Peter Paul Rubens

PETER RUPBA EU LNS àÃÂÕ ºàÃÕ§â´ÂÊÒ¸ÇÕ ÊÃзͧ˹

PETERRUPBAEUNLS(28 June 1577 – 30 May 1640) Flemish Baroque Painter

คำนำ Peter Paul Rubens ศิลปินชาวเฟลมขิ เปน็ ผ้ทู ีม่ ผี ลงานในยคุ บาโรกเขามีรปู แบบการเขยี นภาพจากสมยั เรอเนสซองสม์ าเปน็ แนวเฉพาะ คอื การใช้ฝแี ปรงเนน้ เส้นฉวดั เฉวียน พริ้วไหว เสมือนกบั ภาพกำลงั เคล่ือนไหวทเี่ ป็นเอกลกั ษณเ์ ฉพาะตัวของเขา หนงั สือ Peter Paul Rubens เป็นหนงั สอื ทจี่ ัดทำข้ึนเพอื่ การศกึ ษาความรู้เก่ียวกบั ประวัติ และผลงานดา้ นตา่ งๆของศลิ ปนิ ซง่ึ ได้เรยี บเรียงไว้เพื่อให้ผูท้ ่สี นใจและตอ้ งการจะศึกษาเพ่มิ เตมิ และผ้จู ดั ทำหวงั ว่าหนังสอื เลม่ นี้จะเปน็ ประโยชนต์ ่อผู้อ่านไม่มากกน็ ้อย

สารบญัคำนำ หน้าสารบญัประวตั สิ ่วนตวั 1-4ศิลปะยุคบาโรก 5-7ผลงาน (Art Work) 8- Painting 9-25- Portrait 26-30- Drawing 31-39บรรณานุกรม 40

About RPUPEABTUEENLRS1

Peter Pปaีเตuอlร์ Rพอลubรเูeบnนsส์ ชอ่ื : ปเี ตอร์ พอล รเู บนส์ จติ รกรชาวเฟลมชิ (ชนชาติฮอลแลนด์-เบลเยี่ยม)เปน็ จิตรกรท่มี ชี ่อื เสียงและมีผลงานในยุคบาโรก (Baroque) เกดิ วันที่ 28 มถิ ุนายน ค.ศ.1577 นครแอนตเ์ วิรป์ เมอื งซีเกิน ประเทศเบลเยีย่ ม เขาได้ศกึ ษากับศิลปนิ 3 คน คอื โตบยี ัส เฟอร์ฮาคต์ (Tobias Verhaecht) อาดมั ฟัน โนรต์ (Adam van Noort) และโอตโต ฟนั เฟน (Otto van Veen) และเขาไดเ้ สียชีวิตลงเม่อื วันที่ 30 พฤษภาคม ค.ศ.1640 อายุ 62 ปี 2

รเู บนสเ์ ปน็ จติ รกรทม่ี ีอทิ ธิพลเป็นมากในทางตอนเหนอื ของยโุ รป ถือกันว่าเป็นจิตรกร คนสำคัญของยคุ บาโรกทม่ี บี ทบาทสำคญั ในการสรา้ งลักษณะการเขียนอันเป็นเอกลักษณ์ ของยคุ การศกึ ษางานคลาสสิกของกรกี และโรมนั เปน็ ภาษาละตนิ ของรูเบนส์ในระยะแรก มีอิทธพิ ลต่ออาชีพการเปน็ จิตรกร ทที่ ำใหเ้ ปน็ จติ รกรทแี่ ตกตา่ งจากจิตรกรในสมัยเดยี วกนั รูเบนส์ไดพ้ ฒั นารูปแบบการเขียนภาพจากสมยั เรอเนสซองสม์ าเปน็ แนวเฉพาะ คอื การใชฝ้ ีแปรงเน้นเสน้ ฉวัดเฉวียน พริว้ ไหว เสมอื นกับภาพกำลงั เคล่ือนไหว รเู บนสไ์ ด้ศึกษาผลงานของทเิ ชยี น (Titian) รวมถงึ ไมเคลิ แองเจโล (Michelangelo) และราฟาเอล (Raphael) และเขามีช่อื เสียงเปน็ ที่รจู้ กั โดยเฉพาะในการเขยี นรา่ งคนทง่ี ด งามและชน่ื ชอบการวาดภาพผ้หู ญงิ ท่มี ่ีรูปรา่ งอวบอ้วน รูปร่างสมบรู ณ์ ซงึ่ มีความโดดเด่น ในการวาดภาพผ้คู นออกมาไดอ้ ยา่ งมชี ีวตื ชวี า จึงเปน็ ต้นแบบใหก้ ับจิตกรในยคุ ต่อมา ภาพที่เน้นรูปร่างอันสมบูรณข์ องสตรี โดยรเู บนส์ ซึ่งความหลงใหลในการถา่ ยทอด ความงามของสตรีท่มี เี นอ้ื มหี นัง กลายเปน็ ท่ีมาของคำว่า Rubenesque ซง่ึ เป็นศัพท์ท่ีใช้ เรียกสตรรี า่ งใหญ่ในวงการศิลปะเวลาต่อมา ภาพ : The Death Of Adonis3

ปี ค.ศ.1600 ใน ค.ศ. 1600 รูเบนส์เดินทางไปอติ าลี ซง่ึ เขาได้เห็นภาพวาดโดย Titian , Veronese และ Tintoretto สีและองค์ประกอบของ Veronese และ Tintoretto มผี ลทนั ทใี นการวาด ภาพของรูเบนส์ และสไตล์ของเขาในภายหลังปี ค.ศ.1601 ใน 1601 เขาเรียนคลาสสกิ ศิลปะกรกี โรมันและการคัดลอกผลงานของผูเ้ ช่ียวชาญอติ าลี ประตมิ ากรรมยุคเฮเลนิสตกิ ภาพเลาคนู และบุตร มอี ิทธพิ ลต่อเขา เชน่ เดียวกับศิลปะของ ไมเคลิ แองเจโล (Michelangelo) ราฟาเอล (Raphael) ดา วินชี (Leonardo da Vinci)ปี ค.ศ.1608 - 1609 เม่ือไดย้ นิ ของการเจบ็ ปว่ ยของแมข่ องเขาในปี ค.ศ.1608 รูเบนส์วางแผนออกจากอติ าลี มาแอนตเ์ วิรป์ อยา่ งไรกต็ ามเธอเสียชีวิตก่อนทเี่ ขาจะกลบั มาถึงบ้าน เขากลบั มาในเวลาใกล้ เคียงกับช่วงเวลาของความเจรญิ รงุ่ เรอื งตอ่ อายใุ นเมืองท่มี ีการลงนามในสนธสิ ญั ญาแอนตเ์ วิรป์ ในเดือนเมษายน ค.ศ.1609 รเู บนส์ไดร้ บั การแตง่ ต้ังใหเ้ ปน็ จติ รกรศาลโดย Albert VII, Archduke of Austria และเจ้าหญงิ อิซาเบลลาคลารายูจเี นยี แหง่ สเปนปี ค.ศ.1621 ในปี ค.ศ.1621, the Queen Mother of France, มารีเดอเมดชิ ิ (Marie de' Medici) จา้ งรูเบนส์ใหว้ าดสองรอบเปรยี บเทียบขนาดใหญฉ่ ลองชีวติ เธอและชีวิตของสามขี องเธอ เฮนรที่ ี่ส่ี (Henry IV) ในพระราชวงั ลักเซมเบิร์กในปารสีบนั้ ปลายชีวติ ปี ค.ศ.1640รูเบนสเ์ สียชีวติ จากโรคหัวใจลม้ เหลว ซง่ึ เปน็ ผลของโรคเกาต์เรอ้ื รังของเขาเมอ่ื วันที่30 พฤษภาคม ปี ค.ศ.1640 เขาถูกฝังอยใู่ นโบสถเ์ ซนตจ์ าคอบ แอนต์เวิร์ป 4

Baroque Art PETER PAUL RUBENS was a Flemish Baroque Art5

Baroque Art ศิลปะยคุ บาโรก บารอก (Baroque) หรือบาโรกเปน็ สมัยหนึ่งของศลิ ปะตะวันตกซึง่ เริม่ ประมาณตน้ คริสต์ศตวรรษที่ 17 ทกี่ รุงโรม ประเทศอิตาลี บาโรกจะเนน้ ความเป็นนาฏกรรมศิลปะแสดงความขดั แยง้ (tension) และความหรูหรา โอ่อ่า บาโรกเปน็ ลกั ษณะของประตมิ ากรรม จิตรกรรม วรรณกรรม นาฏศิลป์ และดนตรี ถ้ากล่าวถึงดนตรแี บบบาโรกก็จะหมายถงึ สมยั สดุ ท้ายของเคานเ์ ตอร์พอ็ ยต์ (Counterpoint) ทก่ี ล่างวถึงความสัมพนั ธข์ องการเล่นระหว่างเสียงหรอื เครื่องดนตรมี ากกว่าสองชนิดท่อี าจจะสะทอ้ นกันและกัน ยุคบารอกรงุ่ เรืองขึน้ มาดว้ ยการสนบั สนนุ จากคริสตจักรโรมนั คาทอลกิ ระหวา่ งการประชุมสภาสังคายนาแหง่ เทรนต์ เมอ่ื ปี ค.ศ. 1545-1563 ประเดน็ หนงึ่ ที่มกี ารถกเถยี งกนั ทนี่ น่ั กค็ อื เรอื่ งความหมายและความสมั พนั ธร์ ะหว่างศลิ ปะและศาสนา คำว่า Baroque เป็นภาษาฝร่ังเศสซ่ึงสนั นษิ ฐานกนั วา่ มาจากคำว่า barrocoในภาษาโปรตุเกสโบราณซ่งึ หมายถึงหอยมุกท่ีมรี ปู รา่ งอ่อนไหวม้วนไปมา แต่ท่ีมาในภาษาองั กฤษไม่ทราบแนว่ ่ามาจากภาษาใดหรือจะมาจากแหล่งอื่น 6

Baroque Art ศิลปะยุคบาโรก ศิลปะแบบบาโรกเริ่มมีความนิยมกนั ครง้ั แรกเม่อื ตน้ ครสิ ตศ์ ตวรรษที่ 17 หลังจาก การประชุมแหง่ เมอื งเทรนต์ ทางทป่ี ระชมุ เรยี กร้องให้ศลิ ปินเปลี่ยนแนวคิดในการสร้าง ศลิ ปะ โดยใหส้ ร้างจิตรกรรมและประติมากรรมทางศาสนาเพือ่ คนไรก้ ารศกึ ษา เพอื่ ให้ คนเหลา่ นีม้ คี วามเขา้ ใจในศาสนาและมคี วามศรทั ธาเพีม่ ขน้ึ แทนทีจ่ ะสรา้ งศลิ ปะเฉพาะ ผู้มีการศึกษาเท่านัน้ การวางทา่ แบบในภาพเขียนแบบบาโรกจะกว้างกว่าแแมนเนอริสซมึ เนื้อหาของภาพ จะไม่กำกวมหรือมเี ลศนยั หรือต้องตคี วามหมาย การวางท่าอาจจะเปรียบได้กับทา่ ทาง อย่างโอ่อ่าแบบตัวละครโอเปรา่ ศลิ ปะแบบบาโรกยคุ หลังเมือ่ ปลายคริสตศ์ ตวรรษที่ 18 จะคอ่ นขา้ งขาดชีวิตจติ ใจ และสีสนั จะไมฉ่ ดู ฉาดเมอื่ เทยี บกับสมยั แรกๆ ไฮริช เวิฟฟรนิ (Heinrich Wölfflin) ตีความหมายศลิ ปะแบบบาโรกว่าเป็นยุคท่รี ปู รีใชเ้ ป็นศูนยก์ ลางขององค์ประกอบแทนวงกลม ศิลปะความเป็นอันหน่งึ อันเดยี วกันแทน ความสมดลุ ความมีสีสัน กลายมาเปน็ สว่ นประกอบสำคัญท่สี ดุ นักประวัตศิ าสตรศ์ ิลปะโดยเฉพาะชาวโปรเตสแตนต์ เนน้ ว่าศลิ ปะแบบบาโรกเรม่ิ มี วิวฒั นาการขนึ้ ระหวา่ งทีค่ าธอลกิ มีปฏกิ ริ ิยาต่อการการปฏริ ปู ศาสนาฝา่ ยโปรเตสแตนต์ และสนั นษิ ฐานกันว่าศิลปะแบบบาโรกเป็นศิลปะท่ีทำใหศ้ าสนจักรคาทอลกิ รกั ษาเกียรติ และยงั มีหนา้ มีตา หรอื อาจจะได้ว่าเรียกวา่ เปน็ การปฏริ ูปคาทอลิกก็ได้ ศิลปะแบบบาโรก ก็เร่มิ เจรญิ ขึ้นมาทก่ี รงุ โรม7

Art Work 8

The Fall of Phaeton, 1604 oil on canvas , 98.4 × 131.2 cm. National Gallery of Art รเู บนส์วาดภาพ The Fall of Phaeton ในกรุงโรม และภาพน้ี ถกู ปรับปรงใหมป่ ระมาณปี 1606/1608 ซ่ึงภาพน้ตี ั้งอยทู๋ หี่ อศิลปแ์ ห่งชาติ National Gallery of Artตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม 1990 และรูเบนสย์ ังวาด ตำนานอนื่ ๆของกรกี เชน่ The Fall of Icarus, Perseus Freeing Andromeda, and The Judgement of Paris. 9

The Elevation of the Cross, 1610 oil on wood , 462 × 341 cm. The Cathedral of Our Lady รูเบนสว์ าด The Elevation of the Cross หลังจากกลบั ไป ฟลานเดอร์จากอิตาลี งานที่แสดงให้เหน็ ถงึ อิทธิพลท่ีชัดเจนของยคุ ฟนื้ ฟูศิลปวิทยาและศลิ ปินบาโรกเช่น คาราวจั โจอติ าลี , ทินโทเรตโต และไมเคลิ แองเจโล ตรงกลางแสดงให้เห็นถึงความตึงเครยี ด และผู้ชายที่มกี ล้ามเนื้อแน่น พยายามยกไม้กางเขนที่พระเยซถู กู ตรงึ อยู่ 10

Venus and Adonis, 1610 oil on cavas , 1830 × 2760 cm. Museum Kunstpalast 11

Massacre of the Innocents, 1611–12 142 x 182 cm. Art Gallery of Ontario รูเบนสภ์ าพนข้ี ้ึนในปี 1611เปน็ ภาพเขียนทีเ่ กา่ แกท่ ส่ี ุดในบรรดา ภาพเขยี นท้ัง 10 รปู ผทู้ ซ่ี อ้ื ไปคือนาย Kenneth Thomson ด้วย ราคาสูงถึง 49.5 ลา้ นปอนด์ ($ 76.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) ในการ ประมลู เมื่อวนั ที่ 10 กรกฎาคม 2002 ทีส่ ถาบัน Sotheby 12

The Death of Adonis, 1614 oilon canvas , 212 × 325 cm. The Israel Museum ภาพนีป้ ัจจบุ นั อยู่ในพิพธิ ภัณฑอ์ ิสราเอลในกรงุ เยรซู าเล็ม มันแสดงให้เห็นการตาย การอาลัยของอโดนสิ โดยวีนสั กามเทพควิ ปิด และ the Three Graces 13

The Tiger Hunt, 1615 oil on canvas , 256 × 324 cm. Museum of Fine Arts of Rennes เป็นภาพวาดขนาดใหญ่ โดยรเู บนส์ เนื้อเรอ่ื งเก่ียวกบั การล่าเสือเกิดขึ้นระหวา่ งปี ค.ศ.1615 และ 1616 และเปน็ หนึง่ ในสภี่ าพวาดการล่าสตั ว์โดยนายนายแม็กซมิ ิเลยี นแหง่ ออสเตรยี ในการตกแตง่ พระราชวังschleissheim ถกู ยดึ ในช่วงสงครามโปเลียน 14

Milkmaids with Cattle in a Landscape, ‘The Farm at Laken’, 1618Oil on Panel , 86.4 × 128.2 cm.Royal Collection รเู บนส์ยงั พยายามทีจ่ ะแสดงส่ิงเหลา่ น้ผี า่ นภาพของ ฤดูใบไมร้ ่วง เมอื่ ผกั และผลไมจ้ ะถกู เก็บเกี่ยว (เพ่อื การเพาะ ปลูกข้าวถัดไปบนเนนิ เขา) ผหู้ ญิงท่อี ยูต่ รงกลางภาพ ไม่ได้ สวมใส่รองเท้า เธอคลา้ ยกับ caryatid (รูปป้ันผูห้ ญิงท่ี ทำหนา้ ทีเ่ ป็นเสารองรบั วิหาร) ที่แบกตะกรา้ ผลติ ผลไว้บน ศีรษะของเธอ เสมือนเปน็ สญั ลักษณแ์ หง่ ความอุดมสมบรู ณ์ 15

Perseus Freeing Andromeda, 1620 oil on panel , 100 × 138.5 cm. The Gemäldegalerie ภาพนเ้ี ป็นภาพในคอลเลคชน่ั M. Pasquier collection 16in Rouen ซง่ึ ถกู ประมูลไปในปี ๅ755 ในปารีส ในศตวรรษที่ 18มนั เขา้ มาในคอลเลคชน่ั ของ Frederick II ของปรัสเซีย และในปีค.ศ. 1830 ภาพน้กี ก็ ลายเป็นส่วนหนึง่ ของ the Berlinesemuseum collection. ภาพนแี้ สดงใหเ้ หน็ ถงึ ตำนานเทพเจา้ กรกี วรี บรุ ุษ Perseusin the act of freeing Andromeda หลังจากเอาชนะสัตวท์ ะเลทีจ่ ับเธอไวเ้ ปน็ นักโทษ

Madonna in Floral Wreath, 1620oil on oak , 185 x 209.8 cm.Alte Pinakothek, Munich ภาพนีเ้ ปน็ ภาพท่ีสำคญั ทางศาสนา ซึ่งลอ้ มรอบไปด้วยการจัด ดอกไม้และเทวดาภาพนเี้ ปน็ ตวั อยา่ งที่ดีของการเผชิญหนา้ ของความ สามารถของรูเบนส์ และ ยาน บรูเกล (The elder) และภาพนี้มีการ จัดแสดงนิทรรศการ โดยที่รเู บนสเ์ ป็นคนวาดและบรเู กลเปน็ คนประดับ ตกแต่งดอกไม้ 17

The Miracles of Saint Francis of Paola, 1627-28 oil on panel , 110.5 × 79.4 cm. The J. Paul Getty Museum 18

Minerva protects Pax from Mars, 1629-30 oil on canvas , 203.5 x 298 cm. the Duke of Sutherland ภาพนเ้ี ปน็ อกี ตวั อยา่ งหนง่ึ ของความคลาสสิกในอดตี ท่รี ูเบนส์ แสดงบอ่ ยครงั้ ในงานของเขา รูเบนสว์ าดภาพในอังกฤษเพ่อื เปน็ ของขวัญให้สำหรบั กษัตริยช์ ารล์ ส์ ภาพนเ้ี ป็นภาพทีแ่ สดงถงึ สนั ติภาพ ผหู้ ญงิ อยทู่ ีต่ รงกลางของผนื ผ้าใบ นำ้ นมพงุ่ เข้าไปในปากของเทพเจา้ แหง่ ความมัง่ ค่ังโดยทข่ี ้างหลัง มีการต่อสกู้ ันเกิดขน้ึ เสมอื นการปกปอ้ งเดก็ ๆและผู้หญงิ 19

Hagar in the Desert, 1630 732 × 726 cm. Dulwich Picture Gallery เร่ืองราวของนางฮาการว์ า่ ในปฐมกาลบทที่ 21 ฮาการ์เปน็ 20ทาสของอยี ิปตซ์ ง่ึ เธอมลี ูกชายคนหนึง่ ภรรยาของอบั ราฮัมอจิ ฉาและถามสามขี องเธอเพือ่ ขับไลพ่ วกเขาไปทที่ ะเลทราย แตพ่ วกเขาโชคดีรอดตายจากความกระหายน้ำโดยเทวดาซง่ึ พิมพโ์ ดยฟรานส์ เดอรอยแสดงใหเ้ หน็ วา่ ครง้ั หน่ึงเคยเป็นทูตสวรรคใ์ นท้องฟา้ และเด็กทารกนอนอยูท้ ใ่ี ต้ต้นไมต้ น้ หน่ึง ผู้หญิงในภาพคล้ายกับภรรยาคนทีส่ องของรเู บนส์ ซ่งึ ภาพนีเ้ ปน็ ภาพระหวา่ งภาพ portrait และเรอ่ื งราวในพระคัมภีรไ์ บเบลิ้

The Garden of Love, 1633 oil on canvas , 199 × 286 cm. Museo Nacional del Prado ภาพ The Garden of Love รเู บนสเ์ ฉลมิ ฉลองแตง่ งาน ของเขากบั เฮเลน่า ภรรยาคนท่สี องของเขา ผหู้ ญงิ คนนั้นถอื ว่า 'ที่สวยทส่ี ดุ ในแอนตเ์ วิร์ป’ ภาพจากงานฉลองศาลน้จี ะเกดิ ข้นึ ในบรรยากาศท่ีผ่อนคลาย ในกลมุ่ ของคนจบี กันในสวนทีง่ ดงาม มีคิวปิดรอบๆถอื สญั ลักษณ์ ของความรกั คู่สมรส รวมทัง้ คขู่ องนกพิราบ สว่ นบนด้านซา้ ยของ องคป์ ระกอบ นำ้ พุหรือประติมากรรม the three Graces และ Venus nursing บง่ บอกการความสขุ ในการสมรส ในขณะทน่ี กยูง เปน็ สัญลักษณ์ของเทพีจโู นผทู้ ี่ปกปอ้ งการแตง่ งาน 21

The Judgment of Paris, 1636 Oil on oak , 114.8 × 193.7 cm. National Gallery , London เป็นภาพทม่ี สี องเวอรช์ ัน่ คอื ค.ศ.1636 และ 1638 ซง่ึ ท้ังสองภาพเปน็ ท่ีรูจ้ ักกันดที ้งั สองแสดงความงามของผู้หญงิ ในอดุ มคตขิ องเทพวีนสัมเิ นอรว์ า และจโู น (ภาพปี 1636 มีพตุ โตท่ซี า้ ยสดุ และ Alecto เหนือเทพธดิ า ในขณะทป่ี ี 1638 เพ่มิ putto ระหวา่ ง Minerva และ Venus) ภาพปี ค.ศ.1636 ตามเรอ่ื งทีเ่ ล่าในลเู ชีย 'คำพิพากษาเทพธดิ า'แสดงรางวัลแอปเปิ้ลทองคำ และถูกซือ้ สำหรับ National Galleryในปี ค.ศ.1844 22

The Feast of Venus, 1636-37 oil on canvas the Kunsthistorisches Museum ปีทรี่ ูเบนสส์ รา้ ง The Feast of Venus ยังคงเปน็ ปรศิ นา แตเ่ รารวู้ ่ามันจะเสร็จสมบูรณ์ในชว่ งกลางยคุ 1630 องคป์ ระกอบ ในภาพมจี ำนวนมากกระจายอยู่เต็มภาพซึง่ ใหค้ วามรูส้ ึกสดใสมชี ีวิตชวี า องค์ประกอบในภาพแบง่ ออกเปน็ สองดา้ น ดา้ นขวา จดุ สนใจอยทู่ ่วี นี ัส เทพเจา้ แห่งความรักและความอดุ มสมบรู ณ์ เธอเป็นจุดเดน่ ของกลางภาพ และถูกล้อมรอบโดยเหล่าเปมเทพและเหลา่ ผู้หญิงทบี่ ูชาเธอ พื้นหลังจะเป็นวดั อ้างถงึ สมัยโบราณ ไอเดยี ของงานชน้ิ นี้มาจาก Fasti, Ovid’s fourth book. 23

24 A View of Het Steen in the Early Morning, 1636 oil on oak , 131.2 x 229.2 cm. The National Gallery

The Three Graces, 1639 Oil on wood , 221 × 181 cm. Museo del Prado, Madrid The Three Graces เปน็ หน่งึ ในผลงานสดุ ท้ายของศิลปิน ภาพน้ีเปน็ ภาพเทพธิดาผู้ทรงเสน่ห์ทั้งสาม เป็นภาพสาวงามพรหมจรรย์ รูปร่างสมบูรณ์ กำลงั เปลอื ยกาย จากภาพนรี้ ูเบนสไ์ ดแ้ สดงออกถึงความพิเศษในตวั ศิลปินเอง ในการจดั รูปรา่ งและใชโ้ ทนสเี นอื้ มนษุ ย์ 25

Portrait 26

Marchesa Brigida Spinola Doria, 1606 oil on canvas , 152.5 x 99 cm. The National Gallery of Art 27

Anna of Austria, Queen of France, 1622-25 oil on cavas , 120 × 96.8 cm. Norton Simon Museum 28

King Philip IV of Spain, 1625 oil on canvas , 114 × 83 cm. The State Hermitage Museum 29

Ambrogio Spinola , 1625-1627 oil on panel , 116.5 × 85 cm. National Gallery in Prague 30

Drawing31

Seated Male Youth, 1613 500 x 299 mm. The Morgan Library & Museum 32

Man in Korean Costume, 1617 38.4 × 23.5 cm. The J. Paul Getty Museum 33

Nicolaas Rubens Wearing a Coral Necklace, 1619 252 x 202 mm. Albertina 34

Isabella Brant, 1621 38.1 × 29.4 cm.British Museum , London 35

Rubens's Daughter Clara Serena, 1623 420 x 297 mm. Albertina 36

RuabReends'sFeSoltnCNapic,ol1a6a2s5W-1e6a2r7ing 35.6 x 44 cm. Albertina 37

Young Woman with Folded Hands, 1629-1630 47.3 × 35.4 cm. Museum Boijmans Van Beuningen 38

Psyche, 1612-15 402 × 578 mm. Royal Collection 39

บรรณานุกรม- Wikipedia. Peter Paul Rubens. [ออนไลน์] (15 พฤศจกิ ายน 2559)เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://en.wikipedia.org/wiki/Peter_Paul_Rubens- วิกิพเี ดีย. เปเตอร์ เปาล์ รือเบินส์. (15 พฤศจิกายน 2559)เข้าถงึ ไดจ้ าก : https://th.wikipedia.org/wiki/เปเตอร_์ เปาล์_รอื เบนิ ส์- MUSEO DELPRADO.The Garden Of Love. [ออนไลน์] (15 พฤศจิกายน 2559)เขา้ ถงึ ได้จาก : https://www.museodelprado.es- National Gallery. [ออนไลน์] (15 พฤศจกิ ายน 2559)เข้าถึงได้จาก : https://www.nationalgallery.org.uk- Wikipedia. The Elevation of The Cross. [ออนไลน์] (17 พฤศจิกายน 2559)เขา้ ถึงไดจ้ าก : https://en.wikipedia.org/wiki/The_Elevation_of_the_Cross_(Rubens)- Bloggang. Peter Paul Rubens. [ออนไลน]์ (17 พฤศจิกายน 2559)เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : http://www.bloggang.com- Wikipedia. Issabella Brant. [ออนไลน]์ (18 พฤศจิกายน 2559)เขา้ ถึงได้จาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Isabella_Brant- Rubens and Antiquity. [ออนไลน]์ (19 พฤศจกิ ายน 2559)เข้าถงึ ได้จาก : http://rubensandantiquity.weebly.com/paintings.html- Web Gallery of Art. RUBENS, Peter Paul. [ออนไลน]์ (20 พฤศจกิ ายน 2559)เขา้ ถงึ ได้จาก : http://rubensandantiquity.weebly.com/paintings.html 40



Flemish Baroque painter. A proponent of an extravagant Baroque stylethat emphasized movement, colour, and sensuality. -Peter Paul Rubens- 13590481 ¹Ò§ÊÒÇÊÒ¸ÇÕ ÊÃзͧ˹ ÊÒ¢Ò¹àÔ ·ÈÈÒʵÏ àÍ¡¡ÒÃÅ¡Ù ¤ŒÒÊÑÁ¾¹Ñ ¸