หนว่ ยท่ี 1การสื่อสารข้อมูลและเครอื ข่ายคอมพิวเตอร์เบอ้ื งต้น เสนอ ครู เพยี รวิทย์ ขามณี จัดทาโดย น.ส.มนสั นันท์ ยิ่งยศสอาด ปวส.2 คอมพิวเตอร์ธุรกิจ(ม.6) เลขท่ี 5
ความรเู้ บอ้ื งต้นเกยี่ วกับเครือข่าย การประดษิ ฐ์คอมพิวเตอรใ์ นสมัยแรกมีจดุ ประสงค์ เพอ่ื จะให้คอมพวิ เตอรท์ างานบางอยา่ งแทนมนษุ ย์ เชน่ การคานวณเลข เพราะคอมพวิ เตอร์สามารถคานวณได้เรว็ กวา่ อกี ท้ังยงั มีความแมน่ ยาและมีความผดิ พลาดนอ้ ยกว่ามนษุ ย์ การทางานนน้ั ถ้าจะให้มปี ระสิทธิภาพสูงจะตอ้ งทาเป็นหม่คู ณะ หรอื ทมี เวิร์ค (Teamwork) คอมพิวเตอร์กเ็ ช่นกันหากทาการเชื่อมต่อกนั เปน็ เครอื ขา่ ย ก็ย่อมมปี ระสิทธิภาพมากกวา่ การทางานแบบเด่ยี ว ๆ การทางานเป็นกล่มุ ของคอมพวิ เตอรน์ จ้ี ะเรยี กว่า “เครือขา่ ย”(Network)
ความหมายของเครือข่ายและการสอ่ื สารการสอื่ สาร(communication) หมายถึง กระบวนการถ่ายทอดหรือแลกเปลย่ี นสารหรอื ส่ือระหวา่ งผสู้ ่งกับผ้รู บั โดยส่งผา่ นช่องทางนาสารหรอืสอื่ เพ่ือใหเ้ กดิ ความเข้าใจซ่ึงกนั และกนัการสื่อสารข้อมลู (datacommunication) หมายถึงกระบวนการหรอื วิธีถา่ ยทอดข้อมลู ระหวา่ งผใู้ ช้กบั คอมพวิ เตอรท์ ี่มักจะอยหู่ ่างไกลกัน และจาเป็นตอ้ งอาศยั ระบบการสอ่ื สารโทรคมนาคม (telecommunication)เป็นส่อื กลางในการรบั สง่ ขอ้ มลูเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ (computer network) หมายถงึ การเช่ือมโยงระหว่างเคร่ืองคอมพวิ เตอร์ต้ังแต่ 2 เครือ่ งขึ้นไป เพอื่ ใหส้ ามารถส่ือสารและแลกเปลย่ี นขอ้ มูล รวมทัง้ สามารถใชอ้ ุปกรณค์ อมพิวเตอร์ภายในเครือข่ายร่วมกันได้ เช่น ฮาร์ดดิสก์ เครื่องพมิ พ์ เปน็ ต้น
สว่ นประกอบของระบบสอ่ื สารขอ้ มูล 1. ผู้สง่ (Sender) เป็นอปุ กรณท์ ่ีใช้ในการสง่ ข่าวสาร (Message) เป็นตน้ ทางของการสื่อสารข้อมูลมหี นา้ ท่เี ตรยี มสร้างข้อมลู เชน่ ผู้พูด โทรทศั น์ กล้องวิดีโอ เปน็ ต้น 2. ผรู้ ับ (Receiver) เป็นปลายทางการสือ่ สาร มีหน้าทีร่ ับขอ้ มูลที่ส่งมาให้ เช่น ผูฟ้ งั เครอ่ื งรบัโทรทัศน์ เครอ่ื งพมิ พ์ เป็นตน้ 3. สอื่ กลาง (Medium) หรือตวั กลาง เปน็ เสน้ ทางการสอื่ สารเพอ่ื นาขอ้ มูลจากตน้ ทางไปยังปลายทาง ส่ือส่งขอ้ มูลอาจเปน็ สายคบู่ ิดเกลยี ว สายโคแอกเชียล สายใยแก้วนาแสง หรอื คลื่นทีส่ ่งผา่ นทาง 4. ขอ้ มลู ขา่ วสาร (Message) คือสัญญาณอิเลก็ ทรอนิกสท์ ่สี ่งผ่านไปในระบบสอ่ื สาร ซ่งึ อาจถูกเรียกว่า สารสนเทศ (Information) โดยแบง่ เป็น 5รูปแบบ ดงั น้ี 4.1 ข้อความ (Text) ใช้แทนตวั อักขระตา่ ง ๆ ซง่ึ จะแทนดว้ ยรหัสตา่ ง ๆ เช่น รหัสแอสกีเปน็ ตน้ 4.2 ตวั เลข (Number) ใช้แทนตวั เลขตา่ ง ๆ ซ่ึงตวั เลขไม่ได้ถูกแทนด้วยรหสั แอสกีแตจ่ ะถูกแปลงเป็นเลขฐานสองโดยตรง 4.3 รูปภาพ (Images) ข้อมลู ของรูปภาพจะแทนด้วยจุดสเี รียงกันไปตามขนาดของรูปภาพ 4.4 เสียง (Audio) ข้อมลู เสยี งจะแตกตา่ งจากข้อความ ตัวเลข และรปู ภาพเพราะข้อมลูเสียงจะเป็นสัญญาณตอ่ เนอื่ งกนั ไป 4.5 วิดโี อ (Video) ใชแ้ สดงภาพเคล่อื นไหว ซง่ึ เกิดจากการรวมกนั ของรูปภาพหลาย ๆรปู 5. โปรโตคอล (Protocol) คอื วิธีการหรือกฎระเบยี บทีใ่ ช้ในการสือ่ สารข้อมลู เพอ่ื ให้ผรู้ บั และผู้สง่ สามารถเข้าใจกันหรือคยุ กนั รู้เรื่อง โดยทง้ั สองฝั่งทัง้ ผรู้ ับและผู้สง่ ได้ตกลงกนั ไวก้ อ่ นลว่ งหนา้ แล้ว
การใช้เทคโนโลยีการสื่อสารข้อมูล ในปจั จบุ นั ความก้าวหนา้ ทางเทคโนโลยีการสื่อสาร ทาใหเ้ ราหนั มาให้ความสาคัญต่อการติดตอ่ สอ่ื สารผา่ นเครอื ขา่ ยคอมพิวเตอร์ ทาใหเ้ ราสามารถติดต่อเช่อื มโยงขอ้ มูลถึงกนั ได้ท่วั โลก ไม่วา่ จะอยใู่ นรูปของอินเทอร์เนต็ หรอื ด้านการติดต่อส่ือสารโทรคมนาคมในระยะไกลตา่ ง ๆ กอ่ ให้เกดิ การนาเทคโนโลยีการส่ือสารขอ้ มูลมาใชใ้ นวงการธุรกิจตา่ ง ๆ เปน็ การนาความรู้จากข้อมูลข่าวสารที่ได้รับมาสรา้ งทางเลอื กในการตัดสินใจในการดาเนินธรุ กจิ ต่าง ๆ สง่ ผลให้เราสามารถลดต้นทุน ลดเวลาในการติดต่อสื่อสารส่งเสรมิ ให้เกิดการใชง้ านทรัพยากรร่วมกัน ซึ่งเหมาะกับสภาพขององค์กรในปัจจุบันท่ีต้องการการแข่งขันที่ค่อนข้างสูง จากจุดเริ่มแรกทาใหม้ ีการใช้บริการด้านการสอื่ สารโทรคมนาคมเพ่ิมมากขึ้น ไม่วา่ จะเป็นการใช้งานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และเวบ็ ไซต์เพื่อการพาณิชย์ต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดแรงผลักดันในการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่เพิม่ ขึ้นอย่างรวดเรว็ เห็นได้งา่ ย ๆ จากการเปลี่ยนแปลงจากการส่ือสารแบบอนาล็อกเป็นเทคโนโลยีเครือข่ายดจิ ทิ ัล ทาให้มีความเรว็ ในการส่งขอ้ มูลสูงขน้ึ และส่งขอ้ มูลได้เปน็ จานวนมาก ลดความผิดพลาดในการส่งข้อมูล ซง่ึ สามารถส่งสารสนเทศท้ังที่เป็นขอ้ มูลประเภท เสยี ง และวดิ โี อ ไปพร้อม ๆ กัน อีกทงั้ การใช้ดาวเทียมส่ือสารทาให้สามารถส่งข้อมูลภาพและเสียงขา้ มซกี โลกไดอ้ ย่างรวดเรว็ รวมทั้งการใชเ้ ซลลูลาห์หรือเครอื ข่ายไร้สายอื่นๆ
ประโยชนข์ องเครอื ขา่ ยคอมพวิ เตอร์1. ความสะดวกในการจดั เกบ็ ขอ้ มูล การจัดเกบ็ ขอ้ มูลซ่ึงอยใู่ นรปู ของสัญญาณอิเล็กทรอนิกส์สามารถจัดเก็บไว้ในแผ่นบนั ทึก ทม่ี คี วามหนาแนน่ สูงได้2. ความถกู ต้องของข้อมลู โดยปกติมกี ารส่งข้อมลู ดว้ ยสญั ญาณอเิ ล็กทรอนิกสจ์ ากจุดหนึ่งไปยังอกี จุดหนง่ึ ดว้ ยระบบดิจทิ ลั3. ความเรว็ ของการทางาน สญั ญาณทางไฟฟา้ จะเดินทางด้วยความเรว็ เท่าความเรว็ แสงทาให้การใช้คอมพวิ เตอรส์ ่งขอ้ มูลจากซกี โลกหนง่ึ ไปยังอกี ซีกโลกหนึง่4. ประหยดั ต้นทนุ ในการสอื่ สารข้อมลู การเชอื่ มต่อคอมพิวเตอร์กนั เป็นเครอื ขา่ ย เพื่อส่งหรือสาเนาขอ้ มลู ไมส่ งู นัก เมอื่ เทียบกับการจัดสง่ แบบวิธีอืน่5. สามารถเกบ็ ขอ้ มลู เปน็ ศูนยก์ ลาง สามารถมีขอ้ มลู เพียงชดุ เดียวในระบบเครอื ข่ายซ่ึงถอื เปน็ขอ้ มูลส่วนกลาง โดยในแต่ละแผนกในบรษิ ัทสามารถดงึ ไปใชไ้ ด้จากทเี่ ดยี วกัน6. การใชท้ รพั ยากรธรรมชาติ ในระบบเครอื ขา่ ยน้ัน จะทาให้สามารถใช้อปุ กรณ์คอมพิวเตอร์ร่วมกันได้ โดยที่อุปกรณต์ วั นนั้ อาจต่ออยู่กับเคร่อื งใดเครื่องหนง่ึ ในเครอื ขา่ ย7. การทางานแบบกลมุ่ สามารถใช้ระบบเครือขา่ ยในการทางานในแผนกหรือกลุ่มงานเดยี วกันได้เปน็ อยา่ งดี
การสือ่ สารโทรคมนาคม การส่อื สารโทรคมนาคม (Telecommunication) หมายถงึ การตดิ ตอ่ สือ่ สารดว้ ยการรับสง่ข้อมลู ข่าวสารระหวา่ งตัวประมวลผล โดยผา่ นส่ือกลางทเี่ ชอื่ มต้นทางและปลายทางที่หา่ งกนั โดยใช้อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกส์หลายรูปแบบ ตามกฎเกณฑ์ หรือระเบยี บวธิ ีการทีก่ าหนดขึ้นในแตล่ ะอปุ กรณ์ เครือข่ายคอมพวิ เตอร์ (Computer Network) หมายถึง การเช่ือมตอ่ เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ต้งั แตส่ องเครอื่ งขึ้นไป เพอ่ื ขยายขดี ความสามารถที่มีจากัด ทาให้เกิดการแลกเปลี่ยนขอ้ มลู หรือแบง่ ปนั ทรัพยากรใหม้ ีการใช้งานร่วมกัน โปรโตคอล (Protocol) หมายถงึ ระเบยี บวธิ ีการ มาตรฐาน หรือกฎเกณฑ์ในการตดิ ตอ่ สื่อสาร ระหวา่ งกันของเคร่อื งมืออปุ กรณค์ อมพิวเตอร์ต่าง ๆ หรือ วิธที ี่ถกู กาหนดข้นึเพ่อื การสือ่ สารขอ้ มลู ซง่ึ ผู้สง่ ข้อมลู จะต้องส่งขอ้ มูลในรปู แบบตามวธิ กี ารส่ือสารทต่ี กลงไวก้ บั ผรู้ ับข้อมลู จงึ จะสามารถสือ่ สารข้อมลู กันได้ อินเทอรเ์ น็ต (Internet) หมายถงึ การเชือ่ มโยงเครือขา่ ยคอมพิวเตอร์เขา้ ด้วยกนัตามโครงการของอารป์ ้าเนต็ (ARPAnet = Advanced Research Projects AgencyNetwork) เป็นหน่วยงานสังกดั กระทรวงกลาโหมของสหรฐั (U.S.Department of Defense- DoD) ถกู กอ่ ตง้ั เมือ่ ประมาณ ปีค.ศ.1960(พ.ศ.2503) และได้ถูกพฒั นาเรือ่ ยมา
ความนา่ เชอ่ื และมาตรฐานเครอื ขา่ ยความน่าเชื่อถือของระบบเครือขา่ ย สามารถประเมินได้จากความถี่ของความล้มเหลวเครอื ขา่ ยทกุ ระบบมีโอกาสลม่ ไดเ้ สมอ อยา่ งไรก็ตามเครอื ข่ายที่ได้รบั การออกแบบทีด่ ี หากเครอื ขา่ ยเกดิ ข้อขดั ขอ้ งหรือลม้ เหลวด้วยประการใดก็ตาม ควรสง่ ผลกระทบตอ่ ผ้ใู ชง้ านให้น้อยทส่ี ุดเทา่ ท่เี ป็นไปไดแ้ ละหากเครือขา่ ยมคี วามถใ่ี นการลม้ เหลวอยบู่ ่อยครั้ง นน่ั หมายถงึ เครือข่ายนั่นมีความนา่ เชือ่ ถือตา่ระยะเวลาในการกู้คนืระยะเวลาในการก้คู ืนระบบ กรณเี ครอื ขา่ ยลม่ หรือเกดิ ข้อขัดข้องใด ๆ หากการกูค้ นื ระบบสามารถแกไ้ ขได้ดว้ ยระยะเวลาอันสน้ั ยอ่ มดีกวา่ การก้คู ืนระบบทตี่ ้องใช้ระยะเวลายาวนาน โดยการกคู้ ืนหมายถงึ การกรู้ ะบบให้กลับคนื สภาพเดมิ ทสี่ ามารถใช้งานได้ รวมถงึ การก้คู นื ข้อมลู กรณีท่ีข้อมลู เกดิ ความสูญเสยีความคงทนตอ่ ขอ้ ผดิ พลาดเครือขา่ ยทด่ี ีจะตอ้ งมีระบบปอ้ งกนั ภัยตา่ ง ๆ ที่อาจเกดิ ขึ้นจากเหตกุ ารณ์ใด ๆ ทไี่ ม่คาดคิดได้เสมอไมว่ ่าจะเป็นระบบไฟฟ้า รวมถงึ ภัยธรรมชาตทิ ่ีไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหนา้ ได้ ดังน้นัระบบเครอื ขา่ ยทดี่ จี ึงตอ้ งไดร้ บั การออกแบบให้มีระบบสารองข้อมลู ทน่ี า่ เช่อื ถือ รวมถึงอุปกรณ์สาคญั ของระบบ หากทางานขัดข้อง อุปกรณต์ ัวแทนสารถทางานแทนได้ทันที เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1 - 8
Pages: