Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore MUSES เทพธิดาแห่งศิลปะ

MUSES เทพธิดาแห่งศิลปะ

Published by Kachornpon, 2020-06-09 01:53:44

Description: MUSES เทพธิดาแห่งศิลปะ_13580219_บุษกร_ชิงชนะ_ออกแบบ

Search

Read the Text Version

MUSES เทพธิดาแหง่ ศิลปะวทิ ยาการ เรียบเรยี ง บษุ กร ชงิ ชนะ

MUSES เทพธดิ าแหง่ ศลิ ปะวทิ ยาการ บุษกร ชิงชนะ : เรียบเรียง บษุ กร ชงิ ชนะ : ออกแบบปก บุษกร ชิงชนะ : ออกแบบรปู เล่ม บุษกร ชงิ ชนะ : พิสูจน์อักษร พมิ พค์ รงั้ แรก พ.ศ. 2559

บทนำ� MUSESเทพธดิ าแหง่ ศิลปะวทิ ยาการ เรอ่ื งท่จี ะนำ�เล่าใหฟ้ ังในเลม่ นี้ เป็น เรื่องราวเกย่ี วกบั เทพธิดาทั้ง 9 พระองค์ ทท่ี รงมีความสามารถในดา้ นศิลปะและ วิทยาการ โดยทเ่ี ป็นเรอ่ื งท่นี ่าแปลกใจ ในเมอื่ สมัยกรีกโบราณน้ัน ไมใ่ หส้ ตรีไดร้ ับการ ศกึ ษาใดๆ แต่กลบั ยกให้เทพธดิ าทงั้ 9 องค์นเี้ ป็นสัญลักษณ์แสดงถงึ สติปญั ญาและ ความสามารถ ซงึ่ เปน็ เรือ่ งที่น่าแปลกใจย่ิงนัก และเปน็ เร่อื งท่ีน่าสนใจอยา่ งย่งิ ทง้ั นีข้ ้าพหวังวา่ ผ้อู ่านจะไดร้ ับความบนั เทงิ และความรหู้ ลังจากอ่านหนงั สอื เลม่ นี้ บุษกร ชงิ ชนะ

สารบญั 5 ทมี่ าของมิวส(์ Muses) 8 ไคลโอ (Clio) ผเู้ ปน็ มิวสแ์ หง่ ประวัติศาสตร์ 12 ธาไลอา (Thalia) ผูเ้ ป็นมวิ สแ์ ห่งสขุ นาฏกรรม 16 เอราโต (Erato) ผเู้ ปน็ มวิ ส์แห่งกวนี ิพนธ์รกั ยูเทอรพ์ ี (Euterpe) ผเู้ ปน็ มวิ ส์แห่งกวนี ิพนธค์ ตี กานท์ 18 โพลิฮมิ เนยี (Polyhymnia) ผเู้ ป็นมวิ สแ์ ห่งเพลงสดดุ ปี วงเทพ 20 แคลลีโอพี (Calliope) ผู้เป็นมิวส์แหง่ กวนี พิ นธม์ หากาพย์ 24 เทิร์ปซิคอเร (Terpsichore) ผูเ้ ป็นมวิ สแ์ ห่งนาฏศิลป์ ยเู รนิอา (Urenia) ผ้เู ปน็ มิวสแ์ ห่งดาราศาสตร์ 26 เมลพอมินี (Melpomene) ผู้เป็นมวิ สแ์ ห่งโศกนาฏกรรม 30 34 ผลงานศลิ ปะท่เี ก่ียวข้อง บรรณานุกรม 38 42

ท่ีมาของมิวส์(Muses) ชาวกรกี เป็นชนชาตหิ นึง่ ที่มคี วามสามารถที่เกง่ กาจทางด้านวิชาการศลิ ปะ จงึ ทำ�ให้ประเทศกรซี เปน็ ประเทศที่เจรญิ รวมถงึ ชาวโรมนั ก็ไดร้ ับอทิ ธิพลน้ไี ปเช่น กัน ซ่ึงก็สง่ ผลใหอ้ าณาจักรโรมนั กลายเปน็ อาณาจักรท่ีมอี ารยธรรมและยิง่ ใหญ่ ซงึ่ ถูก จารกึ ไวใ้ นประวัติศาสตร์ ชาวกรีกจงึ เช่ือวา่ วิชาต่างๆยอ่ มมเี ทพเจา้ พิทกั ษ์ ซ่งึ จะคลา้ ย กลบั ทางบา้ นเราท่ีจะมคี รูคอยปกปักรกั ษาอยู่ในเคร่ืองดนตรไี ทยซ่งึ ผู้ท่เี ล่นต้องแสดง ความเคารพกอ่ นเลน่ เสมอ และชาวกรกี กไ็ ด้ให้ความสำ�คญั กบั ศลิ ปศาสตรเ์ พราะสิง่ นที้ �ำ ใหพ้ วกเขากลายเป็นอารยชน จงึ การจดั ตัง้ กลุ่มเทพี 9 พระองค์ เพ่อื พทิ กั ษ์รกั ษา ศาสตร์แหง่ ศลิ ปะ 9 แขนง เหล่าเทพกี ล่มุ น้คี อื กล่มุ เทพีมิวส์ 9 เทพีแหง่ ศิลปะศาสตร์ กลุม่ เทพีมวิ ส์ ทรงเปน็ พระธดิ าในเทพซอี ุสกับเทพนี โี มซนิ ี ซึง่ เขาว่าเทพี เหลา่ น้ีมีความงามและมีความสามารถเกง่ กาจและทรงความรู้ พระนางนโี มซินี ทรง สามารถจ�ำ จดเร่ืองราวต่างๆได้ยา่ งแมน่ ย�ำ และทรงเล่นเรอื่ งราวตา่ งๆให้แก่เหลา่ กเทพี มิวส์ ฟงั ไม่ว่าจะเปน็ เรอื่ งการสิ้นอำ�นาจของพวกเทพไททัน เร่อื งเทพของพระอาทิตย์ และดวงดาวทัง้ หลาย เรือ่ งของเทพโพรมที ิอสั ผู้ทีข่ โมยไฟมาจากสวรรคเ์ พ่อื มาใหแ้ ก่ มนุษย์ โดยเฉพาะเร่ืองของมหาเทพผู้ยง่ิ ใหญ่อย่างมหาเทพซีอสุ ซึ่งเปน็ เทพบิดาของ เหล่าเทพแี ห่งศิลปวิทยาทง้ั 9 เทพแี ห่งสตปิ ัญญาไม่ได้มแี คเ่ ทพอี ธนี ่าเปน็ เทพีแห่งสติ ปัญญาพระองคเ์ ดยี ว แตเ่ ดิมกลุ่มเทพมี วิ สน์ ี้ก็เป็นเทพีแหง่ ความรมู้ ากก่อนเสยี อกี ตอน หลังจึงกลายมาเปน็ พวกเดียวกบั เทพอี ธีนา่ เนื่องจากกล่มุ เทพีมิวส์คดิ วา่ พวกตนน้นั สูงส่งเพราะมสี ตปิ ญั ญาและความงาม มไิ ดง้ ามและโงเ่ หมือนเทพที ่ีชอบใช้ความงามไป เล่นชไู้ ปจับผชู้ าย 6

ในกลมุ่ เทพธดิ าเหล่าน้ีมดี ้วยกัน 9 พระองค์ ซึ่งได้แก่ ไคลโอ (Clio) ผู้เปน็ มิวสแ์ ห่งประวตั ิศาสตร์ มีสญั ลักษณ์ประจำ�ตวั คอื ม้วน กระดาษและหนงั สอื ธาไลอา (Thalia) ผู้เป็นมิวส์แห่งสุขนาฏกรรม มีสญั ลักษณป์ ระจ�ำ ตวั คอื หนา้ กากในการแสดงละครสขุ นาฏกรรม เอราโต (Erato) ผเู้ ป็นมวิ สแ์ ห่งกวีนิพนธร์ ัก มสี ญั ลกั ษณ์ประจำ�ตัวคือพณิ เจ็ดสายท่เี รยี กวา่ คิธารา (Cithara) ยูเทอร์พี (Euterpe) ผ้เู ปน็ มิวส์แหง่ กวนี ิพนธค์ ตี กานท์ มสี ัญลักษณ์ประจำ� ตัวคอื ขลุย่ และเคร่อื งออลอส (Aulos) โพลฮิ ิมเนยี (Polyhymnia) ผู้เป็นมวิ ส์แห่งเพลงสดุดีปวงเทพ มีสัญลักษณ์ ประจำ�ตัวคอื ผา้ คลมุ ศีรษะ แคลลโี อพี (Calliope) ผเู้ ป็นมิวสแ์ หง่ กวนี พิ นธม์ หากาพย์ มีสัญลักษณ์ ประจ�ำ ตัวคือกระดานชนวน เทริ ป์ ซคิ อเร (Terpsichore) ผู้เปน็ มวิ สแ์ หง่ นาฏศิลป์ มีสญั ลักษณ์ประจำ� ตวั คือพณิ ไลร์ (Lyre) ยูเรนิอา (Urenia) ผเู้ ป็นมิวสแ์ หง่ ดาราศาสตร์ มสี ัญลกั ษณป์ ระจำ�ตวั คือ ลกู โลกและเข็มทศิ เมลพอมินี (Melpomene) ผู้เปน็ มวิ ส์แห่งโศกนาฏกรรม มสี ัญลกั ษณ์ ประจ�ำ ตวั คือหนา้ กากในการแสดงละครโศกนาฏกรรม 7

รวมเป็นกลมุ่ เทพธิดามวิ ส์ พวกนางไดน้ ำ�เรอ่ื งพระมารดาทรงเล่าไว้ไปแต่ง เป็นบทรอ้ ยกลอนและบทเพลง พวกนางได้รับการฝกึ ให้ร้องเพลงประสานเสียงกัน และนำ�ไปขบั ร้องในท้องพระโรงของโอลิมปัส เวลาโอลิมปัสมงี านฉลอง เหล่าเทพธิดา ทั้ง 9 มักจะข้นึ มารว่ มงานแสดง และมกั จะไดใ้ จเหล่าทวยเทพเพราะพระเทพีแตล่ ะ องคล์ ้วนมคี วามงามและเก่งกาจเกินสตรที ี่พงึ่ จะมี ซงึ่ บางครั้งจะรว่ มแสดงกบั กล่มุ เทพี เกรซ และมีเทพอะพอลโลร่วมบรรเลงด้วย สามารถสร้างสีสนั ได้เปน็ อยา่ งดี ด้วยในสมัยกรีกโบราณการศึกษาเป็นถือสิง่ ต้องหา้ มมากส�ำ หรบั สตรที ่จี ะ เรยี นรู้ แตก่ ารที่วชิ าศลิ ปศาสตรซ์ ึง่ เป็นศาสตรแ์ หง่ บุรษุ ทตี่ ้องศึกษา แตย่ กยอ่ งใหม้ ี เทพเจา้ ท้งั เก้าพระองค์ ท่เี ป็นพระเทพรี บั หนา้ ท่ีพทิ กั ษ์ดูแลแสดงถึงความปรารถนา และความฝนั อันเป็นไปไมไ่ ด้สำ�หรบั สตรดี ว้ ยความกดข่ีต่างๆนานา ซ่ึงแฝงความหมาย ด้วยความต้องการว่าสกั วันข้าจะต้องเปน็ เหมอื นพระเทพผี ู้มคี วามงามและฉลาดเป็น นกั ปรชั ญา และขา้ จะไมต่ ้องมาโง่เปน็ เพยี งเครื่องระบายทางอารมณ์หรืออะไรคอย สบื สายพนั ธ์อุ กี ต่อไป เม่อื ฉันมคี วามรคู้ วามฉลาด ฉันคงไม่ต้องมาพ่ึงพาชายใด ขา้ จะ เป็นอิสระและขา้ สามารถยนื ได้ด้วยเทา้ ทงั้ 2 ขา้ งของข้าเอง... ค�ำ วา่ Museum มาจากคำ�ภาษากรีกว่า Mouseione เปน็ ชอื่ ทใี่ ช้เรียก วหิ ารของกลุม่ เทพธดิ าพ่ีน้อง ทัง้ 9 ซ่ึงเรียกรวมกันวา่ Muses เทพธิดามิวส์เหล่านเ้ี ป็น พระธิดาของเทพเจ้าสงู สุดของกรีก แต่ละองค์เป็นเทพธดิ าแหง่ โคลงฉันทก์ าพย์กลอน ประเภทต่างๆ บา้ งก็เปน็ เทพธิดาแห่งวชิ าการ เชน่ ดาราศาสตร์ และประวัติศาสตร์ ฯลฯ ซง่ึ นับรวมวา่ เปน็ เทพธดิ าแหง่ ศิลปะและวิทยาการ มีหน้าที่บรรเริงบทเพลงในพธิ ี บูชาเทพเจา้ และวีรบรุ ษุ 8

Clio by Pierre Mignard (1689)

ไคลโอ (Clio) ผู้เป็นมิวส์แห่งประวัติศาสตร์ คน้ พบขอ้ มลู ที่น่าสนใจเกยี่ วกับความงามที่อศั จรรยข์ องคลีโอซึ่งเปน็ หนงึ่ ใน มิวส์ ท้ัง 9 พระองค์ และเป็นผทู้ ส่ี รา้ งความบันเทงิ แก่เหลา่ เทพบนภเู ขาโอลิมปสั ไคล โอเป็นมวิ สแ์ หง่ ประวัติศาสตรท์ ี่เป็นแรงบันดาลใจให้แกก่ ารพัฒนาของศิลปะศาสตร์ และในสมยั กรีกโบราณ คลีโอเปน็ แรงบนั ดาลใจให้แกก่ วีและนกั เขยี นบทละครเชน่ โฮ เมอร์ ท่อี าศัยอยู่ในกรีซโบราณ ในตำ�นานเชอ่ื กันวา่ ไคลโอและน้องสาวของเธออาศยั อยูเ่ หนอื เมฆสที องที่ ปกคลมุ ยอดศักดิ์สทิ ธิ์ ภูเขาโอลมิ ปสั แตเ่ ดิมเป็นเทพธดิ าผู้มีแกพ่ ระคุณของกวแี ละนกั ดนตรี แตเ่ มอ่ื เวลาผ่านไปมากขึ้นส่งผลใหพ้ วกนางบทบาทมากข้นึ จงึ ก�ำ เนิดเทพธิดา ดา้ นศลิ ปศาสตรใ์ นแขนงตา่ งๆเพม่ิ ขึน้ ซ่ึงคลีโอเป็น มวิ ส์แห่งประวตั ศิ าสตร์ นกั ประวัติศาสตรอ์ า้ งว่าตามประเพณแี ละความเช่อื ของชาวกรีกโบราณ จะเรียกความช่วยเหลอื ของคลโี อเพื่อใหค้ ำ�แนะนำ�และใหค้ วามชว่ ยเหลอื เขาในการ ท�ำ งานของเขาเพ่ือใหป้ ระสบความส�ำ เร็จ ในภาษากรกี ชอ่ื ของเทพธิดาแปลวา่ Kleio ซ่ึงหมายความวา่ \"เพือ่ ให้มีช่ือเสยี ง\" หรอื \"เพ่ือเฉลมิ ฉลอง\" ชือ่ ของนกั ประวัตศิ าสตร์ กรีกและโรมันทม่ี ชี ื่อเสยี งมากทสี่ ุดคอื ตุสเดสตราโบลิวี่ทาสทิ สั และสตาร์ค ไคลโอ เป็นมิวส์ท่ีเปน็ ตวั แทนและเป็นผมู้ ีพระคณุ แกป่ ระวัติศาสตรแ์ ละการ เขียน มกั จะถกู เรียกว่า 'Proclaimer' โดยอาจเพราะ สญั ลกั ษณป์ ระจ�ำ ของเธอ เปน็ มว้ นกระดาษและหนงั สอื เธอมีความสขุ ท่ีจะเลน่ เรื่องราวในอดีตท่ีผ่านมา ซ่ึงในภาษา กรกี คำ�วา่ “history” มาจากค�ำ วา่ kleos หมายถงึ การกระท�ำ ทีก่ ล้าหาญ ในละคร กรกี โบราณมีบทละครอยู่สามประเภท คอื โศกนาฏกรรม ตลก และเสยี ดสีสงั คม ท่ไี ด้ กลา่ วไวใ้ นต�ำ นาน ไคลโอเป็นบุคคลมจี ริงจากในประวตั ศิ าสตร์ 10

ในตำ�นานกรีก กล่าววา่ เทพธดิ าไคลโอนน้ั ไม่ไดม้ พี รสวรรค์เทา่ นัน้ แต่ยัง สามารถสรา้ งแรงบันดาลใจในแกน่ กั ประวัติศาสตร์ เป็นเหมอื นสิ่งศักด์สิ ทิ ธ์ใิ หเ้ คารพ นับถอื และสรา้ งแรงบันดาลใจแก่ผู้ท่นี บั ถือ แม้ว่าไคลโอจะสามารถแรงบนั ดาลใจ และช่วยให้ผ้ทู ีน่ ับถือได้ แตก่ ็ยงั มพี วก ทไ่ี มพ่ อใจอยา่ งรนุ แรง ถามหาศิลปะและความสามารถของไคลโอและนอ้ งสาวเป็น อย่างมาก และในฐานะท่เี ป็นเทพธิดาพวกนางจงึ มชี ีวติ เป็นอมตะ สามารถใชค้ วาม งามของเพลงของพวกเธอ หรือความสามารถด้านการเตน้ รำ�ของพวกเธอในการรกั ษา ผปู้ ว่ ย และชว่ ยรักษาอาการอกหัก พวกเธอยงั ครอบครองพลงั อ�ำ นาจวิเศษของการ เปลี่ยนแปลง 11

12

Thalia, Muse Of Comedy by Louis-Michel van Loo.

ธาไลอา (Thalia) ผูเ้ ปน็ มิวสแ์ หง่ สุขนาฏกรรม ข้อมลู ท่นี ่าสนใจเกี่ยวกับความงามของ ธาไลอา ซึง่ เป็นหนึง่ ในมวิ สท์ งั้ เก้า ธาไลอาเป็นมิวสแ์ ห่งความขบขันและบทกวี ท่เี ป็นแรงบันดาลใจในการพฒั นาของ ศลิ ปศาสตร์และปรบั ในสมัยกรกี โบราณ ธาไลอา เปน็ ท่มี าของแรงบันดาลใจให้กวีและ นักเขยี นบทละครเช่นโฮเมอรท์ อี่ าศัยอยู่ในกรซี โบราณ นกั ประวัตศิ าสตร์อา้ งวา่ ตามประเพณีและความเชือ่ ของชาวกรีกโบราณบท ละครเขียนบทละครตลกจะวงิ วอนขอความช่วยเหลือของ ธาไลอา เพ่ือให้ค�ำ แนะน�ำ และให้ความชว่ ยเหลือเขาในการทำ�งานของเขา โรงละครเปน็ รูปแบบท่สี ำ�คัญและ หลักความบันเทงิ ส�ำ หรบั ชาวกรกี โบราณ บทละครทีม่ กั จะถูกรวมเขา้ กับการเลน่ ดนตรี และการเตน้ รำ� ประเภทของละครมสี ามประเภท ได้แก่ โศกนาฏกรรม ตลก และ เสียดสีสังคม บทละครในโศกนาฏกรร หนงึ่ ในตัวละครหลกั มกั จะได้รับความเดอื ด รอ้ นหายนะ ในละครตลกมเี ทพธดิ าธาไลอาเปน็ สญั ลกั ษณ์ มีก็มกั จะมีความสุข การ เล่นละครในสมยั กรกี โบราณประกอบด้วยกันสามส่วนหลกั ไดแ้ ก่ บท นกั ร้องและ ฉาก การแสดงจะเริม่ ต้นด้วยการพดู บทที่เรียบงา่ ย การพดู เบ้อื งต้น จากนั้นจะมกี าร เข้ามาของนกั ร้องที่ และ ในท่สี ุดก็มฉี ากทส่ี ำ�คัญของการเลน่ ในละครกรกี นกั ร้องที่ บอกเล่าเรอื่ งราวทไี่ มไ่ ด้นกั แสดง นักแสดงใชท้ ่าทางและเปลย่ี นบทบาทโดยการเปลยี่ น หนา้ กาก ท้งั สองหน้ากากใบหน้าหวั เราะและใบหน้าร้องไหท้ ี่เก่ียวข้องกับละคร ซึ่ง เปน็ ตวั แทนแบ่งระหว่างความตลกขบขนั และโศกนาฏกรรม หนา้ กากเป็นสญั ลักษณ์ แห่งแรงบันดาลใจท่ีมีช่ือ ธาไล เปน็ มิวสข์ องตลก (ใบหนา้ หัวเราะ) ในขณะที่ เมล พอมนิ ีเป็นมวิ สข์ องโศกนาฏกรรม (ใบหนา้ ร้องไห้) นักแสดงในโศกนาฏกรรมจะสวม รองเทา้ ท่เี รียกวา่ cothurni เพือ่ สูงใหเ้ หนือนักแสดงคนอนื่ นกั แสดงในบทบาททต่ี ลก ขบขนั เพยี งสวมรองเท้า soled ที่บางคลา้ ยถุงเท้า 14

ธาไลอาเป็นมิวส์ ทเ่ี ปน็ ตวั แทนและเปน็ ผมู้ ีพระคุณแก่ละครตลก เธอมี บุคลิกท่สี นกุ สนานและมชี ีวติ ชีวา สัญลักษณป์ ระจ�ำ ตวั คอื หนา้ กากในการแสดงละคร สุขนาฏกรรม นอกจากนเ้ี ธอยังมภี าพทีเ่ ธอถอื แตรด้วย ธาไลอา และอพอลโลเปน็ ผู้ ปกครองของบตุ รชายทงั้ 6 ท่ี Corybantes ซ่ึงเปน็ นักเต้นทต่ี ิดอาวุธและหงอน ในโหราศาสตร์ มกี ารค้นพบเก้าดาวเคราะหน์ ้อย และตั้งชื่อตามมิวส์ แต่ละองค์ของกรกี ซึง่ ธาไลอา เป็นเคราะห์ขนาดใหญ่ ถกู ค้นพบโดยเจอาร์ วนั ที่ 15 ธนั วาคม ค.ศ.1852 ทห่ี อดูดาวส่วนตวั ของดับบลวิ บิชอปซงึ่ ตั้งอยูใ่ นสวนสาธารณะ Hyde Park, ลอนดอน ในต�ำ นานกรีก กล่าววา่ เทพธดิ าธาไลอานน้ั ไมไ่ ด้มีเพยี งพรสวรรค์เท่านนั้ แต่สามารถสรา้ งแรงบนั ดาลใจแก่ผทู้ น่ี ับถอื รวมท้ังเปน็ ตนแบบใหแ้ กผ่ ู้ท่เี ปน็ นักแสดง 15

16

Erato, Muse of Poetry, by Edward John Poynter

เอราโต (Erato) ผ้เู ป็นมิวสแ์ ห่งกวีนิพนธร์ กั ชาวกรีกโบราณเป็นผู้ทม่ี คี วามสามารถในการแตง่ บทกวี และบทกวีความรกั กวขี องชาวกรกี มที งั้ ประชาชนทั่วไปจนทง้ั กลายเป็นศิลปนิ บทกวขี องกรกี มักจะแต่ง ขึ้นเพือ่ เฉลมิ ฉลองชยั ชนะของนกั กฬี าและเปน็ การระลึกถึงความตายของเหลา่ ทหาร และ แสดงถงึ ความจงรักภักดีตอ่ ศาสนาในรูปแบบของบทสวด กวีที่มีชือ่ เสียงประกอบ ดว้ ย Alcaeus Alcman นาครีอ็อน Bacchylides Ibycus พิน แซฟโฟ นกั กวขี อง ให้ เอราโต ให้ค�ำ แนะน�ำ และใหค้ วามช่วยเหลอื เขาในการทำ�งานของเขา บทสวดมนต์ ต่างๆมกั มแี รงบันดาลใจจากเหลา่ เทพธิดามวิ ส์ ในโหราศาสตร์ มกี ารคน้ พบเก้าดาวเคราะห์น้อย และตัง้ ชอื่ ตามมวิ สแ์ ต่ละ องค์ของกรีก ซงึ่ การคน้ พบดาวเคราะห์น้อยเปน็ ร่วมค้นพบโดยออสการ์ เลสเซอร์ และ วลิ เฮล์ฟอสเตอร์ ใน 14 กนั ยายน ค.ศ.1860 จากหอดูดาวเบอรล์ นิ เป็นช่อื ท่ไี ด้รับการ แต่งต้ังโดยโยฮันน์ฟรานซ์ Encke ผู้อำ�นวยการหอดูดาวและหมายถึง เอราโต มวิ สใ์ น ต�ำ นานเทพเจา้ กรีก เอราโต เปน็ มิวส์ ทีเ่ ป็นตวั แทนและเป็นผ้มู ีพระคุณของบทกวแี ละบทกวี แนวความรกั เอราโตตัวแทนของเพลงแต่งงาน เธอไดร้ บั การอธบิ ายวา่ สวยงามนนั้ น่าหลงใหล สัญลักษณข์ องเธอเป็นพณิ ประเภทของพณิ นอกจากนีเ้ ธอยงั มีภาพท่ีคู่เต่า นกพริ าบและลูกศรสที อง ซ่ึงเปน็ ตวั แทนของความรัก บางครงั้ เธอจะมาพรอ้ มกบั พระเจา้ Eros ซ่ึงเป็นภาพทถี่ อื ไฟฉาย ในตำ�นานกรีก กล่าวว่าเทพธิดาเอราโต นั้นแท้จริงกไ็ มไ่ ด้มเี พยี งพรสวรรค์ ให้การแต่งบทกวเี พียงอย่างเดียว ยงั สามารถการสรา้ งแรงบันดาลในการนกั กวี เปน็ เหมือนส่งิ ศักดิส์ ิทธ์ิในเคารพนบั ถอื และสรา้ งแรงบันดาลใจแกผ่ ู้ทีน่ บั ถือ 18



ยเู ทอร์พี (Euterpe) ผูเ้ ปน็ มวิ ส์แห่งกวีนิพนธค์ ีตกานท์ ยเู ทอรพ์ ี ซง่ึ เป็นหนง่ึ ในมวิ สท์ ้ังเก้า ยูเทอร์พเี ป็นมวิ สก์ วีดนตรี มีสญั ลักษณ์ ประจ�ำ ตัวคือขล่ยุ และเครอ่ื งออลอส ทเี่ ป็นแรงบนั ดาลใจในการพฒั นาของศิลปศาสตร์ และปรบั ในสมัยกรีกโบราณ ยเู ทอร์พี เป็นทม่ี าของแรงบนั ดาลใจใหก้ วีและนักเขยี น บทละครเชน่ โฮเมอร์ทีอ่ าศยั อยู่ในกรีซโบราณ ตามประเพณีและความเชือ่ ของนักดนตรีชาวกรกี โบราณจะเรียกรอ้ งความ ชว่ ยเหลอื และขอคำ�แนะนำ�จากยเู ทอร์พี เกีย่ วการเลน่ ดนตรี ดนตรจี ะสร้างแรง บันดาลใจและให้ความชว่ ยเหลอื เขาในการแตง่ เพลง “​ เพลง” เกิดขึน้ จากแรงบนั ดาล ใจ ดนตรีในยุคกรีกโบราณมบี ทบาทสำ�คัญในชีวิตประจำ�วันของทกุ คนชาวกรีกโบราณ เพลงทเ่ี ลน่ การแตง่ งาน, งานศพ, พธิ ีกรรมทางศาสนา, เกมส์, โรงละครและทอ่ งบทกวี ชาวกรกี โบราณใช้สตรงิ ลมและเครอ่ื งดนตรีกระทบ ยูเทอรพ์ ี กบ็ อกว่าจะมีการคิดค้น ขล่ยุ และเคร่ืองป่าลมอนื่ ๆ เคร่อื งมือและสัญลกั ษณข์ องเธอเปน็ Aulos ประเภทของ ขลยุ่ คู่ เสยี งของ Aulos ยเู ทอร์พี ที่เปน็ ตัวแทนและเปน็ ผู้มีพระคณุ ของเพลง เธอบอกวา่ ไดค้ ิดค้น ขล่ยุ และเคร่อื งดนตรเี ปา่ ลมประเภทอน่ื ๆ สญั ลกั ษณ์ของเธอเปน็ ที่ Aulos ประเภท ของขลุ่ยคู่ ช่ือของเธอคอื มาจากค�ำ ภาษากรีกหมายถงึ \"การมอบของความสุข\" เธอมี ลกู ชายคนหนึง่ กบั เทพแห่งแม่น�้ำ Strymon ในโหราศาสตร์ มีการค้นพบเก้าดาวเคราะห์นอ้ ย และตั้งช่ือตามมิวสแ์ ตล่ ะ องค์ของกรกี โดยให้ช่ือ ยูเทอร์พี ดาวเคราะหน์ ้อยหน่ึงในดาวเคราะห์ทีส่ ว่างที่สุดใน ทอ้ งฟา้ ยามค�่ำ คืน มันถูกคน้ พบโดยเจอารห์ ลงั วนั ที่ 8 พฤศจกิ ายน ค.ศ.1853 ซึ่งในตำ�นานกรีก กลา่ วว่าเทพธดิ ายูเทอรพ์ ี นั้นแท้จริงก็ไม่ไดม้ ีเพยี ง พรสวรรคใ์ หก้ ารเลน่ ดนตรเี พยี งอยา่ งเดยี ว ยังสามารถการสร้างแรงบนั ดาลในการ นักกวี เปน็ เหมือนสง่ิ ศักด์ิสิทธใิ์ นเคารพนบั ถือ และสรา้ งแรงบนั ดาลใจแก่ผทู้ นี่ บั ถือ 20



โพลฮิ ิมเนยี (Polyhymnia) ผเู้ ปน็ มิวสแ์ ห่งเพลงสดุดปี วงเทพ โพลิฮิมเนีย เปน็ หนงึ่ ในกลุ่มเทพธดิ าทเ่ี รยี กว่ามิวส์ ยูเทอร์พีเป็นมวิ ส์แหง่ เพลงสดุดีปวงเทพ มีสัญลกั ษณ์ประจำ�ตวั คอื ผา้ คลมุ ศีรษะ ทเี่ ปน็ แรงบันดาลใจในการ พฒั นาของศลิ ปศาสตรแ์ ละปรบั ในสมัยกรกี โบราณ ยเู ทอร์พี เป็นทมี่ าของแรงบนั ดาล ใจให้กวีและนักเขยี นบทละครเชน่ โฮเมอรท์ อี่ าศยั อยู่ในกรซี โบราณ ตามประเพณแี ละความเช่ือของนักประวัติศาสตร์ชาวกรกี โบราณจะเรียก ความช่วยเหลอื ของโพลิฮิมเนยี เพ่ือใหค้ �ำ แนะนำ�และใหค้ วามชว่ ยเหลอื เขาในการ ท�ำ งานของเขา ภาวนาเอารปู แบบของการสวดมนตส์ �ำ หรับแรงบันดาลใจจากพระเจ้า เทพธดิ า ใน Dionysiaca ของ Nonnus กลา่ ววา่ “She waved her arms and sketched in the air an image of a soundless voice, speaking with hands and moving eyes in a graphic picture of silence full of meaning.” ด้านบนซึ่งเปน็ สว่ นหน่งึ ของบทสวด ทใี่ ช้เพ่อื การอธิษฐาน เดมิ ศาสนากรกี มีไมไ่ ด้พืน้ ฐานด้านการเขยี น แต่คมั ภีรศ์ ักดสิ์ ทิ ธ์ิของพวกเขาอยู่รอดไดใ้ นรูปแบบของ บทสวด บทสวดทซ่ี บั ซอ้ นมากท่ีสุดคอื เพลงสวด Homeric บางสว่ นทอี่ าจจะไดร้ ับ การแตง่ สำ�หรบั เทศกาลทางศาสนา จารึกจากออราเคลิ Delphic รวมบทสวดของ เทพอพอลโล โพลฮิ มิ เนยี เปน็ มวิ ส์ ทเี่ ปน็ ตวั แทนและเปน็ ผมู้ พี ระคณุ ของเพลงศักด์ิสิทธ์ิ ทางศาสนาสวดภาวนาและการเตน้ รำ�ศกั ดิส์ ทิ ธิ์ นอกจากนีย้ งั เกีย่ วขอ้ งกบั บทกวี วาทศิลปแ์ ละส�ำ นวน สัญลกั ษณข์ องเธอเป็นม่านทถี่ ูกใชใ้ นการคลมุ ศีรษะและแสดงถึง 22

ลกั ษณะของนักบวชบริสุทธ์ิ มกั เหน็ เธอมีสีหน้ากังวล ครนุ่ คิดอยเู่ สมอๆ ท่า ประจ�ำ ของเธอคือ ทา่ นวิ้ แตะรมิ ฝปี าก ในโหราศาสตร์ มกี ารค้นพบเก้าดาวเคราะหน์ อ้ ย และตง้ั ชอ่ื ตามมวิ สแ์ ตล่ ะ องค์ของกรกี โดยให้ช่ือ โพลฮิ มิ เนยี ที่ถกู คน้ พบโดยเจ Chacornac วนั ที่ 28 ตุลาคม ค.ศ.1854 ซ่ึงในต�ำ นานกรีก กลา่ ววา่ เทพธิดาโพลิฮมิ เนยี น้นั แท้จรงิ ก็ไม่ได้มพี รสวรรค์ ในการแตง่ บทสวดแต่เพียงอย่างเดียว ยังสรา้ งแรงบันดาลใจ เป็นเหมือนส่ิงศกั ดสิ์ ิทธิ์ ในเคารพนบั ถือ และสร้างแรงบันดาลใจแกผ่ ูท้ นี่ บั ถอื 23

24

The Muses Urania and Calliope by Simon Vouet

แคลลโี อพี (Calliope) ผู้เปน็ มิวสแ์ หง่ กวนี พิ นธม์ หากาพย์ ชาวกรกี โบราณเปน็ นกั เขยี นทีม่ ีความสามารถ บทกวีมหากาพยป์ ระกอบ ด้วยการเลา่ เร่อื งยาวทีส่ ะทอ้ นให้เห็นถึงคา่ นยิ มของสงั คมทีม่ กั จะรวมถงึ แนวคดิ ของ 'ดี กับความชัว่ ร้าย' และมวี ีรบุรุษคนรา้ ยและมกั จะรวมถงึ การแทรกแซงจากพระเจา้ ของ พระเจา้ ตวั อยา่ งบทกวคี ือ \"อเี ลยี ด\" และ \"โอดสิ ซ\"ี กวมี หากาพยจ์ ะวงิ วอนขอความ ชว่ ยเหลอื แคลลีโอพี เพอ่ื เปน็ แนวทางและให้ความช่วยเหลอื เขาในการทำ�งานของเขา บทสวดมนตส์ ำ�หรบั สรา้ งแรงบันดาลใจนั้นมาจากเหลา่ เทพธดิ า ในบทกวีของโฮเมอร์ กลา่ วถึงแคลลโี อพี ว่าเปน็ เทพทม่ี าจากสวรรค์ \"Achilles' wrath, to Greece the direful spring Of woes unnumber'd, heavenly goddess, sing\" แคลลโี อพี เปน็ มวิ สท์ ่ีเป็นตวั แทนและเปน็ ผมู้ ีพระคุณของมหากาพยบ์ ทกวี ชอ่ื ของ เธอหมายถงึ ผหู้ ญิงทีม่ ีเสียงไพเราะ นางบอกว่านางมสี ามารถทจ่ี ะเลน่ เครอื่ งดนตรีได้ หลายอยา่ ง แคลลีโอพี เปน็ พีค่ นโต ของเหลา่ ทพธิดามิวส์ มีสญั ลกั ษณ์ประจ�ำ ตัวคอื กระดานชนวน แต่เธอก็ยังบางคร้ังกป็ รากฏหนังสอื หรือสวมมงกุฎสีทอง นางไดร้ ับการ กล่าวถงึ ว่าเป็นทกุ แรงบันดาลใจให้แก่ นกั กวโี ฮเมอร์ แคลลโี อพี มีลูกอยสู่ องพระองค์ คอื ออรฟ์ ัส และไลนัส การสะกดทางเลอื กของเธอชอ่ื Kalliope ในโหราศาสตร์ มีการคน้ พบเกา้ ดาวเคราะห์น้อย และตัง้ ชอื่ ตามมวิ ส์แต่ละ องคข์ องกรีก โดยใหช้ ือ่ แคลลีโอพี เปน็ ดาวเคราะห์นอ้ ย ขนาดใหญค่ ้นพบโดยเจอาร์ หลังวันที่ 16 พฤศจิกายน 1852 กล่าวว่าแท้จริงแล้ว เทพธดิ าแคลลีโอพี น้ันแทจ้ ริงกไ็ มไ่ ดม้ พี รสวรรค์ เพยี งอย่างเดยี ว ยงั เปน็ แรงบันดาลใจในแก่นกั แต่งกวผี ยู้ ง่ิ ใหญ่ ให้มีก�ำ ลังใจในการ สรา้ งสรรคผ์ ลงานต่อ 26

Terpsichore, Muse of Music and Dance, c.1739 by Jean-Marc Nattier

เทริ ์ปซคิ อเร (Terpsichore) ผเู้ ป็นมวิ สแ์ ห่งนาฏศลิ ป์ ตามประเพณีและความเชอ่ื ของชาวกรีกโบราณบทละครทเ่ี ขยี นเล่น หรือ เพลงทีแ่ ต่งให้กับนกั ร้อง จะวิงวอนขอความช่วยเหลอื ของ เทริ ป์ ซคิ อเร เพื่อใหค้ �ำ แนะน�ำ และให้ความชว่ ยเหลือในการท�ำ งาน โรงละครเปน็ รูปแบบที่สำ�คญั และสิ่งท่ี ให้ความบนั เทงิ สำ�หรบั ชาวกรีกโบราณ และบทละครมกั จะถูกรวมกับดนตรีและการ เตน้ ร�ำ เลน่ ละครในสมัยกรกี โบราณประกอบด้วยสามสว่ นหลักคือ บท นกั รอ้ ง และ ฉาก สญั ลักษณข์ อง เทพธดิ าเทริ ป์ ซคิ อเร เป็นพิณซ่งึ เปน็ ตราสารสตริงคอรด์ และดึง ออกมาเปน็ ครั้งคราว สรา้ งข้ึนจากกระดองเตา่ อ้างถงึ ตำ�นานของพณิ อพอลโล พิณ ถูกใชส้ �ำ หรบั การบรรยายและบรรเรงิ เพลง เทพอพอลโลเป็นคนสำ�คญั ทแี่ รงบันดาลใจ และเปน็ ครูของเหล่าเทพธดิ ามวิ ส์ เหล่าเทพธดิ ามิวส์จะเตน้ ระบ�ำ ไปพรอ้ มกับการบรร เริงเสียงพิณของเทพอพอลโล เทิร์ปซิคอเรเป็นมิวส์ ที่เปน็ ตวั แทนและเป็นผู้มีพระคณุ ของการเตน้ รำ� และ เป็นแรงบนั ดาลใจให้แก่นกั ร้องชาวกรกี นางถูกเรียกวา่ “Whirler of the Dance” สญั ลกั ษณ์ของนางคอื พณิ และมักจะเห็นภาพของนางเป็นภาพท่ีกำ�ลงั น่งั เลน่ เครอ่ื ง ดนตรอี ยู่ เครื่องดนตรีอีกอยา่ งที่เปน็ สัญลักษณ์ของเธอนนั้ ก็คอื ฉิ่ง และนางยงั บอกวา่ นางเปน็ แม่ของไซเรน ในโหราศาสตร์ มีการค้นพบเกา้ ดาวเคราะหน์ ้อย และตงั้ ชื่อตามมิวสแ์ ต่ละ องคข์ องกรีก โดยให้ชอ่ื เทิรป์ ซิคอเร เปน็ ดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่และมืดมาก มัน ถูกคน้ พบโดย Ernst Tempel วันท่ี 30 กันยายน ค.ศ.1864 28

กล่าวว่าแทจ้ ริงแลว้ เทพธิดาเทิร์ปซคิ อเร นน้ั แท้จรงิ ก็ไมไ่ ดม้ พี รสวรรค์เพยี ง อย่างเดยี ว ยงั สร้างแรงบนั ดาลใจในแก่นักเตน้ รำ�และนกั ร้องชาวกรกี ให้มีก�ำ ลังใจใน การสร้างสรรค์ผลงานต่อ แม้ว่าเทิรป์ ซิคอเร จะสามารถแรงบนั ดาลใจ และช่วยเหลือผู้ทีน่ ับถือได้ แต่ ก็ยังมีพวกทีไ่ มพ่ อใจอย่างรุนแรงในตวั พวกนางอยา่ งมาก และในฐานะทเ่ี ป็นเทพธดิ า พวกนางจงึ มชี วี ิตเปน็ อมตะ สามารถใชค้ วามไพเราะของเพลงของพวกนาง หรือความ สามารถดา้ นการเต้นรำ�ของพวกนางในการรกั ษาผปู้ ว่ ย และพวกนางยงั ครอบครอง พลังอำ�นาจวเิ ศษของการเปล่ียนแปลงอีกดว้ ย 29

30

The Muse Urania by Simon Vouet

ยูเรนอิ า (Urenia) ผเู้ ปน็ มิวสแ์ ห่งดาราศาสตร์ ตามประเพณีและความเช่ือของนกั ดาราศาสตรช์ าวกรีกโบราณ จะเรียก ความช่วยเหลอื ของเทพธิดายเู รนอิ า ผซู้ ึ่งเปน็ มวิ สแ์ ห่ง เพ่อื ให้ค�ำ แนะน�ำ และให้ความ ชว่ ยเหลือเขาในการทำ�งานของเขา หลายความคดิ ของดาราศาสตร์กรกี โบราณทข่ี น้ึ อยู่กับปรชั ญา ชาวกรีกโบราณมคี วามกังวลกบั สิ่งทีเ่ กิดข้ึน แต่ไม่รู้สาเหตขุ องการเกดิ นอกเหนอื จากการอ้างเหตผุ ลทค่ี ลมุ เครือเกย่ี วกับเทพพระเจ้าเจ้าแลว้ พวกเขายงั ใช้ เหตุผลการท�ำ นายเหตุการณต์ ่างๆ เช่น การทำ�นายการเกิดสรุ ิยปุ ราคา Pythagoras (ก่อนคริสตก์ าล c.580-500) จะใหเ้ ครดติ กบั การเสนอความคดิ ของอรสิ โตเติล ท่วี า่ โลกทรงกลม และดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางของจักรวาล นกั ปรชั ญากรกี ท่โี ดดเดน่ อนั ไดแ้ ก่ เธลีสนกั ปรชั ญาคนแรกทีบ่ นั ทกึ ความคดิ ไว้เปน็ หลักฐาน ซง่ึ ได้รับการยกยอ่ ง จากอรสิ โตเติล และไดร้ ับเกียรติให้เปน็ บิดาของวชิ าปรัชญาตะวนั ตก ทีอ่ าศัยอยใู่ น ตอนต้นของศตวรรษที่ 6 ก่อนคริสตกาล ยเู รนิอา เป็นมวิ ส์ท่ีเป็นตัวแทนและเปน็ ผูม้ พี ระคณุ ของดาราศาสตร์และ กลมุ่ ดาวที่ ยูเรนิอานางเปน็ นักปรัชญา คำ�ทำ�นายของนางทำ�นายโดยการอ่านจาก ดวงดาว ช่ือของเธอมาจากภาษากรีกคำ�วา่ “heavenly” ยูเรนิอา เป็นลกู คนสุดทอ้ ง ในบรรดาเหลา่ เทพธิดามวิ ส์ สญั ลกั ษณ์ของเธอเป็นโลกและเขม็ ทศิ และภาพของเธอ มักจะเป็นภาพทีส่ วมเสือ้ คลมุ ทถี่ กู ประดบั ประดาด้วยดวงดาว งานอดเิ รกของเธอคือ การดดู าว สายตาของเธอมักจดจอ่ อยูท่ ่ีทอ้ งฟ้าและสวรรคเ์ บื้องบนตลอดเวลา ผู้คนที่ ศึกษาดาราศาสตรแ์ ละปรชั ญา จะเปน็ บคุ คลท่ีเธอรักและเอน็ ดเู ป็นพิเศษ การสะกด ชือ่ ของเธอคือ Ourania 32

ในโหราศาสตร์ มีการคน้ พบเก้าดาวเคราะหน์ ้อย และตั้งชอ่ื ตามมิวส์แตล่ ะ องคข์ องกรกี โดยใหช้ ื่อ ยูเรนอิ า เปน็ แถบดาวเคราะหน์ ้อย ขนาดใหญท่ ่ีถกู ค้นพบโดย เจอาร์ วันท่ี 22 กรกฎาคม ค.ศ.1854 ในกรงุ ลอนดอน กลา่ วถงึ ยเู รนอิ า กไ็ มไ่ ดม้ ีพรสวรรคเ์ พยี งอยา่ งเดยี วเท่าน้นั แตย่ งั สามารถ สร้างแรงบันดาลใจในแกน่ กั ดาราศาสตรห์ ลายทา่ น เหมอื นเทพทั่วไปทจี่ ะให้ท�ำ นาย เป็นของขวญั แก่ผูท้ ี่นับถือ ในฤดูใบไมผ้ ลภิ ูเขาไหลระหวา่ งสองหนิ สงู เหนอื เมืองเดลฟี และในสมยั โบราณนำ้�ศักดส์ิ ทิ ธท์ิ ่ีถูกน�ำ เขา้ สอู่ ่างหนิ ถกู เกบ็ ไวส้ �ำ หรับการใช้งานของ พีเธีย พระสงฆ์ ภิกษณุ แี ละเทพอพอลโล 33

34

The Muse Melpomene by Nicolas-René Jollain

เมลพอมนิ ี (Melpomene) ผูเ้ ป็นมิวสแ์ หง่ โศกนาฏกรรม ตามประเพณแี ละความเชื่อของชาวกรีกโบราณ ในการเขียนบทละคร โศกนาฏกรรมจะวงิ วอนขอความช่วยเหลอื จาก เมลพอมินี เพื่อใหค้ �ำ แนะนำ�และ ใหค้ วามชว่ ยเหลอื ในการทำ�งาน โรงละครเป็นรูปแบบท่ีส�ำ คัญและเปน็ ความบันเทิง หลักส�ำ หรบั ชาวกรกี โบราณ บทละครมกั จะถูกรวมเขา้ กบั ดนตรแี ละการเต้นรำ� มี สามประเภทคอื ตลก โศกนาฏกรรม และเทพารกั ษบ์ ทละคร ในละครโศกนาฏกรรม จะ หนึง่ หรือ หลายตวั ละครอืน่ ๆ จะได้รบั ความเดอื ดรอ้ นหายนะเสมอ ในละครตลก ก็จะมีตัวละครที่มคี วามสุขเสมอ การเลน่ ใ่ นสมยั กรีกโบราณประกอบด้วยสามส่วน หลัก คือบท นกั ร้อง และฉาก ซง่ึ กจ็ ะเรม่ิ ต้นดว้ ยบทท่ีเรยี บงา่ ย การพูดเบื้องตน้ จาก นนั้ มกี ารเขา้ มาของนกั รอ้ ง ในท่สี ดุ กม็ ีฉากทส่ี �ำ คัญของการเล่น ในละครกรีกและบท ละครนกั ร้อง หรือนักรอ้ งทีบ่ อกเล่าเรอื่ งราวทไ่ี มไ่ ด้เป็นนักแสดง จะใชท้ ่าทางและ เปลี่ยนบทบาทโดยการเปล่ยี นหนา้ กาก ทงั้ สองหนา้ กากใบหนา้ หวั เราะและใบหน้า รอ้ งไห้ที่เก่ยี วข้องกับละครเป็นตวั แทนแบง่ ระหวา่ งความตลกขบขนั และโศกนาฏกรรม หน้ากากเปน็ สญั ลกั ษณแ์ หง่ แรงบนั ดาลใจที่มชี ื่อ Thalia และ Melpomene Thalia เป็น Muse ของตลก (ใบหน้าหวั เราะ) ในขณะท่ี เมลพอมนิ ี เปน็ มิวสข์ อง โศกนาฏกรรม (ใบหนา้ รอ้ งไห)้ นกั แสดงในโศกนาฏกรรมสวมรองเท้าทีเ่ รยี กว่า cothurni ทีส่ ูงเหนอื นักแสดงคนอน่ื นกั แสดงในบทบาททีต่ ลกขบขนั เพยี งสวมรองเทา้ soled หรอื ถุงเท้า เมลพอมนิ ีเป็นมวิ ส์ ทเ่ี ป็นตัวแทนและเปน็ ผ้มู ีพระคณุ ของละคร โศกนาฏกรรม เธอถกู เรียกวา่ “Songstress” 36

ชอื่ ของเธอคอื มาจากค�ำ ภาษากรีกหมายถงึ \"การเฉลมิ ฉลองกับการเตน้ ร�ำ และรอ้ งเพลง\" เธอมักจะถูกแทนด้วยหนา้ กากทนี่ ่าเศร้าและสวม cothurnus ที่ รองเท้าทไี่ ดร้ บั การสวมใสแ่ บบดง้ั เดิมโดยนักแสดงในโศกนาฏกรรมกรกี ในโหราศาสตร์ มกี ารค้นพบเกา้ ดาวเคราะห์น้อย และตั้งชอ่ื ตามมิวส์แตล่ ะ องคข์ องกรีก โดยให้ช่ือ เมลพอมินี เป็นแถบดาวเคราะห์น้อยทมี่ ขี นาดใหญส่ ดใส ถกู คน้ พบโดยเจอาร์ วนั ท่ี 24 มิถนุ ายน ค.ศ.1852 กล่าวถึงเมลพอมินี ไม่ได้มีแต่พรสวรรคเ์ พยี งอย่างเดยี วเท่านนั้ แต่ยงั สามารถสร้างแรงบนั ดาลใจในแกน่ กั แสดงหลายท่าน 37

“พวกนางมีจติ เปน็ หนง่ึ เดยี ว ใจมุ่งอย่ทู เ่ี สยี งเพลง จติ วญิ ญาณน้นั ปราศจากความกังวล ผทู้ เ่ี ทพธิดามวิ ส์รัก ย่อมเปน็ สขุ ใจ เพยี งแค่บรวิ ารของเหล่าธดิ ามวิ ส์ขบั ขาน ผู้น้นั จกั หลงลืมความคดิ หมองหม่น แลจำ�เรือ่ งทกุ ขโ์ ศกเหล่าน้นั มไิ ด้” 38

ผลงานศลิ ปะทเี่ กยี่ วข้อง \"The 9 Muses Dancing While Apollo Plays the Lyre\" \"Louis de Boullogne, Urania and Melpomene, c. 1681. 39Oil on canvas, 92 x 111 cm.

Roman statue of Muse Thalia, between 130 and 150 AD. Marble. Prado Museum, Madrid, Spain. Giovanni Baglione (1571-1644), Thalia, Muse of Comedy. Oil on canvas, 150 x 195 cm. Paul Baudry, Terpsicore, Muse of dancing and choral song. Fresco, 10' 2 inches x 4' 11 inches. The Paris Opéra, France. 40

François Boucher, Terpsichore, la muse de la poésie lyrique de chorale, c. 1739. Oil on canvas, 132 x 93 cm. Edward Emerson Simmons, Melpomene, c. 1896. Northwest Corridor, First Floor, Library of Congress Thomas Jefferson Building, Washington 41

\"Apollo Surrounded by All his Nine Muses\" by Simon Vouet \"The Sacred Wood Cherished by the Arts and the Muses\" by Pierre Puvis de Chavannes \"The Four Muses with Pegasus\" by Caesar van Everdingen 42

บรรณานุกรม 2014. Nymphs.from Tales Beyond Belief Web site: http://www.talesbeyondbelief. com/nymphs/melpomene-muse.htm (accessed November 16, 2016). Aaron J. Atsma. 2016. OLYMPIAN GODS from Theoi Web site: http://www.theoi.com/ greek-mythology/olympian-gods.html (accessed November 16, 2016). A. B. Cook (1914), Zeus: A Study in Ancient Religion, Vol. I, p. 104, Cambridge University Press เอดธิ แฮมลิ ตัน. (2549). ปกรณมั ปรัมปรา. นพมาส แววหงส์, แปล. กรงุ เทพฯ : อมรินทร์. ธนากติ . (2546). ต�ำ นานเทพและวีรบรุ ุษกรกี ขโรมนั . กรงุ เทพฯ : ปริ ามิด. 43


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook