FFUETUMREAISLTHEE
ค �ำ น ำ� THE FUTURE IS FEMALE ในช่วง200กวา่ ปีท่ผี ่านมา เกิดการเปลีย่ นแปลงตา่ งๆมากมายในสงั คม ไม่ว่าจะเปน็ เรอ่ื งเศรษฐกิจ โครงสรา้ งสังคม อตุ สาหกรรม หรืออืน่ ๆท่ามกลางการเปล่ยี นแปลงเหลา่ น้ีท�ำ ให้คนเรมิ่ ตงั้ ค�ำ ถามว่าแลว้ เม่ือไหรท่ ส่ี ทิ ธิของผหู้ ญงิ จะเปลย่ี นแปลงไปได้เทา่ กบั ผชู้ ายบ้าง? และความเหล่อื มลำ�้ นีก้ ่อใหเ้ กิดคำ�ถามและการเคลอื่ นไหวของกล่มุ สตรีในสังคม จนกลายเป็นทีม่ าของกลุ่มFeminist หรอื ลัทธิสตรีนิยม ซ่งึ ในสว่ นของลทั ธิน้กี ็ไดใ้ หก้ ำ�เนิดศิลปะขน้ึมา หรอื ทีเ่ รียกวา่ Feminist Art ซงึ่ เปน็ ศิลปะท่ีสอ่ื ถึงพลังของกลมุ่ อสิ ตรีว่าเรากส็ ามารถขบั เคลือ่ น เปลยี่ นแปลงสงั คม และเป็นผ้นู ำ�เฉกเช่นเดยี วไดก้ บั บรุ ุษ พนติ า ช้างเนียม ผู้เรียบเรียง
DERIVATIONTHE 1MEANINGOF FEMINIST ART คำ�ว่า ลัทธสิ ตรนี ิยม หรือในภาษาองั กฤษ ใชค้ ำ�วา่ “Feminism” พจนานกุ รมภาษาอังกฤษฉบบั ของอ็อกซ์ฟอรด์ ได้นยิ ามไวว้ ่า “ผู้สนับสนนุ สิทธคิ วามเสมอภาคของสตร”ี โดยผูท้ ไี่ ดใ้ หค้ วามหมายหรอื ค�ำ นยิ ามนไ้ี ว้ คือ ชารล์ ฟูรีเย นักปรัชญาชาวฝร่งั เศสโดยไดใ้ หค้ วามหมายของค�ำ น้ีไว้ในปี ค.ศ.1837 และคำ�น้ีได้ปรากฏคร้ังแรกในประเทศฝรัง่ เศสและประเทศเนเธอรแ์ ลนดใ์ นปคี .ศ.1872,ประเทศองั กฤษในปี ค.ศ.1890 และประเทศสหรฐั อเมริกาในปี ค.ศ.1910 ทฤษฎคี ตินยิ มสทิ ธสิ ตรี ได้ก�ำ เนิดขึ้นจากขบวนการคตนิ ิยมสิทธสิ ตรีเหล่านี้ โดยมีเป้าหมายเพอื่ ทำ�ความเขา้ ใจเก่ียวกับความไมเ่ สมอภาคทางเพศ โดยการสังเกตบทบาททางสงั คมและประสบการณ์ชีวิตของสตรี มกี ารพัฒนาทฤษฎีในหลายสาขาวชิ าเพ่ือตอบสนองตอ่ประเดน็ อย่างการประกอบสร้างเพศและเพศภาวะ คตนิ ยิ มสิทธสิ ตรีในอดีตบางรปู แบบถูกวิจารณว์ า่ คำ�นึงถึงแต่มมุ มองของสตรผี วิ ขาว ชนชั้นกลางและมีการศึกษาเทา่ น้ัน ซึ่งน�ำ ไปสู่คตนิ ิยมสิทธสิ ตรรี ปู แบบเจาะจงเช้ือชาติหรือหลายวัฒนธรรม
DERIVATION THEORY OF FEMINIST ทฤษฎีสตรนี ิยม เกี่ยวข้องกบั 5แนวคิด คือ 1.Liberal Feminism 2.Marxist Feminism 2 3.Redical Feminism 4.Culture Feminism 5.Socialist Feminism 1.Liberal Feminism สายเสรนี ยิ ม ศึกษามาจากรากฐานของปรัชญา แนวเสรนี ยิ ม เพราะเช่ือว่ามนษุ ย์มคี วาม สามารถในการใช้เหตุผล ดงั นัน้ สงั คมทีด่ จี ึง ตอ้ งเปิดโอกาสให้สมาชิกไดใ้ ชเ้ หตผุ ล ความ คิด และมคี วามเทา่ เทยี มกัน 2.Marxist Feminism สายมาร์กซสิ ต์ ดว้ ยเร่อื งของระบบเศรษฐกิจแบบ ทนุ นิยม จงึ จุดประกายแนวคดิ นี้ให้กับนัก สงั คมแบบสตรนี ิยม เพราะในประเทศทใี่ ช้ ระบบเศรษฐกจิ แบบนมี้ ักมองวา่ ผหู้ ญิงเป็น ประชาชนล�ำ ดับท่สี องในระบบทุนนิยม โดย เฉพาะผู้หญิงใชแ้ รงงาน *ระบบทุนนยิ มคอื ระบบทีแ่ ยกบ้านออกจากตลาด แบ่งการด�ำ เนินชวี ิตออกจากวิถกี ารผลิต ท�ำ ให้ผ้หู ญิงตกเป็นเบี้ยล่าง เพราะผู้ ชายสามารถควบคมุ ผู้หญิงในเรื่องของการให้กำ�เนิดและการเล้ยี งดู บุตร
DERIVATION 33.Redical Feminism สายสุดข้ัว หรือ สายถอนรากถอนโคน ในสายนี้ไมไ่ ด้หมายถงึ การเปลยี่ นแปลงแบบถอนรากถอนโคนทางสงั คม แต่หมายถงึ การเปล่ียนแปลงความเข้าใจ ไม่เน้นเรื่องความเท่าเทียม วา่ อยากจะต้องเท่าเทยี มเพศชาย แตเ่ ป็นการปฏเิ สธการถกู กดข่ี ท้ังในระบบการเมอื ง เศรษฐกิจ สงั คม4.Culture Feminism สายวัฒนธรรม ในสายนจ้ี ะไม่เน้นเร่ืองเหตุผล หรือกฏหมาย แตเ่ นน้ ไปที่การถา่ ยทอดทางวฒั นธรรม จากการปกครองทม่ี ีเพศชายเป็นใหญ่ มาปกครองแบบมเี พศหญงิ เปน็ศูนยก์ ลาง หรอื ทเ่ี รียกวา่ มาตาธิปไตย เพราะสายนี้มองวา่ การแกไ่ ขที่กฏหมายเป็นการแกไ้ ขแบบผิวเผิน แตก่ ารแก้ไขที่ตัววฒั นธรรมน้นั ไดผ้ ลมากกวา่ เพราะวฒั นธรรมเปน็ ส่ิงทช่ี ้วี ดั ความดีงามในทกุ ๆสงั คม5.Socialist Feminism สายสงั คมนิยม เป็นการผสมกันระหวา่ งสายมาร์กซสิ ต์และสายสดุ ขว้ั เพราะมองวา่ เรื่องราวของสองสายนม้ี ีความเกี่ยวขอ้ งกัน ในเรื่องของการกดข่ที างชนช้นั และเรอ่ื งราวระหว่างเพศ เพราะระบบสงั คมนิยมก่อใหเ้ กิดการแบ่งชนชัน้ และเรื่องของการกดข่ีทางเพศมอี ยู่ในทุกสังคม
STARTINGPOINT4 STARTING POINT OF FEMINST ART จุดเร่มิ ตน้ มาจากศลิ ปนิ หญิงชอื่ ดังสามคนอยา่ ง เฮเลน็ แฟรงเคน็ เธเลอร์, บรดิ เจ็ท ไร ลยี ์ และเกรซ ฮารต์ ิแกน ทงั้ สามมีชอื่ เสียงและได้รบั การยอมรับในช่วงปคี .ศ.1950-ตน้ ค.ศ. 1960 แต่เรม่ิ มชี ือ่ เสยี งในปลายปี ค.ศ.1960 เพราะรว่ มกันตอ่ สู้ในวงการศลิ ปะทีถ่ ูกผูช้ าย ครอบงำ� ศิลปนิ กลมุ่ น้วี เิ คราะห์ว่า วงการศิลปะถูกความเปน็ สถาบนั ควบคมุ ซงึ่ มนั ก็เหมอื นกับสงั คม ปจั จบุ นั ท่เี รื่องเพศถกู กดข่แี ละจำ�กดั สิทธ์ติ า่ งๆ เช่น ชาติพนั ธุก์ ล่มุ นอ้ ย เกย์ เลสเบ้ียน ไบเซ็กชวล หรือเพศทางเลอื กต่างๆ โดยศิลปนิ กลมุ่ นี้ได้ท�ำ การศกึ ษาเรือ่ งราวเกยี่ วกับเรอ่ื งราวพวกนีใ้ หม่ โดยสิง่ ทพ่ี วกเขาสนใจเปน็ พเิ ศษ คอื การการถูกกดี กนั ทางประวตั ศิ าสตร์โดยศลิ ปะชัน้ สูง
5 STARTING POINT
6 STARTING POINT
STARTING POINT หลังจากท่ไี ดม้ ีการวิเคราะห์ว่ามกี ารกีดกนั ทางประวัตศิ าสตร์โดยศลิ ปะชน้ั สูง 7ท�ำ ให้ผคู้ นเร่มิ กลับมาสนใจในศลิ ปะทีเ่ คยถกู ทอดทง้ิ และโดนลดความส�ำ คัญไป เชน่ผ้าปะ (Quilts) พรมเปอรเ์ ซยี น,ผา้ วานาโฮ (Navajos blanket) เมอื่ เกดิ การฟืน้ ฟขู ึน้ ก็น�ำ มาซง่ึ กระแสของศลิ ปะรปู แบบใหมๆ่ อาทเิ ชน่ Pattern and decoration art ในช่วงกลางค.ศ.1970 ในช่วงปคี .ศ.1969 ศิลปะแบบเฟมินิสตไ์ ด้กำ�เนิดขน้ึ และประเดน็ เร่ืองสตรนี ยิ มได้ถูกหยบิ ยกมาพดู ถึง ในปนี ้เี องได้เกดิ กลมุ่ War Women Artist Revolation ซง่ึ เปน็กลุ่มทท่ี �ำ งานเกี่ยวกับ *art worker coalition (AWC) และกล่มุ Feminist Art Programกลุ่มนน้ี ำ�โดย จดู ้ี ชคิ าโก ซงึ่ เริ่มท่ีมหาวทิ ยาลัยเมอื งแคลิฟอร์เนยี ,เฟรสโน สถาบันทางเฟมนิ สิ ตเ์ ปิดขนึ้ อยา่ งรวดเร็วในทต่ี ่างๆ ไม่ว่าจะเป็นนวิ ยอรค์ ,ลอสแองเจอลิส,แคลิฟอรเ์ นีย,ลอนดอน รวมไปถงึ อารต์ แกลลอร่ตี ่างๆ เชน่ A.I.R , Soho Zo ,TheWomans Building,Womenspace และหนงั สือตา่ งๆ เช่น Woman and art , Feministart journal,Heresies และนิทรรศการอย่าง Woman house,Woman power ตลอดค.ศ.1970บทบาทและความหมายของศลิ ปะแบบเฟมินิสตท์ ่ีมสี ว่ นเก่ียวข้องในเร่ืองของการเมืองและจติ วญิ ญาณ ได้รบั การสรา้ งสรรค์จากนักวจิ ารณอ์ ย่าง ลูซี ลลิ พารท์และมอยรา รอธ จนถึงปลายค.ศ.1970 กล่มุ นี้ไดจดั โครงสรา้ งใหมโ่ ดย แมรี เบธ็ เอลเดลสันท�ำ ผลงานช่อื Memorials to the 9,000,000 Women Burned as witches in theChristian Era ซ่ึงเป็นเรอื่ งราวเกีย่ วกับผหู้ ญงิ ที่เป็นชาวคริสเตียนซ่ึงถกู เผาทง้ั เป็นเพราะโดนกล่าวหาวา่ เปน็ แม่มด
STARTING POINT8 ภาพของ ซนิ ด้ี เซอรแ์ มน ท่ที ำ�งานศลิ ปะโดยการแตง่ กายเป็นคนอ่นื หรือบคุ คลทมี ีช่อื เสยี ง
ในปีค.ศ.1980 ศิลปนิ ในกลุ่มน้เี ริ่มหันมาทำ�งานศิลปะแนว Conceptual Art และท�ำ STARTING POINTด้านการวพิ ากษว์ จิ ารณค์ น โดยศลิ ปนิ หญิงท่ไี ด้รับการยอมรับเปน็ อยา่ งมาก คอื ซินดี้เซอรแ์ มน (Cindy Sherman ) โดยเธอมักท�ำ งานเก่ียวกบั ภาพถ่ายท่มี เี น้อื หาเกย่ี วกบั 9การคน้ หาตัวเอง ในวัฒนธรรมและบทบาทในสังคม และศิลปินหญิงอีกคนทีม่ ชี ื่อเสียงคือ บารบ์ ารา ครูเกอร์ โดยบาร์บาราจะเน้นไปทีง่ านกราฟฟิกโฆษณา ภาพ Untitile ( I shop therefore i am) ผลงานของบารบ์ ารา ครูเกอร์สงิ่ ทีเ่ ฟมินสิ ต์ทำ�จะมคี วามแตกต่างจากลัทธPิ ost modernism เฟมินสิ ตจ์ ะเน้นไปท่ีการเรยี กรอ้ งให้เกดิ การขยายขอบเขตทางศิลปะ โดยใชห้ ลายวธิ กี าร ไมว่ า่ จะเป็นการเล่าเร่อื งเขียนประวตั ศิ าสตร์เป็นของตนเอง ท�ำ การประดบั ประดาสงิ่ ตา่ งๆ ใช้งานหตั ถกรรมตา่ งๆ(Craft Arts)รวมไปถงึ Pop Culture ซึง่ ในจดุ น้เี ปน็ การกระต้นุ และชว่ ยพัฒนาศลิ ปะในลัทธิ Postmodernism
ARTIST10 Judie Chicago ชอื่ : จดู ้ี ชคิ าโก วนั เกดิ : 20 กรกฎาคม ค.ศ.1939 ( พ.ศ. 2482 ) อายุ 79 ปี ภมู ลิ ำ�เนา : ชคิ าโก,รัฐอิลลนิ อยส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา การศกึ ษา : มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนยี ลอสแอนเจอลสิ ผลงานในวงการ : !Woman Art Revolution ยคุ ศิลปะ : ลัทธิจลุ นยิ ม , Feminist Art
ARTIST 13 จดู ี้ ชคิ าโก สาวชาวอเมรกิ นั ผอู้ ยลู่ ทั ธิสตรนี ยิ มเป็นทง้ั ศลิ ปินและนักเขียนในเวลาเดยี วกนั เธอคอื บคุ คลลทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั การเกดิ ลทั ธสิ ตรนี ยิ มในยุค70 เธอได้กอ่ ตั้งลัทธิศิลปะแบบสตรีนยิ มครั้งแรกในประเทศสหรัฐอเมริกา ผลงานของเธอเต็มไปดว้ ยทกั ษะทางศลิ ปะทห่ี ลากหลาย ไมว่ า่ จะเป็นการทำ�งานฝีมือ เยบ็ ปักถกั รอ้ ย (Craft) หรือผลงานท�ำ มอื อนื่ ๆ เชน่ การเชอื่ มและการประดษิ ฐด์ อกไมไ้ ฟ ผลงานทโ่ี ด่งดงั ท่สี ุด The Dinner Party หรอื ช่อื ภาษาไทยคอื งานเลย้ี งอาหารคำ�่ ซง่ึ ผลงานศลิ ปะนีไ้ ด้ถกู ติดตง้ั แบบถาวรทพ่ี ิพธิ ภณั ฑB์ rooklyn Museumเปน็ งานที่ส่ือถึงงานเลี้ยงอาหารค�ำ่ เพื่อฉลองความสำ�เรจ็ ของผู้หญิงตลอดประวตั ิศาสตร์ และได้รบั การยกยอ่ งอย่างกว้างขวางว่าเปน็ งานในลัทธสิ ตรนี ิยมงานแรกท่ไี ด้รบั ความส�ำ เร็จอยา่ งสงู สุด
Search
Read the Text Version
- 1 - 45
Pages: