๑ ออ้ มอกลุงหญ้าไซ ลกู นกเปด็ ลายสามตวั พน่ี อ้ งเพง่ิ เกดิ ใหมเ่ มอื่ ตน้ ฤดรู อ้ นนเ้ี อง พวกมนั ตา่ งออกจากเปลอื กไขใ่ นระยะไลเ่ ลยี่ กนั หา่ งกนั เพยี งไมถ่ งึ ชวั่ โมง ดว้ ยซำ้� พอออกจากเปลอื กไข่ ลมื ตารบั แสงตะวนั เจดิ จา้ ทา่ มกลางฤดรู อ้ น ในบึงใหญ่แห่งน้ี ลูกนกเป็ดลายทั้งสามก็ช่วยตัวเองได้ทันที มันทั้งสาม วา่ ยนำ้� เคยี งกนั สอดสา่ ยสายตามองสง่ิ ตา่ งๆ รอบตวั ความทมี่ นั เพงิ่ ออก จากเปลอื กไข่จึงยงั ไม่มอี าการอยากอาหาร เพราะในร่างกายของลูกนก เป็ดลายมสี ารอาหารสะสมส�ำหรบั ตัวเอง พวกมนั ทัง้ สามจงึ ว่ายน�้ำเคียง กนั มาเรอ่ื ยๆ ทา่ มกลางแสงแดดเจดิ จา้ ในชว่ งกลางวนั ทค่ี อ่ นขา้ งเงยี บของ ฤดูร้อนในบึงแห่งน้ัน ลกู นกเปด็ ลายทง้ั สามเป็นลกู นกเป็ดนำ�้ พอ่ แม่ของพวกมนั อพยพ มาจากซีกโลกทางเหนือท่ีอากาศหนาวจัดจนนำ�้ กลายเป็นน�้ำแข็ง พวก นกเป็ดลายซ่ึงเป็นนกเป็ดนำ้� ชนิดหน่ึงพากันอพยพหนีหนาวมาเป็นฝูงๆ พวกมันบินลงมาหากินกุ้ง หอย ปู ปลา และแมลงนำ้� ในบึงแห่งนี้เป็น
โชติ ศรีสุวรรณ 9 อาหาร ตอนน้ันนกเป็ดลายสาวตัวหนึ่งว่ายน้�ำหลบฝูงข้ึนมาออกไข่ใน กอหญ้าไซที่ปกคลุมด้วยสาหร่ายเหนือนำ้� แต่รากบางส่วนของสาหร่าย ยังแช่อยู่ในนำ�้ จึงมีน�้ำหล่อเลี้ยงไม่เฉาตาย ในท่ีสุดไข่สามฟองของแม่นกเป็ดลายก็ฟักออกมาเป็นตวั ลูกนกเป็ดลายทั้งสามใช้เท้าที่มีพังผืดยึดติดกันระหว่างน้ิวพุ้ยนำ้� ว่ายวนอยู่บริเวณนนั้ พวกมันไม่กล้าว่ายน�้ำออกไปไกลกว่านี้ เสียงร้องกิ๊บ...ก๊ิบๆๆ ของมันท้ังสามปลุกกอหญ้าไซให้เผยอ เปลอื กตาข้นึ อย่างสะลึมสะลอื “ใครนะ มาร้องหนวกหขู ้าอยู่แถวน”้ี ลกู นกเปด็ ลายตวั พแ่ี ขง็ แรงกวา่ ตวั นอ้ งทง้ั สองเพราะเกดิ กอ่ นเกอื บ ช่ัวโมงร้องบอกไปว่า “ผมเองจ้ะ ลุง...ลงุ ...หญ้า...หญ้า...” “หญ้าไซโว้ย รู้จักมย้ั ข้านี่แหละหญ้าไซ เป็นหญ้าน�้ำ น้�ำท่วมไม่ ตาย น้�ำแห้งก็ไม่ตาย ‘ผม’ น่ะคือใคร” เสยี งลุงหญ้าไซค่อนข้างห้วน แต่ แฝงความเมตตา “ผม...ลกู นกเปด็ ลายเกดิ จากไขส่ ามฟองทแี่ มม่ าไขฝ่ ากลงุ หญา้ ไซ ไว้แต่ตอนหน้าหนาวไงล่ะจ๊ะ” “โอ...โอ้! พวกเจ้าฟักออกจากไข่แล้วเรอะ ไหน ว่ายน�้ำมาให้ข้า เห็นใกล้ๆ หน่อยซิ” นำ�้ เสยี งลงุ หญ้าไซมแี ววต่ืนเต้น ลูกนกเป็ดลายทั้งสามว่ายน�้ำไปใกล้ๆ ลุงหญ้าไซ ตรงน้ันเป็น เนนิ ดนิ เลก็ ๆ ใกลแ้ อง่ น้�ำ มหี ญา้ ไซชใู บเรยี วเขยี วชอมุ่ รบั แสงแดดจา้ ตอน เท่ียงวัน “โห...สามตัวเลย ขนปกุ ปุยท้ังตวั ตรงหลังขนนุ่มๆ สนี ้�ำตาลเข้ม กว่าส่วนท้อง ปากแบนเลก็ ๆ สีชมพู ตากลมใสน่ารักจงั ” ลงุ หญ้าไซร้อง ด้วยความดีใจ ก่อนเอ่ยต่อว่า “ลุง...ทำ� หน้าที่ให้ความอบอุ่นกับฟองไข่
10 บงึ นำ�้ แหง้ แม่นกเปด็ นำ้� เมอ่ื ตอนปลายฤดหู นาว ลงุ ดใี จทพ่ี วกเจ้าฟักออกมาเปน็ ตวั น่ารกั น่าเอ็นดูได้อย่างปลอดภยั ” “ขอบคุณลงุ หญ้าไซท่ีช่วยให้ความอบอุ่นแทนแม่...” เสียงลูกนก เป็ดลายตวั พส่ี ั่นเครอื ตอนท้าย “ลงุ ...ลงุ หญา้ ไซจะ๊ แลว้ แมข่ องพวกหนไู ปไหนแลว้ จะ๊ ” ลกู นกเปด็ ลายตวั กลางถาม “แม่ของพวกเจ้ารึ ฮะฮ่า! ไข่ไว้แล้วก็พากันหนีไป...” แววตาอัน เศรา้ สลดของลกู นกเปด็ ลายทงั้ สามทจี่ อ้ งรอคำ� ตอบตลอดเวลานน้ั ทำ� ให้ ลุงหญ้าไซเปลี่ยนน้�ำเสียงและค�ำพูดเป็นเชิงปลอบใจ “แม่เป็ดลายของ พวกเจ้าอพยพกลับถ่ินท่ีอยู่เดิมแล้ว พวกเขาจะกลับมาที่น่ีอีกเมื่อฤดู หนาวปีหน้ามาถึง พวกเจ้าไม่ต้องเสียใจทเี่ กิดมาไม่พบหน้าแม่...” ลกู นกเปด็ ลายตวั สดุ ทา้ ยเอย่ ถามวา่ “ทำ� ไมแมจ่ งึ ทงิ้ พวกหนไู ปละ่ จ๊ะลงุ ” “เออ่ ...แมไ่ ม่ทง้ิ พวกเจา้ หรอก แตเ่ พราะธรรมชาตขิ องนกเป็ดลาย ออกไข่ไว้แล้วไม่กกไข่ พวกเจ้าไม่ต้องเสียใจว่าแม่ไม่รกั นะ ทกุ อย่างฝืน ธรรมชาตไิ ม่ได้หรอก แม่นกเป็ดลายจะไม่เลีย้ งดูแลลกู ๆ ของตน เพราะ ลกู ที่ออกจากเปลือกไข่สามารถว่ายน�ำ้ หาอาหารกิน ช่วยตวั เองได้ทนั ที พวกเจ้าควรภูมิใจท่ีตัวเองเกิดมาแข็งแรง มีไหวพริบ หาเล้ียงตัวเองได้ หากพวกเจ้าอยากพบหน้าแม่ก็ต้องมีความอดทน ขยันออกหากินเล้ียง ตวั เองให้ร่างกายเจริญเติบโต เพ่ือรอฤดูหนาวที่ก�ำลงั จะมาถงึ พวกเจ้า จะได้พบแม่ ตอนน้ันพวกเจ้าก็จะแข็งแรงบินกลับถ่ินท่ีอยู่พร้อมกับแม่ ทน่ี เี่ ป็นเพยี งทใ่ี หพ้ วกเจ้าเกดิ บงั เอญิ แม่นกเป็ดลายบางส่วนมไี ขต่ ดิ ทอ้ ง มา ปีหน่งึ ๆ นกเป็ดลายอพยพมาเผลอออกไข่ไว้ท่ีน่เี พยี งเล็กน้อยเท่าน้ัน หากเทียบกบั ฝูงนกเป็ดลายจ�ำนวนมากมายท่ีอพยพหนีหนาวมา” “ลงุ หญ้าไซครับ ถึงยงั ไงผมก็รกั บงึ นำ�้ แห่งน้ีครับ เพราะเป็นทเ่ี กิด
โชติ ศรสี ุวรรณ 11 ของผมและน้องๆ ครบั ” “เอ่อ...เออ...พูดจาฉะฉานดี ตัวพี่น่ีเป็นลูกนกเป็ดลายตัวผู้ ส่วน นอ้ งสองตวั เปน็ ตวั เมยี เจา้ ดมู ไี หวพรบิ ฉลาดเฉลยี วดแู ลนอ้ งๆ นะ รอบๆ ตวั เรานจ้ี ะมที ง้ั มติ รและศตั รู ถา้ เจอสตั วใ์ ดทเ่ี ปน็ ศตั รกู ค็ วรเลย่ี งไปใหไ้ กล หลีกไปให้พ้น ไม่อยู่ใกล้ พวกท่ีเป็นศัตรจู ะเหน็ ได้ชัดๆ ก็มีงนู ะ พวกเจ้า จะต้องรู้จักหลบหลกี ” “ครบั ลงุ หญา้ ไซ ผมและนอ้ งๆ จะระวงั ตวั ไมอ่ ยใู่ กลแ้ ละไมเ่ ผชญิ หน้ากับพวกเขา” “ดี...ถ้าหากต้องเผชิญหน้าอย่างหลีกเล่ียงไม่ได้ เจ้าก็ต้องใช้ ไหวพริบ” “ครับ” ลูกนกเป็ดลายตวั พ่ีรับค�ำหนกั แน่น เปลวแดดเริงแรงแผดเผาน้�ำในบึงแห้งงวดลงทุกวัน น�้ำส่วนหนึ่ง กลายเป็นวัตถุดิบผลิตน�้ำประปาส�ำหรับผู้คนในเมืองแห่งนี้ เมื่อฤดูฝน ปีที่ผ่านมามีปริมาณน�้ำฝนน้อย ไม่มีมวลน�้ำหลากมาจากป่าทางเหนือ ร่องน้�ำล�ำห้วยที่เช่ือมต่อบึงจึงไม่มีน้�ำไหลลงสู่บึงใหญ่ เพียงปลาย ฤดหู นาวน้�ำงวดลงอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นเรอ่ื งกล่าวขวัญด้วยความ ไม่สบายใจของเหล่าประชากรในบึงใหญ่แห่งนี้ สัตว์น�้ำจ�ำพวกกุ้ง หอย ปู ปลา และแมลงน้�ำนบั วันจะเหลือน้อยลงทุกวัน ท้ังจากภยั ผู้คนท่ีแอบ ลงจับสัตว์น�้ำ และภัยจากสภาวะน�้ำปนสารละลายท่ีเป็นพิษกับสัตว์น�้ำ อันเกิดจากการใช้ยาฆ่าแมลงและปราบวัชพืชของชาวนาชาวไร่ที่ไหล ปนมากับน�้ำช่วงฤดูฝน สะสมปีแล้วปีเล่า จนน้�ำในบึงแห่งน้ีมีสารพิษ แทบไม่มีกุ้ง ซวิ ลกู ปลา และแมลงน้�ำต่างๆ อาศัยอยู่... สัตว์นำ้� ทพ่ี อมีพออาศยั อยู่ได้เป็นพวกปลาทม่ี ีภมู ิต้านทานสูง แต่ กระน้ันช่วงน�้ำงวดลง พวกปลาดุกปลาช่อนจะมีบาดแผลตามร่างกาย เม่ือเป็นแผลมากข้ึนปลาเหล่าน้ันก็จะหงายท้องลอยน้�ำตายอย่างน่า
12 บงึ น�ำ้ แหง้ เวทนา สภาพบึงแห่งนี้ยังมีเกาะกลางน้�ำ มีถนนเช่ือมต่อถนนขนาดสอง เลนพอใหร้ ถยนตแ์ ลน่ สวนกนั ไดส้ บายๆ ทตี่ รงไปยงั อ�ำเภอ บนเกาะกลาง น้�ำถูกจัดแต่งเป็นสวนสาธารณะ ปลูกไม้ดอกไม้ยืนต้นพันธุ์ต่างๆ เพื่อ ความร่มรื่นให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของผู้คนในชุมชนของอำ� เภอ นั้น
๒ ตดิ หล่ม ลมหนาวปลายเดือนกุมภาพันธ์ผ่านไป เพียงย่างเข้าเดือน มีนาคมอากาศร้อนแรง ฟ้าปราศจากก้อนเมฆ แม้แต่เมฆขนนกที่เคย ประปรายบนฟ้าหน้าหนาวก็เร้นหายจากไปราวกับหมดเยื่อใย ต้นไม้ท่ี ขึน้ เรยี งรายอยู่บนเกาะกลางบึงมสี ีสันกระจ่างตา พอมีชีวิตชวี าบ้างกค็ ือ ต้นคูนทเี่ รม่ิ ออกดอกเป็นพวงสเี หลอื งสะบัดช่อดอกและกง่ิ ก้านหยอกล้อ ลมแลง้ สมกบั ทไ่ี ดช้ อ่ื วา่ ‘ดอกลมแลง้ ’ พวกมนั พากนั สลดั ใบผลติ ชอ่ ดอก เปน็ พมุ่ เปน็ พวงตอ้ นรบั ลมรอ้ น ตา่ งจากหกู วาง กระถนิ ณรงค์ และตน้ ไทร ท่ียืนต้นเรียงรายอยู่ใกล้เคียงพากันเหี่ยวเฉา ปล่อยใบเก่าใบแก่ร่วงโรย ลงสพู่ น้ื หญา้ สนี ำ้� ตาล ทง้ั ตน้ แทบโกรน๋ เกลยี้ งไรใ้ บ จนเกาะกลางบงึ ทเี่ คย ร่มร่ืนด้วยร่มเงาไม้เปิดช่องว่างให้แสงเจิดจ้าทะลุทะลวงแผดเผาความ เขียวขจีของพ้ืนหญ้า กรอบแห้งเป็นเวิง้ กว้างไม่น่าเหลือบแล หูกวางยืนต้นเคียงคู่ต้นคูนขนาบข้างสองสามต้นสลัดใบสุดท้าย ปลิวหายไปกับลมร้อน คูนดอกเหลืองช�ำเลืองมองอาการท้อแท้ของต้น
14 บึงน้�ำ แหง้ หกู วางกอ่ นเอย่ ขนึ้ วา่ “หกู วางจะ๊ อยา่ ท�ำหนา้ ทอ้ แทอ้ ยา่ งนนั้ สิ ฉนั พลอย ไม่สบายใจไปกบั เธอด้วยรู้ไหม” “ขอโทษนะต้นคนู ฉนั รู้สึกหดหู่ หลังจากทใี่ บของฉันหล่นร่วงจาก ต้นแล้วกไ็ ม่มดี อกสีสวยๆ ข้ึนมาแทนเหมอื นเธอ ผู้คนกเ็ ดนิ ผ่านฉันไป ดู เหมอื นพวกเขามองฉนั อยา่ งไรค้ า่ ดสู .ิ ..เดก็ ๆ กลมุ่ นนั้ กผ็ ละจากฉนั ไปอยู่ ใต้ร่มนนทรีที่ยังมีใบให้ร่มเงาร่มรื่น หลังจากพวกเขามายืนช่ืนชมดอก สีเหลอื งของเธอ...” “เธอคดิ มากไปแลว้ ละหกู วาง แมห้ ลงั จากผลดั ใบ เธอจะไมม่ ดี อก อย่างฉัน เธอก็ยังมีค่า รอฤดูฝนมาใบอ่อนๆ ของเธอก็แตกผลิพร้อม ช่อดอก แล้วความร่มร่ืนก็จะกลับมาหาเธอ ใครๆ ก็อยากจะนั่งพักท่ี ม้าหนิ อ่อนใต้ร่มเงาของเธอ ตอนนี้เธอดูดอกสีเหลอื งเป็นพวงของฉนั ไป ก่อน จะได้รู้สึกสบาย” “ขอบใจจ้ะ คนู ช่างเป็นต้นไม้งดงามท้งั ดอกและน้�ำใจ” หูกวางรู้สึกดีขึ้น เมื่อได้ยินค�ำปลอบอย่างให้ก�ำลังใจของต้นคูน ดอกสีเหลอื งอ่อนโยนเป็นพุ่มพวงเตม็ ต้น ท�ำให้หกู วางสบายใจขึ้น พอดมี นี กปรอดสวนคหู่ นง่ึ บนิ มาเกาะลงทก่ี งิ่ หกู วาง นกปรอดสวน ท้ังคู่หนั หน้าเข้าหากันพลางส่งเสียง “กรอด...กรอด...กรอ๊ ด เราพกั เหนอ่ื ยทกี่ งิ่ หกู วาง ชมดอกไมส้ เี หลอื ง สวยๆ นกี่ ่อนเถอะ” “กรอด...กรอดๆ ฉนั ตามใจเธออยู่แล้ว” นกปรอดสวนตัวผู้บอก “ถา้ ใบหกู วางผลิแตกเตม็ กง่ิ เมอ่ื ไร เธอร้มู ยั้ ...ถงึ เวลาทเี่ ธอจะต้อง ทำ� อะไร” นกปรอดสวนตัวเมยี ถามคู่ของมัน “ฉันก็ท�ำรงั ให้เธอออกไข่ไงล่ะจ๊ะ” นกปรอดสวนตัวผู้ตอบ เมื่อพักเหนื่อยกันครู่หนึ่ง นกปรอดสวนทั้งสองตัวพากันหาแมลง กนิ ตามพุ่มพวงดอกคนู ครนั้ กินอาหารอิ่มแล้ว นกปรอดสวนทงั้ คู่พากัน
โชติ ศรสี วุ รรณ 15 บนิ ไปยงั ตน้ นนทรที ย่ี งั มใี บดกหนาแมจ้ ะมใี บเหลอื งแก่บางใบทยอยปลวิ หลดุ ลอยตามสายลมแล้งอยู่ตลอดเวลา “โอ้ ใบแกแ่ สดแดงของตน้ หกู วางและใบแกส่ เี หลอื งของนนทรลี อย ตามลมมาตกในบึงใบแล้วใบเล่าอย่างนี้ บ่งบอกให้รู้ว่าอากาศร้อนแห้ง แล้งมาเยือนอย่างปีก่อนๆ อกี แล้ว ทตี่ ่างกว่าปีไหนๆ นัน้ ปีน้ลี มแล้งมนั มาเร็วเหลอื เกนิ ” เสียงพึมพ�ำของลุงหญ้าไซพลอยท�ำให้บัวสายดอกสีชมพูหันมา ถามด้วยความสนใจว่า “ลุงหญ้าไซว่าปีนี้ความแห้งแล้งจะมาเรว็ กว่าทกุ ปีหรอื จ๊ะ” “ใช.่ ..บวั สายดอกสชี มพู เจา้ ดสู !ิ ทง้ั ใบหกู วาง นนทรี กระถนิ ณรงค์ ปลวิ วอ่ นมาตกในบงึ ไมข่ าดระยะ ลมแลง้ ยง่ิ พดั แรงเทา่ ไร ใบแกข่ องตน้ ไม้ บนเกาะกลางบึงก็ยงิ่ ปลิวไปไกลเท่าน้ัน นำ�้ ในบึงก็แห้งงวดลงทกุ วัน ยง่ิ พวกมนุษย์สูบเอาน�้ำข้ึนไปผลิตน้�ำประปา น�้ำท่ีเหลือค้างก็ย่ิงถูกแดด แผดเผาจนแห้งลงเรอ่ื ยๆ” “นน่ั สลิ งุ ” บวั สายดอกสชี มพตู อบรบั อยา่ งเหน็ ดว้ ย พลางชำ� เลอื ง มองตัวเอง...สายบัวของบัวหลวงดอกสีชมพูที่เคยมีดอกขนาดใหญ่เบ่ง บานรบั แสงตะวัน และบวั สายท่ีชกู ลีบดอกบานต่างก็หดส้นั เข้า ส้ันเข้า... สายบวั บอกลึกตน้ื ชลธี “สายบัวท่ีเคยให้รู้ความลึกตื้นของน้�ำก็หดส้ันเข้าทุกวัน” ลุง หญ้าไซพูดพลางมองดูบัวสาย ส่วนหนึ่งชูดอกบานอยู่บนเนินโคลนที่ ขาดน�้ำ บางส่วนของใบที่เคยเขยี วขจเี ป็นมนั เริม่ ห่อเหี่ยวและแห้งกรอบ “ความแห้งแล้งจะท�ำให้พวกเราท่ีอาศัยอยู่ในบึงใหญ่แห่งน้ี เดือดร้อนไปตามๆ กัน” บัวสายพูดเหมือนร�ำพึงรำ� พัน ลมร้อนและแห้งแล้งพัดมาวูบใหญ่ หอบเอาใบไม้แก่จัดทั้งแห้ง กรอบ ใบเหลอื ง แสด แดง ปลวิ วอ่ นตามสายลม บา้ งตกรว่ งบนผวิ น�้ำปน
16 บงึ นำ้�แห้ง โคลนข้นคลั่ก แต่กระน้ันบัวแล้งน้�ำท่ีชูกลีบดอกบานทั้งสีขาวและชมพู พอพ้นโคลนเลนก็ยงั มกี ล่ินดอกหอมหวนตลอดเวลา “ขอบใจ...ขอบใจ...ดอกบวั หลวงบวั สายในบงึ แลง้ นำ้� แมจ้ ะเบง่ บาน บนตมก็ยังมีกล่ินหอมชื่นใจ ช่างสมกับเป็นดอกไม้บูชาพระพุทธองค์” ลงุ หญา้ ไซเปรยใหไ้ ดย้ นิ ถงึ ดงบวั หลวงทช่ี ทู งั้ กา้ นใบและดอกตมู ดอกบาน อยู่บนลานโคลนทีเ่ ร่มิ จะแยกแตกปรติ ามรอยร้าวของดนิ เลนขาดน�้ำ ทั้งใบบัวหลวงและกลีบดอกเบ่งบานซ่ึงมิได้หมองมัวตามกล่ิน เลนโคลนเมอ่ื ขาดนำ�้ หันมาย้มิ ทกั ทายลุงหญ้าไซ “ลุงหญ้าไซสบายดีนะ” ดอกบัวบานสีชมพทู กั กลับมา ลุงหญ้าไซหรือหญ้าข้าวนกยังพอทรงตัวอยู่ได้ในนำ�้ ต้ืนๆ แต่อีก ไม่กว่ี ันน้ำ� ทเ่ี หลือน้อยในแอ่งคงจะแห้งขอด ทิ้งไว้เพียงโคลนเลน... “พอทรงตัวอยู่ได้ก็เพราะกลิ่นดอกบัวหลวงนั่นแหละ ชื่นใจเหลือ เกิน กล่ินดอกหอมระรื่น ไม่ว่าจะเบ่งบานบนโคลนเลนหรือเบ่งบานบน ผิวนำ้� ใสสะอาดกใ็ ห้กลิน่ หอมพอๆ กัน สมเป็นกลน่ิ แห่งคุณงามความดี ไมว่ า่ จะอยใู่ นสถานะใดยอ่ มมแี ตก่ ลน่ิ หอม ลงุ หญา้ ไซขอคารวะดว้ ยความ จริงใจ...ท้งั ดอกบัวหลวงและดอกบัวสายนน่ั แหละ” “ก๊วิ ...กิ๊ว...กบ๊ิ ...ก๊บิ ๆๆ” “กิว๊ ๆๆ” “กบ๊ิ ...ก๊ิบๆๆๆ” ลูกนกเป็ดลายทั้งสามว่ายน�้ำตรงมายังแอ่งที่ลุงหญ้าไซหรือหญ้า ข้าวนกอาศัยอยู่ พวกมันต่างรู้สึกว่าเท้าเล็กๆ ของมันพุ้ยน้�ำไม่คล่อง เหมือนวันท่ีผ่านๆ มา ด้วยมีอาการหนืดเหนียวจนแกว่งเท้าที่มีพังผืด ระหว่างนวิ้ เท้าเล็กๆ ได้ล�ำบาก “กวิ๊ ๆๆ วา้ ย! เกดิ อะไรขน้ึ ” ลกู นกเปด็ ลายตวั นอ้ งสง่ เสยี งรอ้ งดว้ ย อาการตกใจ เมอ่ื มันว่ายนำ้� ล่าช้ากว่าพีท่ ้ังสอง แถมเท้าเล็กๆ ของมันตดิ
โชติ ศรสี วุ รรณ 17 หนึบ ไม่อาจเคลอื่ นทไี่ ปให้ทนั พีซ่ ่ึงไปรอคอยทแ่ี อ่งน้�ำทล่ี ุงหญ้าไซอยู่ “เปด็ น้อย เจ้ากำ� ลงั ตดิ โคลน อย่นู ง่ิ ๆ อย่าดนิ้ นะ” เสยี งดงั มาจาก ใต้กอบัว เมือ่ เจ้าของเสียงยน่ื หัวออกมาจงึ รู้ว่าคอื ‘ลุงเต่านา’ ลุงเต่านาเคลื่อนตัวออกจากเหง้ากอบัวสายดอกสีชมพู แม้จะ พยายามรีบเร่งตรงไปหาลูกนกเป็ดลายตัวน้อยก็ยังเช่ืองช้าอยู่ดีตาม อาการของเต่านานั่นแหละ แถมแอ่งน้�ำท่ีงวดแห้งเหลือน้อย เต็มด้วย โคลนเหลวทำ� ใหล้ งุ เตา่ นาเคลอ่ื นทชี่ า้ ลงไปอกี เพราะลำ� ตวั ทคี่ อ่ นขา้ งหนกั จมลงพน้ื โคลนเหลวๆ ด้วยความเป็นห่วงร่างเลก็ ๆ ทต่ี ะเกียกตะกายจะ จมมจิ มโคลนอยแู่ ลว้ ทำ� ใหล้ งุ เตา่ นาพยายามเรง่ กำ� ลงั ขาตะเกยี กตะกาย พลางส่งเสยี งไปก่อนว่า “เจ้านกเป็ดน้อยนง่ิ ๆ ไว้ก่อน ย่งิ เจ้าด้นิ ย่ิงจะท�ำให้จมลง” อาการตกใจท�ำให้ลูกนกเป็ดลายตัวน้อยด้ิน แทบไม่ได้ยินเสียง ลงุ เต่านาบอก “ช่วยด้วย! ช่วยด้วยจ้ะ!”
๓ ลงุ เตา่ นา เสียงร้องขอความช่วยเหลือท�ำให้ลุงเต่านาผลีผลามพาร่าง หุ้มกระดองสีนำ�้ ตาลอ่อนอมเหลืองออกไป หัวสีดำ� มีแต้มสีขาวคาดจาก จมูกผ่านบริเวณดวงตาด�ำนิลท่ีกลอกด้วยความเป็นห่วงผงกข้ึน อาการ รบี เร่งของลุงเต่านาพาตัวเองตกแอ่งนำ้� ตื้นๆ ที่เต็มไปด้วยโคลนเลนเละๆ ร่างยาวประมาณ ๑๗ เซนติเมตร กบั น�้ำหนกั เกอื บหนึ่งกิโลกรมั ของลงุ เต่านาจมโคลนลงไป ลงุ เต่านายืน่ คอยาว นยั น์ตาเหลอื กลาน “อา้ วโวย้ ! ทำ� ไมเปน็ อยา่ งนไี้ ปได้ วา่ จะชว่ ยเจา้ นกเปด็ ลายตวั นอ้ ย ตวั เองจะจมโคลนซะเอง...” ลงุ เตา่ นาตงั้ สติ แลว้ ใชเ้ ทา้ คหู่ นา้ ตะกายโคลน เหลวเละ กลบั ย่ิงทำ� ให้ร่างหุ้มกระดองของตนค่อยๆ จมลงในโคลนแทน “เฮย้ ! อาการไมด่ แี ลว้ ” ตอนทา้ ยเหน็ ทา่ จะไมไ่ หว ลงุ เตา่ นารอ้ งขอ ความช่วยเหลือดังๆ “ใครกไ็ ด้ช่วยข้ากับลูกนกเป็ดลายด้วย เร็วๆ จะจม โคลนแล้ว” ลงุ หญา้ ไซหรอื หญา้ ขา้ วนกทเี่ คยชใู บเรยี วเขยี วชอมุ่ และเลอื้ ยยาว
20 บึงน�ำ้ แห้ง บนผวิ น�้ำยามหนา้ ฝน แตช่ ่วงนข้ี าดน�้ำเพราะความแห้งแลง้ จงึ เหลอื เพยี ง กอหญ้าบนดอนโคลน ร้องบอกลูกเป็ดลายท้งั สองว่า “เจ้าตัวเล็กจะจม โคลน รบี ๆ ไปช่วยก่อน แล้วเสียงโหวกเหวกแก่ๆ นน่ั เป็นเสียงร้องของ ใคร” ลกู นกเปด็ ลายตวั พรี่ อ้ งบอกลงุ หญา้ ไซวา่ “ลงุ ...ลงุ เตา่ นาครบั ผม จะรบี ไปช่วยน้อง” ลูกนกเป็ดลายตัวพ่ีนึกตำ� หนิตัวเองท่ีรีบมาพบลุงหญ้าไซ ปล่อย ให้น้องตวั เล็กตามหลงั ไม่ทัน ด้วยคดิ ว่าจะไม่เกดิ เหตอุ ะไรขึ้น อาการร้อนใจทำ� ให้มันกางปีกขยับบนิ ลุงหญ้าไซเคยเล่าให้ฟังว่า พอ่ และแมข่ องมนั เปน็ นกั บนิ ขา้ มทะเลขา้ มมหาสมทุ ร บนิ ลดั ฟา้ หนหี นาว มาจากแดนไกล ใช้เวลาเดนิ ทางหลายวนั นบั เดอื น ตอนนีม้ ันก็เตบิ โตจน เปน็ นกเปด็ นำ�้ หนมุ่ นอ้ ย มลี ายสขี าวเหนอื ตา รว้ิ ขนสขี าวเปน็ แถบยาวนนั้ ท�ำให้มันดูสวย ขนตามตัวสีน้�ำตาลเป็นมันแต้มลายสีครีมบนล�ำตัวและ ปีกมีแถบขนสีเขียวเป็นมนั ระยบั งามยง่ิ ท�ำให้มนั ดสู ง่างามยิ่งนกั คร้ันรู้ว่าตนบินพ้นเนินดินที่ลุงหญ้าไซอาศัยได้ ลูกนกเป็ดลาย ตวั พจี่ งึ ใชค้ วามรวดเรว็ บนิ ตรงมายงั แอง่ นำ�้ ตนื้ ทลี่ กู นกเปด็ ลายตวั นอ้ งตดิ โคลนอยู่อย่างทรุ นทุราย “น้องเล็กอ้าปากคาบขาพไี่ ว้ เรว็ เข้า” ลูกนกเป็ดลายตัวพี่ตะโกน บอกจากเบื้องบน น้องเล็กแหงนหน้าข้ึนมองพลางอ้าปากแบนงับขาลูก นกเป็ดลายตัวพ่ีไว้ได้ ก่อนจะถูกดึงตัวขึ้นสูง เหลือเพียงลุงเต่านา ตะเกยี กตะกายอยู่ในโคลนเลน นกเปด็ ลายตวั พส่ี ง่ เสยี งใหก้ ำ� ลงั ใจไปวา่ “ลงุ เตา่ นา อยนู่ ง่ิ ๆ เดยี๋ ว จะจมลงมากกว่าน้”ี ลุงหญ้าไซและลูกนกเป็ดลายตัวท่ีสองจ้องมองความแข็งแรงของ ลูกนกเป็ดลายตัวพี่ทพ่ี าร่างเจ้าตัวเลก็ ร่อนลงพื้นข้างๆ อย่างปลอดภัย
โชติ ศรสี ุวรรณ 21 “เก่งมาก...เก่งมาก ข้าเพ่ิงจะเห็นเจ้าบินวันน้ีเอง ความแข็งแรง ของเจ้าจะดแู ลน้องๆ ได้ ส่วนตอนนี้รบี ไปหาทางช่วยลงุ เต่านาก่อน” “ครบั ลงุ น้องเลก็ อยู่กบั ลงุ หญ้าไซทนี่ น่ี ะ” ลกู นกเปด็ ลายตวั พข่ี ยบั ปกี โผบนิ ขน้ึ ฟา้ อกี ครง้ั พลางคดิ หาวธิ ชี ว่ ย ลุงเต่านาก่อนที่ร่างหุ้มกระดองแข็งๆ ของมันจะจมมิดลงในโคลนที่มี น�้ำข้นคล่ัก ท่ามกลางเสียงร้องขอความช่วยเหลือของลุงเต่านาดังมา ตลอดเวลา พวกสตั วต์ า่ งๆ พลอยแตกตน่ื ออกจากทซ่ี อ่ นเพราะเสยี งลงุ เตา่ นา เจา้ กบปากกวา้ งสามตวั โผลอ่ อกมาจากทซ่ี อ่ นในพงหญา้ รกรมิ บงึ นำ�้ แหง้ และยงั มลี กู เตา่ นาตวั หนง่ึ ทตี่ ว้ มเตย้ี มอยรู่ มิ แอง่ น้�ำจอ้ งมองลงุ เตา่ นาดว้ ย สายตาเป็นห่วง นกเป็ดลายหนุ่มน้อยมองเห็นบัวสายดอกสีชมพูมีสาย ยาวทเ่ี คยหยงั่ ความลกึ ของน�้ำเหลอื คา้ งมาตง้ั แต่ปีน้�ำหลากม้วนอย่ขู ้างๆ ความคิดเฉียบคมก็แล่นเข้ามา มันโฉบบินลงมาบอกเจ้ากบปากกว้าง ทง้ั สามตวั “พก่ี บ...พก่ี บชว่ ยคาบสายยาง...เออ...ไมใ่ ช่ สายบวั ยาวๆ ไปทแี่ อง่ นำ้� แล้วโยนไปให้ลุงเต่านาทเี ถอะ” “ได้เลย...ได้เลยน้องนกเป็ดลาย” กบทัง้ สามรบี กระโดดเข้าไปหากอบวั สาย “น้าบัวสาย ยืมสายบัวยาวๆ ท่ีตกค้างมาจากปีน�้ำหลากหน่อย นะ” กบใหญ่ตัวหน่ึงขออนญุ าต “ได้เลย รีบๆ หน่อยเจ้ากบ เด๋ียวลุงเต่านาจะจมโคลนซะก่อน” บวั สายเจ้าของสายบวั ยาวๆ เร่ง กบตวั หนง่ึ คาบปลายสายบวั ไวใ้ นปากกว้างๆ ของมนั แลว้ ดงึ โดย มีแรงกบสองตวั ช่วยลากไปยงั แอ่งน�้ำ “พี่กบ โยนสายบัวให้ถงึ ลงุ เต่านานะ”
22 บึงนำ�้ แหง้ “เอ้า หน่ึง...สอง...สาม โยน!” “อ้าปากงับไว้ลงุ เต่านา” ลกู นกเป็ดลายร้องบอก เมื่อเห็นลุงเต่านางับปลายสายบัวไว้ได้ ทั้งหมดถึงกับอุทานด้วย ความดใี จ “ไชโย! ลงุ เตา่ นาเกง่ มาก คาบไวแ้ นน่ ๆ นะ พวกเราจะลากขนึ้ จาก โคลน” กบตัวหนึ่งร้องบอก ลงุ เต่านาขยบั ปากจะเอย่ รบั ค�ำ แต่เพยี งอ้าปากสายบวั กห็ ลดุ นก เป็ดลายหนุ่มน้อยร้องปรามไปว่า “ตอนนลี้ ุงเต่านาไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น พวกเราจะดงึ ข้ึนจากโคลนละนะ” ลุงเต่านาก็ช่างพูดเสียกระไร ยงั ปล่อยเสียงออื ๆ แอๆ ออกมา จน หลานเตา่ นาตวั นอ้ ยทม่ี ารว่ มออกแรงชว่ ยรอ้ งปรามไปวา่ “ปเู่ งยี บไวก้ อ่ น เถอะ เดยี๋ วกป็ ล่อยจมโคลนหรอก” น่ันแหละลุงเต่านาจึงเงียบเสียง ปล่อยให้บรรดาท้ังกบหนุ่ม นก เป็ดลาย และเจ้าหลานเต่านาช่วยกันดงึ ตวั เองขน้ึ มาไว้ข้างๆ ลงุ หญ้าไซ อย่างปลอดภยั “เกอื บได้นอนแช่โคลนเหนียวๆ ทัง้ วนั นะ ลงุ เต่านา” ลงุ หญ้าไซ แซวกลวั้ หัวเราะขำ� ขัน “ก็ว่าจะลงไปช่วยยายหนูนกเป็ดลายน่ันละ เลยเจอโคลนเหนียว ดดู ซะจม เกอื บตาย” ลงุ เต่านาพดู เสียงหอบ ลูกนกเป็ดลายตัวพ่ีเอ่ยกับเจ้ากบท้ังสามว่า “พี่กบ ช่วยกันลาก สายบัวไปม้วนไว้ที่เหง้าบัวสายให้ด้วย ขอบคุณพวกพ่ีนะครับ ถ้าไม่ได้ พวกพๆ่ี ช่วย เหน็ ทลี งุ เต่านาคงจมโคลนแน่ๆ” ขณะทก่ี บหนมุ่ ทง้ั สามช่วยกนั มว้ นสายบวั เตรยี มไปส่ง ลงุ หญา้ ไซ บอกเจ้าเต่าน้อยหลานลงุ เต่านาว่า “เจ้าเต่าน้อยพาลุงเต่านาไปอาบน�้ำ ล้างโคลนซะ แอ่งน�้ำข้างหน้ายงั มีน�้ำลกึ พอจะว่ายแหวกได้”
โชติ ศรสี ุวรรณ 23 เจ้าเต่านาตัวน้อยรับค�ำแล้วพาลุงเต่านาตรงไปท่ีแอ่งน้�ำข้างหน้า “เด๋ียวผมไปขอบคุณป้าบัวสายท่ีให้ยืมสายบัวดึงลุงเต่านาขึ้นมา อย่างปลอดภัยก่อนนะครับ” “เออ ไปเถอะ แล้วกลับมาหาลงุ อีกนะ ลุงมเี รื่องจะพูดด้วย” “ครับลงุ ” ลกู นกเป็ดลายตวั พ่ีรบั ค�ำ แล้วหายไปครู่หน่งึ จงึ กลบั มาหาน้องทงั้ สองทีย่ นื รออยู่ตรงหน้าลุงหญ้าไซ ครัน้ แล้วลงุ หญ้าไซก็เอ่ยขนึ้ ว่า “พวกเจ้ามาอยู่พร้อมหน้ากันแล้ว ลงุ จะสง่ั ความไวก้ อ่ นจะไมไ่ ดเ้ จอกนั อกี ” ตอนทา้ ยนำ�้ เสยี งของลงุ หญา้ ไซ เบาหวิว ลกู นกเป็ดลายทง้ั สามพลอยรู้สึกเหมอื นลงุ หญ้าไซสง่ั ลา “ลงุ หญา้ ไซ จะไปไหน ทำ� ไมจงึ พดู ราวกบั จะสงั่ ลา” ลกู นกเปด็ นำ้� ท้งั สามเอ่ยขึ้นเกือบพร้อมกนั
Search
Read the Text Version
- 1 - 18
Pages: