โครงร่างงานวิจัย

โครงรา งงานวจิ ัย ช่ือเรื่อง การพฒั นาทักษะงานเชอ่ื มโลหะวิทยาเบือ้ งตน โดยวธิ กี ารสาธติ ผูว จิ ัย นายภวู ิศ มณี กลุมสาระ การงานอาชพี และเทคโนโลยีอตุ สาหกรรม ลกั ษณะประชากรทศ่ี ึกษา วชิ า โลหะวทิ ยาเบ้อื งตน ระยะเวลา ภาคเรยี นท่ี ๑ ปการศึกษา ๒๕๖๔ 1. ความเปนมาและความสาํ คญั ของปญ หา (โดยยอ) ในประเทศไทยมีการพัฒนาดานอุตสาหกรรมข้ึนอยางมากมาย โดยมีอุตสาหกรรมที่ตองใช งานเช่ือมเขามาเก่ียวของดวย เชน งานโครงสรางเหล็กกลา อุตสาหกรรมปโตรเคมีจึงตองมีการ ควบคุมคุณภาพของงานเช่ือมใหมีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพหรือเปนท่ียอมรับได จึงตองมีการ พัฒนาทักษะงานเชื่อม กําหนดรายละเอียดและกรรมวิธีการปฏิบัติงานเช่ือมเพ่ือเปนแนวทางใหผู เช่ือมและผูต รวจสอบงานเชอื่ มใหเหมาะสมกับงานนน้ั ๆเปนมาตรฐานใหงานเชื่อมมีความเหมาะสมตอ การนาํ ไปใชงาน จากปญหาดังกลาวจึงตองมีการจัดการรวบรวมขอมูลตาง ๆ ท่ีเกี่ยวของกับการทํางานเช่ือม เพื่อกําหนดขอมูลท่ีถูกตองและรวมถึงวิธีการปฏิบัติ โดยใชวิธีการสาธิตท้ังสาธิตวิธีท่ีผูสอนแสดงวิธีทํา สิ่งตางๆใหผูเรียนไดเห็นวิธีทําอยางชัดเจน ตามขั้นตอน ตามลําดับ ซึ่งจะทําใหผูเรียนเขาใจและ สามารถนําวิธีการน้ันๆไปปฏิบัติตามไดผลดวยตนเองและสาธิตผล ท่ีผูสอนไดแสดงผลงานท่ีไดทํา สําเรจ็ เรียบรอยแลว มาใหผ เู รยี นไดดูการสาธติ แบบนี้จะไดผลเฉพาะผูที่สนใจงานนั้นๆอยูแลว ซ่ึงจะทํา ใหงานเชอ่ื มท่ีออกมามคี ุณสมบตั ิหรือมปี ระสิทธิภาพในการนาํ ไปใชงานตรงตามทีต่ อ งการ ผวู จิ ยั จงึ มีความคิดความสนใจในการการพัฒนาทกั ษะงานเชื่อมโลหะวทิ ยาเบือ้ งตน โดยวิธีการสาธติ เพื่อเปนตัวชว ยในการเริ่มตนของการทํางานเชื่อมโลหะวิทยาเบื้องตนและยังรวบรวมขอมูลใหสามารถ ใชงานไดงา ยตอ การศึกษาคนควาจากหนงั สือคูมอื และยงั ชว ยประหยัดเวลาอกี ดวย 2. วัตถุประสงคการวจิ ยั 1.การพฒั นาทกั ษะงานเชอ่ื มโลหะเบ้อื งตน โดยวิธีการสาธิต 2.เรียนรกู ระบวนการสาธติ วิธี สาธติ ผลเพอื่ พฒั นาทกั ษะงานเชื่อม 3. ขอบเขตของการวจิ ัย 3.1 ประชากร/ กลุม เปา หมาย นักเรยี นชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท ่ี ๕ 3.2 ตวั แปรทศี่ กึ ษา ตวั แปรอิสระ นกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี ๕ แผนกชางเช่ือม จาํ นวน ๑๒ คน

2 ตัวแปรตาม ทักษะงานเชอื่ มโลหะวทิ ยาเบอื้ งตน ตัวแปรตาม 3.3 ระยะเวลาท่ีใชใ นการศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปก ารศกึ ษา 2564 4. กรอบแนวคิดในการวิจัย ตวั แปรอิสระ 5. วิธีดําเนนิ การ 5.1 ประชากร/ กลุมเปา หมาย ประชากรทใ่ี ชใ นการวจิ ยั ครงั้ นเ้ี ปนนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ ๕ แผนกชา งเชื่อม โรงเรียนราชประชานุเคราะห 31 ภาคเรียนท่ี 1 ประจาํ ปก ารศึกษา 2564 จาํ นวน 12 คน 5.3 แผนการดําเนนิ การวจิ ัย การดาํ เนินการวจิ ัยในครัง้ น้ี ผวู ิจยั ไดก าํ หนดแผนการดําเนินการวจิ ยั แบบแผนการวจิ ัยแบบ กลมุ เดีย่ วทดสอบปฏบิ ัติการทักษะการเชือ่ มโลหะวทิ ยาเบอื้ งตน ทดสอบกอ นการพฒั นา และทดสอบ หลงั การพฒั นาโดยวิธีสาธิต 6. วิธีการเก็บรวบรวมขอมลู 1. แบบสงั เกตการณ/ การสงั เกตการณ (Observation) 2. แบบสัมภาษณ/การสมั ภาษณ (Interview) 3. ทดสอบ (Test) 4. การคน ควาเอกสาร (Documentary) 7.สถิติท่ใี ชวเิ คราะหขอมลู

3 8. ประโยชนท ่คี าดวาจะไดรบั เพอื่ พฒั นาทักษะของผเู รยี นใหเ กิดทกั ษะงานเช่ือมโลหะวิทยาเบ้อื งตน เพือ่ ใหรหู ลักการสาธิตเพ่อื พัฒนาทักษะงานเชอื่ มโลหะ