป็นวนั ทพ่ี ระลงอโุ บสถฟังพระปาตโิ มกข์ และเป็นวนั ท่ี พทุ ธศาสนิกชน ถอื อโุ บสถศลี คอื ศลี ๘ วุง้ เวา้ เป็นเวง่ิ เขา้ ไป สดั ช่อื มาตราตวงโบราณ รปู ทรงกระบอก ใชต้ วงขา้ ว เทยี นหนั เปลย่ี นทา่ ทาง, พลกิ แพลง
คลปิ วีดโี อ เรื่อง นริ าศภูเขาทอง
กจิ กรรมเสรมิ ความเข้าใจใน นิราศภเู ขาทอง ของสนุ ทรภู่ ๑ ล่องเรอื ตำมลอย นิรำศภเู ขำทอง ๒ เข้ำใจในนิรำศ เชื่อมโยงควำมสมั พนั ธ์ 3 เรอื่ ง นิรำศนัน้ ภเู ขำทอง
ลอ่ งเรือตามลอยนริ าศ ภเู ขาทอง คำชี้แจง จากการทน่ี กั เรยี นไดอ้ ่าน เรอ่ื ง นิราศภเู ขาทอง ใหน้ กั เรยี นเรยี งลาดบั สถานท่ี และเตมิ คาในชอ่ งวา่ ง ทส่ี นุ ทรภทู่ น่ี งั่ เรอื ผา่ น บนแผนทเ่ี ดนิ ดนิ ให้ ถูกตอ้ ง เลือกคำตอบไปเติมในช่องว่ำงให้ถกู ต้อง บางพลดั จวนผรู้ งั้ ตลาดขวญั โรงเหลา้ ตลาดแกว้ บางพลู วดั เขมาภริ ตา บางโพ บา้ นญวน บางธรณี เกาะเกรด็ บางพดู ราม บา้ นงว้ิ บา้ นใหม่ บางเดอ่ื บางหลวง บางจาก สามโคก วงั หลวง วดั ประโคกปัก
แบบเฉลยลอ่ งเรือตามลอยนริ าศ ภเู ขาทอง คำชี้แจง จากการทน่ี กั เรยี นไดอ้ า่ น เรอ่ื ง นิราศภเู ขาทอง ใหน้ กั เรยี นเรยี งลาดบั สถานท่ี และเตมิ คาในชอ่ งวา่ ง ทส่ี นุ ทรภทู่ น่ี งั่ เรอื ผา่ น บนแผนทเ่ี ดนิ ดนิ ให้ ถกู ตอ้ ง เลือกคำตอบไปเติมในช่องว่ำงให้ถกู ต้อง บางพลดั จวนผรู้ งั้ ตลาดขวญั โรงเหลา้ ตลาดแกว้ บางพลู วดั เขมาภริ ตา บางโพ บา้ นญวน บางธรณี เกาะเกรด็ บางพดู ราม บา้ นงว้ิ บา้ นใหม่ บางเดอ่ื บางหลวง บางจาก สามโคก วงั หลวง วดั ประโคกปัก
Search