Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore สระบุรี มาตรการ เปิดเรียนมั่นใจ ปลอดภัยไร้โควิด-19

สระบุรี มาตรการ เปิดเรียนมั่นใจ ปลอดภัยไร้โควิด-19

Published by Pataroj Kamonrojsiri, 2021-10-15 01:17:01

Description: สระบุรี มาตรการ เปิดเรียนมั่นใจ ปลอดภัยไร้โควิด-19

Search

Read the Text Version

~1~ มาตรการ SANDBOX SAFETY ZONE IN SCHOOL เปิ ดเรยี นมนั่ ใจ ปลอดภยั ไร้โควิต-19 ในสถานศกึ ษา โดย คณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน จงั หวดั สระบรุ ี เพอื่ ขออนุญาตเปิ ดเรียนตามหลกั เกณฑ์การเปิ ดโรงเรยี นหรอื สถาบนั การศกึ ษา ตามขอ้ กาหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกาหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบบั ท่ี 32) สารบัญ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~2~ คารับรองการเตรียมความพร้อมการเปิ ดเรียนของโรงเรียน หน้า 4 1. ข้อมลู ทว่ั ไปของโรงเรียน 5 5 ขอ้ มูลแสดงจำนวนนกั เรียน จำแนกตำมช้นั เรียน (ไม่เกนิ หอ้ งละ 25 คน) 6 ขอ้ มลู แสดงอำคำรสถำนที่และพนื้ ที่โดยรอบโรงเรียน (ผงั รวมและชุมชน) 6 ขอ้ มลู แสดงพื้นท/่ี อำคำรสนบั สนุนกำรบริกำร 7 ขอ้ มูลแสดงพนื้ ที่/อำคำรเพอื่ จดั กำรเรียนกำรสอน 8 ขอ้ มลู แสดงพืน้ ท่ีทเ่ี ป็น COVID FREE ZONE/พ้นื ท่ปี ลอดภยั 9 9 2. ข้อมลู ด้านการมีส่วนร่วม 13 แสดงกำรสรุปแบบสอบถำมควำมตอ้ งกำรสมคั รใจมำเรียนแบบตำ่ งๆONSITE กคี่ น คิดเป็นรอ้ ยละ จำแนกเป็นช้นั และ ONLINE/ONHAND กค่ี น คดิ เป็นร้อยละ จำแนกเป็นช้นั 18 รำยงำนกำรประชมุ คณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียน ท่เี พิ่มเติมคอื ผแู้ ทนฝ่ำยปกครอง/ชมุ ชน/สำธำรณสุข/อนำมยั / และมมี ติให้ 18 ควำมเห็นชอบร่วมกนั ในกำรจดั พนื้ ทีก่ ำรเรียนกำรสอนในรูปแบบ Sandbox Safety Zone in School ตลอดภำคเรียนท่ี 2/2564 22 (พฤศจิกำยน 2564-เมษำยน 2565) 23 3. ข้อมูลด้านการประเมินความพร้อมสู่การปฏบิ ตั ิ 25 ขอ้ มูลของโรงเรียนท่ีผำ่ นกำรประเมนิ ควำมพร้อมผ่ำน TSC+ และรำยงำนกำรตดิ ตำมกำรประเมนิ ผลผำ่ น MOECOVID 25 ขอ้ มูลของสถำนที่แยกกกั ตวั ในโรงเรียน (School Isolation) สำหรบั กำรรองรบั กำรดูแลเบ้ืองตน้ กรณีนกั เรียน ครู หรือ 26 บุคลำกรในสถำนศกึ ษำมีกำรติดเชื้อโควติ -19 หรือผล ATK เป็นบวก 26 มำตรกำรกำรควบคมุ ดูแลกำรเดนิ ทำงระหว่ำงบำ้ นกบั โรงเรียนอย่ำงเข็มขน้ โดยหลีกเล่ียงกำรเขำ้ ไปสมั ผสั ท่ตี ่ำงๆ ตลอด เสน้ ทำงกำรเดนิ ทำง 27 ขอ้ มลู แสดงพื้นทีจ่ ดุ คดั กรอง (Screening Zone) ขอ้ มลู แสดงจุดรบั ส่งสิ่งของ/รับส่งอำหำร 28 ขอ้ มูลแสดงจดุ เส่ียงท่จี ำแนกนกั เรียน ครู บคุ ลำกร ผูป้ กครอง และผมู้ ำติดตอ่ ทีเ่ ขำ้ มำในโรงเรียน ระบบและแผนกำรรับติดตำมประเมินควำมพรอ้ ม โดยทมี ตรวจรำชกำรบรู ณำกำรร่วมกันระหว่ำงกระทรวงศกึ ษำธิกำรและ 29 กระทรวงสำธำรณสุข ท้งั ชว่ งก่อนและระหวำ่ งดำเนินกำร ขอ้ มลู แสดงจำนวนครูผูส้ อน/บคุ ลำกร/พนกั งำน จำแนกตำมกำรไดร้ บั วคั ซีนเขม็ 1-2-3 อยำ่ งน้อยร้อยละ 85-100 (พนื้ ท่ี ควบคุมและเขม้ งวดสูงสุด) แบบกำรตรวจคดั กรอง ATK ของนกั เรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศกึ ษำ ทกุ คน ในวนั เปิ ดเรียนวนั แรกของโรงเรียน และมี กำรตรวจประจำทกุ สัปดำห์ในทุกวนั จนั ทร์ สำหรบั นกั เรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศกึ ษำ ทุกคนจำนวน 20 คร้ัง (พ้นื ท่ี ควบคุมและเขม้ งวดสูงสุด) รำยละเอียดกำรจดั ทำ Small Bubble ในแตล่ ะช้นั รวมถงึ รำยชื่อครูผูส้ อนทอี่ ยใู่ น Small Bubble ในแต่ละช้นั (พน้ื ท่ีควบคมุ และเขม้ งวดสูงสุด) สารบญั (ต่อ) JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~3~ 4. ข้อมูลด้านการดาเนนิ การของโรงเรียน ระหว่าง พฤศจิกายน 2564-เมษายน 2565 หน้า 47 ขอ้ มูลแสดงโรงเรียนทจ่ี ดั กำรเรียนกำรสอน ไดท้ ้งั รูปแบบ Onsite และ/หรือ Online หรือ ผสมผสำน (Hybrid) 47 ขอ้ มลู แสดงขอ้ มูลนกั เรียน ครู และบุคลำกร ที่อย่ใู นพืน้ ท่ี Safety Zone ตอ้ งประเมนิ Thai save Thai (TST) ทกุ วนั ตำม 48 เกณฑ์พ้นื ที่ควบคมุ และเขม้ งวดสูงสุด แผนเผชิญเหตุ กรณีจำเป็นตอ้ งปิ ดเรียนตอ้ งปฏบิ ัติตำมแผนเผชิญเหตุอยำ่ งเคร่งครัด และดำเนินกำรตำมข้นั ตอนอยำ่ งเป็น 49 ระบบ และมีโรงพยำบำลหรือสถำนพยำบำลเครือข่ำยในพ้ืนที่ดูแลใกลช้ ิด บนั ทกึ ขอ้ ตกลงควำมร่วมมือในกำรดแู ลและส่งตอ่ กรณีมีผูต้ ิดเช้ือโควิต-19 กบั โรงพยำบำลหรือสถำนพยำบำลเครือขำ่ ย 56 ในพื้นท่ี ขอ้ มลู แสดงกำรตรวจคดั กรอง ATK ของนกั เรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศกึ ษำทุกคน 57 ขอ้ มลู จดั ระบบกำรให้บริกำรอำหำรนกั เรียนตำมหลกั สุขำภิบำล เชน่ กำรจดั ซ้ือจดั หำวตั ถดุ บิ จำกแหล่งอำหำร กำรปรุง 58 ประกอบอำหำรตำมมำตรฐำนสุขำภิบำลอำหำรในโรงเรียน หรือกำรส่ังซ้ืออำหำร ตอ้ งมรี ะบบกำรตรวจสอบทำง โภชนำกำรก่อนนำมำบริโภค 59 มำตรกำรสุขอนำมยั ส่วนบุคคลอยำ่ งเขม้ ขน้ ไดแ้ ก่ 6 มำตรกำรหลกั (DMHT-RC) และ 6 มำตรกำรเสริม (SSET-CQ) 71 ขอ้ มลู นกั เรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศึกษำ ทุกคน เขียนบนั ทึก Timeline กิจกรรมประจำวนั และกำรเดนิ ทำงเขำ้ ไปใน สถำนท่ตี ่ำงๆ แตล่ ะวนั อยำ่ งสม่ำเสมอ 72 ขอ้ มูลสถำนศกึ ษำปฏิบตั ิตำม 7 มำตรกำรเขม็ สำหรับสถำนศกึ ษำอย่ำงเคร่งครัด ดงั น้ี 72 ขอ้ มูลโรงเรียนท่ผี ำ่ นกำรประเมนิ ควำมพรอ้ มผำ่ น TSC+ และรำยงำนกำรติดตำมกำรประเมนิ ผลผำ่ น MOECOVID 74 ขอ้ มลู กำรทำกจิ กรรมร่วมกนั ในรูปแบบ Small Bubble ในแตล่ ะช้นั และกำรเวน้ วรรคระยะห่ำง ในหอ้ งเรียนอยำ่ งน้อย 1 เมตร 76 ขอ้ มลู จดั ระบบให้บริกำรอำหำรตำมหลกั สุขำภบิ ำลอำหำรและหลกั โภชนำกำร 77 ขอ้ มูลจดั กำรดำ้ นอนำมยั สิ่งแวดลอ้ ม ไดแ้ ก่ กำรระบำยอำกำศภำยในอำคำร กำรทำควำมสะอำดคุณภำพน้ำดม่ื และกำร จดั กำรขยะ 79 จดั ให้มี School Isolation แผนเผชิญเหตุ และมกี ำรซกั ซ้อมอยำ่ งเคร่งครัด 81 จดั ใหม้ กี ำรควบคมุ ดูแลกำรเดนิ ทำงจำกบำ้ นไปโรงเรียน (Seal Route) กรณีรถรับ-ส่งนกั เรียน รถส่วนบุคคล และพำหนะ โดยสำรสำธำรณะ สำหรับโรงเรียนไป-กลบั 82 จดั ใหม้ ี School Pass สำหรบั นกั เรียน ครู และบคุ ลำกรในสถำนศกึ ษำ 86 ขอ้ มูลแสดงสถำนประกอบกิจกำร กจิ กรรม รอบร้วั โรงเรียนในระยะ 10 เมตร ท่ีผำ่ นกำรประเมนิ TSC+COVID Free SETTING 87 คำส่ังแต่งต้งั คณะกรรมกำร JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~4~ คารับรองการเตรียมความพร้อมการเปิ ดเรียนของโรงเรียนเอกชนจงั หวัดสระบรุ ี ตามหลกั เกณฑ์การเปิ ดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ตามข้อกาหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบบั ที่ 32) ชื่อโรงเรียนอาเภอ จงั หวดั สระบรุ ี โดยคณะกรรมการป้องกนั การแพร่ระบาดโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากหน่วยงานภายนอก ************************************************* (....) อนุญำตให้ส่งเอกสำรเพือ่ ขออนุมตั กิ ำรเปิ ดเรียน ตอ่ สำนกั งำนศึกษำธิกำรจงั หวดั สระบรุ ี และคณะกรรมกำร ควบคุมโรคติดตอ่ จงั หวดั สระบรุ ี (....) อนุญำตให้ส่งเอกสำรเพอื่ ขออนุมตั ิกำรเปิ ดเรียน ต่อ สำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั สระบรุ ี และ คณะกรรมกำร ควบคุมโรคตดิ ตอ่ จงั หวดั สระบรุ ี แตต่ อ้ งแกไ้ ขในประเด็นต่อไปน้ี ........................................................................................................................................................................... .................. ........................................................................................................................................................................... .................. ........................................................................................................................................................................... .................. ........................................................................................................................................................................... .................. ลงชื่อ ประธำนกรรมกำร ลงช่ือ กรรมกำร ลงชื่อ กรรมกำร ลงช((่ือ(ผ(77 กรรมกำร 7 (...... () () ผแู้ ทน กรรมกำร ลงช่ือ ผแู้ ทน 7 (...... ผแู้ ทน กรรมกำร ลงช่ือ กรรมกำร ลงชื่อ 7 (...... (ผ(.)แู.้ ..ท..น.(..(.(.ผ..(.7..7.............................(..)...................) ผแู้ ทน กรรมกำร ลงช่ือ ลงช่ือ กรรมกำร 7 (...... () (((ผ(77 () (ลผ.แงู.้ .ช.ท.่ือ.น..................................................ก..ร..ร..ม..ก..ำ)ร () (((ผ(77 () (..................................................................) JINTUE KAENG KHOI SCHOOL (..................................................................)

~5~ เอกสารเตรียมความพร้อมการเปิ ดเรียนของโรงเรียน อาเภอ จังหวดั สระบรุ ี ตามหลกั เกณฑ์การเปิ ดโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ตามข้อกาหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 32) ชื่อโรงเรียนอาเภอจงั หวัดสระบุรี สังกดั สานกั งานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สานักงานศึกษาธิการจงั หวดั สระบุรี 1. ข้อมูลทั่วไปของโรงเรียน ตำรำง แสดงจำนวนนกั เรียน จำแนกตำมช้นั เรียน (ไม่เกินห้องละ 25 คน) ท่ี ช้ัน จานวนเต็ม ตกึ /ช้ันห้องเรียน ชื่อครูประจาช้ัน 1 เตรียมอนุบำล 25 2 อนุบำลปี ที่ 1/1 25 3 อนุบำลปี ที่ 2/1 32 4 อนุบำลปี ที่ 3/1 5 ประถมศึกษำปี ที่ 1 ประถมศึกษำปี 6 ประถมศึกษำปี ท่ี 2 ที่ 6/2 7 ประถมศกึ ษำปี ท่ี 3 8 ประถมศึกษำปี ท่ี 4 9 ประถมศกึ ษำปี ท่ี 5 10 ประถมศกึ ษำปี ท่ี 6/1 11 ประถมศกึ ษำปี ที่ 6/2 12 ประถมศกึ ษำปี ท่ี 6/3 online 13 14 15 16 รวม JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~6~ ตวั อยำ่ ง แผนภำพที่ 1 แสดงอำคำรสถำนท่แี ละพ้ืนท่ีโดยรอบโรงเรียน (ผงั รวมและชมุ ชน) เป็ นภำพถ่ำยทำงอำกำศ จำก Google ตวั อยำ่ ง แผนภำพที่ 2 แสดงพ้นื ที่/อำคำรสนบั สนุนกำรบริกำร JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~7~ ตวั อยำ่ ง แผนภำพท่ี 3 แสดงพ้ืนท่/ี อำคำรเพื่อจดั กำรเรียนกำรสอน JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~8~ ตวั อยำ่ ง ภำพที่ แสดงพ้ืนท่ที เี่ ป็น COVID FREE ZONE/พ้ืนท่ปี ลอดภยั JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~9~ 2. ข้อมลู ด้านการมสี ่วนร่วม ตำรำงแสดงกำรสรุปแบบสอบถำมควำมตอ้ งกำรสมคั รใจมำเรียนแบบตำ่ งๆONSITE กี่คน คดิ เป็นรอ้ ยละ จำแนก เป็นช้นั และ ONLINE/ONHAND ก่ีคน คิดเป็นรอ้ ยละ จำแนกเป็นช้นั ท่ี ช้ัน เต็ม ONSITE ONLINE ONHAND จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ 1 เตรียมอนุบำล 1/1 2 อนุบำลปี ที่ 1/1 3 อนุบำลปี ท่ี 2/1 4 อนุบำลปี ท่ี 3/1 5 ประถมศึกษำปี ที่ 1/1 6 ประถมศึกษำปี ที่ 2/1 7 ประถมศึกษำปี ท่ี 3/1 8 ประถมศึกษำปี ที่ 4/1 9 ประถมศกึ ษำปี ท่ี 5/1 10 ประถมศึกษำปี ท่ี 6/1 11 มธั ยมศึกษำปี ที่ 1/1 12 มธั ยมศึกษำปี ท่ี 2/1 13 มธั ยมศึกษำปี ท่ี 3/1 14 มธั ยมศกึ ษำปี ที่ 4/1 15 มธั ยมศึกษำปี ท่ี 5/1 16 มธั ยมศึกษำปี ที่ 6/1 รำยงำนกำรประชมุ คณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียน ที่เพ่ิมเตมิ คอื ผแู้ ทนฝ่ำยปกครอง/ชมุ ชน/สำธำรณสุข/อนำมยั / และมีมตใิ ห้ควำมเห็นชอบร่วมกนั ในกำรจดั พ้นื ท่ี กำรเรียนกำรสอนในรูปแบบ Sandbox Safety Zone in School ตลอดภำคเรียนท่ี 2/2564 (พฤศจิกำยน 2564-เมษำยน 2565) JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 10 ~ ตวั อย่าง คาสั่งแต่งตง้ั คณะกรรมการบริหารโรงเรียน คำสง่ั โรงเรียน........... ที่..../............ อำศยั อำนำจตำมควำมในหมวด.....ขอ้ .....ตรำสำรจดั ต้งั โรงเรียน.......................................................... และพระรำชบญั ญตั โิ รงเรียนเอกชน พ.ศ. 2550 มำตรำ 31 มำตรำ 44 มำตรำ 45 และมำตรำ 47 ว่ำดว้ ยคณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียน โรงเรียน.....................จึงขอแตง่ ต้งั คณะกรรมกำรบริหำรโรงเรียนประกอบดว้ ยบคุ คล ดงั ตอ่ ไปน้ี 1............................... ........................ ผรู้ ับใบอนุญำต ประธำนกรรมกำร 2.............................. ........................ ผจู้ ดั กำร กรรมกำร 3.............................. ........................ ผทู้ รงคณุ วุฒิ กรรมกำร 4............................. ......................... ผแู้ ทนครู กรรมกำร 5............................. ......................... ผแู้ ทนครู กรรมกำร 6…………………. ……………….. ผแู้ ทนผปู้ กครอง กรรมกำร 7............................. ......................... ผอู้ ำนวยกำร กรรมกำรและเลขำนกุ ำร. อานาจหน้าท่ขี องคณะกรรมการบริหารโรงเรียน 1. ออกระเบยี บและขอ้ งบงั คบั ต่ำงๆของโรงเรียน 2. ให้ควำมเห็นชอบนโยบำยและแผนพฒั นำกำรศกึ ษำของโรงเรียน 3. ใหต้ ำแนะนำกำรบริหำรและกำรจดั กำรโรงเรียน ดำ้ นวิชำกำร ดำ้ นบุคลำกร ดำ้ นกจิ กำรนักเรียน ดำ้ นแผนงำนและกำรประกนั คณุ ภำพกำรศึกษำ ดำ้ นบริหำรงำนทว่ั ไป และดำ้ นงบประมำณ 4. กำกบั ดแู ลใหม้ รี ะบบกำรประกนั คณุ ภำพภำยในโรงเรียน 5. ตดิ ตำม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลกำรปฏบิ ตั ิงำนของผูอ้ ำนวยกำร 6. ให้ควำมเห็นชอบกำรกยู้ ืมเงนิ คร้งั เดยี วหรือหลำยคร้ังรวมกนั เกนิ ร้อยละยส่ี ิบห้ำของมูลค่ำทรพั ยส์ ินทโ่ี รงเรียนมีอยขู่ ณะน้นั ใน กรณีที่คณะกรรมกำรบริหำรไม่ใหค้ วำมเหน็ ชอบกำรกยู้ มื เงิน คณะกรรมกำรตอ้ งเสนอทำงเลือกทป่ี ฏิบตั ไิ ดใ้ หแ้ กโ่ รงเรียนเวน้ แต่คณะกรรมกำรจะ เห็นวำ่ กำรกยู้ ืมเงนิ น้ันเป็นไปเพ่อื ประโยชน์ของกำรดำเนินกจิ กำรโรงเรียน 7. ใหค้ วำมเห็นชอบกำรกำหนดค่ำธรรมเนียมกำรศึกษำและค่ำธรรมเนียมอืน่ ของโรงเรียน 8. ใหค้ วำมเหน็ ชอบรำยงำนประจำปี งบกำรเงนิ ประจำปี 9. พจิ ำรณำคำร้องทกุ ขข์ องครู ผปู้ กครองและนกั เรียน 10.ใหค้ วำมเห็นชอบในกำรขอเปลย่ี นแปลงในตรำสำรจดั ต้งั 11.ใหค้ วำมเหน็ ชอบในกำรขอเปลย่ี นแปลงรำยกำรในรำยละเอยี ดเกย่ี วกบั กจิ กำรโรงเรียน คณะกรรมกำรบริหำรท่ีมใิ ชก่ รรมกำรโดยตำแหน่ง ใหม้ ีวำระกำรดำรงตำแหน่งครำวละ 3 ปี และกรรมกำรบริหำรทพี่ น้ จำก ตำแหน่งตำมวำระอำจไดร้ บั กำรแตง่ ต้งั อกี ท้งั น้ีต้งั แต่วนั ที่......เดือน................พ.ศ.......... สงั่ ณ วนั ท.่ี .......เดอื น..................พ.ศ................ (..............................................) ผรู้ ับใบอนุญำตโรงเรียน................ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 11 ~ หน่วยงำนทเี่ ก่ียวขอ้ ง ตัวอย่าง ส่วนบริหำรงำนในโรงเรียน ส่วนบญั ชาการ กล่มุ ส่งเสริมการศึกษาเอกชน โทร........................ สานักงานศึกษาธกิ าร จังหวัดสระบรุ ี ส่วนอานวยการ โทร.081-9475640 โทร.................. สานกั งานสาธารณสุขงั หวัด ส่วนสนับสนุน ..................................... โทร............................ โทร................................ ส่วนป้องกันและควบคุม สานักงานสาธารณสุขอาเภอ การแพร่กระจายเชื้อ ..................................... โทร............................ โทร................................ โรงพยาบาล................. ..................................... โทร................................ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 12 ~ ตวั อย่าง คาสั่งโรงเรียน แต่งต้งั คณะกรรมการป้องกันการแพร่ระบาดโรคตดิ เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากหน่วยงานภายนอกเป็ นคณะกรรมการ 1………………………………………………..ผอู้ ำนวยกำรโรงเรียน ประธำน 2........................................................................... ผแู้ ทนฝ่ำยปกครอง กรรมกำร 3........................................................................... ผแู้ ทนฝ่ำยสำธำรณสุข กรรมกำร 4...........................................................................ประธำนคณะกรรมกำร บริหำรโรงเรียน กรรมกำร 5........................................................................... ผแู้ ทนชมุ ชน กรรมกำร 6........................................................................... ผแู้ ทนผปู้ กครอง กรรมกำร 7.......................................................................... ผทู้ ่ปี ระธำนมอบหมำย กรรมกำรและเลขำนุกำร. 8.......................................................................... หัวหนำ้ ฝ่ำย/ครู กรรมกำรและผูช้ ่วยเลขำนุกำร อานาจหน้าที่ 1. บริหำรสถำนกำรณ์ เฝ้ำระวงั ตดิ ตำม และดำเนินกำรตำมแผนเผชิญเหตุรองรบั กำรแพร่ระบำดของโรคตดิ เช้ือ ไวรสั โคโรนำ 2019 ( COVID-19 ) ในสถำนศึกษำ 2. พจิ ำรณำจดั รูปแบบกำรเรียนกำรสอนใหเ้ หมำะสมกบั สถำนกำรณ์ตำมคำสง่ั จงั หวดั คณะกรรมกำรโรคติดตอ่ จงั หวดั สระบุรี / ศบค./ หน่วยงำนตน้ สังกดั 3. ประสำนงำนและพฒั นำขอ้ มูลระหว่ำงสถำนศึกษำ และหน่วยงำนตำ่ งๆ 4. ควบคมุ กำกบั ประสำนงำนใหส้ ถำนศกึ ษำปฏิบตั ิตำมมำตรกำรของกระทรวงสำธำรณสุขโดยเคร่งครดั 5. ดำเนินกำรอน่ื ใดท่ีเก่ียวขอ้ งตำมแนวทำงปฏบิ ตั กิ ำร เฝ้ำระวงั ป้องกนั ควบคมุ โรคติดต่อตำมทค่ี ณะกรรมกำร โรคตดิ ต่อจงั หวดั สระบรุ ี และสำนกั งำนศกึ ษำธิกำรจงั หวดั สระบรุ ีกำหนด ท้งั น้ีต้งั แต่วนั ท่.ี .....เดือน.............พ.ศ......... สงั่ ณ วนั ท.่ี .....เดอื น...............พ.ศ............................. ลงชื่อ (...............................................) ผอู้ ำนวยกำรโรงเรียน JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 13 ~ ตวั อย่าง ระเบยี บวาระการประชุมเตรียมความพร้อมก่อนเปิ ดภาคเรียน ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 โรงเรียน........................................................... คร้ังท่ี ……………./๒๕๖๔ วัน………….ที่…………….เดอื น............. ๒๕๖๔ เวลา .................. น.สถานท่ี……………………………………… .................................................................. ระเบยี บวาระที่ ๑ เรื่องทีป่ ระธานแจ้งให้ท่ีประชุมทราบ ๑.๑ …………………………………………………..…………………………………………… ๑.๒ ……………………………………………….……………………………………………… ระเบียบวาระท่ี ๒รับรองรายงานการประชุม คร้ังที่ ............... วันท่ี ..................................... ระเบยี บวาระที่ ๓เร่ืองสืบเน่ืองจากการประชุมคร้ังทแี่ ล้ว ระเบยี บวาระท่ี ๔ เร่ืองเพ่อื ทราบ ๔.๑ ประกำศกระทรวงศึกษำธิกำร เรื่อง หลกั เกณฑ์กำรเปิ ดโรงเรียนหรือสถำบนั กำรศึกษำ ตำม ขอ้ กำนดออกตำมควำมในมำตรำ ๙ แห่งพระรำชกำหนดกำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณฉ์ ุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบบั ท่ี ๓๒) (เอกสำรหมำยเลข ๑) ๔.๒ ………..………………………………………………… (เอกสำรหมำยเลข ...........) ระเบยี บวาระท่ี ๕เรื่องเพอ่ื พิจารณา จากหน้า 14-19 คือสิ่งท่ตี ้องมใี นวาระการประชุม JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 14 ~ ด้านการประเมินความพร้อมก่อนเปิ ดภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2564 ๕.๑ ดำ้ นโรงเรียนหรือสถำนศึกษำ ๕.๑.๑ สถำนศึกษำต้องผ่ำนกำรประเมินควำมพร้อมผ่ำน Thai Stop Corvid Plus (TSC+) และรำยงำนกำรติดตำมกำรประเมินผลผำ่ น MOE COVID (เอกสำรหมำยเลข 2) ๕.๑.๒ ต้องจดั ให้มีสถำนท่ีแยกกักตวั ในโรงเรียน (School Isolation) สำหรับรองรับกำร ดแู ลรักษำ เบ้ืองต้นกรณีนกั เรียน ครุ หรือบุคลำกรในสถำนศึกษำมีกำรติดเช้ือโควดิ -19 หรือผลตรวจ ATK เป็นบวก รวมถงึ มีแผนเผชิญเหตุและมีควำมร่วมมอื กบั สถำนพยำบำลเครือข่ำยในพ้ืนทท่ี ่ีดแู ลอยำ่ งใกลช้ ิด ๕.๑.๓ ต้องจดั อำคำรและพน้ ที่โดยรอบให้เป็นอำณำเขตบริเวณในรูปแบบ Sandbox ใน โรงเรียน ดงั น้ี ๑) Screening Zone - จัดพ้ืนท่ีหรือบริเวณให้เป็นจุดคดั กรอง (Screening Zone) ที่เหมำะสม จัด จดุ รบั ส่งสิ่งของ จดุ รบั ส่งอำหำรหรือจุดเสี่ยงอน่ื เป็นกำรจำแนกนกั เรียน ครู บคุ ลำกร ผูป้ กครองและผูม้ ำติดตอ่ ทเี่ ขำ้ มำ ในโรงเรียน ไม่ให้ใกล้ชิดกับบุคคลในโซนอ่ืน รวมถึงจัดให้มีพ้ืนที่ปฏิบตั ิงำนเฉพำะบุคลำกรที่ไม่สำมำรถเขำ้ มำ ปฏบิ ตั ิงำนโซนอนื่ ได้ ๒) Quarantine Zone - จดั พ้ืนท่ีหรือบริเวณให้เป็นจุดกกั กันและสังเกตอำกำร สำหรับนักเรียน ครู และบุคลำกรทย่ี งั ตอ้ งสงั เกตอำกำร เนน้ กำรจดั กิจกรรมแบบ Small bubble ๓) Safety Zone - จัดเป็ นพ้ืนท่ีปลอดเช้ือ ปลอดภัย สำหรับนกั เรียน ครู และบุคลำกรที่ปฏิบัติ ภำรกจิ กิจกรรมแบบปลอดภยั ๕.๑.๔ ต้องมีระบบและแผนกำรรับกำรตดิ ตำมประเมนิ ควำมพร้อม โดยทมี ตรวจรำชกำร บูรณำกำร ร่วมกนั ระหว่ำงกระทรวงศึกษำธิกำรและกระทรวงสำธำรณสุข ท้งั ช่วงกอ่ นและระหว่ำงกำรดำเนินกำร ๕.๒ ดำ้ นนกั เรียน ครู และบุคลำกร ๕.๒.๑ ครูและบุคลำกร ต้องไดร้ ับกำรฉีดวคั ซีนครบโดส ต้งั แต่ร้อยละ ๘๕ ข้ึนไป ส่วน นกั เรียน และผูป้ กครองควรไดร้ ับวคั ซีนตำมมำตรกำรของกระทรวงศึกษำธิกำรและกระทรวงสำธำรณสุข โดยเฉพำะ สถำนศึกษำทอ่ี ยู่ในพ้นื ทค่ี วบคมุ สูงสุด (พ้ืนท่ีสีแดง) และพ้ืนทคี่ วำมคมุ สูงสุดและเขม้ งวด (พ้ืนท่ีสีแดงเขม้ ) ๕.๒.๒ นกั เรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศกึ ษำทกุ คนตอ้ งตรวจคดั กรอง Antigen Test Kit (ATK) ก่อนเขำ้ Quarantine Zone ๕.๒.๓ นักเรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศึกษำ มีกำรแยกกักตวั สังเกตอำกำรให้ครบ กำหนด ๑๔ วนั กอ่ นเขำ้ สู่ Safety Zone (กรณียำ้ ยมำจำก State Quarantine ให้พจิ ำรณำลดจำนวนวนั กกั ตวั ลงตำมควำม เหมำะสม ๗-๑๐ วนั ) รวมถงึ กำรทำกิจกรรมในแบบ Small Bubble และหลกี เลยี่ งกำรทำกิจกรรมขำ้ มกลุ่มกนั JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 15 ~ ด้านการดาเนนิ การของโรงเรียนหรือสถานศึกษา : ระหว่างภาคการศึกษาต้องดาเนนิ การดงั น้ี (๑) สำมำรถจดั กำรเรียนกำรสอน ไดท้ ้งั รูปแบบ Onsite หรือ Online หรือแบบผสมผสำน (Hybrid) (๒) นกั เรียน ครู และบุคลำกรทุกคนตอ้ งประเมิน Thai Save Thai (TST) ตำมเกณฑ์จำแนกตำมเขต พ้ืนทกี่ ำรแพร่ระบำด (ดงั ตำรำง ๑) (๓) ให้มีกำรสุ่มตรวจ ATK นักเรียน ครู และบุคลำกรที่เก่ียวขอ้ งกบั สถำนศึกษำ เพื่อเฝ้ำระวงั ตำม เกณฑจ์ ำแนกตำมเขตพ้นื ทก่ี ำรแพร่ระบำด (ดงั ตำรำง ๑) (๔) ปฏิบตั ิตำมมำตรกำรสุขอนำมยั ส่วนบุคคลอยำ่ งเขม้ ขน้ ไดแ้ ก่ ๖ มำตรกำรหลกั (DMHT-RC) และ ๖ มำตรกำรเสริม (SSET-CQ) (๕) ปฏิบตั ติ ำมแนวทำงมำตรกำรเขม้ สำหรับสถำนศกึ ษำอยำ่ งเคร่งครดั (๕.๑) สถำนศึกษำประเมินควำมพร้อมเปิ ดเรียนผ่ำน TSC+ และรำยงำนกำรติดตำมกำร ประเมนิ ผล ผ่ำน MOECOVID โดยถือปฏิบตั อิ ย่ำงเขม้ ขน้ ต่อเนื่อง (๕.๒) ทำกิจกรรมร่วมกนั ในรูปแบบ Small Bubble หลกี เลี่ยงกำรทำกิจกรรมขำ้ มกลุ่มกัน และ จดั นกั เรียนในห้องเรียนขนำดปกติ (๖ X ๘ เมตร) ไม่เกิน ๒๕ คน หรือจดั ให้เวน้ ระยะห่ำงระหว่ำงนกั เรียนในหอ้ งเรียน ไม่นอ้ ยกวำ่ ๑.๕ เมตร พิจำรณำตำมควำมเหมำะสมโดยคณะกรรมกำรโรคติดตอ่ จงั หวดั (๕.๓) จดั ระบบกำรให้บริกำรอำหำรสำหรบั นกั เรียน ครู และบคุ ลำกรในสถำนศึกษำ ตำมหลกั มำตรฐำนสุขำภิบำลอำหำรและหลกั โภชนำกำร อำทิเช่น กำรจัดซ้ือจดั หำวตั ถุดิบจำกแหล่งอำหำร กำรปรุงประกอบ อำหำร หรือกำรสั่งซ้ืออำหำรตำมระบบนำส่งอำหำร (Delivery) ที่ถูกสุขลักษณะและต้องมีระบบตรวจสอบทำง โภชนำกำรก่อนนำมำบริโภค หนำ้ ท่ี ๓ ฉบบั วนั ท่ี ๒๑ กนั ยำยน ๒๔๖๔ (๕.๔) จัดกำรด้ำนอนำมยั ส่ิงแวดลอ้ มให้ได้ตำมแนวปฏิบัติด้ำนอนำมยั ส่ิงแวดลอ้ มในกำร ป้องกนั โรคโควิด-19 ในสถำนศึกษำ ได้แก่ กำรระบำยอำกำศภำยในอำคำร กำรทำควำมสะอำด คุณภำพน้ำอุปโภค บริโภค และกำรจดั กำรขยะ (๕.๕) จัดให้มีสถำนท่ีแยกกักตวั ในโรงเรียน (School Isolation) และแผนเผชิญเหตุสำหรับ รองรับกำรดูแลรักษำเบ้ืองตน้ กรณีนกั เรียน ครู หรือบุคลำกรในสถำนศึกษำมีกำรติดเช้ือโควดิ -19 หรือ ผลตรวจ ATK เป็นบวก โดยมีกำรซักซอ้ มอยำ่ งเคร่งครดั (๕.๖) ควบคมุ ดูแลกำรเดินทำงกรณีมีกำรเขำ้ และออกจำกสถำนศึกษำ (Seal Route) อยำ่ ง เขม้ ขน้ โดยหลีกเลีย่ งกำรเขำ้ ไปสมั ผสั ในพ้ืนทตี่ ่ำง ๆ ตลอดเส้นทำงกำรเดินทำง ท้งั น้ี โรงเรียน หรือ สถำบนั กำรศกึ ษำท่ีประสงคจ์ ะขอเปิ ดกำรเรียนกำรสอน โดยดำเนินกำร ตำม รูปแบบ Sandbox : Safety Zone in School ต้องจดั ทำเอกสำรขอเสนอโครงกำรเสนอต่อผูแ้ ทน กระทรวงศึกษำธิกำร และ กระทรวงสำธำรณสุขในพ้นื ท่ี (ศึกษำธิกำรจงั หวดั และสำธำรณสุขจงั หวดั ) พิจำรณำ และเสนอต่อคณะกรรมกำร โรคติดต่อกรุงเทพมหำนครหรือคณะกรรมกำรโรคติดต่อจังหวดั โดยตอ้ งจดั ทำ แผนงำนและแสดงควำมพร้อมกำร ดำเนินกำรตำมขอ้ ๒.๑ - ๒.๔ ให้ครบถว้ น ๓. มำตรกำร Sandbox : Safety Zone in School สำหรบั โรงเรียนหรือสถำบนั กำรศกึ ษำ ประเภท ไป-กลบั ที่ มีควำมพร้อมและผำ่ นเกณฑก์ ำรประเมิน JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 16 ~ (๑) ดำ้ นกำยภำพ : ลกั ษณะอำคำรและพ้ืนทีโ่ ดยรอบอำคำรของโรงเรียนหรือสถำบนั กำรศึกษำ ประกอบดว้ ย (๑.๑) พ้นื ท่ี/อำคำรสนบั สนุนกำรบริกำร (๑.๒) พ้ืนที/่ อำคำรเพ่อื จดั กำรเรียนกำรสอน โดยจดั อำคำรและพ้ืนท่ีโดยรอบให้เป็นพ้ืนท่ีปฏิบตั ิงำนทีปลอดภยั และมีพ้นื ท่ีทเ่ี ป็นCOVID free zone (๒) ดำ้ นกำรมีส่วนร่วม : ตอ้ งเป็นไปตำมควำมสมคั รใจของทุกฝ่ ำย โดยโรงเรียนท่ีประสงค์ จะดำเนินกำรในรูปแบบ Sandbox : Safety Zone in School ต้องจัดให้มีกำรประชุมหำรือร่วมกันของ คณะกรรมกำร สถำนศกึ ษำข้นั พ้ืนฐำน ครู ผปู้ กครอง ผูน้ ำชุมชน และมีมติให้ควำมเห็นชอบร่วมกนั ในกำรจัดพ้ืนท่ีกำรเรียนกำรสอน ในรูปแบบ Sandbox : Safety Zone in School ตลอดภำคกำรศึกษำ ก่อนนำเสนอโครงกำรผ่ำนตน้ สังกัดในพ้ืนท่ี แลว้ ขอควำมเห็นชอบจำกคณะกรรมกำรโรคตดิ ต่อกรุงเทพมหำนครหรือคณะกรรมกำรโรคติดต่อจงั หวดั (๓) ดำ้ นกำรประเมนิ ควำมพรอ้ มสู่กำรปฏิบตั :ิ โรงเรียนหรือสถำนศึกษำ ตอ้ งเตรียมกำร ประเมนิ ควำมพร้อมดงั น้ี (๓.๑) โรงเรียน หรือ สถำนศกึ ษำ ๑) ต้องผ่ำนกำรประเมินควำมพร้อมผ่ำน TSC+ และรำยงำนกำรติดตำมกำร ประเมินผลผำ่ น MOECOVID ๒) ตอ้ งจดั ให้มีสถำนที่แยกกกั ตวั ในโรงเรียน (School Isolation)สำหรับรองรับกำร ดูแลรักษำเบ้ืองตน้ กรณีนกั เรียน ครู หรือบุคลำกรในสถำนศึกษำมีกำรติดเช้ือโควิด-19 หรือผลตรวจ ATK เป็นบวก รวมถงึ มแี ผนเผชิญเหตุและมีควำมร่วมมอื กบั สถำนพยำบำลเครือขำ่ ยในพ้นื ท่ที ่ดี ูแลอยำ่ งใกลช้ ิด ๓) ต้องควบคมุ ดแู ลกำรเดินทำงระหวำ่ งบำ้ นกบั โรงเรียนอยำ่ งเขม้ ขน้ โดย หลีกเลย่ี ง กำรเขำ้ ไปสมั ผสั ในพ้ืนท่ตี ำ่ ง ๆ ตลอดเสน้ ทำงกำรเดนิ ทำง ๔) ต้องจัดพ้ืนที่หรือบริเวณให้เป็ นจุดคัดกรอง (Screening Zone) ที่ เหมำะสม จดั จดุ รับส่งส่ิงของ จุดรับส่งอำหำร หรือจดุ เลี่ยงอ่ืน เป็นกำรจำแนกนกั เรียน ครู บุคลำกร ผูป้ กครอง และผูม้ ำติดต่อที่ เขำ้ มำในโรงเรียน (๓.๒) นกั เรียน ครู และบคุ ลำกร ๑) ครู และบคุ ลำกร ตอ้ งไดร้ ับกำรฉีดวคั ซีนครบโดส ต้งั แต่ร้อยละ ๘๕ เป็นตน้ ไป ส่วนนักเรียน และผู้ปกครองควรได้รับวคั ซีนตำมมำตรกำรของกระทรวงศึกษำธิกำรและกระทรวงสำธำรณสุข โดยเฉพำะสถำนศกึ ษำท่อี ยู่ในพ้นื ที่ควบคมุ สูงสุด (พ้ืนที่สีแดง) และพ้นื ท่ีควบคุมสูงสุดและเขม้ งวด (พ้นื ที่สีแดงเขม้ ) ๒) นกั เรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศึกษำที่อยู่ในพ้ืนที่ควบคุมสูงสุด (พ้ืนที่ สี แดง) และพ้ืนที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พ้ืนที่สีแดงเขม้ ) ทุกคนต้องตรวจคัดกรอง ATK ในวันแรกของกำร เปิ ดเรียนของสถำนศกึ ษำ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 17 ~ ๓) นักเรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศึกษำ มีกำรทำกิจกรรมร่วมกันในรูปแบบ Small Bubble และหลกี เลี่ยงกำรทำกิจกรรมขำ้ มกลมุ่ กนั โดยเฉพำะพ้ืนทค่ี วบคุมสูงสุด (พ้ืนทสี่ ีแดง) และพ้ืนท่ีควบคุม สูงสุดและเขม้ งวด (พ้นื ท่สี ีแดงเขม้ ) (๔). การดาเนนิ การของโรงเรียน หรือ สถานศึกษา : ระหว่างภาคการศึกษาต้องดาเนนิ การ ดังน้ี (๔.๑) สำมำรถจดั กำรเรียนกำรสอน ไดท้ ้งั รูปแบบ Onsite หรือ Online หรือแบบ ผสมผสำน (Hybrid) (๔.๒) นกั เรียน ครู และบคุ ลำกรทีอ่ ยูใ่ นพ้ืนที่ Safety Zone ตอ้ งประเมนิ Thai Save Thai (TST) อย่ำงต่อเน่ืองตำมเกณฑ์ จำแนกตำมเขตพ้นื ทีก่ ำรแพร่ระบำด (ดงั ตำรำง ๑) (๔.๓) ใหม้ ีกำรสุ่มตรวจ ATK นกั เรียน ครู และบุคลำกรที่เกี่ยวขอ้ งกบั สถำนศึกษำ เพือ่ เฝำ้ ระวงั ตำมเกณฑ์ จำแนกตำมเขตพ้ืนที่กำรแพร่ระบำด (ดงั ตำรำง ๑) (๔.๔) ปฏิบตั ิตำมมำตรกำรสุขอนำมยั ส่วนบุคคลอย่ำงเข้มข้น ได้แก่ ๖ มำตรกำร หลกั (DMHT-RC) และ ๖ มำตรกำรเสริม (SSET-CQ) (๔.๕) นักเรียน ครู และบุคลำกรท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั สถำนศึกษำ เขียนบันทึก Timeline กจิ กรรมประจำวนั และกำรเดนิ ทำงเขำ้ ไปในสถำนท่ตี ำ่ ง ๆ แต่ละวนั อยำ่ งสม่ำเสมอ (๔.๖) ปฏิบตั ิตำมแนวทำง ๗ มำตรกำรเขม้ สำหรับสถำนศึกษำ (ไป-กลบั ) อย่ำง เคร่งครัด ๑) สถำนศึกษำประเมินควำมพร้อมเปิ ดเรียน ผ่ำน TSC+ และรำยงำนกำร ติดตำมกำรประเมินผลผำ่ น MOECOVID โดยถือปฏบิ ตั ิอย่ำงเขม้ ขน้ ตอ่ เน่ือง ๒) ทำกจิ กรรมร่วมกนั ในรูปแบบ Small Bubble หลีกเลย่ี งกำรทำกิจกรรม ขำ้ ม กลุ่มกัน และจัดนักเรียนในห้องเรียนขนำดปกติ (๖ X ๘ เมตร) ไม่เกิน ๒๕ คน หรือจัดให้เวน้ ระยะห่ำงระหว่ำง นกั เรียนในหอ้ งเรียนไมน่ อ้ ยกวำ่ ๑.๕ เมตร พิจำรณำตำมควำมเหมำะสมโดยคณะกรรมกำรโรคติดต่อ จงั หวดั ๓) จัดระบบกำรให้บริกำรอำหำรสำหรับนักเรี ยน ครู และบุคลำกรใน สถำนศกึ ษำ ตำมหลกั มำตรฐำนสุขำภิบำลอำหำรและหลกั โภชนำกำร อำทิเช่น กำรจดั ซ้ือจดั หำวตั ถุดิบจำกแหลง่ อำหำร กำรปรุงประกอบอำหำร หรือกำรส่ังซ้ืออำหำรตำมระบบนำส่งอำหำร (Delivery) ท่ีถูกสุขลกั ษณะและตอ้ งมีระบบ ตรวจสอบทำงโภชนำกำรก่อนนำมำบริโภค ๔) จดั กำรดำ้ นอนำมยั ส่ิงแวดลอ้ มใหไ้ ดต้ ำมแนวปฏบิ ตั ิดำ้ นอนำมยั สิ่งแวดลอ้ ม ในกำรป้องกันโรคโควิด-19 ในสถำนศึกษำได้แก่ กำรระบำยอำกำศภำยในอำคำร กำรทำควำมสะอำด คุณภำพน้ำ อปุ โภคบริโภค และ กำรจดั กำรขยะ ๕) จดั ให้มีสถำนท่ีแยกกกั ตวั ในโรงเรียน (School Isolation) และแผนเผชิญ เหตุ สำหรับรองรับกำรดูแลรกั ษำเบ้อื งตน้ กรณีนกั เรียน ครู หรือบุคลำกรในสถำนศกึ ษำมกี ำรตดิ เช้ือโควดิ -19 หรือ ผลตรวจ ATK เป็นบวก โดยมกี ำรซกั ซอ้ มอย่ำงเคร่งครดั JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 18 ~ ๖) ควบคุมดูแลกำรเดินทำงเข้ำและออกจำกสถำนศึกษำ (Seal Route) อย่ำง เขม้ ขน้ โดย หลีกเลย่ี งกำรเขำ้ ไปสัมผสั ในพ้ืนทตี่ ่ำง ๆ ตลอดเสน้ ทำงกำรเดินทำงจำกบ้ำนไปกลบั โรงเรียน ท้งั กรณีรถ รบั -ส่งนกั เรียน รถส่วนบุคคล และพำหนะโดยสำรสำธำรณะ ๗) จัดให้มี School Pass สำหรับนักเรียน ครู และบุคลำกรในสถำนศึกษำ ซ่ึง ประกอบด้วย ขอ้ มูล ผลกำรประเมิน TST ผลตรวจ ATK ภำยใน ๗-๑๔ วนั และประวตั ิกำรรบั วคั ซีน ตำมมำตรกำร ของกระทรวงศึกษำธิกำรและกระทรวงสำธำรณสุข พิจำรณำตำมควำมเหมำะสมโดยคณะกรรมกำรโรคติดต่อจงั หวดั เพื่อให้เกิดควำมปลอดภยั เม่ือเขำ้ -ออกโรงเรียน โดยเฉพำะพ้ืนที่ควบคุมสูงสุด (พ้ืนที่สีแดง) และพ้ืนท่ีควบคุมสูงสุด และเขม้ งวด (พ้ืนทีส่ ีแดงเขม้ ) (๔.๗) กรณีสถำนศึกษำต้งั อยู่ในพ้ืนทค่ี วบคุมสูงสุด (พ้ืนที่สีแดง) และพ้ืนท่ีควบคุม สูงสุด และเขม้ งวด (พ้ืนท่ี สีแดงเขม้ ) กำหนดให้สถำนประกอบกิจกำร กิจกรรมที่อยู่รอบร้ัวสถำนศึกษำให้ผ่ำนกำรประเมิน Thai Stop COVID plus (TSC+) COVID free setting ท้งั น้ีโรงเรียน หรือ สถำบนั กำรศึกษำที่ประสงคจ์ ะขอเปิ ดกำรเรียนกำรสอนโดยดำเนินกำร ต ำม รู ป แ บ บ Sandbox : Safety Zone in School ต้ อ งจัด ท ำเอ ก ส ำร ข้อ เส น อ โค ร งก ำร เส น อ ต่ อ ผู้แ ท น กระทรวงศึกษำธิกำรและกระทรวงสำธำรณสุขในพ้ืนท่ี (ศึกษำธิกำรจงั หวดั และสำธำรณสุขจังหวดั ) พิจำรณำ และ เสนอต่อคณะกรรมกำรโรคติดต่อกรุงเทพมหำนครหรือคณะกรรมกำรโรคติดต่อจังหวดั โดยตอ้ งจดั ทำแผนงำนและ แสดงควำมพร้อมกำร ดำเนินกำรตำมขอ้ ๑ - ๔ ใหค้ รบถว้ น ๔. แนวปฏบิ ตั ดิ ำ้ นอนำมยั สิ่งแวดลอ้ มในกำรป้องกนั โรคโควิด-19 ในสถำนศึกษำ (๑) กำรระบำยอำกำศภำยในอำคำร * เปิ ดประตูหนำ้ ต่ำงระบำยอำกำศก่อนและหลงั กำรใชง้ ำน อย่ำงนอ้ ย ๑๕ นำทีควรมี หนำ้ ตำ่ งหรือ ซ่องลม อย่ำงนอ้ ย ๒ ดำ้ นของหอ้ ง ให้อำกำศภำยนอกถ่ำยเทเขำ้ สู่ภำยในอำคำร * กรณีใชเ้ คร่ืองปรบั อำกำศ ควรระบำยอำกำศในอำคำรกอ่ นและหลงั กำรใชง้ ำน อยำ่ ง และทำควำมสะอำดสมำ่ เสมอ (๒) กำรทำควำมสะอำด * ทำควำมสะอำดวสั ดสุ ิ่งของดว้ ยผงซกั ฟอกหรือน้ำยำทำควำมสะอำด และลำ้ งมอื ดว้ ย สบ่แู ละน้ำ * ทำควำมสะอำดและฆ่ำเช้ือโรคบนพ้ืนผิวทั่วไป อุปกรณ์สัมผสั ร่วม เช่น ห้องน้ำ ห้องสว้ ม ลูกบิดประตู รีโมทคอนโทรล รำวบนั ได สวติ ช์ไฟ ป่ ุมกดลิฟท์ จดุ น้ำด่ืม เป็นตน้ ดว้ ยแอลกอฮอล์ ๗๐% นำน ๑๐ นำที และฆ่ำเช้ือโรคบนพ้ืนผิววสั ดุแขง็ เช่น กระเบ้ือง เซรำมิกสแตนเลส ดว้ ยน้ำยำฟอกขำวหรือ โซเดยี มไฮโปคลอ ไรท์ ๐.๑% นำน ๕-๑๐ นำที อย่ำงน้อยวันละ ๒ คร้ัง และอำจเพ่ิมควำมถ่ีตำมควำมเหมำะสม โดยเฉพำะเวลำที่มี ผใู้ ชง้ ำนจำนวนมำก หนำ้ ที่ ๖ ฉบบั วนั ท่ี ๒๑ กนั ยำยน ๒๔๖๔ (๓) คณุ ภำพน้ำอุปโภคบริโภค * ตรวจดูคุณลกั ษณะทำงกำยภำพ สี กล่ิน และไมม่ ีสิ่งเจอื ปน JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 19 ~ * ดูแลควำมสะอำดจดุ บริกำรน้ำด่มื และภำชนะบรรจุน้ำดมื่ ทุกวนั (ไมใ่ ชแ้ กว้ น้ำด่ืม ร่วมกนั เดด็ ขำด) * ตรวจคณุ ภำพน้ำ เพ่ือหำเช้ือแบคทเี รียดว้ ยชดุ ตรวจภำคสนำม (อ ๑๑) ทกุ ๖ เดอื น (๔) กำรจดั กำรขยะ * มีถังขยะแบบมีฝำปิ ด สำหรับรองรับส่ิ งของท่ีไม่ใช้แล้ว ประจำห้องเรี ยน อำคำรเรียน หรือบริเวณโรงเรียนตำมควำมเหมำะสม และมีกำรคดั แยก-ลดปริมำณขยะ ตำมหลกั ๓R (Reduce Reuse Recycle) * กรณีขยะเกดิ จำกผสู้ ัมผสั เส่ียงสูง/กกั กนั ตวั หรือหนำ้ กำกอนำมยั ทใ่ี ชแ้ ลว้ นำใส่ใน ถงุ ก่อนทิ้งให้รำดดว้ ยแอลกอฮอล์ ๗๐% หรือน้ำยำฟอกขำว ๒ ฝำ ลงในถุง มดั ปำกถุงให้แน่น ซอ้ นด้วยถุงอีก ๑ ช้ัน ปิ ดปำกถุงให้สนิท และฉีดพ่นบริเวณปำกถุงดว้ ยสำรฆำ่ เช้ือแลว้ ทิ้งในขยะทว่ั ไป ประชุมมีมติ ให้ควำมเหน็ ชอบร่วมกนั ในกำรจดั พ้นื ทกี่ ำรเรียนกำรสอนในรูปแบบ Sandbox Safety Zone in School ตลอดภำคเรียนที่ 2/2564 (พฤศจิกำยน 2564-เมษำยน 2565) โดยมขี อ้ เสนอแนะ ......................................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................ ............................................................................................................................. ............................................................ ระเบียบวาระที่ ๖ เรื่องอนื่ ๆ ๖.๑ ………………………………………………………………………………………… ๖.๒ ………..……………………………………………………………………………… JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 20 ~ 3. ข้อมลู ด้านการประเมนิ ความพร้อมสู่การปฏิบตั ิ ดังนี้ ขอ้ มูลของโรงเรียนที่ผ่านการประเมนิ ความพร้อมผ่าน TSC+ และรายงานการติดตามการประเมินผลผ่าน MOECOVID (ภาพถ่ายประกอบ) JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 21 ~ ให้แทรกเอกสำรของ THAI STOP COVID + (TSC) 5 มติ ิ 44 ขอ้ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 22 ~ ขอ้ มลู ของสถำนท่ีแยกกกั ตวั ในโรงเรียน (School Isolation) สำหรับกำรรองรับกำรดูแลเบ้อื งตน้ กรณีนกั เรียน ครู หรือ บุคลำกรในสถำนศกึ ษำมีกำรติดเช้ือโควิด-19 หรือผล ATK เป็นบวก (ภำพถำ่ ยประกอบ) School Isolation หากเกดิ การแพร่ระบาดภายในโรงเรียน 1. จดั เตรียมห้องคัดกรองผ้ปู ่ วยกรณพี บนักเรียน /ครู /บคุ ลากรทีม่ อี าการน่าสงสัย หรือมคี วามเสี่ยงต่อการ ตดิ เชื้อ 2. มีเจ้าหน้าทข่ี องโรงเรียนอย่ปู ระจา เพอ่ื ดแู ลช่วยเหลอื ในการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และประสานงาน ตวั อยำ่ งภำพ มาตรการการควบคุมดแู ลการเดนิ ทางระหว่างบ้านกบั โรงเรียนอย่างเข้มข้น โดยหลกี เลย่ี งการเข้าไปสัมผสั JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 23 ~ ทต่ี ่างๆ ตลอดเส้นทางการเดินทาง (ภาพถ่ายประกอบจะกร่ี ูปแบบขนึ้ อย่กู ับบริบทของโรงเรียน) 1. กรณีนกั เรียนนกั เรียนเดนิ ทำงระหวำ่ งบำ้ นกบั โรงเรียน ดว้ ยพำหนะส่วนตวั มีแผนทป่ี ระกอบทุกคน พร้อมจุดเสี่ยง 2. กรณีนกั เรียนเดินทำงระหวำ่ งบำ้ นกบั โรงเรียน ดว้ ยรถรบั ส่งของโรงเรียน (กรณีรถรับส่งรับโรงเรียนเดยี ว) 3. กรณีนกั เรียนเดินทำงระหว่ำงบำ้ นกบั โรงเรียน ดว้ ยรถรับส่งของโรงเรียน (กรณีรถรบั ส่งรับมำกกว่ำ 1 โรงเรียน) 4. กรณีนกั เรียนเดินทำงระหว่ำงบำ้ นกบั โรงเรียน ดว้ ยรถโดยสำรสำธำรณะ ที่ ช้ัน เตม็ แบบที่ 1 แบบท่ี 2 แบบท่ี 3 แบบท่ี 4 1 เตรียมอนบุ ำล 1/1 จานวน ร้อยละ จานวน จานวน ร้อยละ ร้อยละ จานวน ร้อยละ 2 อนบุ ำลปีที่ 1/1 3 อนบุ ำลปีท่ี 2/1 4 อนบุ ำลปีท่ี 3/1 5 ประถมศกึ ษำปี ที่ 1/1 6 ประถมศึกษำปี ที่ 2/1 7 ประถมศกึ ษำปี ที่ 3/1 8 ประถมศึกษำปี ที่ 4/1 9 ประถมศึกษำปี ที่ 5/1 10 ประถมศกึ ษำปี ที่ 6/1 11 มธั ยมศึกษำปี ที่ 1/1 12 มธั ยมศึกษำปี ท่ี 2/1 13 มธั ยมศกึ ษำปี ที่ 3/1 14 มธั ยมศึกษำปี ท่ี 4/1 15 มธั ยมศึกษำปี ที่ 5/1 16 มธั ยมศึกษำปี ท่ี 6/1 รวม (กรณีช้นั เรียนหน่ึงมีมำกกว่ำ ๑ ห้อง เพ่มิ ตำมบริบทสถำนศกึ ษำ) JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 24 ~ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 25 ~ ตวั อยำ่ ง ภำพแสดงพ้ืนทจ่ี ดุ คดั กรอง (Screening Zone) ภาพตวั อยา่ ง ภำพ แสดงจดุ รับส่งสิ่งของ/รบั ส่งอำหำร JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 26 ~ ภำพแสดงจุดเส่ียงทจี่ ำแนกนกั เรียน ครู บุคลำกร ผปู้ กครอง และผูม้ ำติดต่อท่เี ขำ้ มำในโรงเรียน ภาพตวั อย่าง ระบบและแผนการรับตดิ ตามประเมนิ ความพร้อม โดยทมี ตรวจราชการบรู ณาการร่วมกนั ระหว่างกระทรวงศึกษาธกิ าร และกระทรวงสาธารณสุข ท้งั ช่วงก่อนและระหว่างดาเนนิ การ ภาพตวั อยา่ ง JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 27 ~ ตารางแสดงจานวนครูผ้สู อน/บุคลากร/พนักงาน จาแนกตามการได้รับวัคซีนเขม็ 1-2-3 อย่างน้อยร้อยละ 85-100 (พน้ื ท่ี ควบคมุ และเข้มงวดสูงสุด) ช่ือโรงเรียน.......................................................อาเภอ........................................จังหวดั สระบุรี ท่ี ช่ือ-นามสกุล ตาแหน่ง เขม็ ที่ 1 เข็มท่ี 2 เขม็ ที่ 3 1 2 จานวน 3 ร้อยละ 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 15 รวม 16 JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 28 ~ ตารางแสดงจานวนบดิ า มารดา หรือผ้ปู กครองทีน่ ักเรียนอย่ดู ้วยและสัมผัสใกล้ชิดจาแนกตามการได้รับวคั ซีน เข็ม 1-2-3 อย่างน้อยร้อยละ 85-100 (พ้ืนท่ีควบคุมและเข้มงวดสูงสุด) ชื่อโรงเรียน.......................................................อาเภอ........................................จังหวัดสระบุรี ที่ ช่ือ-นามสกลุ ตาแหน่ง เขม็ ที่ 1 เข็มที่ 2 เขม็ ท่ี 3 1 2 จานวน 3 ร้อยละ 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 15 รวม 16 แบบการตรวจคัดกรอง ATK ของนกั เรียน ครู และบคุ ลากรในสถานศึกษา ทกุ คน ในวนั เปิ ดเรียนวันแรก JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 29 ~ ของโรงเรียน และมกี ารตรวจประจาทุกสัปดาห์ในทุกเดือน สาหรับนักเรียน ครู และบุคลากรในสถานศึกษา ทกุ คนจานวน 10 คร้ัง (พ้นื ทคี่ วบคมุ และเข้มงวดสูงสุด) ช่ือโรงเรียน.......................................................อาเภอ........................................จังหวัดสระบุรี ช้ัน................................................................................................. ที่ ช่ือ-นามสกลุ คร้ังท่ี 1 เดอื น รวม 1 .../พย./64 .../พย./64 .../พย./64 .../พย./64 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 15 ⁄ผลเป็ นลบ X ผลเป็ นบวก 16 JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 30 ~ รายละเอยี ดการจดั ทา Small Bubble ในแต่ละช้ัน รวมถึงรายช่ือครูผ้สู อนท่ีอย่ใู น Small Bubble ในแต่ละช้ัน (พืน้ ท่คี วบคุมและเข้มงวดสูงสุด) การจดั ทา SMALL BUBBLE ระดบั ปฐมวยั การสร้าง Bubble มีดังนี้ 1. กำหนดครูและเดก็ ในอตั รำส่วน 1 : 5 (ควรเป็นสมำชิกเดมิ ทกุ วนั ) ท้งั ครูและเด็กถอื ว่ำเป็นสมำชิกช้นั ท่ี 1 และสมำชิกในครอบครวั ของครูพี่เล้ียงและเด็กในกล่มุ ถือว่ำเป็นสมำชิกช้นั ท่ี2 2. ทำควำมสะอำดร่ำงกำย เช่น อำบนำ้ ลำ้ งมอื ลำ้ งเทำ้ และ เปลยี่ นชุดทำงำน ชดุ เดก็ หรือสวมเส้ือคลมุ แขน ยำวแบบเตม็ ตวั ตวั ใหม่ก่อนเขำ้ มำในสถำนพฒั นำเดก็ ปฐมวยั ทกุ วนั 3. ทำกิจกรรมทุกอยำ่ งดว้ ยกนั ตลอดท้งั วนั โดยเนน้ กำรเวน้ ระยะห่ำงจำกกลุ่มย่อย (Bubble) อืน่ 1-2 เมตร เชน่ กจิ กรรมกำรสร้ำงประสบกำรณ์ (กำรเรียนรู)้ กำรรับประทำนอำหำรกำรทำควำมสะอำดร่ำงกำย กำรนอน เป็นตน้ 4. ครอบครวั ของสมำชิกในกลมุ่ ตอ้ งปฏิบตั ิตนเพ่อื ป้องกนั เช้ือโรคอยำ่ งเคร่งครดั ตลอดเวลำ โดยยดึ หลกั กำร เวน้ ระยะห่ำง กำรสวมหนำ้ กำก กำรลำ้ งมอื รักษำควำมสะอำด ปรำศจำกควำมแออดั 5. ส่ือสำรแนวคิด Thailand ECD Bubble Model ใหส้ มำชิกช้นั 1 และ 2 ทกุ คนรบั ทรำบ เขำ้ ใจและร่วมมือ กนั ทำอย่ำงเคร่งครัด เพอ่ื ให้เกดิ ควำมปลอดภยั แกท่ ุกคน และกำหนดเครื่องมือส่ือสำรเช่น โทรศพั ท์LINE/ Facebookเป็น ตน้ เพ่ือสมำชิกไดต้ ดิ ต่อกนั และสรำ้ งปฏิสมั พนั ธท์ ีด่ ีต่อกนั 6. หำกในระยะแรกทยี่ งั ไมไ่ ดป้ ฏิบตั ิกำรป้องกนั โรคอย่ำงเคร่งครัด ของสมำชิกช้นั ท่ี1 และ2 แนะนำใหเ้ วน้ ระยะห่ำงระหว่ำงบุคคลของครู/ผดู้ ูแลเดก็ 1-2 เมตรไปก่อน แนวทางการจัดกิจกรรมโดยยึดหลัก Bubble Modelสำหรับสถำนพัฒนำเด็กปฐมวยั กำรจัดกิจกรรมทุก ประเภท เช่น กำรเคำรพธงชำติกำรรับประทำนอำหำร กำรนอน กำรอำบน้ำ กำรลำ้ งมือ กำรแปรงฟัน กำรเล่น กิจกรรม ส่งเสริมพฒั นำกำร เป็นตน้ ยึดหลกั เวน้ ระยะห่ำงอย่ำนอ้ ย 1 – 2 เมตรควรมีพ้นื ท่ีอย่ำงนอ้ ย 2 ตำรำงเมตรตอ่ เดก็ ปฐมวยั 1 คน จดั พ้ืนที่เฉพำะกำรเรียนรูก้ บั เดก็ เป็นรำยบคุ คลทเ่ี น้นกำรเวน้ ระยะห่ำง เช่น กำรเรียนบนเสื่อ กำรใชเ้ ส้นสัญลกั ษณ์ แสดงขอบเขต ก้นั เขต เนน้ กจิ กรรมที่ให้เด็กทำบนพ้ืนทขี่ องตนเอง จดั พ้ืนทเ่ี ฉพำะกำรเรียนรู้กบั เด็กเป็นรำยบคุ คลที่เนน้ กำรเวน้ ระยะห่ำง เชน่ กำรเรียนบนเส่ือ กำรใช้เส้นสญั ลกั ษณ์แสดงขอบเขต ก้ันเขต จัดตำรำงเวลำท่ีมีกำรสลบั เวลำมำ เรียนท่ลี ดจำนวนเด็กในพ้ืนท่ขี องสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั ในแต่ละวนั และกำรจดั ตำรำงเวลำในกำรใชพ้ ้นื ท่ที ี่เหมำะสม กับจำนวนเด็กส่งเสริมให้มีกำรใช้ส่ือกำรเรียนรู้ในระยะไกล เช่น Big Book กำรใชส้ ื่อขนำดใหญ่ในกำรมองเห็น ระยะไกล กำรใช้จอขยำยภำพ และมีกำรใชส้ ่ือรำยบุคคลกบั เด็กแต่ละคนแต่ละวนั โดยมีกำรทำควำมสะอำดทุกวนั ใช้ วธิ ีกำรจดั กิจกรรม เพลง เกม นิทำน ส่ือ ทเี่ นน้ กำรเว้นระยะห่ำง เกมกำรเล่นในระยะห่ำง เช่น กำรโยนห่วง กำรเลน่ ส่อง กระจก กำรสื่อสำรระยะไกลโดยใชแ้ กว้ โทรศพั ทก์ ระดำษ ดูแลให้เด็กรับประทำนอำหำรตำมหลกั โภชนำกำรที่ปรุงสุก ใหมแ่ ละสะอำด ขณะรบั ประทำนอำหำร ใหเ้ วน้ ระยะห่ำงอย่ำงนอ้ ย 1-2 เมตร หรือมีฉำกก้นั ระหว่ำงบคุ คลอุปกรณ์ของ ใชร้ ำยบุคคลทกุ ประเภท เช่น กำรรับประทำนอำหำรรำยบคุ คล แปรงและยำสีฟัน แกว้ น้ำ เป็นตน้ (หมำยเหตุ ท้งั น้ียำสี ฟันควรแยกเป็นของใช้ส่วนบุคคล ในกรณีท่ีใช้เป็ นของส่วนรวม ให้ครู/ผู้ดูแลเด็กบีบยำสีฟันป้ำยท่ีปำกแกว้ ท่ีลำ้ ง สะอำด หรือ แกว้ กระดำษ แลว้ ใหเ้ ดก็ ใช้แปรงสีฟันปำดไปใชห้ รือบบี ใส่ถำดเป็นจดุ ๆตำมขนำด ตำมปริมำณทก่ี ำหนด JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 31 ~ เพอ่ื จะไมใ่ หแ้ ปรงสีฟันของเดก็ แต่ละคนสัมผสั ปำกหลอดยำสีฟัน)กำรจดั กิจกรรมสำหรับเด็กเป็นรำยบุคคล หรือกลุ่ม ยอ่ ย จำนวนเด็ก 3-5 คน และให้มกี ำรเวน้ ระยะระหวำ่ ง ให้ปรบั ให้เขำ้ กบั บริบทของสถำนสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั ของ แต่ละสังกดั โดยคำนึงถึงควำมปลอดภยั ของเดก็ เป็นหลกั กจิ กรรมท่ีควรงด-กำรเขำ้ แถวตอ่ กันแบบประชิด-กิจกรรมท่ีมี กำรรวมกลุ่มทกุ ประเภท เชน่ กำรแข่งกีฬำ กิจกรรมตำมวนั สำคญั (วนั เดก็ กีฬำสีฯลฯ) กำรทศั นศึกษำนอกสถำนท่ี เป็น ตน้ การจัดการเดก็ ให้แบ่งกล่มุ ย่อยขอ้ กำหนดตำม”มำตรฐำนสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั แห่งชำติ” ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง 1) มำตรฐำนดำ้ นที่1 สถำนพฒั นำเดก็ ปฐมวยั ตอ้ งมคี รู/ผดู้ ูแลเดก็ อย่ำงนอ้ ย 1 คน เป็นผมู้ หี นำ้ ทีด่ แู ลเด็กดงั น้ี (1) เดก็ อำยุไม่เกิน 1 ปี อตั รำส่วนครู/ผดู้ ูแลเดก็ ต่อเด็ก 1:3 (2) สำหรับเด็กอำยุไม่เกนิ 2 ปี อตั รำส่วนครู/ผดู้ แู ลเดก็ ตอ่ เด็ก 1:5 (3) สำหรบั เดก็ อำยไุ มเ่ กิน 3 ปี อตั รำส่วนครู/ผดู้ ูแลเด็กตอ่ เด็ก 1:10 (4) เด็กอำยุ 3 ปี ข้นึ ไป อตั รำส่วนครู/ผูด้ แู ลเดก็ ต่อเด็ก 1:15 แตใ่ นสถำนกำรณ์กำรระบำดของโรคโควดิ -19 จึงกำหนดวำ่ (1) เด็กอำยไุ มเ่ กิน 1 ปี อตั รำส่วนครู/ผดู้ ูแลเดก็ ต่อเดก็ 1:3 (2) สำหรับเดก็ อำยุ 1 ปี ข้ึนไป อตั รำส่วนครู/ผดู้ แู ลเดก็ ตอ่ เดก็ 1:5 กำรจดั กจิ กรรมกล่มุ ย่อย ตอ้ งเป็นกลุ่มเดยี วกนั ตลอดวนั และทุกวนั โดยเด็กจำนวน 3-5 คน ต่อกลมุ่ 2) พ้ืนทใ่ี ชส้ อยภำยในอำคำรตอ้ งสะอำด และปลอดภยั มีพ้นื ทีส่ ำหรบั จดั กจิ กรรม รบั ประทำนอำหำรนอน และทำควำมสะอำดร่ำงกำย แยกจำกหอ้ งประกอบอำหำรหอ้ งส้วม และท่พี กั เด็กป่ วย โดยเฉลี่ย 2 ตำรำง เมตรต่อเด็ก จำนวน 1 คน เหมือนเดิมตำม”มำตรฐำนสถำนพฒั นำเดก็ ปฐมวยั แห่งชำติ” 2.1 กำรจดั หอ้ งทำกจิ กรรมย่อย ประจำวนั เช่นกรณีถำ้ หอ้ งขนำด 24 ตำรำงเมตร (4x6 เมตร) แบง่ พ้ืนทไ่ี ด้ 2 กลมุ่ โดยมีจำนวนเด็กแตล่ ะกลมุ่ ไมเ่ กิน 3-5 คน โดยมขี นำดพ้ืนที่กลมุ่ ละ 12 ตำรำงเมตร 2.2 กำรจดั หอ้ งรับประทำนอำหำร ตอ้ งมมี ำตรฐำนกำรเวน้ ระยะห่ำง 1-2 เมตร 2.3 กำรจดั ห้องนอน ตอ้ งมมี ำตรฐำนกำรเวน้ ระยะห่ำง 1-2 เมตร 3.) กจิ กรรมทีค่ วรจดั หรือไมค่ วรจดั ให้กบั เดก็ - กลมุ่ ที่ 1 สีเขยี วเป็นกจิ กรรมทค่ี วรจดั เป็นกิจกรรมท่เี วน้ ระยะห่ำงได้ ไดแ้ ก่ กิจกรรมวงกลมกิจกรรมเสรี เชน่ มมุ บลอ็ ก ร้อยเชือก มมุ หนงั สือ มุมวทิ ยำศำสตร์ โดยเนน้ เป็นรำยบุคคล กจิ กรรมสร้ำงสรรคเ์ ชน่ กจิ กรรมงำนประดิษฐ์ ท่สี ำมำรถแยกอุปกรณ์เป็นรำยบุคคลกจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ เช่น กิจกรรมเลน่ นิทำน เกมกำรศกึ ษำภำยในกลุ่ม เช่น เกมจบั คู่ เกมแยกประเภท เกมจดั หมวดหมู่ เกมตอ่ ตำมแบบ เกมตอ่ โดมโิ น กลุ่มที่ 2 สีเหลอื ง กจิ กรรมทคี่ วรจดั แตต่ อ้ งมอี ปุ กรณ์ส่วนบุคคล เป็นกิจกรรมทีเ่ วน้ ระยะห่ำงได้ ไดแ้ ก่กิจกรรม สรำ้ งสรรค์ เชน่ ป้ันดินน้ำมนั /แป้งโดว์ กจิ กรรมศิลปะ วำดรูป ระบำยสี ( แยกสี หรือเคร่ืองเขยี นรำยบุคคล ) กิจกรรม เสริมประสบกำรณ์ เชน่ กจิ กรรมบทบำทสมมตุ ิ กิจกรรมกลำงแจง้ กิจกรรมทีส่ ำมำรถเวน้ ระยะและควบคุมกำรใช้ อุปกรณ์ เคร่ืองเลน่ สนำม ต่อกนั ระหวำ่ งกลุ่มได้ ( มกี ำรฆ่ำเช้ือกอ่ นกลุ่มใหม่เขำ้ มำทำกจิ กรรม) JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 32 ~ กลุ่มที่ 3 สีแดง กิจกรรมทีไ่ ม่ควรจดั เป็นกจิ กรรมท่ีไม่สำมำรถเวน้ ระยะห่ำงได้ ไดแ้ ก่ กจิ กรรมเคลื่อนไหวและ จงั หวะแบบรวมหมู่ เชน่ กจิ กรรมเตน้ ประกอบจงั หวะ กิจกรรมดนตรี กจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ เชน่ กิจกรรมทศั น ศกึ ษำนอกสถำนท่ี ตวั อย่างการวางผังและกาหนดสัญลักษณ์การน่ังของเดก็ ในการจดั กิจกรรมกล่มุ ย่อย 1. กจิ กรรมเสริมประสบกำรณห์ รือกิจกรรมในวงกลม- แยกทนี่ งั่ โดยทำเคร่ืองหมำยขอบเขตใหเ้ ดก็ เช่น ติด สัญลกั ษณ์ประจำตวั - ใหเ้ ดนิ มำนงั่ ทลี ะคนโดยเวน้ ระยะห่ำง- เคล่ือนยำ้ ยเดก็ ใหน้ อ้ ยทีส่ ุด 2. กิจกรรมกลำงแจง้ งดเล่นเครื่องเล่นสนำมและกำรเลน่ ร่วมกนั อน่ื ๆ เช่น ลูกบอลเลน่ น้ำ เลน่ ทรำย- เปล่ียนเป็นกำรบริหำรร่ำงกำยแทน โดยใหอ้ ยู่ในทีซ่ ่ึงครูกำหนด ขอบเขตไวเ้ ช่น เสื่อโยคะ หรือกำรติดเทปบนพ้ืนเพื่อ กำหนดขอบเขต 3. กจิ กรรมเสรี- ไปหยบิ ของเล่นจำกช้นั ไดท้ ีละคนคนละ 1 อยำ่ ง/ชดุ - กลบั มำนงั่ ในทีท่ ่คี รูกำหนดขอบเขตให้ นงั่ (เสื่อ/พรมเลก็ ๆ) หรือตดิ เทปกำหนดขอบเขตท่พี ้ืน)ทำกิจกรรมเสร็จ นำของเลน่ ไปไวบ้ นโต๊ะทค่ี รูกำหนดไวส้ ำหรบั ครูทำควำมสะอำด (ไม่นำไปเก็บท่ีเดมิ ) แลว้ จึงไปหยบิ ของเล่นใหมไ่ ม่ใหเ้ ดก็ เล่นของเล่นต่อจำกเพ่อื น 4. เกมกำรศกึ ษำ- จดั เกมให้เพียงพอต่อจำนวนเด็ก- กำหนดขอบเขตของทีเ่ ลน่ ให้เวน้ ระยะห่ำงกนั - ใหเ้ ล่น แบบต่ำงคนต่ำงเลน่ ไม่นำเกมมำเลน่ ดว้ ยกนั - เล่นเสร็จแลว้ นำเกมไปไวบ้ นโตะ๊ สำหรับให้ครูทำควำมสะอำด 5. กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจงั หวะ- เนน้ กำรเคลอ่ื นไหวอย่กู บั ที่ในเขตของตนเอง- เม่อื ใชเ้ ครื่องดนตรีเสร็จ ให้ ครูนำไปทำควำมสะอำด ไม่นำมำเลน่ ตอ่ กนั 6. กจิ กรรมสร้ำงสรรค-์ ทำงำนศิลปะในทข่ี องตนเอง ซ่ึงครูกำหนดไวใ้ หเ้ วน้ ระยะห่ำง- ไมใ่ ชว้ สั ดอุ ุปกรณ์สี ฯลฯ ร่วมกนั - ใชเ้ สร็จแลว้ ครูนำไปไวท้ ่ีโตะ๊ สำหรบั ทำควำมสะอำด (ตวั อย่าง) กจิ วตั รประจาวันในสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019เวลา (โดยประมาณ) เวลำ รำยกำร 07.30 – 08.00 น. -คดั กรองครู+ลำ้ งมือ+ใส่หนำ้ กำก+เปลยี่ นเส้ือผำ้ +(อำบนำ้ )-ทำควำมสะอำด สถำนท่ีของใชข้ องเลน่ ประจำวนั 08.00 – 08.30 น. -รบั เด็ก (คดั กรองเดก็ ) + ลำ้ งมอื + ใส่หนำ้ กำก+ เปลี่ยนเส้ือผำ้ เดก็ (อำบนำ้ ) 08.30 - 09.00 น. -เคำรพธงชำติ– กิจกรรมกลำงแจง้ 09.00 – 09.15 น. -ลำ้ งมือ – เขำ้ หอ้ งนำ้ 09.15 -09.30 น -ดม่ื นม + อำหำรวำ่ งเชำ้ 09.30 - 10.30 น. -กิจกรรมเสริมประสบกำรณเ์ ด็ก 10.30 – 10.45 น. -ลำ้ งมอื กอ่ นรับประทำนอำหำรกลำงวนั 10.45 – 11.15 น. -รับประทำนอำหำรกลำงวนั 11.15 – 12.15 น. -อำบนำ้ แปรงฟัน+ลำ้ งมือ 12.15 - 12.30 น. -ด่ืมนม 12.30 – 14.30 น. -นอนกลำงวนั (วดั ไข)้ -ครู/ผดู้ แู ลเดก็ ทำควำมสะอำดสถำนที่ของใชข้ องเลน่ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 33 ~ 14.30 – 14.45 น. -ดน่ื นม 15.45 – 15.45 น. -เด็กเตรียมตวั กลบั บำ้ น 15.45 – 16.30 น. -ส่งเด็กกลบั บ้ำนทำควำมสะอำดของเล่นของใชก้ ลบั ถึงบ้ำนผูป้ กครอง และเด็ก ควรทำ ควำมสะอำดร่ำงกำย(อำบนำ้ )ทนั ที ส่วนท่ี 1 เร่ิมต้นจากบ้านสู่สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย แนวปฏบิ ัติ 1.จดั เตรียมอุปกรณ์เครื่องใช้ส่วนตวั สำหรับเดก็ ใชใ้ นสถำนพฒั นำเดก็ ปฐมวยั ซ่ึงตอ้ งมกี ำรตรวจเช็คทำควำม สะอำดเพ่ิมข้ึน เชน่ - ขวดนม หรือ กระติกน้ำส่วนตวั - หนำ้ กำกอนำมยั หรือหนำ้ กำกผำ้ สำหรบั เด็ก เพ่ือเปล่ยี นระหวำ่ ง วนั อยำ่ งนอ้ ย 3 – 5 ชิ้นต่อวนั - ผำ้ เช็ดตวั เปล่ียนอยำ่ งนอ้ ย 2 คร้ังต่อสัปดำห์- ชุดเคร่ืองนอน ผำ้ ปทู นี่ อน ปลอกหมอน ผำ้ ห่มเปล่ียนอย่ำงนอ้ ย 2 คร้ังต่อสปั ดำห์- เส้ือผำ้ สะอำด 3-4 ชดุ ต่อวนั - ถงุ ซิปหรือถุงสะอำดสำหรับใส่เส้ือผำ้ หรือของใช้ เดก็ ที่ใชแ้ ลว้ 2. กอ่ นรบั – ส่งเด็ก ผปู้ กครอง ต้องสวมหน้ำกำกอนำมยั /หนำ้ กำกผำ้ และลำ้ งมือดว้ ยน้ำสะอำดและสบู่หรือ เจลแอลกอฮอล์ทุกคร้ังหมำยเหตุ: กรณีหำกผู้ปกครองกังวลกำรติดเช้ือในช่วงกำรเดินทำงไป-กลบั ระหว่ำงบ้ำนกับ สถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั เน่ืองจำกโดยสำรรถสำธำรณะ หรือ มอเตอร์ไซค์ ก็สำมำรถสวมเส้ือคลมุ (เส้ือแจค๊ เกต็ ยำว หรือ เส้ือที่มีลกั ษณะเส้ือกนั ฝน หรือแบบอื่นๆ) สวมทบั เพ่ือปกปิ ดทว่ั ร่ำงกำยเด็ก เม่อื มำถึงสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั ให้ถอด เส้ือคลุมพบั เก็บไวใ้ นกระเป๋ ำ ท้งั น้ีควรหลกี เลีย่ งกำรสะบดั เส้ือคลุมดงั กลำ่ ว เพรำะอำจทำให้เช้ือโรคกระจำยได้ ส่วนท่ี 2 การคดั กรองบคุ ลากรของสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย(ผ้บู ริหารสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ครู/ผ้ดู แู ลเด็ก ผู้ ประกอบอาหาร ผ้ทู าความสะอาด และบุคลากรท่เี กยี่ วข้อง) แนวทางปฏบิ ัติ- ผบู้ ริหำรสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั ครู/ผูด้ ูแลเด็ก ผปู้ ระกอบกำร ผทู้ ำควำมสะอำด และบคุ ลำกร ท่ีเกี่ยวขอ้ งทำควำมสะอำดร่ำงกำย ลำ้ งมือ ลำ้ งเทำ้ ดว้ ยนำ้ สะอำดและสบู่หรืออำบนำ้ ใชผ้ ำ้ สะอำดแยกเช็ดรำยบุคคล ก่อนเขำ้ ดำ้ นในสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั - ผูบ้ ริหำรสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั ครู/ผูด้ ูแลเด็ก ผูป้ ระกอบอำหำร ผทู้ ำควำม สะอำด และบุคลำกรท่ีเก่ียวขอ้ ง เปล่ียนเส้ือผำ้ ชุดใหมท่ ่ีใชเ้ ฉพำะภำยในสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั สวมหนำ้ กำกอนำมยั / หนำ้ กำกผำ้ (แนะนำสวมหมวกคลมุ ผม) ส่วนที่ 3 การคัดกรองเด็กและผ้ปู กครอง(ครู/ผ้ดู ูแลเดก็ รับส่งเด็กด้านนอกอาคารสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย) แนวทางปฏิบัติ 1.กำหนดบริเวณจุดคดั กรองเด็ก และจดั ทำเป็นสัญลกั ษณ์ท่ีเห็นชัดเจนของระยะ ระหวำ่ งที่เด็กยืนรอกำรคดั กรอง ให้มีระยะห่ำงกนั อยำ่ งนอ้ ย 1-2 เมตร 2.จดั เตรียมอุปกรณ์คดั กรองเด็ก ได้แก่ เครื่องตรวจวัดอุณหภูมิหรือวดั ไขส้ ำหรบั เด็ก เจลแอลกอฮอลล์ ำ้ งมือ เอกสำรคดั กรอง ใบลงชื่อรบั ส่ง แบบบนั ทกึ อุณหภูมเิ ด็กและผปู้ กครอง ป้ำยประชำสัมพนั ธข์ ้นั ตอนกำรคดั กรอง 3.สำหรับครู/ผูด้ ูแลเด็ก ท่ีตรวจรบั ส่งเด็ก ให้สวมหน้ำกำกอนำมยั หรือหนำ้ กำกผำ้ และสวม Face Shieldร่วม ดว้ ยเพื่อป้องกนั ตนเอง 4.ตรวจคดั กรองเด็กและผูป้ กครอง วดั อุณหภูมิของท้งั เด็กและผูป้ กครอง อุณหภูมิจะต้องไม่เกิน 37.5องศำ เซลเซียส ไม่มีอำกำร ไอ จำม มีน้ำมูก อำกำรหอบเหนื่อย และสอบถำมข้อมูลจำกผู้ปกครอง เก่ียวกับบุคคลใน JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 34 ~ ครอบครัวมีใครเดินทำงมำจำกพ้ืนท่ีเส่ียงหรือถูกกักตวั ตำมมำตรฐำน ของกรมควบคมุ โรค หรือไม่หำกพบว่ำมีขอ้ มูล เสี่ยง จะต้องให้เด็กหยดุ เรียนทนั ที (อำจเพ่ิมกำรตอบแบบสอบถำมทำง App. ไทยชนะ)หมำยเหต:ุ โปรดติดตำมข่ำว “พ้นื ที่เส่ียง”ท่ีจะเปล่ียนแปลงไปตำมสถำนกำรณก์ ำรระบำดของโลกประเทศไทย และพ้นื ที่ท่ีสถำนพฒั นำเดก็ ปฐมวยั ต้งั อยู่ 5.ใส่หน้ำกำกอนำมยั หรือหนำ้ กำกผำ้ ท่ีใหม่แห้ง และสะอำดให้เด็ก (สำหรับเด็กท่ีผ่ำนกำรคดั กรองจำกขอ้ 4 ยกเวน้ เดก็ อำยุตำ่ กวำ่ 2 ปี ไม่ตอ้ งใส่หนำ้ กำกอนำมยั หรือหนำ้ กำกผำ้ ) 6. ทำควำมสะอำดร่ำงกำย ลำ้ งมือ ลำ้ งเท้ำเด็กดว้ ยน้ำสะอำดและสบู่ หรืออำบนำ้ ให้เด็ก (สำหรบั เดก็ ท่ีผ่ำนกำร คดั กรองจำก ขอ้ 4) แลว้ ใชผ้ ำ้ สะอำดแยกเชด็ ใหแ้ หง้ เป็นรำยบุคคล ก่อนเดินเขำ้ ภำยในพ้ืนทด่ี ูแลเดก็ 7. ห้ำมผูป้ กครองและบุคคลภำยนอกเขำ้ ภำยในพ้ืนที่ดูแลเด็กส่วนที่4จุดเปล่ียนเส้ือผำ้ (ครู/ผูด้ ูแลเด็ก เปล่ียน เส้ือผำ้ ใหเ้ ดก็ ) แนวทางปฏบิ ัติ 1.จดั เตรียมพ้นื ทห่ี รือหอ้ งท่ีสะอำดผ่ำนกำรฆำ่ เช้ือแลว้ ทกุ วนั สำหรับเปลี่ยนเส้ือผำ้ ให้เดก็ 2.เปลยี่ นเส้ือผำ้ ให้เดก็ ท่ผี ่ำนกำรคดั กรองแลว้ และนำเส้ือผำ้ ชุดเดิมที่สวมใส่ถุงพรอ้ มมดั ปำกถุงให้สนิท และ เก็บใส่ในกระเป๋ ำเดก็ ใหเ้ รียบร้อย 3. ลำ้ งมอื ดว้ ยนำ้ สะอำดและสบู่หรือเจลแอลกอฮอลท์ กุ คร้ัง ท่เี ปลยี่ นเส้ือผำ้ ใหเ้ ด็กแตล่ ะคน ส่วนท่ี 4 การจัดกิจกรรมดูแล พัฒนา และส่งเสริมการเรียนรู้แก่เด็ก(ครู/ผู้ดูแลเด็ก จัดเตรียม จัดการ)กำรจัด กจิ กรรมดูแล พฒั นำ และส่งเสริมกำรเรียนรู้แก่เดก็ ปฐมวยั ที่เขำ้ รับบริกำรในสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั ดำเนินกำรภำยใต้ หลกั สูตรแกนกลำงของกระทรวงศึกษำธิกำร หลกั สูตรกำรศึกษำปฐมวยั พ.ศ. 2560 ซ่ึงมีกำรจัดกิจกรรมหลกั 1 วนั ประกอบดว้ ย กิจกรรมเสรี กจิ กรรมสร้ำงสรรค์ กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะกจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ กิจกรรม กลำงแจ้ง และกิจกรรมเกมกำรศึกษำ ซ่ึงสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั ดำเนินกำรอยู่แลว้ แตใ่ นช่วงสถำนกำรณ์กำรระบำด ของโรคตดิ เช้ือไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID – 19) เกิดข้ึน เพื่อควำมปลอดภยั ของเดก็ จึงต้องมกี ำร ปรับเปลี่ยนวิธีกำร ดูแล พฒั นำ และส่งเสริมกำรเรียนรู้ “รูปแบบใหม่” แกเ่ ดก็ โดยเฉพำะกำรปรับเปลีย่ นขนำดพ้ืนทีก่ ำรจดั กิจกรรม กำรจัด กลุ่มเด็ก กำรควบคุมเด็กกลุ่มย่อย (Bubble) กำรจัดกำรให้มีครู/ผูด้ ูแลเด็กรำยกลุ่มย่อย (Bubble)ทุกกลุ่ม ตำมแนวคิด Bubble ซ่ึงเป็ นกำรดูแลตัวเองช่วงสถำนกำรณ์กำรระบำดของโรคโควิด 19 ในประเทศนิวซีแลนด์ เป็ นกำร สร้ำง ขอบเขตของแต่ละบุคคลทีต่ ้องพยำยำมรกั ษำให้เขตของตนเองปลอดเช้ือ และปฏิบตั ิตำมคำแนะนำเพือ่ ป้องกนั เช้ือโรค อย่ำงเคร่งครัด และให้รักษำระยะห่ำงทำงสงั คม ไมใ่ ห้ปฏสิ ัมพันธ์ใกลช้ ิด ดงั น้นั ครู/ผดู้ ูแลเดก็ จึงตอ้ งเตรียม จดั กำรจัด กิจกรรม ดงั น้ีแนวทางปฏิบตั ิ 1.จดั แบ่งพ้ืนท่ีสำหรับจดั กิจกรรมย่อยเป็นสดั ส่วน โดยจดั ใหแ้ ต่ละกลุ่มยอ่ ย (Bubble) ร่วมทำกิจกรรมกบั กลุ่ม เดิม ตลอดท้งั วนั เวน้ ระยะห่ำงกันระหว่ำงกลุ่ม ระยะ 1 – 2 เมตร และมีฉำกหรืออปุ กรณ์ก้นั ระหว่ำงกลุ่มโดยคำนึงถึง ควำมปลอดภยั ของเด็ก 2. จดั เดก็ ออกเป็นกลุ่ม สำหรบั จดั กจิ กรรมกลุ่มยอ่ ย ตำมช่วงอำยุดงั น้ี- เด็กอำยุไมเ่ กนิ 1 ปี จำนวนไม่เกนิ 3 คน มคี รู/ผูด้ ูแลเด็กเฉพำะกลุ่มท้งั วนั 1 คน- เดก็ อำยุต้งั แต่1 ปี ข้นึ ไป จำนวนไม่เกิน 5 คน มีครู/ผูด้ ูแลเดก็ เฉพำะกลมุ่ ท้งั วนั 1 คน JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 35 ~ 3.ควบคมุ ไมใ่ หเ้ ดก็ ออกไปสู่กลมุ่ ยอ่ ย (Bubble)อ่นื ๆ ในชว่ งจดั กิจกรรมกลุ่มย่อย (Bubble) 4.ทำควำมสะอำด สื่อทีใ่ ชป้ ระกอบกำรจดั กิจกรรมกลุ่มยอ่ ย (Bubble)ทกุ ประเภท ทุกชิ้น ฆ่ำเช้ือก่อนและหลงั ใชท้ กุ วนั หำกจำเป็นตอ้ งใชส้ ื่อหมนุ เวยี น ไปในกล่มุ ย่อย (Bubble)อื่นๆ ตอ้ งทำควำมสะอำดฆำ่ เช้ือก่อนทุกคร้ัง 5.ควบคุม สอนแนะนำให้เด็กลำ้ งมือทุกคร้ัง ด้วยน้ำสะอำดและสบู่และเช็ดมือด้วยผำ้ สะอำดแยกรำยบุคคล หลงั กำรทำกจิ กรรม รวมถึงครู/ผดู้ ูแลเด็กควรลำ้ งมอื ดว้ ยนำ้ สะอำดและสบู่ดว้ ยเชน่ กนั ส่วนที่ 5 การรับประทานอาหารอาหารหลัก อาหารเสริม (นม) และอาหาว่าง แนวทางปฏิบัติ 1. ผเู้ ตรียมอำหำร 1.1 ล้ำงมือด้วยน้ำสะอำดและสบู่ทุกคร้ังท่ีเตรียมอำหำร พร้อมสวมถุงมือและที่คลุมผมตลอดเวลำในกำร จดั เตรียมอำหำร 1.2 ทำควำมสะอำด ฆ่ำเช้ือภำชนะทใ่ี ส่อำหำรก่อนนำมำใชท้ ุกชิน้ และทกุ คร้ัง 1.3 จดั โต๊ะสำหรับนง่ั ทำนอำหำร โดยแบ่งกลุ่มย่อย (Bubble) ให้มีระยะห่ำงรำยบุคคล 1 – 2 เมตร หรือหำกมี ขอ้ จำกดั เรื่องพ้ืนที่ให้ทำฉำกก้นั ระหว่ำงเด็ก หรือสำมำรถจดั เวยี นรับประทำนอำหำรเหลื่อมเวลำตำมควำมเหมำะสม หำกตอ้ งใชโ้ ตะ๊ และเกำ้ อ้ีชดุ เดิม ตอ้ งทำควำมสะอำด ฆ่ำเช้ือก่อนเดก็ และครูคนใหม่เขำ้ มำนงั่ ทุกคร้งั 2. ครู/ผดู้ ูแลเด็ก 2.1 ควบคุม สอนแนะให้เด็กล้ำงมือด้วยน้ำสะอำดและสบู่ โดยให้มีระยะห่ำงรำยบุคคล 1 – 2 เมตร ก่อน รบั ประทำนอำหำรทกุ คร้ัง 2.2 ควบคุม สอนแนะให้เด็กลำ้ งมือ ลำ้ งปำก และแปรงฟัน โดยให้มีระยะห่ำงรำยบุคคล 1 – 2 เมตรหลงั จำก รบั ประทำนอำหำรทุกคร้ัง 2.3 ฉีดพ่นน้ำยำฆำ่ เช้ือ หลงั จำกกำรใชอ้ ่ำงลำ้ งมอื หรือแปรงฟัน ดว้ ยนำ้ ยำฟอกขำวผสมนำ้ สะอำดตำมสดั ส่วน ทสี่ ุขภณั ฑท์ กุ คร้ัง และระวงั อย่ำให้เดก็ สัมผสั หำกนำ้ ยำยงั ไมแ่ หง้ ดี 2.4 แนะนำผูป้ กครองของเดก็ ในกำรนำของใชส้ ่วนตวั เด็กท่ีตอ้ งเตรียมมำใชใ้ นสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั เช่น กระตกิ นำ้ แปรงสีฟัน ยำสีฟัน เป็นตน้ ส่วนท่ี 6 การนอนกลางวนั (ครู/ผ้ดู ูแลเดก็ )แนวทางปฏิบตั ิ 1.จดั เตรียมพ้ืนทนี่ อนให้เดก็ เป็นรำยกลมุ่ ย่อย (Bubble) โดยจดั ใหม้ รี ะยะห่ำงรำยบคุ คลอยำ่ งนอ้ ย 1-2เมตร 2.วดั ไขเ้ ด็กก่อนนอน หรือหลงั ต่ืนนอน หำกเด็กมีอุณหภูมติ ้งั แต่ 37.5 องศำเซลเซียส ให้แยกเด็กไปห้องหรือ มุมพยำบำล และรำยงำนผบู้ ริหำร พรอ้ มแจง้ ผปู้ กครองรบั เดก็ ทนั ที 3.จดั กำรแยกที่นอนของเด็กออกจำกกนั กรณีเก็บท่ีนอนของเดก็ รวมกนั ในตู้เกบ็ ของ ใหแ้ ยกเก็บ ตำมกลุ่มย่อย (Bubble) ที่ตวั เองดแู ล และไม่ใชท้ ่ีนอนร่วมกนั 4.ส่งคนื เคร่ืองนอน หมอน ผำ้ ห่ม ผำ้ ปูที่นอน แก่ผปู้ กครองให้ทำควำมสะอำดเป็นประจำอยำ่ งน้อย 2 คร้งั ต่อ สัปดำห์ ส่วนที่ 7 การใช้ห้องน้าและแปรงฟัน(ครู/ผ้ดู แู ลเดก็ )แนวทางปฏิบตั ิ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 36 ~ 1. อำบน้ำ และแต่งตวั ให้เดก็ เป็นรำยบคุ คล (คร้ังละ 1 คน) โดยจดั เป็นรอบตำมกลมุ่ กจิ กรรมย่อย (Bubble)จน ครบทุกคน เส้ือผำ้ ใชแ้ ลว้ ให้ใส่ถุงให้มดั ปำกถุงให้สนิท จดั เก็บในกระเป๋ ำให้เรียบรอ้ ย และส่งคืนผำ้ เชด็ ตวั ของเด็กให้ ผปู้ กครองทำควำมสะอำดเป็นประจำทุกวนั หรืออยำ่ งนอ้ ย 2 คร้งั ตอ่ สัปดำห์ 2. ฉีดพ่นน้ำยำฆ่ำเช้ือ ในสุขภณั ฑ์โดยใชน้ ้ำยำฟอกขำวผสมน้ำสะอำดตำมสัดส่วน ทำควำมสะอำดสุขภณั ฑ์ หลงั จำกเด็กขบั ถำ่ ยทุกคร้ัง และระวงั อยำ่ ใหเ้ ด็กสมั ผสั สุขภณั ฑห์ ำกนำ้ ยำยงั ไมแ่ หง้ 3. ควบคุม สอนและควบคุมให้เด็กลำ้ งมือดว้ ยน้ำสะอำดและสบู่ทุกคร้ังที่ขบั ถ่ำย และใชผ้ ำ้ สะอำดแยกเช็ด รำยบุคคล หรือใชก้ ระดำษทิชชแู ละท้งิ ทิชชูใชแ้ ลว้ ใส่ภำชนะที่มีฝำปิ ดมิดชิด กรณีเดก็ ทใ่ี ช้ผำ้ ออ้ มสำเร็จรูป เมื่อใชแ้ ลว้ ควรท้งิ ใส่ภำชนะทมี่ ีฝำปิ ดมดิ ชิด เพ่ือป้องกนั กำรกระจำยของเช้ือโรค 4. กำรจดั กจิ กรรมแปรงฟันหลงั อำหำรกลำงวนั ครู/ผดู้ แู ลเดก็ จดั ใหม้ ีกิจกรรมกำรแปรงฟันหลงั อำหำรกลำงวนั ทุกวนั อยำ่ งสม่ำเสมอ ควรแปรงฟันในบริเวณสำหรับแปรงฟันท่ีเหมำะสม เช่น ห้องนำ้ โดยหลกี เลี่ยงกำรรวมกลุ่ม และ ตอ้ งเวน้ ระยะห่ำง 1-2เมตร ในกำรแปรงฟัน เพื่อป้องกนั กำรแพร่กระจำยของนำ้ ลำยละอองนำ้ หรือเช้ือโรคสู่ผูอ้ น่ื กรณี ห้องนำ้ แออดั ควรกำหนดให้เหล่อื มเวลำในกำรแปรงฟัน ก่อนกำรแปรงฟันทุกคร้ัง ให้ลำ้ งมอื ด้วยสบ่แู ละนำ้ เสมอ เป็น เวลำอย่ำงนอ้ ย 20 วนิ ำที หรือ เจลแอลกอฮอลท์ มี่ ีควำมเขม้ ขน้ 70-74 % แตห่ ำกมคี วำมจำกดั ดำ้ นสถำนท่ี ขอแนะนำกำร แปรงฟันทำงเลือก คือกำรแปรงฟันทโ่ี ต๊ะเรียน ในห้องเรียน(หมำยเหตุ ท้งั น้ียำสีฟันควรแยกเป็นของใชส้ ่วนบุคคล ใน กรณีท่ีใช้เป็นของส่วนรวม ให้ครู/ผูด้ ูแลเด็กบีบยำสีฟันป้ำยท่ีปำกแก้วท่ีลำ้ งสะอำด หรือ แกว้ กระดำษ แลว้ ให้เด็กใช้ แปรงสีฟันปำดไปใชห้ รือบบี ใส่ถำดเป็นจุด ๆ ตำมขนำด ตำมปริมำณที่กำหนด เพ่ือจะไม่ให้แปรงสีฟันของเด็กแต่ละ คนสัมผสั ปำกหลอดยำสีฟัน) 5. ทำควำมสะอำดห้องนำ้ ห้องส้วม ดว้ ยนำ้ ยำทำวำมสะอำดทว่ั ไป พ้ืนห้องส้วมให้ฆ่ำเช้ือโดยรำดนำ้ ยำฟอก ขำวท่ีเตรียมไวต้ ำมทิง้ ไวอ้ ย่ำงนอ้ ย 10 นำทีเช็ดเนน้ บริเวณทร่ี องนงั่ โถส้วม ฝำปิ ดโถส้วม ท่กี ดชกั โครก รำวจบั ลกู บิด หรือกลอนประตูทแ่ี ขวนกระดำษชำระ อ่ำงลำ้ งมอื ก๊อกน้ำ ทว่ี ำงสบผู่ นงั ซอกประตูดว้ ยผำ้ ชบุ น้ำยำฟอกขำวทเี่ ตรียมไว้ หรือแอลกอฮอล7์ 0 % หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์0.5% ส่วนที่ 8การส่งเด็กกลับบ้านช่วงเย็น(ครู/ผ้ดู แู ลเดก็ )แนวทางปฏบิ ัติ 1. นำเดก็ ออกมำรอผูป้ กครอง ณ จุดคดั กรองเด็กในช่วงเชำ้ (ส่วนที่1 )และวดั อุณหภูมิของเดก็ กอ่ นส่งกลบั ให้ ผูป้ กครอง และวดั อณุ หภูมขิ องผูป้ กครองท่ีมำรับเดก็ ทุกคร้งั 2. ลงชื่อส่งเดก็ และบนั ทึกอณุ หภมู ิเดก็ และผปู้ กครอง ในเอกสำรแบบฟอร์ม พร้อมแนะนำผปู้ กครองหลงั จำก กลบั เขำ้ บำ้ นแลว้ ใหอ้ ำบน้ำ ทำควำมสะอำดร่ำงกำยท้งั เดก็ และผปู้ กครองทนั ทีทุกคร้ัง เพื่อป้องกนั มใิ ห้เกิดกำรตดิ เช้ือใน ระหว่ำงกำรเดินทำงจำกสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั กบั บำ้ น และให้หลกี เลี่ยงกำรพำเด็กไปในพ้ืนที่เสี่ยงหมน่ั สังเกตตนเอง บุคคลในบำ้ น และเดก็ อยำ่ งสม่ำเสมอ ว่ำมอี ำกำรผดิ ปกติใดๆ อำทิมไี ขไ้ อ จำม นำ้ มลู ไหลเหนื่อยหอบ หรือไม่ 3. ส่งชุดเคร่ืองนอน และผำ้ เช็ดตวั ของเด็กแก่ผูป้ กครองเพื่อให้ทำควำมสะอำดก่อนนำมำใชท้ ุกคร้ังเป็ น ประจำ ส่วนท่ี 9 การฆ่าเชื้อ และดแู ลความสะอาด(ผ้บู ริหารสถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั &ครู/ผ้ดู ูแลเด็ก) แนวทำงปฏิบตั ิผูบ้ ริหำรสถำนพฒั นำเด็กปฐมวยั และ ครู/ผูด้ ูแลเด็ก ทำควำมสะอำดบริเวณสถำนพฒั นำเด็ก ปฐมวยั โดยเนน้ บริเวณทมี่ ีกำรสัมผสั หรือใชง้ ำนร่วมกนั บอ่ ยคร้งั เชน่ ปำกกำ ลกู บิดประตู รีโมทคอนโทรล โทรศพั ท์ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 37 ~ ป่ มุ กดลิฟท์ ซ่ึงเป็นพ้นื ผวิ ขนำดเลก็ บริเวณจดุ สัมผสั ของสนำมเดก็ เลน่ ท้งั ภำยในและภำยนอกอำคำร สิ่งของ เคร่ืองใช้ ส่ือพฒั นำกำรเด็ก ยำนพำหนะ ห้องนำ้ ห้องส้วม ทำควำมสะอำดชุบน้ำยำฟอกขำวท่ีเตรียมไว้ หรือ แอลกอฮอล์70 % หรือไฮโดรเจนเปอร์ไซด์ 0.5% เช็ดทำควำมสะอำดและฆ่ำเช้ือ อย่ำงน้อยวนั ละ 2 คร้ัง (ตำมคำแนะนำกระทรวง สำธำรณสุข) การจัดทา SMALL BUBBLE ระดบั ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา การสร้าง Bubble มดี งั นี้ 1. กำหนดครูและเด็ก ในอตั รำส่วน 1 : 25 (เป็นสมำชิกเดิมทกุ วนั ) ท้งั ครูและเด็กถือว่ำเป็นสมำชิกช้นั ที่ 1 และ สมำชิกในครอบครัวของครูและเดก็ ในกลมุ่ ถอื ว่ำเป็นสมำชิกช้นั ท่ี 2 2. ทำควำมสะอำดร่ำงกำย เช่น อำบนำ้ ลำ้ งมือ ลำ้ งเทำ้ และ เปลยี่ นชุดทำงำน ชดุ เดก็ หรือชุดนกั เรียน ตวั ใหม่ก่อนเขำ้ มำในห้องเรียน 3. ทำกจิ กรรมทุกอย่ำงดว้ ยกนั ตลอดท้งั วนั โดยเนน้ กำรเวน้ ระยะห่ำงจำกกลุม่ ย่อย (Bubble) อื่น 1-2 เมตร เช่น กิจกรรมกำรเรียนกำรสอน กำรรบั ประทำนอำหำร กำรทำควำมสะอำดร่ำงกำย 4. ครอบครวั ของสมำชิกในกลุ่ม ตอ้ งปฏิบตั ิตนเพื่อป้องกนั เช้ือโรคอยำ่ งเคร่งครัดตลอดเวลำ โดยยดึ หลกั กำร เวน้ ระยะห่ำง กำรสวมหนำ้ กำก กำรลำ้ งมอื รกั ษำควำมสะอำด ปรำศจำกควำมแออดั 5. สื่อสำรแนวคดิ Thailand ECD Bubble Model ใหส้ มำชิกช้นั 1 และ 2 ทุกคนรับทรำบ เขำ้ ใจและร่วมมือ กนั ทำอยำ่ งเคร่งครัด เพอ่ื ใหเ้ กดิ ควำมปลอดภยั แก่ทกุ คน และกำหนดเคร่ืองมือส่ือสำรเช่น โทรศพั ท์LINE Facebookเป็น ตน้ เพอื่ สมำชิกไดต้ ดิ ต่อกนั และสรำ้ งปฏสิ มั พนั ธ์ทีด่ ีต่อกนั 6. หำกในระยะแรกทยี่ งั ไม่ไดป้ ฏิบตั กิ ำรป้องกนั โรคอยำ่ งเคร่งครดั ของสมำชิกช้นั ที่1 และ2 แนะนำให้เวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งบุคคลของครู 1-2 เมตรไปก่อน JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

๑. ดำ้ นสถำนท่แี ละส่ิงแวดลอ้ มในโรงเรียน ~ 38 ~ ตวั อยำ่ ง ตรวจสอบสถำนที่ซ่อมแซมปรบั ปรุงทำควำม สะอำดอำคำรเรียนห้องเรียนตโู้ ต๊ะเกำ้ อ้อี ปุ กรณ์กำร เรียนกำรสอนอุปกรณ์กีฬำเครื่องเด็กเลน่ หอ้ งนำ้ หอ้ งส้วมห้องครวั และอปุ กรณ์โรงอำหำรสถำนท่ี รบั ประทำนอำหำรและอ่นื ๆท่ีครูนกั เรียนอยู่ร่วมกนั และมีพ้ืนที่สัมผสั * ตรวจสอบอ่ำงลำ้ งมือใหม้ ีเพยี งพออย่ใู นสภำพดี พรอ้ มใชง้ ำนรวมถึงสบู่ลำ้ งมือที่เพยี งพอ จดั สถำนท่เี พือ่ เวน้ ระยะห่ำงระหว่ำงบคุ คลเชน่ กำร เขำ้ แถวกำรเขำ้ คิวกำรจดั ทน่ี งั่ เรียนกำรจดั ท่ีนงั่ รบั ประทำนอำหำรตำมมำตรกำรเวน้ ระยะห่ำงทำง กำยภำพ (Physicial Distancing) องคก์ ำรอนำมยั โลก (WHO) แนะนำระยะห่ำงทำง สงั คม (Social Distancing) หรือท่ปี ัจจุบนั เรียกว่ำ ระยะห่ำงทำงกำยภำพถำ้ อยู่ในทส่ี ำธำรณะควรเวน้ ระยะห่ำงจำกผอู้ ่ืนอย่ำงนอ้ ย๑.๕เมตรโดยเฉพำะอยำ่ ง ย่งิ ผทู้ ่ไี อจำมและมไี ขเ้ พ่ือปอู งกนั กำรรับเช้ือโรค ตวั อย่ำงมำตรกำรระยะห่ำงปลอดภยั ✓จดั โตะ๊ เรียนโต๊ะรบั ประทำนอำหำรกลำงวนั และ โต๊ะทำงำนครูใหม้ ีระยะห่ำง ✓ทำสญั ลกั ษณ์เพื่อเวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งบุคคลเชน่ จดุ ตรวจวดั ไขก้ ่อนเขำ้ โรงเรียนแถวรบั อำหำรกลำงวนั จุด ลำ้ งมอื เป็นตน้ ✓เหล่ือมเวลำพกั รบั ประทำนอำหำรกลำงวนั JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 39 ~ สำหรบั เด็กเล็กท่ียงั ตอ้ งนอนกลำงวนั หรือโรงเรียน ในพ้นื ท่หี ่ำงไกลทมี่ โี รงนอนให้รักษำระยะห่ำง ระหวำ่ งกนั อยำ่ งนอ้ ย๑.๕เมตรโดยไมเ่ อำศรี ษะชนกนั และแยกอุปกรณ์เคร่ืองใชเ้ ป็นของส่วนตวั ไมใ่ ช้ ร่วมกนั กรณีหำกมีเด็กป่ วยใหห้ ยดุ อยกู่ บั บำ้ น แจง้ ผปู้ กครองทน่ี กั เรียนมีอำกำรเจ็บป่ วยเช่นมไี ขไ้ อ จำมมนี ำ้ มูกเหนื่อยหอบหรือกลบั จำกพ้ืนที่เส่ียงและอยู่ ในช่วงกกั กนั ใหห้ ยดุ เรียนรวมท้งั ขอควำมร่วมมือกรณี ท่มี ีคนในครอบครวั ป่ วยดว้ ยโรคติดเช้ือโควิด-๑๙หรือ กลบั จำกพ้นื ท่ีเสี่ยงและอยใู่ นช่วงกกั กนั ใหป้ ฏิบตั ติ วั ตำมคำแนะนำของเจำ้ หนำ้ ทีส่ ำธำรณสุขอย่ำงเคร่งครดั ๒. ด้านห้องเรียนห้องปฏิบตั กิ ารและสถานที่จดั กิจกรรมการเรียนการสอนอื่นๆ(มีภาพประกอบ) ห้องเรียนห้องเรียนรวมเช่นห้องคอมพวิ เตอร์ห้องดนตรี ๑. จดั โตะ๊ เกำ้ อ้ีหรือท่นี ง่ั ใหม้ ีกำรเวน้ ระยะห่ำงระหว่ำงบคุ คลอยำ่ งนอ้ ย๑.๕เมตรควรคำนึงถงึ สภำพบริบทและ ขนำดพ้ืนทแ่ี ละจดั ทำสัญลกั ษณแ์ สดงจดุ ตำแหน่งชดั เจนกรณีหอ้ งเรียนไมเ่ พยี งพอในกำรจดั เวน้ ระยะห่ำงระหว่ำง บคุ คลควรจดั ให้มีกำรสลบั วนั เรียนแต่ละช้นั เรียนแบ่งจำนวนนกั เรียนหรือกำรใชพ้ ้ืนทใ่ี ชส้ อยบริเวณโรงเรียนตำมควำม เหมำะสมท้งั น้ีอำจพจิ ำรณำวิธีปฏบิ ตั อิ ืน่ ตำมบริบทควำมเหมำะสมโดยปฏิบตั ติ ำมมำตรกำรเวน้ ระยะห่ำงทำงสังคม (Social distancing) ๒. กำรจดั นกั เรียนในห้องเรียนให้โรงเรียนจดั นกั เรียนเขำ้ ช้นั เรียนหอ้ งเรียนละ๒๐ -๒๕คนเวน้ แตโ่ รงเรียนใด มขี นำดหอ้ งเรียนกวำ้ งขวำงเพยี งพอให้จดั นกั เรียนเขำ้ ช้นั เรียนไดไ้ มเ่ กิน๓๐คน ๓. จดั ใหม้ ีกำรเหลือ่ มเวลำเรียนกำรเรียนกลมุ่ ย่อยหรือวธิ ีปฏิบตั ิที่เหมำะสมตำมบริบทสถำนกำรณแ์ ละเนน้ ให้ นกั เรียนสวมหนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั ขณะเรียนตลอดเวลำ ๔. จดั ใหม้ ีกำรระบำยอำกำศท่ีดใี ห้อำกำศถำ่ ยเทเชน่ เป็ดประตหู นำ้ ตำ่ งหลีกเล่ียงกำรใชเ้ ครื่องปรบั อำกำศหำก จำเป็นตอ้ งใชเ้ คร่ืองปรับอำกำศกำหนดเวลำเปิ ด –ปิ ดเครื่องปรบั อำกำศเปิ ดประตหู นำ้ ตำ่ งระบำยอำกำศทกุ ๑ ชว่ั โมงและทำควำมสะอำดอย่ำงสม่ำเสมอ ๕. จดั ใหม้ เี จลแอลกอฮอลใ์ ชท้ ำควำมสะอำดมือสำหรบั นกั เรียนและครูใชป้ ระจำทุกห้องเรียนอยำ่ งเพียงพอ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 40 ~ ๖. ใหม้ กี ำรทำควำมสะอำดโต๊ะเกำ้ อ้ีอปุ กรณ์และจดุ สมั ผสั เส่ียงเชน่ ลูกบดิ ประตูเคร่ืองเลน่ ของใชร่ ่วมกนั ทกุ วนั อยำ่ งนอ้ ยวนั ละ๒คร้งั เชำ้ ก่อนเรียนและพกั เท่ยี งกรณีกำรยำ้ ยห้องเรียนตอ้ งทำควำมสะอำดโตะ๊ เกำ้ อ้กี อ่ นและหลงั ใช่ งำนทุกคร้งั ห้องสมดุ ๑. จดั โตะ๊ เกำ้ อ้ีหรือทนี่ งั่ ให้มกี ำรเวน้ ระยะห่ำงระหว่ำงบคุ คลอย่ำงนอ้ ย๑.๕เมตรและจดั ทำสญั ลกั ษณ์แสดงจุด ตำแหน่งชดั เจน ๒. จดั ให้มกี ำรระบำยอำกำศทด่ี ใี หอ้ ำกำศถำ่ ยเทเช่นเปิ ดประตหู นำ้ ตำ่ งหำกจำเป็นตอ้ งใชเ้ คร่ืองปรับอำกำศ กำหนดเวลำเปิ ด-ปิ ดเครื่องปรบั อำกำศเปิ ดประตหู นำ้ ตำ่ งระบำยอำกำศทกุ ๑ชว่ั โมงและทำควำมสะอำดอย่ำงสมำ่ เสมอ ๓. จดั ใหม้ เี จลแอลกอฮอลใ์ ชท้ ำควำมสะอำดมือสำหรับครูบรรณำรักษน์ กั เรียนและผูใ้ ชบ้ ริกำรบริเวณประตู ทำงเขำ้ และภำยในห้องสมดุ อย่ำงเพียงพอ ๔. ให้มกี ำรทำควำมสะอำดโต๊ะอปุ กรณแ์ ละจดุ สมั ผสั เสี่ยงเชน่ ลูกบิดประตชู ้นั วำงหนงั สือทกุ วนั ๆละ๒คร้ัง (เชำ้ กอ่ นใหบ้ ริกำรพกั เที่ยง) กำรจำกดั จำนวนคนจำกดั เวลำในกำรเขำ้ ใชบ้ ริกำรหอ้ งสมุดและใหน้ กั เรียนและผใู้ ชบ้ ริกำรทกุ คนสวม หนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั ขณะใชบ้ ริกำรห้องสมดุ ตลอดเวลำ ห้องประชุม/หอประชุม ๑. จดั ใหม้ กี ำรคดั กรองตรวจวดั อณุ หภมู ริ ่ำงกำยกอ่ นเขำ้ ห้องประชุมหอประชุมหำกพบผมู้ ีอำกำรไขไ้ อมนี ้ำมกู เจบ็ คอหำยใจลำบำกเหนื่อยหอบไม่ไดก้ ลิ่นไม่รูร้ สให้แยกนกั เรียนไวท้ ห่ี ้องที่จดั เตรียมไวบ้ นั ทกึ รำยช่ือและอำกำรป่ วย ประเมินควำมเสี่ยงแจง้ ผูป้ กครองดำเนินกำรตำมข้นั ตอนกำรคดั กรอง ๒. จดั โต๊ะเกำ้ อ้หี รือทนี่ งั่ ให้มีกำรเวน้ ระยะห่ำงระหว่ำงบุคคล๑.๕เมตรและจดั ทำสัญลกั ษณแ์ สดง จุดตำแหน่งชดั เจน ๓. ผเู้ ขำ้ ประชมุ ทกุ คนสวมหนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั ขณะประชมุ ตลอดเวลำ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 41 ~ ๔. จดั ให้มเี จลแอลกอฮอลใ์ ชท้ ำควำมสะอำดมอื สำหรบั ผเู้ ขำ้ ประชุมบริเวณทำงเขำ้ ภำยในอำคำรหอประชุม บริเวณทำงเขำ้ ดำ้ นหนำ้ และดำ้ นในของห้องประชุมอยำ่ งเพียงพอและทวั่ ถึง ๕. งดหรือหลกี เล่ยี งกำรใหบ้ ริกำรอำหำรและเคร่ืองดืม่ ภำยในห้องประชมุ ๖. ให้มกี ำรทำควำมสะอำดโต๊ะเกำ้ อ้อี ปุ กรณแ์ ละจดุ สมั ผสั เส่ียงร่วมเช่นลกู บดิ ประตรู ีโมทอุปกรณส์ ื่อก่อนและ หลงั ใชห้ ้องประชมุ ทกุ คร้ัง ๗. จดั ให้มีกำรระบำยอำกำศท่ดี ีใหอ้ ำกำศถำ่ ยเทเชน่ เปิ ดประตหู นำ้ ต่ำงก่อนและหลงั ใชห้ ้องประชุมทุกคร้ังหำก จำเป็นตอ้ งใชเ้ ครื่องปรับอำกำศกำหนดเวลำเปิ ด -ปิ ดเคร่ืองปรบั อำกำศเปิ ดประตหู นำ้ ตำ่ งระบำยอำกำศทกุ ๑ชวั่ โมงและ ทำควำมสะอำดอย่ำงสม่ำเสมอ สถานท่แี ปรงฟัน โรงเรียนส่งเสริมใหม้ ีกิจกรรมแปรงฟันหลงั อำหำรกลำงวนั อยำ่ งถูกตอ้ งเหมำะสมตำมสถำนกำรณแ์ ละบริบท พ้ืนที่หลีกเลี่ยงกำรรวมกลุ่มควรจดั เวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งบุคคลในกำรแปรงฟันและให้มีอปุ กรณก์ ำรแปรงฟันส่วน บุคคลดงั น้ี การจดั เตรียมวสั ดุอปุ กรณ์การแปรงฟันและแปรงสีฟัน ๑. นกั เรียนทุกคนมแี ปรงสีฟันเป็นของตนเองหำ้ มใชแ้ ปรงสีฟันและยำสีฟันร่วมกนั ๒. ทำสัญลกั ษณ์หรือเขียนช่ือบนแปรงสีฟันของแตล่ ะคนเพื่อใหร้ ูว้ ่ำเป็นแปรงสีฟันของใครป้องกนั กำรหยิบของผอู้ ื่นไปใช้ ๓. ควรเปลยี่ นแปรงสีฟันให้นกั เรียนทุก๓เดือนเม่ือแปรงสีฟันเส่ือมคุณภำพโดยสงั เกตดงั น้ี บริเวณหัวแปรงสีฟันมคี รำบสกปรกตดิ คำ้ งลำ้ งไดย้ ำก ขนแปรงสีฟันบำนแสดงวำ่ ขนแปรงเสื่อมคณุ ภำพใชแ้ ปรงฟันไดไ้ มส่ ะอำดและอำจกระแทกเหงือก ให้เป็ นแผลได้ ยาสีฟันใหน้ กั เรียนทกุ คนมยี ำสีฟันเป็นของตนเองและเลือกใชย้ ำสีฟันผสมฟลอู อไรด์ซ่ึงมีปริมำณ ฟลอู อไรด๑์ ,๐๐๐-๑,๕๐๐ ppm. (มิลลกิ รัม/ลติ ร) เพ่ือป้องกนั ฟันผุ แก้วนา้ จดั ให้นกั เรียนทกุ คนมีแกว้ นำ้ ส่วนตวั เป็นของตนเองผำ้ เช็ดหนำ้ ส่วนตวั สำหรับใชเ้ ชด็ ทำ ควำมสะอำดบริเวณใบหนำ้ ควรซักและเปล่ียนใหม่ทุกวนั การเก็บอุปกรณ์การแปรงฟันและแปรงสีฟัน ๑. เก็บแปรงสีฟันในบริเวณทมี่ อี ำกำศถ่ำยเทไดส้ ะดวกไม่อบั ช้ืนและปลอดจำกแมลง ๒. จดั ทำทเ่ี ก็บแปรงสีฟันแกว้ น้ำโดยเกบ็ ของแตล่ ะคนแยกจำกกนั ไม่ปะปนกนั เวน้ ใหม้ ีระยะห่ำงเพียง พอทีจ่ ะไม่ให้แปรงสีฟันสัมผสั กนั เพ่ือป้องกนั กำรแพร่ระบำดของโรคโควดิ ๑๙ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 42 ~ ห้องนอนเด็กเลก็ ๑. ทำควำมสะอำดเคร่ืองนอนเปลย่ี นผำ้ ปทู ีน่ อนปลอกหมอนและผำ้ กนั เป้ื อนทุกวนั รวมถึงทำควำมสะอำด อุปกรณข์ องใชข้ องเลน่ ตเู้ กบ็ ของส่วนบคุ คลและจดุ สัมผสั เสี่ยงร่วมเป็นประจำทกุ วนั ๒. จดั ใหม้ พี ้นื ทส่ี ำหรับกำรเรียนรู้ของเด็กรำยบคุ คลเชน่ เรียนบนเสื่อใชส้ ญั ลกั ษณ์แทนขอบเขตรวมถึงกำรจดั ทนี่ อนสำหรับเดก็ ตอ้ งเวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งบคุ คลอย่ำงนอ้ ย๑.๕เมตร ๓. มีและใชข้ องใชส้ ่วนตวั ไมใ่ ชข้ องใชร้ ่วมกนั เชน่ ผำ้ กนั เป้ื อนผำ้ เช็ดหนำ้ ผำ้ เชด็ ตวั แกว้ น้ำ ๔. จดั ใหม้ เี จลแอลกอฮอลใ์ ชท้ ำควำมสะอำดมือสำหรบั ครูและนกั เรียนบริเวณทำงเขำ้ และภำยในห้องอยำ่ ง เพียงพอ ๕. มีกำรระบำยอำกำศที่ดอี ำกำศถ่ำยเทสะดวกเช่นเปิ ดประตหู นำ้ ต่ำงหลีกเลีย่ งกำรใชเ้ ครื่องปรับอำกำศหำก จำเป็นใชเ้ ครื่องปรบั อำกำศตอ้ งกำหนดเวลำเปิ ด-ปิ ดเคร่ืองปรับอำกำศและเปิ ดประตูหนำ้ ต่ำงระบำยอำกำศทกุ ๑ ชวั่ โมงและตอ้ งทำควำมสะอำดอยำ่ งสม่ำเสมอ ๖. จดั อุปกรณ์กำรส่งเสริมพฒั นำกำรเดก็ อย่ำงเพยี งพอ สนามเด็กเล่น ๑. ให้มีกำรทำควำมสะอำดเคร่ืองเลน่ และอุปกรณก์ ำรเล่นทุกวนั อยำ่ งนอ้ ยวนั ละ๒คร้งั ทำควำมสะอำดดว้ ย น้ำยำทำควำมสะอำด ๒. จดั เครื่องเล่นอุปกรณ์กำรเล่นและนกั เรียนใหม้ ีกำรเวน้ ระยะห่ำงระหว่ำงบคุ คลอยำ่ งนอ้ ย๑.๕เมตรและ กำกบั ดูแลใหเ้ ดก็ สวมหนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำกำรเล่น ๓. จำกดั จำนวนนกั เรียนจำกดั เวลำกำรเล่นในสนำมเด็กเลน่ โดยอย่ใู นควำมควบคุมดแู ลของครูในชว่ งเวลำพกั เท่ยี งและหลงั เลกิ เรียน ๔. ใหล้ ำ้ งมือดว้ ยสบ่แู ละน้ำหรือเจลแอลกอฮอลท์ ำควำมสะอำดมือกอ่ นและหลงั กำรเล่นทุกคร้ัง ห้องสุขา ๑. จดั เตรียมอุปกรณ์ทำควำมสะอำดอย่ำงเพียงพอไดแ้ ก่น้ำยำทำควำมสะอำดหรือน้ำยำฟอกขำวอุปกรณ์กำร ตวงถงุ ขยะถงั น้ำไมถ้ ูพ้ืนคีบดำ้ มยำวสำหรบั เก็บขยะผำ้ เช็ดทำควำมสะอำดและอปุ กรณป์ ้องกนั อนั ตรำยส่วนบคุ คลที่ เหมำะสมกบั กำรปฏิบตั งิ ำนเชน่ ถงุ มอื หนำ้ กำกผำ้ เส้ือผำ้ ที่จะนำมำเปลีย่ นหลงั ทำควำมสะอำด ๒. กำรทำควำมสะอำดหอ้ งนำ้ ห้องสว้ มควรทำควำมสะอำดอยำ่ งนอ้ ยวนั ละ๒คร้ังดว้ ยน้ำยำทำควำมสะอำด ทว่ั ไปพ้นื ห้องส้วมใหฆ้ ่ำเช้ือโดยใชผ้ ลิตภณั ฑฆ์ ่ำเช้ือทีม่ ีส่วนผสมของโซเดยี มไฮโปคลอไรท์ (รู้จกั กนั ในช่ือ “น้ำยำ ฟอกขำว”) โดยนำมำผสมกบั น้ำเพือ่ ใหไ้ ดค้ วำมเขม้ ขน้ ๐.๑ % หรือ๑,๐๐๐ส่วนในลำ้ นส่วนหรือผลิตภณั ฑฆ์ ำ่ เช้ือทีม่ ี ส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์โดยนำมำผสมกบั น้ำเพือ่ ให้ไดค้ วำมเขม้ ขน้ ๐.๕ % หรือ๕๐๐๐ส่วนในลำ้ นส่วน รำดน้ำยำฆ่ำเช้ือท้งิ ไวอ้ ย่ำงนอ้ ย๑๐นำทีเนน้ เชด็ บริเวณท่ีรองนงั่ โถส้วมฝำปิ ดโถสว้ มทก่ี ดชกั โครกสำยชำระรำวจบั ลกู บดิ หรือกลอนประตทู แ่ี ขวนกระดำษชำระอ่ำงลำ้ งมือขนั น้ำกอ๊ กน้ำทว่ี ำงสบผู่ นงั ซอกประตดู ว้ ยผำ้ ชบุ น้ำยำฟอกขำว หรือใชแ้ อลกอฮอล๗์ ๐ % หรือไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์๐.๕๙ % JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 43 ~ ๓. หลงั ทำควำมสะอำดควรซักผำ้ เช็ดทำควำมสะอำดและไมถ้ ูพ้นื ดว้ ยน้ำผสมผงซักฟอกหรือน้ำยำฆ่ำเช้ือแลว้ ซักดว้ ยนำ้ สะอำดอีกคร้งั และนำไปผ่ึงแดดให้แหง้ ห้องพกั ครู ๑. จดั โตะ๊ เกำ้ อ้หี รือทน่ี ง่ั ใหม้ กี ำรเวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งบคุ คลอย่ำงนอ้ ย๑.๕เมตรควรคำนึงถึงสภำพบริบทและ ขนำดพ้นื ท่ีอำจพิจำรณำใชฉ้ ำกก้นั บนโตะ๊ เรียนและจดั ทำสญั ลกั ษณ์แสดงจุดตำแหน่งชดั เจนโดยถือปฏิบตั ติ ำมหลกั Social distancing อย่ำงเคร่งครัด ๒. ใหค้ รูสวมหนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำที่อยู่ในโรงเรียน ๓. จดั ใหม้ ีกำรระบำยอำกำศที่ดีให้อำกำศถำ่ ยเทเชน่ เปิ ดประตหู นำ้ ตำ่ งหลีกเล่ียงกำรใชเ้ ครื่องปรบั อำกำศหำก จำเป็นตอ้ งใชเ้ คร่ืองปรบั อำกำศกำหนดเวลำเปิ ด – ปิ ดเคร่ืองปรับอำกำศเปิ ดประตูหนำ้ ต่ำงระบำยอำกำศทุก๑ชวั่ โมง และทำควำมสะอำดอย่ำงสม่ำเสมอ ๔. ให้มกี ำรทำควำมสะอำดโตะ๊ เกำ้ อ้อี ุปกรณ์และจุดสัมผสั เส่ียงเช่นลกู บิดประตอู ปุ กรณ์คอมพิวเตอร์โทรศพั ท์ เป็นตน้ เป็นประจำทกุ วนั อยำ่ งนอ้ ยวนั ละ๒คร้งั ๕. จดั เตรียมเจลแอลกอฮอลใ์ ชท้ ำควำมสะอำดมอื สำหรับครูและผูม้ ำติดต่อบริเวณทำงเขำ้ ดำ้ นหนำ้ ประตแู ละ ภำยในหอ้ งอย่ำงเพียงพอและทว่ั ถึง ห้องพยาบาล ๑. จดั หำครูหรือเจำ้ หนำ้ ที่เพ่อื ดูแลนกั เรียนในกรณีทม่ี ีนกั เรียนป่ วยมำนอนพกั รอผปู้ กครองมำรบั ๒. จดั ให้มพี ้นื ทหี่ รือห้องแยกอยำ่ งชดั เจนระหว่ำงนกั เรียนป่ วยจำกอำกำรไขห้ วดั กบั นกั เรียนป่ วยจำกสำเหตุ อืน่ ๆเพอ่ื ป้องกนั กำรแพร่กระจำยเช้ือโรค ๓. ทำควำมสะอำดเตียงและอุปกรณข์ องใชท้ กุ วนั ๔. จดั เตรียมเจลแอลกอฮอลใ์ ชท้ ำควำมสะอำดมือบริเวณทำงเขำ้ หนำ้ ประตูและภำยในหอ้ งพยำบำลอย่ำง เพยี งพอ โรงอาหาร กำรจดั บริกำรภำยในโรงอำหำรกำรนง่ั กินอำหำรร่วมกันของผูใ้ ชบ้ ริกำรรวมถึงอำหำรภำชนะอปุ กรณต์ กู้ ดนำ้ ดื่มระบบกรองนำ้ และผูส้ ัมผสั อำหำรอำจเป็นแหล่งแพร่กระจำยเช้ือโรคจึงควรมีกำรดูแลเพ่อื ลดและปูองกนั กำร แพร่กระจำยเช้ือโรคดงั น้ี ๑.หน่วยงานท่ีจดั บริการโรงอาหารกาหนดมาตรการการปฏบิ ัตใิ ห้สถานท่สี ะอาดถูกสุขลกั ษณะดังน้ี จดั ใหม้ อี ำ่ งลำ้ งมือพรอ้ มสบูส่ ำหรบั ให้บริกำรแกผ่ เู้ ขำ้ มำใชบ้ ริกำรโรงอำหำรบริเวณก่อนทำงเขำ้ โรงอำหำร ทุกคนทจี่ ะเขำ้ มำในโรงอำหำรตอ้ งสวมหนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั จดั ให้มกี ำรเวน้ ระยะห่ำงระหว่ำงบคุ คลอยำ่ งนอ้ ย๑.๕เมตรในพ้นื ทีต่ ำ่ งๆเชน่ ทนี่ งั่ กนิ อำหำรจดุ รับ อำหำรจดุ ซ้ืออำหำรจดุ รอกดนำ้ ดืม่ จดุ ปฏบิ ตั ิงำนร่วมกนั ของผสู้ มั ผสั อำหำร JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 44 ~ จดั เหลื่อมช่วงเวลำซ้ือและกินอำหำรเพือ่ ลดควำมแออดั พ้นื ทภี่ ำยในโรงอำหำร ทำควำมสะอำดสถำนทปี่ รุงประกอบอำหำรพ้นื ท่ตี ้งั ตกู้ ดนำ้ ด่มื และพ้นื ท่บี ริเวณทนี่ งั่ กนิ อำหำรให้ สะอำดดว้ ยน้ำยำทำควำมสะอำดหรือผงซกั ฟอกและจดั ให้มีกำรฆ่ำเช้ือดว้ ยโซเดยี มไฮโปคลอไรท์ (น้ำยำฟอกขำว) ท่ีมี ควำมเขม้ ขน้ ๑,๐๐๐ส่วนในลำ้ นส่วน (ใชโ้ ซเดียมไฮโปคลอไรท๖์ % อตั รำส่วน๑ชอ้ นโตะ๊ ตอ่ น้ำ๑ลติ ร) ทำควำมสะอำดโตะ๊ และที่นง่ั ให้สะอำดสำหรับนงั่ กินอำหำรดว้ ยน้ำยำทำควำมสะอำดหรือจดั ให้มี กำรฆ่ำเช้ือดว้ ยแอลกอฮอล๗์ ๐ % โดยหยดแอลกอฮอลล์ งบนผำ้ สะอำดพอหมำดๆเชด็ ไปในทิศทำงเดยี วกนั หลงั จำก ผใู้ ชบ้ ริกำรทุกคร้ัง ทำควำมสะอำดภำชนะอุปกรณแ์ ละเคร่ืองใชใ้ หส้ ะอำดดว้ ยน้ำยำลำ้ งจำนและใหม้ กี ำรฆ่ำเช้ือดว้ ย กำรแช่ในน้ำร้อน๘๐องศำเซลเซียสเป็นเวลำ๓๐วินำทีหรือแช่ดว้ ยโซเดยี มไฮโปคลอไรท(์ น้ำยำฟอกขำว) ทีม่ คี วำม เขม้ ขน้ ๑๐๐ส่วนในลำ้ นส่วนนำน๑นำที (ใชโ้ ซเดียมไฮโปคลอไรท๖์ % อตั รำส่วนคร่ึงชอ้ นชำตอ่ น้ำ๑ลติ ร) แลว้ ลำ้ งน้ำ ให้สะอำดและอบหรือพ่งึ ใหแ้ หง้ ก่อนนำไปใชใ้ ส่อำหำร ทำควำมสะอำดตูก้ ดน้ำดื่มภำยในตูถ้ งั น้ำเยน็ อยำ่ งน้อยเดอื นละ๑คร้งั และเชด็ ภำยนอกตแู้ ละกอ๊ กน้ำ ดมื่ ใหส้ ะอำดทุกวนั และฆ่ำเช้ือดว้ ยกำรแชโ่ ซเดยี มไฮโปคลอไรท์ (นำ้ ยำฟอกขำว) ที่มคี วำมเขม้ ขน้ ๑๐๐ส่วนในลำ้ น ส่วนนำน๓๐นำทีทุกคร้ังก่อนบรรจนุ ้ำใหมใ่ นกรณีทม่ี เี คร่ืองกรองน้ำควรทำควำมสะอำดดว้ ยกำรลำ้ งยอ้ น(Backwash) ทกุ สปั ดำห์และเปล่ียนไสก้ รองตำมระยะเวลำกำหนดของผลิตภณั ฑแ์ ละตรวจเชค็ ควำมชำรุดเสียหำยของระบบไฟฟ้ำท่ี ใชส้ ำยดินตรวจเช็คไฟฟ้ำรัว่ ตำมจดุ ตำ่ งๆโดยเฉพำะบริเวณกอ๊ กน้ำทถี่ ือเป็นจดุ เสี่ยงเพือ่ ป้องกนั ไฟฟ้ำดดู ขณะใชง้ ำน จดั บริกำรอำหำรเนน้ คูปองกันกำรปนเป้ื อนของเช้ือโรคเชน่ อำหำรปรุงสำเร็จสุกใหม่ทกุ คร้ัง หลีกเลยี่ งกำรจำหน่ำยอำหำรเสี่ยงเชน่ อำหำรประเภทกะทหิ รืออำหำรปรุงขำ้ มวนั กำรปกปิ ดอำหำรปรุงสำเร็จกำรใช้ ภำชนะท่เี หมำะสมกบั ประเภทอำหำรและจดั ใหม้ ภี ำชนะอุปกรณ์สำหรับกำรกนิ อำหำรอย่ำงเพียงพอเป็นรำยบุคคลเช่น จำนถำดหลมุ ชอ้ นส้อมแกว้ นำ้ เป็นตน้ ประชำสัมพนั ธใ์ หค้ วำมรูภ้ ำยในโรงอำหำรเชน่ กำรสวมหนำ้ กำกท่ีถกู วธิ ีข้นั ตอนกำรลำ้ งมือที่ถกู ตอ้ งกำรเวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งบุคคลกำรเลือกอำหำรปรุงสุกใหม่สะอำดเป็นตน้ กรณีมีกำรใชบ้ ริกำรรำ้ นอำหำรจำกภำยนอกจดั ส่งอำหำรให้กบั โรงเรียนควรใหค้ รูหรือผรู้ บั ผดิ ชอบ ตรวจประเมนิ ระบบสุขำภิบำลอำหำรของร้ำนอำหำรโดยกำหนดขอ้ ตกลงกำรจดั ส่งอำหำรปรุงสุกพร้อมกินภำยใน๒ ชว่ั โมงหลงั ปรุงเสร็จและมกี ำรปกปิ ดอำหำรเพอ่ื ปูองกนั กำรปนเป้ื อนสิ่งสกปรกลงในอำหำร พจิ ำรณำทำงเลอื กใหผ้ ูป้ กครองสำมำรถเตรียมอำหำรกลำงวนั (Lunch box) ให้นกั เรียนมำ รบั ประทำนเองเพื่อป้องกนั เช้ือและลดกำรแพร่กระจำยเช้ือ ๒. ผ้สู ัมผัสอาหารต้องดูแลสุขลกั ษณะส่วนบคุ คลมีการปูองกนั ตนเองและป้องกนั การแพร่กระจายเชื้อโรคดังน้ี JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 45 ~ หำกมีอำกำรป่ วยไขไ้ อมีน้ำมูกเจ็บคอหำยใจลำบำกเหน่ือยหอบไมไ่ ดก้ ลิ่นไมร่ ูร้ สให้หยดุ ปฏิบตั ิงำน และแนะนำใหไ้ ปพบแพทยท์ นั ที ดแู ลสุขลกั ษณะส่วนบุคคลมีกำรป้องกนั ตนเองแต่งกำยให้สะอำดสวมใส่ผำ้ กนั เป้ื อนและอุปกรณ์ ป้องกนั กำรปนเป้ื อนสู่อำหำรในขณะปฏบิ ตั ิงำน รกั ษำควำมสะอำดของมือดว้ ยกำรลำ้ งมือบอ่ ยๆดว้ ยสบู่และน้ำก่อนปฏิบตั ิงำนและขณะเตรียม อำหำรประกอบอำหำรและจำหน่ำยอำหำรรวมถึงหลงั จำกกำรจบั เหรียญหรือธนบตั รหรือสมั ผสั สิ่งสกปรกอำจใชเ้ จล แอลกอฮอลท์ ำควำมสะอำดมือร่วมดว้ ยหลีกเลย่ี งกำรใชม้ ือสมั ผสั ใบหนำ้ ตำปำกจมกู สวมใส่หนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำขณะปฏิบตั งิ ำน มพี ฤติกรรมขณะปฏบิ ตั งิ ำนปอู งกนั กำรปนเป้ื อนของเช้ือโรคเชน่ ใชอ้ ปุ กรณ์ในกำรปรุงประกอบ อำหำรเชน่ เขียงมดี กำรหยิบจบั อำหำรแยกระหว่ำงอำหำรสุกอำหำรประเภทเน้ือสัตวส์ ดผกั และผลไมห้ ลกี เล่ยี งกำรปรุง ประกอบอำหำรบนพ้ืนโดยตรง จดั เมนูอำหำรที่จำหน่ำยโดยเนน้ อำหำรปรุงสุกดว้ ยควำมร้อนโดยเฉพำะเน้ือสัตวป์ รุงให้สุกดว้ ย ควำมรอ้ นไม่นอ้ ยกว่ำ๗๐องศำเซลเซียสหลีกเล่ยี งกำรจำหน่ำยอำหำรบดู เสียง่ำยเช่นอำหำรประเภทกะทแิ ละอำหำรทไี่ ม่ ผ่ำนควำมรอ้ นเช่นซูชิเป็นตน้ อำหำรปรุงสำเร็จจดั เกบ็ ในภำชนะสะอำดมีกำรปกปิ ดอำหำรจดั เกบ็ สูงจำกพ้ืนไม่นอ้ ยกว่ำ๖๐ เซนตเิ มตรกรณีอำหำรปรุงสำเร็จรอกำรจำหน่ำยใหน้ ำมำอุ่นทกุ ๒ชว่ั โมง กำรใชภ้ ำชนะบรรจอุ ำหำรแบบใชค้ ร้ังเดยี วทง้ิ ตอ้ งสะอำดมคี ุณภำพเหมำะสมกบั กำรบรรจอุ ำหำร ปรุงสำเร็จและไมค่ วรใชโ้ ฟมบรรจอุ ำหำร ระหว่ำงกำรปฏบิ ตั งิ ำนใหม้ กี ำรเวน้ ระยะห่ำงระหว่ำงบคุ คลอย่ำงนอ้ ย๑.๕เมตร ควรพจิ ำรณำให้มรี ะบบชำระเงนิ ออนไลนส์ ำหรบั ผบู้ ริโภค ๓. ผ้ทู ี่เข้ามาใช้บริการโรงอาหารต้องดาเนินการป้องกันตนเองและป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคดงั นี้ ลำ้ งมอื บอ่ ยๆดว้ ยสบแู่ ละนำ้ หรือใชเ้ จลแอลกอฮอลท์ ำควำมสะอำดมอื ทุกคร้ังก่อนเขำ้ ไปในโรง อำหำรก่อนกนิ อำหำรภำยหลงั ซ้ืออำหำรหลงั จำกจบั เหรียญหรือธนบตั รหลงั จำกสัมผสั ส่ิงสกปรกหรือหลงั ออกจำก ห้องส้วม ทกุ คนตอ้ งสวมหนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำท่อี ย่ใู นโรงอำหำรหรือเขำ้ ไปในสถำนที่ จำหน่ำยอำหำร JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 46 ~ เลือกซ้ืออำหำรปรุงสำเร็จสุกใหม่หลีกเลยี่ งกำรกนิ อำหำรประเภทเน้ือสัตวเ์ คร่ืองในสตั วท์ ีป่ รุงไม่ สุกและตรวจสอบคุณภำพของอำหำรทนั ทเี ช่นสภำพอำหำรกล่นิ ควำมสะอำดและควำมเหมำะสมของภำชนะบรรจุมี กำรปกปิ ดอำหำรมดิ ชิดไม่เลอะเทอะไมฉ่ ีกขำดเป็นตน้ ใหม้ กี ำรเวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งบุคคลอย่ำงนอ้ ย๑.๕เมตรในกำรซ้ืออำหำรขณะรออำหำรนงั่ กิน อำหำรขณะรอกดน้ำดมื่ รถรับ -ส่งนักเรียน ๑. ทำควำมสะอำดรถรบั นกั เรียนและบริเวณจุดสัมผสั เส่ียงเชน่ รำวจบั ท่เี ปิ ดประตเู บำะนงั่ ท่วี ำงแขนดว้ ยน้ำ ผสมผงซกั ฟอกหรือน้ำยำทำควำมสะอำดทม่ี ีส่วนผสมของโซเดยี มไฮโปคลอไรท์ (น้ำยำฟอกผำ้ ขำว) และปฏบิ ตั ติ ำม คำแนะนำบนฉลำกผลติ ภณั ฑ์ (เชน่ ผสมโซเดียมไฮโปคลอไรทค์ วำมเขม้ ขน้ ๖ % ปริมำณ๒๐มลิ ลิลติ รต่อนำ้ ๑ลติ ร) ๒. นกั เรียนทใี่ ชบ้ ริกำรรถรบั นกั เรียนตอ้ งสวมหนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำท่ีอยู่บนรถลดกำร พดู คุยกนั เลน่ หยอกลอ้ กันรวมถึงกำหนดจุดรับ – ส่งนกั เรียนสำหรับผปู้ กครอง ๓. ตรวจวดั อณุ หภูมริ ่ำงกำยของนกั เรียนก่อนข้นึ รถรบั นกั เรียนหำกตรวจพบอุณหภูมริ ่ำงกำยเทำ่ กบั หรือสูง กว่ำ๓๗.๕องศำไม่อนุญำตให้ข้ึนรถ ๔. กำรจดั ทีน่ ง่ั บนรถรับนกั เรียนควรจดั ให้มกี ำรเวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งบุคคลอย่ำงนอ้ ย๑.๕เมตรท้งั น้ีควร คำนึงถงึ ขนำดพ้นื ท่ีของรถจำนวนทนี่ ง่ั พิจำรณำตำมบริบทคุณลกั ษณะของรถและควำมเหมำะสมจดั ทำสญั ลกั ษณแ์ สดง จดุ ตำแหน่งชดั เจนโดยปฏิบตั ติ ำมมำตรกำรเวน้ ระยะห่ำงทำงสงั คม (Social distancing) อยำ่ งเคร่งครดั ๕. กอ่ นและหลงั ให้บริกำรรบั นกั เรียนแตล่ ะรอบควรเปิ ดหน้ำตำ่ งประตูระบำยอำกำศใหอ้ ำกำศถำ่ ยเทได้ สะดวก ๖. จดั ใหม้ เี จลแอลกอฮอลส์ ำหรับใชท้ ำควำมสะอำดมือบ่อยๆบนรถรับนกั เรียน สระว่ายน้า( ถ้าโรงเรียนใดไม่มีตดั ออกได้ ) หลีกเลี่ยงหรืองดกำรจดั กำรเรียนกำรสอนในสระว่ำยน้ำกรณีรัฐบำลมีกำรผอ่ นปรนมำตรกำรควบคมุ โรคให้ สำมำรถใชส้ ระว่ำยน้ำไดแ้ ละควรปฏิบตั ดิ งั น้ี ๑. ใหม้ ีกำรคดั กรองเบ้ืองตน้ หรือเฝ้ำระวงั มิให้ผมู้ ีอำกำรเจบ็ ป่วยเชน่ ไขไ้ อมนี ำ้ มกู เจ็บคอหำยใจลำบำกเหน่ือย หอบไมไ่ ดก้ ลิ่นไมร่ ู้รสก่อนลงสระว่ำยน้ำทุกคร้ังเพ่อื ป้องกนั กำรแพร่เช้ือโรค ๒. กำกบั ดูแลและปฏิบตั ิตำมคำแนะนำของระบบฆำ่ เช้ืออย่ำงเคร่งครดั เพื่อให้ระบบมปี ระสิทธิภำพในกำรฆำ่ เช้ือตลอดเวลำกำรใหบ้ ริกำร (คลอรีนอิสระคงเหลือ (Free Residual Chlorine) ในระดบั ๑ -๓ส่วนในลำ้ นส่วน (ppm) ๓. ตรวจสอบคณุ ภำพน้ำในสระทกุ วนั และดแู ลควำมสะอำดของสระน้ำไม่ใหม้ ขี ยะมลู ฝอย ๔. กำหนดมำตรกำรกอ่ นลงสระว่ำยน้ำเช่นนกั เรียนตอ้ งชำระร่ำงกำยก่อนลงสระตอ้ งสวมหนำ้ กำกผำ้ หรือ หนำ้ กำกอนำมยั กอ่ นลงและข้ึนจำกสระว่ำยน้ำสวมแวน่ ตำ – หมวกวำ่ ยน้ำระหว่ำงกำรวำ่ ยน้ำห้ำมบว้ นน้ำลำยหำ้ ม ปัสสำวะหำ้ มส่งั น้ำมกู ลงในน้ำห้ำมพูดคยุ กบั เพ่อื นผูส้ อนวำ่ ยน้ำ (โคช้ ) หรือผดู้ แู ลสระน้ำตอ้ งสวมหนำ้ กำกผำ้ หรือ หนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำทีอ่ ยู่บริเวณสระว่ำยน้ำ JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 47 ~ ๕. ทำควำมสะอำดอปุ กรณท์ ่ใี ชใ้ นกำรสอนแบ่งรอบกำรสอนจำกดั จำนวนคนและให้มีกำรเวน้ ระยะห่ำง ระหว่ำงบุคคลอย่ำงนอ้ ย๑.๕เมตร ๖. ควรเตรียมอุปกรณ์ของใชส้ ่วนตวั สำหรบั กำรวำ่ ยน้ำเชน่ แว่นตำ – หมวกว่ำยน้ำชุดว่ำยนำ้ ผำ้ เช็ดตวั เป็นตน้ หอพกั นักเรียน(โรงเรียนใดไมม่ ตี ดั ออกได้ ) ๑. มกี ำรตรวจคดั กรองวดั อณุ หภูมิร่ำงกำยของนกั เรียนทุกคนกอ่ นเขำ้ หอพกั และสังเกตอำกำรเสี่ยงหำกพบผมู้ ี อำกำรเส่ียงตอ้ งรีบแจง้ ครูหรือผดู้ ูแลหอพกั และแจง้ ประสำนเจำ้ หนำ้ ที่สำธำรณสุขดำเนินกำรต่อไป ๒. จดั ใหม้ ที ี่ลำ้ งมอื พร้อมสบู่และน้ำหรือเจลแอลกอฮอลส์ ำหรับทำควำมสะอำดมอื ไวบ้ ริกำรในบริเวณตำ่ งๆ อยำ่ งเพยี งพอเชน่ บริเวณทำงเขำ้ ออกอำคำรหนำ้ ลฟิ ทห์ อ้ งนง่ั เลน่ ส่วนกลำงเป็นตน้ ๓. ให้มีกำรทำควำมสะอำดในพ้ืนทตี่ ่ำงๆโดยเนน้ จดุ ทีม่ ีผสู้ มั ผสั ร่วมกนั เป็นประจำอยำ่ งนอ้ ยวนั ละ๒คร้งั และ อำจเพม่ิ ควำมถีม่ ำกข้ึนหำกมีผใู้ ชง้ ำนจำนวนมำกดว้ ยน้ำยำทำควำมสะอำดและอำจฆ่ำเช้ือดว้ ยแอลกอฮอล๗์ ๐ % หรือ โซเดยี มไฮโปคลอไรท์ (นำ้ ฟอกขำว) ๐.๑ % ในพ้ืนทดี่ งั น้ี บริเวณพ้นื ทส่ี ่วนกลำงพ้ืนผิวสัมผสั อปุ กรณ์เครื่องใชเ้ ช่นเคำนเ์ ตอร์รำวบนั ไดที่จบั ประตปู ่ มุ กดลิฟท์ จดุ ประชำสมั พนั ธโ์ ตะ๊ ทีน่ งั่ สิ่งอำนวยควำมสะดวกต่ำงๆเช่นเคร่ืองซักผำ้ หยอดเหรียญตนู้ ำ้ ด่มื หยอดเหรียญตจู้ ำหน่ำย สินคำ้ อตั โนมตั เิ ครื่องด่ืมหยอดเหรียญโดยเนน้ จุดทีม่ ผี ูส้ ัมผสั ร่วมเช่นป่ มุ กดรำยกำรฝำช่องรบั สินคำ้ หอ้ งสว้ มส่วนกลำงเน้นบริเวณจุดเส่ียงไดแ้ ก่กลอนหรือลกู บดิ ประตูก๊อกนำ้ อำ่ งลำ้ งมือท่รี องนง่ั โถ ส้วมทก่ี ดโถสว้ มหรือโถปัสสำวะสำยฉีดนำ้ ชำระและพ้นื หอ้ งส้วม ๔. ควรกำหนดมำตรกำรเวน้ ระยะห่ำงระหวำ่ งบุคคลอย่ำงนอ้ ย๑.๕เมตรและลดควำมแออดั ในบริเวณพ้นื ท่ี ตำ่ งๆเชน่ กำรจดั ระยะห่ำงของเตียงนอนช้นั วำงของใชส้ ่วนตวั จำกดั จำนวนคนในกำรใชล้ ิฟทจ์ ดั ทำสัญลกั ษณแ์ สดงจุด ตำแหน่งทีม่ กี ำรรอชดั เจนเป็นตน้ ๕. จดั ใหม้ กี ำรระบำยอำกำศที่เหมำะสมใหอ้ ำกำศถ่ำยเทเช่นเปิ ดประตูหนำ้ ต่ำงหลีกเลยี่ งกำรใช้ เครื่องปรับอำกำศหำกจำเป็นตอ้ งใชเ้ ครื่องปรบั อำกำศควรตรวจสอบประสิทธิภำพของเครื่องปรบั อำกำศให้อยู่ใน่สภำพ ดกี ำหนดเวลำเปิ ด-ปิ ดเครื่องปรับอำกำศและเปิ ดประตหู นำ้ ตำ่ งระบำยอำกำศและตอ้ งทำควำมสะอำดอยำ่ งสม่ำเสมอ ๖. กำหนดแนวทำงปฏบิ ตั สิ ำหรับผพู้ กั ในหอพกั เช่น ใหผ้ ูท้ ี่พกั ในหอพกั ประเมินตนเองก่อนหำกพบว่ำมีใชไ้ อจำมมีนำ้ มกู หรือเหนื่อยหอบหรือมี อุณหภูมิร่ำงกำยเทำ่ กบั หรือมำกกวำ่ ๓๗.๕องศำเซลเซียสข้นึ ไปหรือมอี ำกำรระบบทำงเดินหำยใจใหร้ ำยงำนหวั หนำ้ หอพกั เพื่อเขำ้ สู่ระบบกำรดูแลของโรงพยำบำลตอ่ ไป มกี ำรดูแลตนเองโดยกำรสวมหนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั เวน้ ระยะห่ำงระหว่ำงบคุ คล๑.๕เมตร หลีกเลี่ยงกำรพดู คยุ ในระยะใกลช้ ิดและไม่ใชส้ ิ่งของเครื่องใชส้ ่วนตวั ร่วมกบั ผอู้ ื่น (เชน่ ผำ้ เชด็ ตวั ชอ้ นจำนชำมแกว้ นำ้ เป็นตน้ ) ลำ้ งมือดว้ ยสบแู่ ละนำ้ สะอำดหรือดว้ ยเจลแอลกอฮอลอ์ ย่ำงสมำ่ เสมอ (เช่นทกุ คร้ังก่อนและหลงั รบั ประทำน อำหำรหลงั กำรทำควำมสะอำดห้องพกั หลงั กำรใชส้ ้วมเป็นตน้ ) หลกี เลย่ี งกำรสมั ผสั ใบหนำ้ ตำปำกจมูกโดยไม่จำเป็น ดูแลสุขภำพให้แข็งแรงและดแู ลรกั ษำสุขอนำมยั ส่วนบุคคล JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 48 ~ ดูแลภำยในห้องพกั ให้สะอำดและทำควำมสะอำดบริเวณทต่ี อ้ งสมั ผสั บอ่ ยเช่นลูกบิดหรือกลอน ประตูโต๊ะเกำ้ อ้ีควรเปิ ดประตูหนำ้ ต่ำงห้องพกั เป็นประจำทุกวนั เพอ่ื ระบำยอำกำศหำกมีกำรใชเ้ คร่ืองปรับอำกำศใหม้ ี กำรทำควำมสะอำดอย่ำงสม่ำเสมอรวมท้งั คดั แยกขยะรวบรวมใส่ถงุ ขยะมดั ปำกถุงให้แน่นและนำไปท้ิงตำมเง่ือนไขที่ หอพกั กำหนดก่อนนำไปกำจดั อยำ่ งถกู ตอ้ ง ๗. ภำชนะบรรจุน้ำดื่มเชน่ ถงั น้ำเหยอื กน้ำคูลเลอร์ตอ้ งสะอำดมีฝำปิ ดควรมที ำงเทรินหรือกอ๊ กน้ำไม่ควรใชก้ ำร จว้ งตกั โดยตรงและตอ้ งลำ้ งทำควำมสะอำดดว้ ยนำ้ ยำลำ้ งภำชนะภำยในและภำยนอกทกุ วนั ๘. มมี ำตรกำรกำกบั ดแู ลพนกั งำนอ่ืนที่เกี่ยวขอ้ งเชน่ แม่บำ้ นพนกั งำนทำควำมสะอำดโดยหำกพบวำ่ มไี ขไ้ อมี น้ำมกู เจ็บคอเหน่ือยหอบใหห้ ยดุ งำนและแนะนำให้พบแพทยใ์ หส้ วมหนำ้ กำกผำ้ หรือหนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำท่ีอยใู่ น อำคำรลำ้ งมอื ดว้ ยสบแู่ ละน้ำหรือเจลแอลกอฮอลบ์ ่อยๆและตอ้ งเวน้ ระยะห่ำงระหว่ำงบคุ คลอยำ่ งนอ้ ย๑.๕เมตรหำก รบั ผิดชอบดำ้ นกำรทำควำมสะอำดให้สวมถุงมอื ผำ้ กนั เป้ื อนรองเทำ้ พ้นื ยำงหุ้มแขง้ ใชท้ ี่คีบดำ้ มยำวเกบ็ ขยะใส่ถุงมดั ปำก ถงุ ให้มิดชิดนำไปรวบรวมไวท้ พ่ี กั ขยะเมอื่ เสร็จส้ินกำรปฏบิ ตั งิ ำนใหล้ ำ้ งมือใหส้ ะอำดเมอ่ื ปฏิบตั งิ ำนเสร็จในแต่ละวนั หำกเป็นไปไดค้ วรอำบนำ้ และเปล่ียนเส้ือผำ้ ทนั ที JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 49 ~ 4. ข้อมลู ด้านการดาเนินการของโรงเรียน ระหว่าง พฤศจิกายน 2564-เมษายน 2565 ดังนี้ ภำพท่ีแสดงโรงเรียนที่จดั กำรเรียนกำรสอน ไดท้ ้งั รูปแบบ Onsite และ/หรือ Online หรือ ผสมผสำน (Hybrid) JINTUE KAENG KHOI SCHOOL

~ 50 ~ ตำรำง แสดงขอ้ มูลนกั เรียน ครู และบคุ ลำกร ท่อี ยใู่ นพ้ืนท่ี Safety Zone ตอ้ งประเมิน Thai save Thai (TST) ทุกวนั ตำมเกณฑพ์ ้ืนทีค่ วบคมุ และเขม้ งวดสูงสุด JINTUE KAENG KHOI SCHOOL