“ไวกง้ิ นบั ถอื ศาสนาอะไร” กำ�เนิดมนุษย์ ครงั้ หนงึ่ เทพสามองคอ์ นั ไดแ้ ก่ โอดนิ โฮเนอร(์ Hoenir) และ โลเดอร(์ Lodur) ทรงกำ�ลังเดินทางไปตามชายหาด บังเอิญพบต้นไม้สองต้นท่ีลอยมาติดหาด ต้นหน่ึง คือ แอช(Ash) ตน้ หน่ึงคือ เอลม์ (Elm) โอดินทรงหักเอากิ่งทมี่ ีสาขาของไมท้ ้ังสองขึน้ มา แล้วทรงถากใหเ้ ขา้ รปู เป็นตกุ๊ ตามนุษยผ์ ชู้ ายและมนษุ ย์ผู้หญงิ โอดินทรงประทาน วญิ ญาณให้ โฮเดอรป์ ระทานความรสู้ กึ และโลเดอรป์ ระทานชวี ติ และสผี วิ ทเี่ ตม็ ไปดว้ ย เลอื ดเนอื้ จากนนั้ กง่ิ ไมท้ งั้ สองกป็ รากฏรา่ งขน้ึ เปน็ รปู รา่ งทใ่ี กลเ้ คยี งเทพแตม่ ขี นาดเลก็ กวา่ เป็นมนุษย์คู่แรกของโลก ผูช้ ายมาจากตน้ แอชนามว่า อากสค(์ Askr) สว่ นผูห้ ญงิ นั้นมาจากต้นเอล์มช่ือ เอมบลา(Embla) เทพทั้งหลายทรงไดช้ ้ีทศิ ใหท้ ั้งสองหาท่ที าง ต้งั ทอี่ ยู่กันในมดิ การ์ด ทอ่ี ย่ขู องเทพ เทพทงั้ หลายนนั้ ทรงได้ สร้างอาณาจักรนามว่าแอสการ์ด (Asgard) ข้ึนตามชอ่ื วงศ์แอเซยี ร์ (Aesir) ของตน ที่นี่ไม่มีสงคราม ไม่มีการสู้รบ สันติภาพคงอยู่ ตลอดไป ตราบเท่าที่เทพอีเซอร์ ปกครองโลก ถึงกระนั้น ชาวอี เซอร์ก็ไม่ประมาท จึงสร้างโรงตี เหลก็ เพอื่ ตอี าวธุ ยทุ โธปกรณ์ และ คอ่ ยๆสรา้ งสรรคส์ ว่ นตา่ งๆของแอ สการ์ดใหใ้ หญ่โตข้นึ เรื่อยๆ รูปท่ี 4.8. Askr and Embla (Stig Blomberg. Photo by Henrik Sendelbach : 1948) หนา้ 40
“ไวกิ้งนบั ถอื ศาสนาอะไร” หน้า 43
“ไวก้งิ นบั ถอื ศาสนาอะไร” เทพทีช่ าวไวก้ิงเคารพ 1. Thor (ธอร์) เป็นเทพสายฟ้า ฟ้าร้อง พายุ ต้นโอ๊ก พละกำ�ลัง การ คุ้มครองมนุษยชาติและตลอดจนความศักดิ์สิทธ์ิ การรักษาและความอุดมสมบูรณ์ เป็นท่ีรู้จักกันในภาษาอังกฤษเก่าว่า Donar และภาษาเยอรมันโบราณเขตเหนือว่า Þunor (อักษรรูน þonar ซ่ึงกำ�เนิดจากภาษาโปรโตเยอรมัน *Þunraz (หมายถึง “สายฟา้ ”) รปู คอ้ นโยนรี ข์ อง Thor คอื สญั ลกั ษณน์ อรด์ คิ เทยี บเทา่ กบั ไมก้ างเขนของ ครสิ เตียนและหลายคนสวมมนั รอบคอ Thor เปรยี บได้กบั Zeus คอื ท่านผูย้ งิ่ ใหญ่ และมีอำ�นาจผู้พิทักษ์แห่งกฎหมายและพืชผลเจ้านายแห่งพายุฟ้าผ่าและฟ้าร้องซ่ึง เกิดขึ้นทกุ คร้ังทีค่ ้อนขนาดใหญข่ องเขากระทบกอ้ นเมฆ รปู ท่ี 4.10. Thor (https://ae01.alicdn.com/kf/HTB1dClyRVXXXXXcXVXXq6xXFXXXF/ : 2562) รปู ที่ 4.9. Thor (https://ameblo.jp/zappako385/entry-12539357342.html : 2562) หน้า 42
“ไวกิ้งนบั ถอื ศาสนาอะไร” หน้า 45
“ไวก้ิงนบั ถือศาสนาอะไร” 2. ODIN โอดนิ เทพเจา้ สงู สุดในเทพปกรณมั ของชาวนอร์ส เปน็ เทพเจ้า ทใี่ ฝ่หาความรู้ ยึดมัน่ ในสจั จะ ช่วยเหลอื ผูอ้ ่นื ยกยอ่ งการรบอยา่ งกล้าหาญเพื่อให้ ไดต้ ายอยา่ งมเี กยี รตใิ นสนามรบ ใหล้ กู หลานน�ำ เรอื่ งราวของตนไปเลา่ ขานในฐานะ วรี บุรษุ และเพ่ือใหด้ วงวิญญาณได้รบั เลอื กให้เขา้ รว่ มกับกองทพั เทพ ร่วมต่อสู้กับ ยกั ษใ์ นวนั สน้ิ โลก ลกั ษณะของเขา คอื ชายทดี่ มู อี ายแุ ละมดี วงตาเพยี งแคข่ า้ งเดยี ว เนอื่ งจากเขานน้ั ไดเ้ สยี สละดวงตาอกี ขา้ งหนงึ่ ในการใสล่ งไปในน�้ำ พมุ เิ มอร์ เพอ่ื แลก กบั การท่เี ขาจะได้มปี ัญญาเหนือทวยเทพทกุ องค์ ศาสนาคริสต์ ศาสนาคริสต์ได้เข้ามาถึงสังคมสแกนดิเนเวียน แต่ไอซ์แลนยังคงภักดี ต่อเทพเจ้าเก่าเช่นโอดิน ต่อมาไอซ์แลนด์กลายเป็นคริสเตียนเพื่อหลีกเล่ียง สงครามกลางเมืองชาวไอซ์แลนด์ท้ังหมดจะเป็นคริสเตียน แต่มีข้อยกเว้นบาง ประการ – ตัวอย่างเช่นการทานเนอื้ มา้ รูปท่ี 4.11. Odin (giovanirog.com/wp-content/uploads/2017/06/Odin_der_Göttervater.jpg : 2562) หนา้ 44
“ไวกิ้งนบั ถอื ศาสนาอะไร” รูนส์ (RUNES) เป็นอักษรท่ีจอมเทพโอดินทรงคิดค้นข้ึน นิยมสลักลงบนกระดูกสัตว์ แผน่ ไม้ หรอื แผ่นหนิ ท่มี ีลกั ษณะกลมแบน อักษรรูนส์มีท้ังหมด 24 ตัวอักษรใช้ในการพยากรณ์ทำ�นาย ร่าย เวทย์ และใชใ้ นการลงอาคมให้กับสง่ิ ของต่างๆ อกั ษรรนู สท์ ี่ทรงพลงั ทีส่ ดุ ที่มัก ใช้ท�ำ นาย คอื The Elder Futhark ซึ่งเป็นอกั ษรรูนสท์ ่เี กา่ แก่ทส่ี ุดทจี่ อมเทพ โอดนิ ทรงคดิ คน้ ขน้ึ ค�ำ วา่ Futhark ไดม้ าจากพยญั ชนะ 6 ตวั แรกของอกั ษรรนู ส์ ท้ังหมด ซง่ึ แบ่งเปน็ 3 ชุด (Aetts) ชุดละ 8 ตวั อักษร อกั ษรแตล่ ะตัวจะมคี วาม หมายเฉพาะในตัวของมนั ตามหลักศาสนาอาซาทรู (Asatru) อกั ษรรนู สเ์ ปน็ สงิ่ ทผี่ นู้ บั ถอื ทกุ คนตอ้ งเรยี นรแู้ ตท่ กุ คนไมจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งใช้ มัน และการใช้อักษรรูนส์น่ันไม่ควรใช้ทำ�นายในเร่ืองไร้สาระ เพราะรูนส์คือส่ิง ที่ใช้ติดต่อกับจอมเทพโอดินเพื่อขอให้พระองค์ทรงช่วยเหลือซึ่งจอมเทพโอดิน พระองค์เองก็ไม่ทรงโปรดปรานเรอื่ งลอ้ เล่นดว้ ย หนา้ 45
“ไวกิ้งนบั ถอื ศาสนาอะไร” หน้า 46
“ไวก้ิงนบั ถือศาสนาอะไร” ประวัตศิ าสตรร์ ูน รนู คอื ระบบการเขยี นภาษาอนั ศกั ดสิ์ ทิ ธม์ิ ใี ชก้ นั ในชนเผา่ ของชาวเยอ รมานคิ ทางยโุ รปเหนอื โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในองั กฤษ สแกนดเิ นเวยี และไอชแ์ ลนด์ มีต้นก�ำ เนิดของมันไม่ทราบปรากฏแน่ชัดแตถ่ ูกค้นพบต้ังแตป่ ี ค.ศ. 3 เมอ่ื อกั ษรรนู ปรากฏอยบู่ นแผน่ ศลิ า อาวธุ และเครอื่ งมอื ตา่ งๆ รปู แบบ ทเ่ี ปน็ ตวั เหลยี่ มของมนั บง่ ชขี้ อ้ เทจ็ จรงิ วา่ ภาษารนู นน้ั ถอื ก�ำ เนดิ มาเพอื่ การสลกั ไม่ใช่การเขยี น ค�ำ ว่ารนู มาจากคำ�ว่า รูนา หมายถงึ การกระซบิ หรือ ความลับ ซึ่ง หมายถึงการใช้เวทย์มนตร์ท่ัวท้ังดินแดนภาคเหนือของยุโรป ในอดีตมีคนสอง กลมุ่ ใหญท่ ที่ �ำ งานกบั รนู คอื คนสรา้ งรนู ซงึ่ มคี วามรเู้ รอ่ื งภาษารนู และหมอรนู มี ธรรมเนยี มปฏิบตั อิ ันซับซอ้ น โดยใชต้ ัวอกั ษรรูนเปน็ ส่วนประกอบส�ำ คญั หมอผี จะไดร้ บั การนบั ถอื อยา่ งสงู สง่ พวกเขารวู้ ธิ ใี ชต้ วั อกั ษรรนู พยากรณเ์ พอ่ื สรา้ งเวทย์ มนตร์ และรกั ษาโรคภยั ตำ�นานรนู มคี วามเก่ยี วโยง ในเทพนยิ ายเทพเจา้ ของชาวนอร์ส กล่าว กันว่า โอดนิ ซึง่ เปน็ ผนู้ ำ�เหล่าเทพยดา เป็นผคู้ ้นพบรนู และถอื วา่ เป็นหมอรูนคน แรก ในตำ�นานยังกลา่ วถึงเทพองคอ์ ืน่ ๆ เชน่ จอรด์ เทพแหง่ ทะเล เฟรยา เทพี แห่งสงคราม ความรักและเวทย์มนตร์ อิดุน เทพีแห่งการรักษา และทีร์ เทพ นักรบ ตำ�นานเหล่าน้ีได้สะท้อนอยู่ในความหมายและมนตร์ศักดิ์สิทธ์ิของรูน จนถึงปัจจุบนั น้ี โอดนิ ผู้เป็นบิดาแห่งเทพเจ้านอรส์ ทงั้ มวล มปี ระสบการณ์การ ใชอ้ �ำ นาจแบบหมอผี ชว่ งเวลาท่ีรนู ปรากฏแก่เขา ตามต�ำ นานเลา่ วา่ โอดนิ ไดท้ �ำ การแขวนคอตวั เองหอ้ ยหวั ลงใตอ้ กิ ดรา ซลิ หลงั จากเวลาผา่ นไป 9 วนั 9 คนื ทโ่ี อดนิ เสยี ชวี ติ อยบู่ นตน้ ไมน้ นั้ แตเ่ ขากลบั ถอื ก�ำ เนดิ ใหมอ่ กี ครง้ั เขาน�ำ ความรแู้ ละสตปิ ญั ญาจากโลกอน่ื รวมทง้ั รนู กลบั มา พรอ้ มเขาด้วย หนา้ 47
“ไวก้งิ นบั ถอื ศาสนาอะไร” วิธกี ารสร้างรูน อุปกรณ์ที่นิยมนำ�มาสร้างรูน ได้แก่ ก้อนหินแบนๆทรงกลม ไม้ เศษไม้ ก่ิงไม้ กระดาษทท่ี ำ�เปน็ ไพ่ หรือจะเปน็ ลูกแกว้ ลกู ปดั เหรียญทำ�ด้วยก้อนหิน หินที่ เหมาะจะทำ�รนู จะอยู่ตามชายหาดและรมิ ล�ำ ธาร ซึ่งมีรูปรา่ งกลมมน ชาวนอร์สเชื่อว่าหินทุกก้อนมีวิญญาณอยู่ภายใน ดังนั้นหากจะให้มัน ท�ำ งานใหค้ ณุ คุณตอ้ งจัดเครื่องบูชากอ่ นที่จะนำ�ของจากธรรมชาติไปใช้ เครือ่ งบชู า ตามธรรมเนยี มจะใชเ้ กลอื ทะเลเปน็ เครอ่ื งบชู า เนอื่ งจากเปน็ ทเี่ ชอ่ื กนั วา่ มนั เปน็ สง่ิ ท่ี เกดิ จากพนื้ ฐานธาตุท้งั สี่ ดิน น�ำ้ ลม ไฟ และเคร่อื งบูชาอย่างอื่น ไดแ้ ก่ ยาสูบและ ขา้ วโพด โดยเมอื่ คณุ ไดห้ นิ ทตี่ อ้ งการแลว้ ระบายเขยี นตวั อกั ษรรนู แลว้ เคลอื บเงาเพอ่ื ใหอ้ ยทู่ นทาน และถา้ จะท�ำ ดว้ ยไมก้ ใ็ หข้ ออนญุ าตตน้ ไมห้ รอื กง่ิ ไมด้ ว้ ยการวางมอื ทง้ั สองและอธิษฐานสั้นๆ จากนัน้ กโ็ รยเกลือทะเลเปน็ เคร่ืองบูชาก่อนจะตัดก่ิงออกมา เป็นทอ่ นไม้เป็นชิน้ เลก็ ๆตามจำ�นวนอักษรรูนทีจ่ ะท�ำ ใชเ้ หลก็ แหลมหรอื เคร่ืองจ้ไี ฟ หรอื ใชส้ เี ขียนอักษรรูนในไม้แตล่ ะอันจากนั้นนำ�ไปเคลอื บรักษาเน้อื ไม้ การชำ�ระรนู มีวิธีท่ีจะทำ�ได้หลายวิธี คือ วางอักษรรูนให้อาบแสงจันทร์ในคืนท่ี พระจันทรเ์ ต็มดวงเป็นเวลาหน่งึ คนื หรือใชค้ วนั สมุนไพรอบมัน วธิ ีช�ำ ระทีง่ า่ ยทส่ี ดุ คอื ใช้นำ�้ จากธรรมชาตมิ าชำ�ระลา้ ง อย่าใชน้ ้ำ�ประปาเด็ดขาด เมื่อคุณสรา้ งรนู เสร็จ โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ถา้ คณุ ใชท้ �ำ นายใหค้ นอนื่ มามากแลว้ คณุ จะตอ้ งท�ำ การช�ำ ระลา้ ง เปน็ ประจ�ำ นอกจากนน้ั คณุ ตอ้ งท�ำ พธิ เี พม่ิ พลงั ใหม้ นั เมอ่ื ผา่ นไประยะหนง่ึ เพราะถา้ คณุ เกบ็ อกั ษรรูนไว้นานคณุ จำ�เป็นตอ้ งเพ่ิมพลงั ใหม้ ันใหม่ การเก็บรกั ษารนู ให้ใส่อุปกรณ์ทำ�นายรูนไว้ในถุงผ้า และควรมีผ้าปูรองหนึ่งผืนเพื่อใช้วาง รูนในการทำ�นายวิธกี ารทำ�นายรนู อธษิ ฐานคำ�ถามให้ชดั เจนแลว้ หยิบรูนจากถงุ ผ้า หรือ วางรนู ท้ังหมดควำ่�หนา้ บนผ้าปูรอง หนา้ 48
“ จรงิ ๆแลว้ ไวกิ้งกเ็ ปน็ พอ่ คา้ ”
“จริงๆแล้วไวกิ้งก็เป็นพ่อคา้ ” “ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้รับการขนานนามว่าเป็น โจรสลัด ชาวไว กง้ิ ชอบท่จี ะออกทะเลไปปล้นสะดมพวกเรอื สง่ สนิ คา้ หรือไม่ก็เรือขนุ นางกบั บาทหลวงบางลำ� แต่ถึงจะเป็นแบบน้ันก็ไม่ได้แปลว่าพวกเขารู้จักเพียงแต่ การปล้นอย่างเดียวเพราะไม่อย่างน้ันชาวไวก้ิงคงไม่สามารถปกครองกันมา ได้นานถึง 300 กว่าปีแน่นอน เพราะอาณาจักรต้องขับเคล่ือนด้วยเงินตรา ของไวก้ิงก็เช่นกัน พวกเขาก็ต้องค้าขายและถือว่าเป็นพ่อค้าที่เก่งกาจอย่าง มาก เราจะมาบอกเลา่ การคา้ ของไวก้ิงกัน” หนา้ 49
“จริงๆแล้วไวกิ้งก็เปน็ พ่อคา้ ” รปู ที่ 5.1. trade (http://www.ancientpages.com/2018/05/04/ felag-ancient-viking-company-orga- nized-trade-finance/: 2018) “ไวก้งิ แม้จะถกู ตราหนา้ วา่ เป็น อารยะของคนเถื่อน แต่พวกเขากย็ งั ได้ รับการยอมรับของหลายๆฝ่ายในด้านการค้า และปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการคงอยู่ ของพวกเขามีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจอยา่ งใหญ่หลวงและยังเปน็ ผูม้ อี ิทธพิ ลตอ่ การค้าทง้ั ของยโุ รปและสแกนดเิ นเวีย ด้วยนวัฒกรรมทางเทคโนโลยีด้านการต่อเรือของชาวไวกิ้งมีผลอย่าง มากกับการคา้ ในยคุ นั้นเรอื มีความสำ�คัญเปน็ อยา่ งมากและไม่มีใครเทยี บกับเรอื ของไวกิ้งได้เลย ด้วยเรือท่ีเร็วกว่า แข็งแรงกว่า จำ�นวนเยอะกว่า ทำ�ให้การค้า บนเสน้ ทางทะเลของไวกง้ิ นัน้ ประสบความสำ�เรจ็ อยา่ งสวยงาม พวกเขาออกเดิน ทางไปค้าขายทั้งยุโรปและยังเดินทางข้ามทวีปไปยังรัสเซีย และด้วยการชอบทำ� สงครามเม่ือยึดพื้นที่ใดได้ พวกเขาจะต้ังถ่ินฐานเเละศูนย์การค้าตามมานั่นทำ�ให้ การค้าสามารถขยายตัวผ่านตัวกลางได้งา่ ยขึน้ ” หน้า 50
“จริงๆแล้วไวกิง้ ก็เป็นพอ่ คา้ ” “แน่นอนว่าเมื่อมีการคา้ กต็ ้องมเี งินตรา แต่ก่อนจะพูดถงึ เรือ่ งเงินตรา การเเลกเปล่ียนของไวก้ิงจะเป็นการแลกส่ิงของกันโดยตรง ถึงไม่มีหลักฐาน ชัดเจนว่าชาวไวก้ิงเร่ิมใช้เงินตราตั้งแต่เม่ือไหร่ แต่เม่ืออารยธรรมของดินแดน รอบๆเริ่มพัฒนาและมีเยอะข้ึน ความรู้และเทคนิคด้านการค้าก็พัฒนาตามมา เรอ่ื งเงนิ ตราเรมิ่ เขา้ มาสเู่ ศรษฐกจิ ของไวกงิ้ เและยงั มกี ารรเิ รม่ิ การใชเ้ ครอื่ งชง่ั ตวง ในชว่ งแรกๆเงนิ ตราจะอยใู่ นรปู ลกั ษณแ์ ทง่ หรอื เรยี กวา่ Bullion ถกู สรา้ งจากแร่ เงินเป็นส่วนมาก แต่ถึงยังงั้นทองก็มีให้เห็นอยู่เป็นส่วนน้อยเพราะเทียบระดับ แล้วทองมีมูลค่ามากกว่าแร่เงินมากกว่าทำ�ให้มีแต่ชนช้ันสูงและยากต่อการแลก เปลี่ยน และทองยังหายากมากกว่าเงิน” หน้า 51
“จรงิ ๆแล้วไวก้ิงกเ็ ป็นพอ่ คา้ ” “การใช้เงินตราที่เป็นแท่ง ต้องยอมรับว่ามันใช้เป็นหน่วยแลกเปลี่ยน ไดง้ า่ ยและรวดเรว็ กวา่ การเเลกเปลยี่ นโดยตรง แตม่ นั กม็ ขี อ้ เสยี คอื มนั พกพายาก เพราะมนั มเี งนิ ตราทใี่ ชง้ านง่ายกวา่ นนั้ นน่ั คือ เหรยี ญ Coinage” “อย่างที่บอกกันว่าชาวไวกิ้งชอบการเดินทางพวกเขาได้สร้าง ศูนย์การค้า ณ ดินแดนอ่นื มากมายเชน่ Aarhus(Denmark), Ribe(Denmark), Hedeby(Germany), Vine- ta(Pomerania), Truso(Poland), Bjorgvin(Norway), Kaupang(Norway), Skiringssal(Norway), Birka(Sweden), Bordeaux(France), York(En- gland), Dublin(Ireland), Aldeigjuborg(Russia) ชอ่ื เหล่าน้ีคือชื่อของศูนยก์ ารคา้ ท่เี ดน่ ๆของชาวไวกิง้ ” หนา้ 52
“จรงิ ๆแลว้ ไวกิ้งกเ็ ป็นพ่อคา้ ” รปู ท่ี 5.2. Ribe(Denmark) (https://www.dailyscandinavian.com/exceptional-viking-finds-in-denmarks-oldest-town/: 2018) รปู ท่ี 5.3. Vineta(Pomerania) (http://seaofadventure.eu/?page_id=577: 2018) หน้า 53
“จริงๆแลว้ ไวกงิ้ กเ็ ปน็ พ่อคา้ ” “พ่อค้าไวก้ิงได้ทำ�การค้าขายมากมาย เดินทางไปทั้งทางตะวันตก และตะวันออก พวกเขาเปรียบเหมือนผู้ริเริ่มเส้นทางการค้าไกลถึงนิวซีแลนด์ และรัสเซีย ตลอดเส้นทางการเดินเรือพวกเขาได้ทำ�การแลกเปลี่ยนซ้ือขายกัน มากมาย” หนา้ 54
“จรงิ ๆแล้วไวกิ้งก็เป็นพอ่ ค้า” Western Trade ไวกง้ิ ในถนิ่ นอรเ์ วยแ์ ละเดนมารก์ พวกเขาออกเดนิ ทางไกลถงึ Ireland และ Scotland พวกเขาออกลา่ โจมตี ปลน้ และคา้ ขาย สนิ ค้าสว่ นมากจะเปน็ งานหัตถกรรม เพราะฉะนั้นพวกเขาจะโดยสารช่างไปด้วย สินค้าก็เป็นของ จ�ำ พวก ถว้ ย, ลกู ปดั แกว้ , เครอื่ งปน้ั ดนิ เผา, แกว้ น�ำ้ , หวั กระดกู เขากวาง, อาวธุ , เครอ่ื งประดบั , ผา้ , เครื่องหนัง กระจก ถอื วา่ เปน็ ของมคี า่ มากในหมชู่ าวไวกงิ้ แตส่ ว่ นมากไมไ่ ดถ้ กู น�ำ มาใช้โดยตรงใชเ้ พอ่ื ท�ำ ลกู ปัดแกว้ ชาวไวกง้ิ มที กั ษะของชา่ งในหลายๆดา้ น การทอผา้ เปน็ หนง่ึ ในนน้ั การ ปน่ั ดา้ ย ทอผ้า หนา้ 55
“จริงๆแล้วไวกง้ิ ก็เปน็ พ่อคา้ ” Eastern Trade ไวกิ้งมีการค้าขายรอบๆทะเล Baltic ไวกิ้งที่ทำ�การค้าขายท่ีน่ี คือ สวีเดน พวกเขาเดินทางไปทางตะวันออก 2 เส้นทาง ล้วนแล้วแต่เป็นเส้นทาง ทะเลทงั้ สน้ิ เสน้ แรกใชแ้ มน่ �้ำ Dnieper ลงสู่ Black sea และอกี สายแมน่ �้ำ Volga ลง Caspian sea เพ่ือไปคา้ ขายกับชาวรสั เซียและคอนสแตนติโนเปิล สินค้าส่วนมากจะเป็นของท่ีมากจาธรรมชาติ เช่น ไม้แปรรูป, เหล็ก, ขนสัตว,์ อ�ำ พนั , สบ,ู่ เคร่ืองเทศ, ทาส ทาส คอื สินค้าจุดเดน่ ทางเสน้ ทางการค้าเส้นที่เพราะชาวคอนสแตน ตโิ นเปลิ และชาวเปอรเ์ ซยี ชอบซ้อื ขายทาสกันมาก เครอ่ื งเทศ เปน็ ทง้ั สนิ คา้ น�ำ เขา้ และสง่ ออก คา้ ขายเปน็ พเิ ศษกบั รสั เซยี เชน่ ยีห่ ระ, โหระพา, มะรมุ , มัสตารด์ หน้า 56
“ ศลิ ปะก็แปลก ไมเ่ ช่อื ลองอ่านด.ู . ”
“ศิลปะก็แปลก ไม่เชื่อลองอ่านดู..” สำ�หรับชาวสแกนดิเนเวียนโบราณแม้จะถูกมองว่าเป็นพวกคนเถื่อน แต่ท่ีจริงพวกเขากลับรักบทกวี ในดินแดนของพวกเขาประกอบด้วยฤดูหนาว ท่ีไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตอนไหน ท่ัวดินแดนเหมือนปกคลุมไปด้วยความมืดและ น�้ำ แขง็ ส�ำ หรบั พวกเขาเหลา่ ไวกง้ิ สง่ิ ทต่ี อ้ งการคอื การหลดุ พน้ จากสภาพทเี่ ลวรา้ ย บทกวี วรรณกรรมแฟนตาซี เปน็ สง่ิ ทพี่ วกเขาปรารถนาเพอื่ ใหห้ ลดุ พน้ จากสภาพ และความรูส้ กึ เบอ่ื หน่ายท่เี ปน็ อยู่ และแลว้ วรรณกรรมอนั เป็นที่ยอมรับก็เกิดข้ึน ในท่สี ุด the Icelandic Sagas เป็นวรรณกรรมเรื่องยาวที่มเี น้อื หาอยู่ในชว่ งยุค ศตวรรษท1่ี 3 เปน็ เรอ่ื งราวทเ่ี กยี่ วกบั โศกนาฏกรรมในครอบครวั ในประวตั ศิ าสตร์ ของไอซแ์ ลนด์ รปู ท่ี 6.1. the Icelandic Sagas (Guide to Iceland : 2018) หน้า 58
“ศิลปะกแ็ ปลก ไม่เชอื่ ลองอา่ นด.ู .” องคป์ ระกอบทหี่ ลากหลายของวรรณกรรมถกู เรยี กวา่ นยิ าย(Novel)ในภาย หลงั ตอ่ มาชาวสแกนดเิ นเวยี นเรม่ิ เสพตดิ ความวจิ ติ รของวรรณกรรมมากขน้ึ เกดิ ความคดิ แปลกใหมแ่ ละหลากหลาย จนเกิดผลงานช้ินเอกทีม่ ีชอื่ ว่า Njals saga เนื้อ เรอ่ื งของวรรณกรรมเรอื่ งนน้ี นั้ มคี วามแปลกใหมแ่ ละนา่ สนใจกวา่ วรรณกรรมทผ่ี า่ นมา เป็นเนื้อหาเกย่ี วกับการผจญภยั ความรักและการแกแ้ ค้นต่อสทู้ วงคืนความยตุ ิธรรม รปู ที่ 6.2. Njals saga (by Anonymous - Njal’s Saga : 2018) หนา้ 59
“ศลิ ปะก็แปลก ไมเ่ ช่อื ลองอ่านดู..” Viking art “ศิลปะไวกง้ิ หรอื ทีร่ ้จู ักในนามศลิ ปะนอรส์ เปน็ ส่งิ ท่ีไดย้ อมรับไปท่วั ใน สแกนดเิ นเวียน สำ�หรบั ศลิ ปะไวก้งิ เทยี บกบั ศลิ ปะของวัฒนธรรมอ่นื ๆแล้วถือว่า มีความเป็นวัฒนธรรมทางวัตถุท่ีแปลกของชาวเหนือ(Northerners) ไวก้ิงส่วน ใหญจ่ ะมกี ารตกแตง่ สง่ิ ของอยา่ งประณตี ลงบนสงิ่ ของเครอ่ื งใชจ้ �ำ พวกเฟอรน์ เิ จอร์ งานไม้อย่างเรือ หนิ แกะสลักอกั ษรรนู ” material “ไม้ถือว่าเป็นวัสดุธรรมชาติหลักที่ชาวไวกิ้งเลือกใช้เน่ืองจากง่ายต่อ การขดั เกลาแกะสลกั ราคาไมแ่ พง และหาไดท้ วั่ ไปตามทอ้ งถนิ่ ยโุ รปเหนอื ความ สำ�คัญทางศิลปะของไม้ในความคิดของศิลปินนั้นหมายถึงความอยู่รอดตั้งแต่จุด เริม่ ตน้ ถึงจดุ จบของยุค กลา่ วในอีกมมุ หนง่ึ คอื ต้งั แต่เกิดจนตายนน่ั เอง ผลงาน ท่ีทำ�จากไม้ที่สำ�คัญเช่น เรือโอสเบิร์ก (Oseberg) สันนิษฐานว่าถูกสร้างเป็น คร้ังแรกในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 9 ตามลำ�เรือประกอบด้วยลวดลายการแกะ สลักและมกี ารตกแตง่ ด้วยฝีมือของโบสถ์ Urnes Stave ศตวรรษท1่ี 2 James Graham-Campbell เป็นนักโบราณคดีชาวอังกฤษ กล่าวว่าส่ิงท่ีชาวไวก้ิงได้ เหลอื ทิง้ เอาไว้ใหเ้ ผยใหเ้ ราไดเ้ ห็นงานศิลปะผ่านเรือ ไมว่ า่ จะเปน็ เพียงแค่เศษไม้ ก็ยังคงมีร่องรอยการแกะสลักลงไปรวมไปถึงงานทอผ้าเย็บปักถักร้อยก็ล้วนเผย ให้เห็นว่าเปน็ งานศิลปะทไ่ี ด้มกี ารพัฒนามาอย่างดี หิน อันเน่ืองมาจากความนิยมในการแกะสลักหินน้ันยังไม่แพร่หลาย สง่ ผลใหภ้ าพหนิ แกะสลกั มใี หเ้ หน็ เพยี งแคแ่ ถบพน้ื ทปี่ ระเทศสวเี ดนในชว่ งตน้ ของ ยุคไวกงิ้ จนถึงกลางศตวรรษท่ี 10 ตอ่ มาได้มกี ารสรา้ งอนเุ สาวรยี ์ข้ึนในหมู่บา้ น Jelling ประเทศเดนมาร์กซ่ึงได้รับอิทธิพลของการเผยแพร่ของคริสต์ศาสนาจึง ท�ำ ใหก้ ารแกะสลกั หนิ เรม่ิ เป็นทีน่ ยิ มมากขน้ึ หนา้ 60
“ศลิ ปะก็แปลก ไมเ่ ชอ่ื ลองอา่ นด.ู .” นอกเหนอื จากไมแ้ ละหนิ แลว้ เหลก็ ยงั คงเปน็ วสั ดอุ กี อยา่ งทช่ี าวไวกงิ้ เลอื ก ใช้ ไวกง้ิ เรมิ่ มกี ารประยกุ ตพ์ ฒั นาศลิ ปะไปในทางดา้ นเครอื่ งประดบั และของตกแตง่ ทม่ี คี วามหลากหลายมากขน้ึ โดยใชใ้ ชว้ สั ดทุ เ่ี ปน็ เหลก็ ซะสว่ นใหญ่ โดยเฉพาะโลหะ ท่ีมีความทนทานสูงทำ�ให้สามารถรักษารูปร่างของงานศิลปะไว้ให้คงเดิมจนถึง ปจั จุบนั เคร่ืองประดบั จะถกู สวมใส่ทั้งเพศชายและเพศหญงิ และผหู้ ญิงท่แี ต่งงาน แล้วจะแต่งตัวให้ดูมากกว่าปกติ พวกเธอจะสวมผ้าคาดใกล้ไหล่และติดเข็มกลัดคู่ ใหญไ่ ว้ 1 คู่ นักวิชาการเรียกเจา้ สิง่ นี้ว่าเขม็ กลัดเต่าเนื่องจากรูปทรงคลา้ ยโดมหรือ กระดองเตา่ นน่ั เอง แตร่ ปู รา่ งของเขม็ กลดั นน้ั ยงั แตกตา่ งกนั ออกไปในแตล่ ะภมู ภิ าค แตส่ ว่ นใหญจ่ ะนยิ มหอ้ ยโซโ่ ลหะหรอื ประค�ำ ระหวา่ งเขม็ กลดั ในบางครง้ั กจ็ ะแขวน ทด่ี า้ นลา่ งของเข็มกลัด ผชู้ ายจะใสแ่ หวนเหล็กท่นี ว้ิ แขน หรือคอ และจะกลัดเสอ้ื คลมุ ดว้ ยเขม็ กลดั ท่มี ีเข็มยาวเป็นพเิ ศษ ในส่วนของอาวุธมักจะใช้เหล็กตกแต่งประดับประดาให้ดูหรูหราโดย เฉพาะด้ามจับดาบ ชาวไวกิ้งส่วนใหญ่นิยมใช้เงินหรือทองแดงในการทำ�เครื่อง ประดับและในบางครง้ั อาจจะเคลือบด้วยทอง ซงึ่ จากการขดุ พบนนั้ เคร่อื งประดับ ทองส่วนใหญ่จะพบทีส่ สุ านของราชวงศ์หรอื บุคคลส�ำ คญั ส่วนชิ้นสว่ นโลหะมกั จะ ขดุ พบทห่ี ลมุ ฝงั ศพของชาวบา้ นธรรมดา ในบางครง้ั จะมนี กั ลา่ สมบตั ทิ คี่ อยขดุ หลมุ ศพเพ่ือขโมยของมีค่าจึงมีการปิดบังเป็นความลับเพื่อความปลอดภัยจากโจรเหล่า นัน้ โดยมคี วามเช่อื ว่าข้าวของเครอื่ งใชท้ ฝี่ งั ไปวญิ ญาณจะน�ำ ไปถวายแกเ่ ทพเจ้า รูปแบบของการออกแบบ ชาวไวกิ้งชอบท่ีจะออกแบบด้วยลายเส้นรูป สตั วท์ ้งั ท่ีเปน็ นามธรรมหรือรูปธรรม มอี ยู่จรงิ หรือจินตนาการขนึ้ มา สตั วท์ ป่ี รากฏ ในงานศิลปะส่วนใหญ่อาทิเชน่ งู ม้า หมาปา่ นก” หน้า 61
“ศิลปะก็แปลก ไม่เชือ่ ลองอ่านด.ู .” ในชว่ งยคุ สมยั ของไวกงิ้ งานผมี อื ทางดา้ นศลิ ปะชาวไวกง้ิ มอี ยอู่ ยา่ งหลาก หลาย ได้มกี ารศกึ ษาและจัดแบ่งออกมาได้เปน็ 6 มคี วามซบั ซ้อนและมสี ไตล์ทต่ี า่ ง กนั ขึน้ อยู่กบั แตล่ ่ะวตั ถุประกอบไปด้วย 1. Oseberg มีลักษณะรูปร่างคล้ายหัวสัตว์ช่ือว่า Zoomorphic มี ลักษณะหัวโต ตากลมโต ลำ�ตัวเรียวยาวเล็กมีแพทเทิร์นของความโค้งและความ เป็นเรขาคณติ ลักษณะเด่นท่ีเห็นชดั คอื ความเปน็ gripping beast หรือหน้าสตั ว์ ร้าย มีปรากฏใหเ้ หน็ ตามอาคารหรอื พธิ ที างศาสนาและการตกแตง่ บนป้ายหลุมฝงั ศพ ศลิ ปะสไตล์ Oseberg ยังคงมอี ยจู่ นถงึ ศตวรรษที่ 9 นบั อายุไดร้ าวๆ 150 ปี รูปที่ 6.3. Oseberg Style 1 (https://arsartisticadventureofmankind.wordpress.com : 2018) หน้า 62
“ศิลปะกแ็ ปลก ไม่เชอ่ื ลองอ่านด.ู .” รูปที่ 6.4. Oseberg Style 2 (https://en.wikipedia.org/wiki/Viking_art : 2018) หน้า 63
“ศลิ ปะก็แปลก ไมเ่ ชื่อลองอา่ นดู..” 2. Borre มลี กั ษณะเป็นเส้น เรยี งกันเป็นระเบียบมกี ารวางแพทเทริ น์ ซ�้ำ ๆกนั มกี ารน�ำ รปู ทรงเรขาคณติ มาประยกุ ตเ์ ขา้ กนั กบั สตั วอ์ ยา่ งชดั เจน ตามขอ้ ตอ่ ของสตั วม์ ที รงกลมโคง้ เปน็ ระเบยี บ มคี วามคลา้ ยแบบ Oseberg และ Jelling ปรากฏครงั้ แรกในศตวรรษท่ี9-10 รปู ที่ 6.5. Borre Style (https://www.celticwebmerchant.com : 2018) หนา้ 64
“ศิลปะก็แปลก ไม่เชือ่ ลองอ่านดู..” 3. Jelling Style มีลักษณะเป็นศิลปะรูปร่างสัตว์ปรากฏให้เห็นอย่าง ชัดเจน มีรปู แบบทีโ่ ดดเดน่ คอื สัตวท์ ่ีอยูก่ ันอย่างเป็นกลุ่มเป็นก้อน ปรากฎให้เหน็ ในชว่ งศตวรรษท1ี่ 0 รปู ท่ี 6.6. Jelling Style (BY THORNEWS : 2018) หน้า 65
“ศลิ ปะก็แปลก ไม่เชอ่ื ลองอา่ นดู..” 4. Mammen Style ถูกต้ังชื่อจากการขุดสุสานท่ี Mammen ใน Jutland, Denmark ใบขวานด้านนึงของขวานมีนกขนาดใหญ่ท่ีมีร่างกายใหญ่ ตากลมและหัวตั้งตรงและจะงอยปาก การออกแบบสไตล์ Mammen เป็นการ ออกแบบทซ่ี ับซอ้ น คอื หวั นกแลพเพอร์ที่พวั พันสองครั้งกบั คอและปกี ขวาขณะ เดียวกันก็แผ่ก่ิงก้านสาขาไปตามขอบใบมีด ด้านบนท่ีใกล้กับด้านจับของขวาน ดา้ นนงึ เปน็ เหมอื นปมคดเคี้ยวเก่ียวพันกัน รปู ท่ี 6.7. Mammen Style (Posted by Thyra : 2018) หน้า 66
“ศิลปะกแ็ ปลก ไมเ่ ชื่อลองอ่านด.ู .” 5. Ringerike Style ถูกต้งั ชื่อตามเขตที่พบ Ringerike ทางตอนเหนือของ เมอื งออสโลประเทศนอรเ์ วย์ ซงึ่ หนิ ทรายสแี ดงในทอ้ งถนิ่ นยิ มน�ำ มาใชใ้ นการแกะสลกั หนิ ลกั ษณะเปน็ ไมเ้ ลอ้ื ยออกมาจากเปลอื กหอยทฐ่ี านของหนิ ตามล�ำ ตน้ ของไมเ้ ลอ้ื ย มีลูกตุ้มห้อยอยู่ ลายเส้นต้นไม้เลื้อยตัดกันสลับซับซ้อนกลายเป็นรูปสัตว์ท่ีมีรูปร่าง ขนาดใหญ่ ส�ำ หรบั งานโลหะศลิ ปะแบบ Ringerike Style จะปรากฎใหเ้ หน็ เดน่ ชดั บน ใบพดั อากาศทองแดงจาก Källunge Gotland และจาก Söderala Hälsingland จะ มลี กั ษณะของการวางเปน็ pattern ตรงปลายใบจะมรี ปู ปนั้ สงิ โตขนาดเลก็ ลวดลาย ท่ีพบมากทสี่ ดุ คือ สิงโต นก สตั วร์ ปู วงและเกลียว รูปที่ 6.8. Ringerike Style (Posted by Thyra : 2018) หนา้ 67
“ศิลปะกแ็ ปลก ไมเ่ ชอื่ ลองอ่านดู..” 6. Urnes Style ศลิ ปะแบบสดุ ทา้ ยของชาวสแกนดเิ นเวยี นในชว่ งศตวรรษ ที่11 - 12 ตัง้ ชือ่ ตามประตเู หนอื ของโบสถ์ Urnes stave ในนอร์เวย์ ศลิ ปะรปู แบบ นจ้ี ะปรากฎในรปู ลักษณ์ของ Runestone ใน Upplandและสวเี ดน ซ่ึงเป็นเหตผุ ล ทน่ี กั วชิ าการบางคนชอบทจี่ ะเรยี กมนั วา่ สไตล์ Runestone ลกั ษณะเปน็ สตั วท์ ม่ี รี ปู ร่างเพรียวบาง หวั สตั วจ์ ะเหน็ เปน็ หนา้ เสีย้ ว มีดวงตาเรียวรูปอัลมอนดแ์ ละมอี วัยวะ ทีโ่ ค้งงอข้ึนไปในจมกู และลำ�คอ 6.1. Early urnes style ส่วนมากจะพบตาม runestone เป็นการแกะสลกั สตั วร์ ้าย มไี มเ้ ลือ้ ยพันรอบๆและอกั ษรรูน 6.2. Mid urnes style ส่วนมากจะเป็นลักษณะที่ปรากฏบน เหรียญทอ่ี อกโดย Harald Hardrada และ Olav Kyrre 6.3. Late urnes style มีชอื่ เสยี งในเร่อื งของสไตล์แบบสัตวท์ ี่ ผอมมากและสร้างลวดลายเป็นวงกลมบนวสั ดหุ รอื ภาพท่มี ีพื้นทก่ี ว้าง 6.4. Urnes-Romanesque Style ไมป่ รากฏบน runestones ซ่งึ แสดงใหเ้ หน็ ว่าประเพณใี นการทำ� runestones น้ันไดห้ ายไปแลว้ รูปท่ี 6.9. Urnes Style (Posted by Thyra : 2018) หนา้ 68
“ศลิ ปะกแ็ ปลก ไมเ่ ชอื่ ลองอา่ นด.ู .” หน้า 74
“ศลิ ปะกแ็ ปลก ไมเ่ ชอื่ ลองอา่ นด.ู .” หน้า 75
“ศิลปะกแ็ ปลก ไมเ่ ชื่อลองอา่ นดู..” longhouse “บ้านจะมีลักษณะยาวโดยภายในจะรวมทุกอย่างท้ังห้องทำ�งาน ท่ี อย่หู รอื หอ้ งเกบ็ อาหาร เป็นบา้ นชน้ั เดียว ตรงกลางจะเปน็ โถงและมเี ตาไฟ” หน้า 71
“ศลิ ปะกแ็ ปลก ไมเ่ ชอื่ ลองอา่ นด.ู .” หน้า 77
“ศิลปะก็แปลก ไม่เชอ่ื ลองอ่านดู..” The Ring Fortress “ป้อมปราการของชนเผ่าไวกิ้งเป็นวงแหวนรอบๆหมู่บ้าน มีประตู แยกออกมาทง้ั สท่ี ิศ” หน้า 73
“ศลิ ปะกแ็ ปลก ไมเ่ ชอื่ ลองอา่ นด.ู .” หน้า 79
“ศิลปะกแ็ ปลก ไม่เชอื่ ลองอา่ นด.ู .” Ritual Buildings “อาคารสำ�หรับประกอบพิธีกรรมเร่ิมสร้างเมื่อคริสเตียนเข้ามา โครงสรา้ งคลา้ ยกบั พวกคริส หลงั คาซ้อนกัน ยอดแหลม และบางทม่ี หี อคอย” หนา้ 75
“ศลิ ปะกแ็ ปลก ไมเ่ ชอื่ ลองอา่ นด.ู .” หน้า 81
“ศิลปะกแ็ ปลก ไม่เชื่อลองอ่านดู..” Boathouse “โรงเกบ็ เรอื ในหนา้ หนาว ดา้ นในจะไมม่ คี านเพอ่ื ใหใ้ สเ่ รอื ได้ หลงั คาโคง้ ” หนา้ 77
“ คดิ ถึงไวกิ้ง คดิ ถึงเรอื ”
“คิดถึงไวกง้ิ คดิ ถึงเรือ” รูปท่ี 7.1. long ship (Posted by Thyra : 2018) หนา้ 79
“คิดถงึ ไวก้ิง คดิ ถงึ เรอื ” longship “เมื่อเวลาผ่านไปชาวไวก้ิงได้คิดค้นเรือที่เป็นเอกลักษณ์และทันสมัยข้ึน กวา่ ในอดตี สง่ิ ทท่ี �ำ ใหเ้ รอื ของชาวไวกงิ้ ดกี วา่ ทอี่ น่ื ไวกง้ิ ไดเ้ พม่ิ ความแขง็ เเกรง่ ใหก้ บั กระดกู งขู องเรอื เพม่ิ หางเสอื ดา้ นขา้ งและตดิ ตงั้ พายเพอ่ื ใหส้ ามารถควบคมุ เรอื ไดด้ ี และง่ายขึน้ ตอ่ เรอื ด้วยเทคนิคการวางซอ้ นกนั แล้วใชค้ านไม้ยึดสองดา้ นไว้ เรือถูก ออกแบบให้มคี วามสมมาตรดา้ นซ้ายกับด้านขวาและด้านหน้ากบั ด้านหลัง ตัวเรอื มรี ปู ร่างเพรียวบาง ท�ำ ให้เรอื เเลน่ ไดเ้ รว็ สงู สุดอยู่ที่ 27 กม./ชม. เรือสำ�หรับไวกิ้งมีค่ามาก เรือเปรียบเสมือนอำ�นาจ ความมั่งคั่ง และ เกียรติยศชายไวกิ้งบางคนใช้ชีวิตบนเรือ พวกชนช้ันสูงมีนิสัยที่จะฝังศพของตนไว้ กับเรือตวั เอง กองทพั เรือไวกิง้ ยงิ่ ใหญ่ หากต้องการพิชติ ณ ทใ่ี ด เพียงแค่ส่งเรือไปข่ม ขวญั ก่อนโดยทหารไมจ่ ำ�เป็นต้องขึ้นบก” หน้า 80
“คิดถึงไวกง้ิ คิดถงึ เรอื ” หนา้ 81
“คิดถึงไวกง้ิ คิดถงึ เรอื ” หนา้ 82
“ บรรณานกุ รม ”
ACW. 2560. “สังคมของไวกิง้ ไมซ่ ับซ้อนนะ!!”. [ระบบออนไลน]์ . https://ancientcivilizationsworld.com/vikings/#Viking_Expeditions_to_ Greenland_and_possibly_even_America. (28 ตลุ าคม 2562) BBC Studios Distribution. 2556. “ไวกง้ิ นับถือศาสนาอะไร...?”. [ระบบออนไลน]์ . https://www.historyextra.com/period/viking/vi- kings-history-facts/. (28 ตลุ าคม 2562) ACW. 2562. “คดิ ถึงไวก้งิ คดิ ถึงเรือ”. [ระบบออนไลน]์ . https:// ancientcivilizationsworld.com/vikings/#Viking_Expeditions_to_Green- land_and_possibly_even_America. (28 ตุลาคม 2562) Daniel (or Dan) McCoy. 2556. “สังคมของไวกิ้งไม่ซบั ซ้อนนะ!!”. [ระบบออนไลน]์ . https://norse-mythology.org/viking-social-structure/. (28 ตุลาคม 2562) Joshua J. Mark. 2561. “ไวกิ้งนบั ถอื ศาสนาอะไร...?”. [ระบบ ออนไลน]์ https://www.ancient.eu/Vikings/.(28 ตุลาคม 2562) Scott Michael Rank. 2543. “สังคมของไวก้ิงไม่ซบั ซ้อนนะ!!”. [ระบบออนไลน]์ . https://www.historyonthenet.com/viking-society-no- bles-medieval-freemen-slaves. (28 ตุลาคม 2562) Scott Michael Rank. 2543. “ไวกิง้ นับถอื ศาสนาอะไร...?”. [ระบบ ออนไลน์]. https://www.historyextra.com/period/viking/vikings-histo- ry-facts/. (28 ตลุ าคม 2562) หนา้ 84
Search