บทท่ี 5 องค์ประกอบพน้ื ฐานของระบบเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์ โดย นางสาว ณัฐตกิ า พนู ขนุ ทด รหสั นกั ศกึ ษา 4631071741101 สาขา โลหะ (ลงเพมิ่ ) คำถามท้ายบท 1. องคป์ ระกอบพนื้ ฐานของระบบเครือขา่ ยคอมพิวเตอรม์ อี ะไรบา้ ง จงอธบิ าย ระบบเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์ มอี งคป์ ระกอบทส่ี ำคญั เพอื่ การเชอ่ื มต่อเปน็ เครือขา่ ยคอมพิวเตอร์ ไดแ้ ก่ คอมพวิ เตอรแ์ มข่ ่าย (File Server) ชอ่ งทางการสอื่ สาร (Communication Chanel) สถานีงาน (Workstation or Terminal) และ อุปกรณใ์ นเครอื ข่าย (Network Operation System) คอมพวิ เตอร์แม่ข่าย หมายถงึ คอมพวิ เตอร์ ท่ีทำหนา้ ทเ่ี ป็นผู้ให้บรกิ ารทรพั ยากร (Resources) ต่าง ๆ ซง่ึ ได้แก่ หนว่ ยประมวลผล หน่วยความจำ หนว่ ยความจำสำรอง ฐานขอ้ มูล และ โปรแกรมต่าง ๆ เปน็ ตน้ ในระบบเครอื ข่ายท้องถน่ิ (LAN)มกั เรยี กวา่ คอมพิวเตอร์แมข่ ่ายในระบบเครอื ขา่ ยระยะไกลท่ใี ช้เมนเฟรมคอมพิวเตอร์หรอื มนิ ิคอมพิวเตอรเ์ ปน็ ศูนย์กลางของเครอื ขา่ ยเรานยิ มเรยี กวา่ Host Computer และเรยี กเครอ่ื งทร่ี อรับบรกิ ารว่าลกู ข่ายหรอื สถานีงาน ชอ่ งทางการสอ่ื สาร ช่องทางการสื่อสาร หมายถงึ สอื่ กลางหรอื เสน้ ทางทใี่ ช้เป็นทางผ่าน ในการรับส่งขอ้ มลู ระหว่างผรู้ บั (Receiver) และผสู้ ง่ ขอ้ มลู (Transmitter) ปัจจบุ ันมีชอ่ งทางการสือ่ สาร สำหรบั การเชอื่ มตอ่ เครอื ข่าย คอมพวิ เตอร์มีหลายประเภทคือ สายโทรศัพท์แบบสายคู่ตีเกลยี วไมม่ ฉี นวนหุ้ม (UTP) สายคูต่ เี กลยี ว แบบมฉี นวนหมุ้ (STP) สายโคแอคเชยี ล สายใยแกว้ นำแสง คล่ืนไมโครเวป และดาวเทยี ม เปน็ ตน้ สถานีงาน (Workstation or Terminal) หมายถงึ อปุ กรณห์ รอื เครอ่ื งไมโครคอมพิวเตอร์ ทเ่ี ชอื่ มตอ่ กับเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์ ทำหน้าที่เป็นสถานีปลายทางหรือสถานงี าน ที่ไดร้ บั การบรกิ ารจากเครอื่ ง คอมพวิ เตอรแ์ มข่ า่ ย เรียกว่าเปน็ คอมพวิ เตอรล์ กู ข่าย (Workstation) ในระบบเครอื ขา่ ยระยะใกล้ มกั มหี น่วยประมวลผล หรอื ซีพยี ขู องตนเอง ในระบบทใ่ี ชเ้ คร่อื งคอมพวิ เตอร์เมนเฟรม เป็นศนู ยก์ ลาง เรยี กสถานปี ลายทางว่าเทอรม์ นิ อล (Terminal) ประกอบด้วยจอภาพและแป้นพิมพเ์ ทา่ นน้ั ไมม่ ีหน่วยประมวลกลางของตวั เอง ตอ้ งใชห้ นว่ ยประมวลผลของคอมพิวเตอรศ์ นู ยก์ ลางหรอื Host อปุ กรณ์ในเครือข่าย การ์ดเช่อื มตอ่ เครือข่าย (Network Interface Card :NIC) หมายถึง แผงวงจรสำหรบั ใชใ้ นการเชอื่ มตอ่ สายสญั ญาณของเครอื ข่าย ติดตั้งไว้ในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ทเ่ี ปน็ เครื่องแมข่ า่ ย และเครอื่ งทเี่ ปน็ ลกู ขา่ ย หน้าท่ีของการด์ นี้คอื แปลงสญั ญาณจากคอมพวิ เตอรส์ ่งผา่ นไปตามสายสญั ญาณ ทำใหค้ อมพิวเตอรใ์ นเครอื ข่ายแลกเปลยี่ นขอ้ มลู ขา่ วสารกนั ได้ โมเด็ม ( Modem : Modulator Demodulator) หมายถึง อุปกรณส์ ำหรับการแปลงสัญญาณดจิ ติ อล (Digital) จากคอมพวิ เตอรด์ ้านผู้ส่ง เพือ่ ส่งไปตามสายสัญญาณขอ้ มูลแบบอนาลอก(Analog) เมอ่ื ถึงคอมพวิ เตอรด์ า้ นผรู้ ับ โมเดม็ กจ็ ะทำหนา้ ทแ่ี ปลงสญั ญาณอนาลอก ให้เปน็ ดิจิตอลนำเขา้ สเู่ ครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เพ่ือทำการประมวลผล โดยปกตจิ ะใชโ้ มเดม็ กบั ระบบเครือขา่ ยระยะไกล โดยการใชส้ ายโทรศพั ท์เปน็ สือ่ กลาง เชน่ เครือขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ ตน้
ฮบั ( Hub) คอื อุปกรณ์เช่อื มตอ่ ทใี่ ช้เปน็ จุดรวม และ แยกสายสญั ญาณ เพอ่ื ให้เกดิ ความสะดวก ในการเชื่อมต่อของเครอื ข่ายแบบดาว (Star) โดยปกติใชเ้ ป็นจดุ รวมการเช่ือมตอ่ สายสัญญาณระหว่าง File Server กับ Workstation ต่าง ๆ 2.ลกั ษณะการทำงานของคอมพิวเตอรท์ ี่เชอ่ื มตอ่ ในการทำงานระบบเครอื ข่าย คอมพวิ เตอร์ จะแบง่ เครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ ป็น 2 ประเภท คือประเภทใดบ้าง ประเภทที่ใชเ้ ปน็ เซริ ์ฟเวอร์ ของเครอื ข่าย (server Computer) เเละประเภททใี่ ชเ้ ป็นเครอ่ื ง ลูกขา่ ย (client) 3. ให้นกั ศกึ ษาอธบิ ายหนา้ ท่ีของอปุ กรณเ์ หล่านี้ 3.1 แลนการด์ ทำหน้าทอ่ี ะไร ป็นอปุ กรณ์ทใี่ ชส้ ำหรบั รบั สง่ ขอ้ มูลจากเครอื่ งคอมพวิ เตอรเ์ ครอื่ งหนงึ่ ไปยงั อกี เครอื่ งหนึ่ง หรอื ไปยงั อุปกรณอ์ น่ื ๆ ในระบบเครอื ข่าย ดงั นั้นคอมพวิ เตอรท์ กุ เครอ่ื งก็จะตอ้ งมีการด์ แลนเปน็ สว่ นประกอบสำคญั อกี อยา่ งหน่งึ และโดยเฉพาะการเช่อื มต่ออนิ เตอรเ์ น็ต ADSL ตามบ้าน มกั จะใชก้ ารด์ แลนเปน็ ตัวเชื่อเมตอ่ อกี ดว้ ย การใชก้ าร์ดแลน จะใช้ควบคกู่ ับสายแลนประเภท UTP 3.2 ฮับ (Hup) ทำหนา้ ทอี่ ะไร อปุ กรณ์เชอ่ื มตอ่ ที่ใชเ้ ป็นจดุ รวม และ แยกสายสัญญาณ เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสะดวก ในการเชอื่ มตอ่ ของเครอื ข่ายแบบดาว (Star) โดยปกตใิ ชเ้ ปน็ จุดรวมการเช่อื มตอ่ สายสัญญาณระหว่าง File Server กบั Workstation ต่าง ๆ 3.3 รีพตี เตอร์ (Repeater) ทำหนา้ ท่ีอะไร เป็นอุปกรณท์ ่ีทำหนา้ ทรี่ ับสัญญาณดิจติ อลเข้ามา แลว้ สรา้ งใหม่ (Regenerate) ให้เป็นเหมือนสญั ญาณ (ขอ้ มูล) เดมิ ท่ีส่งมาจากตน้ ทาง จากนัน้ ค่อยส่งตอ่ ออกไปยังอปุ กรณต์ วั อน่ื เหตทุ ีต่ ้องใช้ Repeater เนอื่ งจากวา่ การสง่ สญั ญาณไปในตัวกลางทเ่ี ปน็ สายสญั ญาณนน้ั เม่อื ระยะทางมากขนึ้ แรงดนั ของสญั ญาณจะลดลงเรอ่ื ย ๆ จึงไมส่ ามารถส่งสญั ญาณ ในระยะทางไกล ๆ ได้ ดงั น้ันการใช้ Repeater จะทำให้สามารถสง่ สญั ญาณไปไดไ้ กลขนึ้ โดยที่สญั ญาณไมส่ ญู หาย 3.4 บรดิ จ์ (Bridge) ทาหน้าทอ่ี ะไร เป็นอปุ กรณท์ ใ่ี ช้ในการเช่อื มตอ่ เครอื ข่ายสองเครือขา่ ยเขา้ ดว้ ยกัน ซึง่ ดแู ล้วคลา้ ยกบั เปน็ สะพานเชอื่ มสองฟากฝง่ั เขา้ ด้วยกัน ด้วยเหตนุ ้จี ึงเรียกอปุ กรณน์ ีว้ า่ บริดจ์ ซ่งึ แปลว่าสะพาน เครือขา่ ยสองเครอื ข่ายท่นี ำมาเชอ่ื มตอ่ กนั จะต้องเปน็ เครือข่ายชนิดเดยี วกัน และใชโ้ ปรโตคอลในการรบั สง่ ขอ้ มูลเหมือนกนั เชน่ ใชใ้ นการเชอ่ื มตอ่ เครอื ข่ายตามมาตรฐานอเี ทอรเ์ นต็ สองเครอื ขา่ ยเข้าดว้ ยกนั หรอื ตอ่ Token Ring สองเครอื ขา่ ยเขา้ ด้วยกนั 3.5 เราต์เตอร์ (Router) ทาหนา้ ท่ี อะไร การหาเสน้ ทางในการส่งผ่านขอ้ มลู ท่ดี ีทสี่ ดุ และเปน็ ตวั กลางในการส่งตอ่ ขอ้ มลู ไปยังเครอื ข่ายอนื่ ทัง้ น้ี Router สามารถเชอ่ื มโยงเครอื ข่ายทีใ่ ช้สื่อสญั ญาณหลายแบบแตกตา่ งกันไดไ้ มว่ ่าจะเป็น Ethernet, Token Rink หรือ FDDI ทั้งๆท่ใี นแตล่ ะระบบจะมี packet เป็นรูปแบบของตนเองซ่ึงแตกต่างกนั 3.6 เกตเวย์ (Gateway) ทาหน้าทอ่ี ะไร
เป็นอปุ กรณ์ทที่ ำหน้าท่เี ชอื่ มตอ่ เครือขา่ ยตา่ ง ๆ เข้าด้วยกัน ไม่ว่าเครอื ข่ายนน้ั จะใชโ้ ปรโตคอลตวั ใดกต็ ามเนอ่ื งจากว่า Gateway สามารถแปลงรปู แบบแพค็ เกต็ ของโปรโตคอลหนง่ึ ไปเปน็ รูปแบบของอีกโปรโตคอลหนง่ึ เพื่อให้เหมาะสมกบั การใช้งานในเครอื ข่ายได้ เชน่ แปลงรปู แบบแพ็คเกต็ ของ TCP/IP ไปเปน็ Apple Talk เปน็ ต้น ทำให้สามารถเชื่อมตอ่ กับเครือข่ายอื่น ๆ ไดอ้ ย่างไมม่ ขี ้อจำกัดแตใ่ นปัจจบุ นั นี้ ได้รวมการทำงานของ Gateway ไวใ้ น Router แล้ว ทำให้ Router สามารถทำงานเปน็ Gateway ไดจ้ งึ ไมจ่ ำเปน็ ตอ้ งซอ้ื อปุ กรณต์ ัวน้อี กี แล้ว 4. server. สายสญั ญาณทใี่ ช้เป็นมาตรฐานในระบบเครอื ข่ายคอมพวิ เตอร์มกี ป่ี ระเภท อะไรบ้าง 3 ประเภท สายคบู่ ิดเกลยี ว (twisted pair) สายค่บู ดิ เกลียว แตล่ ะคสู่ ายทองแดงจะถกู พนั กนั ตามมาตรฐานเพอื่ ลดการรบกวนจากคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟ้าจากคูส่ ายขา้ งเคียงภายในเคเบลิ เดยี วกนั หรือจากภายนอก สำหรับอตั ราการสง่ ขอ้ มลู ผา่ นสายคู่บดิ เกลยี วจะขึ้นอย่กู ับความหนาของสายดว้ ย กล่าวคอื สายทองแดงท่ีมเี ส้นผา่ นศนู ยก์ ลางกวา้ งจะสามารถส่งสญั ญาณไฟฟา้ กำลังแรงได้และสามารถใชส้ ่งขอ้ มลู ไดห้ ลายเมกะบติ ตอ่ วนิ าที ในระยะทางไดไ้ กลหลายกโิ ลเมตรซ่ึงมี 2 ชนิดคอื 1.1 สายคบู่ ิดเกลยี วชนดิ หุม้ ฉนวน (Shielded Twisted Pair : STP) สายคบู่ ิดเกลยี วชนดิ หมุ้ ฉนวนเป็นสายค่บู ดิ เกลียวทห่ี มุ้ ดว้ ยฉนวนชนั้ นอกทห่ี นาเพ่ือปอ้ งกันการรบกวนของคลนื่ แมเ่ หลก็ ไฟฟา้ 1.2 สายคบู่ ิดเกลยี วชนดิ ไมห่ ้มุ ฉนวน (Unshielded Twisted Pair :UTP) สายคู่บดิ เกลียวชนิดไมห่ มุ้ ฉนวนเปน็ สายคู่บิดเกลยี วทห่ี ุ้มด้วยฉนวนช้ันนอกทบี่ างทำใหส้ ะดวกในการโคง้ งอแต่สามารถป้องกันการรบกวนของคล่ืนแม่เหลก็ ไฟฟา้ ไ ด้น้อยกวา่ ชนดิ แรก สายโคแอกเชยี ล (coaxial) สายโคแอกเชยี ลเป็นตัวกลางเชอ่ื มโยงที่มีลกั ษณะเชน่ เดียวกบั สายทวี ที ีม่ กี ารใชง้ านกนั มาก ไมว่ า่ ในระบบเครือขา่ ยเฉพาะท่ี ในการส่งข้อมลู ระยะไกลระหว่างชุมสายโทรศพั ทห์ รอื การส่งขอ้ มูลสญั ญาณวีดทิ ศั น์ สายโคแอกเชยี ลทีใ่ ชท้ ว่ั ไปมี 2 ชนดิ คอื 50 โอหม์ ซ่ึงใชส้ ่งขอ้ มลู แบบดจิ ทิ ลั และชนิด 75 โอห์มซง่ึ ใชส้ ง่ ขอ้ มูลสญั ญาณแอนะลอ็ ก สายโคแอกเชยี ลจะมฉี นวนหมุ้ ปอ้ งกันการรบกวนของคลนื่ แมเ่ หล็กไฟฟา้ และสญั ญาณรบกวนอน่ื ๆ ซง่ึ เปน็ ส่วนหนงึ่ ทท่ี ำใหส้ ายแบบนี้มีชว่ งความถท่ี ี่สญั ญาณไฟฟ้าสามารถผา่ นไดก้ วา้ งถึง 500 Mhz จึงสามารถส่งขอ้ มูลด้วยอัตราสง่ สงู เส้นใยนำแสง (fiber optic) เสน้ ใยนำแสง เป็นการใชแ้ สงเคลื่อนทไ่ี ปในทอ่ แกว้ ซ่ึงสามารถส่งข้อมลู ดว้ ยอตั ราความหนาแนน่ ของสัญญาณขอ้ มลู สูงมาก ปัจจุบันถา้ ใช้เส้นใยนำแสงกบั ระบบอีเธอรเ์ นต็ จะใชไ้ ด้ดว้ ยความเร็ว 10 เมกะบติ ถา้ ใชก้ ับ FDDI จะใช้ไดด้ ว้ ยความเรว็ สงู ถึง 100 เมกะบิต เสน้ ใยนำแสงมลี กั ษณะพเิ ศษท่ีใช้สำหรบั เชื่อมโยงแบบจุดไปจดุ ดงั นนั้ จึงเหมาะทีจ่ ะใชก้ บั การเช่อื มโยงระหวา่ งอาคารกับอาคาร ระยะความยาวของเส้นใยนำแสงแต่ละเสน้ ใชค้ วามยาวไดถ้ งึ 2 กิโลเมตร เสน้ ใยนำแสงจงึ ถกู นำไปใช้เป็นสายแกนหลกั เสน้ ใยนำแสงนี้จะมบี ทบาทมากขนึ้ เพราะมแี นวโนม้ ทจ่ี ะใหค้ วามเรว็ ท่สี งู มาก 5. โปรโตคอล (Protocol) หมายถงึ อะไร ปจั จุบนั โปรโตคอลใดทน่ี ิยมใช้ท่ีสุด
ขอ้ กำหนดหรอื ขอ้ ตกลงในการสอื่ สารระหวา่ งคอมพิวเตอร์ หรอื ภาษาสือ่ สารทีใ่ ชเ้ ป็น ภาษา กลางในการสอ่ื สารระหวา่ งคอมพวิ เตอร์ดว้ ยกัน การทีเ่ ครื่องคอมพวิ เตอร์ทถี่ กู เชื่อมโยงกนั ไวใ้ นระบบจะสามารถตดิ ตอ่ สอื่ สารกนั ได้นนั้ จำเป็นจะตอ้ งมกี ารสอื่ สารที่เรียกวา่ โปรโตคอล โปรโตคอลทน่ี ยิ มใช้ทีส่ ดุ Communication Protocol (โปรโตคอลดา้ นการสอ่ื สาร) ใชใ้ นการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ขั้นพนื้ ฐาน เชน่ TCP/IP และ HTTP
Search
Read the Text Version
- 1 - 4
Pages: