Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PocketBook-LPdileak#C_compressed (1)

Description: PocketBook-LPdileak#C_compressed (1)

Search

Read the Text Version

กระดูกไขสันหลงั ออก เจบ็ แสนเจ็บสุด ๆ พอดูดไขมนั เสร็จให้นอนคว่ำ รวมเวลาที่ รกั ษาราว 6 ช่ัวโมง อาการเจ็บหายปรกติแล้ว แต่ที่เลวร้ายมาคือ พ่อกลับเดินไม่ได้ ยกขาไม่ขึ้นไป ห้องน้ำก็ต้องหาม พยุงเข้าห้องน้ำ พออยูได้ 5 วันอาการดีขึ้นแต่เดินไม่ได้ โรงพยาบาลให้แพทย์ทำหน้าที่กายภาพบำบัด มาให้พาเดิน แพทย์คนน้ี แสดงออกกับพ่อด้วยท่าทหี งุดหงิด ฉุนเฉียว เวลาท่ีเขาจูงเดิน เขาบอกให้พ่อยก เข่า แตพ่ ่อยกไม่ได้ เขาก็ตะคอก บางคร้ังด่าคำหยาบคาย พ่อต้องอดทนทำตามท่ีเขาฝึกกายภาพบำบัดได้ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วออก จากโรงพยาบาลรวมเวลาอยูโ่ รงพยาบาลได้ 15 วัน กลับถึงบ้านได้ขอให้แม่และ ลูกหลานทำที่จับเป็นที่หัดเดินผูกเชือก จับเดินไปห้องน้ำ ตั้งใจจะหัดเดินเองใหไ้ ด้ ไม่ต้องพึ่งพาใคร ได้ประมาณ 15 วันก็เดิน ฝึกพยุงเชือกเดนิ โดยไมต่ ้องใช้ไม้เท้า และคอ่ ยเดินไปทุกเชา้ ทุก ๆ วันอย่างอดทน โดยความตงั้ ใจพ่อคอื จะตอ้ งเดินเอง ให้ได้ไม่วา่ จะนานแค่ไหนกต็ าม วันที่ 6 มิถุนายน 2537 พ่อได้ไปโรงเรียนครั้งแรกหลังจากเจ็บป่วยตั้งแต่เดือน มีนาคม 2537 โดยมีนักการภารโรงเอาจักรยานยนต์มาขี่รับไป ประคองตัวไป 1 เดือน ก็น่ังรถจักรยานยนต์ไปเองได้ โดยวิธีการรกั ษาตอ่ เนื่อง คอื ไปแพทย์เป็นประจำเดอื นละ 2 ครง้ั มียาสมุนไพรอบ เครื่องนวดอื่นมากมาย พร้อมทั้งแบบโบราณไสยศาสตร์อะไรมากมาย เครื่อง นวด “อนั คัน” แมก่ ็พยายามสืบหาหมอทางไสยศาสตร์และยาสมุนไพรหลายสิบ ชนิดมาต้มอบ ทั้งเช้าเย็นทุก ๆ วันรวม 3 – 4 เดือน และปฐมพยาบาลพ่อแต่ผู้ เดียว แม่ใช้ยาสมุนไพรต้มอบเช้าเย็นทุกวันรวมเวลาประมาณ 4 เดือน จึงเดินไป โรงเรยี นได้ จากทางโลกสูทางธรรม | 50

ในระหวา่ งนนั้ ลกู สาวคือ ประกายมาศ ได้เข้าเรียนทค่ี ณะวศิ วกรรมศาสตร์ จุฬา ฯ โดยได้รับทุนการศึกษาจากกรมที่ดิน ส่วนลูกชายคือ ดิลก ได้เข้าทำงานกับ บรษิ ัทเอกชนแหง่ หน่งึ แล้ว แลว้ วนั เกษยี ณอายกุ ม็ าถงึ การทำงานพ่อในฐานะข้าราชการครูก็เดินทางมาถึงสุดท้าย คือ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2537 เป็นครบเกษียณอายุราชการที่อายุตัว 60 ปี นับการ ทำงานของพ่อมาแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2502 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2537 รวม อายุราชการ 35 ปี ทพ่ี ่อไดเ้ ดินทางบนเสน้ ทางน้มี า และในที่สุด พ่อเป็นข้าราชการบำนาญ รับเงินบำนาญมาเป็นเวลา 23 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 2537 ถึง พ.ศ. 2560 ขณะเขียนประวัติ พ่ออายุ 84 ปีแล้ว บำนาญก็รับ ตอ่ ไปจนหมดลมหายใจครงั้ สดุ ท้ายแหง่ ชีวติ การสร้างโรงเรียนคือ “การสร้างบญุ ” พอ่ เช่อื วา่ สำหรับชีวติ พอ่ แล้ว การสร้างโรงเรียนสำหรบั พอ่ คือ “การสร้างบุญ” มองย้อนกลับไป พ่อได้สร้างโรงเรียนมาด้วยมือตนเอง 4 โรงเรียน และประกวด ชนะเลิศได้รบั รางวัล 1 โรงเรยี น คือ 1. พ.ศ. 2502 – 2507 ได้สร้างโรงเรียนบ้านเกาะแก้ว อำเภอสำโรงทาบ สร้างด้วยทุนสมทบโดยมีเสาเป็นของโรงเรียนศึกษาภาค ผู้อนุมัติเงิน งบประมาณสร้างเสรจ็ เรยี บรอ้ ยอาคารไม้ 3 หอ้ งเรยี น 2. พ.ศ. 2507 – 2513 ได้สร้างโรงเรียนบ้านตะมะ อำเภอสำโรงทาบ ด้วย ทุนสมทบมเี สาเป็นของโรงเรยี น เป็นอาคารไม้ 3 ห้องเรยี น ผู้วา่ ราชการ 51 | เร่�องเลาของพอ

จังหวัดสุรินทร์ นายวิเชียร ศรีมันตระ มาเปิดป้ายโรงเรียน หมายเหตุ : ย้ายโรงเรียนบ้านตะมะ มาอย่ใู นเขตนคิ ม 3. พ.ศ. 2516 – 2519 โรงเรียนบ้านจักจรกู สรา้ งดว้ ยไม้ ประชาสงเคราะห์ จังหวัดรื้อถอนทีพ่ ักช่ัวคราวของผู้ประสบอัคคีไฟ ที่ไฟไหม้ตลาดเมือง สุรินทร์ ห้องแถวเมื่อ พ.ศ. 2514 นายชัยยุทธ บุตรน้อย หัวหน้า ประชาสงเคราะห์ เสนอผูว้ า่ ราชการอนุมตั ทิ ้ังไม้และเงนิ 20,000 บาท มา สรา้ งได้ 3 หอ้ งเรยี นสำเรจ็ 4. พ.ศ. 2522 – 2530 โรงเรยี นบา้ นนาตงั ตระแบก - พ.ศ. 2525 สร้างอาคารเรียนเด็กเลก็ 3 หอ้ งเรียน - พ.ศ. 2526 สร้างอาคารคอนกรีตใต้ถุนสูง 3 ห้องเรียน เงิน งบประมาณ - พ.ศ. 2529 สร้างอาคารเรียน 3 ชั้น 9 ห้องเรียน เงิน งบประมาณ - พ.ศ. 2530 สรา้ งอาคารไม้เดก็ เลก็ 3 หอ้ งเรียน 5. พ.ศ. 2530 – 2537 ทำให้โรงเรียนบ้านสำโรงนาดี ชนะเลิศการประกวด โรงเรียนได้รบั รางวลั จาก สปช. อนุโมทนา สดุ ทา้ ย สดุ ท้าย ขออนภุ าพแห่งคุณพระพุทธ ขออนุภาพแห่งคุณพระ ธรรม ขออนุภาพแห่งคุณพระสงฆ์ จงช่วยคุ้มครอง ปกป้องภัยพิบัติ แด่ผู้ที่สละ ทรัพย์ และแรงงานชว่ ยกนั สร้างโรงเรยี นทั้ง 4 แหง่ จนสำเรจ็ และต่อทั้งศกึ ษาธิการ ภาค ศกึ ษาธิการจังหวัด ผ้วู า่ ราชการจงั หวดั และ ประชาสงเคราหจ์ ังหวัดสรุ นิ ทร์ ที่เคยช่วยจัดสรรงบประมาณมาสร้างโรงเรียนทั้ง 4 หลัง จนสำเร็จไปด้วยดี พร้อมทั้งครูอาจารย์ โรงเรียนบ้านสำโรงนาดีที่ร่วมมือ ส่งโรงเรียนเข้าประกวด จนชนะได้รับรางวัลจาก ส.ป.ช. สำนักงานการประถมศึกษาแห่งชาติ ด้วย อนภุ าพคณุ ความดี ที่ท่านทัง้ หลายได้สละกำลงั ทรพั ย์และอุทศิ เวลาช่วยราชการ ท่ีได้กลา่ วมาแต่ต้น ด้วยอนภุ าพแห่งบญุ กศุ ลที่ทกุ ทา่ นไดส้ ร้างไว้นี้ ขอให้ท่านได้มี จากทางโลกสูทางธรรม | 52

ความสขุ จงเจรญิ ด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สขุ สรรเสรญิ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ และ อุปสรรคใด ๆ โรคภัยใด ๆ จงมลายสิ้นไป และ หาก ทา่ นไดล้ ว่ งลับไปแล้ว จงรบั รู้ว่าข้าพเจ้าได้แผ่เมตตาส่งบญุ ถึงท่านแล้ว ถ้าท่านมี ทกุ ข์ ขอใหพ้ ้นทกุ ข์ ถ้าทา่ นมสี ุข ขอใหส้ ุขย่งิ ย่งิ ขึ้นไป จบสว่ นท่ี 1: ชวี ติ ทางโลก การศกึ ษาและการทำงาน 53 | เร�่องเลาของพอ

สว่ นท่ี 2 ชวี ติ ทางธรรมกบั การออกบวชเปน็ พระภษิ ุ พ่อได้ตัดสินใจอุปสมบทเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2551 ณ วัดบูรพาราม อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ เมื่ออายุได้ 75 ปี โดยเหตุจูงใจท่ีทำให้พ่อออกมา อุปสมบท คือ ประการแรก เมื่อคร้ังป่วย หนกั จนเป็นโรคอัมพฤกษ์ แ ล ะ ร ั ก ษ า อ ย ู ่ จ น ถึ ง ปัจจุบันอาการยังไม่หาย ปรกติ แมป่ ระนอมได้บนไว้ ถ้าหายเดินได้แล้วจะให้ บวชแก้บน แต่พ่อก็รอ เวลาอันสมควรนานจน เวลา 15 ปี ตง้ั แต่ พ.ศ. 2537 - พ.ศ. 2551 จึงไดต้ ดั ใจออกบวช แม้จะทิ้งช่วงนาน แล้ว ประการที่สอง ไฟไหม้วัดสุเขตตาราม วัดสุเขตตารามเป็นวัดทำบุญประจำ เจ้า อาวาส พระครูสุเขตวรธรรม ได้ดูแลท่านอย่างใกล้ชิดคราวท่ีทา่ นอาพาธ พ่อ - แม่ ได้ดูแลท่านเต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น พ่อ - แม่ และคุณพ่อแก้ว อุทธารัมย์ ได้ ทอดกฐินพร้อมกับบุตร - หลาน และพร้อมบริวาร องค์กฐินเป็นของใช้หลาย ประเภท พรอ้ มท้งั ตู้ใส่ของอ่ืน ๆ เปน็ จำนวนมาก พรอ้ มทงั้ เงินสดอีกจำนวนหน่ึง ดว้ ย ไฟไหมห้ มด พอ่ - แม่ กบั คณุ พ่อแก้ว อุทธารัมย์ ทอดกฐินไดเ้ พยี ง 3 เดือน เท่านั้น ถูกไฟไหม้หมด เกิดความเสียใจ จึงอยากอุปสมบทเพื่อจะอุทิศให้กับเหตุ ครง้ั นี้ จากทางโลกสทู างธรรม | 54

ประการที่สาม คุณพ่อแก้ว อุทธารัมย์ ถึงแก่กรรมหลังจากทอดกฐินได้ 2 เดือน เทา่ นั้น พอ่ แก้ว อทุ ธารมั ย์ อายุ 96 ปี พอ่ - แม่ ได้ดูแลทา่ นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2529 คอื ต้ังแต่แม่ทองสุขไดถ้ งึ แก่กรรมไดด้ ูแลทา่ นเป็นเวลา 20 ปี ท่านถงึ แกก่ รรม พ.ศ. 2551 ด้วยความผูกพันธ์กับท่านเป็นเวลานาน จึงอยากบวชเพื่อแทนคุณและ ระลกึ ถงึ คุณของทา่ น มวี นั หน่งึ อาจารยว์ ิไล ถนอมดี ไดพ้ าพ่อไปวดั ประชาสามคั คี อำเภอศรีขรภมู ิ เอา ข้าวสารไปถวาย อาจารย์สมัย พระเจา้ อาวาส พ่อได้เรยี นกับว่า ท่านว่ามีความประสงค์จะบวช ท่านได้พูดว่าขออนุโมทนาด้วย แล้วท่านได้มอบบาตร ผ้าไตร ครบชุด และปัจจัยให้มาด้วย 1,300 บาท ก่อนจากกัน ท่าน กล่าวว่า “บวชแล้ว ไม่ต้องสึก” ใครบงั คบั เราไม่ได้ พ่อจัดการเรื่องการบวชแบบ เรียบง่ายที่สุด กำหนดวัน เวลา อุปสมบท ที่วัดบูรพาราม วันท่ี 22 มิถุนายน พ.ศ. 2551 เวลา 10.00 นาฬิกา โดยท่านพระครูสุ เขตวรธรรม โดยความตั้งใจเดิม คือกำหนดวันบวชและวันสึก รวม แลว้ 12 วนั ซึ่งเป็นที่บวชอยใู่ นวัด ไม่ได้บอกแขกหรือใคร เพราะบวช 12 วัน แต่ยังมีญาติ บ้านเขวาสินทร์ มา 6 คน 55 | เร�่องเลาของพอ

นำปจั จัยอาหารเพล มอบให้ครวู ิไล ถนอมดี ดำเนนิ การให้ มเี พ่ือนในเมอื งบริการ จดั อาหารเพล และอาหารสำหรับญาติ ก่อนอุปสมบทไดเ้ ตรียมความพร้อมท่ีวัด ปา่ สมใจธรรมาราม 5 วัน เพ่ือได้ซ้อมสวดขานนาค วนั ที่ 22 มถิ ุนายน พ.ศ. 2551 เวลา 06.00 น. แม่เตย ถนอมดี ได้ตดั ผมเอาฤกษ์ ก่อนโกนจริง ครูวิไล พานั่งรถส่วนตัวพร้อมอุปกรณ์การบวชครบทุกอย่าง ปัจจัย พ่อได้เตรยี มไว้แล้ว เวลา 07.00 นาฬิกา ได้เวลาปลงผม แม่ประนอม และ ล ู ก ช า ย ไ ด ้ ม า พ ร ้ อ ม กั น แล้วได้ทำพิธีตัดผมก่อน โกนเอาใบบัวรอง หลังจาก นั้นได้ปลงผมจริง ด้วย หลวงพ่อบุญมี โกนให้ แห่ รอบโบสถ์เวลา 09.49 นาฬิกา ได้เวลาอุปสมบท อาจารย์พิรุณ ทำหน้าท่ี เป็นอุปัชฌาย์ พร้อมกับคณะสงฆ์และพระนั่งรว่ มพิธี 13 รูป เข้าพิธีอุปสมบทใน วัดบูรพาราม และอาจารย์ธวัช เจ้าอาวาสวัดป่าสมใจ มาร่วมพิธีด้วย พิธี อุปสมบทเสร็จเรียบร้อยแล้ว เวลา 11.10 นาฬิกา เลี้ยงเพล ถวายอาหารเพล เลีย้ งแขก ญาติ มาร่วมพธิ ี รวม 15 คน เสร็จพิธี พักอยู่ที่วัดป่าสมใจเกิน 12 วันแล้วไม่ได้สึกตามสัญญา พระครูสุเขตตารามได้ กำหนดให้ เมอื่ บวชพกั อยทู่ ี่วดั ปา่ สมใจ พักอยูไ่ ด้ 5 วัน หลวงพ่อธวัช เจ้าอาวาส ไดถ้ ามว่า หลวงตาดิเรก จะบวชก่ีวันกันแน่ พอ่ ยงั ไม่ไดใ้ ห้คำตอบ บอกท่านว่าให้ ผมไดพ้ ิจารณาดกู ่อนอกี 5 วนั ผมจะให้คำตอบท่แี น่นอน มาถงึ 10 วนั บวชมาได้ 10 วนั แลว้ จึงได้ให้คำตอบท่านเจ้าอาวาสวา่ ผมจะขออยู่ 3 เดือน 1 พรรษา ก่อน ครับ และเมื่อมาพักที่วัดครั้งแรกแล้วว่าจะบวช 12 วัน ท่านบอกว่าบวช 12 วัน จากทางโลกสทู างธรรม | 56

ไม่ได้ประโยชน์ และพ่อก็ตอบท่านว่าผมจะพยายามอยู่ 3 เดือน 1 พรรษาก่อน เมื่อบวชท่านถามเพื่อความแน่นอน ว่าจะทำได้จริงไหม ดังคำพูดที่ให้ครั้งแรก หรือไม่ และพอ่ ได้แจ้งข่าวไปวัดสเุ ขตตาราม บอกขา่ วการไมส่ ึก 12 วัน ให้พระครู สุเขตวรธรรมทราบ ท่านแสดงความดใี จแสดงความยินดี ใหอ้ ยนู่ านนาน สุขภาพ จะไดด้ ี อายจุ ะไดย้ นื นานดว้ ยการปฏิบตั ธิ รรม ขณะนั้นทางวัดสุเขตตารามโชคดี โชคดี โชคดี ทางหลวงพ่อสมมุติและอาจารย์ พนม พร้อมกับชาวบางพระชลบุรี ได้ร่วมกันเสียสละปัจจัยถึง 11 ล้านบาท มา สร้างกุฎีแทนกุฎีที่ถูกไฟไหม้ รวมกับเงินที่ชาวบ้านแสดงความจำนงค์ที่พ่อไป ประสานงานเอาไว้ 2 ล้าน รวมทั้งสิ้น 13 ล้าน สร้างสำเร็จภายใน 1 ปี 6 เดือน เท่านัน้ กไ็ ดก้ ุฎีคอนกรตี ตามแบบกุฎเี ดิม พ่อเชอ่ื วา่ ทท่ี ำได้อยา่ งรวดเร็วคงเป็นเพราะบุญ บารมีของพระครูสุเขตวรธรรม นั้นมีจริง ถ้าไม่มีบุญ บารมี ก็คงทำอะไรไม่ได้ แต่ก็ผู้ที่นำพาชาวบ้านเสียสละ ช่วยกันจนประสบผลสำเร็จจากชาวบางพระชลบุรี ได้สร้างวัตถถุ าวรใหแ้ ก่วดั สุ เขตตาราม เชน่ เมรุ, ศาลาพกั ศพ, ศาลาใหญ,่ และกุฎีหลงั ใหญ่ สดุ ท้าย 11 ล้าน ถา้ ประเมินรวมราคาแลว้ โดยประมาณไมน่ อ้ ย 20 ลา้ นบาท อันคุณงามความดี หลวงพ่อสมมุติและท่านอาจารย์พนม ที่นำชาวบางพระมา สรา้ งวัดสเุ ขตตาราม ยอ่ มเปน็ ทป่ี ระจักษ์แก่ผคู้ นทั่วไปทไี่ ด้มาพบเห็น ในนามของ ผูเ้ คยประสานงานในวดั สเุ ขตตารามเมอื่ ก่อนหลายปีทผี่ ่านมา ทย่ี งั ไมไ่ ด้อปุ สมบท ขออนภุ าพแหง่ คณุ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงคุม้ ครองทา่ นทั้ง 2 รูป พรอ้ ม กับชาวบางพระ ชลบุรี ที่ได้เสียสละปัจจัยมาร่วมกันสร้างวัดสุเขตตาราม จง ได้รับพรอันประเสริฐสี่ประการ คือ อายุ วรรณะ สุขะ พละ และ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสาร สมบัติ ทั้งอุปสรรคใด ๆ โรคภัยใด ๆ จง มลายสิ้นไปเทอญ 57 | เรอ่� งเลา ของพอ

แนวทางในการปฏิบัติธรรม จำพรรษาที่วัดป่าสมใจ พ.ศ. 2551 - พ.ศ. 2555 เป็นเวลา 4 ปี แนวทางปฏิบัติ ธรรม และกิจวัตรประจำของพระ ก่อนอื่นพระทุกรูปที่บวชมาแล้ว เจ้าอาวาสจะ สอน บอกวินัยพระครั้งแรก การใช้เครือ่ งนุง่ หม่ การพินทุ อธิษฐาน ของใช้อื่น ๆ การนุ่งหม่ พร้อมจริยวัตรของพระบวชใหม่ เรื่องการฉัน การออกนอกวัด พรอ้ ม แนะนำวนิ ัยของพระ ศีล 227 ขอ้ เป็นต้น พรอ้ มบอกอศุ าสตร 8 อย่าง ให้พระบวช ใหญร่ ้จู ะไดพ้ ระพฤตปิ ฏิบัติให้ถูก สุดท้ายเรื่องสำคัญ พ่อได้เรียนรู้ว่า สำหรับผู้ออกบวช อยู่ได้นานหรืออยู่ไม่ได้ นาน พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า แท้จริงการประพฤติพรหมจรรย์ของนักบวช ทง้ั หลาย 4 ประการต้องปฏิบัตใิ หไ้ ด้ คอื 1. สำรวม 3. ไม่เก่ยี วขอ้ งกับเรอื น 2. ละ 4. การปฏบิ ัตเิ พอื่ ใหเ้ กดิ การดับทุกข์ ทั้ง 4 ประการนี้พระทุกรูปที่บวชมาต้องปฏิบัติให้ได้ตามคำดำรัสของพระพุทธ องค์ เมื่อปฏิบัติได้ก็อยู่ได้ ถ้าปฏิบัติไม่ได้ก็ต้องสึกออกไป และพระที่มาบวชแลว้ ต้อง ทำบุญ สละ ละ ท่านเจ้าอาวาสกล่าวสอนเสมอว่า บวชมาแล้วต้อง ทำบุญ เพื่อเสริมบารมีด้วย มิฉะนั้นจะกลายเป็นผู้ที่เห็นแก่ตัว ดังนั้นพระทุกรูปก็ พยายามละ สละ เพ่อื ตัดกิเลส ดังท่พี ระพุทธองค์ได้ตรัสสอนไว้ เจ้าอาวาส พาทำบุญ เสียสละ ชว่ ยเหลือสงั คมตลอดเวลา เม่ือครง้ั เกิดนำ้ ท่วม ก็ พาชาวบ้านโยมไดไ้ ปช่วยเหลือผู้ประสบภยั น้ำทว่ มหลายครง้ั มีการทอดกฐินแถว จังหวัดสกลนคร ท่านก็จะนำพระและชาวบ้านไปทอด พระจะเป็นผู้นำการ ทอดกฐนิ ดว้ ย เพ่ือเปน็ แบบอยา่ ง พระนน้ั ไดล้ ะ สละแล้ว ไม่ยึดติดในสมบตั แิ ล้ว ซ่ึง เป็นท่ศี รัทธาของชาวบ้าน พระไดบ้ ุญดว้ ย การสรา้ งวตั ถถุ าวรในวดั ท่านกจ็ ะเน้น จากทางโลกสูทางธรรม | 58

มาทีพ่ ระก่อน มมี ากมีน้อยทา่ นฝกึ ให้ละตามแนวทาง 4 ประการที่พระพุทธองค์ได้ ทรงตรสั ไว้ พอ่ ได้ช่วย สละ และ ละ ปจั จยั ชว่ ยสรา้ งวัดตลอดเวลา 4 ปี เชน่ ร้ัว - คอนกรีต และท่พี กั สำหรบั ผู้ภาวนา และอ่นื ตลอดเวลา 4 ปี ทจี่ ำพรรษาอยู่วัดป่า สมใจ การภาวนาส่ ง บ ุ ญ ใ ห ้ ญ า ติ เพราะเป็นหน้าท่ี ของพระต้องทำ กับญาติโยมที่มา ทำบุญ มิฉะนั้น จะต้องเปน็ หน้เี ขา ถ้าเกิดชาติหน้า อาจต้องมารับใช้ หนเ้ี ขาคืน เช่น เกดิ มาเปน็ ววั ควาย มารับใชห้ น้คี นื เป็นต้น วธิ ีการภาวนา เมือ่ จิต สงบเข้าถึงสมาธิแล้ว ก็ให้รีบแผ่เมตตาให้เขาทันที อย่างน้อย 3 ครั้ง จึงจะหมด ทา่ นกลา่ ว จากนั้น พ่อได้ย้ายจำพรรษาที่วัดเขาไม้หน้าวนาราม ตำบลบางพระ อำเภอ บางพระ จังหวัดชลบุรี ช่วง พ.ศ. 2555 - พ.ศ. 2559 วัดเขาไม้หน้าวนาราม ตั้งอยู่ในเขตตำบลบางพระ ตั้งอยู่ในบรเิ วณเชิงเขา ที่ดินติดกับที่ของชลประทาน วัดตั้งอยู่ห่างจากชลประทาน 400 เมตร อาจารย์สมมุติ เป็นผู้สร้าง โดยญาติ ของทา่ นไดม้ อบท่ดี ินใหจ้ ำนวน 6 ไร่ โดยวดั แห่งน้เี ริม่ สรา้ งในปี พ.ศ. 2554 ได้เร่ิม สร้างวัดโดยมีผู้บริจาคสร้างทุกอย่างจนสำเร็จภายใน 4 ปี คือ สร้างทุกอย่าง ครบสมบูรณเ์ ริ่มตั้งแต่ กุฎี 10 หลงั ศาลาใหญส่ ำหรบั ทำบุญ หอ้ งนำ้ 10 หอ้ ง โรง อาหารและตลอดทง้ั เมรุ - โบสก์ - อโุ บสถ เป็นต้น 59 | เร่อ� งเลาของพอ

แนวทางการปฏิบัติธรรมของที่นี่คือ สวดมนต์ - ภาวนา เย็น เวลา 18.00 น. - 21.00 น. ทั้งสวดมนต์และภาวนา เช้า เวลา 03.00 น. - 04.00 น. กลางวัน พัฒนาวดั ปรกติมพี ระอยู่ประจำ 3 รูปเท่านั้น เวลาเข้าพรรษากจ็ ะมีพระมาร่วม จำพรรษาได้ครบ 5 รูป เพื่อจะได้รับกฐินได้ โดยแนวทางเสริมของพ่อในการ ปฏิบัติธรรมที่ฝึกมาตลอดเวลา 4 ปี คือ การฝึก “สติ” โดยแนวทางการฝึกสติ และวิธีการเจริญ “สติ” และวิธีละความโกรธ ทั้ง 2 ประการนี้เป็นแนวทางเอกที่ พระทกุ รูปพงึ ปฏบิ ัติ เพอ่ื เกดิ ความเจริญแกต่ นเอง เจา้ อาวาสสอนให้ละ สรา้ งใหม่ สิ่งใดทำผิดพลาด พูดผิดพลาด ท่านให้ละทั้งหมด ปิดไว้ และให้คิดใหม่ ทำใหม่ เรื่องท่ีผา่ นมาใหท้ ง้ิ ไป คอื ละแลว้ สร้างใหม่ หลังจากนั้น พ่อได้มาจำพรรษาที่วัดตำปูง ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัด สุรินทร์ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2559 เพื่อจะได้มาจำวัดใกล้บ้าน โดย แนวทางการปฏิบตั ธิ รรม การละ การเสยี สละ ทรัพย์ ในการทำบญุ เป็นสิ่งสำคัญ มาก แมจ้ ะบวชเปน็ พระแล้วก็ยง่ิ ต้องทำ เพือ่ ตัดกเิ ลส ความโลภ ละ สละใหไ้ ด้ตาม แนวทาง 4 ประการ ท่ีพระพทุ ธองค์ได้ทรงตรัสไว้ โดยเจ้าอาวาสท่านได้ปฏิบัตินำ เปน็ แบบอย่างใหพ้ ระในวดั ไดเ้ ห็น ด้วยการสละปจั จัย ทไ่ี ดจ้ ากผมู้ าทำบญุ หรือไป เทศนไ์ ดม้ ามากเทา่ ไร ท่านกจ็ ะนำปจั จยั มาสร้างวัดทั้งหมด สว่ นโยมชาวบา้ นท่าน ก็พาทำบุญตลอดเวลา เพราะบุญคือสิ่งที่ทำให้มีความสุข เจริญก้าวหน้าใน หน้าทกี่ ารงาน ทัง้ ชาตนิ ี้และชาตหิ นา้ มาจนถีงเวลานี้ พ่อได้อุปสมบทมาแล้ว 10 พรรษา จำพรรษามา 3 วัด ได้ ประสบการณ์ ไดพ้ บเหน็ ได้ยิน ไดฟ้ ัง ประสบการณต์ รง ได้ปฏบิ ัตจิ ริงดว้ ยตนเอง ก็พอสรปุ สงิ่ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ไดว้ ่า 1. ศาสนาพทุ ธ เปน็ ศาสนาท่ีมงุ่ เพอ่ื การละ สละ และตดั กิเลส - ความโกรธ , ความโลภ ความหลง, ตลอดทง้ั ไมย่ ึดตดิ ในทรัพยส์ มบตั ทิ ั้งปวง จากทางโลกสูทางธรรม | 60

2. พระพุทธองค์ ทรงรู้แจ้งเหน็ จรงิ ในสจั ธรรมการเกิดดับของสัตวโ์ ลก 3. สจั ธรรมที่พระพุทธองค์ทรงสอนให้ชาวโลกรู้ เพอ่ื ตระหนักในชีวิตก็คือ ชีวิตทุกชีวิตเกิดมา, ตง้ั อย่,ู ดบั ไป ในทีส่ ดุ 4. พระพุทธองค์ทรงตรัสว่า ชีวิตเกิดมีแต่ทุกข์ ถูกทุกข์ครอบงำเอา คือ ทุกข์เพราะเกิด ทกุ ข์เพราะแก่ ทุกข์เพราะเจบ็ ทุกขเ์ พราะตาย ทกุ ขเ์ พราะ ความทะยานอยาก ทุกข์เพราะไมไ่ ด้สิ่งที่คาดหวังไว้ ไมไ่ ด้ด่ังใจหมาย สิ่ง ท้งั หลายท่กี ลา่ วมาลว้ นทำให้เกิดทกุ ข์ 5. พระพุทธองค์ทรงตรัสสอนการดำเนินชีวิตทางสายกลางคือมรรคมี องค์ 8 ประการ เพ่อื ให้ชีวติ ดำเนินไปอย่างมีความสขุ 6. ศีล 5 ข้อ มีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ ปฏิบัติได้ การดำเนินชีวิตมีแต่ ความสขุ 7. การดำเนินชีวิตทำดี – ย่อมได้ดี, ทำชั่ว - ย่อมได้รับผลชั่ว เป็นความ จรงิ ตลอดกาล 8. การทำบุญเปน็ ส่ิงทีช่ าวพุทธท้งั หลายควรทำ เพราะ “บญุ ” ทำให้ชีวิตมี ความสุข มีความเจริญในอาชีพการงาน ตลอดชีวิตทั้งชาตินี้และชาติ หน้า 9. สติ มีความจำเป็นที่สุดในชีวิต สติ เป็นตัวคุมให้ดำเนินชีวิตไปได้ด้วย ปรกติสขุ ถา้ ขาด “สติ” การดำเนนิ ชวี ติ จะลำบาก สรุปทั้ง 9 ประการที่กล่าวมานี้เป็นสิ่งที่เห็นจรงิ มาด้วยตนเองตลอดเวลาปฏบิ ัติ ธรรมมาเป็นเวลา 10 ปี และได้ปฏิบัติตามแนวทางดงั กล่าวแล้ว จึงอยากขอฝาก ให้ผ้อู ่านได้นำไปปฏบิ ัติเพือ่ ให้เกดิ ความสขุ ความเจรญิ แกต่ นเองตอ่ ไป 61 | เร�่องเลา ของพอ

สว่ นท่ี 3 คตธิ รรม คำสอน ประจำวนั 1. อัฑฒา เจวะ ทะพิททา จะ สัพเพ, มจั จุ ปรายนา ท้งั คนมีคนจน ลว้ นมีความตายเปน็ เบือ้ งหนา้ 2. สพั พงั เภทะ ปะรยิ ันตงั เอวัง มจั จานะ ชีวติ ัง ชวี ิตของสตั ว์ เหมือนภาชนะดิน ซง่ึ ล้วนมีความแตกสลายเป็นที่สุด 3. นะ ทีฆะมายุง ละภะเต ธะเนนะ คนไมไ่ ด้อายุยืนเพราะทรพั ย์ 4. นะ มยิ ยะมานงั ธะนะ มัน เวติ กิญจิ ทรัพย์สักนิด กต็ ดิ ตามคนตายไปไมไ่ ด้ 5. ชรู ปนิตสสั นะ สันติ ตาณา เมอื่ สัตว์ถูกชรานำเข้าไปแล้ว ไม่มีผปู้ ้องกัน 6. นะ จาปิ วิตเตนะ ชะรัง วิหนั ติ กำจดั ความแกด่ ว้ ยทรัพยไ์ ม่ได้ 7. อปั ปะกัญจิทัง ชีวิต มาหุ ธีรา ปราชญ์ กลา่ วว่า ชวี ิตนี้น้อยนัก 8. ปุญญานิ กยิราถะ สุขาวหานิ ควรทำบญุ อนั นำสุขมาให้ 9. ปญุ ญัง สขุ งั ชิวติ สัง ขะยัมหิ บญุ นำสขุ มาใหใ้ นเวลาสิน้ ชวี ิต 10. ปุญญัง โจเรหิ ทหู ะรัง บญุ อันโจรนำไปไมไ่ ด้ 11. พุทธโอวาทกอ่ นปรินิพพาน อานนท์! เราเคยบอกเธอแล้วมิใช่หรือว่า บุคคลย่อมต้องพลัด พรากจากสิ่งที่รกั ท่พี ึงใจเป็นธรรมดา หลีกเล่ียงไม่ได้ จากทางโลกสูทางธรรม | 62

อานนทเ์ อย! ชีวิตนีม้ คี วามพลดั พรากเป็นท่สี ุด สิ่งท้ังหลายมีความแตก ไป ดับไป สลายไปเป็นธรรมดา จะปรารถนามิให้เป็นอย่างที่มันควรจะ เป็นนน้ั เป็นฐานะทไี่ มพ่ งึ หวังได้ ทุกสงิ่ ทกุ อยา่ งดำเนินไป เคลอ่ื นไปสุดจดุ สลายตัวอยูท่ ุกขณะ ดูกร ภิกษุทง้ั หลาย ความเกดิ เปน็ ความทุกข์ ความแก่ ความเจบ็ ความตายก็เป็นความทุกข์ ความแห้งใจ หรือ ความโศก ความพิไรรำพันจนน้ำตานองหน้า ความ ทุกข์กาย ความทุกข์ใจ ความคับแค้นใจ ความพลัดพรากจากบุคคล หรือสิ่งของอนั เปน็ ที่รัก ความตอ้ งประสบกบั บุคคลหรือสิ่งของอันไม่เป็น ที่พอใจ ปรารถนาอะไรมิได้ดังใจหมาย ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นความทุกข์ ที่ บุคคลต้องประสบทั้งสิ้น เมื่อกล่าวโดยสรุป การยึดมั่นในขันธ์ “ห้า” ด้วย ตัณหา, อุปทานนัน้ เอง เปน็ ความทุกข์อนั ยิง่ ใหญ่ ดกู รภิกษุทั้งหลาย อย่างหวังอะไรให้มากนัก จงมองดูชีวิตอย่างผู้ช่ำชอง อย่าวิตกกังวล อะไรล่วงหน้า ชีวิตนี้เหมือนเกลียวคล่ืน ซึ่งก่อตัวขึ้นแล้ว ม้วนเข้าหาฝั่ง และแตกกระจายเป็นฝอยฟอง จงยืนมองดชู ีวติ เหมือนคนผู้ยืนอยู่บนฝ่ัง มองดเู กลียวคลนื่ ในมหาสมุทรฉะนั้น ดกู รภิกษทุ ั้งหลาย อัญญสัมปทาน หรือทานจะมผี ลมาก อานิสงส์ไพศาล ถ้าประกอบด้วย องคห์ ก กลา่ วคือ 1. กอ่ นให้ ผูใ้ หก้ ็มีใจผ่องใส ชื่นบาน 63 | เร่อ� งเลาของพอ

2. เมื่อกำลังให้ จิตใจก็ผอ่ งใส 3. เมือ่ ให้แลว้ กม็ คี วามยนิ ดี ไมเ่ สยี ดาย 4. ผู้รับเป็นผู้ปราศจาก ราคะ หรือปฏิบัติ เพื่อปราศจาก “ราคะ” 5. ผู้รับเป็นผู้ปราศจาก โทสะ หรือการปฏิบัติ เพื่อปราศจาก “โทสะ” 6. ผู้รับเป็นผู้ปราศจาก โมหะ หรือการปฏิบัติ เพื่อปราศจาก “โมหะ” 12. สุดท้ายเรื่องทั้งหลายที่พระพุทธองค์ทรงพร่ำสอนสัจธรรม ทรง สอนอยู่เสมอว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มีความเกิดขึ้น สิ่งนั้นย่อมมีการดับไปเป็น ธรรมดา สิ่งทัง้ หลายทัง้ ปวงเกดิ ขึน้ เพราะมเี หตุ สิง่ นนั้ ย่อมดบั ไป สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นในเบื้องต้น ตั้งอยู่ในท่ามกลาง และดับไปใน ทส่ี ุด 13. คติธรรม, คำสอน ของพุทธศาสนา การเป็นหน้ี มีทกุ ขท์ ่สี ดุ ในโลก โจรปลน้ ไฟไหม้ ไมร่ ้ายเทา่ การพนนั ความเกยี จครา้ น คอื มารทำลายชวี ิต ตนเปน็ ท่ีพ่ึงของตน ความเพยี ร เป็นหนทางแห่งความสำเรจ็ จากทางโลกสูทางธรรม | 64

จงชนะความโกรธ ดว้ ยความไมโ่ กรธ ความช่ัว อยา่ ทำเลยดีกว่า ผูส้ งบใจได้ ยอ่ มอยูเ่ ป็นสขุ จงชนะตน คอื ชัยชนะอันสงู สดุ ความเมตตา ปราณี เปน็ เครอ่ื งคำ้ จนุ โลก จนเตอื นตนดว้ ยตนเอง คำพดู ที่ไพเราะอ่อนหวา่ น ทำให้สำเรจ็ ประโยชน์ “สต”ิ คอื หางเสือท่ีควบคมุ การดำเนินชีวติ 14. คตธิ รรม ของผูต้ ่อสูช้ ีวิต ภายใต้ท้องฟ้านี้ไม่มีอะไรที่มนุษยท์ ำไม่ได้ นอกจากไมท่ ำเทา่ นน้ั ฉันสรา้ งอนาคตของฉันเอง ผู้อืน่ สร้างใหฉ้ ันไมไ่ ด้ ฉันยืนบนขาของฉันเอง ฉันไม่อาศัยผู้อื่น ทุกอย่างฉันทำด้วย มือของฉันเอง อันสมบัติ – ทรัพย์ พ่อ – แม่ มีไว้ให้ แต่ฉันตั้งใจสร้างสมบัติ ของฉันเอง บุหรี่ – สุรา ไม่ได้วิ่งมาใส่ปาก ฉันต่างหากที่หยิบใส่ปากเอง “จงจำไว้” การพนันขันตอ่ คือส่งิ ล่อใจ ถา้ ต้งั “สติ” ไว้ ตอ้ งปลอดภยั เอง งานหนักงานเบา ฉันเอา ฉันสู้ ฉนั ทำได้ดู คือประตสู ร้างชวี ิต 65 | เร่อ� งเลาของพอ

ฉันเอาชีวิตแลก แบกงานทุกอย่าง แม้ชีวิตจะวายวาง ฉันสู้ ทำงานนน้ั จนสำเร็จ 15. ปราชญ์สอนว่า  ในโลกน้ีเร่ืองยากไหม ผทู้ ลี่ งมือทำ เรอ่ื งยากกจ็ ะกลายเปน็ เรอื่ ง ง่าย ผู้ไม่ลงมือทำ เรื่องง่ายก็จะเป็นเรื่องยากอยู่วันยังค่ำ “เผิงตวนส”ู้  ผู้ใฝ่ศึกษา จะศกึ ษาข้อดขี องคนอื่น มาเสริมขอ้ ด้อยของตนเอง “หล่ีปุ๊เหวย”  ความรคู้ ือ ผลพวงแห่งการส่งั สมประสบการณ์ ความสามารถ คือผลลพั ธ์จากการพากเพยี รพยายาม “เหมาตุน่ ”  สูงส่งแต่ไม่เย่อหยิ่ง ชนะแต่ไม่ลำพอง ปราดเปรื่องแต่รู้จักลง เวที เข้มแขง็ แตม่ ีความอดกล้นั “ขงเบง้ ”  กอ่ นทเ่ี อาชนะคนอนื่ จักตอ้ งเอาชนะตัวเองให้ได้เสยี กอ่ น “หลี่ปุ๊ เหว่ย”  ขี้เกยี จแลว้ ยงั ฟมุ่ เฟอื ย ย่อมยากจน ขยันประหยัด ย่อมร่ำรวย “ก่วนจ้ง”  ชมคนด้วยวาจา มคี า่ ยง่ิ กว่ามอบไขม่ ุกให้เปน็ ของขวญั ทำร้าย คนดว้ ยวาจา สาหัสยง่ิ กวา่ ท่ิมแทงด้วยหอกดาบ “ซนุ วู”  ยามมี ควรคิดถึงความจน ยามจนไม่ควรคิดถึง ยามมี “เจิง ก่วงเสยี นเหวนิ ”  ร้จู ักเหตผุ ลไม่อบั จน รูจ้ กั กาละไมถ่ ูกดา่ รจู้ ักประหยัดไม่ขัดสน “ซูลิน” จากทางโลกสทู างธรรม | 66

16. คำกลอนสอนใจ การพนันส่งิ ร้ายทำลายทรัพย์ ยาเสพตดิ พิษร้ายทำลายฉัน บหุ รี่ สรุ า พาโรคทำลายพลนั ท้งั สามอนั คอื สิ่งรา้ ยทำลายตนฯ อันเงินตราหายากลำบากยิ่ง ทกุ สงิ่ ทำเพอื่ เงินมาใช้สอย ใช้เงนิ ตอ้ งแบง่ ปนั มรี อ่ งรอย ก่อนใช้สอยดูตามความจำเปน็ ฯ ทำส่งิ ใดอยา่ ทำใหเ้ กนิ ตวั อย่ามัวสร้างทางสรรเสริญ จงทำแตพ่ อตวั ใหจ้ ำเริญ สง่ิ นน้ั คอื ทางเดนิ ก้าวหน้าไปฯ การคบมิตรเพ่อื นเยือนตา่ งชาติ อย่าประมาทการตอ้ นรับคับขนั ให้เขากินอยูม่ สี ขุ ทุกชีวัน บุญนั้นมาถึงเราเขาสุขใจฯ การอยู่ร่วมสุข-ทุกข์กับชาวบ้าน จงประสานสามัคคมี ีผล จงเมตตาทงั้ คนมคี นจน จงชว่ ยเหลือทุกคนมาพ่งึ เราฯ อย่าเหน็ แก่ตัวอยา่ มัวเหนยี ว อยา่ เบีย้ วคดโกงกินเขา อย่าอยากได้ของเขามาเปน็ ของเรา อยา่ เอาเปรียบสังคมจะจมจนฯ จงทำบญุ อุทศิ ส่วนกศุ ล ชีวติ ตนได้ดีมสี ุขศรี ได้มีทรพั ยเ์ พิม่ พนู ทวี ชีวหี มดทกุ ข์มสี ขุ ทกุ วันคืนฯ มรดกทด่ี ินทำกนิ ถิ่นท่ี จงรกั ษาใหด้ ขี มีขมัน อยา่ ขายทงิ้ ไปเสยี ดายมัน ถ้าขาดดินนั้นฉันอดตายฯ อยา่ หลงใหลในลาภยศ อย่าปรากฏยินดีในสรรเสรญิ อย่าคิดวา่ ตนมั่งมีเกิน อย่าเพลิดเพลินในคำยอพอกนั ทฯี 67 | เร่อ� งเลาของพอ

17. มงคลชวี ติ อยา่ นอนต่ืนสาย อยา่ อายทำกนิ อย่าหมิน่ เงนิ นอ้ ย อย่าคอยวาสนา อย่าเสวนาคนชัว่ อย่ามว่ั อบายมุข อย่าสุกกอ่ นหา่ ม อย่าพลา่ มกอ่ นทำ อยา่ รำก่อนเพลง อย่าข่มเหงผู้นอ้ ย อยา่ คอยแตป่ ระจบ อย่าคบแต่เศรษฐี อยา่ ดแี ต่ตวั อย่าชว่ั แตค่ นอ่ืน อยา่ ฝนื กฎระเบียบ อยา่ เอาเปรียบสังคม อยา่ ชมคนผดิ อย่าคิดเอาแต่ดี อย่าใสร่ ้ายคนดี อย่ากล่าววจมี สุ า อย่านินทาพระเจ้า อย่าขลาดเขลา เมอ่ื มีทกุ ข์ อยา่ สุขจนลืมตัว อย่าเกรงกลวั งานหนัก อยา่ พทิ ักษ์พาลชน อยา่ ลมื ตนเมื่อม่งั มี จากทางโลกสทู างธรรม | 68

สว่ นที่ 4 บนั ทกึ การสรา้ งทานบารมี 1. สรา้ งทานบารมี พระพุทธองคท์ รงตรสั วา่ ทานทม่ี ผี ลมาก อานิสงส์ไพศาล  กอ่ นให้ ผใู้ ห้ก็มใี จผอ่ งใส เบกิ บาน  เม่ือกำลังให้ จิตใจกผ็ ่องใส  เมือ่ ให้แล้ว ก็มคี วามยินดี ไม่เสียดาย 2. ทอดกฐินคร้งั ท่ี 1 วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2549 เวลา 11.00 น. วัดโพ รินทร์วิเวก บ้านเขวาสินริ นทร์ พ่อกับแม่ มีจิตศรัทธา ที่จะทอดกฐินที่บ้านเกิดเป็น ถิ่นกำเนินของพ่อเองตนเอง เมื่อได้สะสมเงินมาหลายปีกว่าจะได้ครบตามความต้องการ มีโอกาสได้บอกพี่ น้องใกล้ ไกล มาร่วมทำบุญ สิ่งของในการถวายนอกจากปัจจัยแล้วยังมบี ริวาร กฐินครบชุด พร้อมตู้เสตนเหลด 2 ช้นั ถวายประจำไวท้ วี่ ัด สว่ นฝา่ ยต้อนรับทาง ญาติบา้ นเขวาฯ จัดมาลัยพวงใหญค่ ล้องคอแขกที่มารว่ มทอดกฐินรวม 100 คน จัดอาหารต้อนรับอยา่ งสมเกียรติ ก่อนทอด พ่อ – แม่ มใี จผอ่ งใสเบิกบาน ขณะให้จติ ใจก็ผ่องใส ให้แล้วทอดแล้วก็มี ความยินดีไม่เสียดาย เมื่อคิดถึงบุญท่ีทำปลื้มปิตยิ นิ ดี ผู้ร่วมทอดกฐินทุกคนได้ บญุ แล้วทุกท่าน 69 | เรอ่� งเลา ของพอ

3. ทอดกฐินคร้งั ที่ 2 วันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ทอดที่วัดสุเขตตาราม ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ทอดกฐินครั้งนี้ได้เป็นเจ้าภาพร่วมกับคุณพ่อแก้ว อุทธารัมย์ อายุท่าน 96 ปี ไดร้ ่วมถวายปัจจัยส่วนหนึ่งพร้อมกับบรวิ ารกฐินครบชุด มีทั้งตู้ อาหารและสิ่งอ่นื ๆ ทจ่ี ำเป็นท่ใี ช้ในวดั หลงั จากทอดถวายแล้ว ดใี จ ภาคภูมใิ จ อ่ิม เอบิ ใจ และสุขใจย่งิ 4. ทอดไตรปฎิ ก คร้ังท่ี 1 ท่วี ัดสเุ ขตตาราม ตำบลนาดี อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ ได้พาคณะครูอาจารย์ 45 คนพร้อมด้วยญาติ ๆ ทอด ไตรปิฎกฉบับภาษาไทย 45 เล่ม โดยได้ติดชื่อเจ้าของ หนังสอื เจ้าของท่จี องทุกเล่ม พ่อเป็นผู้ซื้อตู้ เป็นหัวหน้า ผู้นำทอดถวาย และเก็บหนังสือไว้ในตู้นั้น ทอดแล้วเจ้าภาพทุกคนแสนดีใจเบิก บานใจ มีความสุขใจย่ิง 5. ทอดไตรปิฎก ครั้งท่ี 2 ทอดไตรปิฎกฉบับภาษาไทย 45 เล่ม ณ สำนักสงฆ์บ้านเบาะอุ่น (ปัจจุบันเป็นวดั เบาะอุ่น) มีรายการทอดถวาย คือ หนังสือไตรปิฎก ฉบับภาษาไทย 45 เล่ม ตู้ใส่ พระไตรปิฎก 1 หลัง ตู้แสตนเลส 2 ชั้น 1 หลัง ตู้กระจก 2 บาน 1 หลัง ม้านั่งไม้ ประดู่ 1 ตวั เก้าอี้ 80 ตวั เครอ่ื งครัวครบชดุ จากทางโลกสทู างธรรม | 70

6. ทอดไตรปิฎก ครั้งท่ี 3 ทอดไตรปิฎก ฉบับพิเศษ 120 เล่ม ที่วัดสุทธิธรรมาราม ทอดไตรปิฎกครั้งนี้ได้ มอบหน้าที่ให้แม่เตยถนอมดี และอาจารย์วไิ ล ถนอมดี เป็นหัวหน้าเพราะครั้งนัน้ พ่อเดินทางไปจำพรรษาท่ีวดั เขาไมห้ น้าวนาราม บางพระ ชลบรุ ีแลว้ คร้ังแรกทำ หนา้ ทีป่ ระสานงานจองท่ีจะทอดไตรปิฎก “ทีว่ ดั สุทธิธรรมาราม” จึงมอบใหแ้ มเ่ ตย และอาจารย์วิไล ทำหน้าที่แทน ส่วนพ่อทำหน้าท่ีถวายพระไตรปิฎกร่วม และมี ญาติทางบ้านเขวาสินรินทร์ มาร่วมด้วย การทอดไตรปิฎกครั้งที่ 3 นี้ เจ้าคุณ จังหวัด หลวงพ่อเยี้ยนท่านมารับด้วยตนเอง และมีเจ้าภาพร่วม 100 คน ได้ฟัง โอวาทจากท่านเจ้าคณะ อาจารย์วิไล ถอนมดี ได้จัดอาหารเลี้ยงเจ้าภาพได้อม่ิ หนำสำราญทุกคน และเลีย้ งเพล ดใี จ สุขใจ เบกิ บานใจ ภาคภูมใิ จ ไดบ้ ญุ แล้วทุก คนมคี วามอมิ่ เอิบ มีความสุข 7. ถวายตใู้ ส่พดั ยศ พ.ศ. 2542 ถวายต้ใู ส่พดั ยศชน้ั โท ให้พระครสู เุ ขตวรธรรม เจา้ อาวาสวดั สุเขตตา ราม ตำบลนาดี พรอ้ มปัจจยั ปัจจุบันเปน็ เจ้าคณะตำบลนาดี 8. ถวายตู้ใส่พัดยศชั้นโท พ.ศ. 2543 แดพ่ ระครูนันทพัฒนาภรณ์ วดั ระกานันทิ ยาราม ตำบลนาดี พร้อมปจั จัยฉลองพดั ยศ 9. ถวายตูใ้ ส่พัดยศ ช้นั เอก วนั ที่ 1 มกราม พ.ศ. 2560 ถวายตูใ้ ส่พดั ยศ ชน้ั เอกแด่พระครสู ุนทรปญุ ญภินันท์ เจ้าอาวาสวัดตำปูง เจ้าคณะตำบลแกใหญ่ ฝ่ายธรรมยุติ พร้อมด้วยปัจจัยเพอ่ื ฉลอง 71 | เร�อ่ งเลา ของพอ

10. พอ่ ไดน้ ำเปน็ เจา้ ภาพนำญาติ ถวายลกู นิมติ ผูกพัทธสีมา 6 วัด 6 ทิศ ดังน้ี คอื  หลมุ ท่ี 1 พ.ศ. 2540 หลมุ ทางทิศตะวันออก เฉียงเหนือ “วัดระกานันทิยา ราม” มเี จ้าภาพ 3 ทา่ น  หลุมที่ 2 พ.ศ. 2547 หลุม กลางกลาง “ที่วัดดอนวิเวก” มี เจา้ ภาพรว่ มถวาย 10 ทา่ น  หลุมที่ 3 พ.ศ. 2549 หลมุ ทิศใต้ “ที่วัดป่าอาม็อง” มี เจา้ ภาพรว่ มถวาย 7 ทา่ น  หลุมที่ 4 พ.ศ. 2549 หลุม ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ “ที่วัด หนองแขม” อำเภอกระสงั จังหวดั บุรีรัมย์ มีเจ้าภาพร่วมถวาย 9 ท่าน  หลุมที่ 5 พ.ศ. 2550 หลุมทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ “ที่วัดสกายตาหงวน” อำเภอกระสัง จังหวดั บุรรี มั ย์ มเี จ้าภาพร่วมถวาย 10 ทา่ น  หลุมที่ 6 พ.ศ. 2551 หลมุ ทางทศิ ตะวันตก “ท่วี ัดศาลาเย็น” ตำบลตากูก อำเภอเขวาสินรินทร์ มีเจา้ ภาพรว่ มถวาย 8 ท่าน โดยเจ้าภาพทุกท่านได้รับมีดมีจารึกชื่อของตัวคนลงในใบมีดทุกหลุมเหมือนกนั ทุกวัด วัดละ 1 เลม่ เพือ่ เปน็ ที่ระลกึ 6 หลมุ ได้รบั มีดจารึกช่ือของตน 6 ใบ จึงเป็น ท่ียินดีเบกิ บานใจย่ิง มดี กจ็ ะทนอยู่ไดช้ ว่ั ลกู หลาน ตลอดไป จากทางโลกสทู างธรรม | 72

11. สร้างกุฎิ 3 หลงั ถวายวัด  ก ุ ฎิ ห ล ั ง ท ี ่ 1 สร้างปี พ.ศ. 2545 สร้างกุฎีถวายวัดสุ เขตตาราม ตำบลนา ดี ขนาดความกว้าง 7 เมตร ยาว 8 เมตร แบ่งเป็นห้องพักได้ 2 ห้อง พื้นปูกระเบื้องสนี ้ำทะเล ยกจากระดับดิน 50 เมตร หน้ารอบประตู เขา้ 2 บาน สร้างอทุ ศิ ให้พ่อแกว้ แมท่ องสขุ อทุ ธารมั ย์  กฎุ ิหลงั ท่ี 2 สรา้ งปีพ.ศ. 2549 สร้างกุฎีถวายวัดโพรินทร์วิเวก ที่บ้านเขวาสินรินทร์ ถวายเพื่ออุทิศ ส่วนกุศลให้คุณพ่อแป้ง และแม่ออด ถือกล้า และอุทิศส่วนกุศลให้แก่ปู่ ยา่ ตา ยาย ตลอดท้ังญาติพี่น้องท่ลี ่วงลับไปแลว้ ขนาดของกุฎี เป็นตึก 2 ช้นั  กุฎหิ ลังท่ี 3 สรา้ งปีพ.ศ. 2559 สร้างกุฎีถวายวัดตำปูง ตำบลนาดี ขนาดของกุฎีความกว้าง 10 เมตร ความยาว 10 เมตร มีห้องน้ำ 1 ห้อง มีระเบียงด้านหน้า สร้างแบบตึก หน้าต่างกระจก 5 คู่ ทาสีไข่ สร้างถวายครั้งนี้ได้ใช้เป็นท่ีพักจำพรรษา ของหลวงพ่อกอ่ นและต้งั ใจจะอยู่ตลอดชีพ 12. ตั้งกองทุนการศึกษาและทำการมอบทุนการศึกษา ตั้งแต่ พ.ศ. 2537 ถึง พ.ศ. 2557 รวมเปน็ เวลา 20 ปี ลูกชายคอื ดิลก ถอื กล้า เป็นผู้ดำริต้งั กองทนุ น้ี เม่อื วนั ท่ี 30 กันยายน พ.ศ. 2537 เพื่อเป็นที่ระลึกเป็นเกียรติประวัติแก่คุณพ่อดิเรก ถื อกล้า ท่ี 73 | เร่อ� งเลา ของพอ

เกษียณอายุราชการ และให้ช่ือกองทนุ ว่า “ทนุ การศึกษาดิเรก-ประนอม ถือ กล้า” โดยมีจุดหมายความประสงค์เดิม เพื่อช่วยเด็กนักเรียนที่เรียนดี มี ความประพฤติเรียบร้อย ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในช่วงแรกตั้งใจว่าจะไม่ รบกวนเงินจากท่านอื่น ๆ โดยตั้งใจมอบให้โรงเรียนในเขตตำบลนาดี 9 โรงเรยี น โรงเรียนประถมศกึ ษา 8 โรง และโรงเรยี นมธั ยมศกึ ษา 1 โรง สำหรับวิธีการมอบ ทุนการศึกษาในช่วง 4 ปแี รก พ.ศ. 2537 – 2540 กำหนดให้มี การสอบชิงทุน แต่ เมื่อได้ปฏิบัติจริงแลว้ เกิดปัญหาบาง ประการ เกี่ยวกับ นักเรียน ผู้สอบไดม้ ัก เปน็ เด็กนักเรยี นทเี่ ก่ง และฐานะดี คณะนน้ั ผใู้ หญ่เจริญ เน้ือแก้ว เปน็ ประธาน กรรมการกองทุนการศึกษาและกรรมการ พร้อมด้วยกรรมการที่ปรึกษา คือทา่ นกำนันเออื ก มแี ก้ว กำนนั ตำบลนาดี เป็นกรรมการทปี่ รึกษา ไดเ้ สนอ ให้ยกเลิกการสอบชิงทุน และให้โรงเรียนต่าง ๆ ทั้ง 9 โรงเรียนได้พิจารณา เด็กมารับทนุ ตามความเหมาะสม พ.ศ. 2541 ได้มีสมาชิกผู้มอบทุนการศึกษาเพิ่มขึ้น คณะกรรมการจึง เปลี่ยนชื่อกองทุนใหม่ จาก “กองทุนการศึกษาดิเรก – ประนอม ถือกล้า” มาเป็นชื่อ “ทุนการศึกษาของสมาชิกกลุ่มกองทุนเพื่อการศึกษา ตำบลนา ดี” จุดมุ่งหมาย เพื่อช่วยเหลือนกั เรียน เรียนดี มีความประพฤติเรียบร้อย ขาดแคลนทนุ ทรพั ย์ จากทางโลกสูท างธรรม | 74

ดำเนินการโดยคณะกรรมการมีผู้ใหญ่เจริญ เนื้อแก้ว เป็นประธานกลุ่ม กองทุนและพ่อเป็นเลขาฯ กำนันเอือก มีแก้ว ประธานที่ปรึกษา เราบริหาร กองทุนโดยไม่มีการเงินเก็บเพราะถึงเวลาสมาชิกผู้มอบทุนจะนำมามอบ ด้วยตนเอง ด้วยแสดงความจำนงค์จากศรัทธา ครั้งละ 300, 500, 1,000, 2,000, 3,000 มสี มาชิกมอบทนุ รว่ ม 50 ทุน 50 ท่านต่อปี น ั ก เ ร ี ย น ท ี ่ ร ั บ ทุ น จำนวนนักเรียน 9 โรงเรียน โรงละ 5 คน ถึง 10 คน รวมทุก โรงเรียนได้รับทุน 30 คน ถึง 50 คนทุกปี ตั้งแต่ปีการศึกษา 2537 ถึงการศึกษา 2557 เป็นเวลา 20 ปี อีกประการหนึ่ง เมื่อ พ.ศ. 2551 หลวงพอ่ อุปสมบทแล้ว กอง ทุนการศึกษามอบให้ นางสาวประกายมาศ ถือกล้า ลูกสาว ได้ ด ำ เ น ิ น ท ำ ห น ้ า ที่ ดำเนินการมอบ ทุนการศกึ ษาแทน นางสาวประกายมาศ ถือกล้า ประสานงานติดตอ่ สมาชิก ม อ บ ท ุ น ก า ร ศ ึ ก ษ า จ า ก เ พ ื ่ อ น ร ่ ว ม ร ุ ่ น น ั ก ศ ึ ก ษ า จ า ก จ ุ ฬ า ล ง ก ร ณ์ 75 | เร�อ่ งเลาของพอ

มหาวิทยาลัย ที่ออกประกอบอาชีพแล้ว ส่งเงินมาร่วมมอบทุนการศึกษา เปน็ เวลา 7 จาก พ.ศ. 2551 – ถึง พ.ศ. 2557 คณะกรรมการดำเนินการมอบทุนการศึกษา ประธานกรรมการ และ ประธานที่ปรึกษา พร้อมกับสมาชิกกลุ่มกองทุนเพือ่ การศกึ ษาได้เห็นพอ้ ง ต้องกันว่าสมควรที่จะหยุดพักทำการมอบทนุ ก่อน เพราะได้ดำเนนิ การมา เป็นเวลาอันสมควร ตั้งแต่พ.ศ. 2537 ถึง พ.ศ. 2557 รวมเวลา 20 ปี สมาชกิ กลุ่มการศึกษาที่มีศรัทธามอบทุนการศึกษามิไดห้ วงั สิ่งใดตอบแทน นอกจากต้องการช่วยเหลือเด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เท่านัน้ และมีจำนวน เด็กทรี่ ับทุนไปแลว้ 600 คนในเวลา 20 ปี สุดท้ายหลวงพ่อในนามผู้ประสานงานดำเนินการมอบทุนการศึกษาของ ตำบลนาดี ขออนุภาพแห่งคุณพระพุทธ ขออนุภาพแห่งคุณพระธรรม ขอ อนุภาพแห่งคุณพระสงฆ์ จงคุ้มครองกลุ่มสมาชิกที่มอบทุนการศึกษา ตำบลนาดี ร่วมเวลา 20 ปี ให้มคี วามสุข ความเจรญิ ด้วยจตรุ พิธพรชยั มี อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ และธนาสารสมบัติ และให้ประกอบ ลาภ, ยศ, สุข, สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ทั้งอุปสรรคใด ๆ โรคภัยใด ๆ จง มลายส้นิ ไป 13. ถวายปัจจยั สร้างวตั ถุถาวรของศาสนา ถวายปจั จยั ทำบุญ คร้งั ละ 10,000 บาทขึ้นไปตามรายการต่อไปนี้ พ.ศ. 2540 ถวายปจั จัยสร้างศาลาใหม่ วดั สเุ ขตตาราม ตำบลนา ดี อำเภอเมอื ง จังหวัดสุรินทร์ พ.ศ. 2554 ถวายปัจจัยสร้างกุฎีหลังใหม่ แทนกุฎีที่ไฟไหม้ ของ วัดสเุ ขตตาราม จากทางโลกสูท างธรรม | 76

พ.ศ. 2556 ถวายปัจจัยร่วมสร้างโบสถ์ วัดเขาไม้หน้าวนาราม ต.บางพระ อ.ศรรี าชา จ.ชลบุรี พ.ศ. 2555 พ.ศ. 2552 ถวายปัจจัยเพือ่ รว่ มซอื้ ท่ีดินสรา้ งวัดเบาะอุ่น พ.ศ. 2549 ถวายปัจจัยร่วมสร้างโบสถ์ วัดดำรงศิริวราราม พ.ศ. 2553 จังหวดั สกลนคร พ.ศ. 2554 ถวายปัจจยั สรา้ งเมรุ วัดบา้ นนาดี ตำบลนาดี พ.ศ. 2556 ถวายปจั จยั สร้างรัว้ กำแพง 2 ดา้ น วดั ป่าสมใจธรรมาราม พ.ศ. 2558 พ.ศ. 2559 ถวายปัจจัยร่วมสร้างที่พักสำหรับผู้มาภาวนา วัดป่าสมาใจธรรมาราม พ.ศ. 2560 พ.ศ. 2561 ถวายปัจจัยสร้างมณฑป วัดตำปูงครั้งแรก จองเสา 1 ต้นร่วมกับญาติ คือ นางปราณี ดีดี อาจารย์วิไล ถนอมดี อาจารย์ ผ.อ. ทวศี ักดิ์ บญุ สด ถวายปัจจยั ถมทเี่ พ่มิ สรา้ งมณฑปวดั ตำปูง ถวายปัจจัย ปูกระเบื้องโรงอาหารวัดตำปูง และ ปกู ระเบ้ืองเรอื นไทย วดั ตำปูง ถวายซ้ือท่ดี นิ เพิ่มของวดั ตำปงู ถวายปัจจัยเพื่อซื้อที่ดินพร้อมกับฉลองพัดยศช้ัน เอกของเจา้ อาวาส 77 | เร�่องเลาของพอ

พ.ศ. 2561 ถวายชดุ รับแขก 3 ชดุ พ.ศ. 2542 ถวายชดุ รับแขก โซฟาหุ้มหนังสขี าว 1 ชดุ ถวายสุเขต ตาราม พ.ศ. 2556 ถวายชุดรับแขกไม้ประดู่ 1 ชุด มีเจ้าภาพร่วมกัน ถวายวัดสุเขตตาราม หลวงพ่อดิเรก ผลปุญโย แม่ ประนอม ถือกล้า อาจารย์วิไล – แม่เตย – ถนอมดี คณุ วศนิ มาลาทอง พ.ศ. 2561 1 มกราคม 2561 ถวายชุดรับแขก ไม้ประดู่ 1 ชุด มี โตะ๊ 1 ตัว เกา้ อี้ 4 ตัว และมเี กา้ อี้ยาว 1 ตัว รวม 6 ตัว ถวายวดั ตำปูง ใช้ประจำอยู่ในกุฎี หลวงพ่อดเิ รก ผล ปุญโญ ของตนเอง และ มีเจ้าภาพร่วมถวายด้วย อาจารย์วิไล ถนอมดี อาจารย์ทัศนีย์ เตชะชาติ อาจารยล์ ะมลุ ใจกศุ ล ขอรว่ มบุญด้วย 14. ให้ทานควาย 2 ตัว พ.ศ. 2550 ให้ทานควายเนื่องในงานทอดกฐินครั้งท่ี 2 ณ วดั สุเขตตาราม ให้ทานควายตัวเมยี 1 ตัว ตัวผู้ 1 ตวั รวม 2 ตัว แก่นายบรรพต อุนัยบัน เพอ่ื ช่วยเหลือเขา เพราะฐานะของเขา กำลังทกุ ข์ยาก ลำบากมาก พ.ศ. 2556 ได้ให้ทานวัวแม่ลูกแก่ ลูกพี่สาวแม่ฐานะยากจนมาก จงึ ไดส้ ละชว่ ยเขาเพือ่ เอาบุญ จากทางโลกสูทางธรรม | 78

พ.ศ. 2530 – ปัจจุบนั ได้ถวายข้าวสารหอมมะลิแก่วัดเหล่านี้สลับกันไป ทุกปี วัดสุเขตตาราม วัดจุมพลสุทธาวาส วัดพรม สุรินทร์ วัดศาลาลอย วัดประทุนเมฆ วัดดอนวิเวก วัดกลางเมืองสุรินทร์ วัดกลางเหนือ วัดป่าสมใจ วัด ประชาสามัคคี วัดโพธิ์รินทร์วิเวก วัดตำปูง วันเวฬุ วันนาดี วัดจำปาวัดดำรงศิริวราราม โดยการถวาย จะถวายเปน็ ขา้ วสารครัง้ ละ 1 กระสอบ 15. การถวายปจั จัยอื่น ๆ วันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557 เป็นช่วงเวลาการทำบุญอายุครบ 80 ปี ได้ ถวายปัจจัยพร้อมกับจีวรสักรัก จากอาโศการาม 9 ชุด ถวายแด่เจ้าคณะ อำเภอเมือง, เจา้ คณะอำเภอจอมพระ พรอ้ มกบั พระเถระ และเจา้ อาวาสรวม 9 รปู และถวายปจั จยั ถวายสบง 12 ชุด แดพ่ ระภกิ ษุ สามเณรวดั ตำปงู ได้ สงเคราะห์ผ้าไหม 28 ผืน ผ้าถุงให้แก่ญาติ ที่มาร่วมทำบุญครบรอบ 80 ปี ดว้ ย วนั ท่ี 3 มนี าคม พ.ศ. 2559 ไดส้ งเคราะห์ผ้าไหมแกญ่ าติโยมจากชลบุรีที่มา ส่ง จำนวน 16 ผืน ครั้งย้ายจากวัดเขาไม้หน้าวนารามมาจำพรรษา วดั ตำปูง 79 | เร�่องเลาของพอ

บทสรปุ สดุ ทา้ ย สุดท้ายขอน้อมนำหัวใจพระธารณปรติ ร ทไ่ี ด้กล่าวไวว้ า่ ทฏิ ฐลิ า ทณั ฑลิ า: ใครคดิ รา้ ย ขอให้พา่ ยแพไ้ ป หอก, ดาบ ปืนไฟอย่าแพว่ พาน มนั ตลิ า โรคลิ า: เวทมนต์ ศักดสิ์ ิทธ์ิ เรืองฤทธิ์ กลา้ , โรคา เบาคลาย หายผา่ น ชะระลา ทพุ ภลิ า: รอดพ้นโรคร้ายในจกั รวาล เคร่ืองพนั ธนาการหลุดทันที เอเตนะ สจั จะวชั เชนะ: ด้วยอำนาจแหง่ สัจจะวาจานี้ ขอความสขุ สวสั ดแี ก่ทา่ นท้ังหลายทีไ่ ดอ้ านหนัง สอื เล่มน้แี ล้วไดน้ ำไปปฏบิ ัติ ทุกท่านและทุกเมอื่ เทอญ จากทางโลกสทู างธรรม | 80

- หลวงพอ ดเิ รก ผลปญุ โญ - 81 | เร่อ� งเลา ของพอ



ทิฏฐิลา ทณั ฑลิ า: ใครคิดราย ขอใหพา ยแพไป หอก, ดาบ ปน ไฟอยาแพวพาน มนั ตลิ า โรคิลา: เวทมนต ศกั ดสิ์ ทิ ธิ์ เร�องฤทธิ์ กลา, โรคา เบาคลาย หายผา น ชะระลา ทพุ ภิลา: รอดพนโรครายในจกั รวาล เคร�อ่ งพนั ธนาการหลดุ ทันที เอเตนะ สัจจะวชั เชนะ: ดวยอำนาจแหง สจั จะวาจานี้