แนวทางการปฏิบตั ิงาน การจัดซ้อื จัดจ้างพัสดุ วิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุข กาญจนาภเิ ษก งานพัสดุ ฝ่ายอานวยการ
คานา การจัดทาแนวทางการปฏิบัติงานการจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุ จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือให้ บุคลากรในสังกัดลดความเส่ียงตามกระบวนการจัดซ้ือจัดจ้าง หรือข้อผิดพลาดต่างๆ ซ่ึงคู่มือฉบับนี้เป็นเพียง แนวทางปฏิบัติงานด้านพัสดุ เพ่ือให้เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติมีกรอบการปฏิบัติงานที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยต้อง คานึงถึงกฎหมาย กฎกระทรวง ประกาศ ระเบียบ มติคณะรัฐมนตรี รวมทั้งหนังสือสั่งการของหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องตา่ งๆ ท่ที างราชการกาหนดดว้ ย ท้ังน้ีงานพัสดุ จึงจัดทา “แนวทางการปฏิบัติงานการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุ” เพื่อให้เจ้าหน้าท่ี ผู้เก่ียวข้องของวิทยาลัยเทคโนโลยีทางการแพทย์และสาธารณสุข กาญจนาภิเษก ได้นาไปใช้เพ่ือให้การจัดซื้อจัด จ้างและการบริหารพัสดุเป็นไปตามกฎหมาย และระเบียบท่ีเก่ียวข้อง หวังเป็นอย่างย่ิงว่าจะเป็นประโยชน์ต่อ การปฏบิ ตั งิ านของเจา้ หนา้ ทใ่ี นหน่วยงานต่อไป นางสาวยศธน แป้นชมุ เจา้ พนักงานธรุ การปฏิบัติงาน วทิ ยาลยั เทคโนโลยที างการแพทย์และสาธารณสขุ กาญจนาภเิ ษก พฤษภาคม 2562
สารบญั หนา้ เร่อื ง 1 1 บทที่ 1 ความรทู้ ว่ั ไปเกย่ี วกบั การจัดซือ้ /จัดจ้างและการบริการพัสดภุ าครัฐ พ.ศ.2560 3 กฎหมายและระเบียบท่ีเก่ียวขอ้ ง 3 คานยิ าม หลกั การจดั ซอ้ื จัดจา้ ง 4 การเปดิ เผยข้อเสนอของผยู้ น่ื ขอ้ เสนอ 5 5 บทที่ 2 กระบวนการจดั ซอ้ื จดั จ้าง 9 การจัดทาแผนการจัดซอื้ จัดจา้ ง 9 การจดั ทารา่ งขอบเขตของงาน 10 การจัดทาและเปดิ เผยราคากลาง 10 การจดั ทารายงานขอซ้ือขอจ้าง 11 คณะกรรมการจดั ซ้ือจดั จา้ ง และองค์ประกอบคณะกรรมการ 17 การมีส่วนไดส้ ่วนเสยี ของคณะกรรมการ 19 วธิ ีการซื้อหรือจา้ ง 21 - วธิ ีประกาศเชญิ ชวนทั่วไป - วธิ ีคัดเลือก 22 - วธิ เี ฉพาะเจาะจง 24 - เกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอสาหรบั การซือ้ หรือจ้าง 26 การจา้ งที่ปรึกษา 27 - วิธีประกาศเชิญชวนทวั่ ไป 30 - วธิ ีคดั เลอื ก 32 - วธิ เี ฉพาะเจาะจง 32 สญั ญาหลักประกันสัญญา 34 การบรหิ ารสัญญาและการตรวจรับพัสดุ 35 การงดหรือลดค่าปรับ หรอื การขยายเวลาทาการตามสัญญา 35 การบอกเลิกสัญญา หรือขอ้ ตกลง 37 การบรหิ ารพสั ดุ 38 การตรวจสอบพัสดปุ ระจาปี 39 การจาหนา่ ยพสั ดุ การอทุ ธรณ์ การร้องเรยี น อน่ื ๆ
บทท่ี 3 แนวปฏบิ ัติการดาเนินการจดั ซอ้ื จัดจ้าง (Workflow) 40 การจดั ซอ้ื จัดจ้างทว่ั ไป 41 - Workflow e-market 42 - Workflow e-bidding 43 - Workflow วิธคี ดั เลอื ก - Workflow วิธีเฉพาะเจาะจง 44 การจ้างที่ปรึกษา 46 - Workflow วธิ ีประกาศเชิญชวนท่ัวไป 48 - Workflow วธิ ีคดั เลือก - Workflow วธิ เี ฉพาะเจาะจง 49 การบริหารพสั ดุ 50 - Workflow การควบคมุ พัสดุ 51 - Workflow การตรวจสอบพัสดปุ ระจาปี - Workflow การขาย (ทอดตลาด) ภาคผนวก ภาคผนวก ก พระราชบญั ญัติการจดั ซื้อจดั จา้ งและการบริหารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ.2560 ภาคผนวก ข ระเบยี บกระทรวงการคลังว่าดว้ ยการจัดซื้อจัดจ้างละการบริหารพสั ดุภาครัฐ ภาคผนวก ค ประกาศคณะกรรมการนโยบายการจัดซื้อจดั จา้ งและการบริหารพสั ดุภาครัฐ ภาคผนวก ง หนงั สอื เวยี นตา่ ง ๆ
บทท่ี 1 ความรทู้ วั่ ไปเกยี่ วกับการจดั ซ้อื จัดจา้ งและการบริหารพัสดุภาครฐั พ.ศ. 2560 1.กฎหมายและระเบยี บทเ่ี กย่ี วข้อง 1.1 พระราชบัญญัติน้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัติการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหาร พัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐” เรมิ่ ใชบ้ งั คับวนั ที่ 23 สงิ หาคม 2560 1.2 กฎกระทรวงตามพระราชบญั ญตั กิ ารจัดซือ้ จดั จ้างและบรหิ ารพัสดุภาครฐั พ.ศ. 2560 1.3 ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 (10 หมวด 223 ข้อ) 1.4 ประกาศ 1.5 หนงั สือเวยี น ทั้งน้รี ายละเอียดตามภาคผนวก 2.คานิยาม 2.1 การจัดซ้ือจัดจ้าง หมายความว่า การดาเนินการเพ่ือให้ได้มาซ่ึงพัสดุโดยการซ้ือ จ้าง เช่า แลกเปล่ยี น หรือโดยนิติกรรมอน่ื ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง 2.2 พัสดุ หมายความว่า สินค้า งานบริการ งานก่อสร้าง งานจ้างที่ปรึกษาและงานจ้างออกแบบหรือ ควบคมุ งานก่อสร้าง แบง่ เป็น 6 ประเภท ดังน้ี (1) สินค้า หมายความว่า วัสดุ ครุภัณฑ์ ท่ีดิน สิ่งปลูกสร้าง และทรัพย์สินอ่ืนใด รวมทั้งงาน บรกิ ารที่รวมอยู่ในสินค้านน้ั ด้วย แต่มูลคา่ ของงานบริการตอ้ งไมส่ งู กว่ามูลค่าของสนิ คา้ น้นั (2) งานบริการ หมายความว่า งานจ้างบริการ งานจ้างเหมาบริการ งานจ้างทาของและการ รับขนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชยจ์ ากบคุ คลธรรมดาหรือนิติบคุ คล แต่ไม่หมายความรวมถึงการจ้าง ลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ การรับขนในการเดินทางไปราชการหรือไปปฏิบัติงานของหน่วยงานของรัฐงาน จ้างท่ีปรึกษา งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง และการจ้างแรงงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและ พาณิชย์ (3) งานกอ่ สร้าง หมายความว่า งานก่อสร้างอาคาร งานก่อสร้างสาธารณูปโภค หรือส่ิงปลูก สรา้ งอื่นใดและการซ่อมแซม ตอ่ เตมิ ปรบั ปรุง รื้อถอน หรอื การกระทาอื่นท่ีมีลกั ษณะทานองเดียวกันต่ออาคาร สาธารณูปโภค หรือส่ิงปลูกสร้างดังกล่าว รวมทั้งงานบริการที่รวมอยู่ในงานก่อสร้างนั้นด้วย แต่มูลค่าของงาน บริการต้องไมส่ ูงกวา่ มลู คา่ ของงานก่อสรา้ งนั้น อาคาร หมายความว่า สิ่งปลูกสร้างถาวรที่บุคคลอาจเข้าอยู่หรือใช้สอยได้ เช่น อาคารท่ีทา การโรงพยาบาล โรงเรียน สนามกีฬา หรือส่ิงปลูกสร้างอย่างอื่นที่มีลักษณะทานองเดียวกัน รวมทั้งส่ิงก่อสร้าง
อืน่ ๆ ซง่ึ สร้างขน้ึ เพอื่ ประโยชน์ใช้สอยสาหรับอาคารน้นั ๆ เช่น เสาธง ร้วั ท่อระบายน้า หอถังน้า ถนน ประปา ไฟฟา้ หรือส่งิ อ่นื ๆ ซึง่ เปน็ ส่วนประกอบของตวั อาคาร เชน่ เครื่องปรับอากาศ ลฟิ ท์ หรือเครอ่ื งเรือน สาธารณูปโภค หมายความว่า งานอันเกี่ยวกับการประปา การไฟฟ้า การสื่อสาร การ โทรคมนาคมการระบายน้า การขนส่งทางท่อ ทางน้า ทางบก ทางอากาศ หรือทางราง หรือการอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง ซง่ึ ดาเนนิ การในระดบั พน้ื ดนิ ใต้พ้นื ดนิ หรอื เหนือพื้นดิน (4) งานจ้างท่ปี รกึ ษา หมายความวา่ งานจ้างบริการจากบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลเพื่อเป็น ผู้ให้คาปรกึ ษาหรอื แนะนาแกห่ น่วยงานของรฐั ในด้านวศิ วกรรม สถาปตั ยกรรม ผังเมือง กฎหมายเศรษฐศาสตร์ การเงนิ การคลัง ส่งิ แวดลอ้ ม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี สาธารณสุข ศิลปวัฒนธรรมการศึกษาวิจัย หรือด้านอื่น ที่อยู่ในภารกิจของรัฐหรือของหนว่ ยงานของรัฐ (5) งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง” หมายความว่า งานจ้างบริการจากบุคคล ธรรมดา หรือนติ บิ คุ คลเพ่ือออกแบบหรือควบคุมงานกอ่ สรา้ ง (6) การดาเนินการอน่ื ตามทกี่ าหนดในกฎกระทรวง 2.3 การบริหารพัสดุ หมายความว่า การเก็บ การบันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบ การ บารงุ รักษา และการจาหนา่ ยพัสดุ 2.4 ราคากลาง หมายความว่า ราคาเพ่ือใช้เป็นฐานสาหรับเปรียบเทียบราคาท่ีผู้ยื่นข้อเสนอ ได้ยื่น เสนอไว้ซ่ึงสามารถจัดซอ้ื จัดจ้างไดจ้ รงิ ตามลาดบั ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) ราคาทีไ่ ด้มาจากการคานวณตามหลกั เกณฑ์ทีค่ ณะกรรมการราคากลางกาหนด (2) ราคาท่ีไดม้ าจากฐานขอ้ มูลราคาอา้ งอิงของพัสดุท่กี รมบัญชกี ลางจัดทา (3) ราคามาตรฐานที่สานกั งบประมาณหรอื หน่วยงานกลางอน่ื กาหนด (4) ราคาทไ่ี ดม้ าจากการสบื ราคาจากทอ้ งตลาด (5) ราคาท่ีเคยซ้อื หรอื จา้ งครัง้ หลงั สดุ ภายในระยะเวลาสองปีงบประมาณ (6) ราคาอื่นใดตามหลักเกณฑ์ วิธีการ หรอื แนวทางปฏบิ ตั ิของหนว่ ยงานของรฐั นน้ั ๆ - ในกรณที ี่มรี าคาตาม (1) ให้ใช้ราคาตาม (1) ก่อน - ในกรณีท่ีไม่มีราคาตาม (1) แต่มีราคาตาม (2) หรือ (3) ให้ใช้ราคาตาม (2) หรือ (3) ก่อน โดยจะใช้ราคาใดตาม (2) หรอื (3) ใหค้ านงึ ถึงประโยชน์ของหนว่ ยงานของรฐั เปน็ สาคัญ - ในกรณีท่ีไม่มีราคาตาม (1) (2) และ (3) ให้ใช้ราคาตาม (4) (5) หรือ (6)โดยจะใช้ ราคาใดตาม (4) (5 หรอื (6) ให้คานงึ ถงึ ประโยชน์ของหนว่ ยงานของรัฐเปน็ สาคญั 2.5 เงินงบประมาณ หมายความว่า เงินงบประมาณตามกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายวา่ ด้วยวิธกี ารงบประมาณ หรอื กฎหมายเกีย่ วด้วยการโอนงบประมาณ เงินซ่ึงหนว่ ยงานของรัฐได้รับไว้ โดยไดร้ บั อนุญาตจากรัฐมนตรีให้ไม่ต้องนาส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือกฎหมายว่าด้วย เงินคงคลัง เงินซ่ึงหน่วยงานของรัฐได้รับไว้โดยไม่ต้องนาส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามกฎหมาย และเงิน ภาษี อากร ค่าธรรมเนียม หรือผลประโยชน์อื่นใดที่ตกเป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถ่ินตามกฎหมายหรือที่ ราชการส่วนท้องถ่ินมีอานาจเรียกเก็บตามกฎหมาย และให้หมายความรวมถึงเงินกู้ เงินช่วยเหลือ และเงินอื่น ตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง 2.6 หน่วยงานของรัฐ หมายความว่า ราชการส่วนกลาง ราชการส่วนภูมิภาค ราชการส่วนท้องถ่ิน รฐั วิสาหกจิ ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยวิธกี ารงบประมาณ องค์การมหาชน องคก์ รอิสระ องค์กรตามรฐั ธรรมนูญหน่วย -2-
ธุรการของศาล มหาวิทยาลัยในกากับของรัฐ หน่วยงานสังกัดรัฐสภาหรือในกากับของรัฐสภาหน่วยงานอิสระ ของรัฐ และหน่วยงานอน่ื ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง 2.7 เจ้าหน้าที่ หมายความว่า ผู้มีหน้าที่เก่ียวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ หรือผู้ที่ได้รับ มอบหมายจากผ้มู ีอานาจให้ปฏบิ ัตหิ น้าท่ีเก่ยี วกบั การจัดซ้ือจัดจา้ งหรอื การบรหิ ารพัสดุของหน่วยงานของรฐั 3. หลกั การจัดซอื้ จัดจ้าง 3.1 คุ้มค่า หมายถึง พัสดุที่จัดซื้อจัดจ้าง มีคุณภาพหรือคุณลักษณะที่ตอบสนองวัตถุประสงค์ ในการ ใชง้ านของหน่วยงานของรฐั มรี าคาที่เหมาะสม และมีแผนการบรหิ ารพัสดทุ เ่ี หมาะสมและชดั เจน 3.2 โปร่งใส หมายถึง การจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุต้องกระทาโดยเปิดเผย เปิดโอกาสให้มี การแข่งขันอย่างเป็นธรรม มีการปฏิบัติต่อผู้ประกอบการทุกรายโดยเท่าเทียมกัน มีระยะเวลาท่ีเหมาะสมและ เพยี งพอต่อการยนื่ ข้อเสนอ มหี ลักฐานการดาเนนิ งานชัดเจน และมีการเปิดเผยข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการ บริหารพัสดุในทุกข้นั ตอน 3.3 มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล หมายถึง มีการวางแผนการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ล่วงหน้าเพ่ือให้การจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุเป็นไปอย่างต่อเน่ืองและมีกาหนดเวลาท่ีเหมาะสมโดยมี การประเมนิ และเปดิ เผยผลสัมฤทธิ์ของการจดั ซอ้ื จดั จ้างและการบริหารพสั ดุ 3.4 ตรวจสอบได้ หมายถึง มีการเก็บข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุอย่างเป็นระบบเพ่ือ ประโยชน์ในการตรวจสอบ 4. การเปดิ เผยข้อเสนอของผู้ยืน่ ข้อเสนอ ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐเปิดเผยข้อเสนอของผู้ย่ืนข้อเสนอในส่วนที่เป็นสาระสาคัญและเป็นข้อมูล ทางเทคนคิ ของผู้ย่ืนข้อเสนอ ซงึ่ อาจกอ่ ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบระหว่างผู้ยื่นข้อเสนอด้วยกันต่อผู้ซ่ึงมิได้ เกี่ยวข้อกับการจัดซื้อจัดจ้างคร้ังนั้นหรือต่อผู้ย่ืนข้อเสนอรายอ่ืน เว้นแต่ เป็นการเปิดเผยข้อมูลต่อผู้มีอานาจ หนา้ ท่ีตามกฎหมาย หรือการดาเนนิ การตามกฎหมาย -3-
บทที่ 2 กระบวนการจัดซือ้ จัดจ้างตามพระราชบัญญตั กิ ารจดั ซื้อจัดจา้ ง และการบรหิ ารพสั ดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 การจัดซ้ือจัดจ้าง เริม่ ตั้งแต่การจัดทาประกาศแผนการจัดซื้อจัดจ้าง การจัดทารายงานขอซ้ือ ขอจา้ ง จนกระทง่ั การตรวจรบั พัสดุ และการจาหนา่ ยพัสดุ ซง่ึ มีรายละเอยี ดดังนี้ 1. การจัดทาแผนการจดั ซอื้ จดั จ้าง 1.1 เมื่อหนว่ ยงานของรัฐไดร้ ับความเห็นชอบวงเงินงบประมาณทจี่ ะใชใ้ นการจดั ซื้อจัดจ้าง จากหนว่ ยงานที่เกยี่ วข้องหรือผูม้ อี านาจในการพิจารณางบประมาณแล้ว ให้เจา้ หนา้ ทหี่ รือผทู้ ่ไี ดร้ ับ มอบหมายในการปฏบิ ัติงานน้ันจัดทาแผนการจดั ซื้อจดั จา้ งประจาปีเสนอหวั หน้าหน่วยงานของรฐั เพ่อื ขอความเห็นชอบ 1.2 แผนการจัดซอื้ จัดจา้ งประจาปี ใหป้ ระกอบดว้ ยรายการอย่างน้อย ดงั ต่อไปนี้ 1.2.1 ช่อื โครงการที่จะจดั ซื้อจดั จ้าง 1.2.2 วงเงนิ ที่จะจดั ซื้อจดั จา้ งโดยประมาณ 1.2.3 ระยะเวลาที่คาดว่าจะจัดซอ้ื จัดจ้าง 1.2.4 รายการอน่ื ตามทก่ี รมบัญชกี ลางกาหนด 1.3 เม่ือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบแผนการจัดซ้ือจัดจ้างประจาปีตามข้อ 1.1 แล้วให้ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ประกาศเผยแพร่แผนดังกล่าวในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของ หน่วยงานของรัฐตามวิธีการที่กรมบัญชีกลางกาหนด และให้ปิดประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานท่ีปิดประกาศ ของหน่วยงานของรัฐนั้น หากหนว่ ยงานของรัฐไม่ได้ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซ้ือจัดจ้างโครงการใดในระบบ เครอื ข่ายสารสนเทศของกรมบญั ชกี ลาง จะไม่สามารถดาเนินการจัดซ้ือจดั จ้างในโครงการน้ันได้ เว้นแต่ในกรณี ดงั ตอ่ ไปน้ี ทีไ่ มต่ อ้ งจัดทาแผน 1.3.1 กรณที ม่ี ีความจาเปน็ เร่งด่วนหรอื เป็นพสั ดุทใี่ ช้ในราชการลับ 1.3.2 กรณีทีม่ ีวงเงินในการจัดซื้อจัดจ้างตามที่กาหนดในกฎกระทรวงหรือมีความจาเป็นต้อง ใชพ้ สั ดุโดยฉุกเฉนิ หรือเป็นพสั ดุทจ่ี ะขายทอดตลาด 1.3.3 กรณีท่เี ป็นงานจ้างทปี่ รกึ ษาที่มีวงเงินค่าจา้ งตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวงหรือท่ีมีความ จาเป็นเร่งด่วนหรือที่เกย่ี วกับความมน่ั คงของชาติ 1.3.4 กรณีท่ีเป็นงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างที่มีความจาเป็นเร่งด่วนหรือที่ เก่ยี วกับความม่นั คงของชาติ 1.4 หลังจากท่ีได้ประกาศเผยแพร่แผนการจัดซ้ือจัดจ้างประจาปี แล้วให้หน่วยงานของรัฐรีบ ดาเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามแผนและข้ันตอน เพื่อให้พร้อมท่ีจะทาสัญญาหรือข้อตกลงได้ทันทีเมื่อ ไดร้ บั อนมุ ตั ิทางการเงนิ แลว้ -4-
1.5 ในกรณีที่มีความจา เป็นต้องเปลี่ยนแปลงแผนการจัดซื้อจัดจ้างประจา ปีให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่ ได้รบั มอบหมายในการปฏบิ ตั งิ านนัน้ จัดทา รายงานพร้อมระบุเหตุผลที่ขอเปล่ียนแปลงเสนอหัวหน้าหน่วยงาน ของรัฐเพื่อขอความเห็นชอบ และเมอ่ื ไดร้ บั ความเหน็ ชอบแล้วให้ดาเนนิ การตามขอ้ 1.3 2. การจัดทาร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือแบบรูปรายการงาน ก่อสร้าง 2.1 การกาหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุท่ีจะทาการจัดซื้อจัดจ้าง ให้หน่วยงานของรัฐคานึงถึง คุณภาพ เทคนิค และวัตถุประสงค์ของการจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุนั้น และห้ามมิให้กาหนดคุณลักษณะเฉพาะของ พัสดุให้ใกล้เคียงกับยี่ห้อใดย่ีห้อหนึ่ง หรือของผู้ขายรายใดรายหน่ึงโดยเฉพาะเว้นแต่พัสดุท่ีจะทาการจัดซ้ือจัด จา้ งตามวัตถุประสงค์นน้ั มยี ่หี ้อเดยี วหรือจะต้องใชอ้ ะไหลข่ องยห่ี ้อใดก็ใหร้ ะบยุ ่หี ้อน้ันได้ 2.2 เพ่ือให้การกาหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างมีมาตรฐาน และเป็น ประโยชน์ต่อทางราชการ หากพัสดุท่ีจะซื้อหรือจ้างใดมีประกาศกาหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแล้ว ให้กาหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง หรือรายการในการก่อสร้างตามมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือเพื่อความสะดวกจะระบุเฉพาะหมายเลขมาตรฐานก็ได้ หรือในกรณีพัสดุท่ีจะซื้อ หรือจา้ งใดยงั ไม่มปี ระกาศกาหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมแต่มีผู้ได้รับการจดทะเบียนผลิตภัณฑ์ไว้กับ กระทรวงอตุ สาหกรรมแล้ว ให้กาหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุท่ีจะซื้อหรือจ้างหรือรายการใน การก่อสร้างให้สอดคล้องกับรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะตามท่ีระบุในคู่มือผู้ซ้ือหรือใบแทรกคู่มือผู้ซ้ือที่ กระทรวงอตุ สาหกรรมจดั ทาขึ้น 2.3 ในการซ้ือหรือจ้างที่มิใช่การจ้างก่อสร้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมา คณะหน่ึง หรือจะให้เจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งรับผิดชอบในการจัดทาร่างขอบเขตของงานหรือ รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้าง รวมทั้งกาหนดหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือก ข้อเสนอ 2.4 ในการจ้างก่อสร้าง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งต้ังคณะกรรมการข้ึนมาคณะหน่ึงหรือจะให้จ้า หน้าท่ีหรือบุคคลใดบุคคลหน่ึงจัดทาแบบรูปรายการงานก่อสร้าง หรือจะดาเนินการจ้างตามความในหมวด ๔ งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างก็ได้ 2.5 องค์ประกอบ ระยะเวลาการพจิ ารณา และการประชมุ ของคณะกรรมการตามวรรคหนึ่งและวรรค สอง ใหเ้ ป็นไปตามทห่ี ัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั กาหนดตามความจาเปน็ และเหมาะสม 3. การจัดทาและเปดิ เผยราคากลาง ให้หน่วยงานของรัฐจัดทาและประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลางและการคานวณ ราคา กลางในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง (www.gprocurement.go.th) และเว็บไซต์ ของ หน่วยงานของรฐั ท่จี ัดซื้อจดั จ้าง ตามประเภทการจดั ซ้อื จดั จา้ ง ตามแบบ บก. 01 – แบบ บก. 06 ดังนี้ -5-
3.1 ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ไดร้ บั จดั สรรและราคากลางในงานก่อสร้าง 3.2 ตารางแสดงวงเงินงบประมาณทไี่ ด้รบั และรายละเอยี ด คา่ ใชจ้ ่ายในการจ้างควบคุมงาน -6-
3.3 ตารางแสดงวงเงินงบประมาณทไ่ี ด้รับจัดสรรและรายละเอยี ดคา่ ใช้จา่ ยในการจา้ งออกแบบ 3.4 ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ไดร้ บั จดั สรรและรายละเอยี ดคา่ ใชจ้ ่ายในการจา้ งทป่ี รึกษา -7-
3.5 ตารางแสดงวงเงินงบประมาณที่ได้รบั จัดสรรและรายละเอยี ดคา่ ใชจ้ า่ ยในการจ้างงานวิจัยหรือเงิน สนบั สนนุ ใหท้ นุ การวจิ ัย 3.6 ตารางแสดงวงเงินงบประมาณท่ีได้รับจัดสรรและรายละเอียดค่าใช้จ่ายในการจ้างพัฒนาระบบ คอมพิวเตอร์ -8-
4. การจัดทารายงานขอซอื้ ขอจ้าง ในการซื้อหรือจ้างแต่ละวิธี นอกจากการซ้ือท่ีดินหรือส่ิงปลูกสร้าง ให้เจ้าหน้าท่ีจัดทารายงานขอซื้อ หรอื ขอจ้างเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เพ่ือขอความเห็นชอบ โดยเสนอผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าท่ี ตามรายการ ดังตอ่ ไปนี้ 4.1 เหตุผลและความจาเปน็ ท่ีตอ้ งซ้ือหรือจ้าง 4.2 ขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุหรือแบบรูปรายการงานก่อสร้างท่ี จะซ้อื หรอื จา้ ง แล้วแตก่ รณี 4.3 ราคากลางของพัสดทุ ี่จะซื้อหรือจา้ ง 4.4 วงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง โดยให้ระบุวงเงินงบประมาณ ถ้าไม่มีวงเงินดังกล่าวให้ระบุวงเงินท่ี ประมาณวา่ จะซ้ือหรือจา้ งในครงั้ นน้ั 4.5 กาหนดเวลาทีต่ อ้ งการใช้พสั ดนุ ้นั หรือใหง้ านนั้นแล้วเสร็จ 4.6 วิธที ่จี ะซือ้ หรอื จ้างและเหตผุ ลทต่ี อ้ งซื้อหรอื จา้ งโดยวธิ ีน้นั 4.7 หลกั เกณฑ์การพจิ ารณาคัดเลือกข้อเสนอ 4.8 ข้อเสนออื่น ๆ เช่น การขออนุมัติแต่งต้ังคณะกรรมการต่าง ๆ ที่จาเป็นในการซื้อหรือจ้าง การออกประกาศและเอกสารเชญิ ชวน และหนังสอื เชิญชวน การซื้อหรือจ้าง กรณีจาเป็นเร่งด่วนที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้คาดหมายไว้ก่อน และไม่อาจดาเนินการ ตามปกติได้ทัน ประกอบกับวงเงินซื้อหรือจ้างไม่เกิน 500,000 บาท ให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ที่รับผิดชอบในการ ปฏบิ ัตงิ านนน้ั ดาเนนิ การไปก่อน แล้วรบี รายงานขอความเหน็ ชอบต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ และเมื่อหัวหน้า หน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบแลว้ ให้ถอื ว่ารายงานดงั กล่าวเปน็ หลกั ฐานการตรวจรบั โดยอนโุ ลม 5. คณะกรรมการจดั ซ้ือจดั จา้ ง และองค์ประกอบคณะกรรมการ 5.1 ในการดาเนินงานจ้างที่ปรึกษาแต่ละคร้ัง ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งต้ังคณะกรรมการ ดาเนินงานจ้างท่ีปรึกษาข้ึน เพื่อปฏิบัติการตามระเบียบน้ี พร้อมกับกาหนดระยะเวลาในการพิจารณาของ คณะกรรมการ แล้วแต่กรณี คือ 5.1.1 คณะกรรมการพจิ ารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนกิ ส์ 5.1.2 คณะกรรมการพจิ ารณาผลการสอบราคา 5.1.3 คณะกรรมการซอื้ หรือจ้างโดยวธิ ีคดั เลอื ก 5.1.4 คณะกรรมการซื้อหรือจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง 5.1.5 คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ 5.2 ให้คณะกรรมการซ้ือหรือจ้างแต่ละคณะ รายงานผลการพิจารณาต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ภายในระยะเวลาท่ีกาหนด ถ้ามีเหตุที่ทาให้การรายงานล่าช้า ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาขยาย เวลาใหต้ ามความจาเป็น -9-
5.3 คณะกรรมการซอ้ื หรือจา้ ง แต่ละคณะประกอบดว้ ย ประธานกรรมการ ๑ คน และกรรมการอย่าง น้อย ๒ คน ซ่ึงแต่งตั้งจากข้าราชการ ลูกจ้างประจา พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐ หรอื พนกั งานของหน่วยงานของรฐั ทเ่ี รียกชือ่ อยา่ งอื่น โดยให้ คานึงถึงลักษณะหน้าท่ีและความรับผิดชอบของผู้ ทไ่ี ดร้ ับแตง่ ตงั้ เปน็ สาคัญ 5.4 ในกรณจี าเปน็ หรือเพื่อประโยชนข์ องหนว่ ยงานของรัฐจะแตง่ ต้ังบุคคลอนื่ รว่ มเปน็ กรรมการด้วยก็ ไดแ้ ตจ่ านวนกรรมการท่ีเป็นบุคคลอื่นนั้นจะต้องไม่มากกว่าจานวนกรรมการตามข้อ 5.3 5.5 ในการซื้อหรือจ้างคร้ังเดียวกัน ห้ามแต่งต้ังผู้ที่เป็นกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ กรรมการพิจารณาผลการสอบราคา หรือกรรมการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือกเป็นกรรมการ ตรวจรบั พัสดุ 5.6 คณะกรรมการซ้ือหรือจ้างทุกคณะ ควรแต่งตั้งผู้ชานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับงานซ้ือหรือ จา้ งน้นั ๆ เขา้ รว่ มเป็นกรรมการ 5.7 การประชุมของคณะกรรมการแต่ละคณะ ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าก่ึงหน่ึงของ จานวนกรรมการท้ังหมด ให้ประธานกรรมการและกรรมการแต่ละคนมีเสียงหน่ึงในการลงมติโดยประธาน กรรมการต้องอยู่ด้วยทุกคร้ังในการประชุม หากประธานกรรมการไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้หัวหน้า หน่วยงานของรฐั แต่งตัง้ ประธานกรรมการคนใหม่เปน็ ประธานกรรมการแทน 5.8 มติของคณะกรรมการให้ถือเสียงข้างมาก ถ้าคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานกรรมการออกเสียง เพ่ิมขึน้ อกี เสียงหนึง่ เป็นเสียงช้ขี าด เว้นแต่คณะกรรมการตรวจรับพสั ดใุ หถ้ ือมตเิ อกฉนั ท์ 5.9 กรรมการของคณะใดไม่เหน็ ด้วยกบั มติของคณะกรรมการ ใหท้ าบนั ทกึ ความเห็นแยง้ ไวด้ ว้ ย 6. การมีส่วนไดส้ ว่ นเสยี ของคณะกรรมการซ้อื หรือจา้ ง ประธานกรรมการและกรรมการ จะต้องไม่เป็นผู้มีส่วนได้เสียกับผู้ยื่นข้อเสนอหรือคู่สัญญาใน การซื้อหรอื จา้ งครงั้ นน้ั ท้งั น้ี การมสี ่วนได้เสียในเรื่องซึ่งท่ีประชุมพิจารณาของประธานกรรมการและกรรมการ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง หากประธานหรือกรรมการทราบว่าตนเป็นผู้มี ส่วนได้เสียกบั ผยู้ ่ืนข้อเสนอหรือคู่สญั ญาในการซ้อื หรือจา้ งคร้ังนั้น ให้ประธานหรือกรรมการผู้นั้นลาออกจาก การเปน็ ประธานหรอื กรรมการในคณะกรรมการท่ีตนได้รบั การแตง่ ตง้ั นน้ั และให้รายงานหัวหน้าหน่วยงานของ รฐั ทราบเพอ่ื สัง่ การตามทเี่ ห็นสมควรต่อไป 7. วธิ กี ารซื้อหรือจ้าง วธิ กี ารซ้ือหรือจา้ ง มี 3 วธิ ี ดังน้ี 1. วิธีประกาศเชญิ ชวนท่วั ไป 1.1 วธิ ตี ลาดอเิ ล็กทรอนิกส์ 1.2 วิธปี ระกวดราคาอิเล็กทรอนกิ ส์ 1.3 วิธีสอบราคา - 10 -
2. วิธคี ัดเลอื ก 3. วธิ ีเฉพาะเจาะจง 7.1 วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป หมายถึง การท่ีหน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการท่ัวไปท่ีมี คณุ สมบัติตรงตามเงอ่ื นไขทหี่ นว่ ยงานของรัฐกาหนดให้เขา้ ยื่นขอ้ เสนอ กระทาได้ 3 วิธี ดังน้ี 7.1.1 วิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ (e - market) คือ การซ้ือหรือจ้างที่มีรายละเอียดคุณลักษณะ เฉพาะของพัสดุทไ่ี มซ่ ับซอ้ น หรือเป็นสินค้าหรืองานบริการทั่วไป ที่มีมาตรฐานซึ่งกาหนดให้ส่วนราชการจัดซื้อ สนิ คา้ และงานจา้ งที่กาหนดไว้ในระบบ (e - catalog) กระทาได้ 2 ลักษณะ ดังนี้ (1) การเสนอราคาโดยใบเสนอราคา คือ การซื้อหรือจ้างครั้งหนึ่ง ซ่ึงมีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท (2) การเสนอราคาโดยการประมูลอิเล็กทรอนิกส์ คือ การซ้ือหรือจ้างคร้ังหนึ่ง ซ่ึงมีวงเงินเกิน 5,000,000 บาท การจัดทาเอกสารวธิ ี e-market ดงั นี้ (1) ใหเ้ จา้ หนา้ ทจี่ ดั ทาเอกสารซอ้ื หรอื จ้างด้วยวิธีตลาดอิเลก็ ทรอนกิ ส์พร้อมประกาศเชิญชวน ตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายฯ กาหนด (2)การจัดทาเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนตามวรรคหนึ่ง ถ้าจาเป็นต้องมี ข้อความ หรอื รายการแตกตา่ งไปจากแบบท่ีคณะกรรมการนโยบายฯ กาหนด โดยมสี าระสาคัญตามที่กาหนด ไว้ในแบบและไม่ทาให้หน่วยงานของรัฐเสียเปรียบก็ให้กระทาได้ เว้นแต่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่าจะมี ปัญหาในทางเสียเปรียบหรือไม่รัดกุมพอ ให้ส่งร่างเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนดังกล่าวไปให้ สานักงานอัยการสูงสุดตรวจพิจารณากอ่ น (3) การกาหนดวัน เวลาการเสนอราคาในเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนตามวรรค หนึ่งใหก้ าหนดเป็นวนั ถัดจากวันสดุ ท้ายของระยะเวลาการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซ้ือหรือจ้างโดยกาหนด เป็นวัน เวลา ทาการเท่าน้ัน และเวลาในการเสนอราคาให้ถือตามเวลาของระบบจัดซ้ือจัดจ้างภาครัฐด้วย อเิ ล็กทรอนิกสเ์ ปน็ เกณฑ์ ขน้ั ตอน วธิ ี e-market (1) เจ้าหน้าที่จัดทาเอกสารการซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมประกาศเชิญ ชวน (2) จัดพิมพ์รายงานขอซื้อขอจ้าง ร่างประกาศและร่างเอกสารฯ เสนอหัวหน้าหน่วยงานของ รัฐผา่ นหวั หน้าเจ้าหน้าท่ี การเสนอราคาโดยวิธี e-market (1) เสนอหวั หน้าหนว่ ยงานของรัฐ ถ้าเหน็ ชอบรายงานขอซื้อหรือขอจ้าง ร่างประกาศและร่าง เอกสารฯ แล้วให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ีเผยแพร่ประกาศและเอกสารซ้ือหรือจ้าง ด้วยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ใน ระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐ e-market ทางเว็บไซต์หน่วยงาน/ กรมบัญชกี ลางและปิดประกาศทหี่ นว่ ยงาน เปน็ เวลาตดิ ตอ่ กนั ไม่น้อยกว่า 3 วันทาการและให้ปิดประกาศโดย เปดิ เผย ณ สถานทปี่ ิดประกาศของหนว่ ยงานของรัฐน้ัน ถา้ ไมเ่ หน็ ชอบ ส่งกลับเจา้ หนา้ ท่ีเพื่อแกไ้ ข - 11 -
(2) กรมบัญชกี ลางจดั ส่งประกาศและเอกสารไปยังผ้ขู าย/ผู้ให้บรกิ าร/ผูร้ ับจา้ ง ท่ีลงทะเบียน ในระบบ e-catalog ท่ีมีความสอดคลอ้ งกบั สินคา้ /บรกิ าร ที่หนว่ ยงานของรัฐกาหนด จะไดร้ บั mail จากระบบ e-GP (3) กาหนดวันการเสนอราคาในเอกสารซื้อหรือจ้างและประกาศเชิญชวนตามวรรคหนึ่งให้ กาหนดเปน็ วันถดั จากวันสุดท้ายของระยะเวลาการเผยแพรป่ ระกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างโดยกาหนดเป็นวัน เวลา ทาการเท่านั้น และเวลาในการเสนอราคาให้ถือตามเวลาของระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วย อิเลก็ ทรอนิกสเ์ ป็นเกณฑ์ การพิจารณาผลการเสนอราคา (1) กรณีมีผู้เสนอราคาหลายรายให้เสนอความเห็นให้ซื้อ/จ้าง จากรายที่เสนอราคาต่าสุด กรณีมีผเู้ สนอราคาต่าสดุ เทา่ กันหลายราย ใหพ้ ิจารณาผูท้ ีเ่ สนอราคาในลาดบั แรก (2) กรณีมผี เู้ สนอราคารายเดียว ดงั น้ี - พิจารณาแล้วเห็นว่า มีความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อราชการให้เจ้าหน้าท่ีเสนอ หัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั ผ่านหัวหนา้ เจ้าหนา้ ท่ีเพ่ือพิจารณารบั ราคาของผูเ้ สนอราคารายน้นั ได้ (3) กรณีไมม่ ีผูเ้ สนอราคา - ให้เจ้าหน้าที่เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ เพื่อพิจารณายกเลิกการ ซ้ือหรือการจ้างครั้งน้ัน และดาเนินการซ้ือหรือจ้างในคร้ังน้ันและดาเนินการซื้อหรือจ้างโดยวิธีตลาด อิเล็กทรอนิกส์ใหม่ หรือจะดาเนินการซื้อหรือจ้างโดยใช้วิธีคัดเลือกตามมาตรา 56 วรรคหน่ึง(1) (ก) (ใช้วิธี ประกาศเชิญชวนทั่วไปแล้วแต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอ หรือข้อเสนอน้ันไม่ได้รับการคัดเลือก) หรือวิธีเฉพาะเจาะจง ตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ก) (ใช้ทงั้ วธิ ปี ระกาศเชญิ ชวนทั่วไปและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้วแต่ไม่ มีผู้ย่ืนข้อเสนอ หรือข้อเสนอนั้นไม่ได้รับการคัดเลือก) แล้วแต่กรณีก็ได้ เว้นแต่หน่วยงานของรัฐจะดาเนินการ ซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือก หรือวิธีเฉพาะเจาะจงด้วยเหตุอ่ืน ให้เริ่มกระบวนการซื้อหรือจ้างใหม่ โดยจัดทา รายงานขอซอื้ หรือขอจา้ งตามข้อ 22 กรณีราคาของผู้ที่ชนะการเสนอราคาที่เห็นควรซื้อ/จ้างสูงกว่าวงเงินท่ีจะซ้ือหรือจ้าง ให้ เจา้ หน้าที่ดาเนนิ การ ดงั น้ี (1) ใหเ้ รยี กผชู้ นะการเสนอราคารายน้ันมาตอ่ รองราคาผ่านทางระบบ e-GP หากต่อรองราคา แล้ว ราคาท่ีเสนอใหม่ไม่สูงกว่าวงเงินท่ีจะซ้ือหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของวงเงินท่ีจะซ้ือหรือ จา้ ง หรือต่อรองราคาแล้วไมย่ อมลดราคา แต่สว่ นทีส่ ูงกว่าวงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้างไม่เกินร้อยละ 10 ของวงเงินที่ จะซ้ือหรอื จา้ ง ถา้ เห็นว่าราคาดงั กล่าวเปน็ ราคาท่เี หมาะสม ก็ใหเ้ สนอซื้อหรือจา้ งจากผเู้ สนอราคารายนนั้ (2) ถ้าดาเนินการตาม (1) แล้วไม่ได้ผล ให้เรียกรายท่ีเห็นสมควรซื้อหรือจ้างทุกรายมาเสนอ ราคาใหม่พร้อมกัน โดยให้ยื่นใบเสนอราคาผ่านทางระบบ e-GP หากรายต่าสุดในคร้ังนั้นเสนอราคาไม่สูงกว่า วงเงนิ ทีจ่ ะซือ้ หรอื จ้าง หรือสูงกว่าไม่เกินร้อยละ 10 ของวงเงินที่จะซ้ือหรือจ้าง ถ้าเห็นว่าเป็นราคาท่ีเหมาะสม ใหเ้ สนอซ้ือหรือจา้ งจากผูเ้ สนอราคารายนัน้ (3) ถ้าดาเนินการตาม (๒) แล้วไม่ได้ผล ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้า เจ้าหน้าที่เพ่ือพิจารณายกเลิกการซื้อหรือจ้าง ในครั้งนั้น และดาเนินการซื้อหรือจ้างในครั้งนั้นและดาเนินการ ซ้ือหรือจ้างโดยวิธีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ใหม่ หรือจะดาเนินการซื้อหรือจ้างโดยใช้วิธีคัดเลือกตามมาตรา 56 วรรคหนึง่ (1) (ก) (ใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปแล้วแต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอ หรือข้อเสนอน้ันไม่ได้รับการคัดเลือก) หรอื วิธีเฉพาะเจาะจง ตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง(2) (ก) (ใชท้ ั้งวิธปี ระกาศเชิญชวนท่ัวไปและวิธีคัดเลือก หรือใช้ - 12 -
วิธีคัดเลือกแล้วแต่ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ หรือข้อเสนอนั้นไม่ได้รับการคัดเลือก) แล้วแต่กรณีก็ได้ เว้นแต่หน่วยงาน ของรัฐจะดาเนินการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือก หรือวิธีเฉพาะเจาะจงด้วยเหตุอื่น ให้เริ่มกระบวนการซื้อหรือ จ้างใหม่ โดยจัดทารายงานขอซือ้ หรือขอจา้ งตามขอ้ 22 เจ้าหน้าที่รายงานผลการพิจารณาและความเห็นพร้อมด้วยเอกสารท่ีเกี่ยวข้องท้ังหมดต่อ หัวหนา้ หนว่ ยงานของรฐั ผา่ นหัวหนา้ เจ้าหนา้ ที่เพ่ือพิจารณาเหน็ ชอบ (1) หัวหน้าหน่วยงานของรฐั เห็นชอบ - ให้หวั หน้าเจ้าหนา้ ท่ีประกาศผลผชู้ นะการเสนอราคาในเว็บไซต์ของกรมบัญชีกลาง เวบ็ ไซต์ของหนว่ ยงานของรฐั และใหป้ ดิ ประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานท่ีปดิ ประกาศของหนว่ ยงานของรฐั นั้น (2) ในกรณีทผ่ี ู้เสนอราคาตา่ สุด เสนอราคาผิดเง่ือนไขตามที่กาหนด ให้ถือว่าผู้เสนอราคาราย ดังกล่าวไม่ผ่านคุณสมบัติตามเงื่อนไขท่ีกาหนด ให้เจ้าหน้าท่ีเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้า เจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณายกเลิกการซื้อหรือจ้างในคร้ังน้ัน หรือพิจารณาผู้ที่เสนอราคาต่าลาดับถัดไปเป็นผู้ชนะ การเสนอราคากไ็ ด้ ทงั้ นี้ ให้คานึงถงึ ความเหมาะสมและประโยชนข์ องหน่วยงานของรฐั เปน็ สาคัญ 7.1.2 วิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) หมายถึง การซ้ือหรือจ้างครั้งหน่ึงซ่ึงมี วงเงินเกิน 500,000 บาท และเปน็ สินค้าหรืองานบรกิ ารที่ไม่ไดก้ าหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ ไว้ในระบบข้อมูลสินค้า (e - catalog) โดยให้ดาเนินการ ในระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์(Electronic Bidding : e - bidding) ตามวธิ กี ารที่กรมบัญชกี ลางกาหนด การจัดทาเอกสารการซอื้ หรือจ้างดว้ ยวธิ ี e-Bidding (1) ให้เจ้าหนา้ ทจ่ี ัดทา เอกสารซอื้ หรอื จ้างดว้ ยวธิ ีประกวดราคาอเิ ล็กทรอนิกส์ พรอ้ มประกาศ เชญิ ชวน ตามแบบท่ีคณะกรรมการนโยบายกาหนด (2) การทาเอกสารซ้ือหรือจ้างและประกาศเผยแพร่ ถ้าจาเป็นต้องมีข้อความหรือรายการ แตกต่างไปจากแบบทค่ี ณะกรรมการนโยบายฯ กาหนด โดยมีสาระสาคัญตามท่ีกาหนดไว้ในแบบ และไม่ทาให้ หน่วยงานของรัฐเสียเปรียบก็ให้กระทาได้ เว้นแต่หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่าจะมีปัญหาในทางเสียเปรียบ หรอื ไม่รัดกมุ พอ ก็ให้สง่ รา่ งเอกสารซ้อื หรือจ้างและประกาศเชิญชวนดังกล่าวไปให้สานักงานอัยการสูงสุดตรวจ พิจารณากอ่ น (3) การกาหนดวนั เวลาการเสนอราคาในเอกสารซ้ือหรือจ้างและประกาศเชิญชวนตามวรรค หนงึ่ ให้กาหนดเป็นวนั ถัดจากวนั สุดทา้ ยของระยะเวลาการเผยแพร่ประกาศและเอกสารซื้อหรือจ้างโดยกาหนด เป็นวัน เวลา ทาการเท่านั้น และเวลาในการเสนอราคาให้ถือตามเวลาของระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐด้วย อเิ ล็กทรอนิกสเ์ ปน็ เกณฑ์ (4) การซื้อหรือจ้างพัสดุใดท่ีมีความจาเป็นโดยสภาพของการซื้อหรือจ้างจะต้องกาหนด เง่ือนไขไว้ในเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ให้ผู้ยื่นข้อเสนอนาตัวอย่างพัสดุท่ีเสนอมา แสดงเพ่ือทดลอง หรือทดสอบ หรือนาเสนองาน ให้หน่วยงานของรัฐกาหนดให้ผู้ย่ืนข้อเสนอนาตัวอย่างพัสดุ นน้ั มาแสดงเพอ่ื ทดลอง หรือทดสอบ หรอื นาเสนองาน ตามวัน และเวลา ณ สถานทที่ ีห่ นว่ ยงานของรัฐกาหนด (5) กรณีการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งใดที่กาหนดให้ต้องมีเอกสารในส่วนที่เป็น สาระสาคัญประกอบการยื่นข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอที่ย่ืนผ่านทางระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์หาก หน่วยงานของรัฐเห็นว่าเอกสารดังกล่าวมีปริมาณมากและเป็นอุปสรรคของผู้ยื่นข้อเสนอในการนาเข้าระบบ ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้หน่วยงานของรัฐกาหนดให้ผู้ย่ืนข้อเสนอนาเอกสารน้ันพร้อมสรุปจานวน - 13 -
เอกสารดังกล่าวมาส่ง ณ ท่ีทาการของหน่วยงานของรัฐในภายหลัง โดยให้ลงลายมือชื่อของผู้ย่ืนข้อเสนอ พร้อมประทบั ตราสาคญั ของนติ ิบคุ คล (ถ้ามี) กากบั ในเอกสารนน้ั ดว้ ย (6) การกาหนดวันให้ผู้ย่ืนข้อเสนอนาตัวอย่างพัสดุท่ีเสนอมาแสดงเพื่อทดลอง หรือทดสอบ หรือนาเสนองานตามวรรคหนึ่ง หรือนาเอกสารหรือรายละเอียดมาส่งตามวรรคสอง ให้หน่วยงานของรัฐ กาหนดเป็นวันใดวนั หนงึ่ ภายใน 5 วันทาการ นบั ถดั จากวันเสนอราคา เวน้ แตก่ ารดาเนินการตามวรรคหนึ่งที่ไม่ อาจดาเนินการวันใดวนั หน่ึงได้ ใหห้ นว่ ยงานของรัฐพิจารณากาหนดมากกว่า 1 วันได้แต่จานวนวันดังกล่าวต้อง ไม่เกิน 5 วันทาการ นับถัดจากวันเสนอราคา ทั้งนี้ ให้ระบุไว้เป็นเง่ือนไขในเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวด ราคาอิเล็กทรอนิกสใ์ ห้ชัดเจน การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ รา่ งขอบเขตของงานหรอื รายละเอียดคุณลกั ษณะของพสั ดุที่จะซื้อ หรอื จา้ งพร้อมกับร่างประกาศและร่างเอกสารซอ้ื หรือจา้ ง มีหลกั เกณฑด์ งั นี้ (1) การซ้ือหรือจ้างคร้ังหน่ึง ซึ่งมีวงเงินเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาทให้อยู่ ในดุลพินิจของหวั หน้าหนว่ ยงานของรัฐทจ่ี ะใหม้ กี ารเผยแพร่เพ่ือรบั ฟังความคิดเห็นจากผู้ประกอบการหรือไม่ก็ ได้ (2) การซ้ือหรือจ้างคร้ังหน่ึง ซ่ึงมีวงเงินเกิน 5,000,000 บาท ให้หน่วยงานของรัฐนาร่าง ประกาศและร่างเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เผยแพร่เพื่อรับฟังความคิดเห็นจาก ผปู้ ระกอบการ (3) การนาร่างขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะ พร้อมร่างประกาศและร่าง เอกสารซ้ือหรอื จา้ ง เผยแพร่ทางเวบ็ ไซตห์ น่วยงานและเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง ไมน่ ้อยกวา่ 3 วันทาการ การประกาศเผยแพร่รา่ งเอกสารฯ ใหส้ าธารณชนเสนอแนะวจิ ารณ์ กรณที ม่ี ผี ู้มีความคดิ เหน็ ใหห้ ัวหนา้ เจ้าหนา้ ทีร่ ่วมกับผู้มีหน้าทร่ี ับผดิ ชอบจดั ทารา่ งขอบเขต ของงานหรอื รายละเอยี ดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุทีจ่ ะซ้ือหรือจา้ งตามขอ้ 21 พิจารณาวา่ สมควรดาเนนิ การ ปรบั ปรุงแก้ไขหรอื ไม่ โดยใหด้ าเนินการ ดงั นี้ (1) กรณีพิจารณาแล้วเห็นว่าควรปรับปรุงฯ ให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ีจัดทารายงานพร้อม ความเห็นและร่างประกาศ และร่างเอกสารซ้ือหรือจ้างฯ ท่ีได้ปรับปรุงแล้วเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพ่ือ ขอความเห็นชอบ เม่ือได้รับความเห็นชอบแล้ว ให้นาร่างประกาศและร่างเอกสารซื้อหรือจ้างด้วยวิธีประกวด ราคาอิเลก็ ทรอนกิ สด์ ังกลา่ วเผยแพรใ่ นระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐ อีกคร้ังหนึ่ง เป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 3 วันทาการ และให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่แจ้งผู้มีความคิดเห็นทุกราย ทราบเป็นหนังสอื (2) กรณีพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ควรปรับปรุงร่างประกาศและร่างเอกสารซ้ือหรือจ้างด้วยวิธี ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่จัดทารายงานพร้อมความเห็นเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เพื่อขอความเห็นชอบ เมื่อได้รับความเห็นชอบแล้ว ให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ีแจ้งผู้มีความคิดเห็นทุกรายทราบเป็น หนงั สือ - 14 -
ระยะเวลาการเผยแพรป่ ระกาศและเอกสารประกวดราคาอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (e-bidding) วงเงนิ ท่จี ดั หา ระยะเวลาในการเผยแพร่เอกสารฯ (ให้คานึงถึง ระยะเวลาในการให้ผู้ประกอบการเตรยี มจัดทา เกนิ 500,000 บาท แตไ่ ม่เกนิ 5,000,000 บาท เกนิ 5,000,000 บาท แตไ่ ม่เกิน 10,000,000 บาท เอกสารเพ่ือยืน่ ข้อเสนอด้วย เกิน 10,000,000 บาท แต่ไมเ่ กิน 50,000,000 บาท เกิน 50,000,000 บาท ข้นึ ไป ไม่นอ้ ยกวา่ 5 วนั ทาการ ไม่นอ้ ยกวา่ 10 วันทาการ ไม่น้อยกวา่ 12 วนั ทาการ ไม่น้อยกวา่ 20 วนั ทาการ - หากหน่วยงานของรัฐได้กาหนดรายละเอียดของประกาศหรือเอกสารประกวดราคา อิเล็กทรอนิกส์ หรือขอบเขตของงานหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซื้อหรือจ้างไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วนในส่วนท่ีเป็นสาระสาคัญไม่ว่าท้ังหมดหรือแต่บางส่วน ให้หน่วยงานของรัฐยกเลิกการ ดาเนนิ การซอ้ื หรือจา้ งในครั้งนั้นแลว้ ดาเนนิ การใหม่ใหถ้ กู ต้องต่อไป - เม่ือถึงกาหนดวันเสนอราคาด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ ระบบประกวดราคาอิเลก็ ทรอนกิ ส์ และให้เสนอราคาภายในเวลาท่ีกาหนด โดยสามารถเสนอราคาได้เพียงคร้ัง เดยี วหา้ มมิใหร้ ่นหรอื เล่อื นหรอื เปล่ยี นแปลงกาหนดวันเสนอราคา หรือรับเอกสารการยื่นเสนอราคานอกเหลือ จากกรณีทไ่ี ด้กาหนดไว้ หน้าที่คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (1) จัดพิมพ์ใบเสนอราคาและเอกสารการเสนอราคาของผ้ยู ่ืนข้อเสนอทุกรายจากระบบ ประกวดราคาอเิ ล็กทรอนิกส์ จานวน 1 ชุด โดยให้กรรมการทกุ คนลงลายมือชือ่ กากับไว้ในใบเสนอราคา และเอกสารการเสนอราคาของผยู้ น่ื ข้อเสนอทุกแผน่ (2) ตรวจสอบการมีผลประโยชน์รว่ มกนั และเอกสารหลกั ฐานการเสนอราคาต่าง ๆ และพัสดุ ตัวอย่าง (ถ้ามี) หรือพิจารณาการนาเสนองานของผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย หรือเอกสาร หรือรายละเอียดท่ี กาหนดให้จัดส่งในภายหลังจากวันเสนอราคา แล้วคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่ไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันและย่ืน เอกสารการเสนอราคาครบถว้ น ถูกตอ้ ง มคี ณุ สมบัติและข้อเสนอทางด้านเทคนิคหรอื เสนอพัสดุที่มีรายละเอียด คุณลักษณะเฉพาะครบถ้วน ถูกต้อง ตามเง่ือนไขที่หน่วยงานของรัฐกาหนดไว้ในประกาศและเอกสารประกวด ราคาฯ (3) คณะกรรมการอาจสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากผู้ย่ืนข้อเสนอรายใดก็ได้ แต่จะให้ผู้ย่ืน ข้อเสนอรายใดเปลี่ยนแปลงสาระสาคัญท่ีเสนอไว้แล้วมิได้ และหากคณะกรรมการเห็นว่าผู้ยื่นข้อเสนอรายใดมี คณุ สมบัติไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไขท่ีหน่วยงานของรัฐกาหนด ให้คณะกรรมการตัดรายชื่อของผู้ยื่นข้อเสนอราย นัน้ ในกรณีท่ผี ยู้ ่ืนข้อเสนอรายใดเสนอเอกสารทางเทคนิคหรือรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่จะซ้ือ หรือจ้างไม่ครบถ้วน หรือเสนอรายละเอียดแตกต่างไปจากเงื่อนไขท่ีหน่วยงานของรัฐกาหนด ในส่วนที่มิใช่ สาระสาคัญและความแตกต่างน้ัน ไม่มีผลทาให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบต่อผู้ยื่นข้อเสนอรายอ่ืนหรือเป็น การผิดพลาดเลก็ น้อยใหพ้ จิ ารณาผอ่ นปรนการตดั สทิ ธผิ์ ยู้ น่ื ข้อเสนอรายนนั้ (4) พิจารณาคัดเลือกพัสดุหรือคุณสมบัติของผู้ย่ืนข้อเสนอที่ถูกต้อง และพิจารณาคัดเลือก ข้อเสนอตามหลกั เกณฑ์ที่กาหนดในประกาศและเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โดยให้จัดเรียงลาดับผู้ที่ - 15 -
เสนอราคาต่าสุดหรือได้คะแนนรวมสูงสุด ไม่เกิน 3 ราย ในกรณีที่ผู้ย่ืนข้อเสนอรายที่คัดเลือกไว้ไม่ยอมเข้าทา สญั ญาหรือขอ้ ตกลงกบั หน่วยงานของรัฐในเวลาที่กาหนดตามเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้ท่ีเสนอ ราคาตา่ รายถดั ไป หรอื ผู้ทไี่ ด้คะแนนรวมสงู รายถดั ไปตามลาดับ แลว้ แตก่ รณี (5) จัดทารายงานผลการพิจารณาและความเหน็ พร้อมดว้ ยเอกสารท่ีได้รับไว้ทัง้ หมดเสนอ หวั หน้าหน่วยงานของรฐั ผา่ นหวั หนา้ เจา้ หนา้ ทีเ่ พื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ทงั้ น้ี รายงานผลการ พิจารณาดงั กลา่ ว ใหป้ ระกอบด้วยรายการอย่างน้อย ดังตอ่ ไปนี้ (ก) รายการพัสดุทีจ่ ะซ้ือหรือจ้าง (ข) รายชือ่ ผยู้ ่ืนขอ้ เสนอ ราคาท่เี สนอ และขอ้ เสนอของผยู้ น่ื ขอ้ เสนอทกุ ราย (ค) รายช่อื ผยู้ น่ื ขอ้ เสนอทผ่ี า่ นการคดั เลือกว่าไม่เปน็ ผมู้ ีผลประโยชน์รว่ มกัน (ง) หลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลอื กข้อเสนอ พร้อมเกณฑ์การใหค้ ะแนน (จ) ผลการพจิ ารณาคดั เลือกข้อเสนอและการให้คะแนนข้อเสนอของผู้ยื่น ข้อเสนอ ทุกรายพร้อมเหตุผลสนับสนุนในการพิจารณา (6) เมื่อพิจารณาผลการประกวดราคาแลว้ ปรากฏว่ามีผู้ย่ืนข้อเสนอเพียงรายเดียวหรือมีผู้ยื่น ข้อเสนอหลายรายแตถ่ กู ต้องตรงตามเง่ือนไขทีก่ าหนดในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เพียงรายเดียว ให้ เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์คร้ังน้ัน แต่ถ้า เห็นว่ามีเหตุผลสมควรที่จะดาเนินการต่อไปโดยไม่ต้องยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้ คณะกรรมการพิจารณาผลฯ ต่อรองราคา กับผู้ย่ืนข้อเสนอรายน้ัน และจัดทารายงานผลการพิจารณาเสนอ หัวหนา้ หน่วยงานของรฐั (7) กรณีที่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอหรือมีแต่ไม่ถูกต้องตรงตามเงื่อนไขท่ีกาหนด ให้เสนอหัวหน้า หน่วยงานของรัฐเพ่ือยกเลิกและดาเนินการใหม่ แต่หากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาแล้วเห็นว่าการ ดาเนินการโดยประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ใหม่อาจไม่ได้ผลดี จะสั่งให้ดาเนินการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือก ตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (1) (ก)(ใช้วิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปแล้วแต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอ หรือข้อเสนอน้ันไม่ได้ รับการคัดเลอื ก) หรอื วธิ ีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา 56 วรรคหน่ึง(2) (ก) (ใช้ท้ังวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปและวิธี คัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้วแต่ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ หรือข้อเสนอน้ันไม่ได้รับการคัดเลือก) แล้วแต่กรณีก็ได้ เว้นแต่ หน่วยงานของรัฐจะดาเนินการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจงด้วยเหตุอ่ืน ให้เร่ิม กระบวนการซื้อหรือจ้างใหม่ กรณรี าคาของผูท้ ่ีชนะการเสนอราคาที่เห็นควรซื้อ/จ้างสูงกว่าวงเงนิ ที่จะซอื้ หรอื จา้ ง (กรณีหนว่ ยงานของรัฐใชเ้ กณฑร์ าคา) (1)ให้แจ้งผู้ท่ีเสนอราคารายท่ีคณะกรรมการเห็นสมควรซื้อหรือจ้างนั้นผ่านระบบประกวด ราคาอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือต่อรองราคาให้ต่าสุดเท่าที่จะทาได้ หากผู้ท่ีเสนอราคารายน้ันยอมลดราคาและย่ืนใบ เสนอราคาผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์แล้ว ราคาที่เสนอใหม่ไม่สูงกว่าวงเงินที่จะซ้ือหรือจ้างหรือสูง กวา่ แตส่ ว่ นทสี่ งู กว่านั้นไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินท่ีจะซ้ือหรือจ้าง หรือต่อรองราคาแล้วไม่ยอมลดราคาลงอีก แตส่ ว่ นทส่ี งู กวา่ นั้นไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ถ้าเห็นว่าราคาดังกล่าวเป็นราคาที่เหมาะสม ก็ ให้เสนอซือ้ หรือจา้ งจากผู้ท่เี สนอราคารายน้ัน (2) ถ้าดาเนินการตาม (1) แล้วไม่ได้ผล ให้แจ้งผู้ท่ีเสนอราคาท่ีคณะกรรมการเห็นสมควรซ้ือ หรือจ้างทุกรายผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ เพ่ือมาเสนอราคาใหม่พร้อมกันโดยย่ืนใบเสนอราคา ผา่ นระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนกิ สภ์ ายในกาหนดระยะเวลาอันสมควร หากรายใดไม่ย่ืนใบเสนอราคาให้ถือ วา่ รายน้นั ยืนราคาตามท่เี สนอไว้เดมิ หากผูท้ เ่ี สนอราคาตา่ สุดในการเสนอราคาครั้งนี้เสนอราคาไม่สูงกว่าวงเงิน - 16 -
ท่ีจะซ้ือหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ส่วนท่ีสูงกว่านั้นไม่เกินร้อยละสิบของวงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้างถ้าเห็นว่าราคา ดังกล่าวเปน็ ราคาทเี่ หมาะสม กใ็ ห้เสนอซอ้ื หรือจ้างจากผู้ทีเ่ สนอราคารายน้นั (3) ถ้าดาเนินการตาม (2) แล้วไม่ได้ผล ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐใช้ดุลพินิจว่าจะ ยกเลิกการซื้อหรือจ้าง หรือขอเงินเพ่ิมเติมหรือลดรายการ ลดจานวน หรือลดเน้ืองาน หากการดาเนินการ ดังกล่าวทาให้ลาดับของผู้ชนะการเสนอราคาเปล่ียนแปลงไปจากเดิม ถือว่าก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบ ระหว่างผู้เสนอราคา ให้ยกเลิกการซ้ือหรือจ้างในครั้งนั้น แต่หากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาแล้วเห็นว่า การดาเนินการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ใหม่อาจไม่ได้ผลดี จะส่ังให้ดาเนินการซื้อหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือก ตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (1) (ก)(ใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปแล้วแต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอ หรือข้อเสนอน้ันไม่ได้ รับการคดั เลอื ก) หรือวิธเี ฉพาะเจาะจงตามมาตรา 56 วรรคหน่ึง(2) (ก) (ใช้ท้ังวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปและวิธี คัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้วแต่ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ หรือข้อเสนอน้ันไม่ได้รับการคัดเลือก) แล้วแต่กรณีก็ได้ เว้นแต่หน่วยงานของรัฐจะดาเนินการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจงด้วยเหตุอื่นให้เริ่ม กระบวนการซอื้ หรือจา้ งใหม่โดยการจัดทารายงานขอซ้อื หรือขอจา้ งใหม่ กรณรี าคาของผู้ชนะการเสนอราคาทเ่ี ห็นควรซ้ือ/จ้างสูงกว่าวงเงินที่จะซ้ือหรือจ้าง (กรณี หนว่ ยงานของรฐั ใชเ้ กณฑร์ าคาประกอบเกณฑ์คณุ ภาพ) (1) เมอ่ื ราคาของผทู้ ีไ่ ด้คะแนนรวมสงู สุด สงู กว่าวงเงนิ ที่จะซ้อื หรือจ้างให้คณะกรรมการแจ้งผู้ ท่ีเสนอราคารายที่คณะกรรมการเห็นสมควรซ้ือหรือจ้างน้ันผ่านระบบประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เพ่ือต่อรอง ราคาให้ตา่ สุดเทา่ ท่ีจะทาได้ หากยอมลดราคาและย่ืนใบเสนอราคาผ่านระบบฯ แล้ว ราคาท่ีเสนอใหม่ไม่สูงกว่า วงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง หรือสูงกว่าแต่ส่วนที่สูงกว่านั้นไม่เกินร้อย 10 ของวงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้าง หรือต่อรอง ราคาแล้วไม่ยอมลดราคาลงอีก แต่ส่วนท่ีสูงกว่านั้นไม่เกินร้อย 10 ของวงเงินท่ีจะซื้อหรือจ้าง ถ้าเห็นว่าราคา ดังกล่าวเปน็ ราคาท่ีเหมาะสม กใ็ ห้เสนอซื้อหรอื จ้างจากผ้ทู ีเ่ สนอราคารายนน้ั (2) หากดาเนินการแล้วไม่ได้ผล ให้เสนอความเห็นต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐใช้ดุลพินิจว่า จะขอเงินเพ่ิมเติม หรือยกเลิกการซ้ือหรือจ้างในครั้งนั้นและดาเนินการใหม่ แต่หากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ พิจารณาแล้วเห็นว่าการดาเนินการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ใหม่อาจไม่ได้ผลดี จะสั่งให้ดาเนินการซ้ือหรือ จ้างโดยวิธีคัดเลอื กตามมาตรา 56 วรรคหน่ึง (1) (ก)(ใช้วธิ ปี ระกาศเชิญชวนทวั่ ไปแล้วแตไ่ มม่ ีผ้ยู ่ืนข้อเสนอ หรือ ข้อเสนอนนั้ ไมไ่ ดร้ ับการคัดเลือก) หรอื วธิ ีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา 56 วรรคหน่ึง(2) (ก) (ใช้ทั้งวิธีประกาศเชิญ ชวนทั่วไปและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้วแต่ไม่มีผู้ยื่นข้อเสนอ หรือข้อเสนอนั้นไม่ได้รับการคัดเลือก) แลว้ แต่กรณกี ็ได้ เว้นแต่หนว่ ยงานของรัฐจะดาเนนิ การซอื้ หรือจา้ งโดยวธิ ีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจงด้วยเหตุ อนื่ ให้เริม่ กระบวนการซอื้ หรือจ้างใหมโ่ ดยการจดั ทารายงานขอซ้ือหรือขอจา้ ง การประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคา เม่ือหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานผลการพิจารณา และผู้มีอานาจอนุมัติ สั่งซื้อหรือสั่งจ้างแล้วให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่แจ้งผลการพิจารณาผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ตาม แบบที่กรมบัญชีกลางกาหนดให้ผู้เสนอราคาทุกรายทราบ และให้ประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคาในระบบ เครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการท่ีกรมบัญชีกลางกาหนด และให้ ปิดประกาศโดยเปดิ เผย ณ สถานทปี่ ิดประกาศของหน่วยงานของรัฐน้นั 7.1.3 วิธีสอบราคา หมายถึง การซ้ือหรือจ้างครั้งหน่ึงเกิน 500,000 บาท แต่ไม่เกิน 5,000,000 บาท ให้กระทาได้ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐน้ันต้ังอยู่ในพ้ืนที่ที่มีข้อจากัดในการใช้สัญญาณ - 17 -
อินเตอร์เน็ตทาให้ไม่สามารถดาเนินการผ่านระบบตลาดอิเล็กทรอนิกส์หรือระบบประกวดราคาอิเล็กท รอนิกส์ ได้ 7.2 วิธีคัดเลือก ได้แก่ การที่หน่วยงานของรัฐเชิญชวนเฉพาะผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตาม เง่ือนไขที่หน่วยงานของรัฐกาหนดซ่ึงต้องไม่น้อยกว่าสามรายให้เข้าย่ืนข้อเสนอ เว้นแต่ในงานน้ันมี ผู้ประกอบการท่มี ีคณุ สมบตั ติ รงตามท่ีกาหนดน้อยกวา่ สามราย หน่วยงานของรัฐจะเลือกใช้วธิ คี ดั เลอื ก ในกรณดี งั ตอ่ ไปน้ี (ก) ใช้วธิ ปี ระกาศเชญิ ชวนทวั่ ไปแลว้ แต่ไม่มีผู้ยนื่ ข้อเสนอ หรอื ข้อเสนอนนั้ ไม่ได้รบั การคัดเลอื ก (ข) พัสดุท่ีต้องการจัดซื้อจัดจ้างมีคุณลักษณะเฉพาะเป็นพิเศษหรือซับซ้อนหรือต้องผลิตจาหน่าย ก่อสร้าง หรือให้บรกิ ารโดยผู้ประกอบการทม่ี ฝี มี อื โดยเฉพาะ หรือมีความชานาญเป็นพิเศษหรือมีทักษะสูง และ ผู้ประกอบการนั้นมีจานวนจากัด (ค) มีความจาเป็นเร่งด่วนที่ต้องใช้พัสดุน้ันอันเน่ืองมาจากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่อาจคาดหมายได้ซ่ึงหาก ใช้วธิ ปี ระกาศเชญิ ชวนทั่วไปจะทาใหไ้ ม่ทันตอ่ ความตอ้ งการใช้พสั ดุ (ง) เป็นพัสดุที่โดยลักษณะของการใช้งาน หรือมีข้อจากัดทางเทคนิคที่จาเป็นต้องระบุย่ีห้อเป็นการ เฉพาะ (จ) เปน็ พสั ดทุ จ่ี าเป็นต้องซ้อื โดยตรงจากต่างประเทศ หรือดาเนินการโดยผา่ นองค์การระหว่างประเทศ (ฉ) เป็นพัสดุที่ใช้ในราชการลับ หรือเป็นงานที่ต้องปกปิดเป็นความลับของหน่วยงานของรัฐหรือท่ี เก่ียวกับความมั่นคงของประเทศ (ช) เป็นงานจ้างซ่อมพัสดุที่จาเป็นต้องถอดตรวจ ให้ทราบความชารุดเสียหายเสียก่อนจึงจะประมาณ ค่าซอ่ มได้ เชน่ งานจ้างซอ่ มเครอื่ งจักร เครอื่ งมือกล เครือ่ งยนต์ เครอื่ งไฟฟา้ หรอื เครอื่ งอเิ ล็กทรอนกิ ส์ (ซ) กรณีอืน่ ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง การดาเนนิ การ (1) จัดทาหนังสือเชิญชวนผู้ประกอบการท่ีมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขท่ีหน่วยงานของรัฐกาหนดไม่ น้อยกว่า 3 ราย ใหเ้ ขา้ ย่นื ข้อเสนอ เว้นแตใ่ นงานนนั้ มีผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติตรงตามท่ีกาหนดน้อยกว่า 3 ราย โดยให้คานงึ ถงึ การไมม่ ผี ลประโยชนร์ ว่ มกันของผทู้ ่เี ขา้ ยื่นข้อเสนอ พร้อมจัดทาบัญชีรายช่ือผู้ประกอบการ ท่ีคณะกรรมการมหี นงั สอื เชิญชวน (2) การยนื่ ซองข้อเสนอและการรบั ซองข้อเสนอ ใหด้ าเนนิ การตามขอ้ 68 โดยอนุโลม (3) เม่ือถึงกาหนดวัน เวลาการรับซองข้อเสนอ ให้รับซองข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอเฉพาะรายที่ คณะกรรมการได้มีหนงั สือเชิญชวนเท่านั้น พร้อมจัดทาบัญชีรายชื่อผู้มายื่นข้อเสนอเมื่อพ้นกาหนดเวลารับซอง ข้อเสนอ หา้ มรับเอกสารหลกั ฐานต่าง ๆ และพัสดุตวั อยา่ งตามเงื่อนไขทกี่ าหนดในหนังสือเชิญชวนเพิ่มเติมจาก ผู้ย่ืนข้อเสนอ เว้นแต่ กรณีการซื้อหรือจ้างใดมีรายละเอียดที่มีความจาเป็นโดยสภาพของการซ้ือหรือจ้างท่ี จะตอ้ งให้ผู้ย่นื ขอ้ เสนอนาตวั อย่างพัสดุมาแสดงเพ่อื ทดลอง หรอื ทดสอบ หรือนาเสนองาน หรือให้ผู้ยื่นข้อเสนอ นาเอกสารหรือรายละเอยี ดมาส่งภายหลงั จากวนั ยน่ื ซองขอ้ เสนอ (4) เม่ือถึงกาหนดวัน เวลาการเปิดซองข้อเสนอ ให้คณะกรรมการดาเนินการเปิดซองข้อเสนอและ ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ของผู้ย่ืนข้อเสนอทุกราย แล้วให้กรรมการทุกคนลงลายมือช่ือกากับไว้ในใบ เสนอราคาและเอกสารประกอบการเสนอราคาของผู้ย่ืนข้อเสนอทุกแผ่นและให้นาความในข้อ 55 (2) - (4) มา ใช้บังคับกับการดาเนินการพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะการซื้อหรือจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือกของคณะกรรมการ โดยอนโุ ลม - 18 -
(5) ในกรณที ไี่ มม่ ผี ้ยู นื่ ขอ้ เสนอหรอื มีแต่ไม่ถูกต้องตรงตามเง่ือนไขท่ีกาหนดในหนังสือเชิญชวนให้เสนอ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่เพื่อยกเลิกการคัดเลือกครั้งน้ัน และจะดาเนินการใหม่โดยวิธี เฉพาะเจาะจงตามมาตรา 56 วรรคหน่ึง (2) (ก) ก็ได้ ถ้าปรากฏว่าราคาของผู้ย่ืนข้อเสนอท่ีคณะกรรมการ เห็นสมควรซื้อหรือจ้างยังสูงกว่าวงเงินที่จะซื้อหรือจ้าง ให้คณะกรรมการเรียกผู้ยื่นข้อเสนอรายนั้นมาต่อรอง ราคา โดยใหด้ าเนนิ การตามขอ้ 57 หรือขอ้ 58 แล้วแตก่ รณี โดยอนโุ ลม (6) ในกรณีการจ้างตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (1) (ช) หากไม่สามารถดาเนินการตามปกติได้ ให้ คณะกรรมการแจ้งให้ผู้ประกอบการยื่นซองข้อเสนอด้านเทคนิคเพ่ือพิจารณาให้เป็นไปตามความต้องการก่อน พิจารณาดา้ นราคา แล้วให้คณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอด้านเทคนิคที่ดีท่ีสุดแล้วจัดลาดับ หลังจาก นั้นให้เชิญผู้ท่ีย่ืนข้อเสนอด้านเทคนิคที่ดีที่สุดมายื่นข้อเสนอด้านราคาและเจรจาต่อรองราคาท่ีเหมาะสม หาก เจรจาไม่ได้ผล ให้เจรจากับผู้ย่ืนข้อเสนอด้านเทคนิคท่ีดีที่สุดรายถัดไปหากดาเนินการตามวรรคหนึ่ง แล้วไม่ ได้ผล ให้เสนอความเห็นต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าท่ีเพ่ือพิจารณายกเลิกการจ้างในครั้ง นั้นและจะส่งั ให้ดาเนินการใหม่โดยวธิ ีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (ก) กไ็ ด้ ทั้งนี้ เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบรายงานผลการพิจารณา และผู้มีอานาจอนุมัติ สั่งซ้ือหรือสั่งจ้างแล้วให้หัวหน้าเจ้าหน้าที่แจ้งผลการพิจารณาผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (e-mail) ตาม แบบท่ีกรมบัญชีกลางกาหนดให้ผู้เสนอราคาทุกรายทราบ และให้ประกาศผลผู้ชนะการเสนอราคาในระบบ เครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลางและของหน่วยงานของรัฐตามวิธีการท่ีกรมบัญชีกลางกาหนด และให้ ปดิ ประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานท่ีปดิ ประกาศของหน่วยงานของรัฐนัน้ 7.3 วิธีเฉพาะเจาะจง หมายถึง การท่ีหน่วยงานของรัฐเชิญชวนผู้ประกอบการท่ีมีคุณสมบัติตรงตาม เง่ือนไขทห่ี น่วยงานของรฐั กาหนดรายใดรายหนึ่งใหเ้ ข้าย่นื ขอ้ เสนอ หรอื ให้เข้ามาเจรจาต่อรองราคารวมทั้งการ จัดซอ้ื จัดจ้างพสั ดุกับผปู้ ระกอบการโดยตรงในวงเงินเล็กน้อยตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง กรณดี ังต่อไปน้ี ให้ใช้วธิ ีเฉพาะเจาะจง (ก) ใช้ทั้งวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้วแต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอ หรือ ข้อเสนอนัน้ ไมไ่ ดร้ บั การคัดเลือก (ข) การจดั ซือ้ จดั จา้ งพสั ดทุ ีม่ กี ารผลติ จาหน่าย ก่อสรา้ ง หรือใหบ้ รกิ ารท่วั ไป และมีวงเงินในการจัดซื้อ จัดจ้างครงั้ หน่งึ ไม่เกนิ วงเงินตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง (ค) การจัดซอ้ื จัดจา้ งพัสดุทมี่ ผี ู้ประกอบการซ่ึงมีคุณสมบัติโดยตรงเพียงรายเดียวหรือการจัดซื้อจัดจ้าง พสั ดุจากผปู้ ระกอบการซึ่งเป็นตัวแทนจาหน่ายหรือตัวแทนผู้ให้บริการโดยชอบด้วยกฎหมายเพียงรายเดียวใน ประเทศไทยและไม่มีพสั ดุอ่นื ทีจ่ ะใช้ทดแทนได้ (ง) มคี วามจาเป็นต้องใช้พัสดุนั้นโดยฉุกเฉิน เน่ืองจากเกิดอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติหรือเกิดโรคติดต่อ อันตรายตามกฎหมายวา่ ดว้ ยโรคตดิ ต่อ และการจัดซ้อื จดั จ้างโดยวิธปี ระกาศเชญิ ชวนท่ัวไปหรือวิธีคัดเลือกอาจ กอ่ ใหเ้ กิดความลา่ ช้าและอาจทาให้เกิดความเสยี หายอย่างร้ายแรง (จ) พสั ดทุ ี่จะทาการจดั ซื้อจดั จา้ งเปน็ พสั ดุทเี่ กีย่ วพันกับพัสดทุ ไี่ ดท้ าการจัดซือ้ จัดจ้างไว้ก่อนแล้ว และมี ความจาเป็นต้องทาการจัดซื้อจัดจ้างเพิ่มเติมเพ่ือความสมบูรณ์หรือต่อเนื่องในการใช้พัสดุน้ันโดยมูลค่าของ พัสดทุ ที่ าการจดั ซือ้ จัดจา้ งเพิ่มเติมจะต้องไม่สงู กวา่ พัสดทุ ่ีได้ทาการจัดซื้อจัดจ้างไว้กอ่ นแลว้ (ฉ) เป็นพัสดุที่จะขายทอดตลาดโดยหน่วยงานของรัฐ องค์การระหว่างประเทศหรือหน่วยงานของ ตา่ งประเทศ (ช) เปน็ พัสดุทเ่ี ปน็ ทีด่ ินหรือส่ิงปลกู สรา้ งซง่ึ จาเป็นต้องซ้ือเฉพาะแห่ง - 19 -
(ซ) กรณอี นื่ ตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวง การดาเนินการ ใหค้ ณะกรรมการซ้ือหรือจ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจง เชิญชวนผู้ประกอบการท่ีมีคุณสมบัติตามเงื่อนไขท่ี กาหนด รายใดรายหนึ่งให้เขา้ ยืน่ ขอ้ เสนอต่อหนว่ ยงานของรัฐ โดยใหด้ าเนนิ การดงั ตอ่ ไปนี้ (1) กรณีตามมาตรา 56 วรรคหน่ึง (2) (ก)(ใช้ทั้งวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธี คัดเลือกแล้วแต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอ หรือข้อเสนอน้ันไม่ได้รับการคัดเลือก) ให้เชิญผู้ประกอบการที่มีอาชีพขาย หรือรบั จา้ งนั้นโดยตรงหรือจากผูย้ ืน่ ข้อเสนอในการซือ้ หรอื จ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไปหรือวิธีคัดเลือกซึ่ง ถกู ยกเลกิ ไป (ถา้ มี) ใหม้ ายน่ื เสนอราคา ทงั้ นี้ หากเห็นวา่ ผปู้ ระกอบการรายที่เห็นสมควรซื้อหรือจ้างเสนอราคา สูงกว่าราคาในทอ้ งตลาด หรือราคาท่ปี ระมาณได้ หรอื ราคาทีค่ ณะกรรมการเห็นสมควรให้ต่อรองราคาลงเท่าท่ี จะทาได้ (2) กรณีตามมาตรา 56 วรรคหน่ึง (2) (ค) (ง) (การจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุท่ีมีผู้ประกอบการท่ีคุณสมบัติ โดยตรงเพยี งรายเดียว และกรณีท่เี ปน็ พัสดุที่มคี วามจาเป็นตอ้ งใช้โดยฉกุ เฉินเนื่องจากอุบัติภัยหรือภัยธรรมชาติ หรือเกิดโรคติดต่ออันตราย และการดาเนินการโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปหรือวิธีคัดเลือกอาจก่อให้เกิด ความล่าช้าหรือเสียหายอย่างร้ายแรง) ให้เชิญผู้ประกอบการท่ีมีอาชีพขายหรือรับจ้างน้ันโดยตรงมาย่ืนเสนอ ราคา หากเห็นว่าราคาท่ีเสนอน้ันยังสูงกว่าราคาในท้องถ่ิน หรือราคาที่ประมาณได้ หรือราคาท่ีคณะกรรมการ เห็นสมควร ใหต้ อ่ รองราคาลงเทา่ ที่จะทาได้ (3) กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนึ่ง (2) (จ) (กรณีจาเป็นต้องทาการจัดซ้ือจัดจ้างเพิ่มเติมหรือต่อเนื่อง จากพัสดุที่ได้จัดซื้อจัดจ้างไว้ก่อนแล้ว) ให้เจรจากับผู้ประกอบการรายเดิมตามสัญญาหรือข้อตกลงซ่ึงยังไม่ สิ้นสุดระยะเวลาส่งมอบ เพ่ือขอให้มีการซื้อหรือจ้างตามรายละเอียด และราคาที่ต่ากว่าหรือราคาเดิม โดย คานงึ ถงึ ราคาต่อหน่วยตามสัญญาเดมิ (ถา้ มี) เพ่ือใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสดุ ต่อหนว่ ยงานของรัฐ (4) กรณีตามมาตรา 56 วรรคหนงึ่ (2) (ฉ) (เป็นพัสดุทจ่ี ะขายทอดตลาดโดยหนว่ ยงานของรฐั องคก์ าร ระหวา่ งประเทศหรอื หนว่ ยงานของตา่ งประเทศ) ใหด้ าเนินการโดยวธิ ีเจรจาตกลงราคา (5) กรณีตามมาตรา 56 วรรคหน่ึง (2) (ช) (เป็นพัสดุท่ีเป็นท่ีดินหรือส่ิงปลูกสร้างซึ่งจาเป็นต้องซ้ือ เฉพาะแห่ง) ให้เชิญเจ้าของที่ดินหรือส่ิงปลูกสร้างโดยตรงมาเสนอราคา หากเห็นว่าราคาที่เสนอน้ันยังสูงกว่า ราคาในท้องตลาด หรือราคาทีค่ ณะกรรมการเหน็ สมควร ใหต้ ่อรองราคาลงเท่าท่ีจะทาได้ - กรณกี ารจัดซ้อื จัดจา้ ง วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท ให้เจ้าหน้าท่ีเจรจาตกลงราคากับผู้ประกอบการ ทีม่ ีอาชีพหรอื รับจ้างน้ันโดยตรง แลว้ ให้หัวหน้าเจ้าหน้าท่ีซื้อหรือจ้างได้ภายในวงเงินที่ได้รับความเห็นชอบจาก หวั หนา้ หนว่ ยงานของรัฐ - สาหรับกรณีข้างต้นท่ีมีความจาเป็นเร่งด่วน ไม่อาจคาดหมายได้ และดาเนินการตามปกติได้ทันให้ เจ้าหนา้ ท่หี รอื ผทู้ ร่ี บั ผดิ ชอบในการปฏิบตั ิงานน้นั ดาเนินการไปกอ่ นแลว้ รีบรายงานขอความเห็นชอบต่อหัวหน้า หน่วยงานของรัฐ และเมื่อหัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐให้ความเห็นชอบแล้วให้ถือว่ารายงานดังกล่าวเป็นหลักฐาน การตรวจรับโดยอนโุ ลม - ในกรณีหน่วยงานของรัฐในต่างประเทศ หรือมีกิจกรรมที่ต้องปฏิบัติในต่างประเทศจะทาการจัดซ้ือ จัดจา้ งโดยวธิ ีคัดเลอื ก หรือวธิ ีเฉพาะเจาะจง โดยไมใ่ ช้วธิ ปี ระกาศเชิญชวนทั่วไปกอ่ นก็ได้ (6) กรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุท่ีเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการบริหารงานที่มีวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างคร้ัง หนึ่งไม่เกิน 10,000 บาท ให้เจ้าหน้าท่ีหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมายดาเนินการจัดซ้ือจัดจ้างพัสดุไปก่อนแล้วรีบ รายงานขอความเห็นชอบ พร้อมด้วยหลักฐานการจัดซ้ือจัดจ้างน้ันเสนอต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐภายใน 5 - 20 -
วันทาการถัดไป เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐให้ความเห็นชอบแล้ว ให้ถือว่ารายงานขอความเห็นชอบดังกล่าว เป็นหลักฐานในการตรวจรับโดยอนุโลม (ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ท่ี กค(กวจ)0405.2/ว119 ลง วนั ที่ 7 มนี าคม 2561) 8. เกณฑ์การพจิ ารณาข้อเสนอสาหรบั การซอื้ หรอื จ้าง วธิ ีประกาศเชิญชวนท่ัวไปหรือวิธีคัดเลอื กใหห้ นว่ ยงานของรฐั ดาเนนิ การโดยพจิ ารณาถงึ ประโยชน์ของหนว่ ยงานของรัฐ และวตั ถุประสงค์ของการใช้งานเป็นสาคัญ ตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ 8.1 การซื้อหรือจ้างที่มีการกาหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุท่ีเป็นมาตรฐาน และมีคุณภาพดี เพยี งพอตามความตอ้ งการใช้งาน และเปน็ ประโยชนต์ อ่ หนว่ ยงานของรฐั แล้ว ให้ใชเ้ กณฑร์ าคาในการคัดเลือกผู้ ทเี่ สนอราคาตา่ สุดเปน็ ผู้ชนะ 8.2 การซ้ือหรือจ้างที่มีความซับซ้อน มีเทคโนโลยีสูง หรือมีเทคนิคเฉพาะ จาเป็นต้องคัดเลือกพัสดุมี คุณภาพดตี ามความตอ้ งการใชง้ านของหน่วยงานของรัฐน้ัน และเป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐ สามารถใช้ เกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์ราคาประกอบเกณฑ์อื่น โดยพิจารณาคัดเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่มีคุณภาพและ คุณสมบัติถูกต้อง ครบถ้วน ซึ่งได้คะแนนรวมสูงสุดเป็นผู้ชนะการซื้อหรือจ้างหรือเป็นผู้ได้รับการคัดเลือก แต่ หากหน่วยงานของรัฐไม่อาจเลือกใช้เกณฑ์อ่ืนประกอบและจาเป็นต้องใช้เกณฑ์เดียวในการพิจารณา ให้ใช้ เกณฑ์ราคา 8.3 การซ้ือหรือจ้างท่ีมีการกาหนดคุณลักษณะเฉพาะท่ีจะต้องคานึงถึงเทคโนโลยีของพัสดุหรือ คุณสมบัติของผู้ย่ืนข้อเสนอ ซ่ึงอาจจะมีข้อเสนอที่ไม่อยู่ในฐานเดียวกันเป็นเหตุให้มีปัญหาในการพิจารณา ให้ หน่วยงานของรัฐกาหนดเป็นเง่ือนไขให้มีการยื่นข้อเสนอด้านเทคนิค หรือข้อเสนออ่ืนแยกมาต่างหาก และให้ พิจารณาคัดเลือกผู้ท่ีได้คะแนนข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออ่ืนผ่านเกณฑ์ขั้นต่าตามที่หน่วยงานของรัฐ กาหนด แลว้ ให้ดาเนินการตาม (1) หรอื (2) เกณฑอ์ ื่นทใี่ ชพ้ จิ ารณาประกอบเกณฑร์ าคา มดี ังน้ี (1) ตน้ ทุนของพัสดนุ นั้ ตลอดอายุการใช้งาน (2) มาตรฐานของสินค้าหรือบรกิ าร (3) บริการหลังการขาย (4) พัสดทุ ่รี ัฐต้องการสง่ เสรมิ หรอื สนับสนนุ (5) การประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านของผูป้ ระกอบการ (6) ข้อเสนอด้านเทคนิคหรือข้อเสนออื่น ในกรณีท่ีกาหนดให้มีการย่ืนข้อเสนอด้านเทคนิคหรือ ขอ้ เสนออ่ืนก่อนตามวรรคหก (7) เกณฑอ์ ่นื ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง อานาจในการสัง่ ซ้อื หรือสง่ั จา้ ง วธิ ีการจดั ซ้ือจัดจา้ ง หวั หนา้ หน่วยงานของรัฐ ผู้มีอานาจเหนือข้นึ ไปหนึ่งช้ัน วิธปี ระกาศเชิญชวนทว่ั ไป ไม่เกนิ 200,000,000 บาท เกิน 200,000,000 บาท วิธีคดั เลือก ไม่เกิน 100,000,000 บาท เกิน 100,000,000 บาท วธิ เี ฉพาะเจาะจง ไมเ่ กนิ 50,000,000 บาท เกนิ 50,000,000 บาท - 21 -
9. การจา้ งท่ปี รึกษา การจ้างที่ปรึกษา กระทาได้ 3 วิธี ดงั นี้ 1. วธิ ีประกาศเชญิ ชวนทัว่ ไป 2. วธิ คี ัดเลอื ก 3. วิธเี ฉพาะเจาะจง การจา้ งท่ปี รกึ ษาทกุ วธิ ใี ห้ดาเนนิ การ ดงั นี้ 1. การจัดทาร่างขอบเขตองงานจ้างท่ีปรึกษา โดยให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐอาจแต่งตั้ง คณะกรรมการข้ึนมาคณะหน่ึง หรือมอบหมายให้เจ้าหน้าท่ีหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งจัดทาร่างขอบเขตของงาน จา้ งท่ีปรกึ ษา รวมทง้ั กาหนดหลักเกณฑก์ ารพิจาณาคดั เลือกขอ้ เสนอ ซง่ึ มีองค์ประกอบ ระยะเวลาการพิจารณา และการประชมุ ใหเ้ ป็นไปตามท่ีหัวหน้าหน่วยงานของรัฐกาหนดตามความเหมาะสม 2. การจัดทารายงานขอจ้างท่ีปรึกษา ให้เจ้าหน้าท่ีจัดทารายงานขอจ้างท่ีปรึกษาเสนอหัวหน้า หน่วยงานของรัฐ โดยเสนอผ่านหัวหน้าเจ้าหนา้ ท่ี 3. การแต่งตั้งคณะกรรมการฯ ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐแต่งต้ังคณะกรรมการดาเนินงานจ้างที่ ปรกึ ษาข้ึน เพือ่ ปฏบิ ัตกิ ารตามระเบยี บนี้ พรอ้ มกาหนดระยะเวลาในการพิจารณาของคณะกรรมการ คณะกรรมการดาเนินงานจ้างทีป่ รึกษา มี 4 คณะ ได้แก่ 1. คณะกรรมการดาเนินงานจ้างที่ปรึกษาโดยวธิ ีประกาศเชิญชวนทัว่ ไป 2. คณะกรรมการดาเนินงานจ้างทป่ี รกึ ษาโดยวธิ ีคัดเลือก 3. คณะกรรมการดาเนินงานจ้างที่ปรกึ ษาโดยวธิ เี ฉพาะเจาะจง 4. คณะกรรมการตรวจรับพสั ดใุ นงานจา้ งท่ีปรึกษา คณะกรรมการแต่ละคณะให้ประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คน และกรรมการอย่างน้อย 4 คน ในกรณีจาเป็นหรอื เพอื่ ประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐจะแต่งต้ังบุคคลอื่นร่วมเป็นกรรมการด้วยก็ได้ แต่ จานวนกรรมการทีเ่ ป็นบคุ คลอื่นน้ัน จะต้องไม่มากกว่าจานวนกรรมการภายในหน่วยงาน ทั้งน้ี คณะกรรมการ ดาเนินการจ้างที่ปรึกษาทุกคณะ ควรแต่งต้ังผู้ชานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับงานจ้างน้ัน ๆ เข้าร่วมเป็น กรรมการดว้ ย 9.1 การจ้างที่ปรึกษาวิธีประกาศเชิญชวนท่ัวไป ใช้กับงานท่ีไม่ซับซ้อน งานที่มีลักษณะเป็นงาน ประจาของหน่วยงานของรัฐ หรืองานที่มีมาตรฐานตามหลักวิชาชีพ และมีท่ีปรึกษาซ่ึงทางานนั้นได้เป็นการ ท่วั ไป โดยหน่วยงานของรัฐประกาศเชิญชวนท่ปี รกึ ษาทีม่ ีคณุ สมบตั ริ งตามเง่ือนไขที่กาหนดให้เขา้ ยนื่ ขอ้ เสนอ รายงานขอจา้ งท่ปี รึกษา โดยวิธปี ระกาศเชญิ ชวนท่วั ไป มีรายการ ดังน้ี 1. เหตผุ ลและความจาเปน็ ท่ตี ้องจ้างที่ปรึกษา 2. ขอบเขตของงานจ้างทปี่ รึกษา 3. คุณสมบัตขิ องท่ปี รึกษาทีจ่ ะจ้าง 4. ราคากลางงานจา้ งทีป่ รึกษา 5. วงเงินท่ีจะจ้างที่ปรึกษา โดยให้ระบุวงเงินงบประมาณ ถ้าไม่มีวงเงินดังกล่าวให้ระบุวงเงินที่ ประมาณว่าจะจา้ งในคร้งั นั้น 6. กาหนดเวลาแลว้ เสรจ็ ของงานจา้ งทป่ี รกึ ษา 7. วธิ ีจ้างท่ปี รกึ ษา และเหตผุ ลทต่ี อ้ งจ้างที่ปรึกษาโดยวธิ นี ัน้ - 22 -
8. หลักเกณฑก์ ารพิจารณาคดั เลือกขอ้ เสนอ 9. ข้อเสนออ่นื ๆ (เชน่ แต่งตั้งคณะกรรมการ) เจา้ หนา้ ทที่ ารายงานเสนอหวั หน้าหน่วยงานของรัฐ เม่ือ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐใหค้ วามเหน็ ชอบรายงานที่เสนอแลว้ ให้เจ้าหนา้ ที่ดาเนนิ การจ้างตามวธิ นี ้ันตอ่ ไปได้ การดาเนนิ การ 1. ขน้ั ตอนเริม่ ตน้ 1.1 ใหเ้ จ้าหนา้ ที่จดั ทาเอกสารจา้ งทป่ี รกึ ษาโดยวิธปี ระกาศเชญิ ชวนท่ัวไป พรอ้ มประกาศเผยแพรต่ าม แบบทคี่ ณะกรรมการนโยบายกาหนด 1.2 ทารายงานขอจ้างท่ีปรกึ ษา โดยเจา้ หนา้ ท่ที ารายงานเสนอหวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั ผ่านหวั หนา้ เจา้ หนา้ ท่ี 1.3 แต่งต้งั คณะกรรมการฯ 2. ขน้ั ตอนการประกาศเผยแพร่ 2.1 เมื่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐบาลให้เห็นความชอบรายงานขอจ้างท่ีปรึกษาแล้ว ให้หัวหน้า เจ้าหน้าที่เผยแพรป่ ระกาศและเอกสารจ้างท่ีปรึกษาในระบบเครือข่ายสารสนเทศของกรมบัญชีกลาง และของ หนว่ ยงานของรฐั และใหป้ ดิ ประกาศโดยเปิดเผย ณ สถานที่ปดิ ประกาศของหน่วยของรัฐ เป็นเวลาติดต่อกันไม่ น้อยกวา่ 5 วนั ทาการ 2.2 การให้เอกสารจ้างที่ปรึกษา รวมทั้งเอกสารที่เก่ียวข้อง จะให้ไปพร้อมเก่ียวกับการเผยแพร่ ประกาศและจ้างที่ปรึกษา เพื่อให้ปรึกษาที่ประสงค์จะเข้ายื่นยันข้อเสนอสามารถขอรับเอกสารจ้างที่ปรึกษา ตง้ั แต่วันเร่มิ ต้นประกาศจนถึงวันสุดทา้ ยของการเผยแพรป่ ระกาศและเอกสารการจา้ งทปี่ รกึ ษา 2.3 ใหก้ าหนดวนั เวลา ในการยื่นข้อเสนอเปน็ วนั ทาการเพียงวันเดียว นบั ถัดจากวนั สทุ า้ ยของการ เผยแพร่ประกาศและเอกสารจ้างท่ีปรกึ ษา 3. ข้ันตอนกรพิจารณาและตัดสนิ ให้คณะกรรมการดาเนนิ งานจา้ งทปี่ รึกษาฯดาเนนิ การดังน้ี 3.1 เปิดซองข้อเสนอ และตรวจสอบเอกสารต่างๆ ของท่ีปรึกษาผู้ย่ืนข้อเสนอทุกรายแล้วให้ กรรมการทุกคนลงรายมอื ชอ่ื กากับไวท้ ุกแผน่ 3.2 ตรวจสอบการมีผลประโยชน์ร่วมกัน และเอกสารหลักฐานต่างๆ ของที่ปรึกษาผู้ย่ืนข้อเสนอ และคัดเลือกที่ปรึกษาผู้ยื่นข้อเสนอที่ไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน และยื่นเอกสารครบถ้วน ถูกต้อง มีคุณสมบัติ และข้อเสนอด้านสุขภาพทค่ี รบถ้วน ถูกต้อง ตามเง่อื นไขที่หนว่ ยงานของรฐั กาหนดไวใ้ นเอกสารจ้างที่ปรึกษา 3.3 ในกระบวนการพิจารณา อาจสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากท่ีปรึกษาผู้ย่ืนข้อเสนอรายใดก็ ไดแ้ ต่จะใหท้ ป่ี รกึ ษาผู้ยื่นข้อเสนอรายใดเปลี่ยนแปลงสาระสาคญั ท่เี สนอแลว้ มิได้ 3.4 ท่ปี รกึ ษาผยู้ น่ื ข้อเสนอรายใดมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามเงื่อนไขที่หน่อยงานของรัฐได้กาหนด ไวใ้ ห้คณะกรรมการตดั รายชื่อของทป่ี รึกษาผู้ย่นื ข้อเสนอรายนน้ั 3.5 เปิดซองข้อเสนอด้านราคาต่าสุดเท่ากันหลายรายที่ถูกต้อง และพิจารณาเลือกรายท่ีเสนอ ราคาต่าสุด และจดั ลาดับ 3.6 กรณที ปี่ รกึ ษาผยู้ ่ืนขอ้ เสนอรายทค่ี ดั เลือกไว้ซ่ึงเสนอราคาต่าสุด ไม่เข้าทาสัญญาหรือข้อตกลง กบั หน่วยงานของรัฐในเวลาท่ีกาหนดตามเอกสารจ้างที่ปรึกษา ให้คณะกรรมการพิจารณาผู้ท่ีเสนอราคาต่าสุด รายถดั ไป - 23 -
3.7 กรณที ี่มที ่ีปรกึ ษาผู้ย่ืนขอ้ เสนอราคาต่าสุดเท่ากันหลายราย ให้เรียกที่ปรึกษาดังกล่าวมาเสนอ ราคาใหม่ด้วยวิธกี ารย่นื ซองเสนอด้านราคา และพจิ ารณาเลือกรายท่ีเสนอราคาต่าสุด 3.8 จดั ทารายงานการเลอื กพิจารณา และความเห็นพร้อมด้วยเอกสารที่ไดร้ ับไว้ทั้งหมดต่อหัวหน้า หน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าท่ีเพ่ือพิจารณาให้ความเห็นชอบ โดยรายงานผลการพิจารณาดังกล่าว อย่างน้อยใหป้ ระกอบดว้ ย - รายละเอียดงานจา้ งท่ปี รึกษา - รายชือ่ ท่ปี รึกษา วงเงินท่ีเสนอ และข้อเสนอของท่ีปรึกษาทุกราย - รายชอ่ื ที่ปรึกษาทีผ่ า่ นการคัดเลือกว่าไม่เป็นผู้ท่มี ีประโยชนร์ ว่ มกัน - หลักเกณฑ์การพจิ ารณาคัดเลือกข้อเสนอ พร้อมเกณฑ์การใหค้ ะแนน - ผลการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอและการให้คะแนนข้อเสนอของท่ีปรึกษาทุกราย พร้อมเหตุผล สนบั สนนุ ในการพจิ ารณา กรณมี ผี ้ยู ื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว หรือมผี ู้ย่นื ข้อเสนอหลายราย แตผ่ ่านการคดั เลือกเพียงรายเดียว - ให้เสนอหัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐผ่านหัวหนา้ เจ้าหนา้ ที่เพ่ือพจิ ารณายกเลิกการประกาศเชิญชวน - หากคณะกรรมการพจิ ารณาแลว้ เหตผุ ลสมควรทีจ่ ะดาเนินการตอ่ ไปโดยไม่ยกเลิกให้คระกรรมการ ต่อรองกับที่ปรึกษารายน้นั แลว้ เสนอความเห็นต่อหวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั ต่อไป กรณีทไ่ี ม่มีผู้ยนื่ ขอ้ เสนอ หรือข้อเสนอนั้นไม่ไดร้ ับการคัดเลือก - ให้หัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั ผา่ นหัวหา้ เจา้ หน้าทเ่ี พอื่ พิจารณายกเลิกการประกาศเชิญชวน -หากหัวหนา้ หน่วยงานของรัฐเหน็ วา่ การจ้างโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปใหม่อาจไม่ได้ผลดี จะสั่งให้ ดาเนินการคัดเลือกตามาตรา 70(2)(ก)(ใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปแล้ว แต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอหรือข้อเสนอน้ัน ไม่ไดร้ บั การคัดเลอื ก)หรอื วิธีเฉพาะเจาะจงตาม 70 (2) (ก)(ใชว้ ธิ ีประกาศเชิญชวนท่ัวไปและวิธีคัดเลือก หรือใช้ วิธีคัดเลือกแล้ว แต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอหรือข้อเสนอนั้นไม่ได้รับกรคัดเลือก)แล้วแต่กรณีก็ได้ เว้นแต่ หน่วยงาน ของรัฐจะดาเนินการโดยวิธีคัดเลือกหรือวิธีเฉพาะเจาะจงด้วยเหตุอ่ืน ให้เริ่มกระบวนการการจ้างใหม่โดยการ จดั ทารายงานขอจ้างตามระเบียบฯ กรณีท่ีปรึกษาท่สี มควรจา้ งเสนอราคาสูงกว่าวงเงนิ ท่จี ะจ้าง - แจ้งท่ปี รกึ ษารายทเ่ี หน็ สมควรจ้างน้นั เพ่อื ต่อรองราคา - เรยี กท่ีปรกึ ษาทผ่ี ่านการเกณฑ์ดา้ นคณุ ภาพมาต่อรองราคาใหม่พรอ้ มกัน - เสนอความเห็นต่อหัวหน้าหน่อยงานของรัฐ เพื่อยกเลิก/ดาเนินการจ้างด้วยวิธีประกาศเชิญชวน ท่วั ไปใหม่/ดาเนนิ การจ้างโดยวธิ คี ัดเลือก/วิธีเฉพาะเจาะจงแลว้ แตก่ รณกี ็ได้ 9.2 การจ้างทป่ี รึกษาวิธีคัดเลือก ใช้กับกรณีท่ีใช้วิธกี ารประกาศเชญิ ชวนท่ัวไปแล้วไม่ผลดี หรอื เป็น กรณีท่เี ป็นงานซับซ้อนหรือซับซอ้ นมากหรอื กรณเี ปน็ งานจ้างท่มี ที ป่ี รึกจานวนจากัด ให้หนว่ ยงานของรฐั เชญิ ชวนเฉพาะท่ปี รึกษาทมี ีคุณสมบัติตรงตามเง่อื นไขท่กี าหนดซงึ่ ตอ้ งไม่น้อยกวา่ สามรายใหเ้ ข้าย่ืนข้อเสนอ เว้นแต่ ในงานท่มี ีท่ปี รึกษานอ้ ยกว่า 3 ราย การดาเนินการ 1. ข้ันตอนเร่ิมตน้ - 24 -
1.1 ทารายงานขอจ้างที่ปรึกษา โดยเจ้าหน้าที่ทารายงานเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ผ่าน หวั หนา้ เจา้ หนา้ ที่ 1.2 แตง่ ต้งั คณะกรรมการดาเนนิ งานจา้ งทีป่ รึกษาโดยวธิ กี ารคัดเลือก 1.3 ให้เจ้าหน้าที่ขอรายชื่อที่ปรึกษาในสาขางานที่จะจ้างจากศูนย์ข้อมูลท่ีปรึกษา กระทรวงการคลงั แลว้ มอบให้คณะกรรมการจา้ งทป่ี รึกษาฯเพ่ือดาเนนิ การตอ่ ไป 2. ขั้นตอนการเชญิ ชวน 2.1 จดั ทาหนังสอื เชญิ ชวนทีป่ รกึ ษาตามแบบที่คณะกรรมการนโยบายกาหนด 2.2 ให้เชิญชวนท่ีปรึกษาคุณสมบัติตามท่ีกาหนดให้เข้ายื่นข้อเสนอต่อหน่วยงานของรัฐ ไม่น้อย กว่า3ราย เว้นแต่ ม่ีที่ปรึกษาดังกล่าวน้อยกว่า3 ราย โดยให้คานึงถึงการไม่มีผลประโยชน์ร่วมกันของผู้เข้าย่ืน ข้อเสนอด้วย 2.3 เม่ือถึงกาหนดวัน เวลาในการย่ืนข้อเสนอ ให้รับซองข้อเสนอของท่ีปรึกษาพร้อมจัดทาบัญชี รายช่อื ผปู้ รึกษาผมู้ ายืน่ ข้อเสนอ และหากพ้นกาหนดเวลาดังกลา่ วแลว้ หา้ มรบั เอกสารหลักฐานตา่ งๆเพม่ิ เติม 3. ข้ันตอนการพจิ ารณาและตัดสิน ให้คณะกรรมการดาเนินงานจา้ งทปี่ รึกษาฯ ดาเนินการ ดงั นี้ 3.1 เปดิ ซองข้อเสนอ และตรวจสอบเอกสารหลังฐานตา่ งๆของที่ปรึกษาผู้ยื่นข้อเสนอทุกราย แล้ว ให้กรรมการทกุ คนลงรายมือช่ือกากับไวท้ กุ แผน่ 3.2 ตรวจสอบการมือผลประโยชน์ร่วมกัน และเอกสารหลักฐานต่างๆ ของท่ีปรึกษาของผู้ยื่น ข้อเสนอแล้วคัดเลือกท่ีปรึกษาผู้ย่ืนข้อเสนอที่ไม่มีผลประโยชน์ร่วมกัน และยื่นเอกสารครบถ้วน ถูกต้อง มี คณุ สมบัตแิ ละคุณสมบตั ิและข้อเสนอด้วนคุณภาพท่ีครบถ้วน ถูกต้อง ตามเง่ือนไขที่หน่วยงานของรัฐกาหนด ไว้ในเอกสารจ้างท่ีปรกึ ษา 3.3 ในกระบวนการพิจารณา อาจสอบถามข้อเท็จจริงเพิ่มเติมจากท่ีปรึกษาผู้ย่ืนข้อเสนอรายใดก็ ไดแ้ ตจ่ ะปรึกษาผูย้ ืน่ ข้อเสนอรายใดเปลย่ี นแปลงสาระสาคัญทเ่ี สนอไวแ้ ลว้ มิได้ 3.4 ท่ีปรึกษาย่ืนข้อเสนอรายใดมีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนตามเง่ือนไขท่ีหน่วยงานของรัฐ ได้กาหนด ไวใ้ หค้ ณะกรรมการตดั รายช่ือของที่ปรึกษาผ้ยู ื่นข้อเสนอรายนน้ั 3.5 กรณีการจ้างท่ีปรึกษา เพื่อดาเนินงานประจาหรืองานท่ีมีมาตรฐานเชิงคุณภาพ ตามหลัก วิชาชพี อยู่แล้วหรอื งานไม่ซับซอ้ น ให้คดั เลอื กผ้ยู ่นื ขอ้ เสนอที่ ผา่ นเกณฑ์ดา้ นคณุ ภาพ ซ่งึ เสนอราคาตา่ สุด 3.6 คัดเลือกขอ้ เสนอทถี่ กู ต้อง จดั ลาดับคะแนนและพจิ ารณาคดั เลือก ดงั น้ี (ก) กรณีงานจ้างที่ปรึกษาท่ีเป็นไปตามมาตรฐานของหน่วยงานของรัฐ หรืองานท่ีซับซ้อนให้ คดั เลือกจากรายที่ได้คะแนนรวมดว้ นคณุ ภาพและด้านราคามากทสี่ ดุ (ข) กรณีงานจ้างท่ีปรึกษาท่ีมีความซับซ้อนมาก ให้คัดเลือกรายท่ีได้คะแนนด้านคุณภาพมาก ที่สดุ -กรณีรายท่ีคัดเลือกไว้ไม่เข้าทาสัญญาหรือข้อตกลงกับหน่วยงานของรัฐในเวลาท่ีกาหนดให้ คณะกรรมการพิจารณาที่ปรึกษาผู้ย่ืนข้อเสนอท่ีได้คะแนนมากที่สุดตาม (ก) หรือ (ข) แล้วแต่กรณี รายถัดไป ตามลาดับ 3.7 จดั ทารายงานผลการพจิ ารณา โดยนาวธิ ปี ระกาศเชิญชวนทว่ั ไปมาใชโ้ ดยอนุโลม กรณมี ีผ้ยู ื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว หรือมีผู้ยน่ื ข้อเสนอหลายราย แต่ผา่ นคัดเลือกเพียงรายเดยี ว - ให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรฐั ผา่ นหัวหน้าเจ้าหนา้ ทเี่ พ่อื พจิ ารณายกเลิก - 25 -
- หากคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่ามีเหตุผลสมควรท่ีจะดาเนินการต่อไปโดยไม่ต้องยกเลิกให้ คณะกรรมการต่อรองกับทีป่ รึกษารายนน้ั แล้วเสนอความเห็นตอ่ หัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐต่อไป กรณีไมม่ ผี ู้ย่ืนข้อเสนอ หรอื ขอ้ เสนอนน้ั ไม่ไดร้ ับการคัดเลอื ก - ใหเ้ สนอหวั หนา้ หน่วยงานของรฐั ผ่านหัวหน้าเจ้าหนา้ ท่เี พือ่ พจิ ารณายกเลกิ - หากหวั หนา้ หน่วยงานของรฐั เหน็ วา่ การจา้ งโดยวิธีการคัดเลือกใหม่อาจไม่เป็นผลดี จะส่ังให้เนินการ จ้างโดยวิธีเฉพาะเจาะจงตามมาตรา70 (3) (ก) (ใช้วิธีการเชิญชวนทั่วไปและวิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้วแต่ไม่มีผู้ย่ืนข้อเสนอ) ก็ได้ เว้นแต่หน่วยงานของรัฐจะดาเนินการโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ด้วยเหตอุ ่ืน ให้เริม่ กระบวนการจ้างใหม่ โดยการจดั ทารายงานขอจา้ งตามระเบียบฯ เกณฑด์ ้านคณุ ภาพท่ใี ชใ้ นการพิจารณาคดั เลอื กขอ้ เสนอในงานจา้ งทป่ี รึกษา โดยวิธปี ระกาศเชญิ ชวนทั่วไปหรอื วธิ คี ดั เลือก มีดังนี้ 1. ผลงานและประสบการณข์ องทป่ี รึกษา 2. วธิ กี ารบริหารและปฏบิ ตั ิงาน 3. จานวนบุคลากรทรี่ ว่ มงาน 4. ประเภทของที่ปรกึ ษาท่ีรฐั ตอ้ งการสง่ เสรมิ หรอื สนบั สนนุ 5. ขอ้ เสนอทางดา้ นการเงิน 6. เกณฑ์อ่นื ตามทกี่ าหนดในกดกระทรวง ในการพิจารณาคัดเลือกข้อเสนอโดยวิธีประกาศเชิญชวนทั่วไป หรือวิธีคัดเลือก นอกจากให้ พิจารณาเกณฑ์ด้านคุณภาพท้ัง 6 เกณฑ์แล้ว ให้เป็นไปตามเกณฑ์ในการพิจารณาและการให้น้าหนัก ตาม ความมาตรา76 ของกฎหมายว่าด้วยการจัดซ้อื จัดจ้างและบริการพัสดภุ าครฐั 9.2 การจ้างที่ปรึกษาวิธเี ฉพาะเจาะจง ใช้กบั กรณที ี่ใช้ท้ังวธิ ีประกาศเชญิ ชวนทั่วไปและวิธีการคัดเลือก หรือใช้วิธีคัดเลือกแล้วไม่ได้ผลดี หรือกรณีมีวงเงินค่าจ่างไม่เกิน 500,000 บาท หรือกรณีท่ีจ้างที่ปรึกษาราย เดิมทาต่อจากงานที่ได้ทาไว้แล้ว หรือกรณีท่ีเป็นงานจ้างที่มีท่ีปรึกษาในงานท่ีจะจ้างน้ันจานวนจากัดและมี วงเงินค่าจา้ งคร้งั หน่ึงไม่เกิน 5000,000 บาท หรอื กรณใ๊ นงานนน้ั มีที่ปรึกษาเพยี งรายเดียวหรือกรณีเป็นงานท่ีมี ความจาเป็นเร่งด่วนหรือเกี่ยวกับความม่ันคงของชาติ หรือกรณีอื่นๆ ตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง ให้ หน่วยงานของรัฐเชิญชวนที่ปรึกษาท่ีมีคุณสมบัติตรงตามเง่ือนท่ีกาหนดรายใดรายหน่ึงให้เข้าย่ืนข้อเสนอ หรือ ใหเ้ ขา้ เจรจาต่อรองราคา การดาเนนิ การ 1. ขัน้ ตอนเรมิ่ ต้น 1.1 ให้เจ้าหน้าทที่ ารายงานขอจ้างทป่ี รึกษา 1.2 แตง่ ตง้ั คณะกรรมการดาเนินงานจา้ งท่ีปรึกษาโดยวิธีการเฉพาะเจาะจง 1.3 ใหเ้ จ้าที่แจง้ คณะกรรมการจ้างทีป่ รกึ ษาฯ เพอื่ ดาเนินการตอ่ ไป 2. ขัน้ ตอนการเชญิ ชวน และพจิ ารณาตดั สนิ 2.1 ให้คระกรรมการจ้างท่ีปรึกษาฯ จัดทาหนังสือเชิญชวนท่ีปรึกษา ตามแบบท่ี คณะกรรมการนโยบายกาหนด 2.2 เชิญชวนทปี่ รึกษารายใดรายหนึ่งทมี่ ีคุณสมบตั ิเหมาสมท่ีจะทางานนั้น - 26 -
2.3 พจิ ารณาข้อเสนอของท่ีปรึกษา และเจรจาต่อรอง เพื่อให้ได้ข้อเสนอท่ีเหมาะสม ถูกต้อง เป็น ประโยชน์ตอ่ ทางหน่วยงานของรัฐมากทส่ี ุด และสอคลอ้ งกบั วตั ถุประสงค์ 2.4 จดั ทารายงานผลการพิจารณา (นาวธิ ีประกาศเชิญชวนท่วั ไปมาใชโ้ ดยอนุโลม) อานาจในการสงั่ จ่ายทปี่ รึกษา (ทกุ วิธี) หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ผมู้ ีอานาจเหนอื ขนึ้ ไปหน่ึงชั้น ไม่เกิน 100,000,000 บาท เกิน 100,000,000 บาท การจา่ ยเงินล่วงหนา้ (1) ในกรณีมีความจาเป็นต้องจา่ ยเงินคา่ สมคั รล่วงหน้า ให้จ่ายได้ไมเ่ กนิ รา้ ยละ 15 ของค่าจ้างตาม สัญญาและท่ปี รึกษาจะต้องวางหนงั สอื ค้าประกนั ที่ไดร้ ับล่วงหนา้ ไปนน้ั (2) กรณจี ้างสาหรบั การหนว่ ยงานของรฐั ใหจ้ ่ายเงินค่าจ้างล่วงหนา้ ได้ไมเ่ กนิ ร้อยละ 50 คา่ จ้างตาม สญั ญา และไม่ต้องมีหลกั ประกนั เงินล่วงหน้าทรี่ ับไปกไ็ ด้ 10.สัญญาและหลกั ประกนั (1) สญั ญาจา้ งกอ่ นสรา้ ง (2) สัญญาซื้อขาย (3) สัญญาจะซ้ือจะขายราคาคงที่ไม่จากดั ปริมาณ (4) สญั ญาซอ้ื ขายและอนุญาตให้ใช้สทิ ธใิ นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ (5) สัญญาเชา่ คอมพิวเตอร์ (6) สัญญาจา้ งบริการรกั ษาและซ่อมแซมแก้ไขคอมพิวเตอร์ (7) สัญญาจา้ งทาความสะอาดอาคาร (8) สัญญาจา้ งใหบ้ ริการรักษาความปลอดภยั (9) สญั ญาแลกเปลีย่ น (10) สญั ญาเชา่ รถยนต์ (11) สัญญาเช่าเคร่ืองถ่ายเอกสาร (12) สัญญาซอ้ื ขายคอมพวิ เตอร์ (13) สญั ญาจา้ งออกแบบและควบคมุ งานก่อสร้าง (14) สัญญาจ้างผ้เู ช่ียวชาญรายบคุ คลหรอื บริษทั ทป่ี รึกษา (15) สญั ญาจ้างทาของ ให้หนว่ ยงานของรฐั ทาสัญญาตามแบบท่ีคณะกรรมการนโยบายกาหนดหากจาเปน็ ต้องมีขอ้ ความหรือรายการ แตกตา่ งไปจากทค่ี ณะกรรมการนโยบายกาหนด โดยมสี าระสาคญั ตามท่ีกาหนดไวใ้ นแบบและไมทาให้ หน่วยงานของรัฐเสียเปรียบก็ใหก้ ระทาได้ - 27 -
10.1 การทาสัญญา และการแกไ้ ขสญั ญา 10.1.1 การลงนามในสัญญาและการแก้ไขสัญญาตามระเบียบน้ี เป็นอานาจของหัวหน้า หน่วยงานของรัฐ การลงนามในสัญญาจะกระทาได้เม่ือพ้นระยะเวลาการอุทธรณ์ ภายใน7 วันทาการ นับถัด จากวนั ประกาศผลการจัดซอ้ื จัดจ้างในระบบเครอื ข่ายสารสนเทศของกรมบญั ชีกลาง 10.1.2 การแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลง ต้องอยู่ภายในขอบข่ายแห่งวัตถุประสงค์เดิมของ สญั ญาหรือขอ้ ตกลงนนั้ โดยหนว่ ยงานของรฐั ต้องพิจารณาเปรียบเทียบคุณภาพของพัสดุ หรือรายละเอียดของ งานรวมท้ังราคาของพัสดุหรืองานตามสัญญาหรือข้อตกลงกับพัสดุที่จะทาการแก้ไขนั้นก่อนแก้ไขสั ญญาหรือ ข้อตกลงด้วยในกรณีท่ีเป็นการจัดซ้ือจัดจ้างที่เกี่ยวกับความมั่นคงแข็งแรง หรืองานเทคนิคเฉพาะอย่างจะต่าง ได้รับความรับรองจากวิศวกร สถาปนิกและวิศวกรผู้ชานาญการ หรือผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงรับผิดชอบหรือสามารถ รับรองคุณลักษณะเฉพาะ แบบและรายการของงานก่อสร้าง หรืองานเทคนิคเฉพาะอย่างนั้นแล้วแต่กรณีด้วย เมื่อผู้มีอานาจอนุมัติส่ังซื้อหรือส่ังจ้างแล้วแต่กรณี ได้รับอนุมัติการแก้ไขสัญญาหรือข้อตกลงแล้วให้หัวหน้า หนว่ ยงานของรฐั เปน็ ผู้ลงนามในสัญญาหรือข้อตกลงท่ีได้แกไ้ ขนน้ั 10.2 การกาหนดอัตราค่าปรับในสัญญา กรณีท่ีสัญญาหรือข้อตกลงได้ครบกาหนดส่งมอบแล้ว และมีค่าปรับเกิดขึ้นให้หน่วยงานของรัฐ แจ้งการเรียก ค่าปรับตามสัญญาหรือข้อตกลงจากผู้สัญญาภายใน 7 วัน ทาการนับถัดจากวันครบกาหนดส่งมอบและเม่ือ คสู่ ญั ญาไดส้ ่งมอบพัสดุ ให้หนว่ ยงานของรัฐบอกสงวนสทิ ธ์ิการเรียกคา่ ปรับในขณะส่งมอบพัสดุน้นั ดงั น้ี 10.2.1 การทาสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ นอกจากการจ้างที่ปรึกษาให้กาหนดค่าปรับ เป็นรายวัน ในอัตราตายตวั ระหว่างรอ้ ยละ 0.01-0.10 ของราคาพัสดุทีย่ งั ไม่ได้รับมอบ 10.2.2 การจ้างซึ่งต้องการผลสาเร็จของงานท้ังหมดพร้อมกัน ให้กาหนดค่าปรับเป็นรายวัน เปน็ จานวนเงนิ ตายตัวในอัตราร้อยละ 0.01 – 0.10 ของราคางานจา้ ง ตอ้ งไม่ต่ากวา่ วันละ 100 บาท 10.2.3 งานกอ่ สร้างสาธารณปู โภค ทมี่ ผี ลกระทบตอ่ การจราจร ให้กาหนดค่าปรับเป็นรายวัน เปน็ จานวนเงินตายตัวในอัตราร้อยละ 0.25 ของราคางานจ้างน้ัน แต่อาจจะกาหนดขั้นสูงสุดของการปรับก็ได้ ตามหลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการนโยบายกาหนด ทั้งน้ีให้กาหนดเร่ืองค่าปรับไว้ในเอกสารเชิญชวนให้ชัดเจน ด้วย 10.2.4 กรณีเง่ือนไขสัญญาซื้อเปน็ ชดุ ใหป้ รบั ท้ังชุด 10.2.5 กรณีพัสดุคิดราคารวมค่าติดต้ัง/ทดลอง ให้ปรับเป็นรายวันในอัตราท่ีกาหนดของ ราคาทัง้ หมด 10.2.6 หากมีความจาเปน็ ต้องปรับนอกเหนอื จากที่กาหนดข้างต้น เช่น งานที่เก่ียวกับเทคโน โรยีสารสนเทศหรืองานที่อยู่ระหว่างการรับประกันความชารุดบกพร่องจากการซ้ือขายคอมพิวเตอร์ให้กาหนด อัตราคา่ ปรับในกรณดี ังกลา่ ว โดยคานงึ ถงึ ความสาคญั และลักษณะของงานและความเสียหายท่ีอาจเกดิ ขน้ึ 10.3 หลักประกันการเสนอราคา หน่วยงานของรัฐต้องกาหนดหลักประกันการเสนอราคา เพื่อประกันความเสียหายท่ีอาจ เกดิ ข้นึ จากกรณีทีผ่ ู้ย่นื ข้อเสนอ ผู้เสนอราคาหรอื ผใู้ หบ้ รกิ ารไมป่ ฏิบัติตามกระบวนการซ้ือหรือจ้าง หรือการจ้าง ออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างให้หน่วยงานของรัฐกาหนดหลักประกันการการเสนอราคา สาหรับการซ้ือ หรือจ้างด้วยวิธีประกาดราคาอิเล็กทรอนิกส์ งานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง ด้วยวิธีประกาศเชิญ ชวนทวั่ ไปที่มวี งเงนิ ซอื้ หรือจ้างหรือวงเงนิ งบประมาณค่ากอ่ สร้าง เกนิ กว่า 5,000,000 บาทดังน้ี - 28 -
การซ้ือหรือจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้มีการวางหลักประกันการเสนอราคา โดยให้ใชห้ ลักประกนั อยา่ งหน่ึงอยา่ งใด ดังตอ่ ไปนี้ (1) เชค็ หรือดราฟทท์ ่ีธนาคารเป็นสั่งจ่าย ซ่ึงเป็นเช็คหรือดราฟท์ลงวันท่ีท่ีใช้เช็๕หรือดราฟท์ นั้นชาระต่อเจ้าหน้าที่ หรอื กอ่ นวนั นั้นไมเ่ กนิ 3 วนั ทาการ (2) หนังสือค้าประกันอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารภายในประเทศตามแบบที่คณะกรรมการท่ี นโยบายกาหนด (3) พันธบัตรรัฐบาลไทย (4) หนังสอื ค้าประกนั ของบริษัทเงนิ ทนุ หลักทรพั ย์ที่ไดร้ บั อนุญาตให้ประกอบกจิ การเงนิ ทุน 10.4 หลักประกันสญั ญา หน่วยงานของรัฐกาหนด หลักประกันสัญญา โดยให้ใช้หลักประกันอย่างหน่ึงอย่างใด ดังต่อไปนี้ (1) เงินสด (2) เช็คหรือดราฟท์ท่ีธนาคารเซ็นส่ังจ่าย ซ่ึงเป็นเช็คหรือดราฟท์ลงวันท่ีที่ใช้เช็คหรือดราฟท์ นัน้ ชาระต่อเจา้ หนา้ ที่ หรือกอ่ นวันนัน้ ไม่เกิน 3 วนั ทาการ (3) หนังสือค้าประกันของธนาคารภายในประเทศตามตัวอย่างที่คณะกรรมการนโยบาย กาหนดโดยอาจเปน็ หนงั สอื ค้าประกนั อิเล็กทรอนิกส์ตามวิธกี ารท่ีกรมบญั ชีกลางกาหนดกไ็ ด้ (4) หนังสือค้า ประกันของบริษัทเงินทุนหรือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ท่ีได้รับอนุญาตให้ ประกอบกจิ การเงนิ ทนุ เพื่อการพาณิชย์และประกอบธุรกิจคา้ ประกันตามประกาศของธนาคารแห่งประเทศไทย ตามรายชอ่ื บรษิ ัทเงินทุนท่ีธนาคารแห่งประเทศไทยแจ้งเวียนให้ทราบ โดยอนุโลมให้ใช้ตามตัวอย่างหนังสือค้า ประกนั ของธนาคารทค่ี ณะกรรมการนโยบายกาหนด (5) พนั ธบัตรรฐั บาลไทย 10.5 มลู ค่าหลักประกนั การเสนอราคาและหลกั ประกนั สัญญา ดงั น้ี (1) หลักประกันการเสนอราคาและหลักประกันสัญญา ให้กาหนดมูลค่าเป็นจานวนเต็มใน อัตราร้อยละ 5 ของวงเงินงบประมาณหรือราคาพัสดทุ จ่ี ดั ซอ้ื จดั จ้างครง้ั น้ัน (2) กรณีการจัดซื้อจัดจ้างท่ีหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเห็นว่ามีความสาคัญเป็นพิเศษ จะ กาหนดอตั ราสงู กว่ารอ้ ยละ 5 แต่ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 10 ก็ได้ (3) ในกรณีทห่ี นว่ ยงานของรัฐเป็นผยู้ ่ืนข้อเสนอหรือเปน็ คสู่ ัญญาไม่ต้องวางหลักประกัน 10.6 การคนื หลกั ประกัน ให้หน่วยงานของรัฐคืนหลักประกันให้แก่ผู้ย่ืนข้อเสนอ คู่สัญญา หรือผู้ค้าประกันตาม หลกั เกณฑ์ ดงั น้ี (1) หลักประกันการเสนอราคาให้คืนให้แก่ผู้ยื่นข้อเสนอ หรือผู้ค้าประกันภายใน 15 วัน นับ ถัดจากวันท่ีหัวหน้าหน่วยงานของรัฐได้พิจารณาเห็นชอบรายงานผลคัดเลือกผู้ชนะการซื้อหรือจ้างเรียบร้อย แล้ว (2) กรณผี ยู้ น่ื ขอ้ เสนอรายที่คัดเลอื กไวซ้ ่ึงเสนอราคาต่าสุดไม่เกิน 3 ราย ให้คืนได้ต่อเม่ือได้ทา สัญญาหรอื ขอ้ ตกลง หรือผยู้ ืน่ ขอ้ เสนอไดพ้ น้ จากขอ้ ผูกพันแลว้ (3) หลักประกันสัญญาให้คืนให้แก่คู่สัญญา หรือผู้ค้าประกันโดยเร็ว และอย่างช้าต้องไม่เกิน 15 วัน นับถดั จากวันทีค่ ู่สัญญาพน้ จากข้อผูกพนั ตามสัญญาแล้ว - 29 -
10.7 หลักประกนั ผลงาน (1) การจ้างงานก่อสร้างทห่ี น่วยงานของรฐั กาหนดแบง่ การชาระเงินค่าจ้างออกเป็นงวดและมี ความประสงค์ให้มีการหักเงินประกันผลงานในแต่ละงวด ให้กาหนดการหักเงินตามอัตราที่หน่วยงานของรัฐ กาหนดของเงนิ ทตี่ อ้ งจ่ายในงวดนน้ั เพือ่ เป็นหลกั ประกัน ในกรณีทีเ่ งนิ ประกนั ผลงานถูกหักไว้แล้วเป็นจานวนไม่ ต่ากว่าอัตราที่หน่วยงานของรัฐกาหนด คู่สัญญามีสิทธิที่จะขอเงินประกันผลงานคืน โดยคู่สัญญาจะต้องนา หนังสือค้าประกันของธนาคารหรือหนังสือค้าประกันอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารภายในประเทศมาค้าประกัน แทนการหักเงนิ โดยมีอายุการคา้ ประกันตามทผ่ี ู้วา่ จา้ งจะกาหนดก็ได้ (2) การจ้างที่ปรึกษาให้ผู้ว่าจ้างหักเงินที่จะจ่ายแต่ละครั้งในอัตราไม่ต่ากว่าร้อยละห้าแต่ไม่ เกินร้อยละ 10 ของเงินค่าจ้างแต่ละครั้ง เพ่ือเป็นการประกันผลงาน ทั้งนี้ ให้กาหนดเป็นเงื่อนไขไว้ในสัญญา ดว้ ย 11. การบริหารสญั ญาและการตรวจรับพสั ดุ การดาเนินการตามสัญญาหรือข้อตกลง ให้ผู้มีอานาจแต่งต้ังคณะกรรมการตรวจรับพัสดุเพื่อ รับผิดชอบการบริหารสัญญาหรือขอ้ ตกลงและการตรวจรับพัสดุ กรณีท่ีการจัดซื้อจัดจ้างมีวงเงินเล็กน้อยตามท่ี กาหนดในกฎกระทรวงจะแต่งต้ังบุคคลหนึ่งบุคคลใด เป็นผู้ตรวจรับพัสดุก็ได้ (วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท) คณะกรรมการประกอบด้วยดังน้ี 11.1 คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานซ้ือหรืองานจา้ ง มหี นา้ ทด่ี ังนี้ (1) ตรวจรับพัสดุ ณ ท่ีทาการของผู้ใช้พัสดุน้ัน หรือสถานที่ซ่ึงกาหนดไว้ในสัญญาหรือ ข้อตกลงการตรวจรับพัสดุ ณ สถานที่อ่ืน ในกรณีท่ีไม่มีสัญญาหรือข้อตกลง จะต้องได้รับอนุมัติจากหัวหน้า หนว่ ยงานของรฐั ก่อน (2) ตรวจรับพัสดุให้ถูกต้องครบถ้วนตามหลักฐานท่ีตกลงกันไว้ สาหรับกรณีท่ีมีการทดลอง หรอื ตรวจสอบในทางเทคนิคหรือทางวิทยาศาสตร์ จะเชิญผูช้ านาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒิเก่ียวกับพัสดุน้ันมาให้ คาปรึกษา หรือส่งพัสดุน้ันไปทดลองหรือตรวจสอบ ณ สถานที่ของผู้ชานาญการหรือผู้ทรงคุณวุฒินั้น ก็ได้ใน กรณจี าเป็นทไ่ี ม่สามารถตรวจนับเปน็ จานวนหน่วยทงั้ หมดได้ ใหต้ รวจรับตามหลกั วชิ าการสถติ ิ (3) ให้ตรวจรับพัสดุในวันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนาพัสดุมาส่งและให้ดาเนินการให้เสร็จส้ิน โดยเร็วทสี่ ดุ (4) เมื่อตรวจถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้รับพัสดุไว้และถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างได้ส่งมอบพัสดุ ถูกต้องครบถ้วนต้ังแต่วันที่ผู้ขายหรือผู้รับจ้างนาพัสดุน้ันมาส่ง แล้วมอบแก่เจ้าหน้าท่ีพร้อมกับทาใบตรวจรับ โดยลงชื่อไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย 2 ฉบับ มอบแก่ผู้ขายหรือผู้รับจ้าง 1 ฉบับ และเจ้าหน้าที่ 1 ฉบับ เพื่อ ดาเนนิ การเบกิ จ่ายเงินตามระเบยี บของหน่วยงานของรัฐและรายงานให้หัวหนา้ หนว่ ยงานของรัฐทราบ ในกรณีทเี่ ห็นว่าพัสดุทส่ี ง่ มอบ มีรายละเอยี ดไมเ่ ป็นไปตามข้อกาหนดในสัญญาหรือขอ้ ตกลง (5) ใหร้ ายงานหวั หน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหวั หน้าเจ้าหน้าท่ี เพอื่ ทราบและสั่งการ (6) ในกรณีทผี่ ขู้ ายหรอื ผูร้ ับจ้างสง่ มอบพสั ดถุ กู ต้องแตไ่ มค่ รบจานวน หรือส่งมอบครบจานวน แต่ไม่ถูกต้องทั้งหมด ถ้าสัญญาหรือข้อตกลงมิได้กาหนดไว้เป็นอย่างอื่น ให้ตรวจรับไว้เฉพาะจานวนท่ีถูกต้อง และให้รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าท่ีเพ่ือแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน 3 วันทาการ นับถัดจากวันตรวจพบ แต่ทั้งน้ี ไม่ตัดสิทธ์ิหน่วยงานของรัฐท่ีจะปรับผู้ขายหรือผู้รับจ้างในจานวนท่ี สง่ มอบไม่ครบถว้ นหรอื ไมถ่ ูกต้องน้ัน - 30 -
(7) การตรวจรบั พัสดุที่ประกอบกันเป็นชุดหรือหน่วย ถ้าขาดส่วนประกอบอย่างใดอย่างหน่ึง ไปแล้วจะไม่สามารถใช้การได้โดยสมบูรณ์ ให้ถือว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างยังมิได้ส่งมอบพัสดุน้ัน และโดยปกติให้ รีบรายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อแจ้งให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างทราบภายใน 3 วันทาการนับถัดจากวันที่ ตรวจพบ (8) ถ้ากรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับพัสดุโดยทาความเห็นแย้งไว้ให้เสนอหัวหน้า หนว่ ยงานของรฐั เพอ่ื พจิ ารณาสง่ั การ 11.2 คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจา้ งก่อสรา้ ง มหี น้าทด่ี งั น้ี (1) ตรวจสอบคณุ วุฒขิ องผู้ควบคุมงานกอ่ สร้างของผู้รับจา้ งให้เปน็ ไปตามกฎหมายว่าดว้ ยการ ควบคุมอาคาร (2) ตรวจสอบรายงานการปฏิบตั ิงานของผูร้ บั จา้ ง และเหตุการณ์แวดล้อมท่ีผู้ควบคุมงานของ หน่วยงานของรัฐรายงาน โดยตรวจสอบกับแบบรูปรายการละเอียดและข้อกาหนดในสัญญาหรือข้อตกลงทุก สัปดาห์ รวมทั้งรับทราบหรือพิจารณาการสั่งหยุดงาน หรือพักงานของผู้ควบคุมงานแล้วรายงานหัวหน้า หน่วยงานของรัฐเพือ่ พิจารณาสงั่ การต่อไป (3) ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุหรือกรรมการท่ีได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการตรวจ รับพสั ดุออกตรวจงานจา้ ง ณ สถานท่ีทกี่ าหนดไวใ้ นสัญญาหรอื ที่ตกลงใหท้ างานจา้ งน้นั ๆ ตามเวลาท่ีเหมาะสม และเหน็ สมควร และจดั ทาบันทึกผลการออกตรวจงานจ้างนน้ั ไวเ้ พ่ือเป็นหลักฐานด้วย (4) นอกจากการดาเนินการตาม (1) และ (2) ในกรณีมีข้อสงสัยหรือมีกรณีท่ีเห็นว่าแบบรูป รายการละเอียดและขอ้ กาหนดในสญั ญาหรือมีข้อตกลงมีข้อความคลาดเคล่ือนเล็กน้อยหรือไม่เป็นไปตามหลัก วิชาการช่างให้มีอานาจส่ังเปลี่ยนแปลงแก้ไขเพ่ิมเติม หรือตัดทอนงานจ้างได้ตามท่ีเห็นสมควร และตามหลัก วิชาการช่าง เพ่อื ใหเ้ ปน็ ไปตามแบบรูปรายการละเอียด (5) โดยปกติให้ตรวจผลงานท่ีผู้รับจ้างส่งมอบภายใน 3 วันทาการ นับแต่วันท่ีประธาน กรรมการได้รับทราบการสง่ มอบงาน และใหท้ าการตรวจรับให้เสร็จสน้ิ ไปโดยเร็วทีส่ ุด (6) เมื่อตรวจเห็นว่าเป็นการถูกต้องครบถ้วนเป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียดและ ข้อกาหนดในสัญญาหรือข้อตกลงแล้ว ให้ถือว่าผู้รับจ้างส่งมอบงานครบถ้วนต้ังแต่วันที่ผู้รับจ้างส่งงานจ้างน้ัน และให้ทาใบรับรองผลการปฏิบัติงานท้ังหมดหรือเฉพาะงวด แล้วแต่กรณี โดยลงช่ือไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย 2 ฉบับ มอบให้แก่ผู้รับจ้าง 1 ฉบับ และเจ้าหน้าท่ี 1 ฉบับ เพ่ือทาการเบิกจ่ายเงินตามระเบียบว่าด้วยการเบิก จ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐ และรายงานให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐทราบในกรณีท่ีคณะกรรมการตรวจรับ พัสดุเห็นว่าผลงานที่ส่งมอบทั้งหมดหรืองวดใดก็ตามไม่เป็นไปตามแบบรูปรายการละเอียดและข้อกาหนดใน สัญญาหรือข้อตกลง ให้รายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าท่ีเพ่ือทราบหรือส่ังการ แล้วแต่ กรณี (7) ในกรณีท่ีกรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับงานโดยทาความเห็นแย้งไว้ ให้เสนอ หัวหนา้ หน่วยงานของรัฐเพือ่ พจิ ารณาส่งั การคณะกรรมการตรวจรบั พสั ดใุ นงานจ้างท่ปี รึกษา 11.3 คณะกรรมการตรวจรับพัสดใุ นงานจ้างออกแบบหรอื ควบคมุ งานก่อสร้างมหี นา้ ที่ดังน้ี (1) ตรวจให้ถูกตอ้ งตามทรี่ ะบุไวใ้ นสญั ญาหรือขอ้ ตกลง (2) ตรวจรบั งาน ณ ที่ทาการของผวู้ ่าจ้าง หรือสถานที่ซง่ึ กาหนดไวใ้ นสัญญาหรือขอ้ ตกลง - 31 -
(3) โดยปกติให้ตรวจรับงานในวันท่ีผู้ให้บริการนาผลงานมาส่ง และให้ดาเนินการให้เสร็จสิ้น ไปโดยเรว็ ที่สดุ (4) ในกรณีท่ีผลงานบกพร่องหรือไม่เป็นไปตามความประสงค์ของหน่วยงานของรัฐอัน เนื่องมาจากไม่ได้ดาเนินการให้ถูกต้องตามหลักวิชาการทางสถาปัตยกรรม และหรือวิศวกรรม ต้องรีบแจ้งให้ ผใู้ หบ้ ริการดาเนนิ การแกไ้ ขใหเ้ ป็นท่ีเรยี บร้อยโดยเรว็ (5) เม่ือตรวจถูกต้องและครบถ้วนตามท่ีกาหนดไว้ในสัญญาหรือข้อตกลงแล้ว ให้รับงานไว้ และถอื ว่าผ้ใู หบ้ รกิ ารไดส้ ง่ มอบงานถกู ต้องครบถ้วนต้ังแต่วนั ที่ผู้ให้บริการนาผลงานมาสง่ แล้วมอบแก่เจ้าหน้าท่ี พร้อมกับทาใบตรวจรับ โดยลงช่ือไว้เป็นหลักฐานอย่างน้อย 2 ฉบับ มอบแก่ผู้ให้บริการ 1 ฉบับและเจ้าหน้าที่ 1 ฉบับ เพอ่ื ทาการเบิกจ่ายเงินตามระเบยี บว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินของหน่วยงานของรัฐและรายงานให้หัวหน้า หน่วยงานของรัฐทราบในกรณีที่เห็นว่าผลงานที่ส่งมอบทั้งหมดหรืองวดใดก็ตามไม่เป็นไปตามข้อกาหนดใน สัญญาหรือข้อตกลง มีอานาจส่ังให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม หรือตัดทอนซึ่งงานตามสัญญา หากคู่สัญญาไม่ ปฏิบัติตามมีอานาจท่ีจะสั่งให้หยุดงานน้ันชั่วคราวได้ หรือให้รายงานหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้า เจ้าหน้าทเ่ี พอ่ื ทราบ หรือสั่งการ แลว้ แตก่ รณี (6) ในกรณีกรรมการตรวจรับพัสดุบางคนไม่ยอมรับงาน ให้กรรมการดังกล่าวทาความเห็น แย้งไว้แล้วให้เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อพิจารณาสั่งการการงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการ ขยายเวลาทาการตามสัญญาการงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายเวลาทาการตามสัญญาหรือ ขอ้ ตกลง 12. การงดหรือลดคา่ ปรบั หรือการขยายเวลาทาการตามสัญญา การงดหรือลดค่าปรับให้แก่คู่สัญญา หรือการขยายเวลาทาการตามสัญญาหรือข้อตกลงให้อยู่ใน ดุลพนิ จิ ของผู้มอี านาจทจี่ ะพจิ ารณาได้ตามจานวนวันทมี่ ีเหตเุ กดิ ขนึ้ จริง เฉพาะในกรณีดงั ต่อไปนี้ 12.1 เหตุเกิดจากความผดิ หรือความบกพร่องของหนว่ ยงานของรัฐ 12.2 เหตุสุดวิสัย 12.3 เหตเุ กิดจากพฤติการณ์อันหน่ึงอันใดที่คูส่ ัญญาไม่ตอ้ งรับผิดตามกฎหมาย 12.4 เหตุอนื่ ตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง ให้หน่วยงานของรัฐกาหนดให้คู่สัญญาต้องแจ้งเหตุดังกล่าวภายใน 15 วัน นับถัดจากวันที่เหตุนั้นได้ สิ้นสุดลงหรือตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง หากไม่แจ้งภายในเวลาที่กาหนด คู่สัญญาจะยกมากล่าวอ้างเพื่อขอ งดหรือลดค่าปรับ หรือขอขยายเวลาในภายหลังมิได้ เว้นแต่กรณีเหตุเกิดจากความผิดหรือความบกพร่องของ หน่วยงานของรัฐซึ่งมีหลักฐานชัดแจ้ง หรือหน่วยงานของรัฐทราบดีอยู่แล้วต้ังแต่ต้น หลักเกณฑ์และวิธีการ ของดหรือลดคา่ ปรับใหแ้ กค่ ู่สัญญา หรือการขยายเวลาทาการตามสัญญา หรือข้อตกลง ให้เป็นไปตามระเบียบ ท่รี ัฐมนตรกี าหนด 13. การบอกเลิกสญั ญาหรือขอ้ ตกลง 13.1 การบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลง หากปรากฏว่าคู่สัญญาไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาหรือ ข้อตกลงได้ และจะต้องมีการปรับตามสัญญาหรือข้อตกลงนั้น หากจานวนเงินค่าปรับจะเกินร้อยละสิบของ วงเงินคา่ พสั ดหุ รือคา่ จา้ ง ให้หนว่ ยงานของรัฐพิจารณาดาเนินการบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลง เว้นแต่คู่สัญญา จะได้ยินยอมเสียค่าปรับให้แก่หน่วยงานของรัฐโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ท้ังสิ้น ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ พจิ ารณาผอ่ นปรนการบอกเลกิ สัญญาไดเ้ ทา่ ท่ีจาเปน็ - 32 -
13.2 เหตบุ อกเลกิ สัญญาหรอื ข้อตกลงให้อยู่ในดลุ พนิ จิ ของผมู้ ีอานาจที่จะบอกเลิกสัญญากับคูส่ ญั ญา (1) เหตตุ ามท่กี ฎหมายกาหนด (2) เหตุอันเช่ือได้ว่าผู้ขายหรือผู้รับจ้างไม่สามารถส่งมอบงานหรือทางานให้แล้วเสร็จได้ ภายในระยะเวลาทก่ี าหนด (3) เหตอุ ่นื ตามทีก่ าหนดไวใ้ นพระราชบัญญตั ิน้ีหรือในสัญญาหรือขอ้ ตกลง (4) เหตุอน่ื ตามระเบียบทร่ี ฐั มนตรีกาหนด การบอกเลกิ สญั ญาหรือข้อตกลง ให้ผมู้ ีอานาจพจิ ารณาไดเ้ ฉพาะในกรณี (1) ท่เี ป็นประโยชน์แก่หนว่ ยงานของรัฐโดยตรงหรอื เพ่ือประโยชนส์ าธารณะ (2) เพ่ือแก้ไขข้อเสียเปรียบของหน่วยงานของรัฐในการท่ีจะปฏิบัติตามสัญญาหรือข้อตกลง นั้นต่อไปกรณีที่หน่วยงานของรัฐมิได้เป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาหรือข้อตกลง หรือการบอกเลิกสัญญาหรือ ข้อตกลงน้ันเป็นกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐมิได้เรียกค่าปรับ แล้วแต่กรณี หากคู่สัญญาเห็นว่า หน่วยงานของรัฐ ต้องรับผิดชดใช้คา่ เสียหาย คสู่ ัญญาจะยื่นคาขอตอ่ หน่วยงานของรฐั ใหพ้ ิจารณาชดใชค้ า่ เสียหายก็ได้ ดงั น้ี - ใหค้ สู่ ญั ญายน่ื คาขอมายังหน่วยงานของรัฐคูส่ ญั ญาภายใน 15 วัน นับถดั จากวันที่ได้มี การบอกเลกิ สญั ญา - คาขอต้องทาเป็นหนงั สือลงลายมอื ชอ่ื ผู้รอ้ ง และระบุข้อเทจ็ จริงและเหตผุ ลอันเป็น เหตแุ ห่งการเรยี กรอ้ งใหช้ ดั เจน พรอ้ มแนบเอกสารหลกั ฐานที่เกี่ยวข้องไปด้วย - หน่วยงานของรัฐต้องออกใบรับคาขอให้ไว้เป็นหลักฐานและพิจารณาคาขอนั้นให้ แล้วเสร็จ 60 วัน นับถัดจากวันท่ีได้รับคาขอ หากไม่อาจพิจารณาได้ทันในกาหนดนั้น ให้ขอขยายระยะเวลา ออกไปตอ่ หวั หน้าหนว่ ยงานของรัฐได้ไม่เกิน 15 วนั นบั ถดั จากวนั ครบกาหนดเวลาดงั กลา่ ว - ให้หน่วยงานของรัฐแต่งตง้ั คณะกรรมการพิจารณาความเสยี หาย - ให้หน่วยงานของรัฐแจ้งผลการพิจารณาเป็นหนังสือไปยังคู่สัญญาเม่ือพิจารณาคา รอ้ งแล้วเสรจ็ ภายใน 7 วันทาการ นับถดั จากวันทห่ี วั หน้าหนว่ ยงานของรฐั เหน็ ชอบ - ผลการพิจารณาเมื่อหน่วยงานของรัฐมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณาเป็นเช่นใดแล้ว หากคู่สัญญายังไม่พอใจในผลการพิจารณาก็ให้มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหายตามสัญญา ต่อไปให้หน่วยงานของรัฐแต่งตั้งคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการพิจารณาความเสียหาย” ประกอบด้วยประธานกรรมการ 1 คน และกรรมการอย่างน้อย 1 คนโดยให้แต่งตั้งจากข้าราชการ ลูกจ้างประจา พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย พนักงานของรัฐหรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐที่ เรียกช่ืออย่างอื่น ภายในของหน่วยงานของรัฐน้ัน ในกรณีจาเป็นหรือเพ่ือประโยชน์ในการพิจารณาวินิจฉัยจะ แตง่ ตั้งบุคคลอืน่ อกี ไมเ่ กิน 1 คนร่วมเปน็ กรรมการด้วย คณะกรรมการพจิ ารณาความเสยี หาย มีหน้าที่ดงั น้ี (1) ตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริงตามคาร้องของค่สู ัญญา (2) ในกรณีจาเป็นจะเชิญคู่สัญญา หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องในเร่ืองน้ัน มาสอบถามหรือให้ข้อเท็จจริงใน สว่ นที่เกยี่ วขอ้ งได้ (3) พจิ ารณาคา่ เสยี หายและกาหนดวงเงนิ ค่าเสยี หายทเ่ี กิดข้ึน (ถา้ มี) (4) จดั ทารายงานผลการพิจารณา ตาม (1) ถึง (3) พร้อมความเห็นเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐการ พิจารณาค่าเสียหายตามวรรคหนึ่งให้คณะกรรมการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการวินิจฉัยกาหนด และในกรณีทค่ี ณะกรรมการมีความเหน็ วา่ หนว่ ยงานของรฐั ตอ้ งชดใชค้ ่าเสยี หายและมีวงเงินค่าเสียหายครั้งละ - 33 -
เกิน 50,000 บาท ให้หน่วยงานของรัฐจัดทารายงานความเห็นเสนอกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาให้ความ เหน็ ชอบ ท้ังน้ี หลกั เกณฑ์ วิธกี ารรายงาน ใหเ้ ป็นไปตามทีก่ ระทรวงการคลังกาหนด 14. การบริหารพัสดุ ให้หนว่ ยงานของรฐั จดั ใหม้ ีการควบคุมและดแู ลพัสดุที่อยู่ในความครอบครอง ให้มีการใช้และ การบริหารพัสดุที่เหมาะสม คุ้มค่า และเกิดประโยชน์ต่อหน่วยงานของรัฐมากที่สุดซ่ึงรวมถึงการเก็บ การ บันทึก การเบิกจ่าย การยืม การตรวจสอบ การบารุงรักษา และการจาหน่ายพัสดุ ให้เป็นไปตามระเบียบที่ รัฐมนตรีกาหนด (การบริหารพัสดุในหมวด ไม่ใช้บังคับกับงานบริการ งานก่อสร้าง งานจ้างท่ีปรึกษา และงาน จ้างออกแบบหรือควบคมุ งานก่อสร้าง ระเบยี บฯ ข้อ 202) 14.1 การเก็บและการบันทกึ เม่ือเจ้าหน้าทีไ่ ดร้ บั มอบพสั ดุแล้ว ใหด้ าเนนิ การ ดงั ต่อไปนี้ (1) ลงบัญชีหรือทะเบียนเพ่ือควบคุมพัสดุ แล้วแต่กรณี แยกเป็นชนิด และแสดงรายการตาม ตัวอย่างที่คณะกรรมการนโยบายกาหนด โดยให้มีหลักฐานการรับเข้าบัญชีหรือทะเบียนไว้ประกอบรายการ ดว้ ยสาหรับพัสดปุ ระเภทอาหารสด จะลงรายการอาหารสดทุกชนิดในบัญชีเดยี วกนั ก็ได้ (2) เก็บรักษาพัสดุให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย และให้ครบถ้วนถูกต้องตรงตามบัญชีหรือ ทะเบียน 14.2 การเบิกจ่ายพสั ดุ การเบิกพสั ดจุ ากหน่วยพสั ดขุ องหน่วยงานของรฐั ใหห้ ัวหน้างานท่ตี ้องใชพ้ สั ดุ น้นั เปน็ ผูเ้ บิก (1) การจา่ ยพสั ดุ ให้หัวหนา้ หน่วยพัสดทุ ่ีมีหน้าที่เก่ียวกับการควบคุมพัสดุหรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย จากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเป็นหัวหน้าหน่วยพัสดุ เป็นผู้ส่ังจ่ายพัสดุผู้จ่ายพัสดุต้องตรวจสอบความถูกต้อง ของใบเบกิ และเอกสารประกอบ (ถา้ มี) แลว้ ลงบัญชีหรือทะเบียนทุกคร้ังที่มีการจ่าย และเก็บใบเบิกจ่ายไว้เป็น หลักฐานด้วย (2) หนว่ ยงานของรัฐใดมีความจาเป็นจะกาหนดวิธีการเบิกจ่ายพัสดุเป็นอย่างอื่นให้อยู่ในดุลพินิจ ของหวั หนา้ หนว่ ยงานของรฐั นัน้ โดยให้รายงานคณะกรรมการวินิจฉัยและสานักงานการตรวจเงินแผ่นดินทราบ ดว้ ย 14.3 การให้ยมื หรือนาพสั ดุไปใชใ้ นกิจการ ซง่ึ มใิ ชเ่ พอ่ื ประโยชนข์ องทางราชการจะกระทามิได้การยืม พัสดุประเภทใชค้ งรูป ใหผ้ ยู้ มื ทาหลักฐานการยืมเป็นลายลักษณ์อักษรแสดงเหตุผลและกาหนดวันส่งคืน โดยมี หลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ (1) การยืมระหวา่ งหน่วยงานของรฐั จะต้องได้รับอนุมัติจากหัวหนา้ หน่วยงานของรฐั ผู้ใหย้ ืม (2) การให้บคุ คลยืมใชภ้ ายในสถานที่ของหน่วยงานของรัฐเดยี วกนั จะตอ้ งได้รับอนุมัติจากหัวหน้า หน่วยงานซึง่ รับผดิ ชอบพสั ดนุ ้ัน แตถ่ ้ายมื ไปใช้นอกสถานทข่ี องหนว่ ยงานของรัฐจะต้องได้รับอนุมัติจากหัวหน้า หน่วยงานของรัฐ (3) ผยู้ ืมพัสดุประเภทใช้คงรูปจะต้องนาพัสดุน้ันมาส่งคืนให้ในสภาพที่ใช้การได้เรียบร้อยหากเกิด ชารุดเสียหาย หรือใช้การไม่ได้ หรือสูญหายไป ให้ผู้ยืมจัดการแก้ไขซ่อมแซมให้คงสภาพเดิมโดยเสียค่าใช้จ่าย ของตนเอง หรอื ชดใชเ้ ปน็ พัสดุประเภท ชนิด ขนาด ลักษณะและคุณภาพอย่างเดียวกัน หรือชดใช้เป็นเงินตาม ราคาทีเ่ ป็นอยู่ในขณะยืม โดยมหี ลักเกณฑ์ ดงั น้ี - ราชการส่วนกลาง และราชการส่วนภูมิภาค ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ีกระทรวงการคลัง กาหนด - 34 -
- ราชการสว่ นทอ้ งถนิ่ ให้เป็นไปตามหลกั เกณฑท์ ่ีกระทรวงมหาดไทย กรงุ เทพมหานคร หรือเมืองพัทยา แล้วแต่กรณี กาหนด - หน่วยงานของรัฐอ่ืน ใหเ้ ปน็ ไปตามหลักเกณฑ์ท่ีหนว่ ยงานของรฐั นัน้ กาหนด การยมื พัสดปุ ระเภทใชส้ นิ้ เปลอื ง ระหวา่ งหนว่ ยงานของรัฐ ให้กระทาได้เฉพาะเม่ือหน่วยงานของรัฐผู้ ยืมมีความจาเปน็ ตอ้ งใช้พสั ดุน้ันเปน็ การรบี ด่วน จะดาเนินการจัดหาได้ไม่ทนั การและหน่วยงานของรัฐผู้ให้ยืมมี พัสดุน้ัน ๆ พอที่จะให้ยืมได้ โดยไม่เป็นการเสียหายแก่หน่วยงานของรัฐของตน และให้มีหลักฐานการยืมเป็น ลายลักษณ์อักษร ทั้งน้ี โดยปกติหน่วยงานของรัฐผู้ยืมจะต้องจัดหาพัสดุเป็นประเภท ชนิด และปริมาณ เช่นเดยี วกนั ส่งคืนให้หน่วยงานของรฐั ผใู้ ห้ยมื เม่ือครบกาหนดยืม ให้ผู้ให้ยืมหรือผู้รับหน้าท่ีแทนมีหน้าที่ติดตาม ทวงพสั ดุท่ีให้ยืมไปคนื ภายใน 7 วนั นบั แตว่ นั ครบกาหนด 14.4 การบารุงรักษา ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีผู้ควบคุมดูแลพัสดุท่ีอยู่ในความครอบครองให้อยู่ใน สภาพท่ีพร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา โดยให้มีการจัดทาแผนการซ่อมบารุงที่เหมาะสมและระยะเวลาในการซ่อม บารุงด้วยในกรณีท่ีพัสดุเกิดการชารุด ให้หน่วยงานของรัฐดาเนินการซ่อมแซมให้กลับมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้ งานโดยเรว็ 15. การตรวจสอบพัสดุประจาปี ภายในเดือนสุดท้ายก่อนสิ้นปีงบประมาณของทุกปี ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือหัวหน้า หนว่ ยพัสดุ แตง่ ต้งั ผรู้ ับผดิ ชอบในการตรวจสอบพสั ดุ ซง่ึ มิใชเ่ ป็นเจ้าหน้าทเี่ พ่ือตรวจสอบการรบั จา่ ยพัสดุในงวด 1 ปที ่ีผ่านมา และตรวจนับพสั ดุประเภททีค่ งเหลอื อย่เู พยี งวนั สนิ้ งวดและให้ดาเนนิ การดังน้ี 15.1 ให้เร่ิมดาเนินการตรวจสอบพัสดุในวันเปิดทาการวันแรกของปีงบประมาณเป็นต้นไป ว่าการรับ จ่ายถูกต้องหรือไม่ พัสดุคงเหลือมีตัวอยู่ตรงตามบัญชีหรือทะเบียนหรือไม่ มีพัสดุใดชารุด เส่ือมคุณภาพ หรือ สูญไปเพราะเหตุใด หรือพัสดุใดไม่จาเป็นต้องใช้ในหน่วยงานของรัฐต่อไป แล้วให้เสนอรายงานผลการ ตรวจสอบดังกล่าวต่อผู้แต่งตั้งภายใน 30 วันทาการ นับแต่วันเร่ิมดาเนินการตรวจสอบพัสดุนั้นเม่ือผู้แต่งตั้ง ได้รับรายงานจากผู้รบั ผดิ ชอบในการตรวจสอบพสั ดแุ ลว้ ใหเ้ สนอหัวหนา้ หน่วยงานของรฐั 1 ชุด และส่งสาเนา รายงานไปยงั สานักงานการตรวจเงนิ แผ่นดิน 1 ชุด พรอ้ มทั้งสง่ สาเนารายงานไปยงั หน่วยงานต้นสังกัด (ถ้ามี) 1 ชุด ด้วย 15.2 เม่ือผู้แต่งตั้งได้รับรายงานจากผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบพัสดุและปรากฏว่ามีพัสดุชารุด เส่ือมสภาพ หรือสูญไป หรือไม่จาเป็นต้องใช้ในหน่วยงานของรัฐต่อไปก็ให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบหา ข้อเท็จจริงข้ึนคณะหน่ึง เว้นแต่กรณีท่ีเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เป็นการเส่ือมสภาพเน่ืองมาจากการใช้งาน ตามปกติหรอื สูญไปตามธรรมชาตใิ ห้หัวหน้าหนว่ ยงานของรัฐพิจารณาสั่งการให้ดาเนินการจาหน่ายต่อไปได้ถ้า ผลการพจิ ารณาปรากฏวา่ จะตอ้ งหาตวั ผรู้ ับผิดด้วย ใหห้ วั หน้าหน่วยงานของรัฐดาเนนิ การ ตามกฎหมายและระเบยี บท่ีเกย่ี วข้องของทางราชการหรอื ของหน่วยงานของรัฐนัน้ ต่อไป 16. การจาหนา่ ยพัสดุ หลงั จากการตรวจสอบแล้ว พัสดุใดหมดความจาเป็นหรือหากใช้ในหน่วยงานของรัฐต่อไปจะ ส้ินเปลืองค่าใช้จ่ายมาก ให้เจ้าหน้าท่ีเสนอรายงานต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เพ่ือพิจารณาสั่งให้ดาเนินการ ตามวิธกี ารอยา่ งหนงึ่ อยา่ งใด ดงั ต่อไปนี้ 16.1 ขาย ให้ดาเนนิ การขายโดยวิธที อดตลาดกอ่ น แตถ่ ้าขายโดยวิธที อดตลาดแลว้ ไม่ได้ผลดี - 35 -
ใหน้ าวธิ ีท่ีกาหนดเกยี่ วกับการซอื้ มาใช้โดยอนุโลม เวน้ แต่กรณี ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) การขายพัสดุครั้งหนึ่งซ่ึงมีราคาซ้ือหรือได้มารวมกันไม่เกิน 500,000 บาท จะขายโดยวิธี เฉพาะเจาะจงโดยการเจรจาตกลงราคากนั โดยไมต่ ้องทอดตลาดก่อนก็ได้ (2) การขายให้แก่หน่วยงานของรัฐ หรือองค์การสถานสาธารณกุศลตามมาตรา 47(7) แห่ง ประมวลรัษฎากร ใหข้ ายโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจงโดยการเจรจาตกลงราคากัน (3) การขายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โทรศัพท์เคลื่อนท่ี แท็บเล็ต ให้แก่เจ้าหน้าท่ีของรัฐท่ี หนว่ ยงานของรฐั มอบให้ไว้ใช้งานในหน้าท่ี เมื่อบุคคลดังกล่าวพ้นจากหน้าท่ีหรืออุปกรณ์ดังกล่าวพ้นระยะเวลา การใช้งานแลว้ ให้ขายใหแ้ กบ่ คุ คลดงั กล่าวโดยวธิ ีเฉพาะเจาะจงโดยการเจรจาตกลงราคากนั หลกั เกณฑก์ ารขายทอดตลาด (1) การขายโดยวธิ ีทอดตลาดให้ถือปฏิบัติตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ โดยให้ผู้ท่ีได้รับ มอบหมายทาการประเมนิ ราคาทรพั ยส์ ินก่อนการประกาศขายทอดตลาด (2) กรณีที่เป็นพัสดุที่มีการจาหน่ายเป็นการท่ัวไปให้พิจารณาราคาที่ซ้ือขายกันตามปกติใน ท้องตลาด หรอื ราคาทอ้ งถ่ินของสภาพปัจจุบนั ของพสั ดนุ ั้น ณ เวลาที่จะทาการขาย และควรมีการเปรียบเทียบ ราคาตามความเหมาะสม (3) กรณีท่ีเป็นพัสดุท่ีไม่มีการจาหน่ายท่ัวไป ให้พิจารณาราคาตามลักษณะ ประเภท ชนิดของ พสั ดุ และอายกุ ารใช้งานรวมทง้ั สภาพและสถานทต่ี ัง้ ของพัสดุด้วย (4) ใหเ้ สนอหัวหน้าหนว่ ยงานของรฐั พิจารณาให้ความเห็นชอบราคาประเมินดังกล่าวโดยคานึงถึง ประโยชนข์ องหน่วยงานของรัฐด้วย (5) หนว่ ยงานของรัฐจะจ้างผ้ปู ระกอบการที่ให้บริการขายทอดตลาดเป็นผดู้ าเนนิ การกไ็ ด้ 16.2 แลกเปลี่ยน ให้ดาเนินการตามวิธกี ารแลกเปลี่ยนที่กาหนดไว้ในระเบียบนี้ 16.3 โอน ให้โอนแก่หน่วยงานของรฐั หรือองคก์ ารสถานสาธารณกศุ ลตามมาตรา 47(7) แห่งประมวล รัษฎากร ทง้ั น้ี ใหม้ หี ลกั ฐานการส่งมอบไวต้ อ่ กันดว้ ย 16.4 แปรสภาพหรอื ทาลาย ตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารที่หนว่ ยงานของรฐั กาหนด การดาเนินการตามวรรคหนึ่ง โดยปกติให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับถัดจากวันที่หัวหน้า หนว่ ยงานของรัฐส่ังการ เงินท่ีได้จากการจาหน่ายพัสดุ ให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณหรือ กฎหมายที่เกี่ยวข้องทางการเงินของหน่วยงานของรัฐนั้น หรือข้อตกลงในส่วนท่ีใช้เงินกู้หรือเงินช่วยเหลือ แล้วแต่กรณี การจาหน่ายเป็นสญู ในกรณีท่ีพัสดุสูญไปโดยไม่ปรากฏตัวผู้รับผิดหรือมีตัวผู้รับผิดแต่ไม่สามารถชดใช้ได้หรือมีตัว พสั ดุอยแู่ ตไ่ ม่สมควรดาเนินการตามข้อ 215 ให้จาหน่ายพสั ดนุ ้นั เป็นสูญ ตามหลักเกณฑด์ ังตอ่ ไปน้ี (1) ถ้าพัสดนุ ั้นมีราคาซ้ือ หรอื ไดม้ ารวมกันไมเ่ กนิ 1,000,000 บาท ใหห้ วั หน้าหน่วยงานของรฐั เปน็ ผู้ พิจารณาอนุมัติ (2) ถ้าพสั ดนุ น้ั มีราคาซ้ือ หรือไดม้ ารวมกันเกิน 1,000,000 บาท ให้ดาเนินการดังน้ี - ราชการส่วนกลาง และราชการส่วนภูมิภาค ให้อยู่ในอานาจของกระทรวงการคลังเป็น ผอู้ นมุ ตั ิ - 36 -
- ราชการส่วนท้องถ่ิน ให้อยู่ในอานาจของผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรอื นายกเมืองพทั ยา แลว้ แตก่ รณี เป็นผูอ้ นมุ ตั ิ - หนว่ ยงานของรฐั อน่ื ผ้ใู ดจะเป็นผมู้ อี านาจอนมุ ตั ใิ หเ้ ปน็ ไปตามทีห่ นว่ ยงานของรฐั น้นั กาหนด รฐั วสิ าหกิจใดมคี วามจาเปน็ จะกาหนดวงเงินการจาหน่ายพัสดุเป็นสูญตามวรรคหนึ่งแตกต่าง ไปจากที่กาหนดไว้ในระเบียบน้ี ให้เสนอต่อคณะกรรมการวินิจฉัยเพ่ือขอความเห็นชอบ และเมื่อได้รับความ เหน็ ชอบแล้วให้รายงานสานกั งานการตรวจเงินแผน่ ดนิ ทราบดว้ ย การลงจา่ ยออกจากบัญชหี รือทะเบียน (1) เมื่อได้ดาเนินการตามระเบียบฯ ข้อ 215 และข้อ 217 แล้ว ให้เจ้าหน้าที่ลงจ่ายพัสดุน้ันออกจาก บัญชีหรือทะเบียนทันที แล้วแจ้งให้สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ทราบภายใน 30 วันนับแต่วันลงจ่ายพัสดุ น้นั (2) สาหรับพัสดุซ่ึงต้องจดทะเบียนตามกฎหมายให้แจ้งแก่นายทะเบียนภายในระยะเวลาท่ีกฎหมาย กาหนดดว้ ย (3) ในกรณที พ่ี ัสดขุ องหนว่ ยงานของรฐั เกดิ การชารุด เส่ือมคุณภาพ หรือสูญไปหรือไม่จาเป็นต้องใช้ใน ราชการต่อไป ก่อนมีการตรวจสอบตามข้อ 213 และได้ดาเนินการตามกฎหมายว่าด้วยความรับผิดทางละเมิด ของเจ้าหนา้ ท่ี หรอื ระเบียบนีโ้ ดยอนโุ ลม แล้วแตก่ รณีเสร็จสิน้ แล้ว 17. การอุทธรณ์ 17.1 ผู้ซ่ึงได้ย่ืนข้อเสนอเพ่ือทาการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุกับหน่วยงานของรัฐมีสิทธิอุทธรณ์เก่ียวกับการ จัดซือ้ จัดจ้างพัสดุ ในกรณีทเี่ หน็ วา่ หน่วยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนดใน ระราชบญั ญัตนิ ้ี กฎกระทรวง ระเบียบ หรอื ประกาศทีอ่ อกตามความในพระราชบัญญัติน้ีเป็นเหตุให้ตนไม่ได้รับ การประกาศผลเปน็ ผ้ชู นะหรอื ไมไ่ ดร้ บั การคดั เลอื กเปน็ คู่สญั ญากบั หนว่ ยงานของรัฐ 17.2 ผู้มีสิทธิอทุ ธรณจ์ ะยืน่ อุทธรณใ์ นเร่ืองดังต่อไปน้ีไม่ได้ 17.2.1 การเลอื กใชว้ ธิ กี ารจดั ซ้ือจดั จา้ งหรอื เกณฑ์ท่ีใชใ้ นการพิจารณาผลการจัดซ้ือจดั จา้ ง ตามพระราชบญั ญตั นิ ้ีของหน่วยงานของรัฐ 17.2.2 การยกเลิกการจัดซ้ือจัดจ้าง 17.2.3 การละเว้นการอ้างถึงพระราชบัญญัติน้ี กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออก ตามพระราชบัญญตั ินี้ในส่วนที่เก่ียวข้องโดยตรงกับการจัดซ้ือจัดจ้างในประกาศ เอกสาร หรือหนังสือเชิญชวน ของหน่วยงานของรฐั 17.2.4 กรณีอนื่ ตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง 17.3 การอุทธรณ์ต้องทาเป็นหนังสือลงลายมือช่ือผู้อุทธรณ์ในหนังสืออุทธรณ์ตามวรรคหน่ึง ต้องใช้ ถ้อยคาสุภาพ และระบุข้อเท็จจริงและเหตุผลอันเป็นเหตุแห่งการอุทธรณ์ให้ชัดเจน พร้อมแนบเอกสาร หลักฐานที่เกี่ยวข้องไปด้วยในกรณีท่ีเห็นสมควร รัฐมนตรีอาจออกระเบียบกาหนดวิธีการอุทธรณ์เป็นอย่างอื่น หรอื รายละเอียดเกี่ยวกบั การอุทธรณอ์ ื่นด้วยกไ็ ด้ - 37 -
17.4 ให้ผู้มีสิทธิอุทธรณ์ย่ืนอุทธรณ์ต่อหน่วยงานของรัฐนั้นภายใน 7 วันทาการนับแต่วันประกาศผล การจัดซ้ือจดั จา้ งในระบบเครอื ขา่ ยสารสนเทศของกรมบญั ชกี ลาง 17.5 ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาและวินิจฉัยอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันทาการนับแต่วันท่ี ได้รับอุทธรณ์ ในกรณีท่ีเห็นด้วยกับอุทธรณ์ก็ให้ดาเนินการตามความเห็นน้ันภายในกาหนดเวลา ในกรณีที่ หน่วยงานของรัฐไม่เห็นด้วยกับอุทธรณ์ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนให้เร่งรายงานความเห็นพร้อมเหตุผลไปยัง คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ภายใน 3 วันทาการนับแต่วนั ท่ีครบ 17.6 เม่ือได้รับรายงานจากหน่วยงานของรัฐ ให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์พิจารณาอุทธรณ์ให้ แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันท่ีได้รับรายงานดังกล่าวหากเรื่องใดไม่อาจพิจารณาได้ทันในกาหนดนั้น ให้ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ขยายระยะเวลาออกไปได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 15 วันนับแต่วันท่ีครบ กาหนดเวลาดังกล่าว และแจ้งให้ผู้อุทธรณ์และผู้ชนะการจัดซ้ือจัดจ้างหรือผู้ได้รับการคัดเลือกทราบในกรณีท่ี คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่าอุทธรณ์ฟังขึ้นและมีผลต่อการจัดซื้อจัดจ้างอย่างมีนัยสาคัญ ให้ คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณส์ ง่ั ใหห้ น่วยงานของรัฐดาเนนิ การให้มีการจัดซ้ือจัดจ้างใหม่หรือเริ่มจากขั้นตอน ใดตามทเี่ หน็ สมควร ในกรณีที่คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่าอุทธรณ์ฟังไม่ข้ึนหรือไม่มีผลต่อการจัดซื้อ จัดจ้างอย่างมีนัยสาคัญ ให้แจ้งหน่วยงานของรัฐเพ่ือทาการจัดซ้ือจัดจ้างต่อไปการวินิจฉัยของคณะกรรมการ พิจารณาอทุ ธรณ์ใหเ้ ป็นที่สุดในกรณีทพ่ี ้นกาหนดระยะเวลาพจิ ารณาอุทธรณ์ตามวรรคหนึ่งแล้ว คณะกรรมการ พจิ ารณาอุทธรณ์ยงั พิจารณาไมแ่ ลว้ เสร็จ ใหย้ ุตเิ รือ่ ง และใหค้ ณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์แจ้งผู้อุทธรณ์และผู้ ชนะการจัดซือ้ จดั จ้างหรอื ผู้ไดร้ บั การคดั เลือกทราบ พร้อมกบั แจง้ ให้หนว่ ยงานของรัฐทาการจัดซื้อจัดจ้างต่อไป ผู้อุทธรณ์ผู้ใดไม่พอใจคาวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ หรือการยุติเรื่องตามวรรคส่ีและเห็นว่า หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย ผู้นั้นมีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลเพื่อเรียกให้หน่วยงานของรัฐชดใช้ คา่ เสยี หายได้ แตก่ ารฟ้องคดีดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการจัดซ้ือจัดจ้างท่ีหน่วยงานของรัฐได้ลงนามในสัญญา จดั ซ้ือจดั จ้างนน้ั แล้ว 18. การร้องเรียน 18.1 ผใู้ ดเหน็ ว่าหนว่ ยงานของรัฐมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนดในกฎหมาย ว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความใน กฎหมายว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ มีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานของรัฐนั้นหรือ คณะกรรมการพิจารณาอทุ ธรณ์ แลว้ แตก่ รณีก็ได้ 18.2 การย่ืนข้อร้องเรียนตามวรรคหนึ่ง ต้องดาเนินการภายใน 15 วัน นับแต่วันที่รู้หรือควรรู้ว่า หน่วยงานของรัฐนั้นมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กาหนดในกฎหมายว่าด้วยการจัดซ้ือจัด จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กฎกระทรวง ระเบียบ หรือประกาศที่ออกตามความในกฎหมายว่าด้วยการ จดั ซือ้ จัดจา้ งและการบรหิ ารพัสดภุ าครฐั 18.3 การรอ้ งเรยี นตอ้ งทาเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ร้องเรียน ในกรณีผู้ร้องเรียนเป็นนิติบุคคลต้องลง ลายมือชอื่ ของกรรมการซ่ึงเป็นผู้มีอานาจกระทาการแทนนิติบุคคลและประทับตราของนิติบุคคล(ถ้ามี)หนังสือ ร้องเรียนตามวรรคหน่ึง ต้องใช้ถ้อยคาสุภาพ และระบุข้อเท็จจริงและเหตุผลอันเป็นเหตุแห่งการร้องเรียนให้ ชดั เจน พร้อมแนบเอกสารหลักฐานท่ีเกยี่ วข้องไปดว้ ย - 38 -
18.4 ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐได้รับเรื่องร้องเรียน ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณาข้อร้องเรียนให้แล้ว เสรจ็ โดยเรว็ แลว้ แจ้งผลให้ผรู้ อ้ งเรยี นทราบโดยไม่ชักชา้ พร้อมท้ังแจ้งให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ทราบ ด้วย 18.5 ในกรณีท่ีคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ได้รับเร่ืองร้องเรียนให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ พจิ ารณาขอ้ รอ้ งเรียนให้แลว้ เสรจ็ โดยเรว็ แล้วแจง้ ผลใหผ้ รู้ อ้ งเรยี นและหนว่ ยงานของรฐั ทราบดว้ ย 18.6 คาวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ให้เป็นท่ีสดุ 18.7 คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์อาจกาหนดรายละเอียดอ่ืนเพ่ิมเติมได้ตามความจาเป็นเพื่อ ประโยชนใ์ นการดาเนินการ 19. อน่ื ๆ 19.1 การประเมินผลการปฏิบัตงิ านของผปู้ ระกอบการ ตามระเบยี บ ข้อ 190 – 191 19.2 การลงโทษใหเ้ ปน็ ผู้ท้ิงงาน ตามระเบียบ ขอ้ 192 – 197 19.3 การเพิกถอนการเป็นผ้ทู ิ้งงาน ตามระเบยี บ ข้อ 198 – 201 19.4 บทกาหนดโทษ ตาม พรบ.มาตรา 120 - 39 -
บทที่ 3 แนวปฏิบัติการดาเนินการจดั ซ้ือจัดจ้างตามระเบยี บกระทรวงการคลัง วา่ ด้วยการจดั ซ้ือจัดจา้ งและการบริหารพัสดภุ าครัฐ พ.ศ.2560 (Workflow) - 40 -
- 41 -
- 42 -
- 43 -
- 44 -
- 45 -
- 46 -
Search