• ขน้ั ตอนการเรียนรู้ (Stages Learning) ในช่วงของการเจริญเติบโตและการพัฒนาทางด้านร่างกาย การเรียนรู้แบ่งออกเป็น 3 ขัน้ ตอน คอื 3 ข้ันตอนของการเรียนรู้ ขนั้ เรม่ิ ตน้ ของการเรยี นรู้ : เป็นขั้นตอนของการคิด พิจารณา ไตร่ตรองว่าส่ิงท่ีจะต้องปฏิบัติ (The Beginning Stage) หรอื กระทำนน้ั คืออะไร ก่อนที่บรรดานักกีฬาเหล่าน้ันจะเรียนรู้ส่ิงหน่ึงส่ิงใด โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาท่ีเริ่มฝึกหัดใหม่ (Beginners) จะต้องรู้ และเข้าใจก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่พวกเขาจะต้องพยายามกระทำ เพอ่ื นำไปสคู่ วามสำเรจ็ ผฝู้ กึ สอนกฬี าทข่ี าดประสบการณจ์ ำนวนมาก มักเร่ิมต้นด้วยการเล่าหรือแสดงบางส่ิงบางอย่างของวิธีการปฏิบัติ ให้นักกีฬาดู โดยมิได้มีการอธิบายความหมายหรือจุดประสงค์ สำคัญให้นักกีฬาเข้าใจก่อนว่าความสำเร็จที่ต้องการคืออะไร ขณะเดียวกันมักจะชอบคิดและเข้าใจเองว่า นักกีฬาเหล่านั้นคงจะ รดู้ แี ลว้ ในขน้ั เรม่ิ ตน้ ของการเรยี นรนู้ ค้ี วามกา้ วหนา้ หรอื พฒั นาการที่ เกดิ ขน้ึ อาจดแี ลว้ ในขั้นเร่ิมต้นของการเรียนรู้ ความก้าวหน้าหรือ พฒั นาการท่ีเกิดขึน้ อาจจะชา้ ทงั้ นี้ ขน้ึ อยกู่ บั ตวั นกั กฬี าและธรรมชาติ ของทกั ษะทเ่ี รยี นรู้ ขั้นพัฒนาความก้าวหน้า : เป็นขั้นของการเรียนรู้ ด้วยพยายามทดลองกระทำหรือพยายาม (The Intermediate Stage) คน้ หาวิธกี ารปฏบิ ัติทกั ษะนน้ั ใหบ้ รรลุผลสูงสดุ ในข้ันนี้เป็นข้ันท่ีนักกีฬาได้เคยเห็นและผ่านขั้นตอนของการ ปฏิบัติทักษะนั้นมาแล้ว โดยจะต้องพยายามเรียนรู้รายละเอียด ของขน้ั ตอนการปฏบิ ตั ทิ กั ษะทซี่ บั ซอ้ นและยากขนึ้ ตอ่ ไป เพอ่ื พฒั นา ความสมั พนั ธใ์ นแตล่ ะขนั้ ตอนของทกั ษะการเคลอ่ื นไหวนน้ั ใหส้ มบรู ณ์ ถกู ตอ้ งมากยง่ิ ขนึ้ สงิ่ ทเี่ ปน็ หวั ใจสำคญั ในขนั้ นี้ คอื การใหค้ ำแนะนำ เกยี่ วกบั วธิ กี ารปฏบิ ตั ทิ กั ษะทถี่ กู ตอ้ งแกน่ กั กฬี า เพอ่ื กระตนุ้ ใหน้ กั กฬี า แสดงออกซงึ่ ความสามารถ เปน็ การสรา้ งประสบการณท์ ถี่ กู ตอ้ งใหก้ บั นกั กีฬา คู่มอื ผู้ฝกึ สอนกฬี าเซปกั ตะกร้อ T-Certificate 45
ขน้ั ก้าวหน้า : เป็นขั้นของการแสดงทักษะ ด้วยการแสดงออกซึ่งความสามารถ (The Advanced Stage) ในการปฏิบัติทกั ษะนัน้ ในขั้นนี้เป็นการเรียนรู้การควบคุมทักษะการเคล่ือนไหว ให้เป็นอัตโนมัติเป็นขั้นท่ีนักกีฬาสามารถที่จะเลือกปฏิบัติทักษะใด ในช่วงเวลาใด ได้อย่างถูกต้องเป็นอัตโนมัติ โดยไม่ต้องเสียเวลาคิด ว่าจะต้องปฏิบัติทักษะน้ันอย่างไร เป็นข้ันของการแสดงออก ซงึ่ ทกั ษะความสามารถของนกั กฬี าทจ่ี ะนำไปสกู่ ารประยกุ ตใ์ ชท้ กั ษะ ในสถานการณ์ต่างๆ ท่ีเกิดขึ้นในระหว่างเกมการแข่งขันหรือ การนำไปสกู่ ารปรบั เปน็ ทกั ษะใหม่ตอ่ ไป ขั้นตอนของการเรียนรู้ท้ัง 3 ข้ันตอนดังกล่าวน้ี มิได้มีการแบ่งแยกออกจากกันให้เห็น อยา่ งชดั เจนในทางปฏบิ ตั ิ เนอ่ื งจากการเรยี นรทู้ กั ษะเปน็ กระบวนการทตี่ อ่ เนอื่ ง โดยนกั กฬี าทกุ คน จะต้องเร่ิมต้นจากสถานภาพของการเป็นนักกีฬาท่ีฝึกหัดใหม่ พัฒนาไปสู่ความเป็นนักกีฬาที่มี ความสามารถยอดเยย่ี มต่อไปตามลำดบั 46 ค่มู ือผฝู้ ึกสอนกีฬาเซปกั ตะกรอ้ T-Certificate
ก ารสร้างความชำนาญในการฝึกเล่น กฬี าเซปกั ตะกรอ้ ทักษะระดบั พื้นฐาน ส่ิงสำคญั ทส่ี ุดทีจ่ ะนำไปสู่กระบวนการการเล่นเกมเซปกั ตะกรอ้ คือ ทักษะระดับพนื้ ฐาน หรือความชำนาญในการเลน่ ระดับเบ้อื งตน้ ซง่ึ ประกอบด้วยทกั ษะที่สำคญั ดังน ้ี 1. หลังเทา้ 2. ข้างเท้าดา้ นใน 3. เข่า 4. ศรี ษะ ทักษะ 4 อย่างข้างต้น เป็นทักษะหลักเบื้องต้นท่ีจะสร้างความชำนาญ เพ่ือใช้เชื่อมโยง ตอ่ การเลน่ เปน็ เกม ความสำคญั ของทกั ษะทงั้ 4 อยา่ ง จะนำไปสกู่ ระบวนการเลน่ เกมและกอ่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์ ดงั นี้ ความสำคัญของลูกหลังเท้า 1. ใชร้ บั ลกู เสิรฟ์ ซึ่งเป็นลกู เสิรฟ์ ประเภทลกู ส้นั หรอื หยอด 2. ใช้เสิร์ฟ ปัจจุบันการเสิร์ฟด้วยหลังเท้าเป็นท่ีนิยมมาก เนื่องจากวิถีของลูกเสิร์ฟ ไมส่ ามารถคาดเดาไดว้ า่ จะลงตรงจดุ ใด บวกกบั ความรนุ แรงทำใหก้ ารรบั ลกู เสริ ฟ์ ไมบ่ รรลเุ ปา้ หมาย จึงเปน็ ทน่ี ยิ มในการฝกึ ซอ้ มและนำไปใช ้ 3. ใช้รุกเมื่อเป็นฝ่ายรุก โดยเฉพาะผู้เล่นตำแหน่งตัวทำหลัก เช่น ท่ารุกด้วยหลังเท้า กระโดดลอยตัวกลางอากาศ หรอื กระโดดเตะสลบั เท้า 4. ใชร้ บั ลกู ในขณะเป็นฝา่ ยต้ังรบั ความสำคญั ของลกู ข้างเท้าดา้ นใน 1. ใชเ้ สิรฟ์ 2. ใช้รับลกู เสริ ฟ์ 3. ใช้ตัง้ ลกู ใหผ้ ู้เลน่ ตำแหน่งรุก 4. ใช้ประโยชน์ในการรบั ลกู ท่ัวๆ ไปในขณะตกเปน็ ฝา่ ยตั้งรบั ความสำคญั ของลกู เขา่ 1. ใชร้ ับลูกเสิรฟ์ 2. ใชร้ ับลูกทวั่ ๆ ไปขณะเป็นฝา่ ยตงั้ รบั คู่มือผ้ฝู ึกสอนกฬี าเซปักตะกรอ้ T-Certificate 47
ปัจจุบันการนำทักษะลูกเข่ามาใช้ในการตั้งรับจะมีประโยชน์มากท่ีสุด หากได้รับ การฝึกปฏิบัติอย่างดีและถูกต้อง เพราะปัจจุบันการเล่นลูกครูดไม่ถือว่าเป็นลูกเสีย จะครูดกี่คร้ัง ก็ตามให้นบั หนง่ึ ครง้ั ดังนั้น การใช้เขา่ บวกกบั ลำตวั จงึ เปน็ ขอ้ ไดเ้ ปรยี บในเกมการตงั้ รับ ความสำคญั ของลูกศีรษะ 1. ใช้รบั ลกู เสิร์ฟ 2. ใชร้ บั ลกู ทั่วๆ ไป ขณะเป็นฝ่ายตัง้ รบั 3. ใช้รกุ เม่ือเป็นฝ่ายรกุ 4. ใช้ตง้ั ลูกให้ผเู้ ล่นตำแหนง่ รกุ นอกจากความสำคัญของทักษะพ้ืนฐานหลัก 4 ทักษะแล้ว ยังมีทักษะลูกข้างเท้าด้านนอก ซึ่งเป็นทักษะอย่างหนึ่งท่ีมีโอกาสนำไปใช้ได้ดีท่ีสุดในยามคับขัน ไม่ว่าจะเป็นการรับลูกเสิร์ฟ การตั้งรับโดยทั่วไป การเล่นเซปักตะกร้อเป็นเกมท่ีรวดเร็ว ทุกทักษะอาจจำเป็นที่ต้องนำออกมาใช้ โดยไม่มีกติกา แม้กระท่ังทักษะการใช้ไหล่และการใช้หน้าอก อาจจะพอเคยเห็นกันอยู่บ้าง แตก่ ไ็ มบ่ อ่ ยนกั ทักษะต่างๆ เหล่านี้ เปน็ ทักษะพนื้ ฐานรองทม่ี คี วามจำเปน็ ต้องใช้ แต่ไม่จำเป็นต้อง ฝกึ ปฏิบัตมิ ากนัก ดงั นน้ั แบบฝึกของทักษะเหลา่ นจี้ งึ ไมค่ ่อยจะมใี หฝ้ ึก ประโยชน์และความสำคัญของทักษะพ้ืนฐานหลักทั้ง 4 ทักษะ หากพิจารณาให้ละเอียด และลึกซ้ึงแล้ว จะเห็นว่าทักษะการเล่นด้วยลูกข้างเท้าด้านในและลูกศีรษะจะมีประโยชน์และ ความสำคญั มากกวา่ ลกู หลงั เทา้ และลกู เขา่ เนอื่ งจากเมอ่ื เขา้ สกู่ ระบวนการเลน่ เปน็ เกมแลว้ การเลน่ ลกู ดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นในจะเป็นทกั ษะหลกั ในการใช้ประโยชนม์ ากที่สดุ และรองลงมาจะเปน็ การเลน่ ลกู ด้วยศีรษะ ดังนน้ั การฝกึ ปฏบิ ตั ิเพอื่ ใหน้ กั กีฬาเป็นผูเ้ ล่นทมี่ ีความเชี่ยวชาญและชำนาญจงึ ควรเน้น การฝกึ ท้งั ทักษะนใี้ ห้มาก แลว้ จงึ เนน้ การฝกึ ทกั ษะรวมผสมผสานกันให้เกดิ ความม่ันใจ การบงั คบั หรือการควบคุมลูกตะกร้อ การควบคุม (Control) หมายถึง การบงั คบั โดยสง่ั ให้อวยั วะสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย เชน่ หลงั เทา้ ขา้ งเทา้ ดา้ นใน เขา่ และศรี ษะ ทำหนา้ ทคี่ รอบครองลกู ตะกรอ้ ใหเ้ ปน็ ไปตามความตอ้ งการ เชน่ ตอ้ งเดาะหรอื เล้ียงลูกตะกร้อ หรือต้องรบั และส่งลูกตะกร้อ การควบคุมลูกตะกร้อเป็นส่ิงสำคัญมากในการฝึกทักษะระดับพื้นฐาน การฝึกปฏิบัติทกั ษะ ใหม้ คี วามถูกตอ้ งตามขั้นตอนของการฝกึ จะทำให้ผู้ฝกึ มคี วามเช่ยี วชาญและชำนาญในระดับเบ้ืองต้น ซ่ึงเปน็ พ้ืนฐานทด่ี ใี นการนำไปสูก่ ระบวนการเลน่ เกมเซปักตะกร้อต่อไป 48 คูม่ ือผู้ฝึกสอนกีฬาเซปกั ตะกร้อ T-Certificate
การบังคับหรือการควบคมุ ลูกหลังเทา้ การฝึกหัดเดาะหรือเล้ียงลูกตะกร้อด้วยหลังเท้า เป็นทักษะอย่างหนึ่งที่ผู้เล่นจะต้อง ใหค้ วามสำคญั เปน็ อยา่ งยงิ่ เพราะจะนำไปสกู่ ระบวนการเลน่ เกมทมี่ คี วามผดิ พลาดนอ้ ย การบงั คบั หรอื ควบคมุ ลกู หลงั เทา้ ใหไ้ ดเ้ ปน็ จำนวนมากโดยลกู ตะกรอ้ ไมต่ กพนื้ ตอ้ งฝกึ ปฏบิ ตั เิ ปน็ ขน้ั ตอน ดังน้ี • ทา่ เตรยี มและการทรงตัว • แสดงวธิ กี ารเตรยี มและการทรงตวั ในการเลน่ ลกู หลังเทา้ ท่าเตรียมและการทรงตัว ยืนอยู่ในท่าตรง เท้าแยกห่างจากกันระยะเท่า 1 ช่วงไหล่ ยกเทา้ ทถี่ นดั สงู จากพน้ื 10-15 เซนตเิ มตร เทา้ ทเี่ ปน็ หลกั ยอ่ เขา่ เลก็ นอ้ ย นำ้ หนกั ตวั คอ่ นมาดา้ นหนา้ ยกปลายเทา้ ขน้ึ เลก็ นอ้ ย แขนทง้ั สองขา้ งกางออก เพอื่ ความสมดลุ ในการทรงตวั สายตามองทลี่ กู ตะกรอ้ และจดุ กระทบบนหลังเทา้ • ภาพชดุ แสดงทา่ ฝึกทกั ษะการเล่นลกู หลงั เท้า • แสดงท่าเตรยี มเลน่ ลูกหลังเทา้ แสดงท่าจับลกู ตะกร้อเลน่ ลกู หลังเท้า คูม่ อื ผฝู้ ึกสอนกีฬาเซปกั ตะกร้อ T-Certificate 49
แสดงท่าเดาะลกู หลังเท้า แสดงทา่ จับลูกเล่นลกู หลงั เท้า • การฝกึ บงั คับหรอื ควบคมุ ลกู หลังเทา้ เพื่อเพม่ิ ความชำนาญ • แสดงทา่ การฝกึ ทักษะเท้าเพื่อเพ่ิมความชำนาญ • ท่าเตรยี มและการทรงตัว • แสดงวธิ ีการเตรยี มและการทรงตวั การเล่นลูกขา้ งเท้าด้านใน 50 คมู่ อื ผฝู้ กึ สอนกฬี าเซปักตะกร้อ T-Certificate
ท่าเตรียมและการทรงตัวเพือ่ การเลน่ ลูกข้างเทา้ ดา้ นใน ยนื อย่ใู นท่าตรง เทา้ แยกหา่ งกนั 1 ชว่ งไหล่ ยกเท้าข้างท่ถี นดั ขึน้ มาในลักษณะปลายเทา้ งอพับเข้าดา้ นใน บิดปลายเทา้ ใหห้ งายข้ึน เล็กนอ้ ย เปน็ แนวขนานกบั พ้นื สูงจากพ้ืนระดบั เข่า งุม้ ปลายเทา้ เลก็ นอ้ ย เพอื่ ใหบ้ รเิ วณเทา้ ดา้ นใน เป็น “แอ่ง” ขนาดเล็ก (เป็นจุดสัมผัสลูกตะกร้อ) แขนท้ังสองข้างกางออกห่างลำตัว เพ่ือความ สมดลุ ของรา่ งกาย เทา้ ทเี่ ปน็ หลกั ยอ่ ลงเลก็ นอ้ ย นำ้ หนกั ตวั คอ่ นมาดา้ นหนา้ สายตามองทล่ี กู ตะกรอ้ และจดุ กระทบบน “แอง่ ” บริเวณขา้ งเทา้ ดา้ นใน • ภาพชุดแสดงการฝกึ ทักษะการเลน่ ลกู ข้างเท้าดา้ นใน • แสดงทา่ เตรยี มการเล่นลูกขา้ งเทา้ ดา้ นใน แสดงทา่ การทรงตวั การเลน่ ลูกข้างเท้าด้านใน แสดงทา่ เทา้ สมั ผสั ลกู ตะกร้อ แสดงทา่ เตะลกู ตะกร้อ ในการเล่นลกู ขา้ งเทา้ ด้านใน ในการเล่นลกู ข้างเทา้ ดา้ นใน คมู่ ือผฝู้ ึกสอนกีฬาเซปกั ตะกรอ้ T-Certificate 51
• การฝกึ ทกั ษะลกู ขา้ งเท้าดา้ นในดว้ ยเทา้ เปล่า • แสดงทา่ ฝึกทักษะการเล่นลูกข้างเท้าดา้ นในด้วยเทา้ เปล่า • การฝึกทักษะลกู ขา้ งเท้าดา้ นในประกอบลกู ตะกรอ้ • แสดงท่าการฝึกทักษะลูกขา้ งเทา้ ดา้ นในประกอบลูกตะกร้อ • การฝึกทักษะการสง่ ลูกขา้ งเทา้ ดา้ นในด้วยผ้ฝู กึ • แสดงท่าฝกึ ทักษะการส่งลูกข้างเทา้ ด้านในด้วยผูฝ้ กึ 52 คมู่ อื ผู้ฝึกสอนกฬี าเซปักตะกร้อ T-Certificate
• การบงั คบั หรือการควบคมุ ลูกเข่า • ทา่ เตรียมและการทรงตวั แสดงวธิ ีการเตรยี มและการทรงตวั การเล่นลกู เขา่ ท่าเตรียมและการทรงตัว ยืนอยู่ในท่าตรง เท้าท้ังสองแยกห่างจากกันประมาณช่วงไหล่ ยกเข่าข้างท่ีถนัดขึ้นมาโดยให้ช่วงขาท่อนบนขนานกับพ้ืน ปลายเท้างอเล็กน้อย แขนกางออก เพอ่ื ความสมดลุ และการทรงตวั ทด่ี ี กม้ ตวั โดยนำ้ หนกั ตวั คอ่ นมาดา้ นหนา้ เทา้ ทเ่ี ปน็ หลกั ยอ่ เขา่ ลงเลก็ นอ้ ย สายตามองทลี่ ูกตะกรอ้ และจดุ กระทบทเี่ ขา่ • ภาพชุดการฝกึ ทกั ษะการเล่นลกู เขา่ • แสดงท่าการเลน่ ลูกเขา่ ประกอบตะกร้อ แสดงท่าการเลน่ ลกู เขา่ 53 ค่มู อื ผูฝ้ ึกสอนกีฬาเซปกั ตะกร้อ T-Certificate
• การบงั คับหรือการควบคุมลูกศีรษะ • ท่าเตรยี มและการทรงตวั แสดงท่าเตรยี มและการทรงตัว การเล่นลูกศีรษะ ท่าเตรียมและการทรงตัว การเล่นลูกศีรษะ ยืนอยู่ในท่าตรง เท้าแยกห่างกันประมาณ ช่วงไหล่ เท้าที่ไม่ถนัดเป็นเท้านำอยู่ด้านหน้าสำหรับการเคลื่อนท่ี ย่อตัวลงพอประมาณ ยกแขน ทั้งสองข้างข้ึนในลักษณะต้ัง เพื่อประคองร่างกายให้สมดุลและการทรงตัว และเพื่อเป็นกรอบ ในการเลน่ ลกู ตะกรอ้ เกดิ ความชดั เจน และเพมิ่ ความแนน่ อนมากยงิ่ ขนึ้ ใบหนา้ เงยเลก็ นอ้ ย เปดิ สน้ เทา้ เพอื่ ความรวดเรว็ ในการเคลอ่ื นท่ี สายตามองลกู ตะกรอ้ และคาดคะเนจดุ กระทบระหวา่ งลกู ตะกรอ้ กบั บรเิ วณศรี ษะใหพ้ อดี จะทำใหล้ กู ทเี่ ลน่ แลว้ เปน็ ลกู ดี ไมห่ ลดุ ออกไปดา้ นหลงั ซง่ึ จะทำใหก้ ารตดิ ตาม เล่นยากข้ึน การทผ่ี เู้ ลน่ ยอ่ ตวั ใหต้ ำ่ ลง หรอื สามารถยอ่ ตวั ไดท้ กุ ระดบั รวมทงั้ การโยกตวั หรอื เคลอ่ื นท่ี ไปดา้ นซา้ ย-ขวา-หนา้ -หลงั เปน็ จดุ สำคญั ของทา่ เตรยี มและการทรงตวั ทด่ี ีของการฝึกทักษะการเล่นลูก ด้วยศรี ษะท่ถี ูกต้อง 54 คมู่ ือผู้ฝึกสอนกีฬาเซปักตะกร้อ T-Certificate
• ภาพชุดแสดงการฝึกทกั ษะการเล่นลูกศีรษะ • แสดงทา่ เตรยี ม แสดงทา่ การเล่นลกู ศรี ษะ แสดงท่าการสง่ ลูกศรี ษะ การรับและส่งลกู ตะกรอ้ การรับและการส่งลูกตะกร้อ หรือการโต้คู่ไปมาระหว่างผู้เล่น 2 คน เป็นส่ิงท่ียาก สำหรับผู้ที่ทำไม่ได้ แต่หากลองพิจารณาจากการส่งแรงระหว่างลูกตะกร้อท่ีมากระทบกับบริเวณ อวยั วะของรา่ งกายทใี่ ชเ้ ลน่ ลกู ตะกรอ้ เชน่ ศรี ษะ เขา่ ขา้ งเทา้ ดา้ นใน และหลงั เทา้ จะมมี ากหรอื นอ้ ย ขน้ึ อยกู่ บั สว่ นประกอบดังต่อไปนี ้ 1. ความแรงหรือความเร็วของลูกตะกร้อท่ีพุ่งเข้าหาตัวเร็วหรือแรงมาก จะกระดอนได้เร็ว แรงและไกล ซ่ึงมผี ลมาจากแรงส่งและระยะทางท่ีมาของลกู ตะกรอ้ คู่มือผ้ฝู กึ สอนกีฬาเซปกั ตะกร้อ T-Certificate 55
2. แรงจากความตึง หมายถึง การเกรง็ ตึง ของกลา้ มเนื้อบรเิ วณทกี่ ระทบลูกตะกร้อ 3. แรงจากการยกหรือการเหว่ียง หมายถึง แรงท่ีเกิดจากกำลังในการออกแรง อย่างรวดเร็ว เช่น ออกแรงยกเท้า ยกเข่า จะมีผลต่อการกระดอนของลูกตะกร้อไปได้แรงเร็ว และไกล แต่ถา้ ใช้แรงจากการยกทีน่ ้อย ลกู ตะกรอ้ จะกระดอนชา้ และไมไ่ กล 4. แรงจากการเหยียดตัวข้ึน-ลงของลำตัว เอว เข่า และข้อเท้า หมายถึง การใช้แรง เสรมิ ประสานกันระหว่างอวัยวะดังกล่าว ชว่ ยสง่ ให้ลกู ตะกรอ้ ไปไดแ้ รงและเรว็ ข้นึ ในการควบคุมและบังคับลูกตะกร้อ ควรใช้แรงปะทะเพ่ือลดการกระดอนของลูกตะกร้อ จากการเหยียดตัวข้ึน-ลงของลำตัว เอว เข่า และข้อเท้า และจากความตึงของเท้า เพ่ือให้ลูก กระดอนไปตามทศิ ทาง และระยะทต่ี อ้ งการ ถา้ ลกู พงุ่ เขา้ มาดว้ ยความเรว็ และแรง อาจตอ้ งลดหยอ่ น ความตงึ ของเทา้ ทงั้ นเ้ี พอ่ื ลดแรงปะทะ เพอ่ื ใหล้ กู ตะกรอ้ กระดอนอยใู่ นทศิ ทางและระยะทต่ี อ้ งการ • การรับลกู ตะกรอ้ • แสดงทา่ ทางการยนื รับลกู ตะกร้อ เทคนิคการรับลูกตะกรอ้ การรับลูกตะกร้อให้ได้ดี จะต้องใช้ทักษะการเคล่ือนท่ีอย่างคล่องแคล่ว ว่องไว ประกอบกับทักษะในการใช้อวัยวะส่วนต่างๆ ในการรับลูกตะกร้อได้อย่างเป็นธรรมชาติ ถูกต้อง และมปี ระสทิ ธภิ าพ ประกอบกับเทคนิคในการรบั ลูกตะกร้อ ดังน้ ี 1. จะต้องรูว้ ่าตะกรอ้ มาจากจุดใด ทศิ ทางใด 2. ตอ้ งสงั เกตระดบั ของลกู ตะกรอ้ ทเี่ คลอื่ นตวั เขา้ หาตวั เอง วา่ อยใู่ นระดบั ใด (สงู กลาง ตำ่ ) 3. จากข้อสังเกตข้อที่ 1 และ 2 ให้ผู้รับอยู่ในท่าเตรียม หันหน้าให้ตรงกับทิศทาง ทลี่ กู ตะกร้อจะเคลื่อนทม่ี า 56 คูม่ ือผู้ฝกึ สอนกฬี าเซปกั ตะกร้อ T-Certificate
4. สายตาจะตอ้ งจดจอ้ งมองดอู ยทู่ ล่ี กู ตะกรอ้ ขณะเคลอ่ื นทเี่ ขา้ มาหาตนเอง จนกระทง่ั ลูกตะกร้อกระทบหรือสัมผัสกับบริเวณอวัยวะท่ีใช้เล่น หรือเรียกว่า การควบคุมลูกตะกร้อไว้ได้ โดยการรับ 5. ตอ้ งมคี วามสามารถในการควบคมุ หรอื บงั คบั และการทรงตวั ทด่ี เี ปน็ พน้ื ฐานเบอื้ งตน้ • การสง่ ลกู ตะกรอ้ • แสดงวธิ กี ารส่งลกู ตะกรอ้ แสดงวิธีการสง่ ลกู ตะกร้อ เมอ่ื เปา้ หมายอยู่ไกลโดยใช้ขา้ งเทา้ ด้านใน เม่ือเปา้ หมายอยใู่ กลโ้ ดยใชศ้ รี ษะ เทคนคิ การส่งลูกตะกรอ้ การสง่ ลูกตะกรอ้ ใหต้ รงทิศทางหรือเป้าหมายได้อยา่ งแมน่ ยำ ตอ้ งคำนงึ ถงึ สิ่งตอ่ ไปน ้ี 1. ตอ้ งมคี วามสามารถในการควบคุม บังคบั และการทรงตวั ทีด่ เี ป็นพืน้ ฐานเบือ้ งตน้ 2. ตอ้ งคาดคะเนระยะใหถ้ กู ตอ้ งทกุ คร้ังวา่ เป้าหมายอยใู่ กล้หรอื ไกลและอยู่ทิศทางใด 3. ในการส่งลูกตะกร้อทุกคร้ัง จะต้องเคล่ือนท่ีไปให้ถึงลูกตะกร้อด้วยความรวดเร็ว และไม่เสียหลักในการทรงตัว และส่งลูกตะกร้อให้เป็นลูกที่เหมาะสมกับสถานการณ์น้ันๆ เชน่ ลกู สงู -ตำ่ หรอื ลูกพ่งุ ระดบั แนวตาขา่ ย 4. หากเป้าหมายในการส่งอยู่ไกล ให้ใช้แรงส่งมากยิ่งขึ้น เพ่ือให้ถึงเป้าหมาย โดยลดความสูงลงหรือลดความสวยงามลง 5. หากเป้าหมายในการส่งอยู่ใกล้ ให้ผ่อนแรงส่งน้อยลง แต่เน้นการส่งลูกระดับสูง เพื่อป้องกันลูกตะกรอ้ เลยเป้าหมาย คมู่ ือผูฝ้ กึ สอนกฬี าเซปักตะกร้อ T-Certificate 57
การพักลูกตะกรอ้ การพกั ลกู ตะกรอ้ คอื การรบั ลกู ตะกรอ้ ใหม้ คี วามกระดอนออกจากอวยั วะทใี่ ชเ้ ลน่ ลกู ตะกรอ้ เพยี งเบาๆ แลว้ สง่ ลูกตะกรอ้ ดว้ ยอวยั วะท่ใี ชส้ ่งต่อไป เหตผุ ลในการพกั ลกู ตะกรอ้ 1. เป็นลูกท่ีเคล่ือนที่เข้ามาหาอย่างรวดเร็ว เช่น พุ่งเข้ามาในระดับสูง กลาง ต่ำ ของรา่ งกาย จะต้องใช้อวยั วะนั้นพักลกู ตะกรอ้ ไวก้ อ่ น 1 คร้ัง 2. เป็นลกู ทเี่ คลือ่ นทีม่ าในระดับสูงเลยศรี ษะในจดุ ท่ียนื ตอ้ งถอยหลงั พกั ไว้ 1 ครั้ง 3. เป็นลูกท่ีเคลื่อนท่ีมาอย่างช้าๆ ซึ่งผู้เล่นต้องพักไว้ 1 คร้ัง แล้วค่อยส่งด้วยทักษะ ท่ีตนเองถนัด ซ่ึงเป็นการบ่งบอกว่าผู้เล่นมีความเช่ือม่ันและม่ันใจท่ีจะพักลูกตะกร้อไว้ก่อน เพื่อการส่งลูกตะกร้อไปสู่เปา้ หมายไดอ้ ยา่ งแม่นยำ (เปน็ ความเชือ่ ของผู้เล่น แต่บางคร้ังการพักลกู ก็ทำให้เสียไดห้ ากทักษะในการพกั ไมด่ )ี การพักลูกตะกร้อ ส่วนมากจะนิยมใช้อวัยวะ 3 อย่างเท่าน้ัน ได้แก่ ข้างเท้าด้านใน ศีรษะ และเขา่ แสดงวธิ ีการพักลกู ขา้ งเทา้ ดา้ นในดว้ ยเทา้ ซ้ายและขวา 58 คมู่ ือผู้ฝึกสอนกฬี าเซปักตะกรอ้ T-Certificate
แสดงท่าการพักลกู เขา่ แสดงท่าการพักลูกศีรษะ เมื่อพักลูกตะกร้อด้วยข้างเท้าด้านใน ศีรษะ และเข่าแล้ว จะนิยมส่งลูกตะกร้อ ด้วยทกั ษะเพยี ง 2 อย่างเท่าน้นั คือ ขา้ งเท้าด้านในและศีรษะ ดังน้ี 1. พักด้วยข้างเท้าด้านใน ส่งดว้ ยข้างเท้าดา้ นใน 2. พักดว้ ยขา้ งเท้าดา้ นใน ส่งด้วยศรี ษะ 3. พกั ด้วยเข่า ส่งดว้ ยขา้ งเทา้ ด้านใน 4. พกั ด้วยเขา่ ส่งด้วยศรี ษะ 5. พกั ด้วยศีรษะ ส่งด้วยศรี ษะ 6. พักด้วยศรี ษะ ส่งด้วยข้างเท้าดา้ นใน • ภาพชดุ แสดงการฝึกทกั ษะการพกั และการส่งลูกตะกรอ้ • แสดงการพักลูกตะกรอ้ ดว้ ยขา้ งเทา้ ด้านใน แสดงการส่งลูกตะกรอ้ ด้วยขา้ งเทา้ ดา้ นใน คมู่ อื ผู้ฝึกสอนกฬี าเซปกั ตะกรอ้ T-Certificate 59
แสดงการพกั ลูกตะกร้อดว้ ยข้างเทา้ ดา้ นใน แสดงการส่งลูกตะกร้อด้วยศรี ษะ แสดงการพักลกู ตะกรอ้ ดว้ ยเข่า แสดงการส่งลกู ตะกรอ้ ด้วยข้างเท้าด้านใน แสดงการพกั ลกู ตะกรอ้ ด้วยเข่า แสดงการส่งลกู ตะกรอ้ ด้วยศีรษะ 60 คมู่ ือผูฝ้ ึกสอนกฬี าเซปกั ตะกร้อ T-Certificate
แสดงการพกั ลกู ตะกร้อดว้ ยศรี ษะ แสดงการส่งลกู ตะกรอ้ ดว้ ยศรี ษะ แสดงการพกั ลกู ตะกรอ้ ด้วยศีรษะ แสดงการส่งลูกตะกร้อด้วยข้างเท้าด้านใน ค่มู อื ผู้ฝกึ สอนกฬี าเซปักตะกรอ้ T-Certificate 61
การฝกึ ทักษะหลายทักษะรวมกนั จดุ มุ่งหมายของการฝึกทักษะหลายทกั ษะรวมกัน 1. เพ่ือให้เกิดความเชี่ยวชาญ ชำนาญการ ในการใช้ทักษะหลายทักษะมาใช้เล่น ผสมผสานรวมกัน 2. เพื่อให้ผู้เล่นเกิดความคล่องแคล่ว ว่องไว ในการใช้อวัยวะหรือพัฒนาระบบประสาท ในการส่งั งาน 3. เพอื่ นำเอาความเชย่ี วชาญเหลา่ น้ไี ปใชใ้ นการเลน่ กีฬาเซปกั ตะกรอ้ 4. เพื่อเพิ่มศักยภาพการเล่นของผู้เล่นในเชิงกระบวนการรุกและการรับภายในเกม การแข่งขนั ให้สงู ข้นึ • ภาพชุดแสดงการฝึกทกั ษะลกู หลงั เทา้ ข้างเท้าดา้ นใน เขา่ และศรี ษะรวมกนั • ฝึกการควบคุมลกู ตะกรอ้ ระดับตำ่ อยู่กบั ท่ี แสดงทา่ ฝกึ การเลน่ ลูกหลังเทา้ กบั ขา้ งเท้าดา้ นใน แสดงท่าฝึกการเล่นลกู ข้างเท้าด้านในกบั เข่า 62 คมู่ อื ผ้ฝู ึกสอนกีฬาเซปักตะกรอ้ T-Certificate
แสดงท่าฝกึ การเลน่ ลกู เข่ากบั ศรี ษะ แสดงทา่ ฝกึ การเล่นลกู ขา้ งเท้าด้านใน เข่า และศีรษะ • ภาพชดุ แสดงการฝกึ ทกั ษะลูกข้างเทา้ ดา้ นในกบั ศีรษะ • การฝกึ การควบคุมลูกตะกรอ้ ระดับสูงอย่กู ับท่ ี แสดงท่าฝึกการเลน่ ลูกข้างเท้าดา้ นในระดบั ตำ่ กบั ศีรษะระดับสงู คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาเซปักตะกรอ้ T-Certificate 63
ห ลักการฝกึ การเลน่ กีฬาเซปักตะกรอ้ ระดับพ้ืนฐาน 8 ขนั้ ตอนทส่ี ำคญั ในการนำไปสกู่ ารเลน่ เกมเซปกั ตะกรอ้ ถอื วา่ เปน็ กระบวนการตอ่ เนอื่ ง หรอื องคป์ ระกอบทสี่ ำคญั ของการเลน่ หรอื การแขง่ ขนั ในแตล่ ะขนั้ ตอนจะมคี วามสำคญั ทแ่ี ตกตา่ งกนั แต่จะมีความต่อเน่ืองและสัมพันธ์กัน ต้ังแต่เร่ิมต้นในขั้นตอนที่ 1 จนสิ้นสุดในขั้นตอนที่ 8 การเรียนรู้เกมเซปักตะกร้อไม่ควรมองข้ามหรือละเลยความสำคัญในขั้นตอนใดข้ันตอนหน่ึง เพราะจะทำใหเ้ กดิ ชอ่ งวา่ งหรอื ปญั หาในการแกไ้ ขปรบั ปรงุ และขาดความเชอื่ มน่ั ในตนเอง โดยเฉพาะ ขาดความเข้าใจในการนำผลไปเชื่อมโยงกบั ขนั้ ตอนอืน่ ๆ ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ กระบวนการ 8 ขัน้ ตอน ในการนำไปสู่การเล่นเกฬี าเซปักตะกรอ้ มดี ังน ี้ 1. การโยน 2. การเสริ ์ฟ 3. การรบั ลูกเสิรฟ์ 4. การตัง้ หรือการชงลูกตะกรอ้ 5. การรกุ 6. การสกัดก้ัน 7. การรับลกู ท่เี กดิ ขน้ึ จากการสกดั กน้ั 8. การต้ังรับ กระบวนการทั้งหมดดังกล่าว ผู้เล่นจำเป็นต้องศึกษาและสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้อง สามารถนำไปฝึกปฏิบัติให้เกิดทักษะ ไม่ควรมองข้ามหรือละเลยในขั้นตอนใดขั้นตอนหน่ึง จะตอ้ งใหค้ วามสำคญั และสร้างความเขา้ ใจศกึ ษารายละเอียดทกุ ข้นั ตอน ดังนี้ ขน้ั ตอนที่ 1 การโยน ลักษณะของการโยน ผู้โยนจะต้องมีทักษะท่ีดีพอ โดยต้องโยนให้พอดีมีความสัมพันธ ์ กับจังหวะของการเสิร์ฟ ซึ่งจะส่งผลให้การเสิร์ฟมีประสิทธิภาพ ถือเป็นข้ันตอนที่มีความสำคัญ เป็นอย่างยิ่งหรืออาจจะไม่มีความสำคัญเลยก็ได้ ถ้าหากเกิดความผิดพลาดในการโยน เน่ืองจาก คะแนนท่ไี ด้จากการเสริ ์ฟ ถือไดว้ า่ มผี ลมาจากคณุ ภาพของการโยนเปน็ สำคัญ 64 คู่มือผู้ฝกึ สอนกีฬาเซปกั ตะกร้อ T-Certificate
วิธกี ารฝกึ การโยนลูกตะกร้อให้ผูเ้ สริ ฟ์ วางเท้าอยู่ในเส้ียววงกลมทั้งสองเท้า โดยวางเท้าหลัก (เท้าข้างท่ีถนัด) อยู่ด้านหน้าเท้ารอง (เท้าข้างท่ีไม่ถนัด) อยู่ด้านหลัง หันปลายเท้าช้ีไปทางด้านผู้เสิร์ฟ วางลูกตะกร้อไว้บนฝ่ามือข้างท่ีถนัด ประคองลกู ตะกรอ้ ไวใ้ นองุ้ มอื ไมก่ ำลกู ตะกรอ้ แนน่ มาก ยกแขนชลู กู ตะกรอ้ ขนึ้ สงู สายตาคาดคะเน ลกู ตะกรอ้ ใหต้ รงเปา้ หมาย (ตอ้ งทำความเขา้ ใจกบั ผเู้ สริ ฟ์ ดว้ ยวา่ ผเู้ สริ ฟ์ ชอบการโยนแบบลกู ตะกรอ้ พุ่งรวดเร็ว ลูกสูงย้อย ลูกใกล้ตัวหรือลูกไกลตัว) ย่อเข่าท้ังสองข้างลง ลดแขนข้างที่ถือลูกตะกร้อ ลงด้วย เมื่อได้จังหวะท่ีดีพร้อมยืดเข่า ลำตัวข้ึนอีกคร้ังหนึ่ง ปล่อยลูกตะกร้อใหห้ ลดุ ออกจากมอื ในลกั ษณะลกู ตะกรอ้ หมนุ กลง้ิ รอบตวั ไปดา้ นหนง่ึ เพอ่ื ไปสทู่ ศิ ทางและเปา้ หมายท่ีต้องการ แสดงทา่ การโยนลูกตะกร้อ ขั้นตอนที่ 2 การเสริ ฟ์ การเสิร์ฟ หมายถึง การส่งลูกตะกร้อด้วยข้างเท้าด้านใน การเสิร์ฟเป็นข้ันตอน ที่ต่อเนื่องจากการโยน บางครั้งเรียกการเสิร์ฟว่า เป็นลักษณะของการรุกอย่างหนึ่ง คือ รุกด้วยการเสริ ฟ์ การเสิร์ฟท่ีมีประสิทธิภาพสูง มีความแน่นอน แม่นยำ ย่อมมีผลตอบแทนท่ีมีค่าสูงอย่างย่ิง คือ การได้รับคะแนนถือว่าเป็นคะแนนท่ีมีความโชคดี ที่ผู้เล่นไม่ต้องออกแรงกันทั้งทีม อย่าลืมว่า เกมการแข่งขนั กีฬาเซปักตะกรอ้ มคี ะแนนสำหรับผูช้ นะดังนี้ เซต็ ที่ 1 21 คะแนน (ดวิ ส์คไู่ ม่เกิน 25 คะแนน) เซต็ ท่ี 2 21 คะแนน (ดิวสค์ ู่ไมเ่ กนิ 25 คะแนน) เซ็ตที่ 3 15 คะแนน (ดิวสค์ ไู่ ม่เกิน 17 คะแนน) หากคร่ึงหนงึ่ ของคะแนนในแตล่ ะเกม ได้มาจากการเสิร์ฟ จะทำให้เป็นผู้ชนะในเกม การแขง่ ขนั ได้โดยไม่ยาก วธิ ีฝกึ การเสริ ์ฟเบอ้ื งต้น วางเทา้ หลกั ขา้ งทไ่ี มเ่ สริ ฟ์ อยภู่ ายในวงกลม หนั ปลายเทา้ ชไี้ ปทางดา้ นผโู้ ยน เทา้ ขา้ งทจี่ ะเสริ ฟ์ วางไวท้ ด่ี า้ นหลงั ยกแขนขา้ งใดขา้ งหนงึ่ ชข้ี น้ึ เพอื่ บอกระดบั ความตอ้ งการ เมอื่ ลกู ตะกรอ้ ถกู โยนมา ให้ถอยเท้าข้างท่ีจะเสิร์ฟไปทางด้านหลัง 1 ก้าว เพ่ือหาจังหวะส่งแรง พร้อมกับยกเท้าขึ้นสูง เปน็ รปู วงสวงิ สมั ผสั ลกู ตะกรอ้ พรอ้ มกบั ออกแรงโนม้ ลำตวั ไปทางดา้ นหนา้ สง่ ลกู ตะกรอ้ ขา้ มตาขา่ ย โดยเท้าหลกั ไมห่ ลุดออกจากวงกลม คู่มือผู้ฝกึ สอนกฬี าเซปกั ตะกร้อ T-Certificate 65
แสดงทา่ การเสริ ฟ์ ลกู ตะกรอ้ การฝึกปฏิบตั ิการเสิรฟ์ ตอ้ งฝกึ ให้เกิดความชำนาญท้งั 3 ลกั ษณะ คือ 1. การเสิรฟ์ แบบรุนแรง 2. การเสิร์ฟแบบเปลย่ี นทิศทาง 3. การเสริ ฟ์ แบบลกู สน้ั หรอื ลกู หยอด ขั้นตอนท่ี 3 การรับลูกเสริ ฟ์ การรบั ลกู เสิร์ฟหรือการเปดิ ลูกเสริ ฟ์ หมายถงึ การเล่นลกู ตะกรอ้ ครง้ั ท่ี 1 จากการเสิร์ฟ ของคแู่ ข่งขัน โดยใชอ้ วยั วะสว่ นใดสว่ นหนึ่งของร่างกาย ได้แก่ ศรี ษะ เข่า หลังเทา้ ขา้ งเท้าดา้ นใน และอวัยวะส่วนอนื่ ๆ ทีไ่ ม่ผดิ กตกิ า การรับลูกเสิร์ฟเป็นขั้นตอนที่สำคัญเป็นอย่างย่ิง หากรับเสียจะทำให้เสียคะแนน หรือ หากคุณภาพในการรับไม่ดี จะทำให้การสร้างกระบวนการรุกไม่ดีไปด้วย หรือทำให้ประสิทธิภาพ การโต้ตอบกลับไม่ดี ดังน้ัน การรับลูกเสิร์ฟครั้งแรกจะต้องทำให้เป็นลูกดีเสมอ (ซ่ึงเป็นการยาก หากผู้เล่นได้พบกับลูกเสิร์ฟที่มีความรุนแรง) เพ่ือส่งผลให้การเล่นลูกตะกร้อคร้ังที่ 2 มีความสมบูรณ์ย่ิงข้ึน หรอื ง่ายต่อการเล่น วธิ ฝี กึ รบั ลูกเสริ ฟ์ เบอื้ งต้น ให้ผูฝ้ กึ สงั เกตวิถีทางของลูกเสิรฟ์ ซ่งึ มอี ยู่ 4 ระดบั ดังนี ้ 1. ระดบั สูง ใช้ศรี ษะรับ สว่ นมากจะเป็นผูเ้ ลน่ คู่หนา้ เพราะยืนอยใู่ กล้ชิดตาข่าย 2. ระดบั กลาง พุ่งเขา้ หาลำตวั ใชเ้ ขา่ รบั 3. ระดับตำ่ ถึงตัวผูเ้ ลน่ ใชข้ ้างเทา้ ด้านในทัง้ เทา้ ซา้ ยและเท้าขวา 4. ระดบั ตำ่ ไม่ถงึ ตัวผู้เลน่ ใช้หลงั เท้าเคล่อื นทไี่ ปรบั ขา้ งหน้า 66 คู่มือผฝู้ ึกสอนกฬี าเซปกั ตะกร้อ T-Certificate
แสดงทา่ การรบั ลูกเสริ ์ฟ ขั้นตอนท่ี 4 การต้ังหรือการชงลูกตะกร้อ การตงั้ หรอื การชงลกู ตะกรอ้ หมายถงึ การเลน่ ลกู ตะกรอ้ ครง้ั ที่ 2 หรอื อาจจะเปน็ ครง้ั ที่ 1 กไ็ ด้ (ในกรณที ล่ี กู เสริ ฟ์ หรอื ลกู อนื่ ๆ ทข่ี า้ มตาขา่ ยมาในลกั ษณะเบาไมร่ นุ แรง ซงึ่ งา่ ยตอ่ การเลน่ แตส่ ว่ นมาก จะเป็นการเล่นลูกครั้งที่ 2 โดยใช้ทักษะข้างเท้าด้านในและศีรษะเท่านั้นในการตั้งลูกตะกร้อ หรอื อาจจะใชไ้ ดใ้ นบางโอกาสทไี่ มผ่ ดิ กตกิ า เชน่ การใชเ้ ขา่ ขา้ งเทา้ ดา้ นนอกและหลงั เทา้ แตจ่ ะไมม่ ี ความแนน่ อนและแมน่ ยำในทศิ ทางการตงั้ ลกู วา่ ดหี รอื ไม่ สว่ นหนงึ่ เกดิ จากการรบั ลกู ตะกรอ้ ครงั้ แรก จะเปน็ การเลน่ ดว้ ยตวั เองหรอื ผอู้ นื่ เลน่ กต็ าม หากครงั้ แรกเลน่ ผดิ พลาดมากแลว้ ครงั้ ท่ี 2 กไ็ ดร้ บั เพยี ง การแก้ไข หรอื อาจจะแกไ้ ขไ้ มไ่ ด้เลย วธิ ีฝกึ การต้งั ลกู ตะกร้อเบื้องตน้ ให้ผู้เล่นตำแหน่งรุกและตำแหน่งตั้งไปยืนคู่กัน ระยะห่างคนละด้านของตาข่ายผู้ฝึกสอน ขว้างลูกตะกร้อ 4 ระดับ (วิถีทางของลูกเสิร์ฟมี 4 ระดับ จากข้ันตอนที่ 3) ใส่ผู้เล่นตำแหน่งรุก โดยให้เปิดลูกไปตามจุดต่างๆ แล้วให้ผู้เล่นตำแหน่งต้ังเคล่ือนท่ีติดตามลูกตะกร้อให้ทัน พร้อมกับ ต้ังลูกไปให้ผเู้ ล่นตำแหนง่ รุกทเี่ คลื่อนตวั เขา้ ไปเตรียมพร้อมทจ่ี ะรกุ โดยยนื หันหลงั ให้ตาขา่ ย เคล่อื นที่ เปดิ ลกู ตั้งลกู ผู้ฝกึ สอน แสดงทา่ ฝกึ การตงั้ ลูกตะกร้อบรเิ วณใกล้ตาขา่ ย 67 คมู่ อื ผฝู้ ึกสอนกฬี าเซปักตะกร้อ T-Certificate
ข้นั ตอนท่ี 5 การรุก การรกุ หมายถงึ การเลน่ ตะกร้อ ครง้ั ท่ี 1, 2 หรือ 3 กไ็ ด้ หากมีโอกาสหรือสรา้ งโอกาส ได้เองหรือแล้วแต่สถานการณ์ของเกมการเล่นด้วยการรุกในท่าต่างๆ ท่ีตนเองถนัด ส่วนมากจะมี ท่าการรุกที่ถนัดเป็นหลักในการรุกอยู่แล้ว ส่วนท่ารุกอย่างอ่ืนจะเป็นท่ารุกสำรอง แล้วแต่โอกาส ที่จะนำออกมาใช้ เช่น การรุกโดยการกระโดดลอยตัวกลางอากาศ การกระโดดสลับเท้าด้านหลัง การกระโดดใช้ศีรษะกดลูกตะกร้อลง การกระโดดเหยียบด้วยฝ่าเท้า การกระโดดปาดด้านข้าง ดว้ ยฝ่าเท้า เปน็ ตน้ ประสทิ ธภิ าพของการรกุ จะดหี รอื ไม่ ยอ่ มขนึ้ อยกู่ บั กระบวนการทใ่ี กลช้ ดิ ทสี่ ดุ คอื การตงั้ ลกู หรอื อกี ความหมายหนงึ่ “การตง้ั ลกู ดจี ะมผี ลทำใหก้ ารรกุ มปี ระสทิ ธภิ าพดดี ว้ ย” ซงึ่ ขอ้ ความดงั กลา่ ว เปน็ เพยี งเหตผุ ลหนงึ่ เทา่ นน้ั เหตผุ ลทส่ี ำคญั คอื จะตอ้ งมกี ารฝกึ ฝนปฏบิ ตั พิ ฒั นาขดี ความสามารถ เฉพาะตำแหนง่ ในการเลน่ ของตนเองใหด้ ดี ว้ ย เพอื่ จะไดส้ ง่ ผลหรอื เออื้ ประโยชนต์ อ่ กนั ในการแกไ้ ข ปรับปรงุ ใหป้ ระสิทธภิ าพในการรุกดีขึน้ ขั้นตอนการรุกถือว่าเป็นข้ันตอนท่ีมีความสำคัญมาก เพราะโอกาสที่จะมาถึงข้ันตอนน้ี ต้องผ่านกระบวนการรับลูกเสิร์ฟ และตั้งลูกมาก่อน ถือว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ผู้เล่นท่ีมี ความมั่นใจในตนเองสูง มชี ั้นเชิงกลยทุ ธ์ มีเทคนคิ มแี ทคตกิ และมกี ารแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหน้าไดด้ ี ซง่ึ การรุกทไี่ ดผ้ ลดกี ็หมายถึงมสี ิทธใิ์ นการเสริ ์ฟลูกใหมแ่ ละได้คะแนน • ภาพชดุ แสดงการฝกึ ทกั ษะการรกุ ลกั ษณะตา่ งๆ • แสดงทา่ การรกุ ด้วยศีรษะ แสดงทา่ การกระโดดรุกด้วยหลงั เท้า แสดงท่าการกระโดดรุกด้วยการเหยียบ แสดงทา่ การรกุ ดว้ ยการสลับเทา้ 68 คูม่ ือผู้ฝึกสอนกีฬาเซปกั ตะกร้อ T-Certificate
วธิ ีฝกึ การรุกเบื้องต้น การรุกจะประสบความสำเร็จมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้เล่น และกระบวนการรบั ลูกเสริ ์ฟและการต้งั ลกู จะตอ้ งดีและสมบูรณ ์ การรุก ประกอบด้วย 1. การรกุ ด้วยลูกทำหลกั (ต้องฝกึ ให้มีลูกทำหลกั ทตี่ นเองถนดั ) 2. การรุกดว้ ยลกู ทำสำรอง (ตอ้ งฝกึ ให้ครบ) ประเภทการรกุ มดี งั นี ้ 1. การกระโดดลอยตัวเตะลกู ตะกร้อกลางอากาศ 2. การกระโดดลอยตวั เตะลกู ตะกร้อด้วยการสลบั เทา้ 3. การกระโดดใชศ้ ีรษะกดลูกตะกร้อ 4. การใช้ฝ่าเท้ากระโดดเหยียบลกู ตะกร้อ 5. การใชฝ้ ่าเทา้ กระโดดปาดลกู ตะกร้อ วิธีการฝึกลูกต่างๆ ควรใช้วิธีฝึกจากง่ายไปหายาก เช่น การฝึกโยนให้เล่นในระดับต่ำ กวา่ ตาข่าย เปน็ ตน้ ขน้ั ตอนที่ 6 การสกัดกน้ั การสกดั กน้ั หรอื การบลอ็ ก หมายถงึ การตงั้ รบั ทเ่ี กดิ ขนึ้ ภายหลงั จากการรกุ ซงึ่ เปน็ การรกุ ท่ีรุนแรงและรวดเร็ว ยากแก่การต้ังรับแบบธรรมดา จึงเกิดแนวคิดหาวิธีสกัดก้ันที่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ขา ลำตวั หลงั และศรี ษะ การสกัดกนั้ มี 3 แบบ คอื 1. การสกัดก้นั ด้วยขาและลำตวั 2. การสกัดกั้นดว้ ยศีรษะ 3. การสกัดกนั้ ดว้ ยแผน่ หลังตรงและเอยี งขา้ ง การสกัดกั้น คือ การนำเอาอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกาย ยกเว้นส่วนที่เป็นแขน (ตั้งแต่หัวไหล่ลงไปจนถึงปลายน้ิวมือ) ข้ึนสกัดก้ันการรุกของคู่แข่งเหนือตาข่าย การสกัดก้ันเปรียบเสมือน การตั้งรับอย่างหนึ่ง แต่เป็นการต้ังรับเฉพาะการรุกที่รุนแรงเท่าน้ัน การสกัดก้ันที่ได้ผลดีนั้น ตอ้ งคำนึงถงึ จังหวะของผู้สกดั กั้นกับจังหวะของผรู้ กุ ให้มีความสัมพันธ์กนั โดยการกะระยะให้พอดี พร้อมกับจัดระเบียบส่วนต่างๆ ของร่างกายให้รัดกุมและไม่เสียการทรงตัว การสกัดกั้นเป็นการสร้าง ความกดดันให้เกิดข้นึ กบั คู่แข่งขนั หากสามารถทำไดผ้ ลตดิ ต่อกนั หลายๆ คร้งั คูม่ อื ผู้ฝกึ สอนกีฬาเซปักตะกรอ้ T-Certificate 69
แสดงท่าการสกดั กน้ั วธิ ีการฝกึ การสกดั ก้ันระดบั เบอ้ื งตน้ 1. หากผู้เล่นถนัดเท้าขวา ให้ฝึกกระโดดเตะเท้าขวาข้ึนสูงติดต่อกัน โดยใช้เท้าซ้าย เป็นเท้าหลักในการยกน้ำหนักตัวเอง เป็นการฝึกสปริงข้อเท้า โดยทำเป็นยกๆ ละ 20 ครั้ง พัก 1 นาที จำนวน 5 ยก 2. ให้ผู้เล่นฝึกกระโดดเลียบตาข่ายในระดับต่ำพร้อมกับการจัดระเบียบของร่างกาย ใหร้ ัดกมุ ถูกต้องและไมเ่ สยี การทรงตัว ขั้นตอนท่ี 7 การรับลกู ทเี่ กิดข้นึ จากการสกัดก้ัน การรับลูกที่เกิดข้ึนจากการสกัดกั้น หมายถึง การต้ังรับลูกตะกร้อ ซ่ึงเป็นผลที่เกิดข้ึน จากการสกัดกั้นที่ได้ผล คือ การกระดอนกลับของลูกตะกร้อท่ีจะต้องตกลงในเขตของฝ่ายรุก ดงั นน้ั ฝา่ ยทมี่ หี นา้ ทร่ี บั ลกู ทเ่ี กดิ จากการสกดั กนั้ คอื ผเู้ ลน่ ทเี่ หลอื 2 คนของฝา่ ยรกุ นนั่ เอง ตอ้ งตดิ ตาม รบั ลกู ตะกร้อไมว่ า่ จะตกในส่วนใดของสนาม โดยแบง่ หน้าทใ่ี นการรบั ออกเปน็ 2 สว่ น คือ 1. บรเิ วณใกล้ตาขา่ ย 2. บรเิ วณไกลตาขา่ ย แสดงทา่ การตงั้ รับลูกทเี่ กิดจากการสกดั กน้ั 70 คมู่ ือผฝู้ กึ สอนกฬี าเซปักตะกรอ้ T-Certificate
ขนั้ ตอนที่ 8 การตัง้ รบั การตั้งรับ หมายถึง การวางแผนในการต้ังรับลูกตะกร้อ จากเกมการรุกของคู่แข่งขัน ซงึ่ อาจจะเปน็ การรกุ ทรี่ นุ แรงหรอื รนุ แรงปานกลางในเขตการรกุ ระยะไกลจากตาขา่ ย โดยไมม่ กี ารสกดั กนั้ จะตอ้ งวางแผนการตง้ั รับจากจดุ ต่างๆ ที่ฝ่ายรกุ โต้ตอบกลับมา ผลตอบแทนที่ไดร้ บั ในขั้นตอนน้ี คือ 1. เม่ือเป็นฝ่ายเสิร์ฟ หากสามารถรับได้จะกลับเป็นฝ่ายรุกตอบ ถ้าการรุกได้ผล ส่งิ ท่ีไดร้ ับคอื คะแนน 2. เม่ือเป็นฝ่ายรับ หากสามารถรับได้และรุกตอบได้ผล สิ่งท่ีได้รับคือกลับมามีสิทธิ์ ในการเสริ ฟ์ และได้คะแนน แสดงท่าการยนื ตั้งรบั ระยะไกล จดุ รกุ ดา้ นซา้ ย เส้นแบง่ คร่งึ ฝ่ายตัง้ รบั ภาพแสดงการตง้ั รับจากจุดรกุ นอกสนามด้านซ้ายมือ ฝ่ายตงั้ รับ เส้นแบ่งคร่งึ จดุ รุกด้านขวา 71 ภาพแสดงการต้งั รับจากจดุ รกุ นอกสนามด้านขวามอื คู่มอื ผู้ฝึกสอนกีฬาเซปักตะกร้อ T-Certificate
ก ตกิ าเซปกั ตะกร้อของสหพนั ธ ์ เซปกั ตะกร้อนานาชาติ (ISTAF) ขอ้ 1 สนามแข่งขนั (The Court) 1.1 สนาม พื้นที่ของสนามมีความยาว 13.40 เมตร และกวา้ ง 6.10 เมตร จะต้องไมม่ ี สงิ่ กดี ขวางใดๆ วดั จากพ้นื สนามสงู ขึน้ ไป 8 เมตร (พ้ืนสนามไม่ควรเปน็ หญ้าหรอื สนามทราย) 1.2 เส้นสนาม ขนาดของเส้นสนามทุกเส้นที่เป็นขอบเขตของสนามต้องไม่กว้างกว่า 4 เซนตเิ มตร ใหต้ เี สน้ จากขอบนอกเขา้ มาในสนาม และถอื เปน็ สว่ นหนง่ึ ของพน้ื ทสี่ นามแขง่ ขนั ดว้ ย เส้นเขตสนามทุกเสน้ ตอ้ งห่างจากส่งิ กีดขวางอย่างนอ้ ย 3 เมตร 1.3 เส้นกลาง มีขนาดความกว้างของเส้น 2 เซนติเมตร โดยจะแบ่งพื้นท่ีของสนาม ออกเปน็ ดา้ นซ้ายและขวาเทา่ ๆ กัน “The.9QmuarrtaedriuCsir cle” 0.40 m 6.10 m Service Circle 3.05 m h1.i5gh2 m .30 m 2.45 m radius 1/2 court = 6.7 m 13.40 m 1.4 เส้นเสี้ยววงกลม ที่มุมสนามของแต่ละด้านตรงเส้นกลาง ให้จุดศูนย์กลางอยู่ที่ กึ่งกลางของเส้นกลางตัดกับเส้นขอบนอกของเส้นข้าง เขียนเส้นเสี้ยววงกลมทั้งสองด้าน รัศมี 90 เซนติเมตร ใหต้ เี สน้ ขนาดความกวา้ ง 4 เซนตเิ มตร นอกเขตรัศมี 90 เซนตเิ มตร 1.5 วงกลมเสิร์ฟ ให้มีรัศมี 30 เซนติเมตร โดยวัดจากขอบด้านนอกของเส้นหลัง เข้าไปในสนามยาว 2.45 เมตร และวัดจากเส้นข้างเข้าไปในสนามยาว 3.05 เมตร ให้ตรงจุดตัด จากเส้นหลัง และเส้นข้างเป็นจุดศูนย์กลาง ให้เขียนเส้นวงกลมขนาดความกว้าง 4 เซนติเมตร นอกเขตรัศมี 30 เซนตเิ มตร 72 ค่มู ือผฝู้ ึกสอนกฬี าเซปักตะกรอ้ T-Certificate
ข อ้ 2 เสา (The Post) 2.1 เสามีความสูง 1.55 เมตร สำหรับผชู้ าย และ 1.45 เมตร สำหรบั ผู้หญิง เสาให้ตงั้ อยู่ อย่างมั่นคงพอท่ีจะทำให้ตาข่ายตึงได้ โดยเสาจะต้องทำจากวัตถุที่มีความแข็งแกร่ง และรัศม ี ไม่เกิน 4 เซนติเมตร 2.2 ตำแหน่งของเสา ให้ต้ังหรือวางไว้อย่างม่ันคงนอกสนามตรงกับแนวเส้นกลาง ห่างจากเสน้ ข้าง 30 เซนตเิ มตร ข ้อ 3 ตาขา่ ย (The Net) 3.1 ตาขา่ ยให้ทำดว้ ยเชอื กอย่างดีหรอื ไนลอ่ น มีรตู าข่ายกว้าง 6-8 เซนตเิ มตร 3.2 ตาขา่ ย เมอ่ื ขงึ ตงึ อยเู่ หนอื เสน้ กลาง มขี นาดความกวา้ งของผนื ตาขา่ ย 70 เซนตเิ มตร และความยาวไมน่ ้อยกว่า 6.10 เมตร 3.3 แถบข้างตาข่าย ตรงปลายท้ังสองด้านของตาข่ายให้มีแถบ ขนาดกว้าง 5 เซนติเมตร ติดตั้งอยู่เหนือแนวเสน้ ข้างและถอื เปน็ สว่ นหนึ่งของตาข่าย 3.4 ตาขา่ ยใหม้ แี ถบขนาดกวา้ ง 5 เซนตเิ มตร ทงั้ ดา้ นบนและดา้ นลา่ ง โดยมเี ชอื กธรรมดา หรอื ไนล่อนอย่างดีรอ้ ยผ่านแถบ สามารถขงึ ตาขา่ ยใหต้ ึงเสมอระดบั ความสูงของหัวเสาได้ 3.5 ความสงู ของตาขา่ ย วดั จากพน้ื ถงึ ขอบบนของตาขา่ ยกงึ่ กลางสนาม มคี วามสงู 1.52 เมตร สำหรับผู้ชาย และ 1.42 เมตร สำหรับผู้หญิง ในขณะท่ีบริเวณหัวเสามีความสูง 1.55 เมตร สำหรบั ผู้ชาย และ 1.45 เมตร สำหรบั ผหู้ ญิง 6.10 m 5 cm 6-8 cm ชญ 11..5422 mm 70 cm ช 1.55 m ญ 1.45 m คู่มือผ้ฝู กึ สอนกฬี าเซปกั ตะกร้อ T-Certificate 73
ข้อ 4 ลกู ตะกร้อ (The Takraw Ball) 4.1 ลูกตะกรอ้ แต่เดิมทำด้วยหวาย มลี ักษณะเป็นลกู ทรงกลม ปจั จบุ นั ทำด้วยใยสงั เคราะห์ถกั สานเปน็ ช้นั เดยี ว 4.2 ลูกตะกร้อท่ไี ม่ได้เคลือบดว้ ยยางสงั เคราะห์ ต้องมีลกั ษณะดงั นี ้ 4.2.1 มี 12 ร ู 4.2.2 มจี ุดตัดไขว้ 20 จดุ 4.2.3 มีขนาดเสน้ รอบวง 41-43 เซนตเิ มตร สำหรับผ้ชู าย และ 42-44 เซนตเิ มตร สำหรบั ผหู้ ญิง 4.2.4 มีนำ้ หนกั อยรู่ ะหว่าง 170-180 กรัม สำหรบั ผชู้ าย และ 150-160 กรมั สำหรบั ผหู้ ญิง 4.3 ลูกตะกร้ออาจมีสีเดียวหรือหลายสี หรือใช้สีสะท้อนแสงก็ได้ แต่จะต้องไม่เป็นส ี ที่ทำให้ความสามารถของผู้เล่นลดลง 4.4 ลูกตะกร้ออาจทำด้วยยางสังเคราะห์หรือเคลือบด้วยวัสดุนุ่มที่มีความคงทน เพื่อให้มีความอ่อนนุ่มต่อการกระทบกับร่างกายของผู้เล่น ลักษณะของวัสดุและวิธีการผลิต ลูกตะกร้อหรือการเคลือบลูกตะกร้อด้วยยาง หรือวัสดุที่อ่อนนุ่ม ต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน จากสหพันธเ์ ซปักตะกร้อนานาชาติ (ISTAF) ก่อนการใชใ้ นการแข่งขนั 4.5 รายการแข่งขันระดับโลก นานาชาติ และการแข่งขันระดับภูมิภาคท่ีได้รับรอง จากสหพันธ์เซปักตะกร้อนานาชาติ (ISTAF) รวมท้ังในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ เวิลด์เกมส์ กีฬาเครือจักรภพ เอเช่ียนเกมส์ และซีเกมส์ ต้องใช้ลูกตะกร้อท่ีได้รับการรับรองจากสหพันธ ์ เซปักตะกร้อนานาชาติ (ISTAF) 74 คู่มอื ผู้ฝกึ สอนกฬี าเซปักตะกร้อ T-Certificate
ขอ้ 5 ผเู้ ลน่ (The Players) 5.1 การแขง่ ขนั มี 2 ทีม ประกอบดว้ ยผูเ้ ล่นฝ่ายละ 3 คน 5.2 ผู้เล่นคนหนึ่งในสามคนจะเป็นผู้เสิร์ฟและอยู่ด้านหลัง เรียกว่า “เตกองหรือผู้เสิร์ฟ” (Tekong Server) 5.3 ผู้เล่นอีกสองคนอยู่ด้านหน้า โดยคนหนึ่งจะอยู่ด้านซ้ายและอีกคนจะอยู่ด้านขวา คนที่อยู่ด้านซ้ายเรียกว่า “หน้าซ้าย” (Left Inside) และคนท่ีอยู่ด้านขวา เรียกว่า “หน้าขวา” (Right Inside) หนา้ ซา้ ย หนา้ ขวา ผเู้ สริ ฟ์ ผเู้ สริ ฟ์ หนา้ ขวา หนา้ ซา้ ย 5.4 ประเภททมี ชดุ 5.4.1 แต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่นอย่างน้อย 9 คน และไม่เกิน 12 คน (3 ทีม ผู้เล่นทีมละ 3 คน สำรอง 3 คน) ผู้เล่นแต่ละคนต้องลงทะเบียนเพ่ือเข้าร่วมการแข่งขัน ทุกคร้ัง แต่ละทีมจะมีผู้เล่นท่ีลงทะเบียนเป็นผู้เล่นสำรอง ได้ไม่เกิน 3 คน และอนุญาตให ้ ผูเ้ ลน่ สำรองเปล่ียนตัวลงแขง่ ขนั ได้เพยี งทมี ใดทมี หนง่ึ เท่านัน้ 5.4.2 ก่อนการแข่งขัน แต่ละทีมต้องมีผู้เล่นที่ขึ้นทะเบียนอย่างน้อย 9 คน พร้อมทจี่ ะลงแขง่ ขนั ในสนามแขง่ ขนั 5.4.3 ทีมใดท่ีมีผู้เล่นน้อยกว่า 9 คน จะไม่อนุญาตให้เข้าแข่งขันและถือว่า ถูกปรบั ให้เป็นแพ้ในการแขง่ ขัน คมู่ ือผฝู้ ึกสอนกฬี าเซปกั ตะกรอ้ T-Certificate 75
5.5 ประเภททมี เดย่ี ว 5.5.1 แต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่นอย่างน้อย 3 คน และไม่เกิน 5 คน (1 ทมี มผี เู้ ลน่ 3 คน สำรอง 2 คน) ผ้เู ล่นทกุ คนต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมการแขง่ ขนั ทุกคร้ัง 5.5.2 ก่อนการแข่งขัน แต่ละทีมต้องมีผู้เล่นท่ีข้ึนทะเบียนอย่างน้อย 3 คน พร้อมท่จี ะลงแขง่ ขนั ในสนามแข่งขัน 5.5.3 ในระหว่างการแข่งขัน ทีมใดมีผู้เล่นน้อยกว่า 3 คน ในสนามแข่งขัน จะไม่อนุญาตให้ทำการแข่งขนั และถูกปรบั เปน็ ฝ่ายแพ้ในการแข่งขัน ข อ้ 6 เคร่อื งแตง่ กายของผูเ้ ลน่ (Player’s Attire) 6.1 อุปกรณ์ท่ีผู้เล่นใช้ต้องเหมาะสมกับการเล่นเซปักตะกร้อ อุปกรณ์ใดที่ออกแบบ เพื่อเพ่ิมหรือลดความเร็วของลูกตะกร้อ เพิ่มความสูงของผู้เล่นหรือการเคลื่อนไหว หรือทำให้เกิด ความไดเ้ ปรยี บใดๆ หรอื อาจเป็นอันตรายต่อตวั ผ้เู ลน่ และคู่แข่งขนั จะไม่ไดร้ ับอนุญาตใหใ้ ช้ 6.2 เพ่ือป้องกันไม่ให้เกิดความสับสนหรือเกิดการขัดแย้งโดยไม่จำเป็นท้ังสองทีม ทมี ทเ่ี ขา้ แขง่ ขนั ตอ้ งใชเ้ สอื้ สตี า่ งกนั 6.3 แต่ละทีมต้องมีชุดแข่งขันอย่างน้อย 2 ชุด เป็นสีอ่อนและสีเข้ม หากท้ังสองทีม ท่ีเข้าร่วมการแข่งขันใช้เสื้อสีเดียวกัน ทีมเจ้าบ้านต้องเปลี่ยนสีเส้ือทีม ในกรณีสนามกลาง ทีมที่ม ี ชอื่ แรกในโปรแกรมการแขง่ ขันตอ้ งเปลีย่ นสเี สือ้ ทีม 6.4 เครอ่ื งแตง่ กายของผเู้ ลน่ ประกอบดว้ ย เสอ้ื ยดื คอปกหรอื คอกลมแขนสนั้ กางเกงขาสน้ั ถุงเท้าและรองเท้าพื้นยางไม่มีส้น ส่วนต่างๆ ของเคร่ืองแต่งกายของผู้เล่นถือเป็นส่วนหนึ่งของ ร่างกายและชายเสื้อต้องอยู่ในกางเกงตลอดเวลาการแข่งขัน ในกรณีท่ีอากาศหนาว อนุญาตให ้ ผเู้ ล่นสวมชดุ วอรม์ ทำการแขง่ ขนั 6.5 เสอ้ื ของผเู้ ลน่ ทกุ คนจะตอ้ งตดิ หมายเลขทง้ั ดา้ นหนา้ และดา้ นหลงั และผเู้ ลน่ แตล่ ะคน ตอ้ งใชห้ มายเลขประจำนน้ั ตลอดการแขง่ ขนั ใหแ้ ตล่ ะทมี ใชห้ มายเลข 1-36 เทา่ นนั้ สำหรบั ขนาดของ หมายเลข ด้านหลังสูงไม่น้อยกว่า 19 เซนติเมตร และด้านหน้าสูงไม่น้อยกว่า 10 เซนติเมตร (ตรงกลางหน้าอก) เส้ือทีมต้องมีชื่อของผู้เล่นอยู่เหนือหมายเลขด้านหลังเสื้อและมีขนาดใหญ ่ ทสี่ ามารถมองเหน็ ไดจ้ ากทางโทรทศั น์ หา้ มไมใ่ หม้ ตี ราสญั ลกั ษณอ์ นื่ ๆ ทไ่ี มใ่ ชส่ ญั ลกั ษณข์ องผผู้ ลติ เสอื้ ปรากฎอยู่บนเสื้อของผู้เล่นโดยเด็ดขาด ยกเว้นเส้ือทีมอาจมีสัญลักษณ์ของผู้สนับสนุนท่ีด้านหน้า ของเสือ้ ทมี โดยใหป้ ฏิบตั ติ ามกฎ ระเบียบของการแขง่ ขัน 6.6 หวั หนา้ ทมี ตอ้ งสวมปลอกแขนดา้ นซา้ ยของแขนเสอื้ และใหส้ ตี า่ งจากสเี สอ้ื ของผเู้ ลน่ 6.7 เครอื่ งแตง่ กายอน่ื ใดทไ่ี มไ่ ดร้ ะบไุ วใ้ นกตกิ านี้ ตอ้ งไดร้ บั การรบั รองจากรรมการเทคนคิ ของสหพนั ธเ์ ซปกั ตะกรอ้ นานาชาติ (ISTAF) กอ่ น 76 คู่มอื ผูฝ้ ึกสอนกฬี าเซปกั ตะกร้อ T-Certificate
ข้อ 7 การเปลยี่ นตวั ผู้เลน่ (Substitution) 7.1 ในทมี ชดุ ผเู้ ลน่ แตล่ ะคนทลี่ งแขง่ ขนั ในทมี ใดแลว้ จะไมม่ กี ารแขง่ ขนั ซำ้ ในทมี อน่ื อกี 7.2 การเปล่ียนตัวผู้เล่นจะกระทำในเวลาใดก็ได้ โดยผู้จัดการทีมยื่นขอต่อกรรมการ ผู้ชข้ี าด (Official Referee) เมื่อลกู ตะกรอ้ ไมไ่ ด้อยใู่ นการเล่น 7.3 ประเภททมี เดยี่ ว ในการแขง่ ขนั แตล่ ะครง้ั ใหแ้ ตล่ ะทมี มผี เู้ ลน่ สำรองไดไ้ มเ่ กนิ 2 คน นอกเหนอื จากผเู้ ลน่ 3 คน ทเี่ รมิ่ เลน่ ในสนามและสามารถทำการเปลย่ี นตวั ไดไ้ มเ่ กนิ 2 ครง้ั ในแตล่ ะเซท็ ประเภททีมชุด ในการแข่งขันแต่ละคร้ัง ให้แต่ละทีมเด่ียวเปลี่ยนตัวผู้เล่นสำรอง ได้ไม่เกิน 1 คน นอกเหนือจากผู้เล่น 3 คน ท่ีเริ่มเล่นในสนามและสามารถทำการเปล่ียนตัว ไดไ้ ม่เกิน 2 ครง้ั ในแตล่ ะเซ็ท การเปลยี่ นตวั ทกุ ครง้ั ใหอ้ ยใู่ นอำนาจหนา้ ทขี่ องกรรมการประจำสนาม (Court Referee) และใหก้ ระทำที่ด้านขา้ งของสนาม โดยให้อยใู่ นสายตาของผู้ตัดสิน (Match Referee) การเปลยี่ นตวั สามารถกระทำไดใ้ นระหวา่ งการแขง่ ขนั เมอื่ ลกู ตะกรอ้ ไมไ่ ดอ้ ยใู่ นการเลน่ หรือในทนั ทที ่เี ริม่ การแข่งขันในแต่ละเซท็ การเปลี่ยนตัวสามารถเปลี่ยนตัวได้ 1 คนหรือ 2 คนพร้อมกันในเวลาเดียวกัน สำหรับประเภททีมเดี่ยวเท่าน้ัน (เปล่ียน 2 คนพร้อมกัน ให้นับเป็นสองครั้ง) ก่อนการแข่งขัน ในเซท็ ใหม่ ทีมใดมีการเปลีย่ นตัวในการพักระหวา่ งเซท็ ใหถ้ อื เปน็ การเปลี่ยนตัวในเซท็ ใหม่ 7.4 ถ้ามีผู้เล่นเกิดการบาดเจ็บและไม่สามารถทำการแข่งขันต่อไปได้ อนุญาตให้ทีมน้ัน ทำการเปล่ียนตัวผู้เล่นถ้ายังไม่ได้ใช้สิทธ์ิในการเปล่ียนตัว แต่ถ้ามีการเปลี่ยนตัวครบ 2 ครั้ง ในเซ็ทน้ันแล้ว การแขง่ ขันจะยตุ ิลงและทมี ดงั กลา่ วจะถกู ปรบั ให้เปน็ แพใ้ นการแข่งขัน 7.5 ถ้าผู้เล่นได้รับบัตรแดง จะถูกลงโทษให้ออกจากการแข่งขัน อนุญาตให้ทีมน้ัน ทำการเปล่ยี นตัวผู้เล่น ถา้ ยงั ไมไ่ ด้ใช้สทิ ธ์ใิ นการเปลยี่ นตัว แต่ถ้ามีการเปลย่ี นตัวผู้เล่นครบ 2 ครัง้ ในเซ็ทน้ันแลว้ การแข่งขันจะยตุ ิลง และทมี ดังกล่าวจะถกู ปรับให้เปน็ แพ้ในการแขง่ ขนั 7.6 มีผู้เล่นน้อยกว่า 3 คน การแข่งขันจะยุติลง และทีมดังกล่าวจะถูกปรับให้เป็นแพ ้ ในการแขง่ ขนั ข อ้ 8 การเสยี่ งและการอบอนุ่ รา่ งกาย (The Toss of Coin and Warm Up) 8.1 ก่อนเริ่มการแข่งขัน กรรมการประจำสนาม (Court Referee) จะกระทำการเส่ียง โดยใชเ้ หรยี ญหรอื วตั ถกุ ลมแบนตอ่ หนา้ หวั หนา้ ทมี ฝา่ ยทช่ี นะการเสยี่ งจะไดส้ ทิ ธเิ์ ลอื ก “แดน” หรอื เลือก “เสิร์ฟ” ผู้แพ้การเสี่ยงต้องเลือกสิทธ์ิท่ีเหลือและท้ัง 2 ทีมต้องปฏิบัติตามคำสั่งของกรรมการ ประจำสนาม (Court Referee) คูม่ อื ผ้ฝู ึกสอนกฬี าเซปกั ตะกรอ้ T-Certificate 77
8.2 ทมี ทชี่ นะการเสย่ี งจะตอ้ งอบอนุ่ รา่ งกายกอ่ นเปน็ ระยะเวลา 2 นาที ในสนามดว้ ยลกู ตะกรอ้ ท่ีใชใ้ นการแข่งขนั และตามดว้ ยทมี ที่แพ้การเสยี่ ง โดยอนุญาตใหม้ บี ุคคลในสนามเพยี ง 5 คน ขอ้ 9 ตำแหนง่ ของผเู้ ลน่ ระหวา่ งการสง่ ลกู (Position of Players During Service) 9.1 เมอ่ื เรม่ิ เลน่ ผเู้ ลน่ ทง้ั สองทมี ตอ้ งยนื อยใู่ นทท่ี ก่ี ำหนดไวใ้ นแดนของตนในลกั ษณะเตรยี มพรอ้ ม 9.2 ผเู้ ล่นเสริ ฟ์ ตอ้ งวางเท้าขา้ งหนึ่งในวงกลมเสริ ์ฟ 9.3 ผู้เล่นหนา้ ท้ังสองคนของฝา่ ยเสริ ฟ์ ต้องยืนในเส้ยี ววงกลมของตนเอง 9.4 ผเู้ ลน่ ของฝา่ ยตรงขา้ มหรอื ฝา่ ยรบั จะยนื อยทู่ ี่ใดก็ได้ในแดนของตนเอง ข ้อ 10 การเรม่ิ เล่นและการสง่ ลกู (The Start of Play & Service) 10.1 การแข่งขันถูกดำเนินการโดยผู้ตัดสิน (Match Referee) หนึ่งคน โดยอยู่ใน ตำแหน่งด้านหน่ึงของปลายตาข่าย มีผู้ช่วยผู้ตัดสิน (Assistant Match Referee) หนึ่งคน อยู่ตรงกันข้ามกับผู้ตัดสิน มีกรรมการประจำสนาม (Court Referee) หน่ึงคน อยู่ด้านหลัง ผู้ตดั สิน มผี ูต้ ดั สนิ กำกบั เสน้ (Line Referee) สองคน โดยคนหนึง่ อยู่ทางเส้นขา้ งด้านขวามือของ ผู้ตดั สินและอีกคนหน่ึงอย่ทู างเส้นขา้ งดา้ นขวามือของผ้ชู ่วยผู้ตดั สิน ผตู้ ดั สนิ จะไดร้ บั ความชว่ ยเหลอื จากกรรมการผชู้ ข้ี าด (Official Referee) ทอ่ี ยนู่ อกสนาม ทีมที่ได้เสิร์ฟก่อนจะเสิร์ฟติดต่อกัน 3 คร้ัง ในขณะที่อีกทีมหน่ึงก็จะได้สิทธิ์การเสิร์ฟ ในลกั ษณะเดยี วกนั หลงั จากนนั้ ใหส้ ลบั กนั เสริ ฟ์ ทกุ ๆ 3 คะแนน ไมว่ า่ ฝา่ ยใดจะไดค้ ะแนนหรอื เสยี คะแนน การดวิ ส์ เมอ่ื ทงั้ สองทมี ทำคะแนนไดเ้ ทา่ กนั ท่ี 14 - 14 การเสริ ฟ์ จะสลบั กนั ทกุ คะแนน ทีมที่เป็นฝ่ายรับจากการเริ่มเล่นในเซ็ทใดก็ตาม จะเป็นฝ่ายเสิร์ฟก่อนในเซ็ทต่อไป และจะตอ้ งเปลยี่ นแดนกอ่ นเรม่ิ การแขง่ ขนั ในแตล่ ะเซท็ 10.2 ผสู้ ง่ ลกู จะตอ้ งโยนลกู ตะกรอ้ เมอื่ กรรมการตดั สนิ ขานคะแนน หากผสู้ ง่ ลกู โยนลกู ตะกรอ้ กอ่ นทก่ี รรมการผตู้ ดั สนิ ขานคะแนน ผตู้ ดั สนิ ตอ้ งตกั เตอื นและใหโ้ ยนใหม่ หากกระทำซำ้ ดงั กลา่ วอกี จะตัดสนิ ว่า “เสยี ” (Fault) 10.3 ระหว่างการเสิร์ฟ ทันทีท่ีผู้เสิร์ฟเตะลูกตะกร้อ อนุญาตให้ผู้เล่นทุกคนเคลื่อนที่ได้ ในแดนของตน 10.4 การเสริ ฟ์ ทถี่ กู ตอ้ ง คอื ลกู ตะกรอ้ จะตอ้ งขา้ มตาขา่ ย ไมว่ า่ ลกู ตะกรอ้ จะสมั ผสั ตาขา่ ย หรอื ไมก่ ต็ าม และตกลงในแดนหรือขอบเขตของสนามฝา่ ยตรงขา้ ม 10.5 ในระบบการแข่งขันแบบแพ้คัดออก ไม่จำเป็นต้องแข่งขันในทีมท่ี 3 เมื่อมี ผลการแข่งขนั แพ้-ชนะ เกิดข้นึ แลว้ 78 คมู่ ือผูฝ้ ึกสอนกีฬาเซปกั ตะกรอ้ T-Certificate
10.6 ในระบบการแข่งขันแบบพบกันหมด ถือเป็นข้อบังคับสำหรับทุกทีม ต้องแข่งขัน ครบทั้ง 3 ทมี ข้อ 11 การผิดกตกิ า (Faults) 11.1 ผู้เล่นฝา่ ยเสิร์ฟระหวา่ งการเสิรฟ์ ลกู (The Serving Side During Service) 11.1.1 ภายหลังจากที่ผู้ตัดสินขานคะแนนไปแล้ว ผู้เล่นหน้าท่ีทำหน้าท่ีโยนลูก กระทำอยา่ งหนงึ่ อยา่ งใดกบั ลกู ตะกรอ้ เชน่ โยนลกู เลน่ เคาะลกู เลน่ โยนลกู ใหผ้ เู้ ลน่ หนา้ อกี คนหนงึ่ เปน็ ตน้ 11.1.2 ผู้เล่นหน้าคนใดยกเท้า หรือเหยียบเส้นข้าง หรือเส้นกลางหรือข้ามเส้น หรอื สว่ นหนึง่ สว่ นใดของร่างกายสมั ผสั ตาขา่ ยขณะโยนส่งลูกตะกรอ้ 11.1.3 ผู้เสิร์ฟ กระโดดเสิร์ฟในขณะเตะส่งลูก หรือเท้าหลักที่แตะพื้นเหยียบเส้น วงกลมก่อนและระหว่างการสง่ ลูก 11.1.4 ผ้เู สริ ์ฟไมไ่ ดเ้ ตะลูกทีผ่ โู้ ยน โยนไปใหเ้ พื่อการเสิร์ฟ 11.1.5 ลกู ตะกร้อถูกผูเ้ ล่นคนอืน่ ภายในทมี กอ่ นขา้ มไปยงั พื้นทีข่ องฝา่ ยตรงข้าม 11.1.6 ลกู ตะกร้อขา้ มตาข่ายแต่ตกลงนอกเขตสนาม 11.1.7 ลกู ตะกรอ้ ไม่ข้ามไปยงั ฝ่ายตรงข้าม 11.1.8 ผเู้ ลน่ ใชม้ อื ขา้ งหนง่ึ ขา้ งใดหรอื ทง้ั สองขา้ ง หรอื สว่ นอน่ื ของแขนเพอ่ื ชว่ ยในการ เตะลกู แมม้ อื หรอื แขนไมไ่ ดแ้ ตะลกู ตะกรอ้ โดยตรง แตส่ มั ผสั สงิ่ หนงึ่ สง่ิ ใดในขณะกระทำการดงั กลา่ ว 11.1.9 ผู้สง่ ลกู โยนลกู ตะกรอ้ ก่อนที่ผตู้ ัดสินขานคะแนนเปน็ ครง้ั ท่ีสอง หรือคร้งั ต่อไป ในการแขง่ ขัน 11.2 ฝา่ ยเสริ ฟ์ และฝา่ ยรบั ในระหวา่ งการเสริ ฟ์ (Serving And Reciving Side During Service) 11.2.1 กระทำการในลักษณะทำให้เสียสมาธิ หรือส่งเสียงรบกวน หรือตะโกน ไปยงั ฝา่ ยตรงข้าม 11.3 สำหรบั ผเู้ ลน่ ทง้ั สองฝา่ ยระหวา่ งการแขง่ ขนั (For Both Side During The Game) 11.3.1 ผูเ้ ลน่ สัมผัสลกู ตะกร้อในแดนของฝา่ ยตรงข้าม 11.3.2 ส่วนหน่ึงส่วนใดของร่างกายผู้เล่นล้ำไปในแดนฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะเป็น ด้านบนหรอื ดา้ นลา่ งของตาขา่ ย ยกเว้นระหวา่ งการเล่นลกู ต่อเน่อื ง (Follow Through) 11.3.3 เล่นลกู เกิน 3 ครั้งติดตอ่ กัน 11.3.4 ลูกตะกร้อสัมผัสแขน 11.3.5 หยดุ ลกู หรือยดึ ลกู ตะกร้อไว้ใตแ้ ขน หรือระหว่างขา หรือร่างกาย 11.3.6 สว่ นหนงึ่ สว่ นใดของรา่ งกายผเู้ ลน่ หรอื อปุ กรณ์ เชน่ รองเทา้ เสอ้ื ผา้ พนั ศรี ษะ สมั ผสั ตาขา่ ย หรอื เสาตาข่าย หรอื เกา้ อีก้ รรมการผ้ตู ัดสิน หรือตกลงในแดนของฝา่ ยตรงข้าม คู่มือผู้ฝกึ สอนกีฬาเซปกั ตะกรอ้ T-Certificate 79
11.3.7 ลูกตะกรอ้ ถูกเพดาน หลังคา ผนงั หรือวัตถสุ ิ่งกีดขวางอื่นใด 11.3.8 ผู้เล่นคนใดที่ใช้อปุ กรณ์หรือสิ่งกดี ขวางภายนอกอื่นใดเพ่ือช่วยในการเตะ ขอ้ 12 การนับคะแนน (Scoring System) 12.1 ผ้เู ล่นฝา่ ยเสิรฟ์ หรือฝ่ายรับทำผิดกตกิ า (Fault) ฝ่ายตรงข้ามจะไดค้ ะแนน 12.2 การชนะในแต่ละเซ็ทผู้ชนะต้องทำคะแนนได้ 15 คะแนน จึงจะถือว่าชนะในการ แข่งขันครง้ั น้นั ในกรณแี ตล่ ะทมี มคี ะแนนเทา่ กนั 14 - 14 ผชู้ นะตอ้ งมคี ะแนนนำทต่ี า่ งกนั 2 คะแนน และสูงสุดไม่เกนิ 17 คะแนน เมื่อคะแนนเท่ากัน 14-14 ผู้ตัดสินขานว่า “ดิวส์คู่ไม่เกิน 17 คะแนน” (Setting Up to 17 Points) 12.3 ประเภททมี เดย่ี ว การแขง่ ขนั ตอ้ งชนะกนั 3 ใน 5 เซท็ มกี ารพกั ระหวา่ งเซท็ 2 นาที และเรยี กแตล่ ะเซท็ ว่า เซท็ ทห่ี นึ่ง เซ็ทท่ีสอง เซ็ททส่ี าม เซ็ททสี่ ี่ และ เซ็ทที่ห้า ประเภททีมชดุ การแขง่ ขนั ต้องชนะกนั 2 ใน 3 เซท็ มีการพกั ระหวา่ งเซ็ท 2 นาที และเรียกแต่ละเซ็ทวา่ เซท็ ท่ีหนง่ึ เซ็ททีส่ อง และเซ็ทท่ีสาม 12.4 ก่อนเริ่มการแข่งขันเซ็ทที่ห้าในประเภททีมเด่ียวและเซ็ทท่ีสามในประเภททีมชุด ให้ผู้ตัดสินกระทำการเส่ียงโดยใช้เหรียญหรือวัตถุกลมแบน ฝ่ายที่ชนะการเส่ียงจะเป็นฝ่ายที่เริ่ม เสริ ์ฟกอ่ น เมื่อทีมใดทีมหนึง่ ทำคะแนนได้ถงึ 8 คะแนน ต้องทำการเปลีย่ นแดน ข ้อ 13 การขอเวลานอก (Time-Out) 13.1 แต่ละทมี สามารถขอเวลานอกได้ 1 ครงั้ คร้ังละ 1 นาที ตอ่ เซ็ท การขอเวลานอก ใหข้ อโดยผูจ้ ัดการทมี หรือผฝู้ กึ สอน เมื่อลูกตะกรอ้ ไมไ่ ด้อย่ใู นการเล่น ระหวา่ งการพกั เวลานอก ประเภททมี เดย่ี วจะอนญุ าตใหม้ ผี เู้ ลน่ และเจา้ หนา้ ทที่ มี อยนู่ อกสนาม บริเวณเส้นหลังจำนวน 5 คน ประเภททีมชุดจะอนุญาตให้มีผู้เล่นและเจ้าหน้าที่ทีมอยู่นอกสนาม บรเิ วณเส้นหลงั จำนวน 6 คน 13.2 ประเภททีมเด่ยี ว บุคคลทงั้ 5 คน ประกอบด้วย ผ้เู ลน่ 3 คน และบคุ คลทีแ่ ตง่ กาย แตกต่างจากนักกีฬาอีก 2 คน ประเภททีมชุด บุคคลทั้ง 6 คน ประกอบด้วย ผู้เล่น 3 คน และบคุ คลทีแ่ ตง่ กายแตกต่างจากนกั กฬี าอีก 3 คน 80 คมู่ ือผฝู้ กึ สอนกฬี าเซปักตะกร้อ T-Certificate
ขอ้ 14 การหยุดการแข่งขนั ชั่วคราว (Temporary Suspension of Play) 14.1 กรรมการผู้ตัดสินสามารถหยุดการแข่งขันช่ัวคราว เม่ือผู้เล่นบาดเจ็บและต้องการ การปฐมพยาบาล โดยใหเ้ วลาไม่เกิน 5 นาที สำหรบั แต่ละทีม 14.2 นักกีฬาที่บาดเจ็บจะได้รับการพักไม่เกิน 5 นาที หลังจาก 5 นาทีแล้ว นักกีฬา ไม่สามารถทำการแข่งขันต่อไปได้ ต้องมีการเปลี่ยนตัวผู้เล่น แต่ถ้าทีมที่มีนักกีฬาบาดเจ็บได้ มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นไปแล้วตามกติกาข้อ 7.4 การแข่งขันจะประกาศให้ทีมตรงข้ามเป็นฝ่ายชนะ ในการแขง่ ขนั ครัง้ นั้น 14.3 ในกรณีท่ีมีการขัดขวาง รบกวนการแข่งขัน หรือสาเหตุอื่นใด กรรมการผู้ช้ีขาด เท่านัน้ ทจ่ี ะเป็นผู้พิจารณาหยดุ การแขง่ ขนั โดยหารือกบั คณะกรรมการจัดการแข่งขัน 14.4 ในการหยดุ การแขง่ ขนั ชว่ั คราว ไมอ่ นญุ าตใหผ้ เู้ ลน่ ทกุ คนออกจากสนามและไมอ่ นญุ าต ใหด้ ่มื น้ำหรือได้รับความชว่ ยเหลอื ใดๆ ข้อ 15 วนิ ยั และมารยาทในการแขง่ ขนั (Discipline) 15.1 ผู้เล่นทกุ คนตอ้ งปฏิบัตติ ามกติกาการแข่งขนั 15.2 ในระหว่างการแข่งขันจะอนุญาตให้หัวหน้าทีมเท่าน้ันท่ีจะเป็นผู้ติดต่อกับกรรมการผู้ตัดสิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตนเอง หรือเรื่องท่ีเกี่ยวกับผู้เล่นในทีม หรือเรื่องท่ีต้องการซักถามเพื่อ ขอคำอธบิ ายในการตัดสินของผตู้ ัดสนิ ซง่ึ ผู้ตัดสนิ ต้องอธิบายหรือช้แี จงตามท่หี ัวหน้าทมี ซักถาม 15.3 ผจู้ ดั การทมี ผฝู้ กึ สอน นกั กฬี า และเจา้ หนา้ ทป่ี ระจำทมี จะไมไ่ ดร้ บั อนญุ าตใหป้ ระทว้ ง ต่อการตัดสินของผู้ตัดสินในระหว่างการแข่งขัน หรือแสดงปฏิกิริยาท่ีจะเป็นผลเสียต่อการแข่งขัน หากมกี ารกระทำดังกลา่ วจะถอื เป็นการผดิ วนิ ัยอยา่ งแรง ขอ้ 16 การลงโทษ (Penalty) การทำผดิ กติกาและผดิ วนิ ยั จะมกี ารลงโทษ ดงั น้ ี การลงโทษทางวินัย 16.1 การตักเตอื น ผู้เล่นจะถูกตักเตือนและได้รับบัตรสีเหลือง หากมีความผิดข้อใดข้อหนึ่งใน 6 ประการ ดังน้ี 16.1.1 กระทำผิดในลักษณะที่ไม่มีน้ำใจเป็นนักกีฬา โดยแสดงอาการอย่างใด อยา่ งหนึ่งไมถ่ กู ต้องตามมารยาทการเป็นนักกฬี าที่ดี ซงึ่ พิจารณาได้วา่ การกระทำนั้นอาจทำให้เกดิ ผลท่เี ปน็ อนั ตรายต่อการแขง่ ขนั ได ้ 16.1.2 แสดงกริ ิยาและวาจาไมส่ ุภาพ คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาเซปักตะกรอ้ T-Certificate 81
16.1.3 กระทำผิดกตกิ าการแข่งขันบ่อยๆ 16.1.4 ถ่วงเวลาการแข่งขนั 16.1.5 เขา้ หรอื ออกสนามแข่งขัน โดยไมไ่ ด้รับอนญุ าตจากกรรมการผตู้ ัดสนิ 16.1.6 เจตนาเดนิ ออกจากสนามแขง่ ขนั โดยไมไ่ ดร้ บั อนญุ าตจากกรรมการผตู้ ดั สนิ 16.2 ความผิดทถี่ กู ใหอ้ อกจากการแข่งขนั ผู้เล่นจะถูกให้ออกจากการแข่งขันและได้รับบัตรสีแดง หากมีความผิดข้อใดข้อหน่ึง ใน 5 ประการ ดังนี้ 16.2.1 กระทำผดิ กติกาอยา่ งร้ายแรง 16.2.2 ประพฤตผิ ดิ ร้ายแรง โดยเจตนาทำใหฝ้ ่ายตรงขา้ มบาดเจ็บ 16.2.3 ถม่ น้ำลายใสฝ่ า่ ยตรงขา้ มหรือผอู้ ่นื 16.2.4 มีปฏิกริ ิยาหยาบคาย หรอื ใชว้ าจาหยาบคาย หรอื ดูถกู ฝา่ ยตรงขา้ ม 16.2.5 ไดร้ ับการเตือนและบตั รเหลืองเปน็ คร้ังท่ี 2 ในการแข่งขนั คร้ังนัน้ 16.3 ผเู้ ลน่ ทถ่ี กู ตกั เตอื นและไดร้ บั บตั รเหลอื งหรอื ใหอ้ อกจากการแขง่ ขนั ไมว่ า่ จะเปน็ ความผดิ ทง้ั ในและนอกสนามแขง่ ขนั ทก่ี ระทำตอ่ ฝา่ ยตรงขา้ ม เพอื่ นรว่ มทมี กรรมการผตู้ ดั สนิ ผชู้ ว่ ยผู้ตัดสิน หรือบคุ คลอ่ืนๆ ให้พิจารณาโทษทางวินัย ดงั นี้ 16.3.1 ไดร้ ับบัตรเหลืองใบแรก บทลงโทษ : ตักเตอื น 16.3.2 ได้รับบัตรเหลืองใบท่ีสอง ในผู้เล่นคนเดิมในเกมแข่งขันต่างเกม แต่เป็น รายการแขง่ ขันเดียวกนั บทลงโทษ : พกั การแขง่ ขัน 1 เกม 16.3.3 ได้รับบัตรเหลืองใบที่สาม หลังจากพกั การแข่งขนั เพราะได้รับบัตรเหลอื ง 2 ใบ ในรายการเดยี วกนั และในผู้เล่นคนเดิม บทลงโทษ : พักการแขง่ ขัน 2 เกม : ปรับเป็นเงิน 100 เหรียญสหรัฐอเมริกา โดยสโมสรหรือ บคุ คลทผี่ เู้ ลน่ สงั กดั เป็นผรู้ บั ผิดชอบ 16.3.4 ไดร้ ับบตั รเหลอื งใบที่ส ่ี ไดร้ บั บตั รเหลอื งหลงั จากตอ้ งพกั การแขง่ ขนั 2 เกม จากการทไ่ี ดร้ บั ใบเหลอื ง ใบที่สามในรายการแขง่ ขันเดยี วกนั ในผเู้ ล่นคนเดิม บทลงโทษ : ให้พักการแข่งขันในเกมต่อไป และในรายการแข่งขัน ที่รับรองโดยองค์กรกีฬาตะกร้อ ท่ีเก่ียวข้องจนกว่าจะได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการวินัย ในเรอ่ื งดงั กลา่ ว 16.3.5 ไดร้ บั บตั รเหลอื งสองใบ ในผเู้ ลน่ คนเดยี วกนั และในเกมการแขง่ ขนั เดยี วกนั 82 คู่มอื ผู้ฝกึ สอนกฬี าเซปกั ตะกรอ้ T-Certificate
บทลงโทษ : พกั การแขง่ ขนั 2 เกม : ปรับเป็นเงิน 100 เหรียญสหรัฐอเมริกา โดยสโมสรหรือ บคุ คลทเ่ี กยี่ วขอ้ งเปน็ ผรู้ บั ผดิ ชอบ ได้รับบัตรแดงในกรณีทำผิดวินัย หรือกระทำผิดกติกาการแข่งขัน ในเกมอนื่ ซึ่งอยใู่ นรายการแข่งขนั เดียวกนั 16.4 ผู้เล่นท่ีกระทำผิดและถูกให้ออกจากการแข่งขัน ไม่ว่าจะกระทำในสนามหรือนอก สนามแขง่ ขนั ซึ่งกระทำผิดต่อฝ่ายตรงข้าม เพ่ือนร่วมทีม ผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน หรือบุคคลอื่น โดยได้รับบตั รแดง จะไดร้ บั พิจารณาโทษดังน ้ี 16.4.1 ได้รับบตั รแดง บทลงโทษ : ใหไ้ ลอ่ อกจากการแข่งขนั และพกั การแขง่ ขนั ในทุกรายการ แขง่ ขนั ทร่ี บั รองจากองคก์ รทก่ี ำกบั ดแู ลกฬี าเซปกั ตะกรอ้ จนกวา่ คณะกรรมการวนิ ยั จะมกี ารประชมุ และพิจารณาในเร่ืองดงั กล่าว ขอ้ 17 ความผดิ ของเจา้ หนา้ ท่ีทมี (Misconduct of Team Officials) 17.1 กฎระเบียบด้านวินัย จะใช้กับเจ้าหน้าที่ประจำทีม ในกรณีท่ีทำผิดวินัยหรือรบกวน คณะกรรมการในระหวา่ งการแขง่ ขันทัง้ ภายในและภายนอกสนามแข่งขัน 17.2 เจ้าหน้าที่ประจำทีม ผู้ใดประพฤติไม่สมควรหรือกระทำการรบกวนการแข่งขัน จะถูกเชิญออกจากบริเวณสนามแข่งขัน โดยเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันหรือกรรมการผู้ช้ีขาด และจะถูกพักการปฏิบัติหน้าที่ภายในทีมจนกว่าคณะกรรมการวินัยจะมีการประชุมเพ่ือพิจารณา ตัดสินปญั หาดังกลา่ ว ข ้อ 18 บททว่ั ไป (General) ในการแข่งขันหากมีปัญหาหรือเร่ืองราวใดๆ เกิดข้ึน ซ่ึงไม่ได้กำหนดหรือระบุไว้ในกติกา การแขง่ ขัน ใหถ้ อื การตัดสินของกรรมการผ้ชู ี้ขาดเป็นที่ส้นิ สดุ กตกิ านไ้ี ดร้ บั ความเหน็ ชอบจากการประชมุ ของสหพนั ธเ์ ซปกั ตะกรอ้ นานาชาติ (ISTAF) เมอ่ื วันที่ 17 มกราคม 2554 ณ กรงุ เทพมหานคร ประเทศไทย คมู่ ือผ้ฝู กึ สอนกีฬาเซปกั ตะกร้อ T-Certificate 83
บรรณานุกรม สพุ จน์ ปราณี. คมู่ อื การฝกึ สอนกฬี าเซปักตะกรอ้ (ข้นั พ้ืนฐาน). กรุงเทพฯ : สำนกั พมิ พ์ โอ.เอส. พริน้ ต้ิง เฮา้ ส,์ 2539. _________. คูม่ ือการฝึกสอนกฬี าเซปกั ตะกรอ้ (ข้ันก้าวหน้า). กรุงเทพฯ : สำนักพิมพ์ โอ.เอส. พรนิ้ ตง้ิ เฮ้าส์, 2539. รศ.เจริญ กระบวนรัตน์. เอกสารประกอบคำบรรยาย. 84 ค่มู ือผู้ฝกึ สอนกีฬาเซปักตะกร้อ T-Certificate
คณะกรรมการจัดทำคู่มือผู้ฝึกสอน กีฬาเซปักตะกร้อ T-Certificate ทปี่ รึกษา นางแสงจันทร์ วรสมุ ันต ์ อธิบดกี รมพลศึกษา นายชาญวิทย์ ผลชวี นิ รองอธบิ ดีกรมพลศกึ ษา นายชลติ เขยี วพุ่มพวง รองอธบิ ดีกรมพลศกึ ษา นายกสมาคมตะกร้อแห่งประเทศไทย คณะผจู้ ัดทำ นางแสงจันทร์ วรสุมันต์ ประธานกรรมการ นายกมล ตนั กิมหงษ์ รองประธานกรรมการ นายวัฒนะ สวุ ัณณุสส์ กรรมการ นายนิทัศน์ ปฐมภาคย์ กรรมการและเลขานุการ นางปารชิ าติ ชมช่นื กรรมการและผชู้ ว่ ยเลขานุการ ผูเ้ รียบเรยี ง นางสุพทิ ย์ วรี ะใจ ผ้อู ำนวยการสถาบนั พัฒนาบุคลากรการพลศึกษา และการกีฬา นางบงกชรตั น์ โมลี หัวหน้ากลมุ่ วชิ าการและมาตรฐานวชิ าชีพ นายพฒั พงศ์ พงษ์สกุล นกั พัฒนาการกีฬาชำนาญการ โรงเรยี นผู้ฝึกสอนกฬี า คมู่ ือผูฝ้ ึกสอนกฬี าเซปักตะกร้อ T-Certificate 85
ช่ือหนังสอื คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาเซปักตะกร้อ T-Certificate : SEPAK TAKRAW Coaching Guide ปีทพ่ี มิ พ ์ 2555 จำนวน 2,000 เล่ม ออกแบบ นายเกียรติศกั ด์ิ บตุ รศาสตร ์ บริษทั สามเจริญพาณิชย์ (กรงุ เทพ) จำกัด 248/47 ถนนจรัญสนทิ วงศ์ แขวงบางออ้ เขตบางพลดั กรุงเทพฯ 10700 โทร. 0 2424 1963, 0 2424 5600 โทรสาร. 0 2435 2794 พิมพท์ ่ี สำนักงานกิจการโรงพมิ พ์ องค์การสงเคราะหท์ หารผ่านศกึ ในพระบรมราชูปถมั ภ ์ 2/9 ซอยกรงุ เทพฯ-นนทบุรี 31 เขตบางซือ่ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0 2910 7001-2 โทรสาร. 0 2585 6466 86 คมู่ ือผู้ฝึกสอนกฬี าเซปักตะกร้อ T-Certificate
ชือ่ หนงั สือ คู่มือผู้ฝึกสอนกีฬาเซปักตะกร้อ T-Certificate : SEPAK TAKRAW Coaching Guide ปที พ่ี มิ พ์ (พมิ พ์คร้งั ท่ี 2) 2555 จำนวน 1,530 เล่ม ออกแบบ นายเกยี รติศกั ด์ิ บตุ รศาสตร ์ บรษิ ทั สามเจริญพาณิชย์ (กรงุ เทพ) จำกดั 248/47 ถนนจรญั สนทิ วงศ์ แขวงบางอ้อ เขตบางพลดั กรงุ เทพฯ 10700 โทร. 0 2424 1963, 0 2424 5600 โทรสาร. 0 2435 2794 พมิ พ์ท่ี สำนกั งานกิจการโรงพิมพ์ องคก์ ารสงเคราะหท์ หารผ่านศกึ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ 2/9 ซอยกรงุ เทพฯ-นนทบุรี 31 เขตบางซือ่ กรุงเทพฯ 10800 โทร. 0 2910 7001-2 โทรสาร. 0 2585 6466 86 คมู่ อื ผฝู้ ึกสอนกฬี าเซปักตะกรอ้ T-Certificate
Search