หน่วยที่ 1 เรื่อง การพึ่งตนเอง

เร่ืองท่ี ๑ การปฐมนิเทศ การเรียนลูกเสือเอก จาเป็นท่ีจะต้องปฐมนิเทศก่อนจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพ่ือให้ผู้เรียน ได้รับทราบโครงสร้างเน้ือหาวิชาที่เรียน การแต่งกายท่ีถูกต้อง บทบาทหน้าท่ีภายในหมู่ลูกเสือตลอดจน เกณฑ์การจบหลกั สูตรโดยเน้อื หาการปฐมนเิ ทศประกอบดว้ ย ๑. ความรู้ท่ัวไปเก่ียวกับลกู เสือเอก ๒. เนอ้ื หาการเรยี นลกู เสอื เอก ๓. การแต่งเครอื่ งแบบลูกเสือ ๔. ตาแหนง่ ภายในหมู่ลกู เสอื ๑. ความรทู้ ั่วไปเกย่ี วกบั ลกู เสอื เอก เครือ่ งหมายลกู เสอื เอก ภายในเป็นรูปเฟลอรเ์ ดอลีส์ ส่วนบนและล่างคลา้ ยดอกไมส้ ามแฉก ตรงกลาง เป็นรปู หน้าเสอื แถบคติสีแดง ปกั คาว่า เสยี ชพี อย่าเสยี สัตย์ ดว้ ยดา้ ยสีเหลือง คาวา่ ลูกเสอื ปักด้วยด้ายสเี หลอื ง ท่มี า : http://kangkit.wordpress.com/เครื่องหมายหม/ู่ 1

๒. เน้ือหาการเรียนลกู เสือเอก หนว่ ยที่ ๑ การพ่ึงตนเอง จานวน ๓ ช่ัวโมง หนว่ ยที่ ๒ การบริการ จานวน ๒ ช่ัวโมง หน่วยท่ี ๓ การผจญภัย จานวน ๓ ชั่วโมง หน่วยท่ี ๔ วิชาการของลกู เสอื จานวน ๕ ช่ัวโมง หนว่ ยท่ี ๕ ระเบียบแถว จานวน ๗ ชั่วโมง รวมท้งั สิ้น จานวน ๒๐ ชว่ั โมง ๓. การแตง่ เคร่อื งแบบลกู เสือ การแตง่ กายของลูกเสือเป็นการบง่ บอกถึงลักษณะวินยั ในตนเองของลูกเสือและแสดง ให้เห็นถึง ลักษณะคุณธรรมท่ีมีในตัวลูกเสือ ดังน้ันลูกเสือจึงควรแต่งกายให้ถูกต้องและควรติดเครื่องหมายให้ ครบถว้ น ดนยา การเจร์ : 2563 2

๔. ตาแหนง่ ภายในหมู่ลกู เสือ หนา้ ท่ภี ายในหมู่ลกู เสอื เพื่อใหล้ กู เสือได้ฝึกการเปน็ ผู้นาและผู้ตามทีด่ เี ข้าใจบทบาทหนา้ ท่ีของ ตนเองและปฏิบตั ติ ามผนู้ าของหมไู่ ด้ โดยมตี าแหน่งในหมู่ดงั น้ี ๑. ตาแหน่งนายหมู่ ควรเลอื กผู้ท่มี ีภาวะความเปน็ ผ้นู า กลา้ คิด กลา้ ตัดสินใจ เสยี สละและควรมี คุณธรรม ๒. พลาธกิ าร ควรเลือกผทู้ ่ีมคี วามเสียสละมีน้าใจชอบช่วยเหลือผอู้ น่ื ๓. คนครัว ๔. คนหานา้ ๕. คนหาฝืน ๖. คนรบั ใช้ทว่ั ไป ๗. คนรับใช้ทั่วไป ๘. รองนายหมู่ ควรเลือกผทู้ ่มี คี วามเป็นผูน้ า กลา้ คิด กลา้ ตัดสนิ ใจ เสียสละและมคี ณุ ธรรม สามารถ ปฏบิ ัติหน้าทแี่ ทนนายหมู่ไดเ้ มอ่ื มีเหตุจาเปน็ (หากมสี มาชกิ ในหมแู่ ค่ ๖ คนให้ตดั ตาแหน่งคนรบั ใชท้ ่ัวไปออก) เครอื่ งหมายภายในหม่ลู กู เสอื เครื่องหมายนายหมู่ เครื่องหมายพลาธิการ เครอ่ื งหมายรองนายหมู่ ท่ีมา : http://www.songvichit.com/products.php?type=Other&subtype=41 3

สรุป เร่อื งท่ี ๑ การปฐมนเิ ทศ การปฐมนเิ ทศมคี วามสาคัญและเจา้ เป็นที่จะต้องจดั ใหก้ ับผเู้ รียน เพราะเม่อื ผ้เู รียนไดร้ ับ ทราบข้อมูลแล้วจะทาให้ผู้เรียนปฏิบัติได้ถูกต้องการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนก็จะเป็นไปอย่างมี ประสทิ ธิภาพ 4

เรื่องท่ี ๒ การร้จู กั ใช้ ดูแลรกั ษา ตะเกยี ง เตาและเครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า ความสาคัญ ตะเกียง เตา และเครอ่ื งใช้ไฟฟา้ ลว้ นเปน็ อปุ กรณ์ท่ีจาเป็นตอ้ งใช้ทั้งในชีวิตประจาวันตามปกตแิ ละ การเดินทางไกลเพ่อื อยคู่ ่ายพักแรมของลูกเสือเนตรนารี การดูแลรกั ษาเครื่องใช้จึงเป็นสิ่งจาเป็นเพราะการ รักดูแลรักษาเครอ่ื งใชท้ ีถ่ ูกวิธสี ามารถยืดอายกุ ารใชง้ านได้ เตา ตามความหมายทใ่ี ชใ้ ชพจนานุกรม ฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน พ.ศ.๒๕๕๔ หมายถงึ ทสี่ าหรับ กอ่ ไฟหุงต้มหรือเผาสง่ิ ต่าง ๆ ตามปรกติใชฟ้ ืนหรอื ถ่าน ถา้ ใช้สิ่งอื่น ๆ กเ็ รยี กชอื่ ตามส่งิ น้นั ๆ เช่น เตาแก๊ส เตาไฟฟา้ ภาษาท่ีใช้เรยี ก ตะเกยี ง ภาษาท่ใี ชเ้ รยี ก เตาถ่าน ภาษาไทย ใชเ้ รียก ตะเกยี ง ภาษาไทย ใชเ้ รยี ก เตาถ่าน ภาษาอังกฤษ ใชเ้ รียก Lantern (แลนเทรนิ ) ภาษาอังกฤษ ใชเ้ รียก Fireplace (ไฟรเ์ พลส) ภาษามาลายู ใชเ้ รียก Pelita (เปอลตี า/เปอลเี ตอ) ภาษามาลายู ใชเ้ รียก Dapur api (ดาปูรอาปี) ภาษาอินโด ใช้เรียก Pelita (เปอลีตา/เปอลเี ตอ) ภาษาอนิ โด ใช้เรยี ก Dapur api (ดาปรู อาปี) ๑. ตะเกียง ตะเกียงเปน็ อุปกรณ์ท่ีให้แลงสว่างในเวลากลางคืน โดยเฉพาะการอยู่ค่ายพักแรมของลูกเสือจาเป็น ต้องใช้ตะเกียงเพ่ือให้แสงสว่าง ซึง่ มีอยหู่ ลายชนิด ท่เี หมาะสมและเคล่ือนยา้ ยไดส้ ะดวกและงา่ ยตอ่ การใชค้ ือ ตะเกียงร้ัว มีขนาดเลก็ ใหแ้ สงสว่างพอประมาณ ไม่อนั ตรายตอ่ การเคล่ือนย้ายเพราะมีน้าหนักเบา ประหยัด นา้ มัน ทม่ี า : http://antiqueclubone.blogspot.com/2012/07/blog-post.html 5

๑.๑ ตะเกยี งนา้ มนั ที่มา : http://antiquearchitectural.lnwshop.com/product/1/ตะเกยี งนา้ มนั กา๊ ด วิธีใช้ ๑) ถอดโป๊ะหรอื ทีค่ รอบออก แล้วเชด็ ทาความสะอาดคราบเขมา่ ควนั ๒) เตมิ น้ามันตะเกียง แล้วปิดฝาจุกน้ามันใหส้ นทิ ๓) ไขไส้ตะเกียงขึน้ มาเลก็ น้อยใหพ้ อเหมาะ ๔) ใช้ไม้ขดี จุดไฟที่ไส้ตะเกยี ง แลว้ ปรับไสใ้ ห้ได้แสงสว่างทีพ่ อเหมาะ ๕) เอาโป๊ะหรือท่ีครอบใสไ่ ว้ตามเดิม การดแู ลรกั ษา ๑) ดบั ไฟตะเกียงให้เรียบร้อยเม่อื ใช้เสรจ็ แล้วเกบ็ เขา้ ท่ี ๒) ระมัดระวังอย่าให้โคมแกว้ กระทบกบั ของแขง็ เพราะจะแตกได้ ๓) เวลาถอื หรอื วางตะเกยี งลง ควรกระทาอย่างเบามือ เพราะหากกระทบกระเทือนไส้ ตะเกยี งอาจขาดได้ 6

๑.๒ ตะเกยี งLED ทม่ี า : https://shopee.co.th/Aiko-ตะเกยี งLED -(KN-6848LA)-i.43838249.1480866283 วิธใี ช้ ๑) ตะเกยี งแค้มปิ้ง LED อเนกประสงค์ ปรับความสว่างได้ ชารจ์ ไฟบ้าน ๑๐-๑๒ ชั่วโมง ๒) สามารถใช้งานต่อเน่อื งไดเ้ ฉล่ยี ๕-๒๐ ชั่วโมง การดูแลรกั ษา ๑) เมอ่ื ใช้เสร็จแลว้ ปิดสวิสซ์ใหเ้ รียบรอ้ ย แลว้ เก็บเข้าที่ ๒) ขนาดกระทดั รัด เหมาะสาหรับใชง้ านกลางคืน กิจกกรรมแคมปง้ิ เดนิ ทาง ท่องเท่ยี ว ๒. เตา เตาคือที่สาหรบั ก่อไฟหุงต้มหรือเผาส่ิงตา่ ง ๆ ตามปกติใชฟ้ ืนหรอื ถา่ น ถ้าใช้สิ่งอนื่ ๆ ก็เรยี กชอ่ื ตาม สิ่งนน้ั ๆ เตามีหลายแบบแตท่ ่ีนยิ มใช้และสะดวกตอ่ การใช้งาน ๒.๑ เตาแก๊สกระปอ๋ ง ทีม่ า https://www.fieldandcamping.com/pdetails.php?pdcode=00602 7

วิธใี ช้ ๑) ใชก้ บั แกส๊ กระปอ๋ ง BUTANE อัตราการใช้แก๊ส ๑๓๐ กรัม/ชวั่ โมง ๒) เปดิ สวิสซ์ สามารถใช้ไดท้ นั ที การดูแลรกั ษา ๑) เม่อื ใชเ้ สรจ็ ปิดสวิสซ์ทนั ที ๒) ใชผ้ า้ ชบุ น้า บิดพอหมาด เชด็ ขอบเตาและรอบ ๆ เตาใหส้ ะอาด ๒.๒ เตาแกส๊ ท่มี า http://poonsingas.lnwshop.com/product/27/ชดุ เตาปิคนคิ -2 วธิ ีใช้ ๑) หมุนวาล์วท่ีหวั ถังแกส๊ ๒) เปิดป่มุ ที่เตาแก๊สใหไ้ ฟตดิ ๓) ปรบั ระดับความแรงของเปลวไฟตามทต่ี ้องการ ๔) เมอื่ ใชเ้ สร็จแล้วใหป้ ิดวาล์วที่หัวถังแก๊สก่อนแล้วจึงปิดปุ่มทีเ่ ตาแกส๊ การดูแลรกั ษา หมั่นทาความสะอาดถาดรองเตา โดยใชแ้ ปรงอ่อนขดั แล้วลา้ งออกให้สะอาด จากน้ัน วางผง่ึ ลมให้แห้งก่อนนาเข้าเกบ็ เข้าท่ี ใช้ฟองน้าชุบนา้ ยาล้างจานเช็ดทาความสะอาดดา้ นบนของ เตา แล้วใช้ผ้าแหง้ เชด็ อกี ครง้ั 8

๓ เคร่อื งใชไ้ ฟฟ้า ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้ามีบทบาทที่สาคัญต่อชีวิตประจาวันท้ังในเมืองและต่างจังหวัดเป็น อย่าง มาก ประโยชนใ์ นการใช้สอยแล้วแต่ประเภทของเคร่ืองไฟฟ้านั้น ๆ อุปกรณไ์ ฟฟ้าแต่ละชนดิ มีข้อจากัดต่อ การใชง้ านรวมถึงการบารุงรักษาให้มอี ายุการใช้งานได้นาน ดังนั้นเพ่ือความปลอดภัยในการใช้ ลูกเสือควร เรียนร้แู ละทาความเขา้ ใจกบั วิธกี ารใช้และการบารุงรกั ษาเครอ่ื งใช้ไฟฟ้าทม่ี ีอยูใ่ นบ้าน ๓.๑ พดั ลม ทมี่ า : http://kangyong.co.th/d18-gv/ วธิ ีใช้ ๑) เปดิ พดั ลมเมื่อต้องการใชง้ าน และถา้ ไม่ตอ้ งการใช้งานควรปิดพดั ลมและดงึ ปล๊ักออก เพือ่ ความปลอดภัย ๒) ตง้ั ความเรว็ ของพัดลมให้พอเหมาะกับความเยน็ ท่ตี ้องการ ๓) ตงั้ พดั ลมใหอ้ ยใู่ นระยะทร่ี ับลมได้พอเหมาะกบั ท่ีตอ้ งการ ๔) ไมค่ วรเปดิ พดั ลมตลอดวัน ตลอดคนื เพราะมอเตอรอ์ าจไหม้ได้ ๕) ควรเปดิ หน้าต่างใหอ้ ากาศในหอ้ งไดถ้ า่ ยเทในขณะทีใ่ ช้พดั ลม การดแู ลรักษา ๑) ทาความสะอาด บรเิ วณใบพัดและตะแกรงครอบใบพัด ไม่ใหม้ ีฝุ่นเกาะ ๒) ทาความสะอาดชอ่ งระบายอากาศตรงฝาครอบมอเตอรพ์ ดั ลม เปน็ ช่องระบายความรอ้ น ๓) ใชน้ ้ามนั ครอบจักรวาลฉดี ทีแ่ กนเพลาของโรเตอร์ ๔) ควรติดตั้งพดั ลมในบรเิ วณทม่ี อี ากาศถา่ ยเทได้สะดวก ๕) ไม่ควรเสียบปลั๊กพดั ลมทง้ิ ไว้ เพราะทาใหส้ น้ิ เปลืองพลงั งานไฟฟา้ 9

๓.๒ โทรทศั น์ ทมี่ า : http://www.wemall.com/category/television-3853272787829.html วิธใี ช้ ๑) โทรทัศน์สที ม่ี ขี นาดใหญ่ขน้ึ จะทาให้เสียค่าไฟฟ้าเพ่ิมข้นึ ๒) ไมค่ วรเสียบปลัก๊ ท้ิงไว้ ถา้ เสยี บปลัก๊ ทิง้ ไว้จะใชไ้ ฟฟ้าตลอดเวลา ๓) อยา่ เปิดโทรทัศน์ท้ิงไว้ หากไม่มีคนดู ๔) ควรตงั้ เวลาปิดโทรทัศน์โดยอัตโนมัติ สาหรับเครื่องทม่ี รี ะบบตัง้ เวลาปิด เพราะจะช่วย ประหยัดไฟสาหรับผู้ท่ีมกั นอนหลับหนา้ โทรทัศนห์ รือลมื ปดิ เครือ่ ง การดูแลรกั ษา ๑) การทาความสะอาดเครอื่ งรับโทรทศั น์ โดยใช้ผ้านมุ่ ๆ เช็ดโทรทัศน์ ๒) ควรวางโทรทศั น์ไว้ในจดุ ท่มี ีการถ่ายเทอากาศได้ดี ๓) ไม่ควรปรับจอภาพให้สว่างมากเกินไป เพราะจะทาใหห้ ลอดภาพมอี ายกุ ารใช้งานสนั้ ลง ๔) อยา่ ถอดฝาดา้ นหลงั ของเคร่ืองรบั โทรทศั น์ด้วยตนเอง อาจทาให้เกดิ ความเสยี หายต่อ โทรทศั น์ได้ ๕) ใหป้ ิดโทรทัศน์ ถอดปลัก๊ ไฟ และขว้ั สายอากาศออก ขณะที่มฝี นฟ้าคะนอง เพื่อป้องกนั โทรทัศน์ชารดุ จากกระแสไฟเกินที่เขา้ มาตามสาย 10

๓.๓ เตารีด ท่มี า : http://www.hordigital.com/product/322/philips-เตารีด วธิ ีใช้ ๑) ตงั้ ปุ่มปรบั ความรอ้ นให้เหมาะสม ๒) รีดผา้ ครั้งหน่งึ ๆ ควรมปี ริมาณมากพอและควรรีดเฉพาะท่จี าเป็น ๓) เมอื่ ต้ังตน้ รีดผ้าควรจะรีดผา้ ที่ตอ้ งการความร้อนนอ้ ยกว่า ควรรดี ตอ่ เน่ืองกันจนกว่าจะ เสร็จ ๔) อยา่ พรมน้าจนแฉะ เพราะเตารดี ตอ้ งเสยี ความรอ้ นในการทาให้ผา้ แห้งเสยี กอ่ น การดูแลรกั ษา ๑) ถอดปล๊กั ทุกครง้ั หลงั จากใชง้ านเสร็จ ๒) รอจนเตารีดเยน็ แล้วจงึ พนั สายเขา้ กบั ฐานเตารีด ๓) ถ้าเป็นเตารีดไอนา้ อย่าลืมเทน้าออกจากแท็งกจ์ นหมดด้วย ๔) วางเตารดี บนฐานของเตารดี เสมอ ท้งั นีก้ ารทาความสะอาดน้ันเมอ่ื หนา้ เตาอนุ่ ให้เช็ดดว้ ยฟองน้า หรือผ้าน่มุ ๆ ก่อน 11

สรปุ เรื่องท่ี ๒ การรจู้ กั ใช้ ดูแลรักษา ตะเกียง เตาและเครื่องใชไ้ ฟฟ้า การเลอื กใชต้ ะเกียง เตา และเครื่องใชไ้ ฟฟ้าทีถ่ กู ต้องและใชไ้ ดอ้ ย่างถกู วิธีจะทาให้ ไม่ เกดิ อนั ตรายและเกดิ ประโยชนส์ งู สุดและหากมีการดแู ลรกั ษาทถี่ กู ตอ้ งยงั ช่วยยืดอายกุ ารใช้งาน ให้ยาวนาน ย่งิ ขนึ้ 12

เรื่องท่ี ๓ การก่อกองไฟ การก่อไฟเป็นทักษะที่จาเป็นสาหรับลูกเสอื เมื่อลูกเสือต้องไปอย่คู ่ายพักแรมคืน ซึ่งลูกเสือจะต้อง ใช้ทักษะการก่อกองไฟในการปรุงอาหาร เพ่ือให้แสงสวา่ งและเพ่อื การจัดกิจกรรมของลูกเสือการกอ่ ไฟมี หลายแบบเพอ่ื ประโยชนใ์ นการใชท้ ีแ่ ตกต่างกนั ลกู เสอื จะต้องก่อกองไฟให้เหมาะสมกบั การใชง้ าน ๑. หลักการกอ่ กองไฟ วธิ เี ลือกสถานท่ี เปน็ บริเวณท่โี ลง่ และแห้ง ห่างจากตน้ ไม้ และบ้านคนเก็บกวาดหญ้าแหง้ รอบ ๆ ออกเพ่อื ปอ้ งกนั การลุกลามของไฟ วิธีเตรยี มเช้ือเพลิง เลอื กก่งิ ไม้เล็ก ๆแห้ง ๆเพราะจะติดไฟได้ง่าย ก่ิงไม้ขนาดใหญ่ตอ้ งผ่าออกเปน็ ซกี ๆกอ่ น กง่ิ ไม้ ที่ เปียกช้นื ต้องแดดใหแ้ ห้งแล้วนามาผา่ ให้เป็นซกี ๆ วธิ กี อ่ กองไฟ นาเชือ้ เพลิงมากองสมุ เป็นรูปกระโจม จดุ ไฟแหยเ่ ข้าไปตรงช่องกระโจม เมอ่ื ไฟติดดแี ลว้ จึงใส่ก่งิ ไม้ที่ใหญข่ ้ึน ๒. ลกั ษณะของกองไฟ ๒.๑ กองไฟแบบกระโจมอนิ เดยี ใหค้ วามร้อนมากแสงสว่างดี เหมาะสาหรบั การประกอบอาหาร ทม่ี า : http://www.gotoknow.org/posts/208856 13

๒.๒ กองไฟแบบเชิงตะกอน ใหค้ วามรอ้ นมาก แสงสวา่ งดี เหมาะสาหรบั การประกอบอาหาร ทมี่ า : http://www.gotoknow.org/posts/208856 ๒.๓ กองไฟแบบผสม เหมาะสาหรบั เล่นรอบกองไฟ ที่มา : http://www.gotoknow.org/posts/208856 ๒.๔ กองไฟแบบไฟดาว ให้ความสว่างและความอบอุ่น ที่มา : http://www.gotoknow.org/posts/208856 14

สรปุ เรือ่ งท่ี ๓ การกอ่ กองไฟ ลูกเสือจาเป็นอย่างยิ่งสาหรับทกั ษะในการก่อกองไฟ จะช่วยใหล้ ูกเสือก่อกองไฟได้ถูกต้อง ทาให้ได้รับความสว่างจากกองไฟและสามารถปรุงอาหารได้เร็วข้ึน และการเลือกรูปแบบกองไฟท่ี เหมาะสมจะช่วยใหก้ ารจัดกจิ กรรมของลูกเสือเปน็ ไปได้เหมาะสมตามจดุ ม่งุ หมาย ในปัจจุบันการก่อกองไฟในการเล่นรอบกองไฟนิยมใช้ไฟเทยี ม เน่ืองจากการหาไม้ฝืนได้ ยากขึน้ การตัดไม้ทาลายป่าเป็นเรื่องท่ีไมถ่ ูกตอ้ ง และการก่อไฟทาใหเ้ กดิ ควนั ไฟในป่าหรืออุทยาน เปน็ เร่ือง ท่หี า้ มของกรมป่าไมแ้ ละกรมอทุ ยานแหง่ ชาติ 15

เรื่องท่ี ๔ การปรงุ เครอื่ งดมื่ รอ้ น และการปรุงอาหารอย่างง่าย การปรุงเครือ่ งดม่ื ร้อน การเคร่อื งดมื่ รอ้ นมี ๒ ประเภทคือ ประเภทเคร่ืองด่มื สาเร็จรปู ชงพร้อมด่มื เช่น โอวัลตนิ รอ้ น นมร้อน ประเภทเครื่องดืม่ ต้องปรุงหรือต้มก่อนดมื่ เชน่ นา้ กระเจ๊ียบ นา้ เกก๊ ฮวย วธิ ีปรงุ เครื่องดืม่ สาเรจ็ รูปชงพรอ้ มดมื่ โอวัลตินร้อน ๑) ใสน่ ้าร้อนลงในแกว้ ประมาณ ๓ใน๔ ส่วน ๒) ใสโ่ อวัลติน ๑ซอง แล้วคนให้ผงโอวลั ตินละลาย ๓) ชมิ รส ถา้ ยังไม่หวานพอ สามารถ เติมนมขน้ หวาน หรือนา้ ตาลไดต้ ามชอบ ทีม่ า : https://sites.google.com/site/kafaeboran21/ นมรอ้ น ๑) ใส่น้ารอ้ นลงในแกว้ ประมาณ ๓ใน๔ ส่วน ๒) ใสน่ มผง ๑ ซอง แลว้ คนใหเ้ ข้ากนั ให้ ผงนมละลาย และยกด่ืมได้ ๓) เคร่ืองดม่ื ร้อนควรจะดื่มใหห้ มดในคราวเดียว และ ไม่ควรเติมน้าตาลเพิ่มอกี ทม่ี า : https://coffeeshopkm12.wordpress.com/drink/51-2/ 16

วธิ ีปรงุ เครอ่ื งด่ืมตอ้ งปรุงหรอื ตม้ กอ่ นด่ืม น้ากระเจ๊ยี บ ๑) นากระเจ๊ียบแดงที่เตรียมไว้มาล้างนา้ ใหส้ ะอาด ๒) ใส่น้าท่เี ตรียมไวป้ ระมาณ ๔ ถ้วยลงในหมอ้ จากนัน้ นาไปต้งั ไฟกลางๆ จนเดือด ๓) ลดไฟให้ออ่ นลง ตม้ ต่ออกี ประมาณ ๑๕-๒๐ นาที จะได้น้ากระเจยี๊ บสแี ดงสวย ทม่ี า : http://www.coffeefavour.com/ ๔) ใหเ้ ติมนา้ ตาลและเกลอื ลงไป ไดร้ สชาตทิ ีอ่ ร่อย roselle-juice-recipe/ กลมกล่อม นา่ รับประทาน ๕) ปิดไฟ ยกหม้อ แลว้ นาน้ากระเจี๊ยบ มากรองอาแตน่ ้า นา้ เกก๊ ฮวย ๑) เมื่อน้าเดือดให้ใส่ใบเตยลงไปแล้วปิดฝาหม้อทิ้งไว้ ทีม่ า : https://medthai.com/เก๊กฮวย/ ประมาณ ๓-๕ นาที ๒) ใส่น้าตาลทราย ประมาณ ๒๐๐ กรัมลงในหม้อ แล้ว คนน้าตาลให้ละลาย ๓) ใส่ดอกเก๊กฮวยท่ีเตรียมไว้ประมาณ ๓๐ กรัมลงไป ในหม้อ แล้วใช้ทัพพีคนเบา ๆ ประมาณ ๑ รอบเพ่ือให้ ดอก เก๊กฮวยกระจายทัว่ หม้อ ๔) ตั้งไว้จนเย็นแล้วกรองเอากากของดอกเก๊กฮวยออก จะได้ นา้ เกก๊ ฮวยท่มี ีสนี า่ รับประทาน ๕) เสร็จแล้ววิธีการทาน้าเก๊กฮวย จากนั้นก็นามากรอก ใส่ขวด แช่เย็นไว้ดื่ม 17

การปรงุ อาหารอยา่ งง่าย ๑ การหงุ ข้าวแบบเชด็ นา้ ทม่ี า : http://www.bloggang.com การหุงข้าวแบบเช็ดน้า เปน็ วธิ ีท่ชี าวบ้านทั่วไปนยิ มใช้กัน มีวธิ ีหุง ดงั น้ี ๑) ตวงข้าวใส่หมอ้ และซาวข้าวด้วยน้าสะอาด ๑ ครงั้ เพือ่ ล้างสง่ิ สกปรก จากนั้นรนิ นา้ ทิ้ง ๒) ใสน่ ้าใหท้ ่วมข้าว ประมาณคร่งึ ต่อคร่ึง ๓) ยกหม้อขา้ วขึน้ ตั้งบนเตาไฟ พอน้าเดือดคอ่ ย ๆ เปดิ ผาหมอ้ ออกแลว้ ใช้ทัพพคี น เพือ่ ไม่ให้ขา้ วติดกน้ หมอ้ ๔) เมื่อข้าวเริม่ สุกไดท้ แ่ี ล้ว (สังเกตจากข้าวมไี ตสีขาวเลก็ น้อย) ก็ยกลง ๕) ปดิ ผาหม้อแลว้ ใชไ้ มข้ ัดฝาให้แนน่ เอียงหมอ้ รนิ นา้ ขา้ วเทท้งิ จนแหง้ ๖) ยกหมอ้ ข้าวขน้ึ ดง (เอาหมอ้ ขา้ วท่รี นิ น้าข้าวออกแลว้ ขน้ึ ตั้งไฟอ่อน ๆ เพอื่ ใหร้ ะอุ) จนขา้ วสุก แล้วจึงค่อยยกลง ๒. การหุงข้าวแบบไมเ่ ช็ดนา้ ที่มา : http://phatelectric.lnwshop.com/product/2/หมอ้ หงุ ข้าว 18

การหงุ ข้าวแบบไม่เช็ดนา้ เปน็ การหุงข้าวโดยไม่รินน้าทิ้ง ทาให้แร่ธาตุและวิตามินในขา้ วไมถ่ ูก ทาลาย มวี ธิ ีหงุ ดังน้ี ๑) ตวงข้าวใส่หมอ้ และซาวขา้ วด้วยนา้ สะอาด ๑ ครั้ง เพ่ือล้างสงิ่ สกปรก จากน้ันรนิ นา้ ทิ้ง ๒) ตวงนา้ สะอาดใส่หมอ้ อตั ราสว่ น ข้าว ๑ ส่วน ตอ่ นา้ ๑ ส่วน ๓) ยกหมอ้ ขา้ วข้ึนตง้ั ไฟ ปดิ ฝาใหส้ นทิ ตง้ั ท้ิงไว้ประมาณ ๕-๘ นาที เปดิ ฝาหม้อแลว้ ใช้ทพั พคี น เพ่ือป้องกันขา้ วไหม้ ๔) เมอ่ื ขา้ วเริ่มเดอื ด เปดิ ฝาหมอ้ แล้วใชท้ ัพพีคน พอนา้ งวดลงบ้างกต็ ักไฟออกเลก็ นอ้ ย รอข้าวระอุดี ประมาณ ๑๕-๒๐ นาที จึงคอ่ ยยกลง ๓. การหลามข้าว ทีม่ า : https://www.gotoknow.org/posts/370471 การหลามข้าว เป็นการทาขา้ วใหส้ ุกโดยการแผ่รังสคี วามรอ้ น มวี ิธที าดังน้ี ๑) ตดั ไมไ้ ผ่สดเปน็ ปล้องๆทะลปุ ลอ้ งดา้ นหน่งึ เพอื่ ใช้บรรจขุ า้ ว ๒) ซาวขา้ วด้วยน้าสะอาด ๑ ครงั้ แล้วแช่นา้ ท้งิ ไว้ ๓ ชวั่ โมง ๓) กรอกขา้ วสารลงไปในกระบอกไมไ้ ผ่ ( ๒ ใน ๓ สว่ นของกระบอกไม้ไผ)่ เตมิ น้าท่วมข้าว ประมาณครึง่ นวิ้ แลว้ เอาใบตองแห้งหอ่ หรอื กาบมะพรา้ วอุดปากกระบอกไว้และใหพ้ อมีช่องวา่ งตรงปาก กระบอกไว้พอสมควร เพอื่ ให้น้าเดือดได้ ๔) ทาเตาแนวขนานโดยใชท้ ่อนไม้ ตน้ กล้วย เป็นแนวขาหยงั่ สาหรับพิงกระบอกขา้ ว ๕) ก่อไฟ หม่ันพลกิ กระบอกข้าวใหไ้ ด้รับความร้อนโดยทัว่ ถงึ ทุกกระบอกทุกดา้ นเมื่อข้าวสุกแลว้ ก็ ปอกผวิ กระบอกไม้ไผท่ ไี่ หม้เกรยี มออก เพ่อื สะดวกแกก่ ารรบั ประทาน 19

วธิ ีปรงุ อาหารคาว ๑.ผดั ผกั บุ้งไฟแดง ทม่ี า : http://www.aomyworld.com/2018/04/01/tip68/ วิธปิ รงุ ดงั น้ี ๑) นานา้ มนั ใสก่ ระทะตั้งไฟพอรอ้ น ใสพ่ ริกขหี้ นูกบั กระเทยี มลงผดั พอหอม ๒) ใสผ่ ักบุง้ ทีเ่ ตรยี มไว้ลงผัดด้วยไฟแรงเรว็ ๆ แล้วหรีไ่ ฟ เตมิ น้าผดั พอเขา้ กนั เตา้ เจ้ียว นา้ ตาล และนา้ มนั หอย ๓) ผัดให้ส่วนผสมทุกอยา่ งสุกเขา้ กัน ตกั ใส่จานพรอ้ มเสิรฟ์ ๔) ผกั บ้งุ เปน็ ผักที่สุกง่ายมาก ในการผัดอาจใสเ่ ครื่องปรงุ ทุกอยา่ งลงบนผักบุ้ง แลว้ ค่อย นาไปผัดพร้อมกนั ด้วยไฟแรง ๕) ต้งั ไฟให้กระทะร้อนจดั จนควนั ขนึ้ ใส่พรกิ กับกระเทยี มลงผดั พอหอม จากนั้น ใสผ่ กั บงุ้ จีนท่ีเตรยี มไว้ลงไปผัดเรว็ ๆ ๑-๒ ครั้ง (พยายามให้อยูใ่ นเวลา ๑๐-๑๕ วนิ าที) จะทาใหไ้ ด้ผกั บงุ้ ที่ เขยี ว และกรอบอรอ่ ย ๒.ตม้ ยาปลากระปอ๋ ง ทมี่ า : https://www.youtube.com/ watch?v=4ea7n2Wvj4A วิธปิ รงุ ดงั นี้ ๑) ใสน่ า้ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด และหอมแดงลงในหมอ้ ใส่น้า ใชไ้ ฟแรง ต้มนานประมาณ ๕ นาที จนน้าเดอื ด นาออกจากเตา 20

๒) ใส่เห็ดฟาง และปลากระป๋อง ลงในหมอ้ ใชไ้ ฟแรง ตม้ นานประมาณ ๕ นาที จนเดือด และเหด็ ฟางสกุ นาออกจากเตา ๓) ปรงุ รสดว้ ยน้าปลา และนา้ ตาลทราย คนผสมใหเ้ ข้ากัน ใช้ไฟปานกลาง ตม้ นาน ประมาณ ๑ นาที นาออกจากเตา ๔) ใสพ่ ริกข้ีหนสู วนตามชอบลงในชาม ตามดว้ ยน้ามะนาว จากนนั้ ตกั ต้มยาปลากระป๋อง ใส่ คนผสมให้เข้ากัน โรยผักชี พรอ้ มรบั ประทาน วิธีปรงุ อาหารหวาน ๑.ถ่ัวเขียวตม้ นา้ ตาล ที่มา : https://th.openrice.com/th/recipe/ถวั่ เขียวต้มน้าตาล/2633 วธิ ที า ดังนี้ ๑) นาถั่วเขียวมาแชน่ ้าก่อนประมาณ ๑-๒ ชม. เวลาต้มจะเปื่อยเรว็ ข้นึ ๒) ตม้ น้าเปลา่ ไฟระดับกลาง ใส่ถ่วั เขยี วลงไปต้ม ทิ้งไวใ้ หถ้ ่ัวเปอ่ื ย ใช้เวลาประมาณ ๓๐ นาที ระหวา่ งตม้ ถา้ น้าแหง้ ให้เตมิ นา้ ลงไป ๓) พอถ่วั เขยี วเปื่อยไดท้ ี่แลว้ เตมิ นา้ ตาลลงไปคะ่ คนจนนาตาลละลาย ปดิ ไฟ รอใหค้ ลายความร้อน ก่อนกก็ นิ ไดแ้ ล้ว 21

สรปุ เรอ่ื งที่ ๔ การปรุงเครือ่ งดม่ื ร้อนและการปรงุ อาหารอย่างง่าย การปรุงอาหารเป็นทักษะท่ีลูกเสือต้องมีและนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั และเมื่อลูกเสอื ตอ้ ง ไปอยคู่ ่ายพกั แรมคืน ท้งั การปรุงเครื่องด่มื รอ้ น การหงุ ข้าว ทากับข้าวและการทา ของหวานอย่างงา่ ยๆ สาหรบั สมาชกิ ในหมขู่ องตนและสามารถแบ่งปนั ให้เพ่ือนหมอู่ น่ื ๆได้ 22

ความสาคัญ Active Learning (การเรียนรแู้ บบลงมอื ปฏิบัต)ิ Active Learning คอื กระบวนการจัดการเรียนรูท้ ี่ผู้เรียนได้ลงมือกระทาและได้ใชก้ ระบวนการคิด เก่ยี วกับส่งิ ทเี่ ขาไดก้ ระทาลงไป (Bonwell, ๑๙๙๑) เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนร้ภู ายใต้สมมตฐิ านพ้ืนฐาน ๒ ประการคือ ๑) การเรียนรู้เป็นความพยายามโดยธรรมชาตขิ องมนษุ ย์ ๒) แต่ละบคุ คลมแี นวทางในการเรยี นรทู้ ี่แตกต่างกัน (Meyers and Jones, ๑๙๙๓) โดยผู้เรยี นจะถูกเปลี่ยนบทบาทจากผ้รู บั ความร(ู้ receive) ไปสกู่ ารมสี ่วนรว่ มในการสรา้ งความรู้ (co-creators)( Fedler and Brent, ๑๙๙๖) Active Learning เป็นกระบวนการเรียนการสอนอย่างหน่ึง แปลตามตัวก็คือเปน็ การเรียนรู้ผ่านการ ปฏิบัติ หรือ การลงมือทาซึง่ ” ความรู้ “ที่เกิดข้ึนกเ็ ป็นความรู้ท่ีได้จากประสบการณ์ กระบวนการในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ท่ีผู้เรียนต้องได้มีโอกาสลงมือกระทามากกว่าการฟังเพียงอย่างเดียว ต้องจัดกิจกรรมให้ ผู้เรียนได้การเรียนรู้โดยการอ่าน, การเขียน, การโต้ตอบ, และการวิเคราะห์ปัญหา อีกท้ังให้ผู้เรียนได้ใช้ กระบวนการคิดข้ันสงู ได้แก่ การวิเคราะห์, การสังเคราะห์, และการประเมนิ คา่ กระบวนการเรียนรู้ Active Learning ทาให้ผู้เรียนสามารถรักษาผลการเรียนรู้ให้อยู่คงทนได้มาก และนานกวา่ กระบวนการเรยี นรู้ Passive Learning เพราะกระบวนการเรยี นรู้ Active Learning สอดคล้องกับ การทางานของสมองที่เก่ียวข้องกับความจา โดยสามารถเก็บและจาสิ่งที่ผู้เรียนเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วม มี ปฏิสัมพันธ์ กับเพ่ือน ผู้สอน ส่ิงแวดล้อม การเรียนรู้ได้ผ่านการปฏิบัติจริง จะสามารถ เก็บจาในระบบ ความจาระยะยาว (Long Term Memory) ทาให้ผลการเรียนรู้ ยังคงอยู่ได้ในปริมาณทม่ี ากกว่า ระยะยาวกว่า ซ่งึ อธบิ ายไว้ ดงั รปู 23

ท่ีมา : https://parnward๘info.wordpress.com/๒๐๑๔/๐๑/๒๙/active-learning ข้อคิดเหน็ หากไดม้ กี ารทบทวน ฝึกฝนจนชานาญ ปฏบิ ัตซิ า้ และสอนเพือ่ น จะทาให้เกดิ การเรยี นรู้ได้ ๑๐๐% และมีความคงทนในการจดจาไดน้ าน ขั้นการสอนลกู เสอื โดยกระบวนการActive Learning (การเรยี นรแู้ บบลงมือปฏบิ ัติ) อธิบาย สาธติ ลูกเสือลองปฏบิ ตั ิ ลูกเสือปฏบิ ตั เิ อง ลูกเสอื จบั ค่หู รือกลุม่ ฝกึ จาชานาญ สามารถแนะนาเพอื่ นในกลมุ่ ตา่ งกล่มุ ได้ 24

กรวยแหง่ การเรยี นร้นู ไี้ ดแ้ บง่ เปน็ ๒ กระบวนการ คือ กระบวนการเรยี นรู้ Passive Learning ๑) กระบวนการเรียนร้โู ดยการอา่ นทอ่ งจาผู้เรียนจะจาได้ในส่งิ ทเ่ี รียนภาคทฤษฎี ๒) การเรียนรู้โดยการฟงั บรรยายเพียงอย่างเดียวโดยทผี่ ู้เรียนไมม่ โี อกาสไดม้ ีสว่ นร่วมในการเรยี นรู้ ดว้ ย กิจกรรมอื่นในขณะท่ีอาจารยส์ อนเมื่อเวลาผา่ นไปผเู้ รยี นจะจาได้เพียง ๒๐% ๓) หากในการเรยี นการสอนผเู้ รยี นมโี อกาสได้เหน็ ภาพประกอบด้วยกจ็ ะทาให้ผลการเรียนรคู้ งอยู่ ไดเ้ พ่ิมข้นึ เป็น ๓๐% ๔) กระบวนการเรยี นร้ทู ่ีผ้สู อนจดั ประสบการณใ์ ห้กับผ้เู รียนเพ่มิ ขนึ้ เช่น การใหด้ ูภาพยนตร์ การ สาธติ จัดนิทรรศการให้ผเู้ รยี นได้ดู รวมทั้งการนาผเู้ รียนไปทศั นศึกษา หรือดงู าน กท็ าใหผ้ ลการเรยี นรู้ เพ่ิมข้ึน เป็น ๕๐% กระบวนการเรยี นรู้ Active Learning ๑) การให้ผู้เรียนมีบทบาทในการแสวงหาความรู้และเรียนรู้โดยปฏิบัติจริงอย่างมีปฏิสัมพันธ์ กอ่ ให้เกดิ การคิด การวางแผน นาไปประยุกต์ใชส้ ามารถวเิ คราะห์ สังเคราะห์ ประเมินค่าหรือ สรา้ งสรรค์สิ่ง ต่าง ๆ และพัฒนาตนเองเต็มความสามารถ รวมถึงการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ให้เขาได้มีโอกาสร่วม อภปิ รายให้มีโอกาสฝึกทกั ษะการสื่อสาร ทาให้ผลการเรียนรู้เพิม่ ขนึ้ ๗๐% ๒) การนาเสนองานทางวิชาการ เรียนรูใ้ นสถานการณ์จาลอง ท้งั มีการฝึกปฏิบัติ ในสภาพจริง มีการ เช่อื มโยงกับสถานการณ์ ต่าง ๆ ซ่งึ จะทาให้ผลการเรยี นรู้เกดิ ขึ้นถึง ๙๐% ลักษณะของ Active Learning (อา้ งองิ จาก :ไชยยศ เรอื งสุวรรณ)  เป็นการเรยี นการสอนท่ีพฒั นาศักยภาพทางสมอง ไดแ้ ก่ การคดิ การแก้ปญั หา การนาความรไู้ ป ประยกุ ต์ใช้  เปน็ การเรียนการสอนทเ่ี ปดิ โอกาสให้ผ้เู รียนมีสว่ นรว่ มในการเรียนรู้  ผเู้ รียนสรา้ งองคค์ วามรู้และจดั ระบบการเรยี นรู้ด้วยตนเอง  ผเู้ รียนมีส่วนร่วมในการเรียนการสอน มกี ารสรา้ งองค์ความรู้ การสรา้ งปฏิสมั พันธ์รว่ มกัน และ ร่วมมือกันมากกวา่ การแข่งขัน  ผเู้ รียนได้เรียนรคู้ วามรบั ผิดชอบรว่ มกัน การมวี ินัยในการทางาน และการแบ่งหน้าทค่ี วาม รับผิดชอบ  เป็นกระบวนการสรา้ งสถานการณใ์ ห้ผู้เรียนอ่าน พดู ฟงั คดิ  เป็นกจิ กรรมการเรียนการสอนเน้นทักษะการคิดขั้นสูง  25

 เปน็ กิจกรรมท่ีเปิดโอกาสให้ผู้เรียนบรู ณาการขอ้ มูล, ขา่ วสาร, สารสนเทศ, และหลกั การสู่การสรา้ ง ความคิดรวบยอดความคิดรวบยอด  ผ้สู อนจะเป็นผู้อานวยความสะดวกในการจดั การเรยี นรู้ เพื่อให้ผูเ้ รยี นเป็นผูป้ ฏบิ ตั ิด้วยตนเอง  ความร้เู กดิ จากประสบการณ์ การสร้างองค์ความรู้ และการสรปุ ทบทวนของผู้เรียน 26

สรปุ Active Learning กับการเรียนรู้หน่วยท่ี ๑ การพ่งึ ตนเอง Active Learning กับการเรียนรู้หน่วยที่ ๑ การพึ่งตนเอง กิจกรรมลูกเสือเป็นกิจกรรมท่ีมุ่งเน้น ผเู้ รียน มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมรวมท้ังกระตุ้นให้ลูกเสือประสบความสาเร็จในการเรียนรู้ บรรยากาศของ การมสี ่วนร่วม และการเจรจาโต้ตอบท่ีส่งเสริมใหผ้ ู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ท่ดี ีกับผู้กากับและเพ่ือนลูกเสือในช้ัน เรียน การเรียนรู้แบบรว่ มมือ ส่งเสรมิ ให้เกิดการรว่ มมือในกลุ่มลกู เสือ การเรียนการสอนให้ท้าทาย และให้ โอกาสลูกเสือได้รับวธิ ีการสอนที่หลากหลาย กิจกรรมต้องสะทอ้ นความตอ้ งการในการพัฒนาลูกเสือและ เนน้ การนาไปใช้ประโยชน์ในชวี ิตจริงของลูกเสอื 27

แบบทดสอบหลังเรียน คาสั่ง ใหล้ ูกเสือทาเครอ่ื งหมายกากบาท X ลงในกระดาษคาตอบทีแ่ จกให้ .................................................................................................................. ๑. หลักสูตรการเรียนลกู เสือเอกมีกห่ี น่วย ก. ๔ หนว่ ย ข. ๕ หน่วย ค. ๖ หน่วย ง. ๗ หน่วย ๒. ตาแหนง่ ภายในหมตู่ าแหนง่ ใดทตี่ ดั ออกไดห้ ากมสี มาชิกในหมไู่ ม่ถงึ ๘ คน ก. คนหาฝืน ข. พลาธิการ ค. คนรบั ใช้ทั่วไป ง. คนหาน้า ๓. เครื่องหมายดงั กล่าวเปน็ ของลูกเสอื ใด ก. ลูกเสอื -เนตรนารี ข. ลกู เสือตรี ค. ลูกเสอื โท ง. ลูกเสอื เอก 28

๔. การกอ่ กองไฟควรก่อบริเวณใด ก. ใต้ตน้ ไม้ ข. ใกลพ้ ุ่มไม้ ค. ใกล้กอหญ้า ง. ท่ีโลง่ ห่างจากต้นไม้ ๕. หลงั จากทาอาหารเสร็จควรทาอยา่ งไร ก. ปล่อยให้ไฟดับไปเอง ข. ดับไฟให้มอดสนทิ ค. นอนเฝ้ากองไฟไวป้ ้องกนั ไฟไหม้ ง. ดบั ไฟโดยเหลอื ถ่านไว้เล็กนอ้ ย ๖. การกอ่ กองไฟแบบใดทใี่ ห้ความอบอนุ่ และแสงสว่างได้ดี ก. ข. ค. ง. ๗. การทาขา้ วใหส้ ุกวิธีใดท่ตี ้องใชก้ ระบอกไมไ้ ผ่บรรจุขา้ ว ก. การตม้ ข. การหุง ค. การหลาม ง. การนึ่ง ๘. ขอ้ ใดเปน็ อาหารคาวทงั้ หมด ก. ต้มยาปลากระป๋อง ผดั ผกั บ้งุ ถั่วเขียวตม้ ข. ขา้ วผัด ถั่วเขียวต้ม แกงจืด ค. ตม้ ยาปลากระป๋อง ผดั ถ่ัวงอก ไข่ตุ๋น ง. ถั่วเขยี วต้ม ทบั ทมิ กรอบ วนุ้ เมลด็ แมงลัก 29

๙. Active Learning กระบวนการเรียนรู้แบบใดเมอ่ื เวลาผ่านไป ๒ สัปดาห์ เราจะจดจาได้มากทส่ี ดุ ก. แสดงละคร จาลองสถานการณจ์ ากประสบการณ์ ทาสิง่ ต่าง ๆ อยา่ งแท้จรงิ ข. การอ่าน ค. รว่ มแสดงความคิดเหน็ และบรรยาย ง. ชมภาพยนตร์ ดนู ทิ รรศการ ดกู ารแสดงและสาธิต ๑๐. ขอ้ ใดไม่ใชล่ ักษณะการเรยี นการสอนแบบ Active Learning ก. ลกู เสือสรา้ งองค์ความรู้และจดั ระบบการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ข. ผ้กู ากับบรรยายเนอ้ื หาให้ลกู เสือ ค. ผกู้ ากบั ลูกเสอื จัดกจิ กรรมทเี่ ปิดโอกาสให้ผู้เรียนบูรณาการขอ้ มลู สคู่ วามคิดรวบยอด ง. ผกู้ ากบั ลกู เสอื ทเ่ี ปดิ โอกาสให้ลูกเสือมสี ่วนร่วมในการเรยี นรู้ 30

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรียน ขอ้ คาตอบ ขอ้ คาตอบ ๑ข๖ ง ๒ค๗ ค ๓ง๘ ค ๔ง๙ ค ๕ ข ๑๐ ข 31

บรรณานุกรม กระทรวงศกึ ษาธิการ.(๒๕๕๓). คู่มอื การฝกึ อบรมหลักสูตรลกู เสือคุณธรรม. กรุงเทพฯ:โรงพิมพ์ครุ สุ ภา ลาดพรา้ ว. มูลนิธลิ กู เสือแหง่ ชาต.ิ ชดุ แม่บทมาตรฐานลูกเสือเนตรนารี ป.๖ อกั ษรเจรญิ ทัศน์(ม.ป.ป.). กรงุ เทพฯ: ไทยร่มเกลา้ . สานกั งานลกู เสอื แหง่ ชาติ พระราชบัญญตั ิลกู เสอื แห่งชาต(ิ ๒๕๔๙). กรงุ เทพฯ : ไอเดยี สแคว์. สายชล อุณหบตุ ร. 2563. กิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ลูกเสอื สามญั ลกู เสือเอก. กรุงเทพฯ : สานักพิมพ์บรษิ ัทพฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) จากดั . อานาจ ชา่ งเรยี น และคณะ. (มปป). ลูกเสอื -เนตรนารี ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖.กรงุ เทพฯ: สานักพิมพว์ ัฒนาพานชิ จากัด. อักษรเจรญิ ทัศน์. 2563. กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นลูกเสือสามัญและเนตรนารีสามัญ ลกู เสือเอก ช้นั ประถมศึกษาปีที่ ๖. กรงุ เทพฯ : ไทยร่มเกลา้ 32

ประวตั ผิ เู้ ขยี น ประวตั ิส่วนตัว นายดนยา กาเจร์ ชอ่ื -สกุล ๑ มกราคม ๒๕๒๐ วัน/เดอื น/ปีเกดิ ๓๕๒/๗ ม.๕ ต.ปะนาเระ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ๙๔๑๓๐ ภมู ลิ าเนา ครุศาสตรบณั ฑิต การประถมศกึ ษา ประวัตกิ ารศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภฎั ยะลา ปรญิ ญาตรี การศกึ ษามหาบัณฑติ บริหารการศึกษา มหาวิทยาลยั ปทุมธานี ปรญิ ญาโท โรงเรยี นบา้ นปายอ อาเภอสายบรุ ี จังหวัดปตั ตานี ประวตั กิ ารทางาน โรงเรียนบา้ นปายอ อาเภอสายบรุ ี จงั หวดั ปตั ตานี ครผู ู้ช่วย โรงเรียนบา้ นปายอ อาเภอสายบุรี จงั หวัดปตั ตานี ครู คศ.๑ ครู คศ.๒ 33