๑ ครอบครัวของจอ้ ย เชา้ ตรวู่ นั ใหม่ แสงเงนิ แสงทองไมท่ นั ฉาบทาเสน้ ขอบฟา้ แม่ ร้องปลุกเด็กชายสองคนให้เด็ดใบพลูก�ำลังงามไปขาย จ้อยต่ืนตาคลาย ความงัวเงยี ขณะจว๋ิ ตนื่ เต้นจนโดดผลงุ จากทนี่ อนไปยงั แม่แทบจะทนั ใด “ผมจะได้เงนิ ไว้ใช้วนั ว่าง๑ใช่ไหมแม่” จ๋ิวพูด ช่วงน้ใี ครๆ ก็นกึ ถึง วนั สงกรานต์ “เออ ขายให้ได้ก่อนเถอะเอง็ ” แม่ว่า จอ้ ยเดนิ มาสมทบแมก่ บั จว๋ิ ทคี่ า้ งพล๒ู ขา้ งบา้ น แมส่ อนวธิ ที ำ� กำ� พลู ให้ลกู ๆ ควำ่� ใบใหญส่ ดุ วางไว้เปน็ ฐาน กอ่ นนำ� ใบขนาดรองลงมาซอ้ นทบั ให้เรยี งเหลือ่ มกันจนครบสบิ ใบ แล้วพบั เข้าหากันเรยี กว่า หน่งึ แบะ ได้ ส่แี บะแล้วมดั รวมกันด้วยต้นหญ้าคาเรียกว่า หนงึ่ กำ� ๑ วนั ว่าง หมายถงึ วันสงกรานต์ (ภาษาถ่นิ ภาคใต้) ๒ ค้าง หมายถึง ไม้หลักส�ำหรับให้ไม้เถาขน้ึ เกาะ เช่น ค้างพลู ค้างถ่ัว
คามิน คมนีย์ 11 แม่ท�ำดูปุบปับฉับไว คร้ันเด็กชายท้ังสองท�ำบ้างก็พบว่าไม่ง่าย เช่นนน้ั “ของไอ้จ้อยก�ำสวยดี ของไอ้จ๋วิ ขเ้ี หร่” แม่พูด จ้อยยม้ิ ช�ำเลอื งไป ดูก�ำพลูของจ๋วิ “แตผ่ มได้กำ� เยอะกวา่ แน่ะแม่” จวิ๋ พดู “คอยแลกนั เถอะวา่ ใครจะ ขายได้มากกว่ากัน” เมอื่ แลว้ เสรจ็ สามคนแม่ลกู เดนิ ออกจากบ้านป่าไปตามทางเลก็ ๆ ข้ามล�ำธารผ่านป่าเบญจพรรณ พักใหญ่ก็ถึงชุมชนหน้าโรงเรียน แม่ชี้ ทิศทางบ้านเรือนผู้คนให้ลูกชายทั้งสองเดินเร่ขายใบพลู ส่วนแม่นั้น โดยสารรถเดนิ ทางต่อไปยงั ตลาดในอ�ำเภอ เดก็ ชายทงั้ คทู่ นู ถาดใบพลเู ดนิ ตามกนั ไป จวิ๋ ตวั โตกวา่ น�ำหนา้ ดว้ ย อารมณ์ลิงโลด ขณะจ้อยรู้สึกหนัก มิใช่ด้วยตัวสินค้า...แต่ด้วยความ กระดาก แม่กลบั จากตลาดในอ�ำเภอมาถงึ บา้ นตอนโพล้เพล้ เหน็ หน้าจอ้ ย กถ็ ามว่า “เม่ือเช้าขายใบพลูได้บ้างไหม” ไม่ทันจ้อยจะตอบจว๋ิ ก็ส่งเสียงล่ันมาจากหลังบ้าน “ผมขายได้หมดเลยแม่ แป๊บเดยี วเกล้ยี ง” จิ๋วพดู “ส่วนพีจ่ ้อย ถ้า ผมไม่ช่วยก็ขายไม่ได้สักก�ำ” “อา้ ว! กำ� ขเี้ หรข่ ายดี กำ� สวยกลบั ขายไมอ่ อก” แมส่ งสยั “ไหนเลา่ ซิ ขายกนั แบบไหน” “ผมก็เดนิ ไปร้องไปอย่างแม่สอน...น้าครบั ป้าครับ มีพลใู บสวยๆ ก�ำงามๆ มาขายถึงหน้าบ้าน ช่วยซื้อเป็นทุนการศึกษาเดก็ ๆ หน่อยครบั ” แม่ยมิ้ พอใจร้องว่า “เออ ด”ี ขณะจ้อยเร่มิ ก้มหน้างดุ ส่วนจว๋ิ ยงั รายงานแม่ต่อไปด้วยเสียงดังฟังชดั
12 ลูกนกจากคอน “พ่ีจ้อยมัวแต่อาย ทูนถาดไปเวียนหน้าบ้านเขาจนหมาเห่าแล้ว เห่าอีกก็ไม่พดู เขาถามว่าขายอะไรก็ไม่หาญแหลง๓สักค�ำ” “ก็ยังขายได้บ้างละน่า” จ้อยโต้จวิ๋ ทีว่ ่าเขาไม่กล้าพูด แม่หันมาพูดกับจ้อย “จะอายอะไรกับการทำ� มาหากิน เป็นพ่อค้า แม่ค้ามนั ต้องส่งเสยี งร้องเรียกลูกค้าสิ ไม่เช่นน้นั จะขายได้อย่างไร” จอ้ ยถอนใจเพราะเขารถู้ งึ สงิ่ ทแี่ มบ่ อกพอๆ กบั จวิ๋ แตค่ วามฉะฉาน มั่นใจเขาไม่มีเลย หลายคนซื้อใบพลูจากจ๋ิวไปแล้ว แต่เม่ือเห็นจ้อยทูน ถาดมาอกี ก็พากันพูดว่า ‘ดสู ิ คนพข่ี ายหมดแล้วเหลือแต่คนน้องยังเตม็ ถาดอยู่เลย ถ้าไม่ ช่วยซ้ือสงสัยต้องร้องไห้แน่ๆ’ ตอนนัน้ จ้อยเกอื บจะร้องไห้จรงิ ๆ ใบพลกู ข็ ายไม่ได้ แถมใครๆ ก็ คิดว่าเขาเป็นน้องของจิ๋ว ทั้งท่ีความจริงเป็นตรงกันข้าม ยังดีจ๋ิวไม่ สาธยายให้แม่ฟังถึงเรื่องน้ี แต่จ้อยคิดผดิ จิ๋วหันไปทางแม่ เรม่ิ พูดอกี คร้งั “คนเขาซอ้ื เพราะเหน็ ด๔ู สงสารพ่ีจ้อยหรอก” อากาศเดอื นเมษายนรอ้ นอา้ วตง้ั แตย่ ามสาย ทอ้ งฟา้ สวา่ งไสว แต่ทิวไม้ใบหญ้าแน่นิ่งไม่ขยับ นานทีสายลมจะหอบความเย็นรื่นมาให้ ช่ืนใจ จ้อยกนิ ข้าวไม่ทันจะเสรจ็ ดกี เ็ ดินย่องออกจากบ้าน “รู้นะว่าจะไปไหน” จวิ๋ รู้ทันพช่ี าย “งน้ั ก็ไปด้วยกนั ” จ้อยพดู ค่อยๆ ๓ แหลง หมายถงึ พูด (ภาษาถนิ่ ภาคใต้) ๔ เห็นดู หมายถึง สงสาร (ภาษาถ่ินภาคใต้)
คามนิ คมนยี ์ 13 เด็กๆ มักถูกเรียกหาเพ่ือใช้งานที่บ้าน แต่พวกเขาก็ต้องการ การละเล่นสนุกๆ ทุกวันเช่นกนั สองคนพ่ีน้องเดินออกจากบ้านมายังห้วยต้นหว้า ที่น่ีเป็นแอ่งนำ�้ ใหญ่ของลำ� ธารท่ไี หลมาจากภูเขา ตอนบนมโี ขดหนิ โตใหญ่เรยี งรายเป็น แผน่ กวา้ ง โอบผนื นำ้� ใสเยน็ ฉำ�่ เอาไว้ สำ� หรบั ชาวบา้ นตกั เอาไปดมื่ กนิ ทง้ั เป็นที่อาบน�้ำของผู้ใหญ่ ตอนล่างเป็นบริเวณกว้างและลึกกว่า สองข้าง ตลง่ิ สูงเป็นกอไผ่ท่ีแทงรากลงไปใต้น้�ำ น่ีคอื สวนนำ�้ สวรรค์ส�ำหรบั เด็กๆ ชาวบ้านป่า เดก็ ผหู้ ญงิ ชอบเลน่ ตโี ปง่ ลอยไปลอยมาทำ� ทา่ สงา่ งาม แตก่ อ่ นจอ้ ย เคยนุ่งโสร่งของพ่อหรือผ้าถุงปาเต๊ะของแม่มาลองท�ำดูบ้าง แต่ได้แค่ ลกู โปง่ แฟบเลก็ อยไู่ ดไ้ มน่ านกจ็ ม เดก็ ผชู้ ายสว่ นใหญช่ อบกระโดดนำ้� จาก สะพานลำ� ไผ่คู่ท่ีทอดข้ามไปยังบ้านผู้ใหญ่บ้านมากกว่า ท้าทายกันด้วย ทา่ กระโดดแผลงๆ บางคนใจกลา้ กไ็ ตข่ น้ึ ไปกระโดดจากกงิ่ ตน้ หวา้ สงู ใหญ่ ซงึ่ เป็นทม่ี าของชอื่ ห้วย ปกี ่อนจ้อยกบั จวิ๋ ท�ำได้เพยี งกระโดดจากตลงิ่ ปีน้ี จว๋ิ โตแซงหนา้ พชี่ าย เขาขยบั ขน้ึ ไปกระโดดจากสะพานไดแ้ ลว้ จอ้ ยไดแ้ ต่ ทำ� ตาปรบิ ๆ เขากลวั เปน็ อยา่ งหลายคนทพี่ ลาดพลง้ั กระโดดลงไปแลว้ โดน คมหินบาดหรือรากไผ่แทงเอา แม้จะได้เลือดได้แผลและถูกพ่อแม่ห้าม ปรามอยู่บ่อยคร้ัง แต่ดูเหมือนเด็กๆ จะไม่มีใครเข็ดหลาบ เมอื่ เดก็ ๆ มารวมกนั มากพอ เลน่ นำ้� จนขน้ ขนุ่ การละเลน่ ซงึ่ ทงั้ เดก็ ผู้ชายและเด็กผู้หญิงเล่นร่วมกนั ได้ที่เรยี กว่า ‘อเี ก’ กเ็ ร่ิมขน้ึ จ๋วิ เป็นอีเก ก่อน เขาลอยคอกลางแอ่งน�้ำ เพ่อื นๆ เรียงรายอยู่โดยรอบ อเี กจะด�ำน้ำ� ไปหาและพยายามเอามือไปแตะใครสักคน ใครจวนตัวก็ต้องรีบด�ำน�้ำ หลบหลกี ไปให้พ้นหรอื ซ่อนตวั ใต้น�้ำให้เงยี บเชียบทสี่ ดุ ใครพลาดถกู อีเก แตะตอ้ งเปน็ อเี กคนตอ่ ไป ผลดั เวยี นหมนุ กนั เปน็ ทส่ี นกุ ครกึ ครน้ื ใชค้ วาม สามารถรอบด้าน ยามเป็นอเี กก็ได้ลุ้นในการไล่ล่า ยามถกู อเี กรุกไล่กไ็ ด้
14 ลูกนกจากคอน ล่อหลอก เด็กตัวเล็กอย่างจ้อยจะคล่องแคล่วและไม่เสียเปรียบเช่นเกม อื่นๆ จอ้ ยโปรดปรานเกมอเี กมาก ไมย่ อมเลกิ งา่ ยๆ เขามกั เลน่ เพลนิ จน ลมื ทกุ สงิ่ ทกุ อยา่ ง เชน่ เดยี วกบั วนั นที้ จี่ วิ๋ เตอื นใหก้ ลบั บา้ นไดแ้ ลว้ มาหลาย ครง้ั แต่จ้อยไม่นำ� พา จนกระท่งั ... “เล่นอะไรกันนกั กันหนา หน้าที่รบั ผิดชอบทำ� เสร็จแล้วรึยัง” เสยี ง เล็กแหลมของผู้หญงิ ดงั มาจากเชิงสะพาน เด็กชายสองคนมองหน้ากนั เลกิ่ ลั่ก ตาลีตาเหลือกปีนข้นึ ตลงิ่ จว๋ิ ทำ� หน้าตัดพ้อพ่ีชายท�ำนองว่า ‘ผมบอกพีแ่ ล้ว พ่ีกไ็ ม่เช่ือ’ “ไป๊! กลบั บ้านไป” เสยี งเสียดแทงแก้วหูดงั ขนึ้ อีกครั้ง แม้ไม่เงย หน้าข้นึ มาทง้ั สองก็รู้ดวี ่าเป็นใคร “ไอ้จ้อยนจี่ บ ป.๖ แล้วแทนทจี่ ะเป็นแบบอย่าง กลบั ชวนน้องมา เถลไถลไม่รู้จักช่วยงานท่บี ้าน” “มาเล่นนำ้� หน่อยเดียวเอง” จ้อยพดู “เออ ให้มันได้ยังงส้ี ิ หน่อยเดียวของพ่อเจ้าประคุณนตี่ ัง้ แต่เช้าถึง เทย่ี งเลยนะ ไมไ่ ดช้ ว่ ยหงุ ขา้ วหงุ ปลาแลว้ แมย่ งั ตอ้ งใหพ้ ม่ี าตามไปกนิ ขา้ ว อกี ต่างหาก ไปเล่นอเี กต่อสิ พ่จี ะไปบอกแม่ว่าน้องไม่หิว ไม่กิน เอางนั้ ไหม” จ้อยเกือบจะเอาตามค�ำประชด แต่น้องชายชิงพูดข้นึ ก่อน “หวิ ครับ กนิ ครบั พีจ่ วง” จวงเคยอยกู่ บั ตายายแถบชานเมอื งนครศรธี รรมราชมาตงั้ แต่ เด็ก เมื่อเร่ิมเรียนชั้นมัธยมเธอมีปัญหาจนไม่สามารถเรียนต่อได้ แม่จึง ให้มาอยู่ด้วยกนั กบั พนี่ ้องเมือ่ สองปีก่อน ปีนี้เธออายยุ ่างเข้า ๑๖ ปี เธอ มักรู้สกึ สับสนวุ่นวายใจ ไม่ชอบการงานในเรือกสวนไร่นา ไม่อยากได้ช่อื
คามนิ คมนยี ์ 15 เป็นสาวชาวบ้านป่าอย่างท่ีแม่โน้มน้าว เธอคิดถึงความใจดีของตายาย อยากกลับไปอยู่กับตายายเหมือนเดมิ แต่แม่ว่าเธอใจแตกเสยี แล้ว แถม อยู่ทีน่ ่ันก็ไม่มอี ะไรให้เธอท�ำ กลวั จะเสยี คน จ้อยกบั จว๋ิ เคยดใี จตอนจวงมาอยู่ใหม่ วาดภาพพ่สี าวเป็นนางฟ้า ใจดี เป็นแม่ครัวหัวป่า ไม่ช้าจ้อยก็ได้ข้อสรุปว่าจวงเป็นแม่มดอารมณ์ ฉุนเฉียว แม้เขาจะไม่กล้าพูดออกมาเช่นนั้นก็ตาม ส่วนจิ๋วก็บ่นพึมพำ� บ่อยๆ ว่า นบั แต่แม่ให้จวงฝึกหงุ ข้าวหงุ ปลา ทุกคนกต็ ้องทนกินข้าวดิบ บ้างแฉะบ้าง แกงเผด็ แกงจืดกห็ ารสชาตไิ ม่ได้อกี เลย กระนั้นก็ตาม น่า แปลกที่จิว๋ ยงั กนิ ได้จุ โตวันโตคืนจนอ้วนท้วนกว่าจ้อยเป็นกอง “แกงสม้ ปลามอ้ื นไ้ี มถ่ งึ เคย๕นะลกู ” แมพ่ ดู กบั จวงระหวา่ งมอื้ เทย่ี ง จวงท�ำหน้างอเป็นจวกั ครงั้ กอ่ นเธอใส่กะปติ �ำพรกิ แกงหนกั มอื ไป จนเค็มปี๋ คราวนก้ี ลับกลายเป็นน้อยเกินไปเสียอกี เธอกวาดสายตามายงั นอ้ งทงั้ สองคน แตพ่ วกเขาเสมองไปทางอน่ื อย่างไม่รู้ไม่ช้ี จิ๋วเคยมีบทเรียนมาก่อน ตอนนั้นจวงท�ำแกงหยวกกล้วยโดยใช้ หยวกกล้วยแก่แทนที่จะเป็นหยวกกล้วยอ่อน มันท้ังจืดทั้งเหนียว แม่ เค้ียวไปพลางข�ำไปพลาง จว๋ิ โพล่งขึ้นมาว่า ‘อะไรๆ กก็ ินเข้าไปเถอะ นึกว่าเราเป็นหมูก็แล้วกนั ’ ทกุ คนพากนั หวั เราะ แตจ่ วงเปน็ นางแมม่ ดทผ่ี กู ใจเจบ็ ลบั หลงั แม่ คราวน้ันปรากฏว่า จ๋ิวถูกจวงกลั่นแกล้งบังคับให้ทำ� งานจนเข็ดเข้ียวอยู่ หลายวนั ๕ เคย หมายถึง ชื่อสตั ว์ทะเลคล้ายกุ้งแต่ตัวเล็กมาก เนื้อยุ่ย ใช้หมกั เกลอื ท�ำกะปิ และนา้ํ เคย ๖ ขนำ� หมายถึง กระท่อมช่ัวคราวในทุ่งนา
16 ลูกนกจากคอน หลงั อาหารเทย่ี ง จวิ๋ รบั หนา้ ทลี่ า้ งถว้ ยชามรามไห สว่ นจอ้ ยตอ้ งนำ� ข้าวห่อไปส่งให้แก่ จวบ พ่ีชายซ่งึ ปักหลักอยู่ทขี่ น�ำ๖ท้ายสวนยางห่างไป ราวสองกโิ ลเมตร จอ้ ยรสู้ กึ แย่ เขาไมอ่ ยากใหพ้ ช่ี ายทเ่ี หนด็ เหนอ่ื ยกบั งาน หนกั ตอ้ งมากนิ ขา้ วกบั แกงสม้ แสนกรอ่ ย แตก่ เ็ บาใจเมอื่ นกึ ขนึ้ ไดว้ า่ จวบ นั้นอารมณ์เย็นไม่เคยบ่นอะไรกับใคร แม้แต่เรื่องใหญ่อย่างเรื่องอาหาร การกนิ เด็กชายเดินผ่านทุ่งโล่งของสวนยางปลูกใหม่ ท่ีครั้งหนึ่งเคยเป็น ป่ารกคร้ึมท้ังด้วยยางพาราดั้งเดิมล�ำต้นโตใหญ่และป่าละเมาะระหว่าง แถวแนวต้นยาง ยางพันธุ์โบราณพวกน้ันถูกโค่นลงแทบท้ังหมด โดย ทางการใหก้ ยู้ มื เงนิ เพอื่ ปลกู พนั ธใ์ุ หมท่ ดแทน ตอ้ งรอใหย้ างโตอายุ ๖ – ๗ ปี จึงจะกรดี ได้ นนั่ เป็นเหตทุ ำ� ให้แม่ผนั ตัวมาเป็นแม่ค้า รับซือ้ พชื ผักกับ ของปา่ เขา้ ไปขายในเมอื ง ขากลบั กซ็ อ้ื ของจากในเมอื งมาขายในหมบู่ า้ น แม่ไม่ท้ิงงานไร่งานสวนไปเลยทีเดียว ให้จวบรับภาระกรีดยางเดิมที่เว้น เหลือไว้เล็กน้อยพอเป็นค่าใช้จ่ายในครัว รวมทั้งดูแลสวนยางปลูกใหม่ ไม่ให้รกเรือ้ และใส่ปุ๋ยบำ� รงุ จ้อยมาถึงขน�ำแล้วยื่นปิ่นโตให้จวบ ก่อนเดินเร่ือยไปตามล�ำห้วย ได้ยินเสียงนกร้องจุ๊กจิ๊กก็เงยหน้าขึ้นมองนกสีเหลืองบนกิ่งไม้ จู่ๆ เขา นึกถึงพ่อข้นึ มา แม่ว่าพอ่ เปน็ นกขมน้ิ เหลอื งอ่อน ชอบรอ่ นเร่พเนจรไม่ตดิ ที่ นานที ปหี นจะกลบั บา้ นมาใหล้ กู ๆ เหน็ หนา้ อยา่ งเดอื นกอ่ น ไมก่ สี่ ปั ดาหใ์ หห้ ลงั ก็จากไปอีก ...แล้วเขาจะเป็นนกขม้นิ เหลืองอ่อนอย่างพ่อไหม เดก็ ชายอยากรู้
๒ พระจันทร์เหนือบนั ได จนั ทรเ์ สยี้ วลอยดวงงามกลางคำ�่ ของฤดรู อ้ น จอ้ ยกบั จว๋ิ ชอบ มานั่งเชิงบันไดก่อนขึน้ ไปนอนบนชน้ั สอง สองคนพ่ีน้องจะแหงนมองดวงจันทร์แล้วพากับปรบมือร้องเพลง คืนนี้แม่พลอยมาร่วมวงด้วย พระเขนเหลนหวนั ยายทองจนั ทมิ่ หมากปกุ ปกุ ยายทองสกุ นงั่ คา หัวได ชวนให้เด็กๆ คดิ ว่าเหตุใดพระจันทร์จึงเป็นเหลนของสวรรค์ “ร้องปรือ๗ต่อ” จ๋ิวลมื เนอ้ื ร้อง จ้อยนำ� ร้องต่อ เมยี ของใคร เมียของน้าทดิ มอื เป็นหดิ ตดิ ช่อนมแมว ร้องแกวว แกวว แมวของป้าสัง ๗ ปรือ (ผรอื่ , พรอื่ ) หมายถงึ อย่างไร, อะไร (ภาษาถนิ่ ภาคใต้)
คามนิ คมนีย์ 19 ตอนน้จี ว๋ิ จำ� ท่อนต่อไปได้ เขาร้องคลอกับแม่และจ้อย ป้าสงั เหอไตร๘ไม่ยิกแมว ให้มาร้องแฉก-บอก แฉก-บอก รอกกนิ พร้าวแล้ว ป้าสังเหอ จอ้ ยพดู กบั แมว่ า่ ปา้ สงั นเี่ ปน็ คนแปลกแท้ ทำ� ไมไมไ่ ลแ่ มว แลว้ ยงั ปล่อยให้กระรอกกินมะพร้าวอีกด้วย ไม่รวมถึงเสยี งร้องพิลกึ ของแมวแก แมว่ า่ กลอนมนั พาไปเองแหละ แลว้ เตอื นใหล้ กู ทงั้ สองไปฉเ่ี สยี กอ่ น เขา้ นอน ความจรงิ จอ้ ยไมเ่ คยมปี ญั หาเรอื่ งนส้ี กั นดิ เดยี ว จว๋ิ ตา่ งหากทย่ี งั คง ‘เยย่ี วใส่ผ้า’ อย่างแม่ว่า เป็นปัญหาท�ำให้เขาขายหน้าแก้ไม่ตก ถึงพ่อจะไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่พ่อก็สร้างบ้านสองช้ันไว้ให้ทุกคนอยู่ สบายไม่อายใครในละแวก ท�ำจากไม้เนอ้ื ดีทงั้ หลัง ช้นั ล่างโปร่งโล่ง ปัก เสาใหญ่ๆ พื้นเป็นดินเหนียว มีแคร่ไม้ขนาดเขื่องไว้ใช้งานสารพัด ท้ัง รับแขก นอนเล่น กินข้าวด้วยกัน มสี ่วนครัวและยุ้งข้าวด้านหลัง มแี คร่ เล็กอีกตัวส�ำหรับแม่ใช้เป็นที่นอน ชั้นสองปูพื้นกระดานไม้หลุมพอ๙ มี ห้องนอนเลก็ ๆ ห้องเดยี ว จ้อยเคยจุดตะเกยี งหน้าม่านประตูห้องเพอ่ื เชิด เล่นหนังตะลงุ อยู่พกั ใหญ่ จนกระทง่ั เกอื บท�ำไฟไหม้บ้านมาครง้ั หนึง่ แม่ จึงห้ามเล่นอกี จวงจับจองเป็นท่นี อนทันทที ี่เธอมาอยู่เมือ่ สองปีก่อน แต่ นอกหอ้ งยงั มบี รเิ วณกวา้ งขวาง ยามแขกไปใครมาสามารถนอนไดอ้ กี นบั สบิ นอกระเบยี งกใ็ หญโ่ ต ยามมงี านใหญท่ บี่ า้ น ญาตมิ ติ รจากตา่ งถน่ิ มกั มานัง่ นอนชมจนั ทร์ แตส่ ำ� หรบั จว๋ิ แลว้ ประโยชนเ์ ดยี วของระเบยี งคอื เปน็ ทผี่ งึ่ แดดของ เสอ่ื สาดหรอื ผ้าห่มท่เี ขาฉร่ี ดตอนกลางคืนเท่านั้นเอง ๘ ไตร หมายถงึ ท�ำไม (ภาษาถนิ่ ภาคใต้) ๙ หลุมพอ หมายถงึ ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ ขึน้ ตามป่าดบิ ทางภาคใต้ เนอื้ ไม้ใช้ในการ ก่อสร้าง กะลำ� พอ หรือ ตะลมุ พอ ก็เรยี ก
20 ลูกนกจากคอน ท่ีนอนประจ�ำของเด็กชายทั้งสองอยู่ใกล้ห้ิงพระ แม่จะขึ้นมาไหว้ พระก่อนนอนทุกคืน บางคืนนอนเล่าเร่ืองเล่านิทานให้จ้อยกับจิ๋วฟังจน หลบั กอ่ นลงไปชน้ั ลา่ ง คนื นแี้ มอ่ า่ นบทกลอนจากหนงั สอื พระอภยั มณเี ลม่ เข่อื งให้ฟัง จ้อยรู้ว่าหลายบทหลายตอนแม่ท่องได้ไม่ต้องก้มดตู �ำราเลย “ตอนน้ีพระอภัยเป่าปี่สะกดทัพนางละเวง” แม่บอกก่อนท่องบท เนิบช้า พระโหยหวนครวญเพลงวงั เวงจิต ให้คนคิดถึงถนิ่ ถวลิ หวงั ว่าจากเรือนเหมอื นนกมาจากรัง อยู่ข้างหลังก็จะแลชะแง้คอย จอ้ ยนกึ ถงึ นกสเี หลอื งชายหว้ ยเมอื่ วนั กอ่ น นกึ ถงึ จวบทน่ี อนประจำ� ขน�ำท้ายสวน นึกถงึ พ่อที่นานทปี ีหนจะกลับมาเยย่ี มบ้าน เขาอยากรู้ว่าแม่จะนึกอย่างเขาไหม “วนั นีไ้ ปเท่ยี วเขาเคย่ี มงามกันรเึ ปลา่ ” จวบชวนจ้อยไปยังหมู่บ้านบนเนินเขาท่ีมองเห็นลิบๆ เป็นสีเขียว ครามจากหน้าโรงเรยี น “ไปท�ำไหร” จ้อยไม่เคยข้ึนไปที่น่ัน แต่รู้ว่าพี่ไม่ได้หมายถึงไป ท่องเท่ียวจรงิ ๆ “เขามานาวานให้ไปช่วยงานเผาปรนไร่บนโน้น เร่งให้แล้วเสร็จ ก่อนถึงงานบญุ วนั ว่าง มะรืนน้ีแล้วใช่ไหม” พ่ีชายตอบ นาวานคอื การไหวว้ านหรอื ขอแรง จอ้ ยไดย้ นิ มาวา่ ชว่ งวนั วา่ งหรอื สงกรานต์ทกุ คนจะต้องท�ำตัวให้ว่าง งดเว้นกจิ กรรมทำ� งานทกุ อย่าง ไม่
คามิน คมนยี ์ 21 ท�ำไร่ท�ำสวน ไม่กรีดยาง เว้นการฆ่าสัตว์ บางคนเว้นกระท่ังการหาผัก ปลา นอกจากนย้ี ังมขี ้อห้ามบางข้อ เช่น ห้ามตดั เล็บตัดผม ห้ามตดั ราน ต้นไม้กิง่ ไม้ ห้ามลงโทษเฆ่ยี นตีลกู หลาน ห้ามเด็กๆ ซนขึ้นต้นไม้ ห้าม กลา่ วคำ� หยาบดดุ า่ วา่ กนั บางคนถงึ กบั พดู วา่ โจรผรู้ า้ ยยงั ตอ้ งงดเวน้ การ ลกั ปล้นในวนั ว่าง จ้อยตื่นเต้นเตรียมตัวแต่หัววัน เพราะบ้านท่ีบอกนาวานคือบ้าน ของสมชาย เพ่ือนร่วมช้นั ของเขาทเ่ี พงิ่ จบ ป.๖ มาด้วยกัน คล้ายกบั ที่ พช่ี ายของสมชายทชี่ อื่ สมหมายกเ็ ปน็ เพอื่ นรว่ มชนั้ ประถมของจวบ เพยี ง แต่หลงั จบ ป.๔ แล้วเขาไปเรียน ป.๕ - ป.๖ ในเมืองและเรยี นต่อจนจบ ชน้ั มธั ยม จวบบอกว่าสมหมายก�ำลงั เรียนต่อมหาวิทยาลยั แม่เองก็เตรียมตัวเดินทางแต่เช้า บอกว่าจะไปงานบุญวันว่าง ไหว้ตายาย หรือท่นี ิยมเรียกกนั ว่า ‘พ่อเฒ่าแม่เฒ่า’ ที่ชานเมืองบ้านเกิด ของแม่ ให้จ้อยกับจวบช่วยกันหวดหญ้าวัชพืชในสวนยางปลูกใหม่ให้ เรียบร้อยก่อนไปช่วยเพอ่ื น “เหลอื งานไมม่ าก แตอ่ ยา่ ใหค้ ง่ั คา้ งอากลู ตอ้ งไปทำ� หลงั สงกรานต์ เลย จะไม่เป็นมงคล” แม่ก�ำชบั เสรจ็ กอ็ อกจากบ้านไปด้วยชดุ สวย กว่าสองพี่น้องจะเสร็จงานตัวเองเวลาก็ล่วงเลยไปจนยำ�่ ค่�ำ จวบ น�ำทางจ้อยเดินย�่ำไปกลางป่าดงพงไพร ทั้งสองคอนมีดพร้าไปบนไหล่ เสียงระงมของแมลงและเสียงร้องของส�่ำสัตว์บางชนิดท่ามกลางเงามืด ดำ� ของผนื ปา่ ชวนใหจ้ อ้ ยหวาดหวนั่ บางทเี ขาสะดดุ เขา้ กบั รากไมล้ ม้ ลงก็ ตอ้ งรบี ลกุ เรง่ ฝเี ทา้ ใหท้ นั พช่ี ายทรี่ ดุ กา้ วไปอยา่ งแคลว่ คลอ่ ง บางชว่ งเปน็ ทโ่ี ลง่ มองเหน็ พระจนั ทรเ์ สย้ี วอว้ นๆ อยกู่ ลางทอ้ งฟา้ สอ่ งแสงสวา่ งเยน็ ตา จนจอ้ ยอยากพกั รอ้ งเพลง พระเขนเหลนหวนั อยา่ งวนั กอ่ น แตก่ ก็ ลวั จวบ จะทิ้งระยะห่างจนตามไม่ทัน พกั ใหญ่จึงได้ยนิ เสยี งเพลงบอกแว่วมาไกลๆ จ้อยรู้สกึ อุ่นใจขึ้น
22 ลกู นกจากคอน บา้ นสมชายนนั่ เองทเี่ ลน่ เพลงบอกกนั เนอ้ื เพลงพดู ถงึ วนั สงกรานต์ นนั่ ละ สมชายร่วมวงส่งเสียงประกอบเป็นลกู คู่เสยี ด้วย อนั ประเพณีนี้แหละที่มคี ่า ว่าเอ...ว่าเห้...มีค่า อนั ประเพณนี ้ีท่มี คี ่า ว่าทอยช้า...ฉ้าเหอ...มคี ่า เรามาร่วมรักษานะกันเอาไว้ เรามาร่วมรกั ษา ใช่แล้ว...กันเอาไว้ สมชายชวนใหจ้ อ้ ยรอ้ งรบั เปน็ ลกู คเู่ พลงบอกดว้ ย ฟงั ดไู มย่ าก แถม จังหวะสนกุ ครน้ื เครง เขาว่า “กนั เอง ไม่ต้องบัดสีหรอก” แต่ไม่ได้ผลเพราะจ้อยเอาแต่ส่ายหน้าลกู เดยี วด้วยความอาย งานนาวานเรมิ่ มาแลว้ ตง้ั แตบ่ า่ ย ตกเยน็ เจา้ ภาพทำ� อาหารเลย้ี งดู เชา้ ตรวู่ นั พรงุ่ นงี้ านจงึ จะเรมิ่ อกี ครงั้ หลายคนทมี่ าไกลจงึ นอนคา้ งเสยี ทน่ี ี่ เพ่ือความสะดวก เช่นเดยี วกับคนมาใหม่อย่างจวบและจ้อย ปนี คี้ รอบครวั ของสมชายเพง่ิ หกั รา้ งถางปา่ หลงั จดุ เผาครง้ั แรกแลว้ ต้องเก็บบรรดากิ่งก้านไม้ท่ีไหม้ไม่หมดมารวมเป็นกองๆ เพ่ือเผาอีกครั้ง จนเกลยี้ งเกลาทง้ั หมด เรยี กวา่ ‘ปรนไร’่ เพอ่ื เตรยี มพนื้ ทส่ี �ำหรบั ปลกู ยาง พนั ธ์ุดี เช่นเดียวกับที่ครอบครวั จ้อยท�ำเมอื่ ปีกลาย จวบคยุ กบั สมหมายยดื ยาวสมกบั ไมเ่ จอกนั มานานนม จอ้ ยคดิ วา่ สมหมายน้ันรูปร่างหน้าตาคมเข้มไม่ต่างจากเด็กหนุ่มๆ ในหมู่บ้าน แต่ เขามบี คุ ลกิ ภาพตา่ งออกไปมาก พดู จานา่ ฟงั ประกอบดว้ ยถอ้ ยคำ� สำ� นวน
คามนิ คมนยี ์ 23 แปลกใหม่ มเี รอื่ งราวในเมอื งทจี่ อ้ ยไมค่ นุ้ เคยมาเลา่ จวบพดู หลายครง้ั วา่ สมหมายเปน็ คอมมวิ นสิ ตผ์ ดิ ยคุ เปน็ นกั ปฏวิ ตั ิ และนา่ จะเปน็ นกั การเมอื ง ในอนาคต ซง่ึ สมหมายกย็ มิ้ อย่างพอใจ จวบบอกเพอ่ื นว่า จ้อยกเ็ รยี นเก่งไม่เบา “สอบได้ท่ีหน่งึ ทกุ ปี” จวบโอ่น้องชาย “สอบเข้า ม.๑ ได้แล้ว แต่ มนั ว่าจะไม่เรียน” “อา้ ว! ไตรเปน็ พนั นน้ั ” สมหมายสงสยั “บอกพส่ี วิ า่ ท�ำไมไมอ่ ยาก เรียนต่อ” “ไม่รู้” จ้อยตอบง่ายๆ สมหมายหวั เราะ “ไมร่ นู้ ่ี หมายถงึ ไมร่ จู้ ะเรยี นไปท�ำไม หรอื ไมร่ วู้ า่ ทำ� ไมไม่อยากเรยี น” คราวน้จี ้อยไม่รู้จรงิ ๆ วนั วา่ งที่ทุกคนรอคอยมาถึงในทส่ี ุด ท้ังเด็กทั้งผู้ใหญ่ในละแวกไปรวมตัวกันที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน สรงนำ�้ พระพทุ ธรปู ทำ� ขนมหลายชนดิ มาแบง่ กนั กนิ ทกุ คนหนา้ ตายม้ิ ยอ่ งผอ่ งใส จอ้ ยไดย้ นิ ผใู้ หญบ่ า้ นพดู วา่ วนั วา่ งหรอื วนั สงกรานตค์ อื วนั ปใี หมข่ องไทย เรา ในวนั เร่มิ ต้นใหม่เช่นน้ี อย่าท�ำจติ ใจหรืออารมณ์ให้ขุ่นมวั เดก็ ต้อง แสดงความกตเวทีต่อผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ต้องเมตตากรุณาต่อเดก็ หลงั ร่วมกันอาบน้�ำดำ� หัวแก่คนแก่คนเฒ่าแล้ว ก็ถึงเวลาเปิดฉาก เล่นนำ้� สงกรานต์อนั แสนสนกุ ส�ำหรับเด็กๆ พวกเขาไม่สาดน้�ำผู้ใหญ่ แต่ จะขอพรจากผสู้ งู อายกุ วา่ แลว้ ขออนญุ าตราดรดนำ้� เบาๆ จากขนั เพยี งครง้ั เดยี ว ตา่ งกบั เดก็ ๆ ดว้ ยกนั ทเี่ ล่นหยอกล้อเสยี งดงั โฉงเฉง กลนั่ แกลง้ สาด ใส่กันชุลมุนวุ่นวายจนไม่รู้ใครเป็นใคร ย่ิงแอบสาดให้ประหลาดใจคดิ ไม่ ถึงกย็ ่ิงดี
24 ลูกนกจากคอน จ้อยกับจิว๋ อยากให้จวงแปลกใจเล่น พวกเขาคิดเอาเองว่า วนั น้พี ่ี สาวหน้าตาแจ่มใส คงไม่ดดุ ่าว่ากล่าวใครในวนั สงกรานต์เป็นแน่ บางที เธออาจเรม่ิ ‘ญาติดี’ กบั พวกเขาในวันปีใหม่ไทยกไ็ ด้ ใคร่ครวญดีแล้วทงั้ คู่ก็ลงมอื จ๋ิวเรยี กพสี่ าวท่หี นั หลงั อยู่เพอื่ ขอรดนำ�้ จ้อยเกรง็ ข้อมือชูขนั นำ�้ ใบ ใหญร่ อไว้ ทนั ใดนน้ั เองจวงกล็ นื่ เพราะพน้ื เปยี กแฉะจากการเลน่ สงกรานต์ ของเดก็ ๆ เธอเซมาชนจอ้ ยจนเขาปลอ่ ยขนั นำ้� โดยไมต่ ง้ั ใจ จงั หวะนน้ั พอดี กับทจ่ี ๋วิ พูดว่า “สุขสันต์วนั ว่างนะพีจ่ วง” จวงเปียกปอนไม่พอ ดูเหมือนขนั น�้ำใบเขือ่ งนน้ั ยังครอบหัวเธอไป เกอื บคร่ึง! เดก็ ชายท้งั คู่ต้องโจนหนแี ทบไม่ทนั ได้ยนิ เสียงแว้ดๆ ดงั มาว่า “สขุ สนั ต์กับผสี ิ ไปให้พ้นนะไอ้พวกเด็กเปรต!” มาพกั ใหค้ ลายใจหายใจควำ่� รมิ หว้ ยตน้ หวา้ พกั หนง่ึ สองหนมุ่ นอ้ ย กล็ งน้�ำเล่นอีเกกับเด็กๆ ทว่ี ันนี้คลาคล�่ำเต็มลำ� น�้ำ แต่หลายคนเกินไปท�ำให้จ้อยไม่สนุก “ไปเล่นบ้าบ้านเรากันดกี ว่า” จอ้ ยชวนเพอื่ นๆ เลน่ สะบา้ เขาเพงิ่ นกึ ขนึ้ ไดว้ า่ วนั กอ่ นไดล้ กู สะบา้ จากเขาเค่ียมงามมามากมาย หมายมน่ั จะเอาไว้เล่นในวนั ว่าง ลานดินใต้ถุนบ้านเด็กชายทั้งสองกลายเป็นสนามสะบ้าไปใน พรบิ ตา เกมสะบ้าทพ่ี วกเขาเล่นแบ่งออกเป็นสองข้างข้างละ ๓ คน นงั่ ประจนั หนา้ หา่ งกนั สกั ๓ เมตร แบง่ ลกู สะบา้ คนละครง่ึ ไดข้ า้ งละ ๑๐ ลกู เอาไว้ปักกับพื้นดินด้านหน้าทีมของตัวเอง ให้เป็นหน้ากระดานตามสัน ของลูก แต่ละลกู ห่างกันราว ๓ – ๔ นวิ้ แต่ละฝ่ายคัดสะบ้าลูกกลมใหญ่ เอาไว้เป็นตัวยิง เรียกว่า ‘ลกู เกย’ ฝ่ายละ ๒ ลกู เรมิ่ เล่นโดยฝ่ายหนง่ึ ยิง
คามนิ คมนีย์ 25 ลกู เกยไปเพอ่ื ใหโ้ ดนลกู สะบา้ ฝา่ ยตรงกนั ขา้ มจนลม้ ลง ผลดั กนั ยงิ ฝา่ ยละ ๑ – ๓ ครงั้ แล้วแต่จะตกลงกนั ฝ่ายไหนลกู สะบ้าล้มหมดก่อนกแ็ พ้ ฝ่าย ชนะจะได้ยงิ ก่อนในเกมถดั ไป การยิงลูกเกยจะจับขอบลูกเกยด้วยนิ้วหัวแม่มือกับน้ิวช้ี หรือท้ัง ห้านิ้วก็ได้ตามถนัด ให้ด้านแบนเข้าหาฝ่ามือ ใช้น้ิวช้ีอีกมือหนึ่งสอดใน ลกู เกย ดันให้ลูกเกยหลุดจากมือหมุนอย่างเรว็ และแรง เช่นเดียวกับการ ดีดเหรียญให้หมนุ ใครดีดไม่คล่องจะใช้วธิ ีโยนลูกเกยไปกไ็ ด้ แน่นอนว่า เทียบไม่ได้กับคนเล่นเก่งที่สามารถยิงลูกเกยให้หมุนต้ิวตีลูกสะบ้าให้ล้ม ลงระเนระนาดได้ทีละหลายลกู จ้อยกับจว๋ิ อยู่ข้างเดียวกัน เล่นเข้าขากันได้ดี จ้อยปั่นยิงลูกเกยได้ เป็นวิถีโค้งหมุนไปกระแทกลูกสะบ้าฝั่งตรงกันข้ามล้มกระจายเสียงดัง กราวๆ หลายหน ขณะจิ๋วจะคอยเก็บตกลูกท่ีหลงค้างเป็นฟันหลอได้ดี เพราะความแม่นยำ� ในการยงิ ลาน ‘บ้า’ มาแตกกระเจิงเมื่อมีเสียงร้องว่าพี่จวงกลับมาแล้ว ความจริงเธอยังเดินมาไม่ถึงบ้านด้วยซ้�ำ แต่น่ันก็สมควรแก่เวลาและ เด็กชายเจ้าของบ้านทั้งสองรู้สึกเต็มอิ่มกับชัยชนะแล้ว ตอนกวาดเก็บลูกสะบ้าใส่กระสอบซุกใต้แคร่ไว้เล่นวันหลัง จ้อย ได้ยนิ บางคนพูดว่า คำ่� นี้อย่าลมื ไปเล่น ‘เชอื้ ญาหงส์’ ทบ่ี ้านผู้ใหญ่เชยี ว ล่ะ ‘การเชื้อเชิญพญาหงส์เป็นการเล่นท่ีแฝงความลึกลับ บางทีก็ น่ากลวั ’ คดิ ไปแล้วจ้อยขนลกุ ซู่ขึน้ มาเฉยๆ
๓ พญาหงสใ์ นดงดอน ยังมีการละเลน่ อีกหลายอยา่ งในวนั สงกรานต์ เรยี กรวมกนั ว่า ‘เล่นว่าง’ เด็กเล็กๆ มักชอบเล่นมอญซ่อนผ้าและอบุ ลกู ไก่ ซ่อนหาท่ี เรยี กวา่ ‘อหี ยบ’ หรอื ‘ปดิ ตาลกั ซอ่ น’ กน็ ยิ มเลน่ กนั ผใู้ หญเ่ ลน่ ‘ยบั สาก’ กันครื้นเครงทั้งชายหญิง แต่วงสะบ้ามีแต่ผู้ชายเบิกบานเพลิดเพลินกัน ตลอดเวลา วนั ว่างจงึ ดจู ะค่�ำลงอย่างรวดเรว็ ลานใตต้ น้ นนุ่ หนา้ บา้ นผใู้ หญบ่ า้ นเปน็ จดุ รวมตวั กนั อกี ครง้ั มขี นม นำ� มาแลกกนั กนิ จนเหลอื เฟอื ใครตอ้ งการเลน่ เชอื้ ญาหงสก์ น็ ง่ั ลอ้ มวงรอบ ลาน มีตะเกียงน�้ำมนั ก๊าดวอมแวมวางไว้ตรงกลาง แล้วทุกคนกเ็ ร่ิมร้อง เพลงเชื้อเชญิ พญาหงส์พร้อมทำ� มอื ร่ายร�ำตามจงั หวะ ญาหงส์เห้อ...เชญิ เจ้ามาลง ในดงทิวท้อ ถอื ไม้เท้าพระเจ้ายอดเหาะ อีลว่ิ ตวิ้ พา ญาหงส์เห้อ...ญาหงส์เหอ...
28 ลูกนกจากคอน ญาหงส์เห้อ...เชญิ เจ้ามาลง ในดงขเี้ หล็ก เล่นเสียแล้ว หว่างยังเป็นเดก็ อีลิว่ ตวิ้ พา ญาหงส์เห้อ...ญาหงส์เหอ... ร้องร�ำกันไปเร่ือยๆ อย่างเนิบช้า บางทีผู้ใหญ่ก็น�ำให้เปล่ียนเนื้อ เพลงบา้ ง บรรยากาศชวนใหเ้ คลมิ้ ๆ แลว้ จๆู่ จวิ๋ ซงึ่ นง่ั ใกลๆ้ จอ้ ยกเ็ รม่ิ ขยบั มอื ไม้เรว็ ขน้ึ ๆ เขาดตู าลอย ตวั สนั่ เทม้ิ รา่ ยรำ� ถรี่ วั ทกุ คนชใี้ ห้ดจู วิ๋ แลว้ พดู กันว่า “ญาหงส์ลงแล้ว” ถงึ ตอนนพี้ วกผใู้ หญบ่ อกวา่ ตอ้ งรบี เปลยี่ นเพลงรอ้ งทนั ที เพลงใหม่ น้มี ีท่วงทำ� นองกระชับฉับไว ทุกคนปรบมือตามจังหวะคึกคกั มดแดงขบแข้งขบขา ขบถึงศาลา ตุ้งแฉ่ง...ตุ้งแฉ่ง... แล้วจิว๋ กเ็ หมือนจะตนื่ ขน้ึ จากอาการละเมอ เขาหันไปรอบๆ ถาม ว่าเกิดอะไรข้นึ เพอ่ื นๆ บอกว่า “ญาหงส์ลงแกไงล่ะ” จากนนั้ บทเพลงเชอ้ื ญาหงสก์ ด็ งั ขน้ึ อกี หน ในไมช่ า้ ญาหงสก์ จ็ ะลง ใครสกั คนอกี ครัง้ วา่ กนั วา่ ญาหงสจ์ ะลงใครนนั้ กำ� หนดแนไ่ มไ่ ด้ เทา่ ทจี่ อ้ ยเหน็ มกั ลง ผหู้ ญงิ หรอื เดก็ บางคนลงแลว้ ลงอกี บางคนลงแลว้ ดอื้ อยนู่ านจนตอ้ งรอ้ ง ใหม้ ดแดงกดั แขง้ กดั ขา ตงุ้ แฉง่ ตงุ้ แฉง่ แบบเรง่ รวั กนั หลายรอบจงึ จะกลบั มาเป็นปกติ จ้อยไม่เคยถูกญาหงส์ลงเลยสกั คร้ัง ยามเล่นเขาจะระวังตวั แจ คอยมองฝ่าความมืดไปยังป่าดงรอบบ้าน ทั้งหวาดหวั่น ท้ังตื่นเต้น
คามิน คมนีย์ 29 เขากลัวว่าหากเผลอไผลจะถูกวิญญาณโฉบเข้ามาสิงสู่ บางทีอาจไม่ใช่ พญาหงส์ แต่อาจเป็นผรี ้ายจากในป่ากเ็ ป็นไปได้ การละเลน่ ของเด็กๆ ชว่ งหน้ารอ้ นมหี ลากหลายไม่สิน้ สุด วนั นีเ้ พื่อนมาชวนจ้อยกบั จว๋ิ ออกไปเล่นแต่เช้า แม่ยังไม่กลบั จาก ชานเมอื ง จวงกย็ งั นอนอา่ นนยิ ายอย่บู นหอ้ ง สองหน่มุ น้อยจงึ ไมล่ งั เลจะ ตามเพอื่ นไป ฤดนู ด้ี กดนื่ ไปด้วยมะม่วงหมิ พานต์สกุ อร่าม ทั้งพันธุ์สีเหลืองและ สีแดง เด็กๆ ฝานท้ายผลที่มียางออกแล้วจ้ิมเกลือ หอมหวานปนเฝื่อน เลก็ นอ้ ย กนิ มากกค็ นั ระคายคอได้ มอ้ื ไหนจะกนิ ขา้ วแลว้ ขาดผกั แนม แม่ หรือจวงมกั จะบอกจ้อยหรอื จว๋ิ ว่า ว่งิ ไปหายอดยาร่วงมาท�ำผักเหนาะสัก หน่อย จ้อยไม่คิดว่าจะมีผลไม้ชนิดไหนมีชื่อหลากหลายกว่ามะม่วง หิมพานต์อกี นอกจาก ยาร่วง ท่เี รียกกนั ท่วั ไปแล้ว ยังเรยี กว่า หวั ครก ท้ายเล็ด เลด็ ล่อ ท้ายล่อ กาหยี กาหยู ย่าโห้ย หลายชือ่ มาจากลกั ษณะ พิเศษของมนั ท่มี ีเมลด็ อยู่นอกผลนน่ั เอง “เล่นทอยหลุมกนั เลยไหม” เพ่อื นชวนเล่น หลังก้มๆ เงยๆ ปลดิ เม็ดมะม่วงหิมพานต์จากผลที่ หล่นก่ายกองใต้ต้นใหญ่ได้มากพอ “เอาแหละ” จวิ๋ รับค�ำท้า จ้อยก็พยักหน้า เดก็ ๆ ช่วยกันขุดหลมุ ให้กว้างลกึ พอเอามอื ล้วงลงไปได้ แล้วถอย ออกมายืนตรงจุดท่ีตกลงกัน แต่ละคนน�ำเม็ดมะม่วงหิมพานต์มาวาง เปน็ กองกลางจำ� นวนเทา่ กนั แตล่ ะเกมอาจมากบา้ งนอ้ ยบา้ ง เรมิ่ ดว้ ยการ จัดล�ำดับทอยก่อนหลังด้วยการทอยลูกเดียวให้ใกล้หลุมที่สุด ให้ดีก็ลง หลุมไปเลยจะได้ทอยก่อนเพื่อน จากนั้นคนแรกจะทอยเม็ดท้ังหมดไปที่
30 ลูกนกจากคอน หลุม เมด็ ที่ตกในหลมุ คนทอยสามารถกวาดไปได้ทันที เม็ดทีก่ ระจายอยู่ นอกหลุมคนอ่ืนจะชี้ให้ทอย หากทอยโดนก็จะได้เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ตานนั้ ไปทง้ั หมด ถา้ ไมโ่ ดนคนตอ่ ไปกเ็ ปน็ ฝา่ ยนำ� ลกู ทเ่ี หลอื มาโยนลงหลมุ บ้าง หมดลกู แล้วก็เล่นตาใหม่ สองพนี่ ้องเล่นสู้เพ่อื นไม่ได้ ไม่นานนกั เม็ดมะม่วงหมิ พานต์ก็ย้าย ไปยงั ยา่ มของเพอื่ นเกอื บหมด ตอ้ งขยบั ทไ่ี ปหาเมด็ เพม่ิ เตมิ จากใตต้ น้ อนื่ ๆ “ซดั ราวกนั มัง่ ดีกว่า สู้ไหม” คราวนีจ้ ว๋ิ เป็นฝ่ายท้าทาย “ได้สิ บายๆ” เพ่อื นว่าสบายมาก เกม ‘ซัดราว’ หรือบางทีเรียกว่า ‘ซัดโหม่งหัวครก’ เปลี่ยนเป้า หมายจากหลมุ เป็นรางไม้ไผ่ผ่าให้พอวางเม็ดมะม่วงหมิ พานต์ได้สกั ๒๐ เม็ด นำ� รางไปวางไว้ระหว่างกะลามะพร้าวสองข้างท่ีคว่�ำไว้เป็นฐานรอง หาเม็ดขนาดใหญ่เหมาะมือไว้เป็นตัวทอยหรือลูกเกยคล้ายเล่นสะบ้า ระยะห่างจากราวและใครเล่นก่อนหลังก็ตามแต่จะตกลงกัน ใครทอย ลูกเกยไปโดนเม็ดบนราวจนร่วงลงก็จะได้เม็ดน้ันๆ ไป ผลัดกันทอย คนละครั้งกระทงั่ หมดราวจึงเล่นตาใหม่ จวิ๋ แมน่ มาก เขามน่ั ใจขนาดขวา้ งลกู เกยไปโดนจนรว่ งทง้ั ราวหลาย ครง้ั เกมนเ้ี ขาเอาคนื เพื่อนได้ส�ำเร็จ จ๋ิวเดินเริงร่าหน้าบานกลับบ้าน ต่างกับจ้อยท่ีหน้าม่อย เขารู้สึก ขัดใจและเศร้าเลก็ น้อยที่เล่นอะไรๆ ก็สู้ใครไม่ได้ แม้แต่น้องชายตวั เอง เย็นนี้จวบอยู่บ้านพอดี จิว๋ ร้องเรียกพีค่ นหัวปีมาแต่ไกล “พ่จี วบอย่าเพง่ิ ไปไหน ช่วยค่ัวหัวครกให้ทตี ะ” การค่ัวหรือเผาเม็ดมะม่วงหิมพานต์เพ่ือเอาเน้ือข้างในมากินเป็น เรื่องไม่ง่ายเลย ต้องใช้ความกล้าหาญชาญชยั และช่�ำชอง ยางของเมด็ มะม่วงหิมพานต์เม่ือโดนความร้อนจะปะทุกระเด็นไปทุกทิศตลอดเวลา จงึ ทำ� ในครวั ในบา้ นไมไ่ ด้ แตไ่ มว่ า่ จะคว่ั หรอื เผาทไี่ หน อยา่ ใหเ้ มด็ ทก่ี ำ� ลงั
คามนิ คมนีย์ 31 ลุกไหม้กระเดน็ เข้าใส่เชยี วล่ะ แผลพุพองหลายวนั แน่นอน ท้งั สามเดนิ มาหลงั บ้าน จวบให้จ๋ิวก่อไฟโดยเอาหนิ ๓ ก้อนวาง เปน็ เสา้ เขาสมุ ฟนื แล้วเรยี กให้จวิ๋ ไปหากระบะนำ�้ ยางซงึ่ ทำ� จากปบ๊ี ผ่าซกี มา “เลอื กเอาอันเก่าๆ ที่มีรูรว่ั มานะ” จวบเทเมด็ มะมว่ งหมิ พานตท์ ง้ั หมดใสก่ ระบะรว่ั วางบนไฟไมน่ าน ควันสีขาวก็เริ่มลอยฟุ้งเหนือกระบะ เขาใช้ไม้ยาวๆ เขี่ยคนเม็ด มะม่วงหิมพานต์ไปมา พอยางเหนียวของมนั เริม่ ปะทุ จวิ๋ ก็ถอยออกห่าง ขณะจอ้ ยถงึ กบั กระโดดไปเสยี ไกล ไฟลามเลยี ลอดผา่ นรอยรวั่ ของกระบะ ข้ึนมาค่อยๆ ติดยางเม็ดมะม่วงหิมพานต์ซึ่งเป็นเชื้อไฟอย่างดี พริบตา เดียวไฟก็ลกุ โพลงท่วมทั้งกระบะ จวบพดู ว่า “ตอนนี้ส�ำคัญมาก หากเร็วไปเนื้อในจะไม่สุก หากช้าไปจะไหม้ เกรียม” ว่าแล้วก็ใช้ไม้ยาวดันกระบะให้เทคว�่ำลงกับพ้ืนที่ว่าง เม็ด มะมว่ งหมิ พานตส์ ดี �ำปก๋ี ระจดั กระจายไปทว่ั หลายเมด็ ยงั ตดิ ไฟอยพู่ รบึ ๆ จ้อยกบั จิ๋วหกั ก่ิงไม้สดมาทุบๆ จนไฟดับสนิท จากนัน้ ก็ช่วยกันน�ำเมด็ ด�ำ ไปทบุ หรอื ตอ่ ยเบาๆ ดว้ ยไม้ เปลอื กจะแตกสามารถควกั เนอ้ื แสนมนั อรอ่ ย ออกมากนิ ได้ทันที กล่ินหอมจากการค่ัวเม็ดมะม่วงหิมพานต์มักฟุ้งขจายไปไกล ยั่วยวนให้ใครๆ เข้ามาขอแบ่งไปชิม...ไม่เว้นแม้แต่จวง เธอเดินฉุยฉาย จากบ้านตรงรมี่ ายังทุกคน จวบต่อยส่งให้เธอกิน ๒ – ๓ เมด็ “หรอยแรง” เธอว่า สหี น้ายนื ยนั ว่าอร่อยจรงิ จอ้ ยคดิ วา่ พสี่ าวกเ็ ปน็ สขุ กบั เรอื่ งงา่ ยๆ เขาอยากเอาใจเธอใหห้ าย โกรธจากที่ถูกเขารดนำ�้ คว่�ำศีรษะโครมใหญ่โดยไม่ตั้งใจเม่ือวันก่อน คิด แล้วจงึ กำ� เมด็ มะม่วงทแี่ คะแล้วส่งให้บ้าง
32 ลกู นกจากคอน จวงกัดกนิ เข้าไปนิดเดียวกร็ ้องพลางถ่มทง้ิ “ฮ้าย! ไอ้ไหรนีเ่ อาแต่เมด็ ไหม้ๆ มาให้เรา ไอ้หวั ครก” ทำ� ดีไม่ข้ึนเลย จ้อยใจเสยี หัวครกเอาไว้เล่นก็สนุก กินก็อร่อย แต่ใครถูกด่าไอ้หัวครกต้อง จกุ อกทกุ ราย มันหมายถึงไม่ได้เรือ่ ง ไม่เอาไหน ไร้สาระไปวันๆ “ป้าจนั ทรอ์ ยูไ่ หม เจ้าบา้ นมใี ครอยูบ่ ้าง” เสยี งใสๆ ของผู้หญิงเรยี กให้จ้อยวงิ่ ข้นึ จากล�ำธารหลังบ้าน “เออ้ื ง นกึ ว่าใคร” จ้อยยม้ิ รบั เดก็ หญงิ วยั เดยี วกนั “เขา้ มาในบา้ น ส”ิ เอื้องหว้ิ ถังหนกั อ้งึ มีเม็ดมะม่วงหิมพานต์อยูเ่ ต็มมาวางไว้ขา้ งแคร่ เธอเป็นเพ่ือนร่วมช้ันกบั จ้อยกระทัง่ จบ ป.๔ พ่อเธอมาเสียชีวติ เธอต้อง ย้ายตามแม่ไปท�ำมาหากนิ ถ่ินอน่ื ร่วมสองปีโดยไม่ได้เรยี นต่อ แม่เพิง่ พา เธอและน้องสาวย้ายกลับมาบ้านป่าทนี่ ีอ่ ีกคร้ัง จ้อยได้ยินว่าเธอจะกลบั มาเรยี นชัน้ ป.๕ ทโี่ รงเรียนเก่า “แม่ไปซือ้ ดีปลีท่ีบ้านโน้น เดย๋ี วก็กลับมา” จ้อยบอกเพอ่ื น ดีปลีส�ำหรับชาวบ้านท่ีน่ีคือพริก นอกจากพริกแล้วแม่ยังรับซ้ือ กล้วย มะเขอื สะตอ ลกู เนียง พืชผลและของป่าสารพดั บางทีสตั ว์ป่า ประเภทนม่ิ กซ็ ้ือ เพอ่ื เอาไปขายในเมอื ง “เธอเอาท้ายเล็ดมาขายแม่เหรอ” จ้อยถาม เด็กหญงิ พยักหน้า พอดีกบั ที่แม่กลับมา จิว๋ ช่วยแบกถงุ ปุ๋ยบรรจุ พริกท่รี บั ซ้ือมาจนหลงั แอ่น “ช่วงนีเ้ ม็ดยาร่วงเกร่อ ราคาไม่ดีเท่าไหร่นะลกู นะ” แม่บอกด้วย น้�ำเสยี งเมตตา “แต่ดีปลนี ่ะได้ราคาดี บอกแม่ด้วย”
คามิน คมนยี ์ 33 “คะ่ ปา้ แมว่ า่ หาอะไรไดก้ เ็ อามาขาย จะไดม้ เี งนิ จา่ ยชว่ งเปดิ เทอม บ้าง” “หมัน” แม่ตอบว่าใช่แล้ว จอ้ ยสงั หรณใ์ จวา่ แมจ่ ะพดู อะไรสกั อยา่ งเกย่ี วกบั เขาแนๆ่ เขาโลง่ ใจ เม่ือแม่ไม่พดู แต่ทันทที เ่ี ออื้ งกลบั ไปแล้ว แม่หนั มาพดู กบั จ้อยและจว๋ิ “เอง็ สองคนดอู เี ออื้ งไวเ้ ป็นแบบอยา่ ง หนกั เบาเอาเพ หวั ครกท้าย เล็ดไม่ใช่มีไว้ให้เล่นทอยหลุมขว้างราวกนั อย่างเดียว เอามาขายได้ ไหร ไม่ไหรกะได้มีเบี้ยไว้กินหนม” ถกู ของแม่ ราคาไมด่ แี ตอ่ ยา่ งน้อยกจ็ ะไดเ้ งนิ ไวก้ นิ ขนมอยา่ งเออื้ ง พูดบ้าง จ้อยไม่รู้ว่าท�ำไมเขาไม่เคยคิดเรื่องน้ีมาก่อนหรือเป็นเพราะเขา ตัดสินใจไม่เรียนต่อแล้ว เทอมใหม่ส�ำหรับเขาจึงไม่มี ถึงกระน้ันก็เถอะ จะอยู่ในโรงเรียนหรอื นอกโรงเรียน ทุกคนก็ต้องกินต้องซอ้ื ไม่ใช่หรอื จ้อยรู้สึกแย่กับตัวเอง สิ่งสำ� คัญกว่านั้นซง่ึ ทำ� ให้ใจเขาเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ คอื เขายงั ไม่ได้ บอกแม่ถงึ การเปลี่ยนใจไม่เรยี นต่อ ม.๑ จ้อยไม่กล้าพูดออกมาเองเช่นท่ีพูดกับจวบ เขาอยากให้แม่รู้เอง และเข้าใจความรู้สกึ เขาโดยอตั โนมตั ิ ชนดิ ไม่ต้องถามไม่ต้องตอบ บางทแี ม่อาจรู้จากจวบแล้ว จ้อยหวังลมๆ แล้งๆ เพราะรู้ว่าพ่ีชาย คนโตน้ันไม่ใช่คนช่างพูด น่ีถ้าเขาบอกจ๋ิวด้วยรับรองแม่ได้รู้มานานแล้ว เพราะจวิ๋ ชอบคยุ จอ้ กบั แม่ หรอื ประจบแมเ่ กง่ อยา่ งทจ่ี วงมกั คอ่ นแคะ แต่ เขาไม่บอกจ๋ิวเพราะจว๋ิ ชอบพูดถากถางเยาะเย้ย มิหน�ำซ�้ำ การเลือกไม่เรียนต่อเป็นเรื่องเข้าท่าหรือไม่ จ้อยก็ไม่ แน่ใจจะเรียนต่อหรือไม่เรียนต่อ ท�ำไมใครๆ จึงตัดสินใจได้อย่างปอก กลว้ ยเขา้ ปาก จอ้ ยสงสยั ตวั เอง จวบบอกแมแ่ คว่ า่ เขาขอประกาศนยี บตั ร ป.๖ ก็พอ จากน้ันก็ไปฝึกงานที่อู่รถยนต์อยู่พักหนึ่งก่อนกลับมาท�ำโน่น
34 ลกู นกจากคอน ทำ� นที่ ่บี ้าน เป็นงานสารพัดในเวลาไม่กป่ี ี จวิ๋ ก็บอกแม่ชดั เจนว่าไม่เรียน ต่อเด็ดขาด เขานบั วนั ให้เรียนจบ ป.๖ เรว็ ๆ เพราะอยากไปท�ำงานอู่ซ่อม รถยนต์เช่นเดียวกับจวบ แต่หมายม่ันจะเอาดีเป็นเถ้าแก่เจ้าของอู่ให้ได้ สักวนั แม่เออออตาม ไม่คะยนั้ คะยอให้ใครเรียนต่อ คิดๆ ไปแล้ว จ้อย นกึ ออกแต่ว่านกั เรยี นท่จี บ ป.๖ แล้วเรียนต่อ ม.๑ มีแต่ลูกหลานครแู ละ ผู้ใหญ่บ้านหรือก�ำนันย่านหน้าโรงเรียนเท่านน้ั เอง เดก็ บ้านป่าท่วั ไปไม่มี ใครเรยี นต่อสักคน ยกเว้นก็แต่สมหมาย พข่ี องสมชายทีจ่ ้อยเพงิ่ รู้จักบน เขาเคี่ยมงามก่อนสงกรานต์เท่านนั้ เอง แรกทเี ดยี ว ครใู หญน่ นั่ ละมาพดู จงู ใจใหแ้ มพ่ ยายามสง่ เสยี ใหจ้ อ้ ย เรยี นต่อ อ้างว่าเขาสอบได้ทหี่ น่งึ ทกุ ปี เปน็ ช้างเผอื กตอ้ งชกั ลากเข้าไปใน เมอื ง จากนนั้ นา้ เรญิ นอ้ งชายของแมท่ เี่ ปน็ อาจารยโ์ รงเรยี นประจ�ำจงั หวดั ชายทะเลก็เหน็ ดีเหน็ งามด้วย ให้เขาไปสอบท่นี ่นั และบอกว่าสอบได้แล้ว แมป่ รกึ ษากบั นา้ เรญิ และอยากใหจ้ อ้ ยไปอาศยั กบั เขาเพอ่ื เรยี นตอ่ ท�ำให้ ทกุ คนดใี จอยากเหน็ อนาคตของจ้อยทแ่ี ตกตา่ งออกไปจากเดก็ ในละแวก ใครๆ ก็พูดกันว่าให้มันเรียนสูงๆ จะได้เป็นเจ้าคนนายคนอย่างน้าชาย ทง้ั หมดใชว่ า่ ใครจะบงั คบั ฝนื ใจจอ้ ย เขาทำ� ใหแ้ มแ่ ละทกุ คนเขา้ ใจวา่ อยาก เรียนต่อ คร้ันเวลาเปิดภาคเรียนใกล้เข้ามา จ้อยจึงรู้ว่า...เขาไม่อยากจาก บ้านไปจริงๆ แมเ่ คยพดู วา่ ลกู คนไหนจะเรยี นตอ่ หรอื ไม่ ใหเ้ ลอื กเอาเอง แตจ่ อ้ ย จำ� ไมไ่ ดว้ ่าแมพ่ ดู กอ่ นหรอื หลงั เขาสอบเรยี นตอ่ ไดแ้ ลว้ หากเขาเปลยี่ นใจ กลับไปกลบั มาแม่จะขุ่นเคอื งหรือผิดหวังไหม เด็กชายไม่รู้ว่าความรู้สึกอึดอดั ใจเป็นทสี่ ุดน้ัน มาจากความหว่ัน เกรงบางประการ เขากลัวการตัดสนิ ใจของเขาจะท�ำให้แม่ไม่รกั
๔ ทางเดินสีขาว เสรจ็ จากชว่ ยจวบเกบ็ นำ้� ยางตอนสายแลว้ จอ้ ยกลบั มาบา้ น กพ็ บเออื้ งอกี ครงั้ เธอมากบั นอ้ งสาว ทงั้ สองกำ� ลงั สาละวนอยใู่ ตต้ น้ สะตอ ข้างบ้าน “ตอหย่อนโหม่งแล้ว” เธอพดู “กะลุยเสียแหมด็ ” เป็นเจ้าบ้านแท้ๆ แต่จ้อยเพิ่งเห็นชัดๆ ว่ามีโหม่งสะตอห้อยเป็น พวงระย้ามากมายอย่างเอื้องพูด ยามออกดอกสะตอจะยืดยอดก่ิงก้าน ห้อยลงมายาวเป็นช่อๆ ตรงปลายสุดโป่งนูนเป็นดอกรวมสีขาวเร่ือออก เหลือง เม่ือบานเต็มท่ีสีเหลืองนวลจะเปล่งปล่งั บางโหม่งห้อยลงต�่ำจน เอ้อื มมอื ถึง “นุ่มมือจัง” อรน้องสาวเอ้ืองใช้มือก�ำโหม่งสะตอแล้วย้ิมหัว “เหมือนชัวร์หนงั ลงุ เลย” จอ้ ยหวั เราะ มนั คลา้ ยไมโครโฟนหมุ้ สกั หลาดบนโรงหนงั ตะลงุ เสยี จรงิ
คามนิ คมนยี ์ 37 “เฮ อย่าเล่นของเราพนั น้ันสิ” จ๋ิวส่งเสยี งแจ้วๆ มา “เดีย๋ วเกสร ร่วงหมดจะไม่ตดิ ฝัก” อรสะดงุ้ ปลอ่ ยมอื จากโหมง่ สะตอ แตแ่ ลว้ กร็ วู้ า่ จวิ๋ พดู ลอ้ เลน่ เพราะ เขาเอ้ือมเด็ดโหม่งสะตอมาทั้งก้าน เอาส่วนโหม่งมาเคาะศีรษะอรและ เออื้ งเบาๆ จอ้ ยเอาบา้ ง เขากระโดดดงึ ไดโ้ หมง่ ดอกทงั้ กา้ นมา ๒ – ๓ อนั แจกจา่ ยใหส้ องเดก็ หญงิ แตไ่ มจ่ �ำเปน็ เลย เพราะทง้ั สองเกบ็ ไดห้ ลายโหมง่ ทหี่ ลน่ บนพนื้ อยกู่ ่อนแลว้ และก�ำลงั เอาคนื จว๋ิ จนดนู วั เนยี เกสรหรอื ความ จรงิ เป็นช่อดอกรวมแตกกระจายเกล่ือนกลาด พกั หนง่ึ เออ้ื งกไ็ ด้ความคดิ ใหม่ “มปี ากกาเมจกิ หม้าย” เธอถาม “มแี หละ” จ้อยพดู พลางว่งิ เข้าบ้าน เอ้ืองน�ำโหม่งที่ดอกยังแน่นไม่ร่วงรุ่ยมาดึงเกสรด้านหัวออกไป หย่อมหน่ึง แล้วใช้ปากกาเมจิกวาดลงไป พริบตาเดียวก็ทำ� ให้น้องสาว ร้อง “แลโด สวยจงั เสยี ” จอ้ ยดแู ลว้ กเ็ หน็ ดว้ ยวา่ รปู ใบหนา้ เลก็ ๆ ทมี่ กี า้ นเกสรดอกรายรอบ นน้ั สวยมาก ชวนใหค้ ดิ ถงึ ผหู้ ญงิ อนิ เดยี นแดงในหนงั สอื ทเ่ี ขาอา่ นในห้อง สมุดโรงเรยี น คราวนที้ กุ คนกเ็ อาอยา่ งเออื้ งบา้ ง จอ้ ยเตมิ หนวดเขา้ ไปใหแ้ นใ่ จวา่ ดูเป็นอินเดียนแดงผู้ชาย ขณะจิ๋วเผลอดึงเกสรส่วนหัวหลุดไปทั้งกระจุก จงึ ได้อนิ เดียนแดงหัวเหม่งแทน แม่กลบั มาจากข้างนอกก็ถามเอือ้ งว่า “วันนี้เอาอะไรมาขาย” “หม้ายค่ะ” เอื้องว่าไม่มอี ะไร “แม่ให้มาถามเรอื่ งเสื้อท่ฝี ากให้ป้า ช่วยซ้ือ” “อ๋อ ป้ากเ็ กอื บลืมไปเลย งน้ั เข้ามาในบ้านตะ” แม่ชวน แม่เข้าไปในห้องหลงั บ้าน ซ่ึงเป็นทง้ั ครัว ยุ้งข้าว และท่ีนอนของ
38 ลูกนกจากคอน แม่ เดนิ ออกมาพรอ้ มถงุ กระดาษพมิ พต์ าหมากฮอสและขอ้ ความ ‘โชคด’ี ด้านบน ล้วงเส้อื นักเรยี นส�ำหรับเด็กผู้หญิงสขี าวสองตัวออกมา “อเี ออ้ื ง อีอร ลองใส่แลถ”ี แม่ยื่นเส้อื ให้ ท้งั สองสวมทบั เสื้อยืดทส่ี วมอยู่แล้ว ย้มิ ย่องดีใจท้ังพน่ี ้อง “ไม่หลวมไม่คดั ค่ะ” เอ้อื งบอกแม่ถึงความพอดี ไม่หลวมไม่คบั “แล้วแม่ซื้อให้ผมกันหม้าย” จ๋ิวถามข้นึ “ไตรจะหม้ายซื้อเล่า ลกู ยงั เรยี นต้งั สองคน” แม่ตอบพลางเดนิ ไป หยิบถุงโชคดอี ีกถุงจากในครวั “น่ไี งล่ะ คนละตวั ” “แต่พจี่ ้อยเขาเปลี่ยนใจไม่อยากเรยี นต่อแล้วนแิ ม่” จ้อยตกใจท่ีจิ๋วโพล่งบอกแม่ แปลกใจว่าน้องชายรู้เรื่องนี้มาจาก ใคร แมช่ ะงกั ไปพกั หนง่ึ แลว้ ถามจอ้ ยวา่ ทำ� ไมไมอ่ ยากเรยี นตอ่ เสยี แลว้ ตอนไปบ้านพ่อเฒ่าแม่เฒ่า น้าเริญท่ีไปร่วมสงกรานต์ทน่ี น่ั ด้วยเพงิ่ บอก ให้แม่เตรียมส่งจ้อยไปเรียนต่อ เพราะภาคเรียนแรกจะเร่ิมต้นในอีกไม่กี่ วัน จอ้ ยกม้ หนา้ เงยี บ ไมร่ จู้ ะพดู กบั แมอ่ ยา่ งไร เขาคดิ วา่ เออ้ื งคงสงสยั เช่นกนั “ตกลงวา่ เปลยี่ นใจไมเ่ รยี นเสยี แลว้ ใชห่ มา้ ย” แมถ่ ามดว้ ยนำ�้ เสยี ง ราบเรียบ จ้อยพยักหน้า “ผมยังไม่อยากเรียนต่อครับแม่” “ถ้าพนั น้นั ผมกโ็ ชคดีสมช่อื ถุงนสี่ ิแม่” จ๋วิ พดู “โชคดีอะไรของเอง็ ” “ก็แม่ซอื้ มาสองตวั แต่เหลือนกั เรยี นคนเดยี วเสยี แล้ว” “เออ เอาไปตะ” เสรจ็ เร่อื งเสอื้ แล้วทุกคนแยกย้ายกนั ไป
คามนิ คมนีย์ 39 หลังกนิ ข้าวมื้อเที่ยงแม่เดินไปข้างบ้าน พักหนงึ่ กไ็ ด้ลูกละมดุ ฝร่ัง มา ๔ – ๕ ลูก เอามีดปอกเปลอื กแล้วฝานท้ิงจนแต่ละลูกเหลอื เนอ้ื เพียง ซีกเสย้ี ว ยืน่ ให้จ้อยกบั จิ๋วทลี ะช้ินๆ แล้วปอกลกู ต่อไป “มุดหรังพวกนไี้ ม่เคยได้กินดี หนอนแมงชอบไชอยู่เร่ือย” แม่พดู ถึงปัญหาแมลงในผลละมุดฝรง่ั หลายครั้งแล้ว “แต่หวานดนี ะแม่” จวิ๋ พดู พลางเคยี้ วจั้บๆ “กอ็ ตุ ส่าห์เอาพันธ์ุดีมาจากยะลานัน่ ไงล่ะ” แม่ยิม้ จอ้ ยไมไ่ ดส้ งั เกตวา่ แมป่ อกละมดุ ฝรง่ั สง่ ใหล้ กู ทง้ั หมดโดยไมก่ นิ เอง สักช้นิ จอ้ ยลอบมองแมท่ บ่ี อกวา่ จะเดนิ ยอ่ ยอาหารเสยี หนอ่ ย แมเ่ ดนิ ขา้ ม สะพานเลก็ หลังบ้านเพื่อไปดตู ้นเนียงทก่ี �ำลงั ออกดอกเป็นปุยสเี ขียวออก ขาวอยู่หลายต้น กลน่ิ หอมอ่อนๆ ชวนให้จ้อยดมเสมอ ไม่นานคงติดลกู กินได้ กินเป็นผักแนมกับแกงพุงปลาอร่อยนัก จ๋ิวชอบลูกเนียงอ่อนท่ี กรุบกรอบและกล่ินฉนุ เล็กน้อย ขณะคนส่วนมากจะชอบ ลูกเนยี งหมาน หรือผลแก่ที่น�ำไปแช่น้�ำจนแตกออกเป็นสองฝา เน้ือจะแข็งข้ึนและกลิ่น ฉนุ แรงขน้ึ เชน่ กนั แมค่ งวางแผนน�ำลกู เนยี งทงั้ ของทบี่ า้ นและทจ่ี ะซอื้ จาก เพอ่ื นบ้านเพอื่ ไปขายในเมือง จ๋ิวชวนพี่ชายประลองสะบ้า หลังเข้าคู่เล่นเป็นทีมได้ดีในช่วง สงกรานต์ ทง้ั คู่ก็ซ้อมมือกันอยู่บ่อยๆ จ้อยคิดว่าฝีมอื เขาดขี น้ึ ทกุ วนั แม้ กระทง่ั จว๋ิ ก็เรมิ่ สู้ไม่ค่อยได้ วันนเี้ หมือนผีเข้า ครั้งหน่งึ เขาดีดหมนุ ลกู เกย ไปกระแทกสะบ้าข้างจ๋ิวกราวเดียวล้มหมดแถว “ไชโย!” จ้อยร้องดีใจ “น้องแพ้แล้วเล่า” จว๋ิ ทำ� หน้าเซง็ หน่าย ดเู หมอื นหลายวนั มานี้เขาแพ้บ่อยเกินไป “เออ เกง่ จา้ น เกง่ หลายอยา่ งแลว้ นะเอง็ ” จวงมาพรอ้ มเสยี งแหลม ทไ่ี ม่มีใครชอบ ค�ำชมว่าเก่งมากของเธอต้องมีอะไรแย่ๆ ตามมาแน่
40 ลูกนกจากคอน “บ้ากเ็ ก่ง” จวงว่า คำ� ว่าบ้าของเธอหมายถงึ บ้าจรงิ ๆ ไม่ใช่สะบ้า “เรยี นกท็ �ำท่าจะเก่ง” จ้อยไม่รอฟังว่าเขาเก่งอะไรอีกในคำ� ประชดของพ่ีสาว เดินหลบ ออกไปหลงั บ้าน แต่พี่สาวยงั ไม่จบความ “แล้วกเ็ ก่งจรงิ ๆ นะเอง็ ท่ที �ำให้แม่เสียใจ” เปดิ เทอมใหม่ เด็กนกั เรียนหว้ิ กระเปา๋ และป่ินโตชักแถวไป โรงเรียนแต่เช้าตรู่ สวนทางกับบรรดาผู้ใหญ่ท่ีแบกคอนมีดพร้าและจอบ เสยี มไปไร่สวน วนั นี้จวบหยดุ กรีดยาง จ้อยจึงไม่มีอะไรทำ� ยามเช้า เขาร่วมขบวน เอ้ือง อร และจว๋ิ ไปด้วยความเคยชิน วนั แรกของภาคเรยี นมบี รรยากาศ สดใสเบกิ บานเสมอ เสอ้ื ผา้ ใหม่ สมดุ หนงั สอื ใหม่ ครคู นใหม่ ไดเ้ จอเพอื่ น ที่ห่างหายกนั ไปช่วงปิดเทอม จว๋ิ ทีอ่ ายุน้อยกว่าเอื้องขน้ึ ช้ัน ป.๖ ในปีนี้ พูดว่าเอือ้ งเป็นรุ่นน้อง เขาไปแล้ว เพราะเธอเสียเวลาไปสองปีและต้องกลับมาเรียนในชนั้ ป.๕ ทำ� ให้เอื้องรู้สึกเขิน “บดั สที ำ� ไหร” จ้อยพูดกบั เอื้องว่าไม่ต้องอาย เขาไม่ชอบที่จิว๋ มกั พูดท�ำนองยกตนข่มท่าน “เธอหยุดเรยี นเพราะต้องช่วยแม่ท�ำงาน ไม่ได้เกเรเสียหน่อย” จวิ๋ ไม่ฟังเสยี ง “พจ่ี ้อยกเ็ หมอื นกัน จบ ป.๖ ปีนี้ผมก็รู้เท่าพี่แล้ว” ถูกของจิ๋ว จ้อยรู้สึกหวั่นๆ ท่ีผ่านมาในสายตาแม่ นอกจากผล การเรยี นแล้ว จ้อยนกึ ไม่ออกว่าทำ� อะไรได้ดกี ว่าน้อง เส้นทางเดินไปโรงเรียนเป็นทางซึ่งชาวบ้านเดินยำ่� ซ�้ำแล้วซ้�ำเล่า กดร่องบนดนิ ให้ปรากฏเป็นทางเลก็ ๆ สขี าวในราวป่าเบญจพรรณ ผ่าน เรอื กสวนไรน่ าชาวบา้ น บางชว่ งกเ็ ดนิ ขา้ มสะพานลำ� ไมไ้ ผท่ พ่ี าดเชอ่ื มสอง
คามนิ คมนยี ์ 41 ฝง่ั หว้ ยลกึ เดก็ โตตอ้ งชว่ ยนอ้ งๆ เกาะกมุ ราวใหม้ น่ั เหมาะ ประคบั ประคอง กนั ไปอย่างระมัดระวงั ให้ดีก็ให้ปีนเกาะหลงั ไปเลย กระนนั้ ก็ตาม หาก ได้ยินเสียงตูมตามท่ีมักจะมาพร้อมเสียงโคล้งเคล้งก็เป็นรู้ว่า ใครสักคน ตกสะพาน ปิ่นโตสงั กะสีฟาดก้อนหนิ เข้าอกี แล้ว สองข้างทางอุดมไปด้วยดอกไม้ใบหญ้า เอื้องบอกให้น้องเดินไป กับจ๋ิวพลางๆ ขณะเธอช้ีและน�ำจ้อยเดินบุกเข้าข้างทาง ดอกเข็มสีขาว สแี สด และสแี ดงบานสะพรง่ั ขบั กบั สเี ขยี วคล�้ำของพมุ่ ไมใ้ หญใ่ กลๆ้ เออ้ื ง เอามอื เกาะกมุ ชอ่ ดอกเขม็ อยา่ งชน่ื ชม แลว้ คอ่ ยๆ ดงึ กา้ นดอกออกมาดดู นำ�้ หวานทลี ะกา้ น จอ้ ยใจรอ้ นเดด็ มาทเี ดยี วทง้ั พวงแลว้ รวบมาดดู นำ้� ทลี ะ หลายก้านเสียงดงั จุ๊บๆ จนเออ้ื งหวั เราะ “แลโน่น แลโน่น” เอื้องร้องให้ดูตรงโน้น “งามราสา๑๐” มีดอกเข็มหลายช่อซ่อนอยู่ตรงนั้น สีม่วงเข้มเมื่อต้องประกาย แสงแดดยาวเช้าดเู ปล่งปลั่งงามตา มนิ ่าเอื้องถงึ บอกว่างามนกั ขณะจ้อยแหวกกอหญ้าเพอ่ื ดูให้ถนดั เขาก็พลันเหน็ อกี อย่างหน่งึ เปน็ เถาวลั ยม์ พี วงกลบี สนี ำ้� ตาลหอ้ ยระยา้ คลา้ ยหมทู่ หารกระโดดรม่ ลงมา จากยอดไม้ “เราเจอกระเช้าสีกาเข้าแล้ว” จ้อยร้อง เขาโมเมช่ือเอามาจากที่ไหนสักแห่ง เอื้องเห็นเข้าก็ ตน่ื เต้นยง่ิ กว่า “ช่างน่ารกั เสียจงั เขาเรยี ก ‘กระเช้าสดี า’ ต่างหาก บางทีกเ็ รยี ก กระเช้าผมี ด” จอ้ ยสงสยั วา่ เธอรไู้ ดอ้ ยา่ งไร เออื้ งอธบิ ายวา่ เคยอา่ นเจอในหนงั สอื มาก่อนแต่เพิ่งเห็นกับตาเป็นคร้ังแรก ว่าแล้วก็ดึงปลิดติดมือไปสอง ๑๐ ราสา หมายถึง มากมาย, เหลอื เฟือ
42 ลูกนกจากคอน กระเช้า “เอาไปให้อรดู ไว้พรุ่งน้ีค่อยแวะมาดูอีก” เธอพูดอย่างเสียดาย และคงเร่มิ เป็นห่วงน้องสาว เสียงระฆังดังเหง่งๆ พอดกี ับพวกเขามาถงึ โรงเรียน จ้อยยนื น่ิงอยู่ ห่างๆ ดูบรรดาเดก็ นักเรยี นวง่ิ กรูเกรยี วเข้าแถว รู้สกึ ปั่นป่วนในใจ อยาก กลบั เขา้ ไปยงั หอ้ งเรยี นทอ่ี บอนุ่ แตจ่ ะมปี ระโยชนอ์ ะไรในเมอ่ื เขาเรยี นจบ ชน้ั สงู สุดของโรงเรียนนแ้ี ล้ว และเขาก็ไม่อยากไปเรียนต่อ ม.๑ เพราะมัน เป็นทางเดินที่โดดเด่ียวและไม่มีใครบอกทางหรือแม้แต่จะรู้จกั โรงเรียนอยู่เบื้องหน้า แต่เหมือนว่าจ้อยจะมองไม่เห็น เม่ือเสียง เพลงชาติดังข้ึน เขาหนั หลงั กลับด้วยอารมณ์เหงาสุดขดี เขาไม่ใช่นักเรียนอีกแล้ว และจะไม่ได้ทำ� ส่ิงท่ีเคยท�ำได้ดีที่สุดอีก ต่อไป
Search
Read the Text Version
- 1 - 35
Pages: