50 ออ้ มล้อมต่อมคำ กล่าวถึงสองแม่ลูก ท่ีตอนน้ีกำลังดีใจสุดชีวิต เมื่อตื่นมาเห็นสะพาน เงินสะพานทองทอดยาว นางจนั ทรร์ ะงับความตื่นเตน้ ไม่ได้ พดู กับต่อมคำวา่ “ตะ...ตอ่ ม...ตอ่ มคำนีฝ่ มี อื ของเจา้ ใชไ่ หม เยย่ี มจรงิ ๆ” “ไม่ใชห่ รอกจะ้ แม่” “อา้ วเหรอ” นางจันทร์อทุ านเบา ๆ “ฉันไม่ได้ทำด้วยตนเอง แต่ฉันอธิษฐานขอบารมีเทพยดาให้ท่าน ช่วยฉัน” ต่อมคำบอกแมใ่ ห้เข้าใจ “อธิษฐานแล้วกเ็ ป็นอย่างที่เห็นเน่ยี หรอ” “ใช่แล้วจะ้ เป็นไปไดจ้ ริง ๆ” “โห อย่างนีเ้ จา้ ต้องสมหวงั ได้แตง่ งานกับพระธดิ าแนเ่ ชยี ว” “ฉันก็หวังวา่ พญาพรหมทัตคงรักษาคำพดู นะแม่” ต่อมคำไม่มั่นใจ ในช่วงสายของวันเดียวกัน ทหารท่ีรับคำส่ังจากพญาพรหมทัตก ็ เดนิ ทางมาถึงบา้ นจนั ทร์ เม่ือพบกันแล้ว ทหารจึงบอกให้ท้ังสองคนไปเข้าเฝ้า ซ่ึงจันทร์และ ตอ่ มคำตา่ งก็ไม่แน่ใจในเหตกุ ารณ์ขา้ งหน้าแม้แต่น้อย “ไม่รวู้ ่า พระองคม์ พี ระประสงคส์ ิ่งใดกนั แนน่ ะ” จันทร์สงสัย “แต่แม่คิดว่าพระองค์คงจะทำตามที่ล่ันสัจจะไว้นั่นแหละ” จันทร์คิด ในแงด่ ี “แต่ถ้าพระองค์ไม่ทรงเชื่อเรื่องสะพานนี้ล่ะแม่ เราสองคนจะเป็น อย่างไรกนั ” ตอ่ มคำยังกังวล จนั ทรไ์ มต่ อบ นงิ่ เงยี บไป ในใจไดแ้ ตภ่ าวนาขอใหท้ กุ อยา่ งเปน็ ไปดว้ ยด ี เมื่อจันทร์และต่อมคำมาถึงท้องพระโรง ที่น่ันมีหมู่เสนาอำมาตย ์
ออ้ ม้อมต่อมคำ 51 ข้าราชบรพิ าร นง่ั หมอบเรยี งรายลดหล่นั กันเปน็ ลำดบั ยิ่งได้แลเห็นพระพักตร์ของพญาพรหมทัตแล้ว สองคนแม่ลูกเร่ิม ดี เกรงพญาพรหมทัตจะไมพ่ อพระทัย “เจ้าใช่ไหมต่อมคำ ที่สามารถสร้างสะพานคู่นี้มายังวังเราได้” ทรงมี รบั ส่ังถาม ตอ่ มคำเปน็ คนซ่อื สัตย์ จึงเล่าทุกอย่างไปตามความจริง พญาพรหมทัตไดย้ ินแลว้ ทรงคำนึงในใจวา่ “ถ้าเทวดามาชว่ ยเนรมิตให้ไดส้ มใจแบบน้ี เจา้ คนนีต้ ้องมดี ีหรือมีบุญ พเิ ศษเหนอื กวา่ คนธรรมดาทัว่ ไปเปน็ แน่” คดิ แล้วตรัสตอ่ ว่า “เราไม่สนใจดอกว่าเจ้าจะใช้วิธีไหนให้มีสะพานเงินสะพานทอง แต่ เมอื่ เจ้าเปน็ ผทู้ ำให้เกิดสะพานนีข้ ้นึ มาได้ เราก็จะ...” ทกุ คนในทนี่ นั้ แทบกล้ันหายใจ “เรากจ็ ะยกลูกสาวให”้ สองแมล่ ูกโล่งใจ... “เราเป็นกษัตริย์ ตรสั แลว้ ไม่คืนคำ” พญาพรหมทัตบอก แลว้ หันไปทางหมูข่ ุนนาง ตรสั ว่า “ พวกเจ้าล่ะ คิดเห็นเช่นใดกนั บา้ ง” ขนุ นางผู้ใหญ่ ณ ทอ้ งพระโรงนน้ั ตา่ งปรกึ ษากันเบาๆ แลว้ ทลู วา่ “หมู่ข้าพระพุทธเจ้าเห็นพอ้ งต้องกันกับพระองคพ์ ะ่ ย่ะคะ่ ” “เพราะว่าลูกของนางจันทร์ แม้จะมีรูปกายเช่นนี้ แต่น่าจะเป็นผู้มี บุญญาบารมี พระเจ้าค่ะ” ขนุ นางอีกคนทลู สนบั สนนุ “ดีแล้วท่ีพวกเจ้าเข้าใจ และเห็นด้วยกับเรา แต่เราคงต้องถามความ สมัครใจของลกู เรากอ่ น”
52 ออ้ มลอ้ มต่อมคำ แล้วพระองค์ก็หันพระพักตร์มาตรสั กบั จันทร์และตอ่ มคำว่า “เราทำตามที่รับปากเจ้าแล้ว แต่คันธา ลูกสาวเราจะยินยอมหรือไม่ นั้น เปน็ อกี เรอ่ื งหนง่ึ นะ” สองคนแม่ลูกคิดเหมือนกันว่า สุดแท้แต่พระทัยของพระธิดา จะไม่ เรียกร้องอะไร จึงกราบทูลไปตามน้ัน พญาพรหมทัตจึงให้นางกำนัล ไป พระธดิ าองคเ์ ล็กมาเข้าเฝ้า พระธิดาคันธาผู้เลอโฉม บัดนี้ มานั่งรวมกับพี่สาวทั้งสอง นางมี ชดช้อยนิ่มนวล สมเปน็ องคห์ ญงิ ผ้สู งู ศกั ด์ิ จึงมเี จ้าชายจากแว่นแควน้ ตา่ งๆ มาผูกมติ รไมตรีเพือ่ หวงั จะได้อภเิ ษกสมรสด้วย แต่ทว่าพระธิดาคันธาไม่ปรารถนาจะอภิเษกกับใคร ซ่ึงพญาพรหม ก็ไม่บังคับฝืนใจนางในเรื่องน้ี ทรงปล่อยให้บรรดาพระธิดาเลือกคู่โดย พระองคเ์ อง ดังนั้นจึงเหลอื เพียงพระธดิ าคนั ธาองคเ์ ดียวที่ยังไม่มีคู่ครอง เมอ่ื พระธดิ าได้พบกับตอ่ มคำ ด้วยเหตทุ ท่ี งั้ สองเปน็ เน้อื คู่กันมา พระ ธดิ าจึงแลเหน็ กายจริงของต่อมคำท่ีซอ่ นอยู่ภายในได ้ ดงั นนั้ เมอื่ พระนางสริ พิ มิ พาตรสั ถามความสมคั รใจของพระธดิ าองคเ์ ลก็ นางจึงได้แต่แย้มพระสรวลน้อยๆ ไม่ปฏิเสธ ด้วยความรู้สึกเช่ือม่ันในส่ิงท่ี ตนเหน็ เป็นอันว่า “อ้อมล้อมต่อมคำ” ได้เป็นพระราชบุตรเขยของพญา พรหมทัตสมดังใจ โดยแยกไปอยู่ท่ีปราสาทของพระธิดาคันธา ไม่เก่ียวข้อง กับผู้ใด จงึ ยังไมม่ ีใครล่วงรูร้ ูปลักษณ์ท่แี ท้จรงิ ของต่อมคำ
ออ้ มอ้ มตอ่ มคำ 53 ห้า ต่อมคำเผยตัว
54 อ้อมลอ้ มตอ่ มคำ
ออ้ ม้อมต่อมคำ 55 ต่อมคำเผยตัว ต่อมคำกับพระธิดาอยู่กันอย่างมีความสุขในปราสาทหลังงามได้สาม เดอื นแล้ว ทัง้ สองต่างเข้าอกเขา้ ใจกันดี ไมม่ ีปากเสยี งตอ่ กนั เช้าวันหน่ึง พระธดิ าคนั ธาไดไ้ ปเยีย่ มหาพๆ่ี ท่ีอยใู่ นปราสาทชน้ั ใน “หมู่นี้พ่ีไม่ได้พบหน้าน้องเลยนะ เจ้าอยู่สุขสบายดีหรือ” พี่สาว องคโ์ ตถาม “สบายดีเพคะ” “แลว้ สามเี จา้ ทม่ี แี ต่หวั กลิง้ ไปกลิง้ มาอยูใ่ นพานไม่มาด้วยหรือ” เมื่อพี่สาวคนรองถามจบ พี่สาวและพี่เขยคนอื่นๆ ท่ีอยู่ตรงน้ันต่าง หัวเราะขบขันกันใหญ่ เจ้าหญิงนอ้ ยคนั ธาไม่ใสพ่ ระทยั นกั จงึ พูดตอบวา่ “มาไมไ่ ด้เพคะ พ่ตี ่อมคำกำลงั นง่ั สมาธิอยู่” “อุ๊ย...ธัมมะ ธมั โมดว้ ย ยงั ไม่ทนั แก่เลย” “ถ้าเช่นนั้น ไปเที่ยวเล่นในอุทยานหลวงกับพวกพ่ีให้เบิกบานใจกันดี กว่า” พีส่ าวองค์โตเอ่ยชวน
56 ออ้ มลอ้ มต่อมคำ “ก็ดีเหมอื นกนั เพคะ” ทั้งหมดจึงได้ให้นางกำนัลไปจัดเตรียมข้าวของพร้อมเสล่ียงคานหาม เตรียมออกประพาสอุทยานใหญ่ ครั้นเมื่อถึงอุทยาน ทั้งพี่สาวและพี่เขยต่างแยกย้ายกันเท่ียวชมกัน เปน็ คูๆ่ ปล่อยใหอ้ งค์หญงิ คนั ธาเดนิ เทยี่ วเลน่ กบั นางกำนลั เสยี งพสี่ าวและพีเ่ ขยคุยเลน่ ฉอเลาะกนั อยา่ งมคี วามสุข สดช่นื “อุ๊ยวา้ ย...ไมไ่ ดม้ าต้ังนาน กหุ ลาบแปลงนอี้ อกดอกดกเชียว” “ไหนจ๊ะ” “อย่ตู รงนน้ั ไงเพคะ” “หอมจังนะเพคะ”
ออ้ ม้อมต่อมคำ 57 “เสด็จพ่ี ดูน่ัน ช้างน้อยท่ีพวกพรานนำมาถวายหลายเชือก ตอนนี้ ขึน้ เยอะแล้ว”
58 อ้อมลอ้ มตอ่ มคำ “น้องอยากข่มี นั หรอื เปล่า” “ตัวมันใหญ่โตแบบนี้ นอ้ งกลวั ตกเพคะ” “อย่ากลวั เลย พี่จะขนึ้ ไปนัง่ ด้วย ไมต่ อ้ งกลวั ตกนะ” เสียงหัวร่อต่อกระซิก ช้ีชวนกันดูน่ันดูน่ีบนหลังช้างของพ่ีๆ และพ่ี ทง้ั สอง ทำเอาพระทยั ของพระธดิ าองค์เล็กหว่นั ไหวไม่นอ้ ย
ออ้ ม้อมตอ่ มคำ 59 “ถ้าพ่ีต่อมคำมีแขนมีขา ร่างกายสมประกอบเหมือนคนอ่ืนก็คงด ี จะไดม้ าเทยี่ วเล่นแบบนก้ี ับเราบา้ ง” พระธิดาคันธาแอบคิดน้อยใจ ทันทีท่ีพระธิดาองค์เล็กกลับถึงปราสาทในตอนเย็น นางเริ่มหงุดหงิด หัวเสีย จนไม่เป็นอันร่วมเสวยอาหารกับต่อมคำ ต่อมคำจึงถามไถ่เอาอก เอาใจพระธดิ า “นอ้ งเปน็ อะไรไป ใครทำอะไรให้ไม่พอใจ” “พจี่ ะไปรู้อะไร เอาแต่อยู่ในห้องในปราสาท” องคห์ ญิงประชด “แลว้ น้องตอ้ งการอะไร” “น้องอยากให้พี่ไปไหนมาไหนได้สะดวกเหมือนคนอื่นๆ เพคะ” รบั สัง่ ตอบแล้ว ก็พดู ต่ออกี “อีกอย่างหนึ่งคือ น้องไม่อยากให้ใครมาดูถูก ถากถางพ่ีหรือเห็นพี่ เปน็ ตัวตลก” องค์หญงิ คันธาระบายความอัดอ้นั ในใจ “โถ พ่กี น็ ึกวา่ นอ้ งขัดเคืองเร่อื งใด” ตอ่ มคำทำเสยี งขันๆ เหมือนเห็น เป็นเรอ่ื งเล็ก เจ้าหญิงน้อยถึงกับลอบคอ้ นอยา่ งหม่ันไส ้ “ฮึ! ทำไม่ได้ ก็ไมต่ อ้ งมาทำเป็นเรื่องลอ้ เลน่ เลยนะ” “แลว้ ใครล้อเล่นเล่าจะ๊ ” “พีพ่ ูดแบบน้ี หมายความวา่ อย่างไร” “ก็หมายความแบบนไี้ ง”
60 อ้อมล้อมต่อมคำ ว่าแล้วต่อมคำก็กลายร่างมาเป็นบุรุษรูปงาม มีแขนมีขาครบถ้วน พระธิดาคนั ธาเหน็ ดังนัน้ ก็ได้แตน่ งิ่ ดู “นพี่ ีต่ ่อมคำตวั จรงิ หรือ” ถามเพื่อความแน่ใจ “ใชแ่ ล้ว พจี่ ริงๆ” พระธิดาคันธาปลื้มอกปลม้ื ใจ และดีใจมากท่ีตัวเองตาไมฝ่ าด เพราะ แลเหน็ รูปกายเช่นนี้ ตัง้ แต่เมือ่ วันทีต่ กลงปลงใจจะอภิเษกด้วย ต่อมคำกำชับพระธิดาให้ปิดเร่ืองนี้เป็นความลับไว้ก่อน เม่ือถึงเวลา อันสมควรเม่อื ใด กจ็ ะเผยร่างจริงตวั จรงิ ใหใ้ ครๆ ไดเ้ หน็ พระธิดาทรงเขา้ ใจ จึงไม่ซักถามอนั ใดอกี กลา่ วถงึ พญาพรหมทตั นบั แตย่ นิ ยอมใหพ้ ระธดิ าคนั ธาอภเิ ษกกบั ตอ่ มคำ ไปแลว้ นานวนั เขา้ กลบั นกึ เสยี ดาย ดว้ ยตดิ ทร่ี ปู รา่ งตอ่ มคำไมเ่ หมอื นชายหนมุ่ ทวั่ ไป
ออ้ มอ้ มตอ่ มคำ 61 “น้องสิริพิมพา น้องคิดว่าพี่ทำถูกไหม ท่ีพี่ยกลูกสาวให้แก่เจ้า ต่อมคำ” “เสดจ็ พท่ี ำถกู แลว้ ถา้ ไมท่ ำตามคำพดู นอ้ งวา่ จะผดิ เสยี กวา่ นะเพคะ” “นอ้ งเหน็ ดว้ ย...” เปลง่ เสียงสงู ยอ้ นถาม “เพคะ” “ทั้งท่ีเจ้าต่อมคำมีรูปร่างอัปลักษณ์ ไม่ควรคู่กับลูกเราเลยสักนิด” พระองค์ทรงแย้งพระมเหส ี “แล้วคนต่ำศักดิ์อัปลักษณ์ที่ไหน จะสามารถสร้างสะพานเงิน ทองได้แลว้ เสรจ็ ภายในคนื เดยี ว” พระนางสริ ิพิมพาใหเ้ หตุผล ทำใหพ้ ญาพรหมทัตถงึ กับเงียบไป แต่กระนั้น ภายในใจของพระองค์ก็ตัดเรื่องน้ีไม่ลง ทุกครั้งท่ีเห็น บรรดาลูกๆ และหมู่เขยทั้งหมดเข้าเฝ้า ทรงอดคิดไปต่างๆ นานาไม่ได้ “ถ้าเจ้าต่อมคำเป็นเหมือนลูกเขยสองคนที่มีเช้ือสายเป็นเจ้าชาย จากต่างแดน เราคงภาคภมู ิใจกว่าน”้ี และ “ดูสิน่ัน...จะมาเข้าเฝ้าเราท้ังที ต้องมีคนจับใส่พานพามา จะ เดนิ เหินหรอื นงั่ เสลีย่ งให้สมฐานะเหมือนคนอืน่ ก็ไม่ได้” “เฮ้อ!...กรรมของคันธา” นึกคิดสงสารในโชคชะตาของพระธิดา องค์เล็ก และดูเหมือนเหล่าบรรดาพี่สาวและเจ้าพ่ีเขยจะรู้ใจพญาพรหมทัต เมื่อมีโอกาสเข้าเฝ้ากราบทูลครั้งใด มักจะพูดจาดูหมิ่นดูแคลนต่อมคำ ให้ พญาพรหมทตั ไมส่ บายพระทัยมากขึ้น
62 ออ้ มลอ้ มตอ่ มคำ เม่ือบ่อยครั้งมากเข้าๆ จากที่พระองค์เดิมมีพระทัยเท่ียงตรง ต้ังมั่น ในความถูกต้องดีงามก็เร่ิมเอนเอียง คล้อยตามคำเสียดสียุยงของลูกๆ ทั้ง หลาย “เสดจ็ พ่อนา่ จะหาเหตเุ นรเทศมนั ออกจากเมอื งไปนะเพคะ” พระธดิ าคนท่ีสองออกความเห็นให้พระบิดาขับไล่ต่อมคำ “อยู่ไปก็อับอายคนท่ัวท้ังพารานะ พ่ะย่ะค่ะ” เขยองค์หนึ่งเห็นตรง เมื่อยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่า จะให้ต่อมคำอยู่กับพระธิดาคันธา ตอ่ ไป หรอื จะใหแ้ ยกกันไปเสีย พระราชาทรงกลดั กลุม้ พระทยั พระองคจ์ งึ ตรัสถามเสนาอำมาตยผ์ หู้ นึ่ง ช่อื “นนั ทเสนา” “เจา้ คดิ อย่างไร เรื่องต่อมคำ ที่เป็นเขยเลก็ ของเรา” “ขา้ พระพทุ ธเจ้าคิดว่า ถ้าพระองค์ไม่ตัดสนิ พระทัยใดๆ ก็จะทรงวติ ก ทกุ ขร์ อ้ นในเรือ่ งนต้ี ่อไป” “เจ้าหมายความวา่ อยา่ งไร นนั ทเสนา” “พระองค์ควรจะหาพระราชบุตรเขยองค์ใหม่ แทนที่ราชบุตรเขยที่มี แต่หวั พระเจ้าคะ่ ” “ข้าพระพุทธเจ้าได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดว่า คนท่ีมีลักษณะน้ี เป็น กาลกิณีตอ่ บ้านต่อเมืองพะ่ ยะ่ ค่ะ” นันทเสนาผู้นี้ เปน็ ผูม้ ีจติ ริษยาตอ่ มคำอยู่แล้ว เม่ือพระราชาทรงออก โอษฐข์ อความเหน็ จงึ ไดโ้ อกาสยยุ งใหพ้ ระองคท์ รงชงิ ชงั และหาเหตใุ หข้ บั ไล่ ต่อมคำไปอยทู่ ่ีอื่น หลายเสียงหลายปากจากคนที่คิดไม่ดีต่อต่อมคำ ทำให้พระราชาทรง ตัดสนิ พระทัยได้
ออ้ มอ้ มตอ่ มคำ 63 วันหนงึ่ พระองคจ์ งึ มีพระบญั ชาแกน่ างกำนัลสองคน “นางนอ้ ย นางนวล ไปตามพระธดิ าคันธามาพบเรา” นางกำนัลเรง่ รีบไปยงั ปราสาทของพระธดิ าคนั ธา แต่ พระธดิ าไม่อยู่ นางท้ังสองจึงเดนิ ไปอีกทางหน่งึ แล้วกต็ อ้ งสะดงุ้ ตกใจ เมื่อพบชายหนมุ่ รูปงามกำลังน่งั สมาธอิ ยู ่ “วา้ ย น่นั ใครกนั ” นางนอ้ ยกระซิบถามนางนวล “หรอื จะเปน็ พอ่ เทพบตุ รจำแลงแปลงกายมาเทยี่ วเลน่ ” นางนวลคาดเดา “จะบ้าหรือนางนี่ พ่อหนุ่มคนนี้กำลังนั่งสมาธิอยู่นะ ไม่ได้มาเที่ยว เลน่ ชมนกชมไม”้ “เออ จริงๆ แล้วเธอว่าเขาเป็นใครล่ะ” นางนวลย้อนถามนางน้อย “ฉนั ก็มาพร้อมเธอ เหน็ พรอ้ มเธอ เดาไม่ถูกจริงๆ” “ฉันว่าน่าสงสยั นะ” นางนวลต้ังข้อสังเกต “สงสัยอะไร” “กใ็ นปราสาทนี้ จะมผี ชู้ ายอ่ืนมาพักอยไู่ ดอ้ ยา่ งไร” “จรงิ ดว้ ย จะมีก็แต่เจ้าเขยเลก็ ตอ่ มคำเทา่ น้ันนะ” “แตน่ ี่...ก็ไม่ใช.่ ..” กอ่ นทีน่ างกำนลั สองคนจะพูดคยุ กนั มากไปกวา่ น้ี พระธดิ าคันธาเดนิ ผ่านมา นางสองคนจงึ ตอ้ งรบี ไปกราบทูลเร่อื งที่พระบิดาตอ้ งการพบ พระธิดาคันธารับทราบแลว้ เสดจ็ ไปพร้อมกับนางกำนลั ทั้งสอง ระหวา่ งทาง นางสองคนนีย้ งั ตดิ ใจเร่อื งชายหนุม่ รปู งามคนนนั้ จงึ ทูล บอกพระธดิ า “เมื่อตอนท่ีหม่อมฉันไปหาพระธิดา หม่อมฉันสองคนเห็นผู้ชายคน
64 อ้อมลอ้ มต่อมคำ หนง่ึ อยู่ในหอ้ งด้านหลงั ปราสาทเพคะ” พระธดิ านึกรไู้ ด้ทนั ที วา่ นางกำนัลเหน็ รปู จริงของตอ่ มคำเข้าแล้ว แต่ เฉไฉตอบไปวา่ “เจ้าสองคนตาไม่ดีกระมัง เจ้ารีบเดินมา เหน่ือยๆ ร้อนๆ อาจจะ ตาลาย เห็นเปน็ น่นั เปน็ น่ไี ปได้” “อูย...ไม่หรอกเพคะ เห็นเต็มสองตา ท้ังหม่อมฉันและนางนวลนะ เพคะ” นางน้อยยนื ยัน “ถ้าง้นั คงเป็นภาพลวงตา” “ภาพลวงตา” พูดพร้อมกันดว้ ยน้ำเสยี งตระหนกตกใจ “ฉันหมายถึงเจ้าทท่ี ี่รกั ษาปราสาท” พระธดิ าจำตอ้ งปิดบังความจรงิ “แหม...เฮี้ยนจังเลยนะเพคะ” พูดด้วยนำ้ เสียงสน่ั ๆ หวาด ๆ พระธดิ าได้ที จงึ สำทบั ตอ่ ไปว่า “คราวหนา้ คราวหลัง ถ้ามาหาเราไม่พบ ก็รอเราอยู่แถวประตูน่ัน ไม่ ต้องเดินไปทางนนั้ ทางนี้ เจ้าอาจจะเจอดีย่ิงกว่านี้กเ็ ปน็ ได”้ “เพคะ เขด็ แลว้ เพคะ“ เมื่อพญาพรหมทัตเห็นหน้าพระธิดาทรงคิดไปว่า พระธิดาคงไม่มี ความสุขสักเทา่ ใด “ต่อมคำสร้างปญั หาอะไรใหแ้ กเ่ จา้ บ้างไหม คันธา” “ไมม่ ปี ญั หาใดๆ เลยเพคะเสดจ็ พอ่ พต่ี อ่ มคำเปน็ ผทู้ เี่ ขา้ ใจจติ ใจลกู ด”ี “ถา้ เจา้ อดึ อดั คบั ขอ้ งใจอะไรกบ็ อกพอ่ มาเถดิ ” พระบดิ ายงั ไมป่ กั ใจเชอื่ แตพ่ ระธดิ าคนั ธากพ็ ดู เหมอื นเดมิ “ลกู มคี วามสุขเพคะ เราไมม่ ีเร่ืองผิดใจอะไรกนั ”
อ้อมอ้ มตอ่ มคำ 65 พระบิดาได้ฟังคำตอบอย่างหนักแน่นของพระธิดาแล้ว จึงเปลี่ยน เรอ่ื งใหม่ “ในอีกสามวันข้างหน้า จะมีเจ้าชายจากเมืองมิถิลามาเยี่ยมยังเมือง เรา พอ่ อยากให้เจ้าและต่อมคำช่วยรบั แขกแทนพอ่ กับแม่ดว้ ย” “ไดเ้ พคะเสด็จพอ่ ” “แลว้ เจา้ ไมร่ สู้ กึ อะไรบา้ งหรอื ทตี่ อ้ งพาตอ่ มคำมารว่ มตอ้ นรบั แขกดว้ ย” “ลกู ไมร่ สู้ กึ อนั ใดเพคะ” ทลู บอกตรงไปตรงมา และทลู เสรมิ ตอ่ ไปอกี วา่ “ลูกและพี่ต่อมคำจะทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ไม่ขายหน้าเสด็จพ่อและ เสดจ็ แมอ่ ย่างแนน่ อนเพคะ” “อย่างสมบูรณ์รึ” พระบิดาทวนคำ แลว้ กล่าวตอ่ “ด้วยการทเ่ี จา้ พูดคุยกบั แขก แลว้ มีสามขี องเจา้ ทม่ี ีแตห่ วั กลมๆ กล้ิง ตามหนา้ ตามหลังน่นี ะ” พญาพรหมทตั เรม่ิ เสยี งเขม้ ขนึ้ อารมณไ์ ม่ดี “เจา้ ไมค่ ำนงึ ถงึ เกยี รตยิ ศ หนา้ ตาของพอ่ แมแ่ ละตวั เจา้ เองบา้ งหรอื ไร!” “เสด็จพอ่ หมายความว่ากระไรเพคะ” พญาพรหมทัตคิดว่า คงต้องพูดกับพระธิดาองค์น้อยอย่างเด็ดขาด แลว้ จึงตรสั ว่า “พอ่ ไม่ปรารถนาใหเ้ จา้ มสี ามที อี่ ัปลักษณ์เช่นน้ตี อ่ ไป” “เสด็จพ่อหมายความว่า” “ใหต้ อ่ มคำไปอยูท่ อ่ี ่นื เสีย แล้วพอ่ จะให้เจ้าเลอื กชายใหม่ท่ีเหมาะสม มารว่ มขตั ตยิ วงศ์กบั เรา เจ้าเข้าใจใชไ่ หมลูก”
66 อ้อมล้อมต่อมคำ พระธิดาคันธาท้ังตกใจและเสียใจ ไม่คิดว่าเสด็จพ่อจะขับไล่ไสส่ง ต่อมคำได้ลงคอ “ว่าอยา่ งไรเล่าคันธา เจา้ จะทำไดไ้ หม” พระธดิ าคดิ หนกั เพราะไมอ่ ยากใหเ้ สดจ็ พอ่ ตอ้ งโกรธกรวิ้ ไปมากกวา่ นี้ จึงตอบว่า “ขอเวลาใหล้ ูกคิดสกั สองวนั เพคะ” “ถา้ เจ้าตอ้ งการอยา่ งนน้ั ก็ได้ หวงั วา่ เจา้ คงไม่ทำใหพ้ ่อแม่ตอ้ งผิดหวัง และเสียใจนะ” จากนัน้ ท้งั สองพระองค์กแ็ ยกยา้ ยกนั ไปยงั ทปี่ ระทบั ของตน ต่างคน ต่างคิดจะให้เร่ืองจบลงในทางที่ตนต้องการ แล้วใครจะเป็นผู้ช้ีทางออกใน เร่อื งน้ีได้เล่า
ออ้ มอ้ มตอ่ มคำ 67 หก ปริศนาพระอนิ ทร์
68 อ้อมลอ้ มตอ่ มคำ
อ้อม้อมตอ่ มคำ 69 ปรศิ นาพระอนิ ทร์ พระธิดาคันธาทุกข์ใจมาก ไม่รู้จะทำประการใดดี จึงชวนนาง เลีย้ งสองคนไปยังวิหาร “พสี่ องคนไปกบั ฉนั ทเี ถดิ ฉนั มเี รอ่ื งไมส่ บายใจ อยากไปกราบองคพ์ ระ ในวหิ าร” “ไม่ต้องบอกใครนะ ฉันอยากไปเงียบๆ ไม่อยากพูดคุยกับใคร” กำชบั นางพเ่ี ล้ยี งไวก้ ่อน ขณะท่ีพระธิดาคันธาไหว้พระอยู่นั้น ท้องฟ้าที่สดใสพลันเปลี่ยนเป็น สีเทาครึ้ม มลี มพัดแรง ราวกบั เทวดาเบือ้ งบนรับรู้ ณ สวรรคช์ ัน้ ดาวดึงส์ท่ปี ระทบั ของพระอนิ ทร์ “ท่านองค์อินทร์จะทำประการใด ถ้าไม่ช่วยพระธิดาหาทางออก ต่อมคำจะต้องเดือดร้อนหนกั แน”่ เทวดาผู้ใหญอ่ งค์หนึ่งถามพระอนิ ทร์ “เรากำลังคิดวิธีเหมาะๆ ไปช่วย แล้วจะได้สั่งสอนให้พญาพรหมทัต รู้ผดิ ชอบช่ัวดยี ่งิ กวา่ นี้”
70 อ้อมลอ้ มต่อมคำ “แลว้ ท่านจะทำอย่างไร” “คอยดูละกัน จบเรื่องน้ีแล้ว ต่อมคำกับพระธิดาจะอยู่กันอย่างมี ความสุขจรงิ ๆ เสียที” “เราขอเอาใจช่วยทา่ นนะ ท่านอินทรา” ตกเยน็ ของวันถัดไป ขณะที่พระอาทิตยก์ ำลังจะลบั เหลย่ี มเขา ทหาร และชาวเมืองพาราณสีต้องพากันแตกตื่น ชี้ชวนกันดูสิ่งใดสิ่งหน่ึงท่ีลอย อยเู่ หนือยอดปราสาทวังหลวง “นน่ั อะไร นนั่ อะไร!...” หลายคนพยายามเพ่งดู แต่ก็มองไม่ถนัด เพราะลำแสงสีขาวนั้น ม้วนตลี ังกาไปมา “เจ้าว่ามันคืออะไร ข้าดูไม่ออกเลย” ทหารคนหนึ่งถามเพ่ือนทหาร ด้วยกัน “ข้ากไ็ มร่ เู้ หมอื นกนั ” พูดแลว้ ก็ส่ายหน้า สหี นา้ สงสยั มาก “มันจะเปน็ อนั ตรายไหม” ทหารคนเดมิ ซกั เพอ่ื นตอ่ “แล้วข้าจะรู้ไหมเน่ีย ข้าไม่ใช่ไอ้แสงน่ันสักหน่อย!” เพ่ือนที่ถูกถาม ชกั รำคาญ “ข้าว่าอย่ามัวแต่ถามกันอยู่เลย เรารีบไปกราบทูลให้พระราชาทรง ทราบดกี วา่ ” “เออดี...ไปกไ็ ป...” พญาพรหมทัตหลังเสวยอาหารเย็นแล้ว กำลังจะพักผ่อน เมื่อได้ยิน เสียงคนเอะอะอยดู่ า้ นนอกจึงเสด็จออกไปดู “เสยี งดงั อะไรกัน” ตรสั ถามทหารวงั
อ้อมอ้ มต่อมคำ 71 ยังไม่ทันท่ีทหารวังคนนั้นจะตอบ ทหารอีกสองนายที่เฝ้าประตู ปราสาทกม็ าถงึ น่ังคุกเขา่ เลา่ เรอื่ งตามที่เหน็ มา “ง้ันเราจะไปดเู ด๋ียวน้”ี “ทรงระวังองคน์ ะพะยะค่ะ ไม่รูว้ ่ามันคืออะไรกนั แน”่ “ข้าพระพุทธเจ้าคดิ วา่ อย่าเพ่ิงเสดจ็ เลย” ทหารวงั เป็นหว่ ง “ให้ข้าพระพทุ ธเจา้ ไปสบื ดู จะดกี วา่ พะยะคะ่ ” “ไมเ่ ปน็ ไร เราไม่กลัว” พญาพรหมทตั ตรัสแล้วเสดจ็ ทันท ี เหล่าทหารท้ังหลาย ท้ังขุนนาง เสนาอำมาตย์ พากันทยอยมา ยังหนา้ ปราสาททเ่ี กดิ เหต ุ เมื่อพระอินทร์จำแลงเห็นว่าพญาพรหมทัตออกมาแล้ว ก็แปลงกาย จากลำแสงสขี าวกลับมาเปน็ เทวดาผูส้ ง่างาม เหาะเหินอยบู่ นอากาศ แสงระยบิ ระยบั แพรวพราวเตม็ ทอ้ งฟา้ ตดั กบั แสงมดื ที่ใกลพ้ ลบคำ่ “โอ้โห...นนั่ เทวดาเหาะมาหรอื น่ัน” ผคู้ นย่ิงฮอื ฮายง่ิ กวา่ ตอนเหน็ ลำแสงสีขาว “เทวดาจรงิ ๆ ชา่ งเป็นบุญตาของข้าแท”้ เสียงซบุ ซบิ เซง็ แซ่กันไม่หยดุ ปาก “เงียบๆ พระราชามาแล้ว...” ใครคนหนึง่ ร้องบอก องคท์ ้าวอินทราเมอ่ื เหน็ พญาพรหมทัต จึงกลา่ วข้ึนว่า “พญาพรหมทัต...เจ้าเองได้ชื่อว่าเป็นกษัตริย์ ย่อมมีบุญญาธิการ อันสูงส่ง” “และเพ่อื ใหท้ า่ นเปน็ ผ้มู บี ารมียิง่ ขึน้ ทา่ นจงตอบปญั หาเราใหถ้ ูกต้อง ท้ังส่ขี อ้ และเหาะข้นึ มาแขง่ ตีคลกี บั เรา” “ถ้าท่านตอบได้ ท่านจะเป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้ปกครองแว่นแคว้น
72 อ้อมลอ้ มต่อมคำ น้อยใหญ่ และท่านจะได้รับการกล่าวขวัญ ถึงความมีปัญญาบารมีของ “แต่ถ้าท่านตอบไม่ได้ หรือหาคนไปตอบแทนท่านไม่ได้ เราจะไม่ไว้ ชวี ติ ทา่ น...” พระอินทร์กลา่ ว “เราจะใหเ้ วลาเจ้าคิดแกป้ ัญหาปริศนาน้ี เจด็ วนั ปญั หามอี ยวู่ ่า” แลว้ ทา่ นองคอ์ นิ ทรก์ ต็ ง้ั คำถาม จนครบสข่ี อ้ กอ่ นจะเหาะกลบั สวรรค์ พอฟงั จบ พญาพรหมทตั ถงึ กับทอดถอนพระทัย
อ้อม้อมต่อมคำ 73 “ใครจะตอบได้ อยา่ วา่ แตจ่ ะแกป้ ญั หาปรศิ นาธรรมเลย” พญาพรหม ตรัสบน่ กบั พระนางสิริพมิ พา เมอื่ อยกู่ นั ตามลำพัง “แค่เหาะข้ึนไปหา ยังไม่รู้ว่าจะไปหาใครที่สามารถเหาะขึ้นไปแทน ตวั เราได”้ พญาพรหมทัตกงั วล “ถ้าเสด็จพ่ีไม่สามารถเหาะได้ เสด็จพี่ไม่ลองถามราชบุตรเขยท้ังสอง ของเราดลู ะ่ เพคะ”
74 ออ้ มลอ้ มต่อมคำ “จรงิ สนิ ะ พี่ลืมนกึ ไปเลย” ตรสั จบกท็ รงเรียกทหารมาเข้าเฝา้ โดยเรว็ พญาพรหมทัตมรี ับสง่ั ให้ทหารไปเชิญราชบุตรเขยมาเข้าเฝ้า ไม่นานนกั เจ้าเขยทั้งคกู่ ็มาถึง “พวกเจ้ามาก็ดแี ล้ว พอ่ มเี ร่ืองจะให้ชว่ ย” “ใครสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้บา้ ง” พญาพรหมทตั ถาม ฝ่ายเขยท้ังสองได้ยินคำถามแบบน้ี ต่างมองหน้ามองตากันเล่ิกลั่ก ไม่สามารถตอบได้ “ว่าอย่างไร มองหนา้ กันทำไม ใครมีฤทธท์ิ ำไดบ้ ้าง” พญาพรหมทัต อยากไดค้ ำตอบไวๆ เขยสองคนจึงกระซิบกระซาบถามกัน ในท่ีสุดเขยใหญ่องค์โตเป็น ผูต้ อบแทน “พวกขา้ พระพทุ ธเจา้ ทง้ั สองมคี วามสามารถในเชงิ รบพงุ่ และวางแผน การส้รู บ” แล้วพดู ตอ่ อยา่ งลำบากใจว่า “แต่ไม่สามารถเหาะไปเหาะมาอยู่บนฟ้าได้ ขออภัยด้วยพ่ะย่ะค่ะ เสด็จพ่อ” “สรปุ วา่ ไมม่ ีใครเหาะได้” “พ่ะย่ะคะ่ ” ตอบรับพร้อมกัน เมื่อเขยท้ังคู่ลากลับไปหมดแล้ว พระมเหสีสิริพิมพานึก “อะไร” ขึ้นมาได้ จึงกลา่ วกบั พระสวามวี ่า “น้องวา่ ยงั มีอกี คนหนึ่งนะเพคะเสด็จพ่ี ที่ยงั ไม่ได้ถาม” “แล้วเจา้ คนคนนอ้ี าจสามารถเหาะไดน้ ะเพคะ” มเหสีเสนอ
อ้อมอ้ มต่อมคำ 75 “ใครล่ะ ใครกนั ” “ลกู เขยคนเล็กของเรายังไงล่ะเพคะ” พญาพรหมทตั ลบู คาง ครนุ่ คดิ อยู่แต่ในใจไมไ่ ด้พูดออกมา “พรุ่งน้แี ลว้ ที่คนั ธาจะต้องตัดสนิ ใจเร่อื งเจ้าตอ่ มคำ” “อมื ...อมื ...ได้การแลว้ เสร็จเราแน่เจา้ ต่อมคำ” เช้าวันรุ่งขึ้นพญาพรหมทัตร้อนใจ รีบให้คนไปรับพระธิดาคันธา และเจ้าต่อมคำเขา้ เฝ้าดว่ น พระธดิ าจงึ นำพานมารองตอ่ มคำ แลว้ ยกไปเขา้ เฝา้ พระบดิ าพรอ้ มกนั เมื่อท้ังสองมาถึง พญาพรหมทัตจึงตรัสเล่าเร่ืองทั้งหมดให้คน ท้ังสองฟัง เมอ่ื เลา่ จบ ทรงให้สัจจะสัญญาวา่ “ถ้าเจา้ ตอ่ มคำสามารถทำได้ทุกอย่างตามนี้ มีชยั ชนะเหนือเทวดา” “เราจะยกทรพั ยส์ มบัตแิ ละบา้ นเมอื งให้ครอบครองสืบตอ่ จากเรา” ทุกคน ณ ที่น้ันต่างตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าพญาพรหมทัตจะยินยอม สละราชสมบัตใิ ห้แก่ต่อมคำ เขยผอู้ าภพั ในรูปรา่ งหน้าตา “ทำได้ไหมต่อมคำ” พระมเหสถี ามด้วยนำ้ เสียงปรานี ตอ่ มคำคิดว่า ถงึ เวลาแล้วท่ีทกุ คนจะไดร้ จู้ กั ตวั ตนจรงิ ๆ ของตนเสียที และจะใชเ้ หตุการณน์ ้ีเปิดเผยความจรงิ ท้งั หมด จึงตอบว่า “ได้พ่ะย่ะค่ะ ข้าพระพุทธเจ้าเหาะได้ และเข้าใจในปริศนาธรรมทั้ง ส่ขี อ้ “ “โอ้...ยอดมากเลยต่อมคำ ยอดมาก” พระมเหสียกนิ้วให้ พร้อม กลา่ วชม
76 อ้อมล้อมตอ่ มคำ “เจา้ ทำไดท้ ้งั หมดแน่นะ” พญาพรหมทตั ถามย้ำใหแ้ นใ่ จ “ทำได้แนน่ อนพะ่ ยะ่ ค่ะ” “ถ้าไม่ได้ เจ้าคงถูกเทวดาเล่นงานจนแย่ไปเอง” พญาพรหมทัตตรัส เตือนไว้กอ่ น กลับถึงที่พักในปราสาทน้อยแล้ว ต่อมคำจึงบำเพ็ญบารมีโดยการ น่งั สมาธิ รอวันตามกำหนดนดั หมาย
ออ้ มอ้ มตอ่ มคำ 77 เจ็ด แกป้ ริศนา
78 อ้อมลอ้ มตอ่ มคำ
ออ้ มอ้ มตอ่ มคำ 79 แก้ปรศิ นา เช้าวันที่เจ็ด เป็นวันที่ท่านท้าวอินทราจะมาตามนัดหมาย เหล่า ทหาร ข้าราชบริพารท่ีเก่ียวข้องต่างขมีขมันขันแข็ง จัดเตรียมสถานท ี ่ ให้พรอ้ มสำหรับการประลองในคร้งั นี ้ ทางด้านปราสาทของพระธิดาคันธา ตอนนี้มีผู้คนมากมายจนเต็ม ปราสาท แตต่ อ่ มคำยังไม่ออกมาจากปราสาทนอ้ ย “เจ้าต่อมคำแต่งตัวเสร็จหรือยังนะ” นางกำนัลผู้ดูแลปราสาทชั้นใน ถามเพอ่ื นของนาง “ไม่รสู้ ินะ ฉนั ไมเ่ ห็นตั้งแต่เช้าแลว้ ” “เอ๊ะ...หรือว่าเปลย่ี นใจ ไมอ่ อกไปสูห้ นา้ เทวดา” “จะเปล่ียนใจได้อย่างไร ขนื ทำแบบนี้พระธดิ ากแ็ ยน่ ่ะสิ” “เจา้ สองคนมายนื คยุ อะไรกนั อยู่ ไปจดั เตรยี มเครอื่ งเสวยแลว้ หรอื ยงั ” เสียงของนางนวล พระพ่ีเลี้ยงน่นั เอง
80 อ้อมล้อมต่อมคำ “เอ้อ...พ่ีนวลเจ้าขา พี่เห็นเจ้าต่อมคำไหม พวกเราจะเอาเคร่ือง ประดับไปให”้ “ข้าก็ไม่เห็นเหมือนกันนะ” “พี่วา่ มันแปลกๆ บา้ งไหม” นางกำนลั อีกคนกระซิบถาม “แปลกยงั ไง” นางนวลไม่เข้าใจ “วันนี้พระธิดาไม่ออกมากำชับดูแลเร่ืองการกินการอยู่ ข้าวของ เครือ่ งใช้ของเจ้าตอ่ มคำเลย” “อืม..ใช่ ๆ” บรรดานางกำนัลนางในทงั้ หลายตา่ งซบุ ซบิ สงสัยกันไปตา่ งๆ นานา ขณะท่ีทางด้านปราสาทของพระธิดาผู้พี่และราชบุตรเขย เม่ือเตรียม ตัวเสร็จแล้วต่างจับกลุ่มคุยถึงเรื่องต่อมคำขันอาสาปฏิบัติหน้าที่แทนพญา พรหมทัต “จะทำไดอ้ ยา่ งปากวา่ เหรอ” “สงสยั อยากประจบประแจงเสดจ็ พ่อเสดจ็ แม่มากกวา่ ” “พี่กว็ า่ อยา่ งนั้นแหละ” “ดูสนิ ี่ ปา่ นฉะนี้ยังไม่มากันทั้งคู่เลย” “ถ้าแพ้จะสมนำ้ หน้าใหเ้ ลย...ฮิ ๆ” ยง่ิ ใกลเ้ วลานดั หมาย พญาพรหมทตั ยง่ิ กระสบั กระสา่ ย ใจคอกระวน กระวาย เพราะกลวั ตอ่ มคำจะไม่มาหรือมาชา้ เกรงเทวดาจะโกรธได ้ “มาแลว้ ...มาแลว้ ...โย้” เสยี งคนภายนอกร้องบอกกันระเบง็ เซง็ แซ ่ พญาพรหมทัตคิด “อะไรมา”
อ้อม้อมต่อมคำ 81 “เทวดามาโน่นแลว้ เห็นแสงวิบวบั มาแตไ่ กล” “ท่ีแท้ก็เทวดา ท่านมาถึงก่อนเสียอีก เจ้าต่อมคำน่ียังไงกันนะ” พญาพรหมทตั นกึ ตำหนใิ นใจ คดิ แล้วกเ็ สดจ็ ไปต้อนรบั ขับสเู้ ทวดาไวก้ อ่ น “ตกลงท่านจะตอบปัญหากับเราหรือว่าส่งใครมาแทน” เทวดา ทรงถาม “เราขอสง่ บุตรเขยคนเลก็ มาตอบปรศิ นาและตีคลกี ับท่าน” “แล้วไหน เขยของเจา้ อยู่ทไี่ หน” พญาพรหมทตั จำเป็นตอ้ งตอบว่า “รอสักนดิ กำลังให้นางกำนลั แต่งตัวอยู่ ไม่ช้ากค็ งมาถึง” ขณะทพี่ ญาพรหมทตั กำลงั แหงนพระศอคุยกับเทวดาอยู่ ทุกคนในทแ่ี ห่งนน้ั ต้องพากันตาโต แตกตื่น มีเสียงอึงมี่ขึ้น บนท้องฟ้ากลางหาวน้ัน มีหนุ่มน้อยสำอางองค์คนหนึ่ง กำลัง แล่นเหาะ ลอยมาอยา่ งชา้ ๆ นางกำนัลสองคนทร่ี บั ใช้ในปราสาทหลวง จำพอ่ หนุ่มคนนีไ้ ด้ จึงรอ้ ง บอกใครๆ “ดูสิ ...ขนาดเทวดาเจ้าที่ ท่ีปราสาทน้อยของพระธิดาคันธายังมา เปน็ สักขีพยานดว้ ยเลย” นางจำคำท่ีพระธดิ าคนั ธาเคยบอกเอาไว ้ “ฮ่า...ฮ่า..ฮ่า...” เทวดาหัวเราะร่วนเสียงดังก้องฟ้า แล้วบอกกับ ทกุ คน
82 อ้อมลอ้ มตอ่ มคำ “พวกเจา้ เขา้ ใจผิดแลว้ น่นั ไมใ่ ชผ่ ีเจา้ ท่ี เทวดาเจา้ ที่อะไรท่ไี หน” “นน่ั คอื เจา้ ออ้ มลอ้ มตอ่ มคำ เขยคนเลก็ ของพญาพรหมทตั ตา่ งหาก” “ออ้ มลอ้ มตอ่ มคำ ทมี่ แี ตห่ วั กลมๆ กลง้ิ ๆ เกลย้ี งๆ นะ่ หรอื ” พระ ผพู้ ่ีคนหน่งึ เอย่ ถาม “ถูกแล้ว น่ีพวกเจ้าเพ่ิงจะมีโอกาสได้เห็นตัวจริงชัดๆ วันน้ีล่ะสิ” เทวดาบอกใหร้ ู้ ใครๆ ต่างพากันมองรูปกายจริงของต่อมคำอย่างชื่นชม เพราะ งดงามดงั เทพป้ันมา “งามเหลอื เกิน ราวกับเทพบุตรลงมาเกิด” “หลอ่ เหลาเอาการขนาดน้ี ทำไมเอาแตซ่ ุกอยู่ในหัวกลมๆ ได้นะ” “ช่างน่าอศั จรรย์จริง ท่ีตอ่ มคำถอดรูปได้ แล้วเหาะได้ด้วย” พระมเหสียงั ไมห่ ายตน่ื เตน้ ท่ไี ดเ้ หน็ ตอ่ มคำในรูปกายเชน่ น้ ี และบางคนยงั ชะเง้อคอมองตามต่อมคำที่เหาะลอยไปลอยมา “เจา้ พร้อมแล้วใช่ไหมต่อมคำ” เสยี งพระอนิ ทรถ์ าม เพ่ือบอกใหใ้ ครๆ ร้วู า่ การไขปริศนาธรรมกำลงั จะเร่มิ แลว้ “พร้อมแลว้ ทา่ นองคอ์ ินทร”์ ตอ่ มคำตอบ “ปรศิ นาขอ้ แรก เราถามเจ้าว่าอย่างไร” “ถามว่า คนแก่แล้วกลับกลายมาเปน็ เดก็ นนั้ เปน็ เช่นไร” “แลว้ เจ้าจะตอบวา่ ” พระอินทรร์ อฟังคำตอบ “คนที่เม่ือยังอายุน้อย ไม่ค่อยสนใจการร่ำเรียน ไม่รู้จักใฝ่หาความรู้ ไว้ตงั้ แต่ยังเดก็ ” “อมื แล้วอยา่ งไรต่อ” พระอินทร์ซกั อีก
อ้อมอ้ มต่อมคำ 83 ฝ่ายชาวเมอื งและชาววังทั้งหลายต่างใจจดจ่อกับคำตอบของตอ่ มคำ ต่อมคำอธิบายตอ่ “ทั้งยังไม่รู้จักเชื่อฟังคำส่ังสอนของพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้เฒ่าผู้แก่ เมื่อแก่เฒ่าไปจะไร้ประโยชน์ เพราะเป็นแบบอย่างให้แก่คนหนุ่มคนสาว ไมไ่ ด้” จบคำตอบ มีเสียงแซ่ช้องสาธุการลอยมาจากสรวงสวรรค์ เทพยดาเปล่งเสียง ยินดีที่ผมู้ บี ญุ ไขปรศิ นาธรรมได ้ “เยีย่ มมากตอ่ มคำ เจา้ อธบิ ายไดถ้ ูกตอ้ ง...ผา่ น” พระอนิ ทรก์ ล่าวชม หลายคนทอี่ ยู่ ณ ท่ีนน้ั ปล้มื ปติ ิแทนจนน้ำตาซึม แล้วทุกคนก็ตง้ั ใจ ฟังคำถามตอ่ ไป “ปัญหาขอ้ ที่สองมีว่าอย่างไร” พระอนิ ทร์ถาม “ขอ้ ทส่ี องนี้ ฉันคิดอยู่หลายวนั ทีเดยี วกว่าจะได้คำตอบ” “ถามวา่ อยา่ งไรหรอื ” “ถามว่า หากคนท้ังหลายได้ชื่อว่าเป็นท้าวพญา แล้วเหตุใดจึงได้ช่ือ วา่ พญาพรหมทัต” “เจ้าจะตอบวา่ อยา่ งไร อธบิ ายให้ชัดๆ หน่อย” พระอินทร์ “ในบางตำนานได้บอกไว้วา่ พระพรหมเปน็ ผสู้ ร้างคนขึ้นมา” “คนทั้งหลายจงึ สบื เชอื้ สายมาจากพระพรหม ในวงศ์เดยี วกัน” “เมอื่ น้ัน ไม่วา่ คนคนนัน้ จะมชี อ่ื เรียกว่าอย่างไรก็ตาม” “จะใช้ชื่อเหมือนกัน ซ้ำกัน เช่นท้าวพญา หรือว่าจะต้ังช่ือแตกต่าง กัน” “ต่างมที ีม่ าจากเช้อื สายเดียวกนั ท้งั สิน้ ”
84 ออ้ มลอ้ มตอ่ มคำ “ซึ่งเรยี กว่า พรหมทตั อนั หมายถงึ พระพรหมเปน็ ผู้สรา้ ง หรอื ผใู้ ห”้ ตอ่ มคำอธิบายอยา่ งยดื ยาว “แล้วจะสรุปอยา่ งไรต่อ” พระอนิ ทรถ์ าม ตอ่ มคำให้คำตอบต่อไปวา่ “ฉะนัน้ เมือ่ คนท้ังหลายชอื่ ว่าเปน็ ท้าวพญา จึงสามารถเรยี กโดยรวม ในช่ือเดียวกนั ว่า พญาพรหมทัต ก็ย่อมได้ อันหมายถึงคนทั้งหลายมีท่ีมา จากพระพรหม ผูเ้ ปน็ ผใู้ ห้น่นั เอง” หลายคนแอบกลั้นหายใจไว้ เพราะกลัวจะไม่ได้ยินคำว่า ผ่าน หรือ ถูกตอ้ งจากพระอินทร์
อ้อม้อมตอ่ มคำ 85 และแลว้ เสยี งตบมอื อันกกึ ก้องทรงพลงั ก็ดงั มาจากมือพระอินทร์ “เจ้าเกง่ จริงๆ ตอบคำถามไดถ้ กู ตอ้ งถึงสองขอ้ แลว้ ” เสียงไชโยโหร่ ้อง ดงั ข้นึ มาจากชาวเมอื ง นักดนตรี ชา่ งฟ้อนออกมา ร่ายรำอยา่ งอ่อนชอ้ ย แสดงความยินดกี ับต่อมคำ “ต่อไปเป็นข้อที่สาม เราถามเจา้ วา่ อยา่ งไร” “ขอ้ น้ถี ามว่า สมมติวา่ คนทงั้ หลายเปน็ รถ เหตใุ ดจงึ ไดช้ อ่ื ว่าเปน็ รถ” ตอ่ มคำทวนคำถาม “แลว้ คำตอบของเจ้าคอื อะไร” ต่อมคำขยายคำตอบในข้อนี้วา่ “หากว่าใครๆ ตา่ งก็เปน็ รถ คนหนึง่ คนก็คือรถ มคี นท่เี ปน็ รถมาเพมิ่ อกี หน่ึงคน ก็ยงั คงเป็นรถอยู่เชน่ เดิม” “ดังนนั้ ไมว่ า่ จะเอาใครไปรวมกับใครจำนวนมากน้อยเทา่ ใด ยงั ออก มาเป็นรถเหมอื นเดมิ ไมเ่ ปล่ยี นสภาพไปเป็นส่งิ อืน่ ให้เรยี กเปน็ ช่ืออ่ืน” “ดว้ ยเหตุนี้ คนท้งั หลายทีเ่ ปน็ รถ ต่างก็ไดช้ ื่อว่าเป็นรถอยู่ด”ี “ยอดมาก สมเป็นผู้มีบญุ ญาบารมมี าเกิดอยา่ งแท้จริง” ได้ยินพระอินทร์พูดออกมาดังนั้นแล้ว นางกำนัลนางในวังท้ังหลาย ต่างโปรยขา้ วตอกดอกไม้ นำ้ ปรุง น้ำหอม เปน็ เครือ่ งสักการบูชาเทวดาและ พระอนิ ทร์ เสียงตีกลองตีฆ้อง เสียงปี่คลอไปกับเสียงสะล้อ และซึง ฟังแล้ว ซึ้ง ยินดไี ปกบั ตอ่ มคำ “เอา เอา วนั น้พี อเท่านี้ ให้เจ้าตอ่ มคำไปทบทวนคำตอบข้อสดุ ทา้ ย มาให้ดีกอ่ น” พระอนิ ทรใ์ ห้ยตุ ิไวเ้ ทา่ น้ี แล้วตรัสนดั หมายไว้ว่า
86 อ้อมล้อมตอ่ มคำ “พรุ่งน้ี ฟ้าแจ้งเรืองรองเมื่อใด ให้ออกมาตอบปริศนาข้อสุดท้าย และมาแข่งตีคลกี ับเราใหช้ นะ” กล่าวจบแลว้ พระอนิ ทร์ผูท้ รงเปน็ ใหญก่ ว่าเทวดาทง้ั ปวง กเ็ หาะเขา้ สู่ สรวงสวรรค์ทพิ ยว์ มิ านในทันใด ทุกคนที่อยู่บนลานหน้าปราสาทหลวง ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป พักผ่อน รอมาลุน้ กนั ใหมใ่ นวันพรงุ่ นี้
ออ้ มอ้ มตอ่ มคำ 87 แปด ชยั ชนะของตอ่ มคำ
88 อ้อมลอ้ มตอ่ มคำ
อ้อมอ้ มต่อมคำ 89 ชัยชนะของต่อมคำ แสงสีทองเรมิ่ จบั ขอบฟา้ “เฮย้ ...วันน้ีแหละเหวย ท่เี ทวดาจะตอ้ งรีบกลับสวรรค”์ “ทำไมละ่ ” “เพราะวา่ เจา้ ต่อมคำต้องสามารถเอาชนะเทวดาไดน้ ะ่ สวิ ะ เจ้าโง่” “ดูแกมั่นใจ เขา้ ขา้ งเจา้ ตอ่ มคำนะ” “ถา้ เปน็ คนธรรมดาๆ จะเหาะขึ้นไปบนฟ้าได้อยา่ งไรเลา่ ” “และอีกอย่างนะ เจ้าต่อมคำยงั ถอดรูปได้ แถมยงั แปลงกายออกมา หลอ่ กวา่ เทวดาเสยี อีก” “แกอยากจะบอกวา่ เจ้าต่อมคำเปน็ ผมู้ บี ุญญาบารมมี าก จงึ สามารถ ทำเช่นนนั้ ได้” “ถกู ต้อง...ถกู ตอ้ งแลว้ เฮ้อ ดูแกค่อยฉลาดข้ึนมาหน่อย...” “บะ๊ ...ไอ้นี่ วอนแต่เชา้ เลย” เสียงหมู่ทหารท่ีเฝ้าประตูวังพูดคุยกันเร่ืองเทวดากับต่อมคำจะมา แขง่ กัน
90 อ้อมลอ้ มต่อมคำ ทั้งชาวบ้านและชาวเมืองท่ีอยู่ในร้ัวในวัง ต่างพากันกล่าวถึงเรื่องน้ ี กันไปทั่วท้ังพารามาต้ังแต่เม่ือเย็นวาน ว่าการท้าตอบปัญหาของต่อมคำ เป็นท่ีถูกใจเทวดา และยังโจษจันเล่าถึงความพิเศษมหัศจรรย์ต่างๆ ของ ตอ่ มคำ ทีส่ ามารถซ่อนรูปไว้ใหม้ แี ตห่ ัวได้ พอถอดรปู ออกมากลับกลายเป็น ชายหนมุ่ หน้าตาดี และยังสามารถเหาะเหนิ เดนิ อากาศไดเ้ หมือนเทวดาดว้ ย ลว้ นแสดงว่าตอ่ มคำเป็นผ้มู ีบญุ ญาธกิ ารเปน็ อย่างมาก ใครๆ ท่ีได้ยินคำร่ำลือเช่นน้ัน ต่างพากันมาเฝ้าดูเฝ้ารอช่ืนชมใน บารมี และเอาใจชว่ ยให้ต่อมคำมีชัยชนะในการประลองตคี ลกี ับเทวดา “ไม่น่าเช่ือเลยนะ ว่าไอ้เจ้าหัวกลมๆ แบบต่อมคำ จะมีฤทธ์ิมีบุญ เหนือกว่าคนทั่วๆ ไป” หมู่พ่ีสาวและพี่เขยของพระธิดาคันธาพูดถึงต่อมคำด้วยความริษยา หมัน่ ไส้ “ลองดูมันในวันนี้แล้วกัน ว่าจะตอบปัญหา และเอาชนะเทวดาได้
ออ้ มอ้ มตอ่ มคำ 91 “ถา้ มันทำได้ล่ะ” “พีก่ ็จะยอมรับมัน” พระธดิ าผู้พอี่ กี คนเรมิ่ ใจออ่ นลง “พี่กเ็ ชน่ กนั เพราะถ้าต่อมคำมีฤทธ์ิมีปญั ญาถงึ เพียงน้นั แลว้ ” “พี่ว่าพวกเราก็ควรจะช่ืนชม ยกย่องเขาได้แล้วนะ” เขยองค์โตพูด สนับสนนุ “เพราะถึงอยา่ งไรเสีย ตอ่ มคำกค็ ือสามขี องน้องคันธา” “ที่สำคัญก็คือ เสด็จพ่อจะยกเมืองให้ต่อมคำปกครอง ถ้าเทวดา ยอมแพ!้ !” เม่ือเขยองค์รองพูดเร่ืองน้ีแล้ว ทุกคนต่างเงียบไปอย่างไม่รู้จะพูด อะไรต่อดี ได้แต่คิดในใจกันว่า จะรอด ู ตอนนี้ บริเวณลานหน้าปราสาทหลวงมีผู้คนมากมาย ทั้งที่เป็นคน จากเมืองพาราณสีเองและคนจากต่างเมืองหรือละแวกใกล้เคียง พากัน แห่แหนรอดูการแข่งขันระหว่างเขยองค์เล็กผู้หล่อเหลาและปราดเปร่ือง กับเทวดาผูท้ รงฤทธ์ิและหน้าตาดีไม่แพก้ ัน บางคนมาจับจองพน้ื ทีต่ ง้ั แต่ไก่โห่ จะได้ดูให้ชัดๆ ใกล้ๆ บางคนหอ่ ข้าวห่อปลามานั่งกินกันอย่างเอิกเกริก และบางคนถึงกับท้าพนันขันต่อ กันเอง ว่าใครจะชนะใคร ขณะที่ผู้หญิงบางคนก็ถือโอกาสแต่งตัวสะสวย เพื่อเปิดโอกาสใหต้ วั เองไดเ้ ลือกคู่ในวันนด้ี ้วย ทุกคนต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มเบิกบาน ราวกับมารอดูมหรสพครั้งสำคัญ เสียงดนตรีป่ีฆ้องดังสน่ันอื้ออึงไปท้ังบริเวณ กล่ินหอมของดอกไม้ นานาพรรณ ท้ังน้ำหอมน้ำปรุง แป้งร่ำจากตัวนางใน และจากขัน จาก ท่ีเตรียมไว้สาดพรมยามท่ีต้องร่วมแสดงความยินดีกับต่อมคำ และเอาไว้ ตอ้ นรับเทวดา มกี ล่ินหอมออ่ นๆ ฟุ้งขจรขจายไปทว่ั
92 อ้อมล้อมต่อมคำ ฝ่ายแม่จันทร์ท่ีพระมเหสีสิริพิมพาให้คนจัดขบวนเสล่ียงไปรับตัว มาเข้าวังต้ังแต่เมื่อวาน และพักอยู่ท่ีปราสาทน้อยของพระธิดาคันธา ตอน กำลังสาละวนช่วยแต่งตัวให้ต่อมคำอยู่ ซ่ึงตอนนี้ไม่จำเป็นต้องซ่อนหัว ซ่อนรปู อกี แล้ว เมื่อแต่งองค์ทรงเครื่องเรียบร้อยแล้ว ต่อมคำตรงไปท่ีหอพระ ไหว้ พระขอพรส่ิงศกั ดส์ิ ิทธ์ิใหเ้ มตตาคุ้มครอง แล้วหันมาไหวจ้ นั ทรด์ ว้ ยพวงมาลยั มะลพิ น้ื เมอื งดอกอวบโต
อ้อมอ้ มตอ่ มคำ 93 “โชคดีมีชัย คุณพระคุณเจ้าคุ้มครองนะลูก ขวัญเอยขวัญมา มาสิง มาสู่....” วา่ ดังนนั้ แลว้ จันทร์ก็หยบิ เอาเสน้ ฝ้ายมามัดขอ้ มือใหต้ อ่ มคำ พร้อม ใหพ้ รไปด้วย ต่อมคำมีกำลังใจทั้งจากแม่และจากใคร ๆ จึงต้ังใจว่า ในวันนี้จะ ทำให้ดที ีส่ ดุ เมื่อพร้อมแล้ว ท้ังต่อมคำ แม่จันทร์ พระธิดาคันธา และหมู่คณะ นางในนางกำนัลท้ังหลาย ต่างยกขบวนมายังพลับพลาท่ีประทับหน้า ปราสาทหลวง มาถึงก็ตรงไปเข้าเฝ้าพญาพรหมทัตและพระมเหสีสิริพิมพา ทุกคน ตา่ งปติ ยิ ินดใี นการมาคร้ังน้ีของตอ่ มคำ ไม่นานนกั ขบวนของพระอนิ ทรก์ ็ค่อย ๆ ลอยตำ่ ลงมาจากฟากฟา้ “วู.้ .วู.้ ..มานนู่ แลว้ ” ชาวเมืองชมี้ ือบอกกันยกใหญ ่ “วนั นี้มนี างฟ้านำทางมาด้วย” “แมเ่ จา้ โวย้ สวยจรงิ ๆ พับผา่ สิ” เหล่านางฟ้าลอยอยู่ลิบ ๆ ทรงเครื่องกันอย่างแพรวพราว เสียง เครอื่ งประดบั สรอ้ ยแหวนกำไลกระทบกันดัง กรุง๋ กรงิ๋ ...กรุ๋งกรง๋ิ และมีกลนิ่ หอมชวนชื่นใจกำจายมาแต่ไกล ๆ “นางฟา้ ทงั้ สวยท้งั หอมอย่างน้ีน่เี อง” ชายหน่มุ บางคนถงึ กบั เพ้อ แต่นางฟ้าไม่ได้ลอยต่ำมาใกล้ ต่างจากพระอินทร์ที่เหาะมาลอยอยู่ ใกล้ปะรำพธิ ี และวันนี้ท่านทรงเครอ่ื งมาอยา่ งอลงั การเต็มยศ...
94 ออ้ มลอ้ มต่อมคำ ทุกคนพนมมือไหว้สาพระอินทร์และเทพยดานางฟ้าท้ังหลาย พร้อม กับเสยี งสวดมนต์ดงั แผว่ ข้นึ มาจากพระและผู้รว่ มพธิ ี เสร็จพิธีการสักการะไหว้สาเทวดาแล้ว การตอบปัญหาธรรมของ เทวดาก็เร่ิมต้นขึ้น ซึ่งวันนี้มีเพียงข้อเดียว และเป็นข้อที่ต่อมคำจะต้องใช้ ปัญญาญาณทางดา้ นธรรมะมาตีความ จึงจะไขปรศิ นานไ้ี ด้ “เปน็ อย่างไรเล่าต่อมคำ หวังวา่ เจา้ คงจะมีคำตอบให้เราได้นะ” พระอินทรท์ กั ทายตอ่ มคำ และถามต่อ “เราต้งั คำถามขอ้ นีไ้ วว้ ่ากระไร”
ออ้ มอ้ มต่อมคำ 95 “พระองคท์ รงถามว่า อะไรที่รุ่งเรืองท้งั ในโลกน้ีและในโลกหน้า” “แล้วเจา้ จะตอบวา่ อยา่ งไร” ต่อมคำอยูใ่ นอาการสขุ มุ กล่าวตอบอยา่ งชา้ ๆ ชดั ๆ วา่ “คำวา่ โลกนี้ คือผทู้ ่อี ยู่ในชาติภพปจั จุบันน้ี วันน”้ี “สว่ นโลกหนา้ หมายถึงผทู้ ี่ได้ไปเกดิ ในชาตภิ พหน้า เป็นอนาคต” “ฉะน้ัน ถ้าต้องการความเจริญรุ่งเรืองทั้งในชาติปัจจุบันนี้ และใน ชาติหนา้ หรอื โลกหนา้ ” “จะต้องเป็นคนที่ปฏิบัติธรรมจนมีปัญญา รักษาศีลห้า หรือศีลแปด อยู่เสมอ” “และยังประพฤติตนเป็นคนเอ้ือเฟ้ือเผ่ือแผ่ เสียสละ ให้ทาน มี เมตตา“ “ไม่มีจิตใจละโมบ คิดคดอยากไดข้ องของผอู้ ืน่ ” “นอกจากนี้ ยงั มีความกตญั ญู ตอบแทนบุญคณุ ผมู้ พี ระคุณ” “เชน่ อปุ ถัมภค์ ำ้ ชดู แู ลพอ่ แม่ในยามปว่ ยไขแ้ ละชราภาพ เช่ือฟงั และ นบั ถือผู้เฒา่ ผ้แู ก่” “เมอ่ื ทำได้ดงั นี้แลว้ จะมีความสขุ ความเจริญร่งุ เรอื งในชีวติ ” “ประกอบกิจการใดกป็ ระสบผลสำเร็จ ทัง้ ในชาตนิ ี้ วนั น้ี และมีผลไป ถึงอนาคตในชาตหิ นา้ ด้วย” หลงั จบส้ินคำอธิบายในปรศิ นานนั้ แล้ว เสยี งสาธยายมนต์ และเสยี ง สาธุการด้วยภาษาท่ีมนุษย์ท่ัวไปจะแยกโสตการได้ยินได้ยากว่าออกเสียง อย่างไร ดังแผว่ ๆ แวว่ ๆ ซอ้ นๆ มาแต่ไกลๆ จากบนสวรรค์ น่ันเปน็ นิมติ ทดี่ ี บง่ บอกให้ร้วู ่า “ตอ่ มคำตอบถกู ตอ้ งแล้ว”
96 อ้อมลอ้ มต่อมคำ เม่ือชาวเมืองแน่ใจว่า เป็นคำตอบท่ีใช่แน่แล้ว พากันโห่ร้อง แสดง ความยนิ ดีปรดี ากันถ้วนหน้า บางคนก็หนั มาคุยกนั ถงึ ความฉลาด มคี วามสามารถในทางธรรมของ ต่อมคำ เสียงเรียกชื่อต่อมคำ ต่อมคำ ดังมาเป็นระยะๆ จากคนหนุ่มที่คึก คะนอง บ้างก็ออกมาตบมะผาบทำท่าต่อสู้กันด้วยมือเปล่า บ้างก็ขับซอ แสดงความดีใจแตกตา่ งกนั ไป “เป็นอันว่าการตอบปัญหาปริศนาธรรมของเจ้า เจ้าตอบได้ถูกต้อง ทุกข้อ” พระอนิ ทร์กล่าวขึ้น “ตอนนี้เหลือเพียงการประลองตีคลีแข่งกับเรา เพื่อแสดงความ สามารถอีกด้านหนง่ึ ของเจ้า เจา้ พรอ้ มหรือยังต่อมคำ” ต่อมคำสูดลมหายใจเข้าไปเต็มปอด เพ่ือให้เกิดความกล้าและความ เข้มแข็งขึ้น เนื่องจากต่อมคำไม่เคยตีคลีมาก่อน ได้เพียงลองหัดๆ เล่น เมอื่ ไม่กวี่ ันมานี ้ “เรามีมา้ ใหเ้ จ้าเลือก” องค์อินทร์ท่านเมตตา เปิดโอกาสให้ต่อมคำได้เลือกม้าจากสวรรค์ ฝีเทา้ ดี ลักษณะด ี ม้าตัวงามๆ ปรากฏต่อหนา้ ใหเ้ ลอื กละลานตาไปหมด ต่อมคำไม่รู้จะเลือกตัวไหนดี ในใจต้งั จติ กำหนดเอาว่า “ขอให้สงิ่ ศกั ดิ์สิทธิ์เมตตา ช่วยดลใจให้เลอื กมา้ ดี รูใ้ จ ไม่พยศ ดว้ ย เถิด” ด้วยผลบุญท่ีต่อมคำได้ทำทั้งในชาติปัจจุบันนี้ และในชาติท่ีผ่านมา ทำให้เกิดปาฏิหารยิ บ์ างอย่างข้ึน
ออ้ ม้อมต่อมคำ 97 เพราะยังไม่ทันที่ต่อมคำจะได้เลือกดูม้าท่ีต้องชะตากัน จู่ๆ ก็มีม้า เดนิ ออกจากแถว มายืนอย่างสง่าต่อหนา้ ตอ่ มคำ พระอนิ ทร์เหน็ ต่อมคำทำหนา้ งงๆ จึงบอกวา่ “เอา เอาตัวน้ีไป เจ้าขาวปลอดนี่แหละ มนั ฉลาดดี ถา้ ขนื รอให้เจา้ เลือกเองจริงๆ มีหวังเราคงรอจนตะวันชิงพลบน่ันแหละ กว่าเจ้าจะเลือก เสร็จ” ต่อมคำยกมือไหว้ขอบคุณเทวดา และม้าสวรรค์ แล้วตรงไปจับๆ สมั ผัสให้มา้ คุ้นชินเสียก่อน จากน้ันก็กระโดดควบ เจ้าขาวปลอดเองก็ช่างฉลาดรู้ใจสมคำ พระอินทร์ชม พอมีคนมาขีม่ ันเท่าน้นั แหละ มนั ออกอาการลิงโลด เป็นมา้ คกึ คกั ขน้ึ ในบดั ดล เจ้าขาวปลอดร้องไปวง่ิ ไป ทำทา่ นา่ เอน็ ดู
98 ออ้ มล้อมตอ่ มคำ “มาทนี ้ี เรากม็ าเร่ิมประลองกนั ” พระอินทร์รอ้ งท้า “เจา้ เลอื กแลว้ กนั วา่ จะเอาดา้ นไหนเป็นแดนของเจ้า” เมอ่ื ต่างเลอื กเขตเลือกแดน กำหนดจดุ ทีห่ มายไว้เรยี บรอ้ ยแล้ว นางฟา้ นางหนึ่งส่งไม้ตีให้พระอินทรแ์ ละตอ่ มคำ “เจา้ เร่ิมกอ่ น เราต่อให.้ ..” พระอนิ ทรย์ อมให้ต่อมคำเปน็ ฝา่ ยเริ่ม แลว้ นางฟา้ จงึ โยนลกู กลมๆ เลก็ ๆ เขา้ มากลางอากาศใหต้ ่อมคำ น่นั เป็นการบอกวา่ การแขง่ ขนั ประลองคลีได้เร่ิมข้ึน ณ บดั นแี้ ลว้ ...ก่ึบ......วด่ึ .........หวดื ............กึ่บ..............ว่ึด....... เสียงตีเสียงกระทบ ต่างฝ่ายต่างผลัดกันตีให้ลูกกลมๆ น้ีเข้ามาส ู่ ที่หมายของตนใหไ้ ด้แม่นยำท่สี ดุ ขณะน้ี สิ่งที่ทุกคนได้เห็นเมื่อแหงนหน้าดู คือภาพคล้ายเทวดาสอง องคข์ ี่ม้าสีขาว เหาะไปเหาะมา อยา่ งสงา่ งาม ในมอื ถอื ไมย้ าว กำลังตลี ูก กลมๆ อยู่บนนภากาศ ชาวเมืองทั้งหลายพากันจ้องมอง ตาแทบไม่กระพริบ เพราะท้ังสอง ฝ่ายมีฝมี อื สูสกี นั เหลอื เกิน และถงึ แม้ว่าตอ่ มคำจะมือใหมห่ ัดตี แตก่ ็ทำเต็มที่ ซำ้ ได้ม้าขาวปลอด ม้าวิเศษท่ีพระอินทร์ทรงประทานเลือกให้ ก็ยิ่งเพิ่มความแคล่วคล่องว่องไว รู้หลบรู้รบั รจู้ ังหวะ รู้เชิงดี จวนเจียนจะหมดเวลา พระอินทร์เห็นว่าต่อมคำเป็นผู้มีจิตใจกล้า หาญ แน่วแน่ ไม่ข้ีขลาดยอมแพ้ ท้ังท่ีตนเองไม่เก่งไม่ถนัด แต่มีความ องอาจยิ่งนัก น่าจะเป็นผู้ปกครองไพร่ฟ้าได้ดี พอตีๆ ไป ก็แสร้งทำท่า เหมือนไมม่ ีเร่ียวแรง จนตพี ลาดอยบู่ ่อยๆ
ออ้ มอ้ มต่อมคำ 99 ต่อมคำเห็นพระอินทร์ทำท่าจะหมดแรง จึงตกใจ กลัวพระอินทร์จะ พลัดตกจากหลงั มา้ คร้ันหมดเวลา เม่ือกรรมการอย่างนางฟ้าไปดูยังท่ีหมายของแต่ละ ฝา่ ย กเ็ ห็นวา่ ตอ่ มคำตไี ด้แม่นยำทสี่ ุด “สรปุ วา่ เจ้าต่อมคำ เป็นฝา่ ยชนะเรา” ส้นิ เสยี งพระอนิ ทรพ์ ดู จบ เสียงโหฮ่ ิว้ ร้องยินดีลั่นไปทัง้ ปฐพ ี พระอนิ ทรผ์ นิ พระพักตร์มายังพญาพรหมทัต สัง่ สอนวา่ “เจ้าเป็นกษัตริย์ต้องหนักแน่น ม่ันคง และเที่ยงตรง ไม่หลงในคำ ของผอู้ ื่น” “และไม่ควรดูคนที่รูปลักษณ์ภายนอก ควรดูท่ีจิตใจ หรือคุณงาม ความดีของคนนน้ั ๆ” “ตอ่ มคำเปน็ คนดี มีใจเมตตา มคี วามกตญั ญูตอ่ ผ้มู พี ระคุณ มจี ิตใจ อ่อนนอ้ ม จงึ ทำให้ได้พบแต่สิง่ ท่ีดี มคี วามเจริญ” “ตอนนี้ต่อมคำซ่ึงเป็นตัวแทนของเจ้า มาตอบปัญหาเราจนครบและ ถูกต้อง จงึ เปน็ ผู้มีปญั ญาและมีธรรมะในใจ” “ท้ังยังตีคลีชนะเราได้ด้วยความอดทนและกล้าหาญ ดังนี้แล้ว เจา้ ตอ้ งทำตามสญั ญาทีป่ ระกาศไว้” พญาพรหมทตั ไหว้พระอินทรา แลว้ กล่าวตอบว่า “หม่อมฉันไม่ลืมสัญญาดอก เสร็จการในครั้งนี้แล้ว จะไปถือศีล ปฏบิ ัตธิ รรมท่ีวัด แลว้ ให้ตอ่ มคำเปน็ ผดู้ แู ลปกครองบ้านเมอื งสบื ตอ่ ไป” “ดีมากๆ เราเองก็หมดหน้าท่ีตรงน้ีแล้ว ขอให้เจ้าทุกคนในที่น้ี ประกอบแตค่ ณุ งามความดี หมั่นทำบุญและรกั ษาศีลไว้ เพ่อื ความสุขความ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106