Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การจัดการความรู้ การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำในการผลิตข้าวเพื่อรับมือกับภัยแล้ง

การจัดการความรู้ การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำในการผลิตข้าวเพื่อรับมือกับภัยแล้ง

Description: การจัดการความรู้ การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้ำในการผลิตข้าวเพื่อรับมือกับภัยแล้ง

Search

Read the Text Version

ค�ำน�ำ การจดั การความรกู้ ารเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการจดั การนำ้� ในการผลติ ขา้ วเพอ่ื รบั มอื กบั ภยั แลง้ ฉบบั น้ี จดั ทำ� ขน้ึ เพอื่ เปน็ แนวทางในการจดั การความรู้ สกู่ ารนำ� ไปปฏบิ ตั ทิ ี่ ชดั เจนเปน็ รปู ธรรม โดยอธบิ ายกระบวนการจดั การความรแู้ ละแนวทางการนำ� สง่ องค์ ความรูอ้ ย่างง่ายและเป็นขั้นตอน เนอื้ หาในหนังสือองค์ความรู้ฉบบั น้ี เปน็ สว่ นหน่งึ ของรายงานกจิ กรรมสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การวจิ ยั เรอ่ื ง การจดั การความรกู้ ารเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการจดั การนำ�้ ในการผลติ ขา้ วเพอ่ื รบั มอื กบั ภยั แลง้ กรณศี กึ ษาเทศบาล ตำ� บลออนใต้ อำ� เภอสนั กำ� แพง จงั หวดั เชยี งใหม่ โดยไดร้ บั การสนบั สนนุ งบประมาณ จาก สำ� นกั งานคณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) ประจำ� ปี 2557 ขอขอบคุณ กลมุ่ เกษตรกร กลุ่มผใู้ ช้นำ้� ผูเ้ ช่ยี วชาญจากศูนยศ์ กึ ษาการพฒั นา ห้วยฮ่องไคร้ ตลอดจนคณะผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลต�ำออนใต้ทุกท่าน ทกี่ รณุ าร่วมด�ำเนนิ กจิ กรรมจนแล้วเสรจ็ และหวังเปน็ อย่างยง่ิ ว่าหนังสือองค์ความรู้ ฉบับน้ีจะถูกน�ำไปใช้เป็นประโยชน์อย่างกว้างขวาง ทั้งในพ้ืนที่ประสบภัยแล้งของ เทศบาลตำ� บลออนใต้โดยตรงและในพ้นื ท่ีอืน่ ท่กี �ำลงั เผชิญปญั หาเชน่ เดียวกนั อนึ่ง หากขอ้ ผดิ พลาดประการใด ผู้เขยี นขอนอ้ มรับไว้ ณ โอกาสนี้ คณะผู้วจิ ยั

สารบญั บทน�ำ หนา้ 7 01 แนวคิด การจัดการความรู้ หน้า 8

02 03 กระบวนการ จดั การความรู้ แนวทางการนำ� ส่ง องค์ความรู้ หน้า 12 04 หนา้ 26 สรปุ และข้อเสนอแนะ 05 หน้า 28 ภาคผนวก หน้า 33

หวั ใจทีส่ �ำคัญท่สี ดุ ในการจดั การความรู้ คือ “แลกเปลีย่ น เรียนร้”ู การจดั การความรกู้ ารเพม่ิ ประสทิ ธิภาพการจดั การน้ำ� 6ในการผลติ ข้าวเพื่อรับมอื กบั ภัยแลง้

บท นำ� ชุมชนเกษตรกรออนใต้ เป็นพืน้ ทีห่ น่ึงที่ผลิตข้าว ดังนั้น การด�ำเนินกิจกรรมการจัดการความรู้ เป็นพืชเศรษฐกิจหลักและมีความเส่ียงสูงต่อภัยพิบัติ การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้�ำในการผลิตข้าว แล้งในอนาคต (แล้งซำ้� ซาก) นอกจากน้ี ผลกระทบ เพ่ือรับมือกับภัยแล้ง เทศบาลต�ำบลออนใต้ อ�ำเภอ ท่ีเกิดข้ึนจัดว่ามีความรุนแรงระดับสูงทั้งในปัจจุบัน สนั ก�ำแพง จังหวดั เชยี งใหม่ จงึ ถูกใช้เป็นกรณศี ึกษา และในอนาคต ซ่ึงล้วนส่งผลต่อการประกอบอาชีพ เพ่ือเป็นแนวทางแก่ผู้ที่สนใจด้านการจัดการความรู้สู่ เกษตรกรรม (รวมทั้งการผลิตข้าว) การขาดแคลน การน�ำไปปฏิบัติและการน�ำไปใช้ประโยชน์อย่างเป็น แหล่งน�้ำต้นทุนทั้งแหล่งน�้ำผิวดินและใต้ดินเพ่ือ รูปธรรม ตามล�ำดบั การเกษตรตลอดจนน�้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภค หนังสอื องค์ความรู้ฉบับนี้ ประกอบด้วย รวมท้ังประเด็นความขัดแย้งทางสังคมเน่ืองจากการ • แนวคดิ การจดั การความรู้ แยง่ ชิงน�้ำ • กระบวนการจดั การความรู้ ข้าว จัดเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความส�ำคัญของ • แนวทางการน�ำสง่ องค์ความรู้ ประเทศไทยและการด�ำรงชีพของเกษตรกร ที่ผ่าน • สรุปและขอ้ เสนอแนะ มาหลายพ้ืนท่ีการเพาะปลูกข้าวของประเทศรวม ภาคผนวก ก ตัวอย่างทางเลือกการเพ่ิม ทั้งเขตภาคเหนือตอนบน มักประสบกับปัญหา ประสทิ ธภิ าพการจดั การแหลง่ นำ้� และระบบสง่ จา่ ยนำ้� การจัดการเรื่อง น�้ำ ทั้งปัญหาน�้ำแล้งหรือปัญหา กรณีศึกษาเทศบาลตำ� บลออนใต้ น�้ำท่วม ท่ีส่งผลให้เกิดการสูญเสียผลผลิตหรือไม่ ภาคผนวก ข ตวั อยา่ งทางเลอื กการลดปริมาณ สามารถผลิตได้เนื่องจากการขาดแคลนน�้ำ เป็นต้น การใชน้ ้ำ� ในการปลูกข้าวและการเกษตรอืน่ ดังนั้นการจัดการน�้ำอย่างมีประสิทธิภาพ จึงเป็น กรณศี ึกษาเทศบาลต�ำบลออนใต้ เร่ืองท่ีส�ำคัญย่ิงประการหน่ึงในการผลิตข้าว หาก ภาคผนวก ค ตวั อยา่ งแนวทางการตดิ ตามและ เกษตรกรสามารถจัดการน้�ำในพ้ืนท่ีการผลิตได้อย่าง ประเมินผล กรณศี กึ ษาเทศบาลตำ� บลออนใต้ เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงด้านปัจจัยการผลิต ข้าวลงอย่างมาก ขณะเดียวกัน ถือเป็นการเพ่ิมขีด ความสามารถด้านการผลิตและยกระดับผลผลิตข้าว ต่อไร่ของเกษตรกรใหส้ งู ขน้ึ 7 การจัดการความร้กู ารเพม่ิ ประสิทธภิ าพการจัดการนำ�้ ในการผลิตข้าวเพ่ือรบั มอื กบั ภัยแล้ง

01แนวคดิ การจดั การความรู้ วิจารณ์ พานิช (2549)1ได้กล่าวถึงแนวคิดการจัดการความรู้ที่ต้องให้ความส�ำคัญและบูรณาการการใช้ ความร้ทู งั้ สองประเภทร่วมกนั (แผนภูมทิ ี่ 1) คือ ความรูฝ้ งั ลกึ หรอื ความรูซ้ อ่ นเรน้ (tacit knowledge) ซึ่ง เปน็ ความรูท้ อี่ ยใู่ นตวั คน หรืออย่ภู ายในเครือข่าย ชมุ ชน หนว่ ยงาน และความรเู้ ดน่ ชัด (explicit knowledge) ท่ที �ำความเขา้ ใจงา่ ย มคี วามชดั เจนสูง และผา่ นการพิสจู น์ทางวชิ าการ เพื่อนำ� ไปสูก่ ารใช้ประโยชน์ทตี่ รงต่อ ความตอ้ งการของกลมุ่ เป้าหมาย และสามารถขับเคล่อื นการใช้ประโยชน์ไดอ้ ย่างมีประสิทธิภาพเป็นรูปธรรม แผนภมู ทิ ี่ 1 แนวคิดการจัดการความรู้ ความรเู้ ดน่ ชดั และความรฝู้ งั ลึก ทีม่ า: วิจารณ์ พานชิ (2549) เนอื่ งจากการใชค้ วามรเู้ ดน่ ชดั ไมส่ ามารถแยกออกเปน็ ความรเู้ ดน่ ชดั เรอ่ื งใดเรอื่ งหนงึ่ เทา่ นนั้ ควรใชค้ วาม รหู้ ลายชน้ั เขา้ มาประกอบกันในลกั ษณะการตรวจทาน ตรวจสอบความรใู้ หม่ท่ีเราตอ้ งการและรวบรวมเพอ่ื ยก ระดับความรู้ (วิจารณ์ พานิช, 2549) สำ� หรบั กระบวนการส�ำคญั ท่ีเกยี่ วกับเรือ่ งความร้เู ดน่ ชดั มีดังนี้ • การเข้าถึงและดูดซับความรู้เข้ามา และท่ีส�ำคัญควรตรวจสอบว่าความรู้นั้นใช้การได้หรือไม่ ภายใต้ บรบิ ทการใช้ประโยชน์ (ปัจเจก ชมุ ชน พน้ื ท่ี สาธารณะ ฯลฯ) เพื่อความรอบคอบการใช้ความรู้ • การนำ� ไปปรับใช้ ความรูท้ ุกชนดิ ควรตอ้ งนำ� ไปปรับใช้ เพอ่ื ให้สอดคล้องกับบริบทของเราเอง • กระบวนการเรยี นรู้และยกระดับ ในกระบวนการปรบั ใช้จะเกดิ การเรียนรู้ขึน้ และยกระดับ ณ จดุ นีถ้ ือ เป็นการจัดการความรู้ • การรวบรวมจัดเก็บ ถือเป็นข้ันตอนท่ีส�ำคัญมากในการจัดการความรู้ เป็นการบันทึกในกระบวนการ น�ำความรู้ไปประยุกต์ใช้และเกิดการเรียนรู้เป็นประสบการณ์ และมีการปรึกษาหารือ แลกเปล่ียนเรียนรู้และ ยกระดับความรู้ การจดั การความรกู้ ารเพม่ิ ประสิทธิภาพการจัดการน�้ำ 8ในการผลิตขา้ วเพือ่ รบั มือกบั ภยั แลง้

ส� ำ ห รั บ ก ร ะ บ ว น ก า ร ส� ำ คั ญ ที่ เ กี่ ย ว กั บ วา่ การจัดการความรไู้ มใ่ ชเ่ ป้าหมาย แต่เปา้ หมาย เรื่องความรู้ฝังลึก (วงจรความรู้ฝังลึก) คือ ผลงาน การจัดการความรู้ถูกน�ำมาใช้เพ่ือที่ มกั เรม่ิ ตน้ จากการใชห้ รอื เอาความรไู้ ปใช้ เมอ่ื ใชแ้ ลว้ ก็ จะบรรลุเป้าหมายอย่างมีคุณภาพ มีผลสัมฤทธ์ิ จะเกดิ ประสบการณ์ หลงั จากนน้ั จงึ นำ� ประสบการณ์ สูง ท�ำให้คนเกิดการเรียนรู้จนเป็นนิสัย (learning มาแบง่ ปนั และเอาใจใส่ (care and share) ซง่ึ กนั และ person) และมีการเรียนรู้ร่วมกันผ่านการปฏิบัติ กนั ดงั นน้ั เราจะสงั เกตไดว้ า่ คนทท่ี ำ� งานดว้ ยกนั หรอื หวั ใจทสี่ ำ� คญั ทส่ี ดุ ในการจดั การความรู้ คอื การแลก เป็นเครือข่ายกัน ย่อมมีใจเอ้ืออาทรต่อกัน พร้อมที่ เปล่ียนเรียนรู้ ดังน้ัน วิธีการของการจัดการความ จะเรียนรู้จากกัน และแบ่งปันความรใู้ หก้ ัน ก็จะเกิด รู้ (knowledge management) จึงเนน้ การเรียนรู้ การเรยี นรรู้ ว่ มกนั หรอื ทเ่ี รยี กวา่ Interactive learning รว่ มกนั ผา่ นการปฏบิ ตั ิ ถอื การปฏบิ ตั เิ ปน็ ศนู ยก์ ลาง เน่ืองจากในกระบวนการเรียนรู้เป็นการเรียนรู้ท่ีไม่ใช่ และการเรียนรูโ้ ดยการดดู ซบั จากภายนอก ส�ำหรับ อยใู่ นหอ้ งเรยี นเทา่ นน้ั อาจเปน็ การคยุ หรอื แลกเปลยี่ น ปัจจัยส�ำคัญที่เอ้ือต่อการจัดการความรู้อย่างมี กันในระหว่างการท�ำงาน เปน็ ตน้ นอกจากนี้ วิจารณ์ ประสิทธภิ าพ มีดงั น้ี พานชิ (2549) ได้อธบิ ายเป้าหมายการจัดการความรู้ 9 การจัดการความรู้การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพการจดั การน�ำ้ ในการผลิตขา้ วเพือ่ รบั มอื กบั ภยั แลง้

• ภาวะผู้น�ำและกลยุทธ์ เน่ืองจากการจัดการความรู้ให้ประสบความส�ำเร็จ จ�ำเป็นต้องได้ รับการสนับสนนุ จากผ้บู ริหารขององค์กรและการมกี ลยทุ ธ์ทช่ี ดั เจนของการจดั การความรู้องคก์ ร • วฒั นธรรมขององคก์ ร ซงึ่ ครอบคลมุ วฒั นธรรม พฤตกิ รรม การแลกเปลยี่ นและแบง่ ปนั ความรู้ รวมถงึ การสือ่ สารภายในองคก์ ร • โครงสร้าง เป็นการจัดโครงสร้างหรือระบบรองรับส�ำหรับบุคลากรในองค์กร ให้มีการ แลกเปลยี่ นความรกู้ นั ไดอ้ ยา่ งสะดวกและทวั่ ถงึ โครงสร้างที่มคี วามยดื หยนุ่ เกิดการรวมตวั กนั เปน็ กลุม่ เฉพาะกิจไดง้ า่ ย มีการสอื่ สาร ร่วมมอื ข้ามสายงานในแนวราบอยา่ งคลอ่ งตวั ถือเปน็ เง่อื นไข สำ� คัญของการจดั การความรู้ • เทคโนโลยสี ารสนเทศ มสี ว่ นสำ� คญั ในการชว่ ยใหค้ นในองคก์ รสามารถคน้ หาความรู้ ดงึ ความ รไู้ ปใชช้ ว่ ยในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู ตา่ งๆ และชว่ ยให้ข้อมูลความร้ตู ่างๆ ถกู จดั เกบ็ อยา่ งเปน็ ระเบียบ จะชว่ ยใหก้ ารจดั การความรู้เป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ • การวัดและประเมนิ ผล เปน็ เคร่อื งมอื ในการบันทึก ติดตาม และตรวจสอบการปฏบิ ตั ิงาน และผลงานของบคุ ลากร ชว่ ยใหอ้ งคก์ รสามารถทบทวนประเมนิ ผล และทำ� การปรบั ปรงุ กลยทุ ธแ์ ละ กิจกรรมตา่ งๆ เพือ่ ให้บรรลเุ ปา้ หมายของการจัดการความรู้ • ความรู้ ทักษะ และขีดความสามารถของบคุ ลากร สำ� หรบั ใชป้ ฏบิ ตั ิงานหลกั ขององค์กร ถอื เปน็ ปัจจยั สำ� คัญท่เี อ้ือต่อความสำ� เร็จของการจดั การความรู้ • การจัดการในลักษณะ Empower หน่วยย่อย หรือทเ่ี รยี กวา่ น�ำจากข้างหลงั (lead from behind) จะส่งเสรมิ ใหก้ ารจัดการความรู้ดำ� เนินการไปตามแผนอย่างทรงพลงั ยิง่ • การสร้างแรงจูงใจ เช่น การให้รางวัลและการชมเชย อาจช่วยให้บุคลากรในองค์กรมี พฤติกรรมการแลกเปล่ียนความรู้ ไม่ปกปิดความรู้ เปน็ ตน้ กองพัฒนาคณุ ภาพ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล (2552) ไดก้ ล่าวถงึ แบบจำ� ลอง SECI (SECI Model) ทนี่ �ำเสนอโดย Nonaka and Takeuchi (1995) ซง่ึ แบบจ�ำลองนี้ (แผนภูมิท่ี 2) อธิบายวงจรการ สร้างความรู้อย่างต่อเน่ืองโดยไม่มีที่สิ้นสุด และได้แบ่งกระบวนการในการสร้างความรู้ออกเป็น 4 ขนั้ ตอน คือ

S แผนภูมทิ ี่ 2 SECI Model ทม่ี า: Nonaka and Takeuchi (1995) E C Socialization I เปน็ การสรา้ งความรดู้ ว้ ยการแบง่ ปนั ประสบการณด์ ว้ ยการพบปะสมาคม หรอื การมปี ฏสิ มั พนั ธก์ บั ผอู้ นื่ เชน่ การพดู คยุ ใชเ้ วลาอยดู่ ว้ ยการการสอนงาน ฝกึ งาน เปน็ ต้น ซ่ึงจะเปน็ การถ่ายทอด แบ่งปัน ความร้ทู ี่อยู่ในตวั บคุ คลไปให้ผอู้ น่ื Externalization เป็นการถ่ายทอดความรู้ โดยการอธิบายหรือแสดงความรู้ที่อยู่ในตัวบุคคล ออกมาให้เป็นท่ีประจักษ์ เพื่อให้ผู้อื่นได้รับการแบ่งปัน โดยการแปลงความรู้ท่ี อยใู่ นตัวบุคคลออกมาเปน็ แนวคดิ ภาษาสญั ลักษณ์ ลายลกั ษณ์อกั ษร เชน่ คมู่ อื ต�ำรา ภาพ การบันทกึ เสียง เป็นต้น Combination เปน็ การผสมผสาน โดยนำ� ความรทู้ ชี่ ดั แจง้ มาสรา้ งสรรค์ หรอื เปลยี่ นแปลงให้ เป็นความรทู้ ่ชี ดั แจง้ ในเรื่องใหม่ ๆ มีความซับซ้อนมากข้ึน หรือเป็นขนั้ เปน็ ตอน มากขึ้นเพ่อื ให้สามารถน�ำความรูน้ ั้นไปใช้ในทางปฏบิ ัติไดง้ า่ ยขึน้ Internalization เป็นการนำ� ความรทู้ ไี่ ดม้ าใหม่ไปใช้ปฏิบตั หิ รอื ลงมือท�ำจรงิ ๆ จนกลายเปน็ ความรู้ของตนเอง ซึ่งจะเป็นการเปล่ียนความรู้ที่ชัดแจ้งให้กลายเป็นความรู้ที่อยู่ ในตวั บคุ คลดงั นั้น กระบวนการในการสรา้ งความรู้ท่ีจะเกดิ ประโยชน์จรงิ ๆ นน้ั จะต้องมีการน�ำความรไู้ ปลงมือปฏิบตั ิ และมกี ารหมนุ เวียนกระบวนการ SECI ไป เร่ือย ๆ อย่างไม่มีวันยุติ น�ำไปสู่การปรับปรุงตนเองของบุคคลากรและองค์กร อยา่ งตอ่ เนอื่ งตลอดเวลา 11 การจดั การความรกู้ ารเพ่มิ ประสทิ ธภิ าพการจัดการน�้ำ ในการผลิตขา้ วเพอื่ รบั มอื กบั ภัยแล้ง

02 ในการดำ� เนนิ กจิ กรรมการจดั การความรู้ การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการจดั การนำ�้ ในการผลติ ขา้ วเพอื่ รบั มอื กับภัยแล้ง เทศบาลต�ำบลออนใต้ อ�ำเภอสันก�ำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ซ่ึงเป็นกรณีศึกษาของการจัดท�ำ คูม่ อื ฉบบั น้ี ม่งุ เน้นให้ชมุ ชนสามารถนำ� ไปปฏบิ ัตไิ ด้ อยา่ งเปน็ รปู ธรรม มคี วามสอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ และบรบิ ทของกลมุ่ ผใู้ ชป้ ระโยชน์ ดงั นนั้ กรอบแนวคดิ และกระบวนการจัดการความรู้ (แผนภมู ิที่ 3) จึงได้ ครอบคลมุ กระบวนการตา่ ง ๆ ได้แก่ การระบปุ ัญหา การสืบค้นหาความรู้ท่ีตรงกับความต้องการ การ กำ� หนดทางเลอื ก การประเมนิ ขอ้ จำ� กดั เงอ่ื นไขการใช้ ความรู้ การกลน่ั กรองและคดั เลอื กความรทู้ เี่ หมาะสม การนำ� ไปปฏิบตั ิ และการติดตามประเมินผล ภายใต้ การมีส่วนร่วมและน�ำส่งความรู้ระหว่างกัน ผ่านการ แบง่ ปนั ความรู้ การแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ การระดมสมอง และการวพิ ากษว์ จิ ารณร์ ว่ มกนั โดยแตล่ ะขน้ั ตอนของ กระบวนการจัดการความรูก้ ารมีรายละเอียด ดงั นี้

กรกะบาวรนควจาดั มกราู้ ร 1) ข้ันตอนการระบุปัญหาและการคน้ หาความรู้ ในการระบุปญั หาและคน้ หาความรู้ การดำ� เนนิ กจิ กรรมได้ผสมผสานวิธวี จิ ยั หลากหลายวิธี ดังน้ี การรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูล จากผลงานวิจัยท่ีคัดสรรโดยใช้วิธีการตั้งค�ำถามหลัก 2 ข้อ คือ ใน การผลิตข้าวควรจัดการอย่างไรท่ีลดต้นทุนและให้ผลตอบแทนคุ้มค่า และเกษตรกรผู้ปลูกข้าวภายใต้สภาวะ ภัยแลง้ ต้องเสริมสรา้ งความสามารถในการรับมืออยา่ งไร กรอบแนวคิดในการสังเคราะห์องคค์ วามรเู้ ด่นชดั จากผลงานวจิ ัย แสดงดงั แผนภูมิที่ 4 แผนภมู ทิ ี่ 3 วงจรการจัดการความร้สู ูก่ ารใชป้ ระโยชนข์ องกล่มุ เป้าหมายอย่างเป็นรปู ธรรม

แผนภมู ทิ ี่ 4 กรอบแนวคิดการสงั เคราะห์ผลงานวจิ ยั ที่คัดสรร การลงพน้ื ทส่ี �ำรวจ (ภาพท่ี 1) เพอ่ื ประเมินสภาพความแหง้ แล้ง แหล่งน�ำ้ พน้ื ท่เี พาะปลูก นาข้าว และ เย่ียมเยียนเกษตรกรผู้ใช้น้�ำเพ่ือการปลูกข้าว การสัมภาษณ์เชิงลึก เพ่ือสอบถามสถานการณ์ความแห้งแล้ง ปัญหาการใช้น�้ำ แนวทางการปรับตัว ตลอดจนความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของเกษตรกรผู้ใช้น�้ำเพื่อการ ปลกู ขา้ ว การจดั การความร้กู ารเพิ่มประสิทธภิ าพการจัดการน้ำ� 14ในการผลติ ข้าวเพื่อรบั มอื กบั ภัยแล้ง

การจัดประชุมกลุ่มย่อย เพ่ือตรวจสอบ สถานการณ์ความแห้งแล้ง ปัญหาการใช้น้�ำ และ ระดมความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั แนวทางการการปรบั ตวั กบั ภยั แลง้ โดยเชญิ ผเู้ กยี่ วขอ้ งหลกั เขา้ มารว่ มการประชมุ ได้แก่ เกษตรกรผใู้ ช้นำ้� ผอู้ ย่อู าศัยในชุมชน แกนนำ� ชุมชนสมาชกิ สภาเทศบาล (ภาพท่ี 2) ภาพที่ 1 สภาพปญั หาภัยแล้งและผลกระทบตอ่ แหลง่ น้ำ� ในพื้นที่เทศบาลต�ำบลออนใต้ 15 การจัดการความรู้การเพม่ิ ประสิทธิภาพการจัดการน�ำ้ ในการผลิตข้าวเพ่อื รบั มือกับภัยแลง้

ภาพท่ี 2 การสอบทานข้อมลู ปัญหาภยั แลง้ และผลกระทบร่วมกบั ทางกล่มุ ผู้ใชน้ ำ้� และเกษตรกรออนใต้ ณ เทศบาลตำ� บลออนใต้ ภาพที่ 3 การประเมินแนวทางการการเพ่ิมประสิทธิภาพการจัดการน�ำ้ ในการผลติ ข้าวเพื่อรบั มือกับภัยแลง้ ที่เหมาะสมต่อการใชป้ ระโยชนข์ องกล่มุ เป้าหมาย การจดั การความรู้การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการจดั การนำ�้ 16ในการผลติ ข้าวเพ่ือรับมือกบั ภัยแลง้

2) ขั้นตอนการก�ำหนดความรแู้ ละทางเลือก จากขน้ั ตอนที่ 1 สามารถวเิ คราะหอ์ งคค์ วามรทู้ คี่ น้ พบทง้ั ภายในและภายนอก ชุมชน และสามารถก�ำหนดทางเลือกเบื้องต้นให้แก่เกษตรกรในการรับมือกับภัย แล้งเพ่ือเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตข้าว ดังกรณีศึกษาของเทศบาลต�ำบลออนใต้ เชน่ • ทางเลือกที่ 1 การปรับปรุงพัฒนาแหล่งน้�ำและระบบส่งจ่ายน�้ำ ได้แก่ การขุดลอกอ่างเก็บน้�ำ/สระน้�ำสาธารณะประจ�ำหมู่บ้าน/ล�ำห้วย การใช้ท่อส่งน้�ำ (PE) ในการจ่ายน้�ำทดแทนล�ำเหมอื งหรอื รางเปดิ การสร้างระบบหอถงั สงู การกัก เกบ็ นำ้� สำ� รองในพน้ื ทขี่ องตนเอง การใชว้ สั ดกุ นั ซมึ ปอู า่ งเกบ็ นำ�้ เพอื่ ลดการสญู เสยี นำ้� • ทางเลือกท่ี 2 การลดปริมาณการใช้น้�ำในการปลูกข้าว ได้แก่ การห้าม ปลูกข้าวนาปรังอย่างเด็ดขาด การใช้พันธุ์ข้าวทนแล้ง การเปลี่ยนรอบเวรการใช้ น�้ำทุก 15 วันในช่วงปลูกข้าวนาปี การใช้ระบบน�้ำหยดหรือสปริงเกอร์ การใช้ เทคนิคการแกล้งข้าว • ทางเลือกท่ี 3 การปรบั เปล่ยี นเทคนิคหรอื วถิ กี ารผลิต ได้แก่ การลดพนื้ ท่ี ปลูกพืชเชิงเด่ียว การปลูกพืชไร้ดิน การใช้หลักเกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อการใช้ ประโยชน์จากพื้นที่อย่างคุ้มค่า การส่งเสริมการปลูกพืชอายุส้ันใช้น้�ำน้อย เช่น ขา้ วโพด ยาสูบ พริก เป็นต้น • ทางเลือกที่ 4 การปรบั ปรุงและอนรุ ักษ์ดิน โดยลดการใชส้ ารเคมแี ละใหม้ ี การใชป้ ยุ๋ หรอื สารชวี ภาพทดแทน เพอ่ื เพมิ่ มลู คา่ ผลผลติ และปอ้ งกนั กำ� จดั ศตั รพู ชื เช่น การปลูกขา้ วอินทรยี ์ การปลูกผักปลอดสารพษิ • ทางเลือกท่ี 5 การอนุรกั ษป์ ่าไม้และสภาพแวดลอ้ ม เพอื่ เพ่มิ ความชุ่มช้นื แก่ ดนิ และบรรเทาความแห้งแลง้ โดยวธิ ีการสรา้ งฝายชะลอนำ้� การกระตนุ้ จติ สำ� นกึ ของเกษตรกรและผอู้ ยอู่ าศยั ในพนื้ ท่ี การกำ� หนดกฎระเบยี บ การจดั กจิ กรรมอยา่ ง ตอ่ เนอื่ ง และการด�ำเนินงานในรปู แบบของคณะกรรมการ 3) ขน้ั ตอนการประเมนิ ทางเลอื ก/การกลนั่ กรอง/คดั เลอื กทางเลอื กทเ่ี หมาะสม ด้วยกระบวนการจัดการความรู้ การเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการน้�ำในการ ผลติ ขา้ วเพือ่ รับมือกับภัยแลง้ ตอ้ งตระหนักถึงส่งิ สำ� คัญ คือ ชมุ ชนสามารถน�ำไป ปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น ข้ันตอนการประเมินและกลั่นกรองทางเลือก ภายใตก้ ารมสี ว่ นรว่ มของภาคภี าคสว่ นตา่ ง ๆ(ภาพที่3) เชน่ ชมุ ชนออนใต้(กำ� นนั แกนนำ� ชมุ ชน ผใู้ ช้นำ้� สมาชกิ กล่มุ เกษตรอนิ ทรยี )์ เทศบาลตำ� บลออนใต้ (นายก เทศมนตรี สมาชกิ สภาเทศบาล) ผเู้ ชยี่ วชาญดา้ นนำ้� ชลประทาน และการปลกู ขา้ ว ตลอดจนภาคสี ถาบนั การศกึ ษา จงึ มคี วามจ�ำเปน็ เพ่ือประเมนิ ปจั จัยและข้อจำ� กัด ของแตล่ ะทางเลอื กทก่ี ำ� หนดไวใ้ นเบอื้ งตน้ เพอื่ ใหไ้ ดว้ ธิ กี ารหรอื แนวทางการปฎบิ ตั ิ ท่ชี ดั เจนและเหมาะสมต่อการใชป้ ระโยชน์ของกล่มุ เปา้ หมายอย่างแท้จรงิ 17 การจดั การความรู้การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการจัดการน�ำ้ ในการผลติ ขา้ วเพ่อื รับมือกบั ภัยแลง้

ภาพท่ี 3 การประเมนิ แนวทางการการ เพ่มิ ประสิทธิภาพการจัดการน�ำ้ ในการผลติ ขา้ วเพอ่ื รบั มือกับภัยแล้ง ทเี่ หมาะสมตอ่ การใช้ประโยชน์ของกลุ่ม เปา้ หมาย การจดั การความรกู้ ารเพิม่ ประสทิ ธิภาพการจัดการนำ้� 18ในการผลติ ข้าวเพอื่ รบั มอื กับภัยแล้ง

ส�ำหรับทางเลือกท่ีส�ำคัญ และมีความเหมาะสมของเทศบาลต�ำบลออนใต้ ด้าน การเพ่ิมประสิทธิภาพการจัดการน้�ำในการผลิตข้าวเพ่ือรับมือกับภัยแล้ง พบวา่ จ�ำแนกออกเป็น 2 ประเดน็ หลัก คอื 1) การเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการจัดการ แหลง่ นำ้� และระบบสง่ จา่ ยนำ�้ และ 2) การลดปรมิ าณการใชน้ ำ�้ ในการปลกู ขา้ วและ การเกษตรอนื่ ซงึ่ ครอบคลมุ ทงั้ ทางดา้ นเทคนคิ และการจดั การในการรบั มอื กบั ภยั แลง้ นอกจากนี้ ทางชุมชนออนใต้ได้พิจารณาเง่ือนไข ปัจจัย ท่สี ่งผลตอ่ การนำ� ไป ปฏบิ ตั ิให้สำ� เรจ็ อย่างเป็นรูปธรรม 1) ทางเลอื กในการเพ่มิ ประสิทธิภาพการจัดการแหล่งนำ้� และระบบส่ง จา่ ยน้�ำ (ความจ�ำเป็นเรง่ ด่วนมาก) • การขุดลอกอ่างเก็บน�ำ้ /ล�ำเหมอื ง/สระน�้ำสาธารณะ • การทำ� ฝายแมว้ ฝายชะลอนำ้� • การใช้ท่อจ่ายน�้ำ PE แทนล�ำเหมอื งดนิ คอนกรีต • การจดั ท�ำสมดุลความตอ้ งการใชน้ ำ้� ปริมาณนำ�้ และพ้ืนทร่ี บั นำ�้ 2) ทางเลอื กในการลดปรมิ าณการใชน้ ำ�้ ในการปลกู ขา้ วและการเกษตร อน่ื (ความจำ� เป็นเรง่ ดว่ นมาก) • การปลูกข้าวอินทรีย์ • การลดพื้นทปี่ ลูกพืชเชิงเด่ียว • การส่งเสรมิ การปลูกพชื อายุสน้ั ใช้น้�ำน้อย • การเปลี่ยนรอบเวรการใช้น�ำ้ ทุก 15 วันในชว่ งปลูกข้าวนาปี • ลดการใชส้ ารเคมี การใชป้ ยุ๋ หรือสารชวี ภาพทดแทน 4) ขัน้ ตอนการลงมือปฏบิ ตั ิและทดสอบ ดังท่ีกลา่ วมาข้างตน้ ว่า การเรยี นรรู้ ว่ มกนั ผา่ นการปฏิบัติ เป็นหัวใจที่ส�ำคัญ ท่ีสุดในการจัดการความรู้ ท�ำให้เกิดการยกระดับและสร้างความรู้ใหม่ภายใต้ การน�ำความรู้ไปปรับใช้อย่างไม่สิ้นสุด ความหมายของการลงมือปฏิบัตินั้น ใน บางกิจกรรมทางชุมชนเทศบาลต�ำบลออนใต้สามารถลงมือด�ำเนินการได้ในทันที เชน่ การท�ำฝายแมว้ ฝายชะลอน�ำ้ การปรับเปลยี่ นทอ่ จ่ายนำ้� PE แทนลำ� เหมอื ง ดิน คอนกรีต การลดพ้นื ท่ปี ลูกพืชเชงิ เดีย่ ว การส่งเสริมการปลูกพชื อายุส้ันใชน้ ำ�้ น้อย เปน็ ตน้ 19 การจดั การความรกู้ ารเพิม่ ประสิทธิภาพการจดั การนำ้� ในการผลิตข้าวเพ่ือรบั มอื กบั ภยั แลง้

ปจั จยั ภายใน ปจั จยั ภายนอก • จติ สำ� นกึ และการมสี ว่ นรว่ มของคนใน • นโยบายหรอื ยทุ ธศาสตรข์ องรฐั รวมถงึ ชุมชนทุกกลุ่มและทุกเครือข่ายท่ีเก่ียวข้อง แผนงานการพฒั นาแหลง่ นำ�้ /พนื้ ทช่ี ลประทาน (กล่มุ เกษตรกร กลมุ่ ผใู้ ช้น�้ำ เทศบาลต�ำบล ที่ชัดเจน และสอดรับกันในทุกระดับท่ีน�ำไป ออนใต้ ฯลฯ) ปฎิบตั ิใช้ • สถานภาพทางเศรษฐกิจของ เกษตรกร ตน้ ทนุ การผลิต • การสนบั สนนุ ของภาครฐั และหนว่ ยงานที่ • วิธีการจัดการน้�ำและการปรับตัว เกยี่ วขอ้ ง เชน่ การฝกึ อบรม ความรเู้ ชงิ เทคนคิ ของชุมชน วัสดอุ ุปกรณ์ และงบประมาณ • การแลกเปล่ียนความรู้และเทคนิค ภายในผสมผสานกนั การเรยี นรจู้ ากภายนอก • การสง่ เสรมิ และพฒั นาฐานขอ้ มลู ความรู้ เพื่อการปรบั ใช้ เทคนิค การปลูกข้าวประหยัดน้�ำเพ่ือน�ำไปใช้ ประโยชน์ • การส่งเสรมิ ตลาดเกษตรอินทรยี ์ อยา่ งไรกต็ าม ในบางกจิ กรรมอาจจำ� เปน็ ต้องเรม่ิ ตน้ จากการจดั ท�ำแผนงานหรอื โครงการ จนถงึ ขนั้ การอนมุ ตั ิ เชน่ กจิ กรรมหรอื ทางเลอื กการขดุ ลอกอา่ งเกบ็ นำ�้ (อา่ งเกบ็ นำ�้ หว้ ยลานและ อ่างเก็บน้�ำแม่ผาแหน) ซ่ึงเป็นกิจกรรมที่ชุมชนเทศบาลต�ำบลออนใต้ให้ความส�ำคัญมากและ จำ� เป็นอย่างเร่งดว่ นในการรบั มอื กับปญั หาภัยแล้ง แต่เป็นกิจกรรมท่จี �ำเปน็ ตอ้ งอาศัยศักยภาพ การสนับสนุน และการช่วยเหลืออย่างเต็มที่จากหน่วยงานภาครัฐที่เก่ียวข้อง นอกจากนี้ ใน ระหวา่ งการทำ� งานหรอื ด�ำเนนิ กิจกรรม ควรมีการแลกเปลี่ยนเรยี นรู้ ทบทวนปญั หา บทเรียน และความส�ำเร็จร่วมกันเป็นระยะๆ ซึ่งถือเป็นกระบวนการน�ำส่งความรู้อย่างมีประสิทธิผล ภายในชมุ ชนลักษณะหนงึ่ 5) ขัน้ ตอนการติดตามและประเมินผลการดำ� เนนิ กจิ กรรม ข้ันตอนการติดตามและประเมินผล ถือเป็นหัวใจของการใช้ความรู้ ส�ำหรับกรณีศึกษา เทศบาลตำ� บลออนใต้ ชมุ ชนและเทศบาลตำ� บลออนใต้ ควรมกี ารตรวจสอบการดำ� เนนิ กจิ กรรม ตา่ ง ๆ เปน็ ระยะ เพอื่ ควบคมุ สถานการณใ์ หก้ ารดำ� เนนิ กจิ กรรมการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพการจดั การ น�้ำในการผลิตข้าวเพ่ือรับมือต่อภัยแล้งบรรลุเป้าหมาย ดังน้ัน ควรมีการก�ำหนดแนวทางการ ตดิ ตาม และการประเมนิ ผลตามตวั ชี้วัด ดา้ นปัจจัยน�ำเขา้ กระบวนการ และผลผลิตทเ่ี กิดข้ึน ของแตล่ ะทางเลือก และควรมกี ารรายงานผลนำ� เสนอผู้บรหิ ารและชุมชนทราบ ถงึ ข้อมูลทไี่ ด้ จากการตดิ ตามและประเมินผล ตลอดจนความก้าวหน้า ปญั หา อุปสรรคทพ่ี บในการดำ� เนนิ กจิ กรรมร่วมกัน อยา่ งนอ้ ยปีละ 1 คร้งั ผ้มู สี ว่ นรว่ มในการตดิ ตามและประเมินผลควรประกอบ ด้วย เทศบาลต�ำบลออนใต้ (ตวั แทน) คณะกรรมการผู้ใชน้ ำ�้ ชมุ ชน เกษตรกร นกั วิชาการ และ หนว่ ยงานทอ้ งถิน่ ทเี่ กี่ยวข้อง เชน่ เกษตรอำ� เภอ เป็นตน้ การจดั การความรกู้ ารเพ่มิ ประสิทธภิ าพการจัดการนำ้� 20ในการผลิตขา้ วเพื่อรับมอื กบั ภยั แลง้

1. กิจกรรมการขุดลอดอา่ งเกบ็ น้ำ� 21 การจดั การความรู้การเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการจดั การน้ำ� ในการผลิตขา้ วเพอ่ื รับมือกบั ภัยแลง้

2. กิจกรรมการใชท้ อ่ จ่ายนำ้ � PE 3. กจิ กรรมการจัดทำ�สมดลุ ความต้องการใชน้ ำ้ � ปรมิ าณนำ้ � พื้นท่รี ับนำ้ � การจดั การความรกู้ ารเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการจัดการนำ้� 22ในการผลิตข้าวเพ่อื รับมอื กับภยั แลง้

4. กจิ กรรมการปลกู ข้าวอนิ ทรยี ์ 23 การจัดการความรู้การเพิ่มประสทิ ธิภาพการจดั การน้�ำ ในการผลิตข้าวเพอ่ื รบั มอื กบั ภัยแล้ง

การจดั การความรกู้ ารเพิ่มประสทิ ธภิ าพการจัดการนำ�้ 24ในการผลติ ข้าวเพ่อื รบั มือกบั ภัยแล้ง

5. กิจกรรมการทำ�ฝายแมว้ 6. กิจกรรมการผลิตปยุ๋ หมกั และสารชวี ภาพ 25 การจดั การความรู้การเพ่มิ ประสิทธภิ าพการจัดการน�ำ้ ในการผลิตขา้ วเพอ่ื รบั มือกบั ภัยแลง้

7. กิจกรรมการลดพ้นื ท่ปี ลกู พชื เชิงเด่ยี ว การจดั การความรกู้ ารเพิม่ ประสทิ ธิภาพการจัดการน�ำ้ 26ในการผลติ ขา้ วเพือ่ รบั มือกับภัยแลง้

8. กิจกรรมการเปลยี่ นรอบเวรการใชน้ ำ้ � 27 การจัดการความรกู้ ารเพิม่ ประสิทธภิ าพการจดั การนำ�้ ในการผลิตข้าวเพอ่ื รับมือกบั ภัยแลง้

การจดั การความรกู้ ารเพิ่มประสทิ ธภิ าพการจัดการนำ�้ 28ในการผลติ ข้าวเพ่อื รบั มือกบั ภัยแล้ง

03 แนวทาง องกคาค์รวนาำ�มสร่งู้ สำ� หรบั กระบวนการนำ� สง่ ความรทู้ ส่ี ำ� คญั สง่ ผลทำ� ใหเ้ กดิ การพฒั นากลไกลและการ ขับเคลอ่ื นระดับชุมชนท้องถิน่ รวมถงึ การพฒั นาเครือข่ายความร่วมมือท้งั ภายในและ ภายนอกชุมชนอย่างมปี ระสิทธิผล ประกอบดว้ ย 1) กระบวนการมีส่วนร่วมของภาคี ทเี่ ก่ียวข้อง ได้แก่ การร่วมค้นหาปัญหาและความรู้ การรว่ มวางแผน การรว่ มปฏิบตั ิ การรว่ มสงั เกต การรว่ มตดิ ตามและประเมนิ ผล การรว่ มทบทวน และการรว่ มยกระดบั ความรแู้ ละการปรบั ใชค้ วามรใู้ หม่2) กระบวนการจดั ระบบความรู้ ไดแ้ ก่ การจดั ทำ� คมู่ อื ซ่ึงถือเป็นเคร่ืองมือที่ส�ำคัญ ท�ำให้การด�ำเนินงานหรือกิจกรรมของชุมชนเกษตรกร ออนใต้ และเทศบาลตำ� บลออนใตม้ ที ศิ ทางทช่ี ดั เจน ตรงกบั ความตอ้ งการ และสามารถ ทบทวน ตดิ ตาม ตรวจสอบผลสำ� เรจ็ ไดอ้ ยา่ งเปน็ รปู ธรรม และ 3) กระบวนการเผยแพร่ และการถา่ ยทอดความรู้ ไดแ้ ก่ การประชมุ กลมุ่ ยอ่ ย การประชมุ ระดมสมอง การประชมุ ถอดบทเรยี นและสรปุ บทเรียน เพ่อื แลกเปลย่ี นเรียนรู้ และแบ่งปนั ความรู้ภายในชุมชน รวมถงึ การเผยแพรค่ วามรทู้ างวชิ าการเพอื่ สรา้ งเครอื ขา่ ยและยกระดบั การจดั การความรู้ 29 การจดั การความรกู้ ารเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการจดั การน้ำ� ในการผลิตขา้ วเพ่อื รับมอื กับภัยแล้ง

จากการด�ำเนินกิจกรรมจัดการความรู้ การเพ่ิม 04 ประสทิ ธภิ าพการจดั การนำ�้ ในการผลติ ขา้ วเพอื่ รบั มอื สรุปเสแนลอะแขนอ้ ะ กับภัยแล้ง เทศบาลต�ำบลออนใต้ อ�ำเภอสันก�ำแพง จงั หวดั เชยี งใหม่ และจากผลดำ� เนนิ กจิ กรรมดงั กลา่ ว ได้จัดท�ำเป็นคู่มือ การรับมือกับภัยแล้งของเกษตร ออนใต้:นัยยะการจัดการความรู้ สรุปได้ว่ามี กระบวนการท่ีส�ำคัญอยู่ 5 ข้ันตอน ได้แก่ 1) การ ระบุปัญหาท่ีต้องการแก้ไข 2) การค้นหาความรู้ที่ ต้องการและการก�ำหนดทางเลอื ก 3) การกล่ันกรอง และคัดเลือกความรู้ 4) การลงมือปฏิบัติ และ 5) การติดตามและประเมินผล ภายใต้การมีส่วนร่วม ของภาคีที่เก่ียวข้องและการน�ำส่งความรู้ระหว่างกัน ผ่านการแบ่งปันความรู้ การแลกเปล่ียนข้อมูล การ ระดมสมอง การวพิ ากษว์ จิ ารณแ์ ละการเรยี นรรู้ ว่ มกนั เนอ่ื งจากความรู้ การปรบั ใชค้ วามรู้ และศกั ยภาพ ของเกษตรกรผู้ปลูกข้าว สามารถเปล่ียนแปลงเป็น พลวัตตามเงื่อนไข ปัจจัย และบริบทของชุมชนที่ เปลยี่ นไป ดงั นนั้ การสรา้ งความรแู้ ละการใชป้ ระโยชน์ จากคมู่ อื การจดั การความรู้ ดา้ นการเพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ การจัดการน้�ำในการผลิตข้าวเพ่ือรับมือต่อภัยแล้ง ควรมุ่งเน้นการมีส่วนร่วมและการทดลองปฏิบัติ กิจกรรมน�ำร่องอย่างแท้จริง รวมถึงการติดตามและ ประเมินผลตามตัวชี้วัดท่ีระบุไว้ในคู่มือ เพื่อน�ำไปสู่ • ในการขับเคลื่อนกิจกรรม ชุมชนเทศบาล การยกระดับการสร้างองค์ความรู้ท่ีมีความรอบคอบ ต�ำบลออนใต้ควรมุ่งเน้นการเรียนรู้ร่วมกันผ่านการ และทนั สมยั มากย่งิ ขน้ึ อันจะสง่ ผลให้ความสามารถ ปฏบิ ัติ และการเรียนรจู้ ากภายนอก ควบคู่กัน เชน่ ขับเคล่ือนการแก้ไขปัญหาด้านเกษตรกรรม (การ การศึกษาแลกเปล่ียนเรียนรู้จากชุมชนอื่นท่ีมีการ ผลิตข้าว) และการจัดการน้�ำระดับชุมชนท้องถ่ินมี บรหิ ารจดั การน้ำ� เปน็ ผลส�ำเรจ็ (best practice) ใน ประสิทธิภาพย่ิงข้ึน ส�ำหรับข้อเสนอแนะในภาพรวม การรับมือกับภัยแล้ง และรวมถึงการติดตามและ กรณีศกึ ษา เทศบาลต�ำบลออนใต้ มดี ังนี้ ประเมนิ ผลตามตัวช้ีวัดท่รี ะบไุ วใ้ นคู่มือ การจดั การความรู้การเพ่ิมประสิทธิภาพการจดั การน้ำ� 30ในการผลิตข้าวเพอื่ รับมือกับภัยแลง้

• เทศบาลต�ำบลออนใต้ ควรมีบทบาทส�ำคัญในการเป็น ผู้น�ำร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน ชุมชน (กลมุ่ เกษตรกร กลุ่มผูใ้ ช้น้�ำ ชุมชน องค์กรรัฐ เอกชน และองค์กรอิสระ) ในการ ผลักดันแผนสู่การลงมือปฏิบัติ และการติดตาม ประเมนิ ผล ใหส้ อดคลอ้ งกบั ทศิ ทางการดำ� เนนิ งาน และกจิ กรรมทรี่ ะบไุ วใ้ นคมู่ อื รวมทง้ั การสนบั สนนุ การรับมือต่อภัยแล้งของชุมชนเกษตรกรออนใต้ ใหบ้ รรลุเป้าหมาย • ชมุ ชนและเทศบาลตำ� บลออนใต้ ควรใหค้ วาม ส�ำคัญต่อการพัฒนาระบบฐานข้อมูล รวมถึงระบบ เทคโนโลยสี ารสนเทศดา้ นการบรหิ ารจดั การนำ�้ ควบคู่ กนั เพอื่ ใชเ้ ป็นเครอ่ื งมอื ในการขยายผลจัดการความ รหู้ รอื การใชค้ วามรใู้ นทกุ ขน้ั ตอนอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ถกู ตอ้ ง รวดเร็ว และสะดวกมากยง่ิ ข้นึ 31 การจัดการความรู้การเพ่ิมประสิทธิภาพการจดั การน้�ำ ในการผลิตขา้ วเพอ่ื รับมอื กบั ภัยแล้ง



05ภาค ผนวก

ภาคผนวก ก ตวั อยา่ งทางเลือกการเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการจดั การแหล่งนำ้ และระบบสง่ จา่ ยนำ้ กรณศี กึ ษาเทศบาลตำบลออนใต้ กจิ กรรม ระดับความจำเป็น ข้อคิดเหน็ และข้อเสนอแนะ การขดุ ลอกอ่างเกบ็ น้ำ เร่งด่วน *เปน็ แนวทางท่สี ามารถให้ผลทนั ที แต่ควรจดั ทำฐานขอ้ มลู ด้าน มาก ทรพั ยากรน้ำ (น้ำตน้ ทนุ ) และวางแผนการบรหิ ารจดั การนำ้ ของ การสร้างแหล่งกกั เกบ็ น้ำ ชุมชนอย่างรอบดา้ น เชน่ ขอ้ มูลความตอ้ งการใช้นำ้ ข้อมลู ความ การใช้วัสดกุ ันซมึ ปอู า่ งเกบ็ น้ำ น้อย เพียงพอของน้ำต้นทนุ ข้อมูลการจัดการน้ำตน้ ทนุ และการ การทำฝายแมว้ ฝายชะลอน้ำ น้อย สูญเสีย เป็นต้น การปลูกพืชคลุมดิน (หญา้ แฝก) ปานกลาง *ต้องการการสนบั สนุนงบประมาณและผเู้ ชยี่ วชาญเชงิ เทคนคิ มา การใชท้ ่อจ่ายน้ำ PE ทดแทนลำ น้อย ช่วยในการขุดลอก จากหน่วยงานทเ่ี กยี่ วข้อง เช่น กรม เหมืองดนิ คอนกรีต มาก ทรัพยากรน้ำ (สนง. ลำปาง) การจดั ทำสมดลุ ความต้องการใช้ *ควรบรรจไุ ว้ในแผนของเทศบาล เพื่อใหก้ ารสนับสนนุ น้ำ ปรมิ าณน้ำ และพน้ื ที่รบั น้ำ มาก งบประมาณและชว่ ยประสานงานกบั หนว่ ยงานที่เกีย่ วข้อง *ต้องใชเ้ วลาในการประสานงานกบั หน่วยงานทีเ่ ก่ียวข้อง *จำเป็นแตข่ าดพ้ืนทีส่ าธารณะท่ีเหมาะสำหรบั การสรา้ งแหล่งกกั เก็บน้ำระดบั ชุมชน ทางเลือกนจี้ ึงเป็นไปไมไ่ ด้ *กรณสี ระกักเกบ็ น้ำในไร่นา เปน็ ทางเลือกแบบพ่งึ ตนเอง ขอ้ จำกัด คือ ต้องมที นุ มพี ื้นที่เพียงพอ และมที ่ีดนิ เป็นของ ตนเอง *การใช้วัสดกุ นั ซมึ จะทำใหน้ ้ำใตด้ ินไม่ซมึ ขน้ึ มา เมื่อนำ้ หมดก็จะ แหง้ ไปเลย แต่ถ้าไมใ่ ช้วัสดุกันซึม ถึงนำ้ หมดก็ยงั มีน้ำซึมออกมา จากใต้ดินให้ใช้ *การใชว้ ัสดุกันซึมอาจจะเหมาะสมกับบางพื้นทเ่ี ท่าน้นั *เปน็ ทางเลือกทด่ี ี มีความจำเปน็ เพอ่ื เพ่มิ ความชุ่มชืน้ ใหแ้ กพ่ นื้ ที่ และชะลอน้ำให้แกช่ ุมชน แตต่ อ้ งใช้ระยะเวลาในการเห็นผล * บรรจุเปน็ แผนงานประจำปขี องเทศบาลตำบลออนใต้ *จำเปน็ ตอ้ งอาศยั การมสี ว่ นรว่ มของชาวบ้าน งบประมาณ และ แรงงานในการบำรุงรกั ษาอยา่ งตอ่ เนื่อง *มีความจำเปน็ แตข่ าดคนดำเนินการ งบประมาณ และแรงงาน ในการบำรุงรกั ษาอยา่ งตอ่ เนือ่ ง เพราะต้องออกไปปลูกในพืน้ ที่ ป่าเหนืออา่ งเกบ็ น้ำ ท่ีผา่ นมาชาวบ้านเคยไปปลกู เพียงคร้ังเดยี ว *มีความจำเป็นต้องทำอย่างเรง่ ดว่ นอย่างมากเพอ่ื ใหส้ ามารถจ่าย น้ำใชไ้ ดอ้ ยา่ งท่ัวถงึ แก้ปัญหาการสูญเสียน้ำไดเ้ กอื บ 100% เป็น ระบบการจา่ ยนำ้ ท่มี ีประสทิ ธภิ าพ *ต้องการการสนับสนุนงบประมาณ และผ้เู ชี่ยวชาญ ในการวาง ระบบให้ครอบคลุมอยา่ งมีประสิทธิผล (งบประมาณและพ้ืนที่รบั น้ำ) *มีความจำเปน็ ในการจัดทำฐานขอ้ มูลด้านทรัพยากรน้ำ และ วางแผนการบรหิ ารจัดการน้ำด้านการเกษตรของชุมชน (ขอ้ มลู ความต้องการใชน้ ้ำ ชนิดพชื ทีป่ ลกู พืน้ ท่รี ับน้ำ ปริมาณนำ้ ตน้ ทนุ ) แต่ตอ้ งอาศยั นักวชิ าการเขา้ ไปช่วย การจัดการความรู้การเพม่ิ ประสิทธภิ าพการจัดการน�้ำ 34ในการผลิตขา้ วเพ่ือรับมอื กับภยั แลง้

ภาคผนวก ข ตวั อย่างทางเลือกการลดปริมาณการใชน้ ำ้ ในการปลูกข้าวและการเกษตรอ่ืน กรณศี กึ ษาเทศบาลตำบลออนใต้ กิจกรรม ระดบั ความจำเป็น ขอ้ คิดเหน็ และข้อเสนอแนะ การใช้พันธขุ์ า้ วทนแล้ง/การปลูก เรง่ ดว่ น *ปญั หาทางเลือกการปลูกข้าวทนแล้ง/ขา้ วไร่ คือ คณุ ภาพเมล็ด ข้าวไร่ นอ้ ย ข้าวทแี่ ข็ง ไมเ่ ป็นทยี่ อมรับของตลาด พนั ธ์ขุ า้ วทเ่ี กษตรกรพอจะ การใช้เทคนิคการแกล้งขา้ ว ปลกู ได้ คอื พันธุข์ ้าวหอมมะลิ 105 แต่วธิ ีนก้ี ็ปลกู แล้วไมค่ ุ้มทนุ นอ้ ย อาจก่อใหเ้ กิดผลกระทบดา้ นการลงทุนและขนาดของหน้สี ิน การปลกู ข้าวอนิ ทรยี ์ ครวั เรือนท่สี ูงขน้ึ มาก *เปน็ เทคนคิ การเปลี่ยนวิธกี ารให้นำ้ แก่ขา้ ว ซึง่ เห็นผลทนั ที การลดพ้นื ที่ปลูกพืชเชงิ เด่ียว/ ดงั นัน้ เกษตรกรต้องมคี วามรู้ มีความเขา้ ใจอย่างถ่องแทถ้ ึง การส่งเสรมิ การปลกู พชื อายุส้นั ใช้ มาก เทคนิคทใ่ี ช้ นำ้ นอ้ ย *การใช้เทคนคิ การปลกู ขา้ วแบบเปียกสลับแห้ง (แกล้งข้าว) อาจ การเปลยี่ นรอบเวรการใชน้ ำ้ ทกุ มาก ไม่ไดผ้ ล เนอ่ื งจากลกั ษณะพื้นทกี่ ารเพาะปลกู และลักษณะเนื้อ 15 วนั ในช่วงปลกู ข้าว มาก ดินแตกต่างจากนาข้าวในพืน้ ท่รี าบลมุ่ ภาคกลาง ทางผู้เชีย่ วชาญ ลดการใชส้ ารเคม/ี ใชป้ ุ๋ย ดา้ นขา้ วจากศูนยฯ์ ห้วยฮ่องไคร้ ใหค้ วามคดิ เหน็ ว่า เทคนคิ การ สารชวี ภาพทดแทน ทำนาแบบขั้นบันไดอาจมคี วามเหมาะสมและใหผ้ ลผลิตตอบ แทนที่สูงกวา่ แต่ต้องคำนึงถึงปจั จยั และคา่ ใชจ้ ่ายทีต่ ้องลงทุน *ปัจจบุ ัน ไดเ้ ร่มิ มีเกษตรกรผลิตข้าวอนิ ทรียใ์ นพืน้ ที่เทศบาล ตำบลออนใต้ แต่ยงั ขาดการสนับสนนุ และการวางแผนการ ขบั เคล่อื นอย่างจริงจงั ดังนนั้ ทางเลือกนจ้ี งึ เป็นโอกาสที่ดี มี ประโยชนม์ าก หากเกษตรกรสามารถทำได้จริง เนือ่ งจากเป็น การปลูกข้าวแบบปราณตี ผลผลติ มรี าคาสูง และมีตลาดรองรับ *เป็นวธิ ีท่กี ลุ่มเกษตกรออนใตไ้ ดป้ รับใช้อยู่ในปจั จบุ ัน และเหน็ ว่ามีความจำเปน็ ตอ่ การลดปริมาณการใช้นำ้ เช่น การปลูกยาสบู ขา้ วโพด และพชื ผักพนื้ บา้ น เปน็ ตน้ นอกจากน้ี ทางผู้เชย่ี วชาญ ได้แนะนำใหป้ ลูกพชื ตระกูลถวั่ และงา เพ่มิ เติม เนื่องจากเป็นพืช ทนแลง้ เปน็ ท่นี ิยมของตลาดและให้ราคาผลตอบแทนท่ีสูง *เป็นทางเลอื กที่บรรเทาปญั หาลงได้ แตอ่ าจต้องคำนึงถงึ การ จดั การน้ำ การจดั การโรคพชื และศัตรูพชื รวมถงึ ปัจจัย สง่ิ แวดลอ้ มท่ีเหมาะสมต่อการปลูกข้าว *ในปจั จบุ ัน เกษตรกรออนใตส้ ่วนใหญ่มีความคุน้ เคยและปรบั ใช้ ประโยชน์ จากปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปยุ๋ พืชสด ในการบำรุงดนิ มาก ข้ึน อย่างไรกต็ าม เกษตรกรบางส่วนยงั ขาดความเชอ่ื มน่ั ถึง ประสทิ ธิภาพของการใชส้ ารชีวภาพในการบำรุงดนิ *มคี วามจำเปน็ มาก เนื่องจากการผลติ ปุ๋ยหมักหรอื ปยุ๋ อินทรยี ์ มี ส่วนสำคญั ต่อการส่งเสรมิ การปลูกขา้ วอินทรีย์ในพ้นื ที่เทศบาล ตำบลออนใต้ 35 การจดั การความรกู้ ารเพิม่ ประสิทธิภาพการจดั การนำ�้ ในการผลิตข้าวเพ่อื รับมอื กับภัยแลง้

การจดั การความรูก้ ารเพิม่ ประสิทธิภาพการจดั การน�ำ้ ภาคผนวก ค ตัวอยางแนวทางการติดตามประเมนิ ผล กรณีศกึ ษาเทศบาลตําบลออนใต วัตถุประสงค กิจกรรม -เพื่อเพมิ่ ความชุม ชื้นแก -การทาํ ฝายแมว ฝายพืน้ ทด่ี าํ เนนิ การ -เพือ่ เพิม่ ศักยภาพแหลงผูมีสวนรวมดําเนินการ ประเดน็ การตดิ ตาม/ วตั ถุประสงค ภาคผนวก ค ตวั อยา งแนวทางการตดิ ตามประเมนิ ผล กรณีศึกษาเทศบาลตาํ บลออนใต 36ในการผลิตขา้ วเพอ่ื รับมอื กบั ภยั แลง้ ดินและบรรเทาปญ หา ชะลอนํา้ น้ําและยกระดบั การใช ประเมนิ ผล ภยั แลง น้าํ ของชมุ ชนใหเกดิ -ความกา วหนาการ ประสทิ ธภิ าพ จดั ทํา/ขออนุมตั /ิ ดําเนิน -เพ่อื ใหเ กษตรกรความ กจิ กรรม เขม แข็งและมั่นคงใน -ปญ หา อปุ สรรค อาชีพเกษตรกรรม -ขอ เสนอแนะ -เพือ่ ลดปรมิ าณการ สญู เสยี นา้ํ ตนทุนอยา งมี -ความกาวหนา การ ประสทิ ธภิ าพ จัดทํา/ขออนมุ ตั /ิ ดาํ เนนิ -เพ่อื กระจายน้าํ เขาสู กจิ กรรม พ้นื ที่เกษตรกรรมใหเ กดิ -ปญหา อปุ สรรค ประโยชนส งู สุด -ขอเสนอแนะ -เพอ่ื จัดระบบการ -ความกา วหนาการ บรหิ ารจดั การนา้ํ ดาน จัดทาํ /ขออนุมตั /ิ ดาํ เนนิ การเกษตรใหเ กดิ กิจกรรม ประโยชนส ูงสุดตาม -ปญ หา อปุ สรรค ศักยภาพการเพาะปลูก -ขอเสนอแนะ -เพอื่ เพม่ิ ศกั ยภาพแหลง -การขดุ ลอกอา งเกบ็ นํ้า -อา งเก็บน้ําแมผ าแหน -เทศบาลตาํ บลออนใต เปา หมายกิจกรรม ตวั ช้ีวัดความสําเร็จ น้ําและยกระดบั การใช -การขดุ ลอกลาํ เหมอื ง และอา งเกบ็ นาํ้ หว ยลาน -จังหวัดเชยี งใหม -การขดุ ลอกอา งเก็บน้าํเพ่มิ ขีดความสามารถ-ความจุนํา้ ในอางเกบ็ น้ําชวง -ความกา วหนา การ กจิ กรรม นาํ้ ของชมุ ชนใหเ กดิ สระนาํ้ สาธารณะ -พ้ืนท่เี ทศบาลตําบล -กรมชลประทาน -การขุดลอกลาํ เหมืองการกักเก็บนาํ้ ในชว งฤดูหนาแลงไมนอ ยกวา รอ ยละ 60 จัดทาํ /ขออนุมัต/ิ ดําเนนิ ประสิทธภิ าพ ประจําหมูบ า น ออนใต จาํ นวน 11 -กรมทรพั ยากรนา้ํ สระนาํ้ สาธารณะฝนของอางเกบ็ นํา้ /ลํา-จํานวนลาํ เหมอื งและสระน้ํา กจิ กรรม -เพื่อใหเกษตรกรความ -การใชทอจา ยน้ํา PE หมูบาน -ชุมชนและกรรมการ ประจําหมูบา นเหมอื ง/สระน้าํ เพอื่สาธารณะในพืน้ ทอี่ อนใต ท่ี -ปญหา อุปสรรค เขมแขง็ และม่ันคงใน แทนลาํ เหมืองดิน พนื้ ทเี่ ทศบาลตําบล หมบู า น -การใชทอจา ยน้ํา PEสํารองใชในชวงภัยแลง ไดรบั การขุดลอกไมนอยกวา -ขอเสนอแนะ อาชีพเกษตรกรรม คอนกรตี ออนใต จาํ นวน 11 -เทศบาลตาํ บลออนใต แทนลําเหมืองดนิ รอ ยละ 80 -เพ่อื ลดปรมิ าณการ -การจดั ทาํ สมดลุ ความ หมบู าน -จงั หวัดเชียงใหม คอนกรีตเพิ่มขีดความสามารถใน โครงขายทอจายนํ้า PE สูญเสียนา้ํ ตนทุนอยางมี ตอ งการใชน้ํา ปริมาณ -การจัดทําสมดลุ ความการเพาะปลูกของ ครอบคลมุ หมบู า นในเทศบาล ประสิทธภิ าพ นา้ํ และพ้นื ทรี่ ับนาํ้ พ้ืนที่เทศบาลตําบล -เทศบาลตาํ บลออนใต ตอ งการใชนาํ้ ปริมาณเกษตรกรไดเ ตม็ ตาํ บลออนใต ไมนอยกวารอ ย -เพอ่ื กระจายนํ้าเขาสู ออนใต จํานวน 11 -ผเู ชี่ยวชาญดา นนา้ํ /นา้ํ และพน้ื ทรี่ ับนา้ํ ศกั ยภาพ สง ผลให ละ 80 พนื้ ท่ีเกษตรกรรมใหเ กิด หมบู า น ชลประทาน เกษตรกรมีรายไดส งู ขึ้น พืน้ ทก่ี ารเกษตรในเทศบาล ประโยชนส งู สดุ พน้ื ทเ่ี ทศบาลตําบล -เกษตรกรออนใต พนื้ ที่เทศบาลตําบลยกระดับความสามารถ พ้นื ท่ีเทศบาลตาํ บลตําบลออนใต ที่ไดรับการ หมูบ าน ออนใต จํานวน 11 -กรมทรัพยากรนา้ํ-พื้นที่เทศบาลตาํ บล -กรมชลประทาน และอา งเกบ็ นาํ้ หว ยลาน -จงั หวัดเชียงใหม-อางเก็บนํา้ แมผาแหน -เทศบาลตําบลออนใต พื้นที่ดาํ เนินการ -เพอื่ จัดระบบการ ออนใต จาํ นวน 11 -กลุมผใู ชนา้ํ ออนใต ออนใต จาํ นวน 11 ในการปรบั ตัวดา นการ ออนใต จาํ นวน 11 วางแผนใชน ํา้ ในการเพาะปลูก บริหารจดั การน้ําดา น หมูบา น หมบู าน เพาะปลูกของเกษตรกร หมูบาน ไมน อ ยกวา รอยละ 80 การเกษตรใหเกดิ อยา งมีประสิทธภิ าพ ประโยชนส ูงสดุ ตาม และเพ่ิมประสทิ ธภิ าพ หมบู านท่ดี าํ เนินการทําฝาย ศักยภาพการเพาะปลกู การใชน้ําตน ทนุ ใหเ กิด แมว ฝายชะลอนํ้า ในเทศบาล ประโยชนส ูงสดุ ตาํ บลออนใต ไมนอยกวารอย -เพ่ือเพิ่มความชุม ชนื้ แก -การทําฝายแมว ฝาย พน้ื ที่เทศบาลตําบล -เทศบาลตาํ บลออนใต เกิดการอนรุ กั ษ ละ 80 ดินและบรรเทาปญ หา ชะลอนํา้ ออนใต จาํ นวน 11 -ชมุ ชนและกรรมการ ทรัพยากรธรรมชาติ ภยั แลง หมบู าน หมบู า น ส่ิงแวดลอม และระบบ -หนว ยงานภายนอก นเิ วศอยา งย่งั ยนื -เทศบาลตําบลออนใต -เทศบาลตําบลออนใต -เทศบาลตาํ บลออนใต หมูบา น -ชมุ ชนและกรรมการ ผมู สี วนรวมดําเนินการ เปา หมายก -ชุมชนและกรรมการ -ผเู ช่ยี วชาญดา นนาํ้ / -จังหวัดเชียงใหม หมูบ า น ชลประทาน -หนว ยงานภายนอก -เกษตรกรออนใต -กลมุ ผูใ ชน้าํ ออนใต เพิม่ ขีดควา การกกั เก็บ ฝนของอา ง เหมือง/สระ สาํ รองใชใ น เพิม่ ขีดควา การเพาะป เกษตรกรได ศกั ยภาพ ส เกษตรกรม ยกระดบั คว ในการปรับ เพาะปลกู ข อยางมปี ระ และเพ่มิ ปร การใชน า้ํ ต ประโยชนส เกิดการอน ทรพั ยากรธ สง่ิ แวดลอ ม นิเวศอยาง

ภาคผนวก ค ตวั อยางแนวทางการตดิ ตามประเมินผล กรณีศึกษาเทศบาลตาํ บลออนใต วตั ถุประสงค กิจกรรม -เพื่อเพิ่มความชุมชนื้ แก -การทาํ ฝายแมว ฝายพื้นท่ีดําเนินการ ผมู ีสวนรว มดําเนินการ -เพอื่ เพิ่มศักยภาพแหลงเปา หมายกิจกรรม วตั ถุประสงค ภาคผนวก ค ตวั อยา งแนวทางการตดิ ตามประเมินผล กรณีศกึ ษาเทศบาลตําบลออนใต ดนิ และบรรเทาปญหา ชะลอน้าํ นาํ้ และยกระดบั การใช-สง เสรมิ ใหเ กษตรกร ภัยแลง น้ําของชุมชนใหเ กิดออนใตเ ขา สูมาตรฐาน ประสทิ ธภิ าพขา วอินทรยี  -เพื่อใหเกษตรกรความ-เกษตรกรมรี ายไดแ ละ เขมแขง็ และม่นั คงในตลาดขาวทางเลอื กที่ อาชพี เกษตรกรรมมากขึ้น -เพอ่ื ลดปรมิ าณการ-เพ่ิมประสทิ ธิภาพการ สูญเสยี น้ําตนทุนอยางมีปลกู ขาวแบบดั้งเดมิ และ ประสิทธภิ าพการปลกู ขา วอนิ ทรยี ใ น -เพอ่ื กระจายน้ําเขา สูเทศบาลตาํ บลออนใต พืน้ ท่ีเกษตรกรรมใหเ กิด-สง เสรมิ การผลติ พืชผัก ประโยชนส ูงสุดอนิ ทรียห รือปลอด -เพือ่ จดั ระบบการสารพษิ เพ่อื สรางรายได บริหารจดั การนํ้าดา นใหแกเ กษตรกร การเกษตรใหเกิด -ยกระดับการใชน ํา้ ให ประโยชนส งู สดุ ตาม เกิดประสิทธภิ าพ ศกั ยภาพการเพาะปลูก -เกษตรกรสามารถ -เพ่ือเพิ่มมูลคา ขา วและ -การปลกู ขา วอนิ ทรีย -พ้นื ท่เี กษตรกรรม -เทศบาลตาํ บลออนใต ปรบั ตัวและรับมือตอภยั ตวั ชี้วดั ความสาํ เรจ็ ประเด็นการติดตาม/ ยกระดบั ประสทิ ธภิ าพ เพาะปลกู ขาวออนใต -เกษตรอําเภอ แลง อยา งมีประสทิ ธิภาพ -รอ ยละของเกษตรกรและพน้ื ที่ ประเมินผล การปลูกขาวแบบ เทศบาลตาํ บลออนใต -ศนู ยวิจยั ขาว -เกิดการบรหิ ารจดั การ ที่ไดรับการสงเสรมิ ปลูกขาว -ความกา วหนา การ ปราณตี -ศูนยถ า ยทอดฯ และ นาํ้ /จดั สรรนาํ้ โดยชุมชน อนิ ทรยี  จดั ทํา/ขออนุมัต/ิ ดําเนนิ หมอดนิ ในชมุ ชน อยางมปี ระสิทธิผล -รอยละของพน้ื ทปี่ ลูกขาว กิจกรรม -เพอื่ ลดตน ทุนการผลิต -การผลติ ปยุ หมักและ -เกษตรกรขาวอินทรยี  -การขุดลอกอางเกบ็ น้ํา-บรรเทาปญ หาการแยงอนิ ทรยี ที่ไดร บั การรบั รอง-ปญหา อุปสรรคกิจกรรม -เพอื่ ฟนฟคู ณุ ภาพดนิ สารชีวภาพ ออนใต -การขดุ ลอกลําเหมืองชงิ น้ําในชุมชนมาตรฐาน-ขอ เสนอแนะ และเพิม่ ปรมิ าณ -เทศบาลตาํ บลออนใต สระนํ้าสาธารณะ-จาํ นวนกลมุ เกษตรกรผูผ ลติ-ความกา วหนา การ อนิ ทรียวัตถใุ หแกด ิน -ศูนยถ า ยทอดฯ และ ประจาํ หมูบ านและผูใชปยุ หมกั /สารชีวภาพในจัดทาํ /ดําเนนิ กจิ กรรม หมอดินในชุมชน -การใชทอ จายนาํ้ PEการปรับปรงุ ดนิ -ปญ หา อุปสรรค -เกษตรกรขาวอินทรีย แทนลําเหมอื งดิน-อัตราลดลงของเกษตรกรทีม่ ี -ขอ เสนอแนะ ออนใต คอนกรตี สารเคมีตกคา งในเลือด -การจดั ทําสมดลุ ความ -ความกาวหนาการ ตอ งการใชน าํ้ ปริมาณ -อตั ราสวนของพืน้ ทปี่ ลกู พชื จดั ทาํ /ดําเนินกจิ กรรม น้ํา และพื้นท่รี บั น้ํา เชิงเดี่ยวในชุมชน -ปญ หา อุปสรรค -จํานวนความหลากหลายชนดิ -ขอเสนอแนะ การจดั การความรู้การเพ่มิ ประสทิ ธิภาพการจดั การน้ำ� -เพื่อเพ่มิ ประสิทธิภาพ -การลดพ้นื ทีป่ ลูกพชื พื้นทเ่ี ทศบาลตําบล พ้นื ทีเ่ ทศบาลตําบล -เทศบาลตาํ บลออนใต -อางเกบ็ นา้ํ แมผาแหนพืชอายุสั้นใชน ํา้ นอย-ความกา วหนาการพื้นทีด่ ําเนนิ การ การบรหิ ารจดั การนํ้า เชงิ เดย่ี ว ออนใต จํานวน 11 ออนใต จํานวน 11 -เกษตรอําเภอ และอา งเกบ็ น้าํ หวยลาน-อัตราลดลงของขอ รองเรียนจดั ทํา/ดําเนินกจิ กรรม 37 ในการผลิตขา้ วเพือ่ รบั มือกบั ภัยแลง้ และระบบการผลติ -การสงเสริมการปลกู หมบู าน หมูบาน -เกษตรกรออนใต -พืน้ ทีเ่ ทศบาลตาํ บลการจดั สรรนํ้าเพาะปลูกขาวใน-ปญ หา อปุ สรรค พืชอายุสัน้ ใชน้ํานอ ย -กลมุ ผใู ชนํา้ ออนใต ออนใต จํานวน 11รอบป -ขอ เสนอแนะ -เทศบาลตําบลออนใต หมูบา น-รอ ยละของคนในชุมชนท่เี ขา -เพอ่ื บริหารจดั การนาํ้ สู -การเปลย่ี นรอบเวรการ พนื้ ท่เี ทศบาลตําบล -คณะกรรมการผูใชน้ํา พน้ื ท่ีเทศบาลตําบลรว มกจิ กรรมจดั สรรนาํ้ พ้นื ท่ีการเกษตรอยาง -เกษตรกรออนใต ออนใต จาํ นวน 11 เปน ธรรมและมี -กลุมผใู ชนาํ้ ออนใต หมูบา น ประสทิ ธภิ าพ พ้นื ท่ีเทศบาลตําบล ออนใต จาํ นวน 11 หมบู าน ใชนาํ้ ทกุ 15 วันในชวง ออนใต จาํ นวน 11 -เทศบาลตาํ บลออนใต ผมู ีสว นรว มดําเนนิ การ เปาหมาย ปลูกขา วนาป -เทศบาลตําบลออนใตหมูบา น -จงั หวดั เชียงใหม -ชมุ ชนและกรรมการ -กรมชลประทาน หมบู า น -กรมทรัพยากรนาํ้ -หนว ยงานภายนอก -ชุมชนและกรรมการ หมบู า น -เทศบาลตาํ บลออนใต -จงั หวดั เชียงใหม -เทศบาลตําบลออนใต -ผเู ชยี่ วชาญดานน้าํ / ชลประทาน -เกษตรกรออนใต -กลุมผใู ชน้าํ ออนใต เพมิ่ ขดี คว การกกั เก็บ ฝนของอา เหมอื ง/สร สํารองใชใ เพ่มิ ขีดคว การเพาะป เกษตรกรไ ศักยภาพ เกษตรกรม ยกระดบั ค ในการปรับ เพาะปลูก อยางมีปร และเพ่ิมป การใชนา้ํ ต ประโยชน เกดิ การอน ทรพั ยากร สง่ิ แวดลอ นิเวศอยา ง

เอกสาร อา้ งองิ กองพัฒนาคณุ ภาพ มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล (2552) การศึกษาวจิ ยั เรื่อง การจดั การความร้ขู องหน่วยงาน ในมหาวิทยาลยั มหิดล เอกสาร กพค. 52-159-54. วิจารณ์ พานิช (2549) การจัดการความรู้เพื่อพัฒนานโยบายสาธารณะ. การขับเคล่ือนนโยบาย สาธารณะ: จากวิชาการสู่การปฏิบัติ จากประสบการณ์สู่การเรียนรู้นโยบาย. มูลนิธิ สาธารณสขุ แหง่ ชาติ (มสช.) สำ� นกั งานกองทนุ สนบั สนนุ การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ (สสส.): แผน งานพัฒนานโยบายสาธารณะเพ่ือคณุ ภาพชวี ิตทดี่ ี. 3-22. Nonaka, Kujiro and Takeuchi, hirotaka (2000) Classic Work : Theory of Organizational Knowl- edge Creation in Morey, D., M.T. and Thuraisingham, B.M. Knowledge Management : Classic and Contemporary Work. Mass : The MIT Press. การจัดการความร้กู ารเพมิ่ ประสิทธภิ าพการจดั การน�ำ้ 38ในการผลติ ขา้ วเพ่ือรบั มอื กับภยั แล้ง

ผเู้ ขียน ชอื่ -สกุล : รศ.ดร.บญั จรัตน์ โจลานนั ท์ สังกัด/หน่วยงาน: สาขาวิชาวศิ วกรรมสง่ิ แวดล้อม คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา E-mail :[email protected] ช่ือ-สกุล ผศ.ดร.เกศสุดา สทิ ธิสันติกุล สังกัด/หนว่ ยงาน: คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั แมโ่ จ้ E-mail : [email protected] ชอ่ื -สกลุ ผศ.ดร.ปรารถนา ยศสขุ สังกัด/หน่วยงาน: วิทยาลยั บริหารศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ E-mail :[email protected] 39 การจัดการความรกู้ ารเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการจัดการนำ�้ ในการผลติ ขา้ วเพอ่ื รับมอื กับภัยแลง้

กองบรรณาธิการ การจดั การความรกู้ ารเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพการจดั การนำ้� ในการผลติ ขา้ วเพอื่ รบั มอื กบั ภยั แลง้ ISBN : 978-974-625-881-4 ISBN : 978-974-625-882-1 (E-Book) ทป่ี รกึ ษา รองศาสตราจารย์ศลี ศริ ิ สงา่ จิตร ผเู้ ขีย น ดร.สุรพล ใจวงศ์ษา รศ.ดร.บญั จรัตน์ โจลานันท์ ผศ.ดร.เกศสุดา สทิ ธิสันติกุล ผศ.ดร.ปรารถนา ยศสุข กองบรรณาธกิ าร ผชู้ ่วยศาสตราจารยเ์ กรียงไกร ธารพรศรี ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์นทีชัย ผัสดี นายวิสุทธ ิ์ บวั เจรญิ ดร.สรุ ีวรรณ ราชสม นายนรศิ กำ� แพงแก้ว นายพษิ ณ ุ พรมพราย วา่ ที่ ร.ต.รชั ตพ์ งษ ์ หอชัยรัตน์ นางสาวทิน ออ่ นนวล นายวษิ ณุลักษณ์ คำ� ยอง นางสาวสุธาสิน ี ผู้อย่สู ุข นายจักรรนิ ทร์ ช่นื สมบัติ นายเจษฎา สภุ าพรเหมนิ ทร ์ นางสาวรัตนาภรณ์ สารภี นางสาวหนึ่งฤทัย แสงใส วา่ ที่ ร.ต.เกรียงไกร ศรปี ระเสรฐิ นางสาวเสาวลกั ษณ์ จันทรพ์ รหม นางสาวอารีรตั น ์ พิมพ์นวน นางสาววราภรณ ์ ต้นใส นายวรี วิทย์ ณ วรรณมา จดั ท�ำโดย สถาบนั ถา่ ยทอดเทคโนโลยีสชู่ มุ ชน มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยรี าชมงคลล้านนา พิมพ ์ท่ี 98 หมู่ 8 ตำ� บลปา่ ปอ้ ง อำ� เภอดอยสะเกด็ จังหวดั เชียงใหม่ 50220 บรษิ ทั สยามพิมพ์นานา จำ� กัด 108 ซอยพงษส์ ุวรรณ ต�ำบลศรภี ูมิ อ�ำเภอเมือง จงั หวดั เชียงใหม่ 50200 โทร. 0-5321-6962 การจัดการความรกู้ ารเพมิ่ ประสิทธภิ าพการจดั การน�้ำ 40ในการผลิตขา้ วเพือ่ รบั มือกบั ภยั แล้ง