Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore e-book หน่วยที่ 1 เรื่อง ระบบความปลอดภัย

e-book หน่วยที่ 1 เรื่อง ระบบความปลอดภัย

Published by dr.abhichat27, 2020-08-15 22:46:56

Description: e-book หน่วยที่ 1 เรื่อง ระบบความปลอดภัย

Search

Read the Text Version

หน่วยท่ี 1 ระบบความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ครูอภชิ าติ อนุกูลเวช วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี

22 ใบความรู้

23 ใบความรู้ที่ 1 สอนคร้ังท่ี 1 รวม 4 ช่ัวโมง รายวชิ า งานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์เบ้ืองตน้ รหสั วิชา 2100-1003 จานวน 1 ช่ัวโมง หน่วยที่ 1 ชื่อหน่วย ความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ชื่อเร่ือง ความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ แนวคดิ ความปลอดภยั เป็ นสิ่งที่มีความสาคญั เป็ นอยา่ งยง่ิ โดยเฉพาะความปลอดภยั ในงานไฟฟ้า และอเิ ลก็ ทรอนิกส์ ซ่ึงในชีวิตประจาวนั ของมนุษยม์ คี วามเกี่ยวขอ้ งกบั ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ ซ่ึง อุปกรณ์ทางดา้ นไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ เป็ นสิ่งที่อานวยความสะดวก ความสบายเป็ นอยา่ งมาก ดงั น้นั จึงตอ้ งมีการศกึ ษาถึงวิธีการป้องกนั เพื่อก่อให้เกิดความปลอดภยั ของชีวิตและทรัพยส์ ินใน งานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ สาระการเรียนรู้ 1.1 ความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 1.2 อนั ตรายของไฟฟ้าต่อร่างกายมนุษย์ 1.3 การป้องกนั อนั ตรายที่เกิดจากไฟฟ้า 1.4 หลกั ปฏิบตั ิเพื่อความปลอดภยั 1.5 การช่วยเหลอื ผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้าดูด 1.6 การปฐมพยาบาลผไู้ ดร้ ับอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้าเบ้ืองตน้

24 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จุดประสงค์ทั่วไป เพื่อใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรม เม่อื ผเู้ รียน เรียนจบหน่วยการเรียนน้ีแลว้ มคี วามสามารถดงั ต่อไปน้ี ด้านพุทธิพสิ ัย 1. อธิบายระบบความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ได้ 2. อธิบายวิธีการป้องกนั อนั ตราย ที่เกิดจากไฟฟ้าได้ 3. อธิบายขอ้ ควรปฏิบตั ิในการทางานเพอ่ื ป้องกนั อนั ตรายที่เกิดจากไฟฟ้าและ อเิ ลก็ ทรอนิกสไ์ ด้ 4. อธิบายวิธีการช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้าได้ 5. อธิบายวธิ ีการปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ แก่ผไู้ ดร้ ับอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้าได้ 6. ประยกุ ตใ์ ชง้ านระบบความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ใน ชีวติ ประจาวนั ได้

25 ความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนิกส์ ความปลอดภยั เป็นสิ่งจาเป็นอยา่ งยง่ิ ในการทางานโดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ความปลอดภยั ในงาน ไฟฟ้า ซ่ึงไฟฟ้าเป็ นพลงั งานชนิดหน่ึง จะมีท้งั คุณและโทษในเวลาเดียวกนั หากใชไ้ ดอ้ ยา่ งถูกวิธี จะเกิดประโยชน์มหาศาล แต่ถา้ หากใชไ้ ม่ถูกวิธีจะทาใหเ้ กิดโทษอยา่ งมหาศาล จะทาใหเ้ กิดความ เสียหายถึงชีวิต และทรัพยส์ ิน เช่น การเกิดไฟฟ้าดูดหรือไฟฟ้าซ๊อต ปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ ไหลผ่านทางร่างกายแตกต่างกนั ทาใหเ้ กิดอนั ตรายนอ้ ย แต่ถา้ หากกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นมากจะทา ใหเ้ ป็นอนั ตรายมาก อาจมผี ลถึงทาใหเ้ สียชีวติ ได้ การปฏิบตั ิงานทางดา้ นไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ท่ีปลอดภยั ผใู้ ช้ไฟฟ้าจะตอ้ งทราบและ เขา้ ใจถึงคุณสมบตั ิทางไฟฟ้า ตอ้ งระมดั ระวงั ไม่ประมาท ทางานอยา่ งเป็ นระบบรอบคอบคานึงถึง ความปลอดภยั ในขณะทางาน ดงั น้ันการช่วยเหลือผูป้ ระสบอนั ตรายหรืออุบตั ิเหตุจากไฟฟ้าจึงเป็ นส่ิงท่ีมีความจาเป็ น ตอ้ งกระทาอยา่ งถูกวิธี รวดเร็ว รอบคอบ และระมดั ระวงั ทาใหผ้ ปู้ ระสบอนั ตรายมีโอกาสรอดพน้ อนั ตรายและชีวิตได้ 1.1 ความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ การทางานเก่ียวกบั ระบบไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ ถา้ ขาดความระมดั ระวงั จะทาให้ไดร้ ับ อนั ตราย และเกิดความเสียหายได้ เนื่องจากร่างกาย ส่วนใดส่วนหน่ึง เขา้ ไปสัมผสั กบั วงจรไฟฟ้า คุณสมบตั ิของไฟฟ้าโดยทว่ั ไป จะพยายามไหลและแทรกซึมเขา้ หาส่ือตวั นาต่าง ๆ เช่น โลหะ ดิน น้าเป็นตน้ เม่อื ร่างกายของเราเขา้ ไปสมั ผสั จะทาใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผา่ นตวั เราเขา้ สู่พ้นื ดินหรือน้า กระแสไฟฟ้าที่ไหลผา่ นร่างกาย แมจ้ ะมปี ริมาณเพียงเลก็ นอ้ ยกอ็ าจจะทาใหไ้ ดร้ ับอนั ตราย ได้ ในกรณีที่กระแสไฟฟ้าไหลผ่านอวยั วะที่สาคญั ของร่างกาย สาเหตุที่ทาใหไ้ ดร้ ับอนั ตรายจาก ไฟฟ้าแบ่งเป็น 2 กรณีคือ 1. กระแสไฟฟ้าไหลเกิน เป็นสาเหตุที่ทาใหอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้าหรือทรัพยส์ ินอน่ื เกิดเสียหาย 2. ไฟฟ้าดูด เป็นสาเหตุที่ทาใหเ้ กิดอนั ตรายกบั มนุษยถ์ งึ ข้นั เสียชีวติ ได้ 1.1.1 กระแสไฟฟ้าไหลเกิน (Over Current) กระแสไฟฟ้าไหลเกิน หมายถึง สภาวะของกระแสท่ีไหลผา่ นตวั นาจนเกินพกิ ดั ที่กาหนดไว้ อาจเกิดได้ 2 ลกั ษณะดว้ ยกนั คือ

26 1. โหลดเกิน (Over Load) หมายถึง กระแสไหลในวงจรปกติ แต่นาอุปกรณ์ที่ กินกาลงั ไฟสูงหลาย ๆ ชุดมาต่อในจุดเดียวกนั ทาให้กระแสไหลรวมกนั เกินกว่าท่ีจะทนรับภาระ ของโหลดได้ เช่น นาเอาอุปกรณ์มาต่อท่ีจุดต่อเดียวกนั ของเตา้ รับหลายทางแยก 2. การลดั วงจร (Short Circuit) หรือเรียกกนั ทวั่ ๆ ไปว่าไฟฟ้าช็อต เกิดจากฉนวน ชารุด ทาให้เกิดสายที่มีไฟ (Line) และสายดิน (Ground) สัมผสั ถึงกัน มีผลทาให้เกิดความร้อน ฉนวนที่ห่อหุม้ ลวดตวั นาจะลุกไหมใ้ นที่สุด 1.1.2 ไฟฟ้าดูด (Electric Shock) ไฟฟ้าดูด คือการที่มีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นร่างกายของมนุษย์ โดยบางส่วนของร่างกาย จะมสี ภาพเป็นตวั นาไฟฟ้า โดยเฉพาะขณะท่ีส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกายมนุษยส์ มั ผสั อยกู่ บั พ้นื น้า พ้ืนดิน พ้ืนปูน หรือโลหะท่ีต่อถึงพ้ืนดินพ้ืนน้า กระแสสามารถไหลผ่านร่างกายลงสู่พ้ืนน้าหรือ พ้นื ดินไดส้ ะดวก และกรณีที่ร่างกายมนุษยส์ มั ผสั ถูกสายไฟฟ้าพร้อมกนั มากกวา่ หน่ึงเสน้ ร่างกาย มนุษยจ์ ะกลายเป็ นภาระหรือโหลด (Load) ไฟฟ้าแทนเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า ทาให้เกิดกระแสไหลผ่าน ร่างกาย เรียกการเกิดลกั ษณะน้ีวา่ ไฟฟ้าดูดหรือไฟฟ้าช็อต รูปท่ี 1.1 แสดงลกั ษณะของการถูกไฟฟ้าดูด ท่ีมา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 1.2 อนั ตรายของไฟฟ้าต่อร่างกายมนุษย์ ไฟฟ้าเป็ นพลงั งานท่ีสามารถเปลี่ยนรูปไดโ้ ดยอาศยั แรงดนั และกระแสไฟฟ้า เพื่อจ่ายให้ อุปกรณ์ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้าเคลื่อนท่ีได้ดีในวตั ถุตัวนาจาพวกโลหะต่าง ๆ เช่น ทองแดง เงิน เหลก็ ตะกวั่ และอะลูมิเนียม เป็ นตน้ ไฟฟ้าไม่สามารถเคลื่อนท่ีไดใ้ นวตั ถุที่เป็ น ฉนวน เช่น พลาสติก ยาง แกว้ ไม้ และเซรามิก เป็นตน้ ไฟฟ้าเป็ นสิ่งท่ีมองไม่เห็น ดงั น้นั ในการ ทดสอบจึงตอ้ งใชเ้ คร่ืองมือวดั ไฟฟ้าในการวดั และตรวจสอบ

27 ร่างกายมนุษยเ์ ป็ นตวั นาไฟฟ้าเช่นเดียวกบั ตวั นาไฟฟ้าสามารถใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผ่าน ร่างกายไปไดอ้ ยา่ งสะดวก ดงั น้นั จึงควรระมดั ระวงั ไม่ใหร้ ่างกายทุกส่วนสมั ผสั ถูกตวั นาไฟฟ้าที่ต่อ อยู่กบั แหล่งกาเนิดไฟฟ้า หรือในขณะท่ีมีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นตวั นาไฟฟ้าน้ัน โดยเฉพาะขณะท่ี ส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกายมนุษยส์ มั ผสั อย่กู บั พ้ืนน้า พ้ืนดิน พ้ืนปูน หรือโลหะที่ต่อถึงพ้ืนดิน พ้ืนน้า กระแสไฟฟ้าสามารถไหลผา่ นร่างกายสู่พ้ืนน้าหรือพ้ืนดินไดส้ ะดวก และกรณีที่ร่างกาย มนุษยส์ มั ผสั ถูกสายไฟฟ้าพร้อมกนั มากกว่าหน่ึงเส้น ร่างกายมนุษยจ์ ะกลายเป็ นภาระหรือโหลด (Load) ไฟฟ้าแทนเครื่องใช้ไฟฟ้า เกิดกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นร่างกาย เรียกการเกิดลกั ษณะน้ีว่า ไฟฟ้าดูดหรือไฟฟ้าช็อต รูปที่ 1.2 การเกิดไฟฟ้าดูดหรือไฟฟ้าชอ็ ต ที่มา : http://www.thaibodyguard.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538682935 อนั ตรายของไฟฟ้าต่อร่างกายมนุษย์ คืออาจทาใหเ้ กิดการบาดเจ็บ เกิดการสูญเสียอวยั วะ หรืออาจถึงเสียชีวิตได้ อนั ตรายที่เกิดข้ึนจะมากหรือน้อยข้ึนอยกู่ บั ขนาดของกระแสที่ไหลผา่ น ร่างกายไป กระแสปกติวดั ออกมามีหน่วยเป็ นแอมแปร์ (A) หรือหน่วยเล็กลงมาเป็ นมิลลิแอมแปร์ (mA) และไมโครแอมแปร์ (µA) โดยท่ีแรงดนั จะเป็ นเท่าไรก็ตาม ปกติแรงดนั ไฟฟ้ากระแสสลบั ท่ี ใชต้ ามบา้ นเรือนมีค่า 220 โวลต์ กระแสไฟฟ้าจานวนนอ้ ยเป็ นอนั ตรายนอ้ ยกระแสไฟฟ้าจานวน มากเป็ นอันตรายมาก และระยะเวลาของกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านร่างกายก็มีผลต่ ออันตรายท่ี เกิดข้ึนเวลาที่กระแสไหลผา่ นน้อยเป็นอนั ตรายนอ้ ย เวลาท่ีกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นมากเป็นอนั ตรายมาก เมอื่ มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายมนุษย์ ส่งผลให้เกิดอาการเกร็งของกลา้ มเน้ือ ทาใหไ้ ม่สามารถ เคลื่อนไหวหรือด้ินรนให้หลุดพน้ จากการถูกไฟฟ้าดูดได้ ความสัมพนั ธ์ของกระแสไฟฟ้ากับ ปฏกิ ิริยาท่ีเกิดข้ึนต่อร่างกายมนุษย์

28 ตารางท่ี 1.1 ความสมั พนั ธข์ องกระแสกบั ปฏิกิริยาท่ีเกิดข้ึนต่อร่างกายมนุษย์ ปริมาณกระแสไหลผ่านร่างกาย ปฏิกริ ิยาทเี่ กดิ ขึน้ มนุษย์เป็ นมลิ ลแิ อมแปร์ (mA) นอ้ ยกว่า 0.5  ไม่เกิดความรู้สึก 0.5 – 2  เร่ิมเกิดความรู้สึก กลา้ มเน้ือกระตุกเลก็ นอ้ ย 2 - 10  กลา้ มเน้ือหดตวั กระตุกปานกลาง ถึงกระตุกรุนแรง 10 – 25  เจบ็ ปวดกลา้ มเน้ือ เกร็ง ไมส่ ามารถขยบั เขย้อื นได้ 25 – 50  กลา้ มเน้ือเกร็ง กระตกุ รุนแรง 50 – 100  หวั ใจเตน้ ผดิ ปกติ เตน้ ถ่รี ัว และอาจเสียชีวติ มากกวา่ 100  หวั ใจหยดุ เตน้ เน้ือหนงั ไหม้ 1.3 การป้องกนั อนั ตรายทเ่ี กดิ จากไฟฟ้า วิธีป้องกนั ไม่ใหก้ ระแสไฟฟ้าไหลผา่ นร่างกาย คือ ใชฉ้ นวนที่กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นไดย้ าก เช่น การสวมถุงมือยาง รองเทา้ ยาง หรือการต่อสายดิน เป็นตน้ ในปัจจุบนั มีผคู้ ิดคน้ ระบบป้องกนั อนั ตรายที่เกิดจากไฟฟ้า เพ่ือใชใ้ นการคุม้ ครองชีวิต และทรัพยส์ ินมากมาย เช่น การต่อสายดิน เซฟต้ีคทั แอคคิวคทั ฟิ วส์ เซอร์กิตเบรคเกอร์ อุปกรณ์จะถูกติดต้งั บริเวณตน้ ทางของวงจรไฟฟ้า เพ่ือป้องกนั มใิ หเ้ กิดการลดั วงจร การเลือกขนาดของฟิ วสแ์ ละเซอร์กิตเบรคเกอร์ควรสูงกว่าโหลดท่ี ใชแ้ ต่ไมเ่ กินพกิ ดั ของสายไฟฟ้าเพราะอาจทาใหส้ ายเกิดการชารุดเสียหายได้ ระบบการป้องกนั ทางไฟฟ้า คือ ระบบการป้องกนั ท่ีไม่ใหแ้ รงดันไฟฟ้าเกินค่าสูงสุด ซ่ึง เป็นแรงดนั ท่ียอมใหม้ นุษยส์ มั ผสั ไดโ้ ดยตรง (แรงดนั ไม่เกิน 65 โวลต)์ อย่างไรกต็ ามแรงดนั ไฟฟ้า ระดบั น้ี จะก่อใหเ้ กิดอนั ตรายไดห้ รือไม่ ข้ึนอย่กู บั สภาพความตา้ นทานไฟฟ้า ของแต่ละบุคคล ซ่ึง โดยปกติ ค่าความตา้ นทานของมนุษย์ มีค่าอยรู่ ะหว่าง 1,000 - 4,000 โอห์ม ดงั น้ันเราสามารถหา กระแสไฟฟ้า ท่ีไหลผา่ นตวั มนุษยไ์ ดจ้ ากสูตร กระแสไฟฟ้า = แรงดนั ตกคร่อมตวั มนุษย์ ความตา้ นทานตวั มนุษย์ เช่น กระแสไฟฟ้า = 65 โวลต์ 4000 โอหม์  กระแสไฟฟ้า = 16.25 มลิ ลิแอมป์

29 ในกรณีท่ีร่างกายเปี ยกช้ืนจะมคี ่าความตา้ นทานประมาณ 1,300 โอห์ม จะหาค่ากระแสไฟฟ้า ท่ีไหลผา่ นร่างกายไดด้ งั น้ีคือ กระแสไฟฟ้า = แรงดนั ตกคร่อมตวั มนุษย์ เช่น กระแสไฟฟ้า = ความตา้ นทานตวั มนุษย์ 65 โวลต์ 1300 โอหม์  กระแสไฟฟ้า = 50 มิลลิแอมป์ ถา้ ศึกษาจากตารางที่ 1.1 จะเห็นไดว้ ่า ในกรณีท่กี ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นร่างกายมนุษย์ จานวน 50 มลิ ลแิ อมป์ ถือว่าอนั ตรายมาก ซ่ึงอาจทาใหห้ วั ใจเตน้ ผดิ ปกติ เตน้ ถี่รัว และอาจเสียชีวติ ได้ รูปที่ 1.4 แสดงกระแสไฟฟ้าไหลผา่ นร่างกายมนุษย์ ที่มา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 1.4 หลกั ปฏบิ ตั เิ พ่ือความปลอดภยั การปฏิบตั ิงานทางดา้ นไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์จะตอ้ งมีความระมดั ระวงั อยา่ งมาก และ ตอ้ งมน่ั ใจว่าเกิดความปลอดภัย ขณะปฏิบตั ิงานตอ้ งมีอุปกรณ์อานวยความสะดวกและอุปกรณ์ ป้องกนั อนั ตรายอย่างเพียงพอ ต้องปฏิบตั ิงานให้ถูกข้ันตอน ทางานอย่างเป็ นระบบและมีความ รอบคอบ หลกั การปฏบิ ตั ิงานทางดา้ นไฟฟ้าอเิ ลก็ ทรอนิกส์ท่ีปลอดภยั มีดงั น้ี 1.4.1 การปฏบิ ตั ิงานทางดา้ นไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ท่ีปลอดภยั 1) ควรคานึงถึงกฎแห่งความปลอดภยั ขณะทางานหรือซ่อมบารุงเคร่ืองใช้และ อปุ กรณ์ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ทุกคร้ัง และอยา่ ทางานดว้ ยความประมาท

30 2) ก่อนการปฏิบตั ิงานเกี่ยวกบั ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ ให้คิดอยเู่ สมอว่าอปุ กรณ์ ไฟฟ้าเหลา่ น้นั มีกระแสไฟฟ้าจ่ายอยู่ ตอ้ งตรวจสอบจนแน่ใจว่าไม่มีไฟฟ้าจ่ายไปยงั อุปกรณ์น้นั ๆ เช่น ถอดเตา้ เสียบ ปลดสวติ ช์ เป็นตน้ รูปท่ี 1.5 การตดั กระแสไฟฟ้าก่อนลงมือซ่อม ท่ีมา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 3) การปฏบิ ตั ิงานเกี่ยวกบั ไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เรื่องใด จะตอ้ งมคี วามรู้ความ เขา้ ใจในเร่ืองน้นั ก่อนการปฏบิ ตั ิงาน ถา้ ขาดความรู้ดา้ นไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ ไม่ควรซ่อมและ แกไ้ ขอปุ กรณ์ดงั กล่าวดว้ ยตวั เอง เพราะอาจทาใหถ้ กู กระแสไฟฟ้าดูด เกิดอนั ตรายได้ รูปท่ี 1.6 ไม่ควรซ่อมและแกไ้ ขอุปกรณ์ไฟฟ้าถา้ ไม่มีความรู้ ท่ีมา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html

31 4) เตา้ รับและเตา้ เสียบของเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า หากพบว่าแตกชารุดให้รีบเปล่ียนใหม่ โดยเร็ว และหากพบว่าสายไฟฟ้าของเครื่องใชไ้ ฟฟ้าเป่ื อย ชารุด ใหท้ าการเปลี่ยนหรือซ่อมแซมให้ สมบูรณ์ เตา้ รับแตกชารุด รูปท่ี 1.7 เปลย่ี นเตา้ รับและเตา้ เสียบท่ีชารุด ที่มา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 5) อยา่ ปฎิบตั ิงานเมื่อรู้สึกอ่อนเพลยี เหน่ือย หรือรับประทานยาทาใหง้ ่วงนอน 6) อยา่ ปฏิบตั ิงานในขณะร่างกายเปี ยกช้ืน เช่น มือ เทา้ เปี ยก หรือยนื อยบู่ นพ้ืนที่ เปี ยกน้า ไม่ควรแตะตอ้ งอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเลก็ ทรอนิกส์ เพราะหากอุปกรณ์ดงั กล่าวชารุดหรือมี ไฟร่ัว จะทาใหถ้ ูกกระแสไฟฟ้าดูดและอาจเสียชีวติ ได้ รูปท่ี 1.8 เมอื่ ร่างกายเปี ยกช้ืนไม่ควรสมั ผสั อปุ กรณ์ไฟฟ้า ที่มา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 7) ถา้ จาเป็นตอ้ งปฏิบตั ิงานในท่ีมีคนพลกุ พล่าน หรือมีการปฏิบตั ิงานอ่นื ๆ ร่วมดว้ ย ตอ้ งแขวนป้ายหรือเขียนป้ายแสดงการงดใชไ้ ฟฟ้าไวใ้ หม้ องเห็นชดั เจนทุกคร้ังก่อนเริ่มการปฏิบตั ิงาน 8) ถา้ จาเป็ นตอ้ งปฏิบตั ิงานในที่ ๆ ไม่สามารถตดั ไฟออกได้ ตอ้ งก้นั บริเวณหรือ ป้องกนั ไม่ใหผ้ ไู้ ม่เก่ียวขอ้ งเขา้ ใกลไ้ ด้

32 9) การปฏิบตั ิงานถา้ มกี ารละงานไปชว่ั คราว เช่น พกั เท่ียง เม่อื กลบั มาปฏบิ ตั ิงานต่อ จะต้องตรวจสอบคัตเอาต์ เซอร์กิตเบรคเกอร์ ตลอดจนเครื่องหมายต่าง ๆ ที่ทาไว้ จะตอ้ งอย่ใู น สภาพเดิมก่อนปฏบิ ตั ิงานต่อไป 10) การปฏบิ ตั ิงานแต่ละคร้ัง ควรมผี รู้ ่วมปฏบิ ตั ิการดว้ ยอยา่ งนอ้ ย 2 คน 11) การปฏิบตั ิงานเกี่ยวกบั ไฟฟ้าแรงสูง ควรใชเ้ คร่ืองช่วยป้องกนั ไฟฟ้าใหม้ ากข้ึน กว่าปกติ เช่น ใชเ้ สื่อยางฉนวนปูพ้ืน สวมถุงมือฉนวน และปลอกแขนฉนวน เป็ นตน้ ก่อนการ ปฏบิ ตั ิงานทุกคร้ัง 1.4.2 การปฏบิ ตั ิงานทางดา้ นการซ่อมบารุงเกี่ยวกบั ไฟฟ้า การท่ีจะทาหนา้ ท่ีซ่อมบารุงเกี่ยวกบั ไฟฟ้าได้ ตอ้ งเป็ นผมู้ ีความรู้ทางไฟฟ้า เป็ นคนรอบคอบ ช่างสังเกต ตอ้ งตรวจตราอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เป็ นประจา มีตารางกาหนดการซ่อมบารุงเก่ียวกบั ไฟฟ้าที่เเน่นอน ขณะปฏิบตั ิงานซ่อมบารุงไฟฟ้าตอ้ งแจง้ ใหผ้ รู้ ่วมงานงานคนอ่ืน ๆ รู้อย่างท่ัวถึง มีการติดป้ายการซ่อมบารุงให้เห็นชดั เจน พร้อมกบั กาหนดเวลาที่แน่นอน และขณะปฏิบตั ิงาน ไมค่ วรปฏงิ านคนเดียว หลกั การปฏิบตั ิงานดา้ นการซ่อมบารุงเกี่ยวกบั ไฟฟ้า มีดงั น้ี 1) การตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้า ควรใชเ้ ครื่องมือทดสอบ และ เครื่องมือต่าง ๆ อยา่ งถกู หอ้ ง 2) เครื่องมือช่างท่ีนามาใชง้ าน ตอ้ งอยใู่ นสภาพปกติ ไม่ชารุดบกพร่อง และท่ีดา้ มจบั ของเครื่องมือช่างเหลา่ น้นั ตอ้ งมฉี นวนหุม้ 3) การซ่อมบารุงอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใชไ้ ฟฟ้าชนิดใด ตอ้ งรู้และเขา้ ใจ การทางานและวงจรไฟฟ้าเหล่าน้นั เป็นอยา่ งดี 4) ขณะทาการซ่อมบารุงเกี่ยวกบั ไฟฟ้าไม่ควรใส่เครื่องประดบั ต่างๆ ท่ีเป็นสื่อไฟฟ้า เช่น สร้อยคอ แหวน และสร้อยขอ้ มือ เป็นตน้ และควรสวมใส่เคร่ืองป้องกนั ไฟฟ้าต่าง ๆ ใหร้ ัดกมุ 5) การเปลยี่ นอปุ กรณ์ใหม่ทุกคร้ังควรใชอ้ ะไหลท่ ่ีเช่ือถือไดเ้ เละมมี าตรฐาน 6) การเปล่ียนฟิ วส์ อยา่ ใชฟ้ ิ วส์ที่มขี นาดใหญ่เกินความจาเป็น และหา้ มใชล้ วดทองแดง ใส่แทนฟิ วส์

33 รูปท่ี 1.9 เปล่ียนฟิ วส์ใหถ้ กู ขนาดและเหมาะสม ท่ีมา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 7) อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าใด เม่ือตรวจสอบแลว้ ทราบว่ามีการชารุดเสียหาย หากยงั ไมท่ าการซ่อมบารุง ควรติดป้ายแจง้ บอกใหช้ ดั เจน 8) เตา้ เสียบ เตา้ รับ และเซอร์กิตเบรคเกอร์ หากพบว่าแตกชารุดให้รีบเปล่ียนใหม่ โดยเร็ว อยา่ ใชส้ ายไฟฟ้าเสียบที่เตา้ รับโดยตรง หรือใชเ้ ตา้ เสียบท่ีแตกชารุด ไปเสียบท่ีเตา้ รับ เพราะ อาจเกิดกระแสไฟฟ้าลดั วงจร หรืออาจพล้งั พลาดถูกกระแสไฟฟ้าดูดได้ เตา้ รับที่แตกชารุด เตา้ เสียบท่ีชารุด รูปที่ 1.10 ไม่ควรใชเ้ ตา้ รับและเตา้ เสียบที่แตกชารุด ที่มา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 9) การซ่อมแซมหรือเปล่ียนแปลงอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าทุกคร้ัง ควรตดั กระแสไฟฟ้าออกก่อน เเละแขวนป้ายงดใชไ้ ฟฟ้าใหเ้ ห็นชดั เจน 10) อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าที่เปี ยกน้าหรือช้ืน ก่อนทาการซ่อมแซมควร ทาใหแ้ หง้ สนิดเสียก่อน

34 11) การใชน้ ้ามนั ประเภทไวไฟลา้ งอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใชไ้ ฟฟ้า ก่อนการนา อปุ กรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องใชไ้ ฟฟ้าไปใชง้ าน ควรทาใหน้ ้ามนั ท่ีตกคา้ งอยแู่ หง้ สนิทเสียก่อน 12) การใชอ้ ุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้าตอ้ งใชใ้ หถ้ ูกวิธี หากใชผ้ ดิ วิธีหรือใช้ ผดิ ไปจากปกดิ อาจเป็นเหตุทาใหเ้ กิดเพลิงไหมไ้ ด้ 1.5 การช่วยเหลือผู้ประสบอนั ตรายจากไฟฟ้าดูด การช่วยเหลือผูป้ ระสบอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้านับเป็ นสิ่งจาเป็ นและสาคัญอย่างยิ่ง ที่ควรกระทาอยา่ งถูกวิธี และระมดั ระวงั เพื่อใหผ้ ูป้ ระสบอนั ตรายมีโอกาสรอดพน้ จากอนั ตราย ข้นั ร้ายแรง และผใู้ หค้ วามช่วยเหลือมีความปลอดภยั ไมเ่ กิดอนั ตรายตามไปดว้ ย ในกรณีท่ีพบเห็นผู้ ถกู กระแสไฟฟ้าดูด จะตอ้ งช่วยเหลือใหถ้ กู วิธีและรวดเร็ว หลงั จากน้นั ใหท้ าการปฐมพยาบาลและ ช่วยเหลอื ก่อนนาส่งโรงพยาบาล โดยใหป้ ฏบิ ตั ิตามข้นั ตอนดงั น้ีคือ 1. หากพบผูถ้ ูกกระแสไฟฟ้าดูดอย่าใชม้ ือเปล่าแตะตอ้ งตวั ผทู้ ่ีกาลงั ติดอยู่กบั สายไฟฟ้า หรือตวั นาไฟฟ้าที่มกี ระแสไหลผา่ น เพื่อป้องกนั ไม่ใหผ้ ใู้ หค้ วามช่วยเหลือเกิดอนั ตรายไปดว้ ย 2. ใหต้ ดั การจ่ายไฟ เช่น คตั เอาต์ เพอื่ ตดั ไฟ ถา้ ทาไม่ไดใ้ ห้ใชว้ ตั ถุท่ีไม่เป็ นสื่อไฟฟ้า เช่น ผา้ เชือก สายยาง ไมแ้ หง้ หรือพลาสติกที่แหง้ สนิท เขี่ยสายไฟใหห้ ลุดออกจากตวั ผปู้ ระสบอนั ตราย หรือลากตวั ผปู้ ระสบอนั ตรายใหพ้ น้ จากส่ิงที่มีกระแสไฟฟ้า รูปท่ี 1.11 ตดั การจ่ายกระแสไฟโดยการยกคตั เอาตล์ ง ที่มา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html

35 ผา้ แหง้ รูปท่ี 1.12 ใชผ้ า้ แหง้ คลอ้ งผถู้ กู กระแสไฟฟ้าดูด ที่มา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html ไมแ้ หง้ รูปท่ี 1.13 ใชไ้ มแ้ หง้ เข่ียอปุ กรณ์ไฟฟ้าใหพ้ น้ จากตวั ผปู้ ระสบอนั ตราย ท่ีมา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 3. เมอื่ ไมส่ ามารถทาวิธีอนื่ ใดไดแ้ ลว้ ใหใ้ ชม้ ดี ขวาน หรือของมีคมที่มีดา้ มเป็นไมห้ รือ ดา้ มเป็นฉนวน ฟันสายไฟฟ้าใหข้ าดหลุดออกจากผปู้ ระสบภยั โดนเร็วท่ีสุด และตอ้ งแน่ใจว่า สามารถ ทางานไดด้ ว้ ยความปลอดภยั 4. อยา่ ลงไปในน้า กรณีท่ีมกี ระแสไฟฟ้าอยใู่ นบริเวณที่มนี ้าขงั ใหห้ าทางเข่ียสายไฟฟ้า ออกไปใหพ้ น้ น้า หรือตดั กระแสไฟออกก่อนจึงจะลงไปช่วยผปู้ ระสบอนั ตรายท่ีอยใู่ นบริเวณน้นั 5. หากเป็นสายไฟฟ้าแรงสูงใหพ้ ยายามหลกี เลยี่ ง แลว้ รีบแจง้ การไฟฟ้าทร่ี ับผดิ ชอบ โดยเร็วท่ีสุด

36 1.6 การปฐมพยาบาลผ้ไู ด้รับอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้าเบื้องต้น กระแสไฟฟ้าจะทาอนั ตรายมนุษย์ โดยมีผลต่อระบบประสาทและกล้ามเน้ือ ซ่ึงหาก กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายจานวนมากและนานพอ ก็อาจทาใหผ้ ปู้ ระสบภยั เสียชีวิตได้ เมื่อพบ เห็นผถู้ ูกไฟฟ้าดูด ใหด้ าเนินการช่วยเหลอื ดงั น้ี 1.6.1 การปฐมพยาบาลผทู้ ่ีถูกไฟฟ้าลดั วงจร ผปู้ ระสบอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้าดูดถา้ หากหมดสติไม่รู้สึกตวั หวั ใจหยุดเตน้ และไม่หายใจ สงั เกตไดจ้ ากอาการที่เกิดข้ึนดงั น้ี ริมฝี ปากเขียว สีหนา้ ซีดเขียวคล้า ทรวงอกเคลื่อนไหว นอ้ ยมาก หรือไมเ่ คลอื่ นไหว ชีพจรเตน้ ชา้ และเบามาก หากหวั ใจหยดุ เตน้ จาคลาชีพจรไม่พบ ม่านตาขยายคา้ ง ไมห่ ดเลก็ ลง หากหมดสติตอ้ งรีบใหก้ ารปฐมพยาบาลทนั ที เพอ่ื ใหป้ อดและหวั ใจทางาน โดยวิธีการ ผายปอดดว้ ยการให้ลมหายใจทางปาก ร่วมกบั การนวดหวั ใจก่อนนาผปู้ ่ วยสงแพทย์ การปฏิบตั ิมี ข้นั ตอนดงั น้ี วธิ กี ารผายปอดด้วยวธิ ปี ากต่อปาก 1) ให้ผปู้ ่ วยนอนราบ จดั ท่าท่ีเหมาะสมเพื่อเปิ ดทางใหอ้ ากาศเขา้ สู่ปอดไดส้ ะดวก โดยใหผ้ ปู้ ฐมพยาบาลอยทู่ างดา้ นขวาหรือดา้ นซา้ ยบริเวณศรี ษะของผปู้ ่ วย รูปท่ี 1.14 ผปู้ ่ วยนอนหงาย ที่มา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 2) ใชม้ ือขา้ งหน่ึงดึงคางผูป้ ่ วยหรือดนั ใตค้ อพร้อมกบั ใชม้ ืออีกขา้ งดนั หน้าผาก ให้หน้าแหงน เป็ นวิธีป้องกนั ไม่ให้ล้ินตกไปอุดทางเดินใจหายใจ และตอ้ งระวงั ไม่ให้น้ิวมือท่ีดึง คางน้นั กดลึกลงไปในส่วนของเน้ือใตค้ าง เพราะจะทาใหอ้ ุดก้นั ทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะอยา่ ง ยง่ิ ในเดก็ เลก็ สาหรับในเด็กแรกเกิด ไมค่ วรควรหงายคอมากเกินไป เพราะอาจทาใหห้ ลอดลมแฟบ และอดุ ตนั ทางเดินหายใจได้

37 รูปที่ 1.15 วางผปู้ ่ วยใหน้ อนหงายแลว้ ชอ้ นคอใหแ้ หงนข้ึน ที่มา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 3) สอดนิ้วหวั แม่มอื เขา้ ไปในปากผปู้ ่ วย จบั ขากรรไกรล่างยกข้ึนจนปากอา้ ออก 4) ลว้ งเอาส่ิงอ่นื ๆ ท่ีอาจติดคา้ งอยู่ในปากและลาคอออกให้หมด เช่น ฟันปลอม เศษอาหาร เป็นตน้ เพื่อไม่ใหข้ วางทางลม รูปที่ 1.16 สงั เกตวา่ ในช่องปากมีส่ิงอดุ ตนั หลอดลมหรือไม่ ที่มา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 5) ผปู้ ฐมพยาบาลอา้ ปากใหก้ วา้ งหายใจเขา้ ปอดเตม็ ท่ี มือขา้ งหน่ึงบีบจมูกผปู้ ่ วย ใหแ้ น่นสนิท ในขณะที่มอื อกี ขา้ งหน่ึงยงั ดึงคางผปู้ วยอยู่ แลว้ จึงประกบปากปิ ดปากผูป้ ่ วยให้สนิท พร้อมกบั เป่ าลมเขา้ ไปเป็ นจงั หวะ ๆ ประมาณ 12 - 15 คร้ัง/นาที ในเด็กเลก็ ประมาณ 20 - 30 คร้ัง/นาที หรือใชช้ ุดอุปกรณ์สาหรับการปฐมพยาบาล ซ่ึงไม่ทาให้ปากของผูช้ ่วยเหลือสัมผสั กับปากของ ผปู้ ่ วย เป็นการป้องกนั การติดต่อของเช้ือโรค

38 รูปที่ 1.17 ประกบปากปิ ดปากผปู้ ่ วยใหส้ นิท ท่ีมา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 6) ขณะทาการเป่ าปาก ตาตอ้ งเหลือบดูดว้ ยว่าหนา้ อกผูป้ ่ วยมีอาการขยายข้ึนลง หรือไม่หากไม่มีการกระเพ่ือมข้ึนลงอาจเป็ นเพราะท่านอนไม่ดีหรือมีส่ิงกีดขวางทางเดินหายใจ ซ่ึงตอ้ งรีบแกไ้ ขจดั ท่าใหม่ และอยา่ ใหม้ ีสิ่งกีดขวางทางเดินหายใจ 7) ถา้ ไม่สามารถอา้ ปากของผปู้ ่ วยได้ ใหใ้ ชม้ อื ปิ ดปากผปู้ ่ วยใหส้ นิท และทาการ เป่ าลมเขา้ ทางจมูกแทน โดยใชว้ ธิ ีปฏิบตั ิทานองเดียวกบั การเป่ าปาก 8) ขณะนาผปู้ ่ วยส่งโรงพยาบาลใหท้ าการเป่ าปากไปดว้ ยจนกว่าผปู้ ่ วยจะฟ้ืนฟู หรือไดร้ ับการช่วยเหลือจากแพทยแ์ ลว้ การปฐมพยาบาลด้วยวธิ ีนวดหวั ใจ เมอื่ พบวา่ หวั ใจผปู้ ่ วยหยดุ เตน้ โดยทราบไดจ้ ากการฟังเสียงหวั ใจเตน้ และการจบั ชีพจร ให้ ดูการเตน้ ของหลอดเลือดแดงท่ีขาหนีบ ท่ีขอ้ พบั แขนหรือที่ขอ้ มือ ตอ้ งรีบทาการช่วยใหห้ วั ใจกลบั เตน้ ข้ึนมาทนั ทีดว้ ยการนวดหวั ใจ ซ่ึงมีวิธีการปฏบิ ตั ิดงั น้ี 1. ใหผ้ ปู้ ่ วยนอนราบกบั พ้ืนแข็ง ๆ หรือใชไ้ มก้ ระดานรองท่ีหลงั ของผปู้ ่ วย ผปู้ ฐมพยาบาล คุกเข่าลงขา้ งขวาหรือขา้ งซา้ ยบริเวณหนา้ อกผปู้ ่ วย คลาหาส่วนล่างสุดของกระดูกอกท่ีต่อกบั กระดูก ซี่โครงโดยใชน้ ้ิวสัมผสั ชายโครงไล่ข้ึนมา ถา้ คุกเขา้ ขา้ งขวาใชม้ ือขวาคลาหากระดูกอกดา้ นซ้าย หากคุกเข่าขา้ งซา้ ยใหม้ ือซา้ ยคลาหากระดูกอกดา้ นขวา ตรงตาแหน่งส่วนล่างสุดของกระดูกอก 2. เมื่อน้ิวสัมผสั ชายโครงแลว้ เล่ือนนิ้วมาตรงกลางจนกระทง่ั น้ิวนางสัมผสั ปลายกระดูก หนา้ อกได้ ใหป้ ลายน้ิวช้ีและน้ิวกลางวางบนกระดูกหนา้ อกต่อจากน้ิวนาง 3. วางมืออกี ขา้ งทบั บนหลงั มอื ท่ีวางในตาแหน่งที่ถกู ตอ้ ง เหยยี ดนิ้วมอื ตรงและเก่ียวนิ้วมือ 2 ขา้ งเขา้ ดว้ ยกนั เหยยี ดแขนตรงโน้มตวั ต้งั ฉากกบั หน้าอกผูป้ ่ วย ทิ้งน้าหนักลงบนแขนขณะกด หนา้ อกผปู้ ่ วยให้กระดูกลดระดบั ลง 1.5 - 2 น้ิว เมอ่ื กดสุดแลว้ ใหผ้ ่อนมือข้ึนทนั ที โดยท่ีตาแหน่งมือ ไม่ตอ้ งเลอ่ื นจากจุดที่กาหนด ขณะกดหนา้ อกนวดหวั ใจ หา้ มใชน้ ้ิวมือกดลงบนซ่ีโครงผปู้ ่ วย

39 รูปที่ 1.18 ใ ชม้ ือกดเหนือล้นิ ป่ี ใหถ้ กู ตาแหน่ง ที่มา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 4. ขณะท่ีกดหนา้ อกแต่ละคร้ังตอ้ งนบั จานวนคร้ังท่ีกดดงั น้ี หน่ึง และสอง และสาม และสี่ และหา้ .... โดยกดหนา้ อกทุกคร้ังท่ีนบั ตวั เลข และปล่อยมือตอนคาวา่ “และ” สลบั กนั ไป ใหไ้ ดอ้ ตั รา การกดประมาณ 90 - 100 คร้ัง/นาที รูปที่ 1.19 ฟังการเตน้ ของหวั ใจของผปู้ ่ วย ท่ีมา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 5. ถา้ ผปู้ ฏิบตั ิมีคนเดียว ใหน้ วดหวั ใจ 15 คร้ัง สลบั กบั การเป่ าปาก 2 คร้ัง ทาสลบั กนั เช่นน้ี จนครบ 4 รอบ แลว้ ตรวจชีพจรและการหายใจ หากคลาชีพจรไม่ไดต้ อ้ งนวดหวใจต่อ แต่ถา้ คลาชีพ จรไดแ้ ละผปู้ ่ วยยงั ไมห่ ายใจตอ้ งเป่ าปากต่อไปอยา่ งเดียว

40 รูปท่ี 1.20 กรณีผปู้ ่ วยหวั ใจหยดุ เตน้ ใหเ้ ป่ าปาก ท่ีมา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 6. ถา้ มีผปู้ ฏิบติ 2 คน ให้นวดหวั ใจ 5 คร้ัง สลบั กบั การเป่ าปาก 1 คร้ัง โดยขณะท่ีเป่ าปาก อกี คนตอ้ งหยดุ นวดหวั ใจ รูปที่ 1.21 การนวดหวั ใจ ท่ีมา : http://kpp.ac.th/elearning/elearning3/unit01.html 7. ในเดก็ อ่อนหรือเด็กเเรกเกิด การนวดหัวใจใหใ้ ชน้ ิ้วเพียง 2 นิ้ว กดบริเวณก่ึงกลางกระดูก- หนา้ อกใหไ้ ดอ้ ตั ราการกดประมาณ 100 - 120 คร้ัง/นาที 8. การนวดหวั ใจตอ้ งทาอย่างระมดั ระวงั และกกู วิธี มิเช่นน้นั อาจทาให้กระดูกซี่โครงหัก ตบั และมา้ มแดกได้ โดยเฉพาะในเด็กเลก็ ตอ้ งใชค้ วามระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ 1.6.2 การช่วยเหลือและการปฐมพยาบาลผทู้ ่ีถกู ไฟไหม้ การช่วยเหลอื ผทู้ ่ีถูกไฟไหม้ ในกรณีท่ีไฟไหมต้ วั เราเอง ใหเ้ อาผา้ ท่ีอยู่ในท่ีเกิดเหตุพนั ตวั เอง หรือนอนกล้งิ ลงกบั พ้ืน ถา้ ไฟไหมร้ ่างกายผอู้ นื่ ให้หาผา้ ห่มหรือผา้ อ่ืนใดพนั ตวั หลาย ๆ ช้นั จนกว่า ไฟจะดบั แลว้ รีบนาออกจากท่ีเกิดเหตุ ราดน้าท่ีตวั ผปู้ ่ วยเพอ่ื ผอ่ นคลายความร้อน ถอดเครื่องประดบั ออกจากตวั ผปู้ ่ วยใหห้ มดแลว้ เอาผา้ ห่มแหง้ ๆ ห่มใหค้ วามอบอุ่น จากน้นั รีบนาส่งแพทย์

41 การปฐมพยาบาล 1) ลดความเจ็บปวดโดยแช่ส่วนที่ถกู ไฟไหมใ้ นน้าเยน็ หรือน้าแขง็ ประมาณ 30 นาที 2) นาผา้ วาสลินก๊อสบางช้นั เดียวปิ ดพนั แผลไว้ 3) ก่อนนาส่งแพทย์ ตอ้ งใหผ้ ปู้ ่ วยไดร้ ับความอบอุน่ โดยให้ใส่เส้ือผา้ แหง้ และหนา หรือห่มผา้ ให้ 4) ใหผ้ ปู้ ่ วยดื่มน้ามาก ๆ เพอ่ื ทดแทนน้าและน้าเหลอื งท่ีเสียไป 5) ถา้ มีบาดแผลท่ีคอ ตอ้ งใหผ้ ปู้ ่ วยอมน้าแข็งไว้ เพอื่ ป้องกนั เลือดออกมากเกินไป 1.6.3 การป้องกนั อนั ตรายท่ีเกิดจากสารเคมี แหล่งกาเนิดสารเคมีจากงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ไดแ้ ก่ ควนั จากการบดั กรีวงจร อเิ ลก็ ทรอนิกส์ พบว่าอนั ตรายจากสารตะกว่ั คือ เป็นตน้ เหตุของโรคโลหิตจาง ตวั ซีด ปวดทอ้ ง ออ่ นเพลีย เบื่ออาหาร กลา้ มเน้ือไม่มแี รง และเดินไม่ได้ ในส่วนของการป้องกนั เบ้ืองตน้ ก็คือ การจดั ให้มีการ ระบายอากาศในสถานที่ทางาน ส่วนวิธีลา้ งสารเคมีท่ีสมั ผสั กบั ผวิ หนงั มขี อ้ ควรปฏิบตั ิดงั น้ี 1. ไม่ลา้ งมือดว้ ยน้ามนั หรือสารตวั ทาละลายท่ีมคี ุณสมบตั ิในการละลายไขมนั เพราะสาร เหลา่ น้ีเป็นพษิ จะดูดซึมผา่ นผวิ หนงั หากรับสารมากเกินไปอาจเกิดอนั ตรายได้ 2. ตอ้ งใชน้ ้ามนั และสบู่ลา้ งมือ แมจ้ ะสะอาดชา้ แต่กม็ ีความปลอดภยั กบั ผวิ หนงั มากกวา่

42 สรุป  การทางานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ถา้ ขาดความระมดั ระวงั จะทาให้ได้รับ อนั ตราย และเกิดความเสียหายซ่ึงอนั ตรายของไฟฟ้าต่อร่างกายมนุษยอ์ าจทาให้เกิดการ บาดเจ็บและเกิดการสูญเสียอวยั วะหรืออาจถึงข้นั เสียชีวิตได้ ดงั น้ันอนั ตรายท่ีเกิดข้ึนจะมาก หรือน้อยข้ึนอยู่กับขนาดของกระแสท่ีไหลผ่านร่ างกายจึงจาเป็ นต้องมีวิธีป้องกันไม่ให้ กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นร่างกายไดง้ ่าย  การปฏิบตั ิงานทางดา้ นไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์จะตอ้ งมีความระมดั ระวงั อยา่ งมาก และตอ้ ง มนั่ ใจว่าเกิดความปลอดภยั ขณะปฏิบตั ิงานตอ้ งมีอุปกรณ์อานวยความสะดวกและอุปกรณ์ ป้องกนั อนั ตรายอยา่ งเพียงพอ ตอ้ งปฏบิ ตั ิงานใหถ้ กู ข้นั ตอน ทางานอยา่ งเป็นระบบและมีความ รอบคอบ  การช่วยเหลือผูป้ ระสบอนั ตรายจากกระแสไฟฟ้านบั เป็ นสิ่งจาเป็ นและสาคญั อย่างยิง่ ที่ควร กระทาอย่างถูกวิธี และระมดั ระวงั เพ่ือใหผ้ ูป้ ระสบอนั ตรายมีโอกาสรอดพน้ จากอนั ตรายข้นั ร้ายแรง และผูใ้ ห้ความช่วยเหลือมีความปลอดภัย ไม่เกิดอันตรายตามไปด้วย เพราะ กระแสไฟฟ้าจะทาอันตรายมนุ ษย์ โดยมีผลต่อระบบประสาทและกลา้ มเน้ือ ซ่ึงหาก กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายจานวนมากและนานพอ ก็อาจทาใหผ้ ปู้ ระสบภยั เสียชีวิตไดใ้ น กรณีที่พบเห็นผถู้ ูกกระแสไฟฟ้าดูด จะตอ้ งช่วยเหลอื ใหถ้ ูกวิธีและรวดเร็ว หลงั จากน้นั ให้ทา การปฐมพยาบาลและช่วยเหลือก่อนนาส่งโรงพยาบาลต่อไป

43 ใบงาน

44 ใบงานที่ 1.1 ชื่อวชิ า งานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์เบ้ืองตน้ รหสั วชิ า 2100-1003 สอนคร้ังท่ี 1 หน่วยที่ 1 ชื่อหน่วย ความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ รวม 4 ชั่วโมง ช่ืองาน ความปลอดภยั ในโรงงาน จานวน 3 ชั่วโมง จดุ ประสงค์การเรียนรู้ จดุ ประสงค์ท่วั ไป เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความปลอดภยั ในงานไฟฟ้าและอเิ ลก็ ทรอนิกส์ จดุ ประสงค์เชิงพฤตกิ รรม เมอ่ื ผเู้ รียน เรียนจบแลว้ สามารถ 1. เขียนภาพความปลอดภยั ในโรงงานได้ 2. อธิบายหนา้ ท่ี หรือความหมายของภาพความปลอดภยั ในโรงงานได้ 3. นาหลกั การประยกุ ตใ์ ชง้ านในชีวิตประจาวนั ได้ เคร่ืองมือและอปุ กรณ์ - แผน่ ภาพภายในโรงงาน ข้อควรระวงั 1. ขณะศกึ ษาภาพความปลอดภยั ในโรงงาน ควรระมดั ระวงั อยา่ ใหเ้ กิดความเสียหาย 2. ขณะศกึ ษาภาพความปลอดภยั ในโรงงาน ควรระมดั ระวงั ความปลอดภยั ต่อตนเองและผอู้ ่นื ข้อเสนอแนะ - คน้ ควา้ เพมิ่ เติมจากแหลง่ ความรู้อน่ื ๆ เพ่ิมเติม จากเวบ็ http://kpp.ac.th/elearning/ elearning3/unit01.html

45 ลาดบั ข้ันการทดลอง 1. ใหผ้ เู้ รียนสารวจและศึกษาแผน่ ภาพเกย่ี วกบั ความปลอดภยั ในโรงงาน 2. เขียนภาพและรายละเอยี ดลงในตารางท่ี 1.1.1 ตารางท่ี 1.1.1 ภาพและรายละเอยี ดเกี่ยวกบั ความปลอดภยั ในโรงงาน ที่ ภาพ รายละเอยี ด 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10

46 สรุปผลการทดลอง ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. คาถาม คาสั่ง จงตอบคาถามใหส้ มบูรณ์ 1. จงบอกวธิ ีการช่วยเหลือผปู้ ระสบภยั จากไฟฟ้าดูดมาเป็นขอ้ ๆ พอเขา้ ใจ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. .............................................................................................................................................................

47 ใบประเมนิ ผลท่ี 1.1 ชื่องาน ความปลอดภยั ในโรงงาน ท่ี รายงานการประเมิน คะแนนท่ไี ด้ หมายเหตุ 1 การเตรียมงาน (3 คะแนน) - การวางแผน ; มี ได้ 1 คะแนน - มกี ารวางแผนการทางาน (1 คะแนน) - จดั เตรียมเครื่องมอื และอุปกรณ์อยา่ ง ;ไมม่ ี ได้ 0 คะแนน มีระเบียบ (1 คะแนน) - การเตรียมเครื่องมือ ; ครบ ได้ 1 คะแนน - ศึกษารายละเอยี ดใบงาน (1 คะแนน) และอปุ กรณ์ ; ไม่ครบ ได้ 0 คะแนน 2 การดาเนินการปฏิบัติงาน (5 คะแนน) - ปฏิบตั ิงานตามข้นั ตอน (2 คะแนน) - ศึกษาใบงาน ; มี ได้ 1 คะแนน - รู้จกั การแกป้ ัญหา (1 คะแนน) - การบนั ทกึ ผลการทดลองอยา่ งถกู ตอ้ ง ;ไม่มี ได้ 0 คะแนน (1 คะแนน) - ปฏิบตั งิ านถกู ตอ้ งปลอดภยั (1คะแนน) - การปฏบิ ตั งิ าน ; เป็นข้นั ตอน ได้ 2 คะแนน 3 การใช้งานและบารุงรักษาเครื่องมือและ ; เป็นข้นั ตอนพอใช้ ได้ 1 คะแนน อุปกรณ์ (2 คะแนน) - การใชเ้ คร่ืองมอื และอุปกรณ์ถกู ตอ้ ง ;ไม่เป็นข้นั ตอน ได้ 0 คะแนน และเหมาะสมกบั งาน ( 1 คะแนน) - มกี ารบารุงรักษาเคร่ืองมอื และอุปกรณ์ - การแกป้ ัญหาและการบนั ทึกผลการทดลอง (1 คะแนน) ; ดี ได้ 1 คะแนน 4 คุณภาพของงาน (10 คะแนน) - ขอ้ มลู ครบสมบูรณ์ (2 คะแนน) ;นอ้ ย ได้ 0 คะแนน - สรุปผลการทดลองถกู ตอ้ ง (3 คะแนน) - ตอบคาถามถูกตอ้ ง (3 คะแนน) - ความปลอดภยั ; มี ได้ 1 คะแนน - ผลงานสะอาดเรียบร้อย (2 คะแนน) ;ไม่มี ได้ 0 คะแนน รวมคะแนนทีไ่ ด้ (คะแนนเต็ม 20 คะแนน) - การใชเ้ ครื่องมือและอุปกรณ์ ;ถกู ตอ้ งถูกวิธี ได้ 1 คะแนน ;ไมเ่ หมาะสม ได้ 0 คะแนน - การบารุงรักษาเครื่องมือและอปุ กรณ์ ; มี ได้ 1 คะแนน ;ไม่มี ได้ 0 คะแนน - ขอ้ มลู ครบสมบูรณ์ ; ครบทกุ ข้นั ตอน ได้ 2 คะแนน ; ไม่ชดั เจน ได้ 1 คะแนน - การสรุปผลและตอบคาถาม ; ถูกตอ้ ง ชดั เจน ได้ 3 คะแนน ; ถูกตอ้ งปานกลาง ได้ 2 คะแนน ; ถูกตอ้ งนอ้ ย ได้ 1 คะแนน - ความสะอาด ; เรียบร้อย ได้ 2 คะแนน ; ไม่เรียบร้อย ได้ 1 คะแนน คะแนนที่ได้ .................................................................ผลการประเมิน ผ่าน  ไมผ่ ่าน  ขอ้ เสนอแนะ................................................................................................................... ......................................................... ลงชอื่ ................................................(ผปู้ ระเมนิ ) (นายอภิชาติ อนุกูลเวช) ................/................./..............


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook