Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เชิงศาสนา55

เชิงศาสนา55

Published by rbr.apr_nfedc, 2019-01-29 04:16:49

Description: เชิงศาสนา55

Search

Read the Text Version

วดั ถำ้ นำ้ ต.นำงแก้ว อ.โพธำรำม จ.รำชบุรี วัดถ้ำน้ำ ตงั อย่เู ลขท่ี – หมู่ท่ี ๕ ตำ้ บลนำงแก้ว อ้ำเภอโพธำรำม จังหวดั รำชบุรี บริเวณวดั มเี นือ ท่ปี ระมำณ 10 ไร่ ภำยในมีสถำนทที่ อ่ งเท่ียวท่ีน่ำสนใจได้แก่ ถ้ำน้ำ ภำยในถ้ำ เป็นถ้ำทม่ี นี ้ำอยภู่ ำยใน ถ้ำเกือบเต็มพนื ที่ โดยนำ้ ท่ีเขำ้ มำภำยในถำ้ เป็นน้ำทไี่ หลมำจำก ลำ้ คลองท่ีติดกบั วัดและไหลออกไปอกี ทำงหนง่ึ ซ่ึงเรยี กว่ำ ปลอ่ งน้ำ ในน้ำจะมีพนั ธ์ปุ ลำน้ำจืดจำ้ นวนมำก ส่วนใหญ่ในช่วงหน้ำนำ้ จะมี ประมำณนำ้ มำก ในช่วงหน้ำแลง้ น้ำจะลดลง และยังคงมีนำ้ ในถ้ำตลอด อำกำศภำยในถำ้ อำกำศเย็น สบำย มีทำงเดินท่ีทำงวดั สร้ำงขนึ มำเป็นทำงปนู ส้ำหรับเดนิ ชมหินงอกหนิ ย้อนภำยในถ้ำน้ำ และ นมัสกำรพระพทุ ธรูปภำยในถำ้ นำ้ นักทอ่ งเที่ยวที่สนใจสำมำรถเข้ำชมได้ บรเิ วณภำยในถ้ำจะมืด จะมี ไฟเปิดตลอดทำงเขำ้ ถำ้ และจะมพี ระภกิ ษุท่ีคอยดูแลถำ้ นำ้ วดั ถ้ำนำ้ เปน็ แหล่งท่องเที่ยวท่ีมจี ุดเดน่ คือมีพระพทุ ธรูปศกั ด์ิสทิ ธอ์ิ ยภู่ ำยในถ้ำวัด อยู่ตำ้ แหนง่ ที่สงู ขนึ ไปมองเหน็ แตไ่ กล ภำยในถำ้ มีน้ำไหลเวียนภำยในถ้ำตลอดเวลำและ สภำพหนิ ภำยนอกจะเป็นกอ้ นชินเดียวตนั ทังกอ้ น หนิ ภำยในถ้ำเป็นหนิ แกรนิตอยำ่ งเดียวกันแต่มโี พรงอำกำศเปน็ รอยหลุมอยูใ่ นเนอื หนิ และมีเสำสนิ ท่ีเกดิ นีขนำดใหญ่มำก โดยสันนิษฐำนว่ำเกิดจำกกำรนำ้ ที่บนเพดำน ถำ้ หยดจนกลำยเป็นเสำหิน ภำยนอกถำ้ จะมีลิงอำศยั อยู่บริเวณเขำ นักทอ่ งเท่ียวท่ไี ปเท่ยี วชมสำมำรถนำ้ อำหำรไปเลยี งลงิ ได้ ข้อมูลท่องเทีย่ ว  ชอื่ : วัดถำ้ น้ำ  ประเภท : พทุ ธศำสนำสถำน(วดั ) , ถ้ำธรรมชำติ  ท่ตี ง้ั : หมทู่ ่ี ๕ ตำ้ บลนำงแก้ว อ้ำเภอโพธำรำม จงั หวัดรำชบุรี



\\







วัดถ้ำสำลิกำ ต.ธรรมเสน อ.โพธำรำม จ.รำชบรุ ี “ถ้ำสำริกำ” ต.ธรรมเสน อ.โพธำรำม จ.รำชบรุ ี เป็นอีกถำ้ หน่งึ ทม่ี ีประวตั ิยำวนำน ตังแตส่ มัยสมเดจ็ พระเจ้ำตำกสนิ มหำรำช ทค่ี รังหน่ึงไดเ้ ขำ้ แวะพกั ยงั ถำ้ สำรกิ ำ พร้อมไพร่ พล ถ้ำสำริกำ มีลกั ษณะเด่น เป็นถ้ำทมี่ ีหนิ งอก หนิ ยอ้ ยสวยงำมและภำยในเป็นหอ้ งโถงใหญ่ ท่ี แยกเป็นถำ้ ร้อน ถ้ำเยน็ ถ้ำสำลิกำเดิมมชี ื่อวำ่ ถ้ำตีเหล็ก เพรำะสถำนท่แี ห่งนีเปน็ สถำนทีต่ ีเหล็ก ของชำวบำ้ นในสมัยก่อน และไดเ้ ปลยี่ นชื่อมำเปน็ ถ้ำสำรกิ ำ เพรำะชำวบ้ำนสมยั นันได้เข้ำไปใน ถ้ำ และพบเหน็ นกสำรกิ ำอยูห่ ลำยคู่จงึ เปลีย่ นชอ่ื มำเป็นถำ้ สำรกิ ำ พ.ศ. 2511 มกี ำรสร้ำงปชู นี วตั ถุ 2 รปู คอื พระสังกระจำย และพระสีวรี พร้อมถวำยเงินสร้ำงบันไดขึนถำ้ จน สำ้ เรจ็ สมัยก่อนเป็นส้ำนักสงฆ์ มีผู้แวะเวียนมำปฏิบัตธิ รรมอยเู่ ป็นประจำ้ ต่อมำจึงได้รับ อนญุ ำตให้เป็นวดั ถ้ำสำริกำ เมื่อปี พ.ศ. 2530 ประวัตถิ ้ำสำรกิ ำ ถ้ำสำริกำในสมยั สมเดจ็ พระเจำ้ ตำกสิน มหำรำชทรงเปน็ แม่ทัพในกำรทำ้ สงครำมใน ชว่ งเวลำนัน นำยทองด้วง (ร.๑) ได้ดำ้ รงตำ้ แหน่งเป็นหลวงยกระบัตร หรือเปน็ พ่อเมืองรำชบุรี ซง่ึ มีควำมช้ำนำญในพนื ท่ี ไดเ้ ป็นผูน้ ้ำทำงใหก้ ับพระเจำ้ ตำกฯ ในครงั นนั พระเจ้ำตำกฯ ไดเ้ ขำ้ แวะพกั ยังถำ้ สำริกำ พรอ้ มไพร่พล และไดน้ ำ้ ไพรพ่ ลเดนิ ทำงต่อไปยงั เมืองจันทบรุ ี และในเวลำ ต่อมำ นำยทองด้วงกข็ นึ ครองรำชย์เปน็ พระบำทสมเดจ็ พระพุทธยอดฟ้ำจุฬำโลกมหำรำช รัชกำลที่ ๑ เป็นปฐมกษัตริยแ์ ห่งรำชวงศ์จกั รี ต่อมำในสมยั ของพระบำทสมเด็จพระจอมเกลำ้ เจำ้ อยหู่ ัว รชั กำลท่ี ๔ ได้เสด็จประพำสโดยทำงเรอื เพ่ือศกึ ษำเส้นทำงประวตั ศิ ำสตร์ และเสด็จ ประพำสมำยงั ถ้ำสำริกำ เพือ่ ทรงศกึ ษำเส้นทำงกำรท้ำสงครำมของพระเจ้ำตำกสนิ มหำรำช โดย มีหลักฐำนกำรประพำสครังนัน ปรำกฏบนแผ่นหนิ โดยกำรสลกั ลงบนหินทำงด้ำนขวำมอื กอ่ น ทำงขนึ ถ้ำฯจนถึงสมยั (ร.ศ.๑๑๘) พระบำทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลำ้ เจ้ำอย่หู ัว รัชกำลที่ ๕ ก็ทรง เสดจ็ ประพำสศกึ ษำเส้นทำงประวัตศิ ำสตร์ เพรำะทรงเหน็ ว่ำสมเดจ็ พระรำชบิดำ รัชกำลท่ี ๔ เสด็จประพำสยงั ถำ้ แห่งนี จงึ เสด็จประพำสมำยงั ถำ้ แหง่ นบี ำ้ ง โดยมีหลกั ฐำนปรำกฏ (พระ ปรมำภิไธย ย่อ จ.ป.ร.) โดยกำรสลกั บนหินบริเวณปำกทำงกอ่ นเขำ้ ถ้ำดำ้ นบนซำ้ ยมอื ฉะนันถ้ำ สำรกิ ำ จึงเปน็ ถำ้ ทีม่ ีประวตั ิศำสตร์อันยำวนำน ควรแก่กำกรอนรุ ักษแ์ ละกำรศึกษำของอนชุ น รุ่นหลัง เพรำะปรำกฏวำ่ มีพระมหำกษตั รยิ ถ์ ึง ๔ พระองค์ ทรงเคยเสดจ็ มำยังถ้ำนี ภำยในของ ถ้ำก็มีควำมสวยงำมของหินงอกหนิ ยอ้ ยตำมธรรมชำติ และภำยในยังมพี ระประธำน (หลวงพ่อ ใหญ)่ ประดษิ ฐำนอยู่ โดยมี หลวงพอ่ แทน ธมฺมโชติ วดั ธรรมเสน เป็นผ้สู รำ้ งพระประธำน

ประวัติวัดถ้ำสำริกำ วดั ถ้ำสำรกิ ำ ตังอยู่เลขที่ – หมู่ท่ี ๘ ตำ้ บลธรรมเสน อ้ำเภอโพธำรำม จังหวัดรำชบรุ ี สงั กดั คณะสงฆม์ หำนิกำย ท่ดี นิ ตงั วดั มเี นอื ที่ ๒๒ ไร่ ๒ งำน ๖๐ ตำรำงวำ วดั ถ้ำสำริกำ สร้ำง เมอ่ื ก่อน พ.ศ. ๒๕๓๐ ประกำศตงั วัดเมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๐ วดั ถำ้ สำริกำมอี บุ ำสกิ ำลูกจนั ทร์ อนิ ทุ ประภำ เปน็ ผู้รเิ รม่ิ สร้ำงเป็นส้ำนักสงฆ์ และมีพระสงฆ์แวะเวยี นมำเพื่อปฏิบัติธรรมอยำ่ ง ตอ่ เน่ือง ตอ่ มำจึงไดร้ บั อนุญำตใหเ้ ปน็ วัดถ้ำสำรกิ ำ เม่อื ปี พ.ศ.๒๕๓๐ โดยบริเวณวดั และถำ้ มี ต้นไมร้ ม่ รน่ื มีควำมสัปปำยะเหมำะแกก่ ำรปฏบิ ัติธรรม ซงึ่ วัดนีมีอดีตเจำ้ อำวำสมำแล้ว ๓ รปู และได้ท้ำควำมเจริญใหก้ ับวดั และศำสนำมำอยำ่ งตอ่ เนอ่ื ง ข้อมูลท่องเท่ียว ช่ือ : วดั ถำ้ สำริกำ ประเภท : พทุ ธศำสนำสถำน(วดั ) , ถ้ำธรรมชำติ ท่ีตง้ั : หมู่ท่ี ๘ ต้ำบลธรรมเสน อ้ำเภอโพธำรำม จังหวดั รำชบุรี









วัดโคกทอง ตำ้ บลเตำปนู อ้ำเภอโพธำรำม จงั หวดั รำชบุรี วดั โคกทอง ตงั อยู่เลขท่ี 52 บำ้ นโคกทอง หมทู่ ่ี 1 ต้ำบลเตำปนู อ้ำเภอโพธำรำม จงั หวดั รำชบุรี สงั กัด คณะสงฆม์ หำนิกำย ที่ดนิ ตงั วัดมีเนอื ที่ 43 ไร่ อำณำเขตทิศเหนือจดที่ดินเอกชน ทิศใต้จดทำง สำธำรณประโยชน์ ทิศตะวนั ออกจดถนน ทิศตะวนั ตกจดทีด่ ินเอกชน มที ีธ่ รณีสงฆ์จ้ำนวน 1 แปลง เนือที่ 23 ไร่ ตงั เม่ือ พ.ศ. 2450 ได้รับพระรำชทำนวิสงุ คำมสมี ำเมือ่ พ.ศ. 2473 กำรบริหำรและ กำรปกครอง มเี จำ้ อำวำสเท่ำท่ีทรำบนำมคือ รปู ที่ 1 พระอธกำรจนุ่ นอ้ ยสนธิ รูปที่ 2 พระอธิกำรสงวน ฟกั จยุ้ รปู ท่ี 3 พระครูอุเทศธรรมคุณ ปจั จุบันมีพระครทู องใบ ปญั จสฺ โี ล เปน็ เจำ้ อำวำส และในปี พ.ศ. 2525 ไดบ้ รู ณะเพิ่มเติมเป็นอำคำรคอนกรตี เสริมเหล็ก กฏุ สิ งฆ์ จ้ำนวน 3 หลงั เปน็ อำคำรไม้ 1 หลัง และตกึ 2 หลัง วิหำร กวำ้ ง 6 เมตร ยำว 25 เมตร เป็นอำคำรคอนกรตี เสริมเหลก็ สรำ้ งเมอื่ พ.ศ. 2545 ศำลำบ้ำเพญ็ กุศล จำ้ นวน 1 หลงั สร้ำงด้วยคอนกรตี เสรมิ เหลก็ ปชู นียวตั ถุ มี พระประธำนประจำ้ อุโบสถ และหลวงพ่ออู่ทองขนำดใหญ่

หลวงพ่ออ่ทู อง

วดั ขนอน ต้ำบลสรอ้ ยฟ้ำ อ้ำเภอโพธำรำม จังหวดั รำชบรุ ี วัดขนอนหนังใหญ่ เปน็ ส่ิงท่อี ยู่คกู่ ับเมอื งโพธำรำม รำชบรุ มี ำเนนิ่ นำน เรียกวำ่ เปน็ สถำนที่ ทอ่ งเทย่ี วท่ีสำ้ คัญ ของจังหวัดรำชบรุ ีเลยก็ว่ำได้ เน่อื งจำกเป็นที่รวบรวมเก่ียวกับศิลปะกำรแสดงหนัง ใหญท่ ีม่ มี ำแต่โบรำณ และยังมกี ำรแสดงถงึ พระรำชกรณยี กิจที่ส้ำคญั ของพระมหำกษตั รยิ ์ รวมถึงได้ กรำบไหวพ้ ระท้ำบุญเพ่ือเป็นสิริมงคลอีกด้วย ประวัติควำมเปน็ มำ หนงั ใหญว่ ดั ขนอน สร้ำงขึนในสมัยพระบำทรชั กำลที่ 5 โดยผู้ริเร่ิมในกำรแกะสลักตวั หนังคอื ทำ่ นพระ ครูศรัทธำสนุ ทร (หลวงปกู่ ลอ่ ม) และได้มีกำรจดั ท้ำชุดแรกคอื ชดุ หนุมำนถวำยแหวน และได้มีกำรสบื ทอดต่อเนอื่ งเร่ือยมำ และวัดขนอนยังเป็นเพียงวัดเดียวที่มคี ณะหนงั ใหญจ่ ัดกำรแสดงอยูภ่ ำยในวัด









วัดพระศรีอำรยต์ ำ้ บลบำ้ นเลือก อ้ำเภอโพธำรำม จงั หวัดรำชบุรี วดั พระศรอี ำรย์ เป็นวัดทีส่ รำ้ งขนึ ตังแต่สมยั ปลำยกรุงศรอี ยุธยำ สนั นิษฐำนว่ำเริม่ กอ่ สรำ้ งเมือ่ ประมำณ พ.ศ. ๒๒๗๕ เดิมวัดชื่อ วัดสระอำน จนในปี พ.ศ.๒๕๐๐ ไดเ้ ปล่ียนชอ่ื จำกวดั สระอำน มำเป็น วดั พระ ศรอี ำรย์ในปัจจบุ ันนี อุโบสถทองคำ้ ร้อยล้ำนได้ก่อสรำ้ งเมือ่ พ.ศ.๒๕๑๐ โดยพระครสู ิริพฒั นกิจ (หลวง พ่อขันธ์ กนตฺ ธโร) ภำยในมพี ระอโุ บสถทองค้ำรอ้ ยล้ำน รูปแบบอโุ บสถเป็นศิลปะอยุธยำตอนปลำย ประดับดว้ ยลวดลำยปนู ป้ัน จติ รกรรมเร่ืองพระมหำชนก ทศชำติพระเจ้ำห้ำพระองค์ พระประธำนใน พระอโุ บสถเปน็ ปำงมำรวิชัย ศิลปะพม่ำ สร้ำงด้วยหยกขำวทังองค์ท่ีได้อัญเชิญมำจำกประเทศพมำ่ นอกจำกนียังมพี ระพทุ ธรูปควู่ ดั คือ พระศรอี ำรย์ เปน็ พระพทุ ธรูปเกำ่ แก่พิมพพ์ ระศรอี ำรยซ์ งึ่ มลี กั ษณะ เด่น คือ มีตำลปัตรอยู่ด้ำนหนำ้ องคพ์ ระพทุ ธรปู จีวรจับกลบี คลำ้ ยพระพุทธลกั ษณะสมัยคันธำระ เปน็ พระพุทธรปู ศกั ด์ิสทิ ธท์ิ ี่ทกุ คนเคำรพกรำบไหว้ ซ่งึ ใช้เวลำกอ่ สร้ำงนำนถงึ 37 ปี ภำยในวดั ยงั มตี ้นสำละ ทน่ี ำ้ มำจำกประเทศอินเดีย



พระประธำนในพระอโุ บสถเปน็ ปำงมำรวชิ ยั และมพี ระพทุ ธรปู คู่วดั คอื พระศรอี ำรย์

ฝำผนงั แตง่ แตม้ ดว้ ย จติ รกรรมเรื่องพระมหำชนก พระเจำ้ ๕ พระองค์

พระพฆิ เนศ ปำงโชคดี

เจำ้ แม่กวนอมิ

วดั เขำชอ่ งพรำนตำ้ บลเตำปูน อ้ำเภอโพธำรำม จงั หวัดรำชบรุ ี ถำ้ ค้ำงคำวร้อยล้ำน วดั เขำช่องพรำน อ้ำเภอโพธำรำม จงั หวัดรำชบุรี เป็นสถำนทอี่ ัศจรรยอ์ ีก แหง่ หนึ่งของประเทศไทย ผู้ทมี่ ำเย่ยี มชมจะพบกบั เหล่ำฝงู คำ้ งคำวจำ้ นวนมหำศำล ที่บินออกมำจำกถ้ำ ชว่ งยำมเย็นของทุกวัน บนิ เป็นสำยยำวบนท้องฟ้ำ นำนกว่ำช่ัวโมง นบั เป็นเรอ่ื งแปลกท่ีครังหนึง่ ต้องมำ เหน็ ดว้ ยตำตวั เอง ถ้ำค้ำงคำว ใช้เส้นทำงหลวงหมำยเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ผ่ำน จ.นครปฐม ขับตรงไปทำง จังหวดั รำชบรุ ี จะลอดใตส้ ะพำนลอยท่จี ะไป จ.กำญจนบรุ ี จะผ่ำนสหกรโคนมหนองโพธิ์ จะพบ สะพำนลอยขำ้ มส่ีแยกบำงแพไปยัง จ.รำชบุรี (ไม่ต้องขึนสะพำนลอย) ใหช้ ิดซ้ำย จำกนนั จะพบไฟแดง ใหเ้ ลยี วขวำเพือ่ ไปยัง อ.โพธำรำม ตำมเส้นทำงหลวงหมำยเลข 3080 ขบั มำประมำณ 5.4 กม. จะ ข้ำมสะพำนแม่น้ำแม่กลอง จำกนันจะพบสำมแยก (แยกซ้ำยไปทำงวัดเขำช่องพรำน แยกขวำไปวัด ขนอน) ให้เลยี วซ้ำยไปตำมเส้นทำงหลวงหมำยเลข 3089 ประมำณ 11.6 กม. จะพบวดั เขำช่อง พรำน ตดิ ถนนทำงด้ำนขวำมอื





บรรดำค้ำงคำวหนจู ำ้ นวนมหำศำลรอ้ ยล้ำนตวั บนิ ออกจำกถำ้

วดั หนองโพ ตำ้ บลหนองโพ อ้ำเภอโพธำรำม จังหวดั รำชบรุ ี วดั หนองโพ ตงั อยู่เลขที่ 156 หมูท่ ่ี 9 ตำ้ บลหนองโพ อ้ำเภอโพธำรำม จังหวดั รำชบุรี เริม่ ก่อตงั วัดเมอ่ื ปี พ.ศ. 2349 มีเนือที่ 20 ไร่ 2 งำน วดั หนองโพเปน็ ท่ปี ระดิษฐำนของพระบรมสำรีริกธำตุ และมีพระพทุ ธรปู ศักดสิ์ ิทธิ์ หลวงพ่อด้ำอำยุเก่ำแกก่ วำ่ 200 ปี วดั หนองโพเป็นวดั เดียวในตำ้ บลหนอง โพ สืบเนอ่ื งจำกวดั หนองโพมอี ำยคุ รบ 200 ปีและหลวงพ่อดำ้ เป็นพระพทุ ธรูปประจ้ำวดั อยคู่ ่กู บั วดั หนองโพมำโดยตลอดตังแต่สรำ้ งวดั มำ โดยลักษณะองค์ มขี นำดหนำ้ ตกั กวำ้ ง 29 นิว เทำ่ องคจ์ ริง ลำย จีวรดอกพกิ ุล โดยเชอ่ื ว่ำเป็นพระรัตนหรือเปน็ พระรุน่ ชว่ งต้นรัตนโกสินทร์ ซึ่งมคี วำมขลงั ควำม ศกั ดิส์ ิทธ์ิ ท่ีชำวบำ้ นต้ำบลหนองโพนบั ถือและได้กลำ่ วขวัญเลำ่ ลอื สบื กนั มำ โดยเฉพำะเรอ่ื งของกำร หำ้ ม ฟ้ำ ดิน อำกำศ หรือเร่ืองขอพรต่ำงๆก็จะไดส้ มประสงค์ สิง่ ท่อี งคห์ ลวงพอ่ ดำ้ ชอบ คือ ประทัด พวงมำลยั และภำพยนตร์ เป็นต้น



หลวงป่ทู วดองคใ์ หญ่

สมเดจ็ พระพฒุ ำจำรย์ (โต พรฺ หมฺ รส้ )ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook