1 บทท่1ี บทนำ ทีม่ ำและควำมสำคญั จากการท่พี วกเราไดส้ ังเกตรองเทา้ ของเพือ่ น ๆ นกั เรียนในหอ้ ง จะพบว่ารองเทา้ ของเพ่อื น ๆ ไม่ค่อยจะมนั วาว พวกเรากเ็ ลยไปสารวจถามเพื่อน ๆ พบว่าสาเหตุที่เปน็ เช่นน้ี ก็เพราะเพือ่ น ๆ แต่ละคนขีเ้ กียจซือ้ กีวีขัดรองเทา้ แถมยงั ราคาแพงอีก พวกเราจงึ ได้คิดวิธที จี่ ะทาขี้ผ้ึงขดั รองเท้าน้ขี ึน้ มา ปจั จุบนั เราคงปฏิเสธกนั ไม่ไดว้ ่านา้ ยาขัดรองเทา้ ได้เขา้ มาเกีย่ วขอ้ งในชีวติ ประจาวนั ของเรามากโดยเฉพาะ สมยั เป็นนักเรียน นักศกึ ษา ซ่งึ ในนา้ ยาขดั รองเทา้ นัน้ มสี ารพิษทีม่ ีชอ่ื ว่าสารซูดาน เรด (Sudan Red) ผสมอยู่ ซ่ึงเป็นสี ท่ใี ช้ยอ้ มในตระกลู ซูดามีคุณสมบัติสสี ดใสตดิ ทนทาน จากการวจิ ัยของหนว่ ยงานนานาชาติด้านการวจิ ัย พบวา่ สารซดู าน เรด มีผลต่อการทาลาย DNA ซึ่งจะส่งผล ให้เกิดเนอื้ งอกได้ ซึ่งสารพิษชนดิ น้สี ามารถเขา้ สรู่ ่างกายของคนเราไดด้ ว้ ยการรบั ประทาน การสดู ดม หรือการสมั ผัส คณะผู้จัดทาจงึ สนใจท่ีจะนาวัสดจุ ากธรรมชาติ เช่น เปลือกผลไม้มาใชใ้ นการทาน้ายาขัดรองเท้า ทง้ั น้คี ณะผ้จู ัดทา สนใจนาเปลอื กกลว้ ยหอมและเปลือกมนั ฝรัง่ ตากแห้งมาใช้ในการทาน้ายาขัดรองเทา้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศกึ ษาว่าเปลือกกล้วยหอมและเปลือกมนั ฝร่งั สามารถนามาทานา้ ยาขดั รองเทา้ ไดจ้ รงิ และได้ผล 2. เพ่อื ทดสอบประสทิ ธภิ าพของน้ายาขดั รองเทา้ ทท่ี าจากเปลือกกลว้ ยหอมและเปลอื กมันฝรง่ั สมมติฐำน 1. น้ายาขัดรองเท้าที่ทาจากเปลือกกล้วยหอมและเปลือกมันฝรั่งน่าจะมีความเหมาะสมสาหรับนามาขัด รองเท้า 2. น้ายาขัดรองเท้าท่ีทาจากเปลือกกล้วยหอมและเปลือกมันฝรั่งสามารถขัดรองเท้าให้ความมันวาวมากกว่า นา้ ยาขัด รองเท้าท่มี ขี ายตามทอ้ งตลาด ประโยชน์ทีค่ ำดวำ่ จะไดร้ บั เปน็ การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติในทอ้ งถ่ินท่หี างา่ ยมาใชป้ ระโยชน์และใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ ขอบเขตกำรศกึ ษำ การศึกษาการทาน้ายาขัดรองเท้าจากเปลือกกล้วยหอมและเปลือกมันฝร่ัง ว่าเมื่อนามาขัดรองเท้าแล้วจะ มันวาว นยิ ำมศัพทเ์ ฉพำะ นา้ ยาขัดรองเท้า หมายถงึ น้ายาที่นาไปขดั รองเทา้ แล้วสามารถทาใหร้ องเท้ามันวาว สารซูดาน หมายถึง เปน็ สารกอ่ มะเรง็
2 บทท่ี 2 เอกสำรท่ีเกยี่ วขอ้ ง 2.1 กลว้ ยหอม ชื่อไทย : กล้วยหอม ชื่อสำมัญ : Bananas ช่ือพฤกษศำสตร์ : Musa (AAA group) \"KluaiHom thong\" ชอ่ื วงศ์ : MUSACEAE แหลง่ กำเนิดและกำรกระจำยพนั ธ์ุ : เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้กล้วยหอม เป็นไม้ล้มลุกชนดิ หนงึ่ มีอยู่หลากหลายสาย พันธุ์ เช่น กล้วยหอมจันท์ กล้วยหอมทอง กล้วยหอมเขียว จัดเป็นผลไม้ท่ีอุดมไปด้วยคุณค่าสารอาหารครบถ้วนตาม หลักทางโภชนาการ อาทิเช่น มีวิตามิน ไฟเบอร์ ที่มีส่วนช่วยในเรื่องของการขับถ่าย มีสารแทนนิน ซึ่งมีส่วนช่วยใน การยับยั้งการเจริญของจุลินทรีย์ท่ีมีชื่อว่า Escherichia coli ท่ีเชื่อว่าทาให้เกิดอาการท้องร่วงได้ เป็นต้น ซึ่งกล้วย หอมได้ถกู จัดว่าเปน็ ผลไม้ของเขตเมืองร้อน สามารถปลูกได้เกือบทกุ ประเทศที่มีภมู ิอากาศรอ้ นช้ืนหลายแหง่ สาหรับ ประเทศไทยสามารถปลูกกล้วยหอมได้ทั่วทุกภาค ปัจจุบันประเทศไทยมีพื้นท่ีสาหรับปลูกกล้วยหอมอยู่ประมาณ ๑๔๐,๐๐๐ ไร่ (ผลการสารวจปี พ.ศ. ๒๕๒๙) โดยพบว่าภาคท่ีมีการปลูกกล้วยหอมมากที่สุดได้แก่ ภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ(อสี าน) ภาคใต้ แตภ่ าคใต้ และภาคตะวันออก จะเน้นปลกู กลว้ ยหอมเพอ่ื การคา้ สรรพคณุ : กล้วยหอมสามารถใชป้ ระโยชนไ์ ดห้ ลายอย่าง เชน่ สว่ นที่ใชเ้ ปน็ ยา : ผล ราก ยางกล้วยจากใบ เปลือกกล้วยหอม ผล ขับปสั สาวะยางกลว้ ยจากใบ ใชห้ า้ มเลือด ผลดบิ ช่วยแก้โรคท้องเสีย สมานแผลในกระเพาะอาหาร ผลสกุ ใช้เปน็ อาหาร กระตุน้ ให้รา่ งกายรสู้ กึ ผอ่ นคลาย อารมณส์ ดใสและมคี วามสุข เป็นยาระบายสาหรบั ผู้ทมี่ ีอุจจาระ แข็ง ชว่ ยทุเลาอาการปวดทอ้ ง กอ่ นหรอื ขณะมีประจาเดือนได้ สามารถกระตนุ้ ความตนื่ ตัวให้กับสมองได้ หรือ แมก้ ระทง่ั ชว่ ยทุเลาจากอาการเมาค้างเนื่องจากการด่ืมสุรา ของมนึ เมา นอกจากน้ีการกินกลว้ ยหอม 1-2 คา ระหว่าง ม้อื เชา้ เท่ียงหรอื เย็น ยงั ทุเลาอาการแพท้ ้องได้ราก ใชต้ ม้ น้าแล้วดม่ื เพื่อบรรเทาอาการปวดฟัน
3 เปลอื กกลว้ ยหอม สามารถลดอาการคนั หรอื บวม จากบรเิ วณที่ถูกยงุ กดั ได้ โดยใชเ้ ปลอื กด้านใน หรอื การนาเปลือก กล้วยหอมมาด้มนา้ ดืม่ พบวา่ สามารถชว่ ยลดอาการซมึ เศรา้ ได้ นอกจากนี้ พบว่า หากเราใชด้ ้านในของเปลือกกล้วย หอมสุก ถเู บาๆ บริเวณทีม่ ีรอยหยาบกร้าน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จากนัน้ ล้างออกด้วยนา้ สะอาดตามปกติ จะทาให้ ผวิ นุ่มชุม่ ชื่นขนึ้ รอยหยาบกร้านจางหายไป ส่วนที่ใช้ในงานฝีมือ ห่ออาหาร เล้ยี งสัตว์ : ลาต้น ใบ ลาต้น ใชเ้ ปน็ ฐานกระทง หรือใช้ห่นั เลย้ี งสัตว์ ใบ ใชห้ ่ออาหารจะทาใหอ้ าหารคล่าดา ไม่นา่ รับประทาน ส่วนท่ใี ชด้ ้านการเกษตร : เปลอื กกลว้ ยหอม นาเปลือกกลว้ ยหอมวางไว้รอบๆ โคนต้นกุหลาบ แลว้ โกยดนิ ทับประมาณ 1 นวิ้ จะช่วยใหก้ หุ ลาบแตกก่ิงเรว็ ขน้ึ ลักษณะทว่ั ไป : ลาตน้ สูง 2.5 - 3.5 เมตร เสน้ ผ่านศูนยก์ ลางมากกว่า 20 เซนติเมตร กาบลาตน้ ดน้ นอกมีประดา ดน้ ในสีเขียวอ่อนและมีเส้นลายสีชมพู ก้านใบมีร่องค่อนข้างกว้าง และ มีปีก เส้นกลางใบสีเขียวกา้ นเครือมีขน ปลีรูปไข่ คอ่ นขา้ งยาว ปลายแหลม ดา้ นบนสแี ดงอมม่วง มีไข ด้านในสีแดงซดี ตดิ ผลเป็นเครือ เครือหน่งึ มี 4 - 6 หวี หวีหนงึ่ มี 12 - 16 ผล กว้าง 3 - 4 เซนติเมตร ยาว 21 - 25 เซนติเมตร ปลายผลมีจุกเห็นชัดเปลือกบาง เมื่อสุกเปล่ียนเป็นสี เหลืองทอง แตท่ ่ีปลายจุกจะมีสีเขยี ว แล้วเปล่ยี นสีภายหลงั เนื้อสีเหลืองเขม้ กลิน่ หอม รสหวาน 2.2 มันฝรงั่ ชื่อไทย : มัน่ ฝรง่ั ชื่อสำมญั : Potato ชือ่ พฤกษศำสตร์ : Solanumtuberosum L. ชอ่ื วงศ์ : SOLANACEAE ช่ืออนื่ : ภาคเหนอื เรียกวา่ มันอาลู มันอาลี
4 แหล่งกำเนดิ และกำรกระจำยพนั ธุ์ : อเมริกากลางและใต้ มนั ฝร่งั มีช่อื ในภาษาองั กฤษ วา่ potato มาจากคาวา่ patataในภาษาชาวอินเดียน ท่อี าศยั อยูใ่ นทวีปอเมริกาใต้ กำรกิน : นามาปรุงเปน็ อาหารไดห้ ลายอย่าง เช่น ใส่แกงมสั มัน่ ต้มเนือ้ บางชนดิ ทา สตู ซุป มนั ฝร่งั บด มันฝรัง่ อบ เฟรนช์ฟายด์มันฝรงั่ แผ่นทอดกรอบ มันฝรงั่ แผ่น สรรพคุณทำงยำ : มนั ฝรงั่ มีสารโซลานนี ปรมิ าณเลก็ น้อย ช้วยแก้อาการชกั เกรง็ และลดน้ายอ่ ยในกระเพาะอาหาร แก้ อาการตอ่ มน้าเหลืองอกั เสบ แผลไฟไหม้ นา้ ร้อนลวก บารงุ กาลัง และช่วยใหเ้ จริญอาหาร ลกั ษณะทั่วไป : ไม้พุม่ ไมม่ ีเนอ้ื ไม้ อวบนา้ มีลาต้นใต้ดินสะสมอาหารเปน็ หัว [แบบมนั ฝรงั่ ] รปู ทรงกลมถงึ รูปรี มขี นาด นา้ หนัก และสีสนั แตกตา่ งกันมากไปตามพันธ์ุ เปลอื กหัวมรี อยแผลใบเกล็ด ลาตน้ มกั กลวง บางครงั้ เป็นครีบ และหยกั มนถแี่ ละเปน็ คล่นื ใบเรียงสลับ ใบประกอบแบบขนนกปลายค่ี มีกา้ นใบ ช่อดอกเปน็ ช่อแยกแขนง ชอ่ ดอกยอ่ ยเปน็ ชอ่ กระจกุ ผลมเี นอื้ หลายเมล็ด รปู กง่ึ ทรงกลม สเี ขียวปนเหลือง เมล็ดรูปกึ่งทรงกลม ถึงรูปไข่ แบน สนี ้าตาลปนเหลอื ง อ่อน
5 บทท่ี 3 วิธีดำเนนิ กำรทดลอง อุปกรณ์และวิธกี ำรทดลอง 1. เปลือกกล้วยหอมและมันฝรัง่ แห้ง 2. เทียน 3. น้ามันมะกอก 4. วาสลนิ 5. นา้ มนั เครื่อง 6. ครก 7. ถ้วย 8. กลิน่ กล้วยไม้
6 ขัน้ ตอนกำรทำนำ้ ยำขัดรองเทำ้ จำกเปลอื กกลว้ ยและเปลอื กมนั ฝร่งั แห้ง 1. นาเปลือกกล้วยหอมและเปลือกมันฝร่ังแห้งท่ีเราหามาได้จากตามท้องตลาดมาตากแห้งเพ่อื ให้เปลือกแห้งสะดวก แก่การทา 2. เม่ือเราได้เปลือกกล้วยและเปลือกมันฝรั่งแห้งท่ีตากแดดเสร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว เราก็นาเปลือกกล้วยหอมและเปลือก มนั ฝรั่งแห้งเผาเพอ่ื ทจี่ ะให้เปน็ สดี าแล้วจงึ นามาบดให้ละเอียด 3. เสร็จแล้วเรากน็ าเทียนไขมาตม้ เพ่อื ทจ่ี ะไดล้ ะลายเป็นของเหลว
7 4. เมื่อไดเ้ ทยี นไขที่ละลายเป็นของเหลวแลว้ เราก็นามาผสมกับนา้ มนั เคร่อื ง น้ามนั มะกอก วาสลนิ และท่สี าคญั ใส่ เนอื้ เปลือกกล้วยหอมและเปลอื กมันฝรงั่ แห้งท่ไี ด้จากการบดแล้วนามาผสมคลุกเคลา้ ให้เข้ากนั 5. เมอ่ื ผสมเสร็จกค็ ลกุ เคล้าให้เข้ากัน แล้วปลอ่ ยทิ้งไวป้ ระมาณ 30 นาที เพ่ือใหม้ ันแข็งตัว 6. เสร็จแลว้ เราก็นาข้ผี ง้ึ ท่ีได้จากการผสมกัน มาใสใ่ นกระปอ๋ งแล้วเราก็จะไดข้ ผี้ ้งึ ขดั รองเทา้ จากเปลือกกล้วยหอมและ เปลือกมันฝรั่งแหง้ อยา่ งสมบูรณ์
8 บทท่ี 4 ผลกำรทดลอง ในการทาการศึกษาการทาน้ายาขัดรองเท้าจากเปลือกกล้วยหอมและเปลือกมันฝรั่งในครั้งนี้ สามารถนา น้ายาขัดรองเทา้ ที่ทาจากเปลือกกล้วยและเปลอื กมันฝร่ังมาขัดรองเท้าได้ผลจริง คอื หลงั จากที่นาไปขัดแล้วรองเท้า มีความมันวาว ดูสะอาด และมีกล่ินหอม การใช้น้ายาขัดรองเท้าจากเปลือกกล้วยหอมและมันฝร่ังยังเป็นการ ประหยัดค่าใช้จ่ายท่ีจะซ้ือน้ายาขัดรองเท้าท่ีมีราคาแพงได้ด้วย น้ายาขัดรองเท้าน้ีมีส่วนผสมตามธรรมชาติจึงไม่เป็น อันตรายตอ่ ร่างกาย
9 บทที่ 5 สรปุ ผลและอภปิ รำยผลกำรดำเนินกำรจดั ทำโครงงำน สรปุ อภิปรำย และข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการศกึ ษา จากการศกึ ษาค้นควา้ โครงงานเร่อื ง นา้ ยาจดั รองเท้าจากเปลอื กกล้วยหอมและเปลือกมนั ฝรั่งผลการศกึ ษาพบวา่ 1. เปลอื กกล้วยหอมและเปลอื กมนั ฝรัง่ สามารถนามาทาน้าขดั รองเท้าได้ผลจริง 2. น้ายาทที่ าจากเปลอื กกลว้ ยหอมและเปลือกมันฝรั่งเมอื่ นาไปขัดรองเท้าแล้วสามารถใหค้ วามมนั วาวกบั รองเท้าได้ 3. เปลือกกล้วยหอมและเปลอื กมันฝร่ังท่ีทาใหแ้ ห้งแลว้ เมือ่ นามาทานา้ ยาขัดรองเทา้ แล้วไม่ทาให้เกิดเชื้อรา อภิปรำย กำรศกึ ษำโครงงำนวทิ ยำศำสตร์ เร่อื ง น้ายาขดั รองเทา้ จากเปลือกกลว้ ยหอมและเปลอื กมันฝร่งั คณะผู้จดั ทาได้ทาการศึกษาเพิม่ เติมว่า 1. น้ายาท่ีได้จากเปลือกกลว้ ยหอมและเปลือกมนั ฝรั่งที่แห้ง นามาทานา้ ยาขดั รองเท้าไดผ้ ลดี ไมท่ าให้เกดิ เชอ้ื รา 2. ถา้ เปลอื กกลว้ ยหอมและเปลือกมนั ฝรัง่ ตากแดดไมแ่ หง้ จะทาใหเ้ กิดเชอื้ ราได้ ขอ้ เสนอแนะ - ควรมีการศกึ ษาผลไม้ชนดิ อ่ืนอีก วา่ ผลไม้ชนดิ ไหนสามารถนามาขัดรองเทา้ แลว้ ให้ ความมนั วาว มากกวา่ กัน - ควรตากเปลือกผลไม้ทจ่ี ะนามาทาน้ายาขดั รองเท้าให้แห้งสนทิ ดกี อ่ น จึงคอ่ ยนามาเผา
10 บรรณำนุกรม 1. สานักงานเขตพ้ืนทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษาเขต 27. (2013). นา้ ยาขดั รองเทา้ จากเปลอื กมงั คุด, สืบค้นเมือ 11 มกราคม 2565 จาก. http://ppn601.blogspot.com/ 2. โรงเรยี นบา้ นวงั อ้อ. (2012). โครงงานวิทยาศาสตร์ เรอื่ งการทาครีมขัดรองเท้าจากเปลือกส้มโอ, สบื ค้นเมอื 11 มกราคม 2565 จาก. http://namkang52.blogspot.com/2012/04/blog-post_08.html
Search
Read the Text Version
- 1 - 10
Pages: