Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานสรุปผล การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ระดับประเทศ

รายงานสรุปผล การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ระดับประเทศ

Published by CCDKM, 2018-03-14 04:10:27

Description: รายงานสรุปผล การประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ระดับประเทศ โครงการชีววิถึเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนตามความร่วมมือระหว่าง กฟผ. และ สอศ.

Search

Read the Text Version

สรุปผลการประชมุ สัมมนาเชิงปฏบิ ัติการ (Workshop) ระดบั ประเทศโครงการชวี วิถเี พ่อื การพัฒนาอยา่ งยงั่ ยืนตามความร่วมมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. วนั ที่ 1 มถิ นุ ายน 2560 ณ โรงแรมรอยลั รเิ วอร์ จ.กรุงเทพมหานคร การประชมุ สมั มนาเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ระดับประเทศ โครงการชีววถิ ีเพื่อการพฒั นาอยา่ งย่ังยืนตามความรว่ มมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. ประกอบดว้ ย 4 ประเดน็ หลัก ดงั มขี อ้ สรุปโดยสังเขปตอ่ ไปนค้ี อืประเดน็ ที่ 1 : กา้ วสู่ Thailand 4.0 ดว้ ยนวตั กรรม….จากชมุ ชนชีววิถี โดย รศ. ดร. กมลรฐั อินทรทัศน์ ศูนย์วจิ ัย CCDKM, มสธ. เป็นการบรรยายเกร่ินนาเก่ียวกับแนวคิดเกี่ยวกับแนวทาง และการต่อยอดมาตรฐานในการขับเคลื่อนโครงการความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการ ท่ีได้ทาบันทึกข้อตกลงร่วมมือดาเนินกิจกรรมโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ 17 มิถุนายน พ.ศ.2546 และได้ดาเนินการอย่างต่อเน่ืองมาถึงปัจจุบัน เน่ืองจากโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างย่ังยืนของ กฟผ. เป็นโครงการท่ีได้รับการสนับสนุนเชิงนโยบายท่ีชัดเจนร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีแนวทางในการดาเนินงานที่สอดประสานกับโครงการของสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีบทบาทสาคัญต่อการนาและเผยแพร่การดาเนินการตามโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยง่ั ยืน กฟผ. สู่เยาวชน เกษตรกร และประชาชนท่ัวไป ให้เข้าใจ เกดิ ความตระหนักและสามารถนาไปปฏิบตั ิในการดาเนินชวี ิตและพัฒนาเศรษฐกจิ แบบพ่ึงพาตนเอง สร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมท้ังในชนบทและภาพรวม คือตั้งแต่ระดับครัวเรือน ระดับชุมชนสงั คมและประเทศชาติใหเ้ ข้มแข็งและดารงอยู่อยา่ งม่นั คงและยั่งยืน จากการประมวลวรรณกรรม และหลักฐานเชิงประจักษ์ท่ีเก่ียวข้องพบว่า กว่า 14 ปีของความร่วมมือที่ผ่านมา พบความสาเร็จอย่างเป็นรูปธรรม สามารถส่งผลกระทบต่อสังคมทุกระดับโดยใช้กรอบการประกวดผลงานโครงการชีววิถีเพ่ือการพัฒนาอย่างย่ังยืน ท่ีแบ่งออกเป็น 8 ประเภท โดยเร่ิมต้ังแต่ความสาเร็จในระดับสถาบันคือ การสร้างความเข้มแข็งให้กับสถาบันทุกประเภทใน สอศ. การสร้างความเข้มแข็งให้กับบุคลากรทุกระดับ ต้ังแต่ครู บุคลากร นักศึกษา ชุมชน หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เช่น สถานศึกษาประเภทต่าง ๆ ในพื้นที่ จนสามารถพัฒนาต่อยอดอย่างต่อเนื่องผ่านกระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วม จากทุกภาคส่วน สู่การพัฒนานวัตกรรมที่หลากหลายและสอดคล้องกับความต้องการของแต่ละพ้ืนที่ เช่น นวัตกรรมเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ในฟาร์ม เครื่องผสม EM และฉีดอัตโนมัติของวิทยาลัยการอาชีพเกษตรวิสัยระบบอะควาโปรนิกส์ รวมท้ังนวัตกรรมที่เก่ียวข้องกับกระบวนการ วิธีการต่าง ๆ ฯลฯ ท่ีสามารถส่งผลกระทบและเกดิ ประโยชน์โดยตรงตอ่ ชุมชน อีกทง้ั ยงั สามารถขยายผลสู่การใช้งานในพ้นื ที่อน่ื ๆ อยา่ งแพรห่ ลายสรุปผลการประชุมสมั มนาเชิงปฏิบตั กิ าร (Workshop) ระดับประเทศ 1โครงการชีววิถเี พ่อื การพฒั นาอยา่ งยัง่ ยนื ตามความรว่ มมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ยว์ จิ ัย CCDKM มสธ.

จากความสาเร็จที่เป็นรูปธรรมของโครงการความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ร่วมกับสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) กระทรวงศึกษาธิการดังกล่าว ทาให้ทุกภาคสว่ นเห็นพ้องต้องกันว่า ภายใต้นโยบายการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 และภายใต้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (SDG : Sustainable Development Goals) ที่ประเทศไทย รวมท้ังทุกประเทศท่ัวโลกใชก้ ันอยู่ในปัจจุบนั นั้น มีความสอดคลอ้ งกับแนวคิด และแนวทางของโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยง่ั ยืน ท่ีเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับสานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา (สอศ.) กระทรวงศกึ ษาธกิ ารในปจั จุบนัภาพท่ี 1 นโยบายการขับเคล่ือนประเทศไทย 4.0 กรอบหลกั ของการพัฒนาประเทศไทย ภาพที่ 2 กรอบการพัฒนาอย่างย่งั ยนื ขององคก์ ารสหประชาชาติ 2 (SDG : Sustainable Development Goals)สรุปผลการประชมุ สมั มนาเชงิ ปฏิบัตกิ าร (Workshop) ระดับประเทศโครงการชีววิถเี พื่อการพัฒนาอยา่ งย่งั ยนื ตามความรว่ มมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ยว์ จิ ัย CCDKM มสธ.

จึงถือได้ว่า โครงการชีววิถีฯ เป็นโครงการท่ีสอดคล้องกับการพัฒนาท้ังในระดับชาติ และในระดับสากลโดยท่ีโครงการฯ เองมีความพร้อมอย่างเป็นรูปธรรม จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่โครงการฯ จะมีการขับเคล่ือนตอ่ พฒั นาต่อยอดเพ่ือให้ได้มาตรฐานการพฒั นาของประเทศ และมาตรฐานการพัฒนาของสากล ดงั ตัวอยา่ งการพัฒนาระบบเกษตรทันสมัย (Smart Farm) บนฐานความพอเพียงตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ท่ีหลายชุมชนในประเทศไทยได้นาไปปรับใช้ ประยุกต์ใช้ต่อยอด บูรณาการสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของตนเอง การสร้างอาชีพในชุมชน เช่น อาชีพเก่ียวกับการแปรรูปการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การท่องเที่ยวชุมชน การท่องเท่ียวระบบเกษตรทันสมัย การศึกษาดูงาน ฯลฯ เช่นทห่ี ม่บู า้ นลม่ิ ทอง อ.นางรอง จ.บุรรี ัมย์ และท่ีอืน่ ๆ อีกมากมายที่มีการนานวตั กรรมท่ีหลากหลาย ตลอดจนมกี ารใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (ICT) เพื่อเป็นหน่ึงในเคร่ืองมือเพื่อการขับเคลื่อนสู่การเป็นชุมชน 4.0รวมทงั้ การเป็นชมุ ชนชวี วถิ ี 4.0 ดว้ ยภาพที่ 3 แนวคดิ เกี่ยวกบั การพัฒนาระบบเกษตรทนั สมยั (Smart Farm) ท่ีครบวงจรในรปู แบบของ (One Stop Services Center) บนฐานความพอเพียงตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งฯสรปุ ผลการประชุมสมั มนาเชงิ ปฏิบัตกิ าร (Workshop) ระดบั ประเทศ 3โครงการชวี วิถีเพ่อื การพัฒนาอยา่ งย่ังยนื ตามความร่วมมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ย์วจิ ยั CCDKM มสธ.

ภาพท่ี 4 การพัฒนาระบบเกษตรทนั สมัย (Smart Farm) บนฐานความพอเพยี งตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพียงฯ ทห่ี มูบ่ า้ นล่ิมทอง อ.นางรอง จ.บรุ ีรัมย์ : นวัตกรรม ICT และวิถชี ุมชนภาพที่ 5 การต่อยอดสู่การสรา้ งอาชีพในชมุ ชน เชน่ การทอ่ งเทีย่ วชมุ ชน การท่องเท่ียวระบบเกษตรทันสมยั การศกึ ษาดงู าน ภมู ปิ ัญญา ฯลฯสรุปผลการประชุมสัมมนาเชงิ ปฏิบตั ิการ (Workshop) ระดับประเทศ 4โครงการชวี วถิ ีเพ่อื การพฒั นาอยา่ งยั่งยนื ตามความรว่ มมือระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ยว์ จิ ยั CCDKM มสธ.

ประเด็นท่ี 2 : มมุ มองจากประสบการณส์ กู่ ารขบั เคลื่อน “ชุมชนชวี วิถี 4.0” โดย หมอพืช พันไมล์ นักเกษตรอินทรีย์ อิสระ ที่ปรึกษาระบบเกษตรทันสมัย (Smart Farm) ศูนย์วิจัยCCDKM มสธ. ไดแ้ ลกเปลีย่ นมมุ มองจากประสบการณ์สู่การขับเคลื่อน “ชมุ ชนชีววถิ ี 4.0” ที่หลากหลายประเด็นเช่น การนาแนวคิด ความรู้จากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ เกี่ยวกับเร่ืองการจัดการดินมาใชใ้ นการบรหิ ารจดั การฟารม์ เพื่อเปน็ ฐานในการรองรบั การพัฒนาต่อยอดสู่ “ชมุ ชนชีววถิ ี 4.0” ดังภาพที่ 6 ภาพท่ี 6 การจัดการดินมาใช้ในการบริหารจดั การฟารม์ เพื่อเป็นฐานในการรองรบั การพัฒนาตอ่ ยอดสู่ “ชุมชนชวี วิถี 4.0” เมื่อเกษตรกรสามารถที่จะบริหารจัดการดินมาใช้ในการบริหารจัดการฟาร์มเพื่อเป็นฐ านในการรองรับการพัฒนาต่อยอดสู่ “ชุมชนชีววิถี 4.0” หรือการบริหารจัดการฟาร์มแบบทันสมัย (smart farm) บนฐานความพอเพียง หรือฐานความพร้อมของพ้ืนที่ตนเอง เกษตรกรก็สามารถท่ีจะวางแผนการผลิตในพ้ืนท่ีของตนเองได้อย่างมั่นใจ และกล้าที่จะพัฒนาสู่ระบบพืชเศรษฐกิจอื่น ๆ เพ่ือโอกาสทางการตลาดท่ีมากกว่า รายได้ที่มากกว่าดงั น้นั สิ่งที่ระบบฟาร์มทนั สมัย (smart farm) หรอื “ชุมชนชีววถิ ี 4.0” คือ การทเ่ี กษตรกรสามารถทีจ่ ะต่อยอดการพัฒนาพื้นที่ฟาร์มของตนเองจากฐานความพร้อม และฐานทรัพยากรท่ีมีอยู่ เกษตรกรสามารถที่จะต่อยอดเก่ียวกับการวางแผนระบบการบริหารจัดการฟาร์มทั้งระบบ ต้ังแต่ระบบดิน ระบบน้า ระบบแรงงาน ระบบการผลิตทอ่ี อกแบบตามความต้องการท่แี ทจ้ ริง (demand side) ระบบเครอื ขา่ ย ระบบตลาดท่เี กี่ยวข้อง ดังภาพท่ี 7-8สรุปผลการประชุมสัมมนาเชิงปฏบิ ัตกิ าร (Workshop) ระดับประเทศ 5โครงการชีววถิ ีเพ่อื การพัฒนาอยา่ งย่ังยนื ตามความร่วมมือระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ย์วจิ ยั CCDKM มสธ.

ภาพท่ี 7 การจัดการดนิ ทีเ่ หมาะสมกบั บรบิ ทของพืน้ ที่ ท่ีเกษตรกรสามารถออกแบบระบบฟารม์ ของตนเอง ได้อย่างสอดคลอ้ งทั้งระบบ เชน่ ประเภทพืชท่เี ลอื กปลกู ที่จะตอ้ งสอดคล้องกับระบบตลาดของพืน้ ท่ีดว้ ย ภาพท่ี 8 หลงั จากที่เกษตรกรสามารถบริหารจดั การดินได้แล้ว สามารถเลอื กปลูกพชื เศรษฐกจิ ตามท่ีตลาด ของแต่ละพื้นท่ีต้องการได้ จากภาพที่ 7-8 เป็นการแสดงให้เห็นว่า เกษตรกรตามแนวคิดของฟาร์มทันสมัย (smart farm) หรือ“ชุมชนชีววิถี 4.0” นั้น สามารถท่ีจะวางแผนการผลิต วางแผนการใช้พื้นที่ วางแผนการใช้ทรัพยากรที่เก่ียวขอ้ งเพ่ือการผลิตตามความต้องการของตลาดได้ เช่น ผักสลัดประเภทต่าง ๆ ที่จะต้องมีการวางแผนการผลิต เพ่ือให้สามารถทจ่ี ะปอ้ นผลผลติ ใหก้ บั ตลาดได้อย่างต่อเนื่อง อกี ท้ังสะอาด ปลอดภัย ไดค้ ุณภาพตามที่ตอ้ งการ ฯลฯสรุปผลการประชุมสมั มนาเชงิ ปฏิบตั ิการ (Workshop) ระดบั ประเทศ 6โครงการชีววิถเี พื่อการพัฒนาอยา่ งยง่ั ยนื ตามความรว่ มมือระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ยว์ จิ ยั CCDKM มสธ.

ภาพท่ี 9 แนวคดิ ของฟาร์มทันสมยั (smart farm) หรอื “ชมุ ชนชีววิถี 4.0” คือ การรกั ษาความสมดุล คอื ท้ังการอนุรกั ษ์และการรกั ษา ตลอดจนการฟนื้ ฟทู รัพยากรธรรมชาติ เช่น ป่าชมุ ชน ภาพที่ 10 การมีส่วนร่วมของชุมชน และทกุ ภาคสว่ นทีเ่ กยี่ วขอ้ ง (partnership) คอื อีกหนึ่งแนวคิดสาคญั ของฟารม์ ทันสมัย (smart farm) หรือ “ชุมชนชีววิถี 4.0” เช่น ป่าชมุ ชน จากภาพท่ี 9 -10 หน่ึงในหลักคิดสาคัญของการพัฒนาเกษตรกรตามแนวคิดของฟาร์มทันสมัย (smartfarm) หรือ “ชุมชนชีววิถี 4.0” คือการมีส่วนร่วมของชุมชน และทุกภาคส่วน หรือผู้ท่ีมีส่วนได้เสียระดับต่าง ๆ(stakeholders) ในการร่วมกันรักษาความสมดุล คือ ท้ังการอนุรักษ์และการรักษา ตลอดจนการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ เชน่ ปา่ ชุมชน รวมทง้ั ทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ทเ่ี กีย่ วข้องดว้ ย ตามกรอบของการพัฒนาท่ียั่งยืนร่วมกัน (sustainable development) ดังนั้น กระบวนการของการมีส่วนร่วมจึงได้รับการส่งเสริมอย่างเป็นรูปธรรมในทุกกระบวนการของฟาร์มทันสมัย (smart farm) หรือ “ชุมชนชีววิถี 4.0” เช่น การร่วมคิด ร่วมแบ่งปันความรู้ประสบการณ์ ร่วมลงทุน ร่วมแบ่งปันทรัพยากร ร่วมทา ร่วมทดลอง ร่วมประเมินผล และร่วมกันดูแลรักษา และรว่ มมอื กันในการตอ่ ยอดการพฒั นาย่ิง ๆ ขึน้ บนฐานศกั ยภาพของตนเองสรปุ ผลการประชุมสัมมนาเชงิ ปฏิบตั กิ าร (Workshop) ระดับประเทศ 7โครงการชีววถิ เี พอ่ื การพัฒนาอยา่ งยงั่ ยนื ตามความรว่ มมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศูนยว์ จิ ัย CCDKM มสธ.

ภาพท่ี 11 การต่อยอดเกย่ี วกับการจดั การฟารม์ ทนั สมยั (smart farm) หรือ “ชมุ ชนชีววิถี 4.0” ตามความพรอ้ มของชมุ ชน : พชื เศรษฐกิจหรือพืชทสี่ ามารถเพมิ่ มูลค่าเพมิ่ ตามทตี่ ลาดต้องการ ภาพท่ี 12 การตอ่ ยอดเกยี่ วกับการจัดการฟารม์ ทนั สมยั (smart farm) หรือ “ชุมชนชีววิถี 4.0” ตามความพร้อมของชุมชน : ไมต้ ัดดอก จากภาพที่ 11 -12 อีกหน่ึงในหลักคิดสาคัญของการพัฒนาเกษตรกรตามแนวคิดของฟาร์มทันสมัย(smart farm) หรือ “ชุมชนชวี วิถี 4.0” คอื ความสามารถในการวางแผนการผลิตพืชผกั ประเภทอืน่ ๆ ทีส่ ามารถเพ่ิมมูลค่าเพ่ิมให้กับตนเอง โดยอาจจะเป็นพืชเศรษฐกิจประเภทต่าง ๆ ทั้งเพ่ือการป้อนตลาด หรือเพื่อการหนุนเสริมการทอ่ งเท่ยี วของชุมชน เช่น เมลอ่ น ผกั สลดั ประเภทต่าง ๆ ดอกทานตะวัน ดาวเรอื ง เบญจมาศ มะลิ ฯลฯอกี ทัง้ อาจจะเป็นพืชผักสมนุ ไพร พืชผกั ทีเ่ ปน็ ภมู ิปัญญาต่าง ๆ ของแต่ละท้องถ่ินที่อาจจะเปน็ ได้ท้ังอาหารและยาในขณะเดียวกนั เปน็ ต้นสรปุ ผลการประชมุ สัมมนาเชิงปฏบิ ตั ิการ (Workshop) ระดบั ประเทศ 8โครงการชีววถิ เี พอ่ื การพัฒนาอยา่ งยัง่ ยนื ตามความร่วมมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ย์วจิ ัย CCDKM มสธ.

ภาพที่ 13 การตลาด คอื อีกหนง่ึ แนวคดิ สาคัญของฟาร์มทันสมยั (smart farm) หรือ “ชมุ ชนชวี วถิ ี 4.0” เช่น ตลาดกรนี (Green Market) ตลาดทอ่ งเท่ียว ตลาดชุมชน ตลาดภูมิปัญญา ฯลฯ ภาพท่ี 14 การท่องเท่ียวชุมชน คอื อีกหนง่ึ แนวคิดสาคัญของฟาร์มทันสมยั (smart farm) หรอื“ชมุ ชนชีววถิ ี 4.0” เช่น การทอ่ งเทีย่ วเกษตร การท่องเที่ยวนเิ วศน์ การท่องเทยี่ ววัฒนธรรม หรือการท่องเที่ยว ภูมปิ ญั ญา ฯลฯ จากภาพท่ี 13 -14 นับว่าเป็นอีกหน่ึงของหลักคิดสาคัญของการพัฒนาเกษตรกรตามแนวคิดของฟาร์มทันสมยั (smart farm) หรือ “ชมุ ชนชีววถิ ี 4.0” คือ การทอ่ งเทยี่ วชมุ ชน เชน่ การท่องเท่ียวเกษตร การท่องเที่ยวนิเวศน์ การท่องเที่ยววัฒนธรรมหรือการท่องเท่ียวภูมิปัญญา การท่องเท่ียวแบบมีส่วนร่วม เช่น การท่องเที่ยวท่ีเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มาเยือนได้มีโอกาสในการสร้างสรรค์สิ่งดี ๆ ในชุมชน เช่น การท่องเท่ียวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม ท่ีมีการออกแบบกิจกรรมการเดินป่า การถ่ายภาพ การถ่ายทอดความรู้ที่ถูกต้องการร่วมปลูกต้นไม้ การร่วมปลูกหญ้าแฝกกันดินทลาย การทาฝายกั้นน้าธรรมชาติ การจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้มาเยือนกับชุมชนเจ้าของพ้ืนท่ี การพักอาศัยร่วมกันในรูปแบบต่าง ๆ (home stay) การร่วมทาความสะอาดวนอุทยาน หรือสถานที่สาคัญต่าง ๆ ในชุมชน ฯลฯ เพราะถือว่าเป็นการสืบทอดวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ อัตลักษณ์ของชุมชน วัฒนธรรมประเพณี ส่ิงท่ีเป็นความภาคภูมิใจของชุมชนน้ัน ๆ ให้สามารถสืบทอดสู่ลูกหลานในร่นุ ตอ่ ๆ ไปสรุปผลการประชมุ สมั มนาเชิงปฏิบตั กิ าร (Workshop) ระดับประเทศ 9โครงการชีววถิ ีเพื่อการพัฒนาอยา่ งยงั่ ยนื ตามความร่วมมือระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศูนยว์ จิ ยั CCDKM มสธ.

ประเดน็ ที่ 3 : สรุปผลจากกจิ กรรมระดมความคดิ เห็น (Work Shop) โดยการนาเสนอจากผู้แทน 4 ภาค : ภาคตะวนั ออกฉียงเหนือ ภาคใต้ ภาคเหนือ และภาคกลาง โดยทุกภาคทาการระดมความเห็นใน 2 ประเด็นหลักคือ ประเด็นที่ 1 ทเ่ี ปน็ ประเด็นเกีย่ วกบั ทุนเดิมทม่ี ีอยู่ และประเด็นท่ี 2 คอื ประเด็นที่ข้อเสนอเก่ียวกบั วิธกี ารหรือรวมทงั้ แนวทางการขับเคลื่อนดว้ ยนวตั กรรมสชู่ มุ ชนชีววถิ ี 4.0”3.1) ภาคตะวนั ออกฉยี งเหนือ1. ทนุ เดิม / สงิ่ ดี ๆ / นวตั กรรมดี ๆ ท่ี (สอศ.+กฟผ.+กษทน.) มแี ละพร้อมขับเคล่อื นให้เปน็ MODEL หรือ พัฒนาสู่การเป็น “ชีววิถี 4.0” (SMART LOCAL) ตามรอยพระราชปณิธานเพ่ือพัฒนา 89 ชุมชนต้นแบบ ภายในปี พ.ศ.2564 1.1) มีการนานวัตกรรม / ส่งิ ประดิษฐ์ / งานวจิ ยั ทชี่ นะเลศิ ประเภทต่าง ๆ ลงส่ชู มุ ชน 1.2) มีการจัดทาศูนยเ์ รยี นรู้หรอื ห้องเรียนมีชวี ิตของแตล่ ะวิทยาลัย 1.3) มีการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรมนุษย์ที่มีความพร้อม และเป็นบุคคลต้นแบบ เช่น ราษฎรที่ ชนะเลิศจากการประกวดตา่ ง ๆ 1.4) มีความรว่ มมือระหวา่ ง สอศ. กฟผ. และร่วมทั้งหนว่ ยงานอ่ืน ๆ ที่เกยี่ วข้องจากทุกระดับ2. วิธีการในการขับเคลื่อนร่วมกัน และแผนการขับเคล่ือนร่วมกันสู่การสร้างนวัตกรรมของโครงการชีววิถี 4.0 (SMART LOCAL) ตามรอยพระราชปณธิ านเพอ่ื พัฒนา 89 ชมุ ชนต้นแบบ ภายในปี พ.ศ.2564 2.1) โครงการ 5 ประสานเพ่ือสืบสานทฤษฎีใหม่ โดยเน้นการประสานงานระหว่างทุกภาคส่วนที่ เกยี่ วขอ้ งคอื - ประสานงานกบั ชมุ ชนท่ีทีความพร้อม รวมทงั้ มีพน้ื ทท่ี ี่พร้อมในการดาเนนิ งาน - สร้างเครือข่ายกับหน่วยราชการต่าง ๆ ที่เก่ียวข้อง ประสานความร่วมมือกับปราชญ์ชาวบ้านในพ้ืนท่ี เพื่อมาช่วยในการดาเนินการต่าง ๆ เปิดรับภาคเอกชนที่มีความพร้อมมาเป็นภาคีเครือข่าย โดยใช้สถานศึกษาเปน็ หน่วยสนับสนนุ หรือเปน็ หนว่ ยประสานกลาง 2.2) นาชุมชนทีส่ นใจไปศึกษาดูงานชมุ ชนตน้ แบบ 2.3) แตง่ ต้ังคณะกรรมการดาเนินงาน 2.4) ตงั้ กลุ่มไลน์เพ่ือการส่ือสารสู่ชวี วิถี 4.0 2.5) นานวัตกรรมท่ีชนะการประกวดขยายผลสู่ชมุ ชน 2.6) ส่งเสริมชุมชนที่มีจดุ เด่นให้พัฒนาต่อยอดเพื่อเป็นชุมชนต้นแบบต่อไป และสนับสนุนชมุ ชนที่มี จดุ ด้อยใหเ้ กดิ การพฒั นาท่ียัง่ ยนื รว่ มกันตอ่ ไปสรุปผลการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบตั ิการ (Workshop) ระดับประเทศ 10โครงการชวี วถิ เี พื่อการพฒั นาอยา่ งยั่งยนื ตามความร่วมมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศูนยว์ จิ ยั CCDKM มสธ.

2.7) สนับสนุนการยกย่องเชิดชู การพัฒนาต่อยอดผู้นาต้นแบบจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะจาก ชุมชน จากเยาวชน จากนักศึกษา จากครูบาอาจารย์ หน่วยงาน และผู้บริหารท่ีเก่ียวข้อง เพอ่ื ให้เป็นแบบอย่าง3.2) ภาคใต้1.ทุนเดิม / สิ่งดี ๆ / นวัตกรรมดี ๆ ท่ี (สอศ.+กฟผ.+กษทน.) มีและพร้อมขับเคลื่อนให้เป็น MODEL หรือพัฒนาสู่การเป็น “ชีววิถี 4.0” (SMART LOCAL) ตามรอยพระราชปณิธานเพ่ือพัฒนา 89 ชุมชนต้นแบบภายในปี พ.ศ.2564 1.1) มีความรู้ มีวัตถุดิบ มีภูมิปัญญา มีส่ิงประดิษฐ์ มีนวัตกรรม มีงานวิจัย มีพ้ืนท่ี มีแปลงสาธิต (ต้งั แต่ 3 งาน – 2 ไร่) 1.2) มบี ุคลากรทห่ี ลากหลาย เชน่ มีครูอาจารย์ ผู้บริหาร นักศึกษา เกษตรกร ทด่ี ีเด่นในเรอ่ื งต่าง ๆ ทหี่ ลากหลายท่สี ามารถเปน็ กาลังในการขยายผลได้ 1.3) มีงบประมาณ เพราะผนู้ าจากแต่ละภาคสว่ นค่อนขา้ งมงี บประมาณของตนเอง2. วิธีการในการขับเคล่ือนร่วมกัน และแผนการขับเคลื่อนร่วมกันสู่การสร้างนวัตกรรมของโครงการชีววิถี 4.0 (SMART LOCAL) ตามรอยพระราชปณิธานเพอื่ พัฒนา 89 ชุมชนตน้ แบบ ภายในปี พ.ศ.2564 2.1) กาหนดจุดท่ีแต่ละพื้นที่ ที่มีความเชี่ยวชาญ ที่มีความแข็งแกร่งแล้วพัฒนาต่อในรูปแบบ ของ “One Stop Service Center” เช่น การจัดต้ังเป็น “ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจ พอเพียง” ท้ังเพ่ือเป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นแหล่งในการฝึกอบรม เป็นแหล่งให้คาปรึกษา เป็น แหล่งศกึ ษาดูงาน เป็นแหลง่ ท่องเท่ียว เปน็ สว่ นหนงึ่ ของโครงการชวี วิถี เปน็ ต้น 2.2) ใช้กลยุทธ์ในการเลือกพื้นที่เพ่ือการดาเนินการ คือ เลือกพ้ืนท่ีท่ีเป็นพื้นท่ีที่กฟผ. ให้ ความสาคัญ เชน่ พ้ืนท่ใี ตส้ ายส่ง ของ กฟผ. เป็นต้น 2.3) การสอนวิชา “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” เข้าไปเป็นส่วนหน่ึงของหลักสูตรของทุกระดับ เพราะหากว่าทุกคนท้ังครู นักศึกษาเข้าใจในหลักการของ “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ท่ี ชัดเจนแล้ว จะสามารถนาไปใช้ นาไปประยุกต์ใช้ นาไปบูรณาการในการใช้ได้อย่างถูกต้อง และประสิทธิภาพ 2.4) เน้นการใช้กระบวนการในการบริหารจัดการในการขับเคล่ือน โดยใช้หลักคิดของเศรษฐกิจ พอเพียงเปน็ แก่นหลักในการขับเคลื่อน โดยทาเป็นฐานการเรียนรู้ 4 กจิ กรรมหลกั ทีช่ ัดเจน ใน แตล่ ะสถาบนั เช่น - การจัดตั้งธนาคาร EMสรปุ ผลการประชมุ สัมมนาเชิงปฏิบตั กิ าร (Workshop) ระดบั ประเทศ 11โครงการชวี วถิ ีเพือ่ การพัฒนาอยา่ งยัง่ ยนื ตามความร่วมมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศูนยว์ จิ ยั CCDKM มสธ.

- การทาแปลงสาธิตเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ท่ีเป็นรูปธรรม ตั้งแต่ให้นักศึกษาให้เรียนรู้จากนน้ั กเ็ ปน็ กลุ่มชุมชนในพื้นท่ี อกี ทั้งกลมุ่ ศกึ ษาดงู านต่าง ๆ โดยตงั้ เปน็ “MODEL” ทโ่ี ดดเดน่ แตล่ ะประเด็นไปโดยเน้นการมีจดุ แข็งท่ีชัดเจน เป็นจุดขายท่ีชดั เจน โดดเด่น และสามารถนาไปใช้ หรอื ปรบั ใชไ้ ด้อยา่ งเป็นรูปธรรม - จดั ทาเป็นแหลง่ สาธิตตา่ ง ๆ เพ่ือให้เหน็ เป็นรูปธรรม เช่น การจดั ทา “บ่อสาธิต” โดยเน้นการสร้าง “แบบ” ให้ดู ดีกว่าการ “บอก” โดยเลือกชุมชนที่เข้มแข็งท่ีสามารถเป็น “ชุมชนแม่แบบ” หรือเป็น “ชุมชนต้นแบบชีววิถี” ในแต่ละประเด็นได้ จากนั้นก็จะเกิดการแลกเปล่ียนเรียนรู้ที่ขยายวงกว้างออกไปมากยง่ิ ข้นึ 2.5) เน้นการประสานงาน คือ “5 ประสาน ถวายในหลวง” เช่น ปราชญ์ สถาบันการศึกษาท่ี เก่ียวข้อง เช่น วิทยาลัยการอาชีพท่ีสามารถใช้เป็นหน่วยงานหลักเกี่ยวกับเร่ืองอาชีพ CP คโู บต้า หนว่ ยงานระดับท้องถ่นิ ประมง เกษตร ฯลฯ 2.6) เน้นการนานวัตกรรม และส่ิงที่ได้รับรางวัลท่ีหลากหลายระดับต่าง ๆ ออกไปขยายผลให้ เกิดการพัฒนาและเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยใช้นักศึกษา เยาวชนเข้ามาร่วมในขบวนการ ขับเคลื่อน ฯลฯ 2.7) ใช้การส่ือสารท่ีสะดวก และเข้าถึงทุกคนได้อย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ เช่น การส่ือสาร ด้วยกลมุ่ ไลน์ เฟสบคุ๊ โทรศัพทม์ อื ถือ3.3) ภาคเหนอื1.ทุนเดิม / สิ่งดีๆ /นวัตกรรมดีๆ ที่ (สอศ.+กฟผ.+กษทน.) มีและพร้อมขับเคลื่อนให้เป็น MODEL หรือพัฒนาสู่การเป็น “ชีววิถี 4.0” (SMART LOCAL) ตามรอยพระราชปณิธานเพื่อพัฒนา 89 ชุมชนต้นแบบภายในปี พ.ศ.2564 1.1) มีนโยบายของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานที่ชัดเจน มีบุคลากรท่ีหลากหลาย มีวิทยากร มี ผู้นา โดยเฉพาะครู บคุ ลากรทางการศึกษา ที่มีความรูค้ วามสามารถด้านการเกษตร นาความรู้ ลงสชู่ ุมชนทาให้เขม้ แข็ง 1.2) มีองค์ความรู้ท่ีชัดเจนเกี่ยว “ชีววิถี” จากผู้ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ คือ ตั้งแต่ผู้บริหาร บุคลากร นกั ศึกษา และชมุ ชน 1.3) มีเทคโนโลยี มีงานวิจัย มีความรู้ มีนวัตกรรมและสิ่งประดิษฐ์ มีวัตถุดิบ มีภูมิปัญญาในแต่ละ พ้ืนท่ี สนับสนุนให้กับชุมชนพัฒนาอาชีพด้านเกษตรกรรมให้ดีย่ิงขึ้น รวมทั้งการพัฒนาชุมชน โดยภาพรวมด้วยเชน่ กนัสรุปผลการประชมุ สัมมนาเชงิ ปฏิบตั กิ าร (Workshop) ระดับประเทศ 12โครงการชีววถิ เี พอื่ การพัฒนาอยา่ งยัง่ ยนื ตามความรว่ มมือระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ย์วจิ ยั CCDKM มสธ.

1.4) มีชุมชนที่พร้อมสามารถร่วมโครงการได้ เช่น ชุมชนมีทรัพยากรพ้ืนฐาน มีแรงงาน มีความ สามัคคี พร้อมเรียนรู้ มีความเข้มแข็ง มีเครือข่าย และบางท่ีมี “ชุมชนต้นแบบ” อยู่แล้ว ก็ สามารถทีจ่ ะใช้เป็นพี่เล้ยี ง หรอื ผู้นาในการขยายผลได้ 1.5) กฟผ. และสอศ. มีงบประมาณ มีวัสดุอุปกรณ์ที่เป็นพ้ืนฐานการดาเนินงานและการขับเคลื่อน เพื่อการขยายผลให้2. วิธีการในการขับเคลื่อนร่วมกัน และแผนการขับเคล่ือนร่วมกันสู่การสร้างนวัตกรรมของโครงการชีววิถี4.0 (SMART LOCAL) ตามรอยพระราชปณิธานเพือ่ พัฒนา 89 ชมุ ชนต้นแบบ ภายในปี พ.ศ.2564 2.1) วิธีการขับเคล่ือน ๆ หลัก ๆ คือ การใช้สถาบันการศึกษาหรือวิทยาลัยท่ีได้รับรางวัลเป็นกลไก หลักในการขับเคล่ือน โดยเน้นการสร้างความเข้าใจ การสร้างความตระหนักในระดบั ชุมชนให้ ชัดเจนมากยิ่งขึ้นเน้นการลงมือปฏิบัติร่วมกัน ให้ครูช่วยแนะนาเป็นพ่ีเล้ียงตามกิจกรรมของ ชวี วถิ ี 4 กิจกรรมหลัก โดยใหช้ ุมชนเหน็ ชดั เจนรว่ มกันว่า โครงการชวี วถิ ีสามารถช่วยสร้างงาน สร้างอาชพี สร้างรายได้ และช่วยแกป้ ัญหาทเี่ กี่ยวข้องไดจ้ ริง 2.2) หาจุดแข็งของชุมชนแล้วพัฒนาต่อยอด โดยเน้นการสร้างความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เน้น การทางานกับผู้นา และแกนนาชุมชนโดยเน้นการทางานเป็นเครือข่ายระหว่างกัน โดยต้องมี การจัดประชุมช้ีแจง ทาความเข้าใจกับผู้นาก่อน จากน้ันเป็นลูกบ้าน เพ่ือให้ร่วมมือกันเพื่อ พัฒนาต่อยอดสู่การเป็นชุมชนต้นแบบ และรวมทั้งการเป็นครอบครัวตัวอย่าง เพ่ือนาร่องให้ เป็นตัวอย่างในชุมชน เพราะชุมชนมีฐานของความสามัคคี และมีเครือข่ายของตนเอง โดยนา ทุนเดิมทั้ง 8 ข้อ มาบริหารจัดการชุมชน และพิจารณาคัดเลือกชุมชนท่ีเข้มแข็ง มีความ โดดเดน่ จากแต่ละดา้ น หรือชมุ ชนทเี่ คยไดร้ บั รางวลั อีกทั้งมกี ารการแลกเปลี่ยนเรียนรูร้ ะหว่าง กนั เชน่ การแลกเปล่ียนประสบการณข์ องผปู้ ฏบิ ตั ทิ ไี่ ด้รบั รางวัลท่ี 1 ระดับภาคประเภทตา่ ง ๆ เป็นต้น ซึ่งโดยภาพรวมแล้ว จะเริ่มต้ังต้นต้ังแต่การขับเคล่ือนโครงการชีววิถีตามแนวทางที่ กฟผ. กาหนด 12 ขั้นตอนให้เกิดผลที่ชัดเจน เช่น เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพท่ีชัดเจน ชุมชนอยู่ดีมีสุข มีการสร้างงานและรายได้จากการท่องเที่ยวชุมชน การศึกษาดูงาน การแปรรปู ฯลฯ 2.3) มีการยกระดับองค์ความรู้ การใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ การบริหารจัดการในรูปแบบ ใหม่ท่ีสามารถแก้ปัญหาชุมชนได้ เช่น ปัญหาเก่ียวกับการตลาด การยกระดับสินค้าเข้าสู่ มาตรฐาน มีการใช้ ICT มาช่วยในเรื่องการตลาด การตลาดออนไลน์ การประชาสัมพันธ์ทั้งที่ เป็นแบบเดมิ และแบบใหม่ผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่าง ๆสรุปผลการประชมุ สมั มนาเชงิ ปฏิบตั ิการ (Workshop) ระดบั ประเทศ 13โครงการชีววถิ เี พ่ือการพัฒนาอยา่ งย่งั ยนื ตามความร่วมมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ยว์ จิ ยั CCDKM มสธ.

2.4) ใช้หลักการของ 4 M (Man วางตัวบุคคลให้ดี และเข้าไปสู่ชุมชน Material เครื่องมือ วัสดุ อุปกรณ์ที่ดี Money กฟผ. วิทยาลัย เครือข่ายชุมชน และ Management การจัดการ ใช้ กระบวนการ PDCA วางแผน ดาเนินงาน ประเมินผล ติดตามพัฒนา โดยเน้นการบริหาร จดั การแบบมีสว่ นร่วม เช่น การทาแปลงสาธิตของทุกวิทยาลัย ที่สามารถขยายลงสชู่ ุมชน โดย อาจจะต้องมีการพิจารณาเรื่องการสนับสนุนงบประมาณท่ีเหมาะสมมากย่ิงขึ้น หรือการ ประสานการใช้ทรัพยากรระหว่างหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องระหว่างทุกภาคส่วนมากย่ิงขึ้น อีกทั้ง เน้นการตดิ ตามประเมินผลแบบธรรมชาติ หรอื ในรูปแบบท่สี อดคล้องกบั วิถขี องชุมชน เชน่ ไม่ เน้นเอกสาร ไมเ่ นน้ ขนั้ ตอน เช่น อาจจะดาเนนิ การในรปู แบบคณะกรรมการในหมู่บา้ น โดยให้ กฟผ. และสอศ. รวมท้ังหน่วยงานอื่น ๆ ท่ีเกี่ยวข้องมาเป็นกรรมการร่วม และรวมกลุ่มดูงาน ของจรงิ เพือ่ เป็นการชว่ ยกันดูว่าระหว่างการดาเนินโครงการมีปัญหาหรืออปุ สรรคท่ีต้องแก้ไข หรอื ชว่ ยหนนุ เสริมกนั หรอื ไมอ่ ยา่ งไร ฯลฯ3.4) ภาคกลาง1.ทุนเดิม / ส่ิงดีๆ /นวัตกรรมดี ๆ ที่ (สอศ.+กฟผ.+กษทน.) มีและพร้อมขับเคลื่อนให้เป็น MODEL หรือพัฒนาสู่การเป็น “ชีววิถี 4.0” (SMART LOCAL) ตามรอยพระราชปณิธานเพื่อพัฒนา 89 ชุมชนต้นแบบภายในปี พ.ศ.2564 1.1) มีเปา้ หมายสงู สดุ ที่ชัดเจนร่วมกนั คือ “ทาเพื่อในหลวง” คือเป้าหมายสงู สดุ 1.2) มีหลักสูตร ท่ีได้รับการอนุมัติแล้ว และมีรหัสวิชาที่ชัดเจน อีกท้ังมีวิชาที่เกี่ยวข้อง และใช้ใน การเรยี นการสอนอย่างชดั เจน เช่น วชิ าชีววถิ ี วชิ าเกษตรผสมผสาน ทเ่ี ปน็ วชิ าหลกั ๆ 1.3) มีชมรมชีววถิ ี ทีเ่ ป็นท้งั กลไกในการขับเคลื่อนและเปน็ แหล่งเรียนรู้ดว้ ย 1.4) มีทุนเดิมที่หลากหลาย ท้ังวิธีการและกระบวนการต่าง ๆ มีการประสานการทางานระหว่าง กฟผ. และสอศ. รวมทัง้ หน่วยงานอื่นท่ีเก่ยี วขอ้ ง2. วิธีการในการขับเคลื่อนร่วมกัน และแผนการขับเคลื่อนร่วมกันสู่การสร้างนวัตกรรมของโครงการชีววิถี4.0 (SMART LOCAL) ตามรอยพระราชปณธิ านเพื่อพัฒนา 89 ชุมชนต้นแบบ ภายในปี พ.ศ.2564 2.1) ยึดหลักความย่ังยืน และความต่อเน่ือง มีความยืดหยุ่น เมื่อมีปัญหาอุปสรรคต้องมีการ ปรึกษาหารอื มีการแลกเปล่ยี นเรยี นรู้ มีการสอื่ สารประสานงานร่วมกันอย่างต่อเน่ือง 2.2) ความชัดเจนเชิงนโยบายจากผู้บริหารทุกระดับ ที่สนับสนุน ลงมือทา ติดตาม และให้กาลังใจ บคุ ลากรสรุปผลการประชุมสมั มนาเชิงปฏิบัตกิ าร (Workshop) ระดับประเทศ 14โครงการชวี วถิ เี พ่อื การพฒั นาอยา่ งยัง่ ยนื ตามความรว่ มมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศูนย์วจิ ัย CCDKM มสธ.

2.3) การขับเคล่ือนด้วยหลักสูตรการเรียนการสอน โดยพิจารณารายวิชาเหมาะสมท่ีสามารถจะ บรรจุหรือบูรณาการร่วมกันได้บ้าง เช่น วิชาเลือกเสรี วิชาเกษตรผสมผสานในหลักสตู ร ปวช. ปวส. ของวษท. สุพรรณบุรีทม่ี ีการกาหนดเปน็ รายวิชา คอื วชิ าชวี วิถี เปน็ ตน้2.4) การขับเคล่ือนด้วยกิจกรรม หรือโครงการพิเศษต่าง ๆ เข่น การขับเคลื่อนด้วยชมรมชีววิถี ท่ี ถือว่าเป็นหน่งึ ในเครือ่ งมอื สาคญั ของการขบั เคลื่อน เชน่ วทิ ยาลยั การอาชพี วังนา้ เยน็ เป็นต้น2.5) การขับเคล่ือนด้วยกิจกรรมการมีส่วนร่วมต่าง ๆ เพื่อให้เป็นส่ิงที่หนุนเสริม เช่น กิจกรรมการ ประกวด เพ่ือผลักดัน เพ่ือเป็นกาลังใจให้กับทุกฝ่ายท่ีเก่ียวข้อง เช่น ส่งนักเรียน ส่งครูเข้า ประกวด จากนัน้ จึงเป็นชุมชน เป็นตน้ประเด็นที่ 4 : สรุปภาพรวมเพื่อเสนอต่อระดับนโยบายของ กฟผ. : “วิธีการขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรมสชู่ ุมชนชวี วถิ ี 4.0” สรุปภาพรวมเพื่อเสนอต่อระดับนโยบายของ กฟผ. : “วิธีการขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรมสู่ชุมชนชีววิถี4.0” แบ่งออกเป็น 3 ประเด็นหลักคือ 1) ความเป็นไปได้ และแนวทางในการขับเคลื่อนดว้ ยนวตั กรรมสู่ “ชุมชนชีววิถี 4.0” 2) วิธีการในการขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมสู่ “ชุมชนชีววิถี 4.0” และ 3) โมเดลนวัตกรรมองค์รวมเพอื่ การขบั เคลือ่ น “ชมุ ชนชีววิถี” สู่ “ชมุ ชนชวี วถิ ี 4.0” ดังสรปุ สังเขปตอ่ ไปนี้4.1) ความเป็นไปได้ และแนวทางในการขบั เคล่อื นดว้ ยนวัตกรรมสู่ “ชุมชนชวี วถิ ี 4.0” จากการศึกษาบริบท และสถานการณ์ที่เก่ียวข้องกับโครงการชีววิถีเพ่ือการพัฒนาอย่างย่ังยืนท่ีเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) นับต้ังแต่ปี พ.ศ.2546 ที่ผ่านมา เพื่อเน้นการประสานพลังในการนาแนวทางชีววิถีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยไปปรับใช้ในการดาเนินชีวิต และพัฒนาเศรษฐกิจแบบพ่ึงพาตนเอง อีกท้ังสามารถที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบเศรษฐกิจและสังคมได้โดยภาพรวม โดยเร่ิมที่สังคมชนบทท่ีเป็นฐานหลกั ของประเทศ ผลการดาเนินงานร่วมกันท่ีผ่านมากกว่าหนึ่งทศวรรษ พบว่ามีการต่อยอดการพัฒนาโครงการชีววิถีของการไฟฟ้าฝา่ ยผลิตแหง่ ประเทศไทย รวมทั้งการขยายผลออกไปส่ชู มุ ชนอย่างเป็นรปู ธรรม ดังต่อไปนี้ 1) มีการใช้กลไกของชีววิถีเป็นกลไกฐานแนวคิดหลักในการขับเคลื่อน แล้วต่อยอดด้วยนวัตกรรมประเภทต่าง ๆ อย่างต่อเน่ือง ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมทีเ่ ป็นส่ิงประดิษฐ์ นวตั กรรมที่เปน็ แนวคิด หรือนวตั กรรมที่เป็นกระบวนการตา่ ง ๆ โดยท่นี วตั กรรมรวมทง้ั งานวจิ ัย รวมทั้งเทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารต่าง ๆ (ICT)เพ่ือการพัฒนาและการต่อยอดทางการเกษตร เพื่อต่อยอดสู่เกษตรทันสมัย (smart farmer) ถือว่าเป็นหน่ึงในแก่นหลกั ของนโยบาย Thailand 4.0 เช่นกันสรุปผลการประชุมสมั มนาเชิงปฏิบัตกิ าร (Workshop) ระดบั ประเทศ 15โครงการชีววถิ ีเพื่อการพฒั นาอยา่ งยัง่ ยนื ตามความรว่ มมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ย์วจิ ยั CCDKM มสธ.

ภาพท่ี 15 นโยบายการขบั เคลอ่ื นประเทศไทย 4.0 กรอบหลักของการพฒั นาประเทศไทย 2) มีการพัฒนาต่อยอดสู่มาตรฐานสากล โดยใช้กรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ(SDG : Sustainable Development Goal) ท่ีเน้นการพัฒนาอย่างสมดุลทั้งระบบ ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของโครงการชีววิถีของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) โดยเฉพาะในประเด็นท่ีต่อยอดจากเรื่องการขจัดความยากจน การขจัดความหิวโหย การมีสุขภาพและความเป็นอยู่ท่ีดี การใช้ทรัพยากรธรรมชาติต่าง ๆ ร่วมกัน ฯลฯ โดยประเด็นท่ีต่อยอดชัดเจนคือ การเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างทุกภาคส่วนเพอื่ การพัฒนาอย่างย่งั ยนื ร่วมกัน ภาพท่ี 16 กรอบการพัฒนาอย่างยัง่ ยืนขององคก์ ารสหประชาชาติ 16 (SDG : Sustainable Development Goals)สรปุ ผลการประชุมสัมมนาเชงิ ปฏบิ ัติการ (Workshop) ระดบั ประเทศโครงการชวี วิถีเพอื่ การพฒั นาอยา่ งยงั่ ยนื ตามความร่วมมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ย์วจิ ยั CCDKM มสธ.

4.2) วธิ กี ารในการขับเคล่ือนด้วยนวตั กรรมสู่ “ชมุ ชนชวี วิถี 4.0” วิธีการที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และสานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา(สอศ.) จะต้องสนับสนุนต่อคือ การคดิ ค้นเก่ียวกบั นวัตกรรมที่เก่ียวข้องกับโครงการฯ และวธิ ีการนาไปขยายผลสู่ชมุ ชนอย่างเปน็ รูปธรรม โดยมีแนวทางในการพัฒนาดงั นค้ี ือ 1.1) พัฒนาศูนย์การเรียนรู้พอเพียงที่ทันสมัยแนว Smart One Stop Service Center โดยมีการบริหารจัดการที่ชัดเจนร่วมกัน เน้นการนาเอานวัตกรรม งานวิจัยท่ีคิดค้นพัฒนาระหว่างกันและหน่วยงานตา่ ง ๆ ที่เก่ียวข้องไปต่อยอด และปรบั ใชไ้ ด้จรงิ เชน่ แบง่ ออกเปน็ ภาค หรือแบ่งเป็นคลสั เตอร์ (cluster) จากน้ันแต่ละคลสั เตอร์ก็ต้องมีความเชี่ยวชาญของตนเองอย่างเด่นชดั เพ่อื ให้สามารถให้บริการได้อย่างเกิดประสิทธิภาพสงู สุด 1.2) เปิดกว้างการทางานเชิงหุ้นส่วน (partnership model) โดยที่ทุกภาคส่วนจากทุกระดับสามารถเข้ามาร่วมโครงการฯ ได้ในทุกระดับ เช่น องค์การปกครองท้องถิ่น โรงเรียน สถาบัน โรงงาน ฯลฯ ในพ้ืนที่ โดยเนน้ กระบวนการของการมีส่วนรว่ มจากทุกระดับร่วมกับชุมชน เนน้ การปฏบิ ัติจริง การแก้ปัญหาได้จริงเชน่ ปญั หาเกย่ี วกับมาตรฐานผลติ ภัณฑเ์ กษตร ปญั หาเกย่ี วกับการตลาด ปญั หาเก่ียวกับการเรยี นรู้นวตั กรรมหรือเทคโนโลยใี หม่ ๆ เพือ่ ใหเ้ กดิ การเท่าทนั ฯลฯ 1.3) เน้นการพัฒนาเยาวชนควบคู่กับการพัฒนาเกษตรกรทั่วไป เพ่ือการสร้างเยาวชนโดยเฉพาะเยาวชนภาคการเกษตรให้เป็นเยาวชน 4.0 หรือเกษตรกร 4.0 (Young smart farmer) เพราะเยาวชนถือว่าเป็นกลุ่มนวัตกรโดยธรรมชาติอยู่แล้ว หากเยาวชนได้รับการพัฒนาความรู้ท่ีเป็นฐานรากเกี่ยวกับ“ชีววิถี” ที่ชัดเจนถูกต้อง ได้รับการพัฒนาเกี่ยวกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารต่าง ๆเยาวชนดังกลา่ ว กจ็ ะสามารถทจ่ี ะบูรณาการความรู้ที่เป็นแก่นหลักดังกลา่ วสู่การปฏิบัติจริง สามารถนาไปขยายผลได้ และสามารถทจี่ ะส่ือสารไดอ้ ยา่ งชัดเจนกับทุกภาคส่วนท่เี กย่ี วข้องมากกวา่ รุ่นพ่อแม่ที่ผ่านมา 1.4) เน้นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารต่าง ๆ (ICT) ท่ีสอดคล้องกับวิถีของชุมชนสอดคล้องกับความพร้อมของชมุ ชน เพื่อการแลกเปลีย่ นเรียนรู้ เช่นการจัดทาเป็น “คลังความรู้ ประสบการณ์”(Knowledge Hub / Portal) เก่ียวกับชวี วถิ ี โดยจดั ทาเป็นชุดความรู้และประสบการณ์ชุดพ้ืนฐาน ที่ถอื ว่าเป็นชุดความรู้ที่เป็นแก่นหลักของโครงการชีววิถี และชุดความรู้เชิงต่อยอดในรูปแบบของนวัตกรรมหรือชุดความรู้ที่เป็นความเชีย่ วชาญเฉพาะดา้ นตา่ ง ๆ ชดุ ความรูเ้ ชงิ นวตั กรรม ฯลฯ ทส่ี ามารถนาไปส่กู ารพฒั นาต่อยอดสู่การเป็น“ชีววิถี 4.0” ท่ีเกี่ยวข้องกับระบบ “การเกษตร 4.0” หรือระบบการเกษตรท่ที นั สมยั (smart farm system) บนฐานความพอเพยี ง ความเทา่ ทนั หรอื ความทันสมยั บนฐานความสมดลุ รว่ มกันนั่นเอง 1.5) เน้นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารต่าง ๆ (ICT) เพื่อการส่ือสารประชาสัมพันธ์ทั้งภายในชุมชนด้วยกันเอง ท้ังภายในเครือข่าย และการสื่อสารกับสังคมภายนอกที่มากข้ึน มีการสื่อสารที่ต่อเน่ืองและเพียงพอ โดยเฉพาะการส่ือสารเพ่ือสร้างความตะหนักร่วม เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจท่ีถูกต้องสรุปผลการประชมุ สมั มนาเชิงปฏิบัตกิ าร (Workshop) ระดับประเทศ 17โครงการชวี วิถเี พ่ือการพัฒนาอยา่ งยั่งยนื ตามความร่วมมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ย์วจิ ยั CCDKM มสธ.

ระหว่างทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในระดับสังคมภาพใหญ่ท่ีมากย่ิงข้ึน เพ่ือที่จะเป็นการนาไปสู่การสร้างความร่วมมือระหวา่ งทกุ ฝ่ายที่เกี่ยวขอ้ งกนั มากข้ึน และเพ่ิมประสิทธิภาพมากยิง่ ข้นึ4.3) โมเดลนวตั กรรมองคร์ วมเพ่ือการขบั เคล่อื น “ชุมชนชวี วิถี” สู่ “ชุมชนชวี วถิ ี 4.0” โครงการชีววิถีฯ ถือว่าเป็นโครงการท่ีสอดคล้องกับการพัฒนาทั้งในระดับชาติ และในระดับสากล โดยที่โครงการฯ เองมีความพร้อมอย่างเป็นรูปธรรม จึงถือว่าเป็นโอกาสที่ดีมากที่โครงการฯ จะเร่ิมใช้นวัตกรรมท่ีเปน็องค์รวมเพ่ือการขับเคล่ือน ขยายผล และพัฒนาต่อยอดตามมาตรฐานการพัฒนาของประเทศ มาตรฐานการพัฒนาของสากล และพัฒนาตามเกณฑ์ของระบบเกษตรทันสมัย (Smart Farm) บนฐานความพอเพียงตามแนวทางเศรษฐกจิ พอเพยี งของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชฯ โดยโมเดลนวัตกรรมองคร์ วมเพอื่ การขับเคลือ่ น “ชุมชนชีววถิ ี” สู่ “ชมุ ชนชวี วถิ ี 4.0” น้ี จะเนน้ การมีสว่ นรว่ ม และการทางานร่วมกนั แบบหนุ้ ส่วน (partnership model) ท่ใี หส้ ถาบันการศกึ ษาของ สอศ. เปน็ ฐานหลักด้านความรู้ นวัตกรรม งานวิจัย ท่ีเกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นศูนย์ประสานกลางของชุมชนในการที่จะเป็นพ่ีเลี้ยงให้กับชุมชนในการขยายผล ถ่ายทอดความรู้ และทางานร่วมกับชุมชน เพื่อให้ทุกชุมชน ทุกพ้ืนท่ีสามารถที่จะบูรณาการทุกกิจกรรมของระบบชีววถิ ีของชุมชนตนเอง พื้นท่ีตนเองในการพัฒนาคุณภาพชวี ิตของตนเอง ในการสร้างอาชพี ในชุมชน เช่น การท่องเทีย่ วชุมชน การท่องเทีย่ วระบบเกษตรทนั สมัย การศึกษาดูงาน การตลาด 4.0การสอ่ื สารการประชาสมั พันธ์ และการทางานรว่ มกนั ฯลฯ ในสว่ นของ กฟผ. ก็ทาหน้าท่ีเป็นหนว่ ยงานสนับสนุนท่ีทาหน้าที่ในการร่วมกาหนดนโยบาย ร่วมสนับสนุน และร่วมขยายเครือข่ายความร่วมมือท่ีมากยิ่งข้ึน เช่น การประสานกับหนว่ ยงานนวตั กรรมต่าง ๆ เพอ่ื นานวัตกรรมทเ่ี ก่ยี วขอ้ งออกไปถ่ายทอดต่อ และสง่ิ ทีส่ าคัญคือ การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มาใช้เพ่ือเป็นเคร่ืองมือทั้งที่เป็นทางการ และที่ไม่เป็นทางการในการขับเคล่ือนสกู่ ารเปน็ ชมุ ชนชีววิถี 4.0 ที่ย่ังยืนรว่ มกัน ดังภาพที่ 17สรปุ ผลการประชุมสัมมนาเชงิ ปฏิบัตกิ าร (Workshop) ระดบั ประเทศ 18โครงการชวี วถิ ีเพือ่ การพัฒนาอยา่ งยง่ั ยนื ตามความร่วมมือระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศูนยว์ จิ ยั CCDKM มสธ.

ภาพท่ี 17 โมเดลนวตั กรรมองคร์ วมเพื่อการขบั เคล่ือน “ชุมชนชีววถิ ี” สู่ “ชุมชนชวี วิถี 4.0”สรุปผลการประชมุ สัมมนาเชงิ ปฏิบตั ิการ (Workshop) ระดบั ประเทศ 19โครงการชีววิถเี พ่ือการพัฒนาอยา่ งยง่ั ยนื ตามความรว่ มมือระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศูนย์วจิ ัย CCDKM มสธ.

ภาคผนวกภาคผนวก ก. กาหนดการของงานสัมมนาภาคผนวก ข. ประเด็นการอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ ารสรปุ ผลการประชมุ สัมมนาเชงิ ปฏบิ ัติการ (Workshop) ระดับประเทศ 20โครงการชวี วิถเี พื่อการพฒั นาอยา่ งยง่ั ยนื ตามความรว่ มมือระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศูนยว์ จิ ยั CCDKM มสธ.

ภาคผนวก ก. กาหนดการของงานสัมมนา การประชุมสัมมนาเชิงวิชาการโครงการชีววถิ เี พ่อื การพัฒนาอย่างยงั่ ยนื ตามความร่วมมือระหว่าง กฟผ. และ สอศ. ระดบั ประเทศวนั ที่ 31 พฤษภาคม – 1 มถิ ุนายน 2560 ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ จ.กรงุ เทพมหานครวนั ที่ 31 พฤษภาคม 256008.00-08.30 ลงทะเบียน ณ ห้องกรงุ ธน แกรนดบ์ อลรูม08.30-08.45 พธิ ีเปดิ การประชมุ สัมมนาเชงิ วิชาการ โดย นายกรศษิ ฎ์ ภคั โชตานนท์ ผวู้ ่าการ กฟผ.08.45-09.45 ปาฐกถาพเิ ศษ “ถอดรหัสพระราชา สกู่ ารพัฒนาอย่างย่ังยนื ” โดย ผูท้ รงคุณวุฒิ09.45-10.00 พธิ ีมอบงบประมาณสนบั สนนุ การดาเนินโครงการชีววิถีตามความร่วมมอื ประจาปี 2560 และ ผู้วา่ การ กฟผ. และ เลขาธิการ สอศ. มอบนโยบายการดาเนินงานโครงการชวี วถิ ีฯ10.00-10.15 พักรบั ประทานอาหารวา่ ง10.15-12.00 พธิ มี อบรางวัลการประกวดผลการดาเนินงานโครงการชวี วถิ ตี ามความรว่ มมือระหว่าง สอศ. และ กฟผ. ประจาปี 2559 และ มอบนโยบายการดาเนินกิจกรรมชวี วถิ ีตามความรว่ มมือ โดย ดร.สุเทพ ชติ ยวงษ์ เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา และ นายกรศษิ ฎ์ ภคั โชตานนท์ ผู้วา่ การ กฟผ.12.00-13.00 พักรับประทานอาหารกลางวนั ณ หอ้ งนทีทอง13.00-15.30 เวทเี สวนาชีววถิ ี “สอศ. และ กฟผ. จะกา้ วสู่ Thailand 4.0 ได้อย่างไร” ผูเ้ ข้ารว่ มการเสวนา 1. นายธาตรี ร้ิวเจริญ ผู้ชว่ ยผู้ว่าการกิจการสงั คม กฟผ. 2. ดร.ชาตชิ าย เกตุพรหม ประธานคณะกรรมการตรวจประเมินผลการดาเนนิ งาน ระดบั ประเทศ 2553-2559 3. วา่ ทีร่ ้อยตรี สรายุทธ์ บุญเลศิ กลุ ผอ.สสช. 4. นายพุธ ทองลา ผชู้ นะเลิศระดับประเทศ ประเภทราษฎรทไ่ี ดร้ ับความรู้จากวทิ ยาลยั นาไปใช้ไดผ้ ลดีเดน่ ประจาปี 2558 ผู้ดาเนนิ รายการ คุณมนัสวนิ นนั ทแสน (ตก๊ิ ชิโร่)สรปุ ผลการประชมุ สัมมนาเชิงปฏบิ ัติการ (Workshop) ระดับประเทศ 21โครงการชีววิถเี พื่อการพัฒนาอยา่ งย่ังยนื ตามความร่วมมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ยว์ จิ ัย CCDKM มสธ.

15.30-15.45 พกั รบั ประทานอาหารว่าง15.45-16.30 ทาความรู้จัก “ชุมชนชีววถิ ีต้นแบบ เศรษฐกจิ พอเพยี ง กฟผ.” และ “12 ข้ันตอนการขยาย18.00-22.00 ผลส่ชู ุมชนตามแนวทางชีววิถฯี ” (กรอบของชุมชนตน้ แบบภายใตบ้ ริบทของ Thailand 4.0) รบั ประทานอาหารเย็น ณ ห้องนทีทองวันท่ี 1 มถิ นุ ายน 256007.30-08.30 น. ลงทะเบียน08.30-8.45 น. นโยบายการกา้ วสู่ “ชุมชนชีววิถี 4.0”08.45-9.15 น. ก้าวสู่ Thailand 4.0 ด้วยนวัตกรรม….จากชุมชนชีววถิ ี โดย รศ. ดร. กมลรัฐ อินทรทศั น์ CCDKM มสธ.09.15-9.45 น. มมุ มองจากประสบการณ์สกู่ ารขับเคล่ือน “ชมุ ชนชีววิถี 4.0” โดย หมอพชื พนั ไมล์ นกั เกษตรอนิ ทรีย์ อิสระ CCDKM มสธ.9.45-10.00 น. พกั รับประมานอาหารวา่ ง และเตรียมเขา้ สูก่ ารนาเสนอหอ้ งยอ่ ย 4 ภาค10.00-12.00 น. กจิ กรรม Work Shop “วธิ ีการขบั เคลอื่ นดว้ ยนวตั กรรมสู่ชุมชนชีววิถี 4.0”12.00-13.00 น. รบั ประทานอาหารกลางวนั ณ หอ้ งนทีทอง13.00-15.30 น. นาเสนอโดยผู้แทน 4 ภาค “วธิ ีการขบั เคลอ่ื นดว้ ยนวัตกรรมสูช่ ุมชนชีววถิ ี 4.0”15.30 -16.00 น. สรุปภาพรวมเพือ่ เสนอต่อระดับนโยบายของ กฟผ. “วิธีการขบั เคลือ่ นด้วยนวัตกรรมสูช่ ุมชนชีววิถี 4.0”15.30 -16.00 น. พิธปี ิดการสมั มนา และถ่ายภาพรว่ มกัน เดนิ ทางกลบั ภูมิลาเนาโดยสวัสดภิ าพ --------------------------------------------------------------------หมายเหตุ : . ผู้เขา้ รว่ มสมั มนาจาก สอศ. เข้าพกั และเชค็ อินท่ี โรงแรมรอยลั ริเวอร์ฯ ได้ในวนั ท่ี 31 พ.ค. 60 โดย กฟผ. จดั ห้องพักให้วิทยาลัยละ 2 ห้อง / เข้าพักได้ห้องละ 2 คน สามารถส่งรายช่ือผู้เข้าพักในแบบตอบรับแนบท้ายหนังสอื เชิญกอ่ น วันที่ 25 พ.ค.60 ทง้ั น้ีกาหนดการอาจเปล่ียนแปลงได้ตามความเหมาะสมสรปุ ผลการประชุมสมั มนาเชิงปฏิบัตกิ าร (Workshop) ระดบั ประเทศ 22โครงการชีววิถีเพื่อการพฒั นาอยา่ งย่งั ยนื ตามความร่วมมือระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ย์วจิ ยั CCDKM มสธ.

ภาคผนวก ข. ประเดน็ การอบรมเชงิ ปฏบิ ตั กิ าร ประเดน็ การอบรมเชิงปฏิบัตกิ าร “วถิ กี ารขบั เคล่อื นสู่ชวี วถิ ี 4.0 (SMART LOCAL)” (สรา้ งคน ดารงวถิ ี พัฒนาเศรษฐกิจในชุมชน) -----------------------------------ประเด็นท่จี ะใชเ้ ปน็ เครอื่ งมอื ในการขับเคลอื่ นชวี วิถี 4.0 (SMART LOCAL) รว่ มกัน 1. ทุนเดิม / สิ่งดี ๆ / นวัตกรรมดี ๆ ท่ี (สอศ.+กฟผ.+กษทน.) มีและพร้อม ขับเคล่ือนให้เป็น MODEL หรือพัฒนาสู่การเป็น “ชีววิถี 4.0” (SMART LOCAL) ตามรอยพระราชปณิธานเพ่ือพัฒนา 89 ชุมชนต้นแบบ ภายในปี พ.ศ.2564 (ตัวอย่างเช่น มบี ทเรยี น / มรี างวัล / มีเครอื ข่าย / มีแหลง่ ทอ่ งเท่ียว ฯลฯ)2. วธิ ีการขบั เคล่อื นร่วมกัน และแผนการขบั เคล่อื นร่วมกนั สกู่ ารสรา้ งนวัตกรรม ของโครงการชีววิถี 4.0 (SMART LOCAL) ตามรอยพระราชปณิธานเพ่ือ พฒั นา 89 ชมุ ชนตน้ แบบ ภายในปี พ.ศ.2564 (ตัวอย่างเช่น ศูนย์การเรียนรู้ชีววิถี 4.0, MODEL การขยายผลสู่ชุมชนอื่น ๆ อย่างเป็น รูปธรรม, MODEL การขยายผลสู่สังคมอย่างเป็นรูปธรรม, MODEL การปลูกจิตสานึก เกษตรกรมืออาชีพ, การพัฒนาหลักสูตรท่ีสามารถบูรณาการชีวถี 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การเป็นผู้นา, การเป็นจิตอาสา / ผู้ประกอบการสังคม, การเป็นผู้ให้ (จิตสาธารณะ) การเป็นผู้ประกอบการ, การเป็นนักสร้างสรรค์ / นักสร้างอัตลักษณ์การเป็นวิทยากร, การเป็นนักวางแผน, นักบริหารจัดการ, นักกลยุทธ์การตลาดท้ังออนไลน์และออฟไลน์, นักประสานและสร้างเครือข่าย, นัก IT และนักทาส่ือ, นักคิดนอกกรอบ, การเป็นคนรัก พนื้ ถิ่น, การเป็นนักแกป้ ัญหาจากการปฏบิ ัตจิ ริง ฯลฯ)สรปุ ผลการประชุมสมั มนาเชิงปฏบิ ตั กิ าร (Workshop) ระดับประเทศ 23โครงการชวี วถิ เี พ่อื การพฒั นาอยา่ งย่ังยนื ตามความรว่ มมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ย์วจิ ัย CCDKM มสธ.

สรปุ ผลการประชุมสมั มนาเชิงปฏบิ ตั กิ าร (Workshop) ระดบั ประเทศ 1โครงการชวี วิถเี พ่อื การพฒั นาอยา่ งย่งั ยนื ตามความรว่ มมอื ระหวา่ ง กฟผ. และ สอศ. โดยศนู ย์วจิ ยั CCDKM มสธ.