49 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพือ่ เลือ่ นตาแหน่งเลอ่ื นยศ เลอื่ นไหลเป็นชั้นสญั ญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ในพ้ืนที่สว่ นท่ีห้ำซึ่งมีกำรควบคุมผู้กระทำควำมผดิ และมีกำรตรวจค้นยำนพำหนะเพิ่มเติมอย่ำงละเอียด ในส่วนท่ีอยู่ทำงตรงข้ำมกับท่ีจอดรถยนต์ไว้ เพื่อให้สำมำรถแจ้งสกัดจับหรือติดตำมจับกุมผู้ที่หลบหนี จำกกำรตรวจในพน้ื ท่ีสว่ นทหี่ ำ้ ได้ในหลำยทศิ ทำงดว้ ย 6. กำรปฏิบัติของเจ้ำหน้ำทีใ่ หก้ ำหนดทิศทำงกำรตรวจ โดยเดินตรวจจำกด้ำนท้ำยของส่วนกำร ตรวจซ่ึงอยู่บริเวณสี่แยกไปจนสุดท่ีบรเิ วณสว่ นหนำ้ ท่ีเป็นส่วนเริ่มซ่งึ มปี ้ำยสัญญำณเตอื นว่ำเปน็ จุดตรวจ ตง้ั ไวห้ รือให้เดินตรวจจำกกรวยยำงสีสะท้อนแสงที่วำงอยู่จำกจุดแรกไปจนถึงกรวยยำงสุดท้ำยท่ีวำงไว้ (ไม่น้อยกว่ำ 30 เมตร) เม่ือสิ้นสุดให้ฝ่ังที่ตรวจด้ำนขวำเดินขึ้นไป ฝั่งเกำะกลำงถนนด้ำนขวำ ส่วนฝ่ัง ด้ำนซ้ำยให้เดินข้ึนฟุตบำททำงเดินด้ำนซ้ำยแล้วย้อนกลับไปเร่ิมตรวจที่บริเวณส่ีแยกอีกรอบ เมื่อได้รับ สัญญำณไฟจรำจรจำกเจ้ำหน้ำทที่ ่ีควบคมุ สญั ญำณไฟจรำจร 7. กำรปฏบิ ัตขิ องเจ้ำหน้ำที่ ตอ้ งใชค้ วำมรวดเรว็ ในกำรสงั เกตและกำรปฏิบตั โิ ดยกำหนดใหส้ ลับ หน้ำท่ีกัน ในกำรตรวจค้นยำนพำหนะคันถัดไปให้ผู้ทำหน้ำท่ีตรวจค้นสลับเป็นผู้คุ้มกันในคันที่จอดอยู่ ตอ่ ไป เพอ่ื ไม่ให้เกดิ ปัญหำในกำรตรวจและมยี ำนพำหนะตกค้ำงอยู่ในบรเิ วณพนื้ ที่ส่วนท่สี ำมซ่งึ เปน็ พ้นื ที่ ตรวจคน้ เมือ่ ได้รับสัญญำณไฟให้ผ่ำนแยกไปได้ทั้งหมด จึงต้องให้สลับหน้ำทีใ่ นกำรปฏิบัติและหำกพบ บคุ คลหรือยำนพำหนะต้องสงสยั ให้นำไปบริเวณด้ำนซำ้ ยของพื้นท่ีส่วนทหี่ ้ำเพ่ือไม่ให้เกิดปัญหำกระทบ กบั จรำจรบรเิ วณที่มกี ำรต้งั จุดตรวจคน้ 8. กำรวำงกำลังเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจ จะต้องใช้เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจจำนวนมำกกกว่ำกำรตั้งจุดตรวจ แบบอ่ืนเน่อื งจำกเป็นบรเิ วณท่ีเปน็ ส่แี ยกท่ีมีกำรควบคุมสัญญำณไฟจรำจรด้วยบคุ คล จึงต้องมเี จ้ำหน้ำที่ ตำรวจในกำรปฏิบตั ิมำก รวมท้ังผู้ควบคุมจะต้องให้ควำมสำคัญกับพ้ืนที่ในสว่ นท่ีห้ำมำกกว่ำส่วนทห่ี นึ่ง ซึ่งโอกำสของผู้เจตนำจะหลบหนีโดยวกยำนพำหนะกลับจะน้อยกว่ำกำรหลบหนีจำกพ้ืนที่ส่วนที่ห้ำ ดังน้ันกำรควบคุมส่ังกำรจึงควรกำหนดให้ผู้ควบคุมจุดตรวจดังกล่ำวน้ีอยู่ในบริเวณส่วนที่มีกำรจอด รถยนตส์ ำยตรวจไว้ เพ่อื ให้สั่งกำรมำกขึ้นรวมทั้งในกำรกำหนดสญั ญำณไฟจรำจร หำกพิจำรณำได้ว่ำจะ มผี ลกระทบกับกำรจรำจรด้ำนอื่น ๆ ท่ีจะตอ้ งมีกำรสัมพนั ธ์กนั กบั พ้ืนทข่ี ้ำงเคียง การตงั้ จุดตรวจคน้ ทางร่วมแยก (ด้านหน้า)
50 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขนึ้ ไป เพือ่ เลอ่ื นตาแหนง่ เลอื่ นยศ เลอื่ นไหลเป็นช้ันสัญญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- หมำยเหตุ ในกำรตั้งจุดตรวจบนทำงเดินรถที่มกี ำรจรำจรบริเวณส่ีแยก ควรให้ควำมสำคัญกับ พน้ื ที่ในสว่ นท่ีกำหนดให้เป็นส่วนตรวจค้นอยำ่ งละเอยี ดมำกกว่ำส่วนอืน่ ๆ หำกมีกำลังเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ ไมเ่ พยี งพอ การตั้งจุดตรวจคน้ ยอ่ ยหรอื จุดสกัด 1. กำรตั้งจุดตรวจค้นย่อยหรือจุดสกัด เป็นปฏิบัติกำรในสภำพถนนสำยเล็กที่มีกำรจรำจรไม่ หนำแน่นคบั คัง่ หรือตรอกซอย และในเหตุกำรณ์ฉุกเฉิน หรือกรณเี รง่ ด่วน ซึ่งอำจไม่มีเจ้ำหน้ำทต่ี ำรวจ และอุปกรณ์เพียงพอที่จะวำงกำลังตำมยุทธวิธีข้ำงต้นได้ จึงจำเป็นต้องใช้กำลังเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจและ ยำนพำหนะเท่ำทมี่ อี ย่อู ยำ่ งจำกดั ในขณะนนั้ ดำเนนิ กำรสกดั จบั และปฏิบัติกำรตรวจค้น 2. กำรวำงกำลังและมำตรกำรรกั ษำควำมปลอดภัยให้ใช้ยุทธวิธเี ดียวกันกบั กำรตง้ั จุดตรวจโดย อนุโลมและควรต้องมีรถยนต์เตรียมพร้อมไวก้ ่อนถึงจุดสกัด เพื่อไว้ทำหนำ้ ทสี่ กัดกั้นหรือขวำงถนนหรือ ไลต่ ิดตำมรถคนรำ้ ยในกรณที คี่ นร้ำยหรอื ผตู้ ้องสงสัยกลับรถยอ้ นหลบหนกี ำรตรวจค้น 3. ในกำรตง้ั จดุ ตรวจจดุ สกดั จะต้องแบง่ หน้ำทกี่ นั ให้ชัดเจนตำมสถำนกำรณ์ ดังนี้ (1) มีกำลงั 2 นำย ใหแ้ บ่งหนำ้ ท่ี ดังนี้ ตำรวจคนท่ี 1 : ทำหน้ำท่ตี รวจค้น ตำรวจคนท่ี 2 : ทำหนำ้ ทีค่ ้มุ กัน (2) มกี ำลัง 3 นำย ให้แบ่งหน้ำที่ ดงั น้ี ตำรวจคนท่ี 1 : ทำหน้ำท่ีตรวจคน้ ตำรวจคนท่ี 2 : ทำหน้ำท่ีช่วยเหลือตำรวจคนท่ี 1 ในกำรค้นหรือควบคุม คนรำ้ ย
51 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพอ่ื เลอ่ื นตาแหนง่ เลอ่ื นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ช้นั สญั ญาบัตร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ตำรวจคนท่ี 3 : ทำหนำ้ ท่คี มุ้ กนั (3) มกี ำลงั 4 นำย ให้แบง่ หนำ้ ที่ดงั นี้ สว่ นท่ี 1 : 2 นำย ทำหน้ำทีต่ รวจค้น ส่วนที่ 2 : 2 นำย ทำหนำ้ ทค่ี มุ้ กนั ส่วนที่ 3 : ทำหน้ำที่สนับสนุนหรือเป็นกำลังสำรองผลัดเปล่ียนส่วนที่ 1 และส่วนที่ 2 4. เม่อื มีรถยนตส์ ำยตรวจ หรอื รถยนต์บรรทุกอย่ำงน้อย 2 คัน อำจใชร้ ถยนต์เป็นที่กำบงั เพ่ือ ทำให้เกิดเขตพื้นท่ปี ลอดภัยแลว้ ใหเ้ ป็นจุดหยดุ รถเพ่ือทำกำรตรวจคน้ บนท้องถนนหรือตรอกซอย ซงึ่ โดย ปกติจะไมม่ ีกำรจรำจรคบั คง่ั หรอื รถวิง่ อยำ่ งรวดเร็ว 5. ในบรเิ วณถนนในถนิ่ ทุรกันดำรหรอื ตรอกซอยทม่ี ีกำรขุดถนนเพือ่ กำรซอ่ มแซมต่ำง ๆ อำจใช้ หลุมบนถนนเป็นเคร่อื งกดี ขวำงชว่ ยในกำรต้งั จดุ สกดั 6. ในเขตพ้ืนท่ีอันตรำย ที่อำจมีกำรก่อสร้ำงหรือกำรใช้ควำมรุนแรงในกำรต่อสู้กับเจ้ำหน้ำท่ี ตำรวจอำจดัดแปลงสิง่ อุปกรณ์ในพนื้ ท่ีให้เปน็ เครื่องกีดขวำงในกำรต้งั จดุ สกดั ได้ เชน่ ใชท้ ่อซีเมนต์ ใช้งำ แซง หรอื วตั ถุอยำ่ งอนื่ ไปวำงตั้งบนเสน้ ทำงทีม่ ีกำรจรำจรไมค่ ับค่งั ขอ้ ควรระวัง • ไม่ควรต้ังจุดตรวจในพื้นท่ีใกล้ทำงโค้ง ทำงแยก เชิงสะพำนที่ลำดชัน หรือจุดอับ ลับตำ • ในเวลำกลำงคนื ตอ้ งมีแสงสว่ำงอย่ำงเพียงพอ • ในกำรเรียกรถให้หยุด ไม่ว่ำกรณีใด ๆ อย่ำเอำตัวหรือส่วนของร่ำงกำย เช่น แขน ขำ เขำ้ ไปขวำงเพื่อใหร้ ถหยุด • กำรตรวจค้นรถท่ีเข้ำพ้ืนที่กำรตั้งจุดตรวจ ให้ทำกำรตรวจค้นคนก่อน แล้วจึงทำ กำรตรวจค้นรถ
52 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝึกอบรมข้าราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพอ่ื เลอ่ื นตาแหนง่ เลือ่ นยศ เลอ่ื นไหลเป็นช้นั สัญญาบตั ร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 11. ยุทธวิธีในการตรวจคน้ – จับกมุ กำรปฏิบัติหน้ำที่ของสำยตรวจในกำรตรวจค้น – จับกุมผู้ต้องสงสัยหรือคนร้ำยนั้น สำยตรวจ จำต้องคำนึงถึงควำมปลอดภยั ของตนเองและค่ตู รวจเป็นหลักกอ่ น โดยวธิ กี ำรปฏบิ ัตนิ ้ันให้ปฏบิ ตั ิ ดงั น้ี 11.1 กำรตรวจค้นบุคคล 11.1.1 กำรยนื ปฏิบัตหิ น้ำที่ของสำยตรวจ เม่ือจะต้องทำกำรตรวจค้นบุคคลต้องสงสัย เจ้ำหน้ำท่ีสำยตรวจจะต้องยืนใน ตำแหน่งตรวจค้นและคุ้มกัน (รูปตัว L) เพ่ือป้องกันหำกกรณีจะต้องใช้อำวุธจะได้ไม่เกิดเหตุกำรณ์ใช้ อำวธุ ยิงกันเอง 11.1.2 กำรตรวจค้นผตู้ อ้ งสงสัยทำ่ ยนื 1) เมื่อจะต้องทำกำรตรวจค้นบุคคลต้องสงสัย จะตอ้ งทำให้บุคคลต้องสงสัย อยู่ในอำกำรเสียหลกั ดว้ ยกำรใชค้ ำพูดสั่ง ตง้ั แต่ ใหย้ กตวั หมนุ ตวั มอื ประสำนท้ำยทอย กำงขำออก 2) กำรเข้ำตรวจค้นให้สอดขำเข้ำไปท่ีระหวำ่ งขำของผู้ต้องสงสัย กำรยืนของ สำยตรวจจะต้องยืนอย่ำงมหี ลกั และส่ิงที่ควรคำนึง คือ ให้อำวุธปืนอยู่ห่ำงจำกผตู้ ้องสงสัย เพื่อป้องกัน กำรถูกแย่งอำวุธ มือข้ำงหนึ่งยันตัวผู้ถูกคน้ ไว้ใหอ้ ยู่ในอำกำรเสียหลัก ส่วนมืออีกข้ำงหนงึ่ ตรวจค้นตำม ร่ำงกำยของผูถ้ กู คน้ 3) กำรเปล่ียนด้ำนในกำรตรวจค้น ให้เปล่ียนมือไปทำกำรตรวจค้นอีกด้ำน หนึ่ง สว่ นอกี มือหน่งึ ยนั ตวั ผูถ้ กู ค้นไว้ เอวที่พกอำวุธยงั ตอ้ งอยู่ห่ำงจำกตวั ผูถ้ กู ตรวจคน้ เช่นเดิม
53 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝึกอบรมข้าราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึน้ ไป เพอื่ เลือ่ นตาแหน่งเลอ่ื นยศ เลอื่ นไหลเป็นชน้ั สัญญาบตั ร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 4) สำหรับสำยตรวจผู้คุ้มกัน ต้องยืนอยู่อีกด้ำนหน่ึง และคอยสังเกต อำกัปกริ ยิ ำของผถู้ กู ตรวจค้นพรอ้ มกบั คอยสงั เกตเหตกุ ำรณ์รอบ ๆ ดำ้ น กำรตรวจค้นท่ำน้ี ควรใช้ในกำรปฏิบัติหน้ำท่ีปกติ หรือกำรปิดล้อม เพื่อป้อง ปรำมอำชญำกรรม 11.1.3 กำรตรวจคน้ ผตู้ ้องสงสยั ท่ำน่งั 1) ใช้คำพูดสั่งให้ผู้ถูกค้นอยู่ในอำกำรเสียหลกั ด้วยกำรนั่งคุกเข่ำ ข้อเท้ำไขว้ กัน เพ่ือลดควำมสะดวกในกำรเคล่ือนไหว ผู้ตรวจค้นเข้ำทำกำรตรวจค้นโดยเอำปลำยเท้ำเหยียบไว้ที่ น่องของผถู้ ูกค้น สน้ เท้ำวำงไว้ทพี ้ืน เพ่ือใหม้ หี ลกั ในกำรยืน 2) เมอ่ื เปลี่ยนด้ำนกำรตรวจค้น ให้เปล่ียนมือในกำรยันผู้ถกู คน้ ให้เสียหลักมำ อกี ด้ำนหนึ่ง อีกมือหนึ่งทำกำรตรวจค้น ส่วนเท้ำที่วำงให้ใชเ้ ท้ำข้ำงเดิม แต่เปลี่ยนกำรเหยียบท่ีน่องไป อีกข้ำงหนึ่ง แลว้ ทำกำรคน้ อกี ด้ำนหนง่ึ 3) ผคู้ ้มุ กนั ให้สงั เกตอำกปั กิริยำของผถู้ กู ค้นและเหตุกำรณโ์ ดยรอบ การตรวจค้นควรใชใ้ นการระงับเหตบุ างเหตุ เช่น การทะเลาะววิ าท เป็นต้น 11.1.4 กำรตรวจค้นผู้ตอ้ งสงสยั ท่ำนอน 1) สำยตรวจจะใชค้ ำพดู ส่งั ใหผ้ ถู้ ูกคน้ นอนควำ่ หนำ้ กำงแขนและขำออก
54 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึน้ ไป เพ่อื เลื่อนตาแหนง่ เลือ่ นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชนั้ สัญญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 2) กำรเข้ำตรวจคน้ ใหท้ ำกำรค้นทีละด้ำนและให้ใช้เข่ำด้ำนหนึ่งกดไปที่ลำตัว ของผู้ถูกค้น ใช้มือกวำดไปตำมตัวของผู้ถูกค้นตั้งแต่ลำตัวไปจนถึงปลำยขำท่อนล่ำง กำรสลับด้ำนกำร ตรวจค้นใหเ้ ดนิ อ้อมเหนือศีรษะไปอกี ดำ้ นหนง่ึ 3) ผู้ค้มุ กัน ให้ปฏิบัติเชน่ เดยี วกับทุกทำ่ ทีไ่ ด้กล่ำวมำ และให้ระวังเร่ืองกำรใช้ อำวธุ อยำ่ ใหเ้ กิดกำรยิงกนั เอง กำรตรวจคน้ ทำ่ นอนควรใชเ้ ฉพำะผู้ตอ้ งสงสยั หรอื คนร้ำยที่กอ่ เหตุเทำ่ นัน้ 11.1.5 กำรตรวจคน้ ผ้ตู อ้ งสงสยั ท่ำยนั กำแพง กรณีกำรต้ังจดุ ตรวจหรอื สำยตรวจเรียกผถู้ ูกคน้ เพื่อทำกำรตรวจค้น ใหส้ ่งั ให้ผู้ ถกู ค้นเอำมือยันกับรถหรือกำแพงหรือเบำะรถจักรยำนยนต์ แขนของผู้ถูกค้นให้อยู่ในลักษณะตึงขำท้ัง สองกำงออกสำยตรวจผู้ทำกำรค้นให้ปฏิบตั ิในลักษณะเดียวกับกำรตรวจค้นในท่ำยืน กำรตรวจคน้ ในท่ำ นสี้ ำมำรถนำไปใช้ในกำรตั้งจุดตรวจ หรือกรณีเรียกรถเพื่อทำกำรตรวจค้น หรอื กรณตี รวจคน้ บุคคลตอ้ ง สงสยั ท่ีสำยตรวจต้องกำรตรวจคน้ จะใช้รถหรอื กำแพงหรอื สงิ่ อื่นท่สี ำมำรถใชใ้ นกำรยนั ตัวผตู้ อ้ งสงสยั ได้ หมำยเหตุ จำกทุกทำ่ กำรตรวจค้นท่กี ล่ำวมำ ในกรณีผถู้ ูกค้นเป็นคนรำ้ ยให้ควบคุมดว้ ยกำรสวม กญุ แจมอื ก่อน แลว้ ค่อยทำกำรตรวจค้นเพื่อค้นหำอำวุธ และส่งิ ของผดิ กฎหมำยอนื่ 1.2 กำรตรวจค้นพำหนะกำรเดินเข้ำหำรถ ให้สำยตรวจเดินเข้ำทำงด้ำนท้ำยรถโดยใช้แนว เดียวกับรถ เพรำะจะสำมำรถสังเกตในรถได้ง่ำยและปลอดภัยกว่ำ และในกรณีท่ีคนในรถใช้อำวุธปืน สำยตรวจสำมำรถใช้ตัวถงั รถเป็นท่กี ำบังได
55 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพ่อื เล่อื นตาแหนง่ เลื่อนยศ เลอื่ นไหลเป็นช้นั สญั ญาบัตร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- กำรยืนของสำยตรวจจะต้องยืนอยู่บริเวณแนวเสำกลำงของรถ เพรำะป้องกันกรณีคน ในรถอำจเปิดประตูกระแทกทำให้สำยตรวจล้มลงกับพื้นได้ ส่วนกำรยืนของสำยตรวจน้ันให้ระวัง อบุ ัตเิ หตดุ ้ำนกำรจรำจรดว้ ย สำยตรวจผู้คุ้มกันใหย้ ืนอยู่อีกด้ำนหนึ่งของรถและให้สงั เกตภำยในรถ หำกสงั เกตเห็น วำ่ คนในรถมีหลำยคนซ่งึ อำจไม่ปลอดภยั ให้ขอกำลังสนบั สนนุ กำรปฏบิ ัติ กรณตี ้องให้นำคนในรถลงจำกรถเพ่อื ทำกำรตรวจค้นก่อน เม่อื คนขับลงจำกรถแล้วให้ สำยตรวจแจ้งให้ผถู้ ูกค้นเดนิ ไปอกี ด้ำนหนึ่ง เพ่ือควำมปลอดภัยและป้องกันอบุ ัติเหตุจำกกำรจรำจรกำร ตรวจค้นให้สำยตรวจต้องคน้ อยำ่ งสภุ ำพและใหใ้ ช้คำพูดเพอ่ื ลดควำมกดดนั ระหวำ่ งสำยตรวจกับผถู้ กู ค้น สว่ นสำยตรวจผู้ค้มุ กันจะตอ้ งคอยสังเกตอำกัปกริ ยิ ำของผู้ถูกค้นโดยระมัดระวังใหม้ ำกท่ีสุด กำรตรวจค้น ภำยในรถใหแ้ บ่งพื้นทีเ่ พอื่ ใหก้ ำรคน้ ละเอยี ดท่ีสุด โดยสำยตรวจจะตอ้ งกำหนดเองอย่ำงเหมำะสมแต่ตอ้ ง อยู่ในสำยตำของเจ้ำของรถเพ่ือปอ้ งกันปัญหำอื่นที่จะตำมมำ ส่วนสำยตรวจผู้คุ้มกันจะต้องคอยสังเกต เจ้ำของรถและเหตุกำรณ์โดยรอบ ให้เจ้ำของรถหรือผู้ท่ีนั่งมำในรถได้เห็นกำรตรวจค้นของเจ้ำหน้ำที่ อย่ำงชัดเจนเพื่อแสดงควำมบริสุทธิ์ใจกำรปฏิบัติหน้ำที่ของสำยตรวจ และสำยตรวจผู้ทำหน้ำที่คุ้มกัน ตอ้ งสงั เกตอำกปั กิรยิ ำของผ้ถู ูกคน้ อยตู่ ลอดเวลำ
56 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพอื่ เลื่อนตาแหนง่ เล่ือนยศ เลอ่ื นไหลเป็นชน้ั สญั ญาบัตร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 1.3 กำรจับกุมผู้ตอ้ งสงสยั หรอื คนรำ้ ย ท่ำควบคุมแขนของผู้ต้องสงสัยหรือคนร้ำย กำรปฏิบัติให้สำยตรวจจับแขนขวำของผู้ ต้องสงสัยหรือคนร้ำยโดยมือขวำจับท่ีข้อมือขวำ ส่วนมือซ้ำยให้จับเหนือข้อศอก บังคับให้แขนผู้ต้อง สงสัยหรือคนรำ้ ยตงึ ที่สุด ซึ่งถ้ำมีกำรขัดขืนจะสำมำรถรู้ถึงอำกัปกริ ิยำ ใชท้ ่ำหกั ข้อมอื คว่ำกำรยืนให้ยืน อย่ำงมีหลักมือสองข้ำงทจี่ ับแขนผู้ตอ้ งสงสัยหรือคนร้ำย ใหม้ ือซำ้ ยดึงเข้ำหำตัวมือขวำยกมือผู้ตอ้ งสงสัย ให้ปลำยนิ้วมำทำงดำ้ นหนำ้ นำมือซ้ำยไปจบั ทมี่ อื ผตู้ ้องสงสัยโดยข้อศอกของผู้ตอ้ งสงสยั อยกู่ ลำงอกของ สำยตรวจ หำกผู้ตอ้ งสงสยั ขดั ขนื ใหใ้ ช้มือท้งั สองข้ำงกดที่หลงั มอื ผตู้ ้องสงสัย ท่ำหักข้อมือหรือฝ่ำมือหงำยกลับ ให้ใช้มือขวำจับไปท่ีสันมือของผู้ต้องสงสัย แล้วหัก ขน้ึ โดยให้แขนของผู้ต้องสงสัยอยู่ในลักษณะตึง มือซ้ำยไปจับประกบมือขวำแลว้ กดสันมือลง ท่ำนี้หำก ปฏิบัติถูกจะสำมำรถกดให้ผู้ตอ้ งสงสยั ลงกับพ้ืนได้อย่ำงง่ำยดำยท่ำล็อคด้ำนหลังจำกท่ำจับแขนให้พลิก มอื ขวำไปประกบท่ีหลังมือขวำของผู้ต้องสงสัยท้ังห้ำน้ิว มือซ้ำยท่ีจับเหนือข้อศอกกดเข้ำมำกับหน้ำอก ของสำยตรวจ มือขวำใหพ้ ลกิ เข้ำทำงด้ำนหลังโดยศอกของสำยตรวจตอ้ งล็อคศอกของผ้ตู ้องสงสัยเอำไว้ แลว้ บบี ให้แน่น มือขวำหักมอื ของผู้ตอ้ งสงสัยข้นึ มอื ซ้ำยดงึ ไหลซ่ ้ำยให้ผตู้ อ้ งสงสัยเสียหลกั
57 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝึกอบรมข้าราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพอื่ เล่ือนตาแหนง่ เลอ่ื นยศ เลอื่ นไหลเป็นชน้ั สญั ญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ท่ำกดลงพนื้ ทำ่ นี้สำมำรถปฏิบัติได้สองลักษณะคือ สำยตรวจสั่งให้ผู้ต้องสงสัยหรือคนร้ำยนอนคว่ำหน้ำลง กบั พ้นื กำงแขนและขำออก ให้หงำยฝำ่ มือข้ึนและให้หันหน้ำออกไปอีกด้ำนหนง่ึ เพ่อื ไม่ให้เหน็ กำรปฏบิ ัติ ของสำยตรวจ ให้สำยตรวจเดินเขำ้ หำแล้วจับมือขวำของผู้ถกู ค้นดงึ ขึ้น แลว้ เอำเข่ำท้ังสองข้ำงกดลงไปท่ี ลำตัวของผู้ถูกตรวจค้น โดยเข่ำขวำกดท่ีต้นคอ เขำ่ ซำ้ ยกดท่กี ลำงหลัง หรอื ใช้วิธีจำกท่ำควบคุมแขนออก แรงกระชำกใหต้ วั ผู้ต้องสงสยั หรือคนรำ้ ยเสียหลัก นอนคว่ำหนำ้ แลว้ กำรปฏบิ ัติตอ่ มำคอื สำยตรวจเอำนำ้ หนักตวั กดตัวผู้ตอ้ งสงสัยคือ เอำเข่ำขวำกดบริเวณคอ เข่ำซ้ำยกดกลำงหลงั มือของสำยตรวจดึงข้อมือของผตู้ ้องสงสัยขนึ้ ให้แขนตึง จำกนัน้ นำเคร่อื งพันธนำกำรมำสวมแล้วทำกำรตรวจคน้ ทีละด้ำนให้ละเอยี ดเพอื่ ทำกำรคน้ เสร็จส้ิน เมื่อ ตอ้ งกำรให้ผู้ถูกค้นลุก สำยตรวจต้องจับตัวพลิกมำทำงข้ำงให้จับให้ลุกขนึ้ ควบคมุ ตัวส่งไปยัง สน. เพื่อ ดำเนนิ กำรในสว่ นทเ่ี กยี่ วข้องตอ่ ไป
58 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพ่อื เลอ่ื นตาแหน่งเลือ่ นยศ เลอื่ นไหลเป็นชน้ั สญั ญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ระดับการใชก้ าลงั ของเจ้าหนา้ ท่ีตารวจเพือ่ แกไ้ ขสถานการณ์ (Use of Force) ในส่วนต่อไปน้ีจะกล่ำวถึงตัวแบบระดับกำรใช้กำลังของเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจในกำรตอบโต้ สถำนกำรณ์ ขอให้เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจทุกนำยทบทวนหลักปฏิบัติเกี่ยวกับปฏิญญำสำกลว่ำด้วยสิทธิ มนษุ ยชน รฐั ธรรมนูญ ข้อกฎหมำย และหลักยทุ ธวธิ ีตำรวจท่ีเกยี่ วข้องกบั ควำมปลอดภัยของเครอื่ งมือที่ ใชใ้ นกำรตอบโต้ กอ่ นกำรเรมิ่ ศกึ ษำในสว่ นนี้ 1. ท่มี าและความสาคญั ของระดับการใชก้ าลังของเจา้ หน้าที่ตารวจ ตวั แบบน้ีพฒั นำข้ึนจำกกำรศึกษำทำงวชิ ำกำรร่วมกันของหลำยภำคส่วน เพื่อใหม้ ีประสิทธภิ ำพ สงู สุดในกำรรกั ษำไวซ้ ึ่งควำมปลอดภยั ในชีวิตทรัพย์สินของประชำชน และเจำ้ หน้ำที่ตำรวจที่ปฏบิ ตั ิงำน ซึ่งในประเทศทีเ่ จริญแล้ว ระดับกำรใช้กำลังของเจ้ำหน้ำทตี่ ำรวจถือเป็นส่วนสำคัญในกำรแสดงออกถึง กำรเคำรพศกั ดศ์ิ รีควำมเป็นมนษุ ย์ โดยเปน็ ภำระหน้ำท่หี ลักของรัฐที่จะต้องจัดให้มีขน้ึ เพื่อรองรับกำรอนุ วัตรปฏญิ ญำที่รัฐได้ลงนำมให้สัตยำบรรณในกำรจะนำไปปฏบิ ัติให้เกดิ ผลในทำงกฎหมำย ทั้งน้ี Code of Conduct for Law Enforcement Officials ของสหประชำชำติ ได้รับกำร รบั รองโดยมติทปี่ ระชุมใหญ่สหประชำชำติท่ี 34/169 เม่ือวันที่ 17 ธันวำคม 2522 มำตรำ 35 กำหนด กรอบกำรใช้กำลัง (use of force) ของเจ้ำหน้ำที่ของรัฐว่ำให้กระทำได้เพียงเฉพำะกรณีท่ีจำเป็นอย่ำง ย่ิงและเพื่อประโยชน์ในกำรปฏิบัติหน้ำที่เท่ำน้ัน กำรใช้กำลังของเจ้ำหน้ำที่รัฐจึงต้องมีดุลพินิจในกำร นำไปใชท้ ี่ไม่เกนิ กว่ำเหตหุ รือได้สดั ส่วนกบั พฤตกิ ำรณ์ ซง่ึ ต่อมำ UN Congress ในกำรประชมุ เร่ือง Prevention of Crime and the Treatment of Offenders ครัง้ ที่ 8 ที่กรงุ ฮำวำนำ ประเทศคิวบำ ระหว่ำงวนั ที่ 27 สงิ หำคม ถึงวนั ที่ 7 กนั ยำยน 2533 ไ ด้ มี ก ำ ร รับ ร อง Basic Principles of the Use of Force and Firearms by Law Enforcement Officials ทมี่ รี ำยละเอยี ดมำกข้นึ ตวั แบบนี้จึงใช้ฐำนคตใิ นกำรสร้ำงแบบต่อยอดองค์ควำมรเู้ พอื่ อธบิ ำยถงึ กระบวนกำรตดั สินใจที่ เหมำะสมแบบฉับพลันทันทีของเหตุกำรณ์ที่เกิดขึ้นกับเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจ โดยยึดหลักสำกลท่ีได้รับกำร ยอมรับจำก UN ดังนั้น เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจทุกนำยจึงต้องมีกำรฝึกปฏิบัติจนเกิดทักษะอัตโนมัติแบบกล้ำมเนื้อ จดจำอย่ำงเขม้ ข้น กำรฝึกทกั ษะกำรตัดสินใจในภำวะวิกฤติในสถำนกำรณ์จำลองเสมือนจริง ซ่ึงจะต้อง พิจำรณำกำรใช้เคร่ืองมือทำงยุทธวิธีที่ถูกต้อง เหมำะสม ได้สัดส่วนกับพฤติกำรณ์ของผู้ต้องสงสัย/ กระทำควำมผิด และในกำรออกปฏิบัตหิ น้ำที่ทกุ ครั้งตอ้ งมีกำรทบทวนกำรปฏิบตั ติ ำมตัวแบบน้เี สมอ
59 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพ่ือเลอื่ นตาแหน่งเล่อื นยศ เลอื่ นไหลเป็นชน้ั สญั ญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 2. การศกึ ษาแบบระดบั การใชก้ าลงั ของเจ้าหน้าทต่ี ารวจ ความหมาย ระดบั กำรใช้กำลัง หมำยถึง แนวควำมคดิ หรือกรอบปฏิบัตเิ กี่ยวกบั ข้ันตอนและวิธีกำรใช้กำลัง และอำวุธของเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ เพอ่ื ใชเ้ ป็นแนวทำงในกำรริเรมิ่ ใช้กำลังหรืออำวุธให้มีควำมเหมำะสมกับ สถำนกำรณ์ กรอบของกฎหมำย และผลสมั ฤทธิ์ในกำรควบคมุ เหตุกำรณ์ ระดับกำรใช้กำลังมีลักษณะเป็นหลักเกณฑ์กำรปฏิบัติที่มีควำมยืดหยุ่นและปรับเปล่ียนไปได้ ตำมสถำนกำรณ์ ความสาคัญ 1. เจ้ำหน้ำที่ตำรวจมีควำมจำเป็นในกำรใช้กำลังหรืออำวุธให้พอสมควรแก่เหตุ ภำยใต้กรอบ ของกฎหมำยไม่ให้รุนแรงเกินกว่ำเหตุ เพรำะอำจถกู ดำเนนิ คดีท้ังทำงแพง่ อำญำ และวินัยตลอดจนทำ ใหเ้ สียภำพพจน์เกดิ เปน็ เง่ือนไขใหป้ ระชำชนเกลยี ดชงั ตำรวจ 2. กำรใชก้ ำลังของเจ้ำหนำ้ ท่ีตำรวจ หำกไม่ถูกต้องตำมแนวคดิ ในกำรแกไ้ ขปัญหำอำจทำให้เกิด เหตกุ ำรณ์รุนแรง ทำให้เจ้ำหน้ำที่ตำรวจ เหย่ือหรอื ประชำชนเสียชวี ติ บำดเจบ็ โดยไมจ่ ำเปน็ 3. กำรเข้ำจัดกำรกับเหตุกำรณ์คับขันต่ำง ๆ เช่น คนร้ำยจ้ีตัวประกันเพื่อหลบหนีน้ัน หำก เจ้ำหน้ำทตี่ ำรวจริเร่มิ ใช้กำลังรนุ แรงทันที เชน่ ใช้อำวธุ ปืนยิงทนั ทีอำจทำใหก้ ำรแกป้ ัญหำยำกข้ึน หลักพื้นฐาน เจ้ำหนำ้ ทต่ี ำรวจตอ้ งแสดงตนก่อนกำรใชอ้ ำวุธ และต้องแจ้งเตอื นให้ทรำบลว่ งหน้ำวำ่ จะมีกำร ใช้อำวุธ เว้นแต่ กำรดำเนินกำรดังกลำ่ วอำจทำให้เจ้ำหน้ำทีต่ ำรวจหรือบคุ คลอื่นเสย่ี งทจ่ี ะไดร้ บั อันตรำย แก่ชีวิตหรือแก่ร่ำงกำยหรอื เป็นที่ชัดเจนว่ำไม่มีควำมเหมำะสมหรือจำเป็นท่ีตอ้ งดำเนินกำรดังกล่ำวใน สถำนกำรณ์เช่นนั้น ระดบั การใช้กาลงั ของเจา้ หน้าท่ีตารวจ กำรใช้กำลังหรืออำวุธของเจ้ำหน้ำทต่ี ำรวจให้เป็นไปตำมสถำนกำรณ์และพฤติกำรณข์ องคนรำ้ ย และสภำพแวดล้อมจำกเบำไปหำหนัก ซึ่งสำมำรถแบ่งข้ันตอนกำรตัดสินใจไว้ในกำรใช้กำลังเป็น 6 ระดับ ดังน้ี ระดับที่ 1 กำรปรำกฏตัวของตำรวจ เมื่อตำรวจไปถึงท่ีเกิดเหตุผู้ท่ีจะกระทำผิดบำงรำยก็ อำจจะล้มเลิกกำรทำผิด หรืออำจให้ควำมร่วมมือด้วยดีโดยไม่ต้องออกคำสั่ง เช่น กำรจอดรถในที่ห้ำม จอด กำรลักลอบเรี่ยไร กำรทะเลำะวิวำท ถ้ำคนร้ำยยังไม่หยุด ให้ตำรวจใช้กำลังระดับต่อไป ระดับท่ี 2 กำรใช้คำส่ังด้วยวำจำ ตำรวจใช้คำพูดสั่งคนร้ำยให้ยอมเลิกกำรกระทำที่เป็น
60 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝึกอบรมข้าราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพ่ือเลอ่ื นตาแหนง่ เลอื่ นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชน้ั สัญญาบตั ร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ควำมผิด หรือกำรทำร้ำย หำกยอมปฏิบัติตำมคำส่ังต้องไม่ใช้กำลัง ถ้ำไม่ยอมปฏิบัติตำมคำสั่ง ให้ใช้ กำลงั ในระดับเหมำะสม ระดับที่ 3 กำรใช้เทคนิคกำรควบคุมด้วยกำยภำพ เมื่อคนร้ำยไม่ปฏิบัติตำมคำส่ังด้วย วำจำแต่แรก ตำรวจอำจใชเ้ ทคนคิ กำรควบคุมตัวด้วยมอื เปล่ำ หรือกำรกดจดุ ถ้ำหำกขัดขืนไม่ยินยอมให้ ใช้กำลงั ในระดับทเี่ หมำะสมต่อไป ระดับที่ 4 กำรใช้เทคนิคตอบโต้อย่ำงรุนแรง คนร้ำยไม่ปฏบิ ัติตำมคำส่ังและเข้ำโจมตีทำ ร้ำยตำรวจแต่ไม่ใช้อำวุธ ให้ป้องกนั ตนเองได้โดยไมใ่ ชอ้ ำวธุ เช่นกนั คอื กำรชก กำรเตะ กำรทุ่ม กำรทำ ให้หมดสติ หรือกำรใชส้ ำรทำให้เกิดอำกำรระคำยเคือง ระดบั ที่ 5 กำรใชอ้ ำวุธทีไ่ มถ่ ึงตำย คนร้ำยใชอ้ ำวธุ และอำจทำอันตรำยขนั้ บำดเจบ็ หรือ เสียชีวิต และไม่หยุดกำรกระทำหลังจำกถูกแจ้งเตือน ให้เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจพิจำรณำตอบโต้ได้ทั้งไม่ใช้ อำวุธและใช้อำวุธที่ไม่ถึงตำย ได้แก่ กำรใช้กระบอง เคร่ืองช็อตไฟฟ้ำ กระสุนยำง ปืนยิงตำข่ำย หำก พิจำรณำแลว้ เหน็ ว่ำไมส่ ำมำรถหยุดหรอื ควบคมุ คนร้ำยได้ให้ใชก้ ำลงั ขัน้ ตอ่ ไป ระดับท่ี 6 กำรใช้กำลังขั้นเด็ดขำดหรือกำรใช้อำวุธปืน คนร้ำยใช้อำวุธทำอันตรำย เจ้ำหน้ำที่ตำรวจหรือบุคคลอื่นที่เส่ียงต่อกำรได้รับอันตรำยแก่ร่ำงกำยหรือเสียชีวิต และไม่หยุดกำร กระทำหลงั จำกถกู แจ้งเตอื น เจ้ำหน้ำทตี่ ำรวจไม่สำมำรถแก้ไขได้ดว้ ยวิธีอื่นเพือ่ หยุดยงั้ ภยันตรำยที่กำลัง จะเกิดขึ้นภำยในเวลำอันจำกัด ให้ใช้อำวุธปืนยิงเพื่อหยุดย้ังกำรกระทำของคนร้ำยสิ่งจำเป็นท่ีควร คำนงึ ถงึ ว่ำ ระดบั กำรใช้กำลังของเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจน้ัน ยึดหลักกฎหมำยเรื่องกำรปอ้ งกัน เป็นเหตุผลใน กำรตดั สนิ ใจ เน่ืองจำกเป็นกำรปอ้ งกนั ตัวเจ้ำหน้ำท่ีผปู้ ฏิบัติเอง หรือผอู้ ืน่ ใหพ้ ้นจำกภยันตรำยซง่ึ เกิดจำก กำรกระทำทฝี่ ่ำฝืนกฎหมำย และภยันตรำยนั้นใกล้จะถึง และได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุ ซ่ึงในกำร ตัดสนิ ใจจะต้องพจิ ำรณำถึง ควำมรุนแรงของอำวุธ, ปฏกิ ิรยิ ำและจำนวนคนร้ำย และสง่ิ ทีส่ ำคัญคำนึงถึง อำวุธของเจ้ำหน้ำที่ตำรวจท่ีมีใชอ้ ยู่ในขณะน้ันด้วยเป็นเคร่ืองบ่งชี้ชัดว่ำจะใชก้ ำลังในระดับใด และต้อง ไม่เกินกว่ำเหตุด้วย โดยมิต้องเร่ิมต้นในระดับท่ี 1 เสมอไป อำจจะเริ่มที่ระดับใดก็ได้ แล้วแต่ใน สถำนกำรณ์ที่กล่ำวมำข้ำงต้น คือ อำวุธ ปฏิกิริยำ จำนวนคนร้ำย และอำวุธของเจ้ำหน้ำท่ีที่มีใช้อยู่ใน ขณะนัน้ และในทำงกลบั กันระดับกำรใชก้ ำลังอำจลดลงตำมลกั ษณะของควำมรนุ แรงของคนร้ำยในเร่ือง อำวธุ ปฏิกริ ยิ ำ จำนวนคนร้ำย และอำวธุ ของเจ้ำหน้ำที่ วธิ ีในกำรศึกษำตัวแบบขอใหจ้ ดจำภำพรวมของท้ังตัวแบบให้ได้ก่อน จำกนั้นจึงเร่ิมศึกษำแบบ แยกส่วน ซึ่งจะมีคำอธิบำยโดยละเอียด เพื่อเสริมควำมเข้ำใจ ตัวแบบท่ีปรำกฏด้ำนล่ำงนี้ จึงขอให้ เริ่มต้นศึกษำแนวทำงกำรปฏบิ ตั ิโดยดจู ำกลักษณะกำรกระทำของผูต้ ้องสงสัย/กระทำควำมผิด (Action) กอ่ น ซ่ึงในส่วนน้ีจะอธบิ ำยถงึ กำรแสดงออกถงึ พฤติกำรณข์ องผู้ต้องสงสัยหรือผู้กระทำควำมผิด แล้วจึง มำศึกษำเรอื่ งของกำรตอบโต้สถำนกำรณ์ของเจ้ำหน้ำทต่ี ำรวจ (Reaction) โดยภำพที่ปรำกฏด้ำนล่ำงน้ี เป็นภำพรวมท้ังหมดของตัวแบบ ขอให้ทุกท่ำนสังเกตจดจำหมำยเลขท่ีปรำกฏบนพื้นที่ส่วนต่ำง ๆ ของ
61 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝึกอบรมขา้ ราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพือ่ เลอ่ื นตาแหนง่ เลือ่ นยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชนั้ สญั ญาบตั ร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ตัวแบบ ซ่ึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้กำรอธิบำยในส่วนต่อ ๆ ไปได้ง่ำยขึ้น ในกรณีที่กำรศึกษำในส่วน ต่อไปเกดิ ควำมไม่แน่ใจ ขอให้ท่ำนกลับมำทบทวนหมำยเลขทป่ี รำกฏในภำพด้ำนล่ำงอีกครง้ั หนงึ่ รปู ภำพท่ี 21 ระดบั กำรใชก้ ำลังของเจำ้ หนำ้ ท่ตี ำรวจเพื่อแกไ้ ขสถำนกำรณ์ (Use of Force) 2.1 คำอธิบำยพน้ื ทส่ี ่วนตำ่ ง ๆ ของตวั แบบเรียงตำมลำดับหมำยเลข ลักษณะของวธิ ีกำรใช้งำนตัวแบบให้เริ่มต้นศกึ ษำ ตำมพื้นท่ีสว่ นต่ำง ๆ ท่ีมีหมำยเลขกำหนดใน ภำพ ดงั น้ี พื้นที่ส่วนที่ 1 แถบสีเขียว เหลือง แดง ในฝ่ังท่ีเขียนว่ำผู้ต้องสงสัย/ผู้กระทำควำมผิด จะมี แถบสี ท่ีลำกมำจนสุดฝั่งของกำรปฏิบัติของเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ สังเกตจำกลูกศรแนวนอนในตัวแบบ จะ แสดงถึงระดับข้ันสูงสุดของกำรใช้เครื่องมือทำงยุทธวิธีท่ีเจ้ำหน้ำที่ตำรวจจะใช้ตอบโต้ได้ โดยลูกศร แนวต้ังจะลำกขึ้นไปหำเคร่ืองมือทำงยุทธวิธีที่เหมำะสมด้ำนบน ซ่ึงในบำงช่วงสีอำจมีเคร่ืองมือทำง ยุทธวิธี มำกกว่ำ 1 อย่ำง โดยปัจจยั ทเ่ี ข้ำมำเกี่ยวข้องจะข้ึนกับพฤตกิ ำรณ์แวดล้อมของเหตุกำรณ์นั้น ๆ ซ่งึ จะอธบิ ำยในชว่ งท้ำย
62 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพื่อเลอ่ื นตาแหน่งเล่อื นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชั้นสัญญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- พ้นื ทส่ี ่วนท่ี 2 แถบสีเทำไล่สีจำกออ่ นไปหำเขม้ ท่ีเขียนข้อควำมอำจจะเกินควำมจำเปน็ เขยี น ไว้เพื่อเตอื นว่ำหำกเจ้ำหน้ำทตี่ ำรวจปฏิบตั งิ ำนแล้ว กำรกระทำของผตู้ อ้ งหำหรือผกู้ ระทำควำมผดิ มกี ำร ใช้เคร่ืองมือทำงยุทธวิธีด้ำนบนมำอยู่ในพ้ืนที่สีเทำ แสดงว่ำเจ้ำหน้ำที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้ำท่ีโดยใช้ เครือ่ งมอื ทำงยุทธวธิ ีเกนิ ควำมจำเป็นแก่เหตุ พื้นท่ีส่วนที่ 3 แถบสีเขียว เหลือง แดง ท่ีไล่สีจำกอ่อนไปหำเข้มท่ีเขียนข้อควำมอำจจะไม่ ปลอดภัยเขียนไว้เพอ่ื เตอื นว่ำหำกเจ้ำหน้ำท่ตี ำรวจปฏิบัตงิ ำนแล้ว กำรกระทำของผู้ต้องหำหรือผกู้ ระทำ ควำมผิด มีกำรใชเ้ ครื่องมือทำงยุทธวิธีด้ำนบนมำอย่ใู นพน้ื ที่สอี อ่ น แสดงว่ำเจ้ำหน้ำท่ตี ำรวจกำลังปฏิบัติ หน้ำท่ีโดยใช้เครื่องมือทำงยุทธวิธไี ม่เหมำะสมกับพฤติกำรณ์ของผู้ต้องหำหรอื ผู้กระทำควำมผิด ซึ่งอำจ สง่ ผลใหเ้ จ้ำหน้ำที่ตำรวจไมป่ ลอดภัย พ้นื ท่สี ่วนที่ 4 แถบสีเขยี ว เหลอื ง และแดง ท่อี ยู่ดำ้ นบน เป็นอปุ กรณ์ทำงยทุ ธวิธีทเ่ี หมำะสมท่ี เจ้ำหน้ำที่ตำรวจจะใช้ตอบโต้ได้ โดยมีสัดส่วนกำรกระทำพอสมควรแก่เหตุ ท้ังนี้ หำกสังเกตลูกศร แนวตั้งในบำงกำรกระทำของผู้ต้องหำที่ลำกข้ึนมำจำกลูกศรแนวนอน จะมีลูกศรแนวต้ังผ่ำนข้ึนไปได้ หลำยจุด แสดงว่ำเจ้ำหน้ำที่ตำรวจสำมำรถใช้เครื่องมือทำงยุทธวิธีในกำรตอบโต้สถำนกำรณ์ได้หลำย ประเภท โดยขึ้นอยกู่ ับปัจจยั ทเี่ ข้ำมำเกย่ี วข้องกับพฤติกำรณ์แวดลอ้ มของเหตุกำรณน์ ั้น ๆ ซ่ึงจะอธิบำย ในช่วงท้ำยสำหรับปีกกำที่เขียนอยู่ด้ำนนอกครอบคลุมพื้นที่สีเขียวออ่ นและเขยี วเขม้ ซึ่งมขี ้อควำมว่ำใช้ เบื้องต้นในทุกสถำนกำรณ์ หมำยถึงกำรกระทำกำรใด ๆ ก็แล้วแตใ่ นตัวแบบนี้ให้เร่มิ ต้นจำกกำรแสดงตัว ของเจ้ำหน้ำที่ และกำรส่ังกำรด้วยวำจำหรือท่ำทำงก่อนเสมอ ซ่ึงเป็นหลักนิยมสำกลท่ีทั่วโลกใช้ปฏิบัติ อันมีที่มำจำกกำรให้ควำมสำคัญในสิทธิและเสรีภำพของประชำชน ตำมปฏิญญำสำกลว่ำด้วยหลักสิทธิ มนษุ ยชน
63 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพื่อเลอ่ื นตาแหน่งเลื่อนยศ เลอื่ นไหลเปน็ ชน้ั สญั ญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 2.2 หลกั นยิ มในกำรสรำ้ งตวั แบบระดบั กำรใช้กำลัง ในประเทศทีม่ ีกำรบงั คับใช้กฎกำรใช้กำลังสำหรับเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจ นิยมนำสัญลักษณข์ องแถบ สมี ำเป็นเคร่ืองมือในกำรอธิบำยเพื่อแบ่งระดับของกำรกระทำของผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผิด โดยส่ือ ถึงควำมหนักเบำของพฤติกำรณ์ ทกุ ประเทศจะให้ควำมสำคัญกับกำรกระทำของผูต้ ้องสงสัย/ผกู้ ระทำ ควำมผิด (Action) อันมีเหตุอันควรสงสัยว่ำจะเป็นควำมผิดตำมกฎหมำย เป็นตัวเร่ิมในกำรอธิบำยตัว แบบโดยสีเขยี วจะแสดงถึงระดับขั้นกำรใช้ทเี่ บำที่สดุ สสี ้มเป็นระดับข้ันกำรใชก้ ำลงั ทมี่ ีควำมแรงมำกข้ึน และสีแดงเปน็ ระดับข้นั กำรใช้กำลังทีต่ ้องมกี ำรตระหนกั สงู สดุ
64 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจช้นั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพ่อื เลอื่ นตาแหน่งเลือ่ นยศ เลอื่ นไหลเป็นชน้ั สญั ญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- เพื่อให้ง่ำยต่อกำรทำควำมเข้ำใจ จึงตัดส่วนต่ำง ๆ ของตัวแบบมำเพ่ือใช้ในกำรอธิบำยเป็น 3 ส่วนสำคญั คือ 1. กำรกระทำควำมผิดของผู้ตอ้ งสงสยั /กระทำควำมผิด 2. กำรตอบโต้ของเจ้ำหน้ำที่ (ตำมควำมหนักเบำของกำรกระทำของผู้ต้องสงสัย/ กระทำควำมผิด) 3. เคร่ืองมือทำงยุทธวิธีในกำรตอบโต้ผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผิดท่ีเหมำะสม ท้ังนี้ หลักในกำรปฏิบัตทิ ำงทฤษฎีนั้นจะเป็นส่วนสำคัญในกำรพัฒนำกำรฝึกภำคปฏิบตั ิท่ีตอ้ งมกี ำรฝึกทกั ษะ ทำงยทุ ธวิธีตำมท่ไี ด้มีกำรออกแบบไว้โดยเฉพำะ 3. คาอธิบายท่ัวไปเก่ียวกับการกระทาของผ้ตู อ้ งสงสัย/กระทาความผดิ จำกภำพ จะพบว่ำแถบสีเขียวด้ำนล่ำงจะเป็นลักษณะของกำรกระทำท่ีผู้ต้องสงสัย/กระทำ ควำมผิดปฏิบัติตำมกรอบของกฎหมำยและเชื่อฟังเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจ ไล่รำยละเอียดข้ึนไปเป็นแถบสี เหลอื งที่เร่ิมไม่ปฏบิ ัติตำมหรอื มที ำ่ ทีขดั ขนื ไปจนถงึ แถบสีแดงที่เรมิ่ มีแนวโนม้ ทีก่ ำรกระทำรุนแรงในกำร ตอบโต้เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจซ่ึงในแต่ละแถบสีจะมีกำรกระทำที่มีระดับควำมเข้มข้นแตกต่ำงกันออกไปอีก ดังนั้นจึงควรจดจำแถบสีให้ได้ก่อนจะศึกษำในหัวข้อถัดไป ซึ่งจะกำหนดแยกย่อยลงไปอีกว่ำ มี พฤติกำรณต์ อบสนองต่อเจำ้ หน้ำทตี่ ำรวจอย่ำงไร
65 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจช้ันประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพือ่ เล่อื นตาแหนง่ เลอื่ นยศ เลอื่ นไหลเป็นชน้ั สญั ญาบัตร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- คาอธิบายอยา่ งละเอยี ดของการกระทาของผ้ตู ้องสงสัยหรือผ้กู ระทาความผิด 3.1 กำรแบ่งระดับอย่ำงละเอียดของบุคคลท่ีให้ควำมร่วมมือ (แถบสีเขียว) แบ่ง ออกเป็น 2 ระดบั ไดแ้ ก่ ระดบั ที่ 1 ให้ควำมร่วมมือโดยไมต่ ้องออกคำสงั่ (แถบสีเขยี วอ่อน): ผ้ตู อ้ งสงสยั /กระทำ ควำมผิด ที่ให้ควำมร่วมมือโดยไม่ต้องออกคำสั่ง ให้เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจรักษำระยะห่ำงท่ีเหมำะสม ท้ังน้ี ต้องไม่ลดระดับกำรระมดั ระวังตวั ลง จนกว่ำจะมีกำรควบคุมตัวอยำ่ งถูกตอ้ งทำงยทุ ธวิธี และมีกำรตรวจ คน้ อยำ่ งละเอยี ดจนแน่ใจว่ำมคี วำมปลอดภยั ระดับท่ี 2 ให้ควำมร่วมมือตำมกำรออกคำส่ัง (แถบสีเขียวเข้ม): ผู้ต้องสงสัย/กระทำ ควำมผิด ให้ควำมร่วมมือเฉพำะที่เป็นกำรตอบสนองต่อคำส่ังเท่ำน้ัน ให้เจ้ำหน้ำท่ีเรียงลำดับในกำรส่ัง กำรให้ถูกต้องตำมหลักทำงยทุ ธวิธี กำรส่ังกำรด้วยวำจำ กำรแสดงออกดว้ ยท่ำทำงตอ้ งมคี วำมเหมำะสม พอสมควรแก่เหตุ ได้สัดส่วนกับกำรกระทำ ท้ังนี้ ต้องไม่ลดระดับกำรระมัดระวังตัวลง และประเมิน ควำมเส่ียงในสถำนกำรณ์ให้สูงอยู่เสมอ จนกว่ำจะมีกำรควบคุมตัวอย่ำงถูกต้องทำงยุทธวิธี และมีกำร ตรวจคน้ อย่ำงละเอียดจนแน่ใจว่ำมคี วำมปลอดภยั 3.2 กำรแบ่งระดับอย่ำงละเอียดของบุคคลท่ีขัดขืน (แถบสีเหลือง) แบ่งออกเป็น 2 ระดับ ระดับที่ 1 ขัดขืนดว้ ยกำรน่ิงเฉยไม่ปฏบิ ัตติ ำมคำสงั่ (แถบสีเหลืองอ่อน): ผูต้ ้องสงสัย/ กระทำควำมผิดท่ีมีท่ำทีขัดขืนด้วยกำรนิ่งเฉยไม่ปฏิบัติตำมคำสั่งทำงวำจำหรือท่ำทำงของเจ้ำหน้ำท่ี ตำรวจ แมว้ ำ่ กำรนิ่งเฉยนน้ั จะเป็นกำรนงิ่ เฉยด้วยสันติ ไมม่ ีท่ำทำงจะตอบโต้กับเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจ แต่กำร นงิ่ เฉยไม่ปฏบิ ัตติ ำมเป็นอุปสรรคในกำรเข้ำไปเผชิญเหตุ หรือทำให้เจำ้ หน้ำที่ตำรวจต้องเข้ำใกล้เกินกว่ำ ระยะปลอดภัย ท้ังน้ี เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจที่ต้องดำเนินกำรกับบุคคลดังกล่ำว ต้องระมัดระวังพฤติกำรณ์
66 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝึกอบรมข้าราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขน้ึ ไป เพอ่ื เลื่อนตาแหนง่ เลื่อนยศ เลอ่ื นไหลเป็นช้ันสัญญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- หรือท่ำทีท่ีอำจเปล่ียนแปลงอย่ำงรวดเร็ว โดยต้องไมล่ ดระดบั กำรระมัดระวังตัวลง กำรสัง่ กำรดว้ ยวำจำ กำรแสดงออกดว้ ยท่ำทำงต้องมีควำมเหมำะสม พอสมควรแกเ่ หตุ ได้สดั ส่วนกับกำรกระทำจนกว่ำจะมี กำรควบคุมตัวอย่ำงถูกต้องทำงยุทธวธิ ี และมีกำรตรวจค้นอยำ่ งละเอียดจนแน่ใจว่ำมคี วำมปลอดภยั ระดับที่ 2 ขัดขืนดว้ ยกำรเคล่ือนไหวเพ่อื หลีกเล่ียงกำรปฏิบตั ติ ำม (แถบสีเหลืองเข้ม): ผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผิดที่มีท่ำทีขดั ขนื ด้วยกำรเคล่ือนไหว ไม่ปฏิบตั ิตำมคำสั่งทำงวำจำหรือท่ำทำง ของเจำ้ หน้ำท่ีตำรวจ โดยมีวตั ถุประสงค์เพือ่ หลีกเล่ียงกำรปฏบิ ัติ แม้วำ่ กำรเคล่ือนไหวนนั้ จะเปน็ ไปด้วย สันติ หรือพยำยำมจะหลบหนี ซึ่งเป็นอุปสรรคในกำรเข้ำไปเผชิญเหตุ หรือทำให้เจ้ำหน้ำท่ีตำรวจต้อง เข้ำใกล้ เกินกว่ำระยะปลอดภัย ท้ังน้ี เจ้ำหน้ำที่ตำรวจท่ีต้องดำเนินกำรกับบุคคลดังกล่ำว ต้อง ระมัดระวังพฤตกิ ำรณห์ รือท่ำทที ี่อำจพลิกผนั อย่ำงรวดเรว็ โดยตอ้ งไม่ลดระดับกำรระมดั ระวังตวั ลง กำร ส่ังกำรด้วยวำจำ กำรแสดงออกด้วยท่ำทำงต้องมีควำมเหมำะสม พอสมควรแก่เหตุ ได้สัดส่วนกับกำร กระทำ จนกว่ำจะมีกำรควบคุมตัวอย่ำงถูกต้องทำงยทุ ธวธิ ี และมกี ำรตรวจค้นอย่ำงละเอียดจนแน่ใจว่ำมี ควำมปลอดภัย กรณีมที ่ำทหี ลบหนีใหพ้ งึ ระมดั ระวังอย่ำงยิง่ ในกำรใช้เครอ่ื งมอื ทำงยุทธวธิ เี พ่ือตอบโต้หรอื ยบั ย้ัง พฤติกำรณ์ และถือเป็นเร่ืองละเอียดอ่อนในกำรตัดสินใจในกำรใช้กำลัง ต้องพึงสังเกตถึงแนวโน้มหรือ โอกำสในกำรใช้อำวุธเพ่ิมเตมิ ประกอบด้วย ซงึ่ ในส่วนน้จี ะอยู่ในกำรฝกึ ทักษะเพอ่ื พัฒนำกำรตัดสนิ ใจที่มี ประสทิ ธิภำพจำกกำรจำลองสถำนกำรณเ์ สมอื นจริง 3.3 กำรแบ่งระดับอย่ำงละเอียดของบุคคลที่ทำร้ำย (แถบสีแดง) แบ่งกำรกระทำ ออกเป็น 3 ระดับควำมรุนแรง
67 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝึกอบรมข้าราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพื่อเลอ่ื นตาแหนง่ เล่อื นยศ เลอื่ นไหลเป็นช้ันสัญญาบัตร ถึงยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ระดับท่ี 1 กำรกระทำโดยปรำศจำกอำวธุ (แสดงกรยิ ำ/ทำ่ ทำงว่ำจะทำรำ้ ยเจ้ำหน้ำที่ หรือผ้อู ื่น): ผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผิดไม่ให้ควำมร่วมมือหรือปฏิบัตติ ำมคำสง่ั เมื่อเจ้ำหน้ำทีเ่ ข้ำใกล้ เกินกว่ำระยะปลอดภัย ท้ังยังแสดงกริยำหรือท่ำทำงว่ำจะทำร้ำยเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ หรือผู้อ่ืน ซึ่งกำร กระทำน้ันอำจส่งผลต่อควำมปลอดภัยของกำรปฏิบัติงำนของเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจที่เข้ำเผชิญเหตุ ท้ังนี้ เจ้ำหน้ำทีต่ ำรวจท่ีตอ้ งดำเนินกำรกับบคุ คลดงั กล่ำวตอ้ งพึงระมัดระวังกำรซุกซ่อนอำวุธ หรือส่งิ ท่ีอำจใช้ แทนอำวุธได้ ขณะเข้ำทำกำรตอบโต้กับสถำนกำรณ์ต้องพึงระลึกเสมอถึงกฎของควำมปลอดภัย และ ตอ้ งมีควำมเหมำะสมพอสมควรแก่เหตุ ได้สดั สว่ นกับกำรกระทำ จนกว่ำทำกำรควบคุมตัวอย่ำงถูกต้อง ทำงยุทธวธิ ี และมกี ำรตรวจคน้ อยำ่ งละเอยี ดจนแน่ใจว่ำมคี วำมปลอดภยั ระดับที่ 2 กำรกระทำโดยเชื่อวำ่ จะเกิดอันตรำยตอ่ กำยจนได้รับบำดเจบ็ (แถบสีแดง ออ่ น): ผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผดิ ไม่ใหค้ วำมร่วมมือหรือปฏิบัติตำมคำสั่ง เม่อื เจ้ำหน้ำที่เขำ้ ใกล้เกิน กว่ำระยะปลอดภัย มีพฤตกิ ำรณ์ตอบโต้โดยมีลักษณะกำรกระทำท่ีเชื่อว่ำจะมกี ำรทำอันตรำยตอ่ กำยจน ได้รับบำดเจ็บโดยอำจใช้อำวุธ หรือใช้วัสดุที่ไม่ได้เป็นอำวุธโดยสภำพ ประกอบกำรกระทำ ทั้งนี้ พึง ระมัดระวงั และสังเกตวัตถุทีผ่ ู้ต้องสงสยั หรอื ผ้กู ระทำควำมผดิ ใช้ในกำรตอบโต้เจ้ำหนำ้ ที่ ขณะเขำ้ ทำกำร ตอบโตก้ ับสถำนกำรณต์ ้องพงึ ระลกึ เสมอถงึ กฎของควำมปลอดภัย และต้องมีควำมเหมำะสม พอสมควร แก่เหตุ ได้สัดส่วนกับกำรกระทำ จนกว่ำทำกำรควบคุมตัวอยำ่ งถูกต้องทำงยุทธวธิ ี และมีกำรตรวจค้น อยำ่ งละเอยี ดจนแน่ใจว่ำมีควำมปลอดภยั ระดับท่ี 3 กำรกระทำท่ีเช่ือว่ำจะก่อให้เกิดกำรบำดเจ็บสำหัสหรือเสียชีวิต (แถบสี แดงเข้ม): ผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผิด ไม่ให้ควำมร่วมมือหรือปฏิบัติตำมคำส่ัง มีพฤติกำรณ์ตอบโต้ โดยมีลักษณะกำรกระทำที่เช่ือว่ำจะก่อให้เกิดกำรบำดเจ็บสำหัสหรือเสียชีวิตโดยอำจใช้อำวุธ หรือใช้ วัสดุท่ีไม่ได้เป็นอำวุธโดยสภำพ ประกอบกำรกระทำ ท้ังน้ี พึงระมัดระวังและสังเกตวัตถุที่ผู้ต้องสงสัย หรือผู้กระทำควำมผิดใช้ในกำรตอบโต้เจ้ำหน้ำท่ีขณะเข้ำทำกำรตอบโต้กับสถำนกำรณ์ต้องพึงระลึก เสมอถึงกฎของควำมปลอดภัย และต้องมีควำมเหมำะสม พอสมควรแก่เหตุ ได้สัดส่วนกับกำรกระทำ จนกว่ำทำกำรควบคุมตัวอย่ำงถูกต้องทำงยุทธวิธี และมีกำรตรวจค้นอย่ำงละเอียดจนแน่ใจว่ำมีควำม ปลอดภัย
68 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝกึ อบรมข้าราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึน้ ไป เพอ่ื เลอื่ นตาแหนง่ เลื่อนยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชั้นสญั ญาบัตร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- 4. คาอธบิ ายทว่ั ไปเก่ียวกบั การปฏบิ ัติของเจ้าหน้าท่ีตารวจ คำอธิบำยในส่วนนีจ้ ะเป็นเร่ืองของเคร่ืองมือทำงยุทธวิธีทใ่ี ช้ในกำรตอบโตท้ ี่เหมำะสม โดยต้องทำควำมเข้ำใจว่ำกำรกระทำของผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผิด จำแนกอยู่ในสีใด และมีระดับ ควำมรุนแรงเพยี งใดเพ่ือจะไดเ้ ลอื กใช้เครื่องมือทำงยุทธวิธีสำหรับกำรตอบโตไ้ ดอ้ ยำ่ งเหมำะสม และจำก ภำพด้ำนล่ำงจะพบว่ำในบำงกลุ่มสีมกี ำรใช้เคร่ืองมือทำงยุทธวิธีในกำรตอบโตไ้ ด้หลำยอย่ำง ทัง้ นี้ หลัก ในกำรพิจำรณำ ที่ละเอียดรอบคอบเกิดจำกกำรฝึกทักษะในกำรตอบโต้ โดยต้องคำนึงถึงหลักสัดส่วน พอสมควรแก่เหตุ และเปน็ กำรป้องกนั โดยชอบดว้ ยกฎหมำย 4.1 คำอธบิ ำยโดยละเอยี ดท่วั ไปเก่ียวกับกำรปฏบิ ตั ขิ องเจ้ำหนำ้ ท่ีตำรวจ กำรแสดงตัวของเจ้ำหน้ำท่ีที่เหมำะสมมีผลต่อกำรตัดสินใจในกำรตอบโต้จำกผู้ต้องสงสัย/ กระทำควำมผิด ดังนั้นกำรให้ควำมสำคัญในกำรแสดงตัวด้วยเคร่ืองแบบ กำรแสดงบัตรประจำตัวของ เจ้ำหน้ำท่ี และกำรออกคำส่ังควบคุมผ่ำนท่ำทำง วำจำ เป็นทำงเลือกระดับแรกท่ีเจ้ำหน้ำท่ีตำรวจทุก นำยต้องใช้ก่อนท่ีจะมีกำรพัฒนำระดับกำรเลือกใช้เคร่ืองมือตอบโต้ทำงยุทธวธิ ีชนดิ อน่ื ๆ เพรำะในส่วน นจี้ ะช่วยลดโอกำสและระดับควำมรนุ แรงในกำรกระทำของผู้ตอ้ งสงสัย/กระทำควำมผิดไดใ้ นระดับหนึ่ง วธิ ีกำรปฏิบตั ใิ นระดับน้เี หมำะสมที่สุดกบั ผ้ตู ้องสงสัย/กระทำควำมผิดท่ีให้ควำมรว่ มมอื (สเี ขียว)
69 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชั้นประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ขึ้นไป เพอ่ื เลื่อนตาแหนง่ เล่ือนยศ เลอ่ื นไหลเปน็ ชนั้ สญั ญาบัตร ถงึ ยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ในสว่ นนจ้ี ะเริ่มอธิบำยถึงกำรตอบโต้ทำงยทุ ธวิธีที่เหมำะสมของเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ ในระดับของ กำรกระทำควำมผิดของผูต้ ้องสงสยั /กระทำควำมผดิ สำหรับบุคคลท่ีขัดขนื (สีเหลอื ง) ก. กำรจับหรือกำรกดใหเ้ จ็บเพ่อื ยนิ ยอม หรือกำรควบคมุ ด้วยมือเปล่ำ ในส่วนน้ีต้องมีกำรฝึกทักษะเฉพำะในกำรกดจุดเพื่อทำให้หยุดชะงักหรือกำรจับหัก ตำมข้อต่อต่ำง ๆ ของร่ำงกำย เพ่ือทำให้หมดแรงขดั ขืน และยนิ ยอมปฏิบัติตำมทเ่ี จ้ำหน้ำท่ดี ำเนนิ กำร ข. กำรใชส้ เปรยพ์ ริกไทย ในส่วนนี้ต้องมีข้อพิจำรณำถึงกำรฝึกทักษะของกำรวำงตำแหน่งระยะปลอดภัย ระหว่ำงเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ กับท่ำทีในกำรตอบโต้ และโอกำสในกำรตัดสินใจเข้ำโจมตีของระหว่ำงผู้ต้อง สงสยั /กระทำควำมผิด ในส่วนนี้จะเริ่มอธิบำยถึงกำรตอบโต้ทำงยุทธวิธีท่เี หมำะสมของเจ้ำหน้ำที่ตำรวจ ในระดับของ กำรกระทำควำมผิดของผู้ตอ้ งสงสยั /กระทำควำมผดิ สำหรบั บุคคลทีข่ ัดขนื (สแี ดง) ก. กำรใช้กำลังตอ่ ร่ำงกำยเพ่ือควบคุม ถือเป็นแนวทำงในกำรใช้กำลังต่อบคุ คลท่ีขัดขืนใน ระดบั ตำ่ สุด ซง่ึ ต้องมกี ำรฝกึ ทกั ษะเฉพำะทำงเพ่ือใหก้ ำรใชก้ ำลงั นน้ั เปน็ ไปข้อกำหนดตำมกฎหมำย
70 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สตู รฝึกอบรมข้าราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพอ่ื เล่ือนตาแหน่งเล่อื นยศ เลอื่ นไหลเปน็ ช้นั สญั ญาบตั ร ถงึ ยศรอ้ ยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ข. อำวุธไม่ถึงตำย ด้ิว กระบอง เป็นทำงเลือกในกำรใชเ้ คร่ืองมือทำงยุทธวิธีในกำรตอบโต้ สำหรับบุคคลที่ขัดขืน โดยไม่ทำให้บำดเจ็บสำหัสหรือถึงตำย ซ่ึงต้องมีกำรฝึกทักษะเฉพำะทำงในกำร เลือกจุดตกกระทบท่จี ะไม่ก่อให้เกดิ ควำมเสียหำยอยำ่ งถำวรต่อรำ่ งกำยผขู้ ัดขืน ค. สเปรย์พริกไทย เป็นทำงเลอื กในกำรใช้เครื่องมือทำงยุทธวิธีในกำรตอบโต้สำหรับบคุ คลที่ ขัดขืน โดยก่อให้เกิดอำกำรระคำยเคืองแสบร้อนที่ผิวหนัง ใบหน้ำ หรือดวงตำ เพ่ือลดโอกำสในกำร โจมตี บดบังทัศน์วิสัยในกำรตอบโต้กับเจ้ำหน้ำท่ีซ่ึงต้องมีกำรฝึกทักษะเฉพำะในกำรปฐมพยำบำลหลัง กำรใช้สเปรยพ์ รกิ ไทย ง. กระสนุ ยำง เปน็ ทำงเลือกในกำรใช้เครื่องมือทำงยุทธวิธใี นกำรตอบโตส้ ำหรับบุคคลทีข่ ัดขืน โดยทำให้เกิดกำรชะงัก หยุดย้ังพฤติกำรณ์ ล่ำถอย ซ่ึงต้องมีกำรฝึกทักษะเฉพำะในกำรเลือกจุดเล็งยิง เพอื่ ไมใ่ ห้เกิดกำรบำดเจบ็ สำหสั หรือถงึ ตำย จ. ปืนไฟฟ้ำ เป็นทำงเลือกในกำรใช้เคร่ืองมือทำงยทุ ธวิธใี นกำรตอบโต้สำหรับบคุ คลทีข่ ัดขืน โดยทำใหเ้ กิดกำรชะงัก หมดแรงในกำรตอบโต้ ล้มลง และยินยอมให้ควบคุมตัวโดยไมม่ ีแรงในกำรต่อสู้ ขดั ขืน ซงึ่ ต้องมีกำรฝกึ ทักษะเฉพำะในกำรเลือกจุดเลง็ ยิง ระยะเวลำในกำรช็อต และกำรปฐมพยำบำล หลังกำรใช้ ในกรณีที่อำจเป็นผู้ปว่ ยท่ีใส่เครอ่ื งกระตนุ้ หวั ใจไฟฟำ้ ฉ. อำวุธปืน เป็นทำงเลือกในกำรใช้เคร่อื งมือทำงยุทธวิธีในกำรตอบโต้สำหรับบุคคลที่ขัดขืน โดยทำให้เกิดอำกำรบำดเจ็บได้ในหลำยระดับ ต้ังแต่บำดเจ็บไม่ถึงตำยในกรณีถูกอวัยวะไม่สำคัญ ไป จนกระทั่งกำรบำดเจ็บที่อำจถึงตำยหำกไม่ได้ รับกำรปฐมพยำบำลอย่ำงทันท่วงที และบำดเจ็บถึงตำย ในทันทเี มื่อโดนอวยั วะทสี่ ำคญั ซึ่งตอ้ งมีกำรฝึกทกั ษะเฉพำะ ควำมแม่นยำในกำรเล็งกำรตัดสินใจยงิ ใน ภำวะวิกฤติและกำรฝึกปฐมพยำบำลทำงยุทธวธิ ีเพ่ือรักษำชีวิตของผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผิดจำกตัว แบบท้ังหมดจะพบว่ำ ระดับกำรใช้กำลังของเจ้ำหน้ำทีใ่ หค้ วำมสำคัญกับกำรรักษำชีวติ ของผู้ต้องสงสัย/ กระทำควำมผิด โดยคำนึงถงึ ควำมปลอดภัยในกำรปฏิบตั ิทเี่ หมำะสมควบคู่ไปกบั กำรให้ควำมเคำรพใน ศักดศ์ิ รคี วำมเป็นมนษุ ย์อย่ำงเท่ำเทยี มและเสมอภำค กำรปรับระดับกำรใช้กำลังแบบก้ำวกระโดด อำจมี กำรปรับระดับควำมเข้มของกำรใช้เครื่องมือตอบโต้ทำงยทุ ธวิธใี หส้ งู ข้นึ หรือลดลง ทั้งน้ี ต้องไม่หลุดจำก กรอบพฤติกำรณข์ องผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผดิ โดยตอ้ งพิจำรณำถึงเหตุและผลอนั อำจเกิดจำกกำรใช้ เครื่องมือตอบโต้ทำงยุทธวิธี ที่มีสัดส่วนเหมำะสมกับกำรกระทำของผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผิด มำ ประกอบดุลพนิ ิจในกำรใชเ้ ครื่องมือตอบโตท้ ำงยทุ ธวิธขี องเจ้ำหน้ำทีต่ ำรวจด้วย ท้ังนี้ ต้องมีกำรฝึกทักษะหลำยอย่ำงควบคู่กันไป ตั้งแต่กำรพัฒนำทักษะในกำรตัดสินใจ กำร เลือกใช้เครื่องมือตอบโต้ทำงยุทธวิธีที่เหมำะสม กำรปฐมพยำบำลหลังกำรใช้เครื่องมือทำงยุทธวิธี เหล่ำน้ันกบั ผู้ต้องสงสัย/กระทำควำมผิด และต้องให้ควำมสำคัญกับเคร่ืองมอื ตอบโตท้ ำงยุทธวิธีตำรวจ ด้วยกำรฝกึ ทกั ษะจำกอุปกรณม์ ำตรฐำนทีไ่ ดร้ บั กำรจัดหำจำกสำนักงำนตำรวจแหง่ ชำติ
71 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสูตรฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพ่อื เลื่อนตาแหน่งเลอื่ นยศ เลอ่ื นไหลเป็นช้นั สัญญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- บรรณานกุ รม กองบัญชำกำรตำรวจนครบำล. (2561). คู่มือการบริหารงานป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม 4.0. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ตำรวจ. สำนกั งำนตำรวจแห่งชำติ. (2557). คู่มือการฝกึ ยทุ ธวิธปี ระจาสถานีตารวจ. กรุงเทพฯ: โรงพิมพต์ ำรวจ สำนักงำนตำรวจแห่งชำติ. (2559). คู่มือการปฏิบัติมาตรฐานสาหรับเจ้าหน้าท่ีตารวจสายตรวจและ เจา้ หนา้ ที่ตารวจผู้ประสบเหตุ 2559. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ตำรวจ คู่มือการฝกึ หลักสตู รการอยรู่ อดของเจ้าหนา้ ท่ีและยุทธวิธี (Officer Survival and Tactics / O.S.T.) สำนักงำนตำรวจแห่งชำติ. คู่มือการฝึกหลักสูตรยุทธวิธีตารวจขน้ั พื้นฐาน สานักงานตารวจ แห่งชาติ. สำนักพิมพ์ สตู รไพศำล. กรงุ เทพฯ, 2554. ตระกูลรักษ์ (Trak) ศลิ ปะดุรยิ ำงค์ (Chicago Police Academy Instructor), และ ฝำ่ ยกิจกำรอำชญำกรรมข้ำมชำติ สถำนเอกอัครรำชทูตรฐั อเมริกำประจำประเทศไทย. เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการอยู่อดของเจา้ หน้าท่แี ละยทุ ธวธิ .ี กรงุ เทพฯ ประเทศไทย, 2555. ค่มู อื การฝกึ หลกั สตู รการเขา้ ตรวจค้นและปฏิบตั ิการในอาคาร (Building Entry & Close Quarter Battle / C.Q.B.) กองบญั ชำกำรศกึ ษำ สำนักงำนตำรวจแห่งชำต.ิ คู่มอื ตำรวจหลกั สูตรนักเรยี นนำยสิบตำรวจ เลม่ 8. โรงพมิ พต์ ำรวจ. กรุงเทพฯ, 2555 ตระกลู รักษ์ (Trak) ศิลปะดรุ ยิ ำงค์ (Chicago Police Academy Instructor), และ ฝำ่ ยกจิ กำรอำชญำกรรมขำ้ มชำติ สถำนเอกอคั รรำชทตู รัฐอเมริกำประจำประเทศไทย. เอกสารประกอบการฝกึ อบรมหลักสูตรการอยอู่ ดของเจ้าหนา้ ที่และยทุ ธวิธี การหยดุ ยานพาหนะและการควบคุมผคู้ รอบครอง. กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 2555. คู่มือการฝึกหลักสูตรการหยุดยานพาหนะและการควบคุมผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร (Vehicle Stop and Occupants Control / V.S.O.C.) สำนักงำนตำรวจแหง่ ชำต.ิ คมู่ ือการฝึกหลกั สตู ร ยทุ ธวธิ ีตารวจข้ันพ้ืนฐาน สานักงานตารวจแหง่ ชาต.ิ สำนักพมิ พ์ สูตรไพศำล. กรุงเทพฯ, 2555.
72 เอกสารประกอบการบรรยายหลักสตู รฝกึ อบรมขา้ ราชการตารวจชัน้ ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้นึ ไป เพอื่ เลื่อนตาแหนง่ เลื่อนยศ เลอื่ นไหลเปน็ ช้นั สญั ญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- ตระกูลรกั ษ์ (Trak) ศลิ ปะดรุ ิยำงค์ (Chicago Police Academy Instructor), และ ฝำ่ ยกิจกำรอำชญำกรรมข้ำมชำติ สถำนเอกอคั รรำชทตู รัฐอเมรกิ ำประจำประเทศไทย. เอกสารประกอบการฝึกอบรมหลักสูตรการอยู่อดของเจา้ หน้าที่และยุทธวิธี การหยดุ ยานพาหนะและการควบคมุ ผูค้ รอบครอง. กรงุ เทพฯ ประเทศไทย, 2555. ค่มู อื การฝึกหลักสูตรการปฐมพยาบาลทางยทุ ธวธิ ี (Tactical Combat & Casualty Care / TCCC) คณะกรรมกำรมำตรฐำนกำรชว่ ยชีวิต. หนงั สอื คมู่ ือการช่วยชวี ติ ขนั้ พื้นฐาน. บริษทั พมิ พส์ วย จำกดั . กรุงเทพฯ, 2554. นงนชุ ตันตธิ รรม (บรรณำธกิ ำร.) คู่มือการปฐมพยาบาล. กรงุ เทพฯ : สถำบนั กำรแพทย์ด้ำนอุบตั ิเหตุ และสำธำรณภยั กรมกำรแพทย์ กระทรวงสำธำรณสุข, 2552. นายแพทยว์ ิเชียร ดิลกสมั พันธ์ และนายแพทย์ชศู กั ด์ิ เวชแพทย.์ สารานกุ รมไทยสาหรบั เยาวชนฯ เลม่ ที่ 8. กรุงเทพฯ, 2526. แพทยห์ ญงิ รพีพร โรจนแ์ สงเรอื ง และ นำยแพทย์พงศ์ศิษฏ์ สงิ หทัศน.์ เวชศาสตรฉ์ กุ เฉิน คณะแพทย์ศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธบิ ด.ี มหำวิทยำลัยมหดิ ล. กรุงเทพฯ, 2554. สถำบันกำรแพทย์ดำ้ นอบุ ตั เิ หตุและสำธำรณภัย กรมกำรแพทย์. ปฏิบตั กิ ารช่วยชีวิตขนั้ พ้นื ฐาน และการปฐมพยาบาล. โรงพิมพก์ ระทรวงสำธำรณสุข. นนทบรุ ี, 2545. หน่วยเฉพำะกิจดำ้ นทศิ ตะวันตก. คมู่ ือหลักสูตรการปฐมพยาบาลขน้ั สูง (การฝกึ เบเกอร์ทอร์ช 13 - 4). กรุงเทพฯ. ประเทศไทย, 2556. www.safehouse.co.th/blog/2010/10/13/tourniquets-and-their-use/.Tourniquets (ทูนิเก้) กับการห้ามเลือดอย่างถูกวิธี. บทบาทหนา้ ที่ของผู้ประสบเหตุคนแรก (First Responder / F/R) พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต. บทบาทตารวจในการบริหารวิกฤตการณ์ เอกสารประกอบการ บรรยาย หลกั สูตรของสานกั งานตารวจแหง่ ชาต.ิ กรุงเทพฯ, 2556. พ.ต.อ.หญงิ วรณัฐ วรชำตเิ ดชำ. การบริหารวิกฤตการณ์และกฎหมายทเี่ ก่ียวขอ้ ง เอกสาร ประกอบการฝกึ อบรมการบรหิ ารวกิ ฤตการณข์ องสานักงานตารวจแหง่ ชาติ. กรงุ เทพฯ, 2555.
73 เอกสารประกอบการบรรยายหลกั สูตรฝกึ อบรมข้าราชการตารวจชน้ั ประทวนยศดาบตารวจ อายุ ๕๓ ปี ข้ึนไป เพอื่ เล่ือนตาแหน่งเลอ่ื นยศ เลอื่ นไหลเป็นช้นั สัญญาบตั ร ถึงยศร้อยตารวจเอก ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- --------------------------------------------- โรงเรยี นนำยร้อยตำรวจ. คู่มือการเจรจาต่อรอง แก้ไขเหตวุ ิกฤต. โรงพิมพ์ตำรวจ. กรุงเทพฯ, 2545. คู่มอื การฝกึ ยุทธวธิ ปี ระจาสถานตี ารวจ. สำนักงำนตำรวจแห่งชำต.ิ โรงพมิ พต์ ำรวจ. กรุงเพทฯ, 2556.
Search