อิเหนาตอน ศึกกะหมังกุหนิง พระราชนิพนธร์ ชั กาลท๒ี่
คานา“อิเหนา” นิทานเรอื่ งเล่าจากชวาสบู่ ทประพนธ์ทรงคุณค่าในวรรณคดไี ทย อิเหนาเปน็ วรรณคดี เกา่ แกเ่ รื่องหน่ึงของไทย เป็นท่ีรู้จกั กันมานานต้ังแต่ช่วงปลายสมัยกรงุ ศรีอยธุ ยา โดยวรรณคดีเรื่องนีส้ อดแทรก แนวคิดตา่ งๆในสมยั กอ่ นท่ีนามาประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวนั ปัจจุบันของเราได้ อีกท้งั ยังเป็นววรณคดีท่มี ีความสนกุ สนาน จงึ นามาใช้ เล่นเปน็ ละครใน เลยทีเดียว 2
สารบญั หนา้ 2คานา 3สารบัญ 4ประวตั ผิ ้แู ต่ง 5-7ตวั ละคร 8-12เนอื้ เร่อื ง 3
ประวตั ิผูแ้ ตง่ อิเหนาเปน็ บทละครราพระราชนพิ นธ์ ในพระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หลา้ นภาลยั มหาราชรัชกาลที่ ๒ แห่งพระบรมราชวงศ์จักรี ตลอดระยะเวลาท่ีพระองค์ทรงครองราชย์ เป็นสมยั ท่ีวรรณคดีเจรญิ ท่สี ดุ ในสมัยนห้ี ลาย เรอ่ื งได้รบั การยกย่องว่าเป็นยอดของ วรรณคดี และทรงได้รบั การเทดิ พระเกียรตจิ าก องคก์ ารการศึกษาวทิ ยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่ง สหประชาชาติ (UNESCO) ในฐานะบคุ คลสาคญั ของโลก 4
ตัวละครท้าวกุเรปนั ทา้ วดาหา ท้าวกาหลงั อเิ หนา บุษบา สหุ รานากง 5
ตัวละครระตหู มนั หยา จินตะหรามาหยารศั มี สการะวาตี สงั คามาระตา 6
ตวั ละครทา้ วกะหมงั กุหนิงระตูจรกา วิหยาสะกา 7
เน้ือเร่อื งมกี ษตั รยิ ์วงศเ์ ทวญั ๔ องค์ คือ ท้าวกเุ รปนั ท้าวดา หา ท้าวกาหลังและท้าวสงิ หัดสา่ หรี ทา้ วกเุ รปนั มี โอรสซ่ึงเกง่ กล้าสามารถย่งิ ชื่อ อเิ หนา และทา้ วดาหามีธิดาซ่งึ งามย่งิ นักช่อื นาง บุษบา กษตั ริย์ทัง้ สองนครใหโ้ อรสและธิดา ตนุ าหงนั (หมั้น) กันไว้ต้งั แตว่ ัยเยาว์ตามประเพณี ของกษัตรยิ ์วงศเ์ ทวญั 8
เน้อื เรื่อง เมอ่ื อิเหนาอายุได้ ๑๕ ปี อเิ หนาตอ้ งไปชว่ ยปลงศพ พระอัยกีทีเ่ มืองหมนั หยา ได้ พบกบั นางจินตะหราธิดาของ ทา้ วหมันหยาก็เกิดหลงรัก และไมย่ อมกลับเมอื งกุเรปนั เพอ่ื อภิเษกกับนาง บุษบา ท้าวกุเรปนั จึงมี จดหมายไปเรยี กตัวอเิ หนา กลับ แล้วนดั ท้าวดาหาให้ เตรยี มการวิวาห์เมื่ออเิ หนาทราบเร่ืองจงึ ออกป่าพร้อมบรวิ ารและปลอมตวั เปน็ โจรป่าชือ่ มสิ าระปันหยี เพื่อไปเมอื งหมนั หยา ระหว่างทางไดส้ กู้ ับกษตั ริย์หลายเมอื งและไดช้ ยั ชนะมา จึงไดโ้ อรสธดิ ามาเปน็ เชลยคอื นางสการะวาตแี ละนางมาหยารัศมี ซงึ่ อิเหนาไดร้ บั มาเปน็ ชายา และได้สงั คามาระตามาเลีย้ งแบบอนุชา เม่ือไปถงึ เหมืองหมันหยา อิเหนาไดน้ างจนิ ตะหราเปน็ ชายา 9
เน้ือเร่อื ง เมอ่ื ทา้ วดาหาทราบเรื่องจึงโกรธเป็นอย่างมากประกาศว่าถ้าใครมาขอนางบษุ บาก็จะยกให้ กลา่ วถึงระตูจรกาซง่ึ ปราถนามีคู่ จงึ ให้ช่างไปวาดรปู ธดิ าเมอื งตา่ งๆ ชา่ งไดว้ าดรูปนางบษุ บา๒ รูป ปะตาระกาหลาซ่ึงเปน็ องค์เทวอยั กาต้องการจะส่งั สอนอิเหนาจึงลกั รูปนางบุษบาไปจากช่างวาด รูปหนง่ึ เหลอื ไว้รูปหนึ่ง เมื่อจรกาเหน็ รูปนางบษุ บากห็ ลงรักจงึ อ้อนวอนพี่ชายใหม้ าสขู่ อนางไป อภิเษก ท้าวดาหายอมยกนางบษุ บาให้จรกา 10
เน้อื เรื่อง เม่อื ทรงทราบวา่ อิเหนาได้ตดั รอนการอภิเษกสมรส ฝ่ายองค์ปะตาระกาหลาได้นารูปนางบษุ บาทล่ี กั จากชา่ งวาดนน้ั ไปทิ้งไว้ท่โี คนตน้ ไทร วหิ ยาสะกาตามกวางแปลงมาพบรูปนางกค็ ลง่ั ไคลใ้ หลหลง วอนท้าวกะหมังกุหนงิ ซึ่งเป็นพระราชบดิ าให้ส่งฑตู ไปขอนางบุษบา แต่ท้าวดาหาปฏเิ สธเพราะ ไดย้ กนางให้จรกาแล้ว 11
เนอ้ื เรอ่ื งทา้ วกะหมงั กหุ นิงสงสารลกู จึงยกทัพไปตีเมืองดาหาเพ่อื ชิงตวั นางบุษบา ท้าวกุเรปนั เรยี กตัวอิเหนาจากเมืองหมันหยามาชว่ ยท้าวดาหาทาศึกกบั ท้าวกะห มังกุหนิง อิเหนามีชยั ในสงครามครั้งน้ี สงั คามาระ ตาสังหารวิหยาสะกา ส่วนอเิ หนาสังหาร ท้าวกะหมงั กุหนิง 12
Search
Read the Text Version
- 1 - 12
Pages: