ถอดบทเรียนกิจกรรม โคกหนอง นา โมเดล \"ถอื จอบ เสียม หอ่ ข้าวมาเอาม้อื \" เดนิ ตามศาสตร์พระราชา จากศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ส่กู ารประยกุ ต์ ใช้เพอ่ื ใหง้ า่ ยต่อการปฏิบตั ิ ใหเ้ หมาะสมกบั สภาพพื้นท่แี ละสงั คม ในแตล่ ะ ท้องถิ่น ในรูปแบบของกิจกรรม “โคก หนอง นา โมเดล ” เพ่อื ขบั เคลอ่ื นสวู่ สิ ยั ทั ศน์อนั เปน็ เป้าหมายสงู สุดของ กรมการพัฒนาชุมชน คอื “เศรษฐกิจฐานรากมน่ั คง ชมุ ชนพงึ่ ตนเองได้ ภายในปี 2565” โดยเรม่ิ ตัง้ แตก่ าร สรา้ งการเรียนรู้และบนั ทกึ ขอ้ ตกลงความรว่ มมอื การขับเคล่ือนสืบสานศาสตรพ์ ระราชาปรชั ญาเศรษฐกิจ พอเพียงสูเ่ ป้าหมายความยั่งยืนโลก ฝกึ อบรมเชิงปฏบิ ตั ิการในหลกั สูตรผู้นาการขบั เคลือ่ นตามหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี งแกบ่ ุคลากรของกรมการพัฒนาชนุ ชนและกลุ่ มผ้นู าในพื้นทด่ี าเนินงานทั้ง 11 แห่ง รวมถงึ ฝกึ อบรมเชงิ ปฏิบตั กิ ารในหลักสูตร การพัฒนากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงแกป่ ระชาชนและบคุ ลากร ภาคภี าคสว่ นตา่ งๆทม่ี คี วามสนใจเข้าร่วมโครงการในพื้นทดี่ าเนินการทัง้ 11 แหง่ โดยมจี ุดม่งุ หมายเพื่อสง่ เสริม กระบวนการเรยี น รู้ สรา้ งความเข้าใจในการประยุกต์ ใช้ศาสตร์พระราชา เพอ่ื ใหเ้ ป็นแหลง่ เรยี นรทู้ ่ีมีชวี ติ โดยการนาเอา \"โคก หนอง นา โมเดล \" มาบริหารจดั การพืน้ ที่ ของตนผา่ นปฏทิ ินการขับเคลอ่ื นในรูปแบบ กิจกรรม “เอามอื้ สามัคคี” เป็นกลวธิ ปี ระสานเอาความสามคั คี เชือ่ มโยงเครือข่ายต่างๆ เข้ าไวด้ ว้ ยกันพรอ้ ม ท้ังขยายเครือข่ายทมี่ ีประสทิ ธิภาพ ศนู ย์ศกึ ษาและพัฒนาชุมชนลาปาง ร่วมเป็นสว่ นหนึ่งของ กิจกรรมดงั กล่าวภายใต้ concept งานทวี่ ่า “ถอื จอบ เสียม ห่อข้าวไปเอามอื้ ” ณ สวนฮักบา้ นเกดิ ของนายณรงค์เดช บญุ วงค์ ม.8 ต.แม่ใจ อ.แม่ใจ จ.พะเยา ภายในงาน ประกอบดว้ ยกจิ กรรม ตา่ งๆ ได้แก่ การขดุ คลองไสไ้ กใ่ นแปลงนาข้าว การทาป๋ยุ ชวี ภาพ ทานา้ ยาล้างจาน การหม่ ดนิ ปลกู ตน้ ไม้ ปลูกหญ้าแฝก การทาฝายคลองไสไ้ ก่ ผ้เู ข้าร่วมกิจกรรมจากพนื้ ที่ ๙ อาเภอของจงั หวดั พะเยา และเครอื ขา่ ยกสกิ รรมธรรมชาตภิ าคเหนอื จานวนทั้งส้ิน ๑๕๐ ท่าน และมีการลอ้ ม วงพูดคยุ สนทนาในประเด็นหัวขอ้ ที่ว่า “เอามื้อสามคั คดี ีอยา่ งไร ? เอาไปใช้ประโยชน์ อย่างไร?” โดยได้รบั ความ สนใจจากผู้เข้ารว่ มกิจกรรมอย่างมากและยงั สามารถถอดบทเรียนจากเวทีดงั กลา่ ว 1. เป้าหมาย/วัตถุประสงคข์ องกิจกรรมการเอาม้ือจะเปน็ เร่อื งของการฟนื้ ฟูวั ฒนธรรม ยอ้ นไปในอดีตทีเ่ ป็น ชมุ ชนเก้ือกูล เปน็ การเตมิ เต็ม แลกเปล่ยี นองคค์ วามรู้ เรียนร้ซู ง่ึ กนั และกนั สามารถสร้างความยง่ั ยนื ไดโ้ ดยเร่มิ จากตนเอง และยังเป็นการประชาสัมพันธโ์ ครงการ/กจิ กรรม 2.การวางแผน/การเตรียมตวั เข้าร่วมกิจกรรม 2.1 ศนู ยฯ์ มีการกาหนดพ้นื ท่ี กาหนดกจิ กรรมดาเนินการจากกจิ กรรมที่ 3 หลกั สูตรการพฒั นากสกิ รรมธรรมชาตสิ ูร่ ะบบเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2.2 ประสานงานจังหวดั /อาเภอ โดยกาหนดผปู้ ระสานงานจงั หวัด 2.3 ทาสอื่ ประชาสมั พนั ธก์ ิจกรรมฯ โดยสานักงานพฒั นาชมุ ชนอาเภอและศูนย์ฯ 2.4 ประสานสถาบันการพัฒนาชุมชน 2.5 ลงพนื้ ที่เตรยี มการเกบ็ ข้อมลู ลว่ งหน้า 1 วนั 2.6 เตรยี มทมี วสั ดุอุปกรณ์ ร่วมสนบั สนนุ กจิ กรรม 2.7 ทาสื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธก์ จิ กรรมฯ เช่น คลปิ วีดีโอ ขา่ วประชาสัมพันธ์ 2.8 สรุปรายงานผลการดาเนินการตามแบบฟอรม์ สถาบันฯ
3. ผลการดาเนนิ การ 3.1 อาเภอท่ีดาเนินการจดั กจิ กรรม คอื อาเภอแม่ใจ จังหวดั พะเยา เป็นเจา้ ภาพหลกั โดยมีทางสานกั งาน พัฒนาชมุ ชนจังหวดั และศนู ยศ์ ึกษาและพัฒนาชุมชนเปน็ หนว่ ยสนับสนนุ : กาหนดการ กาหนดกิจกรรม จดั ทา สอ่ื ประชาสัมพนั ธ์ ประสานพืน้ ทแี่ ละเครอื ข่าย - ศนู ย์ศกึ ษาและพัฒนาชุมชนลาปางสนับสนุนในเร่อื งของสอื่ /โสตฯ บุคลากร ตน้ ว่านกาบหอย จอบ ฯลฯ จากการเข้าร่วมกจิ กรรมเอามอื้ สามคั คีจงั หวดั พะเยา 4. กิจกรรมภายในงาน 4.1 เรมิ่ ต้นจากการใหเ้ จ้า ของพนื้ ท่กี จิ กรรมเอามอื้ ได้เล่าประสบการณ์ ความเป็นมา แรงบันดาลใจ และ แนวคดิ กจิ กรรมในพนื้ ท่ที ดี่ าเนนิ การในปัจจบุ ันและการสานตอ่ การขยายผลกิจกรรมดงั กล่าว 4.2 พัฒนาการอาเภอแม่ใจกล่าวรายงานต่อประธานในพธิ ี 4.3 นายอาเภอแมใ่ จได้ใหข้ ้อคดิ ให้กาลงั ใจในการดาเนินการ 4.4 ผูอ้ านวยกา รศูนย์ศึกษาและพัฒนาชมุ ชนลาปาง กล่าวเปิดงานพดู ถงึ วัตถปุ ระสงค์ เป้าหมายของ โครงการฯ และผลท่จี ะเกิดข้ึนจากกิจกรรม “เอามอื้ สามัคค”ี 4.5 พฒั นาการอาเภอแมใ่ จไดแ้ บง่ ผเู้ ข้าร่วมกิจกรรมเข้าตามฐานเรยี นรู้ตา่ งๆ โดยแบ่งตามกล่มุ สนใจ 4.6 ล้อมวงสนทนาในประเดน็ หวั ข้อทวี่ ่า “เอามอ้ื สามคั คดี อี ย่างไร? เอาไปใชป้ ระโยชนอ์ ยา่ งไร?” 4.7 รบั ประทานอาหารรว่ มกัน 5. ปจั จยั ที่ทาให้กิจกรรมเอามือ้ สาเรจ็ 5.1 ทีมงานสานกั งานพฒั นาชมุ ชนอาเภอแมใ่ จเตรียมงานได้ดี มกี ารวางแผน เตรยี มความพรอ้ ม 5.2 ผู้อานวยการศูนยศ์ ึกษาและพฒั นาชมุ ชนลาปางรว่ มสนับสนนุ วางแผนกระบวนการและปรบั ตามสถานการณ์ 5.3 เจ้าของพ้นื ท่ีมอี งคค์ วามรู้ ประสบการณ์ และสามารถถา่ ยทอดออกมาได้ดี 5.4 เครือขา่ ยให้ความร่วมมอื ในการดาเนนิ การ เชน่ อบต. เครอื ข่ายกสิกรรม 5.5 มีการปรับแก้ไขกจิ กรรม/ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ 5.6 การดาเนนิ กจิ กรรมมคี วามน่าสนใจและสามารถนาไปปรบั ใชไ้ ดจ้ ริง 5.7 กลมุ่ เยาวชนมกี ารสานต่องานด้านเศรษฐกิจพอเพยี งจากเจ้าของพ้นื ที่ 5.8 เวทเี สวนา ผู้ดาเนินรายการ คือ พฒั นา การอาเภอแม่ใจ มีความสามารถในการสร้างบรรยากาศ สรา้ ง การมสี ว่ นร่วมในการแลกเปลี่ยนไดด้ ี 5.9 ผู้เขา้ ร่วมมีความหลากหลาย ช่วยกันแสดงความคิดเหน็ มสี ่วนร่วมในเวที 6. ปญั หาอุปสรรค 6.1 เคร่ืองเสยี ง 6.2 การส่ือสาร/สร้างความเข้าใจกิจกรรมฯ เชน่ กาหนดการผู้บรหิ าร 6.3 เจ้าภาพฐานเรยี นรู้ไม่ชดั เจนในการกาหนด “ครพู าไป” 6.4 การแบง่ คนเขา้ รว่ มกจิ กรรม แตล่ ะฐานมากน้อยไมเ่ ท่ากัน เพราะแบง่ ตามความสนใจ 6.5 สถานทคี่ ับแคบ เชน่ เวทลี อ้ มวงพูดคุย รบั ประทานอาหารกลางวนั 7. ข้อเสนอแนะ 7.1 ออกแบบสคริปในการทาสอ่ื ล่วงหนา้ 7.2 เตรยี มส่ือ/โสตฯ (เคร่อื งเสียง กล้อง ไมล์ ขาต้ังกลอ้ ง เจา้ หนา้ ท่ี) ใหพ้ ร้อม 7.3 ออกแบบสถานที่จดั กิจกรรม ให้เหมาะสมกับจานวนคนเข้าร่วม – เวทเี สวนา&การรบั ประทานอาหาร รว่ มกนั
ภาพประกอบกิจกรรมเอามือ้ สามคั คี “ถอื จอบ เสยี ม ห่อขา้ วไปเอามื้อ” ณ สวนฮกั บา้ นเกิด ของนายณรงคเ์ ดช บญุ วงค์ ม.8 ต.แมใ่ จ อ.แม่ใจ จ.พะเยา
ภาพประกอบกจิ กรรมการถอดบทเรยี นกิจกรรม โคกหนอง นา โมเดล \"ถือจอบ เสยี ม หอ่ ข้าวมาเอาม้อื \"
ถอดบทเรียน กิจกรรม โคกหนอง นา โมเดล \"ถือจอบ เสียม ห่อขา้ วมาเอาม้อื \" เดนิ ตามศาสตรพ์ ระราชา ณ ไรธ่ นภัทร ของ...นายประทมุ พร กลุ าหลกั 176 ม.1 ต.แมส่ าคร อ.เวียงสา จ.นา่ น 29 กมุ ภาพันธ์ 2563 ………………………. นางกรรณกิ าร์ กา๋ วติ า นกั ทรัพยากรบุคคลชานาญการ จากศาสตร์พระราชาของ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพติ ร ส่กู ารประยุกต์ใช้เพ่อื ใหง้ า่ ยตอ่ การปฏบิ ตั ิ ใหเ้ หมาะสมกับสภาพพ้นื ทีแ่ ละสังคมใน แตล่ ะทอ้ งถ่นิ ในรูปแบบของกจิ กรรม “โคก หนอง นา โมเดล ” เพ่อื ขบั เคลอื่ นสวู่ ิสัยทั ศน์อนั เป็นเปาู หมาย สูงสดุ ของกรมการพัฒนาชมุ ชน คือ “เศรษฐกจิ ฐานรากมนั่ คง ชมุ ชนพึง่ ตนเองได้ ภายในปี 2565” โดยเรมิ่ ต้งั แตก่ ารสร้างการเรยี นรูแ้ ละบันทึกขอ้ ตกลงความรว่ มมอื การขับเคลือ่ นสบื สานศาสตร์พระราชาปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี งสเู่ ปูาหมายความย่ังยนื โลก ฝกึ อบรมเชิงปฏิบตั ิการในหลกั สตู รผู้นาการขบั เคลอื่ นตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงแก่บคุ ลากรของกรมการพัฒนาชนุ ชนและกลมุ่ ผ้นู าในพื้นท่ีดาเนนิ งานทั้ง 11 แหง่ รวมถงึ ฝกึ อบรมเชิงปฏิบตั กิ ารในหลกั สตู ร การพฒั นากสิกรรมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียงแก่ประชาชนและ บคุ ลากรภาคีภาคส่วนตา่ ง ๆ ท่ีมีความสนใจเข้าร่วมโครงการในพืน้ ท่ีดาเนินการศนู ยศ์ กึ ษาและพฒั นาชุมชน ทง้ั 11 แหง่ โดยมจี ดุ มุ่งหมายเพื่อส่งเสรมิ กระบวนการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจในการประยุกตใ์ ชศ้ าสตร์พระราชา เพอื่ ใหเ้ ปน็ แหล่งเรียนรทู้ ี่มีชวี ติ โดยการนาเอา \"โคก หนอง นา โมเดล \" มาบรหิ ารจดั กา รพนื้ ท่ีของตนผ่าน ปฏทิ นิ การขับเคลื่อนในรูปแบบกิจกรรม “เอามอื้ สามัคคี ” เป็นกลวิธีประสานเอาความสามัคคี เช่ือมโยง เครอื ข่ายตา่ ง ๆ เขา้ ไว้ดว้ ยกันพรอ้ มทง้ั ขยายเครือข่ายทม่ี ปี ระสิทธิภาพ ศนู ย์ศกึ ษาและพฒั นาชุมชนลาปาง ร่วมเปน็ สว่ นหน่ึงของกจิ กรรมดังกลา่ วภายใต้ concept งาน ทวี่ า่ “ถอื จอบ เสยี ม ห่อขา้ วไปเอาม้อื ” ณ ไรธ่ นภัทร ของนายประทุมพร กลุ าหลกั 176 ม.1 ต.แม่สาคร อ.เวียงสา จ.นา่ น ภายในงานประกอบดว้ ยกิจกรรมตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ การขุดคลองไสไ้ ก่ในแปลงนาขา้ ว การทาปุ๋ย หมักชวี ภาพ การทาป๋ยุ น้าชีวภาพ การห่มดิน ปลูกตน้ ไม้ ผเู้ ข้ารว่ มกจิ กรรมจากพืน้ ท่ี 15 อาเภอของจงั หวดั นา่ น และเครอื ขา่ ยกสิกรรมธรรมชาติภาคเหนือ จานวนทง้ั ส้ิน 200 กว่าคน มีการลอ้ มวงพูดคยุ สนทนาใน ประเดน็ หัวข้อท่วี ่า “เอามอื้ สามคั คดี ีอยา่ งไร? เอาไปใชป้ ระโยชน์อยา่ งไร?” โดยได้รบั ความสนใจจากผ้เู ขา้ รว่ ม กิจกรรมอย่างมาก ทีมสนบั สนนุ กจิ กรรมเอามอื้ สามัคคี ของศนู ยศ์ ึกษาและพัฒนาชุมชนลาปาง รว่ มกนั ถอด บทเรยี นจาก กิจกรรม ดงั กล่าว เพือ่ นาประสบการณท์ ี่ดี ..และบทเรียนท่ีไดร้ ับ วางแผน ปรบั ใช้ประโยชน์ เผยแพร่ความร้ตู ่อไป 1. เปา้ หมาย/วตั ถุประสงคข์ องกิจกรรมการเอามอ้ื 1.1 เพือ่ ฟืน้ ฟวู ฒั นธรรมการเอามือ้ ยอ้ นอดตี ที่เป็นชุมชนเก้อื กลู ... 1.2 เพ่อื เตมิ เตม็ แลกเปลี่ยนองคค์ วามรู้ เรยี นรซู้ ่ึงกนั และกนั 1.3 เพอ่ื ประชาสมั พันธโ์ ครงการ/กิจกรรม “เอามอ้ื สามคั คี”เชื่อมโยงแนวคดิ “โคกหนองนาโมเดล” 2. การวางแผน/เตรยี มการ ดาเนินกิจกรรมฯ 2.1 ประสานงาน สพจ.น่าน และ สพอ.เวยี งสา ในการเตรียมพ้ืนท่ี 2.2 จัดเตรยี มในสว่ นของศพช.ลป. ในการสนับสนนุ (เตรยี มทีม วัสดอุ ุปกรณ์ สคลปิ สัมภาษณ์
การเขา้ รว่ มสนับสนนุ กิจกรรม) 2.3 ศพช.ลาปางลงพืน้ ที่ รว่ มเตรียมการ และเก็บขอ้ มลู ล่วงหน้า 1 วัน 2.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมเอามือ้ 2.5 สรปุ รายงานผล และเผยแพรป่ ระชาสัมพนั ธก์ จิ กรรม 2.6 ถอดบทเรยี น / จดั ทาชดุ ความรู้เผยแพร่ 3. ผลการดาเนนิ การ 3.1 อาเภอที่ดาเนินการจัดกจิ กรรม คอื อาเภอเวียงสา จังหวดั นา่ น เปน็ เจ้าภาพหลกั โดยมีทางสานักงาน พฒั นาชุมชนจงั หวดั นา่ น และศนู ยศ์ กึ ษาและพัฒนาชมุ ชนลาปาง เป็นหนว่ ยสนบั สนุน 3.2 สานกั งานพฒั นาชมุ ชนจงั หวดั นา่ นและสานกั งานพัฒนาชมุ ชนอาเภอเวยี งสา ศูนย์ศกึ ษาและพัฒน า ชุมชนลาปาง ร่วมกันกาหนดกิจกรรม จดั ทาส่อื ประชาสัมพนั ธ์ ประสานพื้นที่และเครอื ขา่ ย 3.3 ศูนยศ์ ึกษาและพัฒนาชุมชนลาปาง ลงพ้ืนที่ลว่ งหนา้ 1 วัน เพ่อื เข้าสารวจ ศกึ ษาพ้ืนท่ีรว่ มกบั เจา้ ของ แปลง และเจา้ หนา้ ทพี่ ัฒนาชุมชนจงั หวัดนา่ น เจา้ หน้าที่พัฒนาชมุ ชนอาเภอเวียงสา และประชมุ เตรียมความ พร้อมกิจกรรมเอามอื้ รว่ มกัน 3.4 สนบั สนุนในเรอื่ งของการออกแบบสอ่ื ประชาสมั พันธ์/โสตฯ บคุ ลากร ต้นว่านกาบหอย จอบ ฯลฯ จาก การเขา้ รว่ มกจิ กรรมเอาม้อื สามคั คีจงั หวัดน่าน 4. กจิ กรรม/ข้ันตอนภายในงานฯ 4.1 พฒั นาการอาเภอเวยี งสากล่าวรายงานตอ่ ประธานในพิธี 4.2 ตวั แทนพฒั นาการจังหวัดน่าน กล่าวเปิด และให้แนวคิดในการดาเนนิ กิจกรรม โคก หนอง นา โมเดล และการขับเคล่ือนโคก หนอง นา โมเดล จังหวัดนา่ น 4.3 นายอาเภอเวยี งสากล่าวตอ้ นรบั ใหข้ อ้ คดิ ให้กาลงั ใจในการดาเนินการ 4.4 เจา้ ของพนื้ ทีก่ ิจกรรมเอามือ้ และครอบครวั เล่าประสบการณ์ ความเปน็ มา แรงบนั ดาลใจและแนวคิด กิจกรรมในพ้นื ท่ที ดี่ าเนินการในปัจจบุ นั และการสานต่อ การขยายผลกิจกรรมดงั กล่าว 4.5 อ.กลุ ปัญญาวงค์ เจ้าของศนู ย์กสิกรรมธรรมชาตชิ มุ ชนตน้ น้าน่าน (ชตน.) พดู คุยให้ความรู้แนวคดิ แนวทางการดาเนนิ งาน โคก หนอง นา โมเดล คอื การทาการเกษตรทฤษฎใี หมแ่ บบประยุกต์ มงุ่ เน้น 1. หยุดการใชส้ ารเคมี 100 % ปอู งกนั การชะลา้ งพังทลายของดนิ 2. เกบ็ น้าฝนใหไ้ ด้ทกุ เมด็ 100 %ในพืน้ ท่ี - เก็บในรากตน้ ไม้ พ้ืนท่ีปุา 3 อย่างประโยชน์ 4 อยา่ ง - เก็บในหนองนา้ ขดุ ให้ลึกอย่างน้อย 4 เมตร - เก็บในนา ขดุ หวั คนั นาใหก้ ว้างประมาณ 1 เมตร ขุดรอ่ งรอบนา เพ่ือเก็บนา้ 3. ทาให้เกดิ ความหลากหลาย ปลูกตน้ ไมใ้ ห้หลากหลายชนิด หลักกสิกรรม เล้ียงดนิ ใหด้ ิน เลย้ี งพืช หลักการทางาน ...ทางานใหม้ ี 3 ค. 1.คกึ คกั 2.คลอ่ งแคล่ว 3.ครืน้ เครง ทางานใหไ้ ด้ 1. ให้ไดง้ าน 2. ให้ได้เพ่อื น 3. ใหไ้ ดพ้ ฒั นาตนเอง วิธีการทางาน 1. สารวจงาน สารวจพ้นื ที่ บริหารพื้นท่ี 2. แบ่งงาน แบง่ คน แบง่ คนให้เหมาะสมกับงาน 3.มีผนู้ า เป็นผู้ประเมิน ส่งั การ 4. มีการประสานงาน ในพ้ืนท่ใี กล้เคยี ง 5. มีหนว่ ยสนับสนุน (พลาธกิ ารสนับสนนุ )
4.6 นักวิชาการพฒั นาชมุ ชนผรู้ ับผิดชอบได้แบ่งผ้เู ขา้ ร่วมกิจกรรมเข้าตามฐาน กจิ กรรมต่างๆ โดยแบ่งงาน ตามอาเภอรับผดิ ชอบ มคี รพู าทา จากศูนยก์ สกิ รรมธรรมชาติชมุ ชนต้นนา้ นา่ น (ชตน.) -กจิ กรรมขุดคลองไส้ไก่ -กจิ กรรมหม่ ดนิ แหง้ ชาม น้าชาม -กิจกรรมทาปยุ๋ หมกั อินทรยี ์ -กิจกรรมทาป๋ยุ น้าหมกั -กิจกรรมปลูกต้นไม้ (ตน้ ว่านกาบหอย) 4.7 ลอ้ มวงสนทนาในประเดน็ หัวขอ้ ท่ีว่า “เอามื้อสามัคคดี อี ย่างไร ? โดย อ.กลุ ปญั ญาวงค์ เจา้ ของ ศนู ย์ กสกิ รรมธรรมชาตชิ มุ ชนตน้ น้าน่าน (ชตน.) เป็นผดู้ าเนินรายการ ประเด็นทสี่ รปุ เวทรี ่วมกนั 1. ความรู้เกา่ คอื อะไร เหน็ อะไร? 2. ความร้ใู หม่คืออะไร เห็นอะไร? 3. เหน็ ปัญหาอะไรบ้าง นกึ ถงึ ปญั หาอะไร ? 4. คดิ วา่ จะเอาไปใชแ้ ก้ปญั หาอะไร และนาไปแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งไร ? 4.7 รับประทานอาหารรว่ มกัน 5. ปัจจัยทที่ าให้กิจกรรมเอามื้อทเ่ี วียงสา จ.นา่ น ประสบผลสาเร็จ 5.1 มีเครือขา่ ยศนู ยก์ สิกรรมธรรมชาตชิ ุมชนต้นนา้ น่าน (ชตน.) ช่วยสนับสนนุ การขบั เคล่อื นกจิ กรรม 5.2 ไดร้ ับการสนับสนุนเครอื่ งจกั รกลหนักจากบรษิ ทั แพร่ธารยง์ วในิทการขุดลอกตลองไสไ้ ก่ ตามอท.ก่ี ลุแนะนาและ เจา้ ของแปลงออกแบบไว้ 5.3 นักวชิ าการพัฒนาชุมชนผู้รับผิดชอบ สานักงานพฒั นาชุมชนจังหวดั นา่ น ทมี เจ้าหนา้ ท่ีพฒั นาชุมชน อาเภอเวียงสา สามารถประสานงาน บริหารจัดการกิจกรรมไดอ้ ยา่ งดี 5.4 สพอ.เวียงสา จัดทาคลิปแนะนาเจา้ ของแปลงกจิ กรรมเอาม้อื เผยแพร่ 5.5 มีการประสานงานระหว่างผอ.ศพช.ลป.และพอ.เวยี งสา อย่างตอ่ เน่ือง 5.6 เจ้าของแปลงและครอบครัวมคี วามเข้าใจและพรอ้ มให้การสนับสนุนกจิ กรรม 5.7 ภาคีเครอื ขา่ ยให้การสนับสนนุ เตม็ ที่ ทงั้ ภาครัฐ ท้องที่ ทอ้ งถิน่ ภาคเอกชน ประชาชนทว่ั ไป 5.8 พนื้ ท่แี ปลงกจิ กรรมเอาม้ือ อาเภอเวียงสากาหนดให้เป็นศูนย์เรียนรู้ โคก หนอง นา อาเภอเวยี งสา 6. ปัญหาอปุ สรรค 6.1 แผนท่ี ปูายบอกทาง แปลงไปเอามือ้ ไมช่ ดั เจน 6.2 การบรหิ ารจัดการวธิ ีการเข้าไปในแปลงเอาม้ือ มีรถรับสง่ คนเขา้ ไปในพ้นื ท่ี จานวนนอ้ ย ไม่เพยี งพอ 6.3 การเตรียมความพร้อมของคนทีเ่ ก็บขอ้ มูล การเตรยี มตวั ทาสอ่ื การแตง่ กาย ไมไ่ ดแ้ จง้ ให้เตรยี มตวั ไวก้ ่อน 6.4 ขาดส่อื เรียนรู้โคก หนอง นา ทีส่ ามารถเคลื่อนย้ายเขา้ ไปในพื้นทไ่ี ดง้ ่ายๆเชน่ roll up 6.5 แปลงพืน้ ทเี่ อาม้อื อยู่ในเขต สปก. 7. ขอ้ คิดเหน็ /ข้อเสนอแนะเพิม่ เติม 7.1 ควรมสี ่ือเรยี นรู้โคก หนอง นา ท่ีสามารถเคลื่อนย้ายเขา้ ไปในพน้ื ทไ่ี ดง้ ่ายๆเช่น roll up 7.2 ควรทาปาู ยบอกทาง แผนทีใ่ หช้ ดั เจน 7.3 เตรียมสคลปิ ลว่ งหน้า ในการถ่ายทาสือ่ เผยแพรป่ ระชาสัมพันธ์ ของศนู ย์ฯ
ภาพประกอบกจิ กรรมเอาม้อื สามคั คี “ถือจอบ เสยี ม หอ่ ข้าวไปเอามื้อ” ณ ไรธ่ นภัทร ของนายประทุมพร กลุ าหลกั อ.เวยี งสา จ.น่าน
ภาพกิจกรรม “ถอดบทเรียน” เอามอื้ สามคั ค.ี .ที่ อ.เวียงสา จ.นา่ น
ถอดบทเรียน กิจกรรม โคกหนอง นา โมเดล \"ห้ิวป่นิ โตไปเอามื้อ ถือจอบเสยี มไปพลิกแผน่ ดิน\" เดนิ ตามศาสตร์พระราชา ณ ไร่ชาวนา 4.0 ของนายสมพร ชัยวุฒิ ม.4 ต.ดอนศิลา อ.เวียงชัย จ.เชยี งราย 11 มนี าคม 2563 ………………………. นางกรรณกิ าร์ กา๋ วติ า นักทรัพยากรบคุ คลชานาญการ จากศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร สกู่ ารประยกุ ต์ใช้เพื่อใหง้ ่ายต่อการปฏิบตั ิ ให้เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และสังคมใน แต่ละท้องถิ่น ในรูปแบบของกิจกรรม “โคก หนอง นา โมเดล” เพื่อขับเคล่ือนสู่วิสัยทัศน์อันเป็นเป้าหมาย สูงสุดของกรมการพัฒนาชุมชน คือ “เศรษฐกิจฐานรากมั่นคง ชุมชนพ่ึงตนเองได้ ภายในปี 2565” โดยเร่ิม ต้ังแต่การสร้างการเรียนรู้และบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการขับเคลื่อนสืบสานศาสตร์พระราชาปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงสู่เป้าหมายความย่ังยืนโลก ฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในหลักสูตรผู้นาการขับเคล่ือนตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงแก่บุคลากรของกรมการพัฒนาชุนชนและกลุ่มผู้นาในพ้ืนที่ดาเนินงานทั้ง 11 แห่ง รวมถึงฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในหลักสูตร การพฒั นากสกิ รรมส่รู ะบบเศรษฐกิจพอเพยี งแก่ประชาชนและ บุคลากรภาคภี าคส่วนต่าง ๆ ทมี่ คี วามสนใจเข้าร่วมโครงการในพ้ืนทดี่ าเนนิ การศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนท้ัง 11 แห่ง โดยมจี ุดมงุ่ หมายเพื่อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ สรา้ งความเขา้ ใจในการประยุกต์ใช้ศาสตร์พระราชา เพ่ือให้เป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีมีชีวิต โดยการนาเอา \"โคก หนอง นา โมเดล\" มาบริหารจัดการพื้นที่ของตนผ่าน ปฏิทินการขับเคล่ือนในรูปแบบกิจกรรม “เอามื้อ สามัคคี” เป็นกลวิธีประสานเอาความสามัคคี เช่ือมโยง เครอื ขา่ ยต่าง ๆ เขา้ ไวด้ ว้ ยกนั พรอ้ มทั้งขยายเครือข่ายท่ีมปี ระสิทธิภาพ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลาปาง รว่ มเปน็ สว่ นหนงึ่ ของกจิ กรรมดงั กล่าวภายใต้ concept งาน ที่ว่า “หิ้วป่ินโตไปเอาม้ือ ถือจอบเสียมไปพลิกแผ่นดิน” ณ ไร่ชาวนา 4.0 ของนายสมพร ชัยวุฒิ ม.4 ต.ดอนศิลา อ.เวียงชยั จ.เชียงราย ภายในงานประกอบด้วยกจิ กรรมตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ การขดุ ลอกคลองไส้ไก่ การ ทาปุ๋ยน้าหมักชีวภาพ การห่มดินแห้งชาม น้าชาม การสาธิตการทาน้ายาล้างมือ การสาธิตยางมหัศจรรยป์ ลกู ผัก ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากพื้นที่ 18 อาเภอของจังหวัดเชียงราย และเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติภาคเหนือ จานวนทงั้ สน้ิ 200 กว่าคน มกี ารล้อมวงพดู คยุ สนทนาในประเด็นหัวข้อทีว่ า่ “เอาม้ือสามคั คดี อี ย่างไร? เอาไป ใช้ประโยชน์อย่างไร?” โดยได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างมาก ทีมสนับสนุนกิจกรรมเอามื้อ สามคั คขี องศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนลาปาง รว่ มกันถอดบทเรยี นจากกิจกรรมดังกลา่ ว เพ่อื นาประสบการณ์ ทด่ี ี..และบทเรยี นทไ่ี ดร้ บั วางแผน ปรับใช้ประโยชน์ เผยแพร่ความรูต้ อ่ ไป 1. เปา้ หมาย/วัตถุประสงคข์ องกิจกรรมการเอาม้อื 1.1 เพื่อฟน้ื ฟู เตม็ เตมิ วฒั นธรรมการเอามือ้ ย้อนอดีตที่เป็นชุมชนเกอ้ื กลู 1.2 เพอ่ื ประชาสมั พันธ์โครงการ/กิจกรรม “เอามือ้ สามคั คี” เช่ือมโยงแนวคดิ “โคกหนองนาโมเดล” 1.3 เพื่อเปน็ การสรา้ งแรงจูงใจ ให้คนท่ีสนใจ ไดเ้ รยี นรู้กจิ กรรม “เอามอ้ื สามัคค”ี 1.4 เพือ่ เป็นการสร้างเครอื ขา่ ย และแลกเปล่ียนองค์ความรู้ เรยี นรซู้ ึ่งกันและกนั 2. การวางแผน/เตรียมการ ดาเนินกิจกรรมฯ 2.1 ประสานงาน สพจ.เชยี งราย ในการเตรียมพ้ืนท่ี 2.2 สพจ.เชียงราย ประสานงานในพ้ืนที่ วางแผนกาหนดวันดาเนินการ กาหนดพื้นท่ี กิจกรรม ดาเนนิ งานรว่ มกับเครอื ข่ายกสิกรรมธรรมชาติจังหวดั เชียงราย
2.3 การเตรยี มในส่วนของศพช.ลป. ในการสนับสนุน -การประชาสัมพนั ธก์ ิจกรรม จัดทา Infographic -การประสานข้อมลู กับพ้ืนท่ีอย่างตอ่ เน่ือง -เตรียมทมี งาน วัสดุอปุ กรณ์ สคลิปสมั ภาษณ์ การเขา้ รว่ มสนับสนุนกิจกรรม -เตรยี มการรายงานผลการดาเนนิ งาน เอกสารรายงาน 2.4 ศพช.ลาปางลงพ้ืนที่ ร่วมเตรียมการ และเก็บข้อมูลล่วงหน้า 1 วัน โดยมีการเตรียมประเด็นใน การเก็บข้อมูลสมั ภาษณ์ การถ่ายทาคลิปวดี ีโอส้ันๆ 2.5 สพจ.เชยี งราย จัดเตรยี มสถานท่ี โดยการประสานการทางานกับภาคีเครือขา่ ย การจดั เตรยี มป้าย ความรู้ตา่ ง ๆ การจัดเตรียมวัสดุอปุ กรณ์ 2.6 เข้ารว่ มกิจกรรมเอามอื้ 2.7 สรุปรายงานผล และเผยแพร่ประชาสมั พนั ธก์ ิจกรรม 2.8 ถอดบทเรียน / จัดทาชุดความรู้เผยแพร่ 3. ผลการดาเนินการ 3.1วันเตรยี มการ 1. เจ้าของแปลง ,สพจ.เชียงราย ,สพอ.เวียงชัย ,เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติจังหวัดเชียงราย และ ศนู ย์ศกึ ษาและพัฒนาชมุ ชนลาปาง รว่ มกันจดั เตรียมสถานที่ จดุ สาธติ กจิ กรรมตา่ ง ๆ 2. ประชมุ วางแผน เตรยี มความพร้อม ซักซ้อมวธิ ีการดาเนินงาน 3. เกบ็ ข้อมลู สมั ภาษณ์เจา้ ของแปลง การถา่ ยทาคลิปวีดีโอแรงบันดาลใจของเจ้าของแปลง
3.2 วันดาเนนิ กจิ กรรม 1. สพจ.เชยี งรายรบั ลงทะเบยี น และแจกบตั รสีแบง่ คนเป็น 4 กล่มุ สี 2. พิธกี รเชิญผูร้ ว่ มงานทัง้ หมด เข้าแถว รว่ มกิจกรรมหน้าเสาธง - กล่าวคาปฏญิ าณ - เคารพธงชาติ - ยืนสงบนง่ิ ระลึกถงึ ในหลวงรชั กาลท่ี 9 - สวดมนตไ์ หว้พระ - เจ้าของแปลง นายสมพร ชยั วฒุ กิ ลา่ วรายงานตอ่ ประธานในพธิ ี - พัฒนาการจังหวัดเชยี งราย ประธานในพธิ ี กลา่ วเปิดงานและให้โอวาท 3. กลับมารวมพล เจ้าของแปลง นายสมพร ชัยวุฒิ พูดเล่าเรื่องราว แรงบันดาลใจ ในการทาโคก หนองนา โมเดล เริ่มจากเดิมพื้นที่แปลงนี้เป็นพื้นท่ีสีแดง คือมีการใช้สารเคมีในพื้นที่ 100 % เพราะท่ีบ้าน เป็นร้านขายปุ๋ย ยา สารเคมีในการทาการเกษตร ซึ่งวันที่ลูกหลานกลับมาบ้านแล้วไม่สามารถนอนที่บ้านได้ เนื่องจากเหม็นกล่นิ สารเคมี จึงเป็นจดุ เปล่ียนในการคดิ เร่มิ ท่ีจะไมใ่ ช้สารเคมี ต่อมาก็ได้มีโอกาสไปเรียนการทานาอินทรีย์ ที่โรงเรียนชาวนา ไร่เชิญตะวันของพระ อาจารยว์ .วชริ เมธี โดยไปเรียนกับภรรยา ทุกวันเสาร์ เปน็ ระยะ เวลา 1 ปี จงึ เร่มิ กลับมาคิดจริงจังเร่ืองการทา เกษตรอนิ ทรยี ์ โดยใช้วิธีการวา่ ร้านป๋ยุ ยาทีข่ ายอยู่ ถา้ ขายหมดไปจะไมซ่ ้ือมาเติม มาขายอีก ประมาณ 2 ปจี ึง หยุดการขายป๋ยุ สารเคมี 100%
การทานาอินทรีย์ได้รบั การต่อต้านในพ้ืนทเี่ ป็นอยา่ งมาก เพราะชาวบ้านไมเ่ ข้าใจ แต่ เจา้ ของ แปลงก็ไม่สนใจ ต้ังหน้าทาอย่างเดียว ในปีแรกได้ผลผลิตไม่มากนัก ทาเรื่อยมาจนถึงปีที่ 4 จึงสามารถมี ผลผลิตออกจาหนา่ ย และเปน็ ทรี่ จู้ ักของตลาด สว่ นตวั เจา้ ของแปลงมีอาชีพเสริม รับจ้างขบั รถต้ทู ่องเทีย่ ว มรี ุ่นน้องโรงเรยี นชาวนามาว่าจ้าง รถไปกิจกรรมเอาม้ือสามัคคีที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จึงได้มีโอกาสพบกับอาจารย์ยักษ์ และได้เรียนรู้เรื่อง โคก หนอง นา โมเดล และได้ไปร่วมกิจกรรมเอาม้ือในหลายๆจังหวดั เช่นกาแพงเพชร นครสวรรค์ สุรินทร์ ในวันท่ี 30 มนี าคมม 2562 ไดเ้ ร่มิ ทากจิ กรรมเอามอ้ื สามคั คีที่แปลงของตนเองเปน็ คร้ังแรก(ไรช่ าวนา 4.0) การทาเกษตรอินทรีย์ของตนเองได้สาเร็จ ปัจจัยท่ีสาคัญคือ คนในครอบครัวเข้าใจและ สนับสนุน อย่างเต็มที่ ภรรยาเข้าร่วมอบรมด้วย ลูกก็ให้การสนับสนุน รวมท้ังยังมีเพ่ือน มีเครือข่ายกสิกรรม ธรรมชาติท่ี คอยช่วยเหลือ แลกเปลี่ยน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน และท่ีสาคัญทาแล้ว ตนเองและครอบครัวมี สุขภาพท่ดี ี มี รายได้ 4. เริ่มลงมือทากิจกรรม โดยเจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัดเชียงรายร่วมกับเจ้าของแปลง ได้แบ่ง แปลงทางานเป็น 4 กลมุ่ ตามกลมุ่ สที ่ีลงทะเบียนไว้ โดยมี“ครพู าทา”ซ่ึงกิจกรรมที่ต้องทาในแต่ละแปลงคือ - การขดุ ลอกคลองไส้ไก่ - การหม่ ดิน แห้งชาม นา้ ชาม - การทาป๋ยุ นา้ หมัก - การทาธนาคารใบไม้
5. ศึกษา เรียนรู้ กิจกรรมสาธิต ได้แก่ การทายางมหัศจรรย์ปลูกผัก, การทาน้ายาแอลกอฮอล์ล้าง มอื จากสมนุ ไพร, สาธิตเคร่อื งสีข้าวกลอ้ งมอื หมุนแบบโบราณ 6. เย่ียมชม และอดุ หนนุ จดุ จาหน่ายผลิตภัณฑ์ชมุ ชนของเครอื ขา่ ยฯและชาวบา้ นในพ้นื ที่ 7. เวทสี รุปบทเรียน “เอามื้อสามัคคี ดีอยา่ งไร” ภายใตป้ ระเด็น 1. ความรเู้ ก่า คืออะไร เห็นอะไร? 2. ความรใู้ หม่คืออะไร เห็นอะไร? 3. เห็นปญั หาอะไรบ้าง นกึ ถงึ ปญั หาอะไร ? 4. คดิ ว่าจะเอาไปใช้แก้ปญั หาอะไร และนาไปแก้ปัญหาไดอ้ ย่างไร ?
8. ซุมห่อข้าว กิน๋ ขา้ วตอน ดว้ ยกนั 9. เครอื ข่ายกสิกรรมธรรมชาตจิ งั หวัดเชียงรายรว่ มประชุมสรปุ งาน และเตรียมการดาเนินงานต่อไป 4. ปัจจัยทีท่ าให้กจิ กรรมเอามื้อทเ่ี วียงชัย จ.เชยี งราย ประสบผลสาเรจ็ 5.1 สพจ.เชียงรายมีการออกแบบ วางแผน กิจกรรมร่วมกับเจ้าของแปลงและเครือข่ายกสิกรรมธรรมชาติ จงั หวดั เชียงราย 5.2 มีการพูดคุย ปรับแผนร่วมกัน ระหว่าง เจ้าของแปลง, สพจ.เชียงราย, สพอ.เวียงชัย และศูนย์ศึกษาและพัฒนา ชมุ ชนลาปาง 5.3 เจา้ ของแปลงมีการจดั เตรียมพน้ื ทร่ี ว่ มกับเครอื ข่ายกสิกรรมธรรมชาตจิ ังหวัดเชยี งราย 5.4 ผเู้ ข้าร่วมกจิ กรรมมีหลากหลายกล่มุ /หลากหลายพนื้ ท/ี่ หลากหลายเครือข่าย ได้แก่ - ปราชญห์ ม่บู ้านเศรษฐกจิ พอเพียงในพน้ื ทีจ่ ังหวดั ชยี งราย - นักเรยี นชาวนา ไรเ่ ชิญตะวนั - เยาวชนจากมอ่ นแสงดาว - เครือข่ายกสิกรรมธรรมชาตจิ ังหวดั พะเยา - เครอื ขา่ ยกสิกรรมธรรมชาตจิ ังหวัดเชยี งราย - จติ อาสา เราทาความดีด้วยหัวใจ 5.5 มกี ารออกแบบกิจกรรมเสริมท่นี ่าสนใจ ไดแ้ ก่ - การทายางมหัศจรรยป์ ลูกผัก - การทาน้ายาแอลกอฮอลล์ า้ งมือจากสมนุ ไพร - สาธิตเครือ่ งสขี ้าวกลอ้ งมอื หมุนแบบโบราณ - จาหน่ายผลติ ภณั ฑ์ชมุ ชนของเครือข่ายฯและชาวบา้ นในพนื้ ท่ี 5.6 กิจกรรมเสริม มกี ารสาธิตท่ีชัดเจน - มีวิทยากรทเี่ ชย่ี วชาญ - มที มี งานสนบั สนุนการสาธิต - มกี ารเตรียมวัสดสุ าธติ ท่ดี ี ชัดเจน - แจกผลติ ภัณฑส์ าธติ ให้กับคนท่ีสนใจ 5.7 ไดค้ วามรู้ใหม่ ทีส่ ามารถทาได้งา่ ย วสั ดุหาง่ายในพื้นท่ไี มต่ ้องลงทุนสงู 5.8 เจา้ ของแปลง และครอบครวั มใี จเกิน100 มีอธั ยาศยั ดี 5.9 มหี น่วยงาน ภาคีเครือขา่ ย ท้องที่ ทอ้ งถิ่น และศพช.ลาปาง ให้การสนบั สนนุ 5.10 สามารถนาสิ่งที่วางแผนไว้ สู่การปฏิบัติได้จริง เช่น การเตรียมป้ายบอกทาง , จิตอาสาอานวยความ สะดวกการจราจร , การจดั เตรยี มจดุ จอดรถ 5.11 เวทีเสวนา “เอาม้ือสามัคคี ดีอย่างไร” ผู้ร่วมเสวนามีความหลากหลายทงั้ แนวคิด และประสบการณ์ สามารถนาไปปรับใชไ้ ดจ้ ริง 5.12 กจิ กรรม “ซุมหอ่ ขา้ ว กิ๋นข้าวตอน” ด้วยกัน สรา้ งบรรยากาศท่ีดีในการกินข้าวร่วมกัน มีการเอื้อเฟื้อ แบง่ ปนั อาหาร สร้างความรกั ความสามัคคี ได้รู้จกั กนั สรา้ งเครือขา่ ยทีเ่ ข้มแขง็
6. ปัญหาอปุ สรรค 6.1 การชี้แจงการแบ่งพน้ื ท่แี ปลงเอามอื้ ไมช่ ดั เจน 6.2 ขนาดพื้นทแี่ ปลง ไมส่ มั พนั ธก์ บั จานวนคน 6.3 การแบ่งพนื้ ที่ ขอบเขตแปลงไม่ชัดเจน 6.4 จุดสาธติ กจิ กรรมนา่ สนใจ คนมงุ ดูกนั มาก ทาให้คนทอ่ี ยดู่ า้ นหลังมองไมเ่ ห็น และไดย้ ินไม่ชดั 6.5 ปา้ ยไวนิลใหค้ วามรู้ท่ตี ิดใหค้ นอ่าน ตัวหนังสอื เบลอ ภาพไม่ชัด 7. ข้อคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม 7.1 ควรแสดงพื้นที่ แปลงท่ีจะเอามอ้ื และช้แี จงงานทต่ี อ้ งทาในพนื้ ท่ีแปลงใหช้ ดั เจน 7.2 จดุ สาธติ กจิ กรรมควรมปี ้าย วสั ดอุ ุปกรณ์ และข้ันตอนวธิ กี ารทาใหช้ ัดเจน 7.3 ควรแบ่งงานกบั คนมารว่ มกจิ กรรมเอามอ้ื ใหช้ ัดเจน ภาพกิจกรรม “ถอดบทเรียน” เอาม้ือสามคั คี.. อ.เวียงชัย จ.เชียงราย
Search
Read the Text Version
- 1 - 17
Pages: