20903-1003 จาวาสคริปต์เบื้องต้น

5.6 ข้ันทดสอบหลงั เรียน นกั เรียนทำใบงำนท่ี 4 และแบบทดสอบหลังเรียน 6. ส่อื การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สือ่ สิ่งพิมพ์ 6.1.1 เอกสำรประกอบกำรสอนวชิ ำจำวำสครปิ ตเ์ บ้อื งต้น 6.1.2 แบบทดสอบก่อนเรียน เรือ่ ง กำรประกำศตัวแปรใน Javascript 6.1.3 แบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง กำรประกำศตวั แปรใน Javascript 6.2 สื่อโสตทัศน์ 6.2.1 Powerpoint เรือ่ ง กำรประกำศตัวแปรใน Javascript 6.2.2 เครอื่ งฉำยโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์แบบพกพำ (Notebook) 6.3 อนื่ ๆ (โปรดระบุ)

7. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอ่นื 7.1 กำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำ S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • กำรค้นหำขอ้ มูล • ใช้อินเทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีกำรค้นหำขอ้ มูลใน 6 • คำนวณเวลำในกำร คดั เลือกหรือคัด ข้อมลู ขน้ั ตอน สืบคน้ ข้อมูล แยกข้อมลู ในส่งิ • ใช้เทคโนโลยี • กำรกำหนดหัวขอ้ ต่ำงๆที่อยรู่ อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณำ • กำรเลือกแหลง่ ขอ้ มูล เรำ ผลติ ภัณฑอ์ ำหำร • กำรเตรยี มอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยีในกำร • กำรค้นหำและรวบรวม นำเสนอผลงำน ข้อมลู • กำรพิจำรณำ • กำรสรุปผล

8. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่กู ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใชห้ ลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - เนื้อหำสอดคล้องกับ - ต้องกำรให้ผเู้ รยี นรเู้ รื่องจำวำ - สรุปเนอ้ื หำให้อำ่ นเขำ้ ใจ เนื้อหา ง่ำยมีภำพประกอบเน้ือหำ - แนวคิดในกำร สมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด เหมำะสม สครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ - เรียงเน้อื หำตำมลำดบั กำร พฒั นำโปรแกรม เรียนรู้ กบั เวลำท่กี ำหนดและวยั - จดั กำรเรียนรู้ได้ครบถว้ น เวลา ตำมที่ออกแบบไว้ 4 ชั่วโมง ของผ้เู รยี น - กำหนดเวลำในแต่ละ กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เล็กน้อย การจดั กิจกรรม - กำหนดเวลำในแตล่ ะ - จดั กำรเรยี นรไู้ ด้ครบถว้ น เพือ่ รองรบั กำรเปล่ยี นแปลง ท่ีอำจเกิดระหวำ่ งจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั กิจกรรม ตำมท่ีออกแบบไว้ กิจกรรม - แบ่งกลมุ่ คละ และวัยของผู้เรยี น ควำมสำมำรถของนกั เรียน - เตรยี มชุดคำถำมให้พร้อม - แบง่ กลุ่มผูเ้ รยี นให้พอดีกับ - ต้องกำรให้ผู้เรยี นปฏิบัติ ตำมลำดับกิจกรรมกำรเรียน จำนวนนกั เรยี น กิจกรรมอยำ่ งทว่ั ถึงตำม - สังเกตพฤติกรรมและให้ - กำหนดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ควำมสำมำรถ ควำมชว่ ยเหลือเม่ือนักเรยี น เหมำะสมกับเวลำท่กี ำหนด - เพ่ือต้องกำรใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดกำร มปี ญั หำ - มอบหมำยภำระงำนและ เรียนรตู้ ำมเปำ้ หมำยทีก่ ำหนด - ฝึกกำรคน้ ควำ้ หำควำมรู้ ชนิ้ งำนเหมำะสมกบั - ผ้เู รียนนำควำมร้ไู ป จำกเพ่ือน และระบบ ควำมสำมำรถผู้เรยี นและ ประยุกตใ์ ช้กบั ภำระงำนได้ อินเทอร์เน็ต สอดคล้องกับเปำ้ หมำยกำร - รบั ฟังควำมคดิ เห็น และ เพือ่ แก้ปญั หำในแบบฝกึ เรยี นรู้ วิเครำะห์ วจิ ำรณอ์ ย่ำงมีเหตุผล ปฏิบัติ และใบงำน

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ต้องกำรใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอย่ำงทว่ั ถึงตำม - แบง่ กลมุ่ คละ จำนวนนักเรยี น ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถของนักเรียน สอ่ื /อปุ กรณ์ - กำหนดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ - เพ่อื ต้องกำรให้ผเู้ รียนเกดิ กำร - เตรยี มชดุ คำถำมใหพ้ ร้อม เหมำะสมกบั เวลำท่กี ำหนด เรียนรตู้ ำมเป้ำหมำยที่กำหนด ตำมลำดบั กิจกรรมกำรเรยี น แหลง่ เรียนรู้/ - มอบหมำยภำระงำนและ - ผู้เรียนนำควำมรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งำนเหมำะสมกบั ประยกุ ต์ใช้กับภำระงำนได้ ควำมช่วยเหลือเมื่อนักเรยี น ควำมสำมำรถผ้เู รียนและ - รบั ฟังควำมคิดเห็น และ มปี ัญหำ สอดคล้องกบั เป้ำหมำยกำร วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์อยำ่ งมีเหตผุ ล - ฝกึ กำรค้นคว้ำหำควำมรู้ เรียนรู้ จำกเพ่ือน และระบบ - ตอ้ งกำรใหน้ ักเรียนได้ปฏิบตั ิ อินเทอรเ์ น็ต - จำนวนใบควำมรู้ ใบงำน กจิ กรรมไดจ้ รงิ ตำมจุดประสงค์ เพื่อแกป้ ญั หำในแบบฝกึ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ เหมำะสม กำรเรียนร้ทู ีก่ ำหนดไว้ ปฏบิ ตั ิ และใบงำน กบั กจิ กรรม และปรมิ ำณ - เตรยี มสื่ออปุ กรณ์ให้พร้อม เพยี งพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งกำรให้นักเรยี นใช้วสั ดุ ก่อนกำรจัดกิจกรรม -ตรวจควำมพร้อมของเครื่อง อปุ กรณ์ทม่ี ีควำมพร้อมใน - มลี ำดับขน้ั ตอนกำรใช้สื่อ คอมพวิ เตอร์กอ่ นเรียน และ หอ้ งปฏบิ ัติกำร มำปฏิบัตกิ ำร และจัดเกบ็ อยำ่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตำมตวั ช้วี ัด - มคี วำมชำนำญในกำรใช้ -เกบ็ เกำ้ อ้นี งั่ ให้เรยี บร้อยหลัง ส่อื อุปกรณ์ เลกิ เรียน เพอื่ ควำมเรยี บร้อย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ตั ิกำร - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ให้พร้อมกอ่ น เหมำะสมกบั กิจกรรมที่ กำรทดลอง กำหนด

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ุ้มกันในตวั ประเดน็ การประเมนิ ผล - จัดทำแบบประเมินผลงำน - ต้องกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ - วำงแผนกำรวดั / และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมำะสมกับเป้ำหมำยกำร ตำมเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด ประเมนิ ผลตำมข้นั ตอนของ เรียนรู้ กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลมีกำร ตรวจสอบควำมเทย่ี งตรงใน กำรวัดตำมตวั ชี้วดั เงื่อนไขความรทู้ ีค่ รตู ้องมีก่อนสอน 3. หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ควำมหมำยคอมพิวเตอร์และสำรสนเทศ 4. จติ วิทยำในกำรสอน 2. กำรใชค้ อมพวิ เตอร์ เงอื่ นไขคณุ ธรรมของครู 3. มีควำมยตุ ิธรรม 1. มีควำมรกั เมตตำศิษย์ 4. ตรงต่อเวลำ 2. มีควำมรับผิดชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยู่อยำ่ งพอเพียงทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียน พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวที่ดี 1. นกั เรียนกำหนดหนำ้ ที่ของสมำชิก 1. นกั เรียนนำขอ้ มลู กำรหำ 1. วำงแผนกำรทำงำนกลุม่ อย่ำง ภำยในกลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั ศักยภำพของ คำตอบมำวเิ ครำะหไ์ ด้อยำ่ ง ละเอียดเปน็ ขั้นตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพอ่ื อธิบำย 2. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์กำรทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วัสดุอุปกรณ์ในกำรทดลอง สรุปเนอื้ หำสำระ ครบถ้วน และตรงตำมกิจกรรมกำร ได้เหมำะสมกบั กจิ กรรมกำรทดของ 2. นักเรยี นสำมำรถนำข้อมูล ทดลอง 3. นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบได้ มำตอบคำถำมได้อยำ่ งถกู ต้อง 3. ศกึ ษำวิธกี ำรทำใบงำนอยำ่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณท์ ี่มี รอบคอบ เง่อื นไขความรู้ 1. ควำมหมำยของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 2. ควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 3. กำรใช้งำนโปรแกรม ภำษำ JavaScript เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. ควำมสำมคั คีในกลุ่ม 2. ควำมรบั ผดิ ชอบ 3. แบ่งปนั และเอ้อื เฟื้อเผ่อื แผ่

ส่งผลต่อความสมดลุ มัน่ คง ย่งั ยืนใน 4 มิติ ดังน้ี ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปลย่ี นแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม - มีควำมร้เู กี่ยวกบั ความรู้ - ควำมรู้ในกำรสบื ค้น - มคี วำมรู้ในกำรจดั แบ่ง - มคี วำมรู้ในกำรดูแล คอมพิวเตอร์ในกำร ประยกุ ต์ใช้ใน ข้อมลู จำกคอมพวิ เตอร์ หนำ้ ทภ่ี ำยในกล่มุ ไดอ้ ย่ำง รักษำควำมสะอำดกำร กิจกรรมในท้องถิน่ อยำ่ งถูกต้อง เหมำะสม จัดกำรขยะอยำ่ ง ใช้เทคโนโลยีใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ - มีควำมรใู้ นกำรปฏิบัตติ น ถกู ต้องของ - ตระหนักถึงคุณค่ำ ท่จี ะทำงำนรว่ มกบั ผู้อนื่ ห้องปฏิบัตกิ ำร ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มที กั ษะในกำรใชว้ ัสดุ - ทำงำนร่วมกันภำยใน - รกั ษำควำมสะอำด อปุ กรณ์อย่ำงปลอดภยั กลมุ่ ตำมทีไ่ ด้รบั มอบหมำย ของห้องปฏบิ ัติกำร และประหยดั จนสำเร็จและมีควำมสุข คอมพวิ เตอร์ในกำร สืบค้นขอ้ มุล ค่านยิ ม - เหน็ ควำมสำคัญของกำร - มคี วำมรับผิดชอบต่อกำร - มีจิตสำนกึ ในกำร ใชว้ สั ดุอปุ กรณใ์ นกำร ทำงำนของกลุ่ม รักษำสภำพแวดล้อม สบื ค้นข้อมูลอย่ำงประหยัด - ยอมรบั ควำมคิดเหน็ ซ่ึง ของห้องปฏบิ ตั ิกำร คมุ้ คำ่ กันและกันมีควำมเสียสละ คอมพิวเตอร๋ให้สะอำด อดทน เป็นระเบยี บ 9. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วธิ ีการ เครือ่ งมือที่ใช้ เกณฑ์การประเมินผ่าน แบบทดสอบก่อนเรียน - กำรทดสอบก่อนเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้ แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ไดร้ ะดับ 2 ข้นึ ไป กำรประเมนิ ระหว่ำงเรยี น กำรสงั เกต กำรเรยี น ตั้งคำถำมให้ครอบคลุม ตอบคำถำมทุกข้อ กำรซักถำม จดุ ประสงค์ ได้ระดบั 2 ข้ึนไป แบบฝกึ หัดและ กำรทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิ ใบงำนหนว่ ยท่ี 4 ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป แบบทดสอบหลงั เรียน กำรประเมินหลังเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ข้อ

10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลกำรใชแ้ ผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หำสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 10.1.2 สำมำรถนำไปใชป้ ฏบิ ัติกำรสอนได้ครบตำมกระบวนกำรเรยี นกำรสอน 10.1.3 เวลำที่กำหนดไว้ในแผนกำรสอนมีควำมเหมำะสม 10.2 ผลกำรเรียนรู้ของนกั เรียน นักศึกษำ 10.2.1 นักศกึ ษำสว่ นใหญม่ ีควำมสนใจใฝร่ ู้ เขำ้ ใจในบทเรยี น อภิปรำยตอบคำถำมในกลุ่ม และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงำนท่ีไดร้ ับมอบหมำย 10.2.2 นักศกึ ษำกระตือรือร้นและรับผิดชอบในกำรทำงำนกลมุ่ เพื่อให้งำนสำเรจ็ ทนั เวลำท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศึกษำเลอื กสำมำรถนำควำมรู้ไปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวนั 10.3 แนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพกำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถนำควำมร้ทู ี่ไดจ้ ำกกำรเรยี นรูใ้ นหนว่ ยน้ีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชำชพี ได้อย่ำงเหมำะสม

แผนการจดั การเรียนรู้มุง่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 5 ชอ่ื หน่วย การกาหนดประเภทของคา่ ข้อมูลให้ตัวแปร สอนครง้ั ท่ี 5 ชว่ั โมงรวม 3 ช่อื เร่อื ง การกาหนดประเภทของคา่ ข้อมูลให้ตัวแปร จำนวนชว่ั โมง 3 1. สาระสาคัญ Data Types (ประเภทของข้อมลู ) ที่ใชใ้ นกำรกำรกำหนดประเภทคำ่ ของข้อมูลใหก้ ับตัวแปร เพือ่ ให้ เหมำะสมกับกำรอ้ำงอิงข้อมูลจำกตัวแปรในกำรใช้งำนมี ดังน้ี number หมำยถึง ข้อมูลชนิดตัวเลข ประกอบด้วย เลขจำนวนเต็ม (Integer) และเลขจำนวนจริง (float) boolean หรือ logical หมำยถึง ข้อมูล ทำงตรรกะ มี 2 สถำนะ คือ จริง (True) และเท็จ (False) string หมำยถึง ข้อมูลที่เป็นข้อควำม ซ่ึงจะต้อง กำหนดไว้ในเครื่องหมำยคำพูด (\"...\") null หมำยถึง ไม่มีค่ำข้อมูลใดๆ ซ่ึงค่ำ null ใช้สำหรับกำรยกเลิกพ้ืนที่ เกบ็ ค่ำของตัวแปรออกจำกหน่วยควำมจำ Array ก็คือข้อมลู หลำยๆตวั มำเรยี งกนั เป็นลำดบั 2. สมรรถนะประจาหน่วย กำหนดประเภทของค่ำข้อมลู ใหต้ ัวแปร 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ด้ำนควำมรู้ กำหนดประเภทของค่ำข้อมลู ใหต้ วั แปรได้ 3.2 ด้ำนทักษะ นกั เรยี นมีควำมรู้ ทักษะพื้นฐำนเก่ียวกับการกาหนดประเภทของคา่ ข้อมูลให้ตัวแปรและมี ทัศนคติทดี่ ี 3.3 คณุ ลักษณะทพี่ ึงประสงค์ (อำ้ งอิง จำกคำ่ นยิ มหลักของคนไทย 12 ประกำร) 3.3.1 เข้ำเรยี นตรงเวลำ 3.3.2 แต่งกำยตำมระเบียบกำรปฏิบัติงำน 3.3.3 ผลงำนประณตี เรียบร้อย 3.3.4 ปิดเคร่อื งคอมพวิ เตอรเ์ มื่อเลิกใช้งำน 3.3.5 มีน้ำใจช่วยเหลือผอู้ นื่ และกำรปฏบิ ัติงำนร่วมกับผอู้ น่ื 4. เนือ้ หาสาระการเรียนรู้ 4.1 กำรกำหนดประเภทของค่ำข้อมูลใหต้ ัวแปร 4.2 Data Types (ประเภทของข้อมูล)

5. กิจกรรมการเรยี นการสอน ครูแจ้งจุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ กำรวัดผลประเมนิ ผล ข้อตกลงขณะเรยี น และใหน้ ักเรียนทำ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5.1 ข้ันนาเข้าสู่บทเรยี น 5.1.1 ผู้สอนจัดเตรยี มเอกสำร พรอ้ มกับแนะนำรำยวชิ ำ วิธกี ำรใหค้ ะแนนและวิธกี ำรเรียนเรอื่ ง กำรกำหนดประเภทของคำ่ ข้อมูลใหต้ วั แปร 5.1.2 ผสู้ อนแจ้งจดุ ประสงคก์ ำรเรยี นของหนว่ ยที่ 5 และขอใหผ้ ู้เรยี นรว่ มกันทำกิจกรรมกำร เรียนกำรสอน 5.1.3 ผู้สอนใหผ้ เู้ รยี นแสดงควำมรู้ โดยต้งั คำถำมวำ่ กำรกำหนดประเภทของค่ำข้อมลู ให้ตัวแปร นักเรยี นร้จู ักภำษำท่ีใชเ้ ขยี นโปรแกรมภำษำอะไรบำ้ งพร้อมให้เหตุผลประกอบ 5.2 ข้นั สอน 5.2.1 ผูส้ อนทดสอบควำมรู้ควำมเข้ำใจเก่ยี วกบั ควำมรเู้ บื้องตน้ เกี่ยวกับกำรกำหนดประเภทของ คำ่ ข้อมลู ให้ตวั แปร โดยใหผ้ ู้เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 5.2.2 ผสู้ อนอธิบำยเน้อื หำเก่ียวกบั บทเรียนวชิ ำจำวำสคริปต์เบ้อื งต้น หน่วยที่ 5 เรอ่ื งการกาหนด ประเภทของค่าขอ้ มลู ให้ตัวแปรและให้ผู้เรียนศึกษำเอกสำรประกอบกำรสอน หน่วยท่ี 5 5.2.3 ผู้สอนและผเู้ รยี นร่วมกันอธบิ ำยพร้อมยกตัวอยำ่ งถงึ แนวคดิ ในกำรพัฒนำโปรแกรมตำมท่ี ไดศ้ ึกษำจำกเว็บไซต์ https://www.w3schools.com/js/default.asp 5.3 ข้นั ประกอบกจิ กรรมการเรียน 5.3.1 ผสู้ อนให้ผูเ้ รยี นทำแบบฝกึ หดั ท้ำยบทที่ 5 5.3.2 ผู้สอนให้ผเู้ รยี นแบง่ กลุ่ม ๆ ละเท่ำ ๆ กนั ทำกำรศึกษำเรื่อง กำรกำหนดประเภทของคำ่ ขอ้ มลู ใหต้ ัวแปร 5.4 กลยุทธ์ในการจัดการเรยี นรู้ 5.4.1 ครูใหเ้ พ่ือนชว่ ยเพ่อื น ใหน้ กั เรยี นกลุ่มเกง่ และปำนกลำง อยูก่ ับกลุ่มนักเรียนท่ีเรียนอ่อน ช่วยกันทำควำมเข้ำใจในเน้ือหำ 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใชเ้ ครอื่ งมือบนอนิ เทอรเ์ นต็ http://www.linoit.com สอบถำมนักเรยี นวำ่ นักเรียนอยำกได้หอ้ งเรียนอยำ่ งไรเรยี นแลว้ มคี วำมสขุ แสดงควำมคิดเห็นแต่ละคน เพ่ือ เปน็ กำรกระตุ้นเตรียมควำมพร้อมในกำรเรียน 5.5 ขั้นสรปุ 5.5.1 ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันสรุปเน้อื หำที่ได้เรยี นให้มีควำมเข้ำใจในทิศทำงเดียวกัน 5.5.2 ผ้สู อนให้ผเู้ รยี นศึกษำเพ่ิมเตมิ นอกหอ้ งเรียน จำก https://www.w3schools.com/js/default.asp ที่จดั ทำขึ้น 5.6 ขนั้ ทดสอบหลงั เรียน นกั เรียนทำใบงำนที่ 5 และแบบทดสอบหลังเรียน

6. สื่อการเรียนร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สือ่ ส่ิงพมิ พ์ 6.1.1 เอกสำรประกอบกำรสอนวชิ ำจำวำสคริปต์เบอื้ งตน้ 6.1.2 แบบทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง กำรกำหนดประเภทของคำ่ ข้อมูลให้ตวั แปร 6.1.3 แบบทดสอบหลังเรยี น เร่อื ง กำรกำหนดประเภทของคำ่ ข้อมลู ใหต้ วั แปร 6.2 สอ่ื โสตทศั น์ 6.2.1 Powerpoint เร่ือง กำรกำหนดประเภทของคำ่ ข้อมูลให้ตัวแปร 6.2.2 เครอ่ื งฉำยโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เครอื่ งคอมพิวเตอร์แบบพกพำ (Notebook) 6.3 อืน่ ๆ (โปรดระบ)ุ

7. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอ่นื 7.1 กำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำ S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • กำรค้นหำขอ้ มูล • ใช้อินเทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีกำรค้นหำขอ้ มูลใน 6 • คำนวณเวลำในกำร คดั เลือกหรือคัด ข้อมลู ขน้ั ตอน สืบคน้ ข้อมูล แยกข้อมลู ในส่งิ • ใช้เทคโนโลยี • กำรกำหนดหัวขอ้ ต่ำงๆที่อยรู่ อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณำ • กำรเลือกแหลง่ ขอ้ มูล เรำ ผลติ ภัณฑอ์ ำหำร • กำรเตรยี มอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยีในกำร • กำรค้นหำและรวบรวม นำเสนอผลงำน ข้อมลู • กำรพิจำรณำ • กำรสรุปผล

8. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่กู ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใชห้ ลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - เนื้อหำสอดคล้องกับ - ต้องกำรให้ผเู้ รยี นรเู้ รื่องจำวำ - สรุปเนอ้ื หำให้อำ่ นเขำ้ ใจ เนื้อหา ง่ำยมีภำพประกอบเน้ือหำ - แนวคิดในกำร สมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด เหมำะสม สครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ - เรียงเน้อื หำตำมลำดบั กำร พฒั นำโปรแกรม เรียนรู้ กบั เวลำท่กี ำหนดและวยั - จดั กำรเรียนรู้ได้ครบถว้ น เวลา ตำมที่ออกแบบไว้ 4 ชั่วโมง ของผ้เู รยี น - กำหนดเวลำในแต่ละ กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เล็กน้อย การจดั กิจกรรม - กำหนดเวลำในแตล่ ะ - จดั กำรเรยี นรไู้ ด้ครบถว้ น เพือ่ รองรบั กำรเปล่ยี นแปลง ท่ีอำจเกิดระหวำ่ งจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั กิจกรรม ตำมท่ีออกแบบไว้ กิจกรรม - แบ่งกลมุ่ คละ และวัยของผู้เรยี น ควำมสำมำรถของนกั เรียน - เตรยี มชุดคำถำมให้พร้อม - แบง่ กลุ่มผูเ้ รยี นให้พอดีกับ - ต้องกำรให้ผู้เรยี นปฏิบัติ ตำมลำดับกิจกรรมกำรเรียน จำนวนนกั เรยี น กิจกรรมอยำ่ งทว่ั ถึงตำม - สังเกตพฤติกรรมและให้ - กำหนดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ควำมสำมำรถ ควำมชว่ ยเหลือเม่ือนักเรยี น เหมำะสมกับเวลำท่กี ำหนด - เพ่ือต้องกำรใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดกำร มปี ญั หำ - มอบหมำยภำระงำนและ เรียนรตู้ ำมเปำ้ หมำยทีก่ ำหนด - ฝึกกำรคน้ ควำ้ หำควำมรู้ ชนิ้ งำนเหมำะสมกบั - ผ้เู รียนนำควำมร้ไู ป จำกเพ่ือน และระบบ ควำมสำมำรถผู้เรยี นและ ประยุกตใ์ ช้กบั ภำระงำนได้ อินเทอร์เน็ต สอดคล้องกับเปำ้ หมำยกำร - รบั ฟังควำมคดิ เห็น และ เพือ่ แก้ปญั หำในแบบฝกึ เรยี นรู้ วิเครำะห์ วจิ ำรณอ์ ย่ำงมีเหตุผล ปฏิบัติ และใบงำน

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ต้องกำรใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอย่ำงทว่ั ถึงตำม - แบง่ กลมุ่ คละ จำนวนนักเรยี น ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถของนักเรียน สอ่ื /อปุ กรณ์ - กำหนดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ - เพ่อื ต้องกำรให้ผเู้ รียนเกดิ กำร - เตรยี มชดุ คำถำมใหพ้ ร้อม เหมำะสมกบั เวลำท่กี ำหนด เรียนรตู้ ำมเป้ำหมำยที่กำหนด ตำมลำดบั กิจกรรมกำรเรยี น แหลง่ เรียนรู้/ - มอบหมำยภำระงำนและ - ผู้เรียนนำควำมรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งำนเหมำะสมกบั ประยกุ ต์ใช้กับภำระงำนได้ ควำมช่วยเหลอื เมื่อนักเรยี น ควำมสำมำรถผ้เู รียนและ - รบั ฟังควำมคิดเห็น และ มปี ัญหำ สอดคล้องกบั เป้ำหมำยกำร วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์อยำ่ งมีเหตผุ ล - ฝกึ กำรค้นคว้ำหำควำมรู้ เรียนรู้ จำกเพ่ือน และระบบ - ตอ้ งกำรใหน้ ักเรียนได้ปฏิบตั ิ อินเทอรเ์ น็ต - จำนวนใบควำมรู้ ใบงำน กจิ กรรมไดจ้ รงิ ตำมจุดประสงค์ เพื่อแกป้ ญั หำในแบบฝกึ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ เหมำะสม กำรเรียนร้ทู ีก่ ำหนดไว้ ปฏบิ ตั ิ และใบงำน กบั กจิ กรรม และปรมิ ำณ - เตรยี มสื่ออปุ กรณ์ให้พร้อม เพยี งพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งกำรให้นักเรยี นใช้วสั ดุ ก่อนกำรจัดกิจกรรม -ตรวจควำมพร้อมของเครื่อง อปุ กรณ์ทม่ี ีควำมพร้อมใน - มลี ำดับขน้ั ตอนกำรใช้สื่อ คอมพวิ เตอร์กอ่ นเรียน และ หอ้ งปฏบิ ัติกำร มำปฏิบัตกิ ำร และจัดเกบ็ อยำ่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตำมตวั ช้วี ัด - มคี วำมชำนำญในกำรใช้ -เกบ็ เกำ้ อ้นี งั่ ให้เรยี บร้อยหลัง ส่อื อุปกรณ์ เลกิ เรียน เพอื่ ควำมเรยี บร้อย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ตั ิกำร - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ใหพ้ ร้อมกอ่ น เหมำะสมกบั กิจกรรมที่ กำรทดลอง กำหนด

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ุ้มกันในตวั ประเดน็ การประเมนิ ผล - จัดทำแบบประเมินผลงำน - ต้องกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ - วำงแผนกำรวดั / และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมำะสมกับเป้ำหมำยกำร ตำมเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด ประเมนิ ผลตำมข้นั ตอนของ เรียนรู้ กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลมีกำร ตรวจสอบควำมเทย่ี งตรงใน กำรวัดตำมตวั ชี้วดั เงื่อนไขความรทู้ ีค่ รตู ้องมีก่อนสอน 3. หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ควำมหมำยคอมพิวเตอร์และสำรสนเทศ 4. จติ วิทยำในกำรสอน 2. กำรใชค้ อมพวิ เตอร์ เงอื่ นไขคณุ ธรรมของครู 3. มีควำมยตุ ิธรรม 1. มีควำมรกั เมตตำศิษย์ 4. ตรงต่อเวลำ 2. มีควำมรับผิดชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยู่อยำ่ งพอเพียงทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียน พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวที่ดี 1. นกั เรียนกำหนดหนำ้ ที่ของสมำชิก 1. นกั เรียนนำขอ้ มลู กำรหำ 1. วำงแผนกำรทำงำนกลุม่ อย่ำง ภำยในกลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั ศักยภำพของ คำตอบมำวเิ ครำะหไ์ ด้อยำ่ ง ละเอียดเปน็ ขั้นตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพอ่ื อธิบำย 2. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์กำรทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วัสดุอุปกรณ์ในกำรทดลอง สรุปเนอื้ หำสำระ ครบถ้วน และตรงตำมกิจกรรมกำร ได้เหมำะสมกบั กจิ กรรมกำรทดของ 2. นักเรยี นสำมำรถนำข้อมูล ทดลอง 3. นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบได้ มำตอบคำถำมได้อยำ่ งถกู ต้อง 3. ศกึ ษำวิธกี ำรทำใบงำนอยำ่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณท์ ี่มี รอบคอบ เง่อื นไขความรู้ 1. ควำมหมำยของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 2. ควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 3. กำรใช้งำนโปรแกรม ภำษำ JavaScript เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. ควำมสำมคั คีในกลุ่ม 2. ควำมรบั ผดิ ชอบ 3. แบ่งปนั และเอ้อื เฟื้อเผ่อื แผ่

ส่งผลต่อความสมดลุ มัน่ คง ย่งั ยืนใน 4 มิติ ดังน้ี ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ยี นแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม - มีควำมร้เู กี่ยวกบั ความรู้ - ควำมรู้ในกำรสบื ค้น - มคี วำมรใู้ นกำรจัดแบง่ - มคี วำมรู้ในกำรดูแล คอมพิวเตอร์ในกำร ประยกุ ต์ใช้ใน ข้อมลู จำกคอมพวิ เตอร์ หนำ้ ทภี่ ำยในกลมุ่ ได้อย่ำง รักษำควำมสะอำดกำร กิจกรรมในท้องถิน่ อยำ่ งถูกต้อง เหมำะสม จดั กำรขยะอยำ่ ง ใช้เทคโนโลยีใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ - มีควำมร้ใู นกำรปฏบิ ัติตน ถูกต้องของ - ตระหนักถึงคุณค่ำ ท่จี ะทำงำนร่วมกับผู้อื่น ห้องปฏิบัตกิ ำร ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มที กั ษะในกำรใชว้ ัสดุ - ทำงำนร่วมกันภำยใน - รักษำควำมสะอำด อปุ กรณ์อย่ำงปลอดภยั กลมุ่ ตำมทไ่ี ดร้ ับมอบหมำย ของห้องปฏบิ ัติกำร และประหยดั จนสำเรจ็ และมคี วำมสุข คอมพวิ เตอร์ในกำร สบื ค้นขอ้ มุล ค่านยิ ม - เหน็ ควำมสำคัญของกำร - มคี วำมรับผดิ ชอบต่อกำร - มีจติ สำนกึ ในกำร ใชว้ สั ดุอปุ กรณใ์ นกำร ทำงำนของกลุ่ม รกั ษำสภำพแวดล้อม สบื ค้นข้อมูลอย่ำงประหยัด - ยอมรบั ควำมคิดเหน็ ซง่ึ ของห้องปฏบิ ตั ิกำร คมุ้ คำ่ กันและกันมีควำมเสียสละ คอมพิวเตอร๋ให้สะอำด อดทน เป็นระเบยี บ 9. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือที่ใช้ เกณฑ์การประเมินผ่าน แบบทดสอบก่อนเรยี น - กำรทดสอบก่อนเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้ แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ไดร้ ะดับ 2 ข้นึ ไป กำรประเมนิ ระหว่ำงเรยี น กำรสงั เกต กำรเรียน ต้งั คำถำมใหค้ รอบคลุม ตอบคำถำมทุกข้อ กำรซักถำม จุดประสงค์ ได้ระดบั 2 ข้ึนไป แบบฝึกหดั และใบงำน กำรทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิ หน่วยที่ 5 ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป แบบทดสอบหลงั เรียน กำรประเมินหลังเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้

10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลกำรใช้แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หำสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 10.1.2 สำมำรถนำไปใชป้ ฏบิ ัติกำรสอนได้ครบตำมกระบวนกำรเรยี นกำรสอน 10.1.3 เวลำที่กำหนดไว้ในแผนกำรสอนมีควำมเหมำะสม 10.2 ผลกำรเรียนรขู้ องนกั เรียน นักศึกษำ 10.2.1 นักศกึ ษำสว่ นใหญม่ ีควำมสนใจใฝร่ ู้ เขำ้ ใจในบทเรยี น อภิปรำยตอบคำถำมในกลุ่ม และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงำนที่ไดร้ บั มอบหมำย 10.2.2 นักศึกษำกระตือรือร้นและรับผิดชอบในกำรทำงำนกลมุ่ เพื่อให้งำนสำเรจ็ ทนั เวลำท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศกึ ษำเลอื กสำมำรถนำควำมรู้ไปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวนั 10.3 แนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพกำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถนำควำมร้ทู ี่ไดจ้ ำกกำรเรยี นรูใ้ นหนว่ ยน้ีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชำชพี ได้อย่ำงเหมำะสม

แผนการจัดการเรียนรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยที่ 6 ชอื่ หน่วย องค์ประกอบหลกั ของวัตถุ OOP สอนครง้ั ที่ 6 ช่ัวโมงรวม 3 ชอ่ื เรอ่ื ง องคป์ ระกอบหลกั ของวัตถุ OOP จำนวนชั่วโมง 3 1. สาระสาคัญ องค์ประกอบหลักของวัตถุ ใน JavaScript Object นั้นจะพยำยำมสมมุติให้ทุกๆอย่ำง เป็นวัตถุ (Objects)ให้หมดเลย ทั้งน้ีก็เพื่อควำมง่ำยในกำรเขียนโปรแกรม โดย ท่ีวัตถุ (Objects) แต่ล่ะอย่ำงนั้นจะ ประกอบด้วย 2 องค์ประกอบหลักๆ คือ 1.property คือ คุณสมบัติของวัตถนั้น เช่น สมมุติว่ำ Object เป็น รถยนต์ Propeties ก็ของรถยนต์ก็เช่น ยี่ห้อ รุ่น สี ควำมเร็ว แรงม้ำ สมมุติว่ำ Object เป็นวิทยุ Propeties ก็ ของวิทยุก็เช่น ยี่ห้อ รุ่น สี รำคำ ควำมดัง 2.method คือ ฟังก์ชั่นที่ใช้กับ object โดยมีผลกับ object น้ันๆ เช่น วิทยุ.play() เลน่ เทป วิทยุ.stop() หยดุ ประต.ู lock() ล็อก รถยนต์.brake() หยดุ รถ 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย แสดงควำมร้อู งค์ประกอบหลักของวตั ถุ OOP 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ด้ำนควำมรู้ อธิบำยองคป์ ระกอบหลักของวัตถุ OOPได้ 3.2 ดำ้ นทกั ษะ นักเรียนมคี วำมรู้ ทักษะพน้ื ฐำนเกีย่ วกบั องคป์ ระกอบหลกั ของวัตถุ OOP และมที ัศนคติที่ดี 3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ (อำ้ งอิง จำกค่ำนิยมหลักของคนไทย 12 ประกำร) 3.3.1 เขำ้ เรยี นตรงเวลำ 3.3.2 แต่งกำยตำมระเบยี บกำรปฏิบัติงำน 3.3.3 ผลงำนประณตี เรยี บร้อย 3.3.4 ปิดเคร่อื งคอมพิวเตอร์เมื่อเลกิ ใชง้ ำน 3.3.5 มนี ำ้ ใจช่วยเหลอื ผอู้ นื่ และกำรปฏิบัติงำนรว่ มกับผูอ้ ่ืน 4. เน้ือหาสาระการเรยี นรู้ 4.1 property ในภำษำ Javascript 4.2 Method ในภำษำ Javascript

5. กิจกรรมการเรียนการสอน ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ กำรวัดผลประเมินผล ขอ้ ตกลงขณะเรียน และให้นักเรียนทำ แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 5.1 ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน 5.1.1 ผสู้ อนจดั เตรียมเอกสำร พรอ้ มกบั แนะนำรำยวชิ ำ วิธกี ำรใหค้ ะแนนและวิธีกำรเรียนเร่อื ง องคป์ ระกอบหลกั ของวตั ถุ OOP 5.1.2 ผสู้ อนแจ้งจดุ ประสงค์กำรเรียนของหนว่ ยท่ี 6 และขอใหผ้ ้เู รียนรว่ มกันทำกจิ กรรมกำร เรยี นกำรสอน 5.1.3 ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนแสดงควำมรู้ โดยตัง้ คำถำมวำ่ องค์ประกอบหลักของวตั ถุ OOP นักเรียน รูจ้ กั ภำษำท่ีใชเ้ ขียนโปรแกรมภำษำอะไรบ้ำงพร้อมให้เหตุผลประกอบ 5.2 ข้นั สอน 5.2.1 ผู้สอนทดสอบควำมรู้ควำมเขำ้ ใจเกี่ยวกับควำมรเู้ บ้ืองตน้ เกยี่ วกบั องคป์ ระกอบหลักของ วัตถุ OOP โดยให้ผเู้ รียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น 5.2.2 ผู้สอนอธิบำยเนอื้ หำเก่ียวกับบทเรียนวิชำจำวำสครปิ ต์เบอ้ื งตน้ หนว่ ยที่ 6 เร่อื ง องคป์ ระกอบหลักของวัตถุ OOP และใหผ้ ู้เรียนศึกษำเอกสำรประกอบกำรสอน หนว่ ยที่ 6 5.2.3 ผู้สอนและผู้เรยี นร่วมกันอธบิ ำยพร้อมยกตวั อย่ำงถงึ แนวคดิ ในกำรพัฒนำโปรแกรมตำมท่ี ได้ศึกษำจำกเวบ็ ไซต์ https://www.w3schools.com/js/default.asp 5.3 ขน้ั ประกอบกจิ กรรมการเรียน 5.3.1 ผสู้ อนให้ผู้เรยี นทำแบบฝึกหัดท้ำยหน่วยท่ี 6 5.3.2 ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนแบ่งกลุ่ม ๆ ละเทำ่ ๆ กนั ทำกำรศึกษำเรือ่ ง องค์ประกอบหลกั ของวัตถุ OOP 5.4 กลยทุ ธ์ในการจดั การเรยี นรู้ 5.4.1 ครูให้เพ่ือนช่วยเพ่อื น ให้นักเรียนกลุ่มเก่งและปำนกลำง อยกู่ บั กลุ่มนักเรียนที่เรยี นอ่อน ชว่ ยกนั ทำควำมเข้ำใจในเน้ือหำ 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใชเ้ ครอื่ งมือบนอนิ เทอรเ์ น็ต http://www.linoit.com สอบถำมนักเรยี นว่ำ นกั เรยี นอยำกได้ห้องเรยี นอยำ่ งไรเรียนแลว้ มีควำมสุข แสดงควำมคิดเห็นแต่ละคน เพอ่ื เป็นกำรกระตุ้นเตรยี มควำมพรอ้ มในกำรเรียน 5.5 ข้ันสรุป 5.5.1 ผู้สอนและผเู้ รยี นร่วมกันสรปุ เนือ้ หำทีไ่ ด้เรียนให้มีควำมเขำ้ ใจในทศิ ทำงเดยี วกัน 5.5.2 ผสู้ อนใหผ้ เู้ รียนศึกษำเพิม่ เตมิ นอกหอ้ งเรียน จำก https://www.w3schools.com/js/default.asp ทจี่ ดั ทำข้ึน

5.6 ข้ันทดสอบหลงั เรียน นกั เรียนทำใบงำนท่ี 6 และแบบทดสอบหลังเรยี น 6. ส่อื การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สือ่ สิ่งพิมพ์ 6.1.1 เอกสำรประกอบกำรสอนวชิ ำจำวำสครปิ ตเ์ บือ้ งต้น 6.1.2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอื่ ง องค์ประกอบหลักของวัตถุ OOP 6.1.3 แบบทดสอบหลังเรียน เร่ือง องคป์ ระกอบหลกั ของวัตถุ OOP 6.2 สื่อโสตทัศน์ 6.2.1 Powerpoint เรอ่ื ง องค์ประกอบหลกั ของวตั ถุ OOP 6.2.2 เครอื่ งฉำยโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์แบบพกพำ (Notebook) 6.3 อนื่ ๆ (โปรดระบุ)

7. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอ่นื 7.1 กำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำ S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • กำรค้นหำขอ้ มูล • ใช้อินเทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีกำรค้นหำขอ้ มูลใน 6 • คำนวณเวลำในกำร คดั เลือกหรือคัด ข้อมลู ขน้ั ตอน สืบคน้ ข้อมูล แยกข้อมลู ในส่งิ • ใช้เทคโนโลยี • กำรกำหนดหัวขอ้ ต่ำงๆที่อยรู่ อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณำ • กำรเลือกแหลง่ ขอ้ มูล เรำ ผลติ ภัณฑอ์ ำหำร • กำรเตรยี มอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยีในกำร • กำรค้นหำและรวบรวม นำเสนอผลงำน ข้อมลู • กำรพิจำรณำ • กำรสรุปผล

8. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่กู ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใชห้ ลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - เนื้อหำสอดคล้องกับ - ต้องกำรให้ผเู้ รยี นรเู้ รื่องจำวำ - สรุปเนอ้ื หำให้อำ่ นเขำ้ ใจ เนื้อหา ง่ำยมีภำพประกอบเน้ือหำ - แนวคิดในกำร สมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด เหมำะสม สครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ - เรียงเน้อื หำตำมลำดบั กำร พฒั นำโปรแกรม เรียนรู้ กบั เวลำท่กี ำหนดและวยั - จดั กำรเรียนรู้ได้ครบถว้ น เวลา ตำมที่ออกแบบไว้ 4 ชั่วโมง ของผ้เู รยี น - กำหนดเวลำในแต่ละ กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เล็กน้อย การจดั กิจกรรม - กำหนดเวลำในแตล่ ะ - จดั กำรเรยี นรไู้ ด้ครบถว้ น เพือ่ รองรบั กำรเปล่ยี นแปลง ท่ีอำจเกิดระหวำ่ งจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั กิจกรรม ตำมท่ีออกแบบไว้ กิจกรรม - แบ่งกลมุ่ คละ และวัยของผู้เรยี น ควำมสำมำรถของนกั เรียน - เตรยี มชุดคำถำมให้พร้อม - แบง่ กลุ่มผูเ้ รยี นให้พอดีกับ - ต้องกำรให้ผู้เรยี นปฏิบัติ ตำมลำดับกิจกรรมกำรเรียน จำนวนนกั เรยี น กิจกรรมอยำ่ งทว่ั ถึงตำม - สังเกตพฤติกรรมและให้ - กำหนดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ควำมสำมำรถ ควำมชว่ ยเหลือเม่ือนักเรยี น เหมำะสมกับเวลำท่กี ำหนด - เพ่ือต้องกำรใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดกำร มปี ญั หำ - มอบหมำยภำระงำนและ เรียนรตู้ ำมเปำ้ หมำยทีก่ ำหนด - ฝึกกำรคน้ ควำ้ หำควำมรู้ ชนิ้ งำนเหมำะสมกบั - ผ้เู รียนนำควำมร้ไู ป จำกเพ่ือน และระบบ ควำมสำมำรถผู้เรยี นและ ประยุกตใ์ ช้กบั ภำระงำนได้ อินเทอร์เน็ต สอดคล้องกับเปำ้ หมำยกำร - รบั ฟังควำมคดิ เห็น และ เพือ่ แก้ปญั หำในแบบฝกึ เรยี นรู้ วิเครำะห์ วจิ ำรณอ์ ย่ำงมีเหตุผล ปฏิบัติ และใบงำน

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ต้องกำรใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอย่ำงทว่ั ถึงตำม - แบง่ กลมุ่ คละ จำนวนนักเรยี น ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถของนักเรียน สอ่ื /อปุ กรณ์ - กำหนดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ - เพ่อื ต้องกำรให้ผเู้ รียนเกดิ กำร - เตรยี มชดุ คำถำมใหพ้ ร้อม เหมำะสมกบั เวลำท่กี ำหนด เรียนรตู้ ำมเป้ำหมำยที่กำหนด ตำมลำดบั กิจกรรมกำรเรยี น แหลง่ เรียนรู้/ - มอบหมำยภำระงำนและ - ผู้เรียนนำควำมรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งำนเหมำะสมกบั ประยกุ ต์ใช้กับภำระงำนได้ ควำมช่วยเหลือเมื่อนักเรยี น ควำมสำมำรถผ้เู รียนและ - รบั ฟังควำมคิดเห็น และ มปี ัญหำ สอดคล้องกบั เป้ำหมำยกำร วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์อยำ่ งมีเหตผุ ล - ฝกึ กำรค้นคว้ำหำควำมรู้ เรียนรู้ จำกเพ่ือน และระบบ - ตอ้ งกำรใหน้ ักเรียนได้ปฏิบตั ิ อินเทอรเ์ น็ต - จำนวนใบควำมรู้ ใบงำน กจิ กรรมไดจ้ รงิ ตำมจุดประสงค์ เพื่อแกป้ ญั หำในแบบฝกึ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ เหมำะสม กำรเรียนร้ทู ีก่ ำหนดไว้ ปฏบิ ตั ิ และใบงำน กบั กจิ กรรม และปรมิ ำณ - เตรยี มสื่ออปุ กรณ์ให้พร้อม เพยี งพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งกำรให้นักเรยี นใช้วสั ดุ ก่อนกำรจัดกิจกรรม -ตรวจควำมพร้อมของเครื่อง อปุ กรณ์ทม่ี ีควำมพร้อมใน - มลี ำดับขน้ั ตอนกำรใช้สื่อ คอมพวิ เตอร์กอ่ นเรียน และ หอ้ งปฏบิ ัติกำร มำปฏิบัตกิ ำร และจัดเกบ็ อยำ่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตำมตวั ช้วี ัด - มคี วำมชำนำญในกำรใช้ -เกบ็ เกำ้ อ้นี งั่ ให้เรยี บร้อยหลัง ส่อื อุปกรณ์ เลกิ เรียน เพอื่ ควำมเรยี บร้อย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ตั ิกำร - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ให้พร้อมกอ่ น เหมำะสมกบั กิจกรรมที่ กำรทดลอง กำหนด

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ุ้มกันในตวั ประเดน็ การประเมนิ ผล - จัดทำแบบประเมินผลงำน - ต้องกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ - วำงแผนกำรวดั / และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมำะสมกับเป้ำหมำยกำร ตำมเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด ประเมนิ ผลตำมข้นั ตอนของ เรียนรู้ กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลมีกำร ตรวจสอบควำมเทย่ี งตรงใน กำรวัดตำมตวั ชี้วดั เงื่อนไขความรทู้ ีค่ รตู ้องมีก่อนสอน 3. หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ควำมหมำยคอมพิวเตอร์และสำรสนเทศ 4. จติ วิทยำในกำรสอน 2. กำรใชค้ อมพวิ เตอร์ เงอื่ นไขคณุ ธรรมของครู 3. มีควำมยตุ ิธรรม 1. มีควำมรกั เมตตำศิษย์ 4. ตรงต่อเวลำ 2. มีควำมรับผิดชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยู่อยำ่ งพอเพียงทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียน พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวที่ดี 1. นกั เรียนกำหนดหนำ้ ที่ของสมำชิก 1. นกั เรียนนำขอ้ มลู กำรหำ 1. วำงแผนกำรทำงำนกลุม่ อย่ำง ภำยในกลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั ศักยภำพของ คำตอบมำวเิ ครำะหไ์ ด้อยำ่ ง ละเอียดเปน็ ขั้นตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพอ่ื อธิบำย 2. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์กำรทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วัสดุอุปกรณ์ในกำรทดลอง สรุปเนอื้ หำสำระ ครบถ้วน และตรงตำมกิจกรรมกำร ได้เหมำะสมกบั กจิ กรรมกำรทดของ 2. นักเรยี นสำมำรถนำข้อมูล ทดลอง 3. นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบได้ มำตอบคำถำมได้อยำ่ งถกู ต้อง 3. ศกึ ษำวิธกี ำรทำใบงำนอยำ่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณท์ ี่มี รอบคอบ เง่อื นไขความรู้ 1. ควำมหมำยของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 2. ควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 3. กำรใช้งำนโปรแกรม ภำษำ JavaScript เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. ควำมสำมคั คีในกลุ่ม 2. ควำมรบั ผดิ ชอบ 3. แบ่งปนั และเอ้อื เฟื้อเผ่อื แผ่

ส่งผลต่อความสมดลุ มัน่ คง ย่งั ยืนใน 4 มิติ ดังน้ี ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ยี นแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม - มีควำมร้เู กี่ยวกบั ความรู้ - ควำมรู้ในกำรสบื ค้น - มคี วำมรใู้ นกำรจัดแบง่ - มคี วำมรู้ในกำรดูแล คอมพิวเตอร์ในกำร ประยกุ ต์ใช้ใน ข้อมลู จำกคอมพวิ เตอร์ หนำ้ ทภี่ ำยในกลมุ่ ได้อย่ำง รักษำควำมสะอำดกำร กิจกรรมในท้องถิน่ อยำ่ งถูกต้อง เหมำะสม จดั กำรขยะอยำ่ ง ใช้เทคโนโลยีใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ - มีควำมร้ใู นกำรปฏบิ ัติตน ถูกต้องของ - ตระหนักถึงคุณค่ำ ท่จี ะทำงำนร่วมกับผู้อื่น ห้องปฏิบัตกิ ำร ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มที กั ษะในกำรใชว้ ัสดุ - ทำงำนร่วมกันภำยใน - รักษำควำมสะอำด อปุ กรณ์อย่ำงปลอดภยั กลมุ่ ตำมทไ่ี ดร้ ับมอบหมำย ของห้องปฏบิ ัติกำร และประหยดั จนสำเรจ็ และมคี วำมสุข คอมพวิ เตอร์ในกำร สบื ค้นขอ้ มุล ค่านยิ ม - เหน็ ควำมสำคัญของกำร - มคี วำมรับผดิ ชอบต่อกำร - มีจติ สำนกึ ในกำร ใชว้ สั ดุอปุ กรณใ์ นกำร ทำงำนของกลุ่ม รกั ษำสภำพแวดล้อม สบื ค้นข้อมูลอย่ำงประหยัด - ยอมรบั ควำมคิดเหน็ ซง่ึ ของห้องปฏบิ ตั ิกำร คมุ้ คำ่ กันและกันมีควำมเสียสละ คอมพิวเตอร๋ให้สะอำด อดทน เป็นระเบยี บ 9. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือที่ใช้ เกณฑ์การประเมินผ่าน แบบทดสอบก่อนเรยี น - กำรทดสอบก่อนเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้ แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ไดร้ ะดับ 2 ข้นึ ไป กำรประเมนิ ระหว่ำงเรยี น กำรสงั เกต กำรเรียน ต้งั คำถำมใหค้ รอบคลุม ตอบคำถำมทุกข้อ กำรซักถำม จุดประสงค์ ได้ระดบั 2 ข้ึนไป แบบฝึกหดั และใบงำน กำรทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิ หน่วยที่ 6 ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป แบบทดสอบหลงั เรียน กำรประเมินหลังเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้

10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลกำรใช้แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หำสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 10.1.2 สำมำรถนำไปใชป้ ฏบิ ัติกำรสอนได้ครบตำมกระบวนกำรเรยี นกำรสอน 10.1.3 เวลำที่กำหนดไว้ในแผนกำรสอนมีควำมเหมำะสม 10.2 ผลกำรเรียนรขู้ องนกั เรียน นักศึกษำ 10.2.1 นักศกึ ษำสว่ นใหญม่ ีควำมสนใจใฝร่ ู้ เขำ้ ใจในบทเรยี น อภิปรำยตอบคำถำมในกลุ่ม และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงำนที่ไดร้ บั มอบหมำย 10.2.2 นักศึกษำกระตือรือร้นและรับผิดชอบในกำรทำงำนกลมุ่ เพื่อให้งำนสำเรจ็ ทนั เวลำท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศกึ ษำเลอื กสำมำรถนำควำมรู้ไปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวนั 10.3 แนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพกำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถนำควำมร้ทู ี่ไดจ้ ำกกำรเรยี นรูใ้ นหนว่ ยน้ีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชำชพี ได้อย่ำงเหมำะสม

แผนการจดั การเรียนรมู้ ุ่งเน้นสมรรถนะ หนว่ ยท่ี 7 ชอื่ หน่วย การเรยี กใช้ฟงั กช์ ั่น สอนคร้ังท่ี 7 ช่ัวโมงรวม 3 ชื่อเร่อื ง การเรยี กใชฟ้ งั กช์ ่นั จำนวนช่วั โมง 3 1. สาระสาคญั Functions คือ ชุดคำสั่งท่ีใช้ในกำรทำงำนอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง ซึ่งจะทำงำนเม่ือถูกเรียกใช้งำน JavaScript Syntax ลักษณะของฟังก์ช่ันเป็นดังนี้ function ชื่อฟังกชั่น (อำร์กิวเมนต์) { // คำส่ังต่ำงๆ } -ชื่อฟังก์ช่ัน กำรตั้งช่ือฟังก์ช่ันมีหลักกำรคล้ำยกับกำรตั้งช่ือตัวแปร โดยนิยมเขียนด้วยตัวพิมพ์เล็ก หรือหำกมี หลำยคำอำจขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์เล็ก คำต่อๆไปให้ขึ้นต้นด้วยตัวพิมพ์ใหญ่ก็ได้ เช่น submitForm() , blockInvalidChar( ) เป็นต้น อำร์กิวเมนต์ (argument) หรือพำรำมิเตอร์คือข้อมูลบำงอย่ำงที่ฟังก์ช่ันต้องใช้ ในกำรประมวลผล ซึ่งอำร์กิวเมนต์จะมีหรือไม่มีก็ได้ขึ้นอยู่กับควำมจำเป็น กำรเรียกใช้ฟังก์ช่ัน สำหรับกำร เรยี กใช้ฟงักช์ นั น้นั ใหร้ ะบชุ ื่อฟงั ก์ช่ันพร้อมอำร์กิวเมนต์ (ถำ้ มี) ไว้ ณ จดุ ทตี่ ้องกำรใช้ฟังกช์ ั่น ทง้ั นส้ี ว่ นทเ่ี รียกใช้ ฟังก์ช่ันไม่จำเป็นต้องอย่ใู นแท็ก <script> เดียวกันกับสว่ นทเี่ ขียนฟังก์ชั่น หรือบำงท่ีส่วนที่เรียกใช้ฟังก์ช่ันอำจ อยู่ในแท็กของ HTML ก็ได้ แต่กำรเรียกใช้ฟังก์ช่ันในแท็กของ HTML ส่วนใหญ่จะเกิดจำกกำรตอบสนองต่อ กำรกระทำบำงอย่ำง เชน่ กำรคลิกเมำส์ กำรพมิ อกั ขระ เป็นตน้ 2. สมรรถนะประจาหน่วย เรยี กใช้ฟงั กช์ ่ัน 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ด้ำนควำมรู้ อธบิ ำยลักษณะของฟงั กช์ นั่ ได้ 3.2 ดำ้ นทักษะ นกั เรียนมคี วำมรู้ ทักษะพ้ืนฐำนเกย่ี วกบั การเรียกใชฟ้ ังก์ช่ัน และมีทัศนคตทิ ่ีดี 3.3 คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค์ (อำ้ งอิง จำกค่ำนิยมหลักของคนไทย 12 ประกำร) 3.3.1 เข้ำเรยี นตรงเวลำ 3.3.2 แต่งกำยตำมระเบียบกำรปฏบิ ัตงิ ำน 3.3.3 ผลงำนประณตี เรียบร้อย 3.3.4 ปิดเคร่ืองคอมพวิ เตอรเ์ มอ่ื เลิกใช้งำน 3.3.5 มนี ำ้ ใจชว่ ยเหลือผู้อ่ืนและกำรปฏบิ ัตงิ ำนรว่ มกบั ผู้อ่ืน

4. เน้ือหาสาระการเรียนรู้ 4.1 ลกั ษณะของฟงั กช์ ัน่ 4.2 กำรเรยี กใช้ฟังก์ชนั่ 5. กจิ กรรมการเรียนการสอน ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ กำรวดั ผลประเมินผล ขอ้ ตกลงขณะเรียน และใหน้ ักเรยี นทำ แบบทดสอบก่อนเรียน 5.1 ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรียน 5.1.1 ผู้สอนจดั เตรยี มเอกสำร พร้อมกับแนะนำรำยวชิ ำ วิธีกำรให้คะแนนและวิธกี ำรเรียนเรื่อง กำรเรียกใช้ฟังก์ชนั่ 5.1.2 ผสู้ อนแจ้งจุดประสงค์กำรเรียนของหนว่ ยท่ี 7 และขอใหผ้ เู้ รียนร่วมกนั ทำกิจกรรมกำร เรียนกำรสอน 5.1.3 ผู้สอนใหผ้ ูเ้ รียนแสดงควำมรู้ โดยต้งั คำถำมว่ำ กำรเรียกใชฟ้ ังก์ช่นั นกั เรียนรู้จกั ภำษำทใี่ ช้ เขยี นโปรแกรมภำษำอะไรบ้ำงพร้อมใหเ้ หตุผลประกอบ 5.2 ข้นั สอน 5.2.1 ผสู้ อนทดสอบควำมร้คู วำมเขำ้ ใจเก่ียวกบั ควำมร้เู บ้ืองตน้ เก่ยี วกบั กำรเรียกใช้ฟงั กช์ ั่น โดย ใหผ้ เู้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 5.2.2 ผสู้ อนอธบิ ำยเนือ้ หำเก่ียวกบั บทเรียนวิชำจำวำสคริปต์เบ้อื งตน้ หน่วยที่ 7 เรื่องการเรียกใช้ ฟังก์ช่นั และให้ผเู้ รียนศึกษำเอกสำรประกอบกำรสอน หน่วยท่ี 7 5.2.3 ผ้สู อนและผู้เรียนร่วมกันอธิบำยพร้อมยกตวั อย่ำงถึงแนวคิดในกำรพฒั นำโปรแกรมตำมท่ี ได้ศึกษำจำกเว็บไซต์ https://www.w3schools.com/js/default.asp 5.3 ขนั้ ประกอบกิจกรรมการเรียน 5.3.1 ผูส้ อนใหผ้ ู้เรยี นทำแบบฝกึ หัดท้ำยหนว่ ยท่ี 7 5.3.2 ผูส้ อนให้ผ้เู รียนแบง่ กลุ่ม ๆ ละเทำ่ ๆ กนั ทำกำรศึกษำเรื่อง กำรเรียกใชฟ้ ังก์ช่ัน 5.4 กลยทุ ธใ์ นการจัดการเรียนรู้ 5.4.1 ครใู ห้เพ่ือนช่วยเพอื่ น ใหน้ กั เรยี นกลมุ่ เกง่ และปำนกลำง อยู่กบั กลมุ่ นกั เรยี นท่ีเรยี นอ่อน ชว่ ยกันทำควำมเข้ำใจในเนื้อหำ 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใช้เครอื่ งมือบนอินเทอร์เนต็ http://www.linoit.com สอบถำมนักเรียนว่ำ นกั เรียนอยำกได้ห้องเรยี นอยำ่ งไรเรียนแล้วมคี วำมสุข แสดงควำมคิดเห็นแตล่ ะคน เพื่อ เปน็ กำรกระตุ้นเตรียมควำมพรอ้ มในกำรเรียน 5.5 ขัน้ สรุป 5.5.1 ผู้สอนและผู้เรียนรว่ มกันสรปุ เน้อื หำที่ไดเ้ รยี นใหม้ ีควำมเข้ำใจในทิศทำงเดยี วกนั 5.5.2 ผูส้ อนใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษำเพิ่มเติมนอกหอ้ งเรยี น จำก https://www.w3schools.com/js/default.asp ท่ีจัดทำข้นึ

5.6 ข้ันทดสอบหลงั เรียน นกั เรียนทำใบงำนท่ี 7 และแบบทดสอบหลงั เรียน 6. ส่อื การเรียนร/ู้ แหลง่ การเรยี นรู้ 6.1 สือ่ สิ่งพิมพ์ 6.1.1 เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำจำวำสครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ 6.1.2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เร่อื ง กำรเรยี กใชฟ้ ังก์ชัน่ 6.1.3 แบบทดสอบหลงั เรียน เร่ือง กำรเรียกใช้ฟังกช์ ัน่ 6.2 สื่อโสตทัศน์ 6.2.1 Powerpoint เรื่อง กำรเรยี กใช้ฟังกช์ น่ั 6.2.2 เครอื่ งฉำยโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์แบบพกพำ (Notebook) 6.3 อนื่ ๆ (โปรดระบุ)

7. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอ่นื 7.1 กำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำ S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • กำรค้นหำขอ้ มูล • ใช้อินเทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีกำรค้นหำขอ้ มูลใน 6 • คำนวณเวลำในกำร คดั เลือกหรือคัด ข้อมลู ขน้ั ตอน สืบคน้ ข้อมูล แยกข้อมลู ในส่งิ • ใช้เทคโนโลยี • กำรกำหนดหัวขอ้ ต่ำงๆที่อยรู่ อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณำ • กำรเลือกแหลง่ ขอ้ มูล เรำ ผลติ ภัณฑอ์ ำหำร • กำรเตรยี มอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยีในกำร • กำรค้นหำและรวบรวม นำเสนอผลงำน ข้อมลู • กำรพิจำรณำ • กำรสรุปผล

8. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่กู ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใชห้ ลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - เนื้อหำสอดคล้องกับ - ต้องกำรให้ผเู้ รยี นรเู้ รื่องจำวำ - สรุปเนอ้ื หำให้อำ่ นเขำ้ ใจ เนื้อหา ง่ำยมีภำพประกอบเน้ือหำ - แนวคิดในกำร สมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด เหมำะสม สครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ - เรียงเน้อื หำตำมลำดบั กำร พฒั นำโปรแกรม เรียนรู้ กบั เวลำท่กี ำหนดและวยั - จดั กำรเรียนรู้ได้ครบถว้ น เวลา ตำมที่ออกแบบไว้ 4 ชั่วโมง ของผ้เู รยี น - กำหนดเวลำในแต่ละ กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เล็กน้อย การจดั กิจกรรม - กำหนดเวลำในแตล่ ะ - จดั กำรเรยี นรไู้ ด้ครบถว้ น เพือ่ รองรบั กำรเปล่ยี นแปลง ท่ีอำจเกิดระหวำ่ งจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั กิจกรรม ตำมท่ีออกแบบไว้ กิจกรรม - แบ่งกลมุ่ คละ และวัยของผู้เรยี น ควำมสำมำรถของนกั เรียน - เตรยี มชุดคำถำมให้พร้อม - แบง่ กลุ่มผูเ้ รยี นให้พอดีกับ - ต้องกำรให้ผู้เรยี นปฏิบัติ ตำมลำดับกิจกรรมกำรเรียน จำนวนนกั เรยี น กิจกรรมอยำ่ งทว่ั ถึงตำม - สังเกตพฤติกรรมและให้ - กำหนดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ควำมสำมำรถ ควำมชว่ ยเหลือเม่ือนักเรยี น เหมำะสมกับเวลำท่กี ำหนด - เพ่ือต้องกำรใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดกำร มปี ญั หำ - มอบหมำยภำระงำนและ เรียนรตู้ ำมเปำ้ หมำยทีก่ ำหนด - ฝึกกำรคน้ ควำ้ หำควำมรู้ ชนิ้ งำนเหมำะสมกบั - ผ้เู รียนนำควำมร้ไู ป จำกเพ่ือน และระบบ ควำมสำมำรถผู้เรยี นและ ประยุกตใ์ ช้กบั ภำระงำนได้ อินเทอร์เน็ต สอดคล้องกับเปำ้ หมำยกำร - รบั ฟังควำมคดิ เห็น และ เพือ่ แก้ปญั หำในแบบฝกึ เรยี นรู้ วิเครำะห์ วจิ ำรณอ์ ย่ำงมีเหตุผล ปฏิบัติ และใบงำน

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ต้องกำรใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอย่ำงทว่ั ถึงตำม - แบง่ กลมุ่ คละ จำนวนนักเรยี น ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถของนักเรียน สอ่ื /อปุ กรณ์ - กำหนดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ - เพ่อื ต้องกำรให้ผเู้ รียนเกดิ กำร - เตรยี มชดุ คำถำมใหพ้ ร้อม เหมำะสมกบั เวลำท่กี ำหนด เรียนรตู้ ำมเป้ำหมำยที่กำหนด ตำมลำดบั กิจกรรมกำรเรยี น แหลง่ เรียนรู้/ - มอบหมำยภำระงำนและ - ผู้เรียนนำควำมรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งำนเหมำะสมกบั ประยกุ ต์ใช้กับภำระงำนได้ ควำมช่วยเหลือเมื่อนักเรยี น ควำมสำมำรถผ้เู รียนและ - รบั ฟังควำมคิดเห็น และ มปี ัญหำ สอดคล้องกบั เป้ำหมำยกำร วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์อยำ่ งมีเหตผุ ล - ฝกึ กำรค้นคว้ำหำควำมรู้ เรียนรู้ จำกเพ่ือน และระบบ - ตอ้ งกำรใหน้ ักเรียนได้ปฏิบตั ิ อินเทอรเ์ น็ต - จำนวนใบควำมรู้ ใบงำน กจิ กรรมไดจ้ รงิ ตำมจุดประสงค์ เพื่อแกป้ ญั หำในแบบฝกึ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ เหมำะสม กำรเรียนร้ทู ีก่ ำหนดไว้ ปฏบิ ตั ิ และใบงำน กบั กจิ กรรม และปรมิ ำณ - เตรยี มสื่ออปุ กรณ์ให้พร้อม เพยี งพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งกำรให้นักเรยี นใช้วสั ดุ ก่อนกำรจัดกิจกรรม -ตรวจควำมพร้อมของเครื่อง อปุ กรณ์ทม่ี ีควำมพร้อมใน - มลี ำดับขน้ั ตอนกำรใช้สื่อ คอมพวิ เตอร์กอ่ นเรียน และ หอ้ งปฏบิ ัติกำร มำปฏิบัตกิ ำร และจัดเกบ็ อยำ่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตำมตวั ช้วี ัด - มคี วำมชำนำญในกำรใช้ -เกบ็ เกำ้ อ้นี งั่ ให้เรยี บร้อยหลัง ส่อื อุปกรณ์ เลกิ เรียน เพอื่ ควำมเรยี บร้อย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ตั ิกำร - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ให้พร้อมกอ่ น เหมำะสมกบั กิจกรรมที่ กำรทดลอง กำหนด

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ุ้มกันในตวั ประเดน็ การประเมนิ ผล - จัดทำแบบประเมินผลงำน - ต้องกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ - วำงแผนกำรวดั / และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมำะสมกับเป้ำหมำยกำร ตำมเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด ประเมนิ ผลตำมข้นั ตอนของ เรียนรู้ กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลมีกำร ตรวจสอบควำมเทย่ี งตรงใน กำรวัดตำมตวั ชี้วดั เงื่อนไขความรทู้ ีค่ รตู ้องมีก่อนสอน 3. หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ควำมหมำยคอมพิวเตอร์และสำรสนเทศ 4. จติ วิทยำในกำรสอน 2. กำรใชค้ อมพวิ เตอร์ เงอื่ นไขคณุ ธรรมของครู 3. มีควำมยตุ ิธรรม 1. มีควำมรกั เมตตำศิษย์ 4. ตรงต่อเวลำ 2. มีควำมรับผิดชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยู่อยำ่ งพอเพียงทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียน พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวที่ดี 1. นกั เรียนกำหนดหนำ้ ที่ของสมำชิก 1. นกั เรียนนำขอ้ มลู กำรหำ 1. วำงแผนกำรทำงำนกลุม่ อย่ำง ภำยในกลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั ศักยภำพของ คำตอบมำวเิ ครำะหไ์ ด้อยำ่ ง ละเอียดเปน็ ขั้นตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพอ่ื อธิบำย 2. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์กำรทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วัสดุอุปกรณ์ในกำรทดลอง สรุปเนอื้ หำสำระ ครบถ้วน และตรงตำมกิจกรรมกำร ได้เหมำะสมกบั กจิ กรรมกำรทดของ 2. นักเรยี นสำมำรถนำข้อมูล ทดลอง 3. นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบได้ มำตอบคำถำมได้อยำ่ งถกู ต้อง 3. ศกึ ษำวิธกี ำรทำใบงำนอยำ่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณท์ ี่มี รอบคอบ เง่อื นไขความรู้ 1. ควำมหมำยของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 2. ควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 3. กำรใช้งำนโปรแกรม ภำษำ JavaScript เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. ควำมสำมคั คีในกลุ่ม 2. ควำมรบั ผดิ ชอบ 3. แบ่งปนั และเอ้อื เฟื้อเผ่อื แผ่

ส่งผลต่อความสมดลุ มัน่ คง ย่งั ยืนใน 4 มิติ ดังน้ี ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ยี นแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม - มีควำมร้เู กี่ยวกบั ความรู้ - ควำมรู้ในกำรสบื ค้น - มคี วำมรใู้ นกำรจัดแบง่ - มคี วำมรู้ในกำรดูแล คอมพิวเตอร์ในกำร ประยกุ ต์ใช้ใน ข้อมลู จำกคอมพวิ เตอร์ หนำ้ ทภี่ ำยในกลมุ่ ได้อย่ำง รักษำควำมสะอำดกำร กิจกรรมในท้องถิน่ อยำ่ งถูกต้อง เหมำะสม จดั กำรขยะอยำ่ ง ใช้เทคโนโลยีใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ - มีควำมร้ใู นกำรปฏบิ ัติตน ถูกต้องของ - ตระหนักถึงคุณค่ำ ท่จี ะทำงำนร่วมกับผู้อื่น ห้องปฏิบัตกิ ำร ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มที กั ษะในกำรใชว้ ัสดุ - ทำงำนร่วมกันภำยใน - รักษำควำมสะอำด อปุ กรณ์อย่ำงปลอดภยั กลมุ่ ตำมทไ่ี ดร้ ับมอบหมำย ของห้องปฏบิ ัติกำร และประหยดั จนสำเรจ็ และมคี วำมสุข คอมพวิ เตอร์ในกำร สบื ค้นขอ้ มุล ค่านยิ ม - เหน็ ควำมสำคัญของกำร - มคี วำมรับผดิ ชอบต่อกำร - มีจติ สำนกึ ในกำร ใชว้ สั ดุอปุ กรณใ์ นกำร ทำงำนของกลุ่ม รกั ษำสภำพแวดล้อม สบื ค้นข้อมูลอย่ำงประหยัด - ยอมรบั ควำมคิดเหน็ ซง่ึ ของห้องปฏบิ ตั ิกำร คมุ้ คำ่ กันและกันมีควำมเสียสละ คอมพิวเตอร๋ให้สะอำด อดทน เป็นระเบยี บ 9. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือที่ใช้ เกณฑ์การประเมินผ่าน แบบทดสอบก่อนเรยี น - กำรทดสอบก่อนเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้ แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ไดร้ ะดับ 2 ข้นึ ไป กำรประเมนิ ระหว่ำงเรยี น กำรสงั เกต กำรเรียน ต้งั คำถำมใหค้ รอบคลุม ตอบคำถำมทุกข้อ กำรซักถำม จุดประสงค์ ได้ระดบั 2 ข้ึนไป แบบฝึกหดั และใบงำน กำรทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิ หน่วยที่ 7 ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป แบบทดสอบหลงั เรียน กำรประเมินหลังเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้

10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลกำรใช้แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หำสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 10.1.2 สำมำรถนำไปใชป้ ฏบิ ัติกำรสอนได้ครบตำมกระบวนกำรเรยี นกำรสอน 10.1.3 เวลำที่กำหนดไว้ในแผนกำรสอนมีควำมเหมำะสม 10.2 ผลกำรเรียนรขู้ องนกั เรียน นักศึกษำ 10.2.1 นักศกึ ษำสว่ นใหญม่ ีควำมสนใจใฝร่ ู้ เขำ้ ใจในบทเรยี น อภิปรำยตอบคำถำมในกลุ่ม และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงำนที่ไดร้ บั มอบหมำย 10.2.2 นักศึกษำกระตือรือร้นและรับผิดชอบในกำรทำงำนกลมุ่ เพื่อให้งำนสำเรจ็ ทนั เวลำท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศกึ ษำเลอื กสำมำรถนำควำมรู้ไปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวนั 10.3 แนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพกำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถนำควำมร้ทู ี่ไดจ้ ำกกำรเรยี นรูใ้ นหนว่ ยน้ีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชำชพี ได้อย่ำงเหมำะสม

แผนการจัดการเรียนรู้ม่งุ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 8 ชือ่ หน่วย เครอ่ื งหมายทใ่ี ช้ในการคานวณทางคณติ สอนครงั้ ที่ 8 ช่วั โมงรวม 3 ชือ่ เรือ่ ง เคร่ืองหมายทใ่ี ช้ในการคานวณทางคณิต จำนวนช่วั โมง 3 1. สาระสาคญั โอเปอเรเตอร์เป็นเคร่ืองหมำยในกำรดำเนินกำรกับจำนวน 2 หรือมำกกว่ำ ซ่ึงแบ่งออกเป็นหลำย ชนิด เช่นโอเปเรเตอรท์ ำงดำ้ นคณิตศำสตร์,ตรรกกะ,กำรเปรยี บเทยี บ 2. สมรรถนะประจาหน่วย ใชเ้ ครือ่ งหมำยในกำรคำนวณทำงคณิต 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 3.1 ดำ้ นควำมรู้ ใช้เคร่ืองหมำยในกำรคำนวณทำงคณิตได้ 3.2 ด้ำนทักษะ นักเรียนมคี วำมรู้ ทักษะพื้นฐำนเกย่ี วกบั เคร่ืองหมายท่ใี ช้ในการคานวณทางคณติ และมี ทศั นคติทีด่ ี 3.3 คุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ (อำ้ งอิง จำกคำ่ นยิ มหลักของคนไทย 12 ประกำร) 3.3.1 เขำ้ เรยี นตรงเวลำ 3.3.2 แตง่ กำยตำมระเบยี บกำรปฏบิ ัติงำน 3.3.3 ผลงำนประณตี เรยี บร้อย 3.3.4 ปิดเครื่องคอมพวิ เตอรเ์ ม่ือเลกิ ใช้งำน 3.3.5 มีน้ำใจช่วยเหลือผอู้ ่นื และกำรปฏบิ ตั ิงำนรว่ มกับผ้อู ่ืน 4. เนื้อหาสาระการเรียนรู้ 4.1 โอเปอเรเตอร์สำหรับกำรคำนวณ Arithmetic Operators 4.2 โอเปอเรเตอรส์ ำหรบั กำรกำหนดคำ่ Assignment Operators 5. กิจกรรมการเรยี นการสอน ครูแจ้งจุดประสงค์กำรเรียนรู้ กำรวัดผลประเมนิ ผล ข้อตกลงขณะเรยี น และให้นักเรยี นทำ แบบทดสอบก่อนเรียน

5.1 ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน 5.1.1 ผสู้ อนจัดเตรยี มเอกสำร พร้อมกับแนะนำรำยวิชำ วธิ ีกำรใหค้ ะแนนและวธิ กี ำรเรียนเรือ่ ง เครอ่ื งหมำยท่ีใชใ้ นกำรคำนวณทำงคณติ 5.1.2 ผู้สอนแจ้งจุดประสงค์กำรเรียนของหนว่ ยท่ี 8 และขอให้ผู้เรยี นร่วมกนั ทำกจิ กรรมกำร เรยี นกำรสอน 5.1.3 ผสู้ อนใหผ้ ้เู รยี นแสดงควำมรู้ โดยต้ังคำถำมว่ำ เคร่ืองหมำยทใ่ี ชใ้ นกำรคำนวณทำงคณติ นกั เรียนรู้จกั ภำษำท่ีใช้เขยี นโปรแกรมภำษำอะไรบ้ำงพร้อมให้เหตผุ ลประกอบ 5.2 ขน้ั สอน 5.2.1 ผสู้ อนทดสอบควำมร้คู วำมเข้ำใจเกยี่ วกับควำมรู้เบื้องตน้ เก่ียวกับเครอ่ื งหมำยท่ใี ช้ในกำร คำนวณทำงคณิต โดยใหผ้ ู้เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 5.2.2 ผู้สอนอธบิ ำยเนอื้ หำเกี่ยวกับบทเรียนวชิ ำจำวำสคริปตเ์ บอื้ งตน้ หน่วยที่ 8 เรอ่ื ง เคร่อื งหมายท่ใี ชใ้ นการคานวณทางคณิต และใหผ้ ู้เรยี นศึกษำเอกสำรประกอบกำรสอน หนว่ ยที่ 8 5.2.3 ผูส้ อนและผูเ้ รียนรว่ มกันอธบิ ำยพร้อมยกตวั อยำ่ งถึงแนวคิดในกำรพัฒนำโปรแกรมตำมท่ี ไดศ้ ึกษำจำกเวบ็ ไซต์ https://www.w3schools.com/js/default.asp 5.3 ขัน้ ประกอบกิจกรรมการเรียน 5.3.1 ผู้สอนให้ผ้เู รยี นทำแบบฝึกหดั ท้ำยหนว่ ยท่ี 8 5.3.2 ผสู้ อนให้ผู้เรียนแบง่ กลุ่ม ๆ ละเท่ำ ๆ กนั ทำกำรศกึ ษำเรอ่ื ง เครื่องหมำยทใี่ ช้ในกำรคำนวณ ทำงคณิต 5.4 กลยทุ ธ์ในการจัดการเรยี นรู้ 5.4.1 ครูให้เพ่ือนช่วยเพ่ือน ใหน้ ักเรียนกลมุ่ เกง่ และปำนกลำง อยกู่ ับกลมุ่ นกั เรยี นทเ่ี รยี นออ่ น ชว่ ยกันทำควำมเข้ำใจในเน้ือหำ 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใชเ้ คร่อื งมอื บนอินเทอร์เน็ต http://www.linoit.com สอบถำมนักเรยี นวำ่ นักเรยี นอยำกได้ห้องเรยี นอยำ่ งไรเรียนแลว้ มคี วำมสขุ แสดงควำมคิดเห็นแตล่ ะคน เพอ่ื เป็นกำรกระตุ้นเตรยี มควำมพร้อมในกำรเรยี น 5.5 ขั้นสรุป 5.5.1 ผสู้ อนและผเู้ รยี นร่วมกันสรปุ เน้ือหำทีไ่ ดเ้ รยี นให้มีควำมเข้ำใจในทิศทำงเดียวกนั 5.5.2 ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนศึกษำเพมิ่ เตมิ นอกหอ้ งเรยี น จำก https://www.w3schools.com/js/default.asp ทจ่ี ดั ทำขึ้น 5.6 ขน้ั ทดสอบหลงั เรียน นกั เรียนทำใบงำนท่ี 8 และแบบทดสอบหลังเรยี น

6. สื่อการเรียนร/ู้ แหลง่ การเรียนรู้ 6.1 สือ่ ส่ิงพมิ พ์ 6.1.1 เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำจำวำสครปิ ตเ์ บื้องต้น 6.1.2 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอ่ื ง เครื่องหมำยท่ีใชใ้ นกำรคำนวณทำงคณติ 6.1.3 แบบทดสอบหลงั เรยี น เรือ่ ง เคร่ืองหมำยทใี่ ชใ้ นกำรคำนวณทำงคณติ 6.2 สอ่ื โสตทศั น์ 6.2.1 Powerpoint เรื่อง เครื่องหมำยทีใ่ ชใ้ นกำรคำนวณทำงคณติ 6.2.2 เครอ่ื งฉำยโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เครอื่ งคอมพวิ เตอร์แบบพกพำ (Notebook) 6.3 อืน่ ๆ (โปรดระบ)ุ

7. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอ่นื 7.1 กำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำ S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • กำรค้นหำขอ้ มูล • ใช้อินเทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีกำรค้นหำขอ้ มูลใน 6 • คำนวณเวลำในกำร คดั เลือกหรือคัด ข้อมลู ขน้ั ตอน สืบคน้ ข้อมูล แยกข้อมลู ในส่งิ • ใช้เทคโนโลยี • กำรกำหนดหัวขอ้ ต่ำงๆที่อยรู่ อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณำ • กำรเลือกแหลง่ ขอ้ มูล เรำ ผลติ ภัณฑอ์ ำหำร • กำรเตรยี มอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยีในกำร • กำรค้นหำและรวบรวม นำเสนอผลงำน ข้อมลู • กำรพิจำรณำ • กำรสรุปผล

8. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่กู ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใชห้ ลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - เนื้อหำสอดคล้องกับ - ต้องกำรให้ผเู้ รยี นรเู้ รื่องจำวำ - สรุปเนอ้ื หำให้อำ่ นเขำ้ ใจ เนื้อหา ง่ำยมีภำพประกอบเน้ือหำ - แนวคิดในกำร สมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด เหมำะสม สครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ - เรียงเน้อื หำตำมลำดบั กำร พฒั นำโปรแกรม เรียนรู้ กบั เวลำท่กี ำหนดและวยั - จดั กำรเรียนรู้ได้ครบถว้ น เวลา ตำมที่ออกแบบไว้ 4 ชั่วโมง ของผ้เู รยี น - กำหนดเวลำในแต่ละ กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เล็กน้อย การจดั กิจกรรม - กำหนดเวลำในแตล่ ะ - จดั กำรเรยี นรไู้ ด้ครบถว้ น เพือ่ รองรบั กำรเปล่ยี นแปลง ท่ีอำจเกิดระหวำ่ งจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั กิจกรรม ตำมท่ีออกแบบไว้ กิจกรรม - แบ่งกลมุ่ คละ และวัยของผู้เรยี น ควำมสำมำรถของนกั เรียน - เตรยี มชุดคำถำมให้พร้อม - แบง่ กลุ่มผูเ้ รยี นให้พอดีกับ - ต้องกำรให้ผู้เรยี นปฏิบัติ ตำมลำดับกิจกรรมกำรเรียน จำนวนนกั เรยี น กิจกรรมอยำ่ งทว่ั ถึงตำม - สังเกตพฤติกรรมและให้ - กำหนดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ควำมสำมำรถ ควำมชว่ ยเหลือเม่ือนักเรยี น เหมำะสมกับเวลำท่กี ำหนด - เพ่ือต้องกำรใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดกำร มปี ญั หำ - มอบหมำยภำระงำนและ เรียนรตู้ ำมเปำ้ หมำยทีก่ ำหนด - ฝึกกำรคน้ ควำ้ หำควำมรู้ ชนิ้ งำนเหมำะสมกบั - ผ้เู รียนนำควำมร้ไู ป จำกเพ่ือน และระบบ ควำมสำมำรถผู้เรยี นและ ประยุกตใ์ ช้กบั ภำระงำนได้ อินเทอร์เน็ต สอดคล้องกับเปำ้ หมำยกำร - รบั ฟังควำมคดิ เห็น และ เพือ่ แก้ปญั หำในแบบฝกึ เรยี นรู้ วิเครำะห์ วจิ ำรณอ์ ย่ำงมีเหตุผล ปฏิบัติ และใบงำน

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ต้องกำรใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอย่ำงทว่ั ถึงตำม - แบง่ กลมุ่ คละ จำนวนนักเรยี น ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถของนักเรียน สอ่ื /อปุ กรณ์ - กำหนดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ - เพ่อื ต้องกำรให้ผเู้ รียนเกดิ กำร - เตรยี มชดุ คำถำมใหพ้ ร้อม เหมำะสมกบั เวลำท่กี ำหนด เรียนรตู้ ำมเป้ำหมำยที่กำหนด ตำมลำดบั กิจกรรมกำรเรยี น แหลง่ เรียนรู้/ - มอบหมำยภำระงำนและ - ผู้เรียนนำควำมรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งำนเหมำะสมกบั ประยกุ ต์ใช้กับภำระงำนได้ ควำมช่วยเหลอื เมื่อนักเรยี น ควำมสำมำรถผ้เู รียนและ - รบั ฟังควำมคิดเห็น และ มปี ัญหำ สอดคล้องกบั เป้ำหมำยกำร วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์อยำ่ งมีเหตผุ ล - ฝกึ กำรค้นคว้ำหำควำมรู้ เรียนรู้ จำกเพ่ือน และระบบ - ตอ้ งกำรใหน้ ักเรียนได้ปฏิบตั ิ อินเทอรเ์ น็ต - จำนวนใบควำมรู้ ใบงำน กจิ กรรมไดจ้ รงิ ตำมจุดประสงค์ เพื่อแกป้ ญั หำในแบบฝกึ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ เหมำะสม กำรเรียนร้ทู ีก่ ำหนดไว้ ปฏบิ ตั ิ และใบงำน กบั กจิ กรรม และปรมิ ำณ - เตรยี มสื่ออปุ กรณ์ให้พร้อม เพยี งพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งกำรให้นักเรยี นใช้วสั ดุ ก่อนกำรจัดกิจกรรม -ตรวจควำมพร้อมของเครื่อง อปุ กรณ์ทม่ี ีควำมพร้อมใน - มลี ำดับขน้ั ตอนกำรใช้สื่อ คอมพวิ เตอร์กอ่ นเรียน และ หอ้ งปฏบิ ัติกำร มำปฏิบัตกิ ำร และจัดเกบ็ อยำ่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตำมตวั ช้วี ัด - มคี วำมชำนำญในกำรใช้ -เกบ็ เกำ้ อ้นี งั่ ให้เรยี บร้อยหลัง ส่อื อุปกรณ์ เลกิ เรียน เพอื่ ควำมเรยี บร้อย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ตั ิกำร - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ใหพ้ ร้อมกอ่ น เหมำะสมกบั กิจกรรมที่ กำรทดลอง กำหนด

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ุ้มกันในตวั ประเดน็ การประเมนิ ผล - จัดทำแบบประเมินผลงำน - ต้องกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ - วำงแผนกำรวดั / และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมำะสมกับเป้ำหมำยกำร ตำมเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด ประเมนิ ผลตำมข้นั ตอนของ เรียนรู้ กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลมีกำร ตรวจสอบควำมเทย่ี งตรงใน กำรวัดตำมตวั ชี้วดั เงื่อนไขความรทู้ ีค่ รตู ้องมีก่อนสอน 3. หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ควำมหมำยคอมพิวเตอร์และสำรสนเทศ 4. จติ วิทยำในกำรสอน 2. กำรใชค้ อมพวิ เตอร์ เงอื่ นไขคณุ ธรรมของครู 3. มีควำมยตุ ิธรรม 1. มีควำมรกั เมตตำศิษย์ 4. ตรงต่อเวลำ 2. มีควำมรับผิดชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยู่อยำ่ งพอเพียงทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียน พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวที่ดี 1. นกั เรียนกำหนดหนำ้ ที่ของสมำชิก 1. นกั เรียนนำขอ้ มลู กำรหำ 1. วำงแผนกำรทำงำนกลุม่ อย่ำง ภำยในกลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั ศักยภำพของ คำตอบมำวเิ ครำะหไ์ ด้อยำ่ ง ละเอียดเปน็ ขั้นตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพอ่ื อธิบำย 2. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์กำรทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วัสดุอุปกรณ์ในกำรทดลอง สรุปเนอื้ หำสำระ ครบถ้วน และตรงตำมกิจกรรมกำร ได้เหมำะสมกบั กจิ กรรมกำรทดของ 2. นักเรยี นสำมำรถนำข้อมูล ทดลอง 3. นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบได้ มำตอบคำถำมได้อยำ่ งถกู ต้อง 3. ศกึ ษำวิธกี ำรทำใบงำนอยำ่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณท์ ี่มี รอบคอบ เง่อื นไขความรู้ 1. ควำมหมำยของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 2. ควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 3. กำรใช้งำนโปรแกรม ภำษำ JavaScript เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. ควำมสำมคั คีในกลุ่ม 2. ควำมรบั ผดิ ชอบ 3. แบ่งปนั และเอ้อื เฟื้อเผ่อื แผ่

ส่งผลต่อความสมดลุ มัน่ คง ย่งั ยืนใน 4 มิติ ดังน้ี ด้าน สมดลุ และพร้อมรบั การเปล่ยี นแปลงในดา้ นต่างๆ องคป์ ระกอบ วตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม - มีควำมร้เู กี่ยวกบั ความรู้ - ควำมรู้ในกำรสบื ค้น - มคี วำมรใู้ นกำรจัดแบง่ - มคี วำมรู้ในกำรดูแล คอมพิวเตอร์ในกำร ประยกุ ต์ใช้ใน ข้อมลู จำกคอมพวิ เตอร์ หนำ้ ทภี่ ำยในกลมุ่ ได้อย่ำง รักษำควำมสะอำดกำร กิจกรรมในท้องถิน่ อยำ่ งถูกต้อง เหมำะสม จดั กำรขยะอยำ่ ง ใช้เทคโนโลยีใน ชวี ติ ประจำวนั ได้ - มีควำมร้ใู นกำรปฏบิ ัติตน ถูกต้องของ - ตระหนักถึงคุณค่ำ ท่จี ะทำงำนร่วมกับผู้อื่น ห้องปฏิบัตกิ ำร ของเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์ ทักษะ - มที กั ษะในกำรใชว้ ัสดุ - ทำงำนร่วมกันภำยใน - รักษำควำมสะอำด อปุ กรณ์อย่ำงปลอดภยั กลมุ่ ตำมทไ่ี ดร้ ับมอบหมำย ของห้องปฏบิ ัติกำร และประหยดั จนสำเรจ็ และมคี วำมสุข คอมพวิ เตอร์ในกำร สบื ค้นขอ้ มุล ค่านยิ ม - เหน็ ควำมสำคัญของกำร - มคี วำมรับผดิ ชอบต่อกำร - มีจติ สำนกึ ในกำร ใชว้ สั ดุอปุ กรณใ์ นกำร ทำงำนของกลุ่ม รกั ษำสภำพแวดล้อม สบื ค้นข้อมูลอย่ำงประหยัด - ยอมรบั ควำมคิดเหน็ ซง่ึ ของห้องปฏบิ ตั ิกำร คมุ้ คำ่ กันและกันมีควำมเสียสละ คอมพิวเตอร๋ให้สะอำด อดทน เป็นระเบยี บ 9. การวัดและประเมินผล รายการประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือที่ใช้ เกณฑ์การประเมินผ่าน แบบทดสอบก่อนเรยี น - กำรทดสอบก่อนเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้ แบบประเมนิ พฤตกิ รรม ไดร้ ะดับ 2 ข้นึ ไป กำรประเมนิ ระหว่ำงเรยี น กำรสงั เกต กำรเรียน ต้งั คำถำมใหค้ รอบคลุม ตอบคำถำมทุกข้อ กำรซักถำม จุดประสงค์ ได้ระดบั 2 ข้ึนไป แบบฝึกหดั และใบงำน กำรทำแบบฝึกปฏบิ ตั ิ หน่วยที่ 8 ตอบถูก 8 ข้อขน้ึ ไป แบบทดสอบหลงั เรียน กำรประเมินหลังเรียน กำรทดสอบ จำนวน 10 ขอ้

10. บันทกึ หลงั สอน 10.1 ผลกำรใช้แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ 10.1.1 เนอื้ หำสอดคลอ้ งกบั จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม 10.1.2 สำมำรถนำไปใชป้ ฏบิ ัติกำรสอนได้ครบตำมกระบวนกำรเรยี นกำรสอน 10.1.3 เวลำที่กำหนดไว้ในแผนกำรสอนมีควำมเหมำะสม 10.2 ผลกำรเรียนรขู้ องนกั เรียน นักศึกษำ 10.2.1 นักศกึ ษำสว่ นใหญม่ ีควำมสนใจใฝร่ ู้ เขำ้ ใจในบทเรยี น อภิปรำยตอบคำถำมในกลุ่ม และ ร่วมกนั ปฏิบตั ิใบงำนที่ไดร้ บั มอบหมำย 10.2.2 นักศึกษำกระตือรือร้นและรับผิดชอบในกำรทำงำนกลมุ่ เพื่อให้งำนสำเรจ็ ทนั เวลำท่ี กำหนด 10.2.3 นกั ศกึ ษำเลอื กสำมำรถนำควำมรู้ไปใชไ้ ด้จริงในชวี ิตประจำวนั 10.3 แนวทำงกำรพัฒนำคุณภำพกำรเรียนรู้ นกั เรยี นสำมำรถนำควำมร้ทู ี่ไดจ้ ำกกำรเรยี นรูใ้ นหนว่ ยน้ีไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ติ ประจำวนั และ เชือ่ มโยงกบั วิชำชพี ได้อย่ำงเหมำะสม

แผนการจัดการเรยี นรู้มุ่งเน้นสมรรถนะ หน่วยท่ี 9 ช่อื หน่วย การเปรยี บเทยี บหาคา่ ความจรงิ สอนคร้งั ท่ี 9 ช่วั โมงรวม 3 ชอ่ื เรอ่ื ง การเปรียบเทยี บหาค่าความจรงิ จำนวนชวั่ โมง 3 1. สาระสาคญั โอเปอเรเตอร์สำหรบั กำรเปรียบเทียบ Comparision Operators ใช้ในกำรเปรียบเทียบหำค่ำควำม จรงิ ระหว่ำง 2 นิพจน์ โดยผลลัพธท์ ไี่ ด้จะเป็นได้เพียงค่ำ True หรือ false 2. สมรรถนะประจาหนว่ ย เปรียบเทยี บหำคำ่ ควำมจรงิ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 3.1 ดำ้ นควำมรู้ เปรยี บเทียบหำค่ำควำมจรงิ ได้ 3.2 ด้ำนทกั ษะ นกั เรยี นมีควำมรู้ ทักษะพนื้ ฐำนเกยี่ วกบั การเปรียบเทยี บหาคา่ ความจริง และมีทัศนคติที่ดี 3.3 คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์ (อ้ำงองิ จำกคำ่ นิยมหลักของคนไทย 12 ประกำร) 3.3.1 เขำ้ เรยี นตรงเวลำ 3.3.2 แต่งกำยตำมระเบียบกำรปฏิบตั ิงำน 3.3.3 ผลงำนประณีตเรียบร้อย 3.3.4 ปิดเครอื่ งคอมพวิ เตอร์เม่อื เลกิ ใชง้ ำน 3.3.5 มีน้ำใจช่วยเหลอื ผูอ้ นื่ และกำรปฏิบตั งิ ำนร่วมกบั ผ้อู ื่น 4. เนื้อหาสาระการเรยี นรู้ โอเปอเรเตอร์สำหรบั กำรเปรียบเทียบ Comparision Operators 5. กจิ กรรมการเรยี นการสอน ครูแจง้ จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ กำรวัดผลประเมนิ ผล ข้อตกลงขณะเรยี น และให้นักเรียนทำ แบบทดสอบก่อนเรยี น

5.1 ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรียน 5.1.1 ผสู้ อนจัดเตรยี มเอกสำร พร้อมกบั แนะนำรำยวิชำ วิธีกำรให้คะแนนและวิธีกำรเรียนเรอ่ื ง กำรเปรยี บเทียบหำค่ำควำมจริง 5.1.2 ผสู้ อนแจ้งจุดประสงค์กำรเรยี นของหนว่ ยที่ 9 และขอให้ผ้เู รียนร่วมกนั ทำกจิ กรรมกำร เรียนกำรสอน 5.1.3 ผู้สอนใหผ้ เู้ รียนแสดงควำมรู้ โดยตั้งคำถำมวำ่ กำรเปรยี บเทยี บหำคำ่ ควำมจรงิ นักเรยี น รจู้ กั ภำษำทใ่ี ชเ้ ขียนโปรแกรมภำษำอะไรบ้ำงพร้อมให้เหตผุ ลประกอบ 5.2 ข้นั สอน 5.2.1 ผู้สอนทดสอบควำมรคู้ วำมเข้ำใจเกี่ยวกบั ควำมรู้เบื้องตน้ เก่ยี วกับกำรเปรยี บเทยี บหำคำ่ ควำมจรงิ โดยใหผ้ เู้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน 5.2.2 ผู้สอนอธบิ ำยเนือ้ หำเกี่ยวกับบทเรียนวิชำจำวำสคริปตเ์ บอ้ื งต้น หนว่ ยที่ 9 เรือ่ งการ เปรยี บเทยี บหาค่าความจริง และให้ผเู้ รียนศกึ ษำเอกสำรประกอบกำรสอน หนว่ ยที่ 9 5.2.3 ผู้สอนและผเู้ รยี นรว่ มกันอธิบำยพร้อมยกตัวอย่ำงถึงแนวคิดในกำรพฒั นำโปรแกรมตำมที่ ได้ศึกษำจำกเว็บไซต์ https://www.w3schools.com/js/default.asp 5.3 ขน้ั ประกอบกจิ กรรมการเรยี น 5.3.1 ผสู้ อนให้ผู้เรยี นทำแบบฝกึ หัดทำ้ ยหน่วยที่ 9 5.3.2 ผู้สอนให้ผเู้ รยี นแบง่ กลุ่ม ๆ ละเทำ่ ๆ กนั ทำกำรศึกษำเรอ่ื ง กำรเปรยี บเทยี บหำค่ำควำม จริง 5.4 กลยุทธใ์ นการจดั การเรยี นรู้ 5.4.1 ครูใหเ้ พ่ือนช่วยเพื่อน ใหน้ ักเรยี นกลุ่มเกง่ และปำนกลำง อยกู่ ับกลมุ่ นักเรียนทีเ่ รยี นออ่ น ช่วยกันทำควำมเข้ำใจในเน้ือหำ 5.4.2 สอนแบบ Active Learning โดยใช้เคร่ืองมอื บนอนิ เทอรเ์ นต็ http://www.linoit.com สอบถำมนักเรียนวำ่ นักเรยี นอยำกไดห้ อ้ งเรยี นอย่ำงไรเรยี นแล้วมคี วำมสขุ แสดงควำมคิดเหน็ แต่ละคน เพ่ือ เป็นกำรกระตุ้นเตรยี มควำมพร้อมในกำรเรยี น 5.5 ขัน้ สรปุ 5.5.1 ผสู้ อนและผ้เู รยี นร่วมกันสรุปเนื้อหำท่ีไดเ้ รยี นให้มีควำมเข้ำใจในทศิ ทำงเดียวกนั 5.5.2 ผสู้ อนให้ผู้เรยี นศึกษำเพิม่ เติมนอกห้องเรียน จำก https://www.w3schools.com/js/default.asp ที่จดั ทำขน้ึ 5.6 ข้ันทดสอบหลงั เรียน นกั เรียนทำใบงำนที่ 9 และแบบทดสอบหลงั เรียน 6. สื่อการเรียนร้/ู แหล่งการเรียนรู้ 6.1 สื่อสง่ิ พมิ พ์ 6.1.1 เอกสำรประกอบกำรสอนวิชำจำวำสคริปต์เบ้ืองต้น

6.1.2 แบบทดสอบก่อนเรยี น เรอ่ื ง กำรเปรยี บเทยี บหำคำ่ ควำมจริง 6.1.3 แบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง กำรเปรียบเทยี บหำค่ำควำมจรงิ 6.2 สือ่ โสตทศั น์ 6.2.1 Powerpoint เรอื่ ง กำรเปรยี บเทยี บหำค่ำควำมจรงิ 6.2.2 เครอ่ื งฉำยโปรเจคเตอร์ 6.2.3 เครอื่ งคอมพิวเตอร์แบบพกพำ (Notebook) 6.3 อืน่ ๆ (โปรดระบุ)

7. การบรู ณาการ/ความสัมพนั ธก์ ับวิชาอ่นื 7.1 กำรบรู ณำกำรสะเต็มศกึ ษำ S: Science T: Technology E: Engineering M: Mathematics • กำรค้นหำขอ้ มูล • ใช้อินเทอร์เนต็ สืบค้น วธิ ีกำรค้นหำขอ้ มูลใน 6 • คำนวณเวลำในกำร คดั เลือกหรือคัด ข้อมลู ขน้ั ตอน สืบคน้ ข้อมูล แยกข้อมลู ในส่งิ • ใช้เทคโนโลยี • กำรกำหนดหัวขอ้ ต่ำงๆที่อยรู่ อบตัว ออกแบบสอ่ื โฆษณำ • กำรเลือกแหลง่ ขอ้ มูล เรำ ผลติ ภัณฑอ์ ำหำร • กำรเตรยี มอุปกรณ์ • ใช้เทคโนโลยีในกำร • กำรค้นหำและรวบรวม นำเสนอผลงำน ข้อมลู • กำรพิจำรณำ • กำรสรุปผล

8. การบูรณาการหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่กู ารจัดการเรียนรู้ 8.1 ผู้สอน ใชห้ ลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงในกำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นกำรสอน ต่อไปน้ี 3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู ิคุ้มกันในตวั ประเดน็ - เนื้อหำสอดคล้องกับ - ต้องกำรให้ผเู้ รยี นรเู้ รื่องจำวำ - สรุปเนอ้ื หำให้อำ่ นเขำ้ ใจ เนื้อหา ง่ำยมีภำพประกอบเน้ือหำ - แนวคิดในกำร สมรรถนะ ตวั ชวี้ ัด เหมำะสม สครปิ ตเ์ บ้ืองตน้ - เรียงเน้อื หำตำมลำดบั กำร พฒั นำโปรแกรม เรียนรู้ กบั เวลำท่กี ำหนดและวยั - จดั กำรเรียนรู้ได้ครบถว้ น เวลา ตำมที่ออกแบบไว้ 4 ชั่วโมง ของผ้เู รยี น - กำหนดเวลำในแต่ละ กจิ กรรมไว้เกินจรงิ เล็กน้อย การจดั กิจกรรม - กำหนดเวลำในแตล่ ะ - จดั กำรเรยี นรไู้ ด้ครบถว้ น เพือ่ รองรบั กำรเปล่ยี นแปลง ท่ีอำจเกิดระหวำ่ งจดั กิจกรรมเหมำะสมกบั กิจกรรม ตำมท่ีออกแบบไว้ กิจกรรม - แบ่งกลมุ่ คละ และวัยของผู้เรยี น ควำมสำมำรถของนกั เรียน - เตรยี มชุดคำถำมให้พร้อม - แบง่ กลุ่มผูเ้ รยี นให้พอดีกับ - ต้องกำรให้ผู้เรยี นปฏิบัติ ตำมลำดับกิจกรรมกำรเรียน จำนวนนกั เรยี น กิจกรรมอยำ่ งทว่ั ถึงตำม - สังเกตพฤติกรรมและให้ - กำหนดกิจกรรมกำรเรยี นรู้ ควำมสำมำรถ ควำมชว่ ยเหลือเม่ือนักเรยี น เหมำะสมกับเวลำท่กี ำหนด - เพ่ือต้องกำรใหผ้ ูเ้ รยี นเกิดกำร มปี ญั หำ - มอบหมำยภำระงำนและ เรียนรตู้ ำมเปำ้ หมำยทีก่ ำหนด - ฝึกกำรคน้ ควำ้ หำควำมรู้ ชนิ้ งำนเหมำะสมกบั - ผ้เู รียนนำควำมร้ไู ป จำกเพ่ือน และระบบ ควำมสำมำรถผู้เรยี นและ ประยุกตใ์ ช้กบั ภำระงำนได้ อินเทอร์เน็ต สอดคล้องกับเปำ้ หมำยกำร - รบั ฟังควำมคดิ เห็น และ เพือ่ แก้ปญั หำในแบบฝกึ เรยี นรู้ วิเครำะห์ วจิ ำรณอ์ ย่ำงมีเหตุผล ปฏิบัติ และใบงำน

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ประเดน็ - ต้องกำรใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติ การจัดกิจกรรม - แบง่ กลมุ่ ผเู้ รยี นใหพ้ อดีกับ กิจกรรมอย่ำงทว่ั ถึงตำม - แบง่ กลมุ่ คละ จำนวนนักเรยี น ควำมสำมำรถ ควำมสำมำรถของนักเรียน สอ่ื /อปุ กรณ์ - กำหนดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ - เพ่อื ต้องกำรให้ผเู้ รียนเกดิ กำร - เตรยี มชดุ คำถำมใหพ้ ร้อม เหมำะสมกบั เวลำท่กี ำหนด เรียนรตู้ ำมเป้ำหมำยที่กำหนด ตำมลำดบั กิจกรรมกำรเรยี น แหลง่ เรียนรู้/ - มอบหมำยภำระงำนและ - ผู้เรียนนำควำมรไู้ ป - สงั เกตพฤติกรรมและให้ ฐานการเรียนรู้ ช้นิ งำนเหมำะสมกบั ประยกุ ต์ใช้กับภำระงำนได้ ควำมช่วยเหลือเมื่อนักเรยี น ควำมสำมำรถผ้เู รียนและ - รบั ฟังควำมคิดเห็น และ มปี ัญหำ สอดคล้องกบั เป้ำหมำยกำร วเิ ครำะห์ วจิ ำรณ์อยำ่ งมีเหตผุ ล - ฝกึ กำรค้นคว้ำหำควำมรู้ เรียนรู้ จำกเพ่ือน และระบบ - ตอ้ งกำรใหน้ ักเรียนได้ปฏิบตั ิ อินเทอรเ์ น็ต - จำนวนใบควำมรู้ ใบงำน กจิ กรรมไดจ้ รงิ ตำมจุดประสงค์ เพื่อแกป้ ญั หำในแบบฝกึ และวสั ดอุ ปุ กรณ์ เหมำะสม กำรเรียนร้ทู ีก่ ำหนดไว้ ปฏบิ ตั ิ และใบงำน กบั กจิ กรรม และปรมิ ำณ - เตรยี มสื่ออปุ กรณ์ให้พร้อม เพยี งพอกับจำนวนนกั เรียน - ตอ้ งกำรให้นักเรยี นใช้วสั ดุ ก่อนกำรจัดกิจกรรม -ตรวจควำมพร้อมของเครื่อง อปุ กรณ์ทม่ี ีควำมพร้อมใน - มลี ำดับขน้ั ตอนกำรใช้สื่อ คอมพวิ เตอร์กอ่ นเรียน และ หอ้ งปฏบิ ัติกำร มำปฏิบัตกิ ำร และจัดเกบ็ อยำ่ งเป็นระบบ ปิดเครือ่ ง ทดลองตำมตวั ช้วี ัด - มคี วำมชำนำญในกำรใช้ -เกบ็ เกำ้ อ้นี งั่ ให้เรยี บร้อยหลัง ส่อื อุปกรณ์ เลกิ เรียน เพอื่ ควำมเรยี บร้อย และประหยัด - เตรยี มหอ้ งปฏบิ ตั ิกำร - หอ้ งปฏบิ ตั กิ ำรคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ให้พร้อมกอ่ น เหมำะสมกบั กิจกรรมที่ กำรทดลอง กำหนด

3 ห่วง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสร้างภมู คิ ุ้มกันในตวั ประเดน็ การประเมนิ ผล - จัดทำแบบประเมินผลงำน - ต้องกำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ - วำงแผนกำรวดั / และประเมินพฤตกิ รรมได้ เหมำะสมกับเป้ำหมำยกำร ตำมเปำ้ หมำยทก่ี ำหนด ประเมนิ ผลตำมข้นั ตอนของ เรียนรู้ กิจกรรม - แบบประเมนิ ผลมีกำร ตรวจสอบควำมเทย่ี งตรงใน กำรวัดตำมตวั ชี้วดั เงื่อนไขความรทู้ ีค่ รตู ้องมีก่อนสอน 3. หลักปรัชญำของเศรษฐกจิ พอเพียง 1. ควำมหมำยคอมพิวเตอร์และสำรสนเทศ 4. จติ วิทยำในกำรสอน 2. กำรใชค้ อมพวิ เตอร์ เงอื่ นไขคณุ ธรรมของครู 3. มีควำมยตุ ิธรรม 1. มีควำมรกั เมตตำศิษย์ 4. ตรงต่อเวลำ 2. มีควำมรับผิดชอบ 8.2 คุณลกั ษณะอยู่อยำ่ งพอเพียงทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียน พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวที่ดี 1. นกั เรียนกำหนดหนำ้ ที่ของสมำชิก 1. นกั เรียนนำขอ้ มลู กำรหำ 1. วำงแผนกำรทำงำนกลุม่ อย่ำง ภำยในกลมุ่ ไดเ้ หมำะสมกบั ศักยภำพของ คำตอบมำวเิ ครำะหไ์ ด้อยำ่ ง ละเอียดเปน็ ขั้นตอน แตล่ ะคน เปน็ เหตเุ ปน็ ผลเพอ่ื อธิบำย 2. เตรยี มวัสดุอปุ กรณ์กำรทดลองได้ 2. นกั เรียนใช้วัสดุอุปกรณ์ในกำรทดลอง สรุปเนอื้ หำสำระ ครบถ้วน และตรงตำมกิจกรรมกำร ได้เหมำะสมกบั กจิ กรรมกำรทดของ 2. นักเรยี นสำมำรถนำข้อมูล ทดลอง 3. นักเรยี นสำมำรถหำคำตอบได้ มำตอบคำถำมได้อยำ่ งถกู ต้อง 3. ศกึ ษำวิธกี ำรทำใบงำนอยำ่ ง สอดคล้องกับอปุ กรณท์ ี่มี รอบคอบ เง่อื นไขความรู้ 1. ควำมหมำยของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 2. ควำมสำมำรถของ โปรแกรม ภำษำ JavaScript 3. กำรใช้งำนโปรแกรม ภำษำ JavaScript เง่อื นไขคณุ ธรรม 1. ควำมสำมคั คีในกลุ่ม 2. ควำมรบั ผดิ ชอบ 3. แบ่งปนั และเอ้อื เฟื้อเผ่อื แผ่