Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Kinetic Art

Kinetic Art

Published by Kachornpon, 2021-04-08 11:57:01

Description: Kinetic Art_631310204_ปาณิสรา_เหมะมูล

Search

Read the Text Version

“Just as one can compose colors, or forms, so one can compose motions.” – Alexander Calder

KINETIC ART FIND WHAT MOVES YOU COMPILER BY FSPANIS

Two Moons,1969 Alexander Calder

หากจะกลา่ วถงึ งานศิลปะ สิง่ ท่ีคนสว่ นใหญจ่ ะนกึ ถงึ มักเป็นภาพวาด 2 มิติ งาน ปั้น 3 มิติ หรอื สอื่ ผสมตา่ ง ๆ น้อยคนนักทจี่ ะรจู้ ักศิลปะทข่ี ยบั ได้ ท้ังที่ศลิ ปะที่ เคล่ือนไหวไดห้ รอื ลทั ธิ Kinetic Art นมี้ ีมาต้งั แตส่ มัย ค.ศ. 1920 แลว้ หากแตม่ ัน ไมค่ อ่ ยนยิ มแพรห่ ลายมากนัก เนื่องจากข้นั ตอนในการประดษิ ฐท์ ยี่ งุ่ ยากกวา่ ผล งานจิตรกรรมและประติมากรรมปกติ ซึง่ ต้องค�ำ นงึ ถงึ เรอื่ งต่าง ๆ มากกว่าการ อาศัยความสวยงามของรปู ทรงเพียงอย่างเดยี ว ท้ังวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการคำ�นวณนำ้�หนักและทิศทางของรูปทรงแต่ละชิ้นก็เป็นสิ่งสำ�คัญ ในยุคศตวรรษท่ี 20 ยุคท่ีศลิ ปะสามารถกา้ วขา้ มขอ้ จ�ำ กัดพ้นื ฐานประการหนึง่ ของความเปน็ ศิลปะไปได้ สกู่ ารกลายเปน็ ศิลปะทไี่ ม่สถิตอย่กู บั ท่ี องค์ประกอบ ที่เคลื่อนไหวไปมาเปรียบเสมือนผู้สังเกตการณ์ท่ีกำ�ลังเดินอย่างเช่ืองช้าไปรอบ ๆ ประติมากรรมที่หยุดนง่ิ ไม่พลวิ้ ไหว เหมอื นมันก�ำ ลงั เขา้ ใกลผ้ นื ผ้าใบท่ีไมไ่ หว ติงและได้ก้าวถอยหลังกลับไปในระยะห่างท่ีเหมาะสมเพื่อเชยชมความงามของ ภาพ ศลิ ปะแบบจลนศิลป์ (Kinetic Art) ไดท้ ้าทายรูปแบบตายตวั ทีม่ ีมาอย่าง ยาวนานและได้เร่มิ ต้นยุคใหมข่ องศิลปะ ในปจั จบุ ันนี้ ผลงานศิลปะมากมาย สามารถเคลื่อนไหวได้ ส่งเสยี งได้ จนไปถงึ กระทง่ั ทำ�ลายตัวเองลงได้เสียดว้ ยซำ้� หากเคยเสพสมงานศลิ ปะความงามทีต่ รงึ นง่ิ มาจนหนำ�ใจแลว้ ก็อยากจะให้ลอง มารูจ้ ัก และด�ำ ด่ิงสู่โลกศิลปะแห่งการเคล่อื นไหว การทรี่ ูปประกอบภายในเล่มก็ เปน็ ภาพท่นี ่ิงเฉยดูขดั กบั ช่ือลทั ธศิ ิลปะ ชวนใหค้ ิดวา่ หากภาพทีน่ ำ�เสนอสามารถ แทนท่ดี ว้ ยวดิ ีโอได้ สามารถใหเ้ หน็ ถึงการขยับดจุ ศิลปะน้ีมีชีวิตได้ กค็ งจะดีไม่นอ้ ย ปาณิสรา เหมะมูล

Episode 1 : What is Kinetic Art? 1 What is Kinetic Art? 3 Key Ideas 4 Episode 2 : History of Kinetic Art 5 Strat The Engine! 7 Episode 3 : Artists & Artworks 9 Alexander Calder 11 Jesús Rafael Soto 17 Jean Tinguely 21 Episode 4 : Conclusion 27

Untitled, (Mur blue), 1966 Jesús Rafael Soto

1

? 2

Kinetic Art หรือจลนศลิ ป์ เป็นศลิ ปะการแสดงให้เหน็ ถงึ ความน่า หลงใหลของการเคลอ่ื นไหวซึ่งครอบคลุมและเกยี่ วขอ้ งกบั ศิลปะสมัยใหม่ (Mod- ern Art) ศิลปะรว่ มสมยั (Contemporary Art) และลัทธศิ ลิ ปะประทบั ใจ (Im- pressionism) ในการนำ�เสนอผลงานศลิ ปะท่ีเคลอ่ื นไหวหรือใหค้ วามรู้สกึ ถึงการ เคลอ่ื นไหว จากโมไบลท์ เ่ี คล่อื นไหวไปตามลมหรอื ประตมิ ากรรมเชิงกล สกู่ าร เปน็ ภาพวาดคล้ายศิลปะลวงตา (Op Art) ที่ดเู หมอื นมันกำ�ลงั หมุนและสน่ั ไหว ไปมาอยู่ตรงหนา้ ยอ้ นกลบั ไปในสมัย ค.ศ.1910 ลัทธศิ ลิ ปะนีม้ ีทม่ี าจาก…ศลิ ปะ การเคล่ือนไหวจึงกลายเป็นศิลปะที่มีชีวิตชีวาหลังจากเหตุการณ์สงครามโลกคร้ัง ที่ 2 โดยเฉพาะนทิ รรศการทกี่ ำ�หนดประเภทกลุ่มศิลปะชดั เจนอย่างนิทรรศการ “Le Mouvement” ซง่ึ จดั ข้ึนทก่ี รงุ ปารีส เมอื่ ปี ค.ศ.1955 แต่หลังจากที่ เจริญรงุ่ เรืองมาไดร้ าวทศวรรษ ความสนใจในด้านนท้ี ่เี คยมีก็เร่มิ เลือนหาย แต่ แนวคิดของมันกไ็ ดถ้ กู ถ่ายทอดสศู่ ลิ ปนิ คนตอ่ ๆ ไปรุ่นส่รู ุ่น และยังคงเป็นแหลง่ ทมี่ าอนั ทรงคุณคา่ ของแนวคิดเชิงสร้างสรรค์ และเทคนคิ มากมายจนถงึ ปัจจุบัน What is Kinetic Art? 3

Key Ideas! 1 เปน็ การสรา้ งสรรคผ์ ลงานจิตรกรรม ประตมิ ากรรมโดยอาศัยการน�ำ เสนอเป็นการเคลือ่ นไหว Kinetic Art เปน็ รปู แบบศลิ ปะแรกที่ใหผ้ ลงานศิลปะ เกยี่ วพันกบั การใช้เวลาและพ้ืนที่ดว้ ย ถือว่าเปน็ การปฏวิ ัติวงการศลิ ปะ ไมเ่ พยี ง แต่เสนออกี มิตใิ หม้ ีผู้ชมมีประสบการณก์ ารรบั ชมผลงานศลิ ปะใหม่ ๆ แตเ่ พราะ มนั แสดงใหเ้ ห็นถงึ ความนา่ หลงใหลในความสัมพันธข์ องระยะเวลาและพืน้ ท่ไี ด้ อย่างมีประสิทธภิ าพ ซ่งึ เป็นวฒั นธรรมทางปัญญาสมัยใหม่จากการค้นพบของ ไอนส์ ไตน์ 2 อาศัยการเคลอ่ื นไหวดว้ ยกลไก เคร่ืองจักร และความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์ ควบคู่ดว้ ย ซ่งึ ส่อื ให้เห็นถงึ ความมีลักษณะเป็นสงั คมสมัยใหม่ ศลิ ปนิ ทไ่ี ด้รับ อทิ ธพิ ลจากศลิ ปะเคา้ โครง (Constructivism) รู้สกึ วา่ การผสานเครอ่ื งจกั รและ ศิลปะเขา้ ด้วยกันสามารถรวมเข้ากบั ชวี ติ ประจำ�วันได้ และมบี ทบาทสำ�คัญใน สงั คมยูโทเปยี ในอนาคต และศลิ ปนิ ท่ีได้รับอทิ ธพิ ลจากลัทธิ Dadaism ซึง่ ใช้ กระบวนการทางกลในเชิงอนาธิปไตย และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั การตกเปน็ ทาสวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รวมถึงการผลติ แบบทนุ นยิ มของมนุษยชาติ 3 ศิลปินหลายคนเปรยี บเครอื่ งจกั รเปน็ เสมอื นร่างกายของมนษุ ย์ ท้ัง สองสงิ่ นี้มเี อกลักษณ์ท่แี ตกต่างกันอย่างส้ินเชงิ เคร่ืองจักรไรซ้ ง่ึ ชีวติ และใชง้ าน ได้ แต่มนษุ ยถ์ ูกควบคุมโดยสญั ชาตญาณและความเขา้ ใจ พวกเขาใช้ศลิ ปะเพ่ือบง่ บอกเปน็ นัยวา่ มนษุ ย์อาจเปน็ มากกว่าเครอื่ งมอื ทไ่ี รเ้ หตผุ ลของตณั หาและความ ตอ้ งการเหมอื นเคร่อื งจักรทีช่ ำ�รุด 4

5

* 6

Start the Engine! เม่ือมุ่งเนน้ ไปทป่ี ระเดน็ น้ี Kinetic Art ในยคุ แรกแสดงออกถึงความกังวลของ พืน้ ฐานศลิ ปะสมัยใหม่โดยท่ัวไป มนี กั วจิ ารณ์หลายคนอ้างวา่ จิตรกรในลัทธิประทบั ใจ ยุคหลงั คนหน่ึง (Post-impressionist) อยา่ ง Seurat ว่าเปน็ ศิลปิน Kinetic Art คน แรก แตจ่ ริง ๆ แลว้ ตวั อย่างแรกของงานศิลปะสมยั ใหม่ ซง่ึ หลอมรวมการเคลือ่ นไหวและ องค์ประกอบท่เี คลอ่ื นย้ายไดอ้ ยา่ งแท้จริงเมอื่ ค.ศ. 1910 และถกู สรา้ งขึน้ โดยศลิ ปินท่ี ทำ�งานในลทั ธิ Dadaist และ Constructivist จึงเปน็ ที่ถกเถียงกันไดว้ ่างานศิลปะ Ki- netic Art ทเี่ ก่าแกท่ ส่ี ดุ คือผลงาน “Bicycle Wheel” ของ Marcel Duchamp (1913) ซง่ึ เขาไม่จ�ำ เปน็ ต้องศึกษาเฉพาะทางในการสรา้ งประติมากรรมท่ีเคลื่อนไหวได้ เขาเพยี งแค่ยดึ ล้อจักรยานไวบ้ นเกา้ อี้ จากการกระท�ำ ดังกลา่ ว เขายนื ยันความคิดทวี่ ่า วตั ถใุ ด ๆ กถ็ อื ได้วา่ เป็นงานศลิ ปะได้ หากผูช้ มพบเหน็ มนั ในพิพธิ ภณั ฑ์ และพบความ หมายใด ๆ ในนัน้ ผลงานนี้ยงั ไดร้ ับการยอมรับวา่ เปน็ งานทีป่ ระสบความส�ำ เรจ็ งานแรก ตอ่ มาในปี ค.ศ. 1920 ศลิ ปิน Constructivist อย่าง Naum Gabo ไดเ้ ริม่ ใชค้ ำ�ว่า “Kinetic art” ในประกาศ และในปีเดียวกนั นนั้ Gabo ได้สร้างผลงาน Ki- netic ของเขาไดส้ ำ�เร็จ เขาไม่ต้องการความช่วยเหลอื ดา้ นเทคนิค เน่ืองจากความรดู้ า้ น วิศวกรรมทลี่ ้นเปย่ี ม “Standing Wave” ถือเปน็ งานศิลปะเกี่ยวกบั การเคลื่อนไหว ช้ินแรกทีแ่ สดงออกถงึ การเคล่ือนไหว มลี กั ษณะเปน็ แท่งโลหะที่ต้งั อยา่ งอสิ ระ และ ถูกต้ังค่าด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกันกลายเป็นรูปคลื่นที่ละเอียดอ่อนในอากาศ อีกสบิ ปตี ่อมา ศิลปิน Bauhaus อยา่ ง László Moholy-Nagy ได้ใช้ค�ำ ว่า “Kinetic art” อกี ครงั้ เพื่ออธิบายการเคล่ือนท่แี บบกลไกของ “Light-Space Mod- ulator” 1930) ซึง่ ท้ังหมดท่กี ลา่ วมา ปัจจุบนั คอื ศลิ ปะทเ่ี รยี กว่า “Kinetic Art” 7

Bicycle Wheel Standing Wave Bicycle Wheel by Marcel Duchamp,1910 by Naum Gabo, 1920 by Marcel Duchamp, 1930 Kinetic Art establishes as a major artistic movement 8 นทิ รรศการสำ�คญั ของปารีสในปี ค.ศ. 1955 อย่าง “Le Mouvement” มีใหเ้ ห็นวา่ เป็น ตวั กระตุ้นใหศ้ ลิ ปะการเคล่ือนไหวเกิดขน้ึ จริง ๆ และ สามารถดงึ ดูดผชู้ มจากนานาประเทศได้ นิทรรศการ นม้ี ผี มู้ าใหม่เช่น Tinguely เช่นเดยี วกับ Yaacov Agam, Pol Bury, Jesus Soto และ Victor Vasarely ตามมาดว้ ย นิทรรศการ “Movement in Art” ท่ีได้รับความนิยมอย่างมากซ่ึงเป็นการพูด ถึง Kinetic Art ครัง้ ใหญ่ในปคี .ศ. 2504 นอกจาก น้ียังประสบความสำ�เร็จอย่างมากที่ Biennale’s of Venice, Sao Paulo และ Paris อกี ด้วย

9

10

Alexan 11

nder Calder 1898-1976 “Why must art be static?” Alexander Calder (อเลก็ ซานเดอร์ คาลเดอร)์ ศลิ ปนิ ชาวอเมรกิ นั ผสู้ ร้าง นิยามใหม่ของงานประติมากรรมโดยการนำ�เสนอองคป์ ระกอบของการเคลือ่ นไหว โดย เร่ิมจากผลงานจักรกลแรกทีม่ ีชือ่ วา่ “Calder’s Circus” และตามมาดว้ ยผลงานท่ใี ช้ เครื่องยนต์มากมาย จนท้ายที่สดุ ก็กลายมาเปน็ งานแขวนทเ่ี รียกวา่ “โมไบล์” (Mobile) ศลิ ปินหลายคนวาดเสน้ เปน็ รูปทรงบนกระดาษ แต่คาลเดอรเ์ ปน็ คนแรก ท่ีเลือก ใชเ้ ส้นลวดเพอ่ื สร้าง “ภาพวาด” เส้นสามมิติเป็นคน สัตว์ และสงิ่ ของตา่ ง ๆ คาลเดอร์ได้เปลี่ยนจากผลงานประติมากรรมเชิงเส้นเป็นรูปร่างแบบ นามธรรมที่มกี ารเคล่อื นไหวโดยการสร้างโมไบล์ ซ่ึงประกอบดว้ ยเส้นลวดทถ่ี ว่ ง ดุลกับแผน่ โลหะบาง ๆ ลักษณะของชิน้ ส่วนทั้งหมดจะถูกจดั เรยี งแบบสุ่ม ใหอ้ ยู่ ในพ้ืนที่ท่ีเหมาะสมเพื่อใช้เพียงแค่อากาศในการเคลื่อนไหวแต่ละช้ินส่วนเท่านั้น ในชว่ งการประกอบอาชีพอนั ยาวนานของเขา ความปรารถนาอนั แรงกลา้ ของงานประตมิ ากรรมเคล่ือนท่ีเหล่าน้ี ไดร้ ับการเสริมเติมแตง่ อย่าง น่าทง่ึ สกู่ ารเปน็ โครงสรา้ งขนาดใหญท่ เ่ี ข้าด้วยกนั ของความงามที่ดไู ร้น้�ำ หนกั ในขณะทีแ่ ขวนโมไบลไ์ ว้เหนอื เปลของลูกนอ้ ยของคุณ กจ็ ง ระลกึ ถงึ และรสู้ กึ ขอบคณุ Alexander Calder ส�ำ หรับสิง่ ประดษิ ฐ์นี้ 12

Interetsing Artworks 1 Calder’s Circus, 1962-1931 ในงานชิ้นน้ีคาลเดอร์ได้ทดลอง จดั คอลเลคชนั หุ่นจิว๋ ของนักกายกรรม ฝูง สัตว์ และหุ่นอ่นื ๆ จำ � น ว น ม า ก โ ด ย ใช้ สปริงและรอก โรงละครสัตวข์ องคาลเดอร์ แสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดที่แฝงอยู่ ในผลงานของเขา มีภาพยนตรถ์ ึงสามเร่ือง ท่ีถูกสร้างขึ้นจากผลงานชิ้นน้ีของคาลเด อร์ แตค่ วามสำ�คญั ของผลงานคือ โรงละคร สัตว์ของคาลเดอร์เป็นผลงานสมัยใหม่ที่ เก่าแก่ท่ีสุดช้ินหนึ่งท่ีศิลปินมีส่วนร่วมเท่า ๆ กนั ทง้ั ในฐานะ “ผูส้ ร้าง” และนกั แสดง 2 Universe, 1934 ในปคี .ศ. 1930 ความปรารถนาของ คาลเดอรท์ จ่ี ะสรา้ งภาพวาดนามธรรมท่ีเคล่ือนที่ ผ่านพืน้ ที่ว่าง นำ�ไปส่กู ารเกิดผลงานที่ใช้เครอ่ื งยนต์ เช่น “Universe” ซง่ึ รปู ทรงกลมทั้งสองจะเคลือ่ นที่ ด้วยอัตราทีแ่ ตกต่างกนั ในรอบ 40 นาที ดว้ ยความ ที่สนใจเรื่องดาราศาสตร์เป็นทุนเดิม คาลเดอรไ์ ด้ เปรยี บเทียบชน้ิ สว่ นทีเ่ คลือ่ นไหววา่ คล้ายคลึงกับ ระบบสุรยิ ะ ผลงานนี้ถอื เปน็ ก้าวส�ำ คญั ส�ำ หรับ โมไบลท์ ี่ไม่ใชเ้ ครอ่ื งยนต์ 13

3 Arc of Petals, 1941 นบั ตง้ั แต่ปีค.ศ 1930 เป็นตน้ มา คาลเดอร์ไดส้ รา้ งโมไบล์หลายรูปแบบ ทง้ั แบบแขวน ต้งั พืน้ และตดิ ผนังโดยไม่ใช้กลไกท้ังหมด ซง่ึ การเคลื่อนไหวจะถกู ขับ เคลอ่ื นโดยกระแสอากาศ ผลงานแรก ๆ มักใชเ้ ศษแกว้ หรือเครอื่ งปั้นดินเผา ในขณะ ท่รี นุ่ ตอ่ มาประกอบด้วยแผ่นโลหะทรงแบน ถูกแตง่ แต้มด้วยสแี ดง เหลอื ง น�้ำ เงนิ ดำ� หรอื ขาวเช่นงานน้ี คาลเดอร์ประสบความส�ำ เร็จในการผสมผสานการเคลือ่ นไหว ตามธรรมชาติเข้ากับประติมากรรมโดยการประกอบองค์ประกอบที่สมดุลด้วยน้ำ� หนัก พน้ื ผิว และความยาวของเสน้ ลวดทเ่ี ปรยี บเสมอื น “แขน” ของผลงานเขา้ ดว้ ย กัน ความสมดุลทเี่ ขาสรา้ งข้นึ นั้นรองรับความเปน็ หน่งึ เดียวขององค์ประกอบแต่ละ ช้นิ ทีม่ าประกอบกนั ไมว่ า่ จะอยูใ่ นตำ�แหนง่ ไหนกต็ าม ถึงแมว้ ่าศลิ ปนิ คนอน่ื ๆ หลาย คนได้สร้างสรรคผ์ ลงานตามหลกั การของเขา กระท่งั ในตอนนี้ หรือในอกี หลาย ทศวรรษ คาลเดอร์ก็ยังคงเปน็ ผเู้ ชย่ี วชาญในรปู แบบประติมากรรมนไี้ มเ่ ปล่ยี นแปลง 14

Mobiles Form Against Yellow (Yellow Panel), 1936 Untitled, 1934 Southern Cross, 1963 15

Sculptures The Four Elements, 1961 Five Swords, 1976 Crinkly avec disque Eagle, 1971 rouge, 1973 16

Jesús Rafael Soto 1923-2005 Jesús Rafael Soto เปน็ ทง้ั ศลิ ปิน จติ รกร และประตมิ ากรชาวเวเนซุเอลา ผลงาน ประติมากรรมของเขาเปน็ ทีร่ จู้ ักกนั ดี ซึง่ เขาสรา้ งขนึ้ ในช่วงกลางศตวรรษที่ 20 เปน็ ชว่ งที่ศิลปิน หลายคนให้ความส�ำ คญั กับการเคล่อื นไหวและภาพลวงตา สง่ิ ทท่ี �ำ ใหโ้ ซโตแตกตา่ งจากศิลปนิ Kinetic Art คนอื่น ๆ ในยคุ นี้ คอื เขาตอ้ งการใหง้ าน ศลิ ปะของเขาแสดงออกถงึ ความแตกตา่ งโดยสน้ิ เชงิ เขาไดผ้ กู มติ รกบั ศลิ ปนิ ที่มีชื่อเสยี งระดับโลกซง่ึ ทำ�ใหเ้ ขาประสบความส�ำ เรจ็ ยงิ่ ใหญไ่ ด้อยา่ งง่ายดาย ในขณะท่ีเพื่อนศิลปนิ สว่ นใหญใ่ ช้เครื่องจกั รใน การผลติ ผลงาน แต่อยา่ งไรกต็ ามโซโตต้องการท่จี ะสรา้ งการเคลอ่ื นไหวโดยไมต่ อ้ งใช้เครอื่ งจักร เพราะเขา ไม่ต้องการมุง่ เนน้ ไปท่ีภาพลวงตาทัง้ หมดเหมอื นเพอ่ื นรว่ มงานของเขา 17

Interetsing Artworks 1 Penetrables โดยทั่วไปแลว้ ผลงานที่ทำ�โดยชา่ งป้ัน Kinetic Art จะไมท่ นทานนกั ซ่ึงไมค่ วรเป็น เชน่ นั้นเสมอไป เพราะยากตอ่ การนำ�ไปจดั งานนิทรรศการ ในปัจจบุ ันผู้อ�ำ นวยการพิพธิ ภัณฑ์ ตอ้ งเลือกว่าจะเก็บรกั ษาผลงานเหล่านไ้ี ว้ หรอื ทำ�ตามแนวคิดท่ผี ู้เขยี นไดเ้ ขียนไว้ Jesús Ra- fael Soto จงึ ไดอ้ อกแบบ Penetrables ใหเ้ ป็นชิ้นงานที่ผชู้ มสามารถเขา้ ไปข้างในได้จริง เขาแขวนเชือกหลายพันเส้นจากเพดานหรือโครงสรา้ งพวี ีซีและเหลก็ ในงาน Pene- trables ท่ีอนญุ าตให้ผชู้ มของเขาเขา้ มาเดินดืม่ ดำ�่ สูห่ ว้ งลึกของตัวงาน เพอื่ การเขา้ ใจผลงาน อย่างถ่องแท้ ผชู้ มจ�ำ เป็นจะต้องสมั ผสั จากมมุ มองต่าง ๆ มากมายภายในนั้น ดงั นั้น ผู้ชมจงึ กลาย เป็นส่วนส�ำ คัญของงานศลิ ปะนโ้ี ดยการสมั ผัส เคลือ่ นท่ไี ปมา หรือเพยี งแค่เดินผ่านมนั เทา่ น้ัน 18

Penetrables The Houston Pénétrable,2004 Pénétrable BBL bleu, 1999 19

Cube de Paris, 1990 Double progression Soto Sphere, 1997 blue and black, 1975 20

vv Jean Tinguely 1923-2005 The “Godfather” of Kinetic Art arrives ไมต่ ้องสงสัยเลยว่าหน่งึ ในผ้ทู ี่มชี ือ่ เสียงท่ีสดุ ในวงการศลิ ปะการเคลอื่ นไหว คอื Jean Tinguely จติ รกรและประติมากรชาวสวสิ เซอร์แลนด์ เขาสร้างงานศลิ ปะเกี่ยวกับการเคลือ่ นไหว ช้นิ แรกเม่อื อายุเพยี ง 12 ปี และมีชือ่ เสียงในการใช้สง่ิ ของที่เกบ็ รวบรวมจากขยะมาท�ำ เป็นผลงาน ประตมิ ากรรม เปน็ ท่ีร้กู ันดีว่าผลงานของเขาน้ันแปลกประหลาดและเอาแนเ่ อานอนไมไ่ ด้ บางชิ้น ออกแบบมาเพอ่ื ทำ�ลายตัวเองด้วยซ้�ำ แต่ Tinguely กลับรู้สึกท่งึ กบั การเคล่ือนไหวน้นั เขาจึงชอบ ทจ่ี ะประกอบมอเตอร์เขา้ กับสง่ิ ของต่าง ๆ เพ่ือทำ�ให้วัตถหุ มนุ และอาจถงึ ขน้ั ถกู ทำ�ลายและพงั ลงใน ทส่ี ุด 21

Interetsing Artworks 1 Metametic No.17, 1959 ผลงานชิน้ น้ีเปน็ ตวั อยา่ งทีย่ อดเยี่ยมของ Ki- netic Art และผลักดันใหเ้ ขาสนใจในการมสี ว่ นร่วมกับผู้ ชมมากย่ิงขึน้ เลยกว็ า่ ได้ ผู้ชมจะได้รับเชิญให้เลอื กเครื่อง มือวาดภาพ (ถา่ นหรือดนิ สอ) และวางไวใ้ นท่ียึดพิเศษ สามารถมองเห็นกระดาษเรียงซ้อนกันอยู่ด้านข้างซ่ึง แขวนอยู่เหนอื ผลงาน เมื่อล้อเรมิ่ หมุนจะส่งผลใหเ้ คร่ือง มือวาดภาพที่ผู้ชมเลือกเคล่ือนไหวและขีดเขียนไปตาม แผน่ กระดาษ จนผลลัพธ์ทีไ่ ด้กลายเปน็ งานศิลปะด้วย ตัวมันเอง งานศิลปะท่สี ร้างข้นึ มลี ักษณะทค่ี าดไมถ่ ึง แตกต่างกันทุกรอบที่เคล่ือนไหวด้วยกลไกท่ีอสมมาตร 2 Homage to New York, 1960 Tinguely ได้รบั แรงบันดาลใจจาก Dada และใชผ้ ลงานของเขาในการแสดงทศั นคติ แบบอนาธิปไตยและเสียดสีต่อเครื่องจักรและการ เคลอ่ื นไหว ยกตวั อยา่ งเชน่ “Homage to New York” ในปี 1960 ของเขาจบลงด้วยการทำ�ลายตัว เอง ด้วยการแสดงแสงสีเสียงทีร่ ุนแรงแสดงให้เห็นถึง ความรู้สึกกังขาต่อคุณค่าของเทคโนโลยีในชีวิตสมัยใหม่ 22

Penetrables Huereka, 1964 Meta-mechanical sculpture untitled, 1954 23

Gismo, 1960 La Tour (Berner Zytglogge), 1960 24

** More Interesting Artworks * Light-Space Modulator The Little Painting by László Moholy-Nagy School Performs , 1930 a Waterfall by Rebecca Horn, 1988 Kinetic Sculptures by David C. Roy 25

Vladimir Tatlin, Monument to The Third International, 1019-1920 Christian Moeller, MetroGnome, 2015 Twister Star Huge by Lyman Whitaker 26

27

28

* Conclusion** “Kinetic art” มีที่มาจากภาษากรกี คำ�ว่า “kinesis” หมายถงึ “การเคลือ่ นไหว” ดงั นั้นศลิ ปะการเคลือ่ นไหวจงึ หมายถงึ รูปแบบของศิลปะท่ีมี การเคลื่อนไหว โดยทั่วไปแล้ว Kinetic art มักเป็นงานประติมากรรมสามมิตทิ ่ี เคล่ือนไหวตามธรรมชาติหรอื ใช้เครอื่ งจกั ร “Kinetic art” เริ่มเป็นกระแสในศตวรรษท่ี 20 ซง่ึ เปน็ ครั้งแรกที่ผชู้ มรบั รู้ถึงการเคล่อื นไหวและเปลยี่ นแปลงของศิลปะ ในสมัยก่อน การเคล่อื นไหวในภาพ วาดหรอื ประติมากรรม เปน็ เพียงเอฟเฟกต์หรือภาพลวงตาทีท่ ำ�ไดโ้ ดยเทคนคิ ทาง ศิลปะ แต่ตอนนี้การเคลือ่ นไหวได้กลายเปน็ จรงิ ไม่มภี าพลวงตา มีเพียงแคม่ อเตอร์ คันโยก หรือเฟอื งทแี่ กวง่ ไกวไปมา 29

30

31

Kinetic Art. [ม.ป.ป.] [ออนไลน]์ . ไดจ้ าก: https://www.theartstory.org/movement/kinet- ic-art/#nav [สบื ค้นเมอ่ื วนั ท่ี 8 กุมภาพนั ธ์ 2564 ]. The Most Important Traits of Kinetic Art. [2016] [ออนไลน]์ . ไดจ้ าก: https://www.ideelart. com/magazine/kinetic-art [สืบคน้ เมื่อ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ]. Top 10 Kinetic Art Artists and Pioneers. [ม.ป.ป.] [ออนไลน]์ . ไดจ้ าก: https://magazine.artland. com/top-ten-kinetic-art-artists-and-pioneers/ [สืบคน้ เมือ่ วนั ที่ 8 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ]. The History of Kinetic Art. . [ม.ป.ป.] [ออนไลน์]. ไดจ้ าก: https://themadmuseum.co.uk/histo- ry-of-kinetic-art/ [สบื คน้ เมื่อ วนั ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ]. A Brief History of Kinetic Artwork. [2020] [ออนไลน]์ . ไดจ้ าก: https://kinetrika.com/blogs/ news/history-of-kinetic-art [สืบคน้ เมื่อ วันที่ 8 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ]. Kinetic art Everything is spinning. [2021] [ออนไลน]์ . ได้จาก: https://arthive.com/encyclope- dia/4237~Kinetic_art [สืบค้นเมื่อ วันท่ี 8 กมุ ภาพันธ์ 2564 ]. What are Jesús Rafael Soto’s Pénétrables. [2021] [ออนไลน]์ . ไดจ้ าก: https://publicdelivery. org/jesus-rafael-soto-penetrables/ [สืบคน้ เม่ือ วันที่ 8 กมุ ภาพนั ธ์ 2564 ]. 32

33

“Just as one can compose colors, or forms, so one can compose motions.” – Alexander Calder


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook