Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore พรรณไม้ในเขื่อนศรีฯ

พรรณไม้ในเขื่อนศรีฯ

Published by aussaneept, 2020-04-15 03:41:21

Description: อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี รายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม และในธรรมชาติเหล่านี้ล้วนมีความหลากหลายของพรรณไม้อยู่ในทุกพื้นที่ เราจึงอยากแนะนำพรรณไม้ที่น่าสนใจจาก 2 สถานที่ท่องเที่ยว นั่นคือ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น และสวนเวลารำลึก ให้ทุกคนได้ลองมาสำรวจและเรียนรู้พรรณไม้ไปพร้อมกัน

Search

Read the Text Version

พรรณไม ในเ ข่ือน ศรฯี พรรณไมท ่นี าสนใจ จาก 2 สถานท่ี นํ้าตกหว ยแมขม้นิ สวนเวลารำลึก



อุ ท ย า น แ ห  ง ช า ติ เ ขื่ อ น ศ รี น ค ริ น ท ร  KHUEANSRINAGARINDRA NATIONAL PARK

ใ น เ ข่ื อ น ศ รี น ค ริ น ท ร์ พน้ื ท่ีสเี ขยี วในเขตของอทุ ยาน แตกอนทเ่ี ราจะไปเรยี นรพู นั ธไุ มใ น แหงชาติเขอื่ นศรีนครินทรมีพันธุไม แตละชนดิ น้ัน เรามาทําความรูจ กั อยมู าก ตลอดทางในการทอ งเทย่ี ว กบั ลักษณะของปาไมในเขตอทุ ยาน เราจะพบกบั ความหลากหลายของ แหง ชาติเข่ือนศรนี ครินทรก ันกอน พันธไุ ม ไมวา จะเปนไมใ หญ ปาไผ ดีกวา วาปาในแตล ะประเภทนั้น พืชสมุนไพร เปนตน โดยอุทยาน มลี กั ษณะเปนอยา งไร นแี้ บงสภาพปาออกเปน 3 ประเภท คือ ปา เบญจพรรณ ปาเต็งรัง และ ปาดิบแลง หากเราไดเดินทางไป ทอ งเที่ยวในสถานทีต่ างๆ ก็จะพบ กับพันธุไ มท่นี าสนใจมากมาย /02/

MIXED DECIDUOUS FOREST



INTRODUCTION อทุ ยานแหงชาติเขือ่ นศรนี ครนิ ทรส ถานที่ทอ งเที่ยว ที่ไดร บั ความนิยม เปน หนึ่งในตวั เลอื กของนกั ทอ งเทย่ี ว ท่ีตองการมาพักผอน ทํากิจกรรมสนุกสนานกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่รัก นอกจากจะมีจุดที่นาสนใจใน การมาทํากิจกรรมตางๆ แลว ยังมีสิ่งหน่ึงท่ีเปนเสนห ของอทุ ยานนี้ คอื พรรณไมท ่ีอยภู ายในพนื้ ท่เี ขตอทุ ยาน ซ่ึงมีอยูหลากหลายสายพันธุ เปนธรรมชาติท่ีสวยงาม นาสนใจ ในแตละจุดทองเที่ยวเราจะพบกับพันธุไมท่ี แตกตา งกัน เราไดย กตัวอยางพนั ธไุ มท่ีนาสนใจจาก 2 จดุ ทองเที่ยว ที่ไดร บั ความนยิ ม คอื พันธุไมบ ริเวณนํา้ ตกหวยแมขมิน้ และพันธไุ มบรเิ วณสวนเวลาราํ ลึก เพือ่ ใหท กุ คนไดลอง ไปสมั ผัสความสวยงามและเรียนรเู ก่ยี วกบั พันธไุ มน ไี้ ป พรอมกัน อุษณยี  โพธี



CONTENTS ลักษณะปา ไมใ นเขอ่ื นศรีนครนิ ทร 02 ปา เบญจพรรณ ปา เต็งรงั 03 ปาดิบแลง 06 09 พรรณไมในน้าํ ตกหวยแมข มิน้ 15 พรรณไมใ นสวนเวลารําลึก 48 บรรณานุกรม 70



ปาไมในเข่ือนศรีฯ

ลกั ษณะปาเบญจพรรณ ปาไผบ ริเวณทางไปจดุ ชมวิวเนินสวรรค BAMBOO FOREST

ปา เบญจพรรณโดยสว นใหญแลว เราจะพบพนั ธุไ ม ขนาดกลาง พื้นทปี่ าจะไมรกทบึ และจะพบไมไ ผหลาย ชนิดขึ้นอยเู ปน จํานวนมาก พนั ธไุ มใ นปาเบญจพรรณจะ เรม่ิ ผลัดใบในชวงฤดูแลง ประมาณปลายเดอื นมกราคม ถงึ เมษายน มชี วงที่แหงแลง นานกวา 3 เดอื น โดยจะปกคลุมพนื้ ทร่ี าบถงึ เนินเขา เราจะสามารถพบปา น้ไี มบ ริเวณตอนกลางติดกบั ชายฝง อางเก็บนาํ้ ของเขือ่ น ศรนี ครนิ ทรและบริเวณอืน่ ๆ มีอยูประปรายท่วั อทุ ยาน /05/

DECIDUOUS DIPTEROCARP FOREST

ลกั ษณะปา เตง็ รัง ปา ไมบรเิ วณน้าํ ตกผาตาด FOREST AT PHATAT WATERFALL

ปาเตง็ รังจะเปนปา โปรง ไมข นาดเล็กและใหญข ึ้น กระจัดกระจายทั่ว แตพื้นท่ีปานั้นไมรกทึบมากและมี ตน หญา ไมไ ผข ้ึนแทรกอยูด วยกนั แตกม็ จี ํานวนนอ ยกวา ปา เบญจพรรณ เพราะดินนัน้ กักเกบ็ นํ้าไดนอย อีกท้ังยงั มหี ินบนผิวดนิ มาก ทําใหเ กิดความแหงแลง ลักษณะของดินมักเปนทรายและลูกรัง สีคอนขางแดง จะพบไดบรเิ วณทางดานตะวันตกของเขือ่ นศรีนครนิ ทร และมขี นึ้ อยูประปรายทัว่ พื้นที่เขตอทุ ยาน /08/

DRY EVERGREEN FOREST

ลักษณะปาดิบแลง ปา ไมบริเวณนา้ํ ตกหว ยแมข ม้ิน FOREST IN HUAY MAEKHAMIN WATERFALL

ปา ดบิ แลง เปนปา ไมผ ลดั ใบ ทมี่ ีไมผลัดใบข้นึ แทรก ลักษณะคลา ยกบั ปา ดิบชืน้ มชี ว งแลงนาน 3 - 4 เดอื น ปกติแลว ดินบริเวณพื้นทีป่ า นี้คอ นขางลึกทาํ ใหส ามารถ กกั น้าํ ไดด ี จึงทาํ ใหพันธุไ มบ างชนิดสามารถอยูไดใ นชวง ที่แหง แลง เราจะพบปาดิบแลงไดประปรายท่ัวพ้ืนท่ีเขตอุทยาน และมักจะพบในบริเวณที่อยูทางดานรับลมท่ีพัดพา ฝนมาปะทะภูเขา และริมฝงของลําธาร /11/



ตนไมน านาพรรณ



พรรณไมใ นนาํ้ ตก PLANTS IN HUAY MAEKHAMIN WAT E R FA L L ในนาํ้ ตกหว ยแมข มิ้นมพี รรณไม โดยพรรณไมท่เี ราจะมาแนะนาํ นี้ นานาชนิดข้ึนอยูทั่วบริเวณนํ้าตก จะอยทู นี่ ํา้ ตกบริเวณชั้น 4 - 7 ไล ซงึ่ มที ้งั ไมข นาดเล็ก และขนาดใหญ ไปตามลําดับช้นั เปน พรรณไมท่ี อยูรวมกัน ทําใหบรรยากาศทนี่ ี่น้ัน สามารถสงั เกตไดงา ย รม รืน่ เหมาะสําหรบั การมาพักผอน เปน อยางมาก น้ําตกหวยแมขมน้ิ น้ี จะมีท้ังหมด 7 ชนั้ เราจะไดพบกบั ธรรมชาติของพรรณไมตลอดระยะ ทางท่ีเราทอ งเทีย่ วที่น้ําตกแหงน้ี /15/



FA M I LY : BIGNONIACEAE ช่อื วทิ ยาศาสตร Fernandoa adenophylla (Wall.ex G.Don) Steenis ชอื่ วงศ BIGNONIACEAE ไมตน เลก็ ถึงขนาดกลาง ลําตน สงู 5 - 20 เมตร ลาํ ตน โคง งอเล็กนอ ย เปลือกตน สเี ทา คอนขางเรียบ ออกฝก รูปทรงกระบอกโต ฝก ยาว 35 - 70 เซนตเิ มตร พบไดบริเวณชัน้ 4 ของนาํ้ ตกหวย แมขม้ิน ใกลก บั สะพานขามธารนํ้า ฝง ทางไปน้ําตกชนั้ ที่ 5 /17/



FA M I LY : C A P PA R A C E A E ชอื่ วิทยาศาสตร Maerua siamensis (Kurz) Pax ชือ่ วงศ CAPPARACEAE ไมต น สงู 5 - 10 เมตร บางตนพุมเตย้ี ขนาดใหญ ใบสั้น ออกใบยอ ย 3 ใบ มีดอกเปนชอข้นึ แทรกใบ ลาํ ตนคอนขา งตรง สีนํา้ ตาล ก่งิ แผขยายในวงกวาง พบไดบริเวณชัน้ 4 ของน้าํ ตกหว ย แมขม้นิ ใกลกบั จดุ ชมนา้ํ ตกชนั้ 4 ฉตั รแกว /19/



FA M I LY : LEGUMINOSAE- PA P I L I O N O I D E A E ชอ่ื วิทยาศาสตร Millettia brandisiana Kurz ช่ือวงศ LEGUMINOSAE-PAPILIONOIDEAE ไมตน สูง 10 - 15 เมตร กงิ่ และกา นมขี นนุม ลําตน สีนํ้าตาลออน ใบเรียงสลบั ซอนกัน ใบยาวเปนรูปวงรี ดอกสีมว งกง่ึ น้าํ ตาล พบไดบริเวณชน้ั 4 ของน้ําตกหวย แมขมิ้น ใกลก บั จดุ ชมนํ้าตกชนั้ 4 ฉตั รแกว กอ นทางลงไปนา้ํ ตกชัน้ 3 /21/



FA M I LY : OPILIACEAE ช่ือวทิ ยาศาสตร Melientha sauvis Pierrre ช่อื วงศ OPILIACEAE ไมยนื ตน ขนาดเลก็ ตนสูงประมาณ 10 เมตร ใบรปู รี เรยี งสลบั ดอกออกเปน ชอ สเี ขียวออน ดอกสุกเปลี่ยนเปน สเี หลือง ออกดอก เม.ย. - พ.ค. พบไดบรเิ วณชนั้ 4 ของนาํ้ ตกหวย แมข มิ้น ใกลลานกางเต็นทบ ริเวณ ทางเดนิ ปนู /23/



FA M I LY : BIGNONIACEAE ช่อื วทิ ยาศาสตร Markhamia stipulata Seem.ex K. Schum. Var. kerrii Sprague ชื่อวงศ BIGNONIACEAE ไมตน สูง ลําตน ขนาดเลก็ ตน สูง 5 - 15 เมตร ใบ 4 - 8 คู รูปรี ดอกออกเปน ชอตามปลายก่งิ ดอกสเี หลือง ขนาดใหญ ดอกบานเตม็ ทีก่ วาง 10 เซนตเิ มตร พบไดบรเิ วณช้ัน 4 ของน้ําตกหว ย แมข มน้ิ ใกลลานกางเตน็ ทบรเิ วณ ทางเดนิ ปนู /25/



FA M I LY : SAPINDACEAE ช่อื วทิ ยาศาสตร Zollingeria dongnaiensis Pierre ช่อื วงศ SAPINDACEAE ไมตนผลดั ใบ ลําตน สงู 15 เมตร ลําตนขนาดเลก็ เปลือกตนสขี าว คอนขางเรยี บ ใบยอยเรียงสลับ ผลแหง มคี รีบบาง สีนํ้าตาล พบไดบริเวณช้ัน 4 ของนาํ้ ตกหวย แมขมนิ้ ทางเดนิ ปนู ทีจ่ ะเดนิ ไปยัง จุดชมนํา้ ตกชัน้ 4 ฉัตรแกว /27/



FA M I LY : C O M B R E TA C E A E ช่ือวิทยาศาสตร Terminalia corticosa Pierre ex Laness. ช่อื วงศ COMBRETACEAE ไมตน สงู 35 เมตร ลาํ ตน ตรง ขนาดเลก็ โคนตนขรุขระ ดานบนเรียบ ใบรปู มน ปลายใบแหลม ผลแหง มขี นสีน้าํ ตาล ขนาดผลยาว 3 - 4 เซนตเิ มตร พบไดบรเิ วณทางเดินไปนาํ้ ตกช้ัน 5 นํ้าตกหว ยแมข มิ้น อยูต ดิ กับธารนํ้า /29/



FA M I LY : POACEAE ชอ่ื วิทยาศาสตร Dendrocalamus membranaceus Munro ช่ือวงศ POACEAE ปลองขนาดใหญ สูง 10 - 25 เมตร ลําตรง ขึ้นเปนกอรวมกันแนน มกี าบหมุ ลาํ ตวั กาบมขี นปกคลมุ ใบรูปหอกยาว 10 - 20 เซนตเิ มตร พบไดท่วั น้าํ ตกหวยแมขมน้ิ ตลอด ทางเดนิ ไปน้ําตกในทุกๆ ชัน้ /31/



FA M I LY : MELIACEAE ช่ือวทิ ยาศาสตร Melia azedarach Linn. ชอ่ื วงศ MELIACEAE ไมผ ลดั ใบ ตน สูง 10 - 20 เมตร ก่ิงคอ นขางเปราะ ลําตนขนาดเลก็ ใบคลายขนนกสองช้ัน ดอกสีขาว ออกเปนชอท่ปี ลายก่ิง พบไดบริเวณทางเดนิ ไปนํ้าตกช้ัน 5 ไหลจนหลง อยูตดิ กับทางเดนิ หนิ /33/



FA M I LY : BURSERACEAE ชื่อวิทยาศาสตร Garuga pinnata Roxb. ชอ่ื วงศ BURSERACEAE ไมตน ผลดั ใบ ตนสงู 10 - 20 เมตร ลาํ ตนขนาดใหญ เปลอื กสขี าว ก่ิงยอยบาง หกั งาย ใบแบบขนนก ขอบใบหยัก พบไดบริเวณทางเดนิ ไปน้าํ ตกชน้ั 5 ใกลกบั หอ งสุขา ตนใหญสงั เกตเห็น ไดงาย /35/



FA M I LY : EUPHORBIACEAE ชอื่ วิทยาศาสตร Croton oblongifolius Roxb. ช่อื วงศ EUPHORBIACEAE ไมต นผลัดใบ ลําตน สูง 4 - 10 เมตร ยอดออน ใบออน ใบรปู หอก เรยี งสลับ ผลกลม มี 3 พู ผลแหงแตกงาย พบไดบริเวณทางเดนิ ไปนํ้าตกชั้น 5 อยตู ดิ กับทางเดนิ ใกลมาน่ัง /37/



FA M I LY : FA B A C E A E - CAESALPINIOIDEAE ช่ือวิทยาศาสตร Bauhinia scandens L. ช่อื วงศ FABACEAE-CAESALPINIOIDEAE ไมเล้ือย ขดทับไปมา เถาแก แบนยาว เถาสนี ้าํ ตาลเขม ใบเด่ยี ว เรียงสลับ ผลเปน ฝกแบน ผลแหงแตก มีเมล็ด พบไดบริเวณทางเดนิ ไปนํ้าตกชนั้ 6 ตวั เถายาวเลื้อยจากตน พาดไปยัง กอไผใหญ /39/



FA M I LY : LY T H R AC E A E ชื่อวทิ ยาศาสตร Lagerstroemia tomentosa C.Presl ชอ่ื วงศ LYTHRACEAE ไมต นผลัดใบ ตนสูง 35 เมตร ลาํ ตนขนาดใหญ เปลือกนํ้าตาล ใบรูปหอก มีขน หลดุ งา ย มีดอกสีขาวหรอื ฟา ออน พบไดบริเวณทางเดนิ ไปน้ําตกชั้น 6 ตนมขี นาดใหญ จดุ สังเกตตรงโคน ตนจะมีโพรงอยู /41/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook