51
52 บรรดามัมม่ีอียิปต์ท่ีขุดพบ ตั้งแต่ดึกดา บรรพ์คร้ังพระเจ้านโปเลียนนั้นมีหลักฐานว่า นอกจากซากศพมนุษย์ท่ีชาวอียิปต์นิยมนามาดอง เค็ม ถนอมรา่ งดว้ ยการอาบยาแลว้ นั้น บูชากันก็คง ลาบาก จึงอนุมานหาสัตว์ที่ย่อมกว่าอย่างแมวมา เลี้ยง ยังมีบรรดาสัตว์เลี้ยงของพวกเขาด้วย ซึ่ง วัตถุประสงค์ในการทามัมม่ีสัตว์ ของชาวอียิปตน์ น้ั มีอยู่ 4 ประการคือ 1) เป็นอาหาร สาหรบั ใชใ้ นโลกหลังความตาย 2) เปน็ สตั วเ์ ลีย้ งแสนรกั ของผูต้ าย 3) เป็นสัตว์ศักด์ิสิทธิ์ ตามความเช่ือ เช่น วัวอาพิส และแมว 4) เป็นเครือ่ งสังเวยเทพเจ้า (มมี ากในยุคมัมม่ีกรีก- โรมัน)
53 มัมมส่ี ตั วเ์ ล้ียง มมั มี่สนุ ขั สุนัข อียิปต์น้ีมีหน้าตาเฉพาะที่เขาว่าสืบ มาจาก สายสุนัขป่าต้นตระกูลหมาเลยทีเดียว โดย สุนัขพันธุ์ เฉพาะของอียิปต์ที่ว่านี้คือ “บาเซนจิ (Basenji)”ที่ได้ฉายาว่าสุนัขที่ไม่เคยเห่า รูปร่าง หน้าตากค็ ลา้ ยๆ หมาไทยของเรา ความซื่อสตั ย์ของ สุนัขคงทาให้คนอียิปต์รักและผูกพันมาก แต่ชาว อียิปต์โบราณนั้นรักมากจนอยากเอาไปอยู่ด้วยใน โลกหนา้ จงึ จับสนุ ัขมาทามมั ม่ี สนุ ขั ชนดิ น้ียงั สบื เชื้อ สายมาจนถึงปจั จุบนั
54
55 มัมมลี่ งิ บำบนู มมั ม่ปี รศิ นารา่ งคล้ายเด็ก จารึก ไว้ว่าเป็นของเจ้าหญิงผู้งดงามแห่ง ราชวงศ์ท่ี 21 แต่ท่ีเบ้ืองเท้าของมัมม่ีนั้นมีก้อนหยักพัน ผา้ ลนิ นิ เอาไว้ จงึ ไดก้ ลบั มาหาประวัตมิ ัมมีร่ า่ งน้ใี ห้ลึกขน้ึ เดิมนักโบราณคดกี ็คิดว่าส่งิ ที่ถูกทามันม่ีรา่ งเลก็ ไว้นั้นคือ เลือดเนื้อเช้ือไขของพระนาง เม่ือยุติกันไม่ได้จึงอุ้มหอ่ ผา้ น้ีไปเข้าเคร่ืองเอกซเรย์ ซึ่งปรากฏว่าเม่ือล้างฟิล์มออก มาแล้วนั้น ภาพฉายให้เหน็ โครงกระดูกของเดก็ ทด่ี แู ปลก กะโหลกป้าน หน้าผากนูน แขนยาวผิดสัดส่วน จึงต้อง นาไปให้กับผู้เช่ียวชาญด้านกายวิภาคดูจึงรู้ว่าไม่ใช่ร่าง คน แต่เป็นร่าง \"ลิงบาบูน\" มัมม่ีลิงร่างนี้ ยังสมบูรณด์ ีอยู่ มากจนนักวิทยาศาสตร์ตั้งใจจะเอาไว้ศึกษาการแพร่ ระบาดของ เชื้อเอดสจ์ ากลงิ ส่คู น
56
57 มัมมส่ี ตั วศ์ ักดสิ์ ิทธิ์ มัมมแ่ี มว แมว เป็นสัตว์ท่ีนิยมเอามาทามัมมี่มากสุดในอียิปต์ตาม ความเช่ือแห่งเทพบาสต์ แหล่งใหญ่ในการทามัมม่ีแมวอยู่ที่ซัคคา ร่าและเบนิฮาซัน ซ่ึงตรงนี้มีปริมาณมัมม่แี มวท่ีถูกพบมากท่ีสุด ใน ศตวรรษท่ี 19 มัมม่ีแมวได้ถูกขนเอาไปใช้เป็น \"ปุ๋ยหมักชั้นดี\" ให้แก่ชาวอังกฤษถึง 19 ตัน แต่ทว่าหลายร่างทาแบบไม่ประณีต นัก ดังที่มอริสัน สก็อต ผู้อานวยการของบริติชมิวเซียม ซ่ึงได้เคย เปิดร่างมมั มแี่ มวออกมาดนู ับไม่ถ้วน พบว่าหลายต่อหลายรา่ งเป็น เพียง ส่วนอวัยวะของแมวเท่าที่หาได้ หรือบางทีเป็นเพียงขน เทา่ นน้ั กค็ งพอนบั ได้ว่า เป็นการทามมั ม่ีแมวแบบประหยัดชวี ิตข้ึน ประเภท \"หนงึ่ แมวแบ่งไดห้ ลายห่อ\"
58
59 มมั ม่ีววั มัมม่ีสัตว์ศกั ดสิ์ ิทธ์ิ จะเห็นว่าวัวเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธ์ิสาคัญลาดบั ตน้ ของคนอียิปต์ เพราะแทนเทพองค์บรมปฐมเจ้าเรียกว่า \"เอพิส (Apis)\" ววั เอพสิ ของไอยคปุ ตน์ ้ีมคี วามสาคญั เกีย่ วพนั กับเทพโอสริ ิสผู้เปน็ หนง่ึ ใน เทพองคป์ ฐมของอยี ปิ ต์ ซึ่งเม่อื ผสานกบั เทพแบบกรีกขน้ึ มาแล้วกไ็ ดเ้ ป็น เทพลูกครึ่งนาม \"เซราพิส (Serapis)\" อาศัยอยู่ในนิวาสสถานช่ือ \"เซรา ไพออน (Serapeion)\" หรือเซราเพียม ตามภาษาโรมัน เรยี กอกี อยา่ งว่า \"เซราพซิ าลยั \" ซง่ึ เพง่ิ มีขึน้ มาในยคุ แห่งปโตเลมี
60
61
62 OPENED AN ANCIENT MUMMY เปดิ โลงศพมัมม่ีโบราณอายกุ วา่ 3 พันปี
63 วันท่ี 21 ตุลาคม 2562 สานักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานว่า เจ้าหน้าที่จากกระทรวงโบราณของอียิปต์ ได้เผยผลงานการค้นพบคร้ัง ยิ่งใหญ่ กับการขุดพบโลงศพไม้โบราณ อายุกว่า 3,000 ปี จานวน 30 โลง ที่มีมัมม่ีอยู่ภายใน ซ่ึงนับเป็นการขุดพบคร้ังใหญ่ที่สุดในรอบ ศตวรรษ อีกท้ังยังเป็นการขุดพบมัมมี่คร้ังแรกที่ดาเนินการโดยนัก โบราณคดีชาวอยี ปิ ต์ ด้าน มุสตาฟา วาซาริ เลขาธิการสภาโบราณสถานแห่งอียปิ ต์ เผย กับส่ือว่า การขุดพบคร้ังก่อนท่ีเกิดข้ึนในปี 2,434 เป็นภารกิจท่ีนาทีม โดยนกั โบราณคดีตา่ งชาติ แม้แตก่ ารขุดพบในปี 2,424 ก็เป็นภารกจิ ของ ชาวตา่ งชาตเิ ชน่ กนั แตใ่ นปี 2562 คอื การค้นพบของชาวอียิปต์เอง ซึง่ น่ี เปน็ ความรู้สกึ ท่ีเขายากจะบรรยายออกมาได้ โดยโลงศพโบราณเหล่าน้ี ถูกขุดพบภายในสุสาน Al-Asasif Cemetery ของเมืองลักซอร์ ทางตอนใต้ของอียิปต์ ภายหลังนัก โบราณคดสี งั เกตเหน็ ว่ามโี ลงศพโผล่บางสว่ นออกมาให้เห็นจากผืนทราย ซึ่งผลจากการขุดค้นนักโบราณคดีก็พบโลงศพโบราณจานวน 30 โลง ที่ ถกู ปิดผนกึ และวางซ้อนทับกันเป็น 2 ชั้น ฝังลงไปใตท้ รายราว 1 เมตร
64
65
66 ท้ังนี้ จากการตรวจสอบนักโบราณคดีพบว่า โลงศพเหล่าน้ีบรรจุร่าง มัมมี่ท้ังเพศชายและเพศหญิง และยังมีโลงบรรจุมัมมี่เด็กอีก 2 โลง แม้ว่ามัมมี่ จะถูกห่อหุ้มด้วยผ้า แต่นักโบราณคดียังสามารถระบุเพศของมัมม่ีได้ จากลาย ของมือที่ถูกแกะสลักอยู่บนโลง และคาดว่ามัมมี่เหล่านี้เป็นชาวอียิปต์โบราณท่ี อยูใ่ นชนช้นั กลาง ในส่วนของตัวโลงไม้ถูกเก็บรักษาไว้ในสภาพดี ทาให้ยังคงสีสันสดใสไว้ได้ สาหรบั สที ่ใี ชพ้ บวา่ เป็นสจี ากธรรมชาตซิ งึ่ ได้มาจากหินผสมกบั ไขข่ าว และทาทับ ด้วยไข่แดงผสมเทียนข้ีผง้ึ เพ่ือให้เกดิ ความเงางามและยงั เห็นสสี ันที่ทาลงไป บาง โลงยังพบวา่ มีการสลกั ช่ือของผูต้ ายไวด้ ้วย ทางด้าน ซาฮี ฮาวัสส์ นักโบราณคดี เผยว่า การพบโลงศพมมั ม่ีเดก็ นนั้ หา ได้ยากย่ิง การขุดพบคร้ังนี้ที่เจอโลงมัมม่ีเด็กถึง 2 โลง จึงยิ่งดึงดูดความสนใจ จากทว่ั โลก นอกจากนก้ี ารขุดพบครง้ั นย้ี งั เผยใหเ้ หน็ อีกหนึ่งเรอื่ งสาคญั เกีย่ วกบั การฝังศพชาวอียิปต์โบราณ สะท้อนให้เห็นว่าพวกเขาให้ความเคารพต่อผู้ตาย โดยไม่คานึงถึงเพศและอายุ ซ่ึงนับเป็นส่ิงที่จะช่วยเพ่ิมพูนความรู้ของนักอียิปต์ วิทยา เก่ยี วกับเรอ่ื งความเช่อื ในโลกหลงั ความตายของพวกเขา อน่ึง โลงศพไม้เหลา่ นี้จะถูกเคลอ่ื นย้ายไปพพิ ิธภัณฑอ์ ียิปต์แกรนด์ ซ่ึงจะมี การจัดแสดงในช่วงสิ้นปีหน้า ขณะท่ีมัมม่ีภายในโลงจะถูกย้ายไปเก็บรักษายัง พิพธิ ภณั ฑใ์ กลม้ หาพีระมดิ แหง่ กซี าต่อไป
67
68
69
70 จากการขุดพบโลงศพบรรจุมัมมี่ดังกล่าว ทาให้ทั่วโลกให้ความสนใจเป็น อย่างมาก เนื่องจากเป็นการขุดพบโลงศพไม้โบราณ อายุกว่า 3,000 ปี ท่ีมี มัมม่ี จานวน 30 โลง และเป็นการขุดพบครั้งใหญ่ทสี่ ุดในรอบกว่ารอ้ ยปี เจอ มมั มท่ี ้ังชาย หญงิ และเดก็ มีการถกเถียงกันในโลกอินเทอร์เน็ต เก่ียวกับความเหมาะสมของ การเปิดโลงศพมัมมี่ โดยปราศจากขั้นตอนและวิธีการทางการแพทย์ ซึ่ง แน่นอนว่าโลงศพมัมม่ีในอดีตย่อมมีเช้ือโรคหรือสารบางอย่างที่ต่างจากเช้ือ โรคในปัจจุบัน และการเปิดโลงศพโดยไม่มีการป้องกันเช้ือโรคใดๆ อาจเกิด อนั ตรายตามมาได้ ผู้จัดทาได้ศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับสาเหตุการตายของมัมม่ี จาก บทความ(The Lancet, 2013) โดยเนอื้ หามคี วามว่า มีการนามมั ม่ี 137 รา่ ง มาทา CT Scan พบวา่ มมั มส่ี ่วนใหญ่ตายเพราะตดิ เช้ือแบคทเี รียและวัณโรค จึงมีการศึกษาต่อไปจนถึงวิวัฒนาการของเชื้อโรคเทียบกับคนในปัจจุบัน เรียกการศึกษานว้ี า่ Paleopathology
71
72
73
74
75 WHAT’S IN CANOPIC JARS
76
77 หนึ่งในขั้นตอนของกระบวนการทามัมม่ีคือ การนาเอาอวัยวะภายใน ของศพออกมาจากร่างกาย ทาให้แห้ง แล้วนาไปเก็บรักษาในส่ิงท่ีเรียกว่า “โถคา โนปิก” (Canopic Jars) ซงึ่ มอี ยทู่ ั้งหมด 4 ใบถ้วน ครั้งน้ีเราจะมาเจาะลกึ เจ้าโถคา โนปิกทีว่ า่ น้ี และมาดูกันวา่ ในโถทั้ง 4 ใบจะมอี วัยวะช้ินใดเกบ็ รกั ษาอย่บู า้ ง ก่อนอื่นต้องเข้าใจกันก่อนว่า คาว่า “คาโนปิก” น้ัน ไม่ใช่คาในภาษา อียิปต์โบราณแต่อย่างใด แต่มาจากนามของวีรบุรุษชาวกรีกที่มีนามว่า คาโนปัส (Kanopos) เขาได้รับการบูชาที่เมืองคาโนปุส (Canopus) ในร่างของเหยือกหรือ โถ จึงทาให้นักอียปิ ต์วิทยายุคแรกๆ ท่ีสารวจและเห็นโถใส่อวัยวะภายในของมมั ม่ี พากันเรียกโถนั้นว่า “คาโนปิก” ตามไปด้วยจนกลายเปน็ คาที่ฮิตติดปากมาจนถงึ ทุกวันนี้
78
79 ในยุคแรกเริ่มนั้น ชาวอียิปต์โบราณเก็บรักษาอวัยวะภายในจากการทามัมม่ี ไว้ในหีบแบบเรียบง่าย หรือใช้วิธีห่ออวัยวะรวมกันเป็นมัดและวางเอาไว้ในช่องเลก็ ๆ ท่ี เจาะไว้บนกาแพงของสุสาน หลักฐานเก่ียวกับโถคาโนปิกช้ินแรกที่นักอียิปต์วิทยา ค้นพบ คาดว่าเป็นโถคาโนปิกในสมัยราชวงศ์ที่ 2 ท่ีเมืองซัคคารา (Saqqara) แต่ว่าไม่ ทราบรายละเอียดเกย่ี วกับโถในสมยั น้ีมากนัก โถคาโนปิกจากสมัยราชอาณาจักรกลาง มีการปรับเปลี่ยนฝาปิดให้เป็นรูป มนษุ ย์ และมกี ารเช่อื มโยงกบั โอรสทง้ั สแ่ี หง่ เทพเจา้ ฮอรสั ดว้ ย สมัยราชอาณาจักรเก่า โถคาโนปิกมักได้รับการเก็บรักษาเอาไว้ในช่องเล็กๆ ที่เจาะเข้าไปในสสุ าน บ้างก็อยู่ในหีบ ซึ่งมีการแบ่งช่องออกเป็น 4 ช่องอย่างชัดเจน โถ คาโนปิกในสมัยน้ีนิยมสลักจากหิน หรือเครื่องป้ันดินเผาที่มีฝาปิดแบบแบนเรียบ หรือ บ้างก็เป็นรูปโดม แต่ในช่วงปลายสมัยราชวงศ์ที่ 6 เช่นในสุสานของฟาโรห์เปปิท่ี 1 (Pepi I) จะเริ่มมกี ารฝงั โถคาโนปกิ ลงไปในชอ่ งท่ีเจาะเอาไวบ้ นพนื้ นอกจากนัน้ ยงั มีการ ค้นพบหลกั ฐานของอวยั วะภายในท่ีชมุ่ ไปด้วยเรซ่ินจนแข็งตัวอยใู่ นรูปของโถอีกด้วย
80
81 แต่เช่ือว่าหลายๆ ท่านที่เคยศึกษาเกี่ยวกับการทามัมม่ีมาบ้างน่าจะคุ้นเคยกับโถ คาโนปิกที่มีฝาปิดเป็นรปู มนุษย์และสตั ว์ โถประเภทน้เี พง่ิ เริ่มต้นขึ้นในช่วงรอยตอ่ ระยะท่ี 1 (1st Intermediate Period) เท่านั้น นักอียิปต์วิทยาพบว่า โถคาโนปิกยุคนี้เร่ิมเปลี่ยน รูปแบบจากฝาแบบแบนเรียบมาเป็นฝาที่มีรูปทรงของศีรษะมนุษย์ นอกจากน้ันอวัยวะ ภายในที่บรรจุเอาไว้ในโถยังไดร้ ับการตกแตง่ ดว้ ยหน้ากากท่ีเปน็ รปู มนษุ ย์ดว้ ยเชน่ กัน ในช่วงปลายราชอาณาจักรกลาง (Middle Kingdom) หีบสาหรับใช้บรรจุโถคา โนปกิ จะถูกแบ่งช่องออกเปน็ 4 ชอ่ งอย่างชัดเจน แตล่ ะช่องจะมโี ถ 1 โถ เพอื่ เอาไวใ้ สอ่ วัยวะ ภายในช้ินใดชิ้นหน่ึงโดยเฉพาะ นอกจากน้ันโถแต่ละโถและอวัยวะภายในแต่ละชิ้นจะถูก ปกป้องและคุ้มครองโดยเทพเจ้าที่ถูกเรียกว่า โอรสทั้ง 4 ของเทพฮอรัส (Four sons of Horus) ด้วย โดยเทพทั้ง 4 องคน์ ี้ก็จะแบง่ หนา้ ท่ีกนั ดูแลอวยั วะคนละชนิด เทพอิมเซติ (Imseti) ดูแลตับและอยู่ในความคุ้มครองของเทพีไอซิส เทพฮาปิ (Hapy) ดูแลปอดและอยู่ในความคุ้มครองของเทพีเนฟทิส เทพดวามูเทฟ (Duamutef) ดูแลกระเพาะอาหารและอยู่ในความคุ้มครองของเทพีนีธ สุดท้ายเทพเคเบเซนูเอฟ (Qebehsenuef) ดูแลลาไส้และอยู่ในการคุ้มครองของเทพีเซลเคต สาหรับจารึกท่ีสลัก เอาไว้ทห่ี บี จะเขียนถึงเวทมนตรท์ ่ีใช้ในการ “ปลุก” เทพที ้งั 4 องค์ ให้ช่วยปกปอ้ งค้มุ ครอง ผตู้ ายอีกดว้ ย
82 หบี บรรจุโถคาโนปกิ ของยุวฟาโรห์ตตุ นั คาเมนทาจากหนิ อลาบาสเตอร์ แกะสลักอกั ขระดว้ ยสีดาดูงดงาม
83 ถึงแม้ว่าโถคาโนปิกในช่วง ปลายราชอาณาจักรกลางจะมีการ เชื่อมโยงกับโอรสทั้ง 4 ของเทพเจ้า ฮอรัสแล้ว แต่เศียรของเทพเจา้ ท้ังหมด ท่ีปรากฏบนโถยังไม่มีรูปร่างของสัตว์ แต่อยา่ งใด ฝาโถคาโนปกิ ทง้ั 4 ใบยงั คง ปรากฏเพียงศีรษะของมนุษย์เท่าน้ัน ซ่ึ ง จ ะ ถู ก ใ ช้ ต่ อ เ น่ื อ ง ไ ป จ น ถึ ง ส มั ย ราชวงศ์ท่ี 18 ช่วงราชอาณาจักรใหม่ (New Kingdom) เลยทีเดียว หีบที่ บรรจุโถคาโนปิกในช่วงนี้มักจะเร่ิมมี ลวดลายประดับตกแต่งที่งดงามยิ่งข้ึน ตัวอย่างที่ชัดเจนท่ีสดุ คือ หีบและโถคา โนปิกของยุวฟาโรห์ตุตันคา เ ม น (Tutankhamen) ท่ีสลักจากหินอลา บาสเตอร์สีขาวจารึกด้วยอักขระสีดา ท า ใ ห้ ดู โ ด ด เ ด่ น แ ล ะ ง ด ง า ม ส ม พ ร ะ เกียรตเิ ป็นอย่างมาก
84 เม่อื มาถงึ สมยั ของฟาโรหฮ์ อรเ์ อมเฮบ ในชว่ งปลายราชอาณาจักรใหม่ (Horemheb) ฟาโรหอ์ งค์สดุ ทา้ ยแหง่ ราชวงศ์ที่ 18 ดเู หมือนโถคาโนปกิ ในรปู โอรสทงั้ 4 ของเทพเจา้ ฮอรสั เรมิ่ ถูกแสดงดว้ ยภาพ แบบเดิมเรม่ิ หมดความนิยมลงไป ของมนษุ ย์ทมี่ ศี รี ษะเป็นสัตว์ โดยท่เี ทพอิมเซตมิ ี นกั อยี ิปตว์ ิทยาไมค่ ้นพบโถคา ศรี ษะเปน็ มนุษย์ โนปกิ อีกต่อไป เพราะมีการ คน้ พบเพียงโถขนาดใหญ่ทสี่ ลัก เทพฮาปิมศี รี ษะเป็นลิงบาบนู เทพดวามู ภาพของเทพตี ่างๆ เอาไวแ้ ทน เทฟมีศรี ษะเป็นหมาใน และเทพเคเบเซนเู อฟมี แตน่ ักอยี ิปตว์ ิทยายังไม่ทราบแน่ ศีรษะเป็นเหย่ยี ว น่นั หมายความวา่ โถคาโนปิก 4 ชัดวา่ โถชนิดนจ้ี ะเก็บไว้ทไี่ หน ใบท่ีเราคนุ้ เคยกันดีด้วยฝาปิดรูปมนุษย์ ลงิ หมาใน และจะเกบ็ อย่างไรกนั แน่ และนก น้ันปรากฏหลังจากสมยั ของฮอร์เอมเฮบ ทงั้ ส้ิน ส่วนอวัยวะภายในที่เก็บรักษาเอาไวใ้ นโถก็ ยงั คงเปน็ ตับ ปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้ เชน่ เดิม ไม่ตา่ งจากยคุ ก่อนหน้า สว่ นหัวใจจะเก็บ เอาไว้ในรา่ งของมัมมเี่ พือ่ ใหผ้ วู้ ายชนมไ์ ดน้ าไปชัง่ น้าหนกั กบั ขนนกแหง่ ความเที่ยงธรรมของเทพมี า’ อตั (Ma’at) ในโลกหลงั ความตาย
85 บรรณำนกุ รม โถคาโนปิ กจากสมยั ราชวงศ์ที่ 19(หลงั การปกครองของฟาโรห์ฮอร์เอมเฮบ) มีฝาปิ ดเป็น มนษุ ย์ ลิง หมาใน และนก เป็นรูปแบบของโถคาโนปิ กทีค่ นุ้ เคยกนั ดี
86 เม่ือสิ้นสุดสมัยราชอาณาจักรใหม่ อียิปต์โบราณแตกออกเป็นสองอาณาจักรอีกคร้ัง แนวคดิ เรือ่ งของโถคาโนปกิ เปล่ียนแปลงไป เพราะโถทป่ี รากฏในยุคนเี้ ปน็ เพียงโถทรงทบึ ตัน ไม่ สามารถใส่อวัยวะหรือส่ิงอ่ืนใดลงไปได้ ดังน้ันในช่วงน้ีจึงมักจะ “ไม่มีอะไรในโถคาโนปิก” อีก ต่อไปแล้ว แต่อวัยวะภายในของมัมมี่ก็ยังคงถูกนาออกมาล้างให้สะอาด และยัดกลับเข้าไปใน ร่างกายตามเดิม โถคาโนปิกในยุคหลังน้ีจึงเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของความร่ารวย เพราะมี เพียงกลุ่มคนมเี งนิ เทา่ นั้นทีจ่ ะมีโอกาสไดใ้ ช้ หลังจากน้ัน โถคาโนปิกยังมีบทบาทในพิธีกรรมหลังความตายและการทามัมมี่ของ ชาวไอยคุปต์เรื่อยมาถึงแม้ว่าในยุคปลายของอียปิ ต์โบราณจะมีชาวต่างชาติมากหน้าหลายตาท่ี มวี ฒั นธรรม และความเช่ือแตกตา่ งจากชาวไอยคุปตผ์ ลดั เปลย่ี นกันเข้ามาปกครอง ทงั้ ชาวลเิ บยี นูเบีย อัสซีเรีย และเปอร์เซีย แต่ก็ยังมีการค้นพบหลักฐานว่า พวกเขายังใช้โถคาโนปิกใน พิธีกรรมฝังศพอยู่เช่นเดิม แต่เมื่อชาวกรีกเข้ามาปกครองในราชวงศ์ปโตเลมี (Ptolemy) ราว 300 ปกี ่อนครสิ ตกาล โถคาโนปิกเร่ิมหมดความนิยมลงไป เพราะชาวกรกี มักจะใช้หีบทรงสูงที่มี รปู รา่ งลกั ษณะคลา้ ยกบั สถปู มากกว่า หลังจากนั้นเมือ่ ชาวโรมนั เข้าปกครองอียปิ ต์ โถคาโนปิกท่ีมีประวัติศาสตรย์ าวนานเกือบสามพนั ปกี ็ถงึ กาลอวสานลงจนได้
87 บรรณำนกุ รม วสั ณนั ท์ ทรัพย์อนนั ต.์ (2549). เปิดกรุมมั ม่ี ดินแดนไอยคุปต์. สืบค้นเมือ่ 12 กนั ยายน 2562. จาก https://sites.google.com/site/peidkrumammidindan/home เจฟคุง. (2560). มมั มค่ี อื อะไร วิธีการทามัมม.่ี สืบค้นเมือ่ 12 กนั ยายน 2562. จาก https://www.dek-d.com/board/view/3724255/ นานาสาระ. (2555). วธิ ีทามมั มข่ี องชาวอยี ิปต์โบราณ. สืบค้นเมือ่ 14 กันยายน 2562. จาก http://www.unigang.com/Article/11943 Aaommm. (2560). Mummy how to มาเรยี นรู้ \"วธิ ที ามัมมี\"่ กันดกี ว่า! สืบคน้ เม่ือ 14 กันยายน 2562. จาก https://minimore.com/b/minimore-fun/121 วิกิพีเดยี . (2562). สสุ านใต้ดินกาปชู นิ . สบื ค้นเม่อื 14 ตลุ าคม 2562. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/สุสานใตด้ ินกาปชู ิน วกิ พิ ีเดีย สารานกุ รมเสร.ี (2562). มมั ม.ี่ สบื ค้นเมอ่ื 14 ตลุ าคม 2462. จาก https://th.wikipedia.org/wiki/มัมมี่ ณัฐพล เดชขจร. (2561). มีอะไรในโถคาโนปกิ . สบื ค้นเมือ่ 25 ตุลาคม 2562. จาก http://www.gypzyworld.com/article/view/1050
88 กระปกุ . (2562). ดกู ันชดั ๆ เปิดโลงศพมมั มโี่ บราณอายุกวา่ 3 พันปี อียปิ ตเ์ พิ่งขุดพบครง้ั ใหญ่ 30 โลง. สบื ค้นเมอ่ื 22 ตุลาคม 2562. จาก https://hilight.kapook.com/view/195185 MyLearning. (2013). Mummification step by step. Retrieved from https://www.mylearning.org/stories/a-step-by-step-guide-to-egyptian- mummification/220? The British Museum. (2015). Mummification. Retrieved from http://www.ancientegypt.co.uk/mummies/home.html Sandle, T. (2013). Pharaohs and Mummies: Diseases of Ancient Egypt and Modern Approaches. Retrieved from https://www.longdom.org/open- access/pharaohs-and-mummies-diseases-of-ancient-egypt-and-modern- approaches-2329-8731.1000e110.pdf
89
Search