Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วันพืชมงคล

วันพืชมงคล

Description: วันพืชมงคล

Keywords: วันพืชม

Search

Read the Text Version



ก คานา ปัจจุบนั การอ่าน เป็นทักษะท่ีจาเป็นอย่างยิ่งต่อการศึกษาหาความรู้และการพัฒนาทักษะชีวิตทาให้เกิด ความรคู วามเพลิดเพลนิ สง่ เสรมิ ให้มีแนวคิดสรา้ งสรรค์ เป็นเครอื่ งมือในการแสวงหาความรู้ ทาให้ทันยุค ทันสมัย มคี วามอยากรอู้ ยากเห็น รวมถึงพฒั นาดา้ นการอ่านจบั ใจความสาคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยท่ีทาให้การอ่านพัฒนารูปแบบ ไปอย่างตอ่ เนอื่ ง ดังน้นั หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอบางพลไี ด้เลง็ เหน็ ถึงความสาคัญดังกล่าว ในการพัฒนาทักษะด้านการ อ่าน พัฒนาความคดิ และพัฒนาคณุ ภาพชีวิตท่ีดขี องประชาชน จึงจัดทากิจกรรมส่งเสริมการอ่านตามอัธยาศัยใน รปู แบบออนไลน์ เพ่ือส่งเสริมใหร้ จู้ ักใช้เวลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ด้วยการอ่านหนังสือ และเพื่อปลูกฝังให้มีนิสัยรัก การอ่าน สดุ ทา้ ยนี้ ขอบขอบคุณ ผู้อานวยการศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอบางพลี จังหวัดสมทุ รปราการ และผเู้ ก่ียวข้อง ผู้ประสานงานซ่ึงส่งเสริมการฏิบัติงานให้ลุล่วงไปด้วยดี หากมีข้อผิดพลาด ประการใด ขออภยั ไว้ ณ ท่ีน้ี หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอบางพลี

ข สารบญั คานา.......................................................................................................................................................................ก สารบัญ ...................................................................................................................................................................ข วนั พชื มงคล ........................................................................................................................................................1 ประวัติพระราชพธิ ีพืชมงคลจรดพระนงั คลั แรกนาขวัญ ......................................................................................1 ประกาศพระราชพิธพี ืชมงคล..............................................................................................................................5 การหาฤกษพ์ ระราชพิธี.......................................................................................................................................7 การประกอบพระราชพิธวี นั พืชมงคล..................................................................................................................7 สัตยาธิษฐาน การเสีย่ งทาย...............................................................................................................................10 พระโคแรกนา ...................................................................................................................................................12 ประวัตโิ คขาวลาพนู ..........................................................................................................................................14 คันไถ ................................................................................................................................................................17 กิจกรรมตา่ ง ๆ ทค่ี วรปฏบิ ัติในวันพชื มงคล ......................................................................................................18 พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนงั คลั แรกนาขวญั 2563 .....................................................................................19 บรรณานกุ รม ..........................................................................................................................................................ค

1 วนั พชื มงคล วนั พชื มงคล คือ วันท่กี าหนดใหม้ ีพระราชพิธจี รดพระนังคลั แรกนาขวัญ นบั ว่าเป็นพระราชพิธีท่ีมีความ เก่าแก่สืบต่อมาตั้งแต่โบราณเพื่อเสริมสร้างขวัญและกาลังใจให้กับเกษตรกรของชาติ อีกท้ังยังเป็นการระลึกถึง ความสาคัญของเกษตรกรที่มีต่อเศรษฐกิจไทย ซ่ึงการจัดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระ นังคัลแรกนาขวัญนี้มี สืบเนื่องมาตั้งแต่เมื่อสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย การประกอบพระราชพิธีจะกระทาขึ้นท่ีท้องสนามหลวง อัน ประกอบด้วย 2 พระราชพิธี คือ พระราชพิธีพืชมงคล และพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ที่มีความ แตกต่างกันดังนี้ ประวัตพิ ระราชพธิ พี ชื มงคลจรดพระนงั คลั แรกนาขวัญ พระราชพิธพี ืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเปน็ พระราชพิธี ๒ พิธีรวมกัน คือ พรพระราชพธิ ีพชื มงคล อันเป็นพิธสี งฆ์ อย่างหนึง่ ซึ่งจะประกอบพระราชพธิ ีวนั แรกในพระอโุ บสถ วดั พระศรีรตั นศาสดาราม พระราชพิธจี รดพระนงั คัลแรกนาขวัญ อนั เปน็ พิธีพราหมณ์ อย่างหนึ่ง ซ่ึงจะประกอบพระราชพิธี ในวนั รุ่งข้นึ ณ มณฑลพธิ สี นามหลวง

2 จติ รกรรมฝาผนังพระพทุ ธรัตนสถานฯ ทรงฟืน้ ฟูพระราชพิธจี รดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพระราชพิธีที่มีมาแต่โบราณตั้งแต่ครั้ง กรุงสุโขทัยเป็นราช ธานี ซ่งึ ในสมัยกรงุ สโุ ขทยั นน้ั พระมหากษัตริย์ไม่ได้ลงมือไถนาเอง เป็นแต่เพียงเสด็จไปเป็นองค์ประธานในพระ ราชพธิ เี ทา่ นั้นะราชพธิ พี ืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเปน็ พระราชพิธี ๒ พิธรี วมกัน คอื ครั้งถึงสมัยกรุงศรอี ยุธยา พระมหากษตั รยิ ์ ไมไ่ ด้เสด็จไปเป็นองค์ประธาน เหมือนกับสมัยกรุงสุโขทัย และจะทรง จาศลี เงียบ ๓ วนั แต่จะมอบอาญาสิทธ์ใิ ห้ เจ้าพระยาจนั ทกุมาร เป็นผู้แทนพระองค์ โดยทรงทาเหมือนอย่างออก อานาจจากกษตั ริย์ ซึ่งวธิ นี ไี้ ด้ใชต้ ลอดมาถึงปลายสมัยกรงุ ศรอี ยธุ ยา สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ได้มีการประกอบพระราชพิธีน้ีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ แต่ผู้ทาการแรกนา เปลยี่ นเป็นเจ้าพระยาพลเทพ คู่กันกับการยืนชิงช้า แต่พอถึงรัชกาลที่ ๓ ให้ถือว่าผู้ใดยืนชิงช้าผู้นั้นเป็นผู้แรกนา ในสมัยรัชกาลท่ี ๔ ได้ทรงโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหจ้ ดั มพี ธิ ีสงฆเ์ พิ่มขึ้นในพระราชพิธีต่างๆ ทุกพิธี ดังน้ัน พระ ราชพธิ ีพืชมงคล จงึ ไดเ้ ริม่ มขี ึน้ แตบ่ ัดนั้นมา โดยไดจ้ ัดรวมกับพระราชพิธีจรดพระนงั คัลแรกนาขวัญ และมีช่อื เรยี ก รวมกันว่า พระราชพธิ ีพืชมงคลจรดพระนังคลั แรกนาขวญั ความมุ่งหมายอันเป็นมูลเหตุให้เกิดมีพระราชพิธีนี้ข้ึน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ พระราชทานพระบรมราชาธิบายไว้ในพระราชนพิ นธเ์ ร่อื ง พระราชพธิ สี ิบสองเดือนวา่ \"การแรกนาทต่ี ้องเปน็ ธรุ ะของผ้ซู ่งึ เปน็ ใหญ่ในแผน่ ดนิ เป็นธรรมเนียมนิยม มีมาแต่โบราณ เช่น ในเมือง จีนส่ีพันปีล่วงมาแล้ว พระเจ้าแผ่นดินก็ลงทรงไถนาเองเป็นคราวแรก พระมเหสี เลี้ยงตัวไหม ส่วนจดหมาย เร่อื งราวอันใดในประเทศสยามนี้ ท่ีมปี รากฏอย่ใู นการแรกนาน้ี กม็ อี ยเู่ สมอเป็นนิตย์ ไม่มีเวลาว่างเว้น ด้วยการซึ่ง ผ้นู ัน้ เป็นใหญ่ในแผ่นดินลงมือทาเองเช่นนี้ ก็เพ่ือจะให้เป็นตัวอย่างแก่ราษฎรชักนาให้มีใจหมั่นในการที่จะทานา เพราะเป็นส่ิงสาคัญ ที่จะได้อาศัยเล้ียงชีวิตท่ัวหน้า เป็นต้นเหตุของความต้ังมั่นและความเจริญไพบูลย์ แห่งพระ นครทัง้ ปวง แตก่ ารซึง่ มีพิธีเจอื ปนตา่ งๆ ไม่เปน็ แต่ลงมือไถนาเป็นตัวอย่าง เหมือนอย่างชาวนาท้ังปวงลงมือไถนา ของตนตามปกติ ก็ด้วยความหวาดหวั่นต่ออันตราย คือ น้าฝนน้าท่ามากไปน้อยไป ด้วงเพล้ียและสัตว์ต่างๆ จะ

3 บงั เกิดเปน็ เหตอุ ันตราย ไม่ให้ได้ประโยชน์เต็มภาคภูมิ และมีความปรารถนาท่ีจะให้ได้ประโยชน์เต็มภาคภูมิเป็น กาลงั จงึ ต้องหาทางท่จี ะแก้ไขและหาทางที่จะอดุ หนุนและทจ่ี ะเสี่ยงทายให้รู้ล่วงหน้า จะได้เป็นที่มั่นอกม่ันใจโดย อาศัยคาอธิษฐานเอาความสัตย์เป็นที่ตั้งบ้าง ทาการซ่ึงไม่มีโทษ นับว่าเป็นการสวัสดิมงคลตามซ่ึงมาใน พระพุทธศาสนาบ้าง บูชาเซ่นสรวงตามที่มาทางไสยศาสตร์บ้าง ให้เป็นการช่วยแรงและเป็นที่มั่นใจตามความ ปรารถนาของมนุษยซ์ ่งึ คดิ ไมม่ ีทีส่ ้นิ สดุ \" ดังนั้น จะเห็นได้ว่า ความมุ่งหมายของพิธีแรกนาอยู่ท่ีจะทาให้เป็นตัวอย่างแก่ราษฎรเพื่อชักนาให้มี ความมั่นใจในการทานา แม้จะเป็นความจาเป็นสาหรับบ้านเมืองในสมัยโบราณอย่างไร ถึงปัจจุบันนี้คงเป็นอยู่ อย่างนั้น เพราะการเกษตรซ่ึงมีการทานา เป็นหลักนั้น เป็นส่ิงสาคัญแก่ชีวิตความเป็นอยู่และการเศรษฐกิจของ ประเทศทกุ สมัย สว่ นพิธีกรรมนอกเหนือจากการทาให้เป็นตัวอย่างตามท่ีทรงจาแนกไว้ ๓ อย่าง โดย ๒ อย่างแรกที่ว่า \"อาศัยคาอธิษฐานเอาความสัตย์เป็นที่ต้ังบ้าง ทาการซึ่ง ไม่มีโทษนับว่าเป็นการสวัสดิมงคล ตามซ่ึงมาใน พระพุทธศาสนาบ้าง” นัน้ ทรงหมายถงึ พธิ พี ืชมงคลอนั เป็นพิธสี งฆท์ ่กี ระทา ณ วัดพระศรรี ัตนศาสดาราม ส่วนอีก อยา่ งหนึง่ ทว่ี า่ \"บชู าเซน่ สรวงตามท่มี าทางไสยศาสตร์บ้าง” น้ัน ทรงหมายถึง พิธีจรดพระนังคัล แรกนาขวัญ อัน เป็นพิธีพราหมณ์ พระราชพิธแี รกนาขวัญ พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเป็นพิธีการเพื่อความเป็น สิริมงคลและบารุงขวัญ เกษตรกร กาหนดจดั ขน้ึ ในเดือนหกของทุกปี ซ่งึ ระยะนเ้ี ปน็ ระยะเหมาะสมทจ่ี ะเร่มิ ตน้ การทานาอันเป็นอาชีพหลัก ของประชาชนคนไทย แต่ไมไ่ ด้กาหนดวันที่แนน่ อนไว้เหมือนกับวันในพระราชพิธีอื่น ส่วนจะเป็นวันใดในเดือนหก หรือเดอื นพฤษภาคมทีม่ ีฤกษ์ยามท่ีเหมาะสมต้องตามประเพณกี ็ใหจ้ ัดขึน้ ในวนั นั้น

4 การจดั งานพระราชพิธพี ืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ได้กระทาเต็มรูปบูรพประเพณี คร้ังสุดท้าย ในปี พ.ศ. ๒๔๗๙ เว้นไปจนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๐๓ คณะรัฐมนตรีได้มีมติ ให้ฟ้ืนฟูพระราชประเพณีนี้ขึ้นใหม่ และไดก้ ระทาตดิ ต่อกันมาทกุ ปจี นถึงปัจจุบัน ด้วยเห็นว่าเปน็ การรกั ษาพระราชประเพณอี นั ดงี าม มผี ลในการบารุง ขวญั และจิตใจของคนไทย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลท่ี ๙ ทรงมีพระราชกระแส ให้ปรับปรงุ พธิ ีการบางอย่างใหเ้ หมาะสมกับยุคสมัยและเสด็จพระราชดาเนินมาเป็นองค์ประธานในพระราชพิธีน้ี ทุกปสี ืบมามิได้ขาด เมื่อได้มีการฟ้ืนฟูพระราชประเพณีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ข้ึนมาในระยะแรกนั้น พระยาแรกนา ได้แก่ อธิบดีกรมการข้าวโดยตาแหน่ง สาหรับเทพีท้ังส่ีพิจารณาคัดเลือก จากภริยาข้าราชการชั้ นผู้ใหญ่ใน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายหลงั พระยาแรกนา ได้แก่ ปลดั กระทรวงเกษตรและสหกรณ์โดยตาแหน่ง ส่วนผู้ ที่มาทาหน้าท่ีเป็นเทพีคู่หาบทอง และคู่หาบเงินนั้น ได้ทาการพิจารณาคัดเลือกจากข้าราชการหญิงโสดในสังกัด กระทรวงเกษตร และสหกรณท์ ี่มีตาแหนง่ ตง้ั แต่ข้าราชการพลเรือนสามัญช้ันโทข้ึนไป พระราชพิธพี ชื มงคล เป็นพิธีทาขวัญพืชพันธุ์ธัญญาหารที่ พระมหากษัตริย์ทรงอธิษฐานเพื่อความอุดม สมบรู ณ์ของพืชพันธุ์ธัญญาหารแห่งราชอาณาจักรไทย ข้าวน้ันถือว่าเป็นอาหารหลักของประชาชนในภาษาบาลี เรียกวา่ ปุพพณั ณะ หรอื บุพพัณณะ หรอื บพุ พณั ณชาติ ส่วนพืชอ่ืนๆ ท่ีเป็นอาหารเรียกว่า อปรัณณ หรืออปรัณ ชาติ หมายถึง พืชจาพวกถ่ัวงา เป็นต้น ถ้าเรียกควบทั้งสองอย่างก็เรียกว่า บุพพัณณปรัณณชาติ ท่ีหมายถึงพืชที่ เป็นอาหารทุกชนิด บุพพัณณปรัณณชาติที่นาเข้าพระราชพิธีพืชมงคลน้ัน เป็นข้าวเปลือก มีทั้งข้าวเจ้า และข้าวเหนีย ว นอกจากนีม้ ีเมล็ดพชื ต่างๆ รวม ๔๐ อย่าง แต่ละอย่างบรรจุถุงผ้าขาว กับเผือกมันต่างๆ พันธุ์พืชเหล่านี้เป็นของ ปลูกงอกไดท้ งั้ สิน้ นอกจากนี้ยังมีข้าวเปลอื กทีห่ วา่ น ในพิธีแรกนาบรรจุกระเช้าทองคู่หนึ่งและเงินคู่หน่ึง เป็นข้าว พันธ์ดุ ีท่ีโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ปลูกในโครงการส่วนพระองคส์ วนจิตรลดารโหฐาน และพระราชทานมาเข้า พระราชพิธีพืชมงคล พันธ์ุข้าวพระราชทานน้ี จะใช้หว่านในพระราชพิธีแรกนาส่วนหน่ึง อีกส่วนหนึ่งท่ีเหลือ ทางการ จะบรรจุซอง แล้วสง่ ไปแจกจ่ายแกช่ าวนาและประชาชนในจังหวัดต่างๆ ให้เป็นม่ิงขวัญและเป็นสิริมงคล แก่พืชผลทจ่ี ะเพาะปลกู ในปีน้ี อนึ่ง นับตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๙ เป็นต้นมา คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาลงมติให้วันพระราชพิธีพืช มงคลนี้เป็น วันเกษตรกร ประจาปี อีกด้วย ท้ังน้ีเพื่อให้ผู้มีอาชีพทางการเกษตรพึงระลึกถึงความสาคัญของ การเกษตร และร่วมมอื กันประกอบพระราชพธิ พี ืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญเพ่ือเป็นสิริมงคลแก่อาชีพของ ตน ทัง้ ยงั ก่อใหเ้ กิดประโยชนแ์ กเ่ ศรษฐกจิ ของประเทศชาติ จึงได้จัดงาน วันเกษตรกรควบคู่ไปกับงานพระราชพิธี พืชมงคลจรดพระนงั คัลแรกนาขวัญตลอดมา ทง้ั นี้ ในปพี ทุ ธศักราช ๒๕๖๓ ประเทศไทยและนานาประเทศทั่วโลกต้องเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ ระบาดของโรคติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (Covid-19) ซ่ึงมีมาตรการและข้อปฏิบัติทางสาธารณสุขหลายประการ เพอื่ ปอู งกนั การแพรก่ ระจายของโรค ดังนัน้ กระทรวงเกษตรและสหกรณจ์ ึงขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยงดการประกอบพระราชพิธี พืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในปีนี้จากเดิมที่สานักพระราชวังได้กาหนดให้ประกอบพระราชพิธีในวัน อาทติ ยท์ ี่ ๑๐ และวนั จันทร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ โดยขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตประกอบพิธี ปลุก

5 เสกเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทานและพืชพันธุ์ต่าง ๆ ในวันอาทิตย์ท่ี ๑๐ พฤษภาคม ๒๕๖๓ โดยนาพันธุ์ข้าวทรง ปลูกพระราชทานในฤดูทานาปี ๒๕๖๒ และพันธ์ุพืชต่าง ๆ มาเข้าประกอบพิธี พร้อมทั้งพิธีหว่านหว่านข้าวใน แปลงนาทดลอง สวนจิตรลดา ในวนั จันทร์ที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ เพือ่ ความเป็นสิรมิ งคลและสร้างขวัญกาลังใจ แก่เกษตรกรทุกสาขาทวั่ ประเทศ ประกาศพระราชพธิ ีพืชมงคล ประกาศพระราชพิธีพืชมงคลน้ัน เป็นคาถาภาษาบาลีพระราชนิพนธ์ ในรัชกาลท่ี ๔ อ่านทานอง สรภัญญะ จบแลว้ ดาเนินความภาษาไทยเป็นคาร้อยแก้ว เนอ้ื ความเป็นคาอธิษฐาน ๔ ขอ้ ดงั น้ี ข้อ ๑ เป็นคานมัสการสรรเสริญพระคุณพระพุทธเจ้าว่าทรงดับทุกข์ได้ มีพระหฤทัยคงที่ ทรง ปลกู ธรรมให้งอกงามจารญู แก่บรรดาสาวกพุทธเวไนยสืบๆ มา แม้ว่าโลกจะเร่าร้อนด้วยเพลิงกิเลส พระสัทธรรม อนั มผี ลเปน็ อมตะกย็ งั งอกงามได้ดว้ ยเดชะพระบารมขี องพระองค์ บัดน้ีเราทั้งหลายบูชาพระพุทธเจ้าพระองค์นั้น กบั พระธรรมและพระสงฆ์ แล้วจะปลกู พืช คือ บุญในพระรตั นตรยั อนั เปน็ เน้ือนาบุญอย่างดี พืชคือบุญน้ี เมล็ดผล เปน็ ญาณความรู้อันเป็นเคร่ืองถา่ ยถอนทุกข์ในโลก สามารถส่งผลให้ได้ทั้งในปัจจุบันและในกาลภายหน้าสืบๆ ไป ตามกาลอนั ควรจะให้ผลเป็นอุปการะนานาประการ ขอให้พืชคือบุญท่ีเราหว่านแล้ว จงให้ผลตามความปรารถนา อน่งึ ขอใหข้ า้ วกลา้ และบรรดาพืชผลที่หว่านที่เพาะปลูกลงในที่น้ันๆ ทั่วราชอาณาเขต จงงอกงามจารูญตามเวลา อยา่ เสียหายโดยประการใดๆ ข้อ ๒ ยกพระคาถาท่พี ระพุทธเจ้าตรัสแสดงการทานาของพระองค์แก่พราหมณ์ชาวนาผู้หนึ่งว่า \"ศรัทธา-ความเช่ือเป็นพืชพันธุ์ข้าวปลูกของเรา ตบะ-ความเพียร เผาบาป เป็นเมล็ดฝน ปัญญา-ความรอบรู้เป็น แอกและไถ หิริ-ความละอายใจ เป็นงอนไถ ใจเป็นเชือกชัก สติ-ความระลึกได้ เป็นผาลและปฎัก เราจะระวังกาย ระวังวาจาและสารวมระวังในอาหาร ทาความซื่อสัตย์ให้เป็นท่อไขน้า มีโสรัจจะ-ความสงบเสง่ียมเป็นที่ปลดไถ มี วิริยะ-ความเพียรเป็นแรงงานชักแอกไถ เป็นพาหนะนาไปสู่ท่ีอันเกษมจากเคร่ืองผูกพันที่ไปไม่กลับ ท่ีไปแล้วไม่ เศร้าโศก การไถของเราเช่นนี้ มีผลเป็นอมตะ มิรู้ตาย บุคคลมาประกอบการไถเช่นว่าน้ีแล้ว ย่อมพ้นจากทุกข์สิ้น ทกุ ประการ” ดังน้ี มายกขึ้นเป็นคาอธิษฐานวา่ ท่พี ระพุทธเจา้ ตรสั นี้ เปน็ ความสตั ย์จริง ด้วยอานาจแหง่ ความสัตย์นี้ ขอใหข้ า้ วกลา้ และพืชผลทหี่ วา่ นที่เพาะปลกู จงงอกงามท่ัวภมู ิมณฑลอนั เปน็ ราชอาณาเขต ข้อ ๓ ยกพระคาถาอันเป็นภาษิตของพระเตมียโ์ พธิสตั ว์ ความว่า \"บุคคลผู้ไม่ประทุษร้ายมิตร โค ยอ่ มจารูญพนู เกิดแกเ่ ขา พืชท่หี ว่านในนาของเขายอ่ มงอกงามจาเริญ เขายอ่ มได้รับบริโภคผลแห่งพืชพันธ์ุท่ีหว่าน แล้ว” และว่า \"บคุ คลผ้ไู ม่ประทุษรา้ ยมิตรอนั ศัตรูหม่อู มิตรไม่อาจยา่ ยีได้ดจุ ไม้ไทรมรี ากและยา่ นอนั งอกงามพายุไม่ อาจพัดพานให้ล้มไปได้ฉันนั้น” มาต้ังเป็นสัตยาธิษฐานว่าด้วยอานาจสัจวาจาน้ี ขอให้ข้าวกล้าและพืชผลท่ีหว่าน เพาะปลกู ในภมู ิมณฑลทวั่ ราชอาณาเขต จงงอกงามไพบลู ย์ ข้อ ๔ อ้างพระราชหฤทัยของพระเจ้าแผน่ ดนิ ซ่ึงทรงพระเมตตากรุณาแก่ประชาราษฎร ตั้งพระ ราชหฤทัยจะบารุงให้อยู่เย็นเป็นสุขทั่วหน้าเป็นความสัตย์จริง ด้วยอานาจความสัตย์น้ี ขอให้ข้าวกล้าและพืชผล งอกงามบรบิ ูรณ์ทั่วราชอาณาเขต

6 พระคันธารราษฎร์ หรอื พระขอฝนปจั จุบนั ประดษิ ฐาน ณ พระท่ีน่งั อัมพรสถาน พระราชวงั ดสุ ิต ต่อจากน้ัน เป็นการกล่าวถึงพระพุทธรูปศักด์ิสิทธ์ิที่เรียกว่า “พระคัณธาราษฎร์” ท่ีมีพุทธานุภาพ บันดาลให้ฝนตก อันเป็นพระพุทธรูปท่ีสาคัญในพระราชพิธีน้ี แสดงตานานโดยลาดับจนรัชกาลท่ี ๑ ได้ ทอดพระเนตร และได้โปรดให้หล่อข้ึนใหม่สาหรับต้ังในพระราชพิธี และต่อน้ันไปว่าด้วยการพระราชกุศลท่ีทรง บาเพญ็ ในพระราชพิธีนั้น ทรงพระราชอุทิศแก่ เทพยดาท้ังปวง แล้วอธิษฐานเพ่ือให้ข้าวปลาอาหารอุดมสมบูรณ์ และฝนตกตามฤดูกาล พระสงฆจ์ ะสวดต่อทา้ ยการสวดมนต์ในพระราชพิธพี ืชมงคล ส่วนพระราชพธิ ีจรดพระนงั คลั แรกนาขวัญ (วนั ไถหว่าน) เป็นพิธีพราหมณ์นั้นจะได้ประกอบพิธีบริเวณ มณฑลพิธสี นามหลวงโดยได้ตัง้ โรงพธิ ีประดิษฐานเทวรปู สาคญั อาทิ พระอิศวร พระพรหม พระนารายณ์ พระอุมา ภควดี พระมหาวิฆเนศวร์ พระลักษมี พระพลเทพ และพระโคอุศุภราช ซึ่งในตอนค่าพระมหาราชครูจะทาพิธี บวงสรวงเพอ่ื ความสวัสดีแกพ่ ชื ผลดว้ ย

7 การหาฤกษ์พระราชพิธี ฤกษ์การพระราชพิธีนี้ ต้องหาฤกษ์ที่วิเศษกว่าฤกษ์อื่นๆ คือ กาหนดสี่อย่าง ฤกษ์นั้นอย่าให้ต้องวันผี เพลียอยา่ งหน่ึง ให้ไดศ้ ภุ ดิถีอย่างหน่ึง ให้ได้บรุ ณฤกษ์อย่างหนง่ึ ให้ไดว้ ันสมภเคราะหอ์ ย่างหน่งึ ตาราหาฤกษ์น้เี ป็น ตาราเกรด็ เขาสาหรับใชเ้ ร่มิ ที่จะลงมือแรกนา หวา่ นข้าว ดาข้าว เกี่ยวข้าว ขนข้าวข้ึนยุ้ง แต่ท่ีเขาใช้กันน้ันไม่ต้อง หาฤกษอ์ ย่างอ่ืน ให้แต่ไดส้ ี่อยา่ งนแี้ ล้ว ถึงจะถูกวันอุบาทวโ์ ลกาวนิ าศกใ็ ช้ได้ แต่ฤกษ์จรดพระนังคัลอาศัยประกอบ ฤกษ์ดีตามธรรมเนียมด้วยอีกชั้นหนึ่ง ตามแต่จะลงวันใดในเดือนหก ดิถีซ่ึงนับว่าผีเพลียนั้น ข้างข้ึนคือ ๑,๕,๗,๘,๙,๑๐,๑๑,๑๕ ขา้ งแรม ๑,๕,๖,๗,๘,๑๐,๑๓,๑๔ เป็นใช้ไม่ได้ ศุภดิถีน้ันก็คือ ดิถีตาว่างซึ่งไม่เป็นผีเพลีย น้ันเอง บุรณฤกษ์น้ัน คือ ๒,๔,๕,๖,๘,๑๑,๑๔,๑๗,๒๒,๒๔,๒๖,๒๗ วันสมภเคราะห์นั้นคือ วันจันทร์ วันพุธ วัน พฤหสั บดี วนั ศกุ ร์ กับกาหนดธาตุอกี อยา่ งหนึ่งตามวันทโี่ หรแบ่ง เป็น ปถวี อาโป เตโช วาโย ให้ได้ส่วนสัดกันแล้ว เป็นใช้ได้ จะพรรณนาท่จี ะหาฤกษน์ กี้ ็จะยืดยาวไป เพราะไมม่ ผี ูใ้ ดทจี่ ะตอ้ งใชอ้ ันใด พระครูพราหมณ์ ประกอบพธิ ีพระราชพิธีพืชมงคล พระสงฆเ์ จริญพระพุทธมนต์ การประกอบพระราชพิธีวันพชื มงคล พระราชพิธพี ืชมงคล เป็นพิธีทาขวญั พืชพนั ธ์ุธัญญาหารทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัวทรงอธษิ ฐานเพื่อ ความอดุ มสมบูรณข์ องพืชพันธ์ุในราชอาณาจักรไทย โดยข้าวที่นามาเข้าพิธีพืชมงคลนั้นเป็นข้าวเปลือก มีท้ังข้าว เจ้าและข้าวเหนียว อีกท้ังยังมีเมล็ดพืชชนิดต่างๆ รวมกว่า 40 ชนิด ซึ่งแต่ละชนิดจะถูกบรรจุอยู่ในถุงผ้าขาว นอกจากนี้กย็ งั มีข้าวเปลือกที่ใช้สาหรับหว่านในพิธีแรกนาบรรจุเข้ากระเช้าทองคู่หนึ่งและเงินอีกคู่หนึ่ง เป็นข้าว พันธ์ุดีที่โปรดฯ ใหป้ ลกู ในสวนจติ รลดาและพระราชทานมาเข้าพิธีพืชมงคล ซ่ึงพันธ์ุข้าวพระราชทานนี้จะใช้หวาน ในพระราชพิธีแรกนาส่วนหนึ่ง ส่วนท่ีเหลือทางการจะบรรจุซองแล้วส่งไปแจกจ่ายแก่ชาวนานและประชาชนใน จังหวดั ตา่ งๆ เพ่อื เปน็ มงิ่ ขวัญและเป็นสริ มิ งคลแก่พชื ผลท่จี ะเพาะปลูกในปนี ้ี

8 พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญในปัจจุบัน ได้ดาเนินไปตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี ยกเว้นแต่ บางอย่างที่ได้มีการดัดแปลงให้เหมาะแก่กาลสมัย อาทิ พิธีของพราหมณ์ ก็มีการตัดทอนให้ลดเหลือน้อยลง พระ ยาแรกนา ก็ให้ตกเป็นหน้าที่ของปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในระดับ 3 – 4 คือ ขั้นโทข้ึนไป อีกท้ัง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดาเนินไปทรง ทอดพระเนตรพระราชพิธีเป็นประจาทุกปี รวมถึงมีข้าราชการช้ันผู้ใหญ่ ทูตานุทูต และประชาชนท่ีสนใจได้ เดินทางมาชมการแรกนาเป็นจานวนมาก พระยาแรกนาเสี่ยงทายผา้ น่งุ สาหรับการประกอบพิธีนั้นจะถูกกาหนดขึ้นโดยโหรหลวง ซ่ึงในระหว่างพิธีอันสวยงามน้ี ก็จะมีการ ทานายปริมาณน้าฝนในช่วงฤดูฝนทก่ี าลังจะมาถึง โดยพระยาแรกนาจะทาการเลือกผ้า 3 ผืนท่ีมีความยาวต่างกัน ตามชอบใจ ซง่ึ ผ้าทงั้ 3 ผนื นีม้ คี วามคล้ายคลงึ กัน หากพระยาแรกนาเลอื กผืนทย่ี าวทีส่ ุดกท็ ายว่า ปีน้ีปริมาณน้าฝน จะมีน้อย แต่ถา้ เลือกผืนท่ีส้ันทีส่ ุด ทายว่าปีนจี้ ะมปี รมิ าณนา้ ฝนมาก หรือหากเลอื กผืนท่ีมคี วามยาวปานกลาง ทาย ว่าปีนี้จะมปี ริมาณน้าฝนพอประมาณ ตอ่ มา หลงั จากทีส่ วมเสือ้ ผ้าท่ีเรียกว่า ผ้านุ่ง เรียบร้อยแล้ว พระยาแรกนาก็ จะไถลงไปบนพื้นท่ีท้องสนามหลวงด้วยพระนังคัลสีแดงและสีทอง มีพระโคเพศผู้ลาตัวสีขาวทาหน้าที่ลาก แล้ว ตามด้วยเทพีท้ัง 4 ทาหน้าท่ีหาบกระเช้าทองและกระเช้าเงินที่บรรจุเมล็ดข้าวเปลือก นอกจากน้ียังจะมีคณะ พราหมณท์ ี่เดนิ คไู่ ปกบั ขบวน พรอ้ มท้งั สวดและเปุาสังข์ไปในขณะเดียวกนั

9 พระครูพราหมณ์ ประกอบพิธีพระราชพิธีแรกนาขวัญ เมื่อเสร็จจากการไถแล้ว พระโคจะได้รับการปูอนพระกระยาหารและเคร่ืองด่ืมทั้งส้ิน 7 ชนิด ได้แก่ เมล็ดข้าว ถ่ัว ข้าวโพด หญ้า เมล็ดงา น้า และเหล้า ไม่ว่าพระโคจะเลือกกิน หรือดื่มส่ิงใดก็ทายว่าในปีน้ันๆ จะ สมบูรณด์ ว้ ยสิ่งท่ีพระโคเปน็ ผเู้ ลอื ก ขนั้ ตอนต่อมา พระยาแรกนาจะทาการหว่านเมล็ดข้าว ประชาชนจะพากันมา แยง่ เก็บ เพราะถอื กนั ว่าเมล็ดข้าวนี้เป็นสิ่งศักด์ิสิทธ์ิ อันจะนามาซ่ึงความอุดมสมบูรณ์และก่อให้เกิดความเป็นสิริ มงคลแก่ผู้ทีม่ ีไว้ในครอบครอง เมอ่ื เกบ็ เมล็ดข้าวกลับไปแล้ว ชาวนาก็จะใช้เมล็ดข้าวที่เก็บได้มาผสมกับเมล็ดข้าว ของตัว เพ่อื ให้พืชท่ลี งแรงลงกายปลูกในปีทจ่ี ะมาถึงน้ีมคี วามอดุ มสมบรู ณ์ ประชาชนเก็บเมล็ดข้าวทหี่ ว่านโดยพระยาแรกนา เพราะวา่ เมลด็ ขา้ วนถ้ี ือว่าเป็นสิ่งศักด์ิสิทธ์ิ อันจะนามาซึง่ ความ อุดมสมบรู ณแ์ ละความเป็นสริ ิมงคลแกผ่ ู้ทมี่ ไี ว้ในครอบครอง

10 สัตยาธิษฐาน การเส่ยี งทาย การเสยี่ งทายผ้านุง่ การตง้ั สัตยาธิษฐานหยิบผ้านงุ่ แต่งกาย (การเสย่ี งทายผา้ น่งุ ) \"ผ้านงุ่ แต่งกาย” ผ้านุ่งซ่ึงพระยาแรกนาตัง้ สตั ยาธษิ ฐานหยิบน้ัน เปน็ ผา้ ลาย มีดว้ ยกัน ๓ ผืน คือ หกคืบ ห้าคืบ และสี่คืบ ผ้านุ่งน้ีจะวางเรียงบนโตกมีผ้าคลุม เพ่ือให้พระยา แรกนาขวัญหยิบ ถ้าหยิบได้ผืนใดก็จะมีคา ทานายไปตามกันคอื ถ้าหยบิ ผ้าได้ ๔ คบื พยากรณ์ว่า น้าจะมากสักหน่อย นาในท่ีดอนจะได้ผลบริบูรณ์ดี นาในที่ลุ่มอาจจะ เสียหายบ้าง ได้ผลไมเ่ ต็มที่ ถ้าหยิบได้ผ้า ๕ คืบ พยากรณ์ว่า น้าในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และ ผลาหาร มงั สาหาร จะอุดมสมบูรณด์ ี ถ้าหยิบได้ผ้า ๖ คืบ พยากรณ์ว่า น้าจะน้อย นาในที่ลุ่มจะได้ผลบริบูรณ์ดี แต่นาในท่ีดอน จะเสียหาย บา้ ง ไดผ้ ลไมเ่ ต็มที่

11 ๗ สงิ่ ทต่ี ัง้ เลย้ี งพระโค การเส่ยี งทายของกิน ๗ ส่ิง ของกิน ๗ ส่ิงทตี่ ง้ั เลย้ี งพระโคน้ันมี ข้าวเปลือก ข้าวโพด ถั่วเขียว งา เหล้า น้า และหญ้า ถ้าพระโคกิน สงิ่ ใดกจ็ ะมคี าทานายไปตามน้นั คอื ถา้ พระโคกนิ ข้าว หรือ ข้าวโพด พยากรณว์ ่า ธญั ญาหาร ผลาหาร จะบรบิ ูรณ์ดี ถ้าพระโคกนิ ถว่ั หรือ งา พยากรณว์ า่ ผลาหาร ภกั ษาหาร จะอุดมสมบูรณด์ ี ถ้าพระโคกนิ นา้ หรอื หญา้ พยากรณว์ า่ น้าท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภกั ษาหาร มงั สาหารจะอดุ มสมบรู ณ์ ถ้าพระโคกนิ เหลา้ พยากรณว์ า่ การคมนาคมจะสะดวกข้ึน การค้าขาย กับ ต่างประเทศดีข้นึ ทาใหเ้ ศรษฐกิจร่งุ เรือง

12 การเสยี่ งทายของกินทต่ี ง้ั เลยี้ งพระโค พระโคแรกนา สาหรับพระโคท่ีจะเขา้ พระราชพิธีแรกนาขวญั น้นั จะถกู เลย้ี งดูอย่างดีที่จงั หวดั ราชบรุ ี โดยพระโคท่ีใช้ใน พระราชพธิ ีจะต้องมลี ักษณะทด่ี ี ขาด หรือเกนิ ไมไ่ ด้ อนั ประกอบด้วย หดู ี ตาดี แข็งแรง เขาทั้งสองตั้งตรงสวยงาม พระโคแต่ละคู่จะต้องมีสีเหมือนกัน อีกท้ังจะมีการคัดเลือกพระโคเพียงสองสี คือ สีขาวสาลีและสีน้าตาลแดง เจาะจงว่าเป็นเฉพาะเพศผู้เทา่ นนั้ และตอ้ งผา่ นการ ตอน เสยี กอ่ นดว้ ย พระโค ในทางศาสนาพรามหณ์ หมายถึง เทวดาผู้ทาหน้าท่ีเป็นพาหนะของพระอิศวรซ่ึงเปรียบได้กับ การใช้แรงงานและความเขม้ แข็ง และเป็นสัตว์เลี้ยงที่พระกฤษณะและพระพลเทพดูแลซ่ึงเปรียบได้กับความอุดม สมบรู ณ์ ดงั น้ัน ในการประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคลั แรกนาขวญั จงึ ไดก้ าหนดให้ใช้พระโคเพศผู้เข้าร่วมพระ ราชพิธีเสมอมาตั้งแตร่ ชั กาลที่ ๑ เพอ่ื เปน็ ตวั แทนของความเข้มแข็งและความอดุ มสมบรู ณ์ กระทรวงเกษตรและสหกรณไ์ ดม้ อบหมายให้กรมปศุสัตว์เปน็ หนว่ ยงานดาเนินการคัดเลือกโคเพ่ือเป็นพระ โคตามหลักเกณฑ์ กล่าวคือ จะต้องเป็นโคท่ีมีลักษณะดี รูปร่างสมบูรณ์ มีความสูงไม่น้อยกว่า ๑๕๐ เซนติเมตร ความยาวลาตัวไม่น้อยกว่า ๑๒๐ เซนติเมตร ความสมบูรณ์รอบอกไมน่ ้อยกว่า ๑๘๐ เซนติเมตร โคท้ังคู่จะต้องมีสี เดยี วกัน ผวิ สวย ขนเป็นมนั กริ ยิ ามารยาทเรียบร้อย ฝึกง่าย สอนง่ายไม่ดุร้าย เขาลักษณะโค้งสวยงามเท่ากัน ตา แจ่มใส หไู มม่ ีตาหนิ หางยาวสวยงามดี มีขวัญหน้า ขวัญทัดดอกไม้ซ้ายขวา และขวัญหลังถูกต้อง มีขาและกีบข้อ เทา้ แขง็ แรง มองดดู ้านข้างลาตัวจะเป็นส่ีเหลี่ยม

13 พระโค ใชป้ ระกอบพิธีแรกนาขวัญ ในปี ๒๕๖๓ กรมปศุสตั ว์ ไดท้ าการคัดเลอื กพระโคแรกนาขวัญ จานวน ๒ คู่ คอื พระโคแรกนาขวัญ ๑ คู่ ไดแ้ ก่ พระโคพอ พระโคเพยี ง พระโคสารอง ๑ คู่ ไดแ้ ก่ พระโคเพ่ิม พระโคพลู พระโคแรกนาขวญั พระโคพอ และ พระโคเพยี ง

14 พระโคแรกนาขวัญ พระโคพอ มีความสูง ๑๖๕ เซนตเิ มตร ความยาวลาตัว ๒๒๓ เซนติเมตร ความสมบูรณ์ รอบอก ๒๑๓ เซนติเมตร อายุ ๘ ปี พระโคเพยี ง มคี วามสูง ๑๖๙ เซนตเิ มตร ความยาวลาตวั ๒๓๘ เซนตเิ มตร ความสมบรู ณ์ รอบอก ๒๐๕ เซนตเิ มตร อายุ ๘ ปี พระโคสารอง พระโคเพม่ิ และ พระโคพลู พระโคสารอง พระโคเพ่มิ มีความสงู ๑๕๙ เซนติเมตร ความยาวลาตัว ๒๓๐ เซนติเมตร ความสมบูรณ์ รอบอก ๒๐๑ เซนติเมตร อายุ ๑๐ ปี พระโคพูล มีความสูง ๑๕๗ เซนติเมตร ความยาวลาตัว ๒๓๘ เซนติเมตร ความสมบูรณ์ รอบอก ๒๐๕ เซนติเมตร อายุ ๑๐ ปี พระโคแรกนาขวัญ และพระโคสารอง ประจาปพี ทุ ธศักราช ๒๕๖๓ เปน็ โคพนั ธขุ์ าวลาพนู มีสีผิวขาวอม ชมพู ขนสีขาวสะอาด ทั้งลาตัวไม่มีจุดด่างดา หรือสีอ่ืนบนลาตัว เขามีสีขาว ลาตัวเป็นลาเทียน เขาท้ังสองข้างมี ลักษณะโค้งสวยงาม ดวงตาแจ่มใสสีน้าตาลอ่อน ขนตาสชี มพู บริเวณจมกู ขาว กบี สีขาว ขนหางเป็นพวงสีขาวยาว ลาตัวชว่ งขาหลงั และกีบมีความสมบูรณ์แขง็ แรง เวลายืนและเดนิ สง่า ประวัติโคขาวลาพูน โคขาวลาพูนเป็นโคพ้ืนเมืองสาหรับใช้งานดั้งเดิม ท่ีพบกันมากในอาเภอต่างๆ ของจังหวัดลาพูนและ เชียงใหม่ และแพรก่ ระจายไปยังอาเภอต่างๆ ของจังหวัดลาปาง พะเยา และเชียงราย ที่อยู่ใกล้กับจังหวัดลาพูน และเชยี งใหม่ มีลกั ษณะทีโ่ ดดเด่นคอื มีรปู รา่ งสงู ใหญ่ สงู โปร่ง ลาตัวมีสีขาวตลอด พู่หางขาว หนังสีชมพูส้ม จมูกสี

15 ชมพสู ม้ เนื้อเขาเนอื้ กีบสนี ้าตาลส้ม จากลักษณะเด่นเปน็ สง่าดังกล่าว จึงไดถ้ กู คดั เลอื กใหเ้ ปน็ พระโคในพระราชพิธี จรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ความเป็นมาของโคขาวลาพูนน้ัน ยังไม่มีผู้ใดศึกษาไว้อย่างจริงจัง และยังไม่ทราบ แนน่ อนถึงถ่นิ กาเนิดทแ่ี ทจ้ รงิ อย่ทู ใ่ี ดและมีมาแล้วต้ังแต่เมื่อใด ท่ีเริ่มรู้จักกันนั้นมีความเป็นมาจากการท่ีภาควิชา สัตวบาล มหาวทิ ยาลัยเชยี งใหม่ ได้ริเริม่ เลี้ยงฝงู โคขาว ต้ังแต่ พ.ศ.๒๕๒๑ แทนฝูงโคเนื้อลูกผสมพันธุ์ต่างประเทศ เพื่อหาทางศกึ ษาช้นี าให้มีการอนุรักษแ์ ละปรบั ปรุงพันธ์ุ โคขาวลาพูนเป็นโคพื้นเมืองที่เกิดจากฝีมือและผลงานของชาวบ้านในจังหวัดลาพูน มีการพัฒนาสาย พนั ธ์มุ านานกว่า ๑๐๐ ปี เลี้ยงกันแพร่หลายในจังหวัดลาพูนและเชียงใหม่ แล้วแพร่กระจายไปยังจังหวัดลาปาง พะเยา เชยี งราย เกดิ ขึ้นมาได้อยา่ งไรไม่มหี ลกั ฐานแน่ชัด บางทา่ นเลา่ ว่า เกิดจากการกลายพันธุ์ของโคพื้นเมืองใน สมยั พระนางจามเทวี ผู้ครองนครหรภิ ุญไชยพระองคแ์ รก เมื่อ ๑,๓๔๐ กว่าปีมาแล้ว และเป็นสัตว์คู่บารมีของชน ชน้ั ปกครอง ในสมยั นั้น ใช้ลากเกวยี น แต่หรภิ ุญไชยก็ล่มสลายตั้งแต่ครั้งเม่อื พ่อขุนเม็งรายมหาราชยึดครอง อีกท้ัง เปน็ เมืองร้าง สมยั พม่าครองเมือง ช่วงกรุงศรีอยุธยาแตกคร้ังท่ี ๒ พ.ศ. ๒๓๑๐ ในตาราฝรั่งบางเล่มกล่าวว่า ต้น ตระกูลของโคพน้ื เมอื งในภาคพ้นื เอเชียตะวนั ออกเฉยี งใต้ นา่ จะเปน็ โคยุโรปที่ไม่มีหนอก ซ่ึงต่อมาถูกผสมข้ามโดย โคอินเดยี ท่ีมหี นอก เพราะโคในภูมิภาคน้ีส่วนใหญ่มีลักษณะของท้ังโคยุโรปและโคอินเดียรวมกัน คือมีเหนียงคอ สั้น หน้าผากแบน และหเู ลก็ แบบโคยโุ รป มหี นอกแบบโคอนิ เดีย โคขาวลาพูนมีลักษณะเฉพาะตัว คือ มีสีขาวปลอดทั้งตัว ซึ่งแตกต่างจากโคสีขาวพันธุ์อื่น ๆ ท่ีปาก จมูก ขอบตา กีบ เขา และพู่หางสีดา แต่โคขาวลาพูนจะเป็นสีขาวทั้งหมด และไม่ใช่โคเผือกเพราะตาดาไม่เป็นสีชมพู เนอ่ื งจากมีลาตัวสขี าวจงึ ทาใหท้ นความรอ้ นจากแสงแดดได้ดีเป็นพิเศษ โคขาวลาพูนนับเป็นมรดกทางวัฒนธรรม และสังคมเกษตรกรรมของบรรพบุรุษชาวล้านนา ดังนั้นเราไม่ควรปล่อยปละละเลยให้สูญพันธุ์ไปโดย รู้เท่าไมถ่ ึงการณ์ ตามคตขิ องศาสนาพราหมณ์ ตามตานานกล่าวว่าโคอุสุภราชเผือกผู้มีนามว่าพระนนทิ ถือกันว่า เป็นเทพเจา้ แห่งสตั วจ์ ัตุบาท พระนนทิ จะแปลงรูปเป็นโคให้พระอศิ วรทรง ซ่ึงความเช่ือน้ีคนอินเดียจึงไม่ทานเนื้อ โค จงึ มีโคเยอะมากในประเทศอนิ เดีย ไทยเรารบั ความเชื่อของพราหมณม์ า ดังน้นั ในการประกอบพระราชพิธีจรด พระนังคลั แรกนาขวญั เรมิ่ ตัง้ แตร่ ัชกาลที่ ๑ ราชวงศ์จกั รี ไดก้ าหนดให้มีพระโคเพศผ้เู ข้าร่วมในพระราชพิธนี ี้

16 อาหารพระโคเพื่อเสี่ยงทาย เม่ือเสร็จจากการไถแล้ว ส่ิงสาคัญในงานพระราชพิธีวันพืชมงคลนั้น คือ การเส่ียงทายของพระโคที่ สามารถบง่ บอกไดถ้ งึ เรอ่ื งราวตา่ งๆ ทีจ่ ะเกิดข้ึนกับการเพาะปลูกในปีน้ันๆ ซึ่งอาหารที่ถูกนามาให้พระโคเลือกกิน เพ่ือการเส่ียงทายจะมีด้วยกัน 7 อย่างคือ ข้าวเปลือก, ข้าวโพด, ถ่ัว, งา, เหล้า, น้า และหญ้า โดยมีความหมาย ดงั น้ี – ข้าวเปลือกหรือขา้ วโพด คาพยากรณว์ ่าจะเปน็ ธัญญาหารและผลาหารบริบูรณด์ ี หมายถึงปนี ั้นจะอุดม สมบรู ณไ์ ปดว้ ยขา้ วและผลไม้ – ถัว่ หรืองา คาพยากรณว์ ่าผลาหารและภกั ษาหารบริบูรณ์ดี หมายถึงปนี นั้ จะอุดมสมบรู ณไ์ ปด้วยพืชผัก และเนื้อสัตว์ – เหล้า คาพยากรณ์ว่าการคมนาคมจะสะดวกดีข้ึน การค้าขายกับต่างชาติจะเป็นไปด้วยดี และ เศรษฐกจิ ภายในประเทศจะเป็นชว่ งขาขนึ้ – น้าหรือหญ้า คาพยากรณ์ว่าน้าท่าในปีน้ันจะมีเพียงพอต่อการเพาะปลูก ไม่ว่าจะปลูกข้าว, พืชผัก และผลไม้ก็จะเป็นไปด้วยดไี ม่มปี ัญหาใดๆ รวมไปถึงการเลี้ยงสตั วเ์ พื่อสง่ ขายก็จะเป็นไปในทางที่ดีดว้ ยเชน่ กนั ก่อนหน้าท่ีจะมีการเสี่ยงทายจากพระโคท้ัง 2 จะมีพีธีการสาคัญอีกหน่ึงพิธี คือ พระยาแรกนาทาการ หวา่ นพันธข์ุ า้ วพร้อมไถกลบ 3 รอบ จากนั้นจึงมีการเสย่ี งทายจากพระโค เม่ือพิธีเสร็จส้ินลงกจ็ ะมีการเปดิ ลานพระ ราชพธิ เี พ่อื ใหเ้ กษตรกรและประชาชนท่ัวไปได้เข้ามาเก็บพันธุ์ข้าวที่ถูกโปรยลงบนดิน ซ่ึงมีความเชื่อว่าถ้าเก็บไป แล้วจะทาให้การเพาะปลกู ปราศจากอปุ สรรคใดๆ และสามารถนาไปปลกู ต่อได้อกี ดว้ ย พระราชพิธีวันพืชมงคลถือวา่ เปน็ หนึ่งในประเพณที ่ดี งี าม ท่สี รา้ งขวญั และกาลังใจให้เหล่าเกษตรกรไทย มาอยา่ งยาวนาน ไดร้ บั การสืบทอดไวม้ าจนถึงรุ่นลกู รนุ่ หลาน ในปัจจุบนั พระราชพิธีน้ียังคงมีความขลัง เต็มเปี่ยม ไปดว้ ยพลงั ศรทั ธาและมคี วามสวยงามตามแบบดัง้ เดิม อาจจะมกี ารปรับเปล่ียนไปบ้างก็เพ่ือให้เข้ากับยุคสมัยมาก ยง่ิ ขึน้ แตโ่ ดยโครงสร้างของพระราชพธิ นี ้นั ยงั คงเหมือนเดิมทุกประการ

17 คนั ไถ คันไถท่ีใช้ในพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมสร้างถวาย พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพ่ือใช้ในพระราชพิธีดังกล่าว ตลอดมาน้ัน สรา้ งเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๙ โดยกล่มุ เกษตรกรผู้เล้ยี งโคนมหนองโพ อาเภอ โพธาราม จังหวัดราชบุรี เป็น คันไถท่ีทาจากไม้สมอ ซง่ึ ชุดคนั ไถประกอบด้วย ๑. คันไถ ขนาดความสูงวัดจากพ้ืนถึงเศียรนาค ๒.๒๖ เมตร และ ความยาวจากเศียรนาคถึง ปลายไถ ๖.๕๙ เมตร ทาสีแดงชาดตลอดคนั ไถ ทห่ี ัวคนั ไถทาเป็นเศียรพญานาคลงลักปิดทอง ลวดลายประดับคัน ไถเป็นลายกระจงั ตาอ้อยลงลกั ปิดทองตลอดคัน ปลายไถหุ้มผ้าขาวขลิบทองสาหรบั มอื จบั ๒. แอกเทียมพระโค ยาว ๑.๔๕ เมตร ตรงกลางแอกประดับด้วยรูปครุฑยุดนาคหล่อด้วย ทองเหลืองลงลักปิดทองอยบู่ นฐานบวั ปลายแอกทัง้ สองดา้ นแกะสลกั เปน็ รูปเศียรพญานาคลงลักปิดทอง ลวดลาย ประดับเปน็ ลายกระจังตาอ้อยลงลกั ปิดทองตลอดคนั ท่ีปลายแอกแตล่ ะด้านมลี ูกแอกทง้ั สองด้านสาหรับเทียมพระ โคพรอ้ มเชือกกระทาม ๓. ฐานรอง เป็นท่ีสาหรับตั้งรองรับคันไถพร้อมแอก ทาด้วยไม้เน้ือแข็งทาด้วยสีแดงชาด มี ลวดลายประดบั เป็นลายกระจังตาอ้อยลงลกั ปิดทอง ทงั้ ดา้ นหวั ไถและปลายไถ ๔. ธงสามชาย เป็นธงประดบั คันไถตดิ ต้ังอยูบ่ นเศยี รนาค ทาด้วยกระดาษและผ้าสักหลาด เขียน ลวดลายลงลักปิดทองประดับด้วยกระจกแวว มีพู่สีขาวประดับด้านบนเป็นเคร่ืองสูงชนิดหน่ึงเพื่อประดับพระ เกยี รติ ธงสามชายมีลักษณะเป็นรูปสามเหล่ียม ฐานยาว ๔๑ เซนติเมตร สูง ๕๐ เซนติเมตร และเสาธงยาว ๗๒ เซนตเิ มตร

18 คันไถ กิจกรรมตา่ ง ๆ ท่ีควรปฏิบัตใิ นวันพชื มงคล 1. ประดับธงชาติตามอาคารบา้ นเรือนและสถานทร่ี าชการ 2. จัดนิทรรศการ แสดงประวัติความเป็นมา และความสาคัญของวันพืชมงคลรวมท้ังพระราชพิธีจรด พระนังคัลแรกนาขวญั บอร์ดความรู้ วนั พืชมงคลห้องสมุดประชาชนอาเภอบางพลี

19 พระราชพธิ พี ชื มงคลจรดพระนังคลั แรกนาขวัญ 2563 สาหรับพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ 2563 น้ัน พระโค ที่ได้รับคัดเลือกให้ทาหน้าท่ี เปน็ พระโคค่หู ลกั ในพระราชพิธจี รดพระนังคลั แรกนาขวญั คือ พระโคพอ พระโคเพยี ง - ผทู้ ่ีทาหน้าท่เี ป็นพระยาแรกนา คือ นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ - เทพีคู่หาบทอง ได้แก่ นางสาวณัฐชยา ศรีสุขสวัสดิ์ นักวิชาการปฏิรูปที่ดินชานาญการ สานักงานการปฏิรปู ทด่ี ินเพือ่ เกษตรกรรม และนางสาวอาทติ ยา ทองแกมแก้ว นักวชิ าการเกษตรชานาญการ กรม ส่งเสรมิ การเกษตร - เทพีคู่หาบเงิน ได้แก่ นางสาวกันยารัตน์ เศวตนันทิกุล นักทรัพยากรบุคคลชานาญการ สานกั งานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และนางสาวชลธชิ า ทองออ่ น สัตวแพทย์ชานาญการ กรมปศสุ ตั ว์ นายอนนั ต์ สุวรรณรตั น์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

20 นางสาวณัฐชยา ศรีสุขสวัสดิ์ นกั วชิ าการปฏริ ปู ท่ีดินชานาญการ

21 นางสาวอาทติ ยา ทองแกมแก้ว นักวิชาการเกษตรชานาญการ นางสาวกนั ยารัตน์ เศวตนันทิกุล นกั ทรพั ยากรบคุ คลชานาญการ นางสาวชลธชิ า ทองอ่อน สตั วแพทย์ชานาญการ

ค บรรณานกุ รม [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก : https://www.moac.go.th/royal_ploughing-history. (วันท่ีค้นขอ้ มูล : 9 พฤษภาคม 2563). [ออนไลน]์ . เขา้ ถึงได้จาก : แรกนาขวัญ – วิกิพเี ดีย. (วันท่คี ้นข้อมูล : 9 พฤษภาคม 2563). [ออนไลน]์ . เข้าถึงได้จาก : http://event.sanook.com/day/ploughing/. (วนั ท่ีคน้ ขอ้ มลู : 9 พฤษภาคม 2563). [ออนไลน]์ . เข้าถงึ ได้จาก : https://siamrath.co.th/n/154129. (วนั ทีค่ ้นข้อมูล : 10 พฤษภาคม 2563).


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook