Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Renoir

Renoir

Published by Kachornpon, 2016-08-17 11:04:05

Description: Pierre-Auguste-Renoir (Thai Edition)
13580546_พิรญาณ์-พงษ์กาบ_สาขาวิทยุโทรทัศน์

Search

Read the Text Version

RP i e r r e -A u g u s t e - Re n o i r

1 ถ้าหน้าท่ีของงานศิลปะ คือ การถ่ายทอดความงามและพึงพอใจของศิลปินแล้ว Pierre-Auguste-Renoir ก็นับว่าเป็นศิลปิน ที่ด�ำเนินตามแนวทางนี้ได้ดีที่สุดคนหน่ึง ไม่เพียงแต่ผลงานจากฝีแปรง ท่ีแสดงความสุข ความสดใส และความมีชีวิตชีวาของผู้คนแล้ว แต่ผลงานของเรอนัวร์ยังเปรียบเสมือนหนึ่งในบันทึกทางประวัติศาสตร์และอารยธรรมที่ส�ำคัญชิ้นหน่ึงของ ศตวรรษท่ี 19 อีกด้วย ในฐานะผู้น�ำของลิทธิอิมเพลสชั่นนิสม์ (Impressionism)เรอนัวร์ ยังเป็นหน่ึงก�ำลังส�ำคัญในการจัดตั้ง นิทรรศการของลัทธิอิมเพลสชั่นนิสม์เป็นครั้งแรก แม้งานผลงานส่วนใหญ่ของเขา ในช่วงแรกจะได้รับการปฏิเสธจากคณะกรรมการจากนิทรรศการในซาลอง ก็ตามแต่เรอนัวร์ก็ยังแน่วแน มุ่งมั่น ท�ำตามความฝันของตนและเหล่าเพื่อนศิลปินอิมเพลสช่ันนิสม์ เพ่ือน�ำลัทธิแห่งความประทับใจน้ี เข้าไปชโลมจิตใจคนในสังคมแห่งความหมองเศร้า ในยุคที่เต็มไปด้วยสงคราม ตราบใด ท่ีมนุษย์ยังมีความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง ดีใจ เสียใจเมื่อน้ัน ศิลปะก็คงเป็นท่ีต้องการเสมอ และจะคงท�ำหน้าท่ีของมัน เพื่อปรับสมดุลให้กับชีวิตมนุษย์ ในยามท่ีหมองเศร้า ศิลปะช่วยเรา ให้ออกมาจากวังวนแห่งความทุกข์ ในยามทุกข์ร้อน ผู้ที่มีศิลปะ จะยังอยู่ได้ในยามที่โลกเบื่อหน่ายความจ�ำเจ ศิลปินคนหนึ่ง อาจสร้างสรรค์โลกทั้งใบให้เป็นไปตามที่ตนต้องการได้ เรอนัวร์ ไม่เพียงแต่จะสร้างผลงานศิลปะที่ประเมินค่าได้ยากไว้เพื่อประดับวงการศิลปะแล้ว แต่เรอนัวร์ ยังสร้างผลงานท่ีเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและจิตวิญญาณของศิลปินอย่างแท้จริง สุดท้ายน้ี ผู้จัดท�ำหวังว่า ส่ิงท่ีได้น�ำเสนอไปในหนังสือเล่มนี้ จะเป็นตัวช่วยเสนอมุมมองของโลกมนุษย์ท่ีเปี่ยมไปด้วยความสวยสดงดงามด้วยศิลปะ ขัดเกลาความหมองเศร้าของผู้อ่าน ไม่มาก ก็ น้อย

2 คำ� น�ำ 1 สารบญั 2เสน้ ทางชีวิต 3 ชีวประวตั ิ 9 ผลงาน 21บรรณานกุ รม 75

31841 ปิแอร์ ออกุสต์ เรอนวั ร์ เกดิ ทีเ่ มือง ลีมอฌ (Limoges) ประเทศ ฝรัง่ เศส เมื่อวนั ที่ 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1841 ในครอบครวั ชัน้ แรงงานทม่ี ีฐานะคอ่ นขา้ งยากจน บดิ าและ1 8 4 4 7 ม ค ารครอนดบาคขรอวั งขเขอางเเปขน็าไชด่า้ยง้าตยัดมเสาทือ้ ป่ี เารรอีสนในวั ร์เปน็ บุตรคนที่ 6 ในบรรดาพี่น้องทั้งหมด 1854 เรอนัวร์ ออกจากโรงเรียน โดยต้องช่วยทางบา้ นหารายได้ เขาสมคั รเขา้ ทำ� งานใน โรงงานผลิตภาชนะเคร่ืองเคลอื บ ทำ� งานในหน้าท่ีชา่ งเขียนลายลงบนเคร่อื งเคลอื บ1858 ตกงาน ใชเ้ วลาในการวาดภาพบนพดั สตรรี วมถึงลงสตี ราเครอ่ื งหมายของตระกูล ขนุ นางใหอ้ องรี พีช่ ายของเขา ซง่ึ เป็นชา่ งแกะสลัก เขาหาเงินไดม้ ากเน่ืองจากท�ำงาน หนกั กวา่ คนอนื่ ถึง 10 เท่า1859 เปลีย่ นงานมาอยทู่ ่ีเอม็ กลิ แบร์ เขยี นลายลงบนม่านและฉากเพ่ือส่งขายให้กบั มชิ ช่ันนารี1860 เร่ิมท�ำงานเขียนอยา่ งจรงิ จัง โดยลอกแบบงานจากศลิ ปินช่ือดัง ในพิพธิ ภัณฑ์ลฟู วร์ ศึกษาภาพของ รูเบนส ์ ฟราโกนาร์ และ บูเช1862 เขา้ ศกึ ษาวิชาศลิ ปะอยา่ งถูกรปู แบบ ที่สถาบนั ศิลปะเอกอล เด โบ-ซาร์ และศกึ ษาเพิ่ม เติมทสี่ ตูดโิ อ ของ ชารล์ กลีเยร์ ซงึ่ ทน่ี ี่ เขาได้ร้จู กั คลอด โมเนต์, ฌอง เฟรดเดอรกิ บารซ์ ยี ์ และ อัลเฟรด ซสิ เลย์

41864 ส่งผลงานเขา้ รว่ มแสดงในนทิ รรศการ ศลิ ปะครั้งแรกทจี่ ดั ขนึ้ โดย ทางการ คอื ซาลอง ผลงาน เอสเมอราลดา เตน้ ร�ำกบั แพะ ทีส่ ง่ เข้า แสดงนัน้ ถูกทำ� ลายลงโดยตัวของเขาเองภาย หลังจากการแสดงเสร็จส้นิ1865 เรมิ่ งานเขียนภาพกลางแจง้ โดยเดนิ ทางไปในปา่ ฟองแตนเบลอ ซงึ่ อยู่ ทางตอนใต้ของปารีสกบั เหล่าเพอ่ื นของเขา เพือ่ ไปวาดทิวทศั น์ และปเี ดยี วกนั เขาได้สง่ ภาพเขียนเขา้ ไปรว่ มแสดง ทนี่ ทิ รรศการ ซ่ึง จดั โดยซาลอง เปน็ คร้งั ท่ี 21867 โมเนตม์ าอยูร่ วมกบั เรอนวั รแ์ ละบาซีย ์ ในปีนั้นคณะกรรมการคดั เลือกภาพเขียน ปฏเิ สธผลงานช่อื ไดอานา ของเขา และเริม่ เขยี นภาพ ลซิ ลี1868 ในปนี ี้ ภาพเหมอื นของ ลสิ เทรโอต์ เพ่อื นสาวคนแรกของเรอนัวร ์ ไดร้ บั การคดั เลือก ใหแ้ สดงในนทิ รรศการอกี ครง้ั1869 แสดงภาพทหี่ อ้ งภาพของสถาบันศลิ ปะกับเดอกาส์ ปิซาร์โร และบาซยี ์ เขาใชเ้ วลาชว่ ง หน้าร้อนกับลซิ เขาได้ร่วมเขียนภาพ กบั เน่ต์ และทีน่ ่ีท�ำใหเ้ รอนวั รไ์ ด้เขียนภาพทิวทัศน์ “แบบอมิ เพลสชัน่ นิสม์เตม็ ตัว” ภาพแรก คอื ภาพสระกบ1870 ปนี ้ี เรอนวั ร์ไดส้ ง่ ภาพ สาวงามอาบนำ�้ กับสนุ ัขกริฟฟอง เขา้ แสดงในนทิ รรศการทจี่ ัด ข้นึ โดยซาลองอกี ครั้ง โดยภาพน้ีเขาดัดแปรงมาจากภาพของ กสุ ตาฟ คูเบต ์ ทเี่ ป็น ภาพของสาวงามกบั นกกริฟฟอง ไม่ใช่สนุ ัข และอกี ภาพ ที่เขาส่งเข้ารว่ ม กค็ ือ ภาพ นางห้าม

5 และในปเี ดยี วกนั น้ี เขาไดถ้ กู เกณฑ์ให้เขา้ รบ ในสงคราม ฟรังโก-ปรสั ซียน ซึ่งสงครามน้ี เขาตอ้ งสูญเสียเพื่อนท่ดี ที สี่ ุดคนหนึง่ ของเขา น่นั คอื เฟรดเดอริก เบซยี ์ ในสงคราม1872 หลงั สงครามเลิก เรอนวั ร์ กลบั มาท�ำงาน เขาพบกบั ปอล ดรู งั ด-์ รูล์ พอ่ คา้ ซือ้ ขายภาพ เขยี น ผใู้ หค้ วามอุปการะงานของเขาจากนีไ้ ป เขาใช้เวลาช่วงหน้าร้อนไปกับดารเขยี น ภาพกับโนเนต์ทอี่ าร์คชองเตอญ1873 เขาได้ร่วมท�ำงานกับ โมเนต ์ ท่อี ารช์ องเตอล และได้วาดภาพกลางแจง้ ไว้หลายภาพ1874 ร่วมกันก่อต้ังกลมุ่ ศิลปินที่ถูกปฏเิ สธ เนือ่ งจากผลงานในแบบอมิ เพลสชน่ั นสิ ม ์ (ซ่ึงเป็น คำ� เรียกอยา่ งเหยียดหยามของนกั วิจารณศ์ ิลปะ ในนติ ยสาร ชาริวารี )ที่เขาและเพ่ือนๆ รว่ มกนั สรา้ งขึน้ ไม่เปน็ ท่ียอมรบั ของสมาคมชาวศลิ ปในยุคน้ัน พวกเขา จงึ รวมกลมุ่ กนั จัดงานแสดงภาพของพวกเขาขนึ้ โดยไม่สนใจการจัดงานของทางการ หรือ ซาลองอีก 1875 เรอนัวร ์ จดั งานขายภาพเขียนข้นั เองกับเพือ่ นๆของเขา แตก่ ลับถกู กระแนะกระแหนวา่ เปน็ การขายงานเขียนทถ่ี ูกทิ้ง(เลหลัง) ซึ่งการจดั งานครงั้ นี้ไมป่ ระสบความสำ� เรจ็ เนอ่ื งจากขายภาพไม่ไดร้ าคา เพียงแคพ่ อจา่ ยคา่ เชา่ ท่ไี ดเ้ ทา่ นน้ั แต่ เรอนวั ร์ โชคดี ท่ี ได้พบ จอรจ์ ชาร์ปองติเยร์ นักธุรกจิ การพิมพซ์ ่ึงสนใจงานศลิ ปะ มาชมภาพของเขาที่ น ่ี และผสู้ นับสนนุ งานของเขาอยา่ ง ดีเร่อื ยมา เรอนวั ร์ เขียนภาพ สาวเปลือยกลาง แสงแดด และในปีเดยี วกันนเี้ ขากส็ ูญเสยี พอ่ ของเขาในวัย 75 ปี

61876 แสดงภาพ 15 ภาพในนิทรรศการอมิ เพลสช่นั นสิ ม ์ เขยี นภาพ เลอมูแลงเดอลากาเลท์ และ ภาพชิงชา้1879 ภาพ มาดาม ชารป์ องตเิ ยร ์ ซึง่ เปน็ ภรรยาของ จอร์จ และลกู ๆ นัน้ ได้แสดงท่ีซาลอง และ เป็นภาพท่ปี ระสบความสำ� เร็จในระดบั สากลครั้งแรกของเขา และในปีเดยี วกนั น้นั เขาได้ร้จู ักกบั ปอล แบรารด์ และได้ไปวาดภาพครอบครวั ของปอล จนทำ� ใหเ้ รอนัวร์ เปน็ ท่ีรจู้ กั ในหมคู่ นม่ังคั่งท่มี ีกำ� ลงั ซ้ืองานของเขา 1880 ได้พบกับอาลีน ชารโิ กต์ คร้ังแรก ทใ่ี นปารีสใกลๆ้ กับสตดู โิ อของเขาเอง ซ่งึ ตอ่ มา อา ลีนกไ็ ด้เป็นภรรยาของเรอนัวร์ และ มีบตุ รชายร่วมกนั ท้งั หมด 3 คน 1881 เขาไดเ้ ดินทางทอ่ งเที่ยวไปในหลายๆเมอื งใหญ ่ ไปที่อลั จีเรียและจบท่อี ิตาล ี ในอติ าลี นั้นการไดเ้ ยีย่ มชมศิลปะและสถาปัตยกรรมยุคกอ่ นที่ เวนิช, ฟลอเรนซ,์ โรม, เนเปิล, ปอมเปอี, และคาปรี ท�ำใหเ้ ขาน�ำเทคนคิ ในการวาดภาพท่ีเขาพบ เห็นมาใชใ้ นงานของ เขา เขียนภาพ อาหารกลางวันของคณะล่องเรือ1885 ลกู ชายคนแรกของเขาที่เกดิ จาก อาลนี คือ ปิแอร์ ในขณะทที่ ง้ั สองคนยงั ไม่ไดแ้ ต่งงาน กนั เขยี นภาพชดุ คนอาบน้ำ�1889 โรครูมาตซิ ัม หรือ ไขข้ออักเสบเรอ้ื รงั แสดงอาการท�ำใหเ้ ขาชาตามเนอื้ ตัวจนบางคร้ัง ทำ� ใหเ้ ขาไม่สามารถท�ำงานได้1890 เขาก็ไดแ้ ต่งงานกับอาลีน อยา่ งถูกต้อง ในวนั ท ี่ 14 เมษายน ยา้ ยมาอยทู่ ่ีถนนจริ าดง ในมองมาตร์1892 ภาพเขยี นชุด สาวนอ้ ยเล่นเปยี โน ของเขาถูกซอ้ื โดยหนว่ ยงานราชการของฝรั่งเศส เป็นคร้ังแรกท่ีงานของเขาได้รบั การยอมรับจากทางราชการ1893 ฌอง ลกู ชายของ เรอนวั ร์ คนที่สองไดถ้ อื กำ� เนิด

71894 เขาถกู แต่งต้งั ให้เป็นผจู้ ดั การเกบ็ รวบรวมมรดกของ กุสตาฟ คายเยอบอตเตอ ซงึ่ เป็น ภาพของกสุ ตาฟเองรวมถงึ ของ เพ่ือนๆในกลุม่ อมิ เพลสช่นั นสิ ม์ ที่ คายเยอบอตเตอร์ สะสมไว้ โดยเขาใช้เวลาถงึ 3 ปีในการเก็บรวมรวมผลงานตา่ งๆจนส�ำเร็จ1896 เรอนวั ร์ สูญเสียแมข่ องเขา ในวัย 89 ปี1900 ออกสุ เรอนัวร ์ ไดร้ บั การประดบั เกยี รติยศชัน้ อัศวนิ แห่งฝรงั่ เศส เชอ วาลีเยร์ เดอ ลา เลชยิ อง เดออนเนอร์ Renoir ภรรยา และ1901 ลูกชายคนที่ 3 ชื่อ โคล้ด หรอื โคโค ลูกชายทง้ั สาม ของเขาถือก�ำเนดิ ในวนั ที่ 4 สิงหาคม1902 สุขภาพรา่ งกายของเขาทรุดโทรมลง อยา่ งมาก เนอ่ื งจากเป็นโรงหลอดลม อักเสบร่างกายผา่ ยผอม และเริ่มเปน็ อมั พาต เขาตอ้ งใชร้ ถเข็นในการไปทตี่ ่างๆ การ ออกวาด ภาพกลางแจ้งเป็นเรื่องท่ยี ากล�ำบาก เรอนัวร์ไดย้ ้ายไปอยูท่ ี่ คานส์ กบั อาลีน เมชอง และโคล้ด 1903 เนื่องจากโรคร้าย เขาต้องย้ายไปอย่ทู แ่ี ถบเมดเิ ตอรเ์ รเนยี นทกุ ๆฤดหู นาว เน่ืองจากใน ฤดหู นาว เขาจะปวดตามข้อตาม กระดกู เเป็นอยา่ งมาก ส่วนในฤดูก็อยทู่ ่ีปารีส และเอสโซย ์ ขณะนัน้ มีเรื่องเดือดร้อน เพราะมีการปลอมแปลงภาพเขยี นของเขา1907 พพิ ธิ ภัณฑเ์ มโทรโปลแิ ตนท่นี วิ ยอร์ก ขอซือ้ ภาพ มาดามชาร์ปองตเิ ยร์ และลูกๆเป็น ราคา 84,000 ฟรงั ก์ (หรือประมาณ 510,000 บาท)

81910 เขาและครอบครวั ไดเ้ ดินทางไปยังเมอื ง เวสลงิ ใกล้เมืองมิวนิค เขาได้เขียนภาพครอบ ครวั เธนิ นสี เสน หลงั จากกลับมา ขาทัง้ สองข้าง ของเขากเ็ ปน็ อมั พาต1911 เขาต้องนั่งรถเขน็ ตลอดเวลา และต้องเอาพ่กู นั ผกู ติดกบั มอื ที่พิการ เพอ่ื ที่จะไดเ้ ขยี นภาพ ได้ ไดร้ ับการแต่งตงั้ เปน็ นายทหาร ผู้รับ Renoir เครอื่ งอสิ ริยาภรณข์ องฝรั่งเศส มกี ารพิมพ์ ขณะวาดภาพ หนังสือเล่มเล็ก ชอ่ื เรอนัวร์ อยู่บนรถเขน็1912 เป็นอัมพาตท่แี ขนทงั้ สองขา้ ง ทำ� ให้เป็นโรคซมึ เศรา้ อยา่ งแรง แต่ในขณะน้ันภาพของ ขายไดร้ าคาสงู1913 ท�ำงานประติมากรรม โดยมผี ชู้ ว่ ย ชอ่ื กุยโน1914 ลูกชายของเขาทง้ั สองคน ปิแยร์ และ ชอง ถกู เกณฑท์ หาร และไดร้ บั บาดเจ็บใน สงคราม1915 อาลนี ภรรยาของเขาถงึ แกก่ รรม ในวัย 56 ปี และถกู ฝังทเี่ อสโซย ์ ในปีเดียวกนั น้ี เขา ไดส้ รา้ งทท่ี ำ� งานท่สี วน ในปรเิ วณบ้าน ของเขา ซง่ึ ทำ� ให้เขาสามารถวาดภาพกลางแจง้ ได้ อกี ครัง้1917 ภาพของเขาภาพหนึง่ ได้นำ� ไปจดั แสดงที่ หอ้ งแสดงภาพนานาชาติ ในกรุงลอนดอน และ ภาพกว่า 60 ภาพของเขา ไดแ้ สดงในมิวนิค บ้าน ของเรอนวั ร์ ยืนแล:ะCPlนaieัง่ urPd:rieeGerrArReeuetagnRuoePsinrrto,oezMirRaaretnisosier &

9ภาพ portrait ของ Renoirศลิ ปิน : Frédéric Bazilleวาดในปี 1867

10Biography

11 ปิแอร์ ออกุสต์ เรอนัวร์ เกิดที่เมือง ลีมอฌ (Limoges) ครอบครัวชั้นแรงงานที่มีฐานะค่อน ข้างยากจน ในบรรดาพ่ีน้องทั้งหมด 7 คน ครอบครัว ระหว่างปี ค.ศ.1844- 1846 โดยเขาได้เข้าศึกษาที่โรงเรียน ในช่วงวัยเด็กน้ัน ในวัย 9 ขวบ เรอนัวร์ได้เร่ิมเรียนรู้การใช้ พิพิธภัณฑ์ลูฟ เม่ืออายุได้ 13 ปี เขาเร่ิมฝึกงานจากการเป็น ความสามารถของเขาชัดเจนมากย่ิงขึ้น โดยเขาได้รับ รู้วิธีการคัดลอกลาดลายบนจานชามและเครื่องใช้อื่นๆ ในปี ค.ศ. 1862 เรอนัวร์ได้เร่ิมเข้าศึกษาศิลปะจาก มาร์ค ฝรั่งเศส ซ่ึงท�ำให้เขาได้พบกับ อัลเฟรด ซิสลีย์ (Alfred เขียนจิตรกรรมภูมิทัศน์ ), เฟรเดริก บาซีย์(Frédéric Bazille ภาพคน ) และ โกลด มอแน (Claude Monet) ผู้ท่ีมีความ ส�ำคัญในการเป็นผู้ริเร่ิมศิลปะในลัทธิประทับใจและมีบทบาท “Impressionism” มาจากช่ือภาพเขียนของมอแนเอง ผลงานของเรอนัวร์ระยะแรกได้รับอิทธิพลจากศิลปินรุ่นพี่คือ ฝร่ังเศสผู้น�ำของขบวนการสัจนิยมของคริสต์ศตวรรษท่ี 19) หลังเขาได้พัฒนาเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง ผลงานในยุค ความโดดเด่นต่างๆที่เขาพอใจรวมถึงรูปแบบของแสง เขาผสมผสานเทคนิคการวาดภาพของเขาโดยการใช้การเกล่ีย แสงของภาพและการเคล่ือนไหวของวัตถุ เรอนัวร์ช่ืนชอบการ

12 ประเทศ ฝร่ังเศสเมื่อวันท่ี 25 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1841 ใน บิดาและมารดาของเขาเป็นช่างตัดเส้ือเรอนัวร์เป็นบุตรคนท่ี6 ของเขาได้ย้ายมาท่ีปารีสในช่วง โรมันคาทอลิก อุปกรณ์ศิลปะจากการวาดภาพเลียนแบบภาพที่จัดแสดงใน เด็กฝึกงานในโรงงานเคร่ืองเคลือบดินเผาและน่ี คือที่ๆท�ำให ้ มอบหน้าท่ีให้เป็นคนเพ้นท์ลายบนเคร่ืองเซรามิก เขาได้เรียน ชาร์ล เกเบรียล เกลย์ (Marc-Charles-Gabriel Gleyre) ใน Sisley จิตรกรสมัยอิมเพรสชันนิสม์มีความเช่ียวชาญทางการ เป็นจิตรกรสมัยอิมเพรสชันนิสม์ มีความเช่ียวชาญทางการเขียนื สช�ื่ำอคัญ“ในImปรัชpญrาeแsละsกiาoรnปฏ,ิบSัติขuอnงขrบiวsนeก”ารนี้ ค�ำว่า กุสตาฟว์ กูร์แบ (Gustave Courbet เป็นจิตรกรชาว เรอนัวร์ ได้รับเทคนิคการวาดภาพด้วยใบมีดจากกูร์แบ ภาย เร่ิมต้นของเรอนัวร์เน้นแสดงให้เห็นสถานการณ์ในชีวิตจริงและ เขายังเป็นที่รู้จักกันในฐานะต้นแบบของการแสดงออกทางสีหน้า สีฝีแปรงลูบไล้ไปมาอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะสามารถแสดงลักษณะ วาดรูสรีระและส่วนต่างๆของผู้หญิง

13 บ่อยคร้ังที่เรอนัวร์จะไปน่ังสเก็ตภาพอยู่ริมก�ำแพงแม่น้�ำแซน ทดลองใช้สีท่ีสดใส ซึ่งในภายหลังกลายเป็นหัวใจของในปี ค.ศ. 1864 ผลงานของเรอนัวร์ได้รับการยอมรับ ให้เข้า โดยเขาได้โชว์ผลงานจิตรกรรมที่มีช่ือว่า \"La Esmeralda\" ค่อมแห่งน็อทร์-ดาม ของ วิกตอร์ อูโก (Victor Hugo's นิทรรศการ อีกครั้ง ครั้งนี้เขาได้น�ำผลงานการวาดภาพพอร์ท (พ่อผู้ม่ังคั่งของเพื่อนของเรอนัวร์ Alfred Sisley) เรอนัวร์ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเหล่าศิลปินและการ เอดัวร์ มาแน (Edouard Manet) ศิลปินผู้ที่ไม่ประสบความ ในเรื่องสัจนิยมจาก กุสตาฟว์ กูร์แบ (Gustave Courbet) งานของเขา อย่างเช่น ผลงานของศิลปินคนส�ำคัญในสมัย ฟรากอนาร์ (Jean-Honore Fragonard), ฌ็อง-อ็องตวนในปีค.ศ. 1874, เรอนัวร์และเหล่าเพ่ือนของเขา คือ Claude Degas ได้ร่วมกันจัดนิทรรศการ เพ่ือแสดงผลงานของพวก ฐานะ นิทรรศการแรกของลัทธิอิมเพรสช่ันนิสม์ ซึ่งได้รับค�ำ เป็นจริง ซ่ึงเป็นการแสดงความประทับใจผ่านการใช้วิธีการ

14กับโกลด มอแน ท่ีน่ีเอง ที่ท�ำให้พวกเขาพัฒนาเทคนิคและการลัทธิอมเพลสชั่นนิสม์ไปจัดแสดงในนิทรรศการศิลปะแห่งปารีส (Salon de Paris) ซ่ึงได้รับแรงบันดาลใจมาจาก ตัวละครหลักหญิง ในนิยาย คนNotre-Dame de Paris) ปีถัดมา ผลงานของเขาก็ได้โชว์ในเทรต(a portrait of William Sisley) ของ วิลเลียม ซิสลีย์เคลื่อนไหวในช่วงต้นน้ัน ผลงานของเขาได้รับอิทธิพลมาจากส�ำเร็จในการแสดงผลงาน ในนิทรรศการศิลปะ และ ได้รับอิทธิเขาได้น�ำหลักการของศิลปะโรโคโค(Rococo) มาใช้กับผลโรโคโค ฟร็องซัว บูเช (François Boucher), ฌ็อง-ออนอเรวาโต (Jean-Antoine Watteau) เป็นต้นMonet, Camille Pissarro, Paul Cezanne and Edgarเขาเองในกรุงปารีส ซึ่งต่อมานิทรรศการนี้ก็เป็นที่รู้จักกันดี ในวิจารณ์ผลงาน ในแง่การใช้สีท่ีสดใส และแสงท่ีบ่งบอกถึงความด้ังเดิมแทนท่ีจะสร้างผลงานเพียงเพื่อว่าให้เพียงเพราะเสร็จไป

15 ลัทธิอิมเพลสชั่นนิส ได้ทลายก�ำแพงกฎเกณฑ์และรูปแบบ ในเวลาต่อมา ได้แก่ ลัทธินีโอ-อิมเพลสชั่นนิสม์ Impressionism), โฟวิสม์(Fauvism) and ลัทธิคิวบิสม์ พัฒนาเทคนิคการใช้ฝีแปรงหยาบ และใช้การผสมสีบริสุทธิ์ และวัตถุต่างๆ หน่ึงในงานที่มีชื่อเสียงของเรอนัวร์คือ ภาพ Galette) ซึ่งเป็นภาพบรรยากาศการเต้นร�ำของผู้คนมาก เรอนัวร์มีผลงานกว่านับพันชิ้น เขาเป็นท่ีรู้จักในผลงาน หญิงสาว, ดอกไม้ และ วิวทิวทัศน์ท่ีน่าพึงพอใจ (Rheumatism โรคท่ีเกี่ยวกับไขข้อกระดูกอักเสบ) ซึ่งเป็น เขาจากการท�ำในส่ิงท่ีเขารักได้ ทุกครั้งที่เขาท�ำงานศิลปะ ค.ศ. 1919หลังจากปี ค.ศ. 1890 เรอนัวร์ ได้หันไปใช้แปรงแบบบางเพ่ือ เปลือยและภาพวิวทิวทัศน์ รวมไปถึงภาพ \"Grandes (1892). แม้ว่าผลงานของเขาจะเป็นท่ีรู้จักผ่านงานนิทรรศการ เงินแม้แต่จะซ้ืออุปกรณ์ศิลปะ แต่เขาก็ได้รายได้จากการขายจากผู้สนับสนุน ผู้ที่แนะน�ำเรอนัวร์ให้คนได้รู้จัก บางคนได้ว่า Charpentier and her Children\" ได้จัดแสดงในนิทรรศ มากและได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมาก

16ดั้งเดิมของงานจิตรกรรม แต่ลัทธินี้ได้มีอิทธิพลสู่ลัทธิอ่ืนๆ(Neo-Impressionism), ลัทธิโพส-อิมเพลสชั่นนิสม์ (Post-(Cubism) ในฐานะที่เป็นกลุ่มศิลปินผู้น�ำในลัทธิ เรอนัวร์ได้ของแม่สี เพื่อที่จะจับแสงและการเคลื่อนไหวของบรรยากาศการเต้นร�ำที่มูแล็งเดอลากาแล็ต (Bal du moulin de laมายในสวนใกล้บ้านของเขาท่ีแสดงถึงความร่าเริงของคนวัยหนุ่มสาว, ความยั่วยวนของ(peasant scenes) ภายหลังเขาป่วยเป็นโรครูมาติกสาเหตุให้น้ิวของเขาคดงอ ในช่วงปี 1890 แต่ก็ไม่สามารถ หยุดเขาจะพันพู่กันไว้กับข้อมือของเขา จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในปีที่จะร่างล�ำตัวโครงร่างของภาพวาด เขาให้ความสนใจกับรูปBaigneuses\" (1887) และ ภาพ \"Girls at the Piano\"ศิลปะ แต่เขาก็ยังต้องประสบปัญหาขาดแคลน บางครั้งเขาไม่มีผลงานอยู่บ้างบวกกับได้รับความช่วยเหลือจากเพ่ือนร่วมงานจ้างให้เขาวาดภาพ พอร์ทเทรต อย่างเช่น ภาพ \"Madameการศิลปะในปี ค.ศ. 1879 คร้ังนั้น ผลงานช้ินน้ีเป็นท่ีโดดเด่น

17 รายได้จากการขายผลงานศิลปะ ท�ำให้เขาได้มีโอกาสเดิน บันดาลใจในการสร้างผลงานให้กับเขา เขาได้เดินทางไปยัง อเมริกาเหนือ ซ่ึงท�ำให้เขาได้ศึกษาและชื่นชมผลงานของ(Leonardo da Vinci) เดียโก เบลัซเกซ (Diego Velazquez ศิลปวิทยาคนส�ำคัญของประเทศอิตาลีในคริสต์ศตวรรษที่ 16 รือเบินส์ (Peter Paul Rubens) เมื่อเขาได้เดินทางไปยัง เส้นสายและความคลาสสิกเข้าไปในผลงาน ในช่วงประมาณ ทางตอนใต้ของฝร่ังเศส และอิตาลี รวมถึงเขาได้วาดภาพชื่อ \"Dance in the Country,\" Dance in the City\" and พลอทเทรตของ Richard Wagner หน่ึงในคีตกวีเอกชาว คอลเลคช่ันที่ใหญ่ที่สุดของเรอนัวร์ มีท้ังหมด 181 ภาพเมือง ฟิลาเดลเฟีย, สหรัฐอเมริกา ราคาท่ีสูงที่สุดในบรรดาของ ชื่อ \"Bal au Moulin de la Galette.\" ในช่วงปลายของ ท่ีมีความหนากับสีเข้ม โดยเฉพาะสีแดงและสีส้ม เรอนัวร์ชั่นบรรยากาศของภาพด้วยฝีแปรงท่ีเป็นอิสระของสีท่ีสัมพันธ์กัน

18ทางไปยังที่ต่างๆ ในช่วงต้นของ ศตวรรษท่ี19 ซ่ึงเป็นแรงประเทศอิตาลี, ฮอลแลนด์, สเปน, อังกฤษ, เยอรมัน และศิลปินต่างชาติมากมาย อย่างเช่น เลโอนาร์โด ดา วินชีจิตรกรสมัยบาโรกชาวสเปน ), ทิเทียน (Titian จิตรกรยุคฟื้นฟูมีความส�ำคัญทางการเขียนภาพสีน�้ำมัน), and เปเตอร์ เปาล์ประเทศอิตาลี ที่น่ี ท�ำให้สไตล์ของเขาเปล่ียนไป โดยการเพิ่มเวลาเดียวกัน เรอนัวร์ได้เดินทางไปยังประเทศแอลจีเรีย3ชิ้นท่ีเป็นผลงานชิ้นเอกของเขาในเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี\"Dance at Bougival.\" อีกด้วย รวมถึงเรอนัวร์ไดวาดภาพเยอรมัน ในสมัยคริสต์ศตวรรษท่ี 19อยู่ในสถาบันการศึกษาศิลปะ the Barnes Foundation ในผลงานของเรอนัวร์ คือ $78.1 million ในปี 1990 คือผลงานชีวิตวัยท�ำงานของเขา เขาได้เปล่ียนวิธีการใช้แปรงเป็นแปรงชอบการวาดภาพเปลือยของผู้หญิง เขาใส่รายละเอียดในด้าน

19 ช่วงหลายปีให้หลัง เรอนัวร์ได้ซื้อที่ดินท่ีในเมืองคานส์ ท�ำงานต่อไป เท่าที่เขาจะท�ำได้ โรครูมาติซึม หรือ โรคไขข้อ ไม่ละความพยายาม จากเขาได้ลองท�ำงานประติมากรรม มาจากงานศิลปะของเขา แม้ว่าเรอนัวร์จะมีช่ือเสียงในระดับสากลแล้ว แต่เขา เห็นผลงานของตัวเองถูกซ้ือไปโดยพิพิธภัณฑ์ลูฟ ในปี 1919 เดือนธันวาคม ที่บ้านของเขาท่ีเมืองคานส์ ร่างของเขาถูกฝัง

20ท่ีซ่ึงเขาได้สร้างบ้านไว้ส�ำหรับครอบครัวของเขา เขายังคงอักเสบ ได้ท�ำให้มือของเขาหงิกงอผิดรูปอย่างถาวร แต่เขาก็ยังโดยมีผู้ช่วย ชื่อ กุยโน ซ่ึงงานประติมากรรมส่วนใหญ่ก็ดัดแปลงก็ยังท�ำงานจนวาระสุดท้าของชีวิต เขามีชีวิตอยู่นานพอท่ีจะซึ่งนับว่าเป็นเกียรติอย่างมากกับตัวศิลปิน เรอนัวร์เสียชีวิตในใกล้กับภรรยาของเขา อาลีน ที่เมืองเอสโซย์ ประเทศฝรั่งเศส

21Artwork

22[Self Portait]ภ า พ เ ห มื อ น ตั ว เ อ งวาดในปี 1876 ภาพเหมือนของตัวเขาที่สมบรู ณ์ทสี่ ดุ

23[PTrhoemenade]เ ท่ี ย ว เ ดิ น เ ล ่ น วาดในปี 1870

24 [A l f r e adnSdishleisywife] อั ล เ ฟ ร ด ซิ ส เ ล ย ์ แ ล ะ ภ ร ร ย า วาดในปี 1868

25[ O dTahliesqWuoemoarn of Algiers] น า ง ห ้ า ม ห รื อ ส า ว ง า ม แ ห ่ ง อั ล จี เ รี ย วาดในปี 1870

26 [The Bohemian] ยิ ป ซี หรือ ค น น อ ก วาดในปี 1868

27[Woman to the Parasal]ภาพนวลนางกลางร่มวาดปี 1876ท้งั 3 ภาพนเ้ี ปน็ นางแบบคนเดยี วกัน คอืลสิ เทรโอต ์ [หวานใจคนแรกของเรอนัวร์]และเปน็ ผลงานชิ้นแรกท่สี ถาบนั ศลิ ปฝร่ังเศสยอมรบั

28

29[TheStall or La Loge] ช ม ล ะ ค ร วาดในปี 1874

30 [The Dancer] นั ก เ ต ้ น วาดในปี 1874

31

32 [T h e B a l l daet tlhaeGMaloeuttlein] ง า น เ เด ลอ ้ี ย งล ทา ี่ มก ู แา แล ลง ต วาดในปี 1876 ภาพ \"\"The Ball at the Moulin de la Galette\" หนงึ่ ในโรงงานหลาย โรงงานในยา่ นมองต์มารต์ ต้งั อยู่ใกลๆ้ ถนน Cortot ทซ่ี งึ่ เรอนัวรใ์ ชเ้ ปน็ หอ้ งทำ� งานเพื่อเขยี นฉากน้โี ดยเฉพาะ หลายคนในภาพ ลว้ นเป็นมติ รสหาย ของเขา ภาพนจ้ี ดั แสดงในงานแสดง ภาพครัง้ ท่ี 3 ของกลุ่มอมิ เพลช่ันนิสม์ และถูกคายเยอบอตตซ์ ื้อไปในภายหลงั

33[The Luncheon of the Boating Party] อ า ห า ร ก ล า ง วั น สั ง ส ร ร ค ์ บ น เ รื อวาดในปี 1881บนระเบียงชั้นสองของร้านอาหารFounaise ภาพนเ้ี กดิ จากแรงกระตนุ้ของเอมลิ โซลา ซ่ึงต้องการให้เขียนภาพที่สะท้อนชีวตของคนรนุ่ ใหม่

34

35[ M GoanrdeetnPaaitnAtinrggenintethueil] โ ม เ น ต ์ ว า ด รู ป ใ น ส ว น ที่ อ า ร ์ ช อ ง เ ต อ ลวาดในปี 1875

36[The Boating Party]อ า ห า ร ก ล า ง วั น บ น เ รื อวาดในปี 1880

37

38 [JSPeaoamrntanareiyt]of ภ า พ เ ห มื อ น ฌ า น ซ า ม า รี [ C h a r l e s DaunrdanGde-Rourgeels] วาดในปี 1877 ช า ร ์ ล แ ล ะ จ อ ร ์ จ ดู รั ง ด ์ - รู ล ์ วาดในปี 1882

39

40ChHae[rMpr eaCdnhatilimedreeann] d ม า ด า ม ช า ร ์ ป อ ง ติ เ ย ร ์ แ ล ะ ลู ก ๆ วาดในปี 1878

41[By the Seashore] ริ ม ท ะ เ ล วาดในปี 1883

42[Woman with a Fan] ส า ว ง า ม กั บ พั ด วาดในปี 1880 นางแบบคอื อัลฟองซนี ฟูรแ์ นซ อกี ภาพหนง่ึ

43 [Nude in Sunlight] ส า ว เ ป ลื อ ย ก ล า ง แ ส ง แ ด ด วาดในปี 1875 พยายามเน้นความรู้สึกท่ีเกิดข้นึ เมอ่ื เงาแสง แดดผ่านแนวใบไม้ มาทาบทาลงทผี่ ิวเนอ้ื แต่กลับถูกวจิ ารณว์ า่ เขา ทำ� ผวิ นางแบบช�ำ้ [ภาพซ้ายบน] [B a Bthloenr dwhitahi r ] ส า ว อ า บ น้� ำ วาดในปี 1903 ภาพเปลอื ยในยุคหลงั ของเรอนัวร์ [ภาพขวา] [Before the Bath] ก ่ อ น อ า บ น้� ำ วาดในปี 1873-1875 [ภาพซ้ายล่าง]

44

45

46 [The Bathers] ก ลุ ่ ม ส า ว ง า ม อ า บ น้� ำ วาดในปี 1818 ภาพเปลอื ยเกอื บสุดท้ายของเรอนัวร์ แสดงถงึ การปาดป่ายผูก้ นั ด้วยอารมณท์ แี่ ตกตา่ งไมเ่ หมอื นเดิม

47[Diana] ไดอานาวาดในปี 1867เพื่อสง่ ให้สถาบันศิลปพิจารณา เพิมทีเขาเขยี นภาพเทพธิดาไดอาน่าเปลือยหมด แต่เม่อื ทางสถาบนัปฏเิ สธไมย่ อมรบั ภาพนไี้ วแ้ สดง เขาจงึ เตมิ ผา้ เต่ียวพันรอบเอวของเธอ พร้อมทั้งเพิ่มกวางและคนั ศร เข้าไปดว้ ยแตย่ ังถกู ปฏเิ สธอกี เช่นเคย

48 [B a t h Gerrifwfoitnh] น ว ล น า ง อ า บ น้� ำ กั บสุ นั ข ก ริ ฟ ฟ อ งวาดในปี 1870

[La Grenouillere] บ ่ อ เ ลี้ ย ง ก บ ล า เ ก ร อ นุ ย มี แ ย ร ์ วาดในปี 1869 ภาพน้มี สี องภาพสองแบบ 49 [ P a t hGrinasHseigsh] ท า ง เ ดิ น ใ น พ ง ห ญ ้ าวาดในปี 1873


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook