โพธาราม ราชบุรี เปิดเมืองเที่ยวรอยศึกบางแก้วเส้นทางแห่งสมรภูมิรบพระเจ้าตาก

แหล่งท่องเท่ยี วเชิง ประวตั ิศาสตร์

โพธาราม ราชบุรี เปดิ เมืองเทยี่ วรอยศึกบางแก้วเส้นทางแห่งสมรภมู ิรบพระเจา้ ตากอำเภอโพธำรำม เปดิ เมอื งศึกษำตำมรอยศึกบำงแก้วเส้นทำงแหง่ สมรภูมริ บ สมเด็จพระเจำ้ ตำกสินมหำรำช จนพม่ำแตกทัพ เปน็ อกี 1 สถำนที่ทอ่ งเท่ียวพร้อมเปิดตลำดอนุสรณ์พระเจำ้ ตำกสินจำลองวถิ ีชวี ิตในคำ่ ยรบพระเจ้ำตำกชขู องเด่นเมืองโพธำรำมใหเ้ ที่ยวชมปลำยปีน้ี

(29 ก.ย. 61) มูลนิธิชนะศึกบำงแกว้ อำเภอโพธำรำมจังหวัดรำชบุรี นำนักทอ่ งเทยี่ วและสือ่ มวลชน เข้ำสกั กำระสมเด็จพระเจ้ำตำกสนิ มหำรำช ณ ลำนพระบรมรำชำนุสำวรยี ์สมเด็จพระเจ้ำตำกสนิ มหำรำช วัดเขำชะงมุ้ ตำบลเขำชะงุม้ อำเภอโพธำรำม จังหวัดรำชบุรี เพือ่ ควำมเป็นสริ ิมงคล พรอ้ มทัง้ เดนิ ทำงเที่ยวชมศึกษำเสน้ ทำงแหง่ สมรภูมริ บศกึ บำงแก้ว ในแผ่นดินกรุงธนบรุ ีสมเด็จพระเจำ้ ตำกสนิ มหำรำช ทรงทำสงครำมกบั พม่ำสบิ ครง้ั เมือ่ ปีพุทธสักรำช 2317 เปน็ กำรรบกับพม่ำครง้ั ท่ี 8 ทบี่ ำงแกว้ ซึ่งเปน็ หมบู่ ำ้ นทชี่ ำวบำ้ นเรียกว่ำ บ้ำนนำงแกว้ อยใู่ นเขต อำเภอโพธำรำม จงั หวัดรำชบุรี ซง่ึ เปน็ กำรรบคร้ังประวตั ศิ ำสตร์แหง่ ชำติไทยท่ีมกี ำรจำลึกไวใ้ นพงศำวดำรในฐำนะหลกั ฐำนทำงประวัติศำสตร์ ท่พี ระเจ้ำตำกทรงดำเนินกลยุทธ์และยุทธวธิ ขี นั้ ตอนตำ่ งๆ ผิดกบั กำรรบทง้ั เก้ำครง้ั ที่ปรำกฏในประวตั ิศำสตร์ กล่ำวคือ จะกำหนดวันเวลำท่ีเอำชนะฝ่ำยพม่ำได้แต่พระองค์ไม่ทรงกระทำ พระองคท์ รงตอ้ งกำรให้ งุยอคงหวนุ่ แมท่ ัพใหญ่พมำ่ ยอมแพอ้ ยำ่ งไมม่ ีเงื่อนไข ทสี่ ำคญั คือ พระองค์ทรงตอ้ งกำรให้แม่ทัพใหญ่พมำ่ ออกจำกค่ำยในฐำนะผแู้ พม้ ำถวำยบงั คม ต่อหนำ้ พระพักตร์

จำกประวัติศำสตร์สำคัญของจังหวัดรำชบุรี ท่ีมชี ำวรำชบรุ ีต่ำงน้อมสำนึกในพระมหำกรุณำธคิ ุณต่อสมเดจ็ พระเจ้ำตำกสินมหำรำช จึงพลึกฟน้ื ประวัติศำสตร์ เส้นทำงแห่งสมรภูมริ บ “ศกึ บำงแก้ว” ใหน้ ักทอ่ งเที่ยวท้งั ชำวไทยและชำวต่ำงชำติ ตลอดจนนักเรียนนักศึกษำ ประชำชนทว่ั ไปได้เข้ำมำศกึ ษำและเที่ยวชมตำมเส้นทำงสมรภมู ิรบ ของพระเจำ้ ตำก ประกอบด้วยบำ้ นโคกกระต่ำยบำ้ นนำงแก้ว บ้ำนเขำชะงุ้ม และบ้ำนเตำปนู อำเภอโพธำรำม จังหวดั รำชบุรี รวมไปถงึ สถำนทีข่ ดุดินสมรภมู ิ 1 ใน 10 สถำนท่สี มรภมู ริ บของประเทศไทยท่นี ำไปเกบ็ รวบรวมไว้ในพฑิ ธิ ภัณฑสถำนแหง่ ชำติ

โอกำสเดยี วกันมูลนิธชิ นะศึกบำงแก้ว อำเภอโพธำรำมจังหวัดรำชบรุ ี ไดน้ ำนักท่องเทีย่ วและสื่อมวลชนทำพธิ ีถวำยเครื่องรำชสกั กำระดว้ ยกำรจัดชดุ นำงรำท่ีแตง่ กำยดว้ ยชุดไทยพื้นเมืองของอำเภอโพธำรำม รำถวำยในชุดเพลงพระเจำ้ ตำก เบ้ืองหนำ้ พระบรมรำชำนุสำวรียส์ มเดจ็ พระเจำ้ตำกสนิ มหำรำช เพอ่ื ควำมเปน็ สิริมงคลก่อนจะพำเท่ียวชมตำมจดุ ตำ่ ง ๆ ในเส้นทำงของสมรภมู ิรบ“ศึกบำงแก้ว” พรอ้ มทง้ั เข้ำเย่ยี มชมสถำนท่ขี ดุ ดนิ แห่งสมรภมู ิซึง่ เป็น 1 ใน 10 สถำนท่สี มรภูมิรบทัว่ ประเทศ โดยขดุ ลกึ 29 – 45 เซนติเมตร ณ บำ้ นบำงแกว้ ตำบลบำงแกว้ อำเภอโพธำรำมจังหวดั รำชบรุ ี

นำยศภุ ชยั ปรำณวิริยะ ประธำนมูลนิธิชนะศกึ บำงแก้ว อำเภอโพธำรำม กล่ำววำ่ จำกหลกั ฐำนประวตั ิศำสตร์สำคัญชำวอำเภอโพธำรำมไดร้ ่วมกันน้อมรำลกึ และสำนกึ ในพระมหำกรุณำธคิ ุณของสมเด็จพระเจำ้ ตำกสินมหำรำช จึงได้จดั สรำ้ งพระบรมรำชำนสุ ำวรีย์สมเดจ็ พระเจ้ำตำกสนิ มหำรำชณ ลำนวัดเขำชะงมุ้ ศกึ เป็น 1 ในค่ำยหลวงทต่ี ั้งทพั รบกับพม่ำ เพอื่ ใหน้ ักทอ่ งเท่ียวและประชำชนทั่วไปไดศ้ กึ ษำ สมรภมู บิ ำงแกว้ สมัยกรงุ ธนบุรี เมื่อปีพุทธศักรำช 2317 ชนกลุ่มนอ้ ยประเทศใกล้เคยี งก่อกำรกบฏถูกปรำบปรำมหนีเขำ้ มำในเขตไทย ขำ้ ศกึ ไลต่ ดิ ตำมและตที ัพไทยแตกหนไี ปทำให้เกดิ กำรกำเรบิ คิดจะปล้นทรัพย์จับเชลย เมื่อสมเด็จพระเจ้ำตำกสินมหำรำช ทรงทรำบข่ำวจึงจดั กองทพั ไปตัง้ ค่ำยโอบทัพขำ้ ศกึ ท่บี ำงแก้วไว้และทรงบัญชำกำรรบด้วยพระองเอง จนค่ำศกึ ถกูทพั ไทยล้อมสกดั และจึงขออ่อนน้อมยอมถวำยบังคมตอ่ สมเดจ็ พระเจำ้ ตำกสินมหำรำช เม่ือทพัขำ้ ศึกที่ยกตำมมำชว่ ยในภำยหลังทรำบข่ำวว่ำถูกตีแตกหมดแลว้ จงึ รีบยกทพั หนีกลับไปพน้ อำณำเขตไทย เม่อื เดอื น 5 ปีพทุ ธศกั รำช 2318

นำยศภุ ชยั กล่ำวอีกวำ่ ในศกึ บำงแกว้ สมเดจ็ พระเจ้ำตำกสินทรงใชย้ ุทธวธิ ีทเี่ ยือกเยน็ โดยให้ทหำรฝ่ำยไทยตง้ั ค่ำยล้อมทัพพมำ่ เอำไว้ท่ีตำบลบำงแก้ว แขวงเมอื งรำชบุรเี ปน็ เวลำกว่ำหนง่ึ เดอื นจนพมำ่ ขำดแคลนเสบยี งและอดโซตอ้ งฆ่ำชำ้ งฆ่ำม้ำเป็นอำหำรในที่สดุ ฝ่ำยพม่ำกท็ ยอยกนั ออกมำถวำยบังคมสมเดจ็ พระเจำ้ ตำกสินเพอื่ ขอใหล้ ะเวน้ ชีวิตโดยในครงั้ น้นั สำมำรถจับเชลยศกึ พม่ำได้กวำ่ หนึ่งพันนำยซึง่ สมเด็จพระเจ้ำตำกสนิ ทรงโปรดใหน้ ำตัวมำยังกรงุ ธนบุรีเพือ่ ให้คนไทยมำดูทหำรพม่ำตวั เปน็ ๆเพ่อื จะไดต้ ระหนกั ว่ำทหำรพม่ำไม่ไดเ้ ก่งกำจหรือนำ่ กลวั อย่ำงทคี่ ิด แหล่งขอ้ มลู อา้ งองิ https://siamrath.co.th