Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลัง

การปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลัง

Published by dueannapa.nan, 2020-09-11 07:01:26

Description: การปรับปรุงเกณฑ์มาตรฐานอัตรากำลัง

Search

Read the Text Version

๑ การปรับปรุงเกณฑม์ าตรฐานการคานวณอตั รากาลังขา้ ราชการครูและบคุ ลากรอ่นื สาหรับโรงเรียนศึกษาสงเคราะห/์ ราชประชานเุ คราะห์ โรงเรียนเฉพาะความพกิ ารและศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษ

สารบญั ๒ เรื่อง หนา้ หลักการและเหตุผล 1 ความจาเป็น 2 ปญั หาทพ่ี บในปัจจุบนั 2 (จากการสารวจความคิดเหน็ สถานศึกษา ในสงั กัดสานักบรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ) การปรับปรุงเกณฑม์ าตรฐานการคานวณอัตรากาลังขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรอื่น 3 เกณฑ์การคานวณบุคลากรอืน่ ในสงั กดั สานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ 4 การขอกาหนดกรอบอตั รากาลังบุคลากรอน่ื ตามพระราชบัญญัติครู 6 และบคุ ลากรทางการศกึ ษา มาตรา 38 ค (1) ข้อสรุปแบบสารวจการแสดงความคิดเหน็ ข้อมูลกรอบอัตรากาลัง (สาหรับผู้บริหาร) 12 - โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ - โรงเรยี นเฉพาะความพกิ าร - ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษ

3

๑ เรื่อง การปรับปรงุ เกณฑ์มาตรฐานอตั รากาลงั ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรอืน่ สาหรับโรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์/โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ โรงเรยี นเฉพาะความพิการ และศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ หลักการและเหตผุ ล การจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ ในปัจจุบันนอกจากการจัดการศึกษาขั้นพน้ื ฐานแล้วได้มีการขยาย การให้บริหารโดยลาดับในลักษณะต่าง ๆ เช่น การจัดให้บริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม การจัดการเรียนรว่ ม การฝึกอาชีพ ตลอดจนการจัดการศูนย์การเรียนรู้ที่ดาเนินการในเครือข่าย เพื่อให้บริการแก่คนพิการ ผู้ปกครอง ชุมชน และสถานศึกษา ในการฟื้นฟูสมรรถภาพ พัฒนาศักยภาพ การเตรียมความพร้อมให้แก่ คนพิการ และส่งตอ่ การจัดการศึกษาเพ่ือคนพิการหรือคนท่ีมีความต้องการพิเศษ ควรจดั ให้เรว็ ท่ีสุดต้งั แต่แรก เกิดหรือพบความพกิ าร การบรกิ ารทางการศึกษาจัดโดยวิธกี ารทางานรว่ มกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องทกุ ฝ่าย ได้แก่ ด้านการแพทย์ การศึกษา สังคม และอาชีพ รวมท้ังจัดโปรแกรมฟื้นฟูสมรรถภาพโดยชุมชนต้องอาศัยความ ร่วมมือ การระดมสรรพกาลัง ความคิด ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์การใช้ทรัพยากร และ หนว่ ยงานบริการต่าง ๆ ในชมุ ชนรว่ มกนั โดยได้รบั การสนบั สนุนจากชุมชนและระบบสง่ ต่อการศกึ ษาจะทาให้ เด็กพกิ ารสามารถอยู่หรอื ใช้ชีวติ ในสงั คมไดอ้ ยา่ งเตม็ ศกั ยภาพ จากองค์ประกอบทั้งหลายเหล่าน้ีทาให้มาตรฐานอัตรากาลังท่ีใช้อยู่ในปัจจุบันไม่เหมาะสม เพราะครู ไมส่ ามารถปฏิบตั ิงานไดค้ รอบคลุมภาระงาน ส่งผลให้สถานศึกษาไม่สามารถตอบสนองต่อภารกจิ ดา้ น การศึกษาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ประกอบกับการดูแลช่วยเหลือและพัฒนาการเด็กมีความยากลาบาก เพราะความหลากหลายของเด็กพิการท่ีมีลักษณะพิเศษเฉพาะบุคคล โดยเฉพาะเด็กกลุ่มที่มีความพิการ มากกว่า 1 อย่าง และเด็กออทสิ ติก (มีลกั ษณะพิเศษเฉพาะบคุ คล ๑๐ คน ๑๐ อย่าง)เพื่อให้นกั เรียนได้รับการ พัฒนาศักยภาพ ตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ให้สามารถนาทักษะที่มีไปประยุกต์ใช้ได้ เม่ือ สถานการณ์เปล่ียนแปลงไป ในการเรียนรู้ และดารงชีวิตอิสระ ไม่เป็นภาระสังคม และสามารถพัฒนาไปถึง ชว่ ยเหลือสงั คมได้ ในอนาคต เพือ่ ให้เป็นตามนโยบายการจัดการศึกษา เพื่อคนพกิ าร และเปน็ โรงเรยี นประจา ท่ีครูต้องปฏิบัติหน้าท่ี ๒๔ ช่ัวโมง ต้องดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด และสามารถดูแลความปลอดภัยขณะทา กจิ กรรมไดอ้ ยา่ งทวั่ ถึง ให้สอดคลอ้ งกบั พรบ.การจัดการศึกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. ๒๕๕๑ และสอดคล้องกับ แผนจดั การศกึ ษาสาหรับคนพกิ าร ฉบบั ท่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) จึงเหน็ ความจาเป็นในการปรับปรุงเกณฑ์ มาตรฐานอัตรากาลังข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษาในโรงเรียนเฉพาะความพิการและ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ ดงั นี้ 1. อตั รากาลังขา้ ราชการครูและบคุ ลกรทางการศึกษาในสถานศกึ ษา กาหนดดงั นี้ จานวนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา = จานวนหอ้ งเรียน x จานวนนกั เรียนต่อหอ้ ง จานวนนักเรียนต่อครู

๒ ความจาเป็น ความตอ้ งการยกระดับคุณภาพการศึกษาและคุณภาพชวี ิตของผู้ด้อยโอกาส ผพู้ กิ าร ปญั หาคือ ภารกิจ หลากหลายครูต้องทาหน้าที่หลายอย่างเพราะมีแต่บุคลากรดูแลทั้งในและนอกเวลาเรียน เกณฑ์อัตรากาลัง เดิมยังไม่ได้รับการจัดสรรตามเกณฑ์ท่ีกาหนดโดยข้อเท็จจริงการดูแลผู้เรียนด้อยโอกาสและพิการมีแนว ทางการจัดการศกึ ษาและฟื้นฟูศักยภาพนกั เรียนพกิ าร ด้อยโอกาสไดอ้ ยา่ งมีคณุ ภาพ ปัญหาที่พบในปัจจุบัน (จากการสารวจความคิดเห็นสถานศึกษา ในสังกัดสานักบริหารงาน การศึกษาพเิ ศษ) - การพฒั นาผู้เรียนกลมุ่ เดก็ ด้อยโอกาสจากกลมุ่ เป้าหมายนกั เรียนทัง้ 10 ประเภท ซ่งึ เปน็ ปญั หา สงั คม ตอ้ งอาศยั บุคลากรจานวนมาก ซง่ึ ทุม่ เทเวลาให้ผู้เรยี น ตน้ ทนุ ชีวิตตา่ กว่าเดก็ ท่ัวไป วิธกี ารใกล้ชิดและ หลากหลาย เพ่อื พฒั นาคุณภาพชวี ิต - ข้อมูลบคุ ลากร ปัจจบุ ันมีครเู ทา่ นัน้ ทใี่ ห้บริการตลอดเวลา 24 ช่วั โมง ทาให้คุณภาพชีวิตของครู ลดลง ขาดความเป็นสว่ นตวั เพราะปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีเกินกาลงั และยอ้ นกลบั มากระทบผเู้ รยี น - ความคาดหวงั ของผปู้ กครองและสงั คมต่อโรงเรียนเก่ยี วกับการแก้ปญั หาของผู้เรียนไมส่ อดคล้อง ตรงกัน เนื่องจากบคุ ลากรไม่เพยี งพอ ทง้ั ครแู ละบุคลากรอ่ืน - โรงเรยี นเฉพาะความพิการรับภาระเด็กพิการบางประเภทมจี านวนมากข้นึ บางประเภทลดลง จึงมีการปรบั การจดั การศึกษา เช่น เด็กบกพร้องทางการได้ยินลดลง ต้องเพิ่มนักเรียนบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา ทาให้การจัดการสอนทง้ั 2 ประเภทหรือ 3 ประเภท ครไู ม่ไดร้ บั การพฒั นาในประเภทความพิการทีเ่ พ่มิ ข้ึนมา สง่ ผลตอ่ คุณภาพผเู้ รยี น - ความต้องการของผู้ปกครองมีความหลากหลายมากขนึ้ เช่น การประกอบอาชีพ คุณภาพชวี ิต ครูขาดความรูแ้ ละทักษะอาชีพ ซ่งึ ไมต่ รงตามความตอ้ งการจาเป็นของผู้เรียน - ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ ซึ่งต้องรับผดิ ชอบบริการเด็กพกิ าร 9 ประเภท มรี ะดับความรนุ แรงมากกว่า นกั เรยี นในโรงเรยี นเฉพาะความพกิ ารและนกั เรยี นเรยี นรวม การพฒั นาศกั ยภาพของผู้เรยี นเป็นรายบุคคลและ ต้องเดนิ ทางไปให้บริการในชมุ ชน ตอ้ งเดนิ ทางเข้าไปใหบ้ รกิ ารท่ีบา้ นเปน็ ผลดีต่อนโยบาย ลดความเหลอ่ื มลา้ และใหโ้ อกาสทางการศกึ ษา - จานวนบคุ ลากรที่มไี มเ่ พียงพอ การใหบ้ ริการไม่เข้มข้น ขาดการพฒั นาอย่างตอ่ เนือ่ ง - บคุ ลากรในศูนย์ฯ มีความหลากหลายและควรมมี ากขนึ้ ให้สอดคล้องกับจานวนเด็กพิการทงั้ ประเภทและระดบั ความพกิ าร - ระบบดูแลนกั เรียนแบบประจาท้งั 3 ประเภท สถานศึกษา ครตู ้องดูแลนกั เรียนตลอดเวลาตั้งแต่ ตื่นนอนทาความสะอาดเคร่ืองนอน ดแู ลนกั เรียน อาบน้าแตง่ ตัว ทาให้ไมม่ ีเวลาส่วนตัว - ความต้องการคือให้มบี ุคลากรรบั ผิดชอบชว่ งเวลาหลงั จากการเรยี นการสอนแล้วมากขึ้น

๓ การปรบั ปรุงเกณฑ์มาตรฐานการคานวณอตั รากาลังขา้ ราชการครูและบคุ ลากรอื่น สาหรบั โรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์/ราชประชานเุ คราะห์ โรงเรียนเฉพาะความพกิ ารและศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ สถานศึกษา เกณฑ์เดิม กาหนดใหม่ โรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห/์ ราชประชานเุ คราะห์ 1 : 12 - อตั ราสว่ นครู : นักเรียน 25 : 1 25 : 1 จานวนนกั เรยี น : ห้องเรยี น 1:8 - โรงเรยี นเฉพาะความพิการ 10 : 1 - อัตราสว่ นครู : นกั เรียน จานวนนกั เรียน : หอ้ งเรียน ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษ อตั ราส่วนครู : นกั เรยี น = จานวนเด็กพิการแตล่ ะประเภท ดงั นี้ ประเภทคนพกิ าร นกั เรียนต่อ นักเรยี นต่อครู เกณฑก์ ำหนดใหม่ ห้อง 1.บคุ คลทมี่ ีความบกพรอ่ งทางการเหน็ 10 : 1 5:1 2.บคุ คลที่มีความบกพรอ่ งทางการได้ยิน 10 : 1 5:1 3.บคุ คลทม่ี ีความบกพรอ่ งทางสติปัญญา 8:1 4:1 4.บุคคลทมี่ ีความบกพรอ่ งทางร่างกาย 10 : 1 5:1 5.บคุ คลท่ีมคี วามบกพร่องทางการเรียนรู้ 10 : 1 5:1 6.บคุ คลทมี่ คี วามบกพร่องทางการพดู และภาษา 10 : 1 5:1 7.บุคคลทมี่ คี วามบกพรอ่ งทางพฤตกิ รรมหรืออารมณ์ 8:1 4:1 8.บคุ คลออทิสติก 4:1 2:1 9.บคุ คลพิการซ้อน 6:1 3:1 ในการคานวณถ้าเปน็ เศษ 0.5 ใหป้ ัดเป็น 1 สูตรการคานวณขา้ ราชการครทู ้งั หมด X = na b X = จานวนข้าราชการครทู ้งั หมด X = จานวนห้องเรยี น n = จานวนนกั เรียนต่อ 1 ห้องเรยี น a = จานวนหอ้ งเรียน b = จานวนนักเรยี นตอ่ ขา้ ราชการครู 1 คน

๔ เกณฑก์ ารคานวณบคุ ลากรอน่ื ในสงั กัดสานกั บรหิ ารงานการศกึ ษาพเิ ศษ 1.โรงเรยี นศึกษาสงเคราะห์/ราชประชานเุ คราะห์ 2 คน : 1 โรงเรยี น - พยาบาลเทคนคิ 2 คน : 1 โรงเรยี น - การเงนิ และบญั ชี 2 คน : 1 โรงเรยี น - เจา้ หน้าที่พัสดุ 2 คน : 1 เรอื นนอน/หอนอน - เจา้ หน้าที่เรือนนอน 1 คน : 1 โรงเรยี น - เจ้าพนกั งานธุรการ 1 คน : 1 โรงเรยี น - นักสังคมสงเคราะห์ 2.โรงเรียนเฉพาะความพิการ/ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษ 2 คน : 1 โรงเรียน - พยาบาลเทคนิค 2 คน : 1 โรงเรียน - การเงินและบญั ชี 2 คน : 1 โรงเรยี น - เจ้าหน้าทพ่ี สั ดุ 2 คน : 1 เรอื นนอน/หอนอน - เจ้าหนา้ ทเ่ี รือนนอน 1 คน : 1 โรงเรยี น - เจ้าหน้าทธ่ี รุ การ 1 คน : 1 โรงเรียน - นกั สังคมสงเคราะห์ 2 คน : 1 โรงเรียน - ล่ามภาษามือ 1 คน : 1 โรงเรียน - นักเวชกรรมฟน้ื ฟู 1 คน : 1 โรงเรยี น - นักกายอุปกรณ์ 1 คน : 1 โรงเรียน - นกั อรรถบาบัด 2 คน : 1 โรงเรยี น - นักกิจกรรมบาบดั 2 คน : 1 โรงเรยี น - ผูช้ ว่ ยนักกจิ กรรมบาบัด 2 คน : 1 โรงเรียน - นักกายภาพบาบัด 2 คน : 1 โรงเรียน - ผูช้ ว่ ยนกั กายภาพบาบดั 1 คน : 1 โรงเรียน - นกั โภชนาการ 2 คน : 1 โรงเรียน - นักปรับพฤตกิ รรม 1 คน : 1 โรงเรยี น - เจา้ หนา้ ที่ฝึกทักษะการเคล่อื นไหว(O&M) ๑ คน : 1 โรงเรยี น - แพทยแ์ ผนไทย 1 คน : 1 โรงเรยี น - ผชู้ ว่ ยแพทย์แผนไทย

๕ เกณฑ์การคานวณอัตรากาลังผูช้ ่วยผบู้ ริหารฯ สาหรบั โรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห/์ ราชประชานเุ คราะห์ จานวนห้องเรยี น จานวนผ้ชู ว่ ยบรหิ าร 1-2 - 3-6 1 7-14 2 15-23 3 4 24 ห้องเรียนขึน้ ไป เกณฑ์การคานวณอตั รากาลังผชู้ ว่ ยผบู้ ริหารฯ สาหรบั โรงเรยี นเฉพาะความพกิ าร จานวนหอ้ งเรยี น จานวนนักเรยี น จานวนผชู้ ่วยบริหาร 1-5 1-59 - 6-13 60-139 1 14-21 2 22-29 140-219 3 220-299 4 30 หอ้ งเรียนข้นึ ไป 300 คนขนึ้ ไป เกณฑก์ ารคานวณอตั รากาลังผู้ช่วยผู้บริหารฯ สาหรับศูนยก์ ารศึกษาพิเศษ จานวนหอ้ งเรยี น ตาแหนง่ 1-2 ผ้อู านวยการสถานศึกษา รองผู้อานวยการสถานศึกษา 3-6 7-14 1- 15-23 11 24 ห้องเรียนขนึ้ ไป 12 13 14

๖ การขอกาหนดกรอบอัตรากาลังบคุ ลากรอนื่ ตามพระราชบญั ญตั คิ รู และบุคลากรทางการศึกษา มาตรา 38 ค (1) ท่ี ตาแหนง่ มาตรฐาน ลักษณะงาน อัตรากาลัง 2 คน : 1 โรงเรยี น 1 นักกายภาพบาบดั กาหนดตาแหนง่ - ระดับปฏบิ ัติการ - ระดับชานาญการ ตามสานกั งานก.พ. สายงานนค้ี ลุมถึงตาแหน่งต่าง ๆ ท่ีปฏิบัติงาน - ระดบั ชานาญการ พิเศษ บาบัดรักษาผู้ป่วยด้วยเครื่องมือและวิธีการ - ระดับเชยี่ วชาญ ทางกายภาพบาบัด ซึ่งมีลักษณะงานท่ี เก่ียวกับการบาบัดรักษาผู้ป่วยด้วยโร ค เกย่ี วกับกล้ามเนอื้ โรคทางกระดกู โรคทางข้อ โรคทางระบบประสาทและความพิการต่างๆ ที่เกิดจากโรคหรืออุบัติเหตุ ด้วยวิธีการทาง กายภาพบาบัด โดยการใช้ความร้อน แสง เสียง ไฟฟ้า หลักกลศาสตร์ การดัด การดึง การนวด การบริหารร่างกาย ตลอดจนใช้ เคร่ืองมือทางกายภาพชนิดต่าง ๆ เพื่อฟื้นฟู ป้องกัน ปรับปรุง แก้ไข สมรรถภาพของส่วน ของรา่ งกายท่ีเสื่อมสภาพหรือพิการให้กลับคืน ดี ทั้งทางรูปและทางหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ อืน่ ทเี่ กี่ยวข้อง 2 ผู้ชว่ ยนักกายภาพบาบดั 2 คน : 1 โรงเรยี น 3 นักกจิ กรรมบาบดั ตามสานักงานก.พ. สายงานนี้คลุมถึงตาแหน่งต่างๆที่ปฏิบัติงาน 2 คน : 1 โรงเรยี น - ระดบั ปฏิบตั ิการ ทางวิชาการในการส่งเสริม ป้องกัน บาบัด - ระดบั ชานาญการ ฟ้ืนฟูสมรรถภาพ ของผู้ท่ีมีความบกพร่อง - ระดับชานาญการ หรือพกิ ารดา้ นรา่ งกาย จิตใจ การเรยี นรู้และ พเิ ศษ พฒั นาการ ซงึ่ มลี ักษณะงานท่ีปฏิบตั ิเก่ียวกับ - ระดับเชยี่ วชาญ การปฏบิ ัติงานบรหิ ารทางกจิ กรรมบาบดั การ นิเทศงาน และฝึกอบรมวิชากิจกรรมบาบัด เ พื่ อ พั ฒ น า ข้ า ร า ช ก า ร ผู้ ป ฏิ บั ติ ง า น ด้ า น กิ จ ก ร ร ม บ า บั ด ใ น ห น่ ว ย ง า น จิ ต เ ว ช แ ล ะ หนว่ ยงานอนื่ และปฏบิ ัตหิ นา้ ทอี่ ืน่ ทีเ่ กยี่ วขอ้ ง 4 ผ้ชู ว่ ยนักกิจกรรมบาบัด 2 คน : 1 โรงเรยี น

๗ ท่ี ตาแหน่ง มาตรฐาน ลกั ษณะงาน อตั รากาลัง 5 แพทย์แผนไทย ๑ คน : 1 โรงเรยี น กาหนดตาแหน่ง - ระดบั ปฏบิ ัตกิ าร - ระดบั ชานาญการ ตามสานักงานก.พ. สายงานนคี้ ลุมถึงตาแหนง่ ต่าง ๆ ที่ - ระดับชานาญการ พเิ ศษ ปฏิบัติงานด้านการแพทย์แผนไทย ซึ่งมี 6 นกั จติ วทิ ยาคลินกิ ลัก ษณะ ง าน ที่ปฏิบัติง าน เกี่ ยว กั บการ - ระดับปฏบิ ตั ิการ - ระดับชานาญการ รักษาพยาบาล การส่งเสริม การป้องกัน การ - ระดับชานาญการ พเิ ศษ บาบัดรักษา การฟื้นฟูสุขภาพที่เก่ียวข้องกับ - ระดับเชยี่ วชาญ ชีวิต สุขภาพและอนามัยของประชาชน ด้วยศาสตร์การแพทย์ แผนไทย รวมถึง การศกึ ษาวิเคราะห์ วิจยั คิดค้น วางแผน และ พัฒนาวิชาการและเทคโนโลยีด้านการแพทย์ แผนไทยและสมุนไพร ให้คาปรึกษา แนะนา ฝึกอบรมเกี่ยวกับวิทยาการด้านการแพทย์ แผนไทยและสมุนไพร และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่ เกย่ี วขอ้ ง ตามสานักงานก.พ. สายงานน้ีคลุมถึงตาแหนง่ ต่าง ๆ ท่ีปฏิบัติงาน 2 คน : 1 โรงเรียน ซ่ึงมีลักษณะงานท่ีปฏิบัติเกี่ยวกับการตรวจ การวินิจฉยั การบาบดั รักษา ฟื้นฟูสมรรถภาพ ความผิดปกติทางจิตของคนผู้มีปัญหาทาง สุขภาพจิตและจิตเวท อันเน่ืองจากภาวะทาง จิตใจ บุคลิกภาพ ระดบั เชาวน์ปัญญา อารมณ์ พฤติกรรม การปรับตัว ความเครียด หรือ พยาธสิ ภาพทางสมอง ด้วยการใช้เครอื่ งหรือ อุปกรณ์ทดสอบทางจิตวิทยาคลินกิ ท่ีรฐั มนตรี ประกาศใช้เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ทาง จิตวิ ทยาคลินิก ร ว มทั้ง มีลัก ษณะ ก า ร ปฏิบัติงานทางวิชาการ การวิจัย การส่งเสริม ป้องกนั การนิเทศงาน และฝกึ อบรมสาขาวิชา จิตวิทยาคลินิก เพื่อพัฒนาข้าราชการ ผู้ปฏิบัติงานด้านจิตวิทยาคลินิกในหน่อยงาน จิตเวท และหน่วยงานอ่ืน และปฏิบัติหน้าท่ี อน่ื ทเี่ กี่ยวข้อง

๘ ท่ี ตาแหน่ง มาตรฐาน ลกั ษณะงาน อัตรากาลัง 7 นักโภชนาการ กาหนดตาแหน่ง 1 คน : 1 โรงเรยี น ตามสานักงานก.พ. สายงานน้ีคลุมถึงตาแหน่งต่างๆท่ีปฏิบัติงาน - ระดับปฏบิ ัตกิ าร ทางโภชนาการ ซึ่งมีลักษณะงานที่ปฏิบัติ 2 คน : 1 โรงเรียน - ระดับชานาญการ ตามสานักงานก.พ. เกี่ยวกับการศึกษา วิเคราะห์ วิจัย ปัญหา - ระดับชานาญการ โภชนาการด้านต่างๆเพ่ือปรับปรุงแก้ไขและ พิเศษ ส่ ง เ ส ริ ม ภ า ว ะ โ ภ ช น า ก า ร ข อ ง ป ร ะ ช า ช น - ระดับเชีย่ วชาญ สารวจและรวบรวมข้อมลู ด้านโภชนาการของ ประชาชนภาคตา่ งๆเพอื่ หาสาเหตุของโรคขาด 8 พยาบาลเทคนิค สารอาหาร วางแผนป้องกัน และบาบัดโรค - ระดบั ปฏบิ ัตงิ าน ขาดสารอาหาร วิจัยด้านอาหาร และ - ระดบั ชานาญงาน โภชนาการ เพื่อกาหนดเครื่องช้ีวัดทาง โภชนาการและพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆให้ เหมาะสม ทดลองตารับอาหารใหม่ตามหลัก วิชาอาหารและโภชนาการ ส่งเสริมการผลิต อ าหาร ที่จาเป็น แก่ การปรับปรุงภาวะ โภชนาการ ค้นคว้า ทดลองและพัฒนาสูตร อาหาร ซึ่งมีคุณค่าด้านโภชนาการ กาหนด รายการอาหารควบคุมและให้คาแนะนาใน การประกอบอาหารเฉพาะโรค จัดสอน ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครหมู่บ้านและ ประชาชนทั่วไป และเผยแพร่ความรู้ประชา นิเทศด้านโภชนาการทางส่ือมวลชนโดยวิธี ต่างๆและปฏบิ ตั หิ น้าท่ีอ่ืนทเ่ี กี่ยวขอ้ ง สายงานน้ีคลุมถึงตาแหน่งต่าง ๆ ท่ีปฏิบัติงาน การพยาบาลซึ่งมีลักษณะงานท่ีปฏิบัติเก่ียวกับ การพยาบาลขั้นมูลฐานหรือการพยาบาลผปู้ ่วยท่ี มีปัญหาไม่ซับซ้อนผู้ทุพพลภาพหญิงมีครรภ์ ทารกคนปัญญาอ่อนคนชราหรือผู้ป่วยทางจิตซึ่ง เป็นลักษณะการพยาบาลท่ีไม่จาเป็นต้องปฏิบัติ โดยผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะส า ขา การพยาบาลหรือสาขาการพยาบาลและการผดงุ ครรภ์ขั้นหน่ึงตลอดจนปฏิบัติเก่ียวกับการเตรยี ม เคร่ืองมือเคร่ืองใช้และอุปกรณ์การพยาบาลใน สถานพยาบาลและปฏิบัติหนา้ ทอ่ี นื่ ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง

๙ ท่ี ตาแหน่ง มาตรฐาน ลักษณะงาน อัตรากาลงั 9 ล่ามภาษามอื 2 คน : 1 โรงเรยี น 10 ปฏิบัติงานเวชกรรม กาหนดตาแหน่ง 1 คน : 1 โรงเรียน ฟนื้ ฟู กาหนดใหม่ 1 คน : 1 โรงเรียน - ระดับปฏบิ ตั งิ าน - ระดับชานาญงาน ตามสานักงานก.พ. สายงานนี้คลุมถึงตาแหนง่ ตา่ ง ๆ ที่ปฏิบัติงาน 11 เวชศาสตรก์ ารสอ่ื ข้ันตน้ ทางด้านเวชกรรมฟนื้ ฟูซ่ึงมลี ักษณะงาน ความหมาย - ระดับปฏิบัติการ ที่ปฏิบัติเก่ียวกับการประเมินสภาพผู้ป่วย - ระดบั ชานาญการ - ระดบั ชานาญการ พิการการดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยพิการโดยวิธี พเิ ศษ นวดวิธีออกกาลังวิธีใช้ความร้อนความเป็น อ ย่าง ถูก หลัก วิ ชาการ การ ฝึกผู้ป่ว ยให้ ช่วยเหลือตัวเองได้การดูแลและฟ้ืนฟูสภาพผู้ พิการทางการเคล่ือนไหวผู้ป่วยท่ีมีปัญหา ระบบหายใจผู้สูงอายุการกระตุ้นพัฒนาการ ป ก ติ ใ ห้ แ ก่ เ ด็ ก ที่ มี พั ฒ น า ก า ร ล่ า ช้ า ก า ร ใ ห้ คาแนะนาครอบครัวในการดูแลผปู้ ว่ ยในระยะ ฟ้ืนฟูสภาพแนะนาการคัดแปลงแก้ไขเสื้อผ้า เครอื่ งใช้และสภาพแวดลอ้ มตลอดจนอาชีพให้ เหมาะสมกับสภาพความพิการและปฏิบัติ หน้าทอี่ ่นื ทีเ่ กีย่ วขอ้ ง ตามสานักงานก.พ. สายงานนคี้ ลุมถึงตาแหนง่ ต่างๆท่ีปฏิบัติงาน ดา้ นใดดา้ นหนึง่ หรอื หลายด้านเกี่ยวกบั งาน ด้านการแกไ้ ขความผดิ ปกติของการสอื่ ความหมายด้านการแกไ้ ขการไดย้ ินหรือการ แก้ไขการพูดแกผ่ ู้ใช้บริการผู้ปว่ ยครอบคลุมทง้ั ดา้ นการตรวจวินจิ ฉยั รักษาแก้ไขและฟนื้ ฟู สร้างเสรมิ สมรรถภาพการสง่ เสรมิ สขุ ภาพการ ป้องกันโรคแก่ผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยินและ การทรงตัวและผทู้ ่มี ีปัญหาทางด้านภาษาและ การพูดโดยวิธกี ารเครือ่ งมอื หรอื อปุ กรณ์ ทางการแก้ไขความผดิ ปกตขิ องการส่อื ความหมายเพอื่ ให้ผ้ใู ช้บรกิ ารมคี ณุ ภาพชวี ติ ที่ ดีขึน้ สามารถส่อื ความหมายได้เตม็ ความสามารถและปฏบิ ัติหนา้ ทีอ่ นื่ ที่เกี่ยวข้อง

๑๐ ท่ี ตาแหนง่ มาตรฐาน ลกั ษณะงาน อัตรากาลัง 12 นกั สังคมสงเคราะห์ กาหนดตาแหนง่ 1 คน : 1 โรงเรียน ตามสานกั งาน สายงานน้ีคลุมถึงตาแหน่งต่างๆท่ีปฏิบัติงาน - ระดับปฏิบัติการ ด้านสงั คมสงเคราะหซ์ ึ่งมีลกั ษณะงานท่ีปฏิบัติ 1 คน : 1 โรงเรียน - ระดับชานาญการ ก.พ. เกี่ยวกับการสงเคราะห์ผู้มีปัญหาทางสังคม 2 คน : 1 โรงเรยี น - ระดับชานาญการ เช่นเด็กและบุคคลวัยรุ่นคนชราคนขอทาน พิเศษ ตามสานกั งาน โสเภณผี ูต้ อ้ งขังผู้ปว่ ยคนพิการและทุพพลภาพ - ระดบั เชี่ยวชาญ ก.พ. และประชาชนทั่วไปท่ีไม่สามารถจะแก้ไข ปัญหาของตัวเองและครอบครัวหรอื ผู้ตกทกุ ข์ 13 นักกายอุปกรณ์ ตามสานักงาน ไ ด้ ย า ก ใ น ก ร ณี ต่ า ง ๆ อั น จ ะ มี ผ ล ก ร ะ ท บ ก.พ. ก ร ะ เ ทื อ น ต่ อ สั ง ค ม โ ด ย ส่ ว น ร ว ม พิ จ า ร ณ า 1๔ การเงนิ และบัญชี ปัญหาและให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือตาม หลักการสังคมสงเคราะหแ์ ละปฏิบัติหนา้ ที่อน่ื ทเ่ี กี่ยวขอ้ ง สายงานนีค้ ลุมถงึ ตาแหนงตาง ๆ ที่ปฏิบัตงิ าน กายอปุ กรณ ซึง่ มีลักษณะงานท่ปี ฏบิ ัติเก่ียวกบั การออกแบบ การประดิษฐอุปกรณ ชวยคน พิการการตรวจสอบ ตกแตง ดัดแปลงแกไข เสริมแตง และ พัฒนาอุปกรณชวย คน พิการ ให เหมาะ สมกับความพิการ ตาม ห ลั ก วิชาการ และปฏิบตั ิหนาท่อี ื่นทีเ่ กีย่ วข้อง สายงานนี้คลุมถึงตาแหน่งต่างๆ ท่ีปฏิบัติงาน ทางการเงนิ และบัญชซี ึ่งมลี กั ษณะงานทีป่ ฏบิ ัติ ค่อนขา้ งยากเกย่ี วกับการเงิน การงบประมาณ และการบญั ชที ั่วไปของส่วนราชการ เชน่ การ ตรวจสอบ หลักฐานใบสาคัญคู่จ่ายเงิน ลงบัญชี ทารายงาน การบัญชีรวบรวม ร า ย ล ะ เ อี ย ด ข้ อ มู ล เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ข อ จั ด ต้ั ง งบประมาณ รายรบั -รายจา่ ยประจาปี ทา หนังสือชี้แจง โต้ตอบ ด้านงบประมาณ พิจารณาจัดสรร งบประมาณรายจ่ายและ ปฏิบตั หิ นา้ ท่อี ื่นที่เก่ยี วขอ้ ง

๑๑ ท่ี ตาแหน่ง มาตรฐาน ลกั ษณะงาน อัตรากาลงั 1๕ เจา้ หนา้ ท่ีพัสดุ กาหนดตาแหนง่ 2 คน : 1 โรงเรยี น ตามสานักงาน สายงานน้ีคลุมถึงตาแหนงตางๆ ท่ีปฏิบัติงาน 1๖ เจา้ หน้าท่ีเรอื นนอน ทางการพัสดุทั่วไปของส วนราชการ ซึ่งมี 2 คน : 1 เรือน 1๗ เจ้าพนกั งานธุรการ ก.พ. ลักษณะ งานท่ีปฏิบัติเกยี่ วกับการจัดหาจดั ซ้อื นอน/หอนอน การเบิกจายการเก็บรักษาการซอมแซมและ 1 คน : 1 โรงเรยี น 1๘ นักปรบั พฤติกรรม กาหนดใหม่ บารุงรักษาการทาบัญชีทะเบียนพัสดุการเก็บ กาหนดใหม่ รักษาใบสาคัญ หลักฐานและเอกสารเกี่ยวกับ 1 คน : 1 โรงเรียน พัสดุ การแทงจาหนายพัสดุที่ชารุด การทา กาหนดใหม่ สั ญ ญ า ก า ร ต อ อ า ยุ สั ญ ญ า แ ล ะ ก า ร เปล่ียนแปลงสัญญาซ้ือ หรือสัญญาจาง และ ปฏบิ ัติหนาทอ่ี นื่ ท่เี กย่ี วของ สายงานน้ีคลุมถึงตาแหนงตางๆ ที่ปฏิบัติงาน ธุรการและงานสารบรรณ ซ่ึงมีลักษณะงาน ท่ปี ฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั การรางโตตอบ บันทึก ย อเร่ือง ตรวจทานหนังสือการดาเนินการ เก่ียวกับเอกสารสิทธิ์ ในทรัพยสินของทาง ราชการ การดาเนินการเก่ียวกับพัสดุครุภณั ฑ การตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลง รายการและ เ ก็ บ รั ก ษ า เ อ ก ส า ร ส า คั ญ ข อ ง ท า ง ร า ช ก า ร การรวบรวมข อมูลหรือจัดเตรียมเอกสาร การ เตรียมการประชุมและจดบันทึกรายงาน การประชมุ และปฏบิ ตั หิ นาทอ่ี ืน่ ทเี่ กีย่ วข้อง ๑๙ เจ้าหนา้ ท่ีฝึกทักษะการ กาหนดใหม่ 1 คน : 1 โรงเรียน เคล่ือนไหว(O&M)

๑๒ ขอ้ สรปุ แบบสารวจการแสดงความคิดเห็นข้อมลู กรอบอัตรากาลงั (สาหรบั ผ้บู รหิ าร) โรงเรียนศกึ ษาสงเคราะห/์ ราชประชานุเคราะห์ โรงเรยี นเฉพาะความพกิ ารและศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษ

๑๓ ข้อสรุปสภาพปญั หาในการจดั การศึกษา และแนวทางการแก้ปัญหา โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ สภาพปญั หาด้านคณุ ภาพผเู้ รยี น 1. นกั เรียนมีความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลค่อนขา้ งมาก ส่งผลต่อการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน 2. นกั เรยี นมพี ื้นฐานทางด้านวิชาการนอ้ ยมาก ขาดการเรียนอย่างต่อเนอื่ ง 3. นักเรยี นมจี านวนมากกวา่ อตั รากาลงั ตอ่ ครูท่รี บั ผดิ ชอบนักเรยี นแต่ละประเภท 4. เน่ืองจากนักเรียนมีพื้นฐานความแตกต่างไม่เท่ากัน มีปัญหาด้านสุขภาพ,ด้านสังคมจึงทาให้ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนต่า สภาพปัญหาด้านระบบดแู ลช่วยเหลือนกั เรยี น 1. ขาดบุคลากรทม่ี ีความรู้ด้านจติ วิทยาสาหรับเด็ก 2. มนี ักเรยี นออกกลางคนั เยอะมาก 3. จานวนนักเรียนมีจานวนเยอะและมีความบกพร่อง 3 ประเภทข้ึนไป ทาให้ครูไม่สามารถดูแล นักเรยี นได้อย่างใกลช้ ดิ และตรงตามความตอ้ งการจาเป็นพิเศษของนักเรียนแตล่ ะประเภท 4. เน่ืองจากโรงเรยี นรบั เด็กมีปัญหาจากหนว่ ยงานต่าง ๆ และเด็กด้อยโอกาส 10 ประเภท จึงทาให้ การจดั การศึกษามีปัญหาทีแ่ ตกต่างกันไป 5. จานวนนักเรยี นในแต่ละหอนอนมจี านวนมากกวา่ เกณฑ์จึงทาให้ไม่สามารถดูแลได้อย่างทวั่ ถงึ 6. เน่ืองจากนักเรียนบางส่วนอาศัยอยู่ต่างจังหวัด ทาให้ครูไม่สามารถดาเนินการด้านระบบดูแล ช่วยเหลือนักเรียนไดค้ รบถ้วน ไปเยย่ี มบ้านนักเรยี นไม่ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ 7. นกั เรยี นประจาแต่ละหอพักมีจานวนนกั เรยี นมากกว่าครูประจาหอพกั ทาใหก้ ารดูแลไม่ทั่วถึงและ ครปู ระจาหอนอนมภี าระหน้าท่ีทต่ี อ้ งรบั ผดิ ชอบหลายอยา่ ง แนวทางการแก้ปญั หา 1. จัดอัตรากาลังท่ีครูให้เพียงพอกับจานวนนักเรียน เช่น ครูแนะแนว ครูเรือนพยาบาล นักจติ วทิ ยา ครูการศกึ ษาพิเศษ พ่ีเลีย้ งเด็กพิการ 2. จัดบคุ ลากรดแู ลนักเรียนหอหักโดยเฉพาะและให้เพียงพอตอ่ จานวนนกั เรยี น 3. ต้องการนักจติ วทิ ยาเพอ่ื ให้คาปรกึ ษาและร่วมแกไ้ ขปญั หาของนกั เรียน 4. จัดอัตรากาลังครูท่ีมีความสามารถพิเศษเฉพาะด้าน ตามความขาดแคลนเพ่ือเสริมทักษะการ ดารงชีวิตของนักเรียนได้จริง เช่น นักจิตวิทยาคลินิก วิศวกรรม ช่างต่าง ๆ นักออกแบบ นักโภชนาการ พยาบาล ซงึ่ วชิ าเอกนี้ สว่ นใหญไ่ ม่มวี ฒุ ิทางการศึกษา (วฒุ คิ รู) 5. ต้องการงบประมาณดาเนนิ การจ้าง ครอู ตั ราจา้ ง 6. ต้องการครูผู้สอนในวิชาเอกท่ีขาดแคลน เน่ืองจากบางวชิ าเอกครไู ด้เกษียณอายุราชการ ทาให้การ จัดการเรยี นการสอนของครไู มต่ รงตามวชิ าเอก 7. ต้องการเจ้าหนา้ ทีง่ านอนามัยแบบอยู่ประจาการในโรงเรียน 8. จดั บุคลากรสง่ เสรมิ +สนับสนนุ เช่น ภารโรง คนงาน เจ้าหน้าทพี่ ยาบาล แมบ่ ้าน คนครวั พนกั งาน ขับรถ ยาม เพมิ่ เตมิ ใหม้ าทางานแทนพีเ่ ล้ยี งเด็กพกิ าร (ปัจจบุ นั ให้พีเ่ ลยี้ งเดก็ พิการทาหน้าทแี่ ทน) 9. ต้องการบุคลากร ทนแทนลกู จ้างประจาท่เี กษียณอายุราชการ 10. ตอ้ งการอตั ราเกษียณคืน เพ่อื ลดการขาดแคลนของครผู ู้สอน 11. ตอ้ งการใหโ้ รงเรียนมีเจ้าหนา้ ท่ีงานด้านการเงนิ พสั ดุ บัญชี ทีท่ าหน้าทเี่ ปน็ การเฉพาะดา้ น

๑๔ โรงเรียนเฉพาะความพิการ สภาพปญั หาด้านคณุ ภาพผูเ้ รยี น 1. ปัจจุบันนักเรียนพิการบางประเภทมีจานวนลดลง แต่นักเรียนพิการบางประเภทมีจานวนมากขึ้น ทาใหโ้ รงเรียนประสบปัญหาในการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รยี น 2. จานวนครูและบุคลากรท่ีไม่สอดคล้องกบั จานวนนักเรียน สะท้อนเห็นคุณภาพผู้เรียนทันที โดยการ จดั การศึกษาย่อมมผี ลกระทบอยา่ งแนน่ อน นักเรยี นท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ออทสิ ติก และพิการซอ้ น จาเป็นอย่างยิ่งท่ีต้องการการเรียนรู้เพราะการเรียนรู้สาหรับนักเรียนที่มีความจาเป็นพิเศษ จะไม่เกิดการ พฒั นาการเรยี นร้ใู นทุกด้าน เพอ่ื อยูใ่ นสังคมไดอ้ ย่างมีความสุข 3. พัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคมและจิตใจ ของนักเรียนเปล่ียนแปลงไปในแต่ละช่วงวัย ส่งผลให้การดูแลของครูจาเปน็ ตอ้ งใช้เทคนคิ วิธกี าร ท่ีหลากหลาย และตอ้ งมีการพดู คุย ประสานงานทาความ เขา้ ใจร่วมกันกบั ผูป้ กครองในการแก้ไขปญั หาของนกั เรียน 4. จัดระบบ/รปู แบบ การดูแลช่วยเหลือให้เหมาะสม สอดคล้องกับแต่ละประเภทความพิการ 5. ปัญหาจากความหลากหลายทางระดับความรุนแรงของความพิการทาให้การจัดการศึกษาของ นักเรียน ไม่สามารถยดึ คนใด คนหน่ึงได้ ครูจึงต้องจัดทาและหาส่ือที่เหมาะสม เพื่อใช้สาหรับการจัดการเรียน การสอนกบั นักเรียนท่ีมีระดับความรุนแรงของความพกิ ารที่หลากหลาย เพ่ือให้เหมาะสมกับนกั เรยี นแตล่ ะคน อีกทั้งความต่อเน่ืองในการเรียนการสอนนักเรียน ท่ีมักจะมีอาการเจ็บป่วยบ่อยและเป็นเวลานาน ครูจึงต้อง ออกเย่ียมบ้าน 6. ในการจัดการเรียนการสอนผู้เรียนมีระดับความรนุ แรงของความพกิ ารต่างกันบางคนมีความรนุ แรง มากต้องใช้ครูและพี่เล้ียงประกบผู้เรียนในการเรียนการสอนหรือทากิจกรรมคนต่อคน จึงทาให้การเรียนการ สอนในปัจจุบันบุคลากรไม่เพียงพอต่อการดูแลนักเรียนและจัดกิจกรรมกา รเรียนการสอนบ้านนักเรียนท่ีมี ปญั หาดา้ นสขุ ภาพทบ่ี า้ นในช่วงปิดเทอม เพ่ือทาการสอนเสรมิ ใหก้ ับนักเรียน 7. ในการเรยี นการสอนตอ้ งการให้ผูเ้ รยี นได้สมั ผัสกบั แหล่งเรียนรู้ทงั้ ภายในและภายนอกสถานศึกษาจึง ต้องมีการเคล่ือนย้ายนักเรียนซึ่งในการเคลื่อนย้ายจาเป็นต้องมีผู้ช่วยในการยก การเคลื่อนที่การเข้าห้องน้า โดยเฉพาะการออกไปแหล่งเรียนรู้นอกสถานศึกษาท้ังในจังหวัดและต่างจังหวัดต้องใช้ครู พ่ีเล่ียงในการ ช่วยเหลือนักเรียนจานวนมากแต่เน่ืองจากโรงเรียนมีกาลังคนไม่เพียงพอทาให้นักเรียนขาดประสบการณ์ท่ี หลากหลาย 8. นักเรียนท่ีพักรักษาตัวต้องมีครูเข้าไปติดตามและดูแลด้านการเรียนการสอนเพ่ือไม่ให้การเรียนการ สอนของนกั เรียนหยุดน่งิ ทาให้ไม่สามารถเรียนจบพร้อมเพอื่ นได้ โดยโรงเรยี นได้จัดครเู ข้าไปติดตามนักเรียนที่ อยู่ในกลุ่มนีแ้ ตเ่ นอ่ื งจากบคุ ลากรไม่เพียงพอการติดตามจงึ ไมต่ อ่ เนือ่ ง 9. โรงเรียนเฉพาะความพิการที่จัดการศึกษาให้กับนักเรียน 2 ประเภทความพิการ คือ นักเรียนที่มี ความบกพรอ่ งทางการได้ยิน และนกั เรียนทีม่ คี วามบกพร่องทางสติปัญญา ทาให้ครผู ู้สอนตอ้ งจัดการเรียนรู้ให้ นักเรียนทั้ง 2 ประเภท มีชั่วโมงในการรับผิดชอบในการจัดการเรียนรู้ เฉล่ีย 24 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ และ ปฏบิ ตั ิงานอ่ืน ๆ ตามท่ไี ดร้ ับมอบหมาย ทาให้ไม่สามารถพฒั นาคุณภาพผเู้ รียนไดเ้ ต็มตามศักยภาพ 10. การเยี่ยมบ้านนักเรียน มีอุปสรรค เนื่องจากระยะทางห่างไกลจากสถานศึกษา คลอบคลุมพ้ืนท่ี หลายจังหวดั ทาให้ลาบากในการเดินทาง ต้องใชเ้ วลานานในการออกเยี่ยมบ้านแต่ละครัง้ 11. นกั เรยี นกลมุ่ เสย่ี ง ทม่ี ผี ปู้ กครองบางส่วนขาดความร้คู วามเข้าใจเกยี่ วกับการคมุ กาเนิดนกั เรยี นกลุ่ม เสี่ยงที่มีพฤติกรรมทางเพศ ไม่อยากคุมกาเนิดให้กับลูกหลานทาให้ทางสถานศึกษาลาบากใน การดูแล รับผิดชอบความเสย่ี งทางพฤติกรรมทางเพศของนกั เรยี น

๑๕ 12. ระบบการสง่ ตอ่ นักเรยี น เมื่อจบการศกึ ษานกั เรยี นไมส่ ามารถเขา้ ศึกษาต่อสถานบนั การศกึ ษาอ่ืน ๆ ได้ สถานศึกษาด้านการเรียนรอู้ าชีพไม่เพยี งพอทจ่ี ะรองรบั ผพู้ กิ ารทางสติปัญญา 13. นกั เรียนท่ีมคี วามบกพรอ่ งระดับมาก ตอ้ งไดร้ ับการบาบดั ฟ้ืนฟูเบือ้ งตน้ และควบคู่กับการเรยี นการ สอน ครูและบคุ ลากรควรมเี พียงพอและสามารถจัดกจิ กรรมตามความต้องการจาเปน็ ของผเู้ รียนเป็นรายบคุ คล 14. กาหนดกรอบแนวทางการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เหมาะสม และสอดคล้องแต่ละประเภทความ พิการใหช้ ัดเจน 15. การพฒั นาด้านรา่ งกาย อารมณ์ สงั คมและสตปิ ญั ญา ของนักเรียนทม่ี ีความบกพร่องทางสติปัญญา มีการเปลี่ยนแปลงในแต่ละช่วงวัย ทาให้การดูแลต้องใช้เทคนิคและวิธีการสอนท่ีหลากหลาย ส่วนนักเรียน ออทิสติก ครหู รือผู้เกยี่ วขอ้ งตอ้ งมคี วามเข้าใจและต้องร่วมมือกับผู้ปกครองในการดูแลชว่ ยเหลือนักเรียนกลุ่มนี้ เปน็ พเิ ศษ 16. ด้านระบบดูแลช่วยเหลือ เนื่องจากนักเรียนมท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ผู้ปกครองมีปัญหา ด้านเศรษฐกิจและผูด้ แู ลทีบ่ ้าน โรงเรยี นจงึ รบั ภาระในการดแู ลนกั เรยี นแทนผ้ปู กครอง นกั เรียนมโี รคประจาตัว และปัญหาความพกิ ารระดับรุนแรงเป็นส่วนมากทาใหย้ ากตอ่ การดูแล สภาพปัญหาดา้ นระบบดูแลชว่ ยเหลอื นกั เรยี น 1. มีระบบดแู ลชว่ ยเหลอื นักเรยี น ทีต่ อ้ งดแู ลนกั เรียนตลอด 24 ช่ัวโมง 2. โรงเรียนขาดจานวนบุคลากร ย่อมมีผลกระทบต่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียนตามไปด้วย ซ่ึงเป็น การศกึ ษาวิเคราะหข์ อ้ มลู ของนักเรียนเป็นรายบุคคลเชิงลึก 3. ดา้ นระบบดูแลชว่ ยเหลือ ขาดบคุ ลากรเฉพาะทางในการดแู ลแก้ปญั หานักเรียนอย่างเปน็ ระบบ 4. ด้านคณุ ภาพผเู้ รยี น นกั เรยี นมปี ัญหาสขุ ภาพ โรคประจาตัว มขี ีดจากดั ในการเรยี นรู้ 5. ครบู คุ ลากรทางานหนกั ช่ัวโมงทางาน ความรับผดิ ชอบ 24 ชวั่ โมง 6. โรงเรยี นจาเปน็ ต้องจัดระบบดูแลช่วยเหลือนักเรยี นในหลากหลายด้าน เชน่ ด้านสุขภาพและอนามัย ของนักเรียน ด้านอาหารและโภชนาการ ด้านความปลอดภัย โดยจัดให้นักเรียนทุกคนมีบัตรประกนั อบุ ัติเหตุ (รายป)ี ตอ้ งฝกึ ทกั ษะอาชีพและทักษะการทา้ งานในสถานประกอบการเพ่ือเป็นความรู้พ้ืนฐานใหก้ ับนักเรยี นน้า ไปประกอบอาชพี ในอนาค 7. ครูทบี่ รรจุในตาแหน่ง บัญชี การเงนิ พัสดุ ไม่ควรมีช่ัวโมงการสอน (ตามเกณฑ์ไมน่ ้อยกว่า 18 คาบ/ สัปดาห)์ 8. ควรมี Job Coach ที่เป็นผู้ติดต่อประสานงานระหว่างโรงเรียนกับสถานประกอบการ หน่วยงาน ราชการทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับการจา้ งงานคนพิการ เพือ่ สง่ ต่อการจ้างงานคนพิการ 9. โรงเรยี นมกี ารจัดรูปแบบการใหบ้ รหิ ารในลกั ษณะ บ.พ.ร. หมายถงึ บ. คอื บ้าน โรงเรียนจึงเสมือน บ้าน เนื่องจากนักเรียนพกั อาศัยอยู่ในโรงเรียน 24 ชั่วโมงจึงจัดให้มีกิจกรรมการดารงชีวิตอยู่ร่วมกันเหมอื น การอยู่ในครอบครวั เดยี วกนั ให้มากท่สี ดุ มีพอ่ ครแู ม่ครู นักเรียนคือลูก ๆ ทมี่ ีพ่นี ้องเรียนเป็นแบบอยา่ งและคอย ช่วยเหลือน้อง ๆ พ. คือโรงพยาบาล โรงเรียนจึงเสมือนโรงพยาบาล เน่ืองจากนักเรียนท่ีมีความบกพร่อง ทางด้านร่างกาย การเคลื่อนไหว หรือสุขภาพ จึงต้องได้รับการรักษา บาบัดฟื้นฟู โดยโรงเรียนมีห้อง กายภาพบาบัดและห้องพยาบาลท่ีได้มาตรฐานในระดับหน่ึง ร. คือโรงเรียน โรงเรียนจึงเป็นเสมือน สถานศึกษา โดยได้จดั การเรยี นการสอนเชน่ เดยี วกบั นักเรียนปกตทิ ่วั ไป

๑๖ แนวทางการแก้ปญั หา 1. ต้องการครูและบคุ ลากรทม่ี ีความรู้ความสามารถในการพัฒนาดา้ นการสอนนกั เรียนท่มี ีความพิการที่ หลากหลาย 2. บคุ ลากรเฉพาะทาง เชน่ งานการเงิน งานพัสดุ พนกั งานขบั รถ 3. จัดสรรบุคลากรในการดูแลนักเรียนให้ชัดเจน เช่น บุคลากรดูแลนักเรียนที่หอนอน บุคลากรดูแล นักเรียนท่ีเจ็บปวด โดยแยกจากครูผู้สอน แม่บ้านประจาหอนอนในการดูแลรักษาความสะอาด ซักเส้ือผ้าให้ นักเรียน มีพนักงานขับรถ อยู่ประจา 24 ช่ัวโมง มีพ่ีเล้ียงประจาห้องเรียน มีแม่ครัว ประจาโรงครัว ดูแล เร่ืองอาหาร 3 ม้ือทุกวนั 4. มีความตอ้ งการบุคลากรเฉพาะทาง ที่มีความรูแ้ ละประสบการณ์ตรงเกยี่ วกับดแู ลป่วยและโรคต่าง ๆ ของนกั เรยี นโดยตรง 5. เครือข่ายหน่วยงานท่ีรับผิดชอบดูแลนักเรียนประจาข้อมูลท่ีต้องการจาเป็นในการดูแลนักเรียน ประจา 6. เพิ่มบคุ ลากรสายสนบั สนนุ เปน็ พีเ่ ลี้ยง คนงาน คนครวั พนักงานขบั รถ ยาม ให้เพียงพอ 7. เปล่ียนเกณฑ์จานวนนักเรียนต่อครู เกณฑ์จานวนนักเรียนต่อห้องนักเรียนท่ีมีความบกพร่องทาง ร่างกาย หรอื การเคลือ่ นไหวและพิการซอ้ น 8. สนับสนุนอัตรากาลังตาแหน่ง พยาบาล นักกายอุปกรณ์ นักจิตวิทยา นักกิจกรรมบาบัด เจ้าหน้าที่ ดแู ลนกั เรยี น ในโรงเรียนเฉพาะความพกิ าร ประเภทบกพร่องทางร่างกายหรือการเคล่อื นไหวหรอื สุขภาพ 9. สนับสนุนกรอบอัตรากาลังเฉพาะสาหรับบุคลากรในตาแหน่งครูปฏิบัติการสอนทาหน้าท่ีสนับสนนุ การสอน 18 หน้าท่ี เช่น งานโภชนาการ งานอนามัยนักเรียน แนะแนวและจิตวิทยา บรรณารักษ์ ธุรการ การเงินและบัญชี โสตทัศนศึกษา กิจกรรมนักเรียน ทะเบียนและวัดผล พัสดุ แผนงานประเมินผล ปกครอง กิจกรรมบาบัด กายภาพบาบัด อรรถบาบดั สงั คมสงเคราะห์ คอมพิวเตอรแ์ ละโสตสัมผัสวิทยา 10. ส่งเสริมใหค้ รูและบคุ ลากรใหม้ คี วามรู้เกี่ยวกับการดแู ลเด็กพิการ 11. จานวนบุคลากรทั้งครู และบุคลากรอื่น ๆ ท่ีเพิ่มมากข้ึน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดกับนักเรียนได้ รวดเร็วทนั เวลา 12. งบประมาณรปู แบบกองทนุ ให้ก้ยู มื เพอ่ื ช่วยเหลอื แก้ไขปัญหาดา้ นหนี้สนิ สาหรับบุคลากร 13. ต้องการใหม้ ีโครงการสาหรบั ตรวจสุขภาพประจาปีสาหรบั บุคลากรทางการศกึ ษา ตอ่ เนื่องทุกปี 14. ตาแหน่งพี่เลี้ยงเด็กพิการที่ได้รับจัดสรรจะทาสัญญาครั้งละ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี ค่าจ้าง เดือนละ 9,000 บาท ทาให้รายได้ไม่เพียงพอกับรายจ่าย ค่าครองชีพของจังหวัดภูเก็ตสูง ทาให้ต้องมีการ ปรับเปลีย่ นบุคลากรอยู่บอ่ ย สง่ ผลให้งานในแต่ละฝา่ ยขาดความตอ่ เนอ่ื ง 15. อตั รากาลังครพู ยาบาลท่จี บตรงการสายงาน 16. โรงเรียนมนี กั เรยี นท่ีมีความบกพร่องทางสติปัญญา ซึง่ มีระดับ IQ ทแี่ ตกตา่ งกันทาให้ไมส่ ามารถจัด จานวนนกั เรยี นต่อครทู เี่ ทา่ กันได้ จึงตอ้ งการเพม่ิ บุคลากรครใู นการจัดการเรยี นการสอน 17. การพัฒนารปู แบบความสามารถในการใช้เทคโนโลยใี นการจัดการเรียนการสอนสาหรบั ครู

๑๗ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษ สภาพปัญหาด้านคณุ ภาพผ้เู รยี น 1. ในด้านการจัดการศึกษาสาหรับเด็กพิการในศูนย์การศึกษาพิเศษยังมีบุคลากรทางด้าน นักสหวิชาชพี เชน่ นกั อรรถบาบดั นกั กายภาพบาบดั นกั กจิ กรรมบาบัด ครกู ารศึกษาพิเศษ นักจติ วิทยาคลินิก ฯลฯ ไมเ่ พียงพอต่อการจัดการศกึ ษาให้แกเ่ ดก็ พิการ สง่ ผลใหเ้ ดก็ พกิ ารทเ่ี ข้ารบั บริการไดร้ บั การจดั การศกึ ษาไม่ ครอบคลมุ ทุกความต้องการตามประเภทความพกิ าร 2. ปัญหาด้านตัวผู้เรียนพิการมีความพิการรุนแรง มีความพิการซ้อน บางรายมีโรคแทรกซ้อน ส่วน ใหญ่ยังไม่สามารถดูแลช่วยเหลือตนเองในการทากิจวตั รประจาวนั ได้ ทาให้ต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดท้งั ทางการแพทย์ การฟื้นฟสู มรรถภาพ และการศึกษา ในระหวา่ งที่มารับบรกิ าร 3. นักเรียนของศูนย์การศึกษาพิเศษส่วนใหญ่ มีความรุนแรง และมีข้อจากัดในเร่อื งของสภาพความ พิการ อีกท้ังจานวนนักเรยี นมีมากกวา่ ครู ทาให้ไมส่ ามารถพฒั นาผู้เรยี นได้เต็มตามศักยภาพ 4. ขาดครูทีม่ คี วามรู้ ความสามารถเฉพาะทางทเ่ี พียงพอในการสอนเด็ก ทาใหไ้ มส่ ามารถจัดการเรียน การสอนได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ 5. บุคลากรด้านการสอนไม่เพียงพอในการจัดการเรียนการสอน ส่งผลให้การศึกษาไม่เป็นไปตาม แผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล (IEP) 6. จานวนบุคลากรครไู มเ่ พยี งพอตอ่ การกระจายในทกุ อาเภอ 7. อัตราสว่ นครตู อ่ นักเรียนไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑ์ทีก่ าหนด แตก่ ารบรหิ ารจดั การด้านการเรียนการสอน ให้ครอบคลมุ ทกุ พน้ื ท่ีดีส่งผลให้นักเรียนมีศกั ยภาพท่ี ถา้ ไดค้ รตู ามเกณฑ์อตั ราท่ีกาหนดจะสง่ ผลให้นกั เรียน มีพฒั นาการที่ดยี ่ิงขน้ึ ตอ่ ไป 8. เน่ืองจากผู้เรยี นที่รบั บรกิ ารท่ีบา้ นมีจานวนมากกวา่ ผู้เรียนที่รบั บริการท่ีศนู ย์ฯ และพ้ืนทใ่ี ห้บริการ อยู่หา่ งไกลกัน มีความทรุ กนั ดาร ทาให้ผ้เู รยี นได้รบั บริการไม่ตอ่ เน่ือง สภาพปญั หาด้านระบบดูแลชว่ ยเหลือนักเรียน 1. ในด้านระบบดูแลช่วยเหลือของศูนย์ฯ ยังต้องการบุคลากรสนับสนุน ส่งเสริมดูแลช่วยเหลือ นักเรียนในด้านสุขภาพ ด้านโภชนาการ ด้านการให้คาปรึกษา ฯลฯ จากครู นักสหวิชาชีพ และบุคลากรด้าน การสนับสนนุ ตา่ ง ๆ ทีช่ ่วยในการดแู ลช่วยเหลอื นักเรียนให้มปี ระสิทธภิ าพมากยิ่งขนึ้ 2. ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของศูนย์ฯ ยังไม่สามารถให้ความช่วยเหลือเด็กพิการได้อย่าง ครอบคลุม เน่ืองจากปัญหาส่วนใหญ่คือ ครอบครัวเด็กพิการมีฐานะยากจน อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มี ความเสี่ยง เช่น เส่ียงต่อการเป็นโรคขาดสารอาหาร โรคติดต่อ โรคแทรกซ้อน เสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิดทาง เพศ การกระทารุนแรง ยาเสพตดิ อาชญากรรม อย่ใู นถ่ินทรุ กันดาร 3. มีระบบดูแลช่วยเหลอื นกั เรียน แต่ไม่ครอบคลมุ ถึงผ้เู รียน เน่ืองจากบคุ ลากรมไี ม่เพียงพอ 4. ไมม่ บี ุคลากรสนบั สนุนด้านสขุ ภาพ อนามัย แนวทางการแก้ปญั หา 1. บุคลากรฝา่ ยสนบั สนนุ งานดแู ลชว่ ยเหลอื ผูเ้ รยี นพกิ าร เชน่ พยาบาล หรือผู้ชว่ ยพยาบาล นักสงั คม สงเคราะห์ แพทยแ์ ผนไทย นกั แกไ้ ขการพูด นกั โภชนาการ นกั กายภาพบาบดั นักกิจกรรมบาบดั นักจิตวิทยา คลินิก นักกายอุปกรณ์ นักให้คาปรึกษาในงานฟื้นฟูสมรรถภาพคนพิการ นักดนตรีบาบัด นักศิลปะบาบัด ฯลฯ

๑๘ 2. จัดบุคลากรให้เหมาะสมเพียงพอ เช่น ครูพยาบาล นักจิตวิทยา ครูกิจกรรมบาบัด สาหรับหน่วย บริการที่จัดขึ้น ได้แก่ ครู พนักงานราชการ หรือครูอัตราจ้าง ให้เหมะสมกับนักเรียนที่มารับบริการท่ีหน่วย บรกิ ารและให้สอดคลอ้ งกบั ประเภทความพิการ 3. เพิม่ อตั รากาลงั บรรจุขา้ ราชการ/ตอ้ งการอัตราเกษยี ณคนื เพื่อลดการขาดแคลนของครูผสู้ อน 4. เพิ่มอัตราการจ้างพี่เลี้ยงเด็กพิการ เพื่อกระจายการดูแลเด็กพิการไปที่หน่วยบริการแต่ละอาเภอ เนอ่ื งจากเดก็ มารับบริการเพิ่มมากขน้ึ 5. ต้องการพนกั งานขบั รถ เนือ่ งจากปจั จุบันให้คณุ ครูเปน็ ผู้ขบั รถเม่ือต้องการไปตดิ ต่อราชการ ซง่ึ ไม่สอดคลอ้ งกับภาระหนา้ ท่ีของครู 6. ผลกระทบจากการที่สานักบริหารงานการศึกษาพเิ ศษให้ชะลอการจ้างพนักงานราชการ ตาแหน่ง ครผู ูส้ อนเม่ือวา่ งลงจากเหตุอื่น ๆ ตามหนงั สอื สานกั บริหารงานการศกึ ษาพิเศษ ท่ี ศธ 04007.06/2609 ลง วันท่ี 14 กรกฎาคม 2563 ส่งผลกระทบต่อการขาดแคลนบุคลากรด้านการจัดการเรียนการสอน จึงมีความ ตอ้ งการให้หนว่ ยงานตน้ สังกัดอนุญาตใหด้ าเนนิ การสรรหาบคุ คลเพอื่ ปฏิบตั ิหน้าที่ในตาแหนง่ ทว่ี า่ งลง 7. ขาดบุคลากรตาแหน่งผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปฏิบัติงานในหน้าท่ียาม และไม่มีเงินนอก งบประมาณ ทีม่ าสนบั สนุนการดาเนินการจา้ งบคุ คลภายนอกให้มาปฏิบัตหิ นา้ ท่ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook