รายงานวจิ ยั ชน้ั เรียน เรื่อง การพัฒนาการเรยี นร้เู รือ่ งการบนั ทกึ รายการ และการคํานวณภาษีเงินได้ บคุ คลธรรมดา โดยใชเ้ ทคนคิ การสอนแบบการสาธิตประกอบการใชส้ อื่ จรงิ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 5 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2561 จัดทาํ โดย นางสาวปัทมา ปลั่งเปลือ่ ง ตําแหน่ง ครผู ู้ช่วย วจิ ัยเลม่ นี้เป็นส่วนหนึ่งของการสอนในรายวชิ า ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากับการบัญชี ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2561 โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ 31 อําเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ชอ่ื เรือ่ งวิจยั การพัฒนาการเรียนรู้เรอ่ื งการบันทกึ รายการ และการคํานวณภาษเี งนิ ได้ บคุ คล ธรรมดา โดยใช้เทคนิคการสอนแบบการสาธิตประกอบการใช้สื่อจริง ระดับช้ัน ผวู้ ิจยั มัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา ตาํ แหน่ง 2561 วฒุ ิการศึกษา ปีทท่ี าํ การวจิ ยั นางสาวปทั มา ปลัง่ เปลอ่ื ง ลกั ษณะผลงาน ครผู ูช้ ่วย ปรญิ ญาตรบี ญั ชีบณั ฑิต (บช.บ) มหาวทิ ยาลยั ราชภัฎอตุ รดติ ถ์ ปีการศึกษา 2 / 2561 วจิ ยั การเรยี นการสอน ความเป็นมาและความสาํ คัญ วิชาภาษีเงนิ ได้บุคคลธรรมดา เป็นวิชาทีม่ ีความสาํ คญั ต่อผ้เู รียน เพอ่ื เป็นพื้นฐานความรใู้ น ระดับอดุ มศกึ ษาตอ่ ไป ผวู้ จิ ยั ในฐานะเป็นครสู อนวชิ าภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา พบว่า ในปที ี่ผ่านมา ผูเ้ รยี นสว่ นมากบันทึกรายการลงในแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 91 และคาํ นวณภาษเี งนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดา ไม่ ถกู ต้อง เนอ่ื งจากขาดทักษะ ความรู้ และความชํานาญ ดงั นน้ั ผวู้ ิจยั เห็นความสาํ คญั ในเรอื่ งนี้ จงึ ได้จัดทาํ สือ่ อปุ กรณ์ เพอื่ ให้ผูเ้ รยี นเกดิ ความเขา้ ใจใน เนอ้ื หา ความรู้ มีความชาํ นาญ เกดิ ทกั ษะ และกระบวนการคดิ วเิ คราะห์ คาํ นวณ ได้ถกู ต้องมากย่งิ ขึ้น วตั ถุประสงคข์ องการวจิ ัย เพือ่ พฒั นาการเรยี นรู้ ทกั ษะ การบันทกึ รายการ และการคํานวณภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดา ลงในแบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 91 ไดถ้ ูกตอ้ ง
กรอบแนวคิดในการวิจัย 1. สอื่ อปุ กรณก์ ารเรียนการสอน หมายถงึ แผนภาพ แบบฟอร์ม ภ. ง. ด. 91 ขนาด ขยายจากแบบฟอรม์ จรงิ 50 เทา่ และเท่ากบั แบบฟอร์ม ภ.ง.ด. 91 จริง เพอ่ื ใหน้ ักเรียนฝึกทกั ษะ การบันทกึ รายการ และฝกึ คาํ นวณภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา จากโจทยท์ คี่ รกู าํ หนดให้ 2. การสาธิต เป็นเทคนิควธิ กี ารสอนทอี่ าศยั สื่อท่ีเปน็ จริง นํามาสาธติ วิธีการบนั ทกึ รายการ และการคํานวณภาษีเงนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา ให้ผ้เู รยี นใช้การสงั เกต เป็นการเรียนรเู้ พื่อนําไปใช้ปฏบิ ัติ ดว้ ยตนเองตามขน้ั ตอน แนวคิด ทฤษฎี และงานวจิ ยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง 1.1 ภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดา ความหมายของภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมดา ภาษเี งินไดบ้ คุ คลธรรมดา หมายถงึ ภาษที ่จี ดั เกบ็ จากบุคคลทว่ั ไป หรอื จากหน่วยภาษี ทมี่ ีลกั ษณะพเิ ศษตามที่กฎหมายกาํ หนด และมรี ายได้เกดิ ขึ้นตามเกณฑท์ ก่ี าํ หนด โดยปกตจิ ดั เกบ็ เป็น รายปี รายไดท้ ีเ่ กดิ ขึ้นในปใี ด ผมู้ ีรายไดม้ ีหน้าทต่ี ้องนาํ ไปแสดงรายการตนเองตามแบบแสดงรายการ ภาษที ก่ี าํ หนดภายในเดือนมกราคม ถงึ เดือนมีนาคม ของปีถดั ไป สําหรบั ผูม้ เี งนิ ได้บางกรณกี ฎหมาย ยงั กําหนดใหย้ น่ื แบบ ภ. ง. ด. 90 เสียภาษตี อนคร่ึงปี สาํ หรบั รายได้ทีเ่ กิดขึ้นจรงิ ในชว่ งครง่ึ ปีแรก เพอ่ื เปน็ การบรรเทาภาระท่ีต้องชําระ และเงนิ ไดบ้ างกรณีกฎหมายกําหนดให้ ผู้จา่ ยเงนิ ได้ ทาํ หน้าที่ หกั ภาษี ณ ทจี่ ่าย จากเงนิ ได้ทจี่ า่ ยบางส่วน เพือ่ ใหม้ ีการทยอยชาํ ระภาษีขณะทีม่ เี งนิ ได้ที่เกิดขน้ึ 1.2 การสอนแบบสาธติ ความหมายการสอนแบบสาธติ การสาธติ หมายถึง การทําให้ดเู ปน็ ตวั อย่าง หรอื การแสดง หรือการกระทาํ สิง่ ต่าง ๆ ให้ผู้เรียนดู วธิ ีการสอนแบบสาธติ หมายถึง วธิ ีสอนทค่ี รูมีหนา้ ท่ีในการวางแผนการเรยี นการสอนเปน็ สว่ นใหญ่ โดยมกี ารแสดง หรอื การกระทาํ ใหด้ ูเป็นตวั อย่าง นกั เรยี นจะเกดิ การเรยี นรู้จากการสังเกต การฟัง การกระทาํ หรือการแสดง แนวทางในการสาธติ การสาธติ แบบบอกความรู้ เปน็ การสาธติ ทีแ่ จ้งให้ผูเ้ รยี นทราบก่อนการสาธติ วา่ จะทาํ อะไร อย่างไร และจะมีอะไรเกดิ ขนึ้ บ้าง แลว้ ใหผ้ ้เู รยี นสงั เกตการณส์ าธติ พร้อมอธิบายตามไปด้วย การสาธิตแบบค้นพบความรู้ เปน็ การสาธิตท่ผี ู้สาธิตหรอื ครูตั้งคาํ ถามใหผ้ ู้เรยี นคาดคะเนคาํ ตอบ เพ่ือ เปน็ การเร้าความสนใจแลว้ จึงใหผ้ เู้ รียนคอยสงั เกตจากการสาธติ ว่ามีอะไรเกิดข้ึนบ้าง และอยา่ งไร
งานวจิ ยั ทเี่ กี่ยวข้อง สุพรรณี สุวรรณจรัส (2543) การวิจยั ในคร้งั นี้ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ 1) สรา้ งและหา คณุ ภาพของแผนการจัดการเรียนรแู้ บบสาธิตรว่ มกันโดยใชส้ ือ่ สามมิติ ประกอบการเรยี นรู้ เรือ่ งการสร้างตาราง 2) ศึกษาประสทิ ธภิ าพของแผนการจดั การเรยี นรแู้ บบสาธิตรว่ มกบั การเรียนรรู้ ว่ มกนั โดยใช้ สื่อสาม มิติประกอบการเรยี นรู้ เร่อื งการสรา้ งตาราง 3) เปรียบเทยี บผลสัมฤทธทิ์ างการเรียนของนักเรยี นกอ่ นเรยี นและหลังเรียนด้วยการจัดการ เรยี นรแู้ บบสาธิตรว่ มกบั การเรยี นรู้รว่ มกันโดยใชส้ อ่ื สามมติ ิประกอบการเรียนรู้ เร่ืองการสรา้ งตาราง สาํ หรบั โรงเรยี นเทศบาล 3 วดั ทา่ มะปราง อาํ เภอเมอื ง จงั หวัดพษิ ณโุ ลก ชน้ั ประถมศกึ ษา ปที ี่ 4 / 2 จํานวน 34 คน จากผลการศึกษาพบว่า ชว่ งคะแนนของแบบทดสอบหลงั เรยี นสงู ขึน้ มากอย่างเห็นได้ ชัด ทําใหท้ ราบวา่ นกั เรยี นกลุม่ ตวั อยา่ งห้อง 4/2 นน้ั มผี ลสัมฤทธทิ์ างการเรียนเร่ืองนม้ี ากข้ึน ซึ่งแสดง ให้เห็นวา่ การเรยี นรโู้ ดยใชส้ ่ือสามมิติ เร่อื งตาราง น้นั นักเรียนมีความเข้าใจในเรอ่ื งของแถวและ คอลมั น์ และจากการสุม่ ตวั อยา่ งนักเรยี น จาํ นวน 3 คน ใหท้ ดลองปฏิบตั ิงานกับสอื่ สามมิติ นกั เรยี น สามารถปฏบิ ตั ไิ ดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและนกั เรยี นสามารถนําไปประยกุ ตใ์ ช้กบั งานในรูปแบบตา่ ง ๆ ได้ เนื่องจากระหวา่ งเรียนคณะผ้วู ิจัยไดว้ ดั จากการใหน้ ักเรยี นได้ลงมอื ปฏิบตั ิจริง ซงึ่ ระหว่างการปฏบิ ัตนิ น้ั นักเรียนไดร้ ว่ มมือกนั ในการเรยี นรทู้ ําใหเ้ กดิ การช่วยเหลือกัน ประกอบกบั การทค่ี ณะผสู้ อนไดใ้ ชก้ าร ตดิ ตามและเอาใจใส่ผู้เรียนอย่างใกล้ชดิ ทาํ ใหผ้ ูเ้ รยี นกล้าซักถาม จงึ ทําใหเ้ ข้าใจเน้ือหาบทเรยี น และมี คณุ ลักษณะพฤตกิ รรมในการเรยี นรทู้ ดี่ ี กล่มุ ตวั อยา่ ง นกั เรียนช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 5 สาขาการบัญชี โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31 จํานวน 15 คน ตัวแปร ตวั แปรอิสระ คือ การสอนแบบสาธิต ตัวแปรตาม คอื ผ้เู รยี นมที ักษะการบนั ทึกรายการและคาํ นวณภาษีเงินได้ บคุ คลธรรมดา เครือ่ งมอื แบบประเมินผลการเรยี นรู้ / ใบงาน และแบบประเมนิ ผลการทาํ ใบงาน การรวบรวมข้อมูล จากแบบประเมินผลการทาํ ใบงาน สถติ ทิ ใี่ ช้ในการวเิ คราะห์ คา่ เฉลี่ยและร้อยละ
ผลการวิเคราะห์ข้อมลู ตอนท่ี 1 หาค่าเฉลยี่ และค่าร้อยละการทําใบงาน ตารางท่ี 1แสดงคะแนนผลการทาํ ใบงานของผู้เรยี น เรอ่ื ง การบันทึกรายการและการคาํ นวณ ภาษเี งนิ ไดบ้ คุ คลธรรมดาของนกั เรียนระดบั ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 2/2561 โรงเรียน ราชประชานเุ คราะห์ 31 จํานวน 24 คน แบบฝกึ ปฏบิ ตั ใิ บงาน ค่าเฉล่ีย ร้อยละ คร้ังท่ี 1 5.45 54.58 ครง้ั ที่ 2 8.25 82.50 จากตารางท่ี 1 แสดงใหเ้ ห็นวา่ คะแนนคา่ เฉลยี่ ของนกั เรยี นครงั้ ที่ 1 เท่ากบั 5.46 คดิ เปน็ ร้อยละ 54.60 ส่วนคะแนนคา่ เฉลยี่ ของนักเรยี น ครง้ั ที่ 2 เท่ากบั 8.25 คดิ เป็นรอ้ ยละ 82.50 นกั เรียนมี ผลสัมฤทธกิ์ ารเรียนดขี น้ึ กวา่ เดิม อภปิ รายผล ผู้เรียนมกี ารพัฒนาการเรยี นรู้เร่ืองการบนั ทึกรายการ และการคํานวณภาษีเงนิ ได้บุคคล ธรรมดาสูงข้นึ ซงึ่ เหน็ ได้จากผลการสรปุ การใชน้ วัตกรรม นกั เรียนมีผลสมั ฤทธทิ์ ี่ดขี นึ้ อันเนื่องมาจาก ผเู้ รียนใหค้ วามสนใจในการเรยี น จากการสอนแบบการสาธิตทใี่ ช้สอ่ื จริงประกอบการสอน ทําให้ ผเู้ รียนได้เห็นและไดล้ งมือปฏบิ ัติได้อย่างถกู ตอ้ ง ขอ้ เสนอแนะ การใช้เทคนคิ การสอนแบบการสาธติ ประกอบการใช้ส่ือจริง ทาํ ใหผ้ เู้ รยี นสนใจในการเรยี นมากข้นึ ทาํ ใหผ้ ู้เรียนสามารถลงมอื ปฏบิ ตั ิงานได้ด้วยความตง้ั ใจและถกู ต้อง
เอกสารอ้างอิง ธนพล ถาวรพานิช. ภาษีเงินไดบ้ ุคคลธรรมดา,กรงุ เทพฯ : สาํ นกั พมิ พ์ศูนยส์ ่งเสริมอาชีวะ, 2551 (วันทส่ี ืบคน้ 14 มนี าคม 2561) เอกสารเผยแพร่ ภาษีอากร, กรมสรรพากร : 2555(วันที่ค้นขอ้ มลู : 14มีนาคม2560). สมคดิ บางโม. ภาษีเงนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดา. กรุงเทพฯ : บริษทั วทิ ยพฒั น,์ 2545 (วนั ท่สี บื คน้ 14 มีนาคม 2561).
Search
Read the Text Version
- 1 - 6
Pages: