บ ท นํ า
๐๗.๓๓ น. เสียงระเบดิ ดงั สนัน่ หวัน่ ไหว ตามด้วยเสียงปนื ถ่ยี บิ ชายหนุ่มก้าวพรวดออกจากลิฟต์ เกือบชนเข้ากับใครบางคนที่วิ่ง สวนเขา้ ไปอยา่ งรบี รอ้ น “อา้ ว! นัท ยังไมไ่ ปอกี เหรอ” “ทางโนน้ เปน็ ไงบา้ ง ศกั ด”ิ์ ชายหนมุ่ ถาม เมอ่ื เหน็ หนา้ ชดั ๆ วา่ เปน็ ใคร “โดนยงิ กนั เพยี บ ไมร่ ตู้ ายไปกค่ี น ตอนนม้ี นั ปดิ ลอ้ มไวท้ กุ ดา้ นแลว้ ชยั พาคนเจ็บขึน้ รถออกไปทางทา่ พระจนั ทร์ แตพ่ วกมันไม่ยอมเปิดประตู ให้ กำ� ลงั เจรจากนั อย”ู่ เพือ่ นตอบเสียงหอบดว้ ยความตื่นเตน้ “แล้วพวกท่ตี กึ บัญชลี ่ะ” “ยงั อยกู่ นั เยอะเลย ตรงนน้ั โดนถลม่ หนกั มาก ทกุ คนกลวั ไมม่ ีใคร กลา้ หนอี อกมา ไปกอ่ นนะ ต้องรบี เอาเครอ่ื งเสยี งฉุกเฉินไปให้ทเ่ี วที ถ้า เสยี งเงียบไปพวกเราจะยิ่งเสียขวญั ” ชายหนุ่มเพ่ิงสังเกตว่าเสียงพูดออกไมโครโฟนท่ีคอยปลุกปลอบ
14 F RESHY รุ่ น น้ อ ง ขวญั ทกุ คนและเกลย้ี กลอ่ มเจา้ หนา้ ท่ีใหห้ ยดุ ยงิ ไดเ้ งยี บหายไปสกั พกั แลว้ “เด๋ียว!!!” เขาคว้าแขนไว้กอ่ นท่ีเพ่ือนจะเข้าลิฟต์ไป “นายเห็นดา บา้ งไหม” “ครงั้ สุดท้ายเหน็ อยู่ในตึกบญั ชี แตไ่ ม่รู้เป็นไงบา้ ง นทั เราวา่ นาย รีบหนีไปตอนท่ยี ังพอมโี อกาสดกี ว่า พวกแม่งลอ้ มไวห้ มดแลว้ มันเอาเรา ตายแนๆ่ ” พูดขาดค�ำ ประตลู ิฟต์ก็ปดิ ลง ๐๘.๑๔ นัทโผล่หนา้ ออกไปดูด้านนอก เสยี งปนื ยงั ดงั รวั เปน็ ชดุ แตเ่ รม่ิ ทิ้ง ระยะหา่ งเลก็ นอ้ ย เขาตดั สนิ ใจวงิ่ ออกจากใตถ้ นุ ตกึ ลดั เลาะไปรอบสนาม บอล พยายามไม่อยู่ในทโี่ ลง่ เป็นเปา้ นิง่ ใหห้ ่ากระสุนที่ไมร่ มู้ าจากทิศไหน ได้ยินเสียงโห่ดังอ้ืออึงมาจากด้านนอกร้ัวมหาวิทยาลัย เขาเห็นร่าง นักศึกษาหลายคนนอนจมกองเลือดอยู่กลางสนาม ไม่รู้เป็นตายร้ายดี อย่างไร ตอนน้ีไมม่ เี วลาคิดอะไรแล้ว เขาต้องรบี ไปชว่ ยดาออกมาให้ทนั ระหว่างทาง เขาเจอเพ่ือนอกี หลายคน ส่วนใหญก่ ำ� ลงั หาทางหนี บางคนแนะน�ำว่าให้ไปทางฝั่งแม่น�้ำแล้วเลาะออกทางท่าพระจันทร์ ตรง นั้นก�ำลังทหารต�ำรวจยังไม่มากนัก นัทประเมินสถานการณ์แล้ววิ่งสวน คนอน่ื ตรงไปยงั ตึกบัญชี ๐๘.๕๑ น. รกู ระสุนมากมายท่ปี รากฏบนผนัง บง่ บอกวา่ ตวั ตกึ โดนถลม่ อย่าง หนัก นทั เห็นควันไฟสีดำ� ลอยคลุ้งออกมา เสียงเพลง ‘หนกั แผน่ ดนิ ’ ดงั แว่วไกลมาจากเคร่ืองขยายเสียงด้านประตูใหญ่ สลับกับเสียงโห่ฮาและ เสียงปืน นัทวิ่งก้มตัวตรงเข้าไปยังใต้ถุนตึกอย่างรวดเร็ว รู้สึกถึงเสียง กระสนุ ผา่ นหวั ไปดงั หวีดหววิ ด้านหน้าตึกมีอกี หลายศพนอนแนน่ ิ่งอยู่ คง เปน็ พวกท่ีพยายามหนีออกมาก่อนหนา้ “ดา!...ดา!...” ชายหนุ่มตะโกนเข้าไปภายในโถงชั้นล่าง เห็นเงา
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ที่ ย ง 15 ตะคมุ่ ของกลมุ่ คนกอดกนั หมอบดว้ ยความหวาดกลวั อยตู่ ามมมุ ตา่ งๆ โตะ๊ เกา้ อีถ้ กู ล้มลงท�ำเปน็ บงั เกอร์ “พีน่ ทั !” เสียงหนง่ึ รอ้ งเรียก ชายหน่มุ ว่ิงตรงเข้าไปหา ในกล่มุ น้ัน มีแต่นักศกึ ษาหญงิ เปน็ ส่วนใหญ่ ได้ยนิ เสยี งรอ้ งไหด้ ว้ ยความหวาดกลวั “ดา!...รีบหนีเถอะ อยู่ในนี้ไม่ปลอดภยั แลว้ ” “หนีไปไหนดีพี่ พวกเราไม่รู้จะไปทางไหนแล้ว ดาเห็นกับตาว่า เพ่ือนท่ีวิ่งออกไปถูกยิงร่วงหมด” หญิงสาวหันซ้ายหันขวา สีหน้า ตื่นตระหนก ชายหนุ่มดงึ ร่างเธอเข้ามาเขยา่ “ดา! ตั้งสตแิ ลว้ ฟงั ใหด้ นี ะ เดย๋ี วพ่ีจะพาไปออกทางฝ่งั แม่น้ำ� เลาะ ตล่ิงไปข้ึนท่าพระจันทร์ตรงร้านจั๊ว มีคนออกไปทางน้ันได้หลายคนแล้ว ไม่ต้องกลวั ” หญงิ สาวพยักหนา้ ก�ำลังใจกลับคนื มา เธอหนั ไปมองคนอนื่ ๆ “พาเพ่ือนๆ ดาไปด้วยนะ” “ต้องแยกกันไปทีละไม่กี่คน กระจายกันไป แล้วก็อย่าออกไป พรอ้ มๆ กัน จะเปน็ เป้ากระสุนไดง้ า่ ย” นัทดงึ แขนเธอ “ไป!...กล่มุ แรก ดากับเพอ่ื นสีค่ นนัน่ ก่อน เดย๋ี วพจี่ ะออกไปดลู าดเลาให”้ ๐๙.๑๘ น. เสียงปืนยังดังต่อเน่ืองและดูเหมือนจะถ่ีขึ้นเร่ือยๆ นัทโบกมือให้ กลุ่มแรกออกจากตึกเมือ่ เหน็ ว่าปลอดภัย “หมอบตำ่� ๆ ไวน้ ะ พยายามอยา่ ตดั สนามบอล เลาะไปทางตกึ โดม” เขาบอกทกุ คน แลว้ จงู มอื ดาวงิ่ ยอ่ ตวั ตำ่� ๆ นำ� หนา้ ไปกอ่ น คนอนื่ คอ่ ยๆ วงิ่ ตามออกไปทีละคน เว้นระยะหา่ งกนั พอสมควร ไดย้ ินเสียงเหมอื นประตู ดา้ นหอประชมุ ใหญถ่ กู กระแทกอยา่ งแรงจนเหมอื นจะพังทลายลง “ดา...ไปกอ่ น พีจ่ ะคอยระวงั หลังให้คนอ่ืน” เขาผลกั หลังหญิงสาว ไปขา้ งหน้าเม่ือมาถงึ มุมตึกทพี่ น้ วถิ ีกระสุนแลว้ “พี่นทั ...พต่ี ้องรีบตามมานะ” ดาหันมามองหนา้ เขา
16 F RESHY รุ่ น น้ อ ง “พ่ตี ามไปแน่ ไม่ต้องหว่ ง รีบไปเถอะ” เขาดุนหลังเธอไป แล้วย่ืน มือไปรับอกี คนทีเ่ พ่งิ วงิ่ มาถึง “ไปทางแม่น�้ำนะ เดี๋ยวพี่จะกลับไปพาท่ีเหลือออกมาให้หมด” ว่าแล้วเขากห็ นั หลงั วงิ่ ยอ้ นไปทางตกึ บัญชอี กี ครงั้ “พ่นี ัท!!!” หญงิ สาวรอ้ งเรียก แต่เสยี งปนื กลบเสยี งเธอหมด ๑๐.๓๓ น. เขาว่ิงกลับมาถึงใต้ถุนตึกบัญชีอีกครั้ง หลังจากพาคนออกไปได้ อีกสามเท่ียว มีคนว่ิงออกมาก่อนแล้วถูกยิงล้มลง นัทวิ่งเข้าไปประคอง พยายามลากรา่ งนัน้ ใหพ้ ้นวิถีกระสนุ ไดย้ ินเสยี งออ้ื องึ ดงั มาจากด้านหน้า เขากัดฟนั ดงึ คนเจ็บกลับเข้าไปในตกึ อกี เพียงไม่ก่ีเมตรก็จะถงึ แล้ว... “เฮย้ !!! อยนู่ น่ั ตวั นงึ ” เสยี งตะโกนดงั ขนึ้ ตามดว้ ยเสยี งฝเี ทา้ วง่ิ กรู เข้ามา “ไอ้พวกแกว! ไอ้พวกชาติชั่ว!” เสียงด่าทอน�ำมาก่อน ตามด้วย หมดั และเทา้ อกี นบั สบิ คู่ ชายหนมุ่ ยกมอื ขนึ้ ปดั ปอ้ งพยายามหลบพายหุ มดั และเทา้ ที่ระดมเข้าใสไ่ มท่ ันต้ังตัว เขาไดย้ นิ เสยี งกรามตวั เองหกั รู้สกึ ถึงฟนั ท่หี ลุดจากปาก รสเลอื ด ขมเฝื่อนในคอ ดวงตาท่ีปิดสนิทจากก�ำปั้นที่ประเคนเข้าใส่ไม่ยั้ง ไม้ หน้าสามหวดเขา้ กลางลิน้ ป่ที �ำใหเ้ ขาจุกจนตอ้ งขดตวั งอ “มงึ เปน็ ใคร ไอ้สตั ว์!!! ไอ้พวกหนกั แผน่ ดนิ มึงคนไทยหรือเปล่า พดู มา!!!” มอื จกิ หวั กระชากผมจนหนา้ หงาย เขาพยายามอา้ ปากจะพดู อธบิ าย แต่ไม่สามารถเปล่งเสียงเป็นค�ำได้นอกจากเสียงอู้อี้ผ่านล่ิมเลือดที่ทะลัก จากปาก “แม่งพูดไม่รเู้ รอื่ งว่ะ ไม่ใชค่ นไทยแนๆ่ !” “ไอพ้ วกญวน ไอ้แกว ไอเ้ หยี้ ! มึงมาทำ� ลายชาตกิ ทู ำ� ไม!” “เอาแม่งใหต้ าย!!!”
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ท่ี ย ง 17 วินาทีก่อนลมหายใจสุดท้าย...เขาภาวนาขอให้ดาหนีไปได้โดย ปลอดภัย ๑๑.๒๘ น. รา่ งไรว้ ญิ ญาณของเขาถกู ตซี ำ�้ ดว้ ยไมจ้ นแหลกเหลว เชอื กเสน้ หนง่ึ ถกู คล้องทคี่ อ ศพของเขาถูกลากประจานไปรอบสนามบอล ซึง่ มรี ่างของ นักศึกษาอีกนับสิบนอนเรียงรายอยู่ เสียงโห่ร้องดังอื้ออึงราวกับเสียง ประกาศชยั ชนะในสงคราม... เป็นชัยชนะเหนอื ซากศพผบู้ ริสทุ ธิท์ ถี่ กู ใส่รา้ ยและไม่มที างส!ู้ ๑๒.๑๓ น. เด็กสาวหลบั ตายืนอยกู่ ลางสนามบอลในบรรยากาศขมกุ ขมวั ของ เดือนตลุ าคม เธอสัมผัสถึงกล่ินอายความโหดร้ายจากการฆาตกรรมหมู่ในเช้า วันนน้ั อยา่ งชดั เจน ราวกบั อยู่ในเหตกุ ารณเ์ อง แม้เวลาจะผ่านมานานถงึ ส่ีสิบปีแล้วก็ตาม กล่ินและเสียงเหล่านั้นยังคงตามมาหลอกหลอนไม่รู้ จบส้ิน และที่ส�ำคญั คือ... ฆาตกรยังลอยนวล! ครตู่ อ่ มาเดก็ สาวลมื ตาขนึ้ กลนิ่ และเสยี งทง้ั หมดหายวบั ไปราวกบั ไม่เคยมีเหตุร้ายเกิดข้ึนที่นี่มาก่อน ได้ยินเพลงเชียร์จากกลุ่มนักศึกษา ดงั แว่วมาจากอัฒจันทร์ด้านหนึง่ ของสนาม “ตอนนป้ี า้ คงไดเ้ จอกบั เขาแลว้ ” เดก็ สาวพมึ พำ� เหมอื นกำ� ลงั พดู กบั ใครบางคน กลิน่ ที่เธอค้นุ เคยอ้อยอ่งิ อย่คู รู่หน่งึ ก่อนจะค่อยๆ สลายไป กับสายลม... “ลาก่อนค่ะ...ป้าดา”
น้องใหม่
๐๐๑ ฉันช่อื อทติ ิ แต่ใครๆ เรยี กฉันวา่ ไอ้ม่อน ปนี ฉ้ี นั อายุ ๑๘ จบชน้ั ม.๖ กำ� ลงั จะเขา้ เรยี นปี ๑ คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวทิ ยาลยั มหิดล เวลาคนไม่ไดเ้ จอกนั นานๆ เขาจะชอบทกั กนั ว่าไงนะ “เป็นไง สบายดเี ปล่า” อะไรประมาณน้ี และสว่ นใหญค่ นถกู ถามกจ็ ะตอบแบบนี้ใชไ่ หม... “กโ็ อเค เรอื่ ยๆ” แตส่ �ำหรับฉนั ถา้ มีใครมาถามแบบนี้ ฉนั จะตอบสวนไปทนั ทวี ่า... “ไมส่ บาย ไมโ่ อ ยุง่ มากๆ โคตรยุง่ เลยละ” ซง่ึ ฉนั กต็ อบไปตามความจรงิ เพราะเรอ่ื งแบบน้ีไมร่ จู้ ะโกหกทำ� ไม ตง้ั แต่วนั ที่ป้าตาย ชีวิตฉนั ก็วุ่นวายไปหมด ไหนจะตอ้ งจัดเตรียม งานศพ เชิญญาติมาร่วมงาน (เพ่ิงรู้ว่าฉันมีญาติกับเขาอยู่สองสามคน) ตดิ ต่อทนายทปี่ ้าให้ทำ� พนิ ัยกรรมก่อนตายยกสมบตั ิทุกอยา่ งให้ฉัน ใหท้ �ำ ธรุ กรรมตา่ งๆ แทนฉนั ซง่ึ ยงั ไมบ่ รรลนุ ติ ภิ าวะตามกฎหมาย ตง้ั แตแ่ จง้ ขอ ออกใบมรณะบตั ร (เอกสารชิน้ สุดท้ายในชวี ิตของป้า) แจง้ คัดชือ่ ป้าออก
20 F RESHY รุ่ น น้ อ ง จากทะเบยี นบา้ น แจง้ เปลย่ี นแปลงเอกสารกรรมสทิ ธก์ิ ารเงนิ การธนาคาร ของปา้ ฯลฯ ระหวา่ งนน้ั ฉนั กต็ อ้ งไปสอบสมั ภาษณท์ ม่ี หาวทิ ยาลยั ทำ� เรอ่ื ง มอบตัวเปน็ นกั ศกึ ษาใหม่ ติดต่อหอพกั ส�ำหรับนกั ศกึ ษาปี ๑ ท่ีตอ้ งเรยี น ปแี รกทศี่ าลายา กอ่ นจะยา้ ยไปเรยี นทศ่ี ริ ริ าชปตี อ่ ไป เกบ็ บา้ นจดั ขา้ วของ เอาผ้าใบคลุมเครื่องเรือนท้ังหมด เพราะจะไม่ได้อยู่บ้านอีกนาน แยก เส้อื ผ้าเครอ่ื งใชท้ ่จี ะขนไปหอพัก และสดุ ท้ายคอื หาคนรับฝากเจา้ วัคซนี สนุ ขั พนั ธรุ์ ็อตต์ไวเลอรอ์ ายุ ๑๐ ขวบของฉนั และคนท่เี ต็มใจรบั ฝากมนั กม็ ีเพียงคนเดยี วเทา่ นัน้ ท่ีฉนั นกึ ได้ “อยา่ หาว่าโงน้ งี้เลยนะ ฝากหมาหนอ่ ยดิ” ฉันเอ่ยปากทนั ทีท่เี จอ หน้าหมอโนในโรงพยาบาล “ฝากหมา?” หมอโนท�ำหนา้ เหวอ ส�ำหรับคนที่ยังไม่รู้ หมอโนเป็นหมอหนุ่มต๋ีหน้าตาดีอายุ ๒๕ ที่ สนิทกันตั้งแต่ฉันไปนอนเฝ้าไข้ป้าที่โรงพยาบาลเม่ือปีท่ีผ่านมา หมอโน คอยดแู ลช่วยเหลือมาตลอด โดยแสดงตวั อยา่ งไม่ไวฟ้ อรม์ ว่าตั้งใจจะจีบ ฉนั จนออกนอกหน้า “บ้านหมอมีที่กว้างๆ มันน่าจะชอบ” ฉันเคยไปบ้านหมอโนทีนึง เพราะเขาคะยั้นคะยอจะพาไปรู้จักอาเต่ีย หม่าม้า และอากงของเขา ครอบครัวหมอโนปลูกบ้านสามหลังอยู่ในรั้วเดียวกันตามแบบครอบครัว คนจนี ท่มี ีฐานะ บ้านหมอโนเปน็ บ้านทรงทนั สมยั อยตู่ รงกลาง ขนาบขา้ ง ดว้ ยบา้ นตึกหลงั ใหญ่ของพ่อแม่ และบ้านไมเ้ กา่ ๆ แบบจนี ของอากง ตรง กลางเป็นสนามหญ้ากว้างใหญ่มีต้นไม้ร่มร่ืน ซึ่งฉันเล็งไว้แล้วว่าเหมาะ เป็นที่วงิ่ เลน่ ของหมาแกๆ่ อยา่ งเจา้ วัคซนี “เปิดเทอมน้ีฉันต้องย้ายไปอยู่หอพักท่ีศาลายา เขาไม่อนุญาตให้ เอาสตั วเ์ ลยี้ งไปอยดู่ ว้ ย พอปสี องยา้ ยไปเรยี นทศ่ี ริ ริ าช หาทพ่ี กั ใหมไ่ ดแ้ ลว้ คอ่ ยมารับมันกลบั รบกวนหมอโนแค่ปีเดียวเอง ช่วยหน่อยนะ” “โอ!...ไม่มีปญั หาเลยครับ คณุ มอ่ น” หมอโนย้มิ กวา้ งอย่างเต็มใจ “ผมยินดีรบั ฝาก คณุ มอ่ นไม่ตอ้ งเกรงใจ เราเปน็ รุ่นพี่รุ่นน้องกันแลว้ จำ�
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ที่ ย ง 21 ไม่ไดเ้ หรอ” หมอโนจบแพทยศาสตรร์ ามาฯ มหาวทิ ยาลยั มหิดลเม่ือสอง ปีก่อน ขณะทฉี่ นั เพ่งิ ติดแพทย์ศริ ริ าช เขาจงึ ถอื เปน็ รุ่นพ่ีต่างคณะของฉัน หลายปี เพยี งแตเ่ ขาไม่เคยเรียกตวั เองว่าพี่ “อ้อ! เกือบลืม” หมอโนท�ำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ หันไปเปิด ลิ้นชกั โตะ๊ ท�ำงาน หยิบกลอ่ งของขวัญเล็กๆ ผูกริบบิน้ สีชมพยู น่ื สง่ ให้ “ ’ไรอะ” ฉนั รบั มาอยา่ งงงๆ “ของขวัญรับนอ้ งใหม่จากผมไง เปดิ ดเู ลยสคิ รบั รออะไรอยู่ เปดิ เลยๆ” หมอโนท�ำเสยี งต่ืนเต้นราวกบั เปน็ คนไดข้ องขวญั เสยี เอง ฉนั ฉกี กระดาษห่อและเปิดกลอ่ งออก เห็นโทรศพั ท์ไอโฟนรนุ่ ใหม่ ลา่ สดุ เครอื่ งหนง่ึ อยู่ในนั้น “จ�ำได้ว่าเคร่ืองเก่าของคุณม่อนพังไปแล้ว ผมเลยซ้ือให้ใหม่ ใส่ เคสมาใหเ้ รยี บร้อยเลย คุณม่อนน่าจะชอบ” พอหยบิ ขึ้นมาดู ก็เหน็ เคสลายปิกาจู้สีเหลืองออ๋ ย หมอโนย่ืนหนา้ มาพลางยิม้ ตาหยี “ผมเลือกเคสเองกับมือเลยนะ เหมาะกับคุณม่อนมากๆ เคส โปเกมอ่ น!!!” หมอโนมามุกนี้อีกแล้ว ซ้ือของขวัญทุกอย่างท่ีลงท้ายด้วยอะไร ม่อนๆ เหมอื นชอื่ เล่นของฉัน “โวะ! ไม่เอา มาใหฉ้ ันทำ� ไม” “โธ่! อยา่ คิดมากสิครบั ผมอยากใหจ้ รงิ ๆ จะไดเ้ อาไวแ้ ชตไลน์คยุ กนั หรอื ไมก่ ็เอาไวเ้ ลน่ เกม ‘โปเกมอ่ น โก’ ทีเ่ ขากำ� ลงั ฮติ กนั อยตู่ อนน้ีไง ครบั ” เอาจริงๆ ถ้าไม่คิดอะไรมาก ฉันเองกก็ ำ� ลงั อยากได้มอื ถือเครอ่ื ง ใหม่ทรี่ องรับสัญญาณ 4G ไดอ้ ย่แู ลว้ เพยี งแต่เครื่องทฉ่ี ันเล็งๆ ไว้ราคา มนั แพงเกินกวา่ จะมีปัญญาซ้อื สมัยน้ีทุกอย่างในโลกล้วนขับเคลื่อนด้วยอินเทอร์เน็ต จนราวกับ ว่าสัญญาณวาย-ฟายคืออากาศที่เราใช้หายใจ ถ้าขาดไปไม่ก่ีนาทีก็อาจ
22 F RESHY รุ่ น น้ อ ง ทุรนทรุ ายตายได้ จรงิ ๆ การมี 4G ของบ้านเรากไ็ ม่ใชเ่ รอื่ งท่คี วรเหอ่ หรอื เอามาโฆษณาวา่ เป็นนวัตกรรมใหมแ่ ห่งอนาคตอะไร เพราะ 4G ของเรา เป็นเพียงการพยายามว่ิงไล่ตามประเทศอื่นในภูมิภาคให้ทันเท่าน้ัน มัน ช่วยลดทิฏฐิและความอหังการของคนไทยที่ชอบคิดว่าเราเหนือกว่า เพอ่ื นบ้านในทกุ ด้านลงไปได้เยอะทีเดียว “ขอบคุณนะ หมอโน” ฉันกล่าวจากใจจริง ก้มหน้าจ้องมองเคส ลายปิกาจู้สีเหลืองอ๋อยในมือ ไม่กล้าบอกหมอโนว่าฉันเกลียดสีเหลือง อยา่ งกบั อะไรดี เพราะกลัวเขาจะเสยี ใจ... เอาไว้ค่อยหาเคสเปล่ยี นทหี ลังละกนั บ่ายน้ัน หลังจากท�ำความสะอาดบ้านและจัดข้าวของเสร็จ เรียบร้อย ฉันกข็ จ่ี ักรยานไปห้างดิสเคานต์สโตร์หนา้ ปากซอย ฉนั ต้องซือ้ ของใชจ้ ำ� เปน็ หลายอยา่ งสำ� หรบั การดำ� รงชวี ติ เปน็ มนษุ ยห์ อ รวมทงั้ อาหาร หมาและอปุ กรณส์ นุ ขั จำ� พวกปลอกคอ โซล่ า่ ม และชามขา้ วของเจา้ วคั ซนี เยน็ นห้ี มอโนจะขบั รถพามนั ไปยงั บา้ นหลงั ใหม่ คนตอ้ งเตรยี มตวั เพอ่ื ยา้ ย ท่อี ยู่ หมากเ็ หมือนกนั แตด่ เู หมอื นเจา้ วคั ซนี จะไมค่ อ่ ยแฮปปเ้ี ทา่ ไหรเ่ มอื่ รวู้ า่ ตอ้ งยา้ ยบา้ น อีกแลว้ เพราะมันเรมิ่ คนุ้ เคยกับบา้ นนหี้ ลงั จากอย่มู าหลายเดือน ฉันเห็น มันเท่ียวเดินประกาศอาณาเขตส่วนตัวด้วยการฉ่ีไว้ตามมุมโน้นมุมน้ีเต็ม ไปหมด สุดท้ายก็ต้องอธิบายให้มันเข้าใจว่าน่ีเป็นการย้ายท่ีอยู่ช่ัวคราว เท่าน้นั และรับปากวา่ จะไปเยี่ยมมันบ่อยๆ เจ้าวัคซีนท�ำจมกู ยน่ ไปยน่ มา อย่างไม่สบอารมณ์ ก่อนเดนิ สะบัดตดู งอนปอ่ งๆ ออกไป หมาแกว่ ยั ทองกง็ แี้ หละ ฉนั แคแ่ ปลกใจวา่ ทำ� ไมถงึ คยุ กบั มนั รเู้ รอ่ื ง ทงั้ ๆ ที่ไมไ่ ดพ้ ดู อะไรออกมาสกั คำ� สงสยั เราคงสอื่ สารกนั ผา่ นการดมกลนิ่ ความรู้สกึ ละม้ัง นี่ฉันเดานะ ในห้างมีคนพลุกพล่านเต็มไปหมด จนนึกว่าก�ำลังมีเทศกาลเท กระจาด แต่ส่วนใหญ่มาเดนิ ตากแอรเ์ ลน่ มากกว่าจะมาซื้อของ ดเู หมอื น
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ท่ี ย ง 23 ก�ำลังมีการประกวดร้องเพลงอะไรซักอย่าง ฉันได้ยินพิธีกรตะโกนผ่าน ไมค์เสียงก้องไปมาฟงั ไมร่ ู้เรอ่ื ง สักพกั บนเวทีก็มีเดก็ หญงิ อายุไมเ่ กิน ๑๐ ขวบ แต่งหน้าจัดราวกับอายุ ๓๐ ขึ้นไปยืนร้องเพลงและเต้นย็อกแย็ก ไปมา หน้าเวทีมีกลุ่มพ่อแม่ยืนส่งเสียงเชียร์และเอามือถือถ่ายรูปรัวๆ ประหนึ่งวา่ ลูกตวั เองเป็นเซเลบชอื่ ดัง ตอนยังอยู่ ป้าชอบพูดเสมอว่าอยากเห็นฉันแต่งงานมีครอบครัว แตพ่ อมาคิดๆ ดู ถา้ ฉันต้องแต่งงานแลว้ กลายเปน็ พวกพอ่ แมท่ ว่ี นั ๆ ตอ้ ง พาลูกเที่ยวตระเวนประกวดร้องเพลงตามห้างแบบน้ี ฉันคิดว่าขออยู่ คนเดยี วดกี ว่า “โห! ไมเ่ หน็ ตอ้ งซอ้ื มาเยอะแยะขนาดนกี้ ็ได้ คณุ มอ่ น” หมอโน ทำ� ตาโตเมอ่ื เหน็ กระสอบอาหารหมาทฉ่ี นั ซอื้ มาราวกบั เตรยี มจะเปดิ ฟารม์ สนุ ัข “ท่ีบา้ นยังมีเหลือตัง้ เยอะ ของ เจ้าเกาเกา ที่เพง่ิ ตายไปเม่อื ปกี ่อน นะ่ ” “เกาเกา? ช่ือหมาเหรอน่ัน นึกว่าหมีแพนด้าซะอีก” ฉันช่วย หมอโนขนของใส่ทา้ ยรถเยน็ วันน้ัน เม่ือเขาแวะมารับเจ้าวัคซนี ท่บี า้ น “ขอทายวา่ เปน็ พนั ธุ์เชาเชา ไม่ก็ปักกงิ่ เพราะช่อื ฟังดูออกจนี ๆ” “หมาฝร่ังครบั พันธ์เุ ฟรนซ์บูลดอ๊ ก จริงๆ มนั ชอื่ สนปู้ ปี้ แตว่ ันๆ ไมเ่ หน็ มนั ทำ� อะไรนอกจากเกาตวั เองยกิ ๆ จนหนงั ถลอกไปหมด อากงเลย เรยี กมันว่า ไอ้เกาๆ” หมอโนเล่าจบกห็ วั เราะอยคู่ นเดยี ว “ออ้ ! งน้ี เ่ี อง” “จริงๆ ก็ดีเหมือนกันนะครับ ที่เจ้าวัคซีนจะย้ายไปอยู่บ้านผม เพราะท่ีบ้านไม่ได้เลี้ยงหมามานานแล้ว รู้สึกแปลกๆ เหมือนขาดอะไร ไปอย่าง” หมอโนปิดประตทู า้ ยรถเอสยวู คี นั ใหญเ่ มือ่ ขนของเสรจ็ “แต่คุณม่อนต้องสัญญาก่อนนะครับ ว่าจะแวะไปเย่ียมมันบ่อยๆ ผมจะไดไ้ มเ่ หงา...เอย๊ ! เจา้ วคั ซนี จะไดไ้ มเ่ หงา และผมกจ็ ะไดอ้ าศยั มนั เจอ
24 F RESHY รุ่ น น้ อ ง หนา้ คุณมอ่ นบ้างไงครับ แหะๆ” กลา่ วจบก็ยนื บดิ ตวั ไปมาดว้ ยความเขนิ จนฉันอดข�ำไมไ่ ด้ “เครๆ ฉนั จะพยายามไปเยย่ี มมนั ทกุ วนั ศุกร์ละกันนะ” “จรงิ ด!ิ งน้ั ไปทานขา้ วเยน็ ทบ่ี า้ นดว้ ยกนั นะครบั ผมจะบอกหมา่ มา้ ให้ทำ� กับข้าวรอ หมา่ มา้ แกคงจะดีใจ เพราะแกเอน็ ดูคุณมอ่ นอยู่แลว้ ” พอขนของเรียบรอ้ ย ฉันก็จงู เจา้ วคั ซีนมาขึ้นรถ มนั ท�ำทา่ อดิ เออ้ื น เหมือนไม่อยากไป หันมามองบ้านด้วยความอาลยั อาวรณ์ กอ่ นจ้องหน้า ฉันแลว้ ท�ำตาละหอ้ ย... เวรกรรม เจอหมาดรามา่ เขา้ ให้แล้วสิ ตกลงเย็นนั้นฉันเลยต้องน่ังรถไปส่งมันถึงบ้านหมอโนท่ีอยู่แถว พทุ ธมณฑล ไมไ่ กลจากมหาวิทยาลยั เทา่ ไหร่ เจ้าวัคซนี ดจู ะโอเคขนึ้ เมื่อ มฉี นั นงั่ รถเปน็ เพอื่ น แตค่ นทด่ี ีใจกระดก๊ี ระดา๊ ทส่ี ดุ กลบั กลายเปน็ หมอโน “แหม...ค่อยยังชั่วหน่อย ผมจะได้มีเพ่ือนคุย ไม่งั้นคงต้องคุยกับ หมาไปตลอดทาง” อืมม.์ ..เข้าใจเปรียบเทียบนะ หลังจากหาที่อยู่ชั่วคราวให้เจ้าวัคซีนได้แล้ว ภารกิจสุดท้ายของ ฉันเป็นเรอ่ื งส่วนตวั จรงิ ๆ จะวา่ ไปเป็นหน่งึ ในไม่กอ่ี ยา่ งที่ฉันตั้งใจท�ำเพือ่ ตวั เอง วันรุ่งข้ึนฉันขี่จักรยานฝ่าการจราจรอันพลุกพล่านในเขตเมืองเก่า ตรงไปยังกลุ่มอาคารโบราณอายุเกือบร้อยปีท่ีก�ำลังรอการทุบท้ิงเพ่ือท�ำ เปน็ ห้างสรรพสนิ ค้า โครงเหล็กก่อสร้างข้ึนเป็นแนวเรียงรายหน้าร้านถ่ายรูปเก่าแก่ แหง่ น้นั บนกระจกขุ่นมัวของตู้โชว์มปี ้ายกระดาษขนาดใหญ่ปดิ ไวพ้ ร้อม ข้อความว่า ‘ปิดกิจการ’ ฉันจอดจักรยานลงไปยืนดูแล้วก็รู้สึกใจหาย รูปถ่ายหลากหลายท่ีเคยใส่กรอบวางโชว์ไว้ในตู้ได้อันตรธานหายไปจาก ชนั้ หมดเกลยี้ งแลว้ เสยี งเครอื่ งจกั รกำ� ลงั เจาะถนนปนู ดงั ทะลวงแกว้ หจู น
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ท่ี ย ง 25 แทบไมไ่ ดย้ นิ เสยี งความคดิ ตวั เอง กลนิ่ ฝนุ่ ลอยปนอยู่ในไอแดดทร่ี อ้ นระอุ จนฉนั รู้สึกเหมือนตัวเองเปน็ ไอศกรมี ทก่ี �ำลงั ละลาย “หนูมาขอซ้ือภาพถา่ ยเกา่ ค่ะ” ฉนั เอย่ ปากกบั อาแปะ๊ แกๆ่ ทด่ี ทู ่า จะเปน็ เจ้าของร้าน แกกำ� ลงั เอากระดาษหนังสือพมิ พห์ อ่ รปู ถ่ายในกรอบ ทีละรูป แล้วเก็บใส่กล่องหลายใบทวี่ างระเกะระกะเต็มรา้ น พอบอกจดุ ประสงค์ไปแลว้ ฉนั กย็ งั ตอ้ งออ้ นวอนอยนู่ านกวา่ อาแปะ๊ แกจะยอมรื้อรูปถ่ายที่แพ็กเสร็จเรียบร้อยในกล่องออกมาให้ฉันเลือก ทีละอัน ภาพถ่ายเก่าๆ พวกนั้นฉันเคยผ่านตามาหมดทุกรูป แต่เม่ือมา ปรากฏให้เห็นอีกคร้ังทีละภาพ ก็เหมือนความทรงจ�ำเก่าๆ ถูกตัดต่อ เรยี งรอ้ ยใหม่ ราวกบั คลปิ ไวอ้ าลยั ดาราผลู้ ว่ งลบั ทน่ี ยิ มฉายในงานประกาศ รางวัลออสการ์ ผู้คนในรปู ถ่ายทงั้ หมดหาชวี ติ ไมแ่ ล้ว ฉันรูส้ กึ สะเทือนใจ เมื่อคดิ วา่ นอี่ าจเปน็ คร้งั สดุ ทา้ ยทจี่ ะได้เห็นรูปถา่ ยพวกน้ี ในที่สุดฉันก็พบรูปท่ีต้องการ รูปแต่งงานของพ่อกับแม่ท่ีถูก แดดเลียจนสีซีดจาง แต่รอยยิ้มและแววตาแห่งความสุขของทั้งสองใน วนิ าทที ภี่ าพถกู บนั ทกึ ยงั คงชดั เจนเหมอื นเพง่ิ เกดิ ขนึ้ เมอ่ื วาน เปน็ รปู เดยี ว กับท่ีวางไวบ้ นหง้ิ ที่บา้ นปา้ เพียงแตร่ ูปนีม้ ีขนาดใหญ่กวา่ เกอื บเทา่ ตวั “หนอู ยากไดอ้ ีกรูปหนึง่ ด้วยคะ่ เป็นรปู เลก็ ๆ ทีเ่ คยวางตรงมมุ ขวา สดุ ชน้ั ล่างของต้โู ชว์ อาแป๊ะจ�ำได้ไหม” “จำ� ไมไ่ ด”้ แกสา่ ยหวั “ในชวี ิตนอี้ วั๊ ถ่ายรปู คนมาเปน็ หมน่ื เปน็ แสน รปู จ�ำไม่หวาดไมไ่ หวหรอก อีหน”ู เมื่อไม่มที างเลือกอ่นื ฉนั เลยจ�ำเป็นต้องใชส้ ัมผัสพเิ ศษท่ีมีในการ ค้นหารูปถ่ายใบน้ันจากกล่องจ�ำนวนมหาศาลภายในร้าน ฉันยืนหลับตา ทา่ มกลางกลนิ่ อดตี มากมายลอยปกคลมุ ทบั ถมกนั อยเู่ ตม็ ไปหมด พยายาม พงุ่ สมาธไิ ปยงั กลิ่นเดียวทคี่ ้นุ เคย กล่นิ แหง่ ความทรงจำ� ที่ฉนั มีร่วมกับเขา กลนิ่ ของความรสู้ กึ ดๆี ที่ไมเ่ คยเจอื จางลงแมเ้ วลาจะผา่ นไปนานแคไ่ หน... กลิน่ ของร่นุ พีผ่ ลู้ ึกลับ! “ขอดูในกล่องใบนั้นได้ไหมคะ” ฉันลืมตาขึ้นแล้วชี้มือไปยังกล่อง
26 F RESHY รุ่ น น้ อ ง ขนาดเลก็ ใบหนึง่ ท่ีวางอยู่ใตบ้ ันได ฝนุ่ กระจายขนึ้ มาทนั ทที อ่ี าแปะ๊ เปดิ ฝากลอ่ ง ฉนั ลว้ งหยบิ กรอบรปู ห่อกระดาษอันหนง่ึ ขน้ึ มาจากก้นกล่อง ค่อยๆ แกะออกดชู า้ ๆ ชายหนมุ่ สวมชดุ นกั ศกึ ษาในรปู ถา่ ยยม้ิ ตอบกลบั มาจากอดตี ที่ไกล แสนไกล “หนูขอซือ้ รปู น้ีด้วยไดไ้ หมคะ” “รู้ไดไ้ งวา่ อย่ตู รงไหน ขนาดอั๊วเกบ็ เองกบั มอื ยังไมร่ ้เู ลย” อาแป๊ะ ชะโงกหน้ามาดูรูปดว้ ยความท่งึ “อ้อ! จ�ำได้ละ เด็กผูช้ ายคนน้เี ป็นข่าวดงั หลายสิบปีก่อน” “ขา่ วดงั ?” ฉันทวนค�ำ “กอ็ ีโดนยิงตายในโรงเรียนทเ่ี ป็นวงั เกา่ เคยมคี ดีฆ่าพวกเจา้ อะไร สักคนนี่แหละ คนเขาเลยลือกันว่ามันเป็นค�ำสาป” เจ้าของร้านอธิบาย มองลอดแว่นสายตาไปยังรปู ถ่ายของรนุ่ พี่ “อว๊ั เปน็ คนถา่ ยรปู น้เี อง ทจ่ี ำ� ได้เพราะที่บา้ นเขามาขออัดขยายไป ท�ำเป็นรปู หน้างานศพ” “แล้วอาแป๊ะจ�ำได้ไหมว่าเขาเป็นคนยังไง” ฉันรีบถามด้วยความ อยากรู้ “กค็ งหน้าตาดีเหมือนในรปู ละม้งั ท่ีเหลือก็จ�ำอะไรไม่ได้ มันนาน มากแล้ว” ฉนั ใจเตน้ ตกึ ตกั เมอ่ื มองใบหนา้ ในรปู ถา่ ยนนั้ ความทรงจำ� ตอนรว่ ม สบื คดดี ว้ ยกัน แวบขึน้ ในสมองเปน็ ฉากๆ รู้สึกอบอนุ่ อยา่ งประหลาดเม่ือ สัมผสั ถงึ กลนิ่ แมนๆ สปอรต์ ๆ ทเ่ี คยตามติดฉันไปทุกหนทุกแหง่ แตบ่ ัดน้ี ไดส้ ญู สลายไปตลอดกาลแลว้ รูปถ่ายใบนี้คือหลักฐานของความทรงจ�ำเพียงหน่ึงเดียว ท่ีฉันจะ เก็บไว้เพอ่ื ระลกึ ถึงเขาตลอดไป...ร่นุ พขี่ องฉนั
๐๐๒ “แอรย๊ ! สวัสดีจ้า นายคือรูมเมตเราใช่ป้ะ” เสียงแงว้ ๆ เหมือนเสียงแมวผสมเสยี งร้องเพลงสไตล์ ลลุ า ทกั ขึน้ อย่างร่าเริง ทันทีที่ฉันเอาตูดดันประตูห้องในหอพักเข้าไป เพราะมือ ไม่ว่างต้องลากกลอ่ งใส่ของขนาดใหญเ่ ข้ามาด้วย เมื่อหนั ไปมองกเ็ หน็ สาวแว่นตัวเล็กๆ ผูกผมเปียสองข้าง หนา้ ตา เนริ ด์ ตามสไตลเ์ ดก็ แพทย์ ผวิ ซดี คอ่ นไปทางเหลอื ง เหน็ กระสนี ำ�้ ตาลจางๆ กระจายเตม็ สองแกม้ ดวงตาเลก็ ๆ คนู่ นั้ จอ้ งผา่ นแวน่ ตรงมาเหมอื นกำ� ลงั ประเมนิ ฉนั จากรปู ลกั ษณ์ภายนอกในแวบแรกที่เห็น “เรา ขา้ วฟา่ ง นะ แล้วนายล่ะ” “มอ่ น” ฉันแนะน�ำตัวส้ันๆ ไม่ค่อยชอบให้ใครเรียกสรรพนามว่า ‘นาย’ เท่าไหร่ โดยเฉพาะผู้หญิงด้วยกัน สงสัยยัยนี่จะเป็นทอม ฉันใช้ตีนดัน กล่องไปตามพ้ืน ถงึ แม้หอพกั จะมลี ิฟต์ แต่การตอ้ งแบกหนงั สอื ทขี่ นจาก บา้ นมาจนแน่นกลอ่ งขนาดน้ี ก็เล่นเอาเอวเคลด็ ได้เหมอื นกัน “ยินดีต้อนรบั สู่หอ้ ง ๔๐๙ นะจะ๊ หอ้ งท่เี ราสองคนต้องอยู่ดว้ ยกัน
28 F RESHY รุ่ น น้ อ ง นับต้งั แต่นี้ไป” ยยั แว่นผายมอื ไปรอบห้องราวกบั แอร์โฮสเตสก�ำลงั สาธติ ความปลอดภยั บนเครอื่ งบิน “เอ่ิม...คือพอดีเรามาถึงก่อน เลยเลือกเตียงติดหน้าต่างทางซ้าย ไปแล้ว ของนายคอื อนั ทตี่ ิดผนังห้องน�้ำ หวังวา่ คงจะชอบนะ” พดู เองเออเอง เลือกเองเสรจ็ สรรพ แลว้ ยังจะมาถามอีกว่ากูชอบ ไหม ฉันมองไปท่ีเตียงเลก็ ๆ ขนาดแมวดิ้นตายยงั ลำ� บาก ผา้ ปเู ตยี งสขี าว ตุ่นมคี ราบจางๆ เหมือนเลอะอะไรทพี่ ยายามซักแตไ่ มอ่ อก “เอ้อ!...หมอ่ น ใช่ไหม” “มอ่ น” “อ้อ!...โทษที เรานึกว่านายชื่อใบหม่อนซะอีก แล้วม่อนน่ีมาจาก อะไรอะ้ ...อ๊ะๆ! อย่าเพิ่งบอกนะ อยา่ เพิง่ บอก ขอเราทายก่อน” กยู ังไมท่ นั พดู อะไรเลย ฉันยนื ท�ำตาลอยขนึ้ เพดานแบบเซ็งๆ “เราวา่ ม่อน ตอ้ งมาจาก โดราเอม่อน แนๆ่ เลย...ใช่ม้ัยๆ บอกซิ บอกซิว่าเราทายถกู ” ทายแบบน้ีคนทลี่ า้ นเจด็ แลว้ ฉนั ข้เี กียจตอบเลยก้มหน้ากม้ ตาลาก กล่องไปยังเตียงที่ยัยรูมเมตจัดให้โดยไม่มีสิทธ์ิเลือก เม่ือเห็นฉันเงียบ ยยั น่ันกย็ ักไหล่แล้วต่อยหอยของหลอ่ นตอ่ ไป “เออ้ ! เราแนะน�ำตัวเองกอ่ นดีกวา่ นะ ข้าวฟ่างน่ะเปน็ ชอ่ื เล่น ชอ่ื จริงๆ ของเราคือ กก” คนเหีย้ ไรวะชอ่ื กก กกหูเหรอ ฉนั คดิ ในใจขำ� ๆ แตด่ ูเหมือนยัยแว่น จะรู้ว่าฉนั คดิ อะไรอยู่ รบี สวนขึน้ ทันที “ไม่ใชก่ กหูนะ กกเฉยๆ ก.ไกส่ องตัว แบบตวั สะกดแม่กกไง พ่อ เราเป็นคนตง้ั ให้ พ่อบอกวา่ ตอนแมต่ ั้งท้องเรา พ่อคดิ อยู่หลายเดือนเลย นะกวา่ จะไดช้ อื่ นมี้ า เพราะนอกจากจะหมายถงึ ตวั สะกดแรกในภาษาไทย แล้ว ยังมีความหมายว่าแม่ไก่กกไข่ หรือหมายถึงต้นกกก็ได้ด้วยนะ... เกร๋มัย้ ล่ะ!” จะ้ เกร๋ก็เกรจ๋ ะ้ แต่ชอ่ื เลน่ มงึ ดันชื่อขา้ วฟา่ งนีส่ ิ ตกลงเอาไงกนั แน่
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ท่ี ย ง 29 “สว่ นข้าวฟ่างแม่เป็นคนต้ังให”้ หลอ่ นตอบราวกับอ่านใจฉันได้ “เพราะแมช่ อบทำ� นาแบบเกษตรอนิ ทรยี ์ บา้ นเรามนี าขา้ วทอี่ ยธุ ยา หลายแปลง เสาร์อาทิตยค์ รอบครัวเราก็จะขับรถไปท�ำนากัน สนุกมากๆ เลย เราปลูกข้าวปลอดสารหลายอยา่ งเลยนะ ทง้ั ข้าวเหนียวเข้ียวงู ขา้ ว มนั ปู ขา้ วไรซเ์ บอรร์ ี่ ทแี รกแมจ่ ะตงั้ ชอื่ เลน่ เราวา่ ขา้ วกลอ้ งงอก แตส่ ดุ ทา้ ย เปลีย่ นใจ เพราะข้าวฟ่างฟังดูเรยี บง่ายซิมเปลิ้ กวา่ ” โชคดีจริงๆ ที่แม่เปลี่ยนใจ ฉันคิด ยัยรูมเมตคนน้ีต้องมาจาก ครอบครัวคนชั้นกลางโลกสวยตามแบบฉบับร้อยเปอร์เซ็นต์ คือพ่อแม่ พอมีฐานะ ท�ำงานบรรษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ในเมืองแต่เกลียดทุนนิยม กจิ กรรมวนั หยดุ เสารอ์ าทติ ยค์ อื ออกตา่ งจงั หวดั ไปเลน่ เปน็ ชาวนา กอ่ นจะ กลับมาเปน็ ไฮโซทนั เช้าวนั จนั ทรพ์ อดี “เราจบมาจากโรงเรยี นดรโุ ณทยั โรงเรยี นทางเลอื กแบบองคร์ วม โฮลสิ ตกิ นะ่ นายรจู้ กั มยั้ เพราะพอ่ อยากใหเ้ รามชี วี ติ อสิ ระ ไม่ใชโ่ ดนบงั คบั เรยี น พอ่ บอกวา่ ความรกู้ บั ความสขุ ตอ้ งไปดว้ ยกนั โรงเรยี นเราอยู่ในสวน พอเพยี งและตดิ ดนิ สดุ ๆ ทำ� ใหเ้ ราเขา้ ใจธรรมชาติ ไมฟ่ งุ้ เฟอ้ เหอ่ วตั ถนุ ยิ ม เหมือนเด็กโรงเรยี นอน่ื ” จา้ พอเพยี งมากเลยจา้ คา่ เทอมเทอมละสองแสนเอง ฉนั แอบเหน็ ไอโฟนและไอแพ็ดแอรร์ ุน่ ใหมล่ ่าสดุ วางอยูบ่ นเตยี งของหลอ่ น ผา่ นไปเป็นชั่วโมง ฉนั ขนของข้ึนมาบนห้องอกี หลายเทย่ี วจนเสรจ็ ระหว่างน้ันยัยข้าวฟ่างไม่ได้แสดงน�้ำใจจะช่วยฉันเลย (ซึ่งจริงๆ ฉันก็ ไม่ตอ้ งการหรอกนะ) ส่งิ เดียวทห่ี ล่อนท�ำคอื พดู ๆๆ และพดู ไมห่ ยุด ฉนั ก็ ฟงั บ้าง พยกั หน้าเออออบ้าง แต่ส่วนใหญจ่ ะท�ำหทู วนลมมากกว่า ฉันเอารูปถ่ายของป้า รูปแต่งงานของพ่อแม่ออกมาวางพิงผนัง ก่อนจะหยบิ รปู สุดทา้ ยออกมา “นัน่ รูปใครอะ พอ่ นายตอนหนุม่ ๆ เหรอ” ยัยแว่นทักเมือ่ เหน็ ฉนั วางรูปรุ่นพ่ีไว้บนโตะ๊ หัวเตียง “เอ!๊ ...หรือวา่ รปู แฟน อิๆ”
30 F RESHY รุ่ น น้ อ ง พดู จบก็เอามอื ปดิ ปากหวั เราะคิกคกั “รปู คนตายน่ะ” ฉันตอบเรยี บๆ ยยั รมู เมตชะงกั คา้ ง ท�ำตาโต “หวาย! แล้วเอารปู คนตายมาไว้บนหัวเตียงท�ำไมง่ะ” “คนตายหมดแหละ นน่ั รปู พอ่ แมฉ่ นั ทตี่ ายไปนานแลว้ โนน่ กร็ ปู ปา้ เพง่ิ ตายเมื่อปีก่อน” “โห! เสียใจด้วยนะ...เปน็ ’ไรตายอะ” “พ่อกับแม่รถคว่�ำตายทั้งคู่ ส่วนป้าตายด้วยโรคเย่ือหุ้มสมอง อักเสบ” “โหย!...แล้วตอนนน้ี ายอยู่กับใครอะ้ ” “อยู่คนเดยี ว” “เฮ้ย! จริงด”ิ ยัยแว่นรอ้ งเหมือนเหน็ ผี “แลว้ นายไมม่ ีญาติพี่น้อง กบั เคา้ บา้ งเลยเหรอ” “ไมม่ ี” ฉันตดั บทหว้ นๆ “หูย! นา่ สงสารเนอะ” น่มี งึ จะโห! โหย! หูย! อกี นานมย้ั ฉนั คิดแล้วกม้ หนา้ กม้ ตาจัดของ ใหเ้ ข้าที่ นกึ อยากจบบทสนทนาโดยเรว็ แต่ดูเหมอื นยัยนน่ั จะไมเ่ กต๊ “ถึงพ่อแม่เราจะยังอยู่กันครบ แต่เราก็เข้าใจความรู้สึกของคนท่ี สูญเสียครอบครัวแบบนายดีนะ สมัยเด็กๆ เราเสียอาม่าไปเพราะโรค มะเร็ง ตอนนนั้ เราเพงิ่ ๓ ขวบ เรยี นอยชู่ ั้นอนุบาลเอง แต่เรากต็ ้งั ใจไว้ เลยวา่ โตขน้ึ เราจะเปน็ หมอเพอื่ ชว่ ยเหลอื เพอ่ื นมนษุ ยผ์ ทู้ กุ ขย์ ากใหพ้ น้ จาก ความเจบ็ ป่วย...” ฟลอเรนซ์ ไนตงิ เกล ชดั ๆ ฉนั ประชดในใจ ไม่ไดพ้ ูดออกมาเพราะ ไม่มีจังหวะให้พูดเลย ยัยหมวยแว่นยังคงพูดฉอดๆ อยู่ฝ่ายเดียว โดย ไม่สนใจว่าฉนั จะอยากฟังในส่ิงที่หลอ่ นพูดหรอื เปลา่ ในที่สดุ ก่อนจะขาดใจตายเพราะความนอยด์จากภาวะคล่ืนเสียง จด๊ี สมอง ฉนั กค็ น้ พบวธิ เี อาตวั รอดขนึ้ มาได้ ควา้ เปม้ าเปดิ ออก ลว้ งเขา้ ไป หยบิ เครอื่ งเลน่ เทปคาสเซต็ ตแ์ บบพกพาพรอ้ มหฟู งั ทเ่ี รยี กวา่ ‘ซาวดอ์ ะเบาต’์
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ที่ ย ง 31 ออกมา เคร่ืองเสียงเรโทรรุ่นน้ีฉันเจอในห้องเก็บของที่บ้านป้า มันเป็น แฟชั่นยอดฮิตของวัยรุ่นยุค ๘๐-๙๐ ซ่ึงยังใช้งานได้ดี แถมป้าก็ยังมี มว้ นเทปคาสเซต็ ตส์ ะสมไวเ้ พยี บ ฉนั เลยไดอ้ าศยั ฟงั เพลงเกา่ ๆ สมยั คณุ ปา้ ยงั สาว จะว่าไปซาวด์อะเบาตก์ ค็ อื บรรพบุรษุ ของไอพ็อดในสมยั น้นี ่นั เอง ปรกตฉิ นั จะใชป้ อ้ งกนั พวกวญิ ญาณทพ่ี ยายามตดิ ตอ่ กบั ฉนั ผา่ นทางเสยี ง แต่ตอนนฉี้ นั รู้สึกวา่ เสยี งวญิ ญาณยงั น่ากลัวน้อยกวา่ เสยี งยยั แวน่ น่ีซะอกี ฉนั สวมหฟู งั และเปดิ เพลงจากมว้ นเทปทตี่ ดิ มาในเครอ่ื ง เปน็ เพลง โปรดของฉนั ชอื่ เพลง ‘คอย’ ของวง ฟรเี บิร์ด อนั แสนจะฮติ ในสมยั ก่อน กดปุ่มเร่งเสียงจนสุดวอลลุ่ม...ได้ผล! ภาพยัยรูมเมตอ้าปากพะงาบๆ ประกอบเสยี งเพลง ดแู ลว้ ก็ตลกดี เหมือนดมู ิวสกิ วิดีโอที่นกั ร้องลปิ ซงิ ก์ ไมต่ รงกบั ปาก ช่วยลดความนอยดล์ งไปไดม้ ากทเี ดียว คืนน้ันฉันเผลอหลับไปท้ังที่ยังใส่หูฟังขณะท่ียัยข้าวฟ่างยังพูด ไม่ยอมหยุด แบบนี้ละมั้งที่เขาเรียกว่า พูดจนลิงหลับ ฉันสรุปได้เลยว่า รูมเมตของฉันคนนี้เพ้ียนชัวร์ หรือจริงๆ แล้วพวกเด็กเรียนเด็กเนิร์ดคง ไมค่ อ่ ยปรกติกันสักคน แต่จะวา่ ไป ฉันเองก็ไม่คอ่ ยปรกติเท่าไหร่ในสายตาคนอน่ื เพราะ ฉันมีพฤติกรรมแปลกๆ ประเภทชอบดมโนน่ ดมน่ีโดยไม่มสี าเหตุ หรือไม่ กช็ อบพูดอะไรงมึ ๆ ง�ำๆ อยคู่ นเดียว จนทุกคนลงความเห็นว่าฉันเพ้ยี น อยา่ ลืมสิว่า ฉายาที่เพอ่ื นโรงเรียนเก่าตั้งให้ฉนั ก็คอื ‘อบี า้ ’ ไงล่ะ
๐๐๓ พธิ ขี น้ึ ตกึ เปน็ ประเพณตี อ้ นรบั นอ้ งใหมข่ องคณะทสี่ บื ทอดกนั มา ยาวนาน รนุ่ พต่ี ง้ั แตป่ สี องถงึ ปหี า้ จะมายนื เขา้ แถวเรยี งกนั สองฝง่ั เปน็ แนว ยาวจากหน้าตกึ คณะข้ึนไปตามบนั ไดจนถงึ ชั้นบนสดุ ระหว่างที่นกั ศกึ ษา ใหมเ่ ดนิ ขน้ึ ตกึ รนุ่ พจ่ี ะรอ้ งเพลงพรอ้ มกนั และมอบดอกไมใ้ หน้ อ้ งทลี ะคน “โหย! ขนลกุ เลยอะ หม่อน” ยัยข้าวฟา่ งหนั มาบอกฉนั ด้วยสหี น้า ซาบซึ้ง โดยไม่รู้ตัววา่ เรียกชื่อเล่นฉันผดิ “มอ่ น ไม่ใชห่ มอ่ น” ฉนั แกใ้ ห้ แตด่ เู หมอื นยยั หมวยแวน่ จะไมไ่ ดย้ นิ เพราะเสยี งเพลงดังกลบหมด จริงๆ ป้ายที่รุ่นพี่ท�ำให้น้องใหม่ห้อยคอก็เขียนบอกช่ือแต่ละคน ชัดเจนอยู่แล้ว สงสยั ยัยนี่จะอ่อนภาษาไทย เลยอา่ นช่ือฉนั ผิดตลอด “ประเพณขี นึ้ ตกึ ของทน่ี ย่ี งิ่ ใหญส่ มคำ� รำ�่ ลอื จรงิ ๆเคยไดย้ นิ เขาพดู กัน แต่ไม่นึกว่าของจริงจะซาบซึ้งขนาดนี้” ยัยข้าวฟ่างพูดเสียงสั่นเครือ น�้ำตาคลอ ฉันสังเกตเห็นนักศึกษาใหม่อีกหลายคนท่ีร้องไห้ออกมาด้วย ความปลาบปลื้ม จนรู้สึกว่าตัวเองผิดปรกติหรือเปล่าที่ไม่ร้องไห้เหมือน คนอื่นเขา
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ที่ ย ง 33 ระหวา่ งนน้ั ฉนั รสู้ กึ เหมอื นถกู จอ้ งมองโดยสายตาคหู่ นงึ่ ตลอดเวลา พอเหลียวมองฝ่ากลุ่มนักศึกษาไปรอบๆ ก็ไม่เห็นอะไร แต่ฉันม่ันใจว่า มีใครบางคนมองอยู่แน่ๆ มันเป็นสัญชาตญาณดั้งเดิมของมนุษย์ท่ียัง หลงเหลอื อยหู่ ลงั จากกา้ วพน้ ความเปน็ สตั วป์ า่ มานาน...สญั ชาตญาณของ เหยอื่ ทถ่ี กู จอ้ งโดยผลู้ า่ เพยี งแตโ่ ลกในยคุ ปจั จบุ นั ไมเ่ หมอื นปา่ ในสมยั หนิ ท่ีต้องระวังตัวทุกย่างก้าว สัญชาตญาณการเอาตัวรอดท่ีไม่ค่อยได้ใช้ก็ เรม่ิ หายไป เหลือไวแ้ ต่ความรูส้ ึกเวลาถูกใครจ้องมอง เคยเป็นไหม เวลาเบียดเสียดอยู่ในสถานท่ีท่ีคนพลุกพล่านอย่าง รถไฟฟ้า ถ้าเราลองจ้องมองไปที่ด้านหลังของคนคนหน่ึงนานๆ สักพัก คนคนน้ันจะหันกลับมา เพราะรู้สึกว่ามีสายตาใครบางคนก�ำลังจ้องมอง อยู่ นั่นแหละความรูส้ กึ ของฉนั ในตอนน้ี “ยินดีตอ้ นรับ นอ้ งใหม่” ดอกกุหลาบดอกหนึ่งย่ืนมาตรงหน้า ฉันไม่สนใจเพราะตอนนั้น มีดอกไม้จากพวกรุ่นพ่ียื่นกันสลอนไปหมด ฉันพยายามก้มหน้าท�ำเป็น ไมเ่ หน็ เพราะขเ้ี กยี จรบั มาถอื ใหพ้ ะรงุ พะรงั เปลา่ ๆ แตด่ อกไมด้ อกนน้ั กลบั ยืน่ ใกล้เขา้ มาอกี จนเกือบจะทิม่ หน้า “ใหน้ อ้ งครบั นอ้ ง...เออ่ ...นอ้ งมอ่ น” เจา้ ของดอกไมอ้ า่ นชอ่ื ฉนั จาก ปา้ ยที่ห้อยคอ พอเงยหน้าดู ก็เจอชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งแบบนักกีฬา ใบหน้า สะอาดเกลยี้ งเกลา ผวิ พรรณดี และทสี่ ำ� คัญคอื หลอ่ มากๆ หล่อโคตรๆ หลอ่ กวา่ รนุ่ พ่ีผชู้ ายทัง้ หมดท่ีฉันไดเ้ ห็นมา “พ่ีเป็นรุ่นพ่ีปีสามนะ ช่ือพ่ีเอ็ม” หนุ่มหล่อแนะน�ำตัว “ยินดีที่ได้ รจู้ ักจะ้ นอ้ งม่อน” ฉันหลบตา ยื่นมือไปรับดอกไม้จากเขาอย่างเสียไม่ได้ เพราะดู ทา่ ทางเขาจะไมย่ อมไปไหนถา้ ฉนั ไมร่ บั มนั แอบไดย้ นิ เสยี งฮอื ฮาจากสาวๆ ในกลุ่มน้องใหมท่ ีด่ จู ะกรด๊ี กร๊าดรุน่ พ่ีคนน้เี ปน็ พเิ ศษ “หูย! หล่อวัวตายควายล้มเลยอะ” เสียงยัยรูมเมตกระซิบข้างหู
34 F RESHY รุ่ น น้ อ ง เพิ่งรู้ว่าสาวไฮโซอย่างหล่อนก็ใช้ศัพท์สก๊อยเป็นด้วย ยัยข้าวฟ่างเหลียว มองพ่ีเอ็มไม่วางตาจนแทบเดินสะดุดขั้นบันไดหกล้ม ขณะท่ีฉันถูกคน ข้างหลังเบียดเสียดจนต้องเคลื่อนไปข้างหน้าเรื่อยๆ แต่อีตาพี่เอ็มอะไร น่นั กย็ งั เดินตามมาไม่หยุด “ถา้ ไมร่ งั เกยี จ พอ่ี ยากขอเปน็ พรี่ หสั นอ้ งมอ่ นไดไ้ หม” เสยี งทมุ้ นมุ่ ของเขาถาม ฉันยงั คงนิ่งไมต่ อบสกั ค�ำ ทำ� สหี นา้ เยน็ ชาไร้อารมณ์ แบบที่ เพอื่ นโรงเรียนเกา่ เรียกวา่ ‘หน้าเหีย้ เบอรห์ า้ ’ “ไดไ้ หมจะ๊ น้องมอ่ น” เขายังเซา้ ซ้ีไม่เลกิ จนฉันเรมิ่ รำ� คาญนดิ ๆ ฉันรู้ดีว่าตัวเองไม่ใช่สาวเซ็กซี่คาวาอี้อะไร ประเภทท่ีแค่ยืนเฉยๆ ก็มีหนุ่มมองเหลียวหลังหรือคอยตามจีบ ฉันแทบไม่มีอะไรดึงดูดเพศ ตรงขา้ มเอาเสยี เลย ตัวกเ็ ล็กเหมือนเด็กไม่สมส่วน นมก็ไม่มี หน้าตาก็ จืดๆ แถมยังชอบท�ำหน้าเบื่อโลกตลอดเวลา ฉันเลยรู้สึกงงที่มีผู้ชายมา แสดงท่าทีสนใจ...ออ้ ! ยกเว้นหมอโนคนนึง รายนัน้ อาการออกนอกหน้า จนฉันเรมิ่ ชินแล้ว “พี่เป็นประธานชมรมเคนโด้ด้วยนะ เผื่อน้องม่อนสนใจจะเข้า ชมรม” เขาย้มิ พลางยื่นหนา้ เข้ามาใกล้ จนฉันตอ้ งขยับออกหา่ ง ไดก้ ลิ่น นำ้� หอมผชู้ ายราคาแพงโชยมาจากตวั เขา “โห! จริงดิ เคนโด้ด้วย เท่ม่ักๆ เลย รู้มั้ย เราอะอยากเรียน เคนโดม้ าตง้ั แตเ่ ดก็ แลว้ ” ยยั ขา้ วฟา่ งดจู ะสนใจอตี าพเ่ี อม็ สดุ ๆ จนฉนั อยาก ผลกั หลอ่ นไปคยุ กบั เขาใหร้ แู้ ลว้ รรู้ อดเสยี เลย จะไดไ้ มต่ อ้ งมาพดู ผา่ นหฉู นั ไปมาแบบน้ี เสียงเพลงท่ีรุ่นพี่ร้องต้อนรับน้องใหม่จบลงเม่ือพวกเราเดินขึ้นมา ถงึ ชน้ั ๔ อนั เปน็ ชน้ั บนสดุ ของตกึ เบอื้ งหนา้ เปน็ หอ้ งขนาดใหญ่ มตี วั อกั ษร ติดไว้เหนอื ประตวู ่า ‘หอ้ งแล็บกายวภิ าคศาสตร’์ ตำ�่ ลงมามีป้ายผ้าเขียน ขอ้ ความว่า ‘พธิ ีไหวอ้ าจารยใ์ หญ่ของนักศึกษาปี ๑ คณะแพทยศาสตร’์ “นอ้ งใหมค่ รบั เดยี๋ วพๆ่ี จะแจกดอกไมธ้ ปู เทยี นและพาทกุ คนเขา้ ไป ในห้องเพื่อกราบอาจารย์ใหญ่ของเรา ทุกท่านที่อยู่ในห้องน้ีเป็นผู้มี
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ที่ ย ง 35 พระคุณต่อนักศึกษาแพทย์อย่างมาก ท่านยอมอุทิศร่างของท่านเป็น อาจารยเ์ พือ่ ใหค้ วามรู้ดา้ นกายวิภาคแกพ่ วกเรา ขอให้น้องๆ สงบเสงย่ี ม และใหเ้ กยี รติแก่อาจารย์ใหญ่ทกุ ท่านด้วยนะครับ” เสยี งออ้ื องึ สงบลง พวกรนุ่ พชี่ ว่ ยกนั ยกพานดอกไมธ้ ปู เทยี นมาแจก ให้น้องใหม่ ทกุ คนยนื่ มือไปรับมาคนละชุด ส่วนฉนั ยังไม่ทนั ทำ� อะไร กม็ ี มือขา้ งหนึง่ มาควา้ ข้อมอื ไว้ ดอกไมธ้ ูปเทยี นชดุ หนึง่ ถกู ยัดใสม่ ือ ฉันตกใจ หนั ไปดูกเ็ หน็ อตี าพ่ีเอ็มยืนยิม้ หล่ออยู่ข้างๆ “นี่! พ่ี เราเพิ่งรู้จักกันไม่ถึงห้านาที อย่ามาแตะเนื้อต้องตัวกัน ได้ไหม” ฉันพูดผ่านไรฟันพอใหเ้ ขาได้ยนิ คนเดยี ว “อ้าว! ขอโทษ รังเกียจพเ่ี หรอ” เขาถามซ่อื ๆ “รงั เกียจ” ฉนั ตอบดื้อๆ “ท�ำไมล่ะ” ฉันร้สู ึกว่าเขาชกั จะเยอะ เลยตัดสินใจตอบแบบกวนตนี กลับไป “กฉ็ นั เปน็ เลสเบ้ียน!” ไดผ้ ล! สหี นา้ เขาเปลย่ี นไปทนั ที ดเู หมอื นจะสตนั๊ ไปประมาณสามวิ แต่ยังไม่ทันจะว่าอะไรต่อ ประตูใหญ่ของห้องแล็บก็เปิดออก รุ่นพี่น�ำ นกั ศกึ ษาใหมเ่ ดนิ เขา้ ไปเปน็ กลมุ่ ฉนั เลยถอื โอกาสเดนิ เบยี ดแซงคนอน่ื ไป อย่แู ถวหน้า สลัดอีตารนุ่ พีข่ ี้หลีไดส้ ำ� เร็จ บรรยากาศภายในแล็บท่ีมีร่างอาจารย์ใหญ่คลุมผ้านอนเรียงราย ท�ำให้ฉันนึกถงึ เรือ่ งส้ัน ‘ตกึ กรอสส์’ ของนักเขยี นนามปากกา อ.อดุ ากร1 1 เป็นนามปากกาของ อุดม อดุ าการ เกิดเม่ือวนั ที่ ๑๐ ธันวาคม ๒๔๖๗ ท่ีจงั หวดั นครปฐม เขาสอบเข้าศึกษาวิชาแพทย์ที่คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลศิริราช ใน ปลายปีการศึกษาแรก เขาล้มป่วยด้วยโรคปอด ต้องพักการเรียนสองปีเพ่ือรักษาตัว แต่เมื่อครบก�ำหนด อาการก็ยังไม่ปรกติ จึงต้องลาออก หลังล้มป่วยจนเรียนแพทย์ ไมไ่ ด้ เขาเสียใจมากเพราะเคยมุง่ หวังใช้วชิ าแพทย์ช่วยเหลอื ชาวบา้ นในชนบท จึงหนั มาสนใจการเขยี นอยา่ งจริงจัง และเร่อื งส้นั ‘ตกึ กรอสส์’ ในงานเขยี นชุดแรกของเขา ได้รับรางวัลชนะเลิศจากการประกวดเร่ืองส้ันของนิตยสารสยามสมัยเมื่อปี ๒๔๙๑ อ.อุดากรเสยี ชีวิตเมอ่ื วันท่ี ๒๗ มกราคม ๒๔๙๔ ในวัยเพียง ๒๗ ปี
36 F RESHY รุ่ น น้ อ ง ทเ่ี คยอา่ นข้นึ มาทนั ที เนอ้ื เร่ืองมอี ยวู่ า่ ตัวเอกชื่อ วทิ ยา เปน็ นกั ศึกษาแพทยศ์ ิริราช เขา ศึกษาท่หี อ้ งช�ำแหละศพในตึกกรอสส์ และศพโตะ๊ เบอร์ ๑๑ คอื ศพทเ่ี ขา ใชท้ ำ� แลบ็ เจ้าของศพเปน็ นกั โทษทตี่ ายดว้ ยไขม้ าลาเรยี ซง่ึ เขามารู้ความ จรงิ ในภายหลงั วา่ ศพนกั โทษทเ่ี ขาชำ� แหละนนั้ คอื พอ่ ทแ่ี ทจ้ รงิ ของเขาเอง เขาช็อกจนไม่สามารถเรียนต่อได้ และหายตัวไปจากสังคมสองปี ก่อน กลับมาดว้ ยสภาพย�ำ่ แย่จนเพ่ือนๆ จำ� ไมไ่ ด้ ในท่สี ดุ เขากจ็ บชีวิตลง และ อทุ ศิ ร่างของตนใหเ้ ปน็ อาจารย์ใหญ่ ทันทีท่ีก้าวเข้าไปในแล็บกายวิภาค ฉันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นสารพัด ชนิดที่ล่องลอยอยู่ในห้องน้ัน นอกเหนือจากกล่ินฟอร์มาลินอาบศพและ กลน่ิ ศพทค่ี นปรกตทิ ว่ั ไปสมั ผสั ได้ ลกึ ลงไปคอื กลน่ิ ท่ีไมม่ ีใครรบั รนู้ อกจาก ฉัน... กล่นิ วิญญาณท่ียังคงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ รา่ งผู้เป็นเจ้าของ กล่ินศพกับกลิ่นวิญญาณไม่เหมือนกัน แม้ว่าตอนนี้ฉันจะได้กล่ิน ทง้ั สองอยา่ ง แต่กส็ ามารถแยกแยะไดท้ นั ที ถ้าอธิบายให้เข้าใจด้วยการเปรียบเทียบ กล่ินศพก็คือภาพถ่าย สองมติ ทิ แ่ี บนราบและนงิ่ สนทิ สว่ นกลนิ่ วญิ ญาณคอื หนงั สามมติ ทิ มี่ รี ะยะ ใกลไ้ กลและเคลือ่ นไหวได้ การแยกแยะกลน่ิ ศพออกจากกลน่ิ วญิ ญาณไม่ใชเ่ รอ่ื งยาก แตก่ าร แยกแยะกลนิ่ วิญญาณออกจากกลน่ิ คนเป็นกลับยุง่ ยากซบั ซอ้ นกว่า และ ตอ้ งผา่ นการฝึกฝนเป็นเวลานาน จึงจะสามารถแยกแยะได้ ตอนเป็นเด็ก ครั้งแรกท่ีสัมผัสได้ถึงกลิ่นวิญญาณท่ีวนเวียนอยู่ รอบๆ ตวั ฉนั ยังนกึ วา่ กลิ่นพวกน้นั เปน็ คนจรงิ ๆ ด้วยซ�้ำ เพยี งแตไ่ ม่เขา้ ใจ วา่ ทำ� ไมฉนั ถงึ มองไมเ่ หน็ รา่ งเจา้ ของกลนิ่ เหลา่ นนั้ เมอ่ื โตขน้ึ และไดส้ มั ผสั บอ่ ยๆ เขา้ ฉนั กค็ อ่ ยๆ เรยี นรวู้ า่ กลนิ่ พวกนนั้ ไม่ใชม่ นษุ ย์ แตเ่ ปน็ กลน่ิ ของ พลังงานท่ีปราศจากร่างกายแล้ว ต้ังแต่น้ันฉันก็เร่ิมฝึกฝนการแยกแยะ กลนิ่ วญิ ญาณออกจากกลน่ิ ของสงิ่ มชี วี ติ จนเดย๋ี วนฉ้ี นั สามารถบอกความ
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ท่ี ย ง 37 แตกต่างได้ทนั ทีโดยไม่ตอ้ งใช้ความพยายามเท่าไหร่นกั ตอนนั้นเอง ฉันสัมผัสได้ถึงกลิ่นวิญญาณอันเข้มข้นท่ีดูเหมือน พยายามจะต้ังใจสื่อสารกับฉันโดยตรง ลอยมาจากศพใดศพหนึ่งในน้ัน รูส้ ึกเหมอื นกำ� ลังถกู จอ้ งมองอยา่ งเงียบๆ จากมนุษย์ลอ่ งหนผไู้ มม่ ีตวั ตน เปน็ พลังงานทเี่ งียบงันปราศจากเสยี ง น่ีเอง...ความรู้สึกเหมือนถูกใครจ้องมองตั้งแต่ตอนข้ึนตึกมา พลังงานน้นั รบั รู้วา่ ฉนั เป็นมนษุ ย์เพยี งคนเดียวท่จี ะสอ่ื สารดว้ ยได้ และมนั กำ� ลังเฝา้ ดฉู นั อยเู่ งียบๆ เพ่อื รอคอยอะไรบางอย่าง!
ศพในตู้กระจก
๐๐๔ ดา้ นหลงั มหาวทิ ยาลยั หา่ งไปประมาณคน่ั ดว้ ยถนนเลก็ ๆ สายหนงึ่ เปน็ ที่ตงั้ ของสถานท่ีอีกแหง่ ซึ่งอาจารยต์ อ้ งพานกั ศึกษาแพทย์ปี ๑ ไป เยย่ี มชมในชว่ งปฐมนเิ ทศ อาคารขนาดใหญห่ ลงั นนั้ เปน็ สถาปตั ยกรรมในยคุ หลงั เปลย่ี นแปลง การปกครอง หนา้ ตาแบบเดยี วกับอาคารศาลฎีกาตรงสนามหลวง เพียง แต่ย่อส่วนลงมาเกือบสองเท่าตัว บันไดปูนกว้างด้านหน้าทอดยาวขึ้นไป ยังตัวตึกท่ีมีเสากลมใหญ่ค�้ำยันหน้าจั่วทั้งสองข้าง ด้านบนมีอักษรโลหะ ลอยตวั สไตลอ์ ารต์ เดโกเปน็ ขอ้ ความวา่ ‘ตกึ ทา่ นผหู้ ญงิ บษุ บา มาลยั ภริ มย’์ ถัดลงมาเหนือประตูทางเข้าเป็นป้ายทองเหลืองสลักช่ือ ‘พิพิธภัณฑ์ นิติเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ก่อตั้งพทุ ธศักราช ๒๕๒๙’ ฉันเดินตามหลังกลุ่มนักศึกษาปี ๑ เข้าไปภายในตึก ทันทีที่ก้าว ผ่านประตู ความเย็นยะเยือกท่ีซ่อนเร้นอยู่ในอาคารเก่าแก่แห่งน้ันก็แผ่ กระจายออกมา เป็นความเย็นท่ีทะลุช้ันอากาศร้อนอบอ้าวของยามบ่าย ความเย็นชนดิ ทส่ี มั ผสั ปรกตขิ องคนปรกติท่ัวไปไม่อาจรู้สกึ ได้ แตส่ �ำหรับ
40 F RESHY รุ่ น น้ อ ง คนมีสัมผัสพิเศษอย่างฉัน มันหนาวสะท้านราวกับเดินเข้าไปในห้องเย็น เลยทเี ดียว ภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งเป็นห้องหลายห้อง ห้องแรกแสดงประวัติ ของวชิ านติ เิ วชวทิ ยาในยคุ เรมิ่ แรกของเมอื งไทยตง้ั แตม่ กี ารนำ� วทิ ยาศาสตร์ เข้ามาพิสูจน์หาสาเหตุการตาย ตรงกลางห้องมีเตียงเหล็กเก่าๆ พร้อม อุปกรณ์ผ่าศพวางเรียงราย ฉันเห็นมีดผ่าตัดและเล่ือยตัดกระดูกหลาย ขนาด รวมทง้ั ถาดโลหะใส่อวัยวะภายในขนาดใหญ่วางโชว์ไว้ให้ดู ถัดเข้าไปด้านในแบ่งเป็นหลายห้อง แต่ละห้องจัดแสดงช้ินส่วน มนุษย์ทด่ี องไวใ้ นโหลเพอื่ ศกึ ษา ทัง้ อวยั วะภายในจำ� พวกตับ หวั ใจ มา้ ม ปอด ลำ� ไส้ เรอ่ื ยไปจนถึงอวัยวะภายนอกเช่น ข้อมือทถ่ี ูกตัด ลูกตา และ เสน้ ประสาททถ่ี กู เลาะออกมาโชวร์ าวกบั สายไฟในอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์ รวมท้ังตวั อ่อนเด็กท่ีตายในครรภ์ก่อนจะมีโอกาสลมื ตาดูโลก แต่ที่น่าสยดสยองท่ีสุดก็คือ ศีรษะมนุษย์ถูกผ่าเพื่อแสดงให้เห็น หน้าตัดของมันสมอง หัวท่ีมีเพียงซีกซ้ายซีกเดียว ลืมตาโพลงจ้องผ่าน โหลแก้วออกมา “อ!๋ี น่ากลัวเนอะ หัวผู้หญิงซะด้วยส”ิ ยยั ขา้ วฟ่างหันมากระซบิ กบั ฉัน ก่อนย่นื หนา้ เขา้ ไปอา่ นป้ายค�ำอธิบายทตี่ ดิ อยบู่ นชัน้ ข้างๆ โหล “โห! ในน้ีบอกว่าผู้หญิงคนนี้เป็นเหย่ือฆาตกรรมเม่ือสี่สิบกว่าปี มาแล้ว ถูกแฟนหลอกไปฆ่าแล้วตัดหัวไปท้ิงอีกที่นึง หวาย!...หยดหยอง นา่ ดเู ลย นายว่ามั้ย!” ฉันไม่ได้ตอบอะไร เพราะก�ำลังสนใจกับสารพัดกล่ินรอบๆ ตัวท่ี เร่ิมไหลบ่าเข้ามาสู่ประสาทสัมผัส เหมือนระดับน้�ำที่ค่อยๆ เอ่อท้นขึ้น ทีละนดิ กวา่ จะรูต้ วั มนั ก็ท่วมนองไปทั้งหอ้ งแลว้ กล่ินแรกท่ีชัดเจนสุดคือกลิ่นน�้ำยาดองศพ! กล่ินของสารเคมีท่ี พยายามหยุดยั้งการเน่าเปื่อยผุพังของร่างกายมนุษย์ท่ีส้ินอายุขัย เป็น กลนิ่ แหง่ การตอ่ สเู้ พอื่ เอาชนะกฎอนจิ จงั ในประวตั ศิ าสตรอ์ นั ยาวนาน นบั แต่ยุคอยี ิปต์โบราณ จนี มายา ฯลฯ เรอ่ื ยมาจนถึงปัจจุบัน ดว้ ยความหวัง
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ที่ ย ง 41 วา่ จะรกั ษาชีวติ หลงั ความตายให้เป็นอมตะช่วั นริ ันดร์ แต่สุดท้ายมันก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามนุษย์พ่ายแพ้ต่อธรรมชาติ เสมอ ฉนั เคยดหู นงั สารคดโี ชวซ์ ากมมั มแี่ หง้ ๆ ของกษตั รยิ ต์ ตุ นั คามนุ แหง่ อียปิ ต์ แลว้ กค็ ดิ ว่า ถา้ ชวี ิตอมตะหมายถึงตายแล้วตอ้ งกลายเป็นปลาเค็ม แบบนั้น กูยอมเน่าเปื่อยไปตงั้ แต่หลายพนั ปีกอ่ นดีกวา่ กลนิ่ ถดั มามปี รมิ าณมหาศาล มนั คอื กลนิ่ จากปฏกิ ริ ยิ าของจลุ นิ ทรยี ์ ทก่ี �ำลงั ยอ่ ยสลายศพ ลึกลงไปภายใต้กลิ่นฟอร์มาลินอันเขม้ ข้น คอื ความ พยายามของพืชและสัตว์ท่ีเล็กจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า พวกมันก�ำลัง หาทางบุกทะลวงเข้าไปยังเนื้อเยื่อเพ่ือย่อยสลายตามหน้าที่ในห่วงโซ่ อาหาร แมจ้ ะตอ้ งใชเ้ วลาเนน่ิ นานแคไ่ หน แตพ่ วกมนั กไ็ มเ่ คยทอ้ ถอย และ วนั หน่ึงพวกมันจะชนะในท่สี ุด กลิ่นสุดท้ายคือที่มาแห่งความเย็นยะเยือกท่ีฉันสัมผัสได้ตั้งแต่ เหยยี บยา่ งเข้ามา... กลิ่นวญิ ญาณที่ยงั หลงเหลอื อยู่ในอวยั วะแหวง่ วิ่นเหล่านน้ั ! ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ การได้กลิ่นวิญญาณของฉันโดย ทว่ั ไปกเ็ หมอื นกบั การเดนิ สวนไปมากบั ผคู้ นบนถนน บางคนเรากม็ องเหน็ เพราะเข้ามาในระยะสายตา บางคนเรากไ็ ม่เหน็ หรือเหน็ เป็นเพียงภาพ เบลอๆ เพราะอยู่หา่ งออกไป หรอื บางทีเราก็ไมท่ นั สงั เกตเหน็ แต่กล่ินวิญญาณท่ีฉันสัมผัสได้ในขณะนี้ เปรียบเหมือนการมอง เห็นชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์เคลื่อนไหวไปมาต่อหน้าต่อตา ยกตัวอย่างเช่น ตรงมุมน้ันมีแขนข้างหน่ึงก�ำลังคืบคลานกระด้ืบๆ อยู่บนพ้ืน ด้านหลังมี หวั คนกลง้ิ หลนุ ๆ ตรงเขา้ มา ข้างๆ มลี กู ตาคู่หนึ่งจอ้ งมองมาอย่างเงยี บๆ แถมยงั มเี ครอื่ งใน ตบั ไตไสพ้ งุ ลอยเพน่ พา่ นไปมาราวกบั ผกี ระสอื ทง้ั หมด นี้รวมกันเป็นกล่นิ ผดิ ปรกตทิ ่ีไม่ตอ้ งใชค้ วามพยายามก็สมั ผัสไดท้ นั ที เศษเส้ียวอันแหว่งวิน่ ของวญิ ญาณพกิ ลพกิ ารเหล่าน้ัน กอ่ เกิดเป็น กลิ่นอันชวนสยดสยอง เคลอื่ นไหวเควง้ คว้างไร้ทิศทางเหมือนคนตาบอด บางครง้ั ก็ลอยมาปะทะท่หี น้าฉนั เต็มๆ จนแทบผงะ บางทกี ็รสู้ ึกถึงสัมผสั
42 F RESHY รุ่ น น้ อ ง ของน้วิ มอื เล็กๆ เย็นๆ ไตไ่ ปมาตามแขนขา... มนั นา่ ขนลกุ ไหมล่ะ! “หมอ่ น! นายโอมัย้ ! หนา้ ซีดมากเลยอะ้ ไมส่ บายรึเปล่า” เสียงร้องทักปลุกฉันต่ืนจากมิติวิญญาณท่ีซ้อนทับอยู่บนโลก ปจั จบุ นั พอหนั ไปมองรอบๆ กไ็ มม่ ีใครอยตู่ รงนนั้ แลว้ เหลอื แตย่ ยั ขา้ วฟา่ ง ยนื จ้องหนา้ ฉนั อยคู่ นเดียว “เออ้ !...เปล่า ไมไ่ ดเ้ ป็นอะไร” ฉันตอบเสยี งสนั่ เล็กน้อย “อาจารยพ์ าคนอนื่ ไปห้องข้างในกนั หมดแลว้ รบี ตามไปเหอะ” ฉันเดินตามขา้ วฟา่ งไปอย่างมนึ ๆ พลางคิดว่ากลิน่ วญิ ญาณไม่สม ประกอบเหลา่ นนั้ พยายามสอื่ สารอะไรกับฉัน หรือบางทีพวกเขาอาจไมม่ ี พลังงานพอจะสื่อสารได้เหมือนวิญญาณคนตายแบบเต็มตัว คล้ายกับ อะไหล่รถยนต์ท่ีถูกถอดออกเป็นชิ้นๆ หากไม่ได้รับการประกอบขึ้นเป็น รถยนตเ์ ตม็ คนั กไ็ มส่ ามารถวง่ิ ไปมาได้ พลงั งานแหวง่ วน่ิ เหลา่ นน้ั คงกำ� ลงั เฝ้ารอชน้ิ สว่ นท่ขี าดหายไป เพอื่ ประกอบกลับคืนเปน็ วิญญาณทสี่ มบูรณ์ อีกครง้ั “ทีเ่ ห็นอยู่ตรงหน้าพวกเธอ คือไฮไลตข์ องพิพิธภณั ฑ์นีเ้ ลยนะ” เราสองคนก้าวเข้าไปในห้องขนาดใหญ่ด้านในสุด ได้ยินเสียง อาจารย์บรรยายให้นักศึกษาที่ยืนจับกลุ่มอยู่รอบๆ ฟัง เห็นตู้กระจกใส ใบหน่ึงสูงประมาณห้าฟุตตั้งอยู่ตรงกลางห้อง กรอบนอกท�ำด้วยไม้สัก ลงแล็กเกอรส์ นี ้�ำตาลเข้ม ความเกา่ ของเน้อื ไมบ้ ง่ บอกอายุของตู้วา่ นา่ จะ อยูม่ านานแลว้ แตส่ ่ิงทอี่ ยู่ในต้ตู ่างหากทสี่ ะกดสายตาและลมหายใจของ ทกุ คน ท้ังหอ้ งเงยี บกรบิ ไปชว่ั ขณะ “ขอแนะน�ำให้รู้จกั นายซนุ่ ไช้ แซ่เฮ้ง เจา้ ของฉายา ‘มนุษยก์ ินคน แหง่ นครปฐม’ ” เสยี งทุ้มๆ ของอาจารยท์ �ำลายความเงยี บขน้ึ ในจังหวะท่ี พอดีเป๊ะ ราวกบั ฉากในหนังผหี ลงั จากเสียงดนตรีสะดุดลง “พวกเธอคงเกิดไม่ทัน แต่เชื่อว่าบางคนน่าจะเคยได้ยินมาบ้าง คดีน้ีโดง่ ดงั มากเมอื่ ประมาณสีส่ บิ กวา่ ปีกอ่ น ตอนเด็กๆ อาจารย์เคยถูก
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ท่ี ย ง 43 ผปู้ กครองข่วู ่า ถ้าไมห่ ยุดงอแงจะใหน้ ายซุน่ ไชจ้ ับไปกนิ ตบั เด็กสมัยนน้ั กลัวกันมาก เพราะนายซุ่นไช้คือฆาตกรต่อเนื่องที่ชอบจับเด็กไปผ่าท้อง ควักเคร่อื งในมากนิ สดๆ” นักศกึ ษาใหม่ส่งเสียงฮอื ฮา ชะโงกมองไปทต่ี ู้กระจกพรอ้ มกนั รา่ งผอมแห้งเหมอื นซากมัมมี่ยืนเปลอื ยกายอยู่ในตู้ ศพนายซุ่นไช้ ถกู สตฟั ฟแ์ ละตรงึ ดว้ ยแกนเหลก็ ดามหลงั ไวเ้ พอื่ ใหท้ รงตวั อยไู่ ด้ ฉนั สงั เกต เห็นเทา้ ศพลอยเหนือพ้ืนเลก็ นอ้ ย “เข้ามาดูใกลๆ้ สิ ไมต่ ้องกลวั อกี หน่อยพวกเธอกต็ อ้ งเจอศพของ จริงกนั แล้ว ฝกึ ให้คนุ้ เขา้ ไว”้ อาจารย์พดู เหมือนเป็นเรอ่ื งธรรมดาท่ีใครๆ กต็ อ้ งเจอ ส�ำหรับนกั ศึกษาแพทย์แล้ว ศพมนษุ ยค์ ือด่านวัดใจด่านแรกที่ ทุกคนต้องผ่านไปให้ได้ ไม่งน้ั คงเรยี นไม่จบ ฉันขยับตัวตามคนอื่นเข้าไปมุงดูใกล้ๆ ร่างน้ันเล็กนิดเดียวจนดู ไมน่ า่ เชอ่ื วา่ จะฆา่ ใครได้ แตอ่ าจจะเพราะถกู ดองไวน้ านจนทำ� ใหข้ นาดของ ศพหดตัวลง เหมือนหัวไช้โป๊ท่ีแห้งฝ่อ ศีรษะของศพใกล้เคียงกับหัว กะโหลกมากกว่า แก้มตอบลึก ริมฝีปากเผยอเห็นฟันหน้าสองสามซ่ียื่น เหยนิ ออกมา สภาพฟนั ไมส่ มบรู ณน์ กั มรี อยบน่ิ หลายแหง่ ดวงตาหรป่ี รอื แบบคนนอนหลับตาไม่สนิท ตาด�ำท่ีเห็นเพียงคร่ึงเดียวจ้องผ่านกระจก มองผู้มาเยือนทรี่ ายลอ้ มอยรู่ อบตู้ “นายซุ่นไช้ถูกจับได้หลังจากสังหารเด็กไปแล้ว ๔๔ คน เหย่ือ ทกุ รายถกู ผา่ ทอ้ งอยา่ งโหดเหย้ี ม อวยั วะภายในสว่ นใหญห่ ายไป โดยเฉพาะ ตบั ” เสยี งซบุ ซบิ ดงั รวั ๆ กอ้ งไปมาในหอ้ งจดั แสดง แตฉ่ นั กลบั ไมไ่ ดย้ นิ อะไรเลย ยกเว้นเสียงหนึ่ง แรกสุดเสียงน้ันแผ่วเบาจนแทบสังเกตไม่ได้ ฉันต้องหลบั ตาลง เพง่ สมาธไิ ปทเี่ สยี งนั้น แยกมันออกจากเสียงรบกวน อื่นๆ สัมผัสพเิ ศษของฉันท�ำงานเต็มที่ ในท่ีสดุ ก็ได้ยนิ เสยี งน้นั ชัดเจน... ตึบ!...ตบึ !...ตึบ!... เสยี งทบึ ๆ คลา้ ยมีใครพยายามทบุ กระจกจากภายในตู้ เรมิ่ แรกดงั
44 F RESHY รุ่ น น้ อ ง ห่างๆ จากน้ันก็กระชั้นถี่ข้ึนเรื่อยๆ ฟังราวกับว่ากระจกก�ำลังจะปริแตก ออกในวนิ าทีใดวินาทีหน่ึงข้างหน้า ตบึ !...ตบึ !...ตึบ!...ตบึ !...ตึบ!...ตึบ!...ตึบ!... ฉันรีบลืมตาขึ้น ทุกอย่างปรกติ ศพนายซุ่นไช้ยังคงยืนนิ่งในตู้ เหมอื นไมม่ อี ะไรเกดิ ขน้ึ แตเ่ สยี งทบุ กระจกยงั ดงั ตอ่ เนอ่ื งในโสตประสาท จนกลบเสียงอาจารย์ทีก่ ำ� ลังบรรยายไปหมด และแล้วฉันก็ได้ยินอีกเสียงหนึ่งซ้อนทับกับเสียงทุบกระจก ฟัง เหมอื นเสยี งหอบหรอื เสยี งคนกำ� ลงั ไอโขลกๆ จากหลอดลมทอี่ อ่ นลา้ ผา่ น ลมหายใจสุดทา้ ยท่กี ำ� ลงั ขาดห้วง ตามดว้ ยเสยี งดงั ฟ้ีๆ เหมอื นเสยี งลมที่ รั่วจากลอ้ จักรยาน เมือ่ มองส�ำรวจหาท่ีมาของเสียง ฉนั กพ็ บคำ� ตอบ... บนหนา้ อกของศพมรี กู ลมๆ ขนาดเทา่ หวั ปากกาประดบั อยหู่ า้ รู มนั คอื รกู ระสนุ มรณะทปี่ ลดิ ชพี นายซนุ่ ไชจ้ ากคำ� พพิ ากษาโทษขน้ั สงู สดุ เสยี ง ที่ได้ยนิ มาจากรูเหล่านนั้ เสยี งลมรัว่ จากปอดที่ฉกี ขาดดว้ ยกระสุนปนื ฉันได้กล่ินแปลกๆ เหมือนอะไรบางอย่างถูกเผาไหม้จนเกิดเป็น กล่นิ หอมเอียนชวนคลืน่ เหยี น แต่เมื่อลองสัมผัสลึกลงไปใตช้ ัน้ กล่ิน ก็ พบอีกกล่ินหน่ึงจากศพผู้ถูกเรียกว่าฆาตกรต่อเนื่อง กล่ินท่ีฉันคุ้นเคย เปน็ อย่างดี และเช่อื ว่าจะมอี ีกมากมายบนโลกใบน.้ี .. มนั คอื กลน่ิ ความทกุ ขท์ รมานของวญิ ญาณทต่ี ายโดยไมไ่ ดร้ บั ความ เปน็ ธรรม
๐๐๕ ตีสองคืนนั้นในหอพัก ยัยข้าวฟ่างรูมเมตของฉันหลับไปตั้งแต่ หา้ ทมุ่ แลว้ เดก็ อนามยั จรงิ ๆ ยยั นี่ ผดิ กบั ฉนั ทยี่ งั ตาสวา่ งราวกบั ซดั กระทงิ แดงไปทเี ดียวสองขวดรวด ไฟในหอ้ งปดิ มดื สนทิ ฉนั เออ้ื มมอื คลำ� หาโนต้ บกุ๊ จากกระเปา๋ เป้ใต้ เตยี ง เอาผา้ หม่ คลมุ หวั แลว้ หนั หนา้ เขา้ ขา้ งฝากอ่ นจะเปดิ เครอื่ งเพอื่ ไม่ให้ แสงจากหนา้ จอไปรบกวนการนอนของยยั รูมเมต ฉนั ท�ำแบบนต้ี ้ังแต่เปน็ เดก็ ประจำ� ในโรงเรยี นคอนแวนต์ จนติดนสิ ัยมาถงึ ทุกวันน้ี ส่ิงแรกท่ีท�ำคือเข้าเฟซบุ๊กไปเย่ียมเพจโปรดของฉัน ฟรีวาย-ฟาย ของหอพักช้าจนฉันเกือบหลับขณะรอให้หน้าเพจฟีดขึ้นมาทีละนิด รูป Cover ท่ีคุ้นเคยปรากฏอย่างเชื่องช้า กว่าจะเห็นเป็นภาพคนโปร่งแสง ลอยอยู่บนฉากหลังสดี �ำพร้อมขอ้ ความ... วิญญาณ : พลังงานทไี่ รร้ า่ ง ฉนั ยมิ้ เมอื่ เหน็ รปู โปรไฟลข์ องแอดมนิ เพจโผลข่ น้ึ ทม่ี มุ ซา้ ย ใบหนา้
46 F RESHY รุ่ น น้ อ ง ลายเสน้ ขาวดำ� ของชายหนมุ่ ซง่ึ ถา้ ลองซมู ดใู กลๆ้ จะเหน็ วา่ มนั ประกอบขนึ้ จากภาพวาดปีศาจสามตัว น่ีคือโฉมหน้าของแอดมินผู้ลึกลับ เจ้าของ นามแฝง 21 GRAMS แอดมิน น่ีฉันเอง อยู่หรือเปล่า ลองคลิกตรงกล่องข้อความแล้วพิมพ์ทักไป ระหว่างรอตอบกลับ ฉนั กเ็ ลอ่ื นหนา้ ไทม์ไลน์ไลด่ สู เตตสั ทเ่ี ขาโพสตท์ งิ้ ไว้ อนั ลา่ สดุ เพง่ิ อปั เมอื่ คนื ตอนตสี ามสบิ หา้ ชว่ งนฉ้ี นั มวั แตย่ งุ่ เรอ่ื งยา้ ยทอี่ ยแู่ ละปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ชวี ติ นกั ศึกษาใหม่ จงึ ไม่มเี วลามาอัปเดตเพจโปรดน้ีเลย ภาพประกอบของโพสตเ์ ปน็ ภาพถา่ ยขาวดำ� ของฝา่ มอื ขา้ งขวา เหน็ แสงหรอื รศั มอี ะไรสกั อยา่ งพงุ่ ออกจากปลายนว้ิ เปน็ รา่ งแหเหมอื นกระแส ไฟจากฟา้ ผา่ ฉันหยบิ แว่นมาใส่เพ่ืออา่ นขอ้ ความทบี่ รรยายใตภ้ าพ...
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ท่ี ย ง 47 ภาพถา่ ยเคอรเ์ ลยี น (Kirlian photography) ไดร้ บั การคน้ พบโดย นาย เซมยอน เคอรเ์ ลยี น (Semyon Kirlian) ในปี ค.ศ.๑๙๓๙ เปน็ เทคนคิ การสรา้ งภาพถา่ ยของวตั ถโุ ดยใชก้ ระแสไฟฟา้ แรงสงู สง่ ผา่ นแผน่ ฟลิ ม์ เปน็ ระยะเวลาสั้นๆ ไปยังแผ่นเหล็ก ท�ำให้เกิดภาพปรากฏการณ์โคโรนา ระหว่างวตั ถุกบั แผ่นเหล็ก ถา่ ยทอดลงบนฟิลม์ ท่อี ยู่ระหวา่ งกลาง ภาพถา่ ยเคอรเ์ ลยี น เปน็ ประเดน็ ในการถกเถยี งระหวา่ งวทิ ยาศาสตร์ กระแสหลัก และการวิจัยทางดา้ นปรจติ วทิ ยา (parapsychology) ภาพประกอบถัดมาเป็นภาพถ่ายใบไม้หลายแฉกรูปทรงคล้ายใบ เมเปลิ้ เห็นรังสแี ผ่กระจายออกจากรอบๆ ขอบใบ มกี ารทดลองโดยใช้ใบไม้ทีเ่ ด็ดจากต้นสดๆ แลว้ ถา่ ยทนั ที เรายัง สามารถเห็นโคโรนาชัดเจน จากน้ันก็ใช้กรรไกรตัดกลางใบแล้วถ่าย อกี ครั้ง ภาพท่ีได้สร้างความตกตะลึงใหแ้ ก่วงการวทิ ยาศาสตร์มาก...
48 F RESHY รุ่ น น้ อ ง ภาพประกอบอกี รปู เปน็ ภาพถ่ายใบไม้ถกู ตัดคร่งึ ปรากฏว่าส่วนที่ ถกู ตดั ไปยังคงมีแสงโคโรนาฟอร์มตัวเป็นรปู ใบไม้เต็มใบ เพียงแตจ่ างลง กวา่ โคโรนารอบๆ ใบสว่ นทีเ่ หลืออยู่ แตเ่ มอ่ื ใชใ้ บไมใ้ บเดมิ ถา่ ยซำ�้ ไปเรอ่ื ยๆ ความเขม้ ของแสงจะคอ่ ยๆ ลดลงตามเวลาจนกระทัง่ หายไปในท่ีสดุ การทดลองน้ีเผยให้เห็นส่ิงที่เรียกว่า พลังงานชีวิตของใบไม้ ถึง แมว้ า่ สว่ นทป่ี ระกอบกนั เปน็ เนอ้ื เยอ่ื ของมนั จะสญู หายไปแลว้ แตพ่ ลงั งาน ทเ่ี คยเคลอื่ นไหวอยภู่ ายในเนอื้ เยอื่ เหลา่ นนั้ ยงั คงอยู่ในรปู ทรงเดมิ ชว่ั ขณะ หนึ่ง เพียงแตเ่ รามองไมเ่ หน็ ด้วยตาเปล่า
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ท่ี ย ง 49 ฉันจ้องมองดูภาพถัดมาอีกสองภาพ เห็นโคโรนาของใบไม้ส่วนท่ี ถกู ตดั ขาดค่อยๆ จางลงจนเหลอื เพียงความมืดมิดของฉากด�ำดา้ นหลงั “ง้นี ่ีเอง!” ฉันเข้าใจแล้วว่า เหตใุ ดวิญญาณจงึ มีรูปทรงเหมือนตอนมชี ีวติ อยู่ เพราะพลังงานท่ีเป็นวิญญาณพยายามจ�ำลองรูปร่างและสภาพสุดท้าย กอ่ นตาย และนั่นคือสาเหตุท่ีวิญญาณของผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือถูก ฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม มักจะมาปรากฏในสภาพเลือดท่วมตัว หรือ วิญญาณผีหัวขาดของคนที่ถูกประหารชีวิตด้วยการตัดหัว คนที่มี ประสบการณเ์ หน็ วญิ ญาณมกั จะเลา่ เหมอื นกนั วา่ เหน็ ผหี วั ขาดเดนิ ถอื หวั ตัวเองไปมา น่ันแสดงว่าหวั ที่ถกู ตดั ยงั อยู่ใกล้ๆ กับส่วนล�ำตัว หรอื อาจจะ ถกู ฝงั ในหลมุ เดยี วกนั ถ้าง้ันจะเกิดอะไรขึ้นกับวิญญาณของชิ้นส่วนอวัยวะที่ถูกช�ำแหละ แลว้ แยกกนั ไปไวค้ นละที่ เหมือนทีฉ่ ันเจอในพพิ ิธภัณฑน์ ิติเวชวทิ ยา... วญิ ญาณพวกนนั้ คงพยายามตามหาชน้ิ สว่ นทเี่ หลอื ใหพ้ บ ไมเ่ ชน่ นน้ั แล้วพวกเขาก็จะกลายเป็นวิญญาณไมส่ มประกอบไปตลอดกาล ยังไม่ทันคิดอะไรต่อ เสียงเตือนว่ามีข้อความตอบมาก็ดังขึ้น ฉัน รบี คลกิ เข้าไปดใู นอินบอ๊ กซ์ทนั ที...
50 F RESHY รุ่ น น้ อ ง สวัสดี 21 GRAMS ตอบกลับมาด้วยลลี านิ่งๆ เหมอื นเคย ขณะท่ฉี นั ดีใจ จนแทบลุกข้ึนว่ิงรอบหอพัก โลกใหม่ในมหาวิทยาลัยของฉันเต็มไปด้วย คนแปลกหนา้ ท่ีไมเ่ คยรจู้ กั กนั มากอ่ น อยา่ งนอ้ ยการไดค้ ยุ กบั คนคนุ้ เคยก็ ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง แม้จะไม่แน่ใจว่าแอดมินท่ีฉันก�ำลังคุยด้วยจะใช่คน หรือเปลา่ กเ็ หอะ แอดมิน ฉันอยากร้วู า่ อะไรเป็นสาเหตใุ ห้พลังงานหลังความตาย ของสง่ิ มชี ีวิตบางอยา่ งยงั คงอยู่ แตบ่ างอยา่ งกลบั สูญสลายไป เงียบไปพักใหญ่ๆ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาอ้ึงกับค�ำถามพิสดารของ ฉัน หรือเพราะเน็ตมนั อืดกนั แน่ ผา่ นไปประมาณหายใจเข้าออกสบิ ครงั้ ขอ้ ความจงึ เด้งขึน้ มา เธออ่านโพสตล์ า่ สุดหนา้ เพจหรือยงั อ่านแล้ว คำ� ตอบอยใู่ นน้นั ยังไง ไม่เขา้ ใจ อธบิ าย เหน็ รปู ใบไม้ทถ่ี กู ตดั ขวางน่นั ไหม
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ที่ ย ง 51 เหน็ ...ที่รปู ถัดไปแสงโคโรนาของมัน จะค่อยๆ จางลงเรอ่ื ยๆ ใช่ไหม นัน่ แหละคอื คำ� ถามของฉัน ท�ำไมวญิ ญาณของใบไมจ้ ึงคอ่ ยๆ สลายไป ขณะท่ีวิญญาณของมนษุ ย์ กลบั ไม่ยอมสูญสลายง่ายๆ นิ่งไปอีกประมาณสามสิบกะพริบตา สงสัยคงก�ำลังพยายาม รวบรวมคำ� ตอบสำ� หรับคำ� ถามของฉนั แล้วกจ็ ริงดังคาด ข้อความทต่ี อบ กลับมายาวเหยยี ดราวกับบทความทางวิชาการ... เพราะเปา้ หมายของพชื มีเพยี งขอ้ เดียว กค็ อื การมชี ีวติ รอด หากปราศจากชีวติ แล้ว พวกมันกไ็ ม่มเี ปา้ หมายทจ่ี ะดำ� รงอยูอ่ กี ต่อไป... แต่เป้าหมายของมนุษยซ์ บั ซอ้ นกว่ามาก แมจ้ ะตายไปแล้ว มนษุ ยก์ ็ยงั มีความหวงั ในการด�ำรงอยู่ ไมว่ า่ ในสถานะอะไร กอ่ นตาย มนษุ ย์ทกุ คนยงั หวังเสมอวา่ วันหนึง่ ตัวเองจะฟ้นื คนื ชีพกลบั มา หรืออย่างน้อยกเ็ ชอ่ื วา่ จะไดไ้ ปเกดิ ใหมใ่ นโลกหนา้ ...
52 F RESHY รุ่ น น้ อ ง วิญญาณของมนุษย์จงึ ควบแนน่ เปน็ พลังงานเข้มข้น ที่ไมย่ อมสญู สลายไปง่ายๆ เหมอื นสิ่งมชี วี ิตอ่นื ๆ ฉันเหลือบมองภาพประกอบรูปใบไม้ตัดขวางท่ีเขาพูดถึง แสง เรืองๆ ทีย่ งั ฟอรม์ ตัวเปน็ ใบไมส้ ่วนท่ีหายไป สะกด สายตาฉนั ใหจ้ อ้ งอยู่ อยา่ งน้ัน... นอี่ าจเปน็ หลกั ฐานทางวทิ ยาศาสตรเ์ พยี งชน้ิ เดยี วทพ่ี สิ จู นอ์ ยา่ งเปน็ รูปธรรมว่า...วญิ ญาณมีจรงิ !
๐๐๖ “อ้าว!...หมอ่ น ทำ� ’ไรอยู่ ไม่หลบั ไม่นอน” ยัยหมวยแว่นรูมเมตร่วมห้องต่ืนมาตอนตีส่ี ตกใจท่ีเห็นฉันน่ัง คลุมโปงอยู่ในความมืดราวกับผีผ้าห่ม หล่อนยังเรียกชื่อเล่นฉันผิด เหมือนเดมิ แตต่ อนน้ีฉันข้ีเกียจท้วงแลว้ ปลอ่ ยเลยตามเลยละกนั “ทำ� ไมตืน่ เชา้ จงั ” ฉันถามกลบั ตายังคงจอ้ งมองท่ีจอโน้ตบุ๊ก ข้าวฟ่างลุกนั่งขยี้ตาบนเตียงก่อนคว้าแว่นมาสวม หล่อนอยู่ใน ชดุ นอนสเี ขยี วออ่ นพมิ พล์ ายใบไมท้ ง้ั เสอ้ื และกางเกงขายาวเขา้ ชดุ กนั สม กบั เป็นพวกรกั ษ์โลกกระท่ังตอนหลับ “ออ๋ ! เราฝึกใหต้ วั เองต่นื เชา้ แบบนมี้ าตั้งแต่ตอนเรียนประถมแลว้ เราต้ังเป้าไว้ว่าจะต้องเป็นหมอให้ได้ เลยต้องหัดเข้านอนเร็วและต่ืนแต่ เชา้ มืด เพราะหมอเป็นอาชพี ทตี่ อ้ งตนื่ กอ่ นใครเพอ่ื เข้าเวรตอนเชา้ ใหท้ นั ถ้านอนนอ้ ยแบบนาย ประสทิ ธภิ าพในการทำ� งานจะลดลง ท�ำใหว้ นิ ิจฉัย โรคผิดพลาดได”้ ตน่ื มากจ็ อ้ ยาวเลย ฉนั ถอนใจ รำ� คาญทห่ี ลอ่ นมารบกวนการพดู คยุ กับแอดมนิ ซึ่งก�ำลงั เข้าประเด็นส�ำคัญพอดี
54 F RESHY รุ่ น น้ อ ง “แลว้ ไมน่ อน ทำ� ’ไรอะ้ ทง้ั คนื ” ขา้ วฟา่ งขมวดควิ้ พลางมองลอดแวน่ เหมือนผู้ใหญ่ต�ำหนิเด็ก ในสายตาหล่อน เราสองคนคงเป็นสัตว์คนละ สปีชสี ์กนั ถ้าหล่อนเปน็ นกที่ออกหากินแตเ่ ชา้ ฉนั ก็คงเป็นค้างคาวที่ออก หากนิ ตอนกลางคืน “ไมม่ ี’ไร ทอ่ งเน็ตไปเรือ่ ยเปือ่ ย” ยัยรูมเมตส่ายหัวเหมือนไม่เข้าใจพฤติกรรมของฉัน ก่อนลุกจาก เตยี งไปเขา้ หอ้ งนำ�้ ฉนั รบี คลกิ เขา้ ไปในกลอ่ งขอ้ ความ พมิ พค์ ำ� ถามสำ� คญั ท่อี ยากถามลงไป... แอดมินเคยได้ยินคดี ‘นายซนุ่ ไช้ แซ่เฮง้ ’ ไหม ฉนั เดาเอาวา่ แอดมนิ ซงึ่ นา่ จะอยู่ในวยั กลางคนตอ้ งเคยไดย้ นิ เรอื่ งนี้ มาบา้ ง ขนาดฉนั ยังคุ้นชื่อ เพยี งแต่ไม่รูร้ ายละเอยี ดมากไปกว่าทอ่ี าจารย์ บรรยายให้ฟงั เจา้ ของฉายา ‘มนุษยก์ ินคนแหง่ นครปฐม’ เขาตอบกลับมาแทบจะทันที พอจะสรุปประวัตยิ ่อๆ ของนายซนุ่ ไช้ใหฟ้ ังได้ไหม ฉนั รอ้ งขอราวกบั เขาเปน็ กเู กลิ หรอื วกิ พิ เี ดยี งนั้ แหละ เอาจรงิ ๆ ฉนั เสิร์ชหาทุกอย่างจากอินเทอร์เน็ตได้เองอยู่แล้ว แต่ข้อมูลในน้ันใช่ว่าจะ เชอ่ื ถอื ไดเ้ สมอไป มวั่ เสยี กเ็ ยอะ แลว้ อกี อยา่ ง...ในเมอ่ื ฉนั มแี อดมนิ ทฉ่ี ลาด แสนรไู้ ปหมดทกุ เรอ่ื งเปน็ ผชู้ ว่ ยทงั้ คน จะเสยี เวลาไปคน้ เองทำ� ไมใหเ้ มอื่ ย
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ท่ี ย ง 55 มือเปล่าๆ ล่ะ 21 GRAMS เงียบไปนานจนฉันเรม่ิ หาว การอดนอนมาท้ังคืนเริ่ม ส่งผล หลังจากรออยู่ประมาณห้านาที กล่องขอ้ ความกเ็ ด้งข้ึนมาเป็นพดื ไม่ยอมหยุด ราวกับเหรียญท่ีไหลออกจากตู้ปาจิงโกะตอนที่มีใครท�ำ แจ็กพอตแตก... นายซุน่ ไช้ แซเ่ ฮง้ เกิดเมอื่ พ.ศ. ๒๔๗๘ ที่เมอื ง ซวั เถา ในครอบครัวชาวนาท่ยี ากจน ตอนอายุ ๑๖ ปี เขาถูกเกณฑ์ไปเปน็ ทหารในกองทัพกก๊ มนิ ต๋ัง พ.ศ. ๒๔๙๕ หลงั จากคอมมวิ นสิ ตย์ ึดประเทศจนี ไดแ้ ล้ว กองพล ๙๓ หนว่ ยรบท่นี ายซนุ่ ไชส้ งั กัดถูกตถี อยร่น จากมณฑลยนู นานลงมาจนถึงบริเวณสามเหลีย่ มทองค�ำ กอ่ นจะลภี้ ัยเขา้ สชู่ ายแดนไทยท่ีแถบดอยแมส่ ลอง เป็นเวลาหลายปีทนี่ ายซนุ่ ไช้ตอ้ งเผชิญกบั ความล�ำบากตลอดเสน้ ทางการหลบหนี เขาอดอยากถงึ ข้ันต้องกินเนอื้ จากศพเพือ่ นทหาร หลังจากไดล้ ิ้มรสเนอ้ื มนุษย์เปน็ ครงั้ แรก เขาก็เกดิ ตดิ ใจตัง้ แตน่ นั้ มา พ.ศ. ๒๕๐๖ นายซ่นุ ไชต้ ดั สนิ ใจหนีทหาร ลักลอบเข้ามาในประเทศไทย เปน็ กุลที ำ� สวนผกั ในจังหวัดนครปฐม สามปีตอ่ มา นายซ่นุ ไชก้ ก็ ่ออาชญากรรมเปน็ ครงั้ แรก
56 F RESHY รุ่ น น้ อ ง พ.ศ. ๒๕๐๙ นายซ่นุ ไช้เริม่ สงั หารเด็ก เพอ่ื ผ่าเอาตบั มากนิ โดยเชอ่ื ว่าเปน็ ยาอายวุ ัฒนะ ตลอดสามปีทีน่ ายซนุ่ ไชอ้ อกอาละวาด มเี หย่อื ถกู ฆา่ ถึง ๔๔ ราย ศพสว่ นใหญ่ถูกพบในทอ้ งท่ีจงั หวัดนครปฐม จึงเปน็ ทม่ี าของฉายา ‘มนษุ ย์กินคนแห่งนครปฐม’ ในงานฉลององค์พระปฐมเจดีย์ เมื่อเดือนพฤศจกิ ายน พ.ศ. ๒๕๑๒ นายซุ่นไช้ก็ไดล้ งมอื อีกครัง้ แตค่ ราวนเ้ี ขาพลาด... เหย่ือรายแรกและรายเดียวที่รอดชวี ิตมาได้ เปน็ เดก็ ผูห้ ญงิ อายุ ๙ ขวบ คำ� ใหก้ ารของเดก็ นำ� ไปสู่ การจับกุมตวั นายซนุ่ ไช้ในที่สดุ นายซนุ่ ไช้ถูกตัดสินประหารชวี ติ ดว้ ยการยงิ เปา้ เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๓ ปจั จุบันศพของเขาถูกเกบ็ ไวท้ ี่ พพิ ธิ ภณั ฑ์นติ ิเวชวทิ ยา มหาวิทยาลยั มหดิ ล ฉันไล่สายตาอ่านข้อมูลท้ังหมดอย่างหิวกระหาย เรื่องราวตาม ประวตั ขิ องนายซนุ่ ไชส้ นกุ ตน่ื เตน้ เรา้ ใจยง่ิ กวา่ อา่ นนยิ ายฆาตกรรมเสยี อกี เพราะอย่างนี้ฉนั เลยรู้สกึ วา่ มนั เป็นเรื่องแต่งมากกว่าเรอ่ื งจรงิ อะไรท�ำใหเ้ ธอสนใจคดีนี้ขึ้นมา
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ที่ ย ง 57 แอดมนิ ถามขน้ึ หลงั จากฉนั อ่านข้อมลู จบลง ฉันไดก้ ล่ินแปลกๆ บางอย่าง จากศพนายซุ่นไช้ กลน่ิ ของความคบั แค้นใจ ทบี่ อกความจรงิ กบั ใครไม่ได้ สมั ผสั พเิ ศษของเธอน่าจะใกล้เคยี งอยู่บา้ ง เพราะหลายปีต่อมา หลังจากนายซ่นุ ไชถ้ กู ประหารชีวติ ก็มคี นตงั้ ข้อสังเกตเหมอื นเธอ ขอ้ สงั เกตอะไร ภายหลงั มกี ารพยายามพลกิ คดีขนึ้ มาใหม่ มีหลักฐานพยานบางอย่าง ท่ไี มส่ ามารถบ่งชไ้ี ดว้ ่านายซุ่นไช้ได้ฆ่าเดก็ ทกุ คน นอกจากค�ำสารภาพท่เี ขาพมิ พ์ลายนว้ิ มือทา้ ยเอกสาร เลยเป็นท่สี งสยั ว่า เหตุใดนายซ่นุ ไช้จงึ รับสารภาพ อยา่ งงา่ ยดายว่าเป็นผฆู้ ่าเหยอ่ื ทกุ ราย ซ่งึ ยงั เป็นประเด็นของรปู คดี ทย่ี งั พสิ ูจนไ์ ม่ได้แนช่ ัดจนถงึ ทกุ วนั นี้ บางคนเชอ่ื ว่าเจา้ หน้าทีข่ องไทยไดใ้ ห้สญั ญากับเขา วา่ ถ้ารับสารภาพ จะจัดการให้ไดก้ ลับเมืองจีน ดว้ ยความทไ่ี ม่รภู้ าษาไทยท�ำให้นายซุ่นไช้
58 F RESHY รุ่ น น้ อ ง ยอมพิมพ์ลายนวิ้ มือทา้ ยคำ� สารภาพ ซง่ึ กลายเป็นหลกั ฐานสำ� คญั ทำ� ให้ศาลพิพากษาประหารชวี ิตเขา งีน้ ่เี อง นกึ แลว้ เชียว อยา่ บอกนะ วา่ เธอคิดจะเลน่ เปน็ นักสบื เหมือนคดีกอ่ นอีก 21 GRAMS ทักอยา่ งรูท้ นั ฉันเบป้ ากกอ่ นพมิ พต์ อบไป ใครบอกล่ะวา่ ฉนั เล่น... ฉันเอาจรงิ ต่างหาก “หมอ่ น มาเวริ ์กเอาตด์ ว้ ยกนั มัย้ ” เสยี งยัยหมวยแวน่ โพล่งข้ึน เมื่อเงยหน้ามองกเ็ ห็นหล่อนออกจาก หอ้ งนำ้� มาตง้ั แตเ่ มอ่ื ไหรไ่ มร่ ู้ กำ� ลงั อยู่ในชดุ แอโรบกิ รดั รปู เผยสดั สว่ นโคง้ เว้าเต็มตา เพียงแต่ส่วนโค้งคือพุงน้อยๆ ท่ียื่นออกมา และส่วนเว้าคือ หน้าอกที่ยุบลงไป เสียงเพลงดังมาจากไอแพ็ดท่ีหล่อนเปิดคลิปแอโรบิก พลางยกแข้งยกขาขึ้นลงยึกยักตามจังหวะ แต่ฉันว่าดูยังไงก็เหมือนคน กำ� ลังพยายามเหยยี บกน้ บุหรีบ่ นพน้ื ใหด้ ับมากกว่า “มาเร้ว!!! หม่อน มากายบริหารกัน เพ่ือสุขภาวะ” ยัยข้าวฟ่าง ตะโกนแข่งกับเสียงเพลงอย่างร่าเริง เหมือนครูสอนแอโรบิกตามสวน สาธารณะ “อะ้ ...วัน อ้ะ...ทู อะ้ ...ทรี...” โอย๊ !...อีห่า! ท�ำลายสมาธนิ ักสืบกหู มด ท�ำไมไม่ใสห่ ฟู งั วะ มึงจะ เปิดเพลงเผ่ือแผ่คนทัง้ หอพกั เลยหรือไง
วิ ศิ ษ ฏ์ ศ า ส น เ ที่ ย ง 59 ฉันหลับตาปี๋แล้วค้นเป้หยิบเอียร์ปลั๊กออกมาอุดหูเพื่อให้พ้นจาก ความรำ� คาญ เออ...ค่อยยังชว่ั ถึงแม้จะไม่เงียบสนิท แต่อย่างน้อยความนอยด์จากเสียงเพลงก็ ลดลง ฉนั หันมาสนใจหน้าจอโน้ตบุ๊กกอ่ นพมิ พ์ถามลงไป แลว้ ถ้าฉันคิดจะสบื คดีน้ีจรงิ ๆ แอดมนิ จะรว่ มมือกบั ฉนั ไหม ฉันลองใจถามดู ท้ังๆ ท่ีรู้คำ� ตอบอย่แู ล้วว่าเขาพรอ้ มชว่ ยฉนั เสมอ และก็จริงดงั คาด เขาตอบดว้ ยการสง่ อโี มตคิ อนรอยยิ้มกลบั มา ถ้าเขามองเห็นฉันตอนนี้ ก็จะรู้ว่าก�ำลังอมยิ้มหน้าบานเหมือนรูป อีโมติคอนท่ีเขาส่งมา แอดมินพูดถูกท่ีว่าฉันคิดจะเล่นเป็นนักสืบอีกคร้ัง เพียงแต่คราวนี้ฉันไม่มีรุ่นพ่ีเป็นคู่หูร่วมสืบคดีเหมือนเดิม แต่คิดว่าฉัน เร่ิมติดใจการเป็นนักสืบสมัครเล่นเสียแล้ว ดังนั้นต่อให้ต้องฉายเด่ียวก็ ไม่เป็นไร ส่วนอีกเหตุผลก็คือ ฉันอยากสานต่อภารกิจของรุ่นพ่ีในการคืน ความยุติธรรมให้แก่วิญญาณท่ีถูกใส่ร้าย เพราะไม่มีอะไรจะเจ็บปวด เทา่ กบั การตายไปโดยไม่ไดท้ �ำผิด แต่กลับถูกประณามสาปแช่งไปชั่วลูก ชัว่ หลาน ประโยคทรี่ นุ่ พ่ีเคยพูดกับฉันยงั กอ้ งอยู่ในความทรงจำ� จนบดั น.้ี .. “ค ว า ม ยุ ติ ธ ร ร ม . . . แ ม้ แ ต่ ค น ต า ย ก็ ต้ อ ง ก า ร !”
Search
Read the Text Version
- 1 - 49
Pages: