Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หน่วยที่ 6 อุปกรณ์ติดตั้งระบบไฟฟ้า

หน่วยที่ 6 อุปกรณ์ติดตั้งระบบไฟฟ้า

Published by stp_1975, 2019-06-08 04:34:39

Description: หน่วยที่ 6 อุปกรณ์ติดตั้งระบบไฟฟ้า

Search

Read the Text Version

วัสดุและอปุ กรณท์ ใี่ ชใ้ นงานระบบไฟฟา้ 1. สายไฟฟ้า การเลือกใช้สายไฟฟ้า 1.1 ใช้เฉพาะสายไฟฟ้าทไ่ี ด้มาตรฐาน จากสานกั งานมาตรฐานผลิตภณั ฑ์อุตสาหกรรม (มเี คร่อื งหมาย มอก.11) เท่าน้ัน 1.2 สายไฟฟ้าชนดิ ทีใ่ ชเ้ ดินภายในอาคารหา้ มนาไปใช้เดนิ นอกอาคาร เพราะแสงแดดจะทาใหฉ้ นวนแตกกรอบ ชารดุ สายไฟชนิดทใี่ ช้เดินนอกอาคารมกั จะมีการเตมิ สารป้องกันแสงแดดไวใ้ นเปลือกหรอื ฉนวนของสาย สาร ป้องกนั แสงแดดส่วนใหญท่ ใ่ี ช้กันมากนนั้ จะเปน็ สดี า แต่อาจจะเป็นสอี ื่นก็ได้ การเดินร้อยในท่อก็มสี ่วนช่วย ปอ้ งกนั ฉนวนของสายจากแสงแดดไดใ้ นระดับหน่ึง 1.3 เลอื กใชช้ นิดของสายไฟให้เหมาะสมกับสภาพการติดต้ังใช้งาน เช่น สายไฟชนดิ อ่อนหา้ มนาไปใช้เดนิ ยึด ติดกับผนงั หรอื ลากผ่านบรเิ วณท่มี กี ารกดทบั สาย เช่น ลอดผา่ นบานพับประตหู น้าต่าง หรอื ตู้ เนือ่ งจากฉนวน ของสายไมส่ ามารถรับแรงกดกระแทกจากอุปกรณ์จบั ยึดสายหรือบานพับ ได้ การเดนิ สายใต้ดนิ กต็ ้องใชช้ นิดท่ี เป็นสายใต้ดนิ (เช่น สายชนดิ NYY) พร้อมทั้งมีการเดนิ ร้อยในท่อเพอื่ ปอ้ งกันสายใต้ดินไมใ่ หเ้ สียหาย เปน็ ต้น 1.4 ขนาดของสายไฟฟา้ ตอ้ งใช้สายตัวนาทองแดงและเลือกให้เหมาะสมกับขนาดแรงดนั ไฟฟา้ (1 เฟส หรอื 3 เฟส) ปรมิ าณกระแสไฟฟา้ ท่ีใช้งาน และสอดคล้องกับขนาดของฟิวสห์ รือสวิตช์อตั โนมัติ (เบรกเกอร)์ ทีใ่ ช้ สาหรับขนาดสายเมนและสายตอ่ หลักดินนน้ั กต็ อ้ งสอดคล้องกบั ขนาดของเมนสวิตชแ์ ละ ขนาดของเครื่องวดั ฯ ด้วย ตามตารางต่อไปนี้ ตารางที่ 1 ขนาดสายไฟฟ้าตามขนาดของเมนสวติ ช์

1.5 ขนาดของสายต่อหลักดนิ ต้องมีขนาดไมเ่ ล็กกวา่ ที่กาหนดไวใ้ นตารางตอ่ ไปน้ี ตารางที่ 2 ขนาดต่าสุดของสายต่อหลักดนิ หมายเหตุ การเลือกขนาดสายต่อหลักดนิ โดยพจิ ารณาจากขนาดตวั นาประธาน (สายเมน) ของระบบไฟฟ้า 1.6 มาตรฐานสีของฉนวนไฟฟ้า

2. มิเตอรไ์ ฟฟา้ เป็นเคร่ืองวัดพลงั งานไฟฟ้าทเี่ ราใชใ้ นเดือนหนง่ึ ๆ โดยมมี อเตอรท์ มี่ าตรไฟฟ้าคอยหมุนตวั เลข บอกคา่ พลังงานไฟฟา้ ที่ใชไ้ ปเปน็ ก่ี กิโลวัตต/์ ชัว่ โมง หรือยนู ิต หรือหน่วย 3. เมนสวติ ช์ เปน็ อปุ กรณ์ตัวหลักท่ีใช้ตัดตอ่ วงจรไฟฟา้ ของสายเมนเขา้ อาคารกับสายภายในทัง้ หมด จงึ เปน็ อปุ กรณส์ บั -เปล่ียนวงจรไฟฟ้าตัวแรกถัดจากมิเตอรว์ ดั หน่วยไฟฟา้ เขา้ มา ในบ้าน เมนสวิตช์อาจเป็นอปุ กรณ์ตดั ไฟหลักตวั เดียว หรอื จะอยู่รวมกับอปุ กรณอ์ ่นื ๆในตู้แผงสวติ ช์

4. สวติ ช์ตัดไฟอตั โนมัติ (เซอร์กิตเบรคเกอร)์ เป็นอุปกรณท์ ีส่ ามารถใช้ตัดหรือตอ่ วงจรไฟฟ้าได้ในขณะใช้งาน ปกติ และยังสามารถตัดกระแสไฟฟ้าเกินหรอื กระแสไฟฟา้ ลดั วงจรโดยอัตโนมตั ิได้ด้วย ทง้ั น้ีการเลือกใชเ้ บรก เกอร์จะตอ้ งเลอื กขนาดพิกดั ในการตดั กระแสลัดวงจร (IC) ของเบรกเกอรใ์ หส้ ูงกว่าขนาดกระแสลัดวงจรที่ เกดิ ขึน้ ในวงจรน้นั ๆ 5. ฟิวส์ (Fuse) เปน็ อปุ กรณ์ปอ้ งกนั กระแสไฟฟ้าเกนิ ชนิดหนึ่งทาหนา้ ที่ตัดไฟฟา้ โดยอตั โนมตั ิ เม่ือมีกระแส ไฟฟา้ ไหลเกนิ คา่ ท่ีกาหนด ซง่ึ เมอื่ ฟิวส์ทางานแล้วจะต้องเปลย่ี นฟวิ ส์ใหม่ ฟิวส์ทีใ่ ช้เปลี่ยนตอ้ งมีขนาดกระแสไม่ เกนิ ขนาดฟิวสเ์ ดิม และตอ้ งมขี นาดพิกดั การตัดกระแสลดั วงจร (IC) สูงกวา่ ขนาดกระแสลดั วงจรสงู สดุ ที่ไหล ผา่ นฟวิ ส์

6. เคร่อื งตดั ไฟร่วั หรอื เครื่องตัดวงจร เมื่อมีกระแสไฟฟา้ รวั่ ลงดินเปน็ สวิตช์อตั โนมตั ทิ ส่ี ามารถปลดวงจรเมือ่ มี กระแสไฟฟา้ รว่ั ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ ภายในระยะเวลาทก่ี าหนดไว้เครื่องตัดไฟร่ัวมกั จะเป็นอุปกรณเ์ สรมิ เพื่อใช้ ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด โดยเฉพาะจะใช้ไดด้ ีเมอื่ ใชก้ ับระบบไฟฟ้าท่ีมีสายดนิ อยแู่ ล้วและจะชว่ ย ปอ้ งกัน อัคคภี ยั จากไฟฟ้ารว่ั ได้อีกด้วย เคร่ืองตดั ไฟรัว่ นจ้ี ะตอ้ งมปี ุม่ สาหรับกดเพื่อทดสอบการทางานอยู่เสมอ

7. หลักดิน (Ground Rod หรอื Grounding Electrode หรือ Earth Electrode) เป็นแทง่ หรอื แผน่ โลหะทีฝ่ งั อยู่ในดิน เพอ่ื ทาหนา้ ทแี่ พรห่ รอื กระจายประจุไฟฟา้ หรอื กระแสไฟฟา้ ให้ไหลลงสดู่ ินได้โดย สะดวก วัตถทุ ่ีจะนามาใชเ้ ป็นหลกั ดิน เชน่ แท่งทองแดงขนาดเส้นผ่าศูนยก์ ลาง 16 มิลลเิ มตร (5/8 น้ิว) ความยาว มาตรฐานต้องยาวไมน่ อ้ ยกว่า 2.40 เมตร เปน็ ตน้

8. ตุม้ หรือลูกถ้วย เป็นอุปกรณท์ ใ่ี ชร้ องรับสายไฟ ทาหนา้ ท่ีเปน็ ฉนวนและปอ้ งกันมิใหก้ ระแสไฟฟา้ ร่ัวลงดนิ หรอื ลดั วงจรลงดิน 9. หลอดไฟฟา้ (Lamp) ทาหน้าท่ีใหแ้ สงสวา่ งสาหรบั สถานที่ปฏิบัติงาน หรือที่อยู่อาศยั การตดิ ตง้ั ระบบ ส่องสว่างควรคานึงถึงปจั จัยตา่ ง ๆ ในการจดั แสง และส่งิ ทจ่ี าเปน็ อย่างย่งิ นัน้ ก็คือการเลือกประเภทและชนิด ของหลอดไฟฟา้ โดยปกติทั่วหลอดไฟฟ้าไปแบ่งออกได้เปน็ 3 ประเภทคอื 9.1 หลอดไฟฟ้าชนดิ มีไส้ (Filament Lamp) เป็นหลอดไฟฟา้ ทน่ี ิยมใชใ้ นรุ่นแรก ๆ หรอื บางทกี่ ็เรียกว่า หลอดธรรมดา องค์ประกอบของหลอดประกอบดว้ ย หลอดแก้ว, ไสห้ ลอด, (สว่ นไสห้ ลอดทาจากทังสเตน) เสน้ ลวดที่ตอ่ เขา้ กับขัว้ หลอด, ลวดยึดไสห้ ลอด,และก้านหลอดยึดไส้, ปัจจุบนั นิยมใชไ้ ม่มากนกั เพราะให้กาลงั ส่องสว่างน้อยกว่าหลอดประเภทอ่ืน

ในกรณกี าลงั วัตตเ์ ท่ากนั มีจาหนว่ ยในทอ้ งตลาดมหี ลายขนาด เช่น 40วัตต์ 60วตั ต์ 80วัตต์ 100วตั ต์ ฯลฯ อายกุ ารใช้งานประมาณ 1000 ช่ัวโมง หลอดประเภทน้ีมอี ยู่ 2 ลักษณะ คอื ชนดิ แบบเขย้ี ว และชนิด แบบเกลียว 9.2 หลอดไฟฟา้ ชนดิ เรอื งแสง (Fluorescent Lamp) หรือเรียกวา่ หลอดฟลอู อเรสเซนต์หลอดไฟฟ้า ประเภทน้ีมปี ระสิทธิภาพสูงกว่าหลอดไฟฟ้าธรรมดา ถึง 4 เท่า ใหแ้ สงสว่างทเี่ ยน็ ตามากกวา่ รวมท้ังอุณหภมู ิ ความรอ้ นท่เี กดิ ขนึ้ จากหลอดน้อยกว่า ส่วนประกอบทส่ี าคญั ของหลอดประกอบดว้ ย 1) ตวั หลอด 2) ข้วั หลอด 3) ไสห้ ลอด 4) สารบรรจุภายในหลอด เชน่ อารก์ อน และไอปรอท หลอดไฟฟา้ ชนิดฟลอู อเรสเซนตท์ ่ีจาหน่วยในท้องตลาด มหี ลายลักษณะเชน่ หลอดฟลูออเรสเซนต์ ธรรมดา หลอดฟลูออเรสเซนต์แบบวงกลม (32 วตั ต)์ แบบยาวตรง (18,36 วตั ต์) และหลอดฟลูออเรสเซนต์ แบบคอมแพค (Compact) หรอื หลอดตะเกยี บ

9.3 หลอดไฟฟ้าชนิดอาศยั การอาร์ค หรือหลอดไฟชนดิ คายประจุ หลอดประเภทนี้ใชก้ ระแสไฟฟ้ามากใน การทางานไม่นิยมใช้ในบา้ นเรอื นทั่วไป สว่ นใหญ่จะใชเ้ ฉพาะจุดหรือพืน้ ที่ตอ้ งการแสงสวา่ งมาก ๆ หลอด ไฟฟา้ ชนิดน้ีมหี ลายแบบ เชน่ หลอดไอปรอท หลอดฮาโลเจน หลอดโซเดียม หรอื หลอดแสงจนั ทร์

แสงสขี องหลอด สีมอี ทิ ธพิ ลตอ่ ความรู้สึกและอารมณ์ของมนษุ ย์ แสงทสี่ อ่ งกระทบวตั ถุสามารถทาให้สขี อง วัตถเุ ปล่ยี นได้ ถ้าเลอื กสีไดถ้ ูกต้องจะทาใหม้ องสีของวัตถไุ มผ่ ดิ เพ้ยี น และยงั ชว่ ยเพม่ิ บรรยากาศในการทางาน ได้ด้วย หลอดฟลูออเรสเซนต์จึงมแี สงสีตา่ ง ๆ หลายสเี พ่อื ใหเ้ ลอื กใชต้ รงกบั ต้องการของงาน แสงที่เรยี กว่า เดย์ไลท์(DAY LIGHT) เปน็ แสงทม่ี ีสใี กล้เคียงกบั สขี องแสงแดด ทาใหก้ ารมองเหน็ วัตถทุ ่สี ่อง ด้วยแสงเดย์ไลท์เหมอื นกบั ท่ีมองตอนกลางวนั ในบางประเทศที่ไม่ค่อยมีแสงแดดจะนยิ มใชห้ ลอดชนดิ น้ี เพอ่ื ใหค้ วามรสู้ กึ วา่ มี แสงแดด หลอดวอร์มไวท์ (WARM WHITE) สี ของแสงจะออกไปทางแดงปนเหลืองให้ความรสู้ ึก อบอ่นุ ในประเทศหนาวนิยมใช้สีนี้ในบางสถานที่ เช่น หอ้ งนง่ั เลน่ เพอื่ ใหค้ วามรู้สกึ อบอนุ่ ชว่ ยให้ลด ความรู้สึกหนาวได้บา้ ง วตั ถุที่สอ่ งด้วยแสงสนี จ้ี ะมีสีเพี้ยนไปบ้าง หลอดคูลไวท์ (COOL WHITE) สขี องแสงอยู่ระหวา่ งหลอดเดย์ไลท์กบั หลอดวอรม์ ไวท์ ให้สที ี่คอ่ นข้าง เปน็ ธรรมชาติ นยิ มใช้งานทวั่ ไป เหมาะท่ีจะใช้ในสถานทท่ี างานตา่ ง ๆ และในหา้ งสรรพสินค้า หลอดแบลค๊ ไลท์ (BLACK LIGHT) เปน็ หลอดที่มีหลอดเปน็ แกว้ สีดา ใหแ้ สงทต่ี ามองไม่ เหน็ แตเ่ ม่ือไปกระทบกบั วตั ถสุ ขี าวจะสะทอ้ นแสงนวลสวยงามนยิ มใช้ตามร้านอาหาร ภตั ตาคาร และ สถานท่ที ม่ี ีการแสดงในเวลากลางคืนหลอดชนิดนจ้ี ะแผ่รงั สไี วโอเลตในปรมิ าณ สูงซ่งึ เป็นอนั ตรายตอ่ สายตา และผิวหนัง จึงไม่ควรใชเ้ ป็นเวลานาน ๆ 10. สตารท์ เตอร์ ทาหน้าทีค่ ล้ายเป็นสวิทช์ อัตโนมตั ิ เพ่อื เปิดและปิดวงจรของหลอด ฟลูออเรส เซนต์ เมือ่ เริ่มต้นทางานสตารท์ เตอร์ทาหน้าที่เปิดวงจรเพือ่ อ่นุ ไส้หลอดให้พร้อม ที่จะทางาน เมื่อไส้หลอด ทางานเรยี บร้อยแลว้ สตาร์ทเตอร์กป็ ิดวงจร 11. บลั ลาส ทาหน้าท่ีแปลงแรงดนั ไฟฟ้าให้เหมาะ สมกับหลอดซึ่งแรงดนั ไฟฟ้าในตอนเรม่ิ ตน้ จะสูง มาก เพื่อจุดไสห้ ลอดให้ปลดปล่อยอิเลคตรอนออกมา หลงั จากหลอดทางานแลว้ บลั ลาสจะเปลี่ยนหน้าท่ี โดยจะเป็นตัวจากัดปรมิ าณของกระแสไฟฟา้ ที่ไหลเขา้ หลอด 12. เตา้ รบั (Socket-outlet หรือ Receptacle) หรอื ปลัก๊ ตวั เมยี คือข้วั รับสาหรับหัวเสียบจาก เครื่องใชไ้ ฟฟ้า ปกติเต้ารับจะตดิ ต้งั อยู่กับท่ี เชน่ ติดอยกู่ บั ผนังอาคาร เป็นตน้ 13. เต้าเสยี บ เป็นอปุ กรณ์ทใี่ ชเ้ ชือ่ มต่อวงจรไฟฟา้ ทาให้กระแสไฟฟ้าไหลเขา้ สอู่ ุปกรณ์และเคร่อื งใช้ ไฟฟา้ โดยนาปลายของสายไฟฟ้าของเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ท่ีตอ่ อย่กู บั เต้าเสยี บ ไปเสียบกับเต้ารบั ท่ีตอ่ อย่ใู นวงจรไฟฟ้าใดๆ ก็ได้ภายในบา้ น 14. สวติ ชเ์ ปิด-ปิดธรรมดา (Toggle Switch) สวิตช์เปิด-ปิดในที่นี้ หมายถงึ สวิตชส์ าหรบั เปดิ -ปดิ หลอดไฟหรือโคมไฟสาหรับแสงสว่างหรือเครอ่ื งใช้ ไฟฟ้าชนิดอนื่ ๆ ที่มกี ารตดิ ตัง้ สวิตชเ์ อง อุปกรณแ์ ละวัสดสุ า่ หรับงานเดินสายไฟฟา้ 1. เข็มขดั รัดสาย หรอื ทีเ่ รยี กท่วั ไปว่า คลปิ (clip) หรือ กป๊ิ ผลิตจากอะลมู เิ นียมขึน้ รูปเปน็ แผง บางๆแต่มีความเหนยี ว มหี ลายขนาด เชน่ เบอร์ ¾, 0, 1, 1 ½, 2, 2 ½, 3, 4, 5 และเบอร์ 6 ซ่ึงมีขนาด ใหญ่ที่สดุ ตงั่ แต่ เบอร์ 3 ถงึ เบอร์ 6 จะมขี นาดสองรู ขนาดอน่ื ๆ จะมีรเู ดียว 2. ตะปู ขนาด 3/8 นิ้ว, 5/16 นิว้ ใชต้ อกบนอาคารฉาบปนู และขนาด ½ นิว้ สาหรับตอกบนอาคารท่ี เป็นไม้ 3. พกุ (fixer) ใชง้ านคูก่ ับสกรเู พือ่ ใหก้ ารจับยดึ อุปกรณ์เครอื่ งไฟฟ้าตา่ ง ๆ มีความแขง็ แรง พกุ ที่ใชง้ านทั่ว มี 3 แบบ คอื 3.1 พุกพลาสตกิ ใช้กับงานตดิ ตั้งขนาดเลก็ เชน่ ตดิ ตัง้ แปน้ ไม้ แผงคทั เอา้ ท์ จะใช้พกุ ขนาด M7 (เอม็ -

เจด็ ) กลา่ วคอื ต้องใชอ้ ดอกสวา่ นขนาด 7 มิล และใช้สกรขู นาด 5-6 มม. นอกจากน้ยี งั มีขนาดอน่ื ๆ เช่น M8 จะโตกวา่ M7 3.2 พกุ ตะก่วั ใช้กบั งานขนาดกลาง เนื่องจากทนแรงกดและน้าหนกั ไดด้ กี วา่ เช่นการตดิ ตง้ั ตโู้ หลดเซนเตอร์ 3.3 พกุ เหลก็ หรือทเ่ี รยี กวา่ โบลว์ (bolt) ใ ชก้ ับงานท่ีตอ้ งการความแข็งแรงทกุ ประเภทเนอ่ื งจากรบั น้าหนัก ไดด้ ี แตม่ ีราคาแพง 4. สกรู เรยี กอีกอยา่ งหนึ่งว่า ตะปเู กลียวปลอ่ ย มีสองชนิดคอื ชนดิ หัวแฉกและชนดิ หวั แบน 5. แปน้ ไม้ ใชส้ าหรับรองรบั อุปกรณไ์ ฟฟา้ ตา่ งๆ มีหลายขนาด อาทิ เชน่ 4 × 6 นิ้ว 8 × 10 น้ิว เปน็ ตน้ ปัจจุบันมกี ารผลติ แป้นพลาสตกิ ออกมาใชง้ านควบคูก่ ับแป้นไม้ ได้รบั ความนยิ มใกลเ้ คยี งกัน 6. เทปพนั สายไฟ เปน็ เทปพลาสติคหรอื ผู้ทา หนา้ ที่เปน็ ฉนวนใช้พันสายไฟบรเิ วณจุดต่อของสายเพื่อ ปอ้ งกนั ไฟฟ้าลัดวงจร ซึง่ เทปทด่ี ีควรเป็นฉนวนทีด่ ี ออ่ น เหนียว และกาวของเทปมคี วามเหนยี วคงทน เมอ่ื พันสายไฟแลว้ แนบกบั สายไดด้ ี 7.เคเบ้ลิ ไทร(์ Cable Ties) เข็มขดั รดั สายไฟ, สายรัดไนล่อนเอนกประสงค์ สายรัดในล่อน เอนกประสงค์ 8. ตลับแยกสาย มีลักษณะกลมมีฝาเกลียวปิด หรอื เปน็ กลอ่ งพลาสติคสีเ่ หลีย่ มจตั ุรัส สามารถเจาะรู ออกรอบ ๆ ได้ 4 รู ตลบั แยกสายมไี ว้สาหรบั ต่อสายภายในตลับ เพอ่ื ใหด้ ูเรียบรอ้ ยสวยงาม ในการต่อแยก สายไปใช้หลายจดุ เช่น ปลั๊ก สวทิ ช์ ดวงโคม ฯลฯ แตใ่ นปจั จบุ ันตลับแยกสายไมเ่ ป็นทน่ี ิยมในการตอ่ จดุ แยก ส่วนใหญจ่ ะนยิ มเชอื่ มตอ่ วงจรภายในแผงสวิทชห์ รอื ปลั๊กแทน 9. แป้นไม้, แป้นพลาสตคิ ทาดว้ ยไมห้ รอื พลา สติค ทรงสีเ่ หลี่ยมมีหลายขนาด เชน่ 8 นิว้ x 10น้วิ , 10 นิว้ x 12นวิ้ , 6 นิ้ว x 8 นวิ้ , ฯลฯ ใช้สาหรบั ติดต้ังหรอื รองอปุ กรณไ์ ฟฟา้ เชน่ สวิทช์ ปลัก๊ เบรกเกอร์ คทั เอาท์ ฯลฯ ในบางกรณีแปน้ ไม้ หรือ พลาสติคสามารถใช้แทนตลบั แยกสาย 10. บอ๊ กสวิทช์,ปล๊ัก สาหรับติดตง้ั หนา้ กาก สวิทชแ์ ละปลก๊ั แยกไดเ้ ปน็ 2 ลักษณะคือ บ๊อกใช้สาหรับ ฝงั ในผนงั ปนู อาจทาด้วยเหล็กหรอื พลาสตคิ และอกี ประเภทหนึง่ คือ บ๊อกตดิ ภายนอกผนงั ปูน (บอ๊ ก ลอย) สว่ นใหญท่ าด้วยพลาสติค 11. หนา้ กาก สวิทช-์ ปลกั๊ สาหรับติดต้งั สวทิ ช์และปล๊กั ปัจจบุ ันเป็นท่ีนยิ มเพราะติดตั้งได้งา่ ย เรียบร้อย กว่าสวทิ ช์-ปลก๊ั รุน่ แรก ๆ แยกได้ 3 ลกั ษณะ คอื หนา้ กาก 1 ช่อง, หน้ากาก 2 ช่องและหนา้ กาก 3 ชอ่ ง ใน 1 ชอ่ งนั้น สามารถติดปลั๊กหรือสวทิ ชไ์ ดเ้ พยี ง 1 ตัวเท่านัน้ 12. ท่อสา่ หรับเดนิ สายไฟ เป็นท่อ P.V.C สาหรับใสส่ ายไฟเขา้ ไปภายใน ปจั จุบันนิยมใช้ท่อเดนิ สายไฟ ภายในอาคารเพราะสะดวกในการติดตัง้ และสามารถซอ่ มแซมระบบสายไฟไดง้ า่ ย มีหลายขนาด ท่นี ยิ มใช้ คือขนาด 20 มิลลิเมตร 25 มลิ ลิเมตร และ 30 มิลลเิ มตร ลกั ษณะของท่อ P.V.C ที่ใช้สาหรับงานไฟฟา้ มี 2 สี คอื ท่อสขี าว สาหรับเดินสายไฟภายในอาคารท่วั ไป ทอ่ สีเหลอื ง เหมาะสาหรับเดนิ สายไฟฟ้าฝังดินหรอื เดนิ สายไฟภายในโรงงาน 13. อปุ กรณส์ ่าหรบั ทอ่ เดนิ สายไฟ อปุ กรณท์ ี่ กล่าวถงึ ในทนี่ ้เี ปน็ อุปกรณ์ท่วั ไป สาหรับการติดตั้งระบบการ เดนิ สายไฟฟา้ แบบปิด (รอ้ ยทอ่ ) ทาหนา้ ท่ีในการยดึ -ต่อ อุปกรณ์และท่อเข้าดว้ ยกนั เพอ่ื ให้แขง็ แรงและ สวยงาม เช่น 13.1 ข้อตอ่ ตรง สาหรบั ตอ่ ทอ่ เข้าด้วยกัน 13.2 คอนเนกเตอร์ สาหรับตอ่ อุปกรณ์และทอ่ เข้าดว้ ยกัน

13.3 ขอ้ ตอ่ ออ่ น สาหรับตอ่ ทอ่ ที่เย้อื งหรอื อยูค่ นละแนวกนั 13.4 ขอ้ งอ สาหรบั ต่อทอ่ ท่หี ักเลย้ี วเปน็ มุมฉาก 13.5 สามทาง สาหรับตอ่ แยกทอ่ ได้ 3 ทาง 13.6 เข็มขดั รดั ท่อ สาหรบั ยึดท่อ สรปุ ระบบไฟฟ้าเป็นระบบท่มี คี วามสาคญั ในบ้านทุกบ้าน การเลอื กใช้ระบบไฟฟา้ การเดนิ สายไฟ ชนดิ ของสายไฟ และอปุ กรณ์ตดิ ต้ังทางไฟฟา้ ใหเ้ หมาะสมกบั ลกั ษณะของงาน เป็นเร่ืองที่ผู้ใช้ต้องมีความรู้พืน้ ฐาน เพอื่ นาไปสู่ การพจิ ารณาเลอื กใชใ้ หค้ ุม้ คา่ เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ เปน็ การชว่ ย ประหยดั พลงั งานและยงั มผี ลดีต่อสว่ นรวมของ ประเทศในแง่ของการอนรุ ักษ์ธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อมในด้านการลดภาวะโลกร้อนได้ ศึกษาข้อมลู เพ่มิ เตมิ เรอื่ ง คา่ แนะนา่ ดา้ นความปลอดภยั อปุ กรณไ์ ฟฟา้ http://www.cr-engineer.com/images/pulldown_1304840984/Book%2019_42.pdf และ https://wiki.stjohn.ac.th/groups/poly_power/wiki/7a096/ https://krootewan2013.wordpress.com/2013/11/05/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%AA% E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E 0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0 %B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%83/


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook