Land art the hidden world
Inspirational Design
synergy Martin Hill Raupo stems (bulrush) , linen threads 1300 mm height 2009 lake wanaka ,new zealand
Pretace หนังสือเลม น้ี เปน สว นหน่ึงของวิชามนุษยก บั ศิลปะ ( Man and Art ) รหสั วิชา 082101 - 54 ซึ่งไดจัดทำขึ้น เพ่อื ความรูทางการศึกษาในเรอื่ ง “ภูมิศิลป” ( Land Art ) ท้ังประวัตคิ วามเปนมา ขอ มูลทั่วไป ของงานศิลปะ และ ตัวศลิ ปน ผูจ ัดทำหวงั วา หนงั สอื ฉบับนี้จะเปนประโยชนต อ การเรียนรู และการศึกษาเปน อยา งมาก หากมีขอบกพรอ ง ประการใด ผจู ดั ทำขออภัยไว ณ ทีน่ ี้ดว ย อรรจนทสร ใจหลกั ผูจัดทำ
Contents 1 Introduction (1-4) 2 History (5-8) 3 Artist (9-10) - Andy Goldsworthy (11-18) - Richard long (19-26) - christo and jeanne claude (27-34) - martin hill (35-42) 4 Synopsis (43-44) 5 bibliography (45-48) sunrise circle martin hill
1 Introduction
มารูจกั กันเถอะ Jim Denevan’s Land Art หากจะพดู ถงึ “Land Art” กับคนไทยแลว ผมเช่ือวามีเพียงไมกี่คนเทา นัน้ ที่รจู ัก ผมกเ็ ปนคนนงึ ครับ ท่ีไมเ คยรจู ักเลย แตพ อไดลองเรียนรู กลับรูสกึ วา Land Art เปนงาน ศลิ ปะทีน่ าสนใจมากๆเลย ทส่ี ำคญั มันอยรู อบตวั เรา และเราสามารถสรางมันเองได ยอ นไปถงึ ตอนทกุ คนยังเปนเดก็ อยู การกอ กองทรายท่ีชายหาด ถือวาเปนอะไรท่ี สนกุ ที่สดุ แลว ในตอนนั้น หารูไม น่ันแหละ คือ Land Art ช้ินโบวแดงของแตล ะคน แตม นั พลาดทเ่ี ราไมไดถ า ยรปู เก็บเอาไว แตผมกจ็ ำไดน ะครับ งาน Land Art ลา สุดทผี่ มไดบันทึก ภาพไว ถาจำไมผ ดิ ก็ตอนมธั ยมศกึ ษาปท ี่ 3 แหละครับ ผมไดส รางงาน Land Art ชน้ิ หนึ่งไว ซึง่ เปน ความบงั เอิญครับ ทเี่ รียนศลิ ปะสนี ำ้ มัน แลวงานไมแหงสนทิ ทำใหตองออกไปผ่งึ แดด 2
กวา 4 ป ท่ีผลงานช้ินเกดิ ข้นึ ไมม ี ใครรจู กั มนั ถา จะทำใหเ หมือนศลิ ปน เราจะ ตอ งตง้ั ชอื่ ผลงานสินะครบั งั้นผมตัง้ เลยละกัน “ The oil on the glass ” I ,II ,III ( นำ้ มันบนผืนหญา ๑ ,๒ ,๓ ) แลว คุณละ เคยสรางงาน Land Art แลวหรอื ยงั ? พอจะกระจางแลวใชไ หมครบั วา Land Art จรงิ ๆแลว เปน ศลิ ปะ ประมาณไหน ง้นั ผม จะอธบิ ายใหล ะเอยี ดอีกครง้ั นะครับ Land Art เปนงานศิลปะทีเ่ ริ่มตนขึน้ ในราวครสิ ตศกั ราช 1960 - 1970 โดยมนี ยิ ามสำคัญ คือ Land Art คอื ความสัมพนั ธจ ะหวา งภมู ทิ ศั น กับงานศิลปะ ท่รี วมกนั ไดอ ยา งกลมกลืน และลงตวั โดยเนน ท่ีตัวภูมิทัศนวา เปนปจจยั ทกี่ อ ใหเกิดผลงานทางศิลปะ ซงึ่ งาน Land Art สวนใหญ จะตง้ั อยไู กลบานเมอื ง และถกู ปลอยทิ้งไวตามธรรมชาติ แตก ม็ ีงาน บางสว นท่ีถกู ตดิ ตัง้ ไวช ่ัวคราวเทา นั้น เพราะอาจจะมผี ลตอ การใชชวี ติ ของมนุษย หรือธรรมชาติ 3
ดวยความท่เี ปน งานศลิ ปะทเี่ ขา ถงึ กับคนทุกคนได และใครกส็ ามารถทำได เพยี งแคมี ธรรมชาติ หรือส่งิ แวดลอ ม เมอื งไทยเราก็มนี กั ภูมศิ ิลปอ ีกดว ย หลายคนก็อาจจะไมรูจักครับ แตผม คิดวาการนำเสนอศิลปน ไทยกอน เราอาจจะเห็นแนวคดิ ทใี่ กลตัวเรามากกวา และถอื เปน การให เกียรตศิ ลิ ปน ดว ยครบั ชอ่ื ของเขาคือ “พิน สาเสาร” ศิลปน วยั 35 ป ศษิ ยเ กาจากร้วั มหาวิทยาลัย ศรีนครนิ ทรวิโรฒ ประสานมิตร ทสี่ ำคญั เขาเคยเปน คนตนเรอ่ื ง ของรายการ คนคนคน อีกดว ย เขาไดสรางงาน ชื่อวา “เสยี งพิน” ตอนนง้ี านภมู ศิ ลิ ปของเขาอยบู รเิ วณนาของ เมืองพทั ยา แรงบันดาลใจของเขามาจากที่อดตี เขาเปนชาวจงั หวดั รอยเอด็ เหน็ ธรรมชาตเิ สียสมดุล และชาวบา น ปว ยเปน โรคมะเร็ง เพราะการใชปุยเคมี เขาเลยตดั สนิ ใจทจ่ี ะทำงานน้ี เพือ่ แสดงใหเห็นถึงความ สวยงามของธรรมชาติ และการใชเ ครือ่ งมือทเี่ ปนมิตรตอสิ่งแวดลอมอยา งถกู ตอ งตามหลักจรงิ ๆ พิน สาเสาร แบบรา งงานภูมิศิลป ภูมิศลิ ป : เสยี งพนิ 4
2 History
ทมี่ าของเรา ในชว งแรก Land Art ใชเ ปน ปรัชญาของงานศลิ ปะทม่ี ีวตั ถปุ ระสงคใ นการตอ ตานงานศิลปะ ทก่ี ลายเปนส่งิ ผดิ ธรรมชาติ และเปน งานคาขายกนั จนเกนิ หนาเกนิ ตวั ทเี่ กิดขึ้นในสหรฐั อเมริกาใน ปลายครสิ ตศกั ราช 1960 ผูถ อื ปรชั ญาน้ี จะพยายามเพิกเฉยตอ การแสดงผลงานทางพพิ ิธภณั ฑ ตาม แบบงานศิลปะลัทธอิ น่ื ๆ และพยายามจะสรางงานในภมู ทิ ัศนข นาดใหญโตมหึมาเพ่อื ไมใ หเ กิดการซอ้ื ขายกนั ไดใ นตลาดของงานศลิ ปะท่วั ไป แตภายหลงั ยุคนี้ศิลปะชนดิ นี้ กม็ ที ั้งแบบใหญโ ต และขนาดเล็ก ตามแนวงานของศิลปนแตล ะคน โดยพน้ื ฐานแลว Land Art มที ม่ี าจากลทั ธจิ ลุ นยิ ม (Minimalism) และศิลปะเชิงมโนทัศน (Conceptual Art) Dillingen Serra by Richard Serra 6
ลัทธิจุลนิยม (Minimalism) งานศิลปะท่ถี กู ตัดทอนรายละเอียดใหเปนแครูปรา ง รปู ทรง เพลง หรอื แมแ ตภาพยนตร ทด่ี งู า ยๆ แตกลับสงผลตออารมณ และความรูสึกของผูชมมาก โดยเปน ศิลปะ ทส่ี ามารถอยูไดในหลายแขนง อาทเิ ชน จติ รกรรม ประติมากรรม คีตกรรม ฯลฯ Maurizio Cattelan View of the exhibition KAPUTT, 2013 ศลิ ปะเชงิ มโนทัศน (Conceptual Art) ลทั ธินี้ มคี วามคิดวาความคิดในการสรางงาน ยอ มสำคญั กวาความงาม และวัสดุในการใชง าน เปน งานศิลปน ทถ่ี า ยทอดความคิดที่เปน นามธรรม ใหอ อกมาเปน รูปธรรมทส่ี ุด โดยไมค ำนึงถงึ ความถูกตอ งตามหลักความเปน จรงิ อาจเรยี กไดอีกอยาง วา ศิลปะการจัดวาง 7
ภมู ิศลิ ปมีตนกำเนิดจากงานศลิ ปะของศิลปนชาวอเมริกันเชือ้ สายญีป่ ุน อิชะมุ โนะงชุ ิ ทน่ี ิวยอรก ในป ค.ศ.1941 ตอนนั้นตัวศลิ ปน เอง กไ็ มไดเรยี กงานนว้ี าเปน ภมู ิศลิ ป เพราะมันเปนแค แบบรางของสนามเดก็ เลน ทีส่ ุดทายก็ไมไ ดส รา งข้ึนจริง เพราะทางรัฐบาลเห็นวา มันอันตราย ภายหลงั ภมู ิศิลปก ็พฒั นาอยา งรวดเร็ว ดว ยกลมุ วยั รุน อายุราวๆยี่สบิ ป เผ่อื ตอตา นอทิ ธพิ ล และนยั ทางการเมอื งทีแ่ ฝงอยูใ นศลิ ปะแบบอื่นๆ แตทำเพ่อื การอนรุ ักษสง่ิ แวดลอมี isamu noguchi Contoured playground ภายหลงั เกดิ การรวมตวั ของศิลปนในลทั ธนิ ้ี เรยี กวา “ขบวนการธรณศี ิลป” ซ่งึ เรม่ิ ตน ขึน้ ในเดอื นตุลาคม ป 1968 โดยการแสดงงานศลิ ปะมูลดนิ (Earthwork) ที่หอศิลปค วานในเมอื งนิวยอรก และในป 1969 ไดม ีการจัดข้ึนอีกครั้ง เพ่อื รวมศิลปนในลัทธนิ ีอ้ ีกมากมาย โดยศิลปะชนดิ นีม้ คี วาม เกีย่ วขอ งกับศลิ ปะจลุ นยิ ม และศลิ ปะสมถะ ตรงที่ถือวาวสั ดุท่ีไมสามารถมาสรางงานศิลปะได กลับมี คณุ คา และแสดงออกมาเปน งานศิลปะท่มี ีความสมดลุ และลงตัว 8
3 Artist
ศิลปนในลัทธิ Andy Goldsworthy rICHARD LONG christo and robert smithson jeanne claude DAVID NASH james turrell 10
ice star 1987 Andy Goldsworthy
1 Andy Goldsworthy
Biography Andy Goldsworthy เกิดท่ี เชชเชอร ประเทศองั กฤษในวนั ท่ี 26 กรกฎาคม ค.ศ.1956 เปน ประตมิ ากร ชางภาพ และนักตอ สูเพอื่ สง่ิ แวดลอม เขามีช่ือเสียงมาจากเปนศลิ ปนสรางงานภมู ศิ ลิ ป เขาศกึ ษาที่ Bradford School of Art (1974-1975) และ Preston Polytechnic (1975-1978) และไดทำ งานศิลปะทางดานสิง่ แวดลอ มทัง้ ในชนบทและในเมือง ปจ จบุ นั อาศัยอยใู น สกอตแลนด ในชว ง 25 ปท ่ผี า นมา Goldsworthy ไดร ับชื่อเสียงอยางมากสำหรับ งานชั่วคราว และงานติดตัง้ ถาวรของเขา ซึ่งเปน ตัวบง ชีถ้ ึงลกั ษณะเฉพาะของ สถานที่ ศิลปนทำงานรวมกบั วัสดุธรรมชาติ เชน ใบไม ทราย น้ำแข็ง และหิน ซง่ึ มกั มาจากพืน้ ทใี่ นทองถ่ิน เขาไดจดุ ประกายงานศิลปะจากการที่เขาเคยทำงานในฟารม และงาน ของเขาคอื การขดุ เกบ็ มันฝรง่ั มันทำใหเขาเหน็ กระบวนการการทำงานทเี่ ปน จังหวะๆ ของการกองมันฝรัง่ ซึ่งมันดูคลา ยงานประติมากรรมเปนอยางมาก 13
หลงั จากจบมหาวทิ ยาลัยแลว โกลดสเวริ ทธีกย็ า ยไปอยทู ย่ี อรคเชอร, แลงคาสเชอร และตอ มาคมั เบรีย ในป ค.ศ. 1985 โกลดสเวิรทธีกย็ า ยไปอยู ทีแ่ ลงโฮลม ที่ ดัมฟรีสแ ละกาลโลเวยในดัมฟรสี เ ชอรในสกอตแลนด และปตอมาท่เี พนพอนท กลาวกนั วาการยา ยไปทางเหนือข้นึ เรอื่ ยๆ อาจจะมีสาเหตมาจาก “วิถชี ีวติ ที่ไมอยูใ นความควบคมุ ของ[โกลดสเวิรท ธ]ี ” แตกเ็ ปนเหตผุ ลบางสวนท่ีประกอบกับความตองการทจี่ ะไปทำงานในบริเวณ ท่ีเหมาะกับ “สถานะทางเศรษฐกจิ ” ในป ค.ศ. 1993 โกลดส เวิรทธีก็ไดรับปรญิ ญาเกียรตินิยมจากมหาวิทยาลัย แบรดฟอรด ในปจ จุบันโกลดสเวริ ทธเี ปน ศาสตราจารยอ ยทู ีม่ หาวิทยาลยั คอรเนลล ในป ค.ศ. 2001 ทอมสั รีเดลิ สไ ฮเมอรก ำกับภาพยนตรเ กี่ยวกบั ชีวติ , ปรัชญาการสรางงานศิลปะ และ งานศลิ ปะโดยโกลดส เวริ ท ธี ช่อื “Rivers and Tides” river and tides : Andy Goldsworthy Working with Time (2001) documentary film 14
SHEEPFOLDS Inside Sheepfolds เปน โครงการประตมิ ากรรมท่ีเกดิ ข้นึ ตั้งแตป 1996 จนแลวเสรจ็ ในป 2003 เขาได รวมงานกับ the Sheepfolds of Cumbria county เพื่อบรู ณะคอกแกะท่อี ยใู นสภาพท่ี ทรดุ โทรม โดยสรา งใหมใหส ิง่ ปลูกสรางนัน้ ดำรงอยูตอไป เพื่อแสดงใหค นรนุ หลังเหน็ วา ดนิ แดนตรงนี้ กอนเคยเปนฟารม และพน้ื ที่ทำมา หากนิ ขนาดใหญ และการที่ Goldsworthy เคยทำงานในฟารม ทำใหเ ขาเขาใจลักษณะ และ วัตถุประสงคข องงานศลิ ปะช้ินน้ไี ดดี โดยตงั้ อยู ในสกอตแลนด ถึงยอรก เชยี ร งานช้นิ น้ตี งั้ อยตู ง้ั แต กลางศตวรรษท่ี 19 มกี ารเปล่ียนแปลงถงึ 22 ครง้ั และมแี กะมากถึง 11 รนุ ดว ยกนั 15
Three Cairns “Three Cairn”เปนงานศลิ ปะโครงการใหญท ส่ี ดุ ในโลกตะวนั ตกของ Andy Goldsworthy แคนสคอื โครงสรา งหนิ รูปไข ทีท่ ำจากหนิ แหง เปนผลงานทีไ่ ดแ สดงถงึ ความสำเร็จทางวิศวกรรม และความคดิ สรา งสรรคท างศลิ ปะ การจดั วางกอ นหินใหเปน รปู วงรที ่ดี ูเรียบงา ย เปน เรื่องท่ที าทายและเขมขน มากๆ งานช้ินนี้ ยังแสดงใหเ หน็ ถึงความพยายาม ความอดทน การใชเวลาท่ยี าวนานของศิลปนในการ สรา งสรรคผลงาน โดย Goldsworthy จัดทำงานชน้ิ น้ีขน้ึ ที่ สหรฐั อเมรกิ า ในชวงป 2001-2002 งานชนิ้ นี้เคยทำขึน้ แลวในประเทศออสเตรเลยี ป 1997 บนเกาะเฮอรร ง่ิ ซึ่งยงั เปนฉบบั ทก่ี ารจดั วาง ของหินแลว ยังดไู มสมบรู ณ Cairns 16
Arch at goodwood เปน งานประตมิ ากรรมซมุ หินทราย ท่ใี หญท่สี ุดชน้ิ หนง่ึ ของ Andy Goldsworthy โดยกอ นทเี่ ขาจะมาสรา งซุม นี้ เขาเคยมปี ระสบการณใ นการ สรางซุมหมิ ะ และน้ำแขง็ ระหวางท่ีพกั อาศัยของชาวเอสกิโม ในป 1982 ซมุ ที่ทำขึ้น เปนซุมทีก่ าวขา ม ice arch กำแพงยาวช้นิ หนง่ึ ซึง่ เปนประตมิ ากรรม 1982 ทส่ี รางโดยนกั โทษสมัยชวงสงคราม นโปเลียน ซึ่งคนเหลา น้ถี ูกบงั คับใหสราง งานชน้ิ นขี้ ึน้ เพียงเพราะคนชัน้ สงู มองวา ไดอ อกกำลัง ซ่ึงดกี วาการถกู คุมขงั เฉยๆ ความแตกตางระหวางซุมหนิ ทรายสชี มพู ออน กับกำแพงสเี ทาทบึ ทำใหเกดิ ประตมิ ากรรมท่แี ข็งแกรง และสวยงามเปนอยา งมาก 17
Rowan Leaves and Hole งานภมู ศิ ลิ ปชนิ้ นี้ ค.ศ.1987 โดยใชว ัสดุที่พบในส่งิ แวดลอมตามธรรมชาติดงั ท่ีศลิ ปน เห็น งานศลิ ปะชิ้นน้ี มคี วามพิเศษคือ ใบไมร ว งท่ีเรยี งสี แสดงถึงวงจรชวี ติ ของ มัน ตั้งแตส ดจนเปอ ยเนา ทเ่ี กิดขึน้ ตามธรรมชาติอยา งตอเนอ่ื ง การแสดงหลมุ ดำอยู ตรงกลางทำใหผชู มไดคดิ ตาม และแสดงถอื วงจรทน่ี อกเหนอื จากความเปนจริง ศิลปนปลอยใหง านภมู ศิ ิลปช ิน้ นเ้ี ปนไปตามธรรมชาติ เพอื่ ดำเนนิ ตามแนวคดิ การ เวียนวายตายเกดิ ตามทีศ่ ลิ ปนตองการทีจ่ ะสอ่ื จรงิ ๆ 18
a circle in antarctica 2012 richard long
2 RICHARD LONG
Biography Richard Long เกดิ เมือ่ วันที่ 2 มิถุนายน ค.ศ. 1945 เปน ชาวอังกฤษ และเปน หน่งึ ในศลิ ปน ท่รี จู กั กนั เปนอยา งดีในประเทศอังกฤษ Long เปน ศิลปนเพยี งคนเดียวทไ่ี ดร ับการเสนอช่อื เขา ชงิ รางวัล Turner Prize ถงึ สคี่ ร้ัง เขาไดร ับการเสนอชอ่ื เขา ชิงในปค .ศ. 1984, 1987 และ 1988 และ ไดร บั รางวัลในป 1989 ดวยงาน White water line ซ่งึ เปนงาน Installation art เปน ศลิ ปะอีกแนวนึงทีเ่ ขากถ็ นัดเชนกนั white water line 21
เขาอาศยั และทำงานใน Bristol ซงึ่ เปนเมอื งท่เี ขาเกดิ มา เขาเคยเรียนท่โี รงเรียนศิลปะ Saint Martin กอนท่ีจะไปทำงานโดยใชส่อื ตางๆ รวมถึงประตมิ ากรรมการถา ยภาพ และตัวอกั ษร งานของเขาคือการแสดงผลงาน ถาวร ในสหราชอาณาจักรท่พี พิ ธิ ภณั ฑ Tate , Bristol City และหอศิลปร วมทงั้ หอศลิ ปใ นอเมรกิ า สวติ เซอรแ ลนด และออสเตรเลีย หลายผลงานของเขามพี ้ืนฐานมาจากการเดินเลน ที่เขาทำขน้ึ รวมท้ังรปู ประตมิ ากรรมธรรมชาติ เขาใชส อ่ื การถา ยภาพ ขอความ และแผนท่ภี มู ิประเทศ ทเี่ ขาเดินผาน ภมู ทิ ศั นจะมกี ารเปลย่ี นแปลงโดยเจตนาในทางใดทางหนึ่ง เชน A Line Made by Walking (1967) และประติมากรรมบางครงั้ ถกู สรา งข้นึ ในแนวนอน จากหนิ หรอื วสั ดุทพ่ี บคลายกนั นอกจากการเทคนคิ การใชวสั ดุ และถา ยรปู แลว ชน้ิ อ่ืน ๆ ประกอบดวยภาพ หรอื แผนที่ของภมู ปิ ระเทศทีไ่ มม กี ารเปลย่ี นแปลง พรอ มกบั ขอความท่ีระบสุ ถานที่ และเวลาของการเดนิ ที่ระบไุ ว A Line Made by Walking (1967) 22
Small White Pebble Circles นี่คือประติมากรรมประกอบดวยวงกลมลอมรอบกนั 5 วง ซ่ึงใชวัสดุ ของกอนกรวดหนิ ออ นสขี าววางอยบู นพ้นื วงแหวนมีความกวา ง 10 เซนตเิ มตร และหา งออกไป 10 เซนติเมตร แผอ อกมาจากเสนผา นศูนยก ลางประมาณ 20 เซนติเมตร วงกลมดานนอกมเี สนผานศูนยก ลาง 2 เมตร เพือ่ ใหง านน้ี กอนกรวดขนาดประมาณเทา ๆ กัน (กวางระหวาง 15 ถงึ 25 เซนติเมตร) จะถกู เทลงในหนึง่ ชั้น หรือสองช้นั ระหวางวงกลมท่หี อ ยลงบนพื้น และทำใหพื้นผิวเรยี บขน้ึ ดวยปลายนว้ิ Long ไดระบุวา ควรมคี วามหนาแนนของหนิ ในแตละวง โดย เขยี นคำแนะนำในการตดิ ตั้งของเขาวา \"งานท้งั หมดควรมีลักษณะสมดุล และเปนวงกลม\" (Small White Pebble Circles certificate, gallery gallery, Tate Archives, London) 23
sahara circle วงกลมซาฮารา แสดงใหเห็นวงกลมทีส่ รางจากองคป ระกอบของสภาพ แวดลอ มของเขาในการเดินทางไปแอฟริกา ในพื้นทขี่ องทะเลทรายซาฮารา ที่ แสดงในภาพนี้ทะเลทรายมีลักษณะเปน ดินสนี ำ้ ตาลแดง และโขดหิน แทนที่จะเปนเนนิ ทรายสที อง ซึง่ งานช้ินนีไ้ ดอ นญุ าตใหศิลปน ท่ีจะทำใหแ หวน ของหนิ รอบพื้นที่วงกลม มหี ินหกั ทเ่ี ปลี่ยนแปลงเปน ทรายสีนำ้ ตาลละเอยี ด ไมชดั เจนวาภาพพ้ืนผิวทเ่ี ปลีย่ นแปลงบนพนื้ ผิวโลกนเ้ี ปนผลมาจากกจิ กรรม ขนาดใหญข องศิลปน หรอื ไมวาจะมกี ารเปลี่ยนแปลงอยางกะทนั หันหรือไมก ็ตาม ตามปกติในภาพวงกลมในแนวนอนภาพเปนศนู ยกลางในวงกลมเหนอื ขอบฟา ในภูมิทศั นทสี่ มบูรณแหงแลง Long ผลติ ภาพ และขอความจากท่ีเขาเคยเดนิ ใน ภูมิทัศนท งี่ ดงามของภูมภิ าค Hoggar ของทะเลทรายซาฮารารวมถึง Hoggar Circle และ Touareg Circle ซ่ึงทำใหเ ขาเคลยี รหนิ จากพื้นโลกเปนวงกลมและวงแหวน Sahara Line และ Sahara Standing Stone Line แตล ะเสนแสดงโขดหนิ ท่ีทำ จากทะเลทราย Rocky-textured Dusty Boots Line ซึ่งเขาเตะหนิ กรวดออกจาก แนวฝุนและหิน Hoggar 24
A Line in the Himalayas 1975, printed 2004 เปน หนึ่งในหลายรูปท่เี กิดจากการลองเดนิ มานานในเทือกเขาหมิ าลัยเนปาลเมือ่ ป ค.ศ. 2518 แสดงใหเหน็ ภมู ิประเทศทข่ี รขุ ระ และยอดเขาท่ขี รขุ ระปกคลุมไปดวยหิมะซึ่งเปน ทร่ี าบสูงภูมปิ ระเทศท่ีแหง แลงโดยท่ัวไปจะมีลกั ษณะเปน ท่รี าบสูง ทอ งฟาเปนสนี ำ้ เงนิ เขม และยอ มสหี ิมะและหนิ สขี าว เร่มิ ตนทเี่ บอื้ งหนา และหายตวั ไปในพื้นผิวของภเู ขามืดขลุก ขาดอยดู านขา งของภาพแนวหนิ สขี าวทแ่ี คบ ๆ ขึน้ ตรงแนว ไมม กี ารปรากฏตวั ของมนษุ ย หรอื สตั วใด ๆ เปนการยากทจ่ี ะวัดขนาดของกอนหินและโขดหินทโี่ ผลออกมาซง่ึ รวมถงึ ระยะทางระหวางเบื้องหนา และภูเขาในระยะไกลท่ีไมมพี น้ื ตรงกลาง 25
A line in japan เขาเริม่ ทำงานนีใ้ นป 1979 เชนเดยี วกับงานชิน้ อน่ื ที่มาจาก การทดลองเดินเลนของเขา และวางกอนหนิ ทีพ่ บในที่นน้ั ๆ เปน เสน ยาวๆ ท่ีดสู วยงาม แตก อ นจะเปน งานน้ี ตอนแรกเขาเขาใจวา การมาญ่ีปุนของเขา เขาจะพบชวงหมิ ะตกพอดี แตค วามจรงิ มนั ไมม ี เขาเลยไมส ามารถทำตาม ความคิดทเี่ ขาวางไวไ ด แตเ ขามาถึงแลว เขาก็เลยคดิ จะทำ ภมู ศิ ลิ ป A Line in Japan (1979) เกดิ จากความคดิ เดิม ของฉันในการทำแผนทที่ ำแผนท่เี ดินรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจติ ามแนวหิมะ อยางไรกต็ ามเนือ่ งจากไมมีหิมะบนภเู ขาเลย เมือ่ ฉนั มาถงึ ฉนั ตองปฏิบตั ิ ตามแนวคิดท่แี ตกตางออกไป (อา งถึงใน Tufnell 2007, หนา 33) 26
The Floating Piers 2016 christo and jeanne claude
3 christo and jeanne claude
Biographie Christo และ Jeanne Claude ช่อื เตม็ ของเขาทัง้ คคู อื Christo Javacheff และ Jeanne-Claude de Guillebon (Christo เกดิ เม่ือวนั ที่ 13 มิถนุ ายน 1935 Gabrovo บลั แกเรีย Jeanne Claude เกดิ เมอื่ วนั ท่ี 13 มถิ นุ ายน 1935 Casablanca โมรอ็ กโก และเสียชีวิตในวนั ท่ี 18 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2552 New York New York, US) ทง้ั คเู ปนนักภูมิศิลป ทางดา นประตมิ ากรสิง่ แวดลอ ม งานภูมิศลิ ป หรือประตมิ ากรรมกลาง แจง ของพวกเขามักจะเกย่ี วของกับการแสดงอนุสาวรียข องผา และพลาสตกิ เขาพบกนั ครัง้ แรกใน Paris ในเดอื นตลุ าคม ป 1958 ซ่งึ Christo ไดว าดภาพ คณุ แมข อง Jeanne Claude จากน้ันพวกเขาทง้ั คกู ็ตกหลมุ รักกนั และรว มสรางงานศิลปะ ดวยกนั ในท่สี ุด ผลงานที่มชี ่อื เสียงของเขา เชน the wrapping of the Reichstag ,ในกรงุ เบอรล ิน the Pont-Neuf bridge ในกรงุ ปารสี ,Running Fence (งานผายาวถึง 39 กโิ ลเมตร หรือ 24ไมล) ในเมอื งโซโนมา และมารนิ ในรัฐแคลิฟอรเ นีย และ The Gates ในเซน็ ทรลั ปารค ของเมืองนิวยอรค 29
ในชว งแรกงานศิลปะของท้งั คู มีแค Christo เทานัน้ ทว่ี งการศลิ ปะ ใหเครดติ ในการสรางงาน จนถงึ ป 1994 เมือ่ มกี ารสรางงานกลางแจงขนาดใหญ ท่ีถกู ตดิ ตงั้ โดยพวกเขา ทางวงการศิลปะกใ็ หเ ครดติ เขาทั้งคู รวมถึงใหย อนหลงั ดว ย วา งานศลิ ปะพวกนี้ เปนของ \"Christo and Jeanne Claude\" เวลาทำงานทต่ี องใชเครอื่ งบิน บินขามรัฐ ขา มประเทศ พวกเขาคิดทจี่ ะ น่งั แยกลำกนั เพื่อทีว่ าหากเครอ่ื งใดเครอ่ื งหนงึ่ เกิดอบุ ัตเิ หตุ อีกคนสามารถไป ดำเนินการสรางงานใหเ สรจ็ ได Jeanne Claude เสยี ชวี ิตอายุ 74 ป ในวันท่ี 18 พฤศจกิ ายน ค.ศ. 2009 จากภาวะแทรกซอนของสมองหลอดเลอื ดโปงพอง แมวา ผลงานของพวกเขาจะนาประทับใจ และมักมีการโตเถยี งอนั เปน ผล มาจากขนาดของงานศลิ ปะ แตศ ิลปนตางปฏเิ สธวา โครงการของพวกเขามคี วามหมาย ลึกซึ้งกวาผลกระทบดานสนุ ทรียภาพในทันที วตั ถปุ ระสงคข องศิลปะของพวกเขา คอื การสรางงานศิลปะเพื่อความสุข ความงาม และเพือ่ สรางวธิ ีใหมใ นการดู ภมู ปิ ระเทศที่คนุ เคย นกั วิจารณศ ิลปะ David Bourdon ไดอธบิ ายเร่ืองของ Christo วา เปน \"การเปด เผยผา นการปดบงั \" Christo ตอบวา \"ฉันเปน ศลิ ปน และฉนั ตองมีความกลา หาญ ... คุณรหู รือ ไมวา ฉนั ไมม ี งานศลิ ปะทีม่ อี ยทู ง้ั หมดพวกเขาทัง้ หมดกห็ ายไป เมือ่ พวกเขาเสร็จส้นิ เพยี งภาพวาดเตรยี ม และภาพตดั ปะจะเหลือใหฉันทำงานเปนคนในตำนาน จนฉนั เกือบคดิ วามันตองใชความกลา หาญมากขน้ึ เพือ่ สรา งส่งิ ทีจ่ ะหายไปกวา การสรา งสิ่งที่จะยงั คงอย”ู 30
running fence เปนงานภมู ศิ ิลปที่มคี วามสูง 18 ฟตุ (5.5 เมตร) ความยาว 24.5 ไมล (39.4 กโิ ลเมตร) ซึ่งทอดยาวไปทางตะวนั ออกเฉยี งใตใ กลทางดว น 101 ทางตอนเหนอื ของซานฟรานซสิ โก ซง่ึ อยบู นท่ดี ินสว นตวั ของเจาของฟารม ถึง 59 ราย ไลต้งั แตต าม เนนิ เขากลิง้ ลงสมู หาสมทุ รแปซฟิ ก ท่ี Bodega Bay พวกเขาทำงานชนิ้ นเ้ี สรจ็ เม่อื วนั ที่ 10 กนั ยายน ค.ศ. 1976 โครงการของงานศลิ ปะชิ้นน้ีมีระยะเวลาในการขอความรว มมือถงึ 42 เดอื น ซึง่ ตอ งใชค วามพยายาม รว มกับการมสี วนรว มของเจาของฟารม การพิจารณาคดีสาธารณะถึง 18 ครง้ั และยงั มถี งึ 3 ครัง้ ท่ศี าลสงู ของรฐั แคลฟิ อรเ นยี จนถึงข้นั รา งรายงานผลกระทบดานส่งิ แวดลอม 450 หนา ถงึ การใชงานช่วั คราวของเขา ทีม่ ผี ลกระทบตอ เนินเขา ทองฟา และมหาสมุทร 31
the gates งานภูมิศิลปช ้ินนีถ้ กู ตดิ ตง้ั ในเซ็นทรลั ปารค เสร็จสมบรู ณด ว ยการบานของ แผงผา 7,503 ชิน้ เมือ่ 12 กุมภาพนั ธ 2005 ประตจู ำนวน 7,503 บาน มคี วามสงู 16 ฟุต (4.87 เมตร) และแตละชน้ิ มีความกวา งจาก 5 ฟตุ 6 นิว้ ถึง 18 ฟุต (1.68 ถงึ 5.48 เมตร) ตามความกวา งที่แตกตางกนั 25 ทางเดนิ บนทางเดนิ 23 ไมล (37 กิโลเมตร) ในเซ็นทรลั ปารค แผนแขวนผาสีเหลอื งแขวนคอฟรีแขวนจาก ดานบนสดุ ของแนวนอนของประตูลงมาประมาณ 7 ฟุต (2.13 เมตร) เหนอื พน้ื ดนิ ประตมู ีระยะเวน ระยะ 12 ฟตุ (3.65 เมตร) เวน แตทางที่ต่ำลงไปเหนือทางเดนิ ประตู และแผงผา สามารถมองเห็นไดจากท่ไี กลออกไปผานก่งิ กานใบของตนไม งานศิลปะยงั คงอยเู ปนเวลา 16 วันจากน้ันประตกู ็ถูกนำออก และนำมาทำเปน วัสดุรไี ซเคลิ เชนเคย 32
Surrounded Islands เม่อื วนั ที่ 7 พฤษภาคม ค.ศ. 1983 การติดตงั้ Surrounded Islands กเ็ สรจ็ สมบูรณในอา วบิสเคยน ระหวางเมอื งไมอามมี ลรัฐนอรท ไมอามี หมบู านไมอามชี อร และไมอามีบชี หมเู กาะทีต่ งั้ อยใู นพืน้ ทข่ี อง Bakers Haulover Cut, Broad Causeway ,79th Street Causeway, Julia Tuttle Causeway และ Venetian Causeway ถูกลอ มรอบไปดวยผา โพรพิลนี ทอสชี มพูแบบลอยตัวซง่ึ มีเนอ้ื ท่ี 6.5 ลานตารางฟุต ครอบคลุมพืน้ ผวิ ของน้ำ และขยายออกไป 200 ฟุต (61 เมตร) จากแตละเกาะ ลงในอาว ผา ถกู เยบ็ เปน รูปแบบ 79 รูปแบบตามรูปทรงของเกาะ 11 แหง เวลาสองสปั ดาหถัดมา Surrounded Islands กระจายไป 7 ไมล (11.3 กโิ ลเมตร) ไดเ หน็ ประชาชนเขา หา และมคี วามสุขจาก causeways ท่ีดนิ น้ำ และอากาศ สชี มพสู อ งสวา งของผาเงางามตดั กบั พชื เขตรอ น ของเกาะทเ่ี ขยี วขจ ไดเปนอยา งดี ภมู ิศลิ ปช้ินน้ไี ดแ สดงแสงจากทองฟาในไมอามี และสีของนำ้ ตนื้ ในอาวบิสเคยน ถอื เปน การเนรมิตเกาะท่ไี มมีใครอาศยั อยู ใหอ อกมามชี วี ิตชวี า 33
Wrapped Reichstag Wrapped Reichstag ถกู สรางเสรจ็ สมบูรณเ ม่อื วนั ที่ 24 มิถนุ ายน 2538 โดยแรงงาน 90 คน และพนักงานตดิ ต้งั 120 คน Wrapped Reichstag ยงั คงหอ เปน เวลา 14 วนั และวัสดทุ ง้ั หมดกถ็ กู นำมารไี ซเคิล เชน เดยี วกับงานภูมศิ ิลปอ ื่นๆของเขา ใชผ าสีเงนิ และเสนใยโพลีโพรพีลีนสนี ้ำเงินขนาดเสน ผา ศูนยกลาง 1.26 นวิ้ (3.2 เซนติเมตร) จำนวน 1,076,390 ตารางฟตุ (100,000 ตารางเมตร) ทท่ี ำจากโพลโี พรพลิ นี เนอ้ื หนาทอ ทมี่ ีพ้ืนผิวอลมู ิเนยี ม และเสนใยโพรพิลนี ขนาด 9.6 ไมล (15.6 กโิ ลเมตร) ขนาดเสนผานศนู ยก ลาง 1.26 นิ้ว (3.2 เซนติเมตร) อาคาร และหลงั คาถกู ปกคลุมไปดวยแผน ผาทถี่ กู เย็บถงึ 70 ชนิ้ ซึง่ เมอ่ื คำนวณ พื้นที่แลว ผาทงั้ หมดจะมเี นอ้ื ท่ีเปน สองเทา ของพ้นื ผวิ อาคารเลยทีเดียว 34
alpine ice circle 2013 martin hill
4 martin hill
BIOGRAPHY มารต นิ ฮิลล เกิดเมือ่ ป ค.ศ. 1946 ในกรุงลอนดอน องั กฤษ ซง่ึ เขาไดรับการ ศึกษาดานศลิ ปะและการออกแบบ ตง้ั แตป ค .ศ. 1992 ผา นรปู แบบตา งๆของการจัด พิมพร วมทัง้ หนงั สอื ในป 2007 “Earth to Earth” ประติมากรรมไดแ รงบนั ดาลใจ จากการออกแบบของธรรมชาตริ ปู ประตมิ ากรรมดานสิ่งแวดลอมของฮลิ ลได แพรหลายไปทัว่ โลก เขามีการจดั นทิ รรศการเดี่ยว ในญี่ปุน สวเี ดน ออสเตรเลีย จนี อนั ดอรรา และนวิ ซีแลนด ไดร ับงานประติมากรรม และโครงการทไ่ี ดรับมอบหมายจากเอกชน จำนวนมาก โครงการ Fine Line เร่มิ ขึ้นเม่ือปค.ศ. 1995 ดวยความรวมมอื กับคูห ู Philippa Jones และใกลจะเสรจ็ สมบรู ณเ ปน สัญลกั ษณทีล่ อมรอบแผนดนิ โลกซึง่ เช่อื มตอรปู ประตมิ ากรรมช่ัวคราวซ่ึงสรา งขึน้ จากจดุ สงู สุด 12 จุด 37
Delicate Canvas (short film) 2013 (25 minute) Delicate Canvas เปนภาพยนตรสารคดีเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของเขา ในป 2011 โครงการลุมน้ำไดร ับการสรางข้นึ ในระหวางทพ่ี กั อาศยั ของ Kenneth Myer Alpine Artist เขาและ Philippa ไดรับรางวลั ในปค .ศ. 2012 ในเทือกเขา Southern Alps ของนิวซแี ลนดใกล Wanaka ทพ่ี วกเขาอาศัยอยู พน้ื ที่ลมุ น้ำได มกี ารจัดแสดงทีส่ วนประตมิ ากรรมและแกลเลอร่ี McClelland Melbourne ในป 2014 และไดร บั รางวัลยอดเย่ยี มแหงปท ่ี Pingyao International Photography Festival Hill and Jones ซง่ึ เปน ศลิ ปนที่ไดรับเชิญใหเขา รว มแอนตารกติกาโดย แอนตารกติกานวิ ซแี ลนดธนั วาคม 2014 ในป 2015 พวกเขาไดเ ขา รว มในท่ีพักอาศยั ของศิลปน NR Conservation ใน Dusky Sound Fiordland และมีการจดั แสดง เด่ียวสองชิ้น ไดแก Andorra Land Art Biennale และ Inter Art Center and Gallery, ปกก่ิง ในป 2016 ไดรับคดั เลอื กใหเ ปน ผูเขารอบสุดทา ยใน Arte Laguna ,Venice และไดร ับรางวลั ชนะเลิศอนั ดับ 1 ประเภท Conceptual ในรางวัล Fine Art Photography Awards 38
watershed งานภมู ศิ ิลปชิ้นน้ี ถอื เปน งานทีม่ ีรูปทรงแปลกใหม โดดเดน อยา งเปน เอกลักษณ ซ่งึ งานช้ินน้ีถูกสรางขน้ึ เพื่อเฉลิมฉลองการไดรบั รางวัล Kenneth Myer Artist's และ Writer's Alpine Retreat ซงึ่ งานภมู ศิ ิลปเ กิดข้นึ ใน 21 วัน ทเ่ี ขาพกั อยทู ่ี Whare Kea Chalet ในความสูง 1700 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ที่ Albert Burn Saddle ใกล ภูเขา Aspiring ในเทือกเขา Southern Alps ของประเทศนิวซแี ลนด หลังจากการวจิ ัย เขาตดั สินใจวาต้ังแตแหลง ท่มี าของแมนำ้ สองสายเลด็ ลอด ออกมาจาก Albert Burn Saddle โครงการจะมงุ เนนไปที่วงจรนำ้ ซ่ึงมันมีอิทธิพล ตอการใชช ีวติ ของมนุษยในทกุ ๆดา น และศลิ ปนตองการแสดงใหเห็นถงึ ความสำคญั ของมนั ในการทำงานรว มกบั Philippa Jones โครงการลมุ นำ้ ประกอบดว ย ประติมากรรมท่สี ามารถปลอ ยไดต ามธรรมชาตไิ ดย าวนานถงึ 25 ชิน้ ในชวงเวลา 1 ป เขาสามารถทำงานประติมากรรมไดแค 2 ชน้ิ ซ่งึ ถือวา มันละเอียดออนมากๆ 39
fine line project โครงการ Fine Line เร่ิมคดิ คนขึน้ ในป ค.ศ.1995 จากภาพดา นบนถือเปน งานภูมศิ ิลปแ รกของโครงการน้ี ถกู สรา งข้นึ ในปค .ศ.1997 ซ่งึ โครงการน้ีเปนโครงการ ดา นศิลปะ และวทิ ยาศาสตร ดา นส่ิงแวดลอ มระดับโลก ประกอบดวยงาน ประติมากรรมช่วั คราวจำนวน 12 ชิน้ ทที่ ำเปน จดุ สงู ที่เชือ่ มโยงกันเปนเสน เสน ลอมรอบแผนดนิ ท่ีเร่ิมตน และส้นิ สดุ ท่ียอด ภูเขา Ngauruhoe ในประเทศ นิวซแี ลนด และเปน สัญลักษณของเครือขายท่ีเช่ือมตอ และพึ่งพาอาศยั กันของ ระบบธรรมชาติที่เชื่อมโยงเราเขา กับความจริงแหง ชีวติ ประติมากรรมแตละช้ินทำ จากวสั ดุธรรมชาตทิ ่ีพบในสง่ิ แวดลอ มตามธรรมชาติ และพรอ มท่ีจะกลับคืนสู ธรรมชาติ เขามีวตั ถุประสงคเพื่อสรางการบรรยายท่มี ีประสทิ ธภิ าพดวยงานศิลปะ ทท่ี ำหนาทเ่ี ปน ความเขา ใจของคนท่ัวโลก และการดำเนนิ การตอดวยการออกแบบ ระบบมนษุ ยเพ่อื ใหส อดคลอ งกบั หลกั การปฏบิ ตั ิตามระบบวัฏจกั รของระบบธรรมชาติ 40
FRAGILE CANVAS ความออนแอของสมดลุ ทางนเิ วศวิทยาของระบบนเิ วศนโ ลกเปนประเด็น สำคัญการทำงานภมู ิศลิ ปช้นิ น้ี ดว ยตัวงานจะตรวจสอบความสัมพนั ธท่ลี ะเอยี ดออ น ระหวางระบบของมนษุ ย กบั โลกธรรมชาติ เพราะงานภูมศิ ิลปช น้ิ นี้ ใชว สั ดุทบ่ี อบ บาง ทำใหใครจะมาทำอะไรกับมันกไ็ ด ซง่ึ เปน การทดสอบของศิลปน ในการ สังเกตการยอยสลายไปตามธรรมชาตขิ องงานภมู ศิ ลิ ปช ดุ นี้ เขาไดส รางผลงานเหลา นี้ขนึ้ ในภูเขาที่อยรู อบทะเลสาบ Wanaka และ ฝง ตะวันตกของทะเลสาบนี้ ซ่ึงอยใู นประเทศนิวซีแลนด ในขณะท่ีผสู รางภาพยนตร James Blake และ Joey Bania ไดสรางภาพยนตรเกือบกบั งานศลิ ปะของเขา และ ไดใ หขอ มูลเกี่ยวกับการปฏิบัติงานศลิ ปะ และปรัชญาทเี่ ปน รากฐานดงั กลาว ภาพยนตรเร่อื งนีม้ ีชอ่ื วา Delicate Canvas ซง่ึ ไดรับการจดั แสดงในเมือง Dunedin และในงานเทศกาลภาพยนตรน านาชาติ ผลงานชิ้นนี้จัดขนึ้ ที่ Gallery 33 ใน Wanaka และ Dunedin ท่ีมีช่ือวา “Fragile Canvas” 41
THE MILLENIUM PROJECT เพอ่ื เฉลมิ ฉลองการโคจรของโลกรอบดวงอาทิตยครบ 2000 ครั้ง ในปค .ศ. 2000 ศลิ ปน ตดั สนิ ใจเลอื กชดุ ประตมิ ากรรมโดยใชองคประกอบท่ี ประกอบดว ยวัสดุถึง 2,000 อยาง ประตมิ ากรรมเหลาน้ถี ูกสรา งข้ึนในสถาน ที่หลากหลายท้ังชายหาด ปา ภเู ขาไฟ และทางเดินภเู ขา วัสดธุ รรมชาตทิ ีใ่ ช พบไดในแตล ะพนื้ ทท่ี ี่เขาไดทำงานภูมศิ ิลปนน้ั และวสั ดกุ ็ไดกลับสูระบบธรรมชาติ ท่ีพวกมนั มา ขน้ั ตอนการรวบรวม และนับจำนวน 2,000 ชิน้ เปน อะไรทย่ี ากมาก และพถิ ีพถิ นั มาก แตเขาก็ทำมนั ออกมาไดส ำเรจ็ ชดุ ของ 12 ผลงานไดรบั การเผยแพรเ ปนปฏทิ นิ สากล และผลงาน หลายชิ้นมใี หเลอื กเปนพิมพอ ยางจำนวนจำกดั 42
4 SYNOPSIS
Search