บทท่ี 1 ความเขา้ ใจในการใชเ้ ทคโนโลยดี ิจิทัลขัน้ พนื้ ฐาน ทฤษฎแี ละพ้ืนฐานของเทคโนโลยีดจิ ทิ ัล ความหมายของดจิ ทิ ัล คำว่า \"ดิจิตอล\" (Digital) เกี่ยวข้องกบั ความเกี่ยวขอ้ งกับการใช้เทคโนโลยดี ิจติ อลหรือคอมพิวเตอรใ์ น การแปลงข้อมูลเป็นรหสั เลขทส่ี ามารถถกู เข้าใจและประมวลผลได้โดยเครอื่ งคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอรส์ ามารถ ทำงานด้วยรหัสเลข 0 และ 1 ซึ่งเรียกว่าระบบเลขฐานสองหรือระบบไบนารี ซึ่งรหัสเลขเหล่านี้ถูกใช้ใน การ แทนข้อมลู เป็นรปู แบบทเี่ ครื่องคอมพวิ เตอรส์ ามารถทำงานได้ เทคโนโลยดี ิจติ อลมีบทบาทสำคัญในการส่ือสาร การจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล และการแสดงผลข้อมูลในรูปแบบตา่ งๆ เช่น ภาพถ่ายดิจิตอล วิดีโอดิจิตอล สือ่ ออนไลน์ เว็บไซต์ และแอปพลเิ คชนั รวมถงึ ระบบสารสนเทศทใ่ี ช้ในงานธุรกิจและองค์กรอกี ด้วย คำว่า \"ดิจิทัล\" (Digital) มีความหมายเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการเก็บข้อมูล, ประมวลผล ขอ้ มูลและการสอ่ื สารข้อมูล ซง่ึ เทคโนโลยีดิจิทลั ใชร้ หัสสัญญาณท่เี ข้าใจงา่ ย เช่น รหสั ทางไฟฟ้า (binary code) ทป่ี ระกอบดว้ ยตวั อกั ษร 0 และ 1 เพอ่ื เก็บข้อมลู และประมวลผลทางคอมพิวเตอร์ได้ ในปัจจุบัน คำว่า \"ดิจิทัล\" มักถูกนำมาใช้ในบริบทของเทคโนโลยดี ิจิทัลที่มีอิสระและความสามารถใน การทำงานกับข้อมูลอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งรวมถึงการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล, โทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, เซ็นเซอร์, กล้องถ่ายภาพดิจิทัล และอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกับ เครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนข้อมูลในรูปแบบดิจิทัลได้ในลักษณะต่างๆ ซึ่งส่งผลให้มีการ เปลี่ยนแปลงและพัฒนาองค์ความรู้ การสื่อสาร การทำธุรกิจ การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ การเพ่ิม ประสทิ ธภิ าพในการทำงาน และสร้างสรรคส์ งิ่ ใหมๆ่ ในหลายดา้ นของชีวิตประจำวัน ทฤษฎีและพื้นฐานของเทคโนโลยีดิจิทลั เกี่ยวข้องกบั การแปลงข้อมูลและส่ือสารในรูปแบบดิจิทัล โดย มีความสำคัญต่อการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในสาขาต่างๆ เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร การ จัดการข้อมลู และการพัฒนาซอฟต์แวร์ นค่ี อื บางทฤษฎีและพ้นื ฐานทเ่ี ก่ยี วขอ้ งกับเทคโนโลยีดิจิทลั 1. ระบบเลขฐานสอง (Binary System): เทคโนโลยีดิจิทัลใช้ระบบเลขฐานสอง (0 และ 1) เพื่อแทน ขอ้ มลู และคำส่ังทเี่ ครอื่ งคอมพวิ เตอรส์ ามารถเขา้ ใจและประมวลผลได้ ระบบเลขฐานสองเป็นพ้นื ฐานสำคัญของ เทคโนโลยีดจิ ิทัล เนื่องจากเครอื่ งคอมพิวเตอรท์ ำงานด้วยการส่งผา่ นสถานะ 0 หรอื 1 เท่านน้ั 2. การดิจิทัลไลฟ์ (Digitalization): การดิจิทัลไลฟ์หมายถึงการแปลงข้อมูลที่เป็นรูปแบบแอนะลอ็ กส์ หรอื อน่ื ๆ ให้กลายเป็นรปู แบบดิจิทัล เชน่ การแปลงภาพถ่ายเป็นไฟล์รูปภาพดิจิทลั หรือการแปลงเอกสารเป็น ไฟล์ PDF เป็นต้น เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้ข้อมูลที่เป็นอะไรต่างๆ สามารถจัดเก็บ ส่งสาร และประมวลผลได้ ง่ายและรวดเร็วมากขึน้ 3. อลั กอริทมึ (Algorithm): อลั กอริทึมเป็นชุดของคำส่งั ท่ใี ช้ในการประมวลผลขอ้ มลู ดิจิทลั อลั กอรทิ ึม มีบทบาทสำคัญในการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น อัลกอริทึมในการเข้ารหัสและถอดรหัสข้อมูล การ จัดเรยี งขอ้ มลู การค้นหาข้อมูล เป็นตน้ 4. การสื่อสารดิจิทัล (Digital Communication): เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยให้เกิดการสื่อสารที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น การสื่อสารดิจิทัลเกี่ยวข้องกับการส่งข้อมูลผ่านทางเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อินเทอรเ์ นต็ อีเมล แชท หรอื แอปพลิเคชันการสอื่ สารอน่ื ๆ
5. เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology): เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการและประมวลผลข้อมูล รวมถึงการพัฒนาซอฟต์แวร์ การบริหารจัดการระบบ สารสนเทศ และการออกแบบและดำเนินการกับเทคโนโลยดี จิ ิทลั ต่างๆ เหล่าทฤษฎีและพื้นฐานเหล่านี้เป็นส่วนสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยสนับสนุนให้เกิดการพัฒนา และประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยีดิจิทลั ในหลากหลายด้านของชีวิตประจำวัน ตลอดจนส่งผลให้เกิดความเปล่ียนแปลง ทางเทคโนโลยีและการส่ือสารในสังคมในยุคดิจทิ ลั ท่ีเรามอี ยู่ในปจั จบุ นั แนวคิดทีเ่ กยี่ วข้องกับการร้ดู ิจทิ ัลและพัฒนาทกั ษะดจิ ิทลั การรู้ดจิ ทิ ัล (Digital literacy) ความหมายของทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยดี ิจิทลั คำว่า การรู้ดิจิทลั หรือ ทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล (Digital literacy) หมายถึง ทักษะ ในการนำเครื่องมือ อุปกรณ์ และเทคโนโลยีดิจิทัลที่มีอยู่ในปัจจุบัน อาทิ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ แทปเลต โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และสื่อออนไลน์ มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในการสื่อสาร การปฏิบัติงาน และการ ทำงานร่วมกัน หรือใช้เพื่อพัฒนากระบวนการทำงาน หรือระบบงานในองค์กรให้มีความทันสมัยและมี ประสิทธภิ าพ (สำนกั งานขา้ ราชการพลเรอื น, ออนไลน์) Digital literacy หรอื ทกั ษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยดี ิจิทลั เปน็ ทกั ษะด้านดจิ ิทลั พ้นื ฐานที่จะเป็น ตัวช่วยสำคัญในการปฏิบัติงาน การสื่อสาร และการทำงานร่วมกันกับผู้อื่นในลักษณะ “ทำน้อย ได้มาก”หรือ “Work less but get more impact” และช่วยสร้างคุณค่า (Value Co-creation) และความคุ้มค่าในการ ดำเนินงาน (Economy of Scale) เพื่อการก้าวไปสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือช่วยให้ บุคลากร สามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองเพื่อให้ได้รับโอกาสการทำงานที่ดีและเติบโตก้าวหน้าในอาชีพ (Learn and Growth) ด้วย (สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม, ออนไลน์) โดยทักษะดังกล่าวครอบคลุมความสามารถ 4 มิติ ได้แก่ การใช้ (Use) เข้าใจ (Understand) การ สร้าง (create) และเขา้ ถึง (Access) เทคโนโลยีดจิ ทิ ัล ได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ โดยมีรายละเอียดดังนี้ ใช้ (Use) หมายถึง ความคล่องแคล่วทางเทคนิคที่จำเป็นในการใช้คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต ทักษะและความสามารถที่เกี่ยวข้องกับคำว่า “ใช้” ครอบคลุมตั้งแต่เทคนิคขั้นพื้นฐาน คือ การใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรมประมวลผลคำ (Word processor) เว็บเบราว์เซอร์ (Web browser) อีเมล และ เครื่องมือสื่อสารอื่นๆ สู่เทคนิคขั้นสูงขึ้นสำหรับการเข้าถึงและการใช้ความรู้ เช่น โปรแกรมที่ช่วยในการสืบคน้ ข้อมูล หรือ เสิร์ชเอนจิน (Search engine) และฐานข้อมูลออนไลน์ รวมถึงเทคโนโลยีอุบัติใหม่ เช่น Cloud computing เข้าใจ (Understand) คือ ชุดของทักษะที่จะช่วยผู้เรียนเข้าใจบริบทและประเมินสื่อดิจิทัล เพื่อให้ สามารถตัดสินใจเกีย่ วกับอะไรที่ทำและพบบนโลกออนไลน์ จัดว่าเป็นทักษะที่สำคัญและที่จำเป็นที่จะต้องเร่ิม สอนเด็กให้เร็วที่สุดเท่าที่พวกเค้าเข้าสู่โลกออนไลน์ เข้าใจยังรวมถึงการตระหนักว่าเทคโนโลยีเครือข่ายมี ผลกระทบต่อพฤติกรรมและมุมมองของผู้เรียนอย่างไร มีผลกระทบต่อความเชื่อและความรู้สึกเกี่ยวกับโลก รอบตัวผู้เรยี นอย่างไร เข้าใจยังช่วยเตรียมผู้เรียนสำหรับเศรษฐกิจฐานความรู้ที่ผู้เรียนพัฒนาทักษะการจัดการ
สารสนเทศเพื่อค้นหา ประเมิน และใช้สารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อติดต่อสื่อสาร ประสานงานร่วมมือ และแกไ้ ขปัญหา สร้าง (Create) คือ ความสามารถในการผลิตเนื้อหาและการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพผ่าน เครื่องมือสื่อดิจิทัลทห่ี ลากหลาย การสรา้ งด้วยสือ่ ดจิ ิทลั เป็นมากกว่าแค่การรู้วิธีการใชโ้ ปรแกรมประมวลผลคำ หรือการเขียนอีเมล แต่มันยังรวมความสามารถในการดัดแปลงสิ่งที่ผู้เรียนสร้างสำหรับบริบทและผู้ชมท่ี แตกต่างและหลากหลาย ความสามารถในการสร้างและสื่อสารด้วยการใช้ Rich media เช่น ภาพ วิดีโอ และ เสียง ตลอดจนความสามารถในการมีส่วนร่วมกับ Web 2.0 อย่างมีประสิทธิภาพและรับผิดชอบ เช่น Blog การแชรภ์ าพและวิดีโอ และ Social media รปู แบบอนื่ ๆ เข้าถึง (Access) คือ การเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล และข้อมูลข่าวสาร เป็นฐาน รากในการพฒั นา การสรา้ งความเจรญิ เติบโตทางเศรษฐกจิ ผู้เรียนจำเปน็ ต้องเข้าใจอนิ เทอร์เน็ตและการเข้าถึง อินเทอร์เน็ตด้วยช่องทางต่าง ๆ รวมถึง ข้อดีข้อเสียของแต่ละช่องทางได้ เพื่อให้สามารถไข้ Search Engine ด้นหาข้อมูลที่ต้องการจาก อินเทอร์เน็ตได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องเข้าใจสื่อทางดิจิทัล ชนดิ ตา่ ง ๆ รวมถงึ การนำไปประยกุ ตไ์ ข้งานในป้จจบุ ัน โดยทักษะความเขา้ ใจและการใช้เทคโนโลยดี ิจิทัล 9 ดา้ น ประกอบไปด้วย
ทกั ษะทค่ี วรมไี ปพร้อมกับการรูด้ ิจิทัล 1. การรสู้ ่อื (Media Literacy) การรู้สื่อสะท้อนความสามารถของผู้เรียนเกี่ยวกบั การเข้าถึง การวิเคราะห์ และการผลิตส่ือผ่านความ เข้าใจและการตระหนักเกี่ยวกับ 1) ศิลปะ ความหมาย และการส่งข้อความในรปู แบบต่างๆ 2) ผลกระทบและ อิทธิพลของสื่อมวลชนและวัฒนธรรมที่เป็นที่นิยม 3) สื่อข้อความถูกสร้างขึ้นอย่างไรและทำไมถึงถูกผลิตขึ้น และ 4) สื่อสามารถใชใ้ นการสอ่ื สารความคดิ ของเราเองได้อย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างไร 2. การรเู้ ทคโนโลยี (Technology literacy) ความชำนาญในเทคโนโลยีส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวข้องกับความรู้ดิจิทัล ซึ่งครอบคลุมจากทักษะ คอมพวิ เตอรข์ น้ั พ้นื ฐานสทู่ กั ษะที่ซบั ซ้อนมากขึ้นเช่นการแก้ไขภาพยนตรด์ จิ ทิ ัลหรือการเขยี นรหัสคอมพวิ เตอร์ 3. การรู้สารสนเทศ (Information literacy) การรู้สารสนเทศเป็นอีกสิ่งที่สำคัญของการรู้ดิจิทัลซึ่งครอบคลุมความสามารถในการประเมินว่า สารสนเทศใดทผี่ ู้เรยี นตอ้ งการ การรูว้ ธิ กี ารทีจ่ ะคน้ หาสารสนเทศทีต่ ้องการออนไลน์ และการรกู้ ารประเมินและ การใชส้ ารสนเทศที่สืบค้นได้ การร้สู ารสนเทศถูกพัฒนาเพ่ือการใช้ห้องสมดุ มนั ยงั สามารถเข้าได้ดีกับยุคดิจิทัล ซึ่งเป็นยุคที่มีข้อมูลสารสนเทศออนไลน์มหาศาลซึ่งไม่ได้มีการกรอง ดังนั้นการรู้วิธีการคิดวิเคราะห์เกี่ยวกับ แหล่งทมี่ าและเน้อื หานับเปน็ สง่ิ จำเปน็ 4. การรเู้ กีย่ วกบั สงิ่ ทเี่ หน็ (Visual literacy) การรู้เกี่ยวกับสิ่งที่เห็นสะท้อนความสามารถของของผู้เรียนเกี่ยวกับความเข้าใจ การแปลความหมาย สิง่ ที่เห็น การวเิ คราะห์ การเรียนรู้ การแสดงความคดิ เหน็ และความสามารถในการใช้สิ่งทเ่ี หน็ นั้นในการทำงาน และการดำรงชีวิตประจำวันของตนเองได้ รวมถึงการผลิตข้อความภาพไม่ว่าจะผ่านวัตถุ การกระทำ หรือ สัญลักษณ์ การรู้เกยี่ วกับสิ่งทีเ่ ห็นเปน็ สง่ิ จำเปน็ สำหรบั การเรียนรู้และการสื่อสารในสงั คมสมยั ใหม่ 5. การรกู้ ารสื่อสาร (Communication literacy) การรู้การสื่อสารเป็นรากฐานสำหรับการคิด การจัดการ และการเชื่อมต่อกับคนอื่นๆ ในสังคม เครือข่าย ทุกวันนี้เด็กและเยาวชนไม่เพียงจำเป็นต้องเข้าใจการบูรณาการความรู้จากแหล่งต่างๆ เช่น เพลง วิดีโอ ฐานข้อมูลออนไลน์ และสื่ออื่นๆ พวกเค้ายังจำเปน็ ต้องรู้วิธีการใช้แหล่งสารสนเทศเหล่านั้นเพือ่ เผยแพร่ และแลกเปลยี่ นความรู้ 6. การรู้สังคม (Social literacy) การรู้สังคม หมายถึง วัฒนธรรมแบบการมีส่วนร่วม ซึ่งถูกพัฒนาผ่านความร่วมมือและเครือข่าย เยาวชนต้องการทักษะสำหรับการทำงานภายในเครือข่ายทางสังคม เพื่อการรวบรวมความรู้ การเจรจาข้าม วฒั นธรรมท่ีแตกตา่ ง และการผสานความขดั แยง้ ของขอ้ มูล
การเรียนร้ใู นยุคดจิ ทิ ัล นวตั กรรมเทคโนโลยีทสี่ ง่ ผลตอ่ การเรียนรแู้ ละสามารถนำไปประยุกต์ใช้ไดท้ ั้งผ้เู รยี นผู้สอน มดี ังน้ี (สำนกั งานบริหารและพฒั นาองค์ความรู้, 2563, หนา้ 22-23)
ความกา้ วหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัลที่ส่งผลกระทบต่อวงการศึกษา ท่มี า: สำนกั งานบรหิ ารและพฒั นาองคค์ วามรู้, 2563, น. 41 เทคโนโลยีท่มี ีบทบาทต่อวถิ ีใหม่ มีหลายเทคโนโลยีที่มีบทบาทต่อวิถีใหม่และมีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเราในปัจจุบัน นี่คือ เทคโนโลยีบางอย่างทีม่ บี ทบาทสำคญั : 1. เทคโนโลยีอนิ เทอร์เน็ตของสรรพสิง่ (Internet of Things - IoT): เทคโนโลยี IoT เป็นการเช่ือมต่อ อุปกรณ์ต่างๆ ผ่านอินเทอร์เน็ต เพ่ือให้สามารถรับส่งข้อมูลและทำงานร่วมกันได้ โดยทำให้เกิดวิถีใหม่ของการ สื่อสารและการจัดการทรัพยากรต่างๆ เช่น บ้านอัจฉริยะ รถยนต์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และอุปกรณ์สวมใส่ (Wearable devices) เปน็ ตน้ 2. ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence - AI): AI เป็นเทคโนโลยีที่ให้คอมพิวเตอร์และระบบ คอมพวิ เตอร์สามารถทำงานและคิดเชิงปญั ญาเปน็ อยา่ งมาก เช่น การเรียนรเู้ ชงิ ลึก (Deep Learning) และการ
ประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) AI มีบทบาทต่อวิถีใหม่ในการทำงาน การ เรยี นรู้ การดูแลสขุ ภาพ และอนื่ ๆ 3. การเรียนรู้ออนไลน์ (Online Learning): เทคโนโลยีดิจิทัลได้เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเข้าถึง การศึกษาและการเรียนรู้ออนไลน์ได้ง่ายขึ้น โดยสามารถเรียนรู้จากคอร์สออนไลน์ วิดีโอการบรรยาย และ แหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่สามารถเข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีแพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์ที่ให้ผู้เรียน สามารถเรียนรใู้ นรูปแบบท่ีสะดวกและยดื หย่นุ มากยง่ิ ข้ึน 4. เทคโนโลยบี ลอ็ กเชน (Blockchain): เทคโนโลยบี ล็อกเชนเปน็ ระบบท่ใี ช้ในการเก็บรักษาขอ้ มูลแบบ กระจาย โดยมีความปลอดภยั สูงและการยืนยนั ข้อมูลท่ีมีประสิทธิภาพ มีบทบาทในการเปล่ียนแปลงวิถีการซ้ือ ขายและการทำธุรกรรม เช่น การทำธุรกรรมทางการเงนิ และการโอนเงิน การตรวจสอบและการติดตามข้อมูล และการจัดการเอกสารต่างๆ 5. เทคโนโลยีสื่อสังคม (Social Media Technology): เทคโนโลยีสื่อสังคมเป็นเครื่องมือที่มีบทบาท สำคัญในการสื่อสารและการแบ่งปันข้อมูลในสังคมดิจิทัล ทำให้ผู้คนสามารถสื่อสารกันได้อย่างรวดเร็วและมี ประสทิ ธิภาพ รวมถึงการแลกเปล่ียนขอ้ มลู ภาพถ่าย วดิ ีโอ และความคดิ เห็นกับผ้คู นทัว่ โลก เทคโนโลยีเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการสร้างวิถีใหม่ในด้านการสื่อสาร การเรียนรู้ การทำธุรกรรม และการแบ่งปนั ขอ้ มลู ในสังคมในยคุ ดจิ ทิ ลั ทเ่ี รามีอยู่ในปัจจบุ นั ประโยชน์ของเทคโนโลยีดิจทิ ัล เทคโนโลยีดิจิทลั มีเอกลักษณ์และมีประโยชน์ต่อผูใ้ ช้หลายประการดังนี้ (สำนักงานบริหารและพัฒนา องค์ความรู้, 2563, น. 10) 1. หลอมรวมสื่อทั้งภาพ เสียง ตัวหนังสือ และวิดีโอเข้าด้วยกัน (Recombination) ส่งผลให้การ ส่ือสารและการเรียนร้ผู า่ นสือ่ ดิจิทลั มีความหลากหลาย นา่ สนใจและเข้าใจไดง้ า่ ย 2. สร้างรูปแบบการสื่อสารและเรียนรู้ที่หลากหลาย พัฒนาไปสู่การเป็นสังคมเครือข่าย เพิ่มโอกาส แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ พฒั นาตวั เองในทุกด้าน โอกาสทางเศรษฐกจิ สง่ เสริมเสรีภาพในการแสดงออก โดยมรี ปู แบบ การส่อื สารและการเรียนรตู้ ่างๆ ไดแ้ ก่ 2.1 การสื่อสารและถ่ายทอดความรู้จากคนๆ เดยี วไปยังกลุ่มคนจำนวนมาก(One-to-Many) 2.2 การสอ่ื สารและถ่ายทอดความรู้ในเครือข่ายท่ีมีสมาชิกจำนวนมากแลกเปลยี่ นเรียนรู้ซึ่งกันและกัน (Many-to-Many) 2.3 การสอ่ื สารและเรยี นร้ขู องคนสองคน (One-to-One) 2.4 การสื่อสารและถ่ายทอดความรู้ของคนหลายคนในเครือข่ายไปยังใครคนใดคนหนึ่ง (Many to- One) 3. เข้าถงึ ไดใ้ นทุกท่ีและทุกเวลา (Ubiquity) ผ่านเครือ่ งมือส่ือสารยุคใหม่ท่หี ลากหลาย ช่วยให้สะดวก รวดเร็วในการสื่อสารและแลกเปล่ียนเรยี นรู้ และมีตน้ ทนุ การใช้งานท่มี ีแนวโน้มลดลงเรือ่ ย ๆ 4. ช่วยให้ผู้คนเชือ่ มโยงซ่ึงกนั และกันเปน็ เครือข่าย เชื่อมโยงกับข้อมูลความรู้จากทกุ มุมโลกได้เพ่ิมขึ้น เรื่อย ๆ (Networking Externality) ขยายสังคมเครือข่ายที่ยิ่งมีมากยิ่งดึงดูดคนอื่นๆ ให้เข้ามาในเครือข่าย เพม่ิ ขน้ึ ประโยชน์ทีไ่ ดร้ บั เพ่ิมข้นึ ตามจำนวนผใู้ ช้ นำไปสูก่ ารเปน็ โลกไรพ้ รมแดน
ใบงานที่ 1 ความเข้าใจในการใชเ้ ทคโนโลยีดิจิทลั ขน้ั พ้นื ฐาน ชือ่ ...................... นามสกลุ .............................. ชน้ั ปีท่ี...............สาขาวิชา.........................................คณะ.......................................................... 1. จงอธบิ ายความหมายของคำว่า Digital ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 2. จงอธบิ ายความหมายของ ทกั ษะการร้ดู ิจิทลั (Digital Literacy) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 3. จากเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน นักศึกษาเคยได้ใช้เทคโนโลยีอะไรบ้าง ใช้อย่างไร และคิดว่ามีประโยชน์ อย่างไรบา้ งจงอธิบาย (1 เทคโนโลยี ใชอ้ ย่างไร มีประโยชน์อยา่ งไร) ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… 4. นกั ศึกษาคิดวา่ ทักษะการรู้ดิจิทลั มปี ระโยชน์ตอ่ การศึกษาอย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
Search
Read the Text Version
- 1 - 9
Pages: