ผู้จะพ้นวัฏสงสารได้ต้องมืพื้นใจที่สำคัญ คือ ศรัทธาและ ปัญญาอย่างยิง เนื่องจากทานทำแล้วให้ผลง่ายและเร็ว จึงยํ้า ศรัทธาให้แน่นแฟ้นอยู่เสมอ และมีโอกาสสร้างปัญญาได้ง่าย โดยสรุป ล้าจน ความโง่ ความเจ็บ จะดามมา แต่ทานปัองกันความยากจนได้จึงป้องกันความโง่และความ เจ็บได้ด้วย เพราะฉะนั้น เชิญศึกษาการให้ทานเถิด drar ฟ็ดไปอ่านควานสุข
?i%> i cv -O ละแล่งหอมไก, ทุดณุทพ Rothmannio soofepensis Craib Bremek.
บันไดขั้นที่ ๑๖ ขั้^^ ประพฤติธรรม กว่าจะรู้ว่า อะไรบุญ อะไรบาป อะไรดื อะไรชั่ว ก็ทำ บาป ทำ ชั่ว เสืยเยอะแยะ ครั้นบาปนั้นตามให้ผล ก็แทบกลับเนื้อกลับ ตัวไม่ทัน ถึงแม้จะกลับตัวทัน ก็ไม่ราบรื่นเท่าที่ควร ส่วนใครที่ ไม่เคยก่อบาปก่อกรรมไว้ก่อน ก็รอดตัวไป เพราะฉะนั้นวิธีบ้เองกันและแก้ไขไม่ให้เกิดสภาพเลวร้ายขึ้น ต่อตัวเราคือ ประพฤติธรรม ๑. ละการฆ่าลัตว์โดยเด็ดขาด ๒. เว้นการลักทรัพยโดยเด็ดขาด ๓. เว้นการประพฤติผิดในกามโดยเด็ดขาด CE. เว้นขาดมลาวาทในทุกกรณี dr. เว้นขาดการส่อเลืยด ยินดีลามัคคืธรรม ยันใดรั้นที่HP:ประพฤติรรรม tor-าr
๖. เว้นขาดคำหยาบ ยินดืผูกใจคนให้ขอบใจ <si. เว้นขาดคำเพ้อเจ้อ ยินดืพูดเป็นอรรถเป็นธรรม เป็น เหตุเป็นผล เป็นวินัย เป็นหลักฐาน ถูกกาล cr. เว้นขาดจากการเพ่งเล็งทรัพย์ขาวบ้าน ๙. เว้นขาดพยาบาทบุ่งร้าย ๑๐. มืดวามเห็นถูกต้องตามความจริงของโลกและขืวิต ผู้ที่ทำ ไต้เข่นนี้ คือผู้ที่กายสะอาด วาจาละอาด และความ คิดสะอาด ทั้งกายและใจของเขาจึงผ่องใสตลอดเวลา ร5.tc เปิดไปอ่านควานลฺข C
r7f\\?^ ■/ะ) Clusia grondifolia Engl.
บันไดขั้นที่ ๑๙% สงเคราะหญาติ ร—— - ต้นไม้ที่เกิดรวมกันเปีนป่าดงแต่ละต้นย่อมช่วยปะทะลมพายุ ให้แก่กัน จึงยืนต้นอยู่ไต้นาน ผิดจากต้นไม้ที่เกิดอยู่โดดเดี่ยว แม้จะเป็นไม้เจ้าป้าสูงใหญ่ ก็ตาม จำ ต้องโต้พายุดามลำพัง ย่อมโค่นลงไต้ง่าย ญาติ แปลว่า คนคุ้นเคย คนใกล้ชิด หมายถึง บุคคลที่คุ้นเคย และไว้วางใจไต้ การลงเคราะห์ญาติ หมายถึงการช่วยเหลือบุคคลที่คุ้นเคย และน่าไว้วางใจ คนเรามีกัย cr อย่างแก่ร่างกาย คือ ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย แม้มีทรัพย์ไม่สงเคราะห์ญาติ ตนเองก็ไม่ไต้กิน คนอี่นก็อด ผลสุดท้าย ทรัพย์ไม่เกิดประโยฃน่ มีไว้ถมแผ่นดินเปล่า _9rบันไดขั้นทิ่ 4)=»: ลงเคราะห์ญาด ๖® 0
โลกจะน่าอยู่กว่าร ถ้าทุกคนเป็นญาติของเรา ดังนัน อย่างน้อยทืสุด เมื่อเขาเป็นญาติอยู่แล้ว ก็ต้องบำรุง เขาให้ดี แล้วขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ โลกจะเย็นลง โดย ทำ ให้คนทงโลกเป็นญาติกันให้ไต้ ๖๒ 1ปิฬปอ่านทวามสฺฃ
■rP 'iD Catasetum punctatum Rolfe
บันไดขั้นที่ ๑c? ทางานไม่มีโทษ เหงื่อถ้าไม่ไหลออกจะตกในกลายเป็นนำตา เพราะฉะนั้น เกิดเป็นคนแล้ว จะต้องทำงานฝากTiมือให้คน ร่นหลังถือเป็นครู ศาลนาพุทธรังเกียจความเกียจคร้านลรรเลริญลนับลนุนตน ขยัน จึงลอนให้ทำงานยิ่งๆ ขึ้นไปตลอดมา ตั้งแต่ทำงานเพื่อตัว เอง พ่อ แม่ ลูก เมืย เพื่อศาลนา เพื่อญาติมืดร จากใกล้ตัวไป ไกลตัว งานไม่มืโทษ คือ งานที่ใครๆ ก็ติเตียนไม่ได้ ทำ แล้วไม่ผิด ศล ไม่ผิดคุณธรรม ไม่ผิดกฎหมาย และไม่ผิดวัฒนธรรม เป็นการทำงานที่ขยายวงกว้างออกไปเพ่อลงเคราะห้ลังคม บันไคขั้บทั๋ ac 1 ท่างานไม่มีโทษ ๖4: ^ —o
4?.iC ว คาบอกน้อย Gardenia obtusifolia Roxb.
บันไดฃั้นที่ ๑๙ งดเว้นบาป ทุกชีวิตในโลกต่างถูกพิพากษาแล้วว่า ต้องตาย อย่างแน่นอน ล้านักโทษประหารที่เดินเข้าลู่หลักประหารด้วยอาการสนุก คะนอง เราก็จะตำหนิเขาว่า คนบ้า แต่เราทุกคนทั้งที่รู้ว่า ต้องตายแน่ ก็ยังคะนอง ยังทำความ ชั่วอยู่ ก็ควรถามตัวเองว่า จะบ้าไปถึงไหน นัวแต่แก่งแย่งชีงดื มึงอย่างนั้น กูอย่างนิ เหมือนเป็ดไก่ไนลุ่มจิกตีกันอยู่ทำไม งด เว้นบาปเลียเถิด คนเราประกอบด้วยกายกับใจ โดยใจคอยควบคุมกาย ความ สำ คัญของใจจึงมาก พระลัมมาลัมพุทธเจ้าจึงลังว่า ทุกอย่างมึใจเป็นผู้น่า มืใจ เป็นใหญ่ สำ เร็จได้ด้วยใจ ปันโ*?■นทํ่ «>๙ ะ งดเว้นบาป ๖๙ ^\\^ - ไว
ถ้าคนมีใจบาปเสียแล้ว การพูด การทำก็พลอยบาปไปด้วย เพราะการพูดบาป ทำ บาปนัน ความทุกข์ย่อมตามลนองเขา เหมีอนล้อเกวืยนที่หมุนตามขยี้รอยเท้าโค แต่ถ้ามีใจบริสุทธการพูด การทำ ก็บริลุทฮิ้ตามไปด้วย ความ ลุขย่อมตามสนองเขา เหมีอนเงาตามตัว ทุกคนเมื่อปรารถนาความสุข จึงด้องละขั่วเว้นบาปเสีย bcs 1ปิดไปอ่านความทฺา) C
เอึองเงินแดง Dendroblum cariniferum Rchb, f.
บันไดขั้นที่ 7๒๐-^-'^ ส์ารวมจากการดืมนำเมา c ใจคนเป็นของละเอียดยิ่งนัก เห็นได้ก็แสนยาก หนำซํ้ามัก ตกไปในอารมณ์ตามความใคร่ คือ ๑. ชอบดิ้นรน ๒. กลับกลอก ๓. รักษาได้ยาก .cr. ห้ามได้ยาก ข่มได้ยาก เพราะฉะนั้น แม้ไม่ลูบบุหรี่ ไม่ดื่มเหล้า ไม่เสพยาเสพติด ก็ยังเมาอยู่ ไม่ยอมสร่าง เรี่องที่คนเราเมามากก็คือ เมาในความหใ]มสาว เมาในความ ไม่มึโรคเมาในความมืขึวิต ทำ ให้หาความสุขที่แท้จริงไม่เจอ และจะยิ่งเมายิ่งขึ้น ทำ ความชั่วได้มากขึ้น ถ้าเมานั้าเมาและ ยาเสพติด ยันใ*ขั้นที too ะ สำ รวนจากการคี่นนํ้าฌา
c) ๆ'3 Encyclia randii(Barb. Rodr.)
บันไดขั้นที่ ๒๑ ความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย V ธรรมฃาติของจิต คือ นึก-คิด ตลอดเวลา คนทั่วไปมักเผลอลติ มืความเมาทางจิต ปล่อยจิต ล่งเสริม จิต ให้คิดจมอยู่ใน กามคุณ ๕ คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อันน่าใคร่ น่าพอใจ ตลอดจนคิดจมอยู่ในการกระทำทุจริตทางกาย วาจา ใจ อยู่เสมอ เมื่อความคิดจมเสียแล้ว ความคืดที่สุจริต เป็นบุญกุศลก็จะ ขาดหายไป การงานต่างๆ ทั้งทางโลกและทางธรรม ซึ่งต้อง อาศัยความดูแลเอาใจไล่ ความพยายามเป็นพี้นฐานอยู่แล้ว ก็ พลอยเสียหายตามไปด้วย เซ่น ไม่ทำความเพียรติดต่อกันไป ทำ ๆ หยุด ทำ โดยขาด ความเคารพ ทำ โดยไม่เต็มแรง ท้อถอย หมดความรักใคร่พอใจ นันใดฯนทํ่ ะ ความไม่ประมาทในธรรมทั้'}พลาย erei
ในการงาน ทอดธุระการงานไม่เหลืยวแล จิตใจโลเลไม่ตั้งมั่น ไม่จดจ่อ ไม่คุ้นกับงาน ทำ งานด้วยความชะล่าไจ ไม่จริงไม่จัง สุดท้าย ไม่ลนไจไห้มากไนการบำเพ็ญกุศล ความชะล่าไจทั้งหลายเหล่านี้ เริยกว่า ความประมาท v(^ etc (ปีดไปอ่านควานร}ข C——
า?-- C?T-^ % รr จำปาแดง Magnolia X soulangiana soul.-Bod
.บันไดขั้นที่ ๒๒ ^ ความเคารพ วัตถุต่างๆ ในโลกนี้ ต่างมืคุณสมบัติเฉพาะตัวของมัน ถ้า ใครทราบคุณสมบัติเหล่านั้น ตามความเป็นจริง ก็สามารถนำไป ใช้ประโยชน์ได้มาก เข่น นักวิทยาศาสตร์ รู้คุณสมบัติของแม่เหล็ก ก็นำ ไปใช้ ผลิตไฟฟ้า รู้จักคุณสมบัติของเรเดียม ก็ใช้รักษาโรคมะเริง การรู้คุณสมบัติของแร่ธาตุ เราก็เลิอกใช้ทำสิ่งของเครื่องใช้ ที่เหมาะสมได้ง่าย แต่การที่จะรู้จักคุณสมบัติตามความเป็นจริง ของสิ่งต่างๆ เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เป็นวิสัยของนักปราชญ์ บัณฑิต ผู้มีบัญญา การที่เราจะรู้จักเห็นคุณความดีของผู้อื่นก็เป็นสิ่งที่ยากแสน เข็ญยิ่งขึ้นไปอีก เพราะกิเลสคือทิฐิบังใจเลิยบ้าง เพราะไม่ใสไจบ้าง เพราะความทะนงตัวว่าดีกว่าเขา เสมอเขา ลบหลู่คุณเขา ดื้อ ยันไรฃั้นทํ่ be ความเคารพ 5^ ว
ทำ ให้โอกาสที่จะรับรู้ ถ่ายทอดความดืจากผู้อื่น รับผลประโยขน จากคนเหล่านั้นหมดไป ยิ่งกว่านั้น ยังอาจจะถ่อให้เกิดความ แตกร้าวต่างๆ ตามมาด้วย คนที่ตระหนักเอาใจจดจ่อ นับถือในคุณความดืของผู้อื่นจึง จัดเป็นคนพิเศษจริงๆ เพราะใจเขาได้ยกขึ้นสูงแล้ว พ้นจาก มานะทิฐิต่างๆเปิดกว้างพร้อมที่จะรับความดีจากคนอื่นเข้าสู่ตนเอง คนขนิดนี้เป็นคนที่มืความเคารพเป็นคุณธรรมประจำใจ ores ฟ็ดไปอ่านความลฺข G
(ๆ โ; G?—^ สิงโตพัดแดง CIrriiopetalum lepidum (Bl.) Schltr,
บันไดขั้นที่ ๒๓ ความถ่อมตน ท้องนาฤดูแล้งดินแตกระแหงลึกๆ แต่ประสานกันได้เมื่อ ฝนตก ทราย กรวด ก้อนเล็กๆ แต่กระด้าง แม้ฝนดกท่วมฟ้า ก็ไม่ยอมรวมกัน ด้นไม้ใบเขียวโดนลมก็อ่อนโอนตัว ด้นไม้ที่ยืนด้นตาย โดนลมพัดค่อยก็กระด้างเฉย พอโดนลม พัดแรงนักก็หักโค่น เพราะไม่โอนตัว ไม้ชนิดนี้ไม่ม้ทางเจริญ มืแต่โค่นลูกเดิยว ต่อไท้รดนี้าแทบตาย ก็ไม่เจริญ คนไม่มีดวามอ่อนน้อมถ่อมตน รวมกับใครก็ไม่ติดเหมือน เม็ดกรวด ทำ อย่างไรก็ไม่เจริญเหมือนต้นไม้ที่แท้งตายยืนด้น ความถ่อมตนมาจาก คำ ว่า นิวาโต บันใดขน}า to๓ : ความถ่อมตบ (ร® ^ .....'ไบั
นิวาโต แปลว่า ไม่มีลม ไม่พองลม หมายถึง ความเจืยมตน ไม่กระด้าง ไม่มีมานะถือตัว ไม่ ทะนง ไม่เย่อหยิ่ง จองหอง ไม่ดูหมิ่นผู้อื่น แต่ประพฤติตนเป็น คนอ่อนน้อมถ่อมตน ด้วยว่าไม่อวดฤทธิ้ ไม่กระด้าง ไม่ห้าวหาญ มานะทิฐิน้อย เบาบางจากสันดาน eto เปิดไปอ่านควานสุข
rrf\\^ q}- -f\" - % ธรรนรักษา Heliconia spp.
บันไดขั้นที่ ๒(ฮ มีความสันโดษ ลุนัขอดโซ ได้กินนํ้าข้าวเปล่า CT- วัน พอวันที่ cs จะกินข้าว ได้กินข้าว วัน พอวันที่ a จะกินกับ ได้กินกับ cy วัน พอวันที่ C จะขึ้นโต๊ะกินร่วมกับเจ้าของ บ้าน ลุนัฃประเภทนี้ ต้องไล่มันไป เพราะมันไม่รู้จักพอ โรคชนิดนี้ เกิดขึ้นได้ทั้งคน-สัตว์, รวย-จน, มืความรู้-ไม่มี. หญิง-ชาย เปลี่ยนจากกัลยาณชน ลู่พาลชน อาการไม่รู้จักพอ เกิดขึ้นในใจคนที่ไม่สันโดษไปตามลำดับ ตั้งแต่ชอบใจ อยากได้ อยากเกินฐานะ อยากได้โดยวิธีเลวลามก เช่น เปีนโสเภณื, ขอทานทั้งที่แข็งแรง เปีนคนสอพลอ ประจบ เอาเปรืยบ, ลงมือค้ายาเสพติด ยันโศขั้น? M . มิความสันโดษ ^ L**\"
ทำ ให้โลภอยากได้ในทางทุจริต ผลคือ เร่าร้อน กระวนกระวาย เราจึงควรปีกความสันโดษ คือ ร้จักพอ และร้จักประมาณ แปงเป็น ๓ ระดับ คือ ๑. ยินดีตามที่ตนมีอยู่แล้ว ไม่คิดไปไขว่คว้า แย่งชิง เอา ของคนอื่นเขามา ๒. ยินดีตามที่ตนได้ ตามส่วนที่ตนได้ คือเมื่อแสวงหา ประโยชน์อันใดแล้ว มันได้เพิ่มมาอีกเท่าไร ก็พอใจ เท่านั้น ๓. ยินดีตามที่ควร คือ พิจารณาสิ่งใดที่มีอยู่ และสิ่งที่จะ ได้ต่อไปอีก ถ้ามันไม่ควร ก็ไม่ยอมรับเอาไว้ แต่ถ้า ควรกับฐานะ ควรแก่ความสามารถ ควรแก่ศักดศรี จึงรับเอาไว้ \"~\"v(^ 0ร๖ ฟ็ฬปอ่านความสุข
sjussssqns Diidnojnoo cr เ^.!?;.7
บันไดฃนที่ ๒๕: -จ มีความกตัญญ ถ้าฝนตกลงมาจากบนฟ้าเพืยงอย่างเดืยวโดยไม่มืนํ้าจากห้วย หนอง คลอง บึง ทะเล มหาลมพร ยอมระเหยนํ้าให้กลับขึ้นไป กลายเป็นเมฆหมอกทดแทนของเก่าอีก ไม่ช้าก็จะไม่มึฝนตก โลกทั้งโลกจะแห้งแล้ง แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย โลกของเราจึง อยู่ได้ด้วยการเกื้อกูล ตอบแทนซึ่งกันและกัน สรรพสัตว์ทั้งหลายก็เช่นกัน ตั้งอยู่ได้โดยอาการราบรื่นเป็น ปกติสุข พ้นจากทุกข์ยากล่มจมด้วยสาเหตุ ๒ ประการ คือ ๑. อุปการะ คือ ความอุดหนุนเกื้อกูลกัน ๒. ปฏิการะ คือ ความตอบแทนสนองอุปการะของท่าน เช่น บุตรสนองอุปการะของบิดามารดาด้วยการ เลี้ยงดูตอบแทนท่านในยามชรา, ศิษย์ให้ความ เคารพนับถืออาจารย์ เป็นต้น นันไ«ฃั้นทํ่ sr มควานกตัญฌู «๙
สองสิ่งนี้ ทำ ให้โลกมีความเจริญสืบมา เพราะถ้าบุตรจะ พึงไม่สนองอุปการะบิดามารดา ศิษย์จะพึงไม่สนองอุปการะครู อาจารย์แถ้วไซร้ โลกคงเกิดความวุ่นวายเป็นมั่นคง โลกอยู่ได้เพราะการตอบแทนคุณ การตอบแทนคุณของท่านเช่นนี้ เรียกว่า กตเวที โดยมี กตัญฌู คือ ความรู้คุณท่านผู้มีอุปการะเป็นด้นเหตุ vi^ ๙© เปิฬปอ่านคาามลุฯ
ร^ ร-'^ __GV Cattleya violacea
บันไดขั้นที่ ๒๖ การฟิงธรรมตามกาล ฟังธรรมตามกาล แปลว่า ฟังพระธรรมคำลังลอ'นตาม!■วลา ที่ลมควร หมายถึง การหมั่นหาเวลาว่างไปฟังธรรมให้มากที่ลุดเท่าที่ จะมากได้ เพื่อยกระดับใจ และลติบัญญาให้สูงขึ้นเป็นลัมมาหิฏฐิ ลัมมาทิฏฐิ คือ ปัญญามีความเห็นถูกด้องตามความเป็นจริง ของโลกและซืวิตว่า อะไรถูก-ผิด อะไรดี-ชัว อะไรบุญ-บาป อะไรควร-ไม่ควรทำ เป็นตัวนำเป็นบ่อเกิดแห่งคุณความดี'ลังบลาอ ถึงคนจะมีความรู้ความลามารถปานใด แต่เป็นมิจฉาทิฏเ เขาจะเอาตัวไม่รอด แต่ผู้มิลัมมาทิฏฐิ แม้มีความรู้ความลามารถ พอประมาณก็เจริญได้ บันไท๚นทื่ ะ การฟ้งธรรบคามฑาล ๙รท-Or 0
สัมมาทิฏฐิเกิดขึ้นได้จากเหตุ ๒ อย่าง คือ ๑. ได้ฟังธรรมจากกัลยาณมิตร ซึ่งก็คือเพื่อน'feแนะ ประโยชน์ได้ว่า อะไรถูก-ผิด อะไรด-ชั่ว อะไรบุญ-บาป อะไรควร-ไม่ควรทำ ๒. ตนเองมิโยนิโสมนสิการ คือ ไตร่ตรองข้อคิดเป็น เพราะฉะนั้น ถ้าอยากมิสัมมาทิฏฐิ ด้องศึกษาเรื่องการ ฟังธรรม \"vl ๙<r เปิดไปอ่านความสุข
ร •อ์^ Aechmea fosteriana
บันไดฃั้นที่ ๒gY มีความอดทน C ขันติ แปลว่า ความอดทน หมายถึง การรักษาปกติภาพของตนไว้ได้ในเมื่อถูก กระทบด้วยสิ่งอันไม่พึงปรารถนา งานทุกชิ้นในโลกที่สำ เร็จชิ้นมาได้ไม่ว่าจะเป็นงานเลกหรือ ใหญ่ นอกจากอาศัยปัญญาเป็นตัวทำแล้ว ยังล้วนต้องอาศัยคุณ ธรรมอันหนึ่งเป็นพื้นฐานจึงสำเร็จได้ คุณธรรมอันนัน คือ ขันติ ล้าขาดขันติเสืยแล้ว จะไม่มืงานชิ้นใดสำเร็จได้เลย เพราะขันติเป็นคุณธรรมสำหรับทั้งต่อด้านความท้อถอยหดหู่ ขับเคลื่อนเร่งเร็าให้เกิดความขยัน และเห็นอุปสรรคต่างๆ เป็น เครื่องท้าทายความสามารถ เพราะฉะนั้น อาจถือได้ว่า ความสำเร็จของงานทุกชิ้น ไม่ว่าทางโลก หรือทางธรรม คือ อนุลาวรืย์ของขันติทั้งนั้น บันใ(\"'นแทํ่ lew : มความอดทน ๙รr ^ ไว
\"ch เหลืองจันทร์ Polyolthia sp.
บันไดขั้นที่ be? ความเป็นคนว่าง่าย คนบางคนในโลกมึขันติ ทั้ง cr ประการอย่างครบครัน คือ อดทนต่อความลำบากตรากตรำได้ ไม่ว่าดินฟ้าอากาศจะ ทารุณแค่ไหน อดทนต่อทุกขเวทนาได้ ไม่ว่าจะป่วยไข้ปานได อดทนต่อความเจ็บใจได้ ไม่ว่าจะถูกใครเหน็บแนมด่าว่า อดทนต่ออำนาจกิเลสได้ไม่ว่าจะเย้ายวนแค่ไหน แต่ทนไม่ได้ ถ้าใครไปลั่งสอนแนะนำ เขาจะเกิดความคับ แค้น โต้ตอบหักล้างขี้นมาทันที เพราะเขามืเขือหัวดือ ว่ายาก ลอนยากอยู่ในตัว หากว่าเติมเปีนคนโง่อย่ก็สุดแลนจะเข็น ๒= : ควาบเป็นคนว่าง่าย ๙๙
หากว่าฉลาดอยู่แล้ว ก็แสบตะบึงตะบันกลายเป็นคน อัมพาตทางใจ คนเป็นอัมพาต แม้ของดีจะกองอยู่รอบตัว ก็ไม่สามารถไขว่ คว้ามาเป็นประโยชน์ได้ ฉันใด คนว่ายากสอนยาก แม้จะได้ครูอาจารยเปรื่องปราด ก็ไม่ สามารถไขว่คว้าความดีมาใส่ไจใส่ตัวได้ ฉันนั้น เพราะฉะนั้น จงมาเป็นคนว่าง่าย สอนง่ายกันเถิด ร?_ ๑๐๐ เปิดไปอ่านความตฺๆเ C
4^ ch 44 แย้มไ1นัง Strophanthus gratus(Wall. & Hook.) BolK.
บันไดขั้นที่ ๒๙ ะ:^ หมันพบปะสมณร มนุษย์ทุกคนล้วนเกลืยดทุกข์ อยากได้สุข ความสุขมีอยู่ ๒ ประเภท คือ ๑, สุขที่ด้องอิงวัตถุกาม หรือกามสุข เป็นความสุขทางเนื้อ หนัง จัดเป็นความสุขภายนอก ๒. สุขที่ไม่ต้องอิงวัตถุ เป็นสุขที่เกิดจากการเจริญภาวนา ไห้ไจสงบ และเกิดปัญญา เป็นความสุขของผู้เข้าถึง ธรรม จัดเป็นความสงบภายไน เมื่อเทืยบความสุขทั้ง ๒ แล้ว ความสุขภายไนอันเกิดจาก ความสงบนั้น เป็นสุขที่เลิศกว่าอย่างเทียบไม่ได้ เพราะเราคาดคะเนความสุขจากการเข้าถึงธรรมไม่ได้ เป็นเรื่องเฉพาะตัว และเราก็ไม่คุ้น แม้อ่านจากตำรับตำรา ก็ บ\\|ใฬั้1ฬ ๒๙ : ฬมันทนปรฟิมผร «001
ยากจะเข้าใจ ต่อเมื่อใด ได้พบคนที่เข้าถึงความสุขชนิดนี้แล้ว เราจึงเชื่อ หรืออย่างน้อยก็คิดจะทดลองทำตาม แม้ไม่ได้ทำดาม ก็ฉุกคิดบางอย่างขึ้นมา คนที่จะบอกวิธืการเข้าถึงความสุขจากการเจริญภาวนา ได้นั้น คือ สมณะ สมณะคือใคร สมณะ แปลว่า ความสงบ หมายถึง คนที่สงบจากการทำบาปทั้ง กาย วาจา ไจ คือ ยกเว้นจากการทำบาปทั้งปวงทางพระวินัย (ศืล) และทางพระ ธรรมด้วย ล้าใครได้เห็นแล้ว จะเกิดแรงบันดาลไจไห้คิดถึงธรรม เหมือน ระเบิดที่ถูกจุดขนวน ย่อมแสดงอานุภาพออกเต็มที่ สติบัญญา ความสามารถที่มือยู่ จะถูกสมณะกระตุ้นไห้เอาออกมาไข้ แม้แต่ เจ้าชายลิทธัตถะ ผู้ทรงปัญญาเป็นเลิศ ก็ด้องเห็นสมณะก่อนจึง เกิดแรงบันดาลไจไห้ค้นธรรม จนไนที่สุดตรัสรู้เป็น พระพุทธเจ้า ๑๐<r เปิดไปอ่านความลา)
c?~ จr การเวก Artabotrys slamensis Miq.
บันไดฃั้นที่ ๓๐ สนทนาธรรมตามกาล ชีวิตคนมืปัญหามาก ปัญหาเหล่านัน ล้วนต้องแก้ด้วยปัญญา ทุกคนจึงปรารถนาปัญญา ใครมืปัญญามากก็เหมือนมีแก้ว สารพัดนึกไว้ในตัว ย่อมสามารถฝ่าฟันปัญหา และอุปสรรคต่างๆ โดยง่าย ปัญญาเกิดไต้จาก ๒ สาเหตุใหญ่ คือ ๑. จากการฟัง คือฟังจากผู้มืปัญญารู้จริง ๒. การตรองโดยแยบคาย วิธืล้ดที่จะไต้ปัญญามาอืกอย่างรวดเริว คือ การสนทนาธรรม ซึ่งเป็นการบังคับให้ตนเองต้องทังฟังเขาพูด พูดให้เขาฟัง และ ไตร่ตรองโดยแยบคายตามไปทันที แต่ต้องทำอย่างระมัดระวัง มื ฉะนั้น จะเกิดโทษมากกว่าคุณ การสนทนาธรรม คือ อะไร บันไดพท «0 : ลนทนาธรรมตามกาล -า'e)0«
การสนทนาธรรมตามกาล คือ การซักถามธรรมะ ซึ่งกัน และกัน ระหว่างตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพี่อให้เกิดปั'ญญา รู้ว่าสิ่งใด เป็นกุศลธรรม คือ ความคื จะได้ทำให้มาก สิ่งใดเป็นอกุศลธรรม คือ ความซัว จะได้ละเว้นเลีย และสิ่งใดเป็นอัพยากดธรรม คือ ความจริงตามธรรมชาติ ไม่ติ ไม่ชั่ว แต่ด้องรู้เท่าทันมัน จะได้ ไม่หลงเข้าใจผิดให้เกิดทุกข์ ตลอดจนพลอยได้รับความเบิกบานใจ ความสุขความเจริญ เป็นบุญเป็นกุศลไปในตัว โดยรู้จักเลือก และแบ่งเวลาให้พอเหมาะพอติ aoa เปิดไปอ่านความคุ!!
cr .0 เขากวางอ่อน Phalaenopsis cornucervi (Breda)Blume & Rchb. f.
บันไดขั้นที่ ๓๑ 0^ ~0 บีาเพ็ญตบ ผ่านบันไดชืวิตมา ๓๐ ขั้น เราจะพบว่า นิสัยไม่ดื ความ ประพฤติไม่ดืของเราเองที่จะต้องแก้ไขปรับปรุงให้ดืขั้นยังมีอีกเยอะ บางอย่างที่เราไต้พยายามแก้ไขปรับปรุงแล้วมันก็ดีขึนมาดามลำดับ เคยมักโกรธ เห็นแก่ตัว ขี้อิจฉา โอหัง ฯลฯ ก็หายไปแล้ว แต่อีก หลายอย่างที่เราพยายามแก้ไขแล้ว แต่มันก็ยังไม่หายอยู่ติ เข่น กามกำเริบ อยากเด่น อยากดัง ง่วงเหงา ซึมเซา ท้อถอย ฟัง ซ่านรำคาญใจ ฯลฯ ซึ่งต้องหาวิธืที่รัดกุมยิ่งๆ ขั้นไปอีก มา จัดการแก้ไข แต่ลิ่งที่ต้องจดจำก่อน คือ ๑. เหตุแห่งความประพฤติไม่ติทั้งหลายล้วนเกิดจากกิเลส ที่ซกซ่อนอย่ในใจ iialfi'j'jvi ๓ร): บ่าเพญคบะ eae ว
๒. เหตุที่ทำให้เรากำจัดกิเลสได้ยาก เพราะ (๑) เรามองไม่เห็นมัน (๒) ใจของเราคุ้นกับกิเลสเหมือนปลาคุ้นนํ้า (๓) ยังขาดวิธืที่เหมาะสมไปกำจัดกิเลส ในมงคลนี้ พระพุทธเจ้าสอนวิธืกำจัดกิเลสที่เหมาะสม และ ได้ผลเด็ดขาด เฉียบพลันให้ โดยถือหลักว่า หนามยอกต้องเอา หนามบ่ง\" เมื่อกิเลสมันเผาใจ ก็ต้องเอาไฟเผากิเลส แต่เป็นการใช้ไฟ ภายในเผา เราเรียกว่า บำ เพ็ญตบะ เช่น การรักษาศืล การทำ ภาวนา การอย่ธดงค์ เป็นต้น vl^๑«>๒ เปิดไปอ่านควานสุข C
or -p Cataseium appendiculatvm
บันไดขันที ๓๒ ประพฤติพรหมจรรย์ c ชาวลวนชาวไร่หลังจากเผาหญ้า ถางป้าแล้ว ต้องรีบปลูก พันธุพืชที่ต้องการลงไป หากปล่อยทิ้งไว้ หญ้าและวัชพืชต่างๆ ที่ไม่ต้องการ ก็จะกลับขึ้นมางอกงามใหม่อีก คนเราก็เช่นกัน หลังจากบำเพ็ญตบะ เผากิเลสด้วยการอยู่ ธุดงค์ รักษาศีล ๕ ศีลอุโบลถ เรียนพุทธพจน สำ รวมอินทรีย์ ปรารภความเพืยรบำเพ็ญสมาธิ และมีขันติไปได้ระยะหนึ่ง จน กระทั่งกิเลสเบาบางไปป้างแล้ว ถ้าหากไมรีบปลูกคุณธรรมอย่าง อื่นแทนลงไปใหม่ ไม่ช้ากิเลสที่ถูกเผาไปเลีย ก็จะกลับฟูขึ้นมาอีก และอาจจะมากกว่าเดิมก็ได้ คุณธรรมที่ควรจะรีบปลูกลงไปหลังปาเพ็ญตบะมาดิแล้วบัน ศีอ ประพฤติพรหมจรรย์ เพื่อยกภูมิชองจิต หรีอระดับจิตให้สูง ขึ้นไปตามลำดับ จนกว่าจะหมดกิเลสได้เด็ดขาดเช้าล่พระนิพพาน 5Vบ้บโพ'นทั๋ a.E. ประพฤตพรหมจรรย์ ๑ร
4^ (ะ)^ .p ?p Heterostemon mimosoides
บันไดขั้นที่ ๓๓ เห็นอริยสั'จ พระพุทธองค์ทรงพบว่า พื้นฐานตามความจริงของชืวิตแล้ว ฃีฯตทุกคนเป็นทุกข์ แต่ไม่รู้ เหมือนคนพิการหมดเมือง เลยไม่ ทราบว่า คนที่เป็นคนลมบูรณ์นั้นเป็นอย่างไร มหาบุรุษเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ดาม คนมืบัญญา ยิ่งอายุมากยิ่งรู้ตัวว่าเป็นทุกข์ ซึ่ง ได้เพียงรู้ แต่ไม่เห็น จึงไม่รู้จะแล้อย่างไร ทุกข์มื ๒ ลักษณะ ๑. ลภาวทุกข์ ได้แก่ ความทุกข์อันเป็นสภาพธรรมดาของ สัตว์ ซึ่งเมี่อเกิดแล้วต้องมืทุกข์ คือ ทุกข์เพราะเกิด แก่ เจ็บ ตาย ๒. ปกิณณกทุกข์ คือ ทุกข์จร อันเกิดจากจิตใจหย่อน สมรรถภาพ ไม่อดทนต่อการกระทบกระทั่งของเหตุ ภายนอก ซึ่งมีอาการ cr อย่างด้วยกัน บันไร 8%(ท เห็บอรยสัจ ๑«er ว
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144