Pictorialism

PICTORIALISM (1885-1915)

The Flatiron Edward J. Steichen 1904

INTRO DUCTION การถา่ ยภาพเปน็ การบนั ทึกเหตุการณ์ใดเหตกุ ารณหื นงึ่ ณเวาลาใดเวลาใดเวลาหน่ึง ใน ปัจจุบนั เราอาจจะนบั ว่าการถ่ายภาพเปน้ ศลิ ปะแขนงหนึง่ แต่ในอดีตไม่ได้เป้นแบบน้ัน การถา่ ย ภาพในอดีตยุ่งยากและลำ�บากมากเพราะต้องใช้ สารเคมหี ลายตวั และจ�ำ เปน้ ต้องอย่ใู นหอ้ งมืด เปน้ เวลานาน ท้งั หมดนน้ั ท�ำ ให้ในอดีตการถา่ ยภาพถูกจดั ว่าเป็นการสร้างภาพทาง วิทยาศาสตร์ ไมใ่ ช่ศลิ ปะ จนเมื่อ William John Newton ออกมาแสดงความคดิ เหน็ ว่าการถา่ ยภาพกส็ ามารถ เป็นศลิ ปะได้เช่นกัน จดุ นน้ั เองทำ�ให้เกดิ การเปล่ียนแปลงคร้งั ใหญ่ในวงการการถ่ายภาพ 3

Speed , 1904 Robert Demachy

CONTENT 1WHAT IS PICTORIALISM PAGE 4HISTORYOF PICTORIALISMPAGE 8PAGE STYLE

9 PAGE TECNIQUES 15ARTIST PAGE PAGE 33BIBLIO GRAPHY

WHAT? IS PICTORIALISM หลงั จากการถา่ ยภาพถูกคิดค้นในชว่ งปลายปี 1830 และถกู พจิ ารณาว่าเปน็ วธิ ีการสร้างภาพทางวิทยาศาสตร์ จนในปี 1850 เรมิ่ มกี ารออกมาแสดงความคดิ เหน็ ว่า ว่าการ ถ่ายภาพสามรถเป็นศลิ ปะได้ จนท�ำ ใหเ้ กดิ ขบวนการทางศิลปะโดยใชก้ ารถ่ายภาพ ที่ ชื่อ PICTORIALISM ทขี่ น้ึ ราวๆป1ี 885 ถึงปี 1915 ซ่ึงในชว่ งนัน้ ไดจ้ ัดใหก้ ารถา่ ยภาพเปน็ วิธีการทางวทิ ยาศาสตร์ในการบนั ทกึ ภาพ จนกระท้งั มีกลุ่มคนจ�ำ นวน หนึ่งออกมาใหก้ าร ถ่ายรูปเป็นศิลปะแขนงหนงึ่ ท�ำ ให้เกิดขบวนการทีน่ �ำ ภาพถ่ายมาทำ�เป็น Fine Art โดยเพมิ่ เตมิ เทคนคิ painterly เชน่ sofe focus ทที่ ำ�ใหภ้ าพดูฟุง่ ไมค่ มชัด หรือ gum bichro- mateหรือเทคนคิ การพิมพ์ ทีท่ �ำ ใหภ้ าพมี Grain และสเี พ่ิมเตมิ นอกจากด�ำ หรือขาว เพือ่ ให้ ภาพดูเหนอื จรงิ เหมือนงานศิลปะใหม้ ากท่สี ุด





HISTORY OF PICTORIALISM David Octavius Hill จิตรกรทปี่ ระสบความสำ�เรจ็ ในารวาดภาพ landscape แนวโรแมนติกได้เรมิ่ ถา่ ยภาพบุคคลในเมอื ง Newhaven กบั Robert Adamson ในช่วงปี 1843 ถึง 1847 ซง่ึ มรี ปู ถ่ายอยกู่ วา่ 1500 ภาพ ภาพเหล่านนั้ ถูกนำ�ไปเปรียบเทียบกับ ภาพ วาดของ Rembrandt และต่อมา Alfred Stieglitz ชา่ งภาพ Pictorial ทมี่ ชี ่อื เสยี งใน เวลาตอ่ มา กย็ กให้ David Octavius Hill เป็นบดิ าแห่ง Pictorial ต่อมาในปี 1864 Julia Margaret Cameron ไดเ้ รม่ิ การถ่ายภาพ โดยใช้ soft focus และการ crop ซึ่งเปน็ เทคนคิ ของ Pictorial ท�ำ ใหภ้ าพของเธอถกู วจิ าร์ณวา่ “เลอะเทอะ” แต่ในเวลาถดั มาของเธอถูกยกยอ่ งใหเ้ ปน็ หนง่ึ ในผบู้ กุ เบกิ Pictorial ในปี 1968 Henry Peach Robinson ช่างภาพชาวองั กฤษ ไดต้ ีพมิ พ์หนังสอื ท่ี ชื่อว่า Pictorial Effect in Photography Being Hints On Composition And Chiar- oscuro For Photographers ซ่ึงในหนังสือแนะนำ�เทคนิคตา่ งๆในการสร้างภาพแบบ Pictorial ซงึ่ หนงั สือเล่มนม้ี อี ิทธิพลมากกับช่างภาพหลายๆคน จนท�ำ ใหเ้ กดิ เป็น PICTORI- ALISM ในท่สี ุด ในปี 1891 มกี ารจดั นทิ รรศการณ์ทชี่ อื่ International Exhibition of Art Photographers ซึ่งหนงึ่ ในช่างภาพที่ถูกคดั เลือกให้นำ�ภาพมาแสดงคือ Alfred Stieglitz ซ่ึงภาพท่ีเขานำ�มาแสดงกเ็ ปน็ การถา่ ยภาพแนว Pictorial นนั้ ทำ�ใหน้ ทิ รรศการณ์มอี ทิ ธพิ ล มากกับช่างภาพหลายคน 4

The Linked Ring 1892 เป็นสมาคมถ่ายภาพก่อตงั้ โดย Henry Peach Robinson ชา่ งภาพคนอน่ื ๆ ทัง้ George Davison, Alfred Maskell และ Lyddel Sawyer ซ่ึงท้งั หมดแยกตวั ออกมา จาก สมาคม Photographic Society of Great Britain เพราะ สมาคมปฎเิ สธภาพของGeorge Davison ทงั้ หมดจงึ แยกตัวออกมาแลว้ ต้ังสมาคมใหม่ ซ่ึงมีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ พัฒนาการถา่ ยภาพ ใหเ้ ป็นศลิ ปะ ซงึ่ แตกต่างจากมมุ มองท่วั ไปในสมยั น้นั ทีม่ องว่าภาพถ่ายเปน็ กระบวนการทาง วทิ ยาศาสตร์ในการบนั ทึกความจรงิ ซง่ึ สมาคมน้ีไดพ้ ัฒนาเทคนิคในการถ่ายภาพมากมาย ทง้ั ภาพ แบบ composite เทคนิค carbon prints ซ่ทึ ำ�ให้ภาพถ่ายดเู พอ้ ฝนั เป็นศลิ ปะมากท่สี ุด



Midnight Lake George Edward J. Steichen 1904 7

AFTER PICTORIALISM Pictorialism ไดร้ ับความนิยมนอ้ ยลงในช่วงปี 1915 ศิลปนิ บางสว่ นเชน่ Alfred Stilitz หนั ไปถา่ ยรูปแนวอน่ื ๆ ทไี่ ม่ตอ้ งบิดเบือนภาพเหมือน Pictorialism มกี ารโฟกสั ภาพท่ีคมชัด และ มีคา่ คอนทราสสูง แต่ถงึ อย่างนัน้ ก็มชี ่างภาพบางคนใ้ชงานเทคนิค Pictorialism ตลอดชีวิต เชน่ Clarence H. White , Gertrude Käsebier ตอ่ มาในปี 1960 เกดิ ความสนใจในเรอ่ื งการถา่ ยภาพในแบบต่างๆเปน็ วงกวา้ ง จนในปี 1965 Jerry Uelsmann ไดส้ รา้ งภาพคอมโฟสติ ที่มกี ารดดั แปลงาพในห้องมืด ซึง่ ภาพเหลา่ นนั้ ถูก เรียกวา่ Post-Pictorialism และเปน็ แนวคิดสำ�คญั ของการสร้างงานของ Gregory Crewdson และ Philip-Lorca DeGorcia 8

STYLES การถา่ ยแนว Pictorialism ในสมยั ก่อนไดต้ น้ แบบและอิทธิพลมาจากลัทธศิ ลิ ปะโดย เฉพาะTonalist และ Impressionist ซึง่ เนน้ เก่ียวกับเรื่องของแสงและสี แต่ในรปู ถา่ ยจะใช้ เทคนิคต่างๆเพ่ือให้รเู หมือนงานของ Tonalist และ Impressionist 8

TECHNIQUES Bromoil Process เป็นกระบวนการที่ทำ�ใหเ้ กดิ พืน้ ผวิ ในภาพถา่ ยและทำ�ใหพ้ ้ืนผวิ มี ความแขง็ และช่วยให้หมึกตดิ ทนดขี นึ้ ซึง่ เกดิ จากการแทนทีข่ องสีโดยการใชห้ มึกซึง่ ต้องใช้แปรง คอ่ ยแต้มหมกึ ลงไปจากแปรง Carbon Print เปน็ กระบวนท่นี ำ�เยื่อคาร์บอนไปไปคลมุ ไวบ้ นภาพจากนั้นนำ�ไป ฉาย ดว้ ยอัตราไวโอเลต จะท�ำ ให้ได้ที่มคี วามละเอียดสูงมากๆ และทนทานถาวรไม่จางหายไป Cyanotype เปน็ การนำ� โพแทสเซียมเฟอรร์ ไิ ซยาไนด์ และ เฟอริกแอมโมเนียมซเิ ตรต คลุมไว้บนกระดาษ และน�ำ ไปรบั แสง จะทำ�ให้ภาพทผี่ ่านกระบวนการนมี้ ีสีฟ้า Oil Print Process เป็นกระบวนการทีใ่ ช้สารละลาย bichromate และเจลลาตนิ จาก นนั้ น�ำ ไปรับแสง จากน้ันจงึ ใชแ้ ปรงชบุ หมึกคอ่ ยๆแปรงลงไป ผลทีไ่ ด้จะใกลเ้ คยี งกับวิธี Bromoil Platinum print เปน็ กระบวนการท่นี �ำ แพลตินมั ทาลงไปบนกระดาษโดยใช้แปรง จาก นนั้ นำ�กระดาษไปรบั แสง ทำ�ให้ภาพมสี เี หลอื งในสว่ นของ Highlight และทำ�ให้ภาพมี Tonal- Range ทส่ี ูง นอกจากน้นั เนื่ีองจาก Platinum เป็นโลหะท�ำ ใหภ้ าพทนทานถาวรไมจ่ างหาย



COLLODION PROCESS กระบวนการนี้ถูกคดิ คน้ โดย Frederick Scott Archer และ Gustave Le Gray ในป1ี 851เป็นกระบวณการถ่ายภาพในอดตี โดยใช้ collodion หรอื สารละลายซลิ เวอรไ์ นเตรต โดยนำ�ไปผสมกับ โบรไมด์ กรดไนตรกิ และแอลกอฮอล์ และในขณะที่สารละลายเปยี กน�ำ ไป เคลือบผวิ แก้ว แล้วนำ�ไปสมั พสั กับแสงผ่านกล้องถ่ายรปู จากนั้นจงึ น�ำ ไปล้างจงึ จะไดเ้ ปน็ ภาพถา่ ย ออกมาทุกขน้ั ตอน ซึง่ ต้องไมใ่ หแ้ ผน่ แกว้ สมั พัสกับแสงเลยจึงตอ้ งทำ�งานในห้องมืดเปน็ เวลานาน น้ันท�ำ ให้ตอ้ งมีห้องมอื อย่ใู กล้ๆกบั สถานที่ที่จะถา่ ยรปู และเนือ่ งจากทกุ ขน้ั ตอนของกระบวณการ น้ตี ้องท�ำ ในขณะทส่ี ารละลายซลิ เวอรไ์ นเตรต เปียกอยู่จงึ ถกู เรยี กว่า WET PLATE 10

GELATIN PROCESS เป็นกระบวณการถา่ ยภาพทถ่ี ูกคดิ ค้นโดย Dr. Richard L. Maddox ในปี 1871 ซึง่ เปน็ การเคลอื บแกว้ ดว้ ยเจลลาตนิ ซงึ่ น้ันทำ�ให้ไมจ�ำ เปน็ ต้องถา่ ยและล้างรูปในขณะที่เปยี ก ทำ�ให้ เราสามารถเกบ็ Plate ไวไ้ ดน้ านกอ่ นจะถ่ายและไม่จ�ำ เปน้ ตอ้ ง้่างรูปทันทหี ลงั ถ่ายเสร็จ แตห่ ลงั จากน้นั ไมน่ านก็ถูกแทนท่ีด้วยกล้องฟลิ ม์ 11

DAY Fred Holland (1864-1933) 12



GUM BICROMATE เปน็ เทคนิคในการเพ่มิ สแี ละพนื้ ผิวให้ภาพถ่ายทำ�ใหภ้ าพดเู หมือนภาพวาด เทคนคิ นี้ถกู คิดคน้ โดย Robert Demachy ท�ำ ได้โดยน�ำ เม็ดสี , gum Arabic , potassium bichromate ผสมกันแล้วนำ�ไปทาลงไปบนกระดาษ จากนัน้ จงึ น�ำ กระดาษไปรับแสงโดยใช้รปู ภาพบังไวด้ า้ น บน จะทำ�ให้เกิดรูปบนกระดาษ แต่จะมสี จี ากเม็ดสีและพน้ื ผวิ เพิม่ ขึน้ มา เทคนิคน้ีมีอิทธพิ ลมาก กบั การถา่ ยภาพแบบ Pictorialism ถึงขนาดท ี่ Alfred Stieglitz ยกยอ่ ง Robert Demachy ว่า เป็นบิดาแหง่ gum-printing 14

PICTORIALISM

ARTIST

Alfred Stieglitz Alfred Stieglitz เกิดในเมอื งHobokenรฐั นวิ เจอร์ซีย์ในป1ี 864 เปน็ ลกู ชายคนแรกของผ้อู พยพชาวยวิ ชาวยวิ Edward Stieglitz เขาซ้อื กลอ้ งตวั แรก ของเขาในปี 1882 และถา่ ยภาพทิวทัศน์ของชนบทเยอรมนั ในปี 1882 เขาเขา้ ศกึ ษาวศิ วกรรมเครือ่ งกลและ ลงทะเบียนเรียนวิชาเคมี เพ่ือมาพฒั นาการภาพถา่ ย ในปี 1890 เขาย้ายไปอเมริกาและเข้าร่วมกบั Pictorialist และได้เปน็ บรรณาธิการ ของThe American Amateur Photographer ในชว่ งนัเ้ ขายังได้รับรางวลั จาก American photography รวมถึงเข้าร่วมกบั สมาคม Boston Camera Club และเปิดตวั นติ ยสาร Camera Work ซึ่งแนะนำ�เกีย่ วกับเทคนิคในการสรา้ งสรรค์ ภาพเพอ่ื ให้ภาพมีความเปน็ ศลิ ปะ ในปี 1950 เขาได้กอ่ ต้ังแกลอร่ีของเขาทชี่ อ่ื วา่ Little Galleries of the Secession ในเวลาตอ่ มาแกลลอรเ่ี ปน็ ทรี่ ู้จัก และเป็น ศนู ยก์ ลางท่นี �ำ เอางานศลิ ปะมาจดั แสดงและในเวลาตอ่ มาเขาก้ได้หันไปถา่ ยภาพ แนว Modernism และ New Vision เรยี กได้ว่า Alfred Stieglitz เปน็ ผนู้ ำ�ของกล่มุ Pictorialist ในอเมริกา นผล้ันงเขานายขงัอถงูกเขยากเยป่อ็นงตววั ่ากเป�ำ ห้นนผูว้ด่าโคงรรางกกฐาารนขอของกงกลุม่ล้งPดiิจcิตt1oอr7ลiaใlนisปtัจเจลุบยกนั ว็อ่ากี ไดดว้้ นยอกจาก 17

“ In photography there is “ a reality so subtle that it becomes more r eal than reality

ROWK OldandNewNewYork(1910)

The Hand of Man (1902) 20

Georgia O’Keeffe, Hands (1918)

A Snapshot: Paris (1911)



Julia Margaret Cameron Julia Margaret Cameron เกิดเมือ่ ปี 1815 ในเมืองกัลกตั ตาประเทศอนิ เดยี เธอ เกดิ มาในครอบครัวทร่ี ่ำ�รวยจึงไดร้ ับการศกึ ษาสว่ นใหญใ่ นประเทศฝรั่งเศส เธอเรมิ่ ถ่ายภาพ ในชว่ งปี 1864 หลงั จากได้กลอ้ งตัวแรกจากลูกสาวของเธอ เธอเปล่ียนเล่าไกใ่ หเ้ ปน็ สตูดิโอ เปล่ียนโรงถา่ นให้เปน็ หอ้ งมืด งานที่ถ่ายเปน็ รปุ บคุ คลที่ใชเ้ ทคนิค Sofe Focus งานของเธอ ในชว่ งแรกถูกวจิ ารณ์วา่ “เลอะเทอะ” แต่ในชว่ งหลังได้รับการยกยอ่ งอย่างมากจากพวก Pic- torialist งานของเธอถูกจัดแสดงไปทัว่ ทงั้ ปารีส เยอรมนั ลอนดอน เนเธอร์แลนด์ เธอ ยงั ไดร้ บั รางวัลมากมายเพราะภาพของมีเอกลักษณ์ในการใช้ Sofe Focus ภาพภา่ ยของ Julia Margaret Cameron นั้นเรยี กได้วา่ เปน็ จุดเร่ิมตน้ ของกลุ่ม Pictorialism ภาพของเธอยงั ใหแ้ รงบดั าลใจกบั หลายๆคน ซง่ึ รวมไปถงึ กลุม่ ถ่ายภาพแนว Surrealist อีกดว้ ย 24

King Arthur (1874) I WAINT (1872)

WORK The Young Endymion (1873) 26

Paul and Virginia (1864) 27

28 Angel of the Nativity (1872) Suspense(1864)



Henry Peach Robinson เขาเกดิ ในวนั ที่ 9 กรกฎาคม 1830 ทเี่ มือง Ludlow เม่อื อายุได้ 19 ปีเเขาไดร้ ุจ้ กั บั การถา่ ยภาพ นอกจากนั้นเขายงั ไดร้ จุ้ กั กับ กระบวนการต่างๆทง้ั calotype และวธิ ีการใชส้ าร collodion เขามีอาชีพเปน็ ศิลปินแต่กท็ ำ�งานขายหนงั สอื ไปดว้ ย ในปี 1852 เขาเร่มิ สนใจในการ ถา่ ยภาพ และไดเ้ ริ่มเปิดสตูดิโอในปี 1855 มชี ือ่ วา่ Leamington Spa และเลกิ ขายหนังสือในปี 1857 เพือ่ มาจริงจงั กบั การถ่ายภาพ เขาเผยแพร่หนงั สือที่ช่อื Pictorial Effect in Photography เปน็ หนังสอื ทีบ่ อกเรื่องราวกระบวนการต่างๆในการสรา้ งภาพแนว Pictorial เขาได้รบั เลือกให้ ท�ำ หนา้ ทีใ่ น the Council of the Photographic Society ในปี 1862 หลงั จากน้ันเขากอ็ อก จากสมาคมและมาตงั้ สมาคมใหมท่ ่ชี ่ือ the Linked Ring ซง่ึ เป็นสมาคมเพื่อการพัฒนาการถา่ ย ภาพใหเ้ ป็นงานศลิ ปะ แตห่ ลังจากนัน้ เขาก็ได้รบั รางวลั จาก the Council of the Photographic Society เป็นรางวลั เกยี รตยิ ศซงึ่ เปน็ รางวัลสูงสุด Henry Peach Robinson เปน็ หน่งึ ในคนสำ�คญั มากในการพัฒนา Pictorialism เนื่ง จากหนังสือของเขาไดใ้ หแ้ รงบนั ดาลใจใหก้ บั ชา่ งภาพหลายๆคน นอกจากนั้นสมาคม the Linked Ring ของเขายงั ได้มกี ารพัฒนาเทคนคิ การถ่ายภาพขึ้นมามากมาย 30

W Fading Away (1858) 31

WORK She Never Told Her Love (1853-1863)

BI Wikipedia the free encyclopedia BLIO (2019) , Julia Margaret Cameron สบื คน้ GRA เมือ่ , 26/10/2019 , จาก : https://en.wiki- PHY pedia.org/wiki/Julia_Margaret_Cameron Wikipedia the free encyclopedia (2019) , Henry Peach Robinson สบื คน้ เมอื่ , 26/10/2019 , จาก : https://en.wiki- pedia.org/wiki/Henry_Peach_Robinson THE ART STORY FOUNDATION (2019) , Julia Margaret Cameron สืบคน้ เมื่อ , 26/10/2019 , จาก : https://www. theartstory.org/artist/cameron-ju- lia-margaret/ n Henry Peach Robinson สืบคน้ เมือ่ , 26/10/2019 , จาก : http://vic- torian-era.org/henry-peach-robinson.html Wikipedia the free encyclopedia (2019) , Pictorialism สืบค้นเมอ่ื 26/10/2019 ,จาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Pictorialism THE ART STORY FOUNDATION (2019) , Pictorialism สบื คน้ เมอ่ื , 26/10/2019 , จาก : https://www.theartstory.org/movement/pictorialism/ THE ART STORY FOUNDATION (2019) , Pictorialism สบื ค้นเมือ่ , 26/10/2019 , จาก : https://www.theartstory.org/movement/pictorialism/ history-and-concepts/#beginnings_header 33

THE ART STORY FOUNDATION BI (2019) , Alfred Stieglitz สืบค้นเม่อื , BLIO 26/10/2019 , จาก : https://www.theart- story.org/artist/stieglitz-alfred/ Wikipedia the free encyclope- dia (2019) , Platinum print สบื ค้นเมอ่ื , 26/10/2019 , จาก : https://en.wikipedia. GRA org/wiki/Platinum_print calvin grier (2017) , Making a Car- bon Transfer Print สืบคน้ เมือ่ , 26/10/2019 , จาก : https://www.youtube.com/ PHY watch?v=JTMVdq1mPhA Craig Hull , How to Make Wet Plate Photography in Just 5 Simple Steps สบื ค้นเมอื่ , 26/10/2019 , จาก : https://expertphotogra- phy.com/wet-plate-photography/ Wikipedia the free encyclopedia (2019) , Collodion pro- cessสบื ค้นเม่ือ 26/10/2019 ,จาก : https://en.wikipedia.org/wiki/Collo- dion_process Quinn Jacobson (2006) , The Wet Plate Collodion Pro- cess สบื คน้ เม่ือ , 26/10/2019 , จาก : https://www.youtube.com/ watch?v=Gyf8fQOdvDs 34